งานสถาปัตยกรรมไทย
ARD ๓๖๐๑ สถาปตั ยกรรมไทย สถาปัตยกรรมไทยเปน็ สง่ิ ก่อสรา้ งทป่ี ระกอบดว้ ยความ สบื ทอด+ความเชอ่ื เชือ่ และประโยชนใ์ ช้สอย อาคารมีฐานณานศุ กั คต์ ่างๆ สามารถบอกถงึ ชนชนั้ และฐานะของผอู้ ยู่ หมวดหม่สู ถาปตั ยกรรมไทย แบง่ ตาม ลกั ษณะการใชง้ านได้ 2 ประเภท คือ ไดแ้ ก่ ฐานานศุ กั ดใิ์ นงานสถาปตั ยกรรมไทย จึงควรหมายถงึ การ - บา้ นเรือน ตาํ หนกั วงั และพระราชวงั แสดงฐานะและตําแหนง่ หน้าท่ขี องบุคคลให้ปรากฏในสงั คม - สถาปตั ยกรรมท่ีเกย่ี วข้องศาสนา โดยอาศยั รูปแบบและลกั ษณะศลิ ปะทางสถาปตั ยกรรมไทย เป็นเครอ่ื งบ่งชี้ More: http://www.portfolios.net/forum/topics/298883 9:Topic:897124#ixzz4IIvtcEBH THAI ARCHITECTURE
สถาปตั ยกรรมไทย หมวดหมู่ ตามลักษณะการใชง้ านได้ 2 ประเภท คอื ได้แก่ - บ้านเรอื น ตาํ หนกั วัง และพระราชวงั บา้ นเรอื น ตําหนกั วังและพระราชวงั เป็นตน้ บา้ นหรอื เรอื นเปน็ ทอี่ ยู่อาศยั ของสามัญชน ธรรมดา ทัว่ ไป ซ่ึงมที ง้ั เรอื นไม้ และเรอื นปนู ลกั ษณะของเรอื นไมม้ อี ยู่ 2 ชนดิ คอื - เรือนเครอื่ งผกู เป็นเรอื นไมไ้ ผ่ ปดู ว้ ยฟากไมไ้ ผ่ หลังคามงุ ดว้ ย ใบจาก หญา้ คา หรอื ใบไม้ อกี อยา่ งหนงึ่ เรยี กวา่ - เรอื นเครอื่ งสับ เปน็ ไมจ้ รงิ ทง้ั เนอ้ื ออ่ น และเนอื้ แข็ง ตามแต่ละทอ้ งถ่นิ หลังคามุงดว้ ย กระเบอื้ งดนิ เผา พ้นื และฝาเปน็ ไมจ้ รงิ ทง้ั หมด ลกั ษณะเรอื นไมข้ องไทยในแตล่ ะทอ้ งถน่ิ แตกตา่ งกนั ลกั ษณะสําคญั รว่ มกนั คือ เปน็ เรอื นไมช้ น้ั เดยี ว ใต้ถุนสงู หลงั คาทรงจ่วั เอยี งลาดชนั ตําหนกั และวงั เป็นเรอื นทอี่ ยขู่ องชนชน้ั สงู พระราชวงศ์ หรอื ใช้เรยี กทป่ี ระทบั ชน้ั รอง ของ พระมหากษตั รยิ ์ สําหรบั พระราชวงั เปน็ ทปี่ ระทบั ของพระมหากษัตริ ย์ พระทน่ี ง่ั เป็นอาคาร ทีม่ ที อ้ งพระโรงซง่ึ มที ป่ี ระทบั สาํ หรบั ออกวา่ ราชการ หรอื กจิ การอนื่ ๆ THAI ARCHITECTURE
เรอื นเครอ่ื งผกู
เรอื นเครอ่ื งสบั
ตาํ หนัก และวงั
สถาปตั ยกรรมทางศาสนา สถาปัตยกรรมทางศาสนาซงึ่ สว่ นใหญอ่ ยูใ่ นบรเิ วณพนื้ ทส่ี งฆ์ ทเ่ี รยี กวา่ วัด ซ่งึ ประกอบไปด้วย สถาปตั ยกรรมหลายอยา่ ง ได้แก่ โบสถ์ เป็นทกี่ ระทาํ สงั ฆกรรมของพระภิกษุ วิหารใช้ประดษิ ฐาน พระพทุ ธรปู สาํ คัญ และกระทาํ สงั ฆกรรมดว้ ยเหมือนกนั กุฎิ เปน็ ทอ่ี ย่ขู องพระภกิ ษุ สามเณร หอไตร เปน็ ที่ เกบ็ รกั ษาพระไตรปฎิ ก และคมั ภีรส์ าํ คญั ทางศาสนา หอระฆงั และหอกลอง เปน็ ทใ่ี ช้เกบ็ ระฆงั หรอื กลองเพอ่ื ตี บอกโมงยาม หรอื เรยี กชุมนมุ ชาวบา้ น สถูปเปน็ ทฝ่ี งั ศพ เจดีย์ เปน็ ทร่ี ะลกึ อันเก่ยี วเนอ่ื งกบั ศาสนา พระอโุ บสถภาคเหนอื พระอโุ บสถภาคกลาง พระอโุ บสถภาคอสี าน THAI ARCHITECTURE
สถาปตั ยกรรมทางศาสนา วัด ซ่งึ ประกอบไปด้วยสถาปตั ยกรรมหลายอยา่ ง วดั แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท ไดแ้ ก่ - วัดอรญั วาสี วัด ซง่ึ ประกอบไปด้วยพนื้ ท่ี 3 ได้แก่ - วัดคามวาสี เขตพทุ ธาวาส สถูปเปน็ ทฝี่ ังสพ เจดยี ์ เปน็ ท่ีระลกึ อนั เกยี่ วเนอ่ื งกบั เขตสงั ฆาวาส ศาสนา ซ่ึงแบง่ ได้ เขตสาธารณะ 4 ประเภท คือ สถาปัตยกรรมทางศาสนา 1. ธาตุเจดยี ์ หมายถึง พระบรมธาตุ และเจดยี ท์ บ่ี รรจุ สถาปัตยกรรมทางศาสนาซงึ่ สว่ น พระบรมสารรี ิกธาตขุ องพระพทุ ธเจา้ 2. ธรรมเจดยี ์ หมายถึง พระธรรม พระวนิ ยั คําส่งั สอน ใหญอ่ ยูใ่ นบรเิ วณพนื้ ทสี่ งฆ์ ที่ ทกุ อย่างของพระพทุ ธเจา้ เรยี กวา่ วัด ซ่ึงประกอบไปดว้ ย 3. บริโภคเจดยี ์ หมายถึง สง่ิ ของเครือ่ งใชข้ อง สถาปตั ยกรรมหลายอย่าง ไดแ้ ก่ เขตพทุ ธาวาส พระพทุ ธเจา้ หรอื ของพระภกิ ษสู งฆไ์ ดแ้ ก่ เคร่อื งอฐั บรขิ าร ทงั้ หลาย 4. อุเทสิกเจดยี ์ หมายถงึ สงิ่ ท่ีสรา้ งขนึ้ เพ่อื เปน็ ที่ - เจดยี ์ ระลึกถึงองคพ์ ระพทุ ธเจา้ เชน่ สถปู เจดยี ์ ณ สถานที่ทรง - วิหาร ประสตู ิ ตรสั รู้ แสดงปฐมเทศนา ปรินพิ พาน และรวมถงึ - หอระฆงั สญั ลักษณอ์ ยา่ งอน่ื เช่น พระ พุทธรปู ธรรมจกั ร ตน้ โพธ์ิ เปน็ ตน้ THAI ARCHITECTURE
เขตสงั ฆาวาส วดั ป่าปว๋ ย ม.3 บา้ นป่าปว๋ ย ต.บา้ นโฮ่ง อ.บา้ นโฮง่ จ.ลาํ พนู - กฎุ ิทอี่ ยอู่ าศัย - หอฉัน - การเปรยี ญ - หอไตร เขตสาธารณะ - ลาน - เมรุ THAI ARCHITECTURE
เขตสงั ฆาวาส กัปปิยกฎุ ิ เรอื นโรง ทีเ่ กบ็ สงิ่ ของ อาหาร หรอื ทใ่ี ชโ้ รงครัว - กฎุ ทิ ี่อยูอ่ าศยั ประกอบหงุ้ ต้ม - - กฎุ เิ ดยี ว วจั จกุฎี อาคารทพี ระภกิ ษใุ ช้ขับถ่าย - - กุฎิแถว ชนั ตาฆรหรอื เรือนไฟ เรือ่ นท่ีใช้เกบ็ ท่รี ักษาไฟ และใชต้ ้ม - - คณะกุฎิ น้ํา เขยี งหินสาํ หรบั ปสั สาวะ พบที่อนรุ าธปุระ ลงั กา THAI ARCHITECTURE
สถาปตั ยกรรมทางศาสนา
เอกลักษณ์สถาปตั ยกรรมไทย “สถาปตั ยกรรมไทย มีลักษณะปน็ เอกลกั ษณะของตนเอง ไมว่ ่าผู้ใด เม่อื ได้เหน็ อาคารทมี่ ลี กั ษณะเชน่ น้ี กจ็ ะบอกได้ทนั ท่ีว่า น้คี ือ สถาปัตยกรรมไทย” ความงามในงานสถาปตั ยกรรมไทย ความงาม เกดิ จากมมุ มองหรอื ทศั นคตขิ องผมู้ องเปน็ ความรสู้ ึก ความประทบั ใจ แต่ละคนจะแตกแตง่ กนั ไป .....งานสถาปตั ยกรรมไทยแบบประเพณีทส่ี มบรู ณ์ เปน็ งานศลิ ป ที่ตอบสนองประโยชนใ์ ชส้ อย มีเอกลกั ษณท์ ่แี สดงความเปน็ ไทย อย่างชัดเจน เป็นทรี่ วบรวมงานศลิ ปะแขนงตา่ งๆเขา้ ด้วยกัน........ ......สถาปัตยกรรมไทยแบบประเพณี เปน็ งานทมี่ ี กระบวนการออกแบบและระเบยี บวธิ ใี นการออกแบบทส่ี บื ทอดมา แต่โบราณของไทยเพอ่ื สนองประโยขนใ์ ช้สอยและคตคิ วามเช่อื ........ THAI ARCHITECTURE
ความเขา้ ใจ ทจี่ ะทําใหเ้ ขา้ ถงึ ความงามในงานสถาปตั ยกรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย - องคป์ ระกอบของงานสถาปตั ยกรรมไทย - กระบวนการและระเบยี บวิธใี นงานสถาปตั ยกรรมไทย - รปู รา่ ง รปู ทรง ขนาดและสดั สว่ น จงั หวะและลีลา - คติความเชอ่ื และการสอื ความหมาย - ประโยชนใ์ ชส้ อย ความงามของรปู ทรง เมอ่ื พจิ ารณาจากรปู ทรง จดั ได้ 3 ประเภท รปู ทรงไม้ รปู ทรงปนู รปู ทรงผสมไม้ปนู THAI ARCHITECTURE
องค์ประกอบสถาปตั ยกรรมไทย THAI ARCHITECTURE
องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม หมายถึง อาคารหรอื กลุ่มอาคารรวมทง้ั สว่ นตา่ งๆทเ่ี กย่ี วเน่ืองสัมพันธ์กนั นาํ มา ประกอบข้ึนเป็นงานสถาปัตยกรรมประเภทหนึง่ แลว้ สามารถส่ือใหง้ านสถาปตั ยกรรมชิ้นนน้ั ๆสะท้อนออกมาถึง คุณลักษณะ ในแงข่ องประโยชน์ใชส้ อย หรอื ความงาม หรอื คติความหมาย หรอื ทกุ อย่างรวมกนั องค์ประกอบทางสถาปตั ยกรรมท่สี ําคัญอยู่ 2 ลักษณะคือ 1. องคป์ ระกอบแผนผัง หมายถงึ ลักษณะทางกายภาพในแนวระนาบทางนอน ทบ่ี ง่ บอกถงึ ทีต่ ั้ง ขนาดพน้ื ที่วา่ ง ขอบเขต และความสัมพันธ์ ระหว่างส่วนประกอบต่างๆท่ีประกอบกันข้ึนในผงั ซ่ึงแตกต่างกนั ตามความต้องการของแนวความคิดในการ ออกแบบ ในงานพุทธศาสนา สถาปัตยกรรมของไทย มีการแบ่งพ้นื ท่ีภายในออกเปน็ เขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขต ธรณสี งฆ์ โดยแตล่ ะเขตก็มี องค์ประกอบแผนผงั ทมี่ ีแบบอยา่ งลักษณะเฉพาะตัว ตามหน้าท่ขี องประโยชนใ์ ชส้ อยหรือคติ สัญลกั ษณ์ในทางพุทธศาสนา 2. องค์ประกอบอาคาร หมายถงึ สว่ นของอาคารท่ีประกอบหรอื ประดับตกแต่งขึ้นด้วยองค์ประกอบยอ่ ยตา่ งๆ เพ่ือให้ อาคารสามารถคงอยูไ่ ด้อย่างม่นั คงแข็งแรง ท้งั มคี วามประณีตงดงาม และสื่อแสดงออกถงึ ความหมายหรือคติในทางพุทธ ปรชั ญาได้อย่างสมบูรณ์ THAI ARCHITECTURE
องคป์ ระกอบทางวางผงั ทางสถาปตั ยกรรม
องคป์ ระกอบทางอาคารสถาปัตยกรรม
องคป์ ระกอบอาคารจําแนกออกไดเ้ ป็น 2 ลักษณะ คือ สถาปตั ยกรรมไทย 2.1 องค์ประกอบโครงสรา้ ง หมายถึง ชิน้ สว่ นของวสั ดุตา่ งๆ ท่ีนํามาตอ่ หรอื ยดึ โยง หรือ ประกอบรวมกนั ขน้ึ เป็นโครงรา่ งของอาคาร ตามกรรมวิธีหรอื กระบวนการกอ่ สร้างทเ่ี ป็นระบบ ภายใต้กฎเกณฑ์และระเบยี บแบบ แผนทางการช่างของกลุ่มชนหรือสังคมนน้ั ๆ ซึ่งโครงสร้างของอาคารในงานสถาปัตยกรรมไทย จะมอี งคป์ ระกอบสาํ คญั อยู่ 3 ส่วน ได้แก่ 2.1.1 องคป์ ระกอบโครงสร้างส่วนฐาน ไดแ้ ก่ องคป์ ระกอบของโครงสร้างของ อาคารท่ีประกอบกันข้นึ เป็นสว่ นฐานอาคาร เพอื่ ทําหน้าทรี่ ับน้าํ หนักท่ีถา่ ยจากส่วนบนท่อี ย่เู หนอื พน้ื เรอื นข้ึนไป กอ่ นถ่ายลงสู่ ดนิ อาคารทางศาสนาของไทยน้ัน นยิ มใชอ้ ิฐหรือศิลาแลงก่อเป็นแผงตนั แล้วประดบั ตกแตง่ ใหเ้ ป็น ฐาน ท่มี ีรปู แบบชนดิ ต่างๆ ตามคตสิ ัญลักษณ์ เชน่ ฐานบัว ฐานสงิ ห์ ฯลฯ องคป์ ระกอบท่สี าํ คัญส่วนนี้ คือ พน้ื ฐานราก 2.1.2 องค์ประกอบโครงสร้างสว่ นเรอื น ไดแ้ ก่ องค์ประกอบของโครงสรา้ งอาคาร ทป่ี ระกอบกันขนึ้ เปน็ ตัวเรอื น เพือ่ ทาํ หน้าท่ียึดตอ่ เป็นผนื ผนงั สําหรบั หอ่ หุ้มอาคาร รวมท้งั รับน้าํ หนักท่ีถา่ ยลงมาจากสว่ น หลงั คา กอ่ นถา่ ยผ่านลงไปสู่ส่วนฐานเรือนตอ่ ไป องค์ประกอบที่สาํ คัญส่วนน้ี คอื เสา ผนงั ประต-ู หนา้ ตา่ ง 2.1.3 องค์ประกอบโครงสรา้ งสว่ นหลงั คา ได้แก่ องคป์ ระกอบต่างๆของโครงสรา้ งอาคารที่ อยู่เหนอื สว่ นเรอื นขึ้นไป ประกอบเขา้ กนั เปน็ โครงหลังคา เพื่อทาํ หน้าที่ปกคลมุ พืน้ ทีว่ ่างส่วนล่างลงมา องค์ประกอบท่สี าํ คญั ใน ส่วนนี้ คอื ขอ่ื แป จนั ทัน อกไก่ ดัง้ เต้า คันทวย THAI ARCHITECTURE
องคป์ ระกอบทางสถาปัตยกรรม
2.2 องค์ประกอบตกแต่ง หมายถงึ ส่วนประกอบต่างๆทที่ าํ ข้ึนเพื่อเสรมิ แตง่ ให้อาคาร มีความสวยงามยง่ิ ขนึ้ สามารถแยกยอ่ ยออกได้ เปน็ 2 ลกั ษณะ คอื 2.2.1 องคป์ ระกอบตกแต่งจริง หมายถงึ การประดบั ตกแตง่ ที่ทําขึ้นบนส่วนต่างๆของ อาคารท่ไี มใ่ ชเ่ ป็นองคป์ ระกอบโครงสรา้ งหลักโดยตรง แตเ่ ปน็ การประดับแต่งเพมิ่ เข้าไปเพือ่ ให้อาคารนน้ั ๆ มีความสมบรู ณท์ ้ังใน เชิงความงามและความหมายยิ่งขึ้น เชน่ จิตรกรรมฝาผนัง ดาวเพดาน ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ บราลี บวั หัวเสา ฯลฯ องคป์ ระกอบประเภทนี้หากไมค่ าํ นงึ ถึงความตอ้ งการในเชิง คติความเช่ือ ความหมายหรอื มโนปรชั ญา สําหรับอาคารแลว้ อาจจะ มหี รือไมก่ ็ได้ เพราะไมไ่ ดม้ ีบทบาทหนา้ ทีส่ ําคญั ตอ่ ความมน่ั คงแขง็ แรงของอาคารโดยตรง 2.2.2 องค์ประกอบตกแต่งเสริม หมายถงึ การประดับตกแตง่ ท่ที ําเสรมิ ข้นึ บนสว่ นของ องค์ประกอบทเี่ ป็นโครงสร้างสําคัญของอาคารนัน้ ๆ เช่น คนั ทวย หน้าบัน ตัวลาํ ยอง เชิงชาย ฯลฯ ท้งั น้เี พื่อให้องคป์ ระกอบย่อย เหลา่ นั้น นอกจากจะมีความประณีตงดงามขนึ้ แล้ว ยงั แฝงความหมายทเ่ี ป็นเชงิ สญั ลักษณอ์ กี ด้วย เชน่ คนั ทวยท่แี กะสลักเปน็ รูปนาคหรือมกร เสาที่ทําสว่ นปลายเสาเปน็ รปู บัว อย่างทเี่ รียกวา่ บวั หัวเสา ฯลฯ องค์ประกอบเหล่าน้ีจึงทําหน้าท่ี 2 บทบาทใน เวลาเดียวกันคอื เปน็ ท้งั องค์ประกอบทางโครงสรา้ ง และ องคป์ ระกอบตกแต่ง THAI ARCHITECTURE
องคป์ ระกอบทางสถาปัตยกรรม
ทม่ี าของแหล่งข้อมลู สถาปัตยกรรมไทย http://www.oknation.net/blog/Fai716TU70/2008/01/22/entry-1 http://www.arch.chula.ac.th/departments_ta.php http://www.archdept.com/ http://www.museum-press.com/content--4-5600-107314-1.html http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-12-45193.html พ.พรหมพจิ ติ ร,พทุ ธสถาปัตยกรรมไทย ภาคตั้น,พระนคร:โรงพิมพพ์ ระจันทร,์ 2495 สมคิด จิระทศั กุล,วัด:พทุ ธศาสนสถาปตั ยกรรมไทย,กรุงเทพฯ:โรงพมิ พม์ หาวทิ ยาลัยธรรม ศาตร์,2537 สมใจ น่ิมเลก็ ,เคร่ืองบน และงานประดับบางประการของสถาปตั ยกรรมไทย,นครปฐม:โรง พิมพ์มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร,2536 สันติ เลก็ สุขมุ ,ศิลปสโุ ขทัย,กรุงเทพฯ:สาํ นักพมิ พ์เมืองโบราณ,2540 สุภทั รดศิ ดิศกลุ ,หม่อมเจา้ ,ศิลปประเทศไทย,กรงุ เทพฯ:อมรนิ ทรก์ ารพมิ พ์,2528 สมใจ น่ิมเล็ก,ราชบัณฑติ ชาวสวน,กรงุ เทพฯ:21 เซน็ จูร,ี 2555 เสนอ นิลเดช,ประวัติสาสตร์สถาปตั ยกรรมไทย,กรงุ เทพฯ:โรงพิมพ์ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร,์ 2541 สมภพ ภิรมย์ ร.น.,บา้ นเรือนไทย,กรุงเทพฯ:โรงพิมพค์ ุรุสภา,2538 สมคดิ จริ ะทศั นกลุ ,“พระอุโบสถและพระวหิ ารในสมัยพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว”วทิ ยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตร์มหาบณั ฑติ ภาควิชาศลิ ปสถาปัตยกรรม มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, 2533, หนา้ 258 THAI ARCHITECTURE
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: