Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1.2 วิทย์ ครูกวาง ปราจีนบุรี

1.2 วิทย์ ครูกวาง ปราจีนบุรี

Published by phisit.yaemnun, 2022-06-23 04:40:01

Description: 1.2 วิทย์ ครูกวาง

Search

Read the Text Version

วิชาวิทยาศาสตร อาจารยณ ฐั รกิ า รอดสถติ ย

แบบทดสอบกอ่ นเรยี นวชิ าวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นมธั ยมศึกษาตอนปลาย ข้อ 1. “แสงสว่างจากหลอดไฟ เกิดการสงั เคราะห์ แสงของพืชหรอื ไม่” จดั เป็นกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ใน ขั้นตอนใด ก. การสังเกต ข. การต้ังสมมตฐิ าน ค. การทดลอง ง. สรุปผล ขอ้ 2. เมื่อใสน่ า้ แขง็ ลงในแกว้ แลว้ ตงั้ ทิง้ ไว้สักครจู่ ะ พบว่ารอบนอกของแกว้ มหี ยดน้าเกาะอยู่เตม็ ข้อใดเป็นผล จากการสงั เกต และบันทกึ ผล ก. ไอน้าในอากาศกล่นั ตัวเปน็ หยดนา้ เกาะอยู่รอบๆแก้ว ข. มีหยดนา้ ขนาดเล็กและขนาดใหญ่เกาะอยู่ ค. หยดน้าท่เี กดิ เป็นกระบวนการเดียวกบั การเกิดน้าค้าง ง. แกว้ นา้ รวั่ เป็นเหตใุ หน้ ้าซมึ ออกมาทผี่ ิวนอก ข้อ 3. นาย มี “สังเกตท้องฟ้าในเวลาบ่ายวนั หนึ่ง” นายมี จะกา้ หนดปัญหาจากการสังเกตเหตุการณ์ ดังกล่าววา่ อย่างไร เราจะก้าหนดปัญหาจากการสังเกตเหตุการณ์ดังกล่าววา่ อย่างไร ก. อากาศวนั นรี้ อ้ นอบอ้าวมาก ฝนน่าจะตกในตอนเย็น ข. บ่ายวันนี้อากาศค่อนข้างเย็น นา่ จะเกิด จากฝนตกลงเมื่อเชา้ มดื ค. ท้าไมทอ้ งฟ้าจงึ แจม่ ใส มีลมแรงและมีเมฆกระจายอยูท่ ่วั ไป ง. ท้าไมบ่ายน้ีอากาศร้อนอบอ้าวมาก เมฆ คงคายความร้อนแฝงออกมา ข้อ 4. หน้าที่ของผนังเซลลค์ ืออะไร ก. ควบคมุ ปริมาณออกซิเจนทีเ่ ซลล์ตอ้ งการ ข. ควบคุมการเปลีย่ นแปลงรูปร่างของเซลล์ ค. ควบคมุ ต้าแหนง่ ของนวิ เคลยี สในเซลล์ ง. ควบคมุ ปริมาณการเข้า-ออกของสาร ข้อ 5. สารจ้าพวกเซลลูโลสเปน็ ส่วนประกอบ สา้ คัญของโครงสรา้ งใดของเซลล์ ก. ผนงั เซลล์ ข. นวิ เคลยี ส ค. เยอื้ หุม้ เซลล์ ง. ไซโทพลาสซึม ขอ้ 6. เซลล์ไข่ท่ีได้รบั การปฏสิ นธิแลว้ หรอื ท่ี เรยี กวา่ ไซโกต (zygote) เจริญเติบโตไปเป็น ตัวออ่ น หรอื เอมบริ โอ (embryo) ต้อง อาศยั การแบง่ เซลลใ์ นข้อใด ก. ไมโทซสิ หลาย ๆ ครั้ง ข. ไมโอซิส หลาย ๆ ครั้ง ค. ไมโทซิสสลับกบั ไมโอซสิ ง. แบง่ แบบไมโอซิสเพยี งอย่างเดียว ขอ้ 7. เพราะเหตุใดโรคตาบอดสีจงึ เกดิ กบั เพศชาย ได้มากกวา่ เพศหญงิ ก. เพศชายจะเปน็ โรคที่เก่ยี วกับนยั นต์ า ข. เพศชายมีโครโมโซมเพศคอื Y อยู่แทง่ เดียว เม่ือมยี นี ตาบอดสีอยู่จึงเกดิ โรคไดง้ ่าย ค. เพศหญงิ มโี ครโมโซมเพศ 2 แท่ง ถา้ มยี ีนตาบอดสีเพียงแท่งเดยี วจะไม่เปน็ โรคน้ี ง. เพศหญงิ มภี มู คิ ุ้มกันโรคนี้มากกว่าเพศ ชาย เพราะมารดาเป็นผู้ถา่ ยทอดมาให้

ขอ้ 8.ขอ้ ใดเปน็ เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ก. การตัดตอ่ ยนี ข. การผลติ ปุ๋ยหมัก ค. การเพาะเล้ยี งเนื้อเยื่อพืช ง. การใช้สง่ิ มีชวี ิตในการควบคมุ ก้าจดั ศตั รพู ืช ขอ้ 9. ข้อใดไมใ่ ชผ่ ลของการใชเ้ ทคโนโลยีชวี ภาพ ก.สุรา ข. เตา้ เจยี้ ว ค. หมูแดดเดยี ว ง. ปลารา้ ขอ้ 10. ทรัพยากรธรรมชาตปิ ระเภทสนิ้ เปลอื งคอื ข้อใด ก. พลงั งานจากดวงอาทิตย์ ดิน น้า ข. อากาศ น้า ปา่ ไม้ ค. แร่ธาตุ น้ามนั แกส๊ ธรรมชาติ ง. น้ามนั แร่ธาตุ อากาศ

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเข้มเตมิ เต็มความรู้ กศน. เตรียมความพร้อมวิชาวทิ ยาศาสตร์ ระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย ขอ้ 1. “แสงสว่างจากหลอดไฟ เกดิ การสังเคราะห์ แสงของพชื หรือไม่” จดั เป็นกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ใน ขน้ั ตอนใด กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ ........... ก. การสังเกต ข. การตัง้ สมมตฐิ าน ค. การทดลอง ง. สรุปผล ข้อ 2. เมอ่ื ใส่นา้ แขง็ ลงในแกว้ แลว้ ตง้ั ทง้ิ ไวส้ ักครู่จะ พบวา่ รอบนอกของแก้วมหี ยดน้าเกาะอยูเ่ ตม็ ข้อใดเปน็ ผล จากการสงั เกต และบันทึกผล ก. ไอน้าในอากาศกลั่นตวั เปน็ หยดน้าเกาะอยรู่ อบๆแก้ว ข. มหี ยดน้าขนาดเล็กและขนาดใหญเ่ กาะอยู่ ค. หยดนา้ ที่เกิดเปน็ กระบวนการเดียวกบั การเกิดน้าค้าง ง. แก้วนา้ รัว่ เป็นเหตใุ หน้ า้ ซมึ ออกมาทีผ่ วิ นอก ข้อ 3. บคุ คลใดใช้เทคโนโลยไี ด้อยา่ งเหมาะสม ก. นาย ก โทรศัพท์ 3G เพอื่ โทรหาลูกและ รับสายลกู เทา่ น้ัน ข. นาย ข ส่งจดหมายลกู โซ่ผ่านอินเตอรเ์ นต็ ค. นาย ค ปรับเปลยี่ นทอ่ ไอเสียรถยนต์เพ่ือใหเ้ สียงดงั ง. นาย ง ใชห้ ลกั เทคโนโลยชี ีวภาพมาปรบั ปรงุ พนั ธพ์ ืช ข้อ 4. อปุ กรณ์ต่อไปนี้ ข้อใดเปน็ อุปกรณส์ ้าหรบั หาปริมาตรของสาร ก. ไพเพท ข. กระบอกตวง ค. เครื่องช่ังสองแขน ง. ถกู ทกุ ข้อ ขอ้ 5. เครอื่ งปอกเปลือกมะพรา้ ว เปน็ โครงงานประเภทใด ก. โครงงานประเภทส่งิ ประดษิ ฐ์ ข. โครงงานประเภททดลอง ค. โครงงานประเภทสา้ รวจ ง. โครงงานประเภททฤษฎี ขอ้ 6. นาย มี “สงั เกตท้องฟ้าในเวลาบา่ ยวนั หนงึ่ ” นายมี จะก้าหนดปัญหาจากการสังเกตเหตกุ ารณ์ ดังกล่าววา่ อย่างไร เราจะก้าหนดปัญหาจากการสงั เกตเหตกุ ารณ์ดงั กล่าวว่าอยา่ งไร ก. อากาศวันน้รี อ้ นอบอา้ วมาก ฝนน่าจะตกในตอนเยน็ ข. บ่ายวนั นี้อากาศค่อนข้างเย็น นา่ จะเกดิ จากฝนตกลงเม่ือเช้ามดื ค. ทา้ ไมทอ้ งฟ้าจึงแจ่มใส มีลมแรงและมีเมฆกระจายอยูท่ ั่วไป ง. ท้าไมบ่ายน้ีอากาศร้อนอบอ้าวมาก เมฆ คงคายความร้อนแฝงออกมา 1

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเข้มเตมิ เต็มความรู้ กศน. ขอ้ 7. ถ้าตอ้ งการทา้ โครงงานวทิ ยาศาสตร์เร่อื งการเลอื กพันธยุ์ างพาราที่เหมาะสมกับท้องถน่ิ ควรคา้ นึงถึงส่ิงใด เปน็ อนั ดบั แรก ก. ช่วงเวลาในการด้าเนนิ การ ข. ปยุ๋ และพื้นทใ่ี นการปลูก ค. ชนดิ ของพันธ์ทุ ีน่ ้ามาใช้ ง. เทคนิคและวิธีการปลกู ข้อ 8. นายดา้ กรดี ยางมะละกอจากผลใส่ในหม้อต้มเนื้อ ปรากฏวา่ เน้ือนุม่ อย่างรวดเร็ว นายด้าสงสยั วา่ ถา้ ใชย้ าง มะละกอจากส่วนอ่ืน ๆ ของ ต้นมะละกอ จะมผี ลเหมือนกันหรือไม่ อยา่ งไรเขาควรตัง้ สมมติฐานวา่ อย่างไร ก. ผลมะละกอให้ยางมากกว่าส่วนอนื่ ๆ ข. ส่วนต่าง ๆ ของมะละกอใหย้ างไม่เท่ากนั ค. ยางมะละกอท้าใหเ้ นื้อนุ่มมากกว่า ง. ยางจากส่วนตา่ ง ๆของตน้ มะละกอทา้ ให้ เนื้อนมุ่ ข้อ 9. หนา้ ท่ีของผนงั เซลล์คืออะไร ก. ควบคุมปรมิ าณออกซเิ จนทเ่ี ซลลต์ อ้ งการ ข. ควบคุมการเปลีย่ นแปลงรปู รา่ งของเซลล์ ค. ควบคมุ ตา้ แหนง่ ของนวิ เคลียสในเซลล์ ง. ควบคุมปรมิ าณการเขา้ -ออกของสาร ขอ้ 10. สารจ้าพวกเซลลูโลสเป็นส่วนประกอบ สา้ คญั ของโครงสรา้ งใดของเซลล์ ก. ผนงั เซลล์ ข. นิวเคลียส ค. เยื้อหุม้ เซลล์ ง. ไซโทพลาสซึม ขอ้ 11. โครงสร้างของเซลล์ท่ที ้าหนา้ ท่ีเปรียบได้กบั สมองของเซลล์ได้แก่ขอ้ ใด ก. นวิ เคลียส ข. ไรโบโซม ค. คลอโรพลาสต์ ง. เซนทรโิ อล เพิม่ เตมิ ควำมรู้เร่ืองเซลล์ 2

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเข้มเติมเต็มความรู้ กศน. ข้อ 12. การแบ่งเซลลแ์ บบไมโทซิส แตกตา่ งจากไมโอซสิ อย่างไร ก. ไมโทซิสใชเ้ วลานานกว่าไมโอซสิ ข. ไมโทซสิ เปน็ การสร้างเซลล์สืบพนั ธ์ุไมโอซสิ สรา้ งเซลลร์ า่ งกาย ค. ไมโทซิสได้เซลล์ใหม่ 4 เซลล์ ไมโอซิสได้เซลล์ใหม่ 2 เซลล์ จ. ไมโทซสิ ไมม่ ีการไซแนปซิส ไคแอสมา และครอสซิงโอเวอร์ แต่ไมโอซิสมี ขอ้ 13. เซลล์ไขท่ ไี่ ดร้ บั การปฏิสนธิแล้ว หรอื ท่ี เรยี กวา่ ไซโกต (zygote) เจริญเตบิ โตไปเปน็ ตัวอ่อน หรอื เอมบริ โอ (embryo) ตอ้ ง อาศัยการแบ่งเซลลใ์ นขอ้ ใด ก. ไมโทซิส หลาย ๆ คร้ัง ข. ไมโอซิส หลาย ๆ ครั้ง ค. ไมโทซสิ สลบั กบั ไมโอซสิ ง. แบง่ แบบไมโอซิสเพียงอยา่ งเดยี ว ข้อ 14. ถ้าเซลลข์ องสง่ิ มีชวี ติ ชนดิ หนึง่ มีจ้านวน โครโมโซม 8 คู่ เมอื่ มกี ารแบ่งเซลลแ์ บบไมโอซิสสน้ิ สดุ ลง เซลล์ ใหม่ ท่ไี ดจ้ ะมี จ้านวน โครโมโซมเท่าใด ก. 2 โครโมโซม ข. 4 โครโมโซม ค. 8 โครโมโซม ง. 16 โครโมโซม ข้อ 15. ขอ้ ใดไม่เป็นลักษณะทถ่ี ่ายทอดทางพนั ธกุ รรม ก. ถนัดมอื ขวา ข. ลักยิ้ม ค. แผลเป็น ง. ตาสองช้ัน ข้อ 16. การแต่งงานระหวา่ งญาติพีน่ ้อง ใกล้ชดิ กัน มกั มลี ูกท่ผี ิดปกติ เพราะเหตใุ ด ก. ยนี ด้อยมโี อกาสเขา้ คู่กันมากข้ึน ข. ยนี มวิ เทชัน มโี อกาสเกดิ มากข้นึ ใน ระหว่างพีน่ ้อง ค. ยีนท่ีเปน็ อนั ตราย มีโอกาสแสดงออก รุนแรงมากขนึ้ ในกลมุ่ พ่นี ้อง ง. ล้าดบั เบสของ DNA มกี ารแปลย่ี นแปลงเหมือนกนั ระหว่างพ่นี ้อง ขอ้ 17. เพราะเหตุใดโรคตาบอดสจี ึงเกดิ กบั เพศชาย ได้มากกว่าเพศหญิง ก. เพศชายจะเป็นโรคทเ่ี กี่ยวกับนัยนต์ า ข. เพศชายมีโครโมโซมเพศคอื Y อยู่แทง่ เดียว เม่ือมยี นี ตาบอดสอี ย่จู งึ เกิดโรคได้ง่าย ค. เพศหญิงมีโครโมโซมเพศ 2 แท่ง ถา้ มยี นี ตาบอดสีเพียงแท่งเดียวจะไมเ่ ปน็ โรคน้ี ง. เพศหญงิ มภี ูมคิ มุ้ กันโรคน้ีมากกว่าเพศ ชาย เพราะมารดาเป็นผถู้ ่ายทอดมาให้ เพิ่มเตมิ ควำมรู้พนั ธกุ รรม 3

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการตวิ เข้มเติมเตม็ ความรู้ กศน. ขอ้ 18. ลกั ษณะใดในมนษุ ย์ทส่ี ง่ิ แวดล้อมมีอทิ ธิพล มากกว่าลักษณะทางพนั ธกุ รรม ก. โรคเบาหวาน ข. ตาบอดสี ค. นดั ซา้ ยหรือถนัดขวา ง. หม่เู ลือด ขอ้ 19.ข้อใดเป็นเทคโนโลยชี วี ภาพสมยั ใหม่ ก. การตดั ตอ่ ยนี ข. การผลิตปุ๋ยหมัก ค. การเพาะเล้ียงเนอ้ื เยอื่ พชื ง. การใชส้ ่งิ มีชีวติ ในการควบคุมก้าจดั ศัตรพู ืช ข้อ 20. ขอ้ ความใดกล่าวถงึ ปะโยชน์ทีไ่ ด้รับจากการ น้าความรูท้ างดา้ นพนั ธุวิศวกรรมมาใชก้ บั พชื ไดถ้ ูกต้อง ก. ผลผลติ ทไ่ี ดร้ ับสามารถเก็บรักษาได้นาน ข. ช่วยลดการใช้สารเคมี ประหยัดตน้ ทนุ ค. ท้าใหไ้ ด้ลกู ผสมทไี่ ด้จากการผสมพันธุ์ภายในสายพนั ธเุ์ ดียวกนั ง. ถกู ทง้ั ข้อ ก และ ข ข้อ21. ขอ้ ใดไม่ใชผ่ ลของการใช้เทคโนโลยชี ีวภาพ ก.สรุ า ข. เต้าเจี้ยว ค. หมแู ดดเดียว ง. ปลาร้า ขอ้ 22. เทคโนโลยีทีเ่ หมาะสมในการแกป้ ัญหาขยะในเมอื งคือข้อใด ก. การขุดหลุมฝงั กลบ ข. การนา้ กลบั มาใช้ประโยชน์ใหม่ ค. การเผาขยะทสี่ ามารถเผาได้ ง. การน้าไปทง้ิ ในพื้นท่รี กร้างวา่ งเปลา่ ขอ้ 23. คา้ กลา่ วใดกล่าวถงึ เทคโนโลยชี ีวภาพไม่ถกู ต้อง ก. เทคโนโลยชี วี ภาพมคี วามเจริญควบคมู่ า กับวิวัฒนาการของมนุษย์ ข. การเพมิ่ ผลผลิตทางการเกษตรเปน็ การน้าเทคโนโลยมี าใช้ ค. ความร้ทู างวทิ ยาศาสตรโ์ ดยเฉพาะกระบวนการทางชีววิทยาถูกน้ามา ประยกุ ตใ์ ช้ ง. เป็นการใชค้ วามรู้เก่ียวกบั สิ่งมีชีวติ ท้าให้ เกดิ การเปลี่ยนแปลงหรือมคี ุณสมบตั ิ เปลย่ี นไปเทา่ นนั้ ข้อ24. สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพใดทีม่ ีอิทธิพล โดยตรงต่อการยา้ ยถ่นิ ฐานของนกปากห่างหรือการออกหากินใน เวลากลางคนื ของสตั ว์ทะเลทราย ก. ดนิ ข. แสงสวา่ ง ค. อุณหภูมิ ง. นา้ และความชืน้ ขอ้ 25. ทรพั ยากรธรรมชาติประเภทส้ินเปลืองคือข้อใด ก. พลังงานจากดวงอาทิตย์ ดิน นา้ ข. อากาศ น้า ป่าไม้ ค. แรธ่ าตุ น้ามนั แก๊สธรรมชาติ ง. นา้ มนั แรธ่ าตุ อากาศ 4

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการตวิ เขม้ เติมเต็มความรู้ กศน. เตรยี มความพรอ้ มวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ข้อ 1. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเกยี่ วกบั การใช้อุปกรณใ์ นการประกอบอาชีพช่างไฟฟา้ ก.ไขควงใช้เชค็ ไฟฟ้า ข.โอห์มมิเตอรใ์ ชว้ ัดกระแสไฟฟา้ ค.เบรกเกอร์คือตัวหยุดวงจรไฟฟ้าได้โดยอตั โนมัติ ง.ถูกทุกข้อ ข้อ 2. ข้อใดกล่าวถงึ ชา่ งไฟฟ้าท่ีสามารถปฏิบตั ิ หน้าที่ได้อย่างถูกต้องและปลอดภยั ที่สุด ก.ชา่ งดาม ตอ่ สายไฟภายในบ้านโดยไม่ปลดสะพานไฟลง ข.ช่างเดอื นเสียบปล๊กั ไฟฟ้าขณะตัวเปียก ค.ช่างโด่ง ใชไ้ ขควงเชค็ ไฟที่ไมม่ ฉี นวนห้มุ ง.ช่างเดช ปลดสะพานไฟก่อนตดิ ตงั้ ไฟฟ้าทุกครั้ง ขอ้ 3. กระแสไฟฟา้ ท่นี ยิ มใช้ในบ้านเรือนมีขนาดกโี่ วลต์ ก. 20 โวลต์ ข. 120 โวลต์ ค. 200โวลต์ ง. 220 โวลต์ ข้อ 4. ปจั จัยใดไม่มผี ลตอ่ อตั ราการเกิดปฏิกิริยา ก. อุณหภูมิ ข. ความเข้มข้นของสารผลิตภัณฑ์ ค. พืน้ ท่ผี ิว ง. ธรรมชาติของสาร ข้อ 5. สารใดเมื่อละลายในน้าฝนจะท้าใหเ้ กิดฝนกรด ก. HNO2 ข. H3SO4 ค. HNO3 ง. ถกู ทกุ ข้อ ข้อ 6. กิจกรรมใดต่อไปนเี้ กย่ี วกบั การประยุกต์ใช้ ความรู้ในเรือ่ งอัตราการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี ก. โซเดียมท้าปฏกิ ริ ิยากับน้าได้ง่ายจึงตอ้ ง เก็บในนา้ มันพาราฟนิ ข. การเกบ็ อาหารไว้ในตูเ้ ยน็ ค. การตม้ เนื้อให้ยุ่ยโดยใชห้ ม้ออดั ความดนั ง. การท้าปฏิกิรยิ าระหวา่ งสาร 2 ชนดิ โดย ทา้ การคนตลอดเวลา ควำมรู้เบอื ้ งต้น สำรชวี โมเลกลุ 1

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ กศน. ข้อ 7. โปรตนี เป็นสารอินทรีท่ใี หส้ ารท่ีรา่ งกาย น้าไปใชส้ ร้างโปรตนี ในเซลล์และเนอื้ เยื่อต่าง สารน้ันเรียกว่าอะไร ก. กรดอะมิโน ข. กลเี ซอรอล ค. กลูโคส ง. ไกลโคเจน ขอ้ 8. ข้อใดไมใ่ ช่หนา้ ท่ขี องคาร์โบไฮเดรต ก. กระตุ้นการทา้ งานของลา้ ไสใ้ หญ่ ข. มสี ่วนรว่ มในการสังเคราะห์โปรตีน ค. รกั ษาสภาวะน้าตาลในเลือดใหค้ งท่ี ง. ชว่ ยประหยัดการใช้โปรตนี ในร่างกาย ขอ้ 9. ไขมนั เกิดจากการรวมตวั ทางเคมีของอะไร ก. กรดไขมัน 1 โมเลกลุ ข. กรเี ซอรอล 2 โมเลกลุ ค. กรดไขมัน 3 โมเลกลุ และกลเี ซอรอล 1 โมเลกลุ ง. กรดไขมัน 4 โมเลกุล และกลีเซอรอล 2 โมเลกลุ ขอ้ 10. ในการกลัน่ ล้าดบั สว่ นของนา้ มนั ปิโตรเลยี มส่วนต่างๆที่ออกมาจะมจี ดุ เดือดเรียงลา้ ดับ จากนอ้ ยไปหามาก ตามข้อใด สตู รจำ ก. น้ามนั ดเี ซล น้ามนั ก๊าซ เบนซิน แก๊สหงุ ต้ม ข. แก๊สหุงต้ม เบนซนิ น้ามันดเี ซล น้ามนั ก๊าด ค. แกส๊ หุงตม้ นา้ มนั ก๊าซ น้ามนั ดเี ซล น้ามนั เบนซิน ง. แกส๊ หงุ ต้ม นา้ มันก๊าซ น้ามนั ดเี ซล ข้อ 11.ขอ้ ใดคือประโยชนจ์ ากแก๊สปิโตเลยี ม ก. เป็นน้ามนั เบนซนิ ข. ท้าเคร่ืองสา้ อาง ค. เปน็ เช้อื เพลิง ง. ทา้ ยางมะตอย ขอ้ 12. สมบัตใิ ดแสดงถงึ พอลิเมอร์แบบตาขา่ ย ก. ยืดหยุน่ โคง้ งอได้ดี ข. อ่อนตัว เมื่อไดร้ ับความรอ้ น ค. เปลยี่ นแปลงรูปร่างกลบั ไปมาไดด้ ้วย ความร้อน ง. แขง็ แรง ทนความรอ้ นได้ดี ข้อ 13. ปัจจบุ ันขวดยา ขวดน้าเกลือ ขวดนา้ กลน่ั และหลอดฉดี ยาล้วนทา้ ด้วยพลาสติก เพราะเหตุใดจงึ มีการผลิตมากท่สี ดุ ก. น้าหนักเบา ราคาถกู ข. ทนตอ่ สารเคมี ค. ไม่มรี อยขดี ขว่ นได้งา่ ย ง. มคี วามอ่อนนุ่ม โคง้ งอได้ดี 2

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการตวิ เขม้ เติมเตม็ ความรู้ กศน. ขอ้ 14.สารชนดิ ใดทีท่ ้าหนา้ ท่ีเป็นตวั กลางในการน้า วิตามนิ เอ เขา้ สู่ร่างกาย ก.นา้ ข.กรดไขมัน ค.กลูโคส ง.กรดอะมโิ น ขอ้ 15. สารประเภทใดมีพนั ธะเพบไทด์ในโมเลกุล ก.น้าตาลทราย ข.ผงชรู ส ค.น้ามนั งา ง.นมถัว่ เหลือง ข้อ 16.ขอ้ ความใดต่อไปนี้ไมเ่ ป็นความจริง ก. การไมบ่ ริโภคไขมนั เลย อาจจะทา้ ให้ ขาดวิตามนิ เอได้ ข. การบริโภคโปรตนี ในปริมาณสงู ทา้ ให้ไม่ เป็นโรคขาดสารอาหาร ค. การบรโิ ภคแปง้ และน้าตาลเป็นหลักอาจทา้ ให้เปน็ โรคขาดสสารอาหารได้ ง. การเอาถั่วผสมงาจะได้โปรตนี ทีม่ ่ีคุณภาพดีขนึ้ แต่ราคาจะแพงกวา่ โปรตีนจาก เนื้อสตั ว์ ข้อ 17. ถา้ เราโยนวัตถุออกไปทางหน้าตา่ งโดยไม่คดิ แรงต้านทานของอากาศปริมาณใดท่ีวตั ถุยัง ลอยอยู่ในอากาศ ก.ความเร็วในแนวดง่ิ ความเร่งในแนวระดับ ข.ความเร็วในแนวดิ่ง ความเร่งในแนวดง่ิ ค.ความเรง่ ในแนวดิ่ง ความเรว็ ในแนวระดบั ง.ความเรง่ ในแนวระดบั ความเร็วในแนว ระดบั ข้อ 18. ขอ้ ความใดกลา่ วถงึ การเคลอื่ นท่ีในแนวตรงได้ถกู ต้อง ก. การย้ายตา้ แหน่งวัตถุตามแนวระดับ ข. การเคลอ่ื นท่ขี องวัตถุโดยไมค่ า้ นึงถึง ทศิ ทาง ค. วตั ถุเคลือ่ นทโี่ ดยพิจารณาทิศทางและขนาดของการเคล่ือนที่ ง. การที่วัตถเุ ลอ่ื นจากต้าแหน่งเดมิ ไปยังต้าแหน่งใหมท่ ที ิศทางตรง ขอ้ 19. การเคล่ือนที่ใด ไม่ใช่ การเคล่อื นทแ่ี บบฮาร์มอนิก ก. การแกวง่ ของชงิ ชา้ ข. การการแกว่งลกู ตุ้มนาฬิกา ค. การเคล่ือนที่ของรถตามรางเล่น ง. การแกวง่ ของมวลผูกปลายสปรงิ ขอ้ 20. วชิ ุดาออกเดินทางจากบ้านไปทางด้านทศิ ตะวนั ออก 15 กิโลเมตร แล้วเดนิ ทางไปทาง ทิศตะวันตกอีก 20 กโิ ลเมตร การกระจัด ตลอดการเคล่ือนไหว มีค่าเทา่ ใด ก. 15 เมตร ข. 20 เมตร ค. 25 เมตร ง. 30 เมตร คำนวณเบำๆ 3

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการตวิ เข้มเติมเตม็ ความรู้ กศน. ขอ้ 21. อุปกรณ์ใดตอ่ ไปนี้ ไม่ได้ ใช้ความรู้ประยกุ ต์ การเคล่ือนท่ีของอนภุ าคในสนามไฟฟ้า ก. เครอื่ งก้าจดั ฝุ่นในอากาศ ข. เคร่อื งพน่ สี ค. เครอ่ื งถ่ายเอกสาร ง. มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ข้อ 22. ถา้ มนุษย์ออกไปนอกยานอวกาศโดยไมส่ วมชุดอวกาศ นกั ศึกษาคดิ วา่ ข้อสรุปใดน่าจะ เปน็ ไปไดม้ ากท่ีสุด ก. สามารถลอยในอวกาศได้อย่างอสิ ระ ข. เส้นเลอื ดแตก เนื่องจากความดนั ใน รา่ งกายสูงกว่าภายนอก ค. ตอ้ งออกแรงกระโดดมากจึงจะสามารถกระโดดไปมาได้ ง. เสน้ เลือดจะตบี ตัน เน่อื งจากความดนั ภายนอกสงู กว่าภายในร่างกาย ข้อ 23. โครงการใดทีม่ ีจุดประสงคเ์ พือ่ ศึกษาการใช้ ชีวิตของมนุษย์ในหว้ งอวกาศในระยะยาว ก. สกายแล็บ ข. อะพอลโล – ซัลยดุ ค. สถานอี วกาศนานาชาติ ง. สถานีอวกาศเมยี ร์ ข้อ 24. ข้อใด ไม่ใช่ หนา้ ที่ของดาวเทียมอตุ ุนิยมวทิ ยา ก. ตรวจวดั ระดบั ของเมฆ ข. ตรวจการแผ่รังสีของดวงอาทติ ย์ ค. ตรวจหาปริมาณสารพิษในอากาศ ง. ตดิ ตามการก่อตวั และการเคลอ่ื นตวั ของ พายุ ข้อ 25. เทคโนโลยที ีใ่ ชใ้ นการศึกษาปรากฏการณต์ ่างๆ คือขอ้ ใด ก. ยานอวกาศ ข. ดาวเทียมสา้ รวจทรพั ยากรธรรมชาติ ค. สถานีอวกาศนานาชาติ ง. กรมอตุ ุนยิ มวทิ ยา 4


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook