ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดภาคเหนือ
ตราสั ญญาลักษณ์ประจําของจังหวัดภาคเหนือ สัญลักษณประจําจังหวัดเชียงราย คือ รูปชางสีขาว เม่ือพญามังรายไดทรง รวบรวมหัวเมืองฝายเหนือในอาณาเขตรอบๆ ไดแลว จึงทรงกรีฑาทัพไป แสดงฝมือในการยุทธตอหัวเมืองฝายใตลงมา จึงไดไปรวมพล ณ เมือง ลาวกูเตา และหมอควาญ ไดนาํ ชางมงคลของพญามังรายไปทอด(ผูก)ไว ในปาหัวดอยทิศตะวันออกพลัดหายไป พญามังรายจึงไดเสด็จติดตามรอย ชางไปจนถึงดอยทองริมแมนํา้ กกนัทธี ไดทัศนาการเห็นภูมิประเทศเปน ท่ีราบลุม อุดมสมบูรณเปนชัยภูมิที่ดี จึงไดสรางเมืองใหมข้ึนในท่ีน่ันใหกอ ปราการโอบเอาดอยจอมทองไวในทามกลางเมือง ขนานนามเมืองวา “เวียงเชียงราย”ตามพระนามของ พญามังรายผูสราง ดังน้ัน จึงไดนาํ รูป ชางเปน ตราประจําจังหวัดเชียงราย
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดเชียงใหม่ สญั ลกั ษณประจาํ จงั หวัดเชียงใหม คอื รปู ชางเผอื กในเรือนแกว หมายถึงความ สําคญั 2 ประการของจงั หวัด ซงึ่ ชา งเผือก คอื ชางทีเ่ จาผคู รองนครเชียงใหมน าํ มาทูลเกลา ถวายแดส มเด็จพระพุทธเลิศหลานภาลยั ( รัชกาลท่ี 2 แหงกรุง รตั นโกสนิ ทร ) และไดข น้ึ ระวางเปนชางเผือกเอกในรชั กาล สว นเรือนแกว คือดนิ แดนทีพ่ ุทธศาสนารุงเรืองสงู สุด
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดน่าน สญั ลักษณประจําจงั หวดั นา น คอื ดวงตราแบบใหมน ้ี นา น ยังคงไวซ ่งึ สัญลกั ษณและ ความหมายของตราเมอื งที่เคยใชอยูเ ดิม ไดป รบั ปรงุ โดยเปล่ยี น รูปโคอศุ ุภราชเสีย ใหม ใหแลดูสงางามและเพมิ่ พระบรมธาตเุ จดยี อนั เปนปูชนยี สถานเกา แกท ี่สาํ คัญ และเปนศนู ยรวมจิตใจ คูบา นคเู มืองของนานคอื เจดียพระธาตุแชแหง และปรบั ปรงุ ลายชอกนกประกอบพน้ื ชองไฟใหแ ลดเู ปน ระเบยี บมากยง่ิ ขึ้น สว นการใหสี กําหนดใช ตามความเหมาะสมสวยงามทางดานศลิ ปะ
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดแพร่ สัญลกั ษณประจาํ จงั หวดั แพร คือ เปนรูปมา ยืน และ โบราณสถาน ทสี่ าํ คัญของจงั หวดั แพร ก็คอื พระธาตุชอ แฮประกอบอยบู นหลงั มา
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดพะเยาว์ ตราสญั ลักษณป ระจําจังหวัดพะเยามี คอื พระเจา ตนหลวง วัดศรีโคมคํา พระพุทธรูป คูเมืองอันเปนหลักรวมใจของชาวพะเยา ลายกนกเปลว บนพนื้ เบ้ืองหลงั องค พระพุทธรปู หมายถงึ ความรงุ เรอื งของ 9 อําเภอ ไดแ ก อําเภอเมือง ดอกคําใต แมใ จ เชยี งคาํ เชยี งมว น ปง จุน ภซู าง และภกู ามยาว เบือ้ งลา งรมิ ของดวงตราเปน กวาน พะเยา ซง่ึ มชี ่ือเสียง เปน รูจกั กันดี และมี ชอ รวงขา ว ประกอบอยูท ้ังสองขา ง ซ่ึงหมาย ถึง ลกั ษณะของความเปนอูขา วอูนํา้
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดแมฮ่ ่ องสอน สญั ลกั ษณประจําจงั หวัดแมฮอ งสอน คอื รูปชางเลน น้ํา การฝก ชา งปา ใหรูจกั การบังคับบัญชาในการรบและงานดานตาง ๆ สาเหตทุ ีใ่ ชร ูปชา งในทองนา้ํ เปน ตราประจําจังหวัดน้ันกเ็ พราะเปน ทม่ี า ของการตง้ั เมอื งแมฮอ งสอน โดยเร่ิมจากการทเ่ี จาแกวเมอื งมาออกจบั ชา ง ใหเ จา เมืองเชยี งใหม และไดร วบรวมชายไทยใหญ ใหม าตั้งบา นเมอื งเปนหลักแหลงข้นึ ๒ แหง มหี ัวหนา เปน ผูปกครอง คือ ทบี่ า นปางหมู และบา นแมฮอ งสอน สาเหตุท่เี รยี กวาแมฮ อ งสอนกเ็ พราะวาไดม าตงั้ คอกฝก ชา ง ณ บรเิ วณลําหว ยแหง นี้นน่ั เอง
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดลาํ ปาง สัญลักษณประจาํ จงั หวัดลาํ ปาง คือ มรี ปู ไกข าวเปนสัญลกั ษณ สําคญั ยืนอยใู นซมุ มณฑปพระธาตุลําปางหลวง ตอมาทางจังหวัด ลาํ ปางไดเสนอกระทรวงมหาดไทยขอใหเ คร่ืองหมายธงดวงตรา ประจําจงั หวดั ลาํ ปาง ซึ่งมีรูปไกเ ผอื ก เปนสัญลักษณส ําคญั น้นั ได กาํ หนดสีประจําจงั หวัดลาํ ปางดว ย
ตราสัญลกั ษณ์ประจําหวัดลาํ พูน สญั ลกั ษณป ระจําจงั หวดั ลาํ พนู คอื เปน รปู พระบรมธาตุหริภญุ ชัย ในวงกลม พืน้ สี ฟา พระบรมธาตุหริภุญชยั ตามตาํ นานกอสรา งขึน้ ราว พทุ ธศตวรรษท่ี ๑๗ ในสมัยพญา อาทิตยราช กษัตริยแหง ราชวงศ จามเทววี งศ เพ่ือประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุทป่ี รากฏข้นึ บนท่ีดนิ ในเขตพระ ราชฐานเดมิ ลักษณะของพระบรมธาตฯุ เปน รูปส่เี หลีย่ มทรงปราสาท มีการบูรณะปฏสิ ังขรณตอมาหลายครัง้ หลายสมยั จน เปล่ยี นรปู ทรงเปน เจดยี ฐานกลม แบบลังกา
ตราสัญลกั ษณ์ประจําจังหวัดอุตรดติ ถ์ สัญลักษณประจําจงั หวดั อุตรดิตถ คือ ออกแบบโดย พระพรหมพิจิตร (อู ลาภานนท) ใ ตามนโยบายของ จอมพล ป.พบิ ูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น พระพรหมพิจิตรได สนองนโยบายท่ใี หน ําปชู นยี วัตถสุ ถานสาํ คญั ของจงั หวัดมาผกู เปน ตรา ทา นจึงไดนาํ รปู มณฑปประดษิ ฐานพระแทนศิลาอาสน โบราณสําคญั ของจงั หวดั อุตรดิตถ มาประกอบ ผกู เขาไวเ ปนตราประจําจงั หวัดอตุ รดิตถ ตราท่ีผูกขึ้นใหมนเ้ี ขยี นลายเสน โดย นายอุณห เศวตมาลย ไมมีรปู ครุฑ, นามจงั หวัดและลายกนกประกอบ ตอ มาทางราชการจงึ ไดเ พม่ิ รายละเอยี ดทัง้ สามเขา ไวในตราจังหวัด ซง่ึ ตรานยี้ งั คงใชมาจนปจ จุบนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: