Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรรพคุณวัตถุดิบ

สรรพคุณวัตถุดิบ

Published by thungsamornfe, 2020-08-26 04:05:50

Description: สรรพคุณวัตถุดิบ

Search

Read the Text Version

หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอพนมทวน

ประโยชนข์ องมะกรูด สมุนไพรหลากสรรพคณุ คคู่ รวั ไทย มะกรดู เปน็ สมุนไพรท่นี ยิ มใชก้ ันมาต้งั แต่ในสมยั โบราณ ไม่วา่ จะนาํ มาใชใ้ นการทําอาหาร ชว่ ยบํารงุ สขุ ภาพเสริมความงาม หรอื แมแ้ ต่นาํ มาปลูกเพื่อเป็นสิริมงคล นอกจากนม้ี ะกรดู ยังมีประโยชนแ์ ละสรรพคุณดี ๆ อกี มากมายท่ีไมค่ วรมองขา้ ม เรามาทําความร้จู ักกับเจ้าพชื สมนุ ไพรผวิ ขุรขระชนดิ นี้กันให้ดขี ้นึ กว่าเดมิ ดีกว่าค่ะ พร้อมแลว้ ไปดูกันเลย มะกรูด หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Kaffir lime, Leech lime, Mauritius papeda มีชื่อ วิทยาศาสตร์ว่า Citrus x hystrix L. นอกจากนี้ในประเทศไทยยังมีชื่ออีกหลากหลายชื่อ อาทิเช่น มะขู (แม่ฮ่องสอน), มะขุน มะขูด (ภาคเหนือ), ส้มกรูด ส้มม่ัวผี (ภาคใต้) เป็นต้น เป็นพืชที่จัดอยู่ในตระกูล ส้ม (Citrus) โดยมถี ่นิ กาเนิดในประเทศไทย ลาว มาเลเซีย และอินโดนีเซยี ลักษณะของมะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก เนื้อไม้แข็ง ลําต้นและกิ่งมีหนามยาวเล็กน้อย ใบเป็นใบ ประกอบชนิดลดรูป มีใบย่อย 1 ใบ เรียงสลับ รูปไข่ คือมีลักษณะคล้ายกับใบไม้ 2 ใบ ต่อกันอยู่ คอดก่ิวท่ีกลาง ใบเป็นตอน ๆ มีก้านแผ่ออกใหญ่เท่ากับแผ่นใบ ทําให้เห็นใบเป็น 2 ตอน กว้าง 2.5-4 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนตเิ มตร ใบสีเขียวแก่พื้นผิวใบเรียบเกลี้ยง เป็นมัน ค่อนข้างหนา มีกล่ินหอมมากเพราะมีต่อมน้ํามันอยู่ ซ่ึงผล แบบนี้เรียกว่า ผลแบบส้ม (hesperitium) ใบด้านบนสีเข้ม ใต้ใบสีอ่อน ดอกออกเป็นกระจุก 3–5 ดอก กลีบ ดอกสขี าว เกสรสีเหลือง ร่วงง่าย มีกล่ินหอม มีผลสีเขียวเข้มคล้ายมะนาวผิวเปลือกนอกขรุขระ ข้ัวหัว-ท้ายของ ผลเปน็ จุก ผลอ่อนมีเปน็ สีเขียวแก่ เมื่อผลสกุ จะเปลีย่ นเปน็ สีเหลืองสด พันธุ์ท่ีมีผลเล็ก ผิวจะขรุขระน้อยกว่าและ ไมม่ จี กุ ทข่ี ั้ว ภายในมีเมล็ดจํานวนมาก ๆ สรรพคุณมะกรูด กับคณุ ประโยชน์ทางยาท่ไี มค่ วรมองขา้ ม มะกรดู เป็นพชื สมุนไพรโบราณทม่ี คี ณุ ประโยชน์ทางยามากมาย โดยสามารถนาส่วนต่าง ๆ มาใช้ รกั ษาอาการตา่ ง ๆ ได้อยา่ งหลากหลาย มะกรูดมสี ารต้านอนมุ ูลอิสระสูง จึงมสี ว่ นช่วยสร้างเสริมภูมคิ ุ้มกัน ใหแ้ ก่รา่ งกายและต้านทานโรคหลายชนิดรวมท้งั มะเร็งบางชนิดด้วย นอกจากน้มี ะกรูดยงั มฤี ทธใ์ิ นการชว่ ย ยับย้งั การเจริญเตบิ โตของเช้ือจุลนิ ทรีย์ อยา่ งเชน่ เชื้ออีโคไล (E.coli) และซาลโมเนลลา (Salmonella) ได้ ช่วย บํารุงประจําเดือน ขบั ระดู และมกั เป็นสว่ นผสมสําคัญในยาสตรตี ่าง ๆ อกี ดว้ ย ไมเ่ พียงแค่น้ัน สว่ นต่าง ๆ ของ มะกรดู ยังมปี ระโยชนอ์ กี มากมายไปดูกันเลยค่ะ รากมะกรดู - รากของมะกรูดมีรสจดื เย็น สามารถช่วยแกอ้ าการไข้ ถอนพิษสําแดง แกล้ มจุกเสยี ด กระทุง้ พษิ ไข้ แก้ พษิ ฝีภายใน และชว่ ยอาการเสมหะเป็นพิษ

ผิวมะกรูด - ผิวของมะกรดู สามารถช่วยแกอ้ าการนอนไมห่ ลบั ได้ โดยนาํ ผิวของมะกรดู บดรวมกบั รากชะเอม ไพล เฉียงพรา้ ขมน้ิ อ้อย แล้วนาํ มาตม้ นํ้าด่ืม - เปน็ ยาบํารงุ หวั ใจ โดนนําผวิ มะกรูดฝานสดประมาณ 1 ช้อนโตะ๊ มาผสมกับพิมเสนหรอื การบูรชงในนํา้ เดอื ดแล้วแช่ท้ิงไว้ จากน้ันนํามาด่มื - ช่วยแกอ้ าการเปน็ ลม หน้ามดื วงิ เวียนศีรษะ โดยนาํ เปลอื กมะกรูดฝานบาง ๆ ชงกบั น้ําเดือดแลว้ เติม การบรู เล็กนอ้ ย นํามาดื่มเพ่ือแกอ้ าการ - ชว่ ยขับลมในลาํ ไส้ แกอ้ าการจกุ เสียด ทอ้ งอืด แนน่ ทอ้ งได้ - ช่วยขบั สารพิษทอี่ ยู่ในร่างกายให้ออกมาทางผิวหนงั โดยการนาํ ผิวมะกรดู มาใช้เป็นสว่ นประกอบในการ อบซาวน่าสมนุ ไพร ใบมะกรดู - ช่วยแก้ไอ แก้อาการอาเจียนเปน็ เลอื ด - ชว่ ยแก้อาการชา้ํ ใน - ใบมะกรดู อดุ มไปด้วยเบตา้ แคโรทนี ซ่งึ ชว่ ยในการชะลอการขยายตวั ของเซลล์มะเรง็ และชว่ ยต่อตา้ น มะเร็งได้

ผลมะกรูด - ช่วยแกอ้ าการไอ ขับเสมหะ โดยการนาํ มะกรูดผ่าครงึ่ และนาํ ไปลนไฟใหน้ ่ิม แล้วค่อย ๆ บบี น้าํ มะกรดู ลงคอทีละนดิ จะชว่ ยทาํ ให้อาการบรรเทาลงได้ - ชว่ ยฟอกโลหติ โดยนาํ ผลมะกรูดสดมาผา่ เปน็ 2 ซีกแล้วนําไปดองกับเกลือหรอื น้ําผง้ึ ประมาณ 1 เดือน แลว้ รินเอาแตน่ า้ํ ดื่ม - ช่วยแก้อาการปวดทอ้ ง หรอื ใชเ้ ป็นยาแกป้ วดท้องในเด็กออ่ น โดยการนําผลมะกรดู มาคว้านไสก้ ลาง ออก นํามหาหิงค์ใุ สแ่ ละปิดจุก แล้วนําไปเผาไฟจนดาํ เกรยี มและบดจนเป็นผงละลายกับนํ้าผง้ึ ไว้รบั ประทานแก้ อาการปวดได้ - ชว่ ยขับระดู ขบั ลม โดยผลมะกรดู นํามาดองทาํ เป็นยาดองเปร้ียวไวร้ ับประทาน - ช่วยแก้อาการน้ําลายเหนียว - แก้เถาดานในทอ้ ง - แกร้ ะดเู สยี ขับระดู - ช่วยขับลมในลําไส้ ประโยชน์ของมะกรดู สมนุ ไพรสารพดั ประโยชน์ มะกรูดเป็นพชื สมนุ ไพรทอ่ี ยู่คู่กบั คนไทยมานาน ถูกนาํ มาใช้ในการปรุงอาหารคาวหวานตา่ ง ๆ และยัง นาํ มาใชใ้ นพระราชพธิ สี าํ คัญอย่างเชน่ พระราชพธิ ีโสกันต์ ซ่ึงระบุไว้วา่ จะต้องมผี ลมะกรูดและใบส้มป่อยในการ ประกอบพธิ ี นา้ํ ของมะกรดู ก็สามารถนาํ มาใชแ้ ทน หรอื นํามาผสมกับนํ้ามะนาวเพือ่ ใชป้ รุงอาหารไดอ้ ีกด้วย โดย น้ํามะกรดู นน้ั จะมรี สเปรี้ยวกลมกลอ่ มและมีกลน่ิ ของน้ํามันหอมระเหยเพ่ิมขน้ึ อีกด้วยค่ะ มะกรูดไลย่ ุง ไลแ่ มลง ในมะกรูดมนี ํ้ามนั หอมระเหยอยู่มาก มกี ลน่ิ ฉนุ จึงสามารถนําไปใช้ไลแ่ มลงบางชนดิ ได้ เช่น มอดและมด ทอ่ี ยูใ่ นขา้ วสาร ด้วยการใช้ใบมะกรดู สด ๆ ฉีกใบเป็น 2 ส่วน ให้กล่นิ ออก แล้วใส่ไวใ้ นถังขา้ วสารก็จะทําใหม้ อด และมดไมข่ น้ึ ข้าวสาร แล้วถ้าหากถกู ปลงิ กัดละก็ ใหน้ ํามะกรดู มาถูตรงบรเิ วณท่มี ปี ลิงเกาะจะทําใหป้ ลงิ หลดุ ออกมาเอง นอกจากน้ีมะกรูดสามารถใชใ้ นการไลย่ ุงและกาํ จัดลกู นํา้ โดยนาํ เปลอื กมาตากแห้งแล้วนาํ ไปเผาไฟก็ จะสามารถไลย่ ุงได้ ในปัจจบุ ัน มีการนํามะกรดู มาแปรรูปเปน็ ผลติ ภณั ฑ์ปอ้ งกนั ยงุ และแมลงต่าง ๆ ซึง่ ในการเกษตรก็ได้มี การนํานาํ้ มันหอมระเหยมะกรูดมาผลิตในรปู ของแคปซลู เพ่ือใช้ไลแ่ มลงและหนอนสาํ หรับเกษตรกร โดยนาํ ไป โปรยยังบรเิ วณท่ตี ้องการไลแ่ มลง แล้วนํา้ มันจะค่อย ๆ ซมึ ออกจากแคปซูล วธิ ีการนที้ าํ ใหเ้ กษตรกรใช้สารเคมี ลดลงเปน็ ผลให้พืชผลทางการเกษตรปลอดสารเคมีมากข้นึ อีกด้วยค่ะ มะกรูดบารุงผม มะกรูดชว่ ยบาํ รุงผมให้เงางาม แก้อาการผมร่วง โดยการนาํ มะกรูดผา่ คร่ึง มาชโลมบนศรี ษะหลงั สระผม เสร็จทิ้งไวส้ ักพักแลว้ ล้างออก กจ็ ะช่วยทําให้ผมดาํ เงางามและลดผมรว่ งได้ หรือจะนาํ นาํ้ มะกรดู มาหมักผมทิ้งไว้ ประมาณ 10 นาที กส็ ามารถช่วยลา้ งสารพิษตา่ ง ๆ ท่มี าจากสภาพแวดลอ้ มได้

ประโยชนข์ องพรกิ สมนุ ไพรหลากสรรพคณุ คคู่ รวั ไทย สรรพคุณ พริกมีวิตามินซี สูง เป็นแหล่งของกรด ascorbic ซึ่งสารเหล่านี้ ช่วยขยายเส้นโลหิตในลําไส้และ กระเพาะอาหารเพ่ือให้ดูดซึมอาหารดีข้ึน ช่วยร่างกายขับถ่าย ของเสียและนําธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อ ของร่างกาย (tissue) สําหรับพริกขี้หนูสดและพริกช้ีฟ้าของไทย มีปริมาณวิตามิน ซี 87.0 - 90 มลิ ลิกรมั / 100 g นอกจากนีพ้ ริกยงั มสี ารเบต้า - แคโรทนี หรอื วิตามนิ เอ สงู (พรกิ ขี้หนสู ด140.77 RE ) พริกยังมีสารสําคัญอีก 2 ชนิด ได้แก่ Capsaicin และ Oleoresinโดยเฉพาะสาร Capsaicin ท่ี นํามาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และผลิตภัณฑ์รักษาโรค ในอเมริกามีผลิตภัณฑ์จําหน่ายในช่ือ Cayenne สําหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร สาร Capsaicin ยังมีคุณสมบัติทําให้เกิดรสเผ็ด ลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ หัวไหล่ แขน บ้ันเอว และส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และมีผลิตภัณฑ์ จําหนา่ ยท้ังชนิดเป็นโลช่ันและครีม ( Thaxtra - P Capsaicin) แต่การใช้ในปริมาณท่ีมากเกินไป อาจมี ผลกระทบต่ออาการหยุดชะงักการทํางานของกล้ามเน้ือได้เช่นกัน เพ่ือความปลอดภัย USFDA ได้ กาํ หนดให้ใช้สาร capsaicin ได้ ทคี่ วามเขม้ ขน้ 0.75 % สําหรับเปน็ ยารักษาโรค

ประโยชนข์ องพรกิ 1. พรกิ มีสารตอ่ ตา้ นอนุมลู อิสระ ชว่ ยชะลอวัย 2. ชว่ ยใหอ้ ารมณด์ ี ทําให้ร่างกายสร้างสาร Endorphin (สารแห่งความสุข) 3. ช่วยเสริมสรา้ งภูมติ า้ นทานใหแ้ ข็งแรงมากย่งิ ขึ้น 4. วิตามนิ ซีท่ีช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในรา่ งกาย 5. ช่วยในการบํารุงและรกั ษาสายตา 6. ช่วยกระตนุ้ ใหเ้ จรญิ อาหารยิง่ ข้ึน 7. สารแคปไซซนิ ช่วยให้เกิดอาการตนื่ ตวั ของร่างกาย 8. ช่วยในการดีท็อกซ์ของรา่ งกาย 9. พริกชว่ ยบรรเทาอาการไข้หวดั ลดนา้ํ มกู และลดเสมหะ 10. ช่วยบรรเทาอาการไอ 11. ชว่ ยลดสารท่มี ากดี ขวางระบบทางเดินหายใจอนั เนอ่ื งมาจากการเปน็ ไขห้ วัด ไซนัส หรือโรคภูมแิ พ้ ต่าง ๆ 12. ช่วยรักษาโรคลกั ปิดลกั เปิด หรือโรคเลอื ดออกตามไรฟนั 13. ชว่ ยให้หายใจได้สะดวกยิ่งข้นึ 14. ชว่ ยลดความเสยี่ งของการเกดิ โรคมะเรง็ และความเผ็ดของพริกมสี ่วนช่วยฆา่ เซลลม์ ะเร็งได้ 15. ชว่ ยลดปรมิ าณสารคอเลสเตอรอลในร่างกาย ทําให้ปรมิ าณของไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือดลดลง 16. ชว่ ยลดการอดุ ตนั ของเสน้ เลือด เส้นเลือดสมองอดุ ตนั 17. ช่วยในการสลายลิ่มเลือด 18. ช่วยป้องกนั การเกดิ โรคหวั ใจล้มเหลว 19. ชว่ ยเพิม่ การไหลเวยี นของหลอดเลอื ดให้ดยี งิ่ ขน้ึ 20. ช่วยลดความดันโลหิต

ประโยชนข์ องกระเทยี ม สมนุ ไพรหลากสรรพคุณคูค่ รวั ไทย กระเทียม ช่ือสามัญ Garlic กระเทยี ม ช่ือวิทยาศาสตร์ คือคาํ ว่า Allium sativum L. จัดอยใู่ นวงศ์พลับพลึง (AMARYLLIDACEAE) และอยู่ ในวงศ์ย่อย ALLIOIDEAE (ALLIACEAE) สําหรับในประเทศไทยนยิ มปลกู มากในทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ แต่สาํ หรบั กระเทียมท่ีขึ้นชื่อ วา่ มีคุณภาพดี กล่ินฉนุ คงหนีไม่พ้นจงั หวดั ศรสี ะเกษ สรรพคณุ ของกระเทียม 1. ช่วยบํารุงผิวหนังให้มสี ขุ ภาพดแี ละแข็งแรง 2. ชว่ ยเสริมสร้างการเจริญเตบิ โตของเน้ือเย่ือในรา่ งกาย 3. ชว่ ยป้องกนั การเกิดโรคมะเรง็ 4. ชว่ ยเสริมสรา้ งภูมติ ้านทานให้แกร่ า่ งกาย 5. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและนา้ํ ตาลในเลอื ด 6. ชว่ ยปรับสมดุลในร่างกาย 7. ชว่ ยแก้อาการวงิ เวยี นศรี ษะ อาการมนึ งง ปวดศรี ษะ หูอื้อ 8. ช่วยในเรอื่ งระบบสืบพันธแ์ุ ละระบบทางเดินปสั สาวะ เพราะมีสารทีช่ ่วยควบคุมฮอร์โมนท้ังหญิงและ ชาย ชว่ ยทาํ ให้มดลกู บบี ตวั เพ่มิ พละกําลงั ใหม้ เี รย่ี วแรง 9. ชว่ ยรกั ษาโรคความดนั โลหิต 10. ชว่ ยป้องกนั การเกดิ โรคหัวใจ ลดความเสีย่ งของหัวใจลม้ เหลวเฉยี บพลนั 11. ชว่ ยตอ่ ต้านเนือ้ งอก 12. ชว่ ยแก้ปัญหาผมบาง ยาวชา้ มสี ีเทา 13. ช่วยปอ้ งกนั การเกดิ และรกั ษาโรคโลหิตจาง 14. ช่วยในการขบั พิษและสารพิษอนั ตรายท่ปี นเปื้อนในเมด็ เลอื ด

15. ชว่ ยป้องกนั ผนงั หลอดเลือดหนาและแข็งตวั 16. สารสกัดนํ้ามันกระเทยี มมสี ารที่มสี ว่ นช่วยในการละลายล่มิ เลือด 17. ช่วยปอ้ งกันการเกิดเสน้ เลอื ดอดุ ตนั 18. มีสารตอ่ ตา้ นไมใ่ หเ้ ม็ดเลือดแดงแตก 19. ชว่ ยบรรเทาอาการไอ น้ํามกู ไหล ปอ้ งกนั หวดั 20. ช่วยรกั ษาโรคไขห้ วัดและไขห้ วัดใหญ่ 21. ช่วยรกั ษาอาการเยือ่ บจุ มูกอกั เสบและไซนสั 22. ช่วยรกั ษาโรคไอกรน 23. ชว่ ยแก้อาการหอบ หดื 24. ชว่ ยรักษาโรคหลอดลม 25. ช่วยระงบั กลนิ่ ปาก 26. ช่วยในการขบั เหงอ่ื 27. ช่วยในการขับเสมหะ 28. ช่วยควบคมุ โรคกระเพาะ ด้วยสารทีช่ ่วยยบั ยงั้ ไม่ใหน้ ้าํ ย่อยอาหารมาย่อยแผลในกระเพาะ 29. ชว่ ยในการขับลม 30. ช่วยรกั ษาอาการจุกเสียดแน่นทอ้ ง ท้องอดื ท้องเฟ้อ ประโยชนข์ องกระเทยี ม  ประโยชนห์ ลกั ๆ ของกระเทียมคงหนีไม่พน้ การนํามาใชเ้ พื่อชว่ ยปรงุ รสชาตขิ องอาหาร ไม่วา่ จะใช้ผดั แกง ทอด ยํา ตม้ ยํา หรือนํ้าพรกิ ต่าง ๆ อีกสารพัด  กระเทยี มเป็นเคร่ืองสมนุ ไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนดิ และยังเปน็ พชื ที่ธาตซุ ีลีเนียมสูง กว่าพืชชนิดอ่นื ๆ อีกท้ังยังมีสารอะดโี นซนี (Adenosine) ซ่ึงเปน็ กรดนิวคลอี ิกทเ่ี ปน็ ตัวสร้าง DNA และ RNA ของเซลลใ์ นร่างกาย  นอกจากนีย้ งั มีการนํากระเทยี มไปแปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย เช่น กระเทยี มเสริม อาหาร กระเทยี มสกัดผง สารสกดั น้าํ มนั กระเทยี ม กระเทียมดอง เปน็ ต้น

ตะไคร้ กับ 7 คณุ ประโยชนท์ ร่ี ้แู ล้วตอ้ งทง่ึ ตะไคร้ สมุนไพรใกลค้ รวั ทเ่ี รานามาใชป้ รุงอาหารกันมาอยา่ งชา้ นาน มาดคู ณุ ประโยชนข์ องมันทเ่ี ราอาจไม่ เคยรู้ ตะไคร้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์วา่ Cymbopogon citratus จดั เปน็ พืชลม้ ลุกชนิดหน่งึ มีลักษณะเปน็ กอ มัก นยิ มปลกู ไว้ตามบ้านและนํามาปรงุ อาหาร เป็นสมนุ ไพรท่มี ีประโยชนแ์ ละช่วยบรรเทาอาการของโรคบางชนดิ ได้ แต่หารหู้ รือไมว่ ่าจริง ๆ แล้ว ภายใต้ต้นแขง็ ๆ และใบท่ีคมของตะไครย้ งั ซ่อนคุณประโยชน์เอาไว้มากมายจนคาด ไม่ถงึ วนั น้เี ราไปดปู ระโยชนข์ องตะไคร้ที่รู้แล้วตอ้ งทง่ึ ท่นี ํามาจากเว็บไซต์ allwomenstalk กันดีกว่าค่ะ ใครท่ี ชอบกล่ินหอม ๆ ของมัน จะต้องย่งิ รกั เจ้าสมนุ ไพรชนิดนี้มากขนึ้ กวา่ เดิมแนน่ อน สรรพคุณของตะไคร้ ประโยชน์ดี ๆ ของสมนุ ไพรใกลต้ วั อดุ มไปด้วยวิตามนิ อยา่ คดิ วา่ ตะไคร้มีประโยชนแ์ ค่ใช้ปรุงอาหารเท่านั้น เพราะท่ีจริงแล้วตะไครน้ ้ันอุดมไปด้วยวิตามินและ แร่ธาตมุ ากมาย ท้ังวติ ามินเอ วิตามนิ ซี และวติ ามินบี นอกจากน้ียังมีโฟเลต แมกนเี ซียม สงั กะสี ทองแดง ธาตุ เหลก็ โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส แคลเซียม แมงกานสี โอ้โห้ ... วิตามนิ เยอะขนาดนี้คราวหน้าเจอตะไคร้ในอาหาร กอ็ ยา่ เขีย่ ทง้ิ นะ

ช่วยไลแ่ มลง นอกจากจะนาํ มาทาํ อาหารแลว้ ตะไคร้ยังมีประโยชนใ์ นการไลแ่ มลงอีกดว้ ย เพราะในตะไคร้มีนํ้ามัน หอมระเหยอยทู่ ั้งในใบและในลําต้น ซึ่งน้ํามันหอมระเหยเหล่าน้มี คี ณุ สมบัติในการไล่แมลงได้อย่างดี จงึ ไมน่ ่า แปลกใจท่เี ราจะได้เหน็ ผลติ ภณั ฑส์ บู่ ผลติ ภณั ฑไ์ ลแ่ มลงที่มีสว่ นผสมของตะไคร้วางขายอยใู่ นท้องตลาดมากมาย ใครทช่ี อบกลน่ิ ตะไครล้ ะก็ลองหามาใช้ไดน้ ะคะ ล้างสารพษิ สาํ หรับคนทรี่ ักสุขภาพและชอบล้างพิษในรา่ งกายบ่อย ๆ ไม่ควรพลาดเจ้าตะไครเ้ ลยคะ่ เพราะวา่ มันมี คุณสมบัตใิ นการลา้ งสารพษิ ในร่างกายดว้ ยการทําให้คุณปัสสาวะบอ่ ยขนึ้ เน่ืองจากสารเคมีท่ีอย่ใู นตะไครจ้ ะชว่ ย ทาํ ความสะอาดระบบย่อยอาหาร อยา่ งเชน่ ตบั ตับอ่อน ไต และกระเพาะปสั สาวะ ขับสารพิษและกรดยูริกออก จากรา่ งกาย ทาํ ให้ระบบยอ่ ยอาหารของคุณสะอาดขึน้ และทํางานได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพมากขึน้ ค่ะ ชว่ ยยอ่ ยอาหาร ตะไคร้ช่วยทําใหร้ ะบบย่อยอาหารทาํ งานได้ดขี ึน้ ค่ะ เพราะมีการศกึ ษาหน่ึงพบว่าการดม่ื ชาตะไครจ้ ะช่วย ในการย่อย ลดอาการปวดทอ้ ง แก้หวดั ลดอาการตะคริวในลาํ ไส้ และท้องเสยี ได้ นอกจากน้ยี ังช่วยป้องกนั และ ลดแกส๊ ในลําไส้ไดอ้ ีกด้วย ช่วยซ่อมแซมและบารุงระบบประสาท มีการศึกษาจาํ นวนไม่น้อยพบวา่ ตะไครส้ ามารถชว่ ยซอ่ มแซมและเสริมความแข็งแรงให้กับระบบ ประสาทได้ พิสจู นไ์ ด้ง่าย ๆ ด้วยการนาํ น้ํามันหอมระเหยตะไครม้ าหยดลงบนผิว คณุ จะรู้สกึ ไดว้ า่ มนั อุ่น ๆ ซ่งึ มัน จะทําให้กล้ามเน้ือของคุณผ่อนคลายมากและลดอาการตะครวิ ได้ แตก่ ็อย่าลมื ว่าทุกครัง้ ทีจ่ ะใช้น้ํามันหอมระเหย ตะไคร้คุณควรทีจ่ ะผสมมนั กบั นา้ํ มันตัวพา (Carrier oil) และห้ามใชน้ ้าํ มนั หอมระเหยโดยตรงกับผวิ เด็ดขาดคะ่ ชว่ ยรักษาอาการอักเสบ ตะไคร้สามารถช่วยทําใหค้ ณุ รสู้ ึกผ่อนคลายและบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ได้ นอกจากน้ยี ังช่วยลด อาการอกั เสบซ่ึงเป็นสาเหตุของอาการปวดต่าง ๆ เช่น ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ หรอื การปวดตามขอ้ ได้อีกดว้ ย ดังน้ันถ้าหากคุณรสู้ ึกปวดตามส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย ลองหานา้ํ มันท่ีผสมน้ํามนั หอมระเหยตะไครม้ านวดดูนะ คะรับรองวา่ หายแน่นอน ช่วยบารุงผิว ตะไคร้เป็นสมนุ ไพรที่อุดมไปด้วยสารตา้ นอนุมูลอสิ ระ ดงั นัน้ มันจงึ สามารถช่วยบาํ รงุ ผวิ ของคุณได้ ทาํ ให้ ผวิ ของคุณเปลง่ ประกายความมีสขุ ภาพดีออกมา แถมยงั ชว่ ยทําให้ผิวของคุณดูอ่อนเยาว์อยเู่ สมอ และชว่ ยลดสิว ต่าง ๆ ได้อกี ดว้ ย เหน็ ไหมคะวา่ ตะไคร้เปน็ สมุนไพรทีม่ ีประโยชน์ต่อสขุ ภาพร่างกายมากมาย และเปน็ สมุนไพรท่ีเราไม่ ควรละเลย เลยล่ะคะ่ เพราะฉะนั้นถา้ หากอยากมสี ุขภาพดีด้วยสมนุ ไพร ตะไคร้กเ็ ปน็ หนง่ึ ในตัวเลอื กทไ่ี ม่เลว เลย แถมยงั สามารถปลูกเปน็ พชื สวนครวั ในรัว้ บา้ นได้อีกด้วย

ประโยชน์ของข่าตาแดง สมุนไพรหลากสรรพคุณคู่ครัวไทย ข่าตาแดง ข่าตาแดง ชื่อวิทยาศาสตร์ Alpinia officinarum Hance (ช่อื พ้องวิทยาศาสตร์ Languas officinarum (Hance) Farw., Languas officinarum (Hance) P.H.Hô) จดั อย่ใู นวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) สมนุ ไพรข่าตาแดง มชี ื่อเรยี กอ่ืนวา่ ข่าเลก็ (ไทย) ลกั ษณะของข่าตาแดง ต้นขา่ ตาแดง จัดเปน็ พรรณไม้ลงหวั เมื่อแตกขน้ึ เป็นกอจะมลี กั ษณะเหมือนกับข่าใหญ่ แต่จะมีขนาดของ ตน้ เล็กและสน้ั กวา่ ขา่ ใหญเ่ ล็กนอ้ ย และมีขนาดโตกวา่ ข่าลิงเล็กนอ้ ย ขยายพนั ธ์ดุ ้วยวธิ กี ารแยกหน่อเอามาปลูก ใบขา่ ตาแดง ใบมีลักษณะเช่นเดียวกับขา่ ใหญ่ โดยมีลักษณะของใบเปน็ รูปไข่ยาว คลา้ ยใบพาย ออก สลับกันรอบๆ ลําต้น ดอกขา่ ตาแดง ออกดอกเป็นชอ่ ตรงปลายยอด ช่อดอกเปน็ สขี าว แตม้ ดว้ ยสีแดงเล็กนอ้ ย หนอ่ ขา่ ตาแดง เมือ่ แตกหนอ่ หน่อจะเป็นสแี ดงจัด ซึ่งเรยี กว่า \"ตาแดง\" มีกลิ่นและรสหอมฉุนกว่าข่าใหญ่ สรรพคณุ ของข่าตาแดง 1. หัวข่าตาแดงใชร้ บั ประทานเป็นยาขับลมให้กระจาย (หวั ) 2. หวั มสี รรพคุณเป็นยาระบาย (หัว) 3. ตน้ ใชเ้ ปน็ ยารกั ษาบดิ ชนิดท่ตี กเป็นเลือด (ต้น) 4. ใชเ้ ปน็ ยาขบั โลหิตทเ่ี น่าในมดลกู ของสตรี และช่วยขับลมในลําไส้ ดว้ ยการนาํ หวั ขา่ ตาแดงมาโขลกคัน้ กับนาํ้ ส้ม มะขามเปียกและเกลอื ประมาณ 1 ชาม แกงเขือ่ ง ๆ ใหห้ ญิงทเ่ี พ่ิงคลอดบุตรใหมๆ่ รบั ประทานใหห้ มด 5. หัวใชเ้ ปน็ ยารกั ษาบาดทะยักปากมดลูกของสตรี (หวั ) 6. ใบใช้เปน็ ยาทารักษากลาก (ใบ) 7. ดอกใช้เป็นยาทารักษาเกล้ือน (ดอก) 8. หวั ใช้เปน็ ยาชว่ ยบรรเทาอาการฟกชํ้าบวม (หัว) 9. หวั มีสรรพคณุ ชว่ ยรกั ษาอาการพิษ ช่วยรักษาอาการพิษโลหติ ทาํ (หวั ) ประโยชนข์ องข่าใหญ่ หน่อสามารถนาํ มาใช้ปรุงอาหารได้

ประโยชน์ของ \"กะป\"ิ 10 ขอ้ ดีตอ่ สขุ ภาพ กะปิเปน็ เครอ่ื งปรงุ รสอยา่ งหนงึ่ ของ อาหารไทยมาตัง้ เเตโ่ บราณเเล้ว อย่คู ู่กบั ครัวไทยอย่าง เเพรห่ ลาย รวมท้ังในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เเละทางตอนใตข้ องประเทศจีน คําว่า \"กะป\"ิ ใช้ กนั แพร่หลาย ทั้งในทวีปเอเชยี ไทย ลาว กมั พชู า ส่วนในประเทศอนิ เดีย เรยื กว่า เตอราซี (terasi) มาเลเซีย เรียกวา่ เบลาจนั (belachan) ฟิลิปปินส์ เรียกว่า บากุง อราแมง (bagoong aramang) จนี ฮกเกี้ยน เรียกว่า ฮอม ฮา (hom ha) คนไทยรูจ้ กั \"กะปิ\" เป็นอยา่ งดี บา้ งก็ชอบไมช่ อบบา้ งเพราะกลิน่ เเรง มีสสี ันไมน่ ่าดึงดูดเท่าทีค่ วร นพ.กฤษดา ศิรามาพุช ผอ.ศนู ยเ์ วชศาสตร์อายุรวฒั น์นานาชาติ บอกว่า กะปยิ ังมมี วลสาร ของดี ดงั ตอ่ ไปนี้ 1.น้าํ มันดี มโี อเมก้า 3 เป็นหลกั เพราะเคยเป็นแหลง่ โอเมก้า 3 ย่งิ กวา่ ปลาน้ําเค็ม ชนดิ ไหนๆ เเละ นํา้ มนั ก็เป็นส่วนดูดซึมงา่ ย 2.กรดอะมิโน มีมากทั้งใน \"กะปิ\" เเละน้ําปลา แตใ่ น \"กะปิ\" มีมากกวา่ ไข่ไก่ 1 ฟอง เเละขอ้ ดีสว่ น ใหญเ่ ปน็ โปรตีนเเบบยอ่ ยง่าย 3.แรธ่ าตุ ท่ขี าดไมไ่ ด้อยา่ งเเคลเซียม เปน็ ตัวหลกั เพราะ \"กะปิ\" ประกอบดว้ ยสัตวท์ ะเลขยาดจ๋วิ ทก่ี ิน ไดท้ ั้งตัว จงึ เท่ากับได้เเคลเซยี มเเละเเรธ่ าตทุ ะเลอย่าง ไอโอดีนเเบบเต็ม 4.แอนตีอ้ อกซเิ เดนท์ โดยเฉพาะ \"แอสตาเเซนทนิ \" ท่ีกนิ เเล้วใหพ้ ลงั ต้านอนุมลู อิสระได้ดยี ิง่ กวา่ วิตามนิ ทวั่ ไป หลายคนอาจจะยังไม่ทราบประโยขน์10ข้อดีของ\"กะป\"ิ มีดงั น้ี 1.บํารุงกระดกู แคลเซยี มจะถกู ปลดปลอ่ ยจาก \"กะปิ\" ถา้ ผา่ นความร้อน เชน่ ตอนปิ้งหรือทําขา้ ว คลกุ \"กะปิ\" ดว้ ยขา้ วสวยร้อน ๆ ถา้ เบื่อดม่ื นมมากก็ขอให้ลองหา \"กะป\"ิ มาทานบ้าง เพราะให้เเค ลเซยี มมากกวา่ นมววั หลายเท่านกั 2.แกโ้ รคโลหิตจาง \"กะปิ\" อุดมไปด้วยวติ ามนิ บี 12 ซ่งึ ต้องได้จากภายนอก เท่าน้ัน ร่างกายเราสร้าง เองไมไ่ ด้ แตม่ ใี น \"กะปิ\" วิตามนิ ในชนดิ นีด้ กี ับเลือดมาก หากขาดจะทาํ ใหป้ ่วยเลอื ดจางได้ เข่น เดยี วกับท่านที่กนิ มงั สวิรัติ 3.ช่วยให้ฟันเเขง็ เเรง คณุ หมอฟนั ไดท้ าํ การวิจัยพบว่า \"กะปิ\" ที่ผ่านความรอ้ นช่วยให้ฟันไมผ่ ุ เชน่ เดยี วกับนํ้าบดู ูของพี่น้องชาวใตซ้ ึ่งมีอัตราการเป็นโรคฟันผนุ อ้ ยกว่าภาคอื่น 4.เปยี่ มด้วยโอเมก้า 3 เป็นน้าํ มนั โอเมกา้ ชนิดเดยี วกับปลาน้าํ ลึก หากกนิ สลับกับปลาทะเลสดบอ่ ยๆ จะชว่ ยในการบํารงุ สมองได้เป็นอยา่ งดี 5.หลากจลุ ินทรีย์ ในกะปิมสี ารพดั จลุ ินทรยี ใ์ นชนดิ ดี ทช่ี ่วยเสรมิ สร้างภมู ิคมุ้ กนั ไม่ให้เชอ้ื ร้ายทาํ อันตรายกบั รา่ งกาย เเต่ข้อควรระวงั คอื ตอ้ งม่นั ใจว่า \"กะป\"ิ ทคี่ ุณเลอื กสะอาดจรงิ ไมม่ ีสารเจือปน

6.บาํ รงุ สายตา มแี อนตอ้ี อกซเิ ดนทสิ คอื สารเเอสตาเเซนทนิ กินเเล้วช่วยคลายเครียดใหก้ ับสายตาท่ี เหนื่อยลา้ จากการทาํ งานหนกั 7.วติ ามนิ D \"กะป\"ิ เป็นเเหล่งสะสมของวติ ามินดี ท่ีนอกจากชว่ ยกระดกู เเลว้ ยังทาํ ใหอ้ ารมณ์ผ่องใส ไม่เกิดอาการซมึ เศรา้ งา่ ยๆ 8.ชว่ ยระบบไหลเวยี นเลือด ด้วยคณุ ประโยชนข์ อง \"กะป\"ิ จะชว่ ยใหร้ ะบบไหลเวยี นโลหิตทาํ งานไดด้ ี ไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ ปัญหาลมิ่ เลือดอุดตนั ตามสว่ นสําคญั เช่น สมองเเละหัวใจ 9.สมองทํางานดี โอเมกา้ 3 ในกะปิช่วยให้กระบวนการทํางาน ของสมองฉับไว ซึ่งน้ํามนั ในกะปิ จะ ละลายได้ดี ผา่ นไขมนั ในรา่ งกายตามส่วนต่างๆ ทมี่ ไี ขมนั เคลอื บอยู่ 10.พชิ ิตโรคหัวใจ ช่วยปกปอ้ งหัวใจของคณุ จากโรคตา่ งๆ ได้เปน็ อย่างดี เเตม่ ีข้อยกเเม้ คอื ต้องเปน็ \"กะปิ\" ท่สี ะอาด รสชาติไมเ่ คม็ เพราะการปรงุ เเต่งมากเกินไป **ข้อควรระวงั นะฮะ !! ขอ้ ควรระวงั เก่ยี วกับ \"กะป\"ิ เป็นเรือ่ ง \"เค็ม เเละ แพ\"้ ในเรอ่ื งเคม็ น้ันให้ระวงั ในท่านท่ีเปน็ ความ ดันสูงเเละโรคไตหรือปร่มิ ๆ เริ่มจะมขี องเสียคัง่ ส่วนในเร่อื งแพ้น้ันจะเกิดเมอ่ื ใช้ \"กะปิ\" ที่เสอ่ื มสภาพมาหมกั จะมีฮสิ ตามนี ออกมามากเหมือน นา้ํ ปลาเสอื่ มสภาพ เเละส่วนอาการเเพ้ คือ \"แพ\"้ จากพษิ ของ \"กะปิ\" ท่ไี มส่ ะอาดเพราะ กระบวนการทํา \"กะป\"ิ ออกจะเสีย่ งต่อการปนเปอ้ื นมาก มีการสมั ผสั กบั อากาศเเละสิ่งแวดล้อม ภายนอกทง้ั พื้นและน้าํ มือคนมาก ซง่ึ เป็นเรอื่ งยากท่ีจะตรวจสอบเพราะการปนเปื้อนนไ้ี ม่อาจเห็นได้ เเตม่ ีเทคนคิ 2 ขอ้ คอื 1.ให้ใช้ \"กะป\"ิ สกุ ที่ป้ิงย่างเเล้วหรอื ปรุงด้วยความร้อน 2.เลอื ก \"กะปิ\" จากเจา้ ทคี่ นุ้ เคย นี่คือประโยชน์ของการดูเเลสขุ ภาพเเละหลีกเลยี่ งเรื่องรสชาติ \"เค็ม\" ได้เป็นอย่างดี

ประโยชนข์ องเกลืออโอดีน เกลือไอโอดีน ไอโอดนี ( Iodine ) คอื แรธ่ าตุที่มคี วามสาํ คัญอย่างมากต่อการทํางานของต่อมไทรอยด์ ซึง่ ชว่ ยควบคมุ ระบบ เผาผลาญอาหารในรา่ งกาย แตร่ า่ งกายของเราไม่ได้มีความต้องการมากนัก และเมื่อร่างกายได้รับไอโอดนี ก็จะ เปลีย่ นให้เปน็ ไอโอไดด์ โดยร่างกายของเราจะมีไอโอดนี อยู่ประมาณ 25 มลิ ลกิ รัม หรือคิดเป็นร้อยละ 0.0004 ของนา้ํ หนักตวั ซึง่ คร่ึงหน่งึ จะถกู เกบ็ ไวท้ ีต่ ่อมธัยรอยด์ อีกส่วนหนึง่ จะอยู่ตามกลา้ มเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่วา่ จะเป็นผิวหนงั ขุมขน ต่อม นาํ้ ลาย ระบบทางเดนิ อาหาร และกระดูก ส่วนในกระแสเลอื ดจะมไี อโอดีอยู่ ค่อนข้างที่จะน้อยมาก หนา้ ทข่ี องไอโอดนี คืออะไร? 1. ชว่ ยในการทํางานและการเจรญิ เติบโตของต่อมธัยรอยด์ และเปน็ สว่ นหนึง่ ของฮอรโ์ มนไทรอกชนิ ( Thyroxine ) ซงึ่ ต่อม ธยั รอยดผ์ ลติ ขึ้น โดยมหี น้าท่กี ็คือควบคมุ อัตราเมแทบอลซิ ึมภายในร่างกาย ต่อมธยั รอยด์ เปน็ สว่ นหน่ึงในรา่ งกายที่มีความสําคญั ต่อสภาพจติ ใจ ผม ผิวหนงั เลบ็ และฟัน การเปลี่ยนแคโรทีนให้เป็น วิตามินเอ การสงั เคราะห์โปรตนี โดยไรโบโซมรวมท้ังการดูดซมึ นํา้ ตาลจากลาํ ไส้เลก็ ซ่งึ หากฮอร์โมนไทรอกชนิ ถกู ผลิตออกมาตามปกติ การทาํ งานของสิ่งต่าง ๆ ดงั ท่กี ล่าวมาแล้วกจ็ ะเป็นไปอย่างมีประสทิ ธิภาพ 2. ช่วยใหส้ มองเกิดความตืน่ ตัวและมีประสทิ ธิภาพในการทํางานเพ่มิ มากขนึ้ โดยเฉพาะหลงั ต่นื นอน 3. ช่วยให้การผลติ พลังงานของร่างกายเปน็ ไปตามปกติ จึงทําให้ร่างกายมพี ลงั งานอย่างเพียงพอ 4. ชว่ ยในการเจรญิ เตบิ โตของร่างกายและชว่ ยกระต้นุ การเผาผลาญไขมันในร่างกาย ลดความเสีย่ งโรคอ้วนหรือ ไขมนั อุดตนั 5. ชว่ ยกระตุ้นการทาํ งานของหัวใจใหท้ ํางานได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 6. ช่วยให้แคลเซียมและฟอสฟอรัสเคล่ือนยา้ ยจากกระดกู ใหม้ ากข้ึน 7. ชว่ ยในการขับถา่ ยปสั สาวะและควบคุมการกระจายของนํ้าตามอวัยวะต่างๆ 8. ช่วยกระต้นุ ในการหลั่งน้าํ นมทําให้มนี ํ้านมหลงั่ ออกมามากขึ้น การดูดซมึ และการเกบ็ ไอโอดีนของร่างกาย เกลือไอโอดนี ระบบทางเดินอาหารของร่างกายจะสามารถดดู ซมึ ไอโอดนี ที่มีอยู่ในอาหารหรอื นา้ํ ได้อยา่ งรวดเร็ว เมอ่ื เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปล่ียนให้เป็นเกลืออนินทรีย์ของไอโอดีน (Iodine) หรือ ไอโอไดด์ และไอไอไดดก์ จ็ ะถูก ดดู ซึมเข้าสตู่ ่อมธยั รอยด์ผ่านทางกระแสเลอื ด ซ่ึงหากมีมากเกินไปก็จะถกู ขบั ออกมาทางปัสสาวะภายใน 1 – 2 วัน หลังจากเข้าสตู่ อ่ มธยั รอยด์ ไอไอไดดก์ ็จะเปลย่ี นไปเป็นไอโอดีนแล้วไปร่วมมือกับไทโรซีน สร้างเปน็ ไดไอโอโด ไทโรซนี ( Diiodotyrosine ) และไตรไอโอโดไทโรนนี ( Triiodothyronine ) และไทรอกซิน ( Thyroxine ) ซึ่งเปน็ กรดอะมโิ นทมี่ ีไอโอดีนอยู่ จากนัน้ ไทรอกซนิ จะรว่ มกับโกลบูลินกลายเป็นไทโรโกลบลู ิน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook