สรปุ ผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝกึ อาชพี ชุมชนรปู แบบอาชพี ระยะส้ัน วิชาศิลปะประดิษฐ์จากกระป๋อง ปีงบประมาณ 2564 วันที่ 5 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันท่ี 12 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 กศน.ตำบลทุ่งสมอ ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดกาญจนบรุ ี
คำนำ โครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของสำนกั งาน กศน. เป็นการยกระดับการจัดการศึกษาเพ่อื พัฒนาศักยภาพ และขีดความสามารถให้ประชาชนได้มีอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้ท่ีมั่นคง เป็นบุคคลที่มีคุณธรรมจริยธรรมมี จติ สำนึกความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองผอู้ ่ืนและสงั คมจงึ ควรมีการประเมนิ ผลการจัดการศึกษาอาชีพเพ่อื การมีงานทำ การสรุปผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน วิชาศิลปะประดิษฐ์จากกระป๋อง วันที่ 5 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันที่ 12 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ณ กศน.ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จังหวัด กาญจนบรุ ี รายงานสรุปผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ฝึกอาชพี ชมุ ชน หลกั สูตรวชิ าศิลปะประดษิ ฐจ์ ากกระปอ๋ งน้ี สามารถนำมาเป็นบทเรียนและพัฒนาในการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำของสำนักงาน กศน. ต่อไปได้ อย่างเป็นรูปธรรมและมีคุณภาพ กศน.ตำบลทุ่งสมอ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะบ่งบอกถึงการบรรลุ วัตถุประสงค์ของการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนและจะเป็นประโยชน์ต่อการจัด กิจกรรมของสำนักงาน กศน. ท้ังในการบริหารงานการพัฒนางานการทำงานท่ีตรงตามความต้องการของผู้เรียน ผรู้ บั บริการและชุมชนและสามารถเผยแพร่ตอ่ สาธารณชนได้ ขอขอบคณุ ผูม้ สี ่วนเก่ียวขอ้ งและให้ความรว่ มมือในการตอบแบบสอบถามทุกทา่ นไว้ ณ โอกาสนดี้ ว้ ย กศน.ตำบลท่งุ สมอ
สารบญั หน้า บทนำ หลกั สูตร วชิ าศิลปะประดษิ ฐ์จากกระปอ๋ ง หลักสตู ร 31 ช่ัวโมง สรุปผลการดำเนินงานโครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชมุ ชน ผสู้ ำเรจ็ การศึกษาตอ่ เน่ืองท่ีนำไปใช้ประโยชน์ ปัญหาและอุปสรรคในการปฏบิ ัติงานและแนวทางแกไ้ ขและพัฒนา บญั ชีรายชอื่ ผู้เรียนวิชาชพี หลักสูตรอาชีพระยะสั้น ภาคผนวก โครงการ ศิลปะประดิษฐจ์ ากกระป๋อง หลกั สูตร 31 ชว่ั โมง แบบสอบถามความพงึ พอใจ วิชาศิลปะประดิษฐ์จากกระป๋อง หลักสตู ร 31 ชั่วโมง แบบติดตามผลผู้จบหลกั สูตรการจดั การศึกษาต่อเน่ือง ปีงบประมาณ 2564
บทนำ หลกั การและเหตุผล พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 (แก้ไขเพิ่มเติมพุทธศักราช 2545) และ พระราชบญั ญัติส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พุทธศักราช 2551 ได้กำหนดจุดมุ่งหมาย สำคัญในการพัฒนาคนไทยให้ได้รับการเรียนร้อู ย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ปัจจุบัน และอนาคต ทั้งด้านประชากร การเมืองการปกครอง สังคม เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และส่ิงแวดล้อม รวมทั้ง การเช่ือมโยงสังคมเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย ระดับภูมิภาค และระดับโลก จึงจำเป็นที่จะต้องจัดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายประชาชนได้รับการเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับ การเปล่ียนแปลงของโลก ท้ังด้านการ พัฒนาอาชีพ การพัฒนาทักษะชีวิต และการพัฒนาสังคมและชุมชน ซึ่งจำเป็นต้องใช้วิธีการและรูปแบบที่ หลากหลาย ตามความ ต้องการและความสนใจของประชาชนทุกกลุ่มวัย โดยเน้นกระบวนการคิดเพอื่ แก้ปัญหาใน ชวี ิตประจำวนั ตามหลัก ปรัชญาคดิ เป็นและหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง กระทรวงศึกษาธิการ ได้ประกาศใช้ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษา ต่อเน่ือง พุทธศักราช 2554 ประกาศ ณ วันที่ 5 มกราคม พ.ศ.2554 โดยสำนักงาน กศน.ได้กำหนดนโยบายด้าน การจดั การศกึ ษาตอ่ เนอื่ ง ดงั น้ี หลกั การ 1. มุ่งเน้นให้กลุ่มเป้าหมายสามารถนำความรู้ท่ีได้รับจากการศึกษาไปใช้ในการประกอบอาชีพ พฒั นาอาชีพ พัฒนา ทักษะชีวติ และพฒั นาสังคมและชมุ ชน เพือ่ ให้สามารถอยูใ่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมคี วามสุข 2. พฒั นาหลักสูตรทีย่ ึดหลกั ความสอดคลอ้ งกับความต้องการและความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมาย เป็นไปตามสภาพ บริบทชุมชนและสงั คม รวมถึงนโยบายของทางราชการ 3. จัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยยึดหลักความสอดคล้องกับศักยภาพและ ความพร้อมของ ผู้เรียน ความหลากหลายตามความแตกต่างของกลุ่มเป้าหมาย รวมท้ังบูรณาการปรัชญาคิดเป็น และหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งได้ตามความเหมาะสม 4. ยดึ หลักการมีส่วนร่วมของภาคีเครอื ขา่ ยและภูมิปัญญาในการดำเนินงาน วตั ถปุ ระสงค์ 1. ส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายได้เรียนรู้เก่ียวกับการศึกษาเพ่ือการพัฒนาอาชีพ พัฒนาทักษะชีวิต และพัฒนาสังคม และชุมชน 2. ให้กลุ่มเป้าหมายได้เห็นช่องทางการประกอบอาชีพหรือการต่อยอดอาชีพเดิมให้พัฒนา สามารถพ่ึงพาตนเองได้ 3. ให้กลุ่มเป้าหมายดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข สอดคล้องตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง กลุ่มเปา้ หมาย ประชาชนทัว่ ไป กลมุ่ เปา้ หมาย ประชาชนทว่ั ไป จำนวน 10 คน
เปา้ หมาย การจัดการศกึ ษาต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพ่ือให้ประชาชนได้พัฒนาความรคู้ วามสามารถ และทักษะ ในการประกอบอาชีพ มีการใช้ความรู้จากภูมิปัญญาและเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีทักษะชีวิตท่ีจำเป็นสำหรับการ ดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน รวมทั้งมุ่งใช้กระบวนการศึกษาเป็นเคร่ืองมอื ในการพัฒนาสังคมและชุมชนให้พึ่งตนเอง ไดต้ ามหลกั ปรัชญาคิดเป็น และหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รูปแบบการจดั การจัดการศึกษาตอ่ เนื่อง ประกอบไปด้วยกิจกรรม การจดั การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ การศึกษา เพ่ือพฒั นา ทักษะชวี ิต และการศึกษาเพือ่ พัฒนาสงั คมและชุมชน โดยมีวธิ กี ารจัด 2 รูปแบบ คอื 1. รูปแบบกลุ่มสนใจ เป็นการจัดการศึกษาหลักสูตรไม่เกิน 30 ชั่วโมง โดยมีผู้เรียนจำนวน กลุม่ ละ 6 คนข้นึ ไป 2. รูปแบบชั้นเรียนวิชาชีพ เป็นการจัดการศึกษาหลักสูตร 31 ชั่วโมงข้ึนไป โดยมีผู้เรียนจำนวน กลุ่มละ 11 คนขนึ้ ไป แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ คือ 2.1 ช้นั เรียนระยะสนั้ เป็นการจัดหลักสูตรต้ังแต่ 31 - 100 ช่ัวโมง 2.2 ชั้นเรยี นระยะยาว เป็นการจัดหลกั สูตร 100 ชัว่ โมงขนึ้ ไป งบประมาณ โครงการศูนยฝ์ ึกอาชีพชุมชน จากเงินงบประมาณปี 2564 แผนงาน: ยุทธศาสตร์เพ่ือสนับสนุนด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ โครงการขับเคล่ือนการพัฒนาการศึกษาท่ีย่ังยืน งบรายจ่ายอ่ืน โครงการศูนย์ฝึกอาชีพ ชมุ ชน (รูปแบบอาชีพระยะสน้ั ) จำนวน 9,000 บาท (เก้าพันบาทถว้ น) ลักษณะการจัดกระบวนการเรียนรู้ การจัดการศึกษาต่อเน่ือง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน เป็นผู้จดั โดยใหค้ รู กศน.ตำบล เป็นผ้รู ับผิดชอบ โดยจัดเป็นกิจกรรม คือ รูปแบบกลุ่มอาชีพ เป็นการจัดการศึกษาหลักสูตรท่ีสถานศึกษาจัดขึ้น เพ่ือมุ่งพัฒนาคุณภาพ ชีวิต และส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชน โดยหลักสูตรมีความยืดหยุ่นด้านเนื้อหา สาระ ระยะเวลาเรียน และ สถานท่ี ตามความต้องการและความจำเป็นของกลุ่มเป้าหมาย หรือชุมชน หรือนโยบายของทางราชการและ พัฒนาต่อยอด อันจะนำไปสู่การพัฒนา คุณภาพชีวิต แก้ปัญหาของผู้เรียนได้อย่างเป็นรูปธรรม การพ่ึงพาตนเอง อย่างยัง่ ยนื และชุมชนเขม้ แข็งตอ่ ไปและมขี ัน้ ตอนการดำเนินงานดงั นี้ ขนั้ ตอนการวางแผน (Plan) 1. สถานศกึ ษาเตรียมความพรอ้ มโดยกำหนดบุคลากรท่ีรับผิดชอบงานการศึกษาต่อเนื่อง กำหนด เปา้ หมาย หรอื วัตถุประสงค์การดำเนนิ งาน กำหนดระยะเวลาและงบประมาณท่ใี ช้ในการดำเนินงาน 2. เตรียมผเู้ รยี นก่อนเข้าสู่การเรยี นรู้ กิจกรรมการศกึ ษาต่อเน่อื ง โดยสถานศึกษาจัดกิจกรรมการ เรียนรู้ เร่ือง “คิดเป็น” หรือ “ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ตนเองว่า กิจกรรม ใดในการศึกษา ตอ่ เนื่องทต่ี อบสนองความตอ้ งการจำเป็นรายบุคคล
3. ประสานงานผ้เู ก่ียวข้อง สถานที่ การขออนุมตั ิจดั ต้งั กลุ่ม การเตรียมสือ่ วัสดุอุปกรณ์ การสอน ฯลฯ ข้นั ตอนการปฏบิ ัตติ ามแผน (Do) 1. ดำเนินการจัดกิจกรรมการศึกษาต่อเน่ือง ตามท่ีกำหนดไว้ใน 2 รูปแบบ คือ กลุ่มสนใจ และ ชั้นเรียนวิชาชพี 2. บันทึกผลการจัดกิจกรรมภายหลังการจัดเสร็จส้ิน เพ่ือรายงานสภาพปัญหา ผลการจัด พร้อม ขอ้ เสนอแนะ แก่ผู้บรหิ ารทราบ ขน้ั ตอนการตรวจสอบการปฏบิ ัติตามแผน (Check) 1. ประเมินผลการจัดการศกึ ษาต่อเนื่อง เป็นรายกจิ กรรม และในภาพรวมของโครงการ 2. รายงานการประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาต่อเนือ่ งเป็นรายไตรมาส และรายปี ขนั้ ตอนการปรบั ปรงุ แกไ้ ข (Act) นำผลการประเมินมาปรับปรงุ แกไ้ ขและพัฒนาการจัดกิจกรรมการศึกษาตอ่ เน่ือง แนวทางการจดั กจิ กรรมการศกึ ษาต่อเนื่อง การจัดการศึกษาตอ่ เน่ือง ประกอบไปด้วยกิจกรรม การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาอาชพี การศกึ ษา เพ่ือพัฒนาทักษะชีวิตและการศึกษาเพ่ือพัฒนาสังคมและชุมชน ซ่ึงสถานศึกษาสามารถเลือกจัดในรูปแบบกลุ่ม สนใจ และชัน้ เรยี นวชิ าชพี ได้ตามความเหมาะสมโดยใชห้ ลกั สตู รจากแหล่งต่างๆ ดังนี้ 1. หลักสูตรทส่ี ถานศกึ ษาจัดทำขน้ึ เอง 2. หลักสตู รกลางทีส่ ำนักงาน กศน. จดั ทำข้นึ สื่อการเรยี นรู้ 1. อุปกรณป์ ระกอบการฝึกทักษะอาชีพ 2. ส่ือบคุ คล,วทิ ยากรผชู้ ำนาญ ขอบเขตของการประเมิน ด้านหลกั สูตรเน้อื หา เป็นการประเมินผลเก่ียวกับความเหมาะสมของแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ วัตถุประสงค์ของ โครงการ จุดมุ่งหมายของหลักสูตร กิจกรรมที่จัดมีความเหมาะสมสอดคล้องกับหลักสูตรและเนื้อหา มีสื่อ ประกอบการเรียนรู้ วิทยากรผู้สอนมีความรู้ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เรียน มีการวัดและ ประเมินผลท่หี ลากหลาย โดยเน้นทก่ี ารปฏิบัติจริง รวมทั้งความพึงพอใจของผู้เรียน เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญของ การจัดการศึกษา คือ 1. ความรู้ความเขา้ ใจ 2. ปฏบิ ัติได้ นำไปใช้ได้ 3. ความพึงพอใจ 4. ด้านระยะเวลา
ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รบั ผลจากการประเมินคร้ังน้ี จะเป็นแนวทางในการจัดทำโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ของ กศน. ตำบลทงุ่ สมอ ให้สามารถดำเนินโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกบั มาตรฐาน การศึกษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอัธยาศัยต่อไป ขอ้ คิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะในการจัดกิจกรรมครงั้ ต่อไป 1. ควรมจี ติ อาสาประจำตำบลเพือ่ จะได้ประสานงานและประชาสมั พันธ์ งาน กศน. ไดอ้ ย่างทวั่ ถึง 2. กำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน พร้องทั้งการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์ ในการฝึกอบรมที่ เหมาะสมกับผ้เู ขา้ รว่ มกิจกรรม อยา่ งทว่ั ถงึ 3. เตรียมความพร้อมด้านวัสดุอุปกรณ์เพ่ือที่จะได้สะดวกในการจัดการเรียนการสอนในการจัด กิจกรรมในครั้งต่อไป โครงการศูนยฝ์ กึ อาชีพชมุ ชน หลักสูตร 31 ชวั่ โมง โครงการ/กจิ กรรม วนั /เดอื น/ปีท่ี สถานทจ่ี ดั กจิ กรรม แผน(คน) ผล(คน) งบประมาณทใี่ ช้ จัดกิจกรรม 1.วิ ช า ศิ ล ป ะ ป ร ะ ดิ ษ ฐ์ 5-12 ม.ค. 64 กศน.ตำบลท่งุ สมอ 10 11 9,000 จากกระป๋อง อ.พนมทวน จ.กาญจนบรุ ี
หลกั สูตรวิชาศลิ ปะประดิษฐ์จากกระปอ๋ ง จำนวน 31 ชั่วโมง ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนมทวน ความเป็นมา การจัดการศกึ ษาอาชพี ในปัจจุบันมีความสำคญั มาก เพราะจะเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มี ความรู้ ความสามารถและทักษะในการประกอบอาชีพ เป็นการแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็ง ให้แกเ่ ศรษฐกจิ ชมุ ชน ปัจจุบันคนส่วนมากมีวิธีหรือกระบวนการในการทำมาหากินในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น การทำงานในหน่วยงานของภาครัฐ หรือเอกชน ไปจนกระทั่งธุรกิจส่วนตัว เพ่ือสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ซึ่งมี การแข่งขันกันมากในธุรกิจใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจแฟชั่นต่าง ๆ ซ่ึงคนไทยให้ความนิยมมาก เน่ืองจากนิยมตาม กระแส ยึดหลักค่านิยมแบบผิด ๆ แต่เม่ือย้อนกลับมาทบทวนหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จ พระ บรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิต แก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอด โดยเน้นย้ำแนวทางการแก้ไขเพ่ือให้รอดพ้น และสามารถดำรงอยู่ได้อย่างม่ันคง และยั่งยืนภายใต้กระแสโลกาภิวัตน์ และความเปลี่ยนแปลงจากปัญหาค่านิยมตา่ ง ๆ ส่งผลให้ ศูนย์การศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน เห็นความสำคัญในการจัดหาอาชีพ โดยการจัดทำหลักสูตร วิชาศิลปะประดิษฐ์จากกระป๋อง ซ่ึงสามารถทำให้คนไทยหันมานิยมของไทยได้อีกทางหนึ่ง เพื่อให้รายได้กลับมา หมนุ เวยี นภายในชุมชน หรือภายในประเทศตอ่ ไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอพนมทวน ได้ตระหนักถึงการมีอาชีพของ กลมุ่ เปา้ หมายในพน้ื ที่ จึงได้จัดทำหลักสูตรวิชาศลิ ปะประดษิ ฐจ์ ากกระป๋อง เพ่ือใหป้ ระชาชนกล่มุ เป้าหมายในพน้ื ที่ ไดม้ ีอาชีพหลักเปน็ การสร้างพ้ืนฐานทางอาชพี สามารถนำความรไู้ ปใช้ในการพัฒนาคณุ ภาพชวี ิต หลกั การของหลักสูตร 1. เป็นการจัดหลักสูตรด้านพาณิชยกรรมและการบริการ ที่มีความยืดหยุ่นด้านการจัดกระบวนการ เรียนรู้และการวัดผลประเมินผล โดยบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพของชุมชนใน 5 ด้าน คือศักยภาพของ ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นที่ ศักยภาพของพ้ืนท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของพ้ืนที่ตามลักษณะ ภมู ิประเทศ ศักยภาพด้านศิลปะ วฒั นธรรมประเพณี และวิถชี ีวิต และศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์ 2. การจัดการศึกษาตามหลักสูตรวิชาศิลปะประดิษฐ์จากกระป๋อง ม่งุ เน้นกลมุ่ เปา้ หมายประชาชนผู้ไม่มี อาชพี หรือผู้ทีท่ ีอาชพี แตต่ ้องการพฒั นาอาชีพใหม้ คี วามมน่ั คงย่ิงขึ้น 3. เปน็ การสง่ เสรมิ ความรว่ มมอื ในการดำเนินงานร่วมกับเครือข่าย 4. เป็นการส่งเสริมให้มีการเทียบโอนความรู้และประสบการณเ์ ข้าสหู่ ลักสูตรการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน 5. การจัดกระบวนการเรียนรู้ มุ่งเน้นการอบรม สัมมนา ศึกษาดูงาน การฝึกปฏิบัติ การเรียนรู้ด้วย ตนเอง เพอื่ พัฒนากลุม่ เป้าหมายใหม้ ีความพรอ้ มในการประกอบอาชพี ใหเ้ กิดความเข้มแข็ง ม่ันคง
จดุ มุ่งหมาย 1. เพ่ือเพิ่มพูนความร้ปู ระสบการณ์และทักษะอาชีพ 2. เพอื่ ใหผ้ เู้ รียนสามารถทำตะกรา้ จากกระปอ๋ งเบียร์ได้ คนละ 1 แบบ 3. เพอื่ ให้ผเู้ รยี นสามารถนำความรทู้ ี่ได้รบั ไปต่อยอดเป็นอาชีพเสริม 4. เพื่อใหผ้ ้เู รียนสามารถทำใช้เองในครัวเรอื นได้ กลุ่มเป้าหมาย 1. ผู้ทไี่ มม่ ีอาชพี 2. ผทู้ ่ีมีอาชพี และต้องการพฒั นาอาชีพ 3. ผู้ทีม่ อี าชีพและต้องการเปล่ยี นอาชพี ระยะเวลา รวมทง้ั หมด 31 ชวั่ โมง - ภาคทฤษฎี 6 ชั่วโมง - ภาคปฏิบัติ 25 ช่วั โมง โครงสร้างหลักสตู รวิชาศิลปะประดษิ ฐจ์ ากกระปอ๋ ง ท่ี เรอ่ื ง รายละเอยี ดเน้อื หา จุดประสงค์การ การจัดกระบวนการ จำนวนช่ัวโมง เรยี นรู้ เรียนรู้ ทฤษฎี ปฏิบตั ิ 1 ความรทู้ ว่ั ไป วสั ดุ อุปกรณ์ในการ 1. ผู้เรียนมคี วามรู้ 1. วทิ ยากรบรรยายเร่อื ง 1 - ของการทำ ทำศิลปะประดิษฐ์ พนื้ ฐานเก่ียวกับการ ความสำคัญในการ ศลิ ปะประดิษฐ์ จากกระป๋อง ทำศลิ ปะประดิษฐ์ ประกอบอาชีพ ความ จากกระป๋อง จากกระป๋องได้อย่าง เป็นไปได้การประกอบ ถูกต้อง อาชีพและการตัดสินใจใน 2. ผู้เรียนสามารถ การเลือกอาชพี ศลิ ปะ บอกวัสดุ อปุ กรณ์ใน ประดษิ ฐ์จากกระปอ๋ ง การทำศิลปะ 2. ผ้เู รียนและวิทยากร 1- ประดษิ ฐ์จากกระป๋อง แลกเปลย่ี นเรยี นรูแ้ ละ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง วเิ คราะหอ์ าชีพทจี่ ะ สามารถเลอื กประกอบ อาชพี ไดใ้ นชุมชน 2 ขนั้ ตอน วิธกี ารทำศลิ ปะ 1. ผู้เรียนสามารถทำ 1. วิทยากรบรรยายและ 1 25 กระบวนการทำ ประดิษฐจ์ าก ศิลปะประดิษฐจ์ าก สาธิตวธิ ีการทำศิลปะ ศิลปะประดิษฐ์ กระป๋อง กระป๋องได้อยา่ ง ประดษิ ฐ์จากกระป๋อง และ จากกระป๋อง ถกู ต้อง ใหผ้ ู้เรยี นปฏบิ ตั ิตาม
2. วิทยากรประเมินความรู้ 1 1 ผเู้ รยี นจากช้ินงานและการ 1 สงั เกต 6 3. ผสู้ อนสรุปผลการ จัดการเรยี นการสอน 3 การประชาสัมพนั ธ์ จัดการการตลาด 1. ผู้เรียนสามารถ 1. วิทยากรบรรยายจดั การ - 25 การประชาสมั พันธ์ เพม่ิ มูลค่าสนิ ค้า การ การตลาด การ และการสง่ เสริม ออกแบบ ประชาสัมพนั ธ์และการ การขายและบริการ การประยุกต์ใช้ ส่งเสริมการขายและ 2. ผเู้ รียนสามารถ บรกิ ารได้ จัดการการตลาด การ ประชาสัมพนั ธ์และ การส่งเสรมิ การขาย และบรกิ ารได้ รวมชวั่ โมง สอื่ การเรียนรู้ ในการจัดการเรยี นรู้ ใช้สื่อการเรียนรู้หลากหลาย ไดแ้ ก่ 1. ใบความรู้ 2. ใบงาน การวัดผลประเมินผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ 2. การประเมินผลงาน เกณฑ์การจบหลักสตู ร 1. มีการเรยี นและฝึกปฏบิ ัตติ ามหลักสตู รไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80 2. มผี ลการประเมินผา่ นตลอดหลักสตู รไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 3. ผลงานผ่านการประเมนิ ทดสอบทีม่ ีคุณภาพตามหลักเกณฑ์ เอกสารหลกั ฐานการศึกษา 1. ใบสมคั ร 2. หลักฐานการวัดผลประเมินผล
แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ หลักสตู ร วิชาศิลปะประดษิ ฐ์จากกระปอ๋ ง ระหวา่ งวนั ที่ 5 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ถึงวันท่ี 12 เดอื น มกราคม พ.ศ.2564 สถานที่จดั ณ กศน.ตำบลทงุ่ สมอ อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี ขอ้ มูลพนื้ ฐานของผู้ประเมินความพงึ พอใจ เพศ □ ชาย □ หญงิ อายุ..........ปี วุฒิการศกึ ษา............................ อาชพี ............................. คำช้ีแจง 1. แบบประเมินความพึงพอใจ มี 4 ตอน 2. โปรดแสดงเครื่องหมาย / ในชอ่ งว่างระดับความพึงพอใจตามความคิดเหน็ ของท่าน ระดบั ความพึงพอใจ หมาย เหตุ ขอ้ รายการประเมนิ ความพึงพอใจ มากที่สุด มาก ปาน น้อย นอ้ ย กลาง ที่สดุ ตอนที่ 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนอ้ื หา 1. เน้อื หาตรงตามความตอ้ งการ 2. เน้ือหาเพยี งพอตอ่ ความตอ้ งการ 3. เน้ือหาปจั จุบนั ทนั สมัย 4. เนือ้ หามีประโยชนต์ อ่ การนำไปใช้ในการพฒั นาคุณภาพ ชวี ิต ตอนท่ี 2 ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม 5. การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม 6. การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ 7. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 8. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย 9. วิธีการวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อวทิ ยากร 10 วิทยากรมีความรู้ความสามารถในเรอ่ื งที่ถา่ ยทอด 11 วิทยากรมเี ทคนคิ การถ่ายทอดใชส้ อื่ และซักถาม 12 วิทยากรเปิดโอกาสให้มสี ่วนร่วมและซักถาม ตอนที่ 4 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก 13 สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณ์และส่ิงอำนวยความสะดวก 14 การสือ่ สาร การสรา้ งบรรยากาศเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ 15 การบริการ การช่วยเหลือและการแก้ปญั หา ความคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ ......................................................................................................................................................................................................................... .........................................................................................................................................................................................................................
สรุปผลการดำเนนิ งาน โครงการศูนย์ฝกึ อาชีพชมุ ชน หลกั สตู รอาชีพระยะสั้น วิชาศลิ ปะประดิษฐ์จากกระปอ๋ ง 31 ชั่วโมง ปีงบประมาณ 2564 ศนู ย์การศึกนอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอพนมทวน ****************************************** 1. ความมุง่ หมายของการทำแบบประเมินความพงึ พอใจผเู้ รยี น/ผรู้ บั บรกิ ารการจัดกิจกรรม เพื่อรวบรวมความคิดเห็นของผู้เรียน ผู้รับบริการการจัดกิจกรรมในประเด็นต่าง ๆ เพื่อทราบข้อมูล การบริหารการจัดกิจกรรมของสถานศึกษา และนำข้อมูลที่ได้รับมาสรุปเพ่ือปรับปรุง พัฒนาการเก่ียวกับการจัด กจิ กรรม ตอ่ ไป 2. วิธีการประเมินความพึงพอใจผู้เรยี น/ผูร้ ับบริการการจดั กิจกรรม 2.1 แบบสำรวจความคดิ เห็น เกย่ี วกับการจดั กจิ กรรมจาก ผู้เรียน ผรู้ บั บริการ และประชาชน 2.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล เป็นแบบประเมินความพึงพอใจผู้เรยี น / ผรู้ ับบริการการ จัดกจิ กรรมสอบถามความคิดเหน็ เกี่ยวกับการใหบ้ ริการโดยแบง่ ออกเป็น 2 ส่วน ไดแ้ ก่ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป 1. เพศ - เพศชาย - เพศหญงิ 2. อายุ - อายุ 15 – 29 ปี - อายุ 30 – 39 ปี - อายุ 40 – 49 ปี - อายุ 50 – 59 ปี - อายุ 60 ปขี ้นึ ไป 3. การศึกษา ระดบั ประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ระดบั ปริญญาตรี 4. อาชีพ - รบั จา้ ง - ค้าขาย - เกษตรกรรม - รบั ราชการ - อนื่ ๆ
สว่ นที่ 2 สรปุ ความพึงพอใจของผู้เขา้ ร่วมโครงการ เกณฑก์ ารตดั สนิ ความพึงพอใจ 5 ระดับ มากที่สุด 4 ระดับ มาก 3 ระดับ ปานกลาง 2 ระดบั น้อย 1 ระดบั นอ้ ยทส่ี ดุ แบง่ ประเดน็ การประเมนิ แบ่งออกเป็น 4 ตอน 15 ประเด็น ได้แก่ 1. ความพึงพอใจด้านเน้ือหา 2. ความพงึ พอใจด้านกระบวนการจดั กิจกรรมการอบรม 3. ความพงึ พอใจต่อวิทยากร 4. ความพงึ พอใจด้านการอำนวยความสะดวก วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล มอบแบบประเมินความพึงพอใจผู้เรียน / ผู้รับบริการการจัดกิจกรรมแก่ ผู้เรียน ผู้รับบริการและ ประชาชน จำนวน 11 คน ตอบแบบแบบประเมินความพึงพอใจผู้เรียน / ผู้รับบริการการจัดกิจกรรม แล้วนำมา เก็บรวบรวม สรุปผลขอ้ มูล การวิเคราะห์ขอ้ มลู ในการวเิ คราะห์ข้อมูลการวิจัย ผู้วิจัยใช้ในการวิเคราะหข์ ้อมูลใช้สถติ ิร้อยละทำการวเิ คราะห์ สถติ ทิ ใ่ี ช้ในการวเิ คราะหข์ ้อมูล หาคา่ รอ้ ยละและความถี่ คา่ ร้อยละ = จำนวนระดับความคิดเห็น x 100 11
สรปุ ผล จากการวเิ คราะหข์ ้อมูลแบบประเมนิ ความพงึ พอใจผู้เรียน / ผู้รับบริการการจดั กจิ กรรม สรุปผลการ ประเมนิ ได้ดังนี้ ตอนท่ี 1 ข้อมูลสว่ นตัวของผ้ตู อบแบบสอบถาม 1 เพศ เพศ จำนวน รอ้ ยละ รวม ชาย 0 คน 0.00 0.00 หญิง 11 คน 100.00 100.00 รวม 11 คน 100.00 100.00 2 อายุ จำนวน ร้อยละ รวม - -- อายุ - -- 15-29 ปี 30-39 ปี 2 คน 18.18 18.18 40-49 ปี 7 คน 63.64 63.64 50-59 ปี 2 คน 18.18 18.18 60 ปีข้ึนไป 11 คน 100.00 100.00 รวม 3 การศกึ ษา จำนวน ร้อยละ รวม 5 คน 45.45 45.45 ระดับ 3 คน 27.27 27.27 ประถมศกึ ษา 3 คน 27.27 27.27 มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย - - - ปริญญาตรี 11 คน 100.00 100.00 รวม 4 อาชพี จำนวน รอ้ ยละ รวม อาชีพ 8 คน 72.73 72.73 เกษตรกร รบั จ้าง - - - คา้ ขาย 3 คน 27.27 27.27 รวม 11 คน 100.00 100.00
ตอนท่ี 2 สรุปความพงึ พอใจของผู้เข้ารว่ มโครงการ เกณฑ์การตดั สนิ ความพงึ พอใจ 5 ระดบั มากทส่ี ดุ 4 ระดบั มาก 3 ระดับ ปานกลาง 2 ระดับ น้อย 1 ระดับ นอ้ ยทีส่ ุด ประเดน็ วัดความพึงพอใจ 54321 มากท่สี ุด มาก ปานกลาง น้อย นอ้ ยที่สุด ตอนท่ี 1 ความพึงพอใจดา้ นเน้อื หา 1.เนอ้ื หาตรงตามความต้องการ 9 คน 2 คน 81.82 % 18.18 % 2. เนือ้ หาเพยี งพอตอ่ ความต้องการ 9 คน 2 คน 81.82 % 18.18 % 3. เน้ือหาปจั จุบนั 9 คน 2 คน 81.82 % 18.18 % 4. เน้อื หามปี ระโยชนต์ ่อการนำไปใชใ้ นการ 9 คน 2 คน พฒั นาคณุ ภาพชวี ิต 81.82 % 18.18 % ตอนที่ 2 ความพึงพอใจดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรมการอบรม 5. การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม 8 คน 3 คน 72.73 % 27.27 % 6. การออกแบบกจิ กรรมเหมาะสมกับเวลา 8 คน 3 คน 72.73 % 27.27 % 7. การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา 8 คน 3 คน 72.73 % 27.27 % 8. การจดั กจิ กรรมเหมาะสมกับกลุ่มเปา้ หมาย 8 คน 3 คน 72.73 % 27.27 % 9. วิธกี ารวดั ผล/ประเมินผลเหมาะสมกบั 8 คน 3 คน วตั ถุประสงค์ 72.73 % 27.27 % ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร 10. วิทยากรมคี วามรู้ความสามารถในเรื่องท่ี 9 คน 2 คน ถา่ ยทอด 81.82 % 18.18 %
11. วทิ ยากรมเี ทคนิคการถา่ ยทอดใช้สือ่ และ 9 คน 2 คน 18.18 % ซกั ถาม 81.82 % 2 คน 12. วิทยากรเปิดโอกาสให้มสี ่วนร่วมและ 9 คน 18.18 % ซกั ถาม 81.82 % 2 คน 18.18 % ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจดา้ นการอำนวยความสะดวก 2 คน 13. สถานที่ วัสดุ อปุ กรณ์และสง่ิ อำนวยความ 9 คน 18.18 % สะดวก 81.82 % 2 คน 18.18 % 14. การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพอ่ื ให้เกดิ 9 คน การเรียนรู้ 81.82 % 15. การบรกิ าร การชว่ ยเหลอื และการ 9 คน แกป้ ญั หา 81.82 % จากตาราง พบว่าการประเมินความพึงพอใจผู้เรียน/ผู้รับบริการการจัดกิจกรรม โดยต้ังประเด็นไว้ 4 ตอน 15 ประเดน็ ผลปรากฏ ดงั น้ี ตอนท่ี 1 ความพงึ พอใจดา้ นเนื้อหา ประเด็นที่ 1 เน้อื หาตรงตามความตอ้ งการ ส่วนใหญอ่ ยู่ในระดับมากที่สดุ จำนวน 9 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 81.82 และระดับมาก จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 18.18 ประเด็นที่ 2 เน้ือหาเพียงพอต่อความต้องการ ส่วนใหญ่อยู่ในระดบั มากทสี่ ดุ จำนวน 9 คน คดิ เป็นร้อยละ 81.82 และระดับมาก จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 18.18 ประเด็นท่ี 3 เนอ้ื หาปจั จุบนั สว่ นใหญอ่ ยใู่ นระดบั มากท่ีสุด จำนวน 9 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 81.82 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 18.18 ประเด็นท่ี 4 เนื้อหามปี ระโยชน์ตอ่ การนำไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิต สว่ นใหญ่อยู่ในระดบั มากที่สุด จำนวน 9 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 81.82 ระดับมาก จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 18.18 สรุปผลการประเมินเกณฑ์ท่ี 1 ความพงึ พอใจด้านเนอ้ื หา ระดับมากที่สุด คิดเป็นรอ้ ยละ 81.82 ระดับมาก คิดเปน็ ร้อยละ 18.18 ระดบั ปานกลาง คิดเป็นร้อยละ 0.00 ระดบั น้อย คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.00 ระดบั นอ้ ยทสี่ ุด คดิ เปน็ ร้อยละ 0.00
ตอนที่ 2 ความพึงพอใจด้านกระบวนการจัดกจิ กรรมการอบรม ประเดน็ ที่ 1 การเตรยี มความพรอ้ มก่อนอบรม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก จำนวน 8 คน คดิ เป็นร้อยละ 72.73 รองลงมาคือระดับมากท่ีสดุ จำนวน 3 คน คดิ เป็นร้อยละ 27.27 ประเดน็ ท่ี 2 การออกแบบกิจกรรมเหมาะสมกบั เวลา ส่วนใหญ่อยูใ่ นระดบั มาก จำนวน 8 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 72.73 รองลงมาคอื ระดับมากทสี่ ดุ จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 27.27 ประเดน็ ท่ี 3 การจดั กิจกรรมเหมาะสมกับเวลา ส่วนใหญ่อยูใ่ นระดบั มาก จำนวน 8 คน คิดเปน็ ร้อยละ 72.73 รองลงมาคือระดับมากท่ีสุด จำนวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 27.27 ประเด็นที่ 4 การจัดกจิ กรรมเหมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมาย ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 72.73 รองลงมาคือระดับมากทีส่ ดุ จำนวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 27.27 ประเด็นท่ี 5 วธิ กี ารวัดผล/ประเมินผลเหมาะสมกับวัตถปุ ระสงค์ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก จำนวน 8 คน คิดเปน็ ร้อยละ 72.73 รองลงมาคือระดับมากท่สี ดุ จำนวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 27.27 สรปุ ผลการประเมินเกณฑท์ ่ี 2 ความพึงพอใจด้านกระบวนการจดั กจิ กรรมการอบรม ระดับมากทสี่ ุด คิดเปน็ รอ้ ยละ 72.73 ระดับมาก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 27.27 ระดับปานกลาง คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.00 ระดับนอ้ ย คดิ เปน็ ร้อยละ 0.00 ระดบั นอ้ ยท่ีสดุ คิดเปน็ ร้อยละ 0.00
ตอนที่ 3 ความพึงพอใจต่อวิทยากร ประเด็นที่ 1 วทิ ยากรมีความรู้ความสามารถในเร่อื งทีถ่ า่ ยทอด ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากที่สดุ จำนวน 9 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 81.82 ระดบั มาก จำนวน 2 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 18.18 ประเดน็ ท่ี 2 วทิ ยากรมีเทคนิคการถ่ายทอดใช้ส่อื และซกั ถาม สว่ นใหญอ่ ยูใ่ นระดบั มากท่ีสดุ จำนวน 9 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 81.82 และระดับมาก จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 18.18 ประเด็นท่ี 3 วทิ ยากรเปิดโอกาสใหม้ ีส่วนร่วมและซักถาม ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมากทีส่ ุด จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 81.82 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 18.18 สรุปผลการประเมนิ เกณฑ์ท่ี 3 ความพึงพอใจตอ่ วทิ ยากร ระดบั มากทส่ี ุด คดิ เป็นรอ้ ยละ 81.82 ระดบั มาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 18.18 ระดับปานกลาง คดิ เป็นรอ้ ยละ 0.00 ระดบั น้อย คิดเปน็ รอ้ ยละ 0.00 ระดับนอ้ ยที่สดุ คิดเป็นร้อยละ 0.00
ตอนท่ี 4 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก ประเดน็ ที่ 1 สถานท่ี วสั ดุ อุปกรณแ์ ละสง่ิ อำนวยความสะดวก สว่ นใหญอ่ ยใู่ นระดับมากท่สี ดุ จำนวน 9 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 81.82 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 18.18 ประเดน็ ที่ 2 การส่ือสาร การสรา้ งบรรยากาศเพ่อื ใหเ้ กิดการเรียนรู้ สว่ นใหญอ่ ยู่ในระดับมากทสี่ ดุ จำนวน 9 คน คดิ เป็นร้อยละ 81.82 และระดับมาก จำนวน 2 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 18.18 ประเดน็ ท่ี 3 การบริการ การช่วยเหลอื และการแกป้ ญั หา สว่ นใหญอ่ ยู่ในระดับมากที่สดุ จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 81.82 และระดบั มาก จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 18.18 สรปุ ผลการประเมินเกณฑ์ท่ี 4 ความพึงพอใจด้านการอำนวยความสะดวก ระดบั มากท่สี ุด คิดเปน็ ร้อยละ 81.82 ระดบั มาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 18.18 ระดับปานกลาง คิดเป็นรอ้ ยละ 0.00 ระดบั น้อย คดิ เป็นร้อยละ 0.00 ระดบั นอ้ ยทส่ี ุด คิดเป็นร้อยละ 0.00
ภาคผนวก
วชิ า ศลิ ปะประดิษฐจ์ ากกระป๋อง หลกั สตู ร 31 ชวั่ โมง วันที่ 5 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ถงึ วนั ที่ 12 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ณ กศน.ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จงั หวัดกาญจนบุรี
วชิ า ศลิ ปะประดิษฐจ์ ากกระป๋อง หลกั สตู ร 31 ชวั่ โมง วันที่ 5 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ถงึ วนั ที่ 12 เดือน มกราคม พ.ศ.2564 ณ กศน.ตำบลทุ่งสมอ อำเภอพนมทวน จงั หวัดกาญจนบุรี
ท่ปี รึกษา คณะผู้จดั ทำ 1.นางสาวจิราภา วชิ าชาญ 2.นางสาวอุไรวรรณ ใจยา ผอู้ ำนวยการ ศูนย์ กศน.อำเภอพนมทวน ครอู าสาสมัครฯ คณะทำงาน ครู กศน.ตำบลทุ่งสมอ 1.นางสาวพทิ ยา รอดภยั ครู กศน.ตำบลทงุ่ สมอ รวบรวมและจดั ทำรปู เล่ม 1.นางสาวพิทยา รอดภัย
Search
Read the Text Version
- 1 - 23
Pages: