20190809_145143_0000

วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั

คํานาํ หนงั สอื อิเล็กทรอนกิ สเ์ ล่มนีเปนสว่ นหนงึ ใน วชิ าการออกแบบและเทคโนโลยี ว22103ชนั มธั ยมศึกษาปที2ซงึ เปนหนงั สอื อิเลกทรอนกิ ส์ เกียวกับเรอื งวสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั โดยเกียวกับ ไมโ้ ลหะพลาสติกและยาง ทังนีผจู้ ดั ทําหนงั สอื อิเลกทรอนกิ สเ์ ล่มนีจะ เปนประโยชนแ์ ก่ผอู้ ่าน นกั เรยี นและผทู้ ีกําลัง ศึกษาอยูห่ ากผจู้ ดั ทํามขี อ้ แนะนาํ หรอื ผดิ พลาด ประการใดผจู้ ดั ทําขอนอ้ มรบั และขออภัยณทีด้วย

สารบญั เรอื ง หนา้ คํานาํ . ก สารบญั ข เกรนิ น 1 ไม้ 2 โลหะ พลาสติก ยาง อ้างอิง จดั ทําโดย

วสั ดใุ นชวี ติ ประจาํ วนั สงิ ของเครอื งใชต้ ่างๆ สรา้ งขนึ จากวสั ดหุ ลาย ประเภทวสั ดแุ ต่ละ ประเภท มลี ักษณะทีแตกต่างกัน การเลือกใชว้ สั ดทุ ีเหมาะ สมจงึ มคี วามสาํ คัญต่อ การออกแบบและสรา้ ง สงิ ของเครอื งใช้

ไม้ (WOOD) ไมค้ ือวสั ดธุ รรมชาติทีได้มาจากลําต้นของ ต้นไมไ้ มม่ คี วามแขง็ แรงทนทาน ต้านทาน ไฟ ไมม่ สี นมิ มรี ูปรา่ งคงตัว ผวิ เรยี บ มี กลินและมลี วดลายถ้าได้รบั ความชนื เปน เวลานานอาจบวมผดิ รูปและผไุ ด้ไมแ้ บง่ ออก เปน2ประเภทคือ

1.ไมจ้ รงิ หรอื ไมธ้ รรมชาติ คือไมท้ ีไดม้ าจากลําต้น ของต้นไมโ้ ดยตรงแบง่ ไดเ้ ปน2ประเภทคือ 1.ไมเ้ นอื แขง็ 2.ไมเ้ นอื อ่อน

2.ไมป้ ระกอบ คือไมท้ ีไดจ้ ากการนาํ ชนิ สว่ นของไมม้ าต่อรวมกัน โดยกระบวนการต่างๆไม้ ประกอบแบง่ ไดห้ ลาย ประเภทเชน่ ไมอ้ ัด ไม้ บารต์ ิเคิลบอรด์

โลหะ(metals) โลหะ คือ วสั ดทุ ีนาํ มาใชง้ านสว่ นใหญจ่ ะผา่ น การปรบั ปรงุ สมบตั ิใหด้ ขี นึ ก่อนนาํ มาใชง้ าน โลหะเปนตัวนาํ ความรอ้ นและไฟฟามคี วาม แขง็ แรงสงู มคี วามคงทานไมเ่ สอื มสลายเปน วตั ถทุ ึบแสงทนต่อการกัดกรอ่ นโลหะแบง่ ออก ไดเ้ ปน2ประเภทคือ

1.โลหะกล่มุ เหล็ก คือโลหะทีมเี หล็กเปนสว่ นประกอบแบง่ ออกเปนหลักกล้า และหลักหล่อซงึ มธี าตคุ ารบ์ อนผสมอยูใ่ นปรมิ าณทีต่าง กันตังแต่0.1%ไปจนถึง0.4%คารบ์ อนทีผสมอยูใ่ นหลัก มผี ลต่อความแขง็ และเปราะของเหล็กโดยทัวไปโลหะ กล่มุ เหล็กจะเกิดสนมิ และมสี มบตั ิดดู ติดกับแมเ่ หล็กได้

2.โลหะนอกกล่มุ เหล็ก คือโลหะทีไมม่ เี หล็กเปนสว่ นประกอบดงั นนั โลหะชนดิ นไี มเ่ กิดสนมิ และไมด่ ดู ติด กับแมเ่ หล็กเชน่ อะลมู เิ นยี ม ทองเเดง สงั กะส.ี ทองเหลือง

พลาสติก(plastics) พลาสติกคือวสั ดทุ ีมนษุ ยส์ รา้ งขนึ สว่ นใหญเ่ ปนผลผลตฺ ที ไดจ้ ากการลันนาํ มนั ดบิ ปจจุบนั พลาสติกราํ มาใชส้ รา้ งสงิ ของ มากมายและมบี ทบาทอยา่ งยงิ ต่อการดาํ เนนิ ชวี ติ ประจาํ วนั พลาสติกแบง่ ออกได2้ ประเภทคือ

1.เทอรโ์ มพลาสติก คือจะอ่อนตัวและหลอมเหลวเมอื ถกู ความรอ้ นและจะแขง็ ตัวเมอื ทําใหเ้ ยน็ ลงพลาสติกทีแขง็ ตัวแล้วสามารถนาํ มาหลอมชาํ ไดด้ ว้ ยความรอ้ น

2.เทอรโ์ มเชตติงพลาสติก คือเปนพลาสติกทีมสี มบตั ิเปนพเิ ศษคือ ทนทานต่อการเปลียนแปลงอุณหภมู แิ ละ ทนต่อปฏิกิรยิ าเคมไี ดด้ ี

ยาง(Rubber) ยางคือวสั ดทุ ีมคี วามยดื หยุน่ ถกู นาํ ไป แปรรปู เพอื ใชป้ ระโยชนใ์ นการสรา้ ง สงิ ของเคืองใชห้ ลายชนดิ สามารถแบง่ ออกเปน2ประเภทคือ

1.ยางธรรมชาติ คือ ผลผลิตทีไดจ้ ากต้นยาง เมอื ยางอยู่ ในสภาวะอุณหภมู ติ ําจะแขง็ กระดา้ งเมอื ยางอยูใ่ นสภาพอุณหภมู สิ งู ยางจะอ่อนนมิ มี ความยดื หยุง่ สงู ทนต่อการสกึ หรอแต่ไมท่ น ต่อตัวทําละลายพวกนาํ มนั ปโตเลียม

2.ยางสงั เคราะห์ คือยางทีไดจ้ ากการสเคราหท์ างเคมี เพอื เลียนแบบยางทางธรรมขาติขอ้ ดี คือสามารถสมบตั ิต่างๆได้

อ้างอิง สถาบนั สง่ เสรมิ การ สอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละ เทคโนโลย\"ี เทคโนโลย(ี การ ออกแบบและเทคโนโลย)ี \"โรง พมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย,ศูนยห์ นงั สอื แหง่ จุฬาลงกรณว์ ทิ ยาลัย, 2561หนา้ 57

จดั ทําโดย ด.ญ.ภคพร ยอดจงรมั ย์ เลขที29. ชนั ม.2/2 เสนอ คณุ ครู ภัทรวรรณ อุธสิ งิ ห์ รายวชิ าการออกแบบและ เทคโนโลยี ว22103