JEWELLERY (THAILAND) CO., LTD. คู่มือการป้องกนั อนั ตราย และ หลกั ปฏิบตั ิภาวะฉุกเฉินทางรังสี
ข บทนำ สารกัมมันตรังสีและรังสี เป็นพลังงานนิวเคลียร์รูปแบบหนึ่งที่ได้นำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางใน ปัจจุบัน เช่น การเกษตร อุตสาหกรรม การแพทย์ การศึกษา ฯลฯ ทำให้มีการเพิ่มปริมาณการใช้มากข้ึน ดังนั้นการใช้สารกัมมันตรังสีและรังสีให้เป็นประโยชน์ต้องคำนึงถึงอันตรายที่อาจได้รับด้วย การใช้ ประโยชน์ และการป้องกันอันตรายให้ได้ผลดีนั้นผู้ปฏิบัติงานต้องมีความรู้ในเรื่องของกัมมันตภาพรังสี และ สารกัมมันตรังสี เพื่อให้การใช้ประโยชน์เป็นไปอย่างปลอดภัย ผู้ปฏิบัติงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องเรียนรู้ ถึงที่มาของรังสีต่างๆ คุณสมบัติของรังสีและอันตรกิริยาต่อสสารของรังสี ซึ่งเป็นความรู้เกี่ยวกับกายภาพของ นิวเคลียร์หรือนิวเคลียร์ฟิสิกส์ที่อธิบายคุณสมบัติของนิวเคลียสซึ่งเป็นส่วนที่เล็กที่สุดของอะตอมของธาตุ และ เป็นแหลง่ ที่เกิดพลงั งานนิวเคลยี ร์ การทำงานเกี่ยวกับรังสีนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่พนักงานที่ทำงานจะต้อง มีความรู้ในการควบคุมและ ป้องกันอันตรายจากรังสี ซึ่งรังสีที่จะกล่าวในที่นี้ คือ รังสีเอ็กซ์ ซึ่งในกระบวนการผลติ ทางบริษัทฯได้นำมาใช้ เพื่อตรวจสอบองค์ประกอบของธาตุและหาค่าความหนาของชิ้นงานที่ผ่านการชุบ ถึงแม้ปริมาณของรังสี ภายหลังการตรวจวัดจะมีค่าน้อยกว่า 1 µSv ซึ่งเป็นค่าที่น้อยมากๆก็ตาม แต่เพื่อความปลอดภัยและความ เชื่อมั่นในการทำงานของพนักงานที่ทำงานกับรังสีชนิดนี้ ทางหน่วยงานความปลอดภัยฯ จึงได้กำหนด มาตรการเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากรังสี และหลักปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินทางรังสีขึ้นมา เพื่อเป็น แนวทางให้พนกั งานสามารถปฏบิ ัตติ วั ไดเ้ หมาะสม ซึง่ เรือ่ งดงั กลา่ วเป็นประโยชน์กับตวั พนักงานเปน็ อยา่ งมาก ด้วยความปรารถนาดี คณะกรรมการความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน / หนว่ ยงานความปลอดภัย บริษทั แมรีกอท จิวเวลร่ี (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
สารบญั ค เรือ่ ง หน้า 1. ความรู้ทว่ั ไปเก่ียวกบั รงั สี X – rays 1 2. ผลของรังสตี ่อสง่ิ มชี ีวิต 2 3. การป้องกนั อนั ตรายจากรังสี 3 4. ภาวะฉุกเฉินทางรงั สีและหลกั ปฏบิ ัติในภาวะฉกุ เฉนิ ทางรงั สี 4 5. มาตรการป้องกนั อนั ตรายจากรงั สี 5 6. ตำแหน่ง / ท่ีต้ังของเครื่องกำเนิดรงั สี 8 บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
1 1. ความรทู้ ่วั ไปเกีย่ วกับรังสี X – rays รังสีเอก็ ซเ์ ปน็ คล่ืนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าเช่นเดยี วกับรังสีแกมมา ซ่ึงแตกต่างจากรงั สแี กมมาคอื รงั สีเอ็กซ์เกดิ จากการเปลี่ยนแปลงพลังงานของอิเล็กตรอนในวงโคจรของอะตอม หรือเรียกได้ว่ามีการเกิดขึ้นภายนอก นิวเคลียสของอะตอมเทา่ น้ันนัน่ เอง รังสีเอ็กซ์แทนดว้ ยสัญลักษณ์ X มีมวลและประจุเทา่ กับ 0 สามารถทำให้ ตัวกลางเกิดการแตกตัวได้ เรียกว่า Ionizing Radiation เป็นการแตกตัวโดยอ้อม เนื่องจากเป็นรังสีที่มี พลังงานมากกว่า 12.4 eV โดยปกติแล้วค่าพลังงานของรังสีเอ็กซ์จะแปรผันผกผันกับความถี่หรือความ ยาวคลน่ื อันตรกิริยาจากรังสีเอ็กซ์ การสูญเสียพลังงานของรังสีเมื่อผ่านสสารไม่เหมือนกับอนุภาคที่มีประจุ กล่าวคือสามารถทะลุทะลวงตัวกลางไปได้โดยไม่สูญเสียพลังงานและไม่เกิดปฏิกิริยา เป็นรังสีที่มี Specific range ไม่แนน่ อนเหมอื นอนภุ าคท่ีมีประจุ อนั ตรกริ ยิ าของรงั สีเอก็ ซต์ ่อสสารมี 3 แบบ คือ 1. Photoelectric Effect เกิดเมื่อรังสีเอ็กซ์มาชนโดยตรงกับอะตอมของตัวกลางและ ถ่ายเทพลังงานทั้งหมดให้แก่อิเล็กตรอนในวงโคจรเป็นผลให้อิเล็กตรอนหลุดออกมาด้วย พลงั งานจลน์ 2. Compton Scattering เกิดเมื่อรังสีเอ็กซ์มาชนกับอะตอมของตัวกลางและถ่ายทอด พลังงานบางส่วนใหแ้ ก่อเิ ล็กตรอน โดยอเิ ลก็ ตรอนทห่ี ลุดออกมาจะมพี ลังงานจลน์เท่ากับ ผลต่างของรงั สเี อก็ ซท์ เี่ ขา้ มาและพลงั งานยดึ เหน่ยี วของอิเล็กตรอน 3. Pair Production เกิดจากการที่รังสีรังสีเอ็กซ์พลังงานสูงถูกดูดกลืนเมื่อทำปฏิกิริยากับ Coulombic field ของนิวเคลียสแล้วทำให้มีอิเล็กตรอนและโพซิตรอนเกิดขึ้น ปฏิกิริยา นี้เป็นตัวอย่างการเปลี่ยนพลังงานเป็นมวล ดังนั้นพลังงานของรังสีเอ็กซ์อย่างน้อยต้อง เท่ากับ Rest mass ของอิเลก็ ตรอน-โพซติ รอน นั่นคือ 1.02 MeV บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
2 2. ผลของรังสตี ่อสิง่ มีชีวิต ภายหลงั ท่มี ีการคน้ พบวิธกี ารผลิตรงั สเี อ็กซ์ข้ึนโดย W.C.Reontgen เมอื่ ปี ค.ศ. 1895 ไมน่ าน นักวิทยาศาสตร์พบว่ารังสีมีผลต่อเซลล์ของร่างกาย โดยสังเกตเห็นได้ชัดเจนที่ผิวหนังเป็นการแสดงว่ารังสีทำ อันตรายต่อเซลล์ร่างกายมนุษย์ อันตรกิริยาของรังสีต่อเซลล์สิ่งมีชีวิต เกิดขึ้นโดยการก่อให้เกิดอนุมูลอิสระซึ่ง ไปมีผลกับเอนไซม์ที่เป็นส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต และนอกจากนี้รังสียังมีผลโดยตรงกับ DNA ทำให้เกิดผล ดังน้ี 1. เซลล์ตายกอ่ นเวลาอนั ควร 2. ทำให้การแบง่ ตวั ลดลงหรอื หยดุ ไป 3. เกดิ ความผิดปกติขึน้ ในเซลล์ ปจั จยั ทีก่ ่อใหเ้ กิดผลกระทบของรังสี 1. ปริมาณรังสีที่ได้รับ บุคคลที่ได้รับปริมาณรังสีมากจะแสดงอาการก่อนบุคคลที่ได้รับใน ปริมาณนอ้ ย 2. อัตราการไดร้ ับรงั สี คือ การได้รับรงั สดี ว้ ยปริมาณรงั สตี อ่ ครงั้ ต่อเวลา 3. ชนดิ และพลงั งานของรังสีการไดร้ ับรงั สีต่างชนดิ กัน 4. ชนิดของสารกัมมนั ตรงั สี 5. ความไวตอ่ รังสีของอวยั วะ บริษทั แมรีกอท จิวเวลร่ี (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
3 3. การป้องกันอันตรายจากรงั สี โดยทั่วไปมนุษย์ทุกคนได้รับรังสีจากธรรมชาติและรังสีที่มนุษย์สร้างขึ้นระดับหน่ึงอยู่แล้ว รังสีที่ได้รบั ส่วนมากจะได้รับจากรังสีคอสมิกและรังสีจากพื้นดิน แต่อย่างไรก็ตามรังสีที่มนุษย์สร้างขึ้นมานั้นให้โทษต่อ มนษุ ยม์ ากกว่ารงั สีท่มี อี ยใู่ นธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้จึงมกี ารพัฒนาระบบการป้องกันอันตรายจากรงั สี ซงึ่ สามารถ ป้องกันได้ทั้งผู้ปฏิบัติงานและประชาชนทั่วไป โดยการวางมาตรการป้องกัน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยหลาย ประการประกอบกนั ชนิดของการได้รบั รังสี 1. Occupational Exposure เปน็ ปริมาณรังสีท่ีบคุ คลได้รบั จากการทำงาน การประกอบ อาชีพ โดยต้องมีการจำกัดปริมาณการได้รับรังสีให้น้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำได้ โดยจัดให้มีการจัดการและการ ปฏิบัติงานที่เหมาะสม ส่วนปริมาณรังสีที่ผู้ปฏิบัติงานได้รับต้องไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งสามารถควบคุมด้วย การควบคมุ ทต่ี น้ กำเนดิ รงั สี ควบคมุ ทีส่ ภาพแวดล้อมของต้นกำเนิดรงั สแี ละควบคมุ ที่ผปู้ ฏบิ ตั ิงาน 2. Medical Exposure เปน็ ปรมิ าณรงั สีทไี่ ดร้ บั จากการวินจิ ฉัยและการรกั ษาโรค ไมม่ กี าร กำหนดขีดจำกัดของปริมาณรังสีที่ได้รับ แต่การได้รับรังสีต้องพิจารณาตามความจำเป็นในการรักษาโดยมี แพทย์เปน็ ผ้พู ิจารณา 3. Public Exposure เป็นปรมิ าณรงั สีที่สาธารณชนได้รบั ไมร่ วมการไดร้ บั รังสีจากการ ประกอบอาชีพ รังสจี ากทางการแพทยแ์ ละรงั สจี ากธรรมชาติ ระบบการปอ้ งกนั รังสี ICRP ได้กำหนดหลักของระบบการป้องกันอนั ตราย 3 ขอ้ เรียกว่า ALARA Principles ดงั นี้ 1. Justification of a practice เปน็ การพิจารณาเบ้ืองต้นในการนำต้นกำเนิดรงั สีมาใช้ โดย ยึดหลักว่า “ไม่มีการทำงานทางรังสีใดๆอย่างเด็ดขาด ถ้าไม่มีแผนปฏิบัติงานที่มีการป้องกันอันตรายทางรังสีท่ี ดีพอและให้ผลคุ้มค่ามากที่สุด” 2. Optimization เป็นการคำนวณวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ เพอ่ื หาทางเลือกที่ดีที่สดุ โดยนำ ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมมาคำนวณร่วมด้วย โดยเฉพาะการป้องกันอันตรายจากรังสี เพือ่ ให้ผู้ปฏิบตั งิ านและประชาชนท่วั ไปไดร้ ับรังสีน้อยที่สดุ 3. Individual Dose Limitation เปน็ การกำหนดระดับรงั สที ่ยี อมรบั ได้ ซ่งึ ต้องผา่ น 2 ขนั้ ตอนท่ี กลา่ วมาแล้ว ซึง่ ปรมิ าณรังสีทน่ี อ้ ยท่สี ุดตอ้ งไม่เกนิ ค่าระดบั รังสีท่ยี อมรบั ได้ บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
4 4. ภาวะฉกุ เฉินทางรังสแี ละหลักปฏิบัติในภาวะฉุกเฉินทางรังสี ภาวะฉุกเฉินด้านรังสี หมายถึง เหตุการณ์ใดๆที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยไม่คาดคิดหรือวางแผนไว้ ล่วงหน้า โดยเกี่ยวข้องกับรังสี หรือต้นกำเนิดรังสีให้ไม่สามารถควบคุมต้นกำเนิดรังสีหรือปริมาณรังสีให้อยู่ใน ระดับที่กำหนดได้ มีผลก่อให้เกิดอันตรายโดยตรงและโดยอ้อมทั้งทางด้านร่างกายและทรัพย์สินของ ผูป้ ฏิบัตงิ าน ผเู้ กี่ยวขอ้ งและประชาชนท่ัวไป ระดับภาวะฉกุ เฉินทางรงั สี แบ่งออกเป็น 4 ระดบั ตามสภาพเหตุการณ์ทเ่ี กิดขนึ้ คือ 1. ภาวะฉุกเฉนิ ทางด้านสารเคมีระดบั ที่ 1 สถานการณ์มขี อบเขตอยู่ภายในห้องทดลอง หอ้ งปฏิบัตกิ ารหรอื ภายในตัวอาคาร 2. ภาวะฉุกเฉินทางดา้ นสารเคมีระดับท่ี 2 สถานการณ์มีการขยายขอบเขตออกไปทั่ว บริเวณโรงงาน 3. ภาวะฉุกเฉนิ ทางด้านสารเคมีระดบั ท่ี 3 สถานการณอ์ าจมผี ลกระทบตอ่ สถานท่ีขา้ งเคยี ง 4. ภาวะฉกุ เฉนิ ทางดา้ นสารเคมีระดบั ท่ี 4 สถานการณ์อาจมผี ลกระทบต่อประเทศ ขา้ งเคยี ง หลักปฏิบตั กิ ่อนเกิดภาวะฉกุ เฉินด้านรังสี 1. ฝกึ อบรมใหค้ วามรู้เก่ยี วกับรงั สี รวมทง้ั การปฏบิ ัติตวั เมอื่ เกิดภาวะฉกุ เฉินทางรงั สีและ ฝึกซอ้ มโดยการจำลองสถานการณ์ 2. ตรวจสอบเคร่อื งกำเนดิ รงั สอี ยา่ งสมำ่ เสมอ ทำการวัดปริมาณรงั สที อ่ี อกมาจากเครอื่ ง และปรมิ าณทผ่ี ปู้ ฏิบตั ิงานไดร้ ับเพือ่ ทำการประเมิน 3. ระบุหน้าทีข่ องบคุ ลากรที่ทำหนา้ ทีท่ างรังสใี ห้ชัดเจน ว่าต้องดำเนินการอย่างไรในกรณี เกดิ ภาวะฉกุ เฉินทางรังสี 4. จดั มาตรการควบคุมทางเขา้ -ออก โดยให้ใชป้ ระตฉู กุ เฉินในการอพยพออกจากพนื้ ทแ่ี ละ ไปตามเส้นทางอพยพของหน่วยงานตนเอง เมอ่ื อพยพออกหมดแลว้ ใหเ้ จา้ ทที่ ่ีเกีย่ วขอ้ งเข้าปฏบิ ตั หิ น้าท่ี บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
5 5. มาตรการป้องกันอนั ตรายจากรงั สี 1. กำหนดเวลาในการปฏิบัติงานกบั เครื่องกำเนดิ รังสใี หเ้ หมาะสม 2. กำหนดระยะหา่ งระหวา่ งผูป้ ฏบิ ัตงิ านกบั เคร่ืองกำเนิดรังสีให้เมาะสม 3. กน้ั พื้นทีก่ ารทำงานดว้ ยฉากกัน้ หรอื เครือ่ งกำบังรงั สีท่ีสามารถปอ้ งกนั การทะลทุ ะลวงของ รงั สีได้ ได้แก่ คอนกรตี , ตะก่วั , เหล็ก (ใชก้ ับรังสีเอก๊ ซ์) ในกรณีที่ไม่สามารถลดเวลา การทำงานหรอื ระยะหา่ งของผปู้ ฏบิ ัติงานและเครื่องกำเนดิ รังสี 4. ผู้ไมม่ ีสว่ นเก่ียวขอ้ งกบั การทำงานในหอ้ งทำงานที่เก่ียวกับรังสี ห้ามเขา้ ก่อนได้รับ อนุญาต 5. ติดปา้ ยสัญลักษณ์แสดงพ้นื ทที่ มี่ กี ารใช้เครอ่ื งกำเนดิ รงั สรี ังสี 6. บุคคลทท่ี ำงานเกย่ี วกับเครอื่ งกำเนิดรังสีต้องไดร้ ับการฝกึ อบรมเกี่ยวกบั รังสี และได้รบั การฝึกสอนเกย่ี วกบั การใชเ้ ครอ่ื งมืออยา่ งปลอดภัย 7. ในการปฏบิ ัติงานเกี่ยวกับเคร่อื งกำเนิดรังสตี ้องปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนการปฏบิ ัติงานท่ี กำหนดไว้ 8. ในกรณีทไี่ ม่รู้เกยี่ วกบั การปฏิบัติงานข้นั ตอนใดของการใช้เคร่ืองกำเนิดรังสีใหถ้ ามผู้ ชำนาญกอ่ นทกุ คร้งั 9. หา้ มใช้เครอื่ งกำเนดิ รังสใี นกรณีท่ีไมม่ ีเครือ่ งกำบงั รังสโี ดยเดด็ ขาด และขณะใช้งานตอ้ ง แน่ใจว่าเคร่อื งกำบังรังสปี ดิ สนทิ 10. ตรวจวดั ปริมาณรังสที ี่เคร่ืองกำเนิดรงั สแี ละท่ีตวั พนักงานเปน็ ประจำทุกปี โดยมี เจ้าหน้าทเี่ ทคนคิ ด้านรงั สที ำการประเมิน 11. ในกรณที ่มี กี ารร่ัวไหลของรงั สีใหป้ ฏิบัติตามแผนฉุกเฉนิ ดา้ นรังสอี ย่างเครง่ ครดั บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
6 หลักปฏบิ ตั ิในภาวะฉกุ เฉินทางรงั สี 1. ผู้ปฏิบัติงานต้องออกจากพืน้ ทเี่ กดิ เหตฉุ กุ เฉินดา้ นรังสี กรณมี ผี ้ปู ระสบอนั ตราย จำเปน็ ต้องเคลื่อนย้ายออกจากพืน้ ท่ีเกดิ เหตแุ ละทำการประเมินปรมิ าณรงั สที ่ผี ู้ประสบ เหตไุ ดร้ ับ เพื่อให้การรกั ษาพยาบาลที่ถูกวธิ ี 2. กนั้ พืน้ ท่ีบรเิ วณทเี่ กิดเหตฉุ กุ เฉินด้านรังสี หา้ มบคุ คลทไ่ี ม่เกย่ี วข้องเขา้ พ้ืนที่เกดิ เหตโุ ดย เดด็ ขาด และบุคคลที่ได้รบั มอบหมายให้เขา้ ไปในพน้ื ที่เกิดเหตุต้องมอี ปุ กรณ์ป้องกนั อันตรายจากรงั สี เชน่ เครอ่ื งวัดรังสปี ระจำตัวบุคคล ชดุ และหนา้ กากปอ้ งกนั รังสกี ่อนจงึ สามารถเข้าไปในพืน้ ที่ได้ 3. ติดเครื่องหมายหรือสญั ลกั ษณ์และข้อความฉุกเฉินทางรงั สีใหม้ องเหน็ ไดช้ ัดเจน 4. แจ้งหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วข้องเพือ่ ขอความชว่ ยเหลือ แนวทางปฏิบตั ิในการแจง้ เหตฉุ กุ เฉนิ ทางรงั สี 1. การแจ้งเหตภุ าวะฉุกเฉนิ ทางรังสี แจง้ มายังสำนักงานปรมาณเู พือ่ สนั ติตลอด 24 ชม. 2. สถานท่ตี ิดต่อ ศนู ยป์ ฏิบตั งิ านฉุกเฉนิ ดา้ นรงั สี สำนักงานปรมาณเู พื่อสันติ ถ.วภิ าวดี รังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ หมายเลขโทรศพั ท์ (662) 5795230, 5790138-9, 5790547, 5620086, 5620091 หมายเลขโทรสาร (660) 5610313 3. เจ้าหนา้ ท่รี ับแจ้งเหตุ ในเวลาราชการแจ้งเจา้ หน้าท่กี องสุขภาพ นอกเวลาราชการหรือ วันหยุดราชการแจ้ง หัวหนา้ เวรรกั ษาความปลอดภัยเคร่ืองปฏกิ รณป์ รมาณู หรอื ผูช้ ว่ ย หัวหน้าเวรรกั ษาความปลอดภยั เครื่องปฏกิ รณป์ รมาณู แจง้ เหตุเม่อื เกิดสถานการณ์น้ี สถานการณ์ แจง้ ทนั ที แจ้งภายใน แจง้ ภายในระยะเวลาท่ี 24 ชม. เหมาะสม 1.มผี ูไ้ ด้รับรังสี > 0.25 Sv > 0.05 Sv < 0.05 Sv - ท่วั ร่างกาย > 1.50 Sv > 0.30 Sv < 0.30 Sv - บนผวิ หนงั ท่ัวรา่ งกาย > 3.75 Sv > 0.75 Sv < 0.75 Sv - เท้า หวั เขา่ มือ หรอื แขน บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
สถานการณ์ แจ้งทันที แจ้งภายใน 7 24 ชม. 2. การแพร่กระจายของสารกัมมันตรงั สี > 5000 เท่า แจ้งภายในระยะเวลาที่ เกินกว่าค่า ALIs และ DACs ≥ 1 สัปดาห์ > 500 เท่า เหมาะสม - ในระยะ 24 ชม. ≥ 1 วนั < 500 เทา่ 3. ความเสียหาย อนั เป็นเหตุให้ - - ไมส่ ามารถปฏบิ ตั งิ านไดต้ ามปกติ 1. วธิ กี ารแจง้ ต้องแจง้ ขอ้ มลู ให้ครบถ้วน ดังน้ี 1.1.ชื่อ ท่อี ยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ / โทรสารของสถานทีเ่ กดิ เหตุ ผมู้ ีหนา้ ที่ รบั ผิดชอบดำเนินการในภาวะฉกุ เฉนิ ทางรังสีของหน่วยงานทเ่ี กิดอุบตั เิ หตุและผู้ แจ้งเหตฉุ กุ เฉินทางรังสี 1.2.วนั เวลาทเี่ กิดเหตุ หรือเมอื่ ตรวจพบอุบัตเิ หตุ 1.3.สาเหตกุ ารเกดิ อบุ ตั เิ หตุ 1.4.รังสที ี่เกี่ยวข้อง 1.5.ความแรงของรงั สี (ก่อน-หลงั การเกิดอบุ ตั ิเหต)ุ 1.6.รายละเอียดของเครอ่ื งมือหรืออปุ กรณก์ ำเนิดรังสี เช่น ผู้ผลิต ยหี่ ้อ หมายเลข เครื่อง เปน็ ต้น 1.7. ผลการตรวจวัดท่ีดำเนินการไปแลว้ 1.8.ข้อมลู เก่ยี วกบั ผไู้ ด้รับบาดเจ็บ - การบาดเจบ็ ท่ีเกดิ จากรังสี – การบาดเจ็บท่ัวไป ท่ีเกดิ จากอบุ ัติเหตุ 1.9.โอกาสที่ประชาชนจะได้รับผลกระทบทางรังสีจากอุบตั ิเหตคุ ร้งั นี้ 1.10. ความช่วยเหลอื หรือคำแนะนำทีต่ ้องการ บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
8 6. ตำแหน่ง / ทีต่ ้ังของเครือ่ งกำเนดิ รังสี SECOND FLOOR MJ4 Rev.1 Date:01/07/2564 บริษทั แมรีกอท จิวเวลร่ี (ประเทศไทย) จากดั
9 SECOND FLOOR MJ5 บริษทั แมรีกอท จิวเวลร่ี (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
10 ขอบเขตการใช้คู่มือ คูม่ ือการปอ้ งกนั อนั ตรายและหลักปฏิบตั ใิ นภาวะฉกุ เฉนิ ทางรงั สี ฉบบั นีจ้ ดั ทำโดย แผนกความปลอดภัยของบรษิ ัท แมรกี อท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จำกัด โดยจะนำมาใชเ้ พอ่ื เป็น แนวทางในการปฏิบัติงาน เพื่อความปลอดภัยในโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมไฮเทค ตำบล บ้านเลน อำเภอ บางปะอนิ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา (สำนกั งานใหญ)่ บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
11 “งานคือหวั ใจความปลอดภยั คือชีวติ ” บริษทั แมรีกอท จิวเวลรี่ (ประเทศไทย) จากดั Rev.1 Date:01/07/2564
Search
Read the Text Version
- 1 - 14
Pages: