Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงงานอาชีพ

โครงงานอาชีพ

Published by chaiprasatsuk, 2021-11-02 07:44:03

Description: โครงงานอาชีพ

Search

Read the Text Version

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โครงงานอาชีพ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 เล่มท่ี 1 โครงงานอาชีพคอื อะไร นายสาโรจน์ เดชนครนิ ทร์ ตาแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ครชู านาญการพเิ ศษ โรงเรยี นเทศบาลบา้ นทา้ ยชา้ ง สงั กดั เทศบาลเมอื งพังงา อาเภอเมอื ง จังหวดั พังงา

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้โครงงานอาชีพ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2 เลม่ ที่ 1 โครงงานอาชีพคืออะไร สาระท่ี 4 การอาชพี มาตรฐาน ง 4.1 เข้าใจ มที ักษะทีจ่ าเปน็ มีประสบการณ์ เหน็ แนวทางในงานอาชพี ใชเ้ ทคโนโลยี เพอื่ พัฒนาอาชีพ มีคุณธรรม และมเี จตคติท่ีดตี ่ออาชีพ ตัวชีว้ ัด 1. อธิบายการเสรมิ สรา้ งประสบการณอ์ าชีพ (ง 4.1 ม. 2/1) 2. ระบกุ ารเตรียมตวั เขา้ ส่อู าชีพ (ง 4.1 ม. 2/2) 3. มีทกั ษะพ้ืนฐานที่จาเปน็ สาหรับการประกอบอาชพี ท่ีสนใจ (ง 4.1 ม. 2/3) จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. บอกหรืออธบิ ายความหมายของโครงงานอาชีพได้ 2. บอกหลกั การและจุดม่งุ หมายในการทาโครงงานอาชพี ได้ 3. บอกหรืออธิบายคุณคา่ ของการทาโครงงานอาชีพได้ 4. เข้าใจและจาแนกประเภทของโครงงานอาชีพได้ 5. บอกหรืออธิบายลกั ษณะของโครงงานวิการงานอาชพี แต่ละประเภทได้ สาระการเรียนรู้ 1. โครงงานอาชีพคอื อะไร 2. หลกั การของโครงงานอาชีพ 3. จุดมงุ่ หมายของโครงงานอาชพี 4. ลกั ษณะของโครงงานอาชพี 5. คณุ คา่ ของโครงงานอาชีพ 6. ประเภทของโครงงานอาชพี เวลา 3 ชั่วโมง

บตั รคาสง่ั คาช้แี จง นักเรยี นศกึ ษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานอาชีพ โดยปฏบิ ตั ิตามขั้นตอนดังต่อไปน้ี 1. นกั เรียนสามารถศึกษาชุดกิจกรรมการเรยี นรู้โครงงานอาชีพเป็นรายบุคคล หรือรายกลุ่ม ซึ่งในการ แบ่งกลมุ่ ควรมสี มาชิกกลมุ่ ละประมาณ 3-5 คน โดยใหแ้ ต่ละกล่มุ ควรมีทง้ั คนเกง่ ปานกลาง และอ่อน 2. อา่ นคาชแี้ จงในการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โครงงานอาชพี 3. ทาแบบทดสอบก่อนเรียนเป็นรายบุคคล 4. ศึกษาบัตรเนื้อหาเรื่อง โครงงานอาชีพคืออะไร ด้วยความตั้งใจ 5. ศกึ ษาบัตรกจิ กรรม 6. ปฏิบตั กิ จิ กรรมและบันทึกผลตามท่ีระบุไว้ในบตั รกจิ กรรม 7. ตอบคาถามจากบตั รคาถาม 8. ทาแบบทดสอบหลังเรยี นเป็นรายบุคคล

กจิ กรรมท่ี 1 ทดสอบกอ่ นเรยี น

บัตรทดสอบกอ่ นเรียน เรือ่ ง โครงงานอาชีพคืออะไร กลุม่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี วชิ า การงานอาชพี (ง22101) คะแนนเต็ม 10 คะแนน ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที คาชแี้ จง ให้เลอื กคาตอบทถ่ี ูกท่สี ดุ เพยี งคาตอบเดียวแลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงใน กระดาษคาตอบ 1. โครงงานคอื อะไร ก. สง่ิ ทีถ่ ูกบงั คับ กาหนดให้ศึกษา ข. การเรียนรโู้ ดยไม่มีการวางแผน ค. การเรียนรูโ้ ดยไม่อาศัยกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ง. กิจกรรมที่เปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาส่ิงท่สี นใจอย่างลึก 2. การสร้างสรรค์ส่ิงใหม่ ๆ ขึ้นมาหลังจากที่ได้ศึกษาทางทฤษฎีหรือพบเห็นผลงานของผู้อื่นแล้ว เกิดความคิด สร้างสรรคท์ ี่จะพัฒนาตอ่ ไป เพ่ือให้สามารถใชป้ ระโยชนไ์ ด้ดียิ่งข้ึน จัดเป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภททดลอง ข. โครงงานประเภทสารวจ ค. โครงงานประเภทสงิ่ ประดิษฐ์ ง. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน 3. โครงงานตามสาระการเรยี นรู้ มีลกั ษณะเช่นใด ก. เป็นการสร้างความสามัคคีในหมคู่ ณะ ข. เป็นการใหบ้ รู ณาการร่วมกับการเรียนรู้ ค. เปน็ การนาความรูด้ า้ นต่าง ๆ มาประยกุ ต์ใช้ด้วยกนั ง. เป็นการพัฒนาศักยภาพของตนเอง ไปดา้ นทตี่ นเองสนใจ 4. การใชส้ มนุ ไพรในการปราบศตั รูพืช จดั อยู่ในโครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภททดลอง ข. โครงงานประเภทสารวจ ค. โครงงานประเภทสิง่ ประดิษฐ์ ง. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน

5. ขอ้ ใดจัดวา่ เปน็ โครงงานการทดลอง ก. การสารวจพืชสมุนไพรในท้องถนิ่ ข. การศึกษาวัสดทุ ใี่ ชล้ อ่ และไล่แมลง ค. การศึกษาค้นคว้าตารายาแผนโบราณ ง. การควบคุมการเจริญเตบิ โตของไมป้ ระดบั ประเภทเถา 6. หลักการสาคญั ของโครงงานคืออะไร ก. นกั เรียนแสวงหาความร้ดู ว้ ยตนเอง ข. นักเรียนทาตามคาแนะนาของผ้เู ชยี่ วชาญ ค. นกั เรียนสง่ ผลงานเข้าประกวดเพ่ือใหไ้ ด้รบั รางวัล ง. ครทู ่ปี รึกษาโครงงานช้แี นะแนวทาในการทาโครงงาน 7. คากล่าวน้ีตรงกับข้อใด “เป็นโครงงานการศึกษาข้อมูลสาหรับดาเนินงานพัฒนาปรับปรุงเพ่ิมเติมผลงาน และสง่ เสรมิ ผลผลติ ใหม้ คี ณุ ภาพดียิง่ ขน้ึ ” ก. โครงงานประเภททดลอง ข. โครงงานประเภทสารวจ ค. โครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐ์ ง. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน 8. โครงงานเปรียบได้กับงานใด ข. แบบฝึกหดั ก. การบ้าน ง.รายงาน ค. งานวิจยั 9. สมาชกิ ในการทาโครงงานอาชพี ควรมจี านวนเท่าใด ก. 2-4 คน ข. 3-5 คน ค. 5-7 คน ง. จานวนเท่าใดกไ็ ด้ 10. คุณคา่ สาคญั ของโครงงานคอื อะไร ก. เปน็ โครงงานทีไ่ ด้รบั รางวลั ข. ผ้ทู าไดแ้ สดงความสามารถพิเศษ ค. เกดิ ความสมั พนั ธ์กบั เพือ่ นในกลมุ่ โครงงาน ง. นกั เรยี นเกิดจติ สานกึ และความรบั ผดิ ชอบในการศกึ ษาค้นคว้าดว้ ยตนเอง

กระดาษคาตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอ่ื ง โครงงานอาชีพคืออะไร ชือ่ -สกลุ ........................................................................ช้ัน....................เลขท่ี............... ข้อท่ี ก ตัวเลือก ง ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม คะแนนทีไ่ ด้ 10

กิจกรรมท่ี 2 ศึกษาบัตรเนื้อหา

บัตรเน้อื หาท่ี 1 เรื่อง โครงงานอาชีพ ความหมายของโครงงานอาชีพ เป็นท่ียอมรับกันโดยทั่วไปว่าการจัดการเรียนการสอนท่ีก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่แท้จริงน้ัน คือ การให้ นกั เรียนไดพ้ ัฒนาความรคู้ วามสามารถ และเสาะแสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง ดังน้ันการจัดการเรียนการสอนโดย ยดึ นักเรียนเปน็ ศูนย์กลาง (Child center) จึงเป็นการพัฒนานักเรียนที่แท้จริง คือ หากนักเรียนรู้ เข้าใจ และมีทักษะ ในการเสาะแสวงหาความรู้ด้วยตนเองแล้ว นักเรียนก็จะสามารถสืบค้นความรู้จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ มากมายได้ด้วยตนเอง เป็นการเรียนรู้ที่ยั่งยืน วิธีการอย่างหน่ึงที่จะสนับสนุนและส่งเสริมให้นักเรียนมี ความสามารถดังกล่าว คือการจัดทาโครงงาน เพราะนักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าหาคาตอบด้วยตัวเอง โดยมีครู หรือผูท้ รงคุณวฒุ เิ ป็นผู้ดแู ลและให้คาปรกึ ษา โครงงาน (project) มีเป็นงานวิจัย (Research) ท่ีนักเรียนรวมกลุ่มกันทากิจกรรม โดยใช้วิธีการ ทักษะ กระบวนการ และเจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ในการศึกษาค้นคว้าหาคาตอบในเรื่องใดเรื่องหน่ึงที่เป็นปัญหาหรือท่ี ตอ้ งการคาตอบ Research = Re + search การวจิ ยั การทาซา้ ๆ การสบื ค้น จากรากศัพท์ดังกล่าว การวิจัยจึงหมายถึง การศึกษาหาความรู้ซ้า ๆ หรือค้นแล้วค้นอีกจนกว่าจะเกิดองค์ ความรู้ หรือทราบคาตอบของสง่ิ ทต่ี ้องการศกึ ษาอย่างชดั เจน โครงงานอาชีพเป็นการจัดการเรียนรู้งานอาชีพที่ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง อย่างครบวงจร ต้ังแต่ การวิเคราะห์ การวางแผน การปฏิบัติงาน การจัดการกับผลผลิต การจาหน่าย การบริการ รวมท้ังรายได้จาก การจาหน่ายผลผลิตหรือบริการ โดยเน้นการผลิต การบริการ การบริหารจัดการ การตลาด และการใช้ เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน ลักษณะของงานอาชีพตามโครงงานท่ีปฏิบัติต้องเป็นงานอาชีพสุจริตท่ีมีอยู่ใน ท้องถิ่น หรืองานอาชีพท่ีเป็นความต้องการของผู้เรียน เป็นงานอาชีพที่มีลักษณะเป็นงานผลิตและหรืองาน บริการ การปฏิบัติงานอาชีพ ผู้เรียนต้องเป็นผู้ปฏิบัติเองท้ังหมด ตั้งเริ่มต้นจนสิ้นสุดการปฏิบัติงาน โดยมีครู อาจารย์ทาหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและการปฏิบัติโครงงานอาชีพให้ปฏิบัติรวมกันเป็นกลุ่ม 3 - 5 คน โดยใช้บ้าน สถานประกอบการ สถานประกอบอาชีพ รวมท้ังสถานศึกษา เป็นสถานที่ปฏิบัติงานและในการจัดทาโครงงาน อาชีพของผู้เรียน ควรมีผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้ประสบความสาเร็จในสาขาอาชีพที่มีอยู่ในท้องถ่ิน ร่วมวางแผนและ ให้คาปรึกษาในการปฏบิ ตั ิงานอาชีพของผูเ้ รยี นดว้ ย

หลกั การของโครงงานอาชีพ การทาโครงงานอาชีพน้ัน มุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงท่ีดีข้ึนในตัวนักเรียนให้เป็นผู้มีเจตคติต่อ อาชีพ คิดและทาอย่างเป็นวทิ ยาศาสตร์ มีทักษะและความชานาญในการใช้กระบวนการคิด ดาเนินการอย่างมี ระบบ เป็นระเบยี บ หลกั การสาคญั ของการทาโครงงาน ได้แก่ 1. เนน้ การเสาะแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง โดยนักเรียนเปน็ ผู้รเิ ริม่ วางแผน และดาเนินการศึกษาด้วย ตนเอง ครมู หี นา้ ที่เพยี งเปน็ พ่ีเลีย้ ง คอยชแ้ี นะแนวทางและให้คาปรกึ ษา 2. เน้นกระบวนการในการเสาะแสวงหาความรู้ เริ่มตั้งแต่การกาหนดปัญหา หรือเลือกหัวข้อที่ตน สนใจต้องการศึกษา วางแผนการศึกษาค้นคว้า ดาเนินการทางาน รวบรวมและเรียบเรียงข้อมูล วิเคราะห์ ขอ้ มลู และสรุปผลการศึกษาค้นคว้า 3. เน้นใหน้ ักเรียนคดิ เป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเปน็ 4. มุ่งฝึกให้นักเรียนรู้และมีทักษะในการคิด รู้จักวิธีการในการศึกษาค้นคว้าและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง มไิ ด้เนน้ การสง่ เข้าประกวดเพอื่ รบั รางวัล จดุ ม่งุ หมายของโครงงานอาชีพ 1. เพ่อื ให้นักเรียนไดใ้ ชค้ วามรู้และประสบการณ์ เลือกทาโครงงานตามทต่ี นสนใจ 2. เพอ่ื ใหน้ กั เรียนไดศ้ ึกษาค้นควา้ หาขอ้ มลู จากแหล่งความรูต้ า่ ง ๆ ดว้ ยตนเอง 3. เพื่อใหน้ กั เรียนไดแ้ สดงออกซึง่ ความคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ 4. เพอื่ ให้นักเรียนมเี จตคติทางวิทยาศาสตร์ และเห็นคุณค่าของการใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ใน การแกป้ ญั หา

บัตรเนื้อหาที่ 2 เรือ่ ง ลักษณะ คณุ ค่าและประเภทของโครงงานอาชพี ลักษณะของโครงงานอาชีพ โครงงานอาชีพ จัดว่าเป็นงานวิจัยในระดับชั้นเรียน หรือเป็นงานวิจัยของนักเรียนน่ันเอง มีลักษณะ ดงั ตอ่ ไปน้ี 1. เป็นกจิ กรรมเกีย่ วกับอาชีพในท้องถิ่นพังงา 2. นักเรียนเป็นผู้เร่ิมและเลือกอาชีพท่ีจะศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง ตามความสนใจ และระดับความรู้ ความสามารถ 3. เป็นกจิ กรรมทใ่ี ชว้ ิธกี ารสอบถาม เรยี นรู้ และฝึกปฏบิ ตั ิในการศกึ ษาค้นคว้า 4. นกั เรียนดาเนนิ การด้วยตนเอง โดยมีครหู รือปราชญช์ าวบา้ นเป็นผู้ให้คาปรึกษา เพ่ือให้นักเรียนเกิด ทักษะการเรียนรู้จากการดาเนินโครงงาน ตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดไว้ และเกิดเจตคติท่ีดีต่ออาชีพใน ท้องถน่ิ พงั งา คณุ ค่าของโครงงานอาชีพ โครงงานอาชีพนอกจากจะมีคุณค่าด้านการฝึกให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในงานอาชีพต่าง ๆ และรู้จกั การศึกษาคน้ คว้าหาความรูต้ า่ ง ๆ ด้วยตนเองแลว้ ยังมีคุณคา่ ด้านอน่ื ๆ อกี มากดังน้ี 1. สรา้ งจติ สานกึ และความรบั ผดิ ชอบในการศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้ด้วยตนเอง 2. เปิดโอกาสใหท้ กุ คนได้พัฒนาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง 3. เปิดโอกาสให้ได้ศึกษา คน้ ควา้ และเรยี นรูเ้ รื่องที่สนใจไดอ้ ย่างลกึ ซึ้งกว่าปกติ 4. ผ้ทู ม่ี คี วามสามารถพเิ ศษไดม้ โี อกาสแสดงความสามารถของตนเอง 5. กระตุน้ ความสนใจและสรา้ งเจตคตทิ ดี่ ตี ่ออาชพี ในท้องถน่ิ 6. ได้ใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ในทางสร้างสรรค์ 7. สร้างความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งเพื่อน นักเรยี น ครู และปราชญช์ าวบ้าน

8. สร้างความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งชุมชนกับโรงเรยี น โดยชมุ ชนเปน็ แหลง่ เรยี นรู้และแหลง่ ประสบการณ์แก่ นกั เรยี น ซ่ึงจะกระต้นุ ความสนใจด้านอาชพี ในท้องถนิ่ ประเภทของโครงงานอาชีพ กิจกรรมโครงงาน คือ การกาหนดรายละเอียดของงานที่ต้องทาไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นขั้นตอน มีการ คาดการณ์เหตุการณ์ไว้พร้อมเสร็จ โดยมีวันเริ่มงานและวันส้ินสุดโครงงานไว้ อย่างชัดเจนและสามารถลงมือ ดาเนินการได้ทันที ดังน้ันเพื่อให้การจัดทากิจกรรมโครงงาน มีกรอบหรือขอบเขตที่ชัดเจน จึงแยกโครงงาน ออกเป็นประเภทตา่ ง ๆ โดยพิจารณาจากลักษณะความเหมือนและความแตกต่างไดเ้ ปน็ 4 ประเภท ไดแ้ ก่ 1. โครงงานประเภททดลอง 2. โครงงานประเภทสารวจ 3. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ 4. โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน โครงงานประเภททดลอง เป็นโครงงานท่ีเกิดข้ึนจากการศึกษาหลักการต่าง ๆ ทางวิชาการแล้ว นามาทดลองค้นคว้าเพื่อยืนยันทฤษฎีหรือหลักการหรือต้องการทราบแนวทางเพ่ิมคุณค่าและการใช้ประโยชน์ ให้มากย่งิ ข้นึ เช่น - การศึกษาสูตรอาหารไก่ตอน - การทดลองปลูกพชื ในน้ายาหรือการปลูกพชื โดยไม่ใชด้ นิ - การควบคมุ การเจริญเตบิ โตของไมป้ ระดับประเภทเถา - การใชฮ้ อรโ์ มนกบั กิง่ กุหลาบ - การศกึ ษาขนมอบชนิดต่าง ๆ โครงงานประเภทสารวจ เป็นโครงงานการศึกษาสารวจข้อมูลสาหรับดาเนินงานพัฒนา ปรบั ปรุงเพม่ิ เติมผลงาน และส่งเสริมผลผลิตให้มีคุณภาพดียิ่งข้ึน ข้อมูลดังกล่าวอาจมีผู้จัดทาข้ึน แต่มีการแปร เปลี่ยนไปแลว้ ต้องทาการสารวจจดั ทาข้ึนใหม่ใหท้ นั สมยั อยู่เสมอ เชน่ - การสารวจราคาผลผลติ เกษตรในทอ้ งถน่ิ - การสารวจราคาสินค้าอปุ โภคบริโภคในท้องถิ่น - การสารวจแหล่งวชิ าการและสถานประกอบการในท้องถิ่น - การสารวจงานบรกิ ารในท้องถ่ิน - การสารวจปริมาณการปลกู ข้าวโพดในท้องถิน่ - การสารวจปรมิ าณการเล้ียงไกเ่ นื้อในท้องถนิ่ - การสารวจปรมิ าณการเลีย้ งหา่ นในทอ้ งถิน่

- การสารวจคลองแมร่ าพนั สโุ ขทัย โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ เป็นโครงงานสร้างสรรค์ส่ิงประดิษฐ์ใหม่ ๆ ข้ึนมาหลังจากที่ได้ ศึกษาทางทฤษฎีหรือพบเห็นผลงานของผู้อ่ืนแล้ว เกิดความคิดสร้างสรรค์ท่ีจะพัฒนาต่อไป จึงประดิษฐ์คิดค้น ใหส้ ามารถใชป้ ระโยชนไ์ ด้ดยี ่งิ ขนึ้ เชน่ - การควบคมุ ระบบการให้น้าในแปลงเพาะชา - การประดิษฐห์ วั ฉีดพน่ น้าในแปลงปลกู ผัก - การประดษิ ฐ์ของชารว่ ย - การประดิษฐเ์ ครื่องรับวทิ ยุ - การประดิษฐ์เคร่ืองเสยี ง - การออกแบบเส้ือผา้ ชาย หญงิ โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน เปน็ โครงงานทเี่ กิดจากการศึกษาเนื้อหาทางวิชาการ หรือหลัก ทฤษฎีเก่ียวกับวิชาการงานและอาชีพหรือวิชาสามัญต่าง ๆ แล้วนามาปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับ แนวทางทฤษฎดี งั กล่าว สง่ ผลให้มีผลงานเป็นรปู ธรรมย่งิ ขึน้ ตวั อย่างเชน่ - เม่อื นักเรยี นไดศ้ ึกษาทางทฤษฎเี กย่ี วกบั พลังงานแสงอาทิตย์ โครงงานสร้างเคร่ืองอบกล้วยด้วย แสงแดด ตอู้ บเนอ้ื สัตวต์ ่าง ๆ เคร่ืองทาน้าร้อน ฯลฯ - พืชสมุนไพร โครงงานการใช้ยาปราบศัตรูพืชด้วยพืชสมุนไพร กาจัดเพลี้ย หนอนแมลงปีก แข็ง ฯลฯ - การถนอมอาหาร โครงงานการแปรรูปผลผลิต การทาผักกาดดองสามรส การทาไส้กรอก การ ดองพชื ผักผลไม้ต่าง ๆ ฯลฯ - การเลย้ี งปลา โครงงานการเล้ยี งปลาสวยงาม การเปลีย่ นสีปลาออสก้า

กิจกรรมที่ 3 ปฏบิ ัตติ ามบตั รกิจกรรม

บัตรกิจกรรม เรอ่ื ง กิจกรรมความรว่ มมือ จดุ ประสงค์ เปรียบเทยี บความสามารถในการทางานคนเดียวกบั การทางานเปน็ กลุ่ม คาส่ัง ครั้งที่ 1 นกั เรียน 1 คน ต่อแผน่ หมากรกุ ตวั เลข 1 แผ่น วิธีการ ใหน้ กั เรียนใช้ปากกาหรือดินสอ วงกลมล้อมรอบตัวเลขตามลาดับ ตั้งแต่ 1 เป็นต้นไปจับเวลา 5 นาที นับจานวนตัวเลขทไี่ ด้ ครงั้ ที่ 2 นกั เรียน 2 คน ต่อแผน่ หมากรุกตัวเลข 1 แผน่ วธิ ีการ ใหน้ ักเรียนช่วยกันใช้ปากกาหรือดินสอ วงกลมล้อมรอบตัวเลข ตามลาดับ ต้ังแต่ 1 เป็นต้นไป จบั เวลา 5 นาที แลว้ นบั จานวนตัวเลขท่ีได้ เปรียบเทียบกับ ตอนที่ 1 ครงั้ ท่ี 1

ครั้งท่ี 2 คาถาม 1. จานวนตัวเลขที่ไดค้ รงั้ ที่ 1 = …….........................……..…… จานวน ตวั เลขที่ไดค้ ร้ังท่ี 2 = …………………...….............… 2. จานวนตัวเลขท่ไี ด้ในคร้ังที่ 2 เปน็ อย่างไร เมือ่ เทยี บกบั คร้ังที่ 1…………………..................……………..…… เหตใุ ดจึงเป็นเชน่ นั้น ………………………………………………………………………....................................………. ………………………………………………………………………………………………............................................……... 3. จากกิจกรรมนี้ นักเรยี นจะสรุปไดว้ า่ อย่างไร ………………………………………….............................……………. ………………………………………………………………………………………………............................................……... ………………………………………………………………………………………………............................................……... …………………………………………………............................................…………………………………………………...

กจิ กรรมที่ 4 ตอบคาถาม

บตั รคาถามท่ี 1 เร่อื ง ความเข้าใจในโครงงานอาชีพ คาส่งั นกั เรียนใสเ่ คร่ืองหมาย  หนา้ ข้อท่ีถูก และเครอื่ งหมาย  หนา้ ข้อท่ผี ิด (10 คะแนน) .......... 1. โครงงานอาชพี ควรนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ในชีวติ ประจาวันและการพัฒนาอาชีพ .......... 2. โครงงานอาชีพช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลทาให้เกิด ความรเิ รมิ่ สร้างสรรค์ในการทาโครงงานใหม่ ๆ ที่จะนาไปสู่โลกของงานอาชีพ .......... 3. ความสาคัญของโครงงานเน้นให้นกั เรียนได้ประโยชนจ์ ากกจิ กรรม .......... 4. วัตถุประสงค์ของการทาโครงงาน ทาให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานที่จาเป็นเก่ียวกับความ เปน็ อย่ใู นชวี ิตประจาวนั .......... 5. โครงงานอาชีพมคี วามสาคญั ต่อนักเรยี นและคณะครูคือทาใหโ้ รงเรียนมีชือ่ เสยี ง .......... 6. โครงงานอาชีพมีความสาคัญต่อนักเรียน คือจะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติ จรงิ ส่งผลใหเ้ กิดความเขา้ ใจอยา่ งซาบซงึ้ ในการประกอบอาชพี .......... 7. การเรียนรู้สามารถเกิดในหอ้ งเรยี นไดม้ ากกวา่ ทจี่ ะเกิดจากการฝึกปฏบิ ัติจรงิ ในสถานที่ต่าง ๆ .......... 8. โครงงานอาชีพมีความสาคัญต่อชุมชน คือจะช่วยลดปัญหาวัยรุ่นในท้องถิ่นท่ีเก่ียวกับความ ประพฤติ จรรยามารยาท .......... 9. ประโยชน์ของโครงงานอาชีพจะช่วยให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีความ รบั ผิดชอบ และนาวิธกี ารทางวิทยาศาสตร์มาใชใ้ นการแก้ปญั หา .......... 10. โครงงานอาชีพมีความสาคัญต่อนักเรียนคือช่วยให้เกิดการประสานงานและบูรณาการทาง วิชาการ

บัตรคาถามที่ 2 เรือ่ ง โครงงานอาชพี คอื อะไร คาส่ัง จงเตมิ คาหรือตอบคาถามในช่องวา่ งให้ถกู ต้อง (20 คะแนน) 1. การจัดการเรียนรูท้ ่ยี ดึ นักเรียนเป็นศูนย์กลางมีลักษณะสาคัญอยา่ งไร (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 2. งานวิจัย (Research) ตามรากศัพท์ หมายถึงอะไร (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 3. ในการทาโครงงาน ใครควรเปน็ คนเลอื กเรือ่ งที่จะทาโครงงาน (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... 4. ในการทาโครงงาน ในกลุ่มควรมีสมาชกิ ทาโครงงานก่ีคน (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... 5. หากสมาชกิ ในกลุ่มนอ้ ยเกินไปจะมีผลอยา่ งไร (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... 6. หากสมาชกิ ในกลุ่มมากเกนิ ไปจะมผี ลอยา่ งไร (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... 7. จดุ ม่งุ หมายสาคัญของโครงงานคืออะไร (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... 8. หลกั การสาคญั ของโครงงานคืออะไร (1 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................

9. โครงงานอาชีพมลี กั ษณะสาคญั อย่างไร (2 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 10. โครงงานอาชีพมีคุณค่าสาคญั อยา่ งไร (2 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 11. โครงงานประเภททดลอง มลี กั ษณะอยา่ งไร (2 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 12. โครงงานประเภทสารวจ มีลักษณะอย่างไร (2 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 13. โครงงานประเภทสิง่ ประดิษฐ์ มลี ักษณะอย่างไร (2 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................... 14. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน มลี กั ษณะอย่างไร (2 คะแนน) ...................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................

กจิ กรรมท่ี 6 ทดสอบหลงั เรยี น

บตั รทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง โครงงานอาชพี คอื อะไร กล่มุ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี วิชา การงานอาชีพ (ง22101) คะแนนเต็ม 10 คะแนน ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 จานวน 10 ขอ้ เวลา 10 นาที คาชแี้ จง ใหเ้ ลือกคาตอบท่ีถกู ท่ีสุดเพยี งคาตอบเดียวแลว้ ทาเคร่ืองหมายกากบาท () ลงใน กระดาษคาตอบ 1. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง ก. โครงงานเป็นงานทีน่ ักเรยี นทกุ คนต้องทา ข. โครงงานเปน็ งานวิจยั เล็ก ๆ ของนักเรียน ค. โครงงานเป็นงานวจิ ัยเฉพาะเฉพาะวชิ าวิทยาศาสตร์ ง. โครงงานเป็นงานท่ีครเู ปน็ คนออกคาสง่ั ให้นักเรียนทา 2. โครงงานท่ีเกิดจากการศึกษาเนื้อหาทางวิชาการ หรือหลักทฤษฎีเก่ียวกับวิชาการงานและอาชีพหรือวิชา สามัญต่าง ๆ แล้วนามาปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับแนวทางทฤษฎีดังกล่าว ส่งผลให้มีผลงานเป็น รูปธรรมยิ่งข้ึน จัดเป็นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภททดลอง ข. โครงงานประเภทสารวจ ค. โครงงานประเภทสง่ิ ประดิษฐ์ ง. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน 3. โครงงานอาชพี มีลักษณะเช่นใด ก. เป็นการสร้างความสามัคคีในหมูค่ ณะ ข. เป็นการใหบ้ ูรณาการร่วมกับการเรยี นรู้ ค. เปน็ การนาความร้ดู ้านตา่ ง ๆ มาประยกุ ต์ใช้ด้วยกัน ง. เป็นการพฒั นาศักยภาพของตนเอง ไปด้านทตี่ นเองสนใจ 4. การควบคมุ ระบบการใหน้ ้าในแปลงเพาะชา จดั อย่ใู นโครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภททดลอง ข. โครงงานประเภทสารวจ ค. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ ง. โครงงานประเภทพฒั นาผลงาน

5. ข้อใดจัดวา่ เป็นโครงงานสารวจ ก. การสารวจพืชสมนุ ไพรในท้องถนิ่ ข. การศกึ ษาวัสดทุ ่ใี ช้ล่อและไลแ่ มลง ค. การศึกษาคน้ คว้าตารายาแผนโบราณ ง. การควบคุมการเจริญเติบโตของไมป้ ระดบั ประเภทเถา 6. การจัดกิจกรรมโครงงานควรเน้นหลักการตามข้อใดมากทส่ี ดุ ก. เน้นกระบวนการกลุม่ ข. เน้นการส่งเขา้ ประกวดเพ่อื รางวัล ค. เนน้ การทากิจกรรมตามความรูค้ วามสามารถของนกั เรยี น ง. เน้นการแสดงความรู้ดว้ ยตนเอง คดิ เป็น ทาเป็น แกป้ ัญหาเปน็ 7. คากล่าวน้ตี รงกบั ข้อใด “เปน็ โครงงานทเี่ กดิ ข้ึนจากการศึกษาหลักการต่าง ๆ ทางวิชาการแล้วนามาทดลอง ค้นคว้าเพ่ือยนื ยนั ทฤษฎีหรือหลกั การหรือต้องการทราบแนวทางเพ่ิมคุณคา่ และการใช้ประโยชนใ์ ห้มากยิ่งขึน้ ” ก. โครงงานประเภททดลอง ข. โครงงานประเภทสารวจ ค. โครงงานประเภทส่ิงประดิษฐ์ ง. โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน 8. งานใดเปรียบได้กบั โครงงาน ข. รายงาน ก. การบา้ น ง. แบบฝกึ หดั ค. งานวจิ ัย 9. การทาโครงงานอาชพี ควรมีสมาชกิ จานวนเทา่ ใด ข. 3-5 คน ก. 2-4 คน ง. จานวนเทา่ ใดก็ได้ ค. 5-7 คน 10. ขอ้ ใดคุณค่าสาคญั ของโครงงาน ก. เปน็ โครงงานทีไ่ ด้รับรางวัล ข. ผู้ทาไดแ้ สดงความสามารถพเิ ศษ ค. เกิดความสมั พนั ธ์กับเพื่อนในกลมุ่ โครงงาน ง. นักเรียนเกิดจิตสานึกและความรบั ผดิ ชอบในการศึกษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง

กระดาษคาตอบแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง โครงงานอาชพี คืออะไร ชอ่ื -สกลุ ........................................................................ชั้น....................เลขที่............... ข้อที่ ก ตวั เลอื ก ง ขค 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ 10

บรรณานุกรม กัณหา อัมพวัน. 2536. แนวการสอนวชิ าการงาน ง321 - ง322 โครงงาน…( คหกรรม ). ชลบรุ ี: หนว่ ยศึกษานเิ ทศก์ กรมสามัญศกึ ษา เขตการศึกษา 12. จุลจกั ร โนพนั ธ์ และวิทยา สิริอนุวมั น์. 2540. การงาน ง321 - ง322 โครงงานเกษตรกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 หลักสูตรมัธยมศึกษาตอนตน้ พุทธศักราช 2521 ( ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ.2533 ). กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์วัฒนาพานิช, ชาตรี เกดิ ธรรม. (2550). แนวคดิ โครงงานวิทยาศาสตร์. พิมพ์คร้ังท่ี 2. กรุงเทพฯ: เบน็ พับลชิ ชงิ . บญุ ธรรม จิตตอ์ นนั ต์. 2527. การวางโครงการสอนชีวเกษตร. กรุงเทพฯ: สานักส่งเสรมิ และ ฝึกอบรม มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์, อดั สาเนา. วทิ ยา สิริอนุวัฒน์. คู่มอื ประกอบการสอนวชิ าโครงงาน. กรงุ เทพฯ: หนว่ ยศึกษานิเทศก์ กรมสามญั ศกึ ษา, ม.ป.ป. อดั สาเนา.

ภาคผนวก

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เร่อื ง โครงงานอาชพี คอื อะไร ขอ้ ที่ ก ตวั เลือก ง 1 ขค  2 3   4   5 6   7  8 9  10 เกณฑก์ ารให้คะแนน จานวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน - ทาแบบทดสอบได้ 9-10 ข้อ อยู่ในระดับดีมาก (4) - ทาแบบทดสอบได้ 7-8 ข้อ อยู่ในระดบั ดี (3) - ทาแบบทดสอบได้ 5-6 ข้อ อยู่ในระดบั พอใช้ (2) - ทาแบบทดสอบได้ 0-4 ข้อ อยใู่ นระดับปรับปรุง (1)

เฉลยบัตรคาถาม เรอื่ ง ความเขา้ ใจในโครงงานอาชพี อะไร คาสั่ง นกั เรยี นใส่เคร่ืองหมาย  หนา้ ข้อที่ถกู และเครอ่ื งหมาย  หน้าขอ้ ท่ีผดิ (10 คะแนน)  1. โครงงานอาชีพควรนาไปใช้ประโยชน์ไดใ้ นชีวิตประจาวนั และการพัฒนาอาชีพ  2. โครงงานอาชีพช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง ส่งผลทาให้เกิด ความรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ในการทาโครงงานใหม่ ๆ ทจ่ี ะนาไปสูโ่ ลกของงานอาชพี  3. ความสาคัญของโครงงานเน้นใหน้ ักเรียนได้ประโยชน์จากกิจกรรม  4. วัตถุประสงค์ของการทาโครงงานอาชีพคือ ทาให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานท่ีจาเป็นเกี่ยวกับ ความเป็นอยู่ในชวี ิตประจาวนั  5. โครงงานอาชพี มีความสาคัญต่อนักเรยี นและคณะครคู ือทาให้โรงเรียนมชี อื่ เสียง  6. โครงงานอาชีพมีความสาคัญต่อนักเรียน คือจะช่วยสร้างเสริมประสบการณ์จากการปฏิบัติ จรงิ สง่ ผลใหเ้ กิดความเข้าใจอยา่ งซาบซ้งึ ในการประกอบอาชีพ  7. การเรยี นรู้สามารถเกดิ ในห้องเรียนไดม้ ากกวา่ ทีจ่ ะเกิดจากการฝึกปฏบิ ัตจิ ริงในสถานท่ีตา่ ง ๆ  8. โครงงานอาชีพมีความสาคัญต่อชุมชน คือจะช่วยลดปัญหาวัยรุ่นในท้องถ่ินที่เก่ียวกับความ ประพฤติ จรรยามารยาท  9. ประโยชน์ของโครงงานอาชีพจะช่วยให้นักเรียนรู้จักใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ มีความ รับผดิ ชอบ และนาวธิ กี ารทางวิทยาศาสตรม์ าใชใ้ นการแก้ปญั หา  10. โครงงานอาชีพมีความสาคัญต่อนักเรียนคือช่วยให้เกิดการประสานงานและบูรณาการทาง วิชาการ

บัตรคาถาม เรอ่ื ง โครงงานอาชพี คอื อะไร คาสงั่ จงเติมคาหรือตอบคาถามในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง (20 คะแนน) 1. การจดั การเรียนรู้ท่ยี ดึ นักเรยี นเป็นศนู ยก์ ลางมลี ักษณะสาคญั อยา่ งไร (1 คะแนน) ได้พัฒนาความรู้ ความสามารถ และเสาะแสวงหาความรู้ได้ดว้ ยตัวเอง ทาใหม้ ีความสามารถในการนา ความรู้ ความคิด วธิ ีการ ตลอดจนทกั ษะในดา้ นตา่ ง ๆ ไปใช้ในการแก้ปญั หา ประดิษฐค์ ิดค้น หรือค้นควา้ หา ความรู้ต่าง ๆ ด้วยตนเองโดยมีครหู รอื ผทู้ รงคุณวฒุ ิเป็นผ้ดู ูแลและให้คาปรกึ ษา 2. งานวจิ ยั (Research) ตามรากศัพท์ หมายถงึ อะไร (1 คะแนน) การศึกษาหาความรู้ซ้า ๆ หรือค้นแล้วค้นอีก จนกว่าจะเกิดองค์ความรู้หรือทราบคาตอบของส่ิงท่ี ต้องการศึกษาอย่างชัดเจน 3. ในการทาโครงงาน ใครควรเปน็ คนเลือกเรื่องท่ีจะทาโครงงาน (1 คะแนน) นักเรยี น 4. ในการทาโครงงาน ในกล่มุ ควรมีสมาชกิ ทาโครงงานกี่คน (1 คะแนน) 3-5 คน 5. หากสมาชิกในกลุ่มนอ้ ยเกินไปจะมผี ลอย่างไร (1 คะแนน) มภี าระรับผิดชอบมากและเสียค่าใชจ้ ่ายตอ่ คนสูง 6. หากสมาชิกในกลุ่มมากเกนิ ไปจะมีผลอย่างไร (1 คะแนน) อาจเกิดการเกีย่ งงานและเอาเปรยี บกนั ได้ลงมือปฏิบัตนิ ้อยจนไมเ่ กดิ การเรียนร้ทู ี่คุ้มค่า 7. จดุ มุ่งหมายสาคัญของโครงงานคอื อะไร (1 คะแนน) นักเรียนไดใ้ ช้ความรแู้ ละประสบการณ์ เลอื กทาโครงงานตามที่ตนสนใจ ไดศ้ กึ ษาคน้ คว้าหาข้อมลู จาก แหล่งความรตู้ ่าง ๆ ดว้ ยตนเอง ไดแ้ สดงออกซ่งึ ความคดิ ริเร่ิมสร้างสรรค์ และมเี จตคตทิ าวิทยาศาสตร์ และเหน็ คณุ ค่าของการใช้กระบวนการทาวิทยาศาสตร์ในการแก้ปัญหา 8. หลกั การสาคญั ของโครงงานคอื อะไร (1 คะแนน) ทาให้คิดเป็น ทาเป็น แก้ปัญหาเป็น โดยนาเอากระบวนการและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ มาใช้ในการ แกป้ ัญหา

9. โครงงานอาชพี มีลกั ษณะสาคญั อยา่ งไร (2 คะแนน) ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง อย่างครบวงจร ตั้งแต่การวิเคราะห์ การวางแผน การปฏิบัติงาน การ จัดการกับผลผลิต การจาหน่าย การบริการ รวมท้ังรายได้จากการจาหน่ายผลผลิตหรือบริการ โดยเน้นการ ผลิต การบริการ การบริหารจัดการ การตลาด และการใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน ซึ่งผู้เรียนต้องเป็นผู้ ปฏิบตั เิ องทัง้ หมด ต้ังเริ่มตน้ จนสิ้นสดุ การปฏบิ ตั งิ าน โดยมีครู อาจารย์ทาหนา้ ที่เปน็ ทีป่ รกึ ษา 10. โครงงานอาชีพมีคุณคา่ สาคญั อยา่ งไร (2 คะแนน) สร้างจิตสานึกและความรับผิดชอบในการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ด้วยตนเอง เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ ศึกษา ค้นคว้า และเรียนรูเ้ รือ่ งทส่ี นใจ ไดพ้ ฒั นาและแสดงความสามารถตามศักยภาพของตนเอง กระตุ้นความ สนใจและสรา้ งเจตคติที่ดตี อ่ อาชีพในท้องถ่ิน ได้ใช้เวลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ในทางสรา้ งสรรค์ สร้างความสมั พันธร์ ะหว่างเพ่อื น นักเรียน ครู และปราชญ์ชาวบ้าน ระหวา่ งชุมชนกบั โรงเรียน 11. โครงงานประเภททดลอง มลี กั ษณะอยา่ งไร (2 คะแนน) โครงงานประเภททดลองเปน็ โครงงานทเี่ กิดขน้ึ จากการศกึ ษาหลกั การตา่ ง ๆ ทางวชิ าการแล้วนามา ทดลองคน้ คว้าเพ่ือยนื ยนั ทฤษฎีหรอื หลักการหรือตอ้ งการทราบแนวทางเพ่ิมคุณคา่ และการใชป้ ระโยชน์ใหม้ าก ย่ิงขึ้น เชน่ การศึกษาสตู รอาหารไกต่ อน การทดลองปลูกพืชในน้ายาหรอื การปลูกพืชโดยไมใ่ ชด้ ิน การควบคมุ การเจรญิ เติบโตของไม้ประดับประเภทเถา ฯลฯ 12. โครงงานประเภทสารวจ มลี กั ษณะอยา่ งไร (2 คะแนน) โครงงานประเภทสารวจ เป็นโครงงานการศึกษาสารวจข้อมูลสาหรับดาเนินงานพัฒนาปรับปรุง เพ่ิมเตมิ ผลงาน และสง่ เสรมิ ผลผลิตให้มีคุณภาพดยี งิ่ ข้นึ ขอ้ มูลดังกลา่ วอาจมผี ู้จดั ทาขน้ึ แต่มีการแปรเปลี่ยนไป แล้ว ต้องทาการสารวจจัดทาขึ้นใหม่ให้ทันสมัยอยู่เสมอ เช่น การสารวจราคาผลผลิตเกษตรในท้องถ่ิน การ สารวจราคาสนิ คา้ อุปโภคบริโภคในทอ้ งถน่ิ การสารวจแหล่งวชิ าการและสถานประกอบการในท้องถ่ิน ฯลฯ 13. โครงงานประเภทสง่ิ ประดิษฐ์ มีลักษณะอย่างไร (2 คะแนน) โครงงานประเภทส่งิ ประดิษฐ์ เปน็ โครงงานสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ข้ึนมาหลังจากท่ีได้ศึกษาทาง ทฤษฎหี รือพบเหน็ ผลงานของผู้อ่ืนแล้ว เกิดความคิดสร้างสรรค์ท่ีจะพัฒนาต่อไป จึงประดิษฐ์คิดค้นให้สามารถ ใช้ประโยชน์ได้ดีย่ิงขึ้น เช่น การควบคุมระบบการให้น้าในแปลงเพาะชา การประดิษฐ์หัวฉีดพ่นน้าในแปลง ปลูกผกั การประดิษฐข์ องชารว่ ย ฯลฯ 14. โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน มลี กั ษณะอย่างไร (2 คะแนน) โครงงานประเภทพัฒนาผลงาน เป็นโครงงานที่เกิดจากการศึกษาเนื้อหาทางวิชาการ หรือหลักทฤษฎี เกี่ยวกับวิชาการงานและอาชีพหรือวิชาสามัญต่าง ๆ แล้วนามาปรับปรุงและพัฒนาให้สอดคล้องกับแนวทาง ทฤษฎีดังกล่าว ส่งผลให้มีผลงานเป็นรูปธรรมย่ิงขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อนักเรียนได้ศึกษาทางทฤษฎีเกี่ยวกับ พลังงานแสงอาทติ ย์ โครงงานสร้างเคร่ืองอบกล้วยด้วยแสงแดด ตู้อบเน้ือสัตวต์ ่าง ๆ เครอื่ งทานา้ รอ้ น ฯลฯ

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง โครงงานอาชีพคืออะไร ขอ้ ที่ ก ตัวเลือก ง 1 ขค  2  3  4  5   6 7  8  9 10 เกณฑ์การใหค้ ะแนน จานวน 10 ขอ้ คะแนนเต็ม 10 คะแนน - ทาแบบทดสอบได้ 9-10 ข้อ อยู่ในระดับดีมาก (4) - ทาแบบทดสอบได้ 7-8 ข้อ อยูใ่ นระดบั ดี (3) - ทาแบบทดสอบได้ 5-6 ข้อ อยูใ่ นระดบั พอใช้ (2) - ทาแบบทดสอบได้ 0-4 ขอ้ อยใู่ นระดบั ปรับปรุง (1)

“ในการดาเนนิ ชีวติ และการประกอบกจิ การงาน ย่อมจะต้องมปี ญั หาตา่ งๆ เปน็ อุปสรรค ขดั ขวางความสาเร็จอยู่เสมอ ยากท่ีผู้ใดหรอื สิง่ หนึ่งสิ่งใดจะหลีกเล่ียงพน้ ได้ คนก็มปี ญั หาของคน สงั คมก็มีปญั หาของสังคม ประเทศกม็ ีปญั หาของประเทศ แม้กระทั่งโลกก็มปี ัญหาของโลก ปัญหาทเ่ี กดิ ข้นึ ในชวี ิตและกิจการงานจึงเปน็ เร่ืองธรรมดา ขอ้ สาคญั เม่ือมีปญั หาเกิดขึ้น จะตอ้ งแก้ไขให้ลุลว่ งไปโดยไม่ชักชา้ ผูใ้ ดมสี ติปญั ญาคดิ ไดด้ ี ปฏบิ ัติได้ถกู ผู้น้ันก็มีหวงั บรรลุถงึ เป้าหมาย มคี วามสาเร็จสูง ถา้ เปน็ ตรงกันข้าม กย็ ากทจี่ ะประสบความสาเร็จสมหวังได้” พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช มหิตลาธเิ บศรรามาธบิ ดี จักรีนฤบดนิ ทร สยามมนิ ทราธิราช บรมนาถบพติ ร ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2539


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook