Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สรุปอาชีพ มัดย้อม

สรุปอาชีพ มัดย้อม

Published by thungsamornfe, 2021-03-30 16:31:13

Description: สรุปอาชีพ มัดย้อม

Search

Read the Text Version

สรปุ ผลการดำเนนิ งานโครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชุมชนรปู แบบกลุ่มสนใจ วิชาการตัดเยบ็ กระเปา๋ และมัดย้อม ปีงบประมาณ 2564 วันที่ 2 เดือน กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2564 ถงึ วันที่ 10 เดือน กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2564 กศน.ตำบลทงุ่ สมอ ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอพนมทวน สำนกั งานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยจังหวดั กาญจนบุรี

คำนำ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของสำนักงาน กศน. เป็นการยกระดับการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ที่ม่ันคง เป็นบุคคลท่ีมีคุณธรรมจริยธรรมมี จติ สำนึกความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเองผูอ้ นื่ และสังคมจึงควรมีการประเมินผลการจัดการศกึ ษาอาชีพเพือ่ การมีงานทำ การสรปุ ผลการดำเนนิ งานโครงการศนู ย์ฝึกอาชีพชุมชน วชิ าการตัดเย็บกระเป๋าและมัดย้อม วันท่ี 2 เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 10 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 ณ กศน.ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัด กาญจนบุรี รายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน หลักสูตรวิชาการตัดเย็บกระเป๋าและ มัดย้อมน้ี สามารถนำมาเป็นบทเรียนและพัฒนาในการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำของสำนักงาน กศน. ต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพ กศน.ตำบลทุ่งสมอ จึงหวังเป็นอย่างย่ิงว่าเอกสารเล่มนี้จะบ่งบอกถึงการ บรรลุวตั ถุประสงค์ของการจัดการศกึ ษาอาชีพเพอ่ื การมงี านทำศูนย์ฝกึ อาชีพชุมชนและจะเป็นประโยชนต์ ่อการจัด กิจกรรมของสำนักงาน กศน. ท้ังในการบริหารงานการพัฒนางานการทำงานท่ีตรงตามความต้องการของผู้เรียน ผู้รบั บริการและชุมชนและสามารถเผยแพร่ตอ่ สาธารณชนได้ ขอขอบคณุ ผูม้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งและให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามทุกท่านไว้ ณ โอกาสน้ีด้วย กศน.ตำบลทุ่งสมอ

สารบญั หน้า บทนำ หลักสตู ร วิชาการตัดเยบ็ กระเป๋าและมัดย้อม หลักสตู ร 23 ชั่วโมง สรุปผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน บญั ชีรายช่อื ผเู้ รียนวชิ าชีพ หลักสตู รกล่มุ สนใจ ภาคผนวก โครงการ การตัดเย็บกระเปา๋ และมดั ย้อม หลักสูตร 31 ชั่วโมง ภาพกิจกรรม โครงการ การตัดเย็บกระเป๋าและมดั ยอ้ ม แบบสอบถามความพงึ พอใจ วชิ าการตดั เยบ็ กระเปา๋ และมัดย้อม หลกั สตู ร 31 ชัว่ โมง

บทนำ หลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 (แก้ไขเพิ่มเติมพุทธศักราช 2545) และ พระราชบญั ญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดจุดมุ่งหมาย สำคัญในการพัฒนาคนไทยให้ได้รับการเรียนรอู้ ย่างต่อเน่ือง ประกอบกับการเปล่ียนแปลงของสถานการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ท้ังด้านประชากร การเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม รวมทั้ง การเช่ือมโยงสังคมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย ระดับภูมิภาค และระดับโลก จึงจำเป็นท่ีจะต้องจัดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายประชาชนได้รับการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับ การเปล่ียนแปลงของโลก ท้ังด้านการ พัฒนาอาชีพ การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาสังคมและชุมชน ซ่ึงจำเป็นต้องใช้วิธีการและรูปแบบที่ หลากหลาย ตามความ ต้องการและความสนใจของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเน้นกระบวนการคิดเพอื่ แกป้ ัญหาใน ชวี ติ ประจำวนั ตามหลัก ปรัชญาคดิ เป็นและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษา ต่อเนื่อง พุทธศักราช 2554 ประกาศ ณ วนั ที่ 5 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2554 โดยสำนกั งาน กศน.ได้กำหนดนโยบายดา้ น การจดั การศึกษาตอ่ เน่อื ง ดงั น้ี หลักการ 1. มุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายสามารถนำความรู้ท่ีได้รับจากการศึกษาไปใช้ในการประกอบอาชีพ พฒั นาอาชีพ พัฒนา ทกั ษะชวี ิต และพัฒนาสงั คมและชุมชน เพอ่ื ใหส้ ามารถอย่ใู นสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข 2. พัฒนาหลักสูตรท่ียึดหลักความสอดคล้องกับความต้องการและความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมาย เป็นไปตามสภาพ บริบทชุมชนและสงั คม รวมถึงนโยบายของทางราชการ 3. จัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยยึดหลักความสอดคล้องกับศักยภาพและ ความพร้อมของ ผู้เรียน ความหลากหลายตามความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย รวมท้ังบูรณาการปรัชญาคิดเป็น และหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งไดต้ ามความเหมาะสม 4. ยึดหลักการมสี ่วนร่วมของภาคีเครอื ข่ายและภมู ปิ ญั ญาในการดำเนนิ งาน วตั ถปุ ระสงค์ 1. ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้เกี่ยวกับการศึกษาเพื่อการพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะชีวิต และพัฒนาสังคม และชมุ ชน 2. ให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นช่องทางการประกอบอาชีพหรือการต่อยอดอาชีพเดิมให้พัฒนา สามารถพ่ึงพาตนเองได้ 3. ให้กลุ่มเป้าหมายดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข สอดคล้องตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง กล่มุ เปา้ หมาย ประชาชนท่ัวไป กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนทว่ั ไป จำนวน 10 คน

เปา้ หมาย การจัดการศกึ ษาต่อเน่ือง มเี ป้าหมายเพ่ือให้ประชาชนได้พัฒนาความรู้ความสามารถ และทักษะ ในการประกอบอาชีพ มีการใช้ความรู้จากภูมิปัญญาและเทคโนโลยีท่ีเหมาะสม มีทักษะชีวิตที่จำเป็นสำหรับการ ดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน รวมทั้งมุ่งใช้กระบวนการศึกษาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสงั คมและชุมชนให้พ่ึงตนเอง ได้ตามหลักปรัชญาคิดเป็น และหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง รูปแบบการจดั การจัดการศึกษาต่อเน่ือง ประกอบไปด้วยกิจกรรม การจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศึกษา เพอื่ พัฒนา ทักษะชวี ติ และการศกึ ษาเพือ่ พัฒนาสังคมและชุมชน โดยมีวธิ กี ารจัด 2 รปู แบบ คือ 1. รูปแบบกลุ่มสนใจ เป็นการจัดการศึกษาหลักสูตรไม่เกิน 30 ชั่วโมง โดยมีผู้เรียนจำนวน กลมุ่ ละ 6 คนขึน้ ไป 2. รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ เป็นการจัดการศึกษาหลักสูตร 31 ชั่วโมงขึ้นไป โดยมีผู้เรียนจำนวน กล่มุ ละ 11 คนข้นึ ไป แบ่งเปน็ 2 ลกั ษณะ คอื 2.1 ชั้นเรียนระยะสัน้ เปน็ การจัดหลักสูตรต้ังแต่ 31 - 100 ชั่วโมง 2.2 ชัน้ เรียนระยะยาว เปน็ การจดั หลักสูตร 100 ชัว่ โมงข้นึ ไป งบประมาณ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน จากเงินงบประมาณปี 2564 แผนงาน: ยุทธศาสตร์เพ่ือสนับสนุนด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน งบรายจ่ายอ่ืน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพ ชุมชน (รูปแบบกลมุ่ สนใจ) จำนวน 5,600 บาท (ห้าพนั หกรอ้ ยบาทถว้ น) ลักษณะการจดั กระบวนการเรียนรู้ การจัดการศึกษาต่อเน่ือง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน เปน็ ผูจ้ ัด โดยใหค้ รู กศน.ตำบล เป็นผูร้ ับผิดชอบ โดยจัดเปน็ กิจกรรม คือ รูปแบบกลมุ่ สนใจ เปน็ การจัดการศึกษาหลักสูตรท่สี ถานศึกษาจัดข้ึน เพ่ือมุ่งพฒั นาคณุ ภาพชีวิต และส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน โดยหลักสูตรมีความยืดหยุ่นด้านเน้ือหา สาระ ระยะเวลาเรียน และสถานท่ี ตามความตอ้ งการและความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมาย หรือชุมชน หรือนโยบายของทางราชการและพัฒนาต่อยอด อนั จะนำไปสู่การพัฒนา คุณภาพชีวิต แก้ปัญหาของผู้เรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม การพ่ึงพาตนเองอย่างย่ังยืน และ ชุมชนเขม้ แขง็ ตอ่ ไปและมีขนั้ ตอนการดำเนนิ งานดงั นี้

ขั้นตอนการวางแผน (Plan) 1. สถานศกึ ษาเตรียมความพร้อมโดยกำหนดบุคลากรทีร่ ับผิดชอบงานการศึกษาต่อเนื่อง กำหนด เป้าหมาย หรอื วตั ถปุ ระสงค์การดำเนินงาน กำหนดระยะเวลาและงบประมาณที่ใช้ในการดำเนินงาน 2. เตรียมผู้เรยี นก่อนเข้าสู่การเรียนรู้ กิจกรรมการศึกษาต่อเนือ่ ง โดยสถานศึกษาจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ เรื่อง “คิดเป็น” หรือ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ตนเองว่า กิจกรรม ใดในการศึกษา ต่อเน่ืองท่ีตอบสนองความตอ้ งการจำเปน็ รายบุคคล 3. ประสานงานผูเ้ ก่ยี วข้อง สถานท่ี การขออนุมตั จิ ัดตั้งกลุ่ม การเตรียมส่ือ วัสดุอุปกรณ์ การสอน ฯลฯ ขน้ั ตอนการปฏิบตั ติ ามแผน (Do) 1. ดำเนินการจัดกิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง ตามท่ีกำหนดไว้ใน 2 รูปแบบ คือ กลุ่มสนใจ และ ชั้นเรียนวิชาชพี 2. บันทึกผลการจัดกิจกรรมภายหลังการจัดเสร็จส้ิน เพ่ือรายงานสภาพปัญหา ผลการจัด พร้อม ขอ้ เสนอแนะ แก่ผบู้ ริหารทราบ ขนั้ ตอนการตรวจสอบการปฏิบัตติ ามแผน (Check) 1. ประเมินผลการจดั การศกึ ษาต่อเน่ือง เป็นรายกิจกรรม และในภาพรวมของโครงการ 2. รายงานการประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาตอ่ เน่ืองเปน็ รายไตรมาส และรายปี ขน้ั ตอนการปรบั ปรงุ แก้ไข (Act) นำผลการประเมินมาปรบั ปรุงแก้ไขและพัฒนาการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาตอ่ เน่ือง แนวทางการจัดกิจกรรมการศึกษาต่อเน่อื ง การจัดการศกึ ษาตอ่ เนื่อง ประกอบไปด้วยกิจกรรม การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชพี การศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน ซึ่งสถานศึกษาสามารถเลือกจัดในรูปแบบกลุ่ม สนใจ และช้ันเรยี นวชิ าชพี ไดต้ ามความเหมาะสมโดยใชห้ ลักสตู รจากแหลง่ ตา่ งๆ ดังนี้ 1. หลักสูตรที่สถานศกึ ษาจัดทำข้นึ เอง 2. หลกั สตู รกลางท่ีสำนกั งาน กศน. จัดทำขน้ึ ส่อื การเรยี นรู้ 1. อุปกรณ์ประกอบการฝึกทกั ษะอาชพี 2. ส่อื บคุ คล,วทิ ยากรผชู้ ำนาญ

ขอบเขตของการประเมิน ดา้ นหลกั สูตรเนือ้ หา เป็นการประเมินผลเก่ียวกับความเหมาะสมของแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ วัตถุประสงค์ของ โครงการ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร กิจกรรมท่ีจัดมีความเหมาะสมสอดคล้องกับหลักสูตรและเนื้อหา มีส่ือ ประกอบการเรียนรู้ วิทยากรผู้สอนมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน มีการวัดและ ประเมินผลที่หลากหลาย โดยเน้นทก่ี ารปฏิบัตจิ ริง รวมทง้ั ความพงึ พอใจของผู้เรียน เพ่ือบรรลุเปา้ หมายสำคัญของ การจดั การศึกษา คอื 1. ความรู้ความเข้าใจ 2. ปฏิบตั ไิ ด้ นำไปใช้ได้ 3. ความพงึ พอใจ 4. ด้านระยะเวลา ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะไดร้ ับ ผลจากการประเมินครั้งน้ี จะเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของ กศน.ตำบลทุ่งสมอ ให้สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับมาตรฐาน การศึกษานอก ระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ต่อไป ขอ้ คิดเหน็ /ข้อเสนอแนะในการจดั กจิ กรรมคร้งั ตอ่ ไป 1. ควรมีจติ อาสาประจำตำบลเพื่อจะไดป้ ระสานงานและประชาสมั พันธ์ งาน กศน. ไดอ้ ยา่ งท่ัวถึง 2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน พร้องทั้งการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ในการฝึกอบรมที่ เหมาะสมกบั ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรม อย่างทัว่ ถึง 3. เตรียมความพร้อมด้านวัสดุอุปกรณ์เพื่อที่จะได้สะดวกในการจัดการเรียนการสอนในการจัด กจิ กรรมในคร้งั ตอ่ ไป โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลักสตู ร 23 ชวั่ โมง โครงการ/กจิ กรรม วนั /เดอื น/ปที ่ี สถานทจี่ ัดกจิ กรรม แผน(คน) ผล(คน) งบประมาณทใ่ี ช้ จดั กจิ กรรม 1.วชิ าการตดั เยบ็ กระเป๋า 2-10 ก.พ. 64 กศน.ตำบลทุ่งสมอ 8 10 5,600 และมัดย้อม อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี

หลักสตู รวิชาการตดั เยบ็ กระเปา๋ และมัดย้อม จำนวน 23 ชั่วโมง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน ความเป็ นมา กระเปา๋ มีความสำคัญอย่างย่ิงในชวี ิตประจำวนั โดยประโยชน์หลักของกระเป๋า คอื ใช้ใส่ส่ิงของต่าง ๆ เช่น หนังสือ เงิน โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ และยังสะดวกในการท่ีต้องขนส่ิงของในปริมาณมาก นอกจากน้ียังมีคนท่ีใช้ กระเป๋าเพ่ือความสวยงาม และลวดลายบนกระเป๋ายงั สามารถบ่งบอกถึงตัวตนของบุคคลแตล่ ะบุคคล และกระเป๋า ยังมีลูกเลน่ หลายอย่างท่ีทำให้กระเปา๋ มคี ุณประโยชนย์ ่ิงข้ึน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน จึงเห็นความสำคัญในการพัฒนา หลักสูตรการตัดเย็บกระเป๋าผ้าและมัดย้อม เป็นการพัฒนาหลักสูตรโดยเน้นการบูรณาการและการสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์ชุมชน เพื่อเพ่ิมมูลค่าและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งท่ีจะส่งเสริมสนับสนุนกลุ่ม อาชีพตา่ ง ๆ ในชุมชนได้ ดังนั้น หลักสูตรการตัดเย็บกระเป๋าและมัดย้อม จึงเป็นหลักสูตรท่ีสามารถตอบสนองความต้องการของ ชุมชน หรือผู้ที่ต้องการประกอบอาชีพด้านการออกแบบ ได้ความรู้ไปใช้ประโยชน์เพ่ือสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้าง รายไดแ้ ละการมงี านทำต่อไปได้ หลักการของหลักสูตร 1. ม่งุ เน้นการเรยี นรูท้ ฤษฎีควบคู่กับการปฏิบัติ 2. มงุ่ เน้นให้ผู้เรียนนำความรู้ ประสบการณ์และทักษะไปใช้ในการประกอบอาชพี 3. มงุ่ ให้ผู้เรียนมคี วามรู้ ความเข้าใจและทักษะในการประกอบอาชพี การตัดเยบ็ กระเปา๋ และมดั ย้อม จดุ มงุ่ หมาย 1. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพได้สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน สังคม และ สิ่งแวดล้อม 2. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ และทักษะการประกอบอาชีพการตัดเย็บกระเป๋าผ้ามดั ย้อม 3. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะการบริหารจัดการในอาชพี การตัดเยบ็ กระเปา๋ ผ้ามดั ย้อม ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ 4. เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ในการประกอบอาชีพ และจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อตนเอง ผอู้ นื่ และสังคม 5. เพ่อื ให้ผู้เรยี นสามารถคำนวณราคาขาย และสามารถทำบญั ชีรายรับ - รายจา่ ยได้

เปา้ หมาย 1. ผทู้ ่ีไมม่ ีอาชีพ 2. ผ้ทู ่ีมอี าชีพและต้องการพฒั นาอาชีพ 3. ผทู้ มี่ ีอาชพี และต้องการเปล่ียนอาชพี ระยะเวลา รวม 23 ช่ัวโมง ภาคทฤษฎี 5 ช่ัวโมง ภาคปฏิบตั ิ 18 ชวั่ โมง โครงสรา้ งหลกั สตู รวิชาการตดั เยบ็ กระเป๋าและมัดย้อม ที่ เรื่อง จดุ ประสงค์การ เน้ือหา การจดั กระบวนการ จำนวนชั่วโมง เรยี นรู้ เรยี นรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1 วิชาการตัดเย็บ 1.เพื่อให้ผูเ้ รยี นมี 1. ความสำคัญและ 1.ครอู ธิบายความหมาย 1 - กระเปา๋ ผา้ และ แนวทางในการ ความจำเปน็ ในการ ความสำคัญและความ 1 - - 8 มัดยอ้ ม ประกอบอาชีพ ประกอบอาชีพการ จำเปน็ ในการประกอบ เสริม เพิม่ รายได้ ตัดเย็บกระเป๋าผา้ มัด อาชพี การตัดเยบ็ กระเปา๋ ให้กับครอบครัว ย้อม ผา้ มัดยอ้ ม 2.เพื่อให้ผู้เรียนมี 2.ผ้เู รียนศึกษาจากเอกสาร ความคิดริเริ่ม ประกอบการเรยี นรู้ เร่ือง สร้างสรรคใ์ นการ ความรูเ้ บือ้ งต้น การตดั ทำกระเป๋าผา้ มัด เยบ็ กระเปา๋ ผ้ามัดย้อม ยอ้ ม 3.เพ่อื ใหผ้ ู้เรียน 1. สืบคน้ ข้อมลู ทาง 1.ครใู หผ้ ูเ้ รยี นสืบคน้ ข้อมูล สืบค้นขอ้ มูลเป็น website ทาง website แนวทางในการ 2.สบื ค้นข้อมูลในการ 2.ผ้เู รยี นสบื ค้นข้อมลู ใน ประกอบอาชีพ ตัดเย็บกระเปา๋ ผา้ การมัดย้อมผ้า เสริมเพ่ิมรายได้กบั และมัดย้อม 3.ครใู หผ้ เู้ รียนออกแบบ ครอบครัว 3.คิดการทำผา้ มัด ลายผา้ มัดย้อมทแี่ ปลกใหม่ 4.เพื่อใหผ้ ู้เรียน ย้อมและรูปแบบ และทนั สมัย ศกึ ษาหาความรู้ ลวดลายท่ีแปลกใหม่ ผ่าน website และทันสมัย 5.เพอื่ ให้ผูเ้ รียนมี

ความคิดริเรม่ิ สร้างสรรคใ์ นการ ตดั เย็บกระเปา๋ ผ้า มดั ย้อม 6.เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี น 1.วัสดอุ ุปกรณ์ในการ 1. ครอู ธิบายวสั ดอุ ุปกรณ์ 1 - - 10 ทราบวา่ อปุ กรณ์ ทำผ้ามัดย้อม ในการทำผ้ามัดย้อม 2 - ในการตดั เยบ็ 2.สว่ นผสมของสมี ดั 2.ครอู ธิบายสว่ นผสมของสี 5 18 กระเป๋าและผา้ มดั ยอ้ ม มัดยอ้ ม ยอ้ มมีอะไรบา้ ง 3.วธิ กี ารผสมในการ 3.ครอู ธบิ ายวธิ ีการผสมใน 7.เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนทำ ทำผ้ามดั ยอ้ ม การทำผา้ มดั ย้อม ผา้ มัดยอ้ มด้วย 4.วธิ ีการมดั เพื่อทำ 4.ครอู ธบิ ายและสาธิต ตวั เองได้ ลวดลาย วธิ ีการมดั เพ่อื ทำลวดลาย 8. เพือ่ ให้ผู้เรียนตัด -ขนั้ ตอนและวิธีการ ข้นั ตอนและวิธีการมัดผ้า เยบ็ กระเปา๋ ได้ มัดผ้าย้อม – การทำ ยอ้ ม การทำผา้ มดั ย้อม ผา้ มดั ยอ้ มตาม ตามความคดิ สร้างสรรค์ ความคิด สรา้ งสรรค์ และวธิ ผี สมสใี นการทำผา้ -วธิ ผี สมสีในการทำ มัดยอ้ ม ผ้ามดั ยอ้ ม 5.ครใู ห้ผู้เรียนออกแบบ -วธิ กี ารออกแบบและ และตัดเย็บกระเป๋าผา้ ตัดเย็บกระเป๋าผา้ 6.ครใู หผ้ ู้เรยี นลงมอื ปฏิบัติ และ สรปุ ร่วมกัน 9. เพื่อให้ผเู้ รยี น 1.การคิดราคาต้นทนุ 1.ครอู ธบิ ายการคิดราคา สามารถคิดราคา การผลติ ต้นทุน การผลิต ตน้ ทนุ การผลติ การ 2.การทำบญั ชอี ย่าง 2.ครูให้ผู้เรียนจดั ทำบญั ชี ทำกระเปา๋ ผา้ มดั งา่ ย อยา่ งงา่ ยได้ ยอ้ ม 10. เพ่อื ใหผ้ ้เู รยี น สามารถทำบญั ชี อยา่ งง่ายได้ รวมช่วั โมง

ส่อื การเรียนรู้ ในการจดั การเรยี นรู้ ใชส้ ื่อการเรยี นรู้หลากหลาย ไดแ้ ก่ 1. เอกสาร 2.ตัวอย่างวสั ดุ อุปกรณ์ 3. website การวดั ผลประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้/การตอบคำถาม/การมสี ่วนร่วม 2. การฝกึ ปฏิบัติ 3. การประเมินผลงาน/ชิ้นงาน เกณฑก์ ารจบหลักสูตร 1. มกี ารเรียนและฝึกปฏิบตั ิตามหลกั สตู รไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80 2. มีผลการประเมินผ่านตลอดหลักสตู รไมน่ ้อยกว่ารอ้ ยละ 60 3. ผลงานผ่านการประเมินทดสอบท่ีมคี ุณภาพตามหลกั เกณฑ์ เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. ใบสมัคร 2. หลักฐานการวดั ผลประเมนิ ผล 3. วฒุ บิ ัตร ออกโดยสถานศึกษา

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ หลักสตู ร วิชาการตัดเยบ็ กระเป๋าและมดั ย้อม ระหว่างวนั ที่ 2 เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 ถงึ วันท่ี 10 เดือน กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ.2564 สถานที่จดั ณ กศน.ตำบลทงุ่ สมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ข้อมูลพืน้ ฐานของผู้ประเมินความพงึ พอใจ เพศ □ ชาย □ หญิง อาย.ุ .........ปี วุฒิการศกึ ษา............................ อาชพี ............................. คำชี้แจง 1. แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ มี 4 ตอน 2. โปรดแสดงเครื่องหมาย / ในชอ่ งวา่ งระดบั ความพึงพอใจตามความคิดเห็นของทา่ น ระดบั ความพงึ พอใจ หมาย เหตุ ขอ้ รายการประเมนิ ความพึงพอใจ มากท่ีสดุ มาก ปาน นอ้ ย น้อย กลาง ท่ีสดุ ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา 1. เนื้อหาตรงตามความต้องการ 2. เน้อื หาเพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ 3. เน้ือหาปัจจุบนั ทนั สมัย 4. เนอ้ื หามีประโยชน์ตอ่ การนำไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพ ชวี ิต ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม 5. การเตรยี มความพร้อมก่อนอบรม 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวตั ถุประสงค์ 7. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 8. การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมาย 9. วธิ ีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ตอนท่ี 3 ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร 10 วทิ ยากรมีความร้คู วามสามารถในเรื่องทีถ่ า่ ยทอด 11 วทิ ยากรมเี ทคนคิ การถา่ ยทอดใชส้ ่อื และซักถาม 12 วิทยากรเปดิ โอกาสใหม้ ีสว่ นรว่ มและซักถาม ตอนที่ 4 ความพงึ พอใจดา้ นการอำนวยความสะดวก 13 สถานที่ วสั ดุ อุปกรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวก 14 การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรยี นรู้ 15 การบรกิ าร การช่วยเหลือและการแก้ปัญหา ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะอื่น ๆ ......................................................................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................................................................

สรปุ ผลการดำเนินงาน โครงการศนู ยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน หลกั สูตรกลุ่มสนใจ วชิ าการตัดเยบ็ กระเปา๋ และมดั ย้อม 23 ช่ัวโมง ปงี บประมาณ 2564 ศนู ย์การศึกนอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัยอำเภอพนมทวน ****************************************** 1. ความมุง่ หมายของการทำแบบประเมินความพึงพอใจผเู้ รยี น/ผ้รู บั บรกิ ารการจัดกิจกรรม เพ่ือรวบรวมความคิดเห็นของผู้เรียน ผู้รับบริการการจัดกิจกรรมในประเด็นต่าง ๆ เพ่ือทราบข้อมูล การบริหารการจัดกิจกรรมของสถานศึกษา และนำข้อมูลท่ีได้รับมาสรุปเพื่อปรับปรุง พัฒนาการเกี่ยวกับการจัด กจิ กรรม ตอ่ ไป 2. วธิ ีการประเมนิ ความพึงพอใจผู้เรียน/ผูร้ ับบริการการจดั กิจกรรม 2.1 แบบสำรวจความคดิ เห็น เกย่ี วกับการจดั กิจกรรมจาก ผเู้ รียน ผรู้ บั บริการ และประชาชน 2.2 เคร่ืองมือท่ใี ช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มูล เปน็ แบบประเมินความพงึ พอใจผู้เรยี น / ผู้รับบริการการ จดั กจิ กรรมสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกบั การให้บริการโดยแบ่งออกเป็น 2 สว่ น ไดแ้ ก่ สว่ นที่ 1 ข้อมูลทวั่ ไป 1. เพศ - เพศชาย - เพศหญงิ 2. อายุ - อายุ 15 – 29 ปี - อายุ 30 – 39 ปี - อายุ 40 – 49 ปี - อายุ 50 – 59 ปี - อายุ 60 ปขี ้ึนไป 3. การศกึ ษา ระดับประถมศึกษา ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ระดบั ปริญญาตรี 4. อาชีพ - รบั จ้าง - ค้าขาย - เกษตรกรรม - รับราชการ - อืน่ ๆ

ส่วนท่ี 2 สรุปความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มโครงการ เกณฑก์ ารตดั สนิ ความพึงพอใจ 5 ระดบั มากท่สี ุด 4 ระดบั มาก 3 ระดบั ปานกลาง 2 ระดับ น้อย 1 ระดบั นอ้ ยทส่ี ุด แบง่ ประเดน็ การประเมนิ แบง่ ออกเปน็ 4 ตอน 15 ประเด็น ไดแ้ ก่ 1. ความพงึ พอใจด้านเนอื้ หา 2. ความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 3. ความพงึ พอใจต่อวทิ ยากร 4. ความพงึ พอใจด้านการอำนวยความสะดวก วิธกี ารเก็บรวบรวมข้อมูล มอบแบบประเมินความพึงพอใจผู้เรียน / ผู้รับบริการการจัดกิจกรรมแก่ ผู้เรียน ผู้รับบริการและ ประชาชน จำนวน 9 คน ตอบแบบแบบประเมินความพงึ พอใจผู้เรียน / ผรู้ ับบริการการจัดกิจกรรม แล้วนำมาเก็บ รวบรวม สรปุ ผลขอ้ มูล การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการวเิ คราะห์ข้อมูลการวิจัย ผ้วู จิ ัยใชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมลู ใชส้ ถิติร้อยละทำการวิเคราะห์ สถิตทิ ่ใี ช้ในการวิเคราะห์ข้อมลู หาค่ารอ้ ยละและความถ่ี คา่ รอ้ ยละ = จำนวนระดบั ความคิดเหน็ x 100 10

สรปุ ผล จากการวเิ คราะห์ข้อมลู แบบประเมินความพึงพอใจผู้เรียน / ผู้รับบริการการจัดกิจกรรม สรุปผลการ ประเมนิ ได้ดงั นี้ ตอนท่ี 1 ข้อมลู สว่ นตัวของผ้ตู อบแบบสอบถาม 1 เพศ เพศ จำนวน ร้อยละ รวม ชาย 0 คน 0.00 0.00 หญิง 10 คน 100.00 100.00 รวม 10 คน 100.00 100.00 2 อายุ จำนวน รอ้ ยละ รวม - -- อายุ - -- 15-29 ปี 30-39 ปี 3 คน 30.00 30.00 40-49 ปี 6 คน 60.00 60.00 50-59 ปี 1 คน 10.00 10.00 60 ปขี นึ้ ไป 10 คน 100.00 100.00 รวม 3 การศึกษา จำนวน ร้อยละ รวม 4 คน 40.00 40.00 ระดบั 2 คน 20.00 20.00 ประถมศกึ ษา 4 คน 40.00 40.00 มธั ยมศึกษาตอนตน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย - - - ปริญญาตรี 10 คน 100.00 100.00 รวม 4 อาชพี จำนวน รอ้ ยละ รวม อาชพี 8 คน 80.00 80.00 เกษตรกร 1 คน 10.00 10.00 รบั จา้ ง 1 คน 10.00 10.00 ค้าขาย 10 คน 100.00 100.00 รวม

ตอนท่ี 2 สรุปความพึงพอใจของผู้เขา้ รว่ มโครงการ เกณฑ์การตัดสินความพงึ พอใจ 5 ระดบั มากทีส่ ุด 4 ระดบั มาก 3 ระดบั ปานกลาง 2 ระดับ น้อย 1 ระดบั น้อยที่สดุ ประเด็นวัดความพงึ พอใจ 54321 มากที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยทีส่ ุด ตอนที่ 1 ความพึงพอใจด้านเนอื้ หา 1.เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ 8 คน 2 คน 80 % 20 % 2. เนือ้ หาเพียงพอต่อความต้องการ 8 คน 2 คน 80 % 20 % 3. เน้ือหาปัจจบุ นั 8 คน 2 คน 80 % 20 % 4. เนอื้ หามีประโยชน์ต่อการนำไปใชใ้ นการ 8 คน 2 คน พัฒนาคุณภาพชวี ิต 80 % 20 % ตอนที่ 2 ความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม 5. การเตรียมความพรอ้ มก่อนอบรม 7 คน 3 คน 70 % 30 % 6. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกบั เวลา 7 คน 3 คน 70 % 30 % 7. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 7 คน 3 คน 70 % 30 % 8. การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 7 คน 3 คน 70 % 30 % 9. วิธกี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับ 7 คน 3 คน วตั ถปุ ระสงค์ 70 % 30 % ตอนท่ี 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร 10. วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเร่ืองที่ 10 คน ถ่ายทอด 100 %

11. วิทยากรมเี ทคนิคการถ่ายทอดใช้สือ่ และ 10 คน ซักถาม 100 % 12. วทิ ยากรเปิดโอกาสให้มสี ่วนรว่ มและ 10 คน ซกั ถาม 100 % ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก 13. สถานท่ี วัสดุ อุปกรณ์และสิง่ อำนวยความ 8 คน 2 คน 20 % สะดวก 80 % 2 คน 20 % 14. การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพือ่ ให้เกิด 8 คน 2 คน 20 % การเรยี นรู้ 80 % 15. การบรกิ าร การช่วยเหลือและการ 8 คน แก้ปัญหา 80 % จากตาราง พบว่าการประเมินความพึงพอใจผู้เรียน/ผู้รับบริการการจัดกิจกรรม โดยตั้งประเด็นไว้ 4 ตอน 15 ประเดน็ ผลปรากฏ ดังนี้ ตอนท่ี 1 ความพึงพอใจดา้ นเน้ือหา ประเด็นที่ 1 เน้อื หาตรงตามความตอ้ งการ ส่วนใหญอ่ ยู่ในระดบั มากที่สุด จำนวน 8 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 80 และระดับมาก จำนวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 20 ประเดน็ ท่ี 2 เนื้อหาเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนใหญ่อยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ จำนวน 8 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 80 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 20 ประเด็นท่ี 3 เน้ือหาปัจจบุ นั ส่วนใหญอ่ ยใู่ นระดบั มากทสี่ ุด จำนวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 80 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20 ประเดน็ ท่ี 4 เนอ้ื หามีประโยชน์ตอ่ การนำไปใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพชวี ติ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากทีส่ ดุ จำนวน 8 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 80 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คดิ เป็นร้อยละ 20 สรปุ ผลการประเมนิ เกณฑ์ท่ี 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนือ้ หา ระดบั มากทีส่ ุด คิดเป็นร้อยละ 80.00 ระดับมาก คิดเป็นร้อยละ 20.00 ระดับปานกลาง คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.00 ระดับน้อย คิดเปน็ ร้อยละ 0.00 ระดับนอ้ ยทีส่ ุด คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.00

ตอนที่ 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ประเด็นท่ี 1 การเตรยี มความพร้อมก่อนอบรม ส่วนใหญ่อยูใ่ นระดบั มากทส่ี ุด จำนวน 7 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 70 และระดบั มาก จำนวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 30 ประเด็นท่ี 2 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับเวลา ส่วนใหญ่อย่ใู นระดบั มากท่ีสุด จำนวน 7 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 70 และระดับมาก จำนวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 30 ประเด็นท่ี 3 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา สว่ นใหญ่อยู่ในระดบั มากทสี่ ุด จำนวน 7 คน คิดเปน็ ร้อยละ 70 และระดบั มาก จำนวน 3 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 30 ประเดน็ ที่ 4 การจัดกิจกรรมเหมาะสมกบั กลุ่มเปา้ หมาย สว่ นใหญอ่ ย่ใู นระดับมากท่ีสุด จำนวน 7 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 70 และระดบั มาก จำนวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 30 ประเด็นที่ 5 วิธีการวัดผล/ประเมนิ ผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ส่วนใหญ่อย่ใู นระดับมากทส่ี ุด จำนวน 7 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 70 และระดบั มาก จำนวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 30 สรุปผลการประเมินเกณฑท์ ่ี 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม ระดบั มากทีส่ ุด คดิ เปน็ รอ้ ยละ 70.00 ระดบั มาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 30.00 ระดบั ปานกลาง คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.00 ระดบั น้อย คิดเป็นร้อยละ 0.00 ระดบั นอ้ ยท่สี ดุ คดิ เป็นร้อยละ 0.00

ตอนที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร ประเดน็ ท่ี 1 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรอ่ื งท่ีถ่ายทอด สว่ นใหญ่อยู่ในระดบั มากทส่ี ดุ จำนวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 100 ประเดน็ ท่ี 2 วทิ ยากรมีเทคนิคการถา่ ยทอดใชส้ ื่อและซักถาม ส่วนใหญ่อยใู่ นระดบั มากท่ีสดุ จำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 100 ประเดน็ ท่ี 3 วิทยากรเปิดโอกาสใหม้ สี ่วนร่วมและซักถาม สว่ นใหญ่อยู่ในระดบั มากทสี่ ดุ จำนวน 10 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 สรุปผลการประเมินเกณฑ์ที่ 3 ความพงึ พอใจตอ่ วทิ ยากร ระดับมากทีส่ ดุ คิดเป็นร้อยละ 100.00 ระดับมาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 0.00 ระดับปานกลาง คดิ เปน็ ร้อยละ 0.00 ระดบั น้อย คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.00 ระดับนอ้ ยที่สุด คดิ เป็นร้อยละ 0.00

ตอนที่ 4 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก ประเดน็ ท่ี 1 สถานที่ วสั ดุ อุปกรณแ์ ละสงิ่ อำนวยความสะดวก ส่วนใหญอ่ ยใู่ นระดับมากท่ีสุด จำนวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 80 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 20 ประเด็นที่ 2 การสื่อสาร การสร้างบรรยากาศเพ่อื ให้เกิดการเรยี นรู้ สว่ นใหญอ่ ยู่ในระดับมากทสี่ ดุ จำนวน 8 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 80 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 20 ประเดน็ ที่ 3 การบริการ การชว่ ยเหลอื และการแก้ปัญหา ส่วนใหญ่อยใู่ นระดับมากท่ีสดุ จำนวน 8 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 80 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 20 สรปุ ผลการประเมินเกณฑท์ ี่ 4 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก ระดับมากทส่ี ดุ คดิ เปน็ ร้อยละ 80.00 ระดบั มาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 20.00 ระดับปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 0.00 ระดบั น้อย คดิ เป็นร้อยละ 0.00 ระดบั นอ้ ยที่สุด คดิ เปน็ ร้อยละ 0.00

ภาคผนวก

วิชา การตดั เย็บกระเป๋าและมดั ย้อม หลกั สตู ร 23 ช่ัวโมง วันที่ 2 เดือน กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2564 ถึงวันท่ี 10 เดอื น กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 ณ กศน.ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวดั กาญจนบุรี

วิชา การตดั เย็บกระเป๋าและมดั ย้อม หลกั สตู ร 23 ช่ัวโมง วันที่ 2 เดือน กมุ ภาพันธ์ พ.ศ.2564 ถึงวันท่ี 10 เดอื น กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2564 ณ กศน.ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวดั กาญจนบุรี

ท่ปี รึกษา คณะผู้จดั ทำ 1.นางสาวจิราภา วชิ าชาญ 2.นางสาวอุไรวรรณ ใจยา ผอู้ ำนวยการ ศูนย์ กศน.อำเภอพนมทวน ครอู าสาสมัครฯ คณะทำงาน ครู กศน.ตำบลทุ่งสมอ 1.นางสาวพทิ ยา รอดภยั ครู กศน.ตำบลทงุ่ สมอ รวบรวมและจดั ทำรปู เล่ม 1.นางสาวพิทยา รอดภัย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook