วิชาภาษาไทย อาจารยว รธน อนนั ตวงษ
แบบทดสอบก่อนเรียนวชิ าภาษาไทย 1. ขอ้ ใดมีคำสะกดผดิ ทุกคำ 1. เจตนำรมย์ งบดุล 2. ประจนั บำน ปฏิสงั ขรณ์ 3. กิตติมศกั ด์ิ เอนกประสงค์ 4. เดียดฉนั นำนบั ประกำร 5. ปะรำพิธี กระเบียดกระเสียร 2. ขอ้ ใดใชค้ ำผดิ ควำมหมำย 1. ก่อนจะลงมือทำสิ่งใดควรพิจำรณำเหตุผลใหถ้ ่องแทท้ ุกคร้ัง 2. สมศรีนดั แนะกบั พรรคพวกใหพ้ ูดตำมขอ้ มูลที่คน้ มำเพ่ือใหน้ ่ำเช่ือถือ 3. สองคนน้ีเป็ นเพื่อนรักกนั ไมน่ ่ำจะมำบำดหมำงกนั ดว้ ยเร่ืองไร้สำระเลย 4. ลุงสุขเดินบุกรุกเขำ้ ไปในป่ ำละเมำะบริเวณบำ้ นเพ่ือเกบ็ สมุนไพรมำปรุงยำ 5. วสิษฐม์ อบเงินเดือนทุกบำททุกสตำงคจ์ ุนเจือครอบครัวมำเป็ นเวลำหลำยปี 3. คำในขอ้ ใดใชไ้ ดท้ ้งั ควำมหมำยตำมตวั และควำมหมำยเชิงอุปมำทุกคำ 1. กม้ หวั คอขวด เผด็ ร้อน 2. ปำกโป้ง น้ำยำ แกแ้ คน้ 3. ลูกหมอ้ แมเ่ ล้ียง ไมด้ ดั 4. มว้ นเส่ือ อดั ฉีด ขำยตรง 5. เลือดเยน็ เป้ำนิ่ง เหลือขอ 4. ขอ้ ใดใชภ้ ำษำกำกวม 1. กำรจำกดั แคลอรี่ท่ีรับประทำนเขำ้ ไปทำใหน้ ้ำหนกั ตวั ลดลง เป็นวธิ ีหน่ึงในกำรลดน้ำหนกั 2. ช่วงน้ีหลำยคนหนั มำสนใจซ้ือหมอ้ ทอดไร้น้ำมนั สำหรับนำมำใชป้ ระกอบอำหำรที่บำ้ นหลำกหลำย รูปแบบ 3. นิ่วเกิดจำกกำรตกผลึกของหินปูน หำกกอ้ นนิ่วไปอุดถุงน้ำดีจะทำใหอ้ กั เสบ ซ่ึงอำจกลำยเป็นมะเร็ง ถุงน้ำดีได้ 4. กำรป่ันจกั รยำนอยำ่ งต่อเนื่องวนั ละ 2-3 ชวั่ โมง จะช่วยเพม่ิ อตั รำกำรเผำผลำญไขมนั ส่วนเกินในร่ำงกำย 5. โอเมกำ้ 3 ไดจ้ ำกปลำสวำย ปลำแซลมอน ปลำทูน่ำ และปลำกะพง ช่วยลดระดบั คอเลสเตอรอลในหลอด เลือดสมอง 5. สำนวนขอ้ ใดเหมำะจะเติมลงในช่องวำ่ งของขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี ครอบครัวของวนิ ยั ทำธุรกิจหอพกั ใกลม้ หำวทิ ยำลยั แมน้ กั ศึกษำจะเรียนจบไป แต่กม็ ีนกั ศึกษำใหมม่ ำ เช่ำหอ้ งทุกปี ทำใหม้ ีรำยไดเ้ ขำ้ บำ้ นเร่ือย ๆ เหมือน ..................................... 1. น้ำบ่อนอ้ ย 2. กระดี่ไดน้ ้ำ 3. เอำน้ำลูบทอ้ ง 4. น้ำซึมบ่อทรำย 5. น้ำข้ึนใหร้ ีบตกั
6. สถำนกำรณ์ตำมขอ้ ใดมีควำมหมำยตรงกบั สำนวน “เกลือจิ้มเกลือ” 1. ธิดำกบั แสงจนั ทร์เรียนเก่งพอๆ กนั สอบไดค้ ะแนนเกือบเท่ำกนั เรียกไดว้ ำ่ เกลือจิม้ เกลือ 2. เนตรและนอ้ งสำวคุยกนั ดว้ ยเรื่องไม่เป็ นเร่ืองมำต้งั แต่เชำ้ ไมย่ อมเลิก เขำ้ ทำนอง เกลือจิ้มเกลือ 3. ดลแขง่ หมำกรุกกบั ศกั ดำต่อเนื่องหลำยชวั่ โมง ผลดั กนั แพผ้ ลดั กนั ชนะ อยำ่ งน้ีตอ้ งเรียกวำ่ เกลือจิ้มเกลือ 4. กนกกบั กรณ์ส่งภำพเขียนเขำ้ ประกวด แหม! บอกไดย้ ำกวำ่ ภำพของใครควรจะชนะเกลือจิ้มเกลือน่ำดูเลย 5. ภรลดำแต่งชุดหรูไปเดินแบบ ปรำกฎวำ่ นภำนีก็แต่งตวั เก๋มำกไมต่ ่ำงกนั เฉือนกนั แบบเกลือจิ้มเกลือ ทีเดียว 7. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดใชภ้ ำษำต่ำงระดบั กบั ส่วนอ่ืน 1) กำรเรียนออนไลน์จำกท่ีบำ้ นหรือที่พกั มนั ไม่ง่ำยอยำ่ งที่คิด / 2) ปัญหำท่ีหลำยคนไม่ทนั นึกถึงในยคุ 5G คือ สญั ญำณอินเทอร์เน็ต / 3) นกั ศึกษำที่อยหู่ อพกั เม่ือเจอปัญหำสัญญำณไมเ่ สถียร หรือชำ้ อืดอำด ทำให้ รับฟังเน้ือหำไดไ้ ม่ต่อเน่ือง / 4) หลำยคนจึงเลือกท่ีจะหิ้วโนต้ บุก๊ ออกมำหำพ้ืนท่ีเรียนออนไลน์อยำ่ ง หอ้ งสมุดหรือร้ำนกำแฟ / 5) ซ่ึงทำใหล้ ะเลยเป้ำหมำยของกำรลดกิจกรรมทำงสังคมและกำรเดินทำงโดย ไมจ่ ำเป็น 1. ส่วนท่ี 1) 2. ส่วนที่ 2) 3. ส่วนท่ี 3) 4. ส่วนท่ี 4) 5. ส่วนท่ี 5) 8. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดใชภ้ ำษำต่ำงระดบั กบั ส่วนอื่น 1) วำฬบรูดำ้ เป็นสัตวเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม เม่ือโตเตม็ วยั จะมีควำมยำวประมำณ 14-16 เมตร / 2) พบแพร่ กระจำยท้งั ในฝ่ังทะเลอนั ดำมนั และอ่ำวไทย บริเวณที่พบส่วนใหญอ่ ยหู่ ่ำงจำกชำยฝั่งทะเลต้งั แต่ 4-30 กิโลเมตร / 3) สำมำรถตื่นตำกบั ฝงู วำฬบรูดำ้ ไดใ้ นยำ่ นอ่ำวไทยตอนบน ระหวำ่ งเดือนเมษำยนถึงเดือน กนั ยำยน ของทุกปี / 4) เน่ืองจำกเป็ นช่วงเวลำท่ีมีปลำกะตกั แกว้ ซ่ึงเป็นอำหำรของวำฬอยำ่ งอุดมสมบูรณ์ / 5) อำหำรอ่ืนของวำฬบรูดำ้ มีอีกหลำยชนิด เช่น ปลำไส้ตนั ปลำกกะตกั ควำย ปลำทู และเคย 1. ส่วนท่ี 1) 2. ส่วนที่ 2) 3. ส่วนที่ 3) 4. ส่วนที่ 4) 5. ส่วนท่ี 5) 9. ขอ้ ใดเป็นประโยค 1. ระบบเกษตรอินทรียแ์ บบมีส่วนร่วมเนน้ กำรผลิตสินคำ้ ปลอดสำรพษิ 2. วธิ ีกำรผลิตเกษตรอินทรียท์ ี่เป็นเกณฑเ์ ดียวกบั มำตรฐำนของนำนำชำติ 3. กำรพฒั นำอยำ่ งตอ่ เนื่องระหวำ่ งเกษตรกรรำยยอ่ ยกบั ผบู้ ริโภคในทอ้ งถ่ิน 4. แนวโนม้ ควำมตอ้ งกำรผลผลิตท่ีมีคุณภำพและไดม้ ำตรฐำนควำมปลอดภยั 5. รูปแบบตลำดท่ีนำกำรผลิตซ่ึงรองรับควำมตอ้ งกำรของผบู้ ริโภคอยำ่ งครบวงจร
10. ขอ้ ใดไมเ่ ป็นประโยค 1. เวลำเยน็ จะเห็นนกเงือกซ่ึงเป็นนกหำยำกบินกลบั รังเป็นคู่ แสดงถึงควำมอุดมสมบูรณ์ของผนื ป่ ำ 2. อุทยำนแห่งชำติเขำใหญ่มีท้งั บำ้ นพกั สำหรับนกั ท่องเท่ียว ลำนกำงเตน็ ท์ และบริกำรใหเ้ ช่ำเตน็ ท์ 3. น้ำตกเหวนรก ผำกลว้ ยไม้ แก่งหินเพิง ผำเดียวดำย หอดูสัตวห์ นองผกั ชี จุดชมทิวทศั นเ์ ขำเขียว 4. น้ำตกเหวสุวตั เป็ นที่นิยมของนกั ท่องเท่ียว จำกลำนจอดรถเดินไปเพยี ง 100 เมตร กเ็ ล่นน้ำไดแ้ ลว้ 5. แมอ้ ำกำศจะร้อนอบอำ้ วแตบ่ นเขำใหญ่อำกำศเยน็ สบำย เดือนตุลำคมถึงเดือนกุมภำพนั ธ์อำกำศหนำวเยน็
เตรียมสอบ A-Level
1. ขอ้ ใดมีคำสะกดผดิ ทุกคำ 1. เจตนำรมย์ งบดุล 2. ประจนั บำน ปฏิสังขรณ์ 4. เดียดฉนั นำนบั ประกำร 3. กิตติมศกั ด์ิ เอนกประสงค์ 5. ปะรำพิธี กระเบียดกระเสียร 2. ขอ้ ใดใชค้ ำผดิ ควำมหมำย 1. ก่อนจะลงมือทำสิ่งใดควรพจิ ำรณำเหตุผลใหถ้ ่องแทท้ ุกคร้ัง 2. สมศรีนดั แนะกบั พรรคพวกใหพ้ ูดตำมขอ้ มูลท่ีคน้ มำเพอื่ ใหน้ ่ำเช่ือถือ 3. สองคนน้ีเป็ นเพ่ือนรักกนั ไม่น่ำจะมำบำดหมำงกนั ดว้ ยเรื่องไร้สำระเลย 4. ลุงสุขเดินบุกรุกเขำ้ ไปในป่ ำละเมำะบริเวณบำ้ นเพือ่ เก็บสมุนไพรมำปรุงยำ 5. วสิษฐม์ อบเงินเดือนทุกบำททุกสตำงคจ์ ุนเจือครอบครัวมำเป็ นเวลำหลำยปี 3. คำในขอ้ ใดใชไ้ ดท้ ้งั ควำมหมำยตำมตวั และควำมหมำยเชิงอุปมำทุกคำ 1. กม้ หวั คอขวด เผด็ ร้อน 2. ปำกโป้ง น้ำยำ แกแ้ คน้ 3. ลูกหมอ้ แม่เล้ียง ไมด้ ดั 4. มว้ นเสื่อ อดั ฉีด ขำยตรง 5. เลือดเยน็ เป้ำน่ิง เหลือขอ 4. ขอ้ ใดใชภ้ ำษำกำกวม 1. กำรจำกดั แคลอร่ีท่ีรับประทำนเขำ้ ไปทำใหน้ ้ำหนกั ตวั ลดลง เป็นวธิ ีหน่ึงในกำรลดน้ำหนกั 2. ช่วงน้ีหลำยคนหนั มำสนใจซ้ือหมอ้ ทอดไร้น้ำมนั สำหรับนำมำใชป้ ระกอบอำหำรท่ีบำ้ นหลำกหลำย รูปแบบ 3. นิ่วเกิดจำกกำรตกผลึกของหินปูน หำกกอ้ นนิ่วไปอุดถุงน้ำดีจะทำใหอ้ กั เสบ ซ่ึงอำจกลำยเป็นมะเร็ง ถุงน้ำดีได้ 4. กำรปั่นจกั รยำนอยำ่ งต่อเน่ืองวนั ละ 2-3 ชวั่ โมง จะช่วยเพิ่มอตั รำกำรเผำผลำญไขมนั ส่วนเกินในร่ำงกำย 5. โอเมกำ้ 3 ไดจ้ ำกปลำสวำย ปลำแซลมอน ปลำทูน่ำ และปลำกะพง ช่วยลดระดบั คอเลสเตอรอลในหลอด เลือดสมอง 5. สำนวนขอ้ ใดเหมำะจะเติมลงในช่องวำ่ งของขอ้ ควำมต่อไปน้ี ครอบครัวของวนิ ยั ทำธุรกิจหอพกั ใกลม้ หำวทิ ยำลยั แมน้ กั ศึกษำจะเรียนจบไป แตก่ ็มีนกั ศึกษำใหมม่ ำ เช่ำหอ้ งทุกปี ทำใหม้ ีรำยไดเ้ ขำ้ บำ้ นเร่ือยๆ เหมือน..................................... 1. น้ำบอ่ นอ้ ย 2. กระด่ีไดน้ ้ำ 3. เอำน้ำลูบทอ้ ง 4. น้ำซึมบอ่ ทรำย 5. น้ำข้ึนใหร้ ีบตกั
6. สถำนกำรณ์ตำมขอ้ ใดมีควำมหมำยตรงกบั สำนวน “เกลือจิ้มเกลือ” 1. ธิดำกบั แสงจนั ทร์เรียนเก่งพอๆ กนั สอบไดค้ ะแนนเกือบเท่ำกนั เรียกไดว้ ำ่ เกลือจิม้ เกลือ 2. เนตรและนอ้ งสำวคุยกนั ดว้ ยเร่ืองไม่เป็ นเรื่องมำต้งั แตเ่ ชำ้ ไม่ยอมเลิก เขำ้ ทำนอง เกลือจิ้มเกลือ 3. ดลแขง่ หมำกรุกกบั ศกั ดำตอ่ เน่ืองหลำยชว่ั โมง ผลดั กนั แพผ้ ลดั กนั ชนะ อยำ่ งน้ีตอ้ งเรียกวำ่ เกลือจิ้มเกลือ 4. กนกกบั กรณ์ส่งภำพเขียนเขำ้ ประกวด แหม! บอกไดย้ ำกวำ่ ภำพของใครควรจะชนะเกลือจิ้มเกลือน่ำดูเลย 5. ภรลดำแต่งชุดหรูไปเดินแบบ ปรำกฎวำ่ นภำนีกแ็ ต่งตวั เก๋มำกไมต่ ่ำงกนั เฉือนกนั แบบเกลือจิม้ เกลือ ทีเดียว 7. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดใชภ้ ำษำต่ำงระดบั กบั ส่วนอื่น 1) กำรเรียนออนไลนจ์ ำกที่บำ้ นหรือท่ีพกั มนั ไม่ง่ำยอยำ่ งที่คิด / 2) ปัญหำท่ีหลำยคนไม่ทนั นึกถึงในยคุ 5G คือ สัญญำณอินเทอร์เน็ต / 3) นกั ศึกษำท่ีอยหู่ อพกั เม่ือเจอปัญหำสัญญำณไมเ่ สถียร หรือชำ้ อืดอำด ทำให้ รับฟังเน้ือหำไดไ้ ม่ตอ่ เน่ือง / 4) หลำยคนจึงเลือกท่ีจะหิ้วโนต้ บุก๊ ออกมำหำพ้ืนที่เรียนออนไลนอ์ ยำ่ ง หอ้ งสมุดหรือร้ำนกำแฟ / 5) ซ่ึงทำใหล้ ะเลยเป้ำหมำยของกำรลดกิจกรรมทำงสังคมและกำรเดินทำงโดย ไม่จำเป็ น 1. ส่วนท่ี 1) 2. ส่วนท่ี 2) 3. ส่วนท่ี 3) 4. ส่วนท่ี 4) 5. ส่วนที่ 5) 8. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดใชภ้ ำษำต่ำงระดบั กบั ส่วนอื่น 1) วำฬบรูดำ้ เป็นสตั วเ์ ล้ียงลูกดว้ ยนม เมื่อโตเตม็ วยั จะมีควำมยำวประมำณ 14-16 เมตร / 2) พบแพร่ กระจำยท้งั ในฝั่งทะเลอนั ดำมนั และอำ่ วไทย บริเวณที่พบส่วนใหญอ่ ยหู่ ่ำงจำกชำยฝ่ังทะเลต้งั แต่ 4-30 กิโลเมตร / 3) สำมำรถตื่นตำกบั ฝงู วำฬบรูดำ้ ไดใ้ นยำ่ นอ่ำวไทยตอนบน ระหวำ่ งเดือนเมษำยนถึงเดือน กนั ยำยน ของทุกปี / 4) เน่ืองจำกเป็ นช่วงเวลำที่มีปลำกะตกั แกว้ ซ่ึงเป็นอำหำรของวำฬอยำ่ งอุดมสมบูรณ์ / 5) อำหำรอ่ืนของวำฬบรูดำ้ มีอีกหลำยชนิด เช่น ปลำไส้ตนั ปลำกกะตกั ควำย ปลำทู และเคย 1. ส่วนที่ 1) 2. ส่วนที่ 2) 3. ส่วนท่ี 3) 4. ส่วนที่ 4) 5. ส่วนที่ 5) 9. ขอ้ ใดเป็นประโยค 1. ระบบเกษตรอินทรียแ์ บบมีส่วนร่วมเนน้ กำรผลิตสินคำ้ ปลอดสำรพษิ 2. วธิ ีกำรผลิตเกษตรอินทรียท์ ี่เป็นเกณฑเ์ ดียวกบั มำตรฐำนของนำนำชำติ 3. กำรพฒั นำอยำ่ งต่อเน่ืองระหวำ่ งเกษตรกรรำยยอ่ ยกบั ผบู้ ริโภคในทอ้ งถ่ิน 4. แนวโนม้ ควำมตอ้ งกำรผลผลิตท่ีมีคุณภำพและไดม้ ำตรฐำนควำมปลอดภยั 5. รูปแบบตลำดที่นำกำรผลิตซ่ึงรองรับควำมตอ้ งกำรของผบู้ ริโภคอยำ่ งครบวงจร
10. ขอ้ ใดไม่เป็นประโยค 1. เวลำเยน็ จะเห็นนกเงือกซ่ึงเป็นนกหำยำกบินกลบั รังเป็นคู่ แสดงถึงควำมอุดมสมบูรณ์ของผนื ป่ ำ 2. อุทยำนแห่งชำติเขำใหญ่มีท้งั บำ้ นพกั สำหรับนกั ท่องเที่ยว ลำนกำงเตน็ ท์ และบริกำรใหเ้ ช่ำเตน็ ท์ 3. น้ำตกเหวนรก ผำกลว้ ยไม้ แก่งหินเพิง ผำเดียวดำย หอดูสตั วห์ นองผกั ชี จุดชมทิวทศั นเ์ ขำเขียว 4. น้ำตกเหวสุวตั เป็ นท่ีนิยมของนกั ทอ่ งเที่ยว จำกลำนจอดรถเดินไปเพียง 100 เมตร ก็เล่นน้ำไดแ้ ลว้ 5. แมอ้ ำกำศจะร้อนอบอำ้ วแต่บนเขำใหญ่อำกำศเยน็ สบำย เดือนตุลำคมถึงเดือนกุมภำพนั ธ์อำกำศหนำวเยน็ 11. ขอ้ ใดแสดงเจตนำเตือนของผสู้ ่งสำร 1. บริษทั ยำงพำรำภำคอีสำนไม่เกรงพษิ เศรษฐกิจ เดินหนำ้ ออกหุน้ กูม้ ำรองรับนกั ลงทุนอีก 2,000 ลำ้ นบำท ตน้ ปี หนำ้ 2. นโยบำยทำงำนจำกบำ้ นท่ีนิยมกนั ในยคุ น้ีกลำยเป็นแรงสัน่ สะเทือนวงกำรคอนโดมิเนียม เพรำะไม่จำเป็น ตอ้ งอยอู่ ำศยั ใกลท้ ี่ทำงำนอีกต่อไป 3. ผใู้ หบ้ ริกำรท่องเท่ียวเร่งสร้ำงมำตรกำรเร่ืองสุขอนำมยั เพ่ือเพิ่มควำมเช่ือมน่ั แก่นกั ท่องเที่ยว พำกนั ออก โปรโมชน่ั ท่ีสำมำรถดึงดูดควำมสนใจไดด้ ี 4. ในยคุ ท่ีวงกำรธุรกิจยงั อ่อนไหว ผปู้ ระกอบกำรทุนนอ้ ยที่ไมท่ บทวนแผนกำรลงทุนระยะยำวใหถ้ ่ีถว้ น อำจจะตอ้ งเจบ็ ตวั ไปอีกหลำยปี กวำ่ จะฟ้ื น 5. เครือ MMK เปิ ดแคมเปญใหร้ ้ำนคำ้ รำยยอ่ ยมีช่องทำงกระจำยสินคำ้ ไปสู่ประชำชน โดยใหส้ ง่ั สินคำ้ ออนไลน์ ซ่ึงจะตอบโจทยร์ ัฐบำลท่ีตอ้ งกำรใหท้ ุกคนออกจำกบำ้ นนอ้ ยที่สุด 12. คำทบั ศพั ทภ์ ำษำองั กฤษในขอ้ ใดใชค้ ำไทยแทนไม่ไดท้ ุกคำ 1. ไวรัส พลำสติก เซลส์แมน 2. นิโคติน อะคริลิก กรำฟิ ก ดีไซน์ รีพอร์ต 3. แฮนดบ์ อล โฮมเพจ สปิ ริต 4. คลอรีน 5. คอนเซ็ปต์ คอลลำเจน ไมโครเวฟ 13. รำชำศพั ทท์ ี่ขีดเส้นใตห้ มำยเลขใดใชถ้ ูกตอ้ ง สมเด็จพระกนิษฐำธิรำชเจำ้ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี (1) เสด็จฯ ออก ณ วงั สระปทุม (2) พระรำชทำนพระบรมรำชวโรกำสใหค้ ณะบุคคล (3) เขำ้ เฝ้ำทูลละอองธุลีพระบำท (4) นอ้ มเกลำ้ นอ้ มกระหมอ่ มถวำยเงินสมทบทุนมูลนิธิสำยใจไทย และเพือ่ (5) โดยเสดจ็ พระรำชกศุ ลตำม พระรำชอธั ยำศยั 1. หมำยเลข (1) 2. หมำยเลข (2) 3. หมำยเลข (3) 4. หมำยเลข (4) 5. หมำยเลข (5)
14. คำพูดของแมข่ อ้ ใดมีเจตนำตำหนิ 1. วนั น้ีลูกเลิกเรียนเยน็ มำกไหม เห็นคุณยำยบ่นคิดถึงแน่ะ 2. อำหำรเชำ้ เสร็จแลว้ นะลูก รีบมำกินเสีย เด๋ียวจะไมท่ นั รถโรงเรียน 3. ไมเ่ ห็นน่ำกลวั เลย กำรปิ ดไฟนอนจะทำใหล้ ูกนอนหลบั สนิทยงิ่ ข้ึน 4. ใจเยน็ ๆ ก่อน ลูกโกรธท่ีพ่ตี ุม้ เตะบอลเก่งกวำ่ หรือไมพ่ อใจที่พต่ี ุม้ ไม่ยอมใหล้ ูกเล่นดว้ ย 5. ลูกมีของเล่นต้งั เยอะแยะ แบง่ ใหเ้ พอ่ื นเล่นบำ้ งสิ แม่เคยเตือนหลำยคร้ังวำ่ หวงของเป็ นสิ่งไมด่ ี 15. ขอ้ ใดเป็นคำตอบของนอ้ งที่ไมส่ มั พนั ธ์กบั คำพูดของพใี่ นกำรสนทนำต่อไปน้ี พ่ี : งำนพรรณไมเ้ มืองหนำวเมื่อวำนดีไหม นอ้ ง : .......................................................................... 1. หนูไดข้ ่ำววำ่ ทำงกำรใหล้ ดกำรรวมตวั ของผรู้ ่วมงำนลง เพ่ือป้องกนั โควิดรอบใหม่ 2. งำนปี น้ีประสบควำมสำเร็จ จำหน่ำยดอกไมไ้ ดเ้ งินสบทบทุนเพือ่ ซ้ือเครื่องมือแพทยเ์ กือบลำ้ นบำท 3. ปี น้ีคนมำร่วมงำนนอ้ ย ไมเ่ ป็นไปตำมเป้ำที่วำงไว้ คณะกรรมกำรจึงเสนอวำ่ ต่อไปควรจดั ปี เวน้ ปี 4. พอไปถึงงำน เพอ่ื นเป็ นหอบหืด หำยใจไม่ออก หนูเลยตอ้ งรีบพำไปโรงพยำบำลแลว้ อยเู่ ป็นเพื่อนเขำ 5. เมื่อคืนมีพำยฝุ น ลูกเห็บตกเกือบ 10 นำที ดอกไมท้ ี่จดั แสดงกลำงแจง้ เสียหำยเกือบหมด อดถ่ำยรูปสวยๆ เลย เสียดำยจงั 16. ผกู้ ล่ำวขอ้ ควำมต่อไปน้ีมีลกั ษณะนิสยั หลำยประกำรยกเวน้ ขอ้ ใด ขำ้ สั่งสอนใหม้ นั หลำบจำเท่ำน้นั จะไดไ้ มม่ ำกลน่ั แกลง้ หมู่บำ้ นเรำอีก มนั ไมไ่ ดบ้ ำดเจบ็ อะไรมำก แค่เป็ นแผลที่หำงคิ้วนิดหน่อย 1. เป็นผนู้ ำ 2. ไมย่ อมคน 3. รู้จกั ใหอ้ ภยั 4. รักพวกพอ้ ง 5. มีควำมยบั ย้งั ชงั่ ใจ 17. ขอ้ ใดเรียงลำดบั ขอ้ ควำมต่อไปน้ีไดถ้ ูกตอ้ ง 1) นกั วทิ ยำศำสตร์ต้งั เป้ำที่จะเล้ียงเซลลเ์ พ่อื สร้ำงใหเ้ ป็นหวั ใจ และอำจผลิตเป็นอุตสำหกรรม 2) กล่องดวงใจหน่ึงกล่องจะขำยในรำคำประมำณ 4 – 6 ลำ้ นบำท 3) สำหรับกำรผำ่ ตดั เปล่ียนหวั ใจใหค้ นท่ีมีปัญหำโรคหวั ใจ 4) และจำกเน้ือเยอื่ จะเล้ียงใหเ้ ป็นอวยั วะ 5) ในอนำคตนกั วทิ ยำศำสตร์จะใชเ้ ทคโนโลยเี ล้ียงเซลลใ์ หเ้ ป็นเน้ือเยอื่ 1. 1) – 3) – 4) – 2) – 5) 2. 1) – 5) – 4) – 2) – 3) 3. 2) – 1) – 5) – 3) – 4) 4. 5) – 3) – 4) – 2) – 1) 5. 5) – 4) – 1) – 3) – 2)
ใชข้ อ้ ควำมต่อไปน้ีตอบคำถำมขอ้ 18 – 19 1) กระทรวงพำณิชยจ์ ึงไดพ้ ยำยำมวำงแผนช่วยบรรเทำควำมทุกขย์ ำกของประชำชน 2) รถพมุ่ พวงจะซอกซอนเขำ้ ไปตำมแหล่งชุมชนเพ่ือคลี่คลำยปัญหำส่วนหน่ึงได้ 3) รูปแบบท่ีจดั ข้ึนคร้ังน้ีจะขำยอำหำรและสินคำ้ อุปโภคภำยในครอบครัวโดยใชร้ ถพุม่ พวงธงฟ้ำ 4) ในยคุ น้ีสังคมมีสมำชิกที่ตอ้ งดิ้นรนกบั คำ่ ครองชีพที่ยำกแคน้ 5) ทำงกระทรวงฯ ประสำนกบั ผผู้ ลิตมำร่วมโครงกำรขำยสินคำ้ ในรำคำเป็นธรรม 18. เมื่อเรียงลำดบั ขอ้ ควำมขำ้ งตน้ ใหถ้ ูกตอ้ งแลว้ ขอ้ ใดเป็ นลำดบั สุดทำ้ ย 1. ขอ้ 1) 2. ขอ้ 2) 3. ขอ้ 3) 4. ขอ้ 4) 5. ขอ้ 5) 19. ขอ้ ควำมขำ้ งตน้ ใชว้ ธิ ีกำรเขียนตำมขอ้ ใด 1. กำรอธิบำย 2. กำรบรรยำย 3. กำรพรรณนำ 4. กำรอธิบำย และกำรบรรยำย 5. กำรบรรยำย และกำรพรรณนำ 20. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดไม่มีลกั ษณะเป็นพรรณนำโวหำร 1) ไชยยนั ตย์ นื อยคู่ นเดียวกลำงพ้ืนที่รำบ / 2) ตน้ หญำ้ คำข้ึนสลบั ไปกบั ตน้ หญำ้ ตำยซำกที่สูงไม่เกิน หวั เข่ำ / 3) ไกลออกไปมีพมุ่ ไมเ้ ขียวชอุม่ กระจำยเป็ นหยอ่ มๆ / 4) ร่ำงตระหง่ำนของสัตวช์ นิดหน่ึงปรำกฏ เด่นทะมึนอยกู่ ลำงทุง่ หญำ้ / 5) มนั คือกระทิงหนุ่มร่ำงกำยล่ำสนั เขำโคง้ ขอ้ เทำ้ ท้งั สี่มีสีขำวเหมือนใส่ถุงเทำ้ 1. ส่วนที่ 1) 2. ส่วนที่ 2) 3. ส่วนที่ 3) 4. ส่วนท่ี 4) 5. ส่วนท่ี 5) 21. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีควรเป็ นส่วนใดของเรียงควำมเรื่อง “สื่อสำรดว้ ยใจในสื่อสังคม” ภำษิตท่ีวำ่ “รักยำวใหบ้ น่ั รักส้นั ใหต้ อ่ ” จึงยงั คงใชไ้ ดใ้ นยคุ ปัจจุบนั ท่ีผคู้ นหนั มำส่ือสำรกนั ดว้ ยส่ือ สังคมออนไลน์มำกข้ึน กำรพดู คุยผำ่ นคียบ์ อร์ดโดยไม่ไดเ้ ห็นสีหนำ้ หรือไดย้ นิ น้ำเสียงอำจส่งผลใหเ้ กิด ควำมเขำ้ ใจผดิ ไดง้ ่ำยดงั ในตวั อยำ่ งท่ีแสดงมำ หำกตำ่ งฝ่ ำยต่ำงมุ่งเอำชนะกนั โดยไม่คำนึงถึงสำยสมั พนั ธ์ ในระยะยำว โลกออนไลน์ก็คงกลำยเป็นสมรภูมิมำกกวำ่ ชุมชนแห่งกำรแลกเปล่ียนควำมคิดเห็นไปอยำ่ ง น่ำเสียดำย 1. ตวั เรื่อง 2. ควำมนำ 3. โครงเร่ือง 4. ควำมลงทำ้ ย 5. ส่วนขยำยตวั เรื่อง
22. ขอ้ ใดเป็นโครงสร้ำงของกำรใชเ้ หตุผลในขอ้ ควำมต่อไปน้ี ในอดีตประชำกรยงั มีนอ้ ยและกำรต้งั บำ้ นเรือนยงั ไม่หนำแน่น พ้นื ที่ดินยงั มีมำกพอใหน้ ำขยะมูลฝอย ไปทิง้ แลว้ ปล่อยใหย้ อ่ ยสลำยไปไดเ้ องตำมธรรมชำติ กำรทิ้งขยะมูลฝอยโดยไม่มีระบบกำรจดั กำรใดๆ ไมไ่ ดก้ ่อใหเ้ กิดปัญหำต่อสังคมเทำ่ ใดนกั 1. สนบั สนุน สนบั สนุน สรุป 2. สนบั สนุน สรุป สนบั สนุน 3. สนบั สนุน สรุป สรุป 4. สรุป สนบั สนุน สนบั สนุน 5. สรุป สนบั สนุน สรุป 23. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดมีกำรใชเ้ หตุผล 1) มนุษยม์ กั ใชค้ วำมเห็นของตนตดั สินวำ่ ส่ิงหน่ึงหรือกำรกระทำอยำ่ งหน่ึงน้นั ดีหรือไม่ดี / 2) กำรทำ โคลนน่ิงเป็ นกำรคน้ พบทำงวทิ ยำศำสตร์อยำ่ งหน่ึง / 3) เพียงแตก่ ำรคน้ พบน้นั ยงั ไม่เห็นแจง้ ถึงปัญหำที่ แทจ้ ริง / 4) กำรสรุปวำ่ โคลนนิ่งน้นั ดีหรือไมด่ ีเป็ นกำรตดั สินใจท่ีเร็วเกินไป / 5) มนุษยต์ อ้ งเสำะแสวงหำ ควำมรู้ใหก้ ระจ่ำงแจง้ ยง่ิ ข้ึน 1. ส่วนที่ 1) 2. ส่วนท่ี 2) 3. ส่วนท่ี 3) 4. ส่วนที่ 4) 5. ส่วนที่ 5) 24. ขอ้ ใดมีกำรแสดงทรรศนะ 1. พลำสติกชีวภำพเป็นวสั ดุพลำสติกท่ีคิดคน้ มำเพอ่ื ใหย้ อ่ ยสลำยไดเ้ ร็วข้ึน 2. โดยพฒั นำจำกวตั ถุดิบหลำกหลำยชนิด อำทิ ขำ้ วโพด ออ้ ย มนั สำปะหลงั 3. กำรนำไปใชแ้ ละกำรจดั กำรหลงั กำรใชง้ ำนจะแตกตำ่ งกบั พลำสติกทว่ั ไปที่สำมำรถรีไซเคิลได้ 4. ขยะพลำสติกชีวภำพแตล่ ะชนิดมีวธิ ีกำรยอ่ ยสลำยไม่เหมือนกนั 5. ผบู้ ริโภคตอ้ งสังเกตบรรจุภณั ฑแ์ ละคดั แยกประเภทขยะอยำ่ งถูกตอ้ ง 25. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีส่วนใดเป็นกำรแสดงทรรศนะ 1) เอแคลร์เป็ นขนมท่ีมีส่วนผสมหลกั คือ แป้ง น้ำ ไข่ นม และเนย / 2) กำรเกบ็ รักษำเอแคลร์ไวใ้ นที่ท่ี ไมส่ ะอำดอำจทำใหม้ ีเช้ือบำซิลลสั ซีเรียส ปนเป้ื อน / 3) สถำบนั อำหำรไดส้ ุ่มเก็บตวั อยำ่ งเอแคลร์จำกร้ำน ขนมเคก้ ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 ตวั อยำ่ ง นำมำวเิ ครำะห์หำเช้ือบำซิลลสั ซีเรียส / 4) พบวำ่ มีเช้ือ ปนเป้ื อนเกินคำ่ มำตรฐำนตำมประกำศกรมวทิ ยำศำสตร์กำรแพทย์ จำนวน 2 ตวั อยำ่ ง / 5) เพื่อควำมปลอดภยั ผบู้ ริโภคน่ำจะเลือกซ้ือเอแคลร์จำกร้ำนที่ถูกสุขลกั ษณะและผลิตสดใหม่ 1. ส่วนท่ี 1) 2. ส่วนที่ 2) 3. ส่วนที่ 3) 4. ส่วนที่ 4) 5. ส่วนที่ 5)
26. ขอ้ ใดเป็นขอ้ สนบั สนุนประเดน็ กำรโตแ้ ยง้ “ควรยกเลิกพชื กระทอ่ มจำกกำรเป็ นยำเสพติดใหโ้ ทษหรือไม่” 1. กระทอ่ มมีสำรท่ีมีฤทธ์ิกดประสำท ถำ้ เสพติดต่อกนั นำนๆ จะมีผลต่อสุขภำพ ทำใหใ้ จส่นั และอำจชกั ได้ 2. กระท่อมเป็นพืชสมุนไพรมำต้งั แต่โบรำณ ใชเ้ ป็นยำรักษำโรคบำงชนิดได้ เช่น เบำหวำน ควำมดนั โลหิต สูง 3. สรรพคุณทำงยำของกระท่อมจะช่วยสร้ำงควำมมน่ั คงดำ้ นยำและฟ้ื นฟูภูมิปัญญำกำรแพทยแ์ ผนไทย 4. หลำยประเทศไมถ่ ือวำ่ กระทอ่ มเป็นส่ิงผิดกฎหมำย โดยเฉพำะมำเลเซียท่ีมีกฎหมำยเก่ียวกบั ยำเสพติด รุนแรงมำก 5. กระท่อมนำมำใชป้ ระโยชนท์ ำงกำรแพทย์ กำรพำณิชย์ อุตสำหกรรม และเพม่ิ ขีดควำมสำมำรถในกำร แขง่ ขนั กบั ตำ่ งประเทศได้ 27. ขอ้ ใดเป็นประเด็นโตแ้ ยง้ ของขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี กำรต่อสู้ระหวำ่ งกลุ่มผใู้ ชร้ ถส่วนตวั กบั กลุ่มผเู้ ดินเทำ้ มีมำอยำ่ งยำวนำน ท่ีผำ่ นมำดูเหมือนวำ่ ผเู้ ดินเทำ้ ตอ้ งเสียสละมำโดยตลอด ท้งั กำรสละพ้นื ที่สำหรับขยำยถนนเพอื่ แกป้ ัญหำกำรจรำจรติดขดั และยงั ตอ้ งแบ่ง พ้ืนที่ทำงเทำ้ กบั พอ่ คำ้ แม่คำ้ ผขู้ บั ข่ีรถที่ไม่เคำรพกฎจรำจร แต่เรำไม่ควรลืมวำ่ สวสั ดิภำพของผเู้ ดินเทำ้ เป็น ส่ิงสำคญั ทำงเทำ้ ควรเป็ นพ้ืนที่ที่คนเดินสญั จรไปมำอยำ่ งสะดวกและปลอดภยั ถึงเวลำแลว้ ท่ีจะตอ้ งทวงคืน ทำงเทำ้ ใหเ้ ป็นทำงเดินเทำ้ ตำมจุดประสงคอ์ ยำ่ งแทจ้ ริง 1. กำรจดั สรรพ้ืนที่ทำงเทำ้ เป็นธรรมต่อผปู้ ระกอบกำรหรือไม่ 2. กำรขยำยทำงเทำ้ สอดคลอ้ งกบั ควำมตอ้ งกำรของชุมชนจริงหรือ 3. กำรสละทำงเทำ้ เพอื่ ขยำยถนนช่วยแกป้ ัญหำกำรจรำจรติดขดั ไดจ้ ริงหรือ 4. กำรคืนพ้นื ท่ีทำงเทำ้ ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ ระหวำ่ งผใู้ ชร้ ถกบั ผเู้ ดินเทำ้ จริงหรือ 5. กำรใชส้ อยทำงเทำ้ เท่ำท่ีผำ่ นมำเอ้ือประโยชน์ต่อผเู้ ดินเทำ้ อยำ่ งเตม็ ที่หรือไม่ 28. ขอ้ ใดไมม่ ีกำรโนม้ นำ้ วใจ 1. คอนโดน้ีเม่ือจ่ำยเงินดำวน์ครบแลว้ ก็หิ้วกระเป๋ ำเขำ้ อยไู่ ดท้ นั ที ฟรีค่ำบริกำรส่วนกลำง 2. ผลิตภณั ฑโ์ ปรตีนสกดั จำกถว่ั เหลืองมีคุณสมบตั ิช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่ำงกำย 3. ครีมอำบน้ำสูตรออ่ นโยน ปรำศจำกซลั เฟตที่ทำร้ำยผวิ ผำ่ นกำรทดลองกำรแพโ้ ดยแพทยผ์ วิ หนงั มำแลว้ 4. ถุงมือยำงผลิตจำกยำงธรรมชำติ ป้องกนั กำรฉีกขำดและกำรร่ัวซึมของน้ำมนั ได้ เหมำะสำหรับใชท้ ำง กำรแพทย์ 5. สถำนท่ีออกกำลงั กำยท่ีมีลู่วง่ิ ออกแบบดว้ ยมำตรฐำนสำกล ประหยดั ค่ำใชจ้ ่ำย ใหบ้ ริกำรทุกทำ่ นเสมือน คนในครอบครัว
29. ขอ้ ใดกล่ำวไมส่ อดคลอ้ งกบั ขอ้ ควำมต่อไปน้ี องคก์ ำรบริหำรกำรบินและอวกำศแห่งชำติสหรัฐอเมริกำหรือองคก์ ำรนำซำ วำงแผนใหน้ กั บินอวกำศ กลบั ข้ึนไปบนดวงจนั ทร์อีกคร้ังภำยในปี พ.ศ. 2567 ส่ิงหน่ึงท่ีนกั วทิ ยำศำสตร์ตระหนกั คือสุขภำพของ นกั บิน โดยเฉพำะโรคมะเร็ง ซ่ึงเกิดจำกระดบั รังสีท่ีรุนแรง ดวงจนั ทร์มีกมั มนั ตภำพรังสีสูง ซ่ึงอำจเป็น อนั ตรำยต่อเน้ือเยื่อของมนุษย์ ยำนอวกำศฉำงเอ๋อ 4 ของจีนไดต้ รวจวดั ปริมำณรังสีบนพ้นื ผวิ ดวงจนั ทร์ พบวำ่ มีระดบั สูงกวำ่ บนโลกนบั ร้อยเทำ่ นกั วจิ ยั ชำวเยอรมนั เสนอแนะวำ่ นกั บินอวกำศท่ีจะไปดวงจนั ทร์ ควรอยใู่ นแคปซูลที่สร้ำงจำกวสั ดุบนดวงจนั ทร์ซ่ึงมีผนงั หนำไม่นอ้ ยกวำ่ 80 เซนติเมตร 1. ปัญหำประกำรหน่ึงของนกั บินอวกำศคือมีควำมเส่ียงท่ีจะเป็นมะเร็ง 2. องคก์ ำรนำซำเคยประสบควำมสำเร็จในกำรส่งนกั บินอวกำศไปดวงจนั ทร์มำแลว้ 3. ยำนอวกำศของจีนให้ขอ้ มูลที่เป็นประโยชนส์ ำหรับวำงแผนจะส่งนกั บินอวกำศไปดวงจนั ทร์ 4. กมั มนั ตภำพรังสีบนดวงจนั ทร์ทำใหน้ ำนำชำติลม้ เลิกกำรส่งนกั บินอวกำศไปดวงจนั ทร์ 5. วสั ดุบนดวงจนั ทร์มีคุณสมบตั ิเหมำะที่จะนำมำสร้ำงท่ีพกั ท่ีปลอดภยั แก่นกั บินอวกำศ 30. ปัญหำขอ้ ใดเก่ียวกบั กรุงจำกำร์ตำที่ไมส่ ำมำรถแกไ้ ขไดจ้ นเป็ นเหตุสำคญั ทำให้อินโดนีเซียตอ้ งพจิ ำรณำยำ้ ย เมืองหลวง เคยรู้กนั มำเป็ นสิบๆ ปี แลว้ วำ่ เมืองหลวงของอินโดนีเซียคือกรุงจำกำร์ตำบนเกำะชวำ แตด่ ว้ ยควำม เหมำะสมหลำยประกำรจึงตอ้ งยำ้ ยไปท่ีจงั หวดั กำลิมนั ตนั ตะวนั ออก บนเกำะบอร์เนียว ท่ีผำ่ นมำกรุง จำกำร์ตำตอ้ งเผชิญปัญหำอนั หนกั หน่วงในกำรบริหำรประเทศซ่ึงรับไม่ไหวอีกต่อไป ในอนำคต พ.ศ. 2593 เกินคร่ึงของกรุงจะจมทะเล ประชำกรอำศยั อยรู่ วมกบั เมืองบริวำร ลน้ อยถู่ ึง 30 ลำ้ นคน สภำพในถนนก็แน่น ขนดั ไปดว้ ยรถยนตน์ ำนำชนิด ส่ิงเหล่ำน้ีในเมืองหลวงแห่งใหมจ่ ะดีข้ึนอยำ่ งชดั เจน 1. กำรจรำจรแออดั 2. ภยั ธรรมชำติร้ำยแรง 3. สภำพเมืองที่อยบู่ นเกำะ 4. ประชำกรที่หนำแน่นเกินไป 5. กำรเป็นศูนยก์ ลำงบริหำรประเทศ 31. ขอ้ ใดเป็นคุณสมบตั ิของรุกขกรมืออำชีพ รุกขกร หรือเรียกง่ำยๆ วำ่ “หมอตน้ ไม”้ เป็นนกั วชิ ำชีพท่ีมีหนำ้ ที่จดั กำรและดูแลตน้ ไมใ้ หญ่ตำมหลกั วชิ ำกำร โดยเฉพำะในเขตเมืองและในบริเวณอำคำรสถำนที่ ผจู้ ะเป็นรุกขกรมืออำชีพไม่เพยี งแตร่ ู้วธิ ีปี น และตดั ตน้ ไมใ้ หญ่อยำ่ งปลอดภยั จะตอ้ งสำเร็จกำรศึกษำในสำขำวนศำสตร์ หรือมีประสบกำรณ์กำรทำงำน เก่ียวขอ้ งกบั รุกขกรอยำ่ งนอ้ ย 2 ปี นอกจำกน้นั ยงั ตอ้ งสอบใบรับรองจำกสมำคมรุกขกรนำนำชำติ ล่ำสุด สมำคมรุกขกรไทยไดผ้ ลกั ดนั ใหม้ ีกำรออกใบรับรองในประเทศเองดว้ ย 1. มีประสบกำรณ์ทำงำนในระดบั นำนำชำติ 2. มีควำมสำมำรถตดั ต่อก่ิงของพนั ธุ์ไมห้ ลำกหลำยชนิด 3. รับผดิ ชอบโดยตรงดำ้ นกำรออกแบบพ้นื ที่สีเขียวของเมือง 4. เขำ้ ใจหลกั และวธิ ีปฏิบตั ิเก่ียวกบั ตน้ ไมใ้ หญใ่ นพ้ืนท่ีเมืองอยำ่ งดี 5. ตอ้ งสำเร็จกำรศึกษำในสำขำวชิ ำเฉพำะท่ีเกี่ยวกบั กำรเกษตรเทำ่ น้นั
32. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะเด่นของผำ้ โฮล ผำ้ โฮลเป็ นผำ้ ไหมมดั หมี่ของกลุ่มชำติพนั ธุ์ไทยเช้ือสำยเขมร คำวำ่ “โฮล” มำจำกภำษำเขมรที่ใชเ้ รียก กรรมวธิ ีกำรผลิตผำ้ ไหมประเภทหน่ึงท่ีมีลวดลำยโดดเด่นโดยใชก้ ระบวนกำรมดั ยอ้ มเส้นไหมใหเ้ กิดสีสัน และลวดลำยตำ่ งๆ ก่อน แลว้ นำมำทอเป็นผนื ผำ้ ตรงกบั คำวำ่ “ผำ้ ปูม” ของไทย หรือ “มดั หม่ี” ของอีสำน กำรทอผำ้ โฮลจะใชเ้ ส้นไหมเลก็ ละเอียด เน้ือผำ้ จึงบำงเบำและออ่ นนุ่ม สีที่ใชใ้ นกำรทอผำ้ โฮลนิยมใชส้ ี หลกั ๆ เช่น แดง ดำ น้ำเงิน เหลือง เขียว ส้ม โดยเฉพำะสีแดงน้นั จะใชส้ ีแดงจำกครั่งท่ีติดทนนำน 1. เส้นไหมมีคุณสมบตั ิพิเศษ 2. ลวดลำยและสีสันมีลกั ษณะเฉพำะถิ่น 3. กำรทอไดร้ ับอิทธิพลจำกกลุ่มชำติพนั ธุ์อ่ืน 4. ควำมงำมเกิดจำกสีที่กำหนดเป็นแบบแผน 5. กระบวนกำรมดั ยอ้ มใชว้ ธิ ีเดียวกนั กบั มดั หมี่ 33. ขอ้ ควำมต่อไปน้ีขอ้ ใดสรุปไดถ้ ูกตอ้ ง โดยปกติน้ำด่ืมจะมีมำตรฐำนคุณภำพตำมเกณฑข์ องประเทศไทยที่กำหนดโดยกำรประปำนครหลวง หรือกำรประปำส่วนภูมิภำค ซ่ึงจะเป็นไปตำมมำตรฐำนองคก์ ำรอนำมยั โลกท่ีเป็นผูก้ ำหนดคุณภำพน้ำตำ่ งๆ เพื่อป้องกนั ไมใ่ หผ้ บู้ ริโภคดื่มไปแลว้ เกิดอนั ตรำยต่อสุขภำพ โดยมีเครื่องมือวดั คุณภำพน้ำท้งั ทำงกำยภำพ ทำงเคมี และทำงชีวภำพ ทำงกำยภำพ เช่น สี กลิ่น รส ทำงเคมีเก่ียวกบั โลหะหนกั สำรเคมี ส่วนทำงชีวภำพ เป็นเรื่องของเช้ือโรค ฯลฯ ส่ิงเหล่ำน้ีมีเกณฑก์ ำหนดไวเ้ พอื่ ไม่ใหเ้ กินคำ่ มำตรฐำน ป้องกนั ไมใ่ หไ้ ดร้ ับผล กระทบจำกกำรดื่ม 1. มำตรฐำนคุณภำพน้ำด่ืมของประเทศไทยกำหนดโดยกำรประปำ 2. น้ำด่ืมที่มีสำรเคมี และเช้ือโรคเจือปนเป็ นอนั ตรำยต่อสุขภำพของผบู้ ริโภค 3. น้ำสะอำดที่มีคุณภำพไม่เกินคำ่ มำตรฐำนน้ำด่ืมเป็ นน้ำท่ีบริโภคไดอ้ ยำ่ งปลอดภยั 4. น้ำดื่มตอ้ งมีคุณภำพท้งั ดำ้ นกำยภำพ เคมี และชีวภำพตำมค่ำมำตรฐำนขององคก์ ำรอนำมยั โลก 5. องคก์ ำรอนำมยั โลกเป็ นผกู้ ำหนดค่ำมำตรฐำนคุณภำพของน้ำดื่มไว้ เพอ่ื ควำมปลอดภยั ของผบู้ ริโภค 34. ขอ้ ใดเป็นสำระสำคญั ของขอ้ ควำมต่อไปน้ี กำรระบำดของโรคโคนเน่ำหรือลำตน้ เน่ำ สร้ำงควำมเสียหำยแก่เกษตรกรที่ปลูกตน้ ปำลม์ น้ำมนั ประมำณร้อยละ 25 ของพ้นื ที่ปลูก ศูนยว์ จิ ยั นวตั กรรมปำลม์ น้ำมนั ไดศ้ ึกษำเช้ือแบคทีเรียปฏิปักษ์ ท่ีสำมำรถ ควบคุมเช้ือรำในดินที่เขำ้ ทำลำยรำกจนเป็นสำเหตุของโรคลำตน้ เน่ำ แลว้ นำมำพฒั นำเป็นชีวภณั ฑแ์ บคทีเรีย ซ่ึงมีคุณสมบตั ิควบคุมโรค และเสริมสร้ำงกำรเจริญเติบโตของรำก 1. สำเหตุที่ทำใหต้ น้ ปำลม์ น้ำมนั เกิดโรคโคนเน่ำคือเช้ือรำในดิน 2. เกษตรกรผปู้ ลูกปำลม์ น้ำมนั จำนวนมำกไดร้ ับผลกระทบทำงเศรษฐกิจจำกโรคโคนเน่ำ 3. เช้ือแบคทีเรียปฏิปักษม์ ีคุณสมบตั ิเฉพำะในกำรกำจดั เช้ือรำท่ีทำลำยรำกปำลม์ น้ำมนั 4. ชีวภณั ฑแ์ บคทีเรียที่มีคุณภำพจะตอ้ งสำมำรถควบคุมโรค และทำใหต้ น้ ปำลม์ เจริญเติบโตไดด้ ี 5. ศูนยว์ จิ ยั นวตั กรรมฯ ไดค้ ิดคน้ ชีวภณั ฑแ์ บคทีเรียที่ใชป้ ้องกนั เช้ือรำและบำรุงรำมปำลม์ น้ำมนั
35. ขอ้ ใดเป็นสำระสำคญั ของขอ้ ควำมต่อไปน้ี นกั ดำรำศำสตร์โปแลนดข์ องหอดูดำวแห่งมหำวทิ ยำลยั วอร์ซอเปิ ดเผยวำ่ กำแลก็ ซีทำงชำ้ งเผอื กอำจเตม็ ไปดว้ ยดำวเครำะห์ที่ลอยอยำ่ งอิสระโดยไมเ่ ช่ือมโยงกบั ดำวฤกษใ์ ด ดำวเครำะห์ชนิดน้ีแทบจะไมป่ ล่อยรังสี ออกมำเพรำะไม่ไดโ้ คจรรอบดำวฤกษ์ จึงยำกท่ีจะคน้ พบโดยวธิ ีกำรตรวจจบั ทำงฟิ สิกส์แบบด้งั เดิม แตก่ ็ สำมำรถมองเห็นไดโ้ ดยใชไ้ มโครเลนส์ของแรงโนม้ ถ่วง ล่ำสุดไดป้ ระกำศกำรคน้ พบดำวเครำะห์ลอยอิสระ ช่ือ OGLE – 2016 – BIG – 1928 จำกกำรใชป้ รำกฏกำรณ์ไมโครเลนส์ของแรงโนม้ ถ่วง ดำวเครำะห์ดวงน้ี มีมวลเทำ่ โลกและกำลงั ลอยอยำ่ งอิสระอยใู่ นทำงชำ้ งเผอื ก 1. กำแลก็ ซีทำงชำ้ งเผอื กมีดำวเครำะห์ลอยอิสระจำนวนมำก 2. ดำวเครำะห์ลอยอิสระจะไม่โคจรรอบดำวฤกษจ์ ึงไมป่ รำกฏแสง 3. นกั ดำรำศำสตร์โปแลนดค์ น้ พบดำวเครำะห์ลอยอิสระขนำดเทำ่ โลก 4. กำรตรวจจบั ทำงฟิ สิกส์แบบด้งั เดิมไมส่ ำมำรถคน้ พบดำวเครำะห์ลอยอิสระได้ 5. ปรำกฏกำรณ์ไมโครเลนส์ของแรงโนม้ ถ่วงทำใหม้ องเห็นดำวเครำะห์ลอยอิสระ 36. ขอ้ ใดเป็นประเด็นสำคญั ของขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี เจำ้ หนำ้ ที่สำนกั งำนพฒั นำชุมชนไดล้ งพ้นื ที่ตำมนโยบำยของหน่วยงำนในส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั สินคำ้ โอทอปแต่ละชุมชน โดยกำรสร้ำงสตอรีของผลิตภณั ฑช์ ุมชน ไลฟ์ สดทำงเฟซบุก๊ สปั ดำห์ละ 2 วนั เพ่ือ ตอ่ ยอดกำรขำยของผปู้ ระกอบกำร ผบู้ ริโภคท่ีซ้ือสินคำ้ จะไดท้ รำบท่ีมำที่ไป แหล่งผลิต ข้นั ตอนกำรผลิต และคุณภำพของสินคำ้ เป็นกำรหำช่องทำงกำรจำหน่ำยสินคำ้ ใหแ้ ก่ผปู้ ระกอบกำรซ่ึงขำยสินคำ้ ไม่ได้ เน่ืองจำกโควิด-19 ระบำด ท้งั น้ีเป็นกำรกระจำยรำยไดส้ ู่ประชำชน 1. ขอ้ มูลกำรผลิตและคุณภำพสินคำ้ โอทอป 2. แนวทำงกำรพฒั นำคุณภำพชีวติ ของประชำชน 3. วธิ ีส่งเสริมกำรขำยสินคำ้ โอทอปเพ่ือช่วยเหลือผผู้ ลิต 4. กำรแกป้ ัญหำที่สืบเนื่องจำกกำรระบำดของโรคโควดิ -19 5. กำรเผยแพร่นโยบำยและผลงำนของสำนกั งำนพฒั นำชุมชน 37. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงคข์ องผเู้ ขียนขอ้ ควำมต่อไปน้ี สึนำมิเป็นคล่ืนมหำสมุทรท่ีมีพลงั สูงมำก มีจุดกำเนิดในทอ้ งทะเลลึก คล่ืนสึนำมิเป็นมหนั ตภยั ธรรมชำติท่ีทำใหส้ ูญเสียชีวติ และทรัพยส์ ินในพ้ืนที่ชำยฝ่ัง เช่น ใน ค.ศ. 1896 เกิดคล่ืนสึนำมิในประเทศ ญ่ีป่ ุน มีผูเ้ สียชีวติ กวำ่ 27,000 รำย และใน ค.ศ. 1946 เกิดแผน่ ดินไหวในบริเวณร่องลึกชนั อะลูเชียน ทำใหเ้ กิดคล่ืนสึนำมิถล่มเกำะฮำวำยอยำ่ งรุนแรง จำกเหตุกำรณ์คร้ังน้นั จึงมีกำรประดิษฐเ์ ครื่องมือเตือนภยั แบบง่ำยๆ ข้ึน ต่อมำไดพ้ ฒั นำจนเป็นระบบ จดั ต้งั เป็นศูนยข์ อ้ มูลสึนำมิระหวำ่ งประเทศและกลุ่มเตือนภยั สึนำมิเฉพำะประเทศในยำ่ นมหำสมุทรแปซิฟิ ก ประกอบดว้ ยสมำชิก 26 ประเทศ มีประเทศไทยรวมอยดู่ ว้ ย 1. เนน้ ให้เห็นอนั ตรำยจำกคล่ืนสึนำมิท่ีเคยเกิดข้ึนจำกอดีตถึงปัจจุบนั 2. บอกเล่ำควำมเป็นมำของกำรจดั ต้งั ศูนยข์ อ้ มูลสึนำมิระหวำ่ งประเทศ 3. ปกป้องประเทศตำ่ งๆ ตำมชำยฝ่ังทะเลที่มีโอกำสเกิดภยั จำกคล่ืนสึนำมิ
4. สนบั สนุนกำรประสำนงำนระหวำ่ งประเทศตำ่ งๆ เพ่ือแจง้ ข่ำวเตือนภยั สึนำมิ 5. อธิบำยควำมจำเป็นของกำรร่วมมือระหวำ่ งประเทศเพอ่ื แลกเปล่ียนขอ้ มูลสึนำมิ 38. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงคข์ องผเู้ ขียนขอ้ ควำมต่อไปน้ี สถำนกำรณ์โรคโควดิ -19 ส่งผลใหท้ ุกคนตอ้ งปรับตวั เพอื่ กำรใชช้ ีวติ วถิ ีใหม่หรือ New Normal ผลกระทบดำ้ นสุขภำพจิตตอ่ กลุ่มวยั รุ่นคงมีไมม่ ำกนกั เพรำะวยั รุ่นเขำอยกู่ บั โลกออนไลน์ พวกเขำเคยชิน กบั กำรทำกิจกรรมทุกอยำ่ งในโลกโซเชียลมีเดีย ใชอ้ ุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเช่ือมตอ่ กบั ผคู้ นอื่นๆ ผำ่ น ระบบเครือข่ำยอินเทอร์เน็ตตลอดเวลำ แตว่ ถิ ีชีวติ ที่เปลี่ยนแปลงไปจะมีผลกระทบตอ่ ผสู้ ูงอำยมุ ำกกวำ่ เพรำะตอ้ งปรับตวั เรียนรู้ส่ิงใหม่ประกอบกบั กำรดำเนินชีวติ วถิ ีใหม่ ดงั น้นั ตอ้ งเป็ นคนที่มองโลกแง่บวก ปล่อยวำง จึงจะไม่เครียด 1. เปรียบเทียบชีวติ วถิ ีใหมร่ ะหวำ่ งวยั รุ่นกบั ผสู้ ูงอำยุ 2. อธิบำยพฤติกรรมกำรดำเนินชีวติ ของวยั รุ่นปัจจุบนั 3. แนะนำแนวทำงกำรใชช้ ีวติ ในวถิ ีใหมห่ รือ New Normal 4. เตือนใหผ้ สู้ ูงอำยเุ รียนรู้และยอมรับสภำพกำรดำเนินชีวติ วถิ ีใหม่ 5. นำเสนอผลกระทบของสถำนกำรณ์โรคโควิด-19 ที่มีต่อวถิ ีชีวิตผคู้ น 39. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงคข์ องผเู้ ขียนขอ้ ควำมต่อไปน้ี พระบำทสมเด็จพระจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ทรงคำนวณวนั เกิดสุริยปุ รำคำเตม็ ดวงไดอ้ ยำ่ งแม่นยำ ทรงประกำศผลกำรคำนวณไวล้ ่วงหนำ้ ถึง 2 ปี และเสดจ็ พระรำชดำเนินไปทอดพระเนตรกบั คณะสำรวจ จำกฝรั่งเศส องั กฤษ และสิงคโปร์ ณ บำ้ นหวำ้ กอ จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ์ เมื่อวนั ท่ี 18 สิงหำคม พ.ศ. 2411 ปัจจุบนั ประชำคมดำรำศำสตร์ในระดบั สำกลท่ีศึกษำดำ้ นสุริยปุ รำคำยกยอ่ งพระบำทสมเดจ็ พระจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ วั ดว้ ยกำรเรียกสุริยปุ รำคำเตม็ ดวงเม่ือ พ.ศ. 2411 วำ่ “King of Siam’s Eclipse” ดว้ ยพระอจั ฉริยภำพ ดำ้ นดำรำศำสตร์ พระองคจ์ ึงทรงไดร้ ับกำรถวำยพระรำชสมญั ญำวำ่ “พระบิดำแห่งวทิ ยำศำสตร์ไทย” 1. รำลึกถึงกำรเกิดสุริยปุ รำคำเตม็ ดวงที่หวำ้ กอ 2. อธิบำยชีวประวตั ิของพระบิดำแห่งวทิ ยำศำสตร์ 3. ช่ืนชมพระปรีชำดำ้ นดำรำศำสตร์ของรัชกำลที่ 4 4. ยกตวั อยำ่ งพระรำชกรณียกิจของพระมหำกษตั ริยไ์ ทย 5. เล่ำควำมสำคญั ของกำรศึกษำดำรำศำสตร์ในไทยและต่ำงประเทศ
40. ขอ้ ใดเป็นจุดประสงคข์ องผเู้ ขียนขอ้ ควำมต่อไปน้ี เครื่องหนงั เป็นผลิตภณั ฑท์ ี่สร้ำงรำยไดม้ หำศำลแก่วงกำรแฟชนั่ แต่ก็มกั ถูกนกั อนุรักษว์ พิ ำกษว์ จิ ำรณ์ เรื่องกำรทำรุณกรรมสตั วแ์ ละปัญหำสิ่งแวดลอ้ ม ขณะน้ีมีผปู้ ระกอบกำร 2 รำยจำกประเทศเมก็ ซิโกไดค้ ิดคน้ หนงั สังเครำะห์จำกตน้ กระบองเพชร ซ่ึงมีผวิ ท่ีแขง็ และหนำ เหมำะแก่กำรเลียนแบบหนงั สตั ว์ โดยจะตดั ใบแก่ของตน้ กระบองเพชรแลว้ ตำกแดดใหแ้ หง้ เป็นเวลำ 3 วนั ก่อนนำไปแปรรูปเป็นหนงั และยอ้ มสี ธรรมชำติ หนงั จำกกระบองเพชรน้ียงั ส่งเขำ้ ประกวดรำงวลั นวตั กรรมประจำปี 2563 ซ่ึงมีเจำ้ ของกิจกำรดำ้ น แฟชน่ั ช่ือดงั เป็นกรรมกำรร่วมพิจำรณำดว้ ย 1. ใหค้ วำมรู้เรื่องหนงั สังเครำะห์จำกกระบองเพชร 2. ช้ีแจงกระบวนกำรผลิตหนงั เทียมจำกตน้ กระบองเพชร 3. โนม้ นำ้ วใหใ้ ชห้ นงั เทียมจำกกระบองเพชรแทนหนงั แท้ 4. ตำหนิกำรทำรุณกรรมสัตวใ์ นอุตสำหกรรมกำรผลิตเคร่ืองหนงั 5. เปรียบเทียบขอ้ ดีขอ้ เสียของเคร่ืองหนงั จำกสตั วแ์ ละหนงั สังเครำะห์ 41. ขอ้ ควำมท่ีขีดเส้นใตใ้ นขอ้ ควำมต่อไปน้ี มีควำมหมำยตำมขอ้ ใด สหรัฐอเมริกำเป็นประเทศแนวหนำ้ ดำ้ นอวกำศเคยส่งยำนอวกำศออกไปนอกโลกเพอื่ ปฏิบตั ิภำรกิจ เด่นๆ มำหลำยต่อหลำยคร้ัง รวมท้งั เดินทำงไปยงั ดำวองั คำรมำแลว้ ดว้ ย ทำงดำ้ นจีนขอเป็นมำ้ ตีนปลำยบำ้ ง โดยอวดอำ้ งวำ่ เป็นประเทศแรกท่ีส่งยำนไปลงจอดดำ้ นมืดของดวงจนั ทร์ ในขณะเดียวกนั ก็กำลงั จะส่งยำน เทียนเหวนิ 1 ไปสำรวจดำวองั คำรท่ีอยไู่ กลออกไปมำกโดยใชเ้ วลำเดินทำง 7 เดือน 1. ชอบเป็นผนู้ ำ 2. อยำกเป็นผชู้ นะ 3. ชอบกำรแขง่ ขนั 4. อยำกเป็นที่ยอมรับ 5. อยำกมีประสบกำรณ์ 42. ขอ้ ใดสอดคลอ้ งกบั คำท่ีขีดเส้นใตต้ ำมบริบทของขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี สันติธรรมสถำนจดั กิจกรรมปฏิบตั ิธรรมอยำ่ งจริงจงั และต่อเนื่องมำหลำยสิบปี จนไดช้ ่ือวำ่ เป็นตน้ แบบ ทำงจิตวญิ ญำณ เม่ือ 5 ปี ที่แลว้ เริ่มจดั กิจกรรมแนวใหม่ ดว้ ยตระหนกั วำ่ สมำชิกในสงั คมเป็นอนั มำกเป็น เหยอ่ื ของกำรทำรุณทำงร่ำงกำยและจิตใจ และเขำ้ ร่วมเป็นเครือขำ่ ยกบั ภำครัฐในกำรเร่ิมขบั เคลื่อน สังคมคุณธรรม อนั จะนำไปสู่ควำมสงบสุขของประชำชน 1. ทุกคนมีมิตรจิตมิตรใจตอ่ กนั 2. คนส่วนหน่ึงลดกำรใชค้ วำมรุนแรง 3. สมำชิกแตล่ ะคนมุง่ สร้ำงคุณงำมควำมดี 4. สมำชิกในสงั คมมีชีวติ อยำ่ งอิสระและร่มเยน็ 5. สังคมปรำศจำกกำรใชก้ ำลงั ทำร้ำยซ่ึงกนั และกนั
43. ขอ้ ใดไม่อำจอนุมำนไดจ้ ำกขอ้ ควำมต่อไปน้ี คนโบรำณสงั เกตเห็นวำ่ ดวงจนั ทร์เป็นวตั ถุในทอ้ งฟ้ำที่มหศั จรรยท์ ่ีสุด ดวงจนั ทร์เปล่ียนรูปจำกเดือน เตม็ ดวงซ่ึงมีแสงส่องสวำ่ ง คอ่ ยๆ เลก็ ลงจนหำยลบั ไปท้งั ดวงแลว้ เกิดข้ึนใหม่ และโตข้ึนอีกจนเตม็ ดวง แลว้ กลบั ไปซ้ำรอยเดิมอีก คนโบรำณศึกษำวนั ขำ้ งข้ึนขำ้ งแรมและจำนวนวนั ในรอบเดือน ศึกษำจำนวน เดือนรอบฤดูกำลหรือรอบปี โดยอำศยั ดวงจนั ทร์ พบวำ่ ดวงจนั ทร์มีควำมแน่นอนเป็ นท่ีเชื่อถือได้ ในท่ีสุด ก็เกิดปฏิทินระบบแรกข้ึนซ่ึงถือดวงจนั ทร์เป็ นหลกั ที่เรียกวำ่ ปฏิทินจนั ทรคติ 1. ปฏิทินจนั ทรคติสัมพนั ธ์กบั กำรโคจรอยำ่ งเป็ นระบบของดวงจนั ทร์ 2. กำรปรำกฏและหำยไปของดวงจนั ทร์สร้ำงควำมพิศวงแก่คนสมยั ก่อน 3. มีบุคคลผฉู้ ลำดสำมำรถบนั ทึกกำรหมุนเวยี นที่แน่นอนของดวงจนั ทร์ไวไ้ ด้ 4. ควำมช่ำงสงั เกตระบบของดวงจนั ทร์ของคนโบรำณทำใหป้ ฏิทินเกิดข้ึนเป็นคร้ังแรก 5. ปฏิทินจนั ทรคติเป็ นที่ยอมรับของคนทวั่ โลกในสมยั ก่อน และใชก้ นั โดยทว่ั ไปจนทุกวนั น้ี 44. ขอ้ ใดอำจอนุมำนไดจ้ ำกขอ้ ควำมต่อไปน้ี สำคูเมด็ เล็กๆ ในสำคูไส้หมูทำจำกแป้งมนั สำปะหลงั เพรำะหำง่ำย รำคำไม่แพง ส่วนแป้งสำคูแท้ 100 % บำงคนเรียกวำ่ สำคูตน้ ทำมำจำกตน้ สำคู (Sago) ซ่ึงเป็ นปำลม์ ชนิดหน่ึง ตน้ สำคูเมื่ออำยไุ ด้ 8 ปี จะมีแป้งตรง กลำงลำตน้ ใชข้ วำนผำ่ ไส้ในลำตน้ ใหเ้ ป็นชิ้นเลก็ ๆ นำไปบดดว้ ยเคร่ือง กรองเอำแป้งมำตำกใหแ้ หง้ จะได้ แป้งสำคูตน้ นิยมนำมำทำขนมสำคูเปี ยกมะพร้ำวอ่อนเพรำะมีกลิ่นหอมตำมธรรมชำติ นุ่มละมุนลิ้น ซ่ึงเป็น เอกลกั ษณ์เฉพำะของแป้งสำคูที่ผลิตจำกตน้ สำคูแทๆ้ 1. คนนิยมนำสำคูตน้ มำทำขนมสำคูไส้หมู 2. เมด็ สำคูท่ีทำจำกแป้งมนั สำปะหลงั เป็นสำคูไมแ่ ท้ 3. ขนมท่ีทำจำกสำคูแป้งมนั และสำคูตน้ มีรสสัมผสั เหมือนกนั 4. สำคูตน้ และสำคูแป้งมนั รำคำใกลเ้ คียงกนั แตส่ ำคูตน้ จะมีกลิ่นหอมกวำ่ 5. สำคูจำกแป้งมนั สำปะหลงั และจำกตน้ สำคูมีกระบวนกำรผลิตเช่นเดียวกนั 45. ขอ้ ใดอำจอนุมำนไดจ้ ำกขอ้ ควำมต่อไปน้ี กระแสเกี่ยวกบั ตน้ ไมฟ้ อกอำกำศทำใหห้ ลำยคนเกิดควำมสงสัย เพรำะเคยเรียนกนั มำวำ่ ตน้ ไมจ้ ะปล่อย กำ๊ ซคำร์บอนไดออกไซดใ์ นตอนกลำงคืน จึงไม่ควรปลูกตน้ ไมไ้ วใ้ นหอ้ งนอน คำตอบคือตน้ ไมบ้ ำงชนิด เช่น พลูด่ำง ลิ้นมงั กร สำมำรถฟอกอำกำศ โดยจะคำยน้ำในอตั รำที่สูงกวำ่ ตน้ ไมช้ นิดอื่น ซ่ึงทำใหอ้ ุณหภูมิ บนผวิ ใบไมแ้ ตกต่ำงกบั อำกำศภำยนอก เกิดกำรหมุนเวียนของอำกำศรอบๆ ทำใหส้ ำรพษิ ในอำกำศ เช่น ฟอร์มำลดีไฮด์ ไหลลงสู่บริเวณรำกพืชที่มีจุลินทรียจ์ ำนวนมำก จุลินทรียเ์ หล่ำน้ีจะดูดสำรพิษดงั กล่ำวแลว้ ยอ่ ยใหก้ ลำยเป็นอำหำรของพชื ท้งั น้ี กระบวนกำรฟอกอำกำศจะไดผ้ ลดีเมื่อวำงตน้ ไมไ้ วใ้ นท่ีมีแสงแดดส่อง ถึงบำ้ ง 1. สำรพิษในอำกำศเป็นอำหำรช้นั ดีของพืช 2. ตน้ ไมฟ้ อกอำกำศจะไมผ่ ลิตก๊ำซที่เป็นอนั ตรำย 3. อุณหภูมิของใบไมช้ ่วยใหเ้ กิดลมที่ระบำยสำรพษิ ออกไป
4. พชื ที่มีอตั รำกำรคำยน้ำสูงทุกชนิดจำเป็นตอ้ งไดร้ ับแสงแดดตลอดวนั 5. จุลินทรียใ์ นพืชบำงชนิดสำมำรถเปล่ียนสำรพิษจำกอำกำศใหเ้ ป็นประโยชน์ 46. ขอ้ ใดไม่ใช่ลกั ษณะนิสยั ของ “ท่ำนประธำน” ในขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี ท่ำนประธำนไดร้ ับคำชมวำ่ เป็นผสู้ รรคส์ ร้ำงงำน และสร้ำงสุขในองคก์ ร เพรำะทำ่ นมกั จะพดู เสมอวำ่ เมื่อมีสุขกจ็ ะทำงำนไดเ้ ตม็ ที่ อีกประกำรหน่ึงทุกวนั น้ีเตม็ ไปดว้ ยกำรแขง่ ขนั คนเก่งมีมำกมำย เรำตอ้ ง เตรียมตวั เหมือนกำลงั ทำขอ้ สอบอยทู่ ุกวนั ตอ้ งขยนั หำควำมรู้และประสบกำรณ์ แลว้ รู้จกั แบง่ ปันและส่งต่อ ใหค้ นรุ่นใหม่ 1. ถ่อมตวั 2. สู้ปัญหำ 3. ใจกวำ้ ง 4. รอบคอบ 5. มีวสิ ัยทศั น์ 47. ขอ้ ใดไม่ใช่น้ำเสียงของผเู้ ขียนขอ้ ควำมต่อไปน้ี กระแสกำรต่ืนตวั ในกำรบริโภคอำหำรของชำติต่ำงๆ ทวั่ โลกทำใหอ้ ำหำรไทยไดร้ ับควำมนิยมแบบ ดำวรุ่งพุง่ แรงมำตลอด ไมเ่ พยี งแตใ่ นสหรัฐอเมริกำเท่ำน้นั ยงั รวมถึงในออสเตรเลีย ญ่ีป่ ุน จีน และอินเดีย อำหำรไทยมีรสชำติกลมกล่อมของ 3 รสไดอ้ ยำ่ งลงตวั คือ เปร้ียว เคม็ หวำน ที่โดดเด่นมำกคือ กลิ่นสมุนไพรและเครื่องเทศหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนเกินไป เม่ือกลืนอำหำรเขำ้ ไปยงั คงควำมหอมละมุนไว้ ในปำก สร้ำงควำมพึงพอใจแก่ผบู้ ริโภค 1. ยนิ ดี 2. ภูมิใจ 3. ช่ืนชม 4. ต่ืนเตน้ 5. ประทบั ใจ 48. ขอ้ ใดเป็นแนวคิดของขอ้ ควำมต่อไปน้ี ยำยมีวำงมือจำกไมท้ ี่บรรจงตีดินจนเป็นหมอ้ ข้ึนมำ เป็นเวลำเดียวกบั ท่ีตำมน่ั ยดื หลงั เมื่อโยนฟื นท่อน สุดทำ้ ยเขำ้ เตำเผำ ตำยำยทำแบบน้ีมำชวั่ ชีวติ สืบต่อจำกบรรพบุรุษ ตำยำยจะตอ้ งทำไปอีกนำนเทำ่ ไร หมอ้ ดินเผำฝีมือตำยำยเป็ นร้อยๆ ลูก กองซอ้ นกนั ท่วมหวั กวำ่ จะขำยไดส้ กั ใบช่ำงยำกเยน็ มิน่ำเล่ำลูกหลำน จึงทิง้ บำ้ นไปหำงำนอ่ืนทำใหเ้ มืองกนั หมด ตำยำยไดแ้ ตร่ อวนั ท่ีเขำเหล่ำน้นั หวนกลบั มำทอฝันต่อไป แมไ้ ร้ควำมหวงั อนิจจำ! ในท่ีสุดภูมิปัญญำกำรตีหมอ้ แบบพ้นื บำ้ นก็คอ่ ยๆ มอดดบั ลงไปพร้อมกบั เวลำแห่ง สงั ขำรอนั เหลืออยไู่ ม่มำกนกั ของสองตำยำย 1. กำรเล้ียงชีพดว้ ยผลผลิตที่สงั คมไมต่ อ้ งกำรยอ่ มไปไม่รอด 2. กำรสูญไปของภูมิปัญญำทอ้ งถ่ินเกิดข้ึนเป็ นธรรมดำและเป็นสิ่งท่ีน่ำเสียดำย 3. ทำงกำรควรส่งเสริมใหส้ องตำยำยมีโอกำสสืบทอดภูมิปัญญำไปยงั คนรุ่นหลงั 4. เทคโนโลยขี องยคุ สมยั ใดยอ่ มเหมำะกบั ชีวติ ควำมเป็นอยขู่ องคนในยคุ สมยั น้นั 5. วชิ ำตีหมอ้ ดินแลว้ เผำไฟเป็นภูมิปัญญำพ้นื บำ้ นที่มีคุณค่ำสูงสุดที่ควรอนุรักษไ์ ว้
49. ขอ้ ใดเป็นแนวคิดของขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี ภำพหมีร่ำงมหึมำต่อสู้กนั เพ่ือชิงตวั เมีย ภำพสงครำมที่คนขี่มำ้ ยงิ ธนูต่อสู้เพ่ือชิงดินแดนกนั เกิดข้ึน ซ้ำแลว้ ซ้ำเล่ำมำนบั พนั นบั หม่ืนปี คงไมต่ ำ่ งกบั กำรท่ีประเทศยกั ษใ์ หญป่ ล่อยดำวเทียมขนำดเล็กพุง่ ออกไป สังหำรดำวเทียมของประเทศคูแ่ ข่ง แมม้ ิไดท้ ำลำยใหย้ บั เยนิ ลงไป แตก่ ท็ ำใหห้ ลุดวงโคจรออกไป หรือ อำจทำลำยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ในขณะที่ฝ่ ำยคูแ่ ขง่ ก็อำ้ งวำ่ ประเทศยกั ษใ์ หญ่น้นั ส่งดำวเทียมตำม สอดแนมมำใกลๆ้ ตนตลอดเวลำ สักเมื่อไรจะมีมนุษยค์ ิดคน้ เทคโนโลยใี หม่ที่สำมำรถยตุ ิภำพอนั ไมพ่ งึ ปรำรถนำเหล่ำน้นั ไมใ่ ห้ปรำกฏอีกตอ่ ไป 1. แมม้ นุษยจ์ ะเจริญข้ึนเพยี งใดกย็ งั ชอบเอำชนะกนั อยดู่ ี 2. สัตวก์ บั มนุษยไ์ ม่ต่ำงกนั ในเรื่องกำรชิงควำมเป็นใหญ่ 3. ในขณะที่มนุษยพ์ ฒั นำห่ำงไกลจำกสตั วก์ ็ยงั ต่อสู้กนั เองตลอดเวลำ 4. มนุษยบ์ ำงกลุ่มพยำยำมใฝ่ หำสนั ติภำพอนั ถำวรในกำรอยรู่ ่วมโลกเดียวกนั 5. มนุษยใ์ ชเ้ ทคโนโลยที ่ีพฒั นำข้ึนมำตำมยคุ สมยั เพ่อื ตอ่ สู้กบั ฝ่ ำยตรงขำ้ มมำโดยตลอด 50. ขอ้ ใดเป็นแนวคิดสำคญั ของขอ้ ควำมตอ่ ไปน้ี บำงคร้ังคนเรำจะมองแต่อนำคตอนั ไกลท้งั ๆ ท่ีอำจจะไมม่ ีสิ่งน้นั โดยไม่ไดท้ ำปัจจุบนั สิ่งดีๆ ของ มนุษยค์ ือเวลำที่มีอยใู่ นปัจจุบนั ท่ีจะเป็ นสะพำนเชื่อมสู่อนำคตที่ตอ้ งกำร หลำยๆ คร้ังเรำเลือกท่ีจะจมอยู่ กบั อดีต บ่นปัจจุบนั และฝันไปถึงอนำคต แต่เวลำที่เรำมีอยใู่ นมือในปัจจุบนั เรำกลบั ไมไ่ ดท้ ำอะไรเลย 1. เวลำท่ีผำ่ นเลยไปแลว้ จะไม่ยอ้ นกลบั คืน 2. ควำมสุขท่ีแทจ้ ริงคือกำรทำปัจจุบนั ใหด้ ีท่ีสุด 3. เรำควรใชเ้ วลำในปัจจุบนั ทำสิ่งท่ีมีคุณคำ่ แก่ชีวติ 4. อดีตคือส่ิงท่ีผำ่ นพน้ อนำคตคือสิ่งท่ียงั มำไม่ถึง 5. กำรคิดถึงอนำคตเพยี งอยำ่ งเดียวไมก่ ่อใหเ้ กิดประโยชน์
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: