สรปุ ผลการประเมินตนเอง 1. ด้านทักษะลูกเสอื 2. มั่นใจมากว่าจะ พร้อมแลว้ ไมแ่ น่ใจ ตอ้ งขอความ งนุ งง ผา่ นการประเมิน ชว่ ยเหลอื จาก ไมเ่ ขา้ ใจ ผู้กํากบั ลูกเสอื (ระดับ 5) มน่ั ใจมาก พร้อมรับการประเมนิ เครื่องหมายวชิ าพิเศษ (ระดับ 4) พรอ้ มรบั การประเมนิ (ระดบั 3) ไม่แนใ่ จ (ระดบั 2) ยงั ตอ้ งพฒั นา/ ซอ่ มเสรมิ บางเรอื่ ง (ระดับ 1) ต้องการความชว่ ยเหลอื จากผู้กาํ กบั ลูกเสอื ลงชือ่ .......................................................ผปู้ ระเมนิ 19ค2มู่ ือสง่ เสคชมู่้นัรมิอืมแสัธง่ลยเมะสพศรกึัฒมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ี่ัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทูกกั เษสะือชทีวักติ ษใะนชสีวถิตาในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปอื รสะาเมภญัทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชัญน้ั มรุ่นัธใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 199
2. พฤติกรรมลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ท่ีคาดหวัง ใช่ ไม่ใช่ รายการประเมิน 1. ลกู เสือทาํ กจิ กรรม/โครงการ ตามความถนดั และความสนใจ 2. ลูกเสือบรกิ ารผู้อนื่ ช่วยเหลือชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ 3. ลูกเสอื รู้จักวธิ ีปอ้ งกนั ความเสยี่ งทางเพศ 4. ลูกเสือใช้เวลากบั สอ่ื ไอทีไดอ้ ย่างเหมาะสม 5. ลูกเสอื ตระหนกั ถึงพิษภัยและหลกี เลี่ยงจากสิง่ ยาเสพตดิ 6. ลกู เสอื มคี า่ นยิ มสขุ ภาพ ดา้ นอาหาร และความงามที่เหมาะสม 7. ลูกเสือทํางานหารายได้ระหวา่ งเรยี น 8. ลูกเสือไม่มพี ฤตกิ รรมกา้ วร้าวและไม่กอ่ เหตรุ นุ แรง สรุปแบบการประเมินตนเอง มที ักษะชวี ิต จะมที ักษะชีวติ ต้องพัฒนาตนเอง ไม่แนใ่ จชวี ติ พรอ้ มเผชิญ แกไ้ ขปรับปรงุ อีกมาก (มีปญั หาแลว้ ) อยา่ งรอดปลอดภยั พฤตกิ รรม (ระดบั 4) (เสยี่ งนะเนีย่ ) (ระดบั 1) (ระดับ 3) (ระดบั 2) เรื่องทฉ่ี ันจะตอ้ งปรบั ปรงุ 1).................................................................................................................................................. 2).................................................................................................................................................. 3).................................................................................................................................................. 4).................................................................................................................................................. 200 คู่มอื สง่ เสรคมิู่มแือลสะ่งพเสัฒริมนแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูิจเกสรือรมทลักกูษเะสชอื วี ทิตักใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศกูึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทรุน่ลชกูใัน้ หเมสญธัอื ย่สมชาศั้นมึกัญมษธัรา่นุยปมใทีหศ่ีญกึ1่ษาปีท1ี่ 193
สรปุ แบบประเมนิ ตนเองเปน็ ดา้ นความรู้ความเขา้ ใจ นําคะแนนทน่ี กั เรยี นประเมินผลตนเองทัง้ 2 ดา้ น ท่ลี ูกเสอื เก็บงานในลกั ษณะการสะสมผลงาน มาสรุปรวมเป็นคะแนนความรู้ ท่ี รายการประเมนิ คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ รวม ระดบั คณุ ภาพ 321 1 ดา้ นทกั ษะลูกเสอื 63 2 พฤติกรรมทคี่ าดหวงั 9 เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน 49 – 72 ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 คะแนน 25 – 48 ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 คะแนน 1 – 24 ได้ระดับคณุ ภาพ 1 19ค4่มู ือสง่ เสคช่มูน้ัริมือมแสัธ่งลยเมะสพศรกึัฒมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ่ีัฒก1รนรามกลจิ กกู รเสรมือลทูกักเษสะือชทวี กั ิตษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ กูษเาสปือรสะาเมภัญทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชัญัน้ มรนุ่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปีท่ี 1 201
แบบประเมินการมสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมของลกู เสอื หลังจากลกู เสือปฏบิ ัตกิ ิจกรรมแลว้ ใหผ้ กู้ าํ กับลกู เสอื สังเกตการเข้าร่วมกิจกรรมของลกู เสอื เปน็ รายบคุ คล ตามตารางขา้ งล่างน้ี ที่ ชื่อ - สกุล การ ึศกษา รวม ระดับคุณภาพ การ ิวเคราะห์ การซักถาม ระบบหมู่ 1111 4 321 หมายเหตุ (ลงชือ่ )………………………………. - แสดงใหเ้ หน็ ว่ามพี ฤติกรรมตามทก่ี ําหนดให้ 1 คะแนน ( ) - ไมแ่ สดงวา่ มีพฤตกิ รรมตามท่ีกาํ หนดให้ ไมม่ ีคะแนน ผู้บันทกึ การสงั เกต เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน 4 ได้ระดับคุณภาพ 3 คะแนน 2 – 3 ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 คะแนน 1 ไดร้ ะดบั คุณภาพ 1 202 คูม่ ือสง่ เสรคมิู่มแอื ลสะง่ พเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรอืรมทลกั กูษเะสชอื วี ทติ กั ใษนะสชถีวาติ นในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรุ่นลชูกใน้ั หเมสญธัอื ย่สมชาศน้ัมึกญัมษัธรานุ่ยปมใทีหศี่ญึก1่ษาปีท1่ี 195
เกณฑ์การประเมิน รายการ ดีมาก (3) ระดบั คุณภาพ พอใช้ (1) ดี (2) การศกึ ษา ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรเู้ ก่ยี วกบั ศกึ ษาค้นควา้ หาความรูเ้ กยี่ วกบั ศึกษาค้นคว้าหาความรเู้ กย่ี วกบั ประเด็นหวั ข้อทก่ี าํ หนดจาก ประเด็นหวั ขอ้ ทก่ี ําหนดจาก ประเด็นหวั ข้อทก่ี าํ หนด แหลง่ เรียนรู้ที่หลากหลาย แหล่งเรยี นรเู้ ท่าท่ีมีภายใน โรงเรียน การวเิ คราะห์ ความถูกตอ้ งและชัดเจนของ ความถูกต้องและชัดเจนของ ความถกู ต้องและชัดเจนของ รายละเอียดเร่อื งที่วเิ คราะห์ มี รายละเอียดเรือ่ งท่วี ิเคราะห์ รายละเอียดเรอ่ื งท่วี ิเคราะห์ การแยกแยะองค์ประกอบ มีการแยกแยะองค์ประกอบ มีการแยกแยะองค์ประกอบ ที่มคี วามสัมพนั ธก์ ันอย่าง ท่มี คี วามสัมพนั ธ์กันอยา่ ง ที่มีความสมั พันธก์ ัน ถูกตอ้ ง เหมาะสม ถกู ต้อง กลา้ ซกั ถามอย่างตรงประเด็น ซักถามตรงประเดน็ เพอ่ื ให้เกิด ซักถามตามประเดน็ ท่กี าํ หนด การซกั ถาม เพอ่ื สะทอ้ นผลตอ่ ความรู้ ความ ความรู้ ความเขา้ ใจ ในเร่ือง โดยถกู กระตุ้นจากผ้กู าํ กบั เขา้ ใจ ในเร่อื ง หรอื ประเดน็ ที่ หรอื ประเดน็ ทก่ี าํ หนด กําหนด สมาชิกในหมมู่ ีการทาํ งานอยา่ ง สมาชกิ ในหมมู่ ีการทาํ งานอยา่ ง สมาชกิ ในหมมู่ ีการทํางานอยา่ ง ระบบหมู่ เปน็ ระบบ มกี ารแบ่งหนา้ ทกี่ าร เป็นระบบ มกี ารแบ่งหนา้ ท่กี าร เปน็ ระบบพอใช้ ทาํ งาน และรับผดิ ชอบตาม ทํางาน และรบั ผิดชอบ ระบอบประชาธปิ ไตย พอสมควร 19ค6ู่มอื สง่ เสคช่มูน้ัรมิือมแสัธง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที จิ ี่ัฒก1รนรามกลิจกกู รเสรมือลทกูักเษสะอื ชทวี ักติ ษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกูกษเาสปอื รสะาเมภญัทลรุ่นกู เใสหือญส่ามชัญัน้ มร่นุัธใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 203
แบบสงั เกตความมีเจตคติตอ่ กจิ การลูกเสือ หลังจากลกู เสือปฏิบตั ิกจิ กรรมแลว้ ให้ผกู้ ํากับลกู เสือประเมินความมีเจตคติของลกู เสอื เปน็ รายบคุ คลตามตารางดงั ต่อไปนี้ ช่อื – สกลุ S = ความจ ิรงใจ รวม ระดบั คุณภาพ C = สุภาพอ่อนโยน O = การเ ่ืชอฟัง ดี พอใช้ ปรับปรงุ U = ความสามัคคี T = ความประหยัด 111 11 5 32 1 หมายเหตุ (ลงชื่อ)………………………………. - แสดงใหเ้ หน็ ว่ามคี ุณลักษณะตามทก่ี ําหนดให้ 1 คะแนน ( ) - ไมแ่ สดงวา่ มีคณุ ลักษณะตามทกี่ าํ หนดให้ ไม่มีคะแนน ผู้บนั ทกึ การสงั เกต ระดับคณุ ภาพ รายการประเมนิ ดมี าก (3) มเี จตคติทางด้านลกู เสอื 4 - 5 รายการ พอใช(้ 2) มเี จตคติทางด้านลูกเสอื 2 - 3 รายการ ปรบั ปรุง (1) มเี จตคตทิ างด้านลกู เสอื 1 รายการ 204 คูม่ อื สง่ เสรคมิมู่ แอื ลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะิจพกฒั รรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื วี ทิตักใษนะสชถวี าติ นในศสึกถษาานลศกูึกเษสาอื ปสารมะเญั ภทร่นุลชูกใน้ั หเมสญธัอื ย่สมชาศัน้มกึัญมษัธรานุ่ยปมใีทหศ่ีญกึ1่ษาปที 1ี่ 197
แบบสรุปผลการตดั สนิ ผลการเรียนรู้ ผู้กาํ กบั ลูกเสอื นําผลการวดั เป็นระดบั คุณภาพจากการสรุปแบบประเมนิ ตนเอง แบบสงั เกต การเข้าร่วมกจิ กรรม และแบบสงั เกตความเจตคตติ ่อกิจการลูกเสือมาประเมินเพอื่ สรุปผลการผ่านเกณฑ์ การประเมนิ เปน็ รายบคุ คล ดงั ตาราง สรปุ แบบ ระดบั คุณภาพ แบบสังเกต เฉลยี่ การผา่ นเกณฑ์ แบบสังเกต การประเมิน ท่ี การประเมิน การเข้ารว่ ม เจตคติตอ่ กิจการ ตนเอง กจิ กรรม ลูกเสือ (3) (3) (3) (3) ผา่ น ไม่ ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 (ลงชื่อ)………………………………. ผ้บู นั ทึก เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ตาํ่ กว่า 1.50 ไมผ่ ่าน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ตั้งแต่ 1.50 ขึ้นไป ผ่าน เกณฑก์ ารประเมนิ 19ค8มู่ อื สง่ เสชคมู่ัน้รมิือมแสัธ่งลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพีทจิ ี่ฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูกั เษสะอื ชทวี ักติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปอื รสะาเมภัญทลรนุ่กู เใสหือญส่ามชญัั้นมร่นุัธใยหมญศ่ึกษาปที ่ี 1 205
ใบความรู้ เรอื่ ง การประเมินกจิ กรรมลกู เสอื * 1. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ตามแนวทางหลกั สูตรการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสตู รการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 กาํ หนดใหก้ ิจกรรมลกู เสอื เป็นกจิ กรรมทมี่ งุ่ ปลกู ฝังระเบยี บวินัยและกฎเกณฑเ์ พอ่ื การอยู่รว่ มกัน รจู้ กั การเสยี สละ บาํ เพญ็ ประโยชน์แกส่ ังคมและ ดําเนนิ วถิ ีชวี ติ ในระบอบประชาธปิ ไตย ตลอดจนมที กั ษะชวี ติ เปน็ ภูมคิ ุม้ กนั ปญั หาสังคมตามชว่ งวยั ของ ลูกเสือ การจดั กิจกรรมลกู เสอื ยังตอ้ งเป็นไปตามข้อบังคบั ของสํานักงานลกู เสอื แหง่ ชาตแิ ละสอดคลอ้ ง กบั หลกั สตู รการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 อกี ด้วย แนวทางการประเมินผลกจิ กรรมลูกเสือ กิจกรรมลกู เสอื เปน็ กิจกรรมนกั เรียนท่ีลกู เสอื ทกุ คนตอ้ งเข้าร่วมกจิ กรรมลูกเสือ 40 ชัว่ โมงตอ่ ปี การศกึ ษาในระดบั ประถมศึกษาและมัธยมศกึ ษา การประเมินการจดั กิจกรรมลกู เสอื ตามหลักสูตรการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 มี ประเด็น/สงิ่ ที่ตอ้ งประเมินดังนี้ 1. เวลาในการเขา้ รว่ มกิจกรรม ผเู้ รียนต้องมเี วลาเข้าร่วมกจิ กรรมตามทสี่ ถานศึกษากําหนด 2. การเรยี นรูผ้ ่านกิจกรรมหรือการปฏิบัตกิ จิ กรรมอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง มงุ่ เน้นการพัฒนาศกั ยภาพ ของตนและการทาํ งานกลมุ่ 3. ผลงาน / ช้นิ งาน / พฤตกิ รรม / คณุ ลักษณะของผู้เรียน ท่ปี รากฏจากการเรียนรู้ หรือการเปลี่ยนแปลงตนเอง *การประเมินผลอาจเขียนแยกการประเมินผลแต่ละกิจกรรม หรือเขียนรวมในภาพรวมของกิจกรรม ลกู เสอื ก็ได้ เอกสารอา้ งองิ กระทรวงศึกษาธกิ าร. หลกั สูตรการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 . กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จาํ กดั . 2551 206 ค่มู อื สง่ เสรคมิ่มู แือลสะง่ พเสัฒริมนแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรือรมทลกั ูกษเะสชอื วี ทติ กั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรุ่นลชกูในั้ หเมสญธัือย่สมชาศัน้มกึญัมษธัราุน่ยปมใีทหศ่ีญึก1่ษาปีท1ี่ 199
แนวทางการประเมินผลการเรียนรูก้ จิ กรรมลกู เสือ แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือ เกณฑก์ ารประเมิน 1. เวลาเขา้ รว่ มกจิ กรรม จัดกจิ กรรมลูกเสือ 2. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ตามคู่มอื การจัดกจิ การลูกเสอื ที่เสริมสร้าง 3. ผลงาน / ชิ้นงาน 4. พฤตกิ รรม/คณุ ลักษณะของลกู เสอื ทกั ษะชีวติ ประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ไม่ผา่ น ผลการประเมิน ซ่อมเสริม ผ่าน ผา่ น สรปุ ผลการประเมิน/ ตดั สนิ ผลการเรียนรู้ รายงาน / สารสนเทศ จดั พิธีประดับเครอ่ื งหมายลูกเสือ ตามประเภทลกู เสอื การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสือ มี 2 แนวทาง คือ 1. การประเมินกจิ กรรมลกู เสอื รายกิจกรรมมีแนวปฏิบัตดิ ังนี้ 1.1 ตรวจสอบเวลาเข้ารว่ มกจิ กรรมของลกู เสือให้เป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากาํ หนด 1.2 ประเมินกจิ กรรมการเรียนรจู้ ากการปฏิบตั กิ ิจกรรมและผลงาน / ชนิ้ งาน / คณุ ลักษณะของผเู้ รยี นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากําหนดดว้ ยวิธกี ารท่หี ลากหลาย เนน้ การมีส่วนรว่ ม ในการปฏิบัติกจิ กรรม 20ค0ู่มอื สง่ เสคชู่ม้นัรมิอืมแสัธง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที ิจ่ีฒั ก1รนรามกลิจกกู รเสรมอื ลทูกักเษสะอื ชทวี กั ติ ษใะนชสีวถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภญัทลรนุู่กเใสหอื ญส่ามชญััน้ มรนุ่ธั ใยหมญศ่ึกษาปีที่ 1 207
1.3 ลูกเสอื ทม่ี ีเวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม มกี ารปฏบิ ตั กิ ิจกรรมและผลงาน / ช้ินงาน / คณุ ลกั ษณะตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากําหนดเปน็ ผู้ผา่ นการประเมนิ รายกจิ กรรมและนาํ ผลการประเมินไป บนั ทึกในระเบียนแสดงผลการเรียน 1.4 ลกู เสอื ทีม่ ีผลการประเมนิ ไม่ผา่ นในเกณฑ์เวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม การปฏิบัติ กจิ กรรมและผลงาน / ชนิ้ งาน / คณุ ลกั ษณะตามที่สถานศกึ ษากาํ หนด ผูก้ ํากบั ลกู เสอื ตอ้ งดาํ เนนิ การ ซอ่ มเสรมิ และประเมนิ จนผา่ น ทัง้ นีค้ วรดาํ เนนิ การใหเ้ สรจ็ ส้นิ ในปกี ารศกึ ษานั้น ๆ ยกเว้นมเี หตสุ ดุ วิสยั ใหอ้ ยใู่ นดลุ พนิ จิ ของสถานศกึ ษา 2. การประเมินกจิ กรรมลกู เสือเพื่อการตัดสนิ ใจ การประเมนิ กจิ กรรมลกู เสือเพือ่ ตดั สินควรได้รบั เคร่ืองหมายและเลอ่ื นระดบั ทางลกู เสอื และจบการศึกษาเปน็ การประเมนิ การผ่านกจิ กรรมลกู เสือเป็นรายปี / รายภาค / เพือ่ สรุปผลการผ่าน ในแต่ละกจิ กรรม สรุปผลรวมเพอ่ื สรปุ ผลการผา่ นในแต่ละกจิ กรรม สรปุ ผลรวมเพ่อื เลอ่ื นช้ันระดบั ลูกเสอื และประมวลผลรวมในปีสดุ ทา้ ยเพอ่ื การจบแตล่ ะระดับการศึกษา โดยการดาํ เนินการดังกลา่ ว มแี นวทางปฏิบตั ิ ดงั น้ี 2.1 กาํ หนดใหม้ ผี ูร้ ับผดิ ชอบในการรวบรวมข้อมูลเกย่ี วกบั การเขา้ รว่ มกจิ กรรมลกู เสอื ของลกู เสือทกุ คนตลอดระดบั การศึกษา 2.2 ผูร้ ับผิดชอบสรปุ และตัดสินใจผลการร่วมกจิ กรรมลกู เสือของลกู เสอื เป็นรายบคุ คล รายหมู่ ตามเกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากําหนด เกณฑก์ ารตัดสิน 1. กาํ หนดเกณฑก์ ารประเมนิ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐานกาํ หนดไว้ 2 ระดบั คอื ผ่าน และ ไมผ่ า่ น 2. เกณฑ์การตดั สนิ ผลการประเมนิ รายกจิ กรรม ผา่ น หมายถึง ลกู เสอื มเี วลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมครบตามเกณฑ์ ปฏิบตั ิกิจกรรมและมผี ลงาน / ชิ้นงาน / คณุ ลักษณะตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาํ หนด ไม่ผ่าน หมายถึง ลกู เสอื มีเวลาเขา้ ร่วมกจิ กรรมไมค่ รบตามเกณฑ์ ไมผ่ า่ นการปฏบิ ตั ิ กิจกรรมหรอื มีผลงาน / ชนิ้ งาน / คุณลักษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ีส่ ถานศึกษากาํ หนด 3. เกณฑก์ ารตัดสนิ ผลการประเมินกจิ กรรมลกู เสอื รายปี / รายภาค ผา่ น หมายถึง ลกู เสือมผี ลการประเมนิ ระดบั “ผา่ น” ในกิจกรรมสําคญั ตามหลักสูตรลกู เสือ แตล่ ะประเภทกําหนด รวมถงึ หลกั สูตรลกู เสือทกั ษะชวี ิต ไม่ผ่าน หมายถึง ลกู เสอื มผี ลการประเมนิ ระดับ “ไม่ผ่าน” ในกจิ กรรมสาํ คญั ทห่ี ลกั สตู ร ลูกเสอื แตล่ ะประเภทกําหนดและลกู เสอื ทกั ษะชวี ติ 4. เกณฑก์ ารตดั สนิ ผลการประเมินกิจกรรมลูกเสือเพอ่ื จบหลักสูตรลกู เสอื แต่ละประเภท เปน็ รายช้นั ปี ผา่ น หมายถึง ลกู เสอื มผี ลการประเมนิ ระดบั “ผา่ น” ทุกช้ันปีในระดับการศกึ ษาน้นั ไม่ผา่ น หมายถึง ลกู เสอื มีผลการประเมนิ ระดับ “ไม่ผา่ น” บางช้ันปีในระดบั การศึกษาน้นั 208 คู่มอื สง่ เสรคมิูม่ แือลสะ่งพเสัฒรมิ นแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกกูิจเกสรอืรมทลักกูษเะสชอื วี ทิตกั ใษนะสชถีวาติ นในศสกึ ถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทร่นุลชกูใั้นหเมสญธัอื ย่สมชาศัน้มกึญัมษัธราุ่นยปมใีทหศี่ญกึ1่ษาปที 2ี่ 101
2. การประเมินพฤติกรรมทกั ษะชีวติ และคุณลกั ษณะทางลูกเสือ 2.1 ความสามารถท่ีต้องการใหเ้ กดิ ข้นึ กับลกู เสอื โดยรวม คอื 1) ความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ 2) ความสามารถในการคดิ สร้างสรรค์ 3) ความสามารถในการเหน็ ใจผ้อู ่ืน 4) เหน็ คณุ ค่าตนเอง 5) รับผิดชอบตอ่ สงั คม 6) ความสามารถในการสอื่ สารเพอื่ สร้างสมั พนั ธภาพ 7) ความสามารถในการตัดสนิ ใจ 8) ความสามารถในการจดั การแกไ้ ขปัญหา 9) ความสามารถในการจัดการกบั อารมณ์ 10) ความสามารถในการจดั การกบั ความเครียด 2.2 ตวั ช้วี ัดให้เกดิ ขน้ึ กับลูกเสอื โดยรวม คอื 1) ลูกเสอื สาํ รอง (1) มีทักษะในการสงั เกตและจดจํา (2) พ่งึ ตนเอง ดูแลตนเองได้ (3) ร้จู ักรักษาส่งิ แวดลอ้ ม (4) ไม่เจบ็ ปว่ ยดว้ ยโรคตดิ ตอ่ ตามฤดกู าล (5) ปฏเิ สธสิ่งเสพติดทกุ ชนดิ (6) พดู จาส่อื สารเชิงบวก ไม่กา้ วร้าวรุนแรง (7) แกป้ ัญหาเฉพาะหน้าได้ (8) ใหค้ วามชว่ ยเหลอื เพ่อื นในภาวะวกิ ฤติ 2) ลกู เสอื สามัญ (1) มีทกั ษะในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมกลางแจ้ง (2) รว่ มกจิ กรรมบําเพญ็ ประโยชนด์ ว้ ยจติ อาสา (3) พึ่งตนเองและช่วยเหลือครอบครัว (4) ไมด่ มื่ นา้ํ อดั ลม (5) ไมร่ บั ประทานขนมหวานและขนมกรบุ กรอบ (6) ใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ (7) รจู้ กั พูดเชิงบวก ไม่พดู กา้ วรา้ วรนุ แรง (8) มคี วามซือ่ สตั ย์ ไมโ่ กหก (9) ร้จู กั แก้ปญั หาดว้ ยสนั ตวิ ธิ ี (10) มีน้ําหนกั สว่ นสูงตามเกณฑม์ าตรฐาน 20ค2ู่มอื สง่ เสคชมู่้ันริมือมแสธั ง่ลยเมะสพศรึกฒัมิ ษแนลาาปะกพที ิจี่ัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะอื ชทวี กั ิตษใะนชสีวถติ าในนสศถึกาษนาศลึกูกษเาสปือรสะาเมภัญทลรนุ่กู เใสหอื ญส่ามชญัน้ั มรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 209
3) ลกู เสือสามญั รุ่นใหญ่ (1) มีทักษะในการทาํ กจิ กรรมตามความสนใจ (2) มจี ติ อาสาทาํ ประโยชน์/ ไมก่ ่อความเดอื ดรอ้ น ใหก้ บั ครอบครวั สถานศกึ ษา ชมุ ชน สังคม (3) ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ (4) ร่วมกิจกรรมสง่ เสรมิ อนรุ ักษ์ประเพณี ศิลปวัฒนธรรมไทย (5) มีทกั ษะการคิดวิเคราะห์ การยบั ย้งั ไมเ่ ป็นทาสของสือ่ โฆษณา (6) มีทักษะการใช้ประโยชนจ์ าก Internet (7) มีผลงาน/ โครงการการประหยดั พลังงาน/ ทรพั ยากร (8) มีการออมหรือทาํ บญั ชรี ายรับ รายจา่ ยของตนเองอย่างต่อเนื่อง (9) มที กั ษะการหลีกเลี่ยง ลอดพน้ และไมเ่ กดิ อบุ ัตเิ หตุจากการใช้ยานพาหนะ (10) ไมเ่ ก่ียวขอ้ งกบั ส่ิงเสพตดิ ทุกประเภท 4) ลกู เสอื วิสามญั (1) มีผลงาน/ โครงการเฉพาะท่ีเป็นประโยชน์ตอ่ ตัวเอง/ สงั คม (2) มีจติ อาสาและบรกิ าร (3) รู้วิธีปอ้ งกนั / และหลกี เลย่ี งความเสย่ี งทางเพศ (4) ใชเ้ วลากับสื่อ IT อย่างเหมาะสม ไมเ่ กดิ ความเสียหายตอ่ วิถชี วี ติ ปกตขิ องตนเอง (5) ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั สงิ่ เสพติด (6) มคี า่ นยิ มดา้ นสุขภาพอย่างเหมาะสม ไม่เกดิ ผลเสยี ตามมา (7) มคี ่านยิ มด้านการรับประทานอาหารท่เี หมาะสม ไม่เกดิ ผลเสียหายตามมา (8) มีค่านิยมดา้ นความงามทเ่ี หมาะสมไม่เกดิ ผลเสยี หายตามมา (9) ไม่มพี ฤติกรรมกา้ วร้าวและกอ่ เหตรุ นุ แรง อ้างองิ จาก ผลลพั ธ์การจัดกจิ กรรมลกู เสือ คู่มอื Bench Marking 210 ค่มู อื สง่ เสรคิมมู่ แือลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะิจพกฒั รรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื ีวทติ ักใษนะสชถวี าิตนในศสกึ ถษาานลศกูกึ เษสาอื ปสารมะเญั ภทรุน่ลชกูใัน้ หเมสญัธอื ย่สมชาศน้ัมึกญัมษธัรา่นุยปมใทีหศี่ญึก1่ษาปีท2ี่ 103
แผนการจดั กิจกรรมลกู เสือสามญั ร่นุ ใหญ่(เครอ่ื งหมายลกู เสือโลก) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 หน่วยท่ี 13 พิธกี าร แผนการจดั กิจกรรมที่ 23 พธิ เี ข้าประจาํ กองและประดบั เคร่ืองหมายลูกเสอื โลก เวลา 1 ช่วั โมง 1. จดุ ประสงค์ 1.1 เพื่อให้ลกู เสอื ยอมรับและปฏิบตั ติ ามคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 1.2 เพอ่ื ให้ลกู เสอื เกดิ ความภาคภมู ใิ จในเกียรตขิ องตนและเป็นแบบอยา่ งท่ีด(ี เพมิ่ ) 1.3 เพื่อใหล้ กู เสือปฏิบตั ติ นเป็นตัวอยา่ งทดี่ ี(ตดั ) 1.4 เพื่อส่งเสรมิ ความมรี ะเบยี บวินัยแกล่ กู เสอื 1.5 เพื่อให้ลกู เสือได้ปฏบิ ัตติ นต่อหนา้ ทผ่ี ู้กาํ กับลกู เสือ(ตดั ) 1.6 เพื่อใหล้ กู เสอื ไดร้ จู้ กั รักษาขนบธรรมเนยี มประเพณี วัฒนธรรม 2. เน้ือหา พธิ เี ข้าประจํากองลกู เสือสามัญรนุ่ ใหญ่ 3. สอ่ื การเรยี นรู้ 3.1 ขนั้ ตอนพธิ ีการเขา้ ประจํากองลกู เสอื สามญั รุน่ ใหญ่ 3.2 ธงประจาํ กองลกู เสอื 3.3 อนิ ทรธนูลูกเสือสามญั รนุ่ ใหญ่ 4. กิจกรรม 4.1 ผู้กํากบั ลกู เสือดาํ เนนิ การจัดทําพธิ ีเขา้ ประจาํ กองใหก้ บั ลกู เสอื ตามขนั้ ตอน 4.2 ผกู้ ํากบั ลกู เสือมอบเครือ่ งหมายลกู เสอื โลกให้ลกู เสอื 20ค4่มู ือสง่ เสคช่มูัน้รมิอืมแสัธ่งลยเมะสพศรกึัฒิมษแนลาาปะกพีทิจ่ีฒั ก1รนรามกลจิ กูกรเสรมือลทกูักเษสะอื ชทวี กั ิตษใะนชสวี ถิตาในนสศถกึ าษนาศลึกกูษเาสปือรสะาเมภญัทลรุน่กู เใสหือญส่ามชญััน้ มรนุ่ัธใยหมญศ่ึกษาปีท่ี 1 211
6.บนั ทึกผลหลังสอน 1. ด้านความรู้ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. ด้านการปฏิบัติงาน ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. ด้านคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ลงชอื่ ..................................................................ผสู้ อน (.............................................) บันทกึ ความเหน็ ขอ้ เสนอแนะการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ ของหวั หนา้ กลมุ่ งานวชิ าการ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ลงชื่อ.................................................................... (...........................................) หวั หนา้ ฝ่ายงานวชิ าการ บนั ทกึ ความเหน็ ข้อเสนอแนะการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ของรองผูอ้ าํ นวยการฝา่ ยวิชาการ ........................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .................................................................... (...........................................) รองผอู้ ํานวยการฝ่ายวชิ าการ บันทึกความเห็นข้อเสนอแนะการตรวจแผนการจดั การเรียนรู้ ของผอู้ ํานวยการโรงเรยี น ........................................................................................................................................................... ลงช่อื .................................................................... (...............................................) ผอู้ าํ นวยการโรงเรยี น.......................... 212 คมู่ อื สง่ เสรคิม่มู แอื ลสะ่งพเสฒั รมิ นแาลกะจิ พกฒั รรนมาลกกูจิ เกสรอืรมทลักูกษเะสชอื ีวทติ กั ใษนะสชถีวาิตนในศสกึ ถษาานลศูกกึ เษสาือปสารมะเญั ภทรนุ่ลชกูใ้ันหเมสญัธอื ย่สมชาศัน้มกึัญมษธัราุน่ยปมใทีหศี่ญกึ1่ษาปีท2ี่ 105
พิธลี กู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ ขอ้ ๒๙๕ พธิ เี ขา้ ประจาํ กองลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญใ่ หป้ ฏบิ ตั ดิ ังต่อไปนี้ กองลูกเสือสามัญรนุ่ ใหญ่จดั แถวเป็นรูปครึ่งวงกลม ผู้กาํ กบั พิธเี ขา้ ประจาํ ลกู เสอื สามัญรุน่ ใหญย่ ืนอยใู่ นครง่ึ วงกลม สว่ นลกู เสือใหม่ กองลูกเสือ ยนื อยนู่ อกครึ่งวงกลมหลังหมู่ของตนทจี่ ะเขา้ ไปอยู่ ครน้ั สามัญร่นุ ใหญ่ แลว้ ผูก้ ํากบั ลูกเสือสามัญรุ่นใหญเ่ รยี กลกู เสอื ใหม่เขา้ มา ยนื ตรงหนา้ ผู้กาํ กับลูกเสอื สามญั รุ่นใหญ่ แลว้ ถามว่า........ “(ออกชอ่ื ลกู เสอื ใหม)่ ............ เตม็ ใจท่ีจะปฏญิ าณตนเปน็ ลูกเสอื สามัญรุน่ ใหญ่หรอื ” ลกู เสือใหม่ “ข้าเตม็ ใจ” ผูก้ ํากบั ลกู เสอื สามัญรุน่ ใหญ่ “เจ้าเขา้ ใจหรือไม่วา่ การท่ี เขา้ มาเป็นลกู เสอื สามญั รุน่ ใหญ่ จะต้องปฏิบัตติ นให้เปน็ ตัวอยา่ งทีด่ ีแก่ลกู เสอื รนุ่ นอ้ งในกล่มุ ลูกเสือของเรา ตอ้ ง แสดงให้เหน็ ความก้าวหนา้ ในชีวิตลกู เสือของเจา้ และต้อง ปฏิบัติตนตามกฎและคาํ ปฏิญาณของลูกเสอื ทกุ เมอื่ ” ลกู เสือใหม่ “ขา้ ทราบและปฏิบัติได้” ผู้กํากับลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ “เจา้ พรอ้ มที่จะยนื ยันและ ปฏบิ ัตติ ามคาํ ปฏญิ าณแล้วหรอื ” ลกู เสอื ใหม่ “ขา้ พรอ้ มแลว้ ” ผู้กํากบั ลกู เสอื สามัญรุ่นใหญ่ “ขอให้เจา้ ทบทวนคาํ ปฏญิ าณ อกี คร้ังหนึง่ ” ลูกเสือใหม่ “ดว้ ยเกียรตขิ องขา้ ข้าสญั ญาวา่ ข้อ ๑ ขา้ จะจงรกั ภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขอ้ ๒ ขา้ จะชว่ ยเหลอื ผู้อ่ืนทกุ เมอ่ื ขอ้ ๓ ขา้ จะปฏิบัติตามกฎของลูกเสอื ” (ลกู เสือทกุ คนทอี่ ยใู่ นพธิ ี ตอ้ งแสดงรหสั ของลกู เสือและ จะเอามอื ลงต่อเมือ่ ลกู เสือกลา่ วจบ) ผกู้ ํากับลูกเสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ “ขา้ เชือ่ ในเกยี รตขิ องเจา้ วา่ เจา้ จะปฏิบตั ิตามคาํ สญั ญาทเ่ี จา้ ไดก้ ลา่ วไว้” ผกู้ ํากับลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญต่ ดิ อนิ ทรธนใู หก้ บั ลกู เสือใหม่ แล้วกลา่ วว่า “บดั นีเ้ จา้ ไดเ้ ข้าเป็นลกู เสอื สามัญรนุ่ ใหญ่ และเปน็ สมาชิก 20ค6ู่มอื สง่ เสคชู่มัน้รมิือมแสธั ง่ลยเมะสพศรกึัฒิมษแนลาาปะกพที ิจี่ัฒก1รนรามกลจิ กูกรเสรมอื ลทูกักเษสะอื ชทวี ักติ ษใะนชสวี ถติ าในนสศถึกาษนาศลกึ ูกษเาสปือรสะาเมภญัทลรุนู่กเใสหือญส่ามชัญ้ันมรุน่ธั ใยหมญศ่กึ ษาปที ่ี 1 213
หมายเหตุ ผูห้ นง่ึ ของคณะพนี่ อ้ งลูกเสอื แห่งโลกอนั ย่งิ ใหญแ่ ล้ว ขอให้ เจา้ ปฏิบัติหน้าท่ขี องลกู เสอื สามัญรุน่ ใหญแ่ ละมคี วามสขุ ความเจรญิ ตลอดกาลนาน” (ในโอกาสน้ผี กู้ ํากบั ลูกเสอื สามญั รุ่นใหญอ่ าจมอบ บัตรประจําตัว หรือเครอ่ื งหมายอนื่ ผกู้ าํ กับกล่มุ ลูกเสือ และผูบ้ ังคบั บญั ชาลูกเสือจะแสดงความยินดตี อ่ ลกู เสือใหม่ ด้วยกไ็ ด้) ลูกเสือใหม่กลับหลงั หนั ไปแสดงความเคารพต่อ กองลกู เสอื ทา่ วนั ทยหตั ถ์ แลว้ กลับเขา้ ประจาํ หมูข่ องตน ลกู เสือสามัญร่นุ ใหญใ่ ห้ใชไ้ มง้ า่ มแทนไม้พลอง (ขอ้ ) ขอ้ เสนอแนะเปน็ แนวทางปฏบิ ตั แิ นบภาคผนวก 1. องคป์ ระกอบของการจดั ทาํ แผนยังไมค่ รบ เชน่ สาระสาํ คัญ /สาระการเรียนรู้ /การวัดผลประเมนิ ผล (รายจดุ ประสงค์ , พฤตกิ รรม) /ขอ้ เสนอแนะ /บนั ทกึ หลังการสอน เป็นตน้ 2. แผนการสอนท่ี 4 ระเบยี บแถว ใหเ้ พิม่ การใช้ สัญญาณมือในการเรยี กแถวของลกู เสือสากล ได้แก่ แถวรัศมีหรือล้อเกวยี น (CART WHEEL) แถวสี่เหล่ยี มเปดิ ดา้ นหน่ึง 3. แผนการสอนท่ี 23. พธิ ีเขา้ ประจํากองและประดบั เครอื่ งหมายลกู เสือโลก ควรมชี ่วั โมงเรยี นทเ่ี ปดิ ประชมุ กองตามปกติ แล้วใหม้ ีการเรียนดว้ ยการสาธิตการเขา้ ประจาํ กองกอ่ น แลว้ ใหเ้ พม่ิ อกี 1 ชว่ั โมงเปน็ พิธเี ขา้ ประจาํ กองและประดบั เครื่องหมายลกู เสือโลก 4. ควรเพม่ิ แนวปฏิบตั กิ ารเปดิ ประชุมกอง และแนวทางการตรวจของรองผกู้ ํากับใหช้ ัดเจนและเปน็ ไป ในแนวทางเดยี วกนั 5. ควรเพ่ิมพธิ ีการรายงานการเขา้ ฐานที่เป็นแนวปฏิบตั ิที่ถกู ต้อง เอกสารอา้ งอิง - ขอ้ บังคบั คณะลูกเสือแหง่ ชาติ ว่าดว้ ยการปกครองหลกั สูตรและวชิ าพเิ ศษลูกเสอื พ.ศ. 2509 - คู่มือการฝกึ ระบียบแถวลูกเสือ ของ สํานกั งานคณะกรรมการลูกเสอื แห่งชาติ พ.ศ. 2520 - คู่มอื ประกวดระเบียบแถวลูกเสอื เนตรนาร(ี ฉบบั ปรับปรงุ ) ของ สาํ นกั การลกู เสอื ยวุ กาชาด และ กิจการนักเรยี น พ.ศ. 2555 214 ค่มู ือสง่ เสรคมิู่มแอื ลสะ่งพเสฒั ริมนแาลกะจิ พกัฒรรนมาลกูกจิ เกสรอืรมทลกั ูกษเะสชอื วี ทิตกั ใษนะสชถีวาิตนในศสึกถษาานลศกูกึ เษสาือปสารมะเัญภทรุ่นลชกูใั้นหเมสญธัอื ย่สมชาศัน้มกึัญมษธัรา่นุยปมใีทหศี่ญึก1่ษาปที 2่ี 107
ภาคผนวก ค่มู ือสง่ เสรมิ และพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศึกษา ลกู เสอื สามัญรุน่ ใหญ่ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 215
ภาคผนวก ก แนวคิดเร่ืองทกั ษะชีวติ ความหมายและองค์ประกอบทกั ษะชีวติ ทักษะชีวติ เปน็ ความสามารถของบคุ คล ทจี่ ําเปน็ ตอ่ การปรับตวั ในการเผชิญปัญหาต่าง ๆ และสามารถดําเนินชีวติ ท่ามกลางสภาพสงั คมที่มกี ารเปล่ยี นแปลงท้ังในปัจจบุ นั และเตรียมพร้อมสําหรับ การเผชิญปญั หาในอนาคต องค์ประกอบทักษะชีวิต มี 12 องค์ประกอบ จัดเป็น 6 คู่ โดยแบ่งตามพฤติกรรมการเรียนรู้ 3 ดา้ น ดงั นี้ อhgงhคjhป์ gfรgjะjhกgfอf บjhhทgักffdษsdะsชdsีวิต6 คู่ 3 ดา้ น ความตระหนกั การสรา้ ง รู้ในตน สมั พันธภาพและ การส่อื สาร ความเห็นใจ ความคดิ การ ทักษะพิสยั ผอู้ นื่ สรา้ งสรรค์ ตดั สนิ ใจ พุทธพิ ิสยั จิตพสิ ยั และแก้ไข ความ ความคดิ วเิ คราะห์ ปญั หา ภาคภูมิใจ วิจารณ์ ในตวั เอง ความ การจัดการกับ อารมณ์และ รับผิดชอบ ความเครียด ต่อสังคม แผนภาพที่ 1 องคป์ ระกอบของทกั ษะชวี ติ 1. ดา้ นพทุ ธิพิสัย จัดไวต้ รงกลางของแผนภาพ เพราะเปน็ องคป์ ระกอบร่วมและเป็นพ้ืนฐานของ ทกุ องคป์ ระกอบ ได้แก่ - ความคดิ วเิ คราะห์วิจารณ์ เป็นความสามารถท่จี ะวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ ประเมิน ขอ้ มลู ขา่ วสาร ปญั หา และสถานการณ์ตา่ ง ๆ รอบตัว - ความคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการคดิ ออกไปอยา่ งกว้างขวางโดยไม่ยึด ตดิ อยใู่ นกรอบ และการสรา้ งสรรค์สิ่งใหม่ 212016 คู่มอื สคง่ ู่มเสือรสิมง่ แเสลระิมพแัฒลนะาพกัฒจิ กนรารกมิจลกกู รเรสมือลทกูกั เษสะือชทวี ักิตษในะสชถีวาติ นในศกึสษถาานปศรกึะเษภาทลลูกกู เเสสอือื สสาามมัญญั รร่นุ ่นุ ใใหหญญ่ ่ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
2. ดา้ นจิตพสิ ัย หรอื เจตคติ มี 2 คู่ คอื คทู่ ่ี 1 ความตระหนักรใู้ นตนเอง และ ความเขา้ ใจ/เห็นใจผูอ้ น่ื คู่ท่ี 2 เหน็ คณุ คา่ /ภูมิใจตนเอง และ ความรับผิดชอบต่อสังคม - ความตระหนักรู้ในตนเอง เป็นความสามารถในการค้นหาและเข้าใจในจุดดีจุดด้อย ของตนเอง ยอมรับความแตกต่างของตนเองกับบุคคลอ่ืน ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วัย อาชีพ ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกจิ ฐานะทางสังคม ศาสนา สีผิว ทอ้ งถ่นิ สขุ ภาพ ฯลฯ - ความเขา้ ใจ/เห็นใจผูอ้ ื่น เป็นความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อ่ืน เห็นอก เห็นใจและยอมรับตัวตนของบุคคลอื่นที่แตกต่างกับเรา ไม่ว่าจะในแง่ความสามารถ เพศ วัย อาชีพ ระดับการศึกษา ฐานะทางเศรษฐกิจ ฐานะทางสังคม ศาสนา สีผวิ ท้องถ่นิ สุขภาพ ฯลฯ - เห็นคุณค่า/ภูมิใจตนเอง เป็นการค้นพบ คุณสมบัติเฉพาะตัวของตนเอง รู้สึกว่า ตนเองมคี ุณค่า เช่น เปน็ คนมีนา้ํ ใจ ซอื่ สัตย์ ยตุ ธิ รรม และภูมิใจในความสามารถด้านต่าง ๆ ของตนเอง เช่น ดา้ นสังคม ดนตรี กีฬา ศลิ ปะ การเรยี น ฯลฯ - ความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม เป็นความรสู้ กึ วา่ ตนเองเปน็ ส่วนหนง่ึ ของสังคมและมีส่วน รับผิดชอบในความเจริญหรือเสื่อมของสังคมนั้น คนที่เห็นคุณค่าตนเองจะมีแรงจูงใจท่ีจะทําดีกับผู้อื่น และสังคมสว่ นรวมมากขึ้น จึงจดั เขา้ คู่กบั ความรับผดิ ชอบต่อสังคม 3. ด้านทกั ษะพิสัยหรอื ทกั ษะ ประกอบดว้ ย 3 คู่ คอื คทู่ ี่ 1 การสอื่ สารและการสร้างสมั พนั ธภาพ คทู่ ่ี 2 การตดั สินใจและการแก้ไขปญั หา คทู่ ่ี 3 การจดั การกบั อารมณ์และความเครยี ด - ทักษะการการสื่อสารและการสรา้ งสัมพนั ธภาพ เปน็ ความสามารถในการใชค้ าํ พดู และภาษาท่าทาง เพ่ือสื่อสารความรสู้ ึกนกึ คดิ ของตนเอง และสามารถรับร้คู วามรสู้ กึ นึกคดิ ความ ต้องการ ของอกี ฝ่ายหนงึ่ มกี ารตอบสนองอย่างเหมาะสมและเกดิ สมั พนั ธภาพทดี่ ีตอ่ กนั - ทักษะการตดั สินใจและการแกไ้ ขปัญหา การตัดสนิ ใจใชใ้ นกรณที ีม่ ที างเลอื กอย่แู ล้ว จึงเร่ิมตน้ ดว้ ยการวิเคราะหข์ อ้ ดขี ้อเสยี ของแตล่ ะทางเลอื กเพอ่ื หาทางเลอื กท่ดี ีทีส่ ดุ และนาํ ไปปฏิบัติ ส่วน การแกไ้ ขปัญหาเป็นความสามารถในการรับรู้ปญั หาและสาเหตขุ องปญั หา หาทางเลอื ก ได้หลากหลาย วิเคราะหข์ ้อดขี อ้ เสยี ของแตล่ ะทางเลอื ก ตัดสนิ ใจเลอื กทางเลือกในการแก้ปัญหาท่ี เหมาะสมท่สี ดุ และนาํ ไปปฏิบตั ิ - ทักษะการจัดการกบั อารมณ์และความเครยี ด เป็นความสามารถในการรบั รู้ อารมณ์ตนเอง ประเมนิ และรู้เทา่ ทันวา่ อารมณจ์ ะมอี ิทธพิ ลตอ่ พฤติกรรมของตนอยา่ งไร และเลอื กใช้วิธี จัดการกับอารมณท์ ีเ่ กิดขน้ึ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ส่วนการจดั การความเครียดเป็นความสามารถในการรับรู้ ระดบั ความเครียดของตนเอง ร้สู าเหตุ หาทางแก้ไข และมวี ิธผี อ่ นคลายความเครยี ดของตนเองอยา่ ง เหมาะสม คมู่ อื สง่ เสริมและพัฒนาคกมู่ จิ ือกสรง่ รเมสลรมิูกแเสลือะพทักัฒษนะาชกวีจิ ติ กใรนรมสลถูกาเนสศือกึทษักาษะลชูกีวเติสใอื นสสาถมาัญนรศนุ่กึ ใษหาญป่ รชะ้นัเภมทัธลยกู มเสศือึกสษาามปญั ีทรี่ ่นุ1ใหญ่ 212711 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
ความแตกตา่ งระหว่างทกั ษะชวี ิตทั่วไปและทกั ษะชวี ิตเฉพาะ ทักษะชีวิตทั่วไป เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม สําหรับปัญหาท่ัว ๆ ไปใน ชวี ิตประจําวัน ดว้ ยทักษะชีวิต 12 องค์ประกอบ ให้กบั เด็กทุกคน ทักษะชวี ิตเฉพาะ เปน็ การประยกุ ตใ์ ช้ทักษะชวี ิต 12 องค์ประกอบ ท่ีมีเนื้อหาเก่ียวกับ การปอ้ งกันปัญหาเฉพาะเร่ืองสําหรับเด็กกลุ่มเส่ียง โดยมีครูท่ีปรึกษาและระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน รองรบั ทกั ษะชวี ติ กบั การพัฒนาเยาวชน เมือ่ แบง่ เยาวชนออกเป็น 3 กลุ่ม คือเด็กปกติ เด็กกลุ่มเส่ียง และเด็กที่มีปัญหา ทักษะ ชวี ิตจะเปน็ กลยทุ ธ์สาํ คัญในการสง่ เสรมิ ภูมคิ ้มุ กันทางสงั คม ให้กบั เดก็ ปกติ และเด็กทกุ คน สาํ หรบั เดก็ กลุม่ เสี่ยงต้องมกี ารสอนทกั ษะชีวิตเฉพาะในแต่ละปัญหา มีครูที่ปรึกษาและระบบดูแลช่วยเหลอื นักเรยี น รองรบั สว่ นเด็กที่มปี ญั หาแล้วใช้การดูแลใกลช้ ิดเพือ่ หาทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมเป็นรายบุคคล และมี ระบบสง่ ตอ่ ยังวิชาชีพเฉพาะทีเ่ กย่ี วขอ้ ง 212218 คมู่ ือสค่งู่มเสอื รสิมง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกฒั จิ กนรารกมจิ ลกูกรเรสมือลทูกกั เษสะอื ชทวี ักิตษในะสชถีวาติ นในศึกสษถาานปศรึกะเษภาทลลกููกเเสสอืือสสาามมัญัญรรนุ่ นุ่ ใใหหญญ่ ่ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 1
ตวั อยา่ งทกั ษะชวี ิตเฉพาะ คูม่ ือสง่ เสริมแลคะูม่พอื ัฒสนง่ เาสกริจมิ กแรลระมพลัฒูกนเสาือกิจทกกั รษระมชลวี กู ิตเสในอื ทสกัถษานะชศวีกึ ติ ษใานสลถกู าเสนอืศสกึ ษามาัญปรร่นุะเใภหทญล่ กู ชเส้ันอื มสัธายมมญั ศรกึ ่นุ ษใหาปญีท่ ี่ 1 213 219 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
ความแตกต่างระหวา่ งทักษะชวี ิต และทักษะการดาํ รงชวี ิต ทกั ษะชีวิต (Life Skills) เป็นความสามารถทางจติ สงั คม อนั ประกอบ ดว้ ย ความรู้ เจตคติ และทกั ษะ ทจ่ี าํ เป็นในการดาํ เนินชวี ติ ท่ามกลางสภาพสังคมทีเ่ ปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ในปจั จบุ ัน และ เตรยี มพร้อมสาํ หรบั การเผชิญปญั หาในอนาคต มี 6 คู่ 12 องค์ประกอบ ทักษะการดาํ รงชีวติ (Living Skills) เป็นทกั ษะทใ่ี ช้ในกจิ วัตรประจาํ วนั ในเรอ่ื งพ้นื ฐานของ ชวี ติ มกั เป็นทกั ษะทางกายภาพ เชน่ อาบน้ํา แต่งตัว ซกั เสอ้ื ผา้ ปรงุ อาหาร ข่จี กั รยาน ว่ายน้ํา ผกู เง่อื นเชือก การจดั กระเปา๋ เดินทาง การใช้แผนท่ีเขม็ ทศิ ฯลฯ ความเชือ่ มโยงระหว่างทกั ษะชีวติ และทกั ษะการดํารงชวี ติ ทักษะชีวติ และทกั ษะการดํารงชวี ิต มกั ถกู ใชผ้ สมผสาน เช่อื มโยงกนั ท้ังในกิจวตั รประจําวนั ปกติ และในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กดิ ขน้ึ ไมแ่ ยกส่วน โดยทักษะชีวติ จะเปน็ ตัวช่วยในการเลือกและใช้ ทักษะการดาํ รงชีวติ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ถกู ท่ี ถกู เวลา และเกดิ ผลลพั ธ์ทด่ี ี สถานการณ์ทางจติ สงั คม มักใชท้ กั ษะชีวิตเปน็ หลกั ตัวอยา่ ง เชน่ การจดั การกับอารมณ์โกรธ ความขดั แยง้ และ ความรนุ แรง ตระหนักรู้และหลีกเลย่ี งพฤตกิ รรมเส่ียงตา่ ง ๆ รวมถงึ การปอ้ งกนั อบุ ตั เิ หตุ การชว่ ยเหลือผอู้ ื่น และรบั ผดิ ชอบต่อส่วนรวม การส่ือสารเชงิ บวกและสร้างสมั พันธภาพท่ดี ี กิจวตั รท่ีทําเป็นประจาํ ใชท้ ักษะการดาํ รงชวี ติ เปน็ หลัก เชน่ อาบนํา้ แต่งตวั แปรงฟัน ซกั เสื้อผา้ ปรุงอาหาร ข่ีจักรยาน วา่ ยน้าํ ผูกเงอื่ นเชือก ใชแ้ ผนที่เขม็ ทิศ ฯลฯ 212420 คูม่ ือสค่งูม่ เสอื รสมิ ง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกัฒิจกนรารกมจิ ลกูกรเรสมือลทูกกั เษสะือชทีวักิตษในะสชถีวาิตนในศกึสษถาานปศรกึะเษภาทลลกูกู เเสสอือื สสาามมัญญั รรุน่ ่นุ ใใหหญญ่ ่ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 1
ทักษะชีวิตสร้างไดอ้ ย่างไร สร้างด้วย 2 วธิ กี ารใหญ่ ๆ คอื 1. เรียนรู้เองตามธรรมชาติ ซ่ึงขน้ึ กบั ประสบการณแ์ ละการมแี บบอยา่ งท่ดี ี จึงไมม่ ที ิศทางที่ แนน่ อน และกวา่ จะเรยี นรกู้ ็อาจช้าเกินไป 2. สรา้ งโดยกระบวนการเรียนการสอนทย่ี ดึ ผู้เรียนเปน็ ศนู ย์กลาง ใหเ้ ดก็ เรียนร้รู ว่ มกนั ในกลมุ่ ผา่ นกจิ กรรมรูปแบบต่าง ๆ ท่เี ด็กต้องมีส่วนรว่ มทั้งทางรา่ งกายคอื ลงมอื ปฏบิ ัติ และทางความคิดคอื การ อภิปรายแลกเปล่ียนความคิดและประสบการณ์ เพอ่ื สรา้ งองค์ความรู้ใหมร่ ว่ มกัน การสอนทยี่ ดึ ผเู้ รยี นเป็ นศนู ยก์ ลาง • สรา้ งความรู้ (Construction) กจิ กรรมทใี่ หผ้ เู ้ รยี นมสี ว่ นรว่ มทาง สตปิ ัญญา คน้ พบความรดู ้ ว้ ยตนเอง • ปฏสิ มั พนั ธ์ (Interaction) กจิ กรรมตอ้ งสง่ เสรมิ ปฏสิ มั พันธก์ บั ผอู ้ น่ื และแหลง่ ความรทู ้ ห่ี ลากหลาย • เป็ นกระบวนการ (Process Learning) • มสี ว่ นรว่ ม (Physical Participation) มสี ว่ นรว่ มดา้ นรา่ งกาย ลง ลมงอื มกอื รกะทระาทก�ำ จิ กกิจรกรรมรใมนในลลกั ักษษณณะะตตา่ ่างง ๆๆ • มกี ารประยกุ ตใ์ ช้ (Application) การมสี ว่ นร่วมทางสติปญั ญาทําใหเ้ กิดทกั ษะชวี ติ 2 องคป์ ระกอบแกนหลกั คอื ความคิดวเิ คราะห์ และความคดิ วจิ ารณ์ ปฏิสมั พันธใ์ นกลุ่มเพือ่ ทาํ กิจกรรมรว่ มกัน ทาํ ให้เดก็ ได้ฝกึ องคป์ ระกอบทักษะชวี ิต ด้านทกั ษะท้งั 3 คู่ คอื การสรา้ งสัมพนั ธภาพและการสอ่ื สาร การตดั สินใจและการแก้ไขปัญหา การจดั การอารมณ์และ ความเครียด การรับฟงั ความคิดเห็นของคนอน่ื ทาํ ใหเ้ กดิ ความเข้าใจคนอื่นมากขนึ้ ขณะเดียวกนั ก็เกดิ การ ไตรต่ รองทําความเข้าใจและตรวจสอบตนเอง จดั เป็นองค์ประกอบทักษะชวี ิตดา้ นเจตคตคิ ือ การเข้าใจตนเอง และเข้าใจ/เหน็ ใจผู้อ่นื การไดร้ ับการยอมรบั จากกลมุ่ การทาํ งานสาํ เร็จได้รับคาํ ชม ทาํ ใหเ้ กิดความภมู ิใจและเหน็ คุณค่า ตนเอง นําไปสคู่ วามรับผดิ ชอบมากขน้ึ ทัง้ ตอ่ ตนเองและสังคม กระบวนการและการมสี ่วนรว่ ม ช่วยใหก้ จิ กรรมสนุกสนานนา่ สนใจ และนําไปสู่จุดประสงค์ ท่ีต้ัง ไว้ รวมทงั้ การประยกุ ตใ์ ช้เป็นการเปิดโอกาสให้ผเู้ รยี นไดเ้ ชอื่ มองคค์ วามรูใ้ หมท่ ่เี กิดข้ึนเข้าสู่ชีวิตจริง ว่า ได้เกิดการเรียนร้อู ะไรและนําไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั อย่างไร คมู่ ือสง่ เสริมและพฒั นาคก่มู ิจือกสร่งรเมสลรมิกู แเสลอืะพทกััฒษนะาชกวีิจิตกใรนรมสลถกูาเนสศอื กึทษักาษะลชูกวี เติสใอื นสสาถมาัญนรศุน่ึกใษหาญป่ รชะั้นเภมทธั ลยูกมเสศอื ึกสษาามปญั ที ร่ี นุ่1ใหญ่ 222115 ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 1
8 8 ความหมายของกระบวนการลกู เสอื (Scout movement) ความหมาตยาขมคอํางนกยิ ราะมบขอวงนลกูกเาสรือลโลูกกเสหือมา(ยSถcึงoกuรtะmบวoนvกeาmรเeรnียtน)รู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเน่ือง สําหรับเตยาามวคชํานนเิยพาื่อมสขรอ้างงลเยูกาเสวืชอนโลทกี่มีจหิตมใาจยเสถียึงสกลระะบรับวผนิดกชารอเบรียแนลระู้แอลุทะิศพตัฒนนแกาต่สนังคเอมงอดย้ว่ยางวติธีก่อาเนร่ือง สําลหกู รเบัสเือยาวชน เพอื่ สร้างเยาวชนท่ีมีจิตใจเสียสละ รับผดิ ชอบ และอทุ ิศตนแกส่ งั คม ดว้ ยวธิ กี ารลกู เสือ ตาตมาแมนแวนทวาทงกางากรจาดั รกจัิจดกริจรกมรพรฒัมพนาัฒผนู้เราียผนู้เรี2ย5น2225(ส22พฐ.)(สหพมฐา.ย)ถหึงมการยะบถวึงนกกระาบรทวนางกกาารรทศาึกงษา ส่วกนาหรศนึก่งษซางึ่ สม่วุ่งนพหฒั นนึ่งาสซม่ึงรมรุ่งถพภัฒาพนาขสอมงบรรคุ ถคภลาทพ้ังขทอางงบสุคมคอลง รท่าั้งทกางยสจมิตอใงจรแ่าลงะกศาีลยธรจริตมใจเพแือ่ลใะหศ้เีลปธ็นรบรมุคคล ที่มเพีค่ืวอาใมหป้เปร็ะนพบฤุคตคิดลงี ทาี่มีคไวมาก่ มรปะทรําะตพนฤเตปิดน็ ีงปาญั มหไามส่กงั ครมะทแําลตะนดเําปร็งนชปีวัญิตอหยาา่สงังมคคี มวาแมลหะมดาํ ยรงแชลีวะิตสอุขยส่บางามยี หลควักากมาหรมลายกู เแสลือะส(ขุ Sสcบoาuยt principle) หลกั กาหรลลักูกกาเสรลอื กู เ(สSอื cโoลuกtเนpน้ rทinห่ี cนip้าlทeหี่ )ลกั 3 ประการ คอื 1.หหลนกั้ากทา่ีตรอ่ ลพกู รเสะเือจโ้าล/กศเานส้นนทาหี่ ไนด้าแ้ ทกหี่่ กลาักรแ3สปวรงะหกาาแรลคะดอื ําเนินชวี ติ อย่างมคี ณุ ค่าและความหมาย สิ่งคแววาดมลห้อม2มา.1หย.นห้านท้า่ีตท่อี่ตผ่อู้อพื่นระไเดจ้แ้าก/ศ่ กาสารนเาคาไรดพ้แกใ่หก้เากรียแรสตวิ ชง่หวยาเแหลละือดผําู้อเนื่นินรชวีวมิตถอึงยก่าางรมดีคูแุณลสคัง่าคแมลแะละ จิตจสวิตง่ิ ญิ แววิญญดญาลณห3าอ้ .ลณ32มห..ักหหนกน้นาา้า้ทารทท่ีลตี่ต่ีตู่กอ่อ่อเตผสตนู้อือนเ่ืนไอเทอไงยงดไ้มแไดกีด5้แ่ ้แกขกกา้อ่ ่รพพเคคัฒัฒือานนรพาาตตในนหเ้เเกออียงงทรทตั้ง้ังิดดช้า้า่วนนยรเร่หา่างลงกือกาผายู้อยื่นจจิตริตวใจมใจถอึงาอกราามรรณมดูแณ์ สล์ ัสงสคังังคมคมมแแลลแะะละ 1. มศี าสนาเปน็ หลกั ยดึ ทางใจ 2. จงรักภกั ดตี ่อพระมหากษตั ริยแ์ ละประเทศชาติ 166 คู่มือสง่ เสริมและพฒั นากจิ กรรมลกู เสอื ทกั ษะชวี ิตในสถานศกึ ษา ลกู เสอื สารอง ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 212622 คมู่ ือสค่งู่มเสือรสมิ ง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกัฒจิ กนรารกมจิ ลกูกรเรสมือลทกูกั เษสะอื ชทีวกั ติ ษในะสชถีวาิตนในศกึสษถาานปศรกึะเษภาทลลูกกู เเสสือือสสาามมญั ญั รรุ่นนุ่ ใใหหญญ่ ่ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
3. เข้าร่วมพัฒนาสังคม ยอมรับ เคารพในเกียรติและศักด์ิศรีผู้อื่นและเพื่อนมนุษย์ทุกคน รวมทัง้ ธรรมชาติ และสรรพสิ่งทัง้ หลายในโลก 4. รบั ผิดชอบตอ่ การพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่อื ง 5. ยึดมัน่ ในคาํ ปฏิญาณและกฎของลูกเสอื วิธีการลกู เสือ (Scout method) วธิ ีการลกู เสอื โลก มี 8 องคป์ ระกอบ โดยแบง่ ออกเป็น 3 กลุม่ คือ กลุ่มที่ 1 ผ้ใู หญ่มหี นา้ ทีช่ ว่ ยเหลือและส่งเสรมิ เยาวชนให้เกดิ การเรยี นรใู้ นกลมุ่ กลมุ่ ที่ 2 มกี ิจกรรมที่บรรลวุ ตั ถปุ ระสงคใ์ นการพฒั นาเยาวชนอย่างตอ่ เนอื่ งและเป็นระบบ กลุ่มที่ 3 เป็นลกั ษณะกิจกรรมที่ใช้ มี 6 องคป์ ระกอบ 1. ยดึ ม่นั ในคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสอื 2. ใช้ระบบสัญลักษณ์เป็นแรงกระตุ้นไปสเู่ ปา้ หมายในการพัฒนาตนเอง 3. ระบบหมู่ (กล่มุ เรียนรรู้ ว่ มกัน) 4. เรยี นรู้ใกล้ชดิ ธรรมชาติ 5. เรยี นรจู้ ากการลงมอื ปฏบิ ัติ / เกม 6. เรยี นรจู้ ากการบรกิ ารผอู้ น่ื วธิ ีการลูกเสอื ไทย ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน 2551 มี 7 องค์ประกอบ คอื 1. ความกา้ วหน้าในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม 2. การสนับสนุนโดยผใู้ หญ่ 3. ยึดมน่ั ในคาํ ปฏญิ าณและกฎ 4. การใชส้ ัญลักษณ์ร่วมกัน 5. ระบบหมู่ 6. การศึกษาธรรมชาติ 7. เรียนรู้จากการกระทํา วธิ ีการลูกเสือสรา้ งทกั ษะชีวิตได้อยา่ งไร วิธกี ารลูกเสือ มีองค์ประกอบครบทั้ง 5 ประการ ของกระบวนการเรียนการสอนที่ยดึ ผูเ้ รียนเป็น ศูนย์กลาง การสรา้ งทักษะชีวติ ทั้ง 12 องคป์ ระกอบ เกดิ ข้ึนดว้ ยกจิ กรรมดังตารางต่อไปนี้ คมู่ อื สง่ เสรมิ และพฒั นาคก่มู ิจอื กสร่งรเมสลรมิกู แเสลือะพทกัฒั ษนะาชกีวจิ ติ กใรนรมสลถกูาเนสศอื ึกทษกั าษะลชกู ีวเิตสใอื นสสาถมาัญนรศุน่ึกใษหาญป่ รชะ้ันเภมทัธลยูกมเสศือกึ สษาามปญั ีทรี่ นุ่1ใหญ่ 222317 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1
วิธีการลูกเสือสร้างทักษะชวี ิตได้อยา่ งไร วิธกี ารลกู เสือ มอี งคป์ ระกอบครบทั้ง 5 ประการ ของกระบวนการเรียนการสอนที่ยึดผู้เรียน เปน็ ศนู ยก์ ลาง การสรา้ งทักษะชีวิตท้งั 12 องคป์ ระกอบ เกดิ ข้นึ ดว้ ยกิจกรรมดงั ตารางตอ่ ไปนี้ วัตถปุ ระสงคค์ ณะลกู เสอื แหง่ ชาติ (พระราชบญั ญตั ิลูกเสอื พ.ศ. 2551 มาตรา 8) วัตถุประเสพงื่อคพค์ ัฒณนะาลลูกกู เเสสือือทแ้ังหทาง่ งชกาาตยิ (สพตริปะรัญาชญบาญั จญิตตั ใจิลกู แเสลือะศพีล.ธศร. ร2ม55ใ1ห้มเปา็นตรพาล8เม) ืองดี มีความ รับผิดชเพอบอ่ื พแัฒละนชา่วลยูกสเสร้าืองทสั้งรทราคง์สกังาคยมสใหต้ปิเกัญิดญควาาจมติ สใาจมแัคลคะี ศแีลธะรมรีคมวาใหม้เปจร็นิญพกล้าเมวหอื งนด้าี มทีคั้งวนาี้เมพร่ือับคผวดิ าชมอบ แลสะงชบว่ สยขุ สรแา้ ลงะสครวราคมส์ มังน่ัคคมงใขหอ้เกงปิดคระวเาทมศสชาามตคั ิ ตคาี แมลแะนมวีคทวาางมดเงัจตรอ่ิญไกป้านว้ี หนา้ ทงั้ น้ีเพอ่ื ความสงบสขุ และความ ม่ันคงของป1ร.ะเใทหศม้ ชีนาสิ ตัยิ ชตา่างมสแังนเกวตทาจงดดจงั าํ ตอ่เชไ่ือปฟนงัี้ และพ่งึ ตนเอง 1.2ใ.หใ้มหีนซ้ สิ่ือยัสชตั ่ายงส์ สจุ งั รเติกตมีรจะดเบจํายี บเชว่อืนิ ฟยั ังแลแะลเะหพ็นงึ่อตกนเหเอ็นงใจผูอ้ น่ื 2.3ใ.หใ้ซห่ือ้รจู้สกัตั บยํา์สเุจพร็ญติ ตมนีรเะพเบ่ือยีสบาธวาินรยัณแปลระะเหโย็นชอนก์ เห็นใจผอู้ ื่น 3.4ใ.หใ้รห้จู ้รักจู้ บักาํทเาํพก็ญารตฝนีมเพือื่อแสลาะธฝาึกรฝณนปใหระท้ โาํยกชจิ นก์ ารต่าง ๆ ตามความเหมาะสม 4.5ใ.หใร้หู้จร้ กั จู้ ทกั ํารกกั ษาราฝแีมลอืะสแ่งลเสะรฝมิ ึกจฝานรใีตหปท้ ราํะกเพจิ ณกาี วรัฒต่านงธๆรรมตาแมลคะวคาวมาเมหมมน่ั าคะงสขมองประเทศชาติ หลักสตู5.รใลหกู ้รู้จเสักรอื ักเษสารแมิ ลสะสร่งา้ เงสทริมกั จษาระตีชปวี ริตะเพณี วฒั นธรรม และความมนั่ คงของประเทศชาติ หลกั สตู รลหกู ลเักสสือูตรเสลูกรเิมสือสเรส้าริมงทสรกั ้างษทะกั ชษวี ะติชีวิตได้ใช้ขอ้ บงั คับคณะลูกเสือแหง่ ชาตวิ า่ ดว้ ยการปกครอง หลักสตู รหแลลักะสวูตชิ ารชลพีูกเพสเิ ือศเษสลรกูิมเสสรือ้าสงําทรักอษง ะสชาีวมิตญั ไดส้ใาชม้ขญั ้อรบ่นุ ังใคหับญค่ แณละะลวูกสิ เาสมือัญแหเป่ง็นชหาตลิวกั ่าแดล้วะยเกพาิ่มรเปนกื้อคหราอง หลทกั ่ีสสอูตดรคแลลอ้ ะงวกิชับาปชญัีพพหิเาศตษามลูกวยัเสแือลสะําพรฒั อนง าสกาามรัญดา้ นสาตมา่ งัญๆรุ่นขใอหงญลู่กแเลสะอื วโิสดายมจัญัดหเปน็น่วยหกลิจักกแรลรมะเตพา่ิมมเทนี่รื้อะหบาุ ที่ สอดคล้องกับปัญหาตามวัยและพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกเสือ โดยจัดหน่วยกิจกรรมตามท่ีระบุใน หลัก1ส6ตู 8รของคลูม่ กู อื เสสง่ ือเสแรตมิ ่ลแะลปะพรัฒะเนภาทกจิ ดกังรนรมั้นลชกู เอ่ื สหอื นทักว่ ษยะกชิจีวกิตรในรมสถแาลนะศจึกาํษนาวลนกู หเสนอื ่วสายรกอิจงกชร้นั รปมรขะถอมงศลกึ ูกษเาสปือที แ่ี ต1 ่ละ ประเภทจึงแตกต่างกัน แผนการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตในคู่มือชุดน้ี ได้ออกแบบโดยบูรณาการ กิจกรรมท่ีเสริมสร้างทักษะชีวิตเข้ากับวิธีการลูกเสือ คือการใช้ระบบหมู่หรือกลุ่มย่อย โดยให้เด็กเป็น 212824 คู่มอื สค่ง่มู เสอื รสิมง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกฒั จิ กนรารกมจิ ลกูกรเรสมอื ลทกูักเษสะือชทวี กั ิตษในะสชถวี าติ นในศกึสษถาานปศรกึะเษภาทลลูกกู เเสสอือื สสาามมัญญั รรุ่นุน่ ใใหหญญ่ ่ ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1
ศูนย์กลาง และมผี ใู้ หญท่ าํ หนา้ ทีช่ ว่ ยเหลือและสง่ เสรมิ ใหเ้ กิดกระบวนการเรียนรู้ในกลุ่ม แนะนํา ส่ังสอน และฝกึ อบรมใหส้ ามารถพง่ึ ตนเองได้ มีจติ อาสา รับผิดชอบต่อส่วนรวม ยดึ มั่นในคาํ ปฏิญาณและกฎของ ลกู เสือ เสริมสร้างคุณค่าในตนเอง รวมทงั้ ใชร้ ะบบเคร่ืองหมายหรอื สัญลกั ษณ์ทางลูกเสือและเครือ่ งหมาย วิชาพเิ ศษ เปน็ แรงกระตนุ้ ไปสูเ่ ปา้ หมายในการพัฒนาตนเอง องค์ประกอบในการประชุมกอง เน้นการใช้ชีวิตกลางแจ้ง นอกห้องเรียน ใกล้ชิดธรรมชาติ เรยี นรจู้ ากการลงมือปฏิบัตดิ ว้ ยตนเอง เกม และการบริการผู้อื่น ซึ่งถือเป็นหัวใจของกิจกรรมลูกเสือทุก ประเภท โดยกจิ กรรมทใ่ี ช้ แบ่งออกเปน็ 5 ประเภท คอื การแสดงออก การรายงานและการสํารวจ การ วิเคราะห์และการประเมิน เกมและการแข่งขัน การบําเพ็ญประโยชน์ การออกแบบกิจกรรมเพื่อให้ ลูกเสือใช้กระบวนการกลุ่มในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แลกเปลี่ยนความคิดความเช่ือ สร้างองค์ ความรแู้ ละสรปุ ความคดิ รวบยอด รวมทงั้ เปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ประยุกตใ์ ช้สง่ิ ท่ีไดเ้ รยี นร้อู ีกดว้ ย เน้ือหาสาระในแผนการจัดกจิ กรรมแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 3 กล่มุ ประกอบด้วย 1.กจิ กรรมตามขอ้ บงั คบั ของคณะลูกเสอื แห่งชาติ (ไม่รวมกิจกรรมทดสอบเพ่ือรับเคร่ืองหมาย หรือสัญลกั ษณ์ทางลูกเสือและเครือ่ งหมายวิชาพิเศษ) 2. กิจกรรมตามข้อบังคับของคณะลูกเสือแห่งชาติท่ีช่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตด้านคุณธรรม จริยธรรม ความภาคภูมิใจในตนเอง ความรับผดิ ชอบต่อส่วนรวม 3.กจิ กรรมเสริมสร้างทักษะชีวิต เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคมต่อเหตุการณ์และสภาพปัญหา ของเด็กแตล่ ะวยั สําหรับกิจกรรมลูกเสือตามข้อบังคับ เพื่อการขอรับเคร่ืองหมายลูกเสือชั้นพิเศษ และ เคร่อื งหมายลูกเสอื หลวง ไมไ่ ดน้ าํ มารวบรวมไวใ้ นคมู่ ือการจัดกิจกรรมลูกเสอื ชดุ น้ี คู่มือมีจํานวน 11 เล่ม ตามช้ันปีของลูกเสือ 4 ประเภท แต่ละเล่ม ได้จัดทําตารางหน่วย กิจกรรม และแผนการจัดกิจกรรมครบ 40 ช่ัวโมง เพ่ือให้เห็นภาพรวมของการจัดกิจกรรมลูกเสือ เสรมิ สร้างทักษะชีวิตของลูกเสือในแต่ละระดับช้ัน และมีหมายเหตุบอกไว้ในตารางช่องขวาสุด ว่าเป็น แผนการจดั กิจกรรมเสรมิ สรา้ งทกั ษะชีวิต แผนการจดั กจิ กรรมประกอบด้วย จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา ส่ือการเรียนรู้ กิจกรรม การ ประเมินผล องค์ประกอบทักษะชีวิตสําคัญท่ีเกิดจากกิจกรรม และภาคผนวกประกอบแผนการจัด กิจกรรม (เพลง เกม ใบงาน ใบความรู้ เร่ืองทเ่ี ป็นประโยชน)์ ภาพรวมการพัฒนาหลกั สตู รลกู เสอื เสรมิ สร้างทกั ษะชวี ติ 1. เริ่มจากการศกึ ษาเอกสาร งานวิจัย หลักสูตรลกู เสือไทยและต่างประเทศ รวมท้ังสัมภาษณ์ ผเู้ ช่ียวชาญด้านลกู เสือ 2. สัมมนาครู ผูป้ กครอง นักพัฒนาเยาวชน และผ้เู ช่ียวชาญด้านกิจกรรมเดก็ และเยาวชน เพ่ือ ร่วมกนั คน้ หาปัญหาจริงของเดก็ แต่ละวยั และออกแบบกจิ กรรมท่ีเหมาะสม คมู่ ือสง่ เสริมและพัฒนาคกู่มจิ อื กสร่งรเมสลริมกู แเสลอืะพทักัฒษนะาชกีวจิ ิตกใรนรมสลถูกาเนสศือกึทษักาษะลชูกวี เิตสใือนสสาถมาัญนรศุน่กึ ใษหาญป่ รชะ้ันเภมทธั ลยูกมเสศอื ึกสษาามปญั ีทร่ี นุ่1ใหญ่ 222519 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1
3. จัดทําคู่มือการจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิต 4 ประเภท ได้แก่ ลูกเสือสํารอง ลูกเสอื สามัญ ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญแ่ ละลกู เสือวิสามญั รวมทัง้ สน้ิ 11 เล่ม โดยผ่านการประเมิน ปรับปรุง และพฒั นา จนเป็นทย่ี อมรบั และนาํ ไปใช้ในสถานศกึ ษาจํานวนมาก 4. จัดทําหลักสูตรการฝึกอบรมผู้กํากับลูกเสือสํารอง ลูกเสือสามัญ ลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่และ ลูกเสือวิสามัญ ขั้นความรู้เบื้องต้น และขั้นความรู้ช้ันสูง รวม 8 ประเภท โดยได้รับการอนุมัติจาก คณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ ในการประชุม ครั้งที่ 2/2557 เม่ือวันท่ี 22 กันยายน 2557 ให้ใช้ เป็นหลักสตู รการฝึกอบรมผกู้ ํากบั ลูกเสอื ของสํานักงานลกู เสือแห่งชาติ 5. จัดทาํ คู่มือฝกึ อบรมวทิ ยากรลกู เสือเสริมสรา้ งทกั ษะชีวติ เพื่อขยายผลในการสร้างวิทยากร และฝกึ อบรมผกู้ าํ กับลกู เสอื ในสถานศกึ ษาทัว่ ประเทศ 222026 คมู่ ือสค่งู่มเสือรสมิ ง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกัฒิจกนรารกมิจลกูกรเรสมอื ลทกูกั เษสะือชทีวกั ติ ษในะสชถีวาติ นในศกึสษถาานปศรึกะเษภาทลลูกูกเเสสืออื สสาามมัญญั รรุน่ ่นุ ใใหหญญ่ ่ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ภาคผนวก ข กจิ กรรมลูกเสอื เสริมสร้างทักษะชีวิต การจัดกิจกรรมลูกเสือเสริมสร้างทักษะชีวิตนั้น ยังคงหลักการ และวิธีการของลูกเสือไว้ ทุก ประการ แตเ่ นน้ การสอดแทรกการเรยี นรู้ทักษะชีวติ เพ่ิมเข้าไปดว้ ยเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ที่รอบด้าน และครอบคลมุ การดํารงชวี ติ ในปัจจุบนั คุณค่าของสือ่ การเรยี นการสอนประเภทกจิ กรรม ส่ือการเรียนการสอนประเภทกิจกรรม เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ให้ผู้เรียนได้ มีโอกาส เรียนรู้ประสบการณ์ตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง ผ่านการทํากิจกรรมรว่ มกนั ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้จากประสบการณ์ของ เพื่อนในกลุ่ม ทําให้สามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง การออกแบบกิจกรรมจะต้องกระตุ้นให้ ผเู้ รยี นเกดิ ความสนใจ และรว่ มมอื ในการทาํ กจิ กรรมทก่ี าํ หนดใหอ้ ยา่ งเตม็ ที่ จงึ จะเกดิ การเรยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งมี ประสิทธภิ าพ ผลทเี่ กดิ ขน้ึ ตอ่ ผเู้ รียนมีดังน้ี 1. สง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนกลา้ แสดงออกและทาํ งานร่วมกบั ผู้อื่นได้ 2. เกิดความสนกุ สนานเพลดิ เพลิน ซ่งึ เป็นลกั ษณะเฉพาะของสื่อการสอนประเภทกจิ กรรม 3. เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รยี นมสี ่วนร่วมในการกําหนดขอบขา่ ย เนอื้ หา และวัตถปุ ระสงค์ 4. ผเู้ รียนได้ฝึกฝน พฤติกรรมการเรียนรู้ทั้งทางด้านความรู้ เจตคติ และทักษะ รวมทั้งความคิด สร้างสรรค์ และจินตนาการด้วย ประเภทของกจิ กรรมลูกเสอื เสรมิ สร้างทักษะชีวิต เมือ่ จัดประเภทตามทักษะ/ความสามารถ ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม แบ่งออกไดเ้ ปน็ 5 ประเภท คือ 1. กิจกรรมการแสดงออก เป็นกิจกรรมทเี่ ปิดโอกาสให้ลูกเสือได้ใช้ความสามารถในการแสดงออก แสดงความคิดสรา้ งสรรค์ จินตนาการในรูปแบบต่าง ๆ ซงึ่ มกั จะเปน็ การจําลองประสบการณ์ต่าง ๆ มาเพื่อ การเรียนรูไ้ ดง้ า่ ยและสะดวกขน้ึ หรอื เป็นสิ่งที่ใช้แทนประสบการณ์จริง เพราะศาสตร์ต่างๆ ในโลก มีมาก เกินกวา่ ทจี่ ะเรียนรู้ได้หมดส้ินจากประสบการณ์ตรงในชีวิต และบางกรณีก็อยู่ในอดีต หรือซับซ้อนเร้นลับ หรือเปน็ อันตราย ไม่สะดวกต่อการเรยี นร้จู ากประสบการณจ์ รงิ ตัวอยา่ งกจิ กรรม เชน่ 1.1 สถานการณ์จําลอง เป็นการจัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากที่สุด เพอื่ ให้ผ้เู รียนได้ฝกึ ฝน แกป้ ัญหาและตดั สินใจจากสภาพการณ์ทกี่ ําลังเผชิญอยนู่ ัน้ แล้วนาํ ประสบการณแ์ หง่ ความสาํ เรจ็ ไปเปน็ แนวทางในการแก้ปญั หา 1.2 การสาธิต กระบวนการท่ีผสู้ อนช่วยใหผ้ เู้ รียนได้เกดิ การเรยี นรู้ตามวัตถปุ ระสงค์ โดยการแสดง หรอื กระทําใหด้ เู ปน็ ตัวอย่าง ใหค้ วามสําคญั กับกระบวนการทั้งหมดทผ่ี ู้เรยี นจะตอ้ งเฝ้าสงั เกตอยู่โดยตลอด 1.3 เล่านิทาน 1.3 เล่านทิ าน ค่มู ือสง่ เสริมและพฒั นาคกมู่ ิจอื กสรง่ รเมสลริมูกแเสลอืะพทักัฒษนะาชกีวิจติ กใรนรมสลถกูาเนสศือึกทษักาษะลชกู วี เิตสใือนสสาถมาญั นรศุ่นกึ ใษหาญป่ รชะน้ัเภมทธั ลยกู มเสศือกึ สษาามปญั ีทรี่ ุน่1ใหญ่ 222721 ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
1.4 ละคร หนุ่ จําลอง 1.5 เพลง ดนตรี การเคล่ือนไหวตามจงั หวะดนตรี หมายถึง กิจกรรมท่ีเน้นการใช้ดนตรีเป็นส่ือใน การเรยี นรูท้ ัง้ ในแง่เน้อื หาและความบันเทงิ ผ่อนคลาย และเข้าถึงวัฒนธรรมตา่ ง ๆ 1.6 ศิลปะ แขนงอ่ืน ๆ เชน่ การวาดรูป การปน้ั ดินเหนยี ว งานหัตถกรรม การร้อยดอกไม้ 1.7 การโตว้ าที ฯลฯ 2. กิจกรรมการการสํารวจและการรายงาน เปน็ กิจกรรมทเี่ น้นให้ลกู เสือไดเ้ รยี นรูจ้ ากความเป็นจรงิ /เหตุการณ์จริง ในชีวิตประจําวัน ผ่านประสบการณ์ตรงด้วยตนเอง ซ่ึงเป็นรากฐานสําคัญของการศึกษา เชน่ การทาํ แผนที่ การสํารวจ หมายถึง การเรยี นร้ผู ่านสถานการณ์จริงด้วยการลงพื้นที่สํารวจ และจําลอง สิ่งทไี่ ด้เรยี นรู้สู่แผนที่ ภาพ หรือสัญลกั ษณ์ เพอ่ื แสดงความคิดรวบยอดของสิ่งทีไ่ ด้เรียนร้นู ้ัน ตัวอยา่ งกจิ กรรม เชน่ การสัมภาษณ์ การเป็นผู้สอ่ื ข่าว การทาํ สารคดี การศึกษานอกสถานที่ ชุมชนศกึ ษา การผลิตส่อื การทําปูม ชวี ิตบุคคลตวั อย่าง การจัดนิทรรศการ การสอดแนม การสํารวจ การทาํ แผนท่ี การเขียนเรียงความการเล่า เร่อื ง ฯลฯ 3. กิจกรรมการวเิ คราะห์และการประเมิน เปน็ การเรียนรู้ทเ่ี กดิ จากการแลกเปล่ยี นความคิดเหน็ และ รว่ มกันวิเคราะห/์ ประเมนิ สิ่งต่างๆทีเ่ กดิ ขึน้ ตวั อย่างกิจกรรม เชน่ การเปรียบเทยี บคุณคา่ การประเมินความเสยี่ ง การทาํ แผนทค่ี วามคิด ฯลฯ 4. การเล่นเกมและการแขง่ ขนั 4.1 เกม เป็น กิจกรรมทมี่ ีกฎกติกา และลาํ ดับขั้นตอน ท่ีเอื้อให้ลูกเสือเกิดการเรียนรู้ผ่าน การเล่นเกม ใหข้ ้อคดิ ที่สอดคล้องกับผลการเรยี นร้ทู ี่ตอ้ งการ เชน่ เกมกระซบิ เป็นต้น 4.2 การแข่งขัน เปน็ กิจกรรมท่ีมีกติกาในการแข่งขัน และมีการตัดสินหาผู้ชนะ เช่น การ ตอบปญั หาในเร่ืองตา่ ง ๆ เพอ่ื กระตุ้นใหเ้ กดิ ความสนใจใฝร่ มู้ ากขึ้น ฯลฯ 5. กิจกรรมบาํ เพ็ญประโยชน์ เป็นกจิ กรรมสรา้ งสรรคท์ ี่เนน้ การฝึกความเสียสละของลูกเสือ ได้แก่ การจัดกจิ กรรมการกศุ ล การซ่อมของเล่นให้น้อง การดูแลทําความสะอาดสถานที่ การปลูกและดูแลต้นไม้ การเกบ็ ผกั จากแปลงไปประกอบอาหารเล้ยี งนอ้ ง ฯลฯ หลกั การออกแบบกิจกรรม 1. การเลอื กประเภทของกจิ กรรม ต้องสอดคลอ้ งกบั ผลการเรยี นรู้ทีต่ ้องการ เช่น ผลการเรยี นรดู้ ้านพทุ ธิพสิ ยั มักเลอื กใช้ กิจกรรมการวเิ คราะห์และการประเมนิ การรายงาน และ การแขง่ ขนั ตอบปญั หาในเรือ่ งเนือ้ หาท่ีต้องการใหเ้ รียนรู้ เป็นตน้ ผลการเรียนรู้ด้านจิตพิสัย มักเลือกกิจกรรมท่ีสร้างความรู้สึกที่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่ ตอ้ งการ เชน่ กิจกรรมการแสดงออก เกม กจิ กรรมบาํ เพญ็ ประโยชน์ เปน็ ตน้ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะพิสัย ถ้าเป็นทักษะทางสติปัญญานิยมใช้กิจกรรมการวิเคราะห์ และ ประเมนิ ส่วนทักษะทางกายภาพ เลอื กได้เกือบทุกประเภท 222228 ค่มู ือสค่งมู่ เสอื รสิมง่ แเสลระมิพแัฒลนะาพกฒั ิจกนรารกมจิ ลกกู รเรสมอื ลทกูักเษสะอื ชทีวักิตษในะสชถีวาิตนในศกึสษถาานปศรึกะเษภาทลลกููกเเสสือือสสาามมญั ญั รรนุ่ ุน่ ใใหหญญ่ ่ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
2. การตั้งประเด็นอภิปราย เพ่ือให้ลูกเสือได้ร่วมอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ในเร่ืองท่ี สอดคล้องกบั ผลการเรยี นรทู้ ีต่ อ้ งการ เช่น ผลการเรยี นรูด้ ้านพุทธิพสิ ยั ต้ังประเดน็ ให้ วิเคราะห์ /สังเคราะห์ /ประเมิน เน้ือหาที่ต้องการให้ ผ้เู รียนเกดิ ความเข้าใจอย่างถอ่ งแท้ เกดิ ความคดิ รวบยอดทีช่ ัดเจน และสามารถนาํ ไปประยกุ ตใ์ ช้ได้จริง ผลการเรียนรู้ด้านจิตพิสัย ต้ังประเด็นให้เกิดการโต้แย้งกันด้วยเหตุผลในเรื่องความคิดความ เช่ือ ทเี่ ก่ยี วข้องกับเจตคติท่ีต้องการ เพ่ือให้สมาชิกแต่ละคนได้มีโอกาสตรวจสอบความคิดความเช่ือของ ตนเอง ท่แี ตกต่างจากคนอืน่ ทาํ ใหเ้ กิดการปรับเปลยี่ นความคิดความเช่ือจากการโต้แย้งกันด้วยเหตุผลใน กระบวนการกลุ่ม ผลการเรียนร้ดู า้ นทกั ษะพิสัย ตงั้ ประเด็นให้เกิดความเข้าใจอยา่ งถอ่ งแทใ้ นขน้ั ตอนการทาํ ทักษะ น้นั ๆ เชน่ การวเิ คราะห์ความครบถ้วนในการทําตามข้ันตอนของทักษะ การวิเคราะห์จุดอ่อน ท่ีมักจะทํา ทกั ษะนั้น ๆ ไมส่ ําเรจ็ เปน็ ต้น 3. การสรปุ ความคิดรวบยอดและประยกุ ต์ใช้ ทกุ กิจกรรมควรมีการสรุปความคิดรวบยอดท่ีเกิดขึ้น ให้ชัดเจน และเปิดโอกาสใหไ้ ด้ลองประยุกต์ใช้ ไดแ้ ก่ ผลการเรียนรู้ด้านพุทธิพิสัย ความคิดรวบยอดคือเน้ือหา องค์ความรู้ท่ีต้องการให้เกิดขึ้น ประยกุ ต์ใช้โดยผลิตซ้าํ ความคิดรวบยอดในรูปแบบท่ตี า่ งจากเดมิ เช่น การทํารายงาน ทาํ สรปุ ยอ่ ฯลฯ ผลการเรยี นรู้ด้านจิตพิสัย ความคิดรวบยอดไม่มีเนื้อหา แต่เป็นความรู้สึกและความคิดความ เชอ่ื ที่เกดิ ขน้ึ ภายในตัวผูเ้ รียน ประยุกต์โดยการแสดงออกที่สอดคล้องกับเจตคติท่ีเกิด เช่น การกระทําท่ี แสดงออกถงึ ความซื่อสตั ย์ การกระทาํ ทแ่ี สดงออกถงึ ความเป็นสภุ าพบุรุษ สุภาพสตรี เป็นต้น ผลการเรยี นร้ดู ้านทกั ษะพิสยั ความคิดรวบยอดท่เี กดิ คอื ความเขา้ ใจขนั้ ตอนและทําทักษะนน้ั ๆ ได้ ประยกุ ตโ์ ดยการฝึกฝนทกั ษะนน้ั จนชํานาญ คมู่ อื สง่ เสริมและพัฒนาคกมู่ จิ อื กสร่งรเมสลรมิูกแเสลอืะพทักัฒษนะาชกวีจิ ติ กใรนรมสลถกูาเนสศือกึทษักาษะลชูกวี เติสใอื นสสาถมาัญนรศนุ่กึ ใษหาญป่ รชะน้ัเภมทัธลยกู มเสศือกึ สษาามปัญีทรี่ นุ่1ใหญ่ 222923 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 1
ภาคผนวก ค แนวปฏิบตั กิ ารสอบวิชาพิเศษ ใหโ้ รงเรียนดําเนินการแตง่ ตงั้ กรรมการ เพอื่ ดาํ เนนิ ารสอนและสอบวิชาพเิ ศษ โดยออกคาํ สัง่ ใน นามโรงเรยี น เมอื่ ทําการสอนแลว้ ให้จดั สอบภาคทฤษฎี และ ภาคปฏิบตั ิ จากนัน้ ให้ทาํ เร่อื งขออนมุ ัติ ผลการสอบ และขอประดับเครือ่ งหมายวชิ าพเิ ศษ ไปยงั เลขาธกิ ารคณะกรรมการบรหิ ารลูกเสอื แหง่ ชาติ หรือผ้อู าํ นวยการลกู เสอื จงั หวดั แลว้ แต่กรณี ดงั นี้ 1. รายชื่อผ้เู ขา้ สอบ 2. ผูบ้ งั คบั บัญชาลูกเสอื ขออนุญาตสอบวชิ าพเิ ศษตอ่ ผอู้ ํานวยการลูกเสือโรงเรยี น 3. โรงเรยี นออกคาํ สั่งแตง่ ตั้งคณะกรรมการดาํ เนินการสอบ 4. สอบภาคทฤษฎี 5. สอบภาคปฏบิ ัติ 6. รายช่อื ลูกเสอื ท่สี อบได้ - ตก แต่ละรายวิชา 7. หนังสือขออนมุ ัติผลการสอบและขอประดบั เครอ่ื งหมายวชิ าพิเศษ สง่ ไปยงั สํานกั งานลกู เสอื เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาเพือ่ อนมุ ตั ิ 8. โรงเรยี นออกหนังสอื รบั รองใหก้ ับลกู เสือตามรายวชิ าท่ีสอบได้ 222430 คู่มอื สคง่ ่มู เสอื รสิมง่ แเสลระิมพแัฒลนะาพกฒั จิ กนรารกมิจลกูกรเรสมือลทูกักเษสะอื ชทีวักติ ษในะสชถวี าติ นในศกึสษถาานปศรกึะเษภาทลลกููกเเสสือือสสาามมัญัญรร่นุ ุ่นใใหหญญ่ ่ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
หนงั สือขออนุมตั ผิ ลการสอบวิชาพเิ ศษลกู เสอื – เนตรนารี สามัญร่นุ ใหญ่ ท่ี …………../…………………. โรงเรียน……………………………… วนั ท่ี……..เดือน……………………….พ.ศ………… เรอื่ ง ขออนุมัติผลการสอบวิชาพเิ ศษลูกเสือ – เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ และประดับเครื่องหมายวชิ าพเิ ศษ เรียน เลขาธิการคณะกรรมการบรหิ ารลกู เสอื แห่งชาติ / ผ้อู ํานวยการลกู เสือจังหวดั …………….. สิง่ ท่ีสง่ มาด้วย 1. คําส่ังแตง่ ตงั้ คณะกรรมการสอบวชิ าพเิ ศษ 2. รายชอื่ ลูกเสือ – เนตรนารี ท่สี อบวิชาพเิ ศษ 3. ขอ้ สอบภาคทฤษฎี 4. ข้อสอบภาคปฏบิ ตั ิ 5. โครงการ (ถ้าม)ี ดว้ ยโรงเรยี น……………………………ได้ทาํ การอบรมและสอบวิชาพเิ ศษ ลกู เสือ – เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ ใหแ้ กล่ ูกเสอื สามัญร่นุ ใหญ่ จาํ นวน ………คน เนตรนารีสามัญรุ่นใหญ่ จํานวน……..คน รวมทั้งสิน้ …………คน ต้ังแแตว่ ันท…่ี ……….เดือน……………………พ.ศ. …………….ถงึ วนั ท…ี่ .. เดือน……………………พ.ศ…………….. โดยทําการสอบวชิ าพิเศษ จํานวน………….วิชา ดังนี้ 1. วิชา………………………….. 2. วชิ า………………………….. 3. วชิ า………………………….. บัดน้ี คณะกรรมการได้ดําเนินการสอบวชิ าพเิ ศษ ลกู เสือ – เนตรนารสี ามญั รุ่นใหญ่ เปน็ ที่ เรยี บร้อยแลว้ ดงั รายละเอียดทีส่ ง่ มาพรอ้ มน้ี จงึ เรียนมาเพอื่ ขอไดโ้ ปรดพิจารณาอนมุ ตั ดิ ว้ ย จะเป็นพระคุณยิง่ ขอแสดงความนับถอื ( ……………………………………. ) ผู้อํานวยการโรงเรียน………………………………. คมู่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนาคกูม่ จิ อื กสรง่ รเมสลริมูกแเสลอืะพทักัฒษนะาชกีวิจติ กใรนรมสลถูกาเนสศือกึทษักาษะลชูกวี เิตสใือนสสาถมาญั นรศุ่นึกใษหาญป่ รชะ้ันเภมทธั ลยูกมเสศือึกสษาามปญั ที รี่ นุ่1ใหญ่ 232125 ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
โรงเรยี น……………………………………. รายช่อื ลกู เสอื – เนตรนารสี ามญั ร่นุ ใหญ่ท่สี อบวชิ าพเิ ศษ ลําดบั ชอ่ื –นามสกลุ ิวชา…………….…… ิว…ชา………………………….……… ิว……ชา……..………………………………….……………… ิิิิิิวววววว……………………………………ชชชชชชาาาาาา……………………………………..............…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......………………………………………………………………………………………………………………………………….......…………………....... ……..…………………………………….…. ………………………….. ……………………………. ……………………………… ………………………….. (……………………………..) (…………………………………….) (……………………………..) กรรมการ ประธานกรรมการ กรรมการ 222632 คมู่ ือสคง่ ูม่ เสอื รสิมง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกัฒจิ กนรารกมจิ ลกูกรเรสมอื ลทูกักเษสะอื ชทวี กั ิตษในะสชถีวาิตนในศึกสษถาานปศรึกะเษภาทลลูกกู เเสสืออื สสาามมญั ญั รรุ่นนุ่ ใใหหญญ่ ่ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
……………………….. คําสงั่ โรงเรยี น……………………………….. … ท่ี…………………./…………………. เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบวชิ าพิเศษลกู เสอื – เนตรนารีสามญั รุ่นใหญ่ ********************************************** เพ่อื ใหก้ ารสอบวิชาพเิ ศษลูกเสอื – เนตรนารี สามัญรุ่นใหญ่ จํานวน………………วชิ า ของ โรงเรยี น………………………………………….ซงึ่ ดาํ เนนิ การสอบ ณ……………………………………. ระหว่างวันท…่ี …….เดือน………………….พ.ศ. ถึง วันท…ี่ ………เดือน…………………พ.ศ………… เปน็ ไปดว้ ยความเรียบร้อย และไดผ้ ลสมความมุ่งหมายทกุ ประการ จึงแต่งตง้ั ให้ผูม้ นี ามตอ่ ไปน้ี เป็น คณะกรรมการ คือ 1. …………………………………………………. ประธานกรรมการ 2. …………………………………………………. รองประธานกรรมการ 3. …………………………………………………. กรรมการสอบวิชา…………………… 4. …………………………………………………. กรรมการสอบวชิ า…………………… 5. …………………………………………………. กรรมการสอบวิชา…………………… 6. …………………………………………………. กรรมการสอบวิชา…………………… 7. …………………………………………………. กรรมการสอบวิชา…………………… 8. …………………………………………………. กรรมการและเลขานกุ าร ท้ังนีต้ ้งั แต่บดั น้เี ปน็ ตน้ ไป ส่งั ณ วนั ท่ี ………. เดอื น ……………………………………..พ.ศ………………. (ลงชอ่ื ) ………………………………………….. (………………………………………...) ผอู้ าํ นวยการลูกเสอื โรงเรียน…………………………. คมู่ อื สง่ เสรมิ และพัฒนาคกมู่ ิจอื กสรง่ รเมสลริมกู แเสลอืะพทักัฒษนะาชกวีิจติ กใรนรมสลถกูาเนสศือกึทษกั าษะลชูกีวเิตสใอื นสสาถมาัญนรศุน่กึ ใษหาญป่ รชะ้นัเภมทัธลยูกมเสศอื กึ สษาามปัญีทร่ี ุ่น1ใหญ่ 232327 ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1
หนงั สือรบั รองผลการสอบวชิ าพิเศษลูกเสอื สามัญรุน่ ใหญ่ ท่ี ………………./……………………. โรงเรยี น……………………………… วนั ที่…………เดือน………………..พ.ศ……... ขอรับรองวา่ …………………………………….เปน็ ลกู เสือโรงเรียน…………………………… สอบได้วชิ าพเิ ศษลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่โดยการอนุมัติผลการสอบของสํานกั งานคณะกรรมการบรหิ าร ลูกเสอื แหง่ ชาติ ที่ ………………./…………….ลงวันที่ ………………………………………………… และได้แนบสําเนาหนงั สืออนมุ ตั ผิ ลมาด้วยแลว้ โดยสอบได้วิชาพเิ ศษ ดงั นี้ 1. …………………………………………… 2. …………………………………………… 3. …………………………………………… 4. …………………………………………… 5. …………………………………………… 6. …………………………………………… 7. …………………………………………… 8. …………………………………………… 9. …………………………………………… (ลงช่ือ)……………………………………. (…………………………………) ………………………………………………… 222834 คมู่ ือสคง่ ่มู เสอื รสมิ ง่ แเสลระิมพแฒั ลนะาพกฒั ิจกนรารกมิจลกกู รเรสมือลทูกักเษสะือชทวี ักิตษในะสชถีวาติ นในศกึสษถาานปศรกึะเษภาทลลูกูกเเสสอือื สสาามมญั ญั รรุน่ ุน่ ใใหหญญ่ ่ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 1 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
การเปิดและปิดประชุมกองลูกเสือสามัญรุน่ ใหญ่ (1) พธิ เี ปิดประชุมกอง 1. การชักธงขน้ึ 1.1 ผกู้ ํากับยนื ตรงหน้าเสาธง หา่ งจากเสาธงประมาณ 3 ก้าว รองผู้กํากบั ลูกเสอื ยนื หลังเสาธง ห่างประมาณ 1 ก้าว 1.2 ผกู้ าํ กับเรียกแถว \"กอง\" พร้อมกับใช้สญั ญาณมอื เรยี กแถวรปู ครง่ึ วงกลม (ม(มืออื แแบบทั้งทสงั้ อสงอขงา้ขง้าเงหเยหยี ยดยี ตดรตงรลงงลขงา้ ขง้าลงา่ ลง่าคงวคำ่�วฝ่ำ�าํ า่ ฝมา่ อื มเขือ้าเขห้าาหลา�ำ ลตําวั ตแัวกแวก่งปว่งรปะสราะสนากนันกดนั า้ นดา้หนนหา้ นช้าชๆ้า เๆปน็ เปรูปน็ รปู ครึง่ วงกลม) 1.3 ลูกเสือทุกคนรีบวิ่งมาเข้าแถวรูปครึ่งวงกลม (ลูกเสือหมู่แรกยืนด้านซ้ายมือ ของ ผู้กํากับ ฯ โดยนายหมู่หมู่แรกยืนเป็นแนวเดียวกับผู้กํากับ ฯ หมู่ที่ 2 และหมู่ต่อ ๆ ไปอยู่ ทางดา้ นซา้ ยมือของหมแู่ รกตามลําดบั รองนายหมู่ของหมสู่ ดุ ท้ายยืนอยเู่ ป็นเส้นตรงแนวเดยี วกบั ผกู้ ํากบั ฯ และนายหมหู่ มูแ่ รก โดยถอื วา่ ผูก้ ํากับ ฯ เปน็ จดุ ศูนยก์ ลาง ทุกคนอยู่ในท่าจัดแถว โดยการยกข้อศอก ซ้ายข้นึ มอื ทาบสะโพก นวิ้ ทั้งห้าเรยี งชิดตดิ กนั ช้ีลงล่าง และสะบัดหน้าทางขวา ยกเว้นรองนายหมู่หมู่ สดุ ท้ายไมต่ ้องยกขอ้ ศอกซา้ ย) 1.4 ผกู้ ํากับส่งั \"นิ่ง\" ลูกเสือทุกคนลดแขนลงพร้อมกับสะบัดหน้ามาอยู่ในท่าตรง ระยะเคยี งระหว่างบคุ คล 1 ชว่ งศอก ระยะเคยี งระหว่างหมู่ 1 ชว่ งแขน 1.5 ผู้กํากับส่ัง \"ตามระเบียบ, พัก\" (ลูกเสือทุกคนแยกเท้าซ้ายออกไปทางข้าง ประมาณ 30 เซนติเมตร หรือประมาณเกอื บครึ่งกา้ วปกติอย่างแขง็ แรงและองอาจ มือขวาท่ีถือไม้ง่ามให้ เลื่อน ข้ึนมาเสมอเอว แล้วดันไม้ง่ามไปข้างหน้า เฉียงไปข้างขวาประมาณ 45 องศา มือซ้ายไพล่หลัง โดยมือแบตามธรรมชาตนิ ิว้ เรยี งชดิ ติดกนั ) 1.6 ผู้กํากับส่ัง \"กอง, ตรง\" และผู้กํากับก้าวถอยหลังมายืนทางซ้ายหรือขวามือ และหันหน้าเขา้ หาเสาธง ลูกเสือทกุ คนดงึ ไม้ง่ามเขาหาลําตัว มอื ขวาอยู่ระดับเอว แล้วเลื่อนมือลงมาอยู่ ในท่าตรง พร้อมกับยกเท้ามาชิดเทา้ ขวา 1.7 ผู้กํากับสั่ง \"หมู่บริการชักธงข้ึน\" หมู่บริการฝากไม้ง่ามไว้กับคนข้างเคียง แล้ว วงิ่ ออกไปพรอ้ มกัน (ลกู เสือออกวิ่งด้วยเท้าซ้ายก่อน วางปลายเท้าลงบนพื้น พร้อมกันน้ันยกมือ ขน้ึ เสมอราวนมกาํ มอื และหันฝ่ามือเข้าหาตัว ยืดอกและศีรษะต้ังตรง ขณะว่ิงแกว่งแขนท่ีงอตามจังหวะ กา้ วไดพ้ อสมควร 1.8 ลูกเสือผู้ชักธงชาติท้ังสองวิ่งออกไปพร้อมกัน และหยุดยืนตรงหน้าเสาธง ประมาณ 3 ก้าว วนั ทยหัตถแ์ ละลดมือลงพร้อมกัน ลูกเสือคนทางขวามือก้าวไปข้างหน้า 2 ก้าวและชิด เทา้ แก้เชือกธง แลว้ กา้ วถอยหลงั 2 ก้าวกลับมายืนที่เดิม และชิดเท้ายืนตรง แยกเชือกส่งให้ลูกเสือคน ทางซา้ ยมอื (ธงชาติอยู่ทางขวามือของคนชกั ธงชาติเสมอ อย่าใหส้ ว่ นหน่งึ สว่ นใดของธงชาติแตะพ้นื เป็น อันขาด) คนทางซ้ายมือเป็นคนชักธงชาติ คนทางขวามือเป็นคนปล่อยเชือก ลูกเสือทั้งสองคนยืนตรง ในขณะท่ชี กั ธงชาติเชอื กทง้ั สองด้านตงึ ตลอดเวลา จนกวา่ ธงชาติจะขึ้นสูย่ อดเสา คมู่ อื สง่ เสริมและพัฒนาคกมู่ ิจือกสร่งรเมสลริมูกแเสลอืะพทกัฒั ษนะาชกีวิจิตกใรนรมสลถูกาเนสศอื กึทษักาษะลชกู วี เติสใือนสสาถมาญั นรศุน่กึ ใษหาญป่ รชะ้ันเภมทธั ลยกู มเสศอื ึกสษาามปัญที ร่ี ุน่1ใหญ่ 232529 ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1
1.9 ผู้กํากับสั่ง \"กอง, วันทยา-วุธ\" ผู้กํากับและรองผู้กํากับลูกเสือทุกคน วันทยหัตถ์ ลูกเสือทกุ คนวนั ทยาวธุ (ลูกเสอื ทําจังหวะเดยี ว โดยยกแขนซา้ ยขน้ึ มาเสมอไหล่ ศอกงอไป ข้างหน้าใหต้ ัง้ ฉากกบั ลาํ ตัว ฝา่ มือแบควํ่า รวบน้ิวหัวแม่มือกดทับนิ้วก้อยไว้ คงเหลือนิ้วชี้ น้ิวกลาง และ นวิ้ นาง เหยียดตรงและชิดกนั ให้ขอ้ แรกของน้ิวชี้แตะไมง้ ่ามในร่องไหล่ขวา 1.10 ลกู เสอื หมู่บรกิ ารคนหน่ึงนําร้องเพลงชาติ \"ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติ เชื้อไทย\" ผบู้ งั คบั บัญชาลกู เสือและลูกเสือทกุ คนร้องเพลงพรอ้ มกนั \"เปน็ ประชารัฐ ผไทของไทยทกุ ส่วน…..\" จนจบเพลง พอเร่มิ รอ้ งเพลงชาติให้ลูกเสือคนทางซ้ายมือดึงเชือกให้ธงชาติข้ึนสู่ยอดเสาอย่างช้า ๆ ให้ เชือกตงึ ส่วนคนทางขวามือค่อย ๆ ผ่อนเชือกให้ธงชาตขิ ึ้นและเชือกตึงเช่นเดียวกัน ผู้ชักธงชาติจะต้อง กะระยะว่าพอเพลงชาติจบ ให้ธงชาติถึงปลายเสาพอดี เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกเสือคนทางขวามือรับ เชือกจากลูกเสือทางซ้ายมือมารวมกัน แล้วก้าวออกไปข้างหน้า 2 ก้าว และชิดเท้ายืนตรงผูกเชือกธง ก้าวถอยหลัง 2 ก้าว และชิดเท้ากลับ มายืนตรงที่เดิม ลูกเสือท้ังสองยืนตรงวันทยหัตถ์และลดมือลง พร้อมกัน (ผู้บังคับบัญชาลกู เสือทุกคนลดมอื ลง) ลูกเสือทง้ั สองกลับหลงั หนั วง่ิ กลับมาเขา้ แถวในหมู่ของ ตน และรบี นาํ ไมง้ า่ มทฝี่ ากมาทาํ ทา่ วนั ทยาวธุ อยา่ งแขง็ แรงและองอาจเชน่ เดยี วกบั ลกู เสอื ในกอง (การกา้ ว เข้าไปผกู และแก้เชือกธง เร่มิ ต้นดว้ ยเท้าซา้ ย) 1.11ผูก้ ํากับสัง่ \"เรยี บ-อาวธุ \" ลกู เสือทกุ คนลดแขนซ้ายลงมาอย่ใู นท่าตรงโดยเรว็ 2. สวดมนต์ 2.1 ผกู้ ํากับส่ัง “ถอดหมวก” 2.2 ผกู้ าํ กับส่ัง \"หมู่บรกิ ารนาํ สวดมนต์\" ลกู เสือนาํ ไม้ง่ามมาไว้ระหวา่ งปลายเทา้ ทง้ั สอง แลว้ พงิ ทอ่ นบนไวก้ ับแขนซ้ายดา้ นในซง่ึ งอตรงศอกเสร็จแล้วใช้มือขวาจบั ทหี่ มวกดา้ นหน้าแล้วถอด หมวก พร้อมกับยกมือซ้ายขึ้นมาประกบกับมือขวาในท่าพนมมือ ให้ด้านในของหมวกหันไปทางซ้าย หนา้ หมวกหันเข้าหาตัว ให้หมวกอยู่ระหว่างฝ่ามือท้ังสองและหนีบหมวกไว้ ผู้บังคับบัญชาทุกคนถอด หมวกดว้ ย 2.3 ลกู เสือหมู่บริการคนหนึง่ ท่ีไดร้ ับมอบหมาย นําสวดมนต์ยอ่ ผู้บังคบั บัญชา ลูก เสอื และลูกเสือทกุ คนสวดมนต์ตามพร้อมกัน (สวดนาํ ) \"อรห สมมา สมพุทโธ ภควา\" (สวดตาม) \"อรห สมมา สมพุทโธ ภควา\" สวดนําและสวดตามจนจบ 3. สงบน่งิ 3.1 ผู้กํากับส่ัง \"สงบนิ่ง\" (ลูกเสือลดมือขวาที่ถือหมวกไปอยู่กึ่งกลางลําตัว แขน เหยียดตรง พรอ้ มกับวางฝ่ามอื ซ้ายทบั ลงบนหลงั มอื ขวา ก้มหนา้ เล็กน้อย) สงบนง่ิ ประมาณ 1 นาที 3.2 ผู้กาํ กับส่ัง \"สวมหมวก\" ลูกเสือเงยหน้าข้ึน สวมหมวก แล้วใช้มือขวาจับไม้ งา่ ม มาอยใู่ นท่าตรง 3.3 ผู้กาํ กบั ส่ัง \"กอง, ตามระเบยี บ, พกั \" ผกู้ ํากบั กา้ วเดนิ ไปยืนตรงที่หน้าเสาธง เช่นเดิม 232036 ค่มู ือสคง่ มู่ เสอื รสมิ ง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกัฒิจกนรารกมิจลกกู รเรสมอื ลทกูักเษสะอื ชทวี ักติ ษในะสชถีวาติ นในศึกสษถาานปศรกึะเษภาทลลูกูกเเสสอือื สสาามมัญัญรรนุ่ นุ่ ใใหหญญ่ ่ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
4. ตรวจ การตรวจมี 2 ประเภท คอื รองผ้กู าํ กบั ตรวจและนายหมู่ตรวจ โดยมีข้อเสนอแนะ ในการตรวจ ดังนี้ ก. ถ้าเป็นการตรวจในตอนเปิดประชุมกอง จะตรวจในเรื่องความสะอาด สุขภาพของรา่ งกาย อุปกรณ์ทผี่ ู้กํากับส่งั ใหเ้ อามาในการเรยี นการสอน ข. ถ้าเปน็ การตรวจในตอนปิดประชุมกอง จะตรวจเครื่องแบบเครื่องแต่งกาย เพราะลกู เสอื จะต้องเดินผ่านชุมชน ตลาด หากแต่งตัวไม่เรียบร้อยอาจจะ ถูกตําหนแิ ก่คนพบเห็นได้ 4.1 รองผู้กํากบั 4.1.1 ผกู้ ํากับสัง่ \"รองผกู้ ากบั ตรวจ เชือก \" รองผู้กาํ กบั ทกุ คนวงิ่ ออกไป หาผู้กาํ กับ วนั ทยหัตถ์และลดมือลง ผู้กาํ กับรับการเคารพด้วยวนั ทยหัตถ์และลดมือลงเม่ือรองผูก้ ํากับลด มอื ลง (รองผู้กาํ กับวิง่ ไปทําความเคารพผกู้ าํ กับก่อนตรวจน้ัน จะต้องพิจารณาจังหวะให้ดี อย่าทําความ เคารพพร้อมกัน) รองผู้กาํ กบั วง่ิ ไปตรวจหม่ลู กู เสือทันที 4.1.2 รองผู้กํากับหยุดยืนตรงข้ามนายหมู่ ห่างจากนายหมู่ประมาณ 3 ก้าว นายหมสู่ ่งั \"หมู่…..ตรง, วนั ทยา-วธุ \" ลกู เสอื ทุกคนวันทยาวุธ นายหมู่เรียบอาวุธ ก้าวออกไป 1 ก้าว วันทยาวุธ พร้อมกับกล่าวรายงาน \"หมู่…..พร้อมที่จะรับการตรวจแล้วครับ\" (รองผู้กํากับรับการ เคารพดว้ ยวันทยหตั ถ์เมอ่ื นายหมู่รายงาน และลดมือลงเมื่อรายงานจบ) นายหมเู่ รียบอาวธุ ก้าวถอยหลงั 1 กา้ วและชิดเทา้ มายนื ตรงท่ีเดมิ นายหมู่วนั ทยาวุธและส่ังลูกเสอื ในหมูต่ ่อไป \"เรยี บ-อาวุธ\" 4.1.3 รองผู้กํากับก้าวออกไปข้างหน้า 1 ก้าว และชิดเท้า ตรวจนายหมู่เป็น คนแรก 4.1.4 รองผู้กํากับสัง่ นายหมู่ \"เดนิ ตามข้าพเจ้า\" ตรวจลกู เสือคนแรกและคน ต่อ ๆ ไป การเดินตรวจ รองผู้กํากับก้าวเท้าขวาไปทางข้างขวา 1 ก้าว แล้วชักเท้าซ้ายไปชิดอย่าง แขง็ แรง ก่อนนายหมู่ก้าวไปทางขา้ งขวา ใหย้ กไม้ง่ามข้ึนประมาณ 1 คืบ ก้าวเท้าขวาไปทางข้างขวา 1 ก้าว แลว้ ชักเทา้ ซ้ายไปชดิ อย่างแข็งแรง แล้วต้ังไม้ง่ามลงกับพ้ืน ยืนในแนวเดียวกับรองผู้กํากับ ก้าว 1 ก้าวตรวจลูกเสือ 1 คน เมื่อตรวจลูกเสือถึงคนสุดท้ายแล้ว ให้นายหมู่ลูกเสือและรองผู้กํากับลูกเสือเดิน ยอ้ นกลบั ที่เดิมเหมอื นตอนแรก นายหม่ยู ืนตรงสง่ั \"วนั ทยา-วุธ\" และกล่าวว่า \"ขอบคุณครับ\" (ยืนอยู่กับ ท่ีไม่ต้องก้าวออกไป) รองผู้กํากับรับการเคารพด้วยวันทยหัตถ์และลดมือลง นายหมู่ส่ังต่อไป \"เรียบ- อาวุธ, ตามระเบยี บ, พัก\" 4.2 นายหมตู่ รวจ ในการประชุมกองลูกเสอื บางครง้ั รองผู้กาํ กับไม่มาจําเป็นตอ้ งใหน้ ายหมู่ตรวจ แทน แนวปฏิบัติ คือ ผู้กํากับสั่ง \"นายหมู่ตรวจ\" นายหมู่ทุกคนก้าวออกไปข้างหน้าหมู่ของตนเอง 3 ก้าว รองนายหมู่วิ่งอ้อมหลังหมู่มายืนแทนท่ีนายหมู่ และทําหน้าท่ีนายหมู่ และทําการตรวจแบบรองผู้ กํากับ ในขอ้ 4.1.4 โดยทําเหมอื นกับรองผกู้ ํากับทกุ ประการ คู่มือสง่ เสรมิ และพัฒนาคกู่มจิ อื กสร่งรเมสลริมกู แเสลอืะพทกััฒษนะาชกีวจิ ิตกใรนรมสลถูกาเนสศอื ึกทษกั าษะลชกู วี เิตสใือนสสาถมาัญนรศนุ่ึกใษหาญป่ รชะั้นเภมทัธลยกู มเสศือกึ สษาามปัญที รี่ ่นุ1ใหญ่ 232731 ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
4.3 การรายงานการตรวจ 4.3.1 รองผกู้ ํากบั รายงาน เมื่อนายหมูล่ กู เสือขอบงคุณรองผู้กาํ กับ ภายหลังการตรวจเรียบร้อยแล้ว รองผู้กํากบั กลบั หลงั หนั ทาํ วันทยหัตถ์ พรอ้ มกับกลา่ วรายงานตอ่ ผ้กู ํากบั วา่ \"ข้าพเจ้าได้รับมอบหมาย จากผ้กู ากบั ให้ไปตรวจ เชอื ก หมู่ ปรากฎว่า และไดต้ ักเตือนแลว้ , ครับ\" เสรจ็ แล้ววง่ิ กลบั มา ดา้ นหลังเสาธง รองผูก้ าํ กับคนต่อไปก็รายงานต่อ ๆ ไป (รองผู้กํากับเม่ือตรวจเสร็จแล้วให้รายงาน ผลการตรวจไดเ้ ลย ไมต่ อ้ งรอใหเ้ สรจ็ ทกุ หมกู่ อ่ นจงึ ค่อยรายงาน) 4.3.2 นายหมูล่ ูกเสือรายงาน เม่ือนายหมู่ลูกเสือคนใดตรวจเสร็จแล้ว ให้ยืนตรงหน้าหมู่ของตนเอง โดยหันหน้าไปหาผกู้ าํ กบั และรอให้นายหมู่ลูกเสอื ทกุ หม่ตู รวจเสรจ็ เรียบร้อยเสียกอ่ น เมอื่ นายหมลู่ กู เสือ ตรวจเสร็จเรยี บรอ้ ยทุกหมูแ่ ลว้ นายหมู่ลกู เสอื ทุกคนวิ่งออกไปเข้าแถวหน้ากระดานแถวเด่ียวตรงข้ามผู้ กาํ กบั พรอ้ มกัน ห่างจากผูก้ ํากับประมาณ 3 กา้ ว นายหมลู่ กู เสอื หมู่บริการยืนหัวแถว นายหมู่ลูกเสือหมู่ อืน่ ๆ เรียงไปตามลาํ ดับ โดยอยูใ่ นทา่ ตามระเบยี บพัก ผู้กํากบั ยนื ก่ึงกลางของแถว ผู้กํากับสั่ง \"นายหมู่รายงาน\" นายหมู่ลูกเสือหมู่บริการรายงานผลการตรวจเป็นคนแรก นายหมู่ลูกเสือยืนตรง, วันทยาวุธและเรียบอาวุธ ก้าวออกไปข้างหน้า 1 ก้าว หันหน้าไปหาผู้กํากับ วนั ทยาวุธ พร้อมกับกล่าวรายงาน \"ข้าพเจ้าได้รับมอบหมายจากผู้กากับให้ไปตรวจ เชือก หมู่ ปรากฎวา่ และไดแ้ นะนาให้ปรบั ปรุงแกไ้ ขแล้ว, ครับ\" เมอ่ื จบการรายงาน นายหมู่เรียบอาวุธ ถอย กลบั เข้าท่ี แล้วทําวนั ทยาวธุ แล้วเรียบอาวุธ, ตามระเบียบพัก นายหมู่คนอื่น ๆ ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน จนกระท่ังการรายงานผลการตรวจเสร็จเรียบร้อย ผู้กํากับส่ัง \"กลับที่เดิม-วิ่ง\" นายหมู่ทุกคนทํา วันทยาวุธและเรียบอาวุธพร้อมกัน กลับหลังหันมายืนในหมู่ของตนเองในตําแหน่งเดิม รองนายหมู่วิ่ง ออ้ มหลังหมกู่ ลบั มายืนทําหน้าท่ีรองนายหมู่ตามเดมิ 5. แยก ผู้กํากับสั่ง \"กอง-ตรง, กอง-แยก\" ลูกเสือทุกคนขวาหันแล้วแยกไปปฏิบัติ กิจกรรมอนื่ ต่อไป (2) เกม-เพลง เกมหรือการเล่นของลกู เสอื เปน็ อุปกรณ์ทีส่ าํ คัญท่ีสุดอย่างหนึ่งในการฝึกอบรมลูกเสือ ทุกประเภท ท้ังในทางจิตใจและในการบริหารร่างกาย เกมช่วยพัฒนาเด็กในเรื่องนิสัยใจคอ อารมณ์ดี นํ้าใจ นักกีฬา การรักหมู่คณะ ความอดทน ระเบียบวินัย และความไม่เห็นแก่ตัว ทุกคร้ังที่มีการ ประชุมกองจะตอ้ งมีการจัดการให้เดก็ เลน่ เกมเพ่ือบริหารร่างกายเป็นการฝกึ อบรมเด็กในทางจิตใจไปใน ตัว เกมที่ใช้จะต้องเลือกเกมทีเ่ หมาะสมตอ่ วัยของเด็กด้วย หรือการร้องเพลงเพื่อเป็นการปลุกใจ คลาย อารมณ์ ก่อใหเ้ กิดความร่าเริงบันเทงิ ใจ และการร้องเพลงเป็นเพลงหมู่หรอื ร้องพร้อม ๆ กนั เพื่อเป็นการ ส่งเสริมความสามัคคี 232238 คู่มอื สคง่ ู่มเสอื รสิมง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกัฒิจกนรารกมจิ ลกกู รเรสมือลทกูกั เษสะือชทวี ักติ ษในะสชถวี าิตนในศกึสษถาานปศรึกะเษภาทลลูกูกเเสสอืือสสาามมญั ัญรรนุ่ ุ่นใใหหญญ่ ่ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
(3) การสอนตามเนอ้ื หา ผูก้ าํ กับลกู เสอื จะกําหนดเน้อื หาตามหลกั สตู ร ซ่งึ เขียนเป็นแผนการสอนหรือโครงการ สอน ในแต่ละคาบจะกาํ หนดเน้อื หาสาํ หรับเขียนไว้ในการประชมุ กอง การสอนอาจจะสอนเปน็ ฐาน แล้วมี การเปล่ียนฐาน โดยกําหนดเวลาให้ อาจจะมี 1 ฐานหรือมากกว่าก็ได้ ขึ้นอยู่กับลูกเสือและความ เหมาะสมต่าง ๆ ส่วนเทคนิคการสอนอาจจะเป็นแบบบรรยาย อภิปราย สาธิต หรือปฏิบัติจริง แล้วแต่ เนอื้ หาทีก่ ําหนด หรืออาจจะใหน้ ายหมสู่ อนภายในหมตู่ นเองก็ได้ การรายงานเพือ่ เข้าฝึกตามฐาน การฝึกลูกเสือตามฐานต่าง ๆ นั้น ให้จดั ฐานแตล่ ะฐานเปน็ วงกลมหรอื รูปเหล่ยี มมีศนู ยก์ ลาง ระยะทางระหวา่ งฐานควรเท่ากัน เสน้ ทางการเดนิ ทางให้สะดวก บางฐานอาจมีเส้นทางเข้าสู่ฐานไม่ต้อง ตรงอ้อมส่ิงปลูกสร้าง พุ่มไม้ หรือบ่อนํ้า ก็จงคํานึงถึงเวลาเดินทางให้เท่ากับฐานอ่ืน ๆ มิฉะน้ันแล้ว ลูกเสือจะเสยี เวลา เดินทางมาก ไมไ่ ดร้ บั ความรใู้ นฐานนัน้ เต็มท่ี การเคลื่อนท่เี ข้าฐานนิยมเคล่ือนโดยเวียนขวา คือ ไปตามเข็มนาฬิกา ฉะนั้น ผู้อยู่ประจํา ฐาน (วิทยากร) จะต้องหันหนา้ เข้าสู่จดุ ศนู ย์กลางของวงใหญ่ เมอ่ื ลกู เสือฝึกครบเวลามีสัญญาณปล่อยตัว แลว้ จะเขา้ แถวหน้ากระดาน ทําขวาหัน แล้วเคลือ่ นทต่ี ามนายหม่ไู ด้เลย การเขา้ ฐานครัง้ ละหลายหมู่ แตล่ ะหมูน่ ั้นนายหมตู่ ้องรายงานเองทุกหมู่ แตร่ ายงานทีละหมู่ ไม่ควรท่ีจะให้หมู่ใดหมู่หนึ่งรายงานรวมหนเดียว เพราะนายหมู่จะส่ังการได้เฉพาะลูกหมู่ตนเองเท่าน้ัน หากมีการเข้าฐานมากหมู่จนเกินไปจะเสียเวลามาก ก็เปล่ียนการเข้าฐานแบบวิทยากรเคล่ือนท่ีไปหา ลกู เสอื ซึ่งแบบน้ีจะสามารถมีผแู้ ทนส่ังเคารพคนเดียวได้เสมือนครเู ข้าห้องสอน 1. การรายงานกรณีทุกคนมีอาวธุ เม่ือนายหมู่นําลูกหมู่ไปถึง ผู้ประจําฐานให้เข้าแถวหน้ากระดาน โดยนายหมู่ยืน ตรงหน้าผ้ปู ระจาํ ฐาน นายหมนู่ ง่ั \"หม…ู่ ..ตรง, วนั ทยา-วุธ\" เฉพาะนายหมูเ่ รียบอาวุธ ก้าวเข้าไปหา ผ้ปู ระจําฐาน 1 ก้าว ทําวันทยาวุธ แล้วรายงานว่า \"หมู่…..พร้อมท่ีจะรับการฝึกแล้วครับ\" รายงาน เสร็จทําเรยี บอาวธุ แล้วถอยหลัง 1 ก้าวเข้ามาในแถว ทําวันทยาวุธไว้ให้เหมือนลูกหมู่ แล้วสั่ง \"เรียบ- อาวุธ\" และสง่ั \"ตามระเบียบ-พัก\" (ช่วงนีว้ ิทยากรประจําฐานควรสง่ั \"พกั แถว\" ก่อนกไ็ ด้) จากนัน้ ผูป้ ระจําฐานจะเริ่มสอนหรอื ฝกึ ทางทีด่ ีผปู้ ระจาํ ฐานควรจะสง่ั \"ตรง\" และสั่ง \"พัก แถว\" ก่อนจงึ เร่มิ สอนกจ็ ะเปน็ การเหมาะสมมาก เพราะการสอนนั้นลกู เสอื ยอ่ มอยู่ในท่าพกั ตามระเบียบ ไมไ่ ด้ สาํ หรับผู้ประจําฐานเมอ่ื นายหมู่สงั่ \"วันทยา-วธุ \" ก็รบั การเคารพด้วยวนั ทยหตั ถ์ และก็คา้ ง อยอู่ ย่างนน้ั จนกวา่ นายหมูจ่ ะกา้ วออกมาและรายงานจบ เมอื่ นายหมู่รายงานจบเรียบอาวุธ ผ้กู าํ กบั จะลด มอื ลงพร้อมกันตอนนี้ (มใิ ช่คอยลดมอื ลงพรอ้ มลูกเสือในแถว) 2. การรายงานกรณีมอี าวุธเฉพาะนายหมู่ การเขา้ เรียนตามฐานบางกรณีนั้น เพื่อความสะดวกผู้กํากับหรือผู้สอนวิชาอาจสั่ง ให้ ลูกเสือรวมอาวุธไว้ ให้นําติดตัวไปเฉพาะนายหมู่ก็ได้ หรือการเข้าค่ายพักแรมกรณีที่นําอาวุธไป เฉพาะนายหมู่ เพราะไมส่ ามารถนําพลอง ไมง้ า่ ม จํานวนหลายร้อยอนั ไปได้ คู่มอื สง่ เสริมและพฒั นาคกมู่ จิ ือกสร่งรเมสลรมิกู แเสลอืะพทักัฒษนะาชกีวจิ ิตกใรนรมสลถูกาเนสศือึกทษักาษะลชูกวี เิตสใือนสสาถมาัญนรศุ่นกึ ใษหาญป่ รชะ้นัเภมทัธลยูกมเสศอื ึกสษาามปญั ที ร่ี ุ่น1ใหญ่ 232933 ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 1
กรณีน้ีนายหมู่สั่ง \"หมู่…..ตรง\" สําหรับตัวนายหมู่น้ันเมื่อตรงแล้วให้ทําวันทยาวุธ-เรียบ อาวุธ ก้าวเข้าไปหาผู้ประจําฐาน 1 ก้าว แล้วทําวันทยาวุธอีก รายงาน เม่ือรายงานจบเรียบอาวุธ แล้ว ถอยหลังเข้าทีใ่ นแถวอยใู่ นท่าตรงเหมือนลูกหมู่ แล้วสัง่ \"ตามระเบียบ-พกั \" ทั้งน้ี ไม่ต้องทําวันทยาวุธ อกี ครัง้ เพราะขณะนนั้ อยใู่ น ทา่ ตรงเหมอื นลกู หม่แู ล้ว สําหรับผู้ประจําฐาน ให้รบั การเคารพดว้ ยวนั ทยหัตถ์ พรอ้ มกับลูกเสอื ในแถวเคารพด้วยท่า ตรง และวันทยหัตถ์ค้างอยู่จนกว่านายหมู่จะรายงานจบ จึงเอามือลงพร้อมกับนายหมู่เรียบอาวุธตอน รายงานจบ 3. การรายงานกรณไี มม่ ีอาวธุ ทง้ั หมด นายหม่จู ะสัง่ \"หมู่…..ตรง\" เฉพาะนายหม่นู ายหมเู่ มอ่ื ตรงแล้วกท็ ําวันทยหัตถ์ ลด มอื ลง ก้าวเขา้ ไปรายงาน ขณะรายงานก็ทําวันทยหัตถ์ รายงานว่า \"หมู่…..พร้อมที่จะรับการฝึกแล้ว ครับ\" รายงานแล้วลดมือลงถอยหลังเข้าไปในแถว อยู่ในท่าตรงเหมือนลูกหมู่ แล้วสั่ง \"ตามระเบียบ- พัก\" (ถอยเข้าไปในแถวแลว้ ไมต่ อ้ งทาํ วันทยหตั ถ์อกี ) สําหรับผู้ประจําฐานให้รับการเคารพด้วยวันทยหัตถ์ ตอนที่ลูกเสือเคารพด้วยท่า ตรง ทาํ วนั ทยหัตถ์คา้ งไว้จนกว่านายหมจู่ ะรายงานจบและลดมอื ลง จงึ ลดมือลงพร้อมกบั นายหมู่ 4. การเข้าฐานกรณีผ้ปู ระจาํ ฐานเคลอื่ นที่เอง การสอนแบบนี้เหมาะสําหรับมีลูกเสือจํานวนมาก เม่ือแบ่งฐานแล้วจะได้ฐานละ หลายหมู่ หากจะให้ลกู เสือเคลอื่ นท่จี ะเสยี เวลามาก จงึ ควรจัดใหล้ ูกเสืออยเู่ ป็นกล่มุ กล่มุ ละหลาย ๆ หมู่ กรณีนี้ไม่ต้องมีการรายงาน ให้ทําเหมือนครูเดินเข้าห้องสอน เม่ือผู้ประจําฐานเข้าไป ลูกเสือก็ทําความเคารพ โดยผู้กํากับจะแต่งต้ังหัวหน้านายหมู่ชั่วคราวไว้เป็นผู้ส่ังเคารพ โดยส่ังว่า \"ลูกเสอื -ตรง, วนั ทยา-วธุ , เรยี บ-อาวธุ , ตามระเบยี บ-พัก\" แตถ่ า้ ในสนามมอี าวธุ เฉพาะนายหมู่ (หลายหมู่) กส็ ง่ั ว่า \"ลูกเสือ-ตรง\" เฉย ๆ แต่นายหมู่ ทุกคนทมี่ ีอาวธุ อยู่แล้ว เมื่อตรงแล้วก็ทําวันทยาวุธ เรียบอาวุธเองโดยไมม่ ใี ครสัง่ สําหรบั ผปู้ ระจาํ ฐาน เมือ่ เข้าไปเขาสัง่ เคารพกร็ บั การเคารพตามธรรมดา (วนั ทยหัตถ์ ลดมือ ลงเลย เพราะไมม่ ีการรายงาน) จะเหมอื นกบั ครูเขา้ สอนในห้องเรียน 5. การลาฐานเม่ือหมดเวลา นายหมู่เป็นผู้ส่ัง โดยออกคําส่ังว่า \"หมู่…..ตรง, วันทยา-วุธ (นายหมู่คนเดียว กล่าววา่ \"ขอบคุณ-ครับ\") เรยี บ-อาวธุ , ขวา-หนั , ตามขา้ พเจา้ \" แต่หากมีอาวุธเฉพาะนายหมู่ ก็เพียงส่ัง \"หมู่…..ตรง (ตนเองทําวันทยาวุธ แล้วกล่าวว่า \"ขอบคุณครับ, เรยี บอาวธุ \") ขวาหนั , ตามขา้ พเจ้า\" (4) ผกู้ าํ กับเล่าเรอ่ื งสน้ั ทเี่ ปน็ ประโยชน์ ผ้กู าํ กับควรจะหาเร่อื งส้ันหรอื นทิ านมาเลา่ ให้ลูกเสือฟัง เพอื่ แทรกคติธรรมต่าง ๆ โดย ท่ี ลูกเสือได้รับไปปฏิบัติโดยไม่รู้ตัว ท้ังนี้ เพ่ือให้เกิดความนับถือ ความสนิทสนม ความเป็นกันเอง เพ่ือใหล้ กู เสือเกิดความกลา้ ความสามคั คี เกดิ ความรักชาติ เสยี สละ กตญั ํู 232440 คู่มือสคง่ ่มู เสือรสมิ ง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกฒั จิ กนรารกมจิ ลกกู รเรสมือลทูกกั เษสะือชทีวักิตษในะสชถีวาติ นในศึกสษถาานปศรกึะเษภาทลลูกกู เเสสอือื สสาามมัญญั รรนุ่ ุ่นใใหหญญ่ ่ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
(5) พธิ ีปิดประชุมกอง 1. นดั หมาย 1.1 ผกู้ ํากบั ยนื ตรงหนา้ เสาธง ห่างจากเสาธงประมาณ 3 ก้าว รองผู้กํากับลูกเสือ ทุกคนยนื หลงั เสาธง ห่างประมาณ 1 กา้ ว 1.2 ผู้กํากบั เรียกแถว สั่ง \"กอง\" พร้อมกับใช้สัญญาณมือเรียกแถวรูปคร่ึงวงกลม (มือแบทง้ั สองข้าง เหยยี ดตรงลงข้างล่าง คว่ําฝ่ามอื เข้าหาลาํ ตวั แกวง่ แขนประสานกันดา้ นหน้าช้า ๆ เปน็ รูปครงึ่ วงกลม) 1.3 ลกู เสือทุกคนรีบว่ิงมาเข้าแถวรูปครึ่งวงกลม (ลูกเสือหมู่แรกยืนด้านซ้ายของ ผู้กํากับลกู เสอื โดยนายหมู่หม่แู รกยนื อยเู่ ป็นแนวเดียวกับผู้กํากับลูกเสือ หมู่ที่ 2 และหมู่ต่อ ๆ ไปอยู่ ทางด้านซา้ ยมือของหมู่แรกตามลําดับ รองนายหมู่ของหมู่สุดท้ายอยู่เป็นเส้นตรงแนวเดียวกับผู้กํากับ ลกู เสือและนายหมูห่ มแู่ รก โดยถอื ว่าผกู้ ํากับลกู เสือเป็นจุดศูนย์กลาง ทกุ คนอยใู่ นทา่ จดั แถว โดยการยก ข้อศอกซ้ายข้ึนมาทาบสะโพก นิ้วทั้งห้าเรียงชิดติดกันช้ีลงล่าง และสะบัดหน้าทางขวา ยกเว้นนายหมู่ ของหมแู่ รกไมต่ อ้ งสะบัดหนา้ และรองนายหม่หู มู่สุดท้ายไม่ตอ้ งยกขอ้ ศอกซา้ ย) 1.4 ผกู้ ํากบั สง่ั \"น่งิ \" (ลกู เสอื ทกุ คนลดแขนลงพรอ้ มกับสะบัดหน้ามาอยู่ในท่าตรง ระยะเคียงระหวา่ งบุคคล 1 ชว่ งศอก ระยะเคยี งระหวา่ งหมู่ 1 ชว่ งแขน) 1.5 ผู้กํากับส่ัง \"กอง, ตามระเบียบ, พัก\" (ลูกเสือทุกคนแยกเท้าซ้ายออกไป ทางซ้ายประมาณ 30 เซนตเิ มตร หรือประมาณเกือบครึ่งก้าวปกติอย่างแข็งแรงและองอาจ มือขวาท่ีถือ ไม้ง่ามให้เลื่อนขึ้นมาเสมอเอว แล้วดันไม้ง่ามไปข้างหน้า เฉียงไปข้างหน้าประมาณ 45 องศา มือซ้าย ไพลห่ ลงั โดยตัวมอื แบตามธรรมชาติ นวิ้ เรยี งชิดติดกนั 1.6 ผูก้ ํากับนัดหมาย เรื่องที่นัดหมาย คือ เรื่องที่จะต้องให้ลูกเสือเตรียมอุปกรณ์ ในการฝึกอบรมครัง้ ต่อไป เช่น ครั้งต่อไปจะฝึกอบรมเร่ืองเงอ่ื นลกู เสือ เตรยี มเชือก 2. ตรวจ สําหรับการตรวจตอนปิดประชุมกองจะตรวจเคร่ืองแบบ เคร่ืองแต่งกาย เพราะ ลูกเสอื จะตอ้ งเดนิ ผา่ นชุมชน ตลาด ถา้ หากแต่งตัวไม่เรยี บรอ้ ยอาจจะถูกตําหนิแก่ผูท้ ่ีพบเห็นได้ 2.1 รองผ้กู าํ กับตรวจ 2.1.1 ผู้กํากับส่ัง \"รองผู้กากับตรวจเคร่ืองแบบ\" รองผู้กํากับทุกคนวิ่ง ออกไปหาผกู้ าํ กบั วันทยหตั ถ์ และลดมือลง ผูก้ าํ กบั รบั การเคารพดว้ ยวันทยหตั ถ์และลดมอื ลง เมื่อรองผู้ กํากบั ลดมือลง รองผู้กาํ กับวง่ิ ไปตรวจหมลู่ ูกเสอื ทนั ที 2.1.2 รองผู้กาํ กับหยุดยนื ตรงขา้ มนายหมู่ ห่างจากนายหมปู่ ระมาณ 3 กา้ ว นายหมู่สงั่ \"หมู่…..ตรง, วันทยา-วธุ \" ลกู เสอื ทุกคนวนั ทยาวุธ นายหมเู่ รยี บอาวุธ กา้ วออกไป 1 ก้าว วนั ทยาวุธ พรอ้ มกับกล่าววา่ \"หม…ู่ ..พรอ้ มที่จะรับการตรวจแล้วครับ\" (รองผู้กาํ กบั รับการเคารพ ด้วยวันทยหัตถ์ เม่ือนายหมู่รายงานและลดมือลงเมื่อนายหมู่รายงานจบ) นายหมู่เรียบอาวุธ ก้าว ถอยหลัง 1 ก้าว และชดิ เท้ากลับมายืนในทา่ ตรง ทําวนั ทยาวธุ และสงั่ ลูกเสอื ในหมูต่ ่อไป \"เรียบ-อาวธุ \" คู่มือสง่ เสริมและพัฒนาคกู่มจิ อื กสร่งรเมสลริมูกแเสลอืะพทักัฒษนะาชกวีิจติ กใรนรมสลถูกาเนสศอื กึทษักาษะลชกู วี เติสใือนสสาถมาัญนรศนุ่ึกใษหาญป่ รชะ้นัเภมทัธลยกู มเสศือกึ สษาามปญั ีทรี่ ุ่น1ใหญ่ 242135 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1
2.1.3 รองผู้กํากับก้าวออกไปข้างหน้า 1 ก้าว และชิดเท้า ตรวจนายหมู่เป็น คนแรก โดยมีขอ้ เสนอแนะในการตรวจ ดงั น้ี การตรวจเครื่องแบบ นายหมู่เป็นคนแรกจะต้องถูกตรวจด้านหน้า ซ่ึงจะตรวจในเร่ือง ตอ่ ไปน้ี 1) หมวก ทรงอ่อนสีเลือดหมู มีตราหน้าหมวกรูปตราคณะลูกเสือแห่งชาติ ทําด้วยโลหะสีทอง เวลาสวมหมวกให้ตราหนา้ หมวกอย่เู หนือควิ้ ซา้ ย หมวกต้องมีขนาดเหมาะสมกับศรี ษะ และสวมปิดไรผม ท้งั หมด 2) เสือ้ เป็นเส้ือเช้ิตแขนส้ันสีกากี คอมีปก ผ่าอกตลอด มีดุมติดตลอด มีสาบที่หน้าอก เหนือ กระดุมเม็ดที่หน่ึงนับจากคอเสื้อลงมาเล็กน้อย มีกระเป๋าสองกระเป๋าติดที่อกเสื้อท้ังสองข้าง กึ่งกลาง กระเปา๋ มจี บี จบี อยใู่ นแถวยนื ถงึ ปากกระเปา๋ เครอ่ื งหมายนายหมมู่ แี ถวผา้ สเี ลอื ดหมกู่ วา้ ง 1.5 เซนตเิ มตร ยาวเทา่ กระเป๋าเสอื้ 2 แถบ ตดิ อยรู่ ิมกระเปา๋ ตามแนวยาวกระเป๋าซ้าย กระเปา๋ มปี ก รปู มนกลางแหลม เจาะรูรังดมุ สําหรับกลัดดุมทตี่ ิดอยู่ทีก่ ระเปา๋ บนไหล่มอี ินทรธนสู เี ลือดหมู ปลายอนิ ทรธนูมีอกั ษร \"ล.ญ.\" ป้ายชอ่ื โรงเรียนเปน็ ผา้ โคง้ ไปตามตะเข็บไหล่ ตดิ ตา่ ํ กว่าไหลข่ า้ งขวา 1 เซนติเมตร แผน่ ปา้ ยบอกชอื่ กลุม่ กอง ติดอยู่กลางป้ายชื่อโรงเรียน (ตัวขาวพ้ืนแดง) ส่วนเคร่ืองหมายหมู่ทําด้วยผ้าสี่เหล่ียมจัตุรัส ยาว ด้านละ 3.5 เซนตเิ มตร มีรูปสามเหลี่ยม 2 รปู สีตามสปี ระจาํ หมู่ ลกู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ ขลิบสเี ลอื ดหมู ติดทไ่ี หล่เสื้อขา้ งซา้ ยใตต้ ะเข็บ 1 เซนติเมตร กระดุมเส้ือกลัดหมด ผา้ ผกู คอเป็นรูปสามเหลีย่ มมว้ นพบั ตามแนวทะแยงให้เรียบ ม้วนเหลือชายประมาณหนึ่งฝ่ามือ ให้รอยพับอยู่ด้านใน รวบชายผ้าผูกคอ ไว้ด้านหน้า แล้วสวมปลอกตราคณะลูกเสือแห่งชาติ ให้ปลอกห่างจากคางระยะ 1 กํามือของตนเอง สายนกหวีดสเี หลืองสวมทับผ้าผูกคอ เกบ็ นกหวดี ไวก้ ระเปา๋ ซ้าย 3) กางเกง สีกางเกงเช่นเดียวกับเส้ือ ขาสั้นแบบไทย ริมขอบขาห่างจากกึ่งกลางสะบ้าหัวเข่า 5 เซนตเิ มตร มกี ระเปา๋ สองกระเปา๋ ตรงดา้ นหน้าที่ผา่ มซี ิปซ่อนไว้ข้างในและรูดซิปเรียบร้อย เวลาสวมเอา ขอบกางเกงทับชายเสื้อ มีหูกางเกงด้วย เข็มขัดสีน้ําตาลแก่ หัวเข็มขัดทําด้วยโลหะสีทอง ต้องขัดให้ สะอาดเป็นเงาเสมอ มีลายดุนรูปเฟลอร์เดอลีส์ประกอบหน้าอยู่ในกรอบช่อชัยพฤกษ์ ตรงส่วนล่างของ กรอบมคี ติพจน์ว่า \"เสียชพี อย่าเสยี สตั ย์\" เวลาคาดเข็มขัดทับขอบกางเกง ไม่ปล่อยให้หัวเข็มขัดห้อย ยาน 4) ถุงเทา้ ถงุ เทา้ ยาวสีกากี มีสายรัดถุงกนั ย่น เวลาสวมให้พบั ขอบอยู่ใต้เขา่ ประมาณ 5 เซนตเิ มตร หรือ 4 นิ้วฝ่ามือตนเอง ขอบพับกว้างประมาณ 4 น้ิวฝ่ามือตนเอง ลายของถุงเทา้ ตรง 5) รองเท้า รองเทา้ สนี าํ้ ตาล ทําด้วยหนงั หรอื ผ้าใบก็ได้ แต่ไม่มีลวดลาย หุ้มส้น มีเชือกผูกแข็งแรง และผูกดว้ ยเงือ่ นพริ อด รองเท้าหนงั สะอาดและขัดเปน็ เงางาม 232642 คูม่ ือสคง่ ู่มเสอื รสมิ ง่ แเสลระิมพแฒั ลนะาพกฒั จิ กนรารกมจิ ลกูกรเรสมือลทูกกั เษสะือชทวี ักติ ษในะสชถวี าติ นในศกึสษถาานปศรึกะเษภาทลลูกูกเเสสอือื สสาามมญั ัญรรุ่นุ่นใใหหญญ่ ่ ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1
2.1.4 เม่ือรองผู้กํากับตรวจด้านหน้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่ัง \"กลับหลังหัน\" เพ่ือตรวจดา้ นหลงั อกี ครั้งหนงึ่ นายหม่กู ลับหลงั หนั รองผกู้ ํากบั ตรวจความเรยี บรอ้ ยด้านหลงั เช่น เชือก ผกู รัด หมวกทรงออ่ น ผ้าผูกคออยู่ตรงกลางเส้ือ เสอ้ื อกนอกกางเกง หรือไม่ 2.1.5 เม่ือรองผูก้ าํ กบั ตรวจนายหมูด่ ้านหลงั เสรจ็ เรียบร้อยแล้ว รองผู้กํากับ สัง่ \"กลบั หลังหัน\" รองผกู้ ํากบั สัง่ ตอ่ ไป \"เดนิ ตามขา้ พเจ้า\" ตรวจลูกเสือด้านหน้า ตรวจลูกเสือคนแรก และคนต่อ ๆ ไป การเดินตรวจรองผู้กํากับก้าวเท้าขวาไปทางข้างขวา 1 ก้าว แล้วชักเท้าซ้ายไป อยา่ งอยา่ งแข็งแรง ก่อนนายหมกู่ า้ วไปทางข้างขวา ให้ยกไม้ง่ามขึน้ ประมาณ 1 คบื กา้ วเทา้ ขวาไปทาง ขา้ งขวา 1 กา้ ว แลว้ ชกั เทา้ ซา้ ยไปชดิ อยา่ งแขง็ แรง แลว้ ตง้ั ไมง้ า่ มลงกบั พนื้ ยนื ในแนวเดยี วกบั รองผกู้ าํ กบั ก้าว 1 ก้าวตรวจลกู เสือ 1 ค การตรวจเหมอื นกบั การตรวจนายหมู่ดา้ นหนา้ ทกุ ประการ ถา้ เปน็ การตรวจ ในตอนเปดิ ประชมุ กอง ตรวจสุขภาพร่างกาย หรืออุปกรณ์การเรยี นการสอน จะไม่เดนิ อ้อม หลัง เมื่อตรวจด้านหน้าเสร็จทุกคน แล้วจึงเดินตรวจด้านหลังต่อไป การเดินตรวจด้านหลัง ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกับการเดินตรวจด้านหน้า การตรวจปฏิบัติเช่นเดียวกับการตรวจนายหมู่ เม่ือตรวจ ดา้ นหลงั เสรจ็ ทกุ คนแลว้ รองผกู้ าํ กบั และนายหมกู่ ลบั มายนื ทเี่ ดมิ อกี ครง้ั หนง่ึ นายหมยู่ นื ตรงสงั่ \"วนั ทยา-วธุ \" และกลา่ วว่า \"ขอบคุณครับ\" (ยืนอยู่กับทไี่ ม่ตอ้ งก้าวออกไป) รองผู้กํากับรับการเคารพด้วยวันทยหัตถ์ และลดมอื ลง นายหมู่สั่งต่อไป \"เรยี บ-อาวธุ , ตามระเบียบ-พกั \" 2.2 นายหมตู่ รวจ ในการประชุมกองลกู เสือ ในบางครั้งรองผู้กํากับไม่มาจําเป็นให้นายหมู่ตรวจ แทน แนวปฏิบัติ คือ ผู้กํากับส่ัง \"นายหมู่ตรวจ\" นายหมู่ทุกหมู่ก้าวออกไปข้างหน้าหมู่ของตนเอง 3 กา้ ว รองนายหมู่ว่งิ ออ้ มหลังมายนื แทนท่ีนายหมู่ และทาํ หนา้ ท่นี ายหมู่ และทาํ การตรวจแบบรองผู้กํากับ ทกุ ประการ 2.3 การรายงานการตรวจ 2.3.1 รองผู้กํากับรายงาน เมอ่ื นายหมู่ขอบคุณรองผ้กู ํากับ ภายหลังการตรวจเรียบร้อยแล้ว รองผู้กํากับ กลับหลังหันทําวันทยหัตถ์ พร้อมกับกล่าวรายงานว่า \"ข้าพเจ้าได้มอบหมายจากผู้กากับให้ไป ตรวจ…..หมู่…..ปรากฏว่า…..และได้ตักเตือนเรียบร้อย, ครับ\" เสร็จแล้วว่ิงกลับมาด้านหลังเสาธง รองผู้กาํ กบั คนตอ่ ไปกร็ ายงานต่อ ๆ ไป 2.3.2 นายหมรู่ ายงาน นายหมลู่ กู เสอื คนใดตรวจเสร็จแล้ว ให้ยืนตรงหน้าหมู่ของตนเอง หันหน้าไป หาผู้กํากับ และรอให้นายหมู่ทุกหมู่ตรวจเสร็จเรียบร้อยเสียก่อน เมื่อนายหมู่ตรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว นายหมทู่ กุ คนวงิ่ ออกไปเขา้ แถวหนา้ กระดานแถวเดย่ี วตรงขา้ มผกู้ าํ กบั พรอ้ มกนั หา่ งจากผกู้ าํ กบั ประมาณ 3 กา้ ว นายหมหู่ มูบ่ ริการยนื หวั แถว นายหมอู่ ่ืน ๆ เรยี งไปตามลาํ ดบั ผกู้ ํากับยนื ก่งึ กลางของแถว ค่มู ือสง่ เสริมและพฒั นาคกมู่ จิ อื กสรง่ รเมสลรมิกู แเสลือะพทกััฒษนะาชกีวจิ ิตกใรนรมสลถูกาเนสศอื กึทษกั าษะลชกู วี เิตสใือนสสาถมาัญนรศุ่นึกใษหาญป่ รชะั้นเภมทธั ลยูกมเสศอื ึกสษาามปัญีทรี่ นุ่1ใหญ่ 242337 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
ผกู้ ํากบั ส่ัง \"นายหมูร่ ายงาน\" นายหมูห่ มบู่ รกิ ารรายงานการตรวจเปน็ คนแรก นายหมยู่ นื ตรง วันทยาวุธ และเรียบอาวุธ ก้าวออกไป 1 ก้าว หันหน้าไปหาผู้กํากับ วันทยาวุธ พร้อมกับกล่าว รายงาน \"ข้าพเจา้ ไดร้ บั มอบหมายจากผู้กากับให้ไปตรวจเครอ่ื งแต่งกายหมู่…..ปรากฏว่า…..และ ได้แนะนาให้ปรบั ปรงุ แก้ไขให้ถูกตอ้ งแล้ว, ครับ\" นายหมูค่ นอ่ืน ๆ ให้ปฏิบัตเิ ชน่ เดยี วกัน จนกระทงั่ การรายงานผลการตรวจเสร็จเรียบร้อย ผู้กํากับสั่ง \"กลับที่เดิม-ว่ิง\" นายหมู่ทุกคนวันทยาวุธและ เรยี บอาวุธพร้อมกนั กลับหลงั หนั วง่ิ กลบั มายืนในหมขู่ องตนในตําแหน่งเดิม รองนายหมูว่ ง่ิ อ้อมกลบั หลัง มายืนทําหน้าทร่ี องนายหมตู่ ามเดิม 3. ชักธงลง 3.1 ผู้กาํ กบั สั่ง \"กอง, ตรง\" ผูก้ าํ กบั กา้ วถอยหลังมายนื ทางขวามอื หรือซ้ายมือ หัน หน้าเข้าหาเสาธง 3.2 ผู้กํากับสั่ง \"หมู่บริการชักธงลง\" ลูกเสือท่ีเป็นหมู่บริการฝากไม้ง่ามกับ ลูกเสือ คนถัดไป ว่ิงออกมาพร้อมกันและหยุดยืนตรงหน้าเสาธง ห่างจากเสาธงประมาณ 3 ก้าว วนั ทยหตั ถแ์ ละลดมอื ลงพร้อมกนั ลูกเสือทางขวามือก้าวออกไปข้างหน้า 2 ก้าวและชิดเท้า แก้เลือกธง แล้วก้าวถอยหลงั 2 ก้าว และ 3.3 ผกู้ าํ กบั ส่ัง \"กอง, วนั ทยา-วธุ \" ผ้บู งั คับบญั ชาลูกเสอื วนั ทยหตั ถ์ ลกู เสอื ทุกคน วนั ทยาวุธ ลกู เสอื ผชู้ กั ธงชาติลงทางขวามอื ค่อย ๆ ดงึ เชอื กลงช้า ๆ คนทางซ้ายมอื ค่อย ๆ ปลอ่ ยเชอื ก เชอื กทงั้ สองด้านตึงตลอดเวลาขณะชักธงชาตลิ ง เมอื่ ชกั ธงชาติลงเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ลูกเสือทางขวามือ รบั เชอื กจาก ลกู เสอื ทางซ้ายมือมารวมกนั กา้ วไปข้างหนา้ 2 กา้ ว และชดิ เท้า ผกู เชอื กธง แลว้ ก้าว ถอยหลงั 2 กา้ ว และชดิ เทา้ กลบั มายนื ตรงทเ่ี ดมิ ลกู เสอื ทงั้ สองยนื ตรงทาํ วนั ทยหตั ถแ์ ละลดมอื ลงพรอ้ มกนั (ผบู้ งั คบั บญั ชาลกู เสอื ทกุ คนลดมอื ลง) กลบั หลงั หนั วง่ิ กลบั มาเขา้ แถวในหมขู่ องตน แลว้ รบี นาํ ไมง้ า่ มท่ีฝากไว้ มาทําวนั ทยาวุธอย่างแข็งแรงและองอาจเช่นเดยี วกับลกู เสอื ในกอง 3.4 ผู้กํากบั ส่ัง \"เรียบ-อาวธุ \" ลูกเสือทกุ คนลดแขนซา้ ยลงมาอยู่ในที่เดมิ โดยเร็ว 4. เลกิ 4.1 ลูกเสอื ทุกคนเมอื่ เรียบอาวธุ แล้วก็ยงั ยนื อยูใ่ นท่าตรง 4.2 ผู้กํากบั สั่ง \"กอง, เลิก\" ลูกเสือท้ังหมดทําวันทยาวุธ และเรียบอาวุธ ขวาหัน พรอ้ มกัน เดนิ ออกนอกแถว 232844 คมู่ ือสค่งู่มเสือรสิมง่ แเสลระิมพแฒั ลนะาพกัฒิจกนรารกมิจลกูกรเรสมือลทกูักเษสะอื ชทีวกั ติ ษในะสชถีวาติ นในศึกสษถาานปศรึกะเษภาทลลูกกู เเสสอืือสสาามมญั ญั รรนุ่ ุ่นใใหหญญ่ ่ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
การประชมุ นายหม่ลู กู เสอื สามญั รนุ่ ใหญ่ ทีป่ ระชุม การจัดทีป่ ระชุมนายหมู่ 1. ห้องประชุม ในห้องประชุมจัดใหม้ ีโตะ๊ หมู่บูชา มีพระพทุ ธรปู ธงชาติและพระบรมฉายาลกั ษณ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวรัชกาลปจั จบุ ัน กบั มีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยูห่ วั องคพ์ ระผูพ้ ระราชทานกําเนิดลูกเสือไทย และรปู ของลอรด์ เบเดน เพาเวลล์ 2. โตะ๊ ประชุม ควรจัดให้มีเก้าอี้ประชุมตามจํานวนของนายหมู่ และจัดที่นั่งเป็นพิเศษสําหรับผู้ กํากบั หรอื รองผู้กํากับทจ่ี ะเข้าประชมุ ด้วยในฐานะทปี่ รกึ ษา โดยจดั ใหน้ ั่งอยู่ทางซ้ายของประธาน 3. การจัดท่นี ง่ั จะต้องกําหนดไวใ้ ห้ทราบ โดยมีการเขยี นป้ายหรือเคร่อื งหมายแสดงไว้ ณ ทน�ี นั� ๆ เช่น ประธาน เลขานกุ าร หมสู่ ิงโต หมู่เสือ หมนู่ กหัวขวาน ฯลฯ และผู้กาํ กับลูกเสอื 4. ผู้เขา้ ประชมุ - นายหมู่ทกุ หมู่ ถ้านายหมู่ไม่อยู่ใหร้ องนายหมเู่ ขา้ ประชุมแทน - ผู้กํากับลูกเสือ ถ้าผู้กํากับไมอ่ ยใู่ ห้รองผกู้ าํ กบั เข้าประชมุ แทน - ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิท่ีกองลกู เสอื เชญิ มาเพอ่ื แนะนาํ การเป็นครั้งคราว - การเลือกประธานและเลขานกุ าร 5. การเข้าห้องประชุม เลขานุการจะเป็นผู้เข้าก่อนแล้วจึงเชิญนายหมู่ต่าง ๆ เข้าห้องประชุม จนถึงประธานและทีป่ รกึ ษาเข้าเป็นคนสุดท้ายผู้ที่เข้าประชุมก่อนทจี่ ะเข้าน่งั จะตอ้ งไปไหวพ้ ระพุทธรปู (ยกเวน้ ผทู้ น่ี บั ถอื ศาสนาอนื่ มใิ ชศ่ าสนาพทุ ธ ใหแ้ สดงความเคารพตอ่ ธงชาตแิ ละพระบรมฉายาลกั ษณไ์ ดเ้ ลย) และแสดงความเคารพตอ่ ธงชาติ และพระบรมฉายาลกั ษณข์ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ ยหู่ วั ตามลาํ ดบั เสยี กอ่ น โดยวธิ ีวันทยหตั ถ์ แลว้ จึงไปนั่งยงั ทีข่ องตน (ยกเว้นประธานจะต้องจดุ ธปู เทยี นและกราบทห่ี นา้ พระ) 6. การเปดิ ประชุม เปน็ หน้าท่ีของประธานทีจ่ ะกลา่ วเปิด โดยลกุ ขึ้นยนื หันหนา้ เข้าสู่ที่ประชุมย่ืน มอื ขวาออกไปข้างหนา้ ทาํ มุมประมาณ 45 องศา แขนเหยียดตรงแสดงรหสั ของลูกเสือแล้วกล่าววา่ “บัดนี้ สมาชกิ ของทีป่ ระชุมได้มาครบองค์ประชุมแล้ว ข้าพเจ้าขอเปิดการประชุม ขอให้สมาชิกทั้งหลายได้ใช้ สิทธิและเสรีภาพของท่านโดยเสรีในการประชุมและขอให้ถือว่าการประชุมนี้เป็นความลับไม่เปิดเผย ” เมอ่ื ประธานกลา่ วจบแลว้ ลดมือลงมาแสดงรหัส สมาชิกทเ่ี ข้าประชมุ ยนื พร้อมกัน พร้อมกบั ยกมือขวาขึ้น แสดงรหสั ลูกเสือแบบให้คาํ ปฏิญาณของลูกเสอื แลว้ กล่าวพรอ้ มกนั วา่ “ขา้ พเจ้าจะถือว่าการประชุมน้ีเป็น ความลบั เว้นไวแ้ ต่จะไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากที่ประชมุ ” เสร็จแล้วประธานนั่งลง สมาชิกน่ังลงพร้อมกัน จากนัน้ จึงให้ดําเนนิ การประชมุ ตามระเบียบวาระต่อไป 7. การพูดในที่ประชุม ก่อนพูดต้องยกมือขออนุญาต เมื่อประธานอนุญาต จึงจะพูดได้ (และ จะต้องพดู กับประธานทกุ ครัง้ ) เม่ือเวลาพดู ให้นั่ง ไมต่ อ้ งยืน 8. การนดั หมายเรียกประชุม เปน็ หน้าท่ขี องเลขานกุ ารทีจ่ ะแจ้งนัดหมายไป 9. การจัดระเบยี บวาระการประชุมนายหมู่ เปน็ หน้าที่ของเลขานุการโดยประสานงานกบั ประธาน คู่มอื สง่ เสรมิ และพฒั นาคก่มู ิจือกสร่งรเมสลริมูกแเสลอืะพทกัฒั ษนะาชกวีจิ ิตกใรนรมสลถูกาเนสศอื กึทษักาษะลชกู วี เิตสใือนสสาถมาัญนรศนุ่ึกใษหาญป่ รชะัน้เภมทัธลยกู มเสศือึกสษาามปญั ีทร่ี ุ่น1ใหญ่ 242539 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
10. เรื่องที่จะจัดเข้าวาระการประชุมนายหมู่ ควรเป็นเรื่องท่ีเก่ียวกับหน้าที่ความรับผิดชอบใน กองลกู เสือของตน, จดั ทํากาํ หนดการฝกึ อบรม, การอยู่คา่ ยพกั แรม, การเงิน, การลงโทษ, การใหร้ างวัล, และการแก้ปัญหาต่าง ๆ ฯลฯ เป็นตน้ 11. รายงานการประชมุ ของนายหมู่ ผู้เข้าร่วมประชมุ จะตอ้ งถือเปน็ ความลับ ไม่ควรเปิดเผยเว้น แตจ่ ะไดร้ ับความเห็นชอบจากที่ประชมุ 12. การจดรายงานการประชมุ เป็นหนา้ ทข่ี องเลขานุการจะต้องเป็นผู้จดและจัดทํารายงานการ ประชุมบันทึก ลงในสมดุ และสําเนาแจง้ ให้ผ้เู ขา้ ประชมุ ทราบ 13. ผ้ดู ํารงตําแหนง่ ประธานที่ประชุมนายหมู่ เป็นบุคคลที่ผู้กํากับแต่งต้ังจากนายหมู่ท่ีนายหมู่ ส่วนมากเห็นชอบดว้ ย 14. เลขานุการของที่ประชมุ ประธานท่ปี ระชุมเป็นผ้แู ตง่ ต้งั จากนายหมโู่ ดยให้นง่ั อยทู่ างซ้ายของ ประธาน (เลขาฯ จะเป็นผู้เผชิญนายหมู่เข้าที่ประชุมนายหมู่ทีละคนจนถึงประธานแล้วจึงเชิญผู้กํากับฯ เปน็ คนสดุ ท้าย) เลขาฯมีสิทธิแ์ สดงความคดิ เหน็ ไดแ้ ต่ไม่มีสทิ ธอิ อกเสียงลงคะแนนและมติของทปี่ ระชมุ ฯ 15. ผกู้ ํากบั ลกู เสือ ท่ีประชุมไมม่ สี ทิ ธิออกเสียงในทป่ี ระชุม แต่มีสิทธิยับย้ังการกระทําใด ๆ ที่ผู้ กํากับฯ เห็นว่าถ้าจะปลอ่ ยใหท้ าํ ไปตามข้อตกลงของทีป่ ระชมุ แล้ว อาจกอ่ ให้เกิดผลเสียหายขึ้นได้ 16. การปิดประชมุ ประธานจะลกุ ขนึ้ ยนื หันหน้าเขา้ ส่ทู ีป่ ระชุม ยืน่ มือขวาออกไปข้างหน้าทํามุม ประมาณ 45 องศา แขนเหยยี ดตรงแสดงรหัสของลูกเสือ แล้วกล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอปิดการประชุม” เมื่อ ประธานกลา่ วจบให้นายหมู่ทุกคนลุกข้นึ ยืนทาํ วันทยหตั ถ์แก่ประธาน (ประธานทําวนั ทยหัตถ์ตอบ) 17. การออกจากห้องประชุม ตามลาํ ดับดงั นี้ คือ ทป่ี รึกษา, ประธาน และนายหมู่ (โดยปฏิบัตพิ ิธี การเช่นเดียวกบั การเขา้ ห้องประชุม) เลขานกุ ารเป็นคนสดุ ทา้ ย 242046 คู่มอื สค่งู่มเสือรสมิ ง่ แเสลระมิพแฒั ลนะาพกฒั จิ กนรารกมิจลกูกรเรสมือลทูกักเษสะอื ชทีวักิตษในะสชถวี าิตนในศึกสษถาานปศรกึะเษภาทลลกูกู เเสสือือสสาามมัญญั รรุน่ ่นุ ใใหหญญ่ ่ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 1
(ตวั อย่างระเบียบวาระการประชมุ ) ระเบียบวาระการประชมุ นายหมู่ ครงั้ ท.่ี ....... / ........ วันที.่ ..........เดือน........................พ.ศ. ........... ณ ................................................ ................................................................... วาระที่ 1 เรือ่ งท่ีท่ี ประปธารนะธจาะนแจ้งะใแหจท้งใรหาบ้ทร(าถบา้ ม()ี ถ้ามี) วาระที่ 2 เร่ืองรับรองรายงานการประชมุ ครง้ั ท่ี...................../ ..................... วาระท่ี 3 เรอ่ื งท่สี บื เื นือ่ งจากการประชชุมมุ คครร้ังงั้ กกอ่ อ่ นน (ถ(ถา้ า้มม)ี )ี วาระที่ 4 เรื่อง...................................... (เป็นเรอ่ื งที่จะประชุมพจิ ารณากนั ในการประชุม ถ้ามีหลาย เรอื่ ง ก็ใส่ วาระที่ 5 ท่ี 6 จนหมดเรอื่ งท่ีจะนาํ มาประชมุ ) วาระที่ 5 เรื่องอนื่ ๆ (ถา้ ม)ี วาระท่ี 5 หรอื วาระอันดับสุดท้ายน้เี ป็นวาระทกี่ าํ หนดสําหรบั เร่อื งทีจ่ ะมีขึน้ ภายหลงั ทไ่ี ดก้ ําหนด ระเบียบวาระไปแล้ว จะไดน้ ํา มาเขา้ มาพดู ในท่ีประชมุ ได้ คูม่ ือสง่ เสริมและพัฒนาคกมู่ ิจอื กสร่งรเมสลรมิกู แเสลอืะพทักัฒษนะาชกีวิจิตกใรนรมสลถกูาเนสศอื ึกทษักาษะลชูกวี เติสใอื นสสาถมาัญนรศุ่นกึ ใษหาญป่ รชะน้ัเภมทธั ลยกู มเสศอื ึกสษาามปญั ที รี่ ุ่น1ใหญ่ 242741 ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256