คาํ นาํ พืชสมุนไพร เป็ น พืชทีใชท้ าํ เป็ นยารักษาโรค โดยใชส้ ่วนตา่ งของพืชชนิดเดียวหรือหลายชนิดพร้อมกนั พชื สมนุ ไพรเป็ นกลมุ่ พชื ทีอยใู่ นความสนใจ และมีผศู้ ึกษาทางดา้ นพฤกษศาสตร์พนื บา้ นมากทีสุด ยารักษาโรคปัจจบุ นั หลาย ขนานทีผลิตเป็ นอตุ สาหกรรม ไดม้ าจากการศึกษาวจิ ยั การใชพ้ ืชสมุนไพรพืนบา้ นของกล่มุ ชนพนื เมืองตามป่ าเขาหรือใน ชนบท ทีไดร้ ับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษทีไดส้ ังเกตวา่ พชื ใดนาํ มาใชบ้ าํ บดั โรคได้ หากมีขอ้ ผดิ พลาดขออภยั มา ณ ทีนีดว้ ย น.ส.กุลธิดา คาํ รศ น.ส.สุภาภทั ร กณั ชนะ
สารบญั เรือง หน้า ประวตั ิความเป็ นมา 3-4 ประโยชนข์ องพชื สมุนไพร 5 ขิง 6 ตะไคร้ 7 มะนาว 8-9 ใบบวั บก 10-11 มะขามป้อม 12-13 กระเทียม 14-15 บรรณานุกรม 16
สมนุ ไพรพืนบ้าน ประวตั ิความเป็ นมา สุมนไพรคืออะไร คาํ วา่ สมุนไพร ตามพระราชบญั ญตั ิหมายความถึง ยาทีไดจ้ ากพืช สัตว์และแร่ ซึงยงั มิไดม้ ีการผสมปรุงหรือแปรสภาพ (ยกเวน้ การทาํ ใหแ้ หง้ ) เช่น พชื กย็ งั คงเป็ นส่วนของราก ลาํ ตน้ ใบ ดอก ผล ฯลฯ ยงั ไม่ไดผ้ า่ นขนั ตอนการแปรรูปใดๆ เช่น การหนั การบด การกลนั การสกดั แยก รวมทงั การผสมกบั สารอืนๆ แต่ในทางการคา้ สมุนไพรมกั จะถกู ดดั แปลงในรูปแบบ ต่างๆ เช่น ถกู หนั เป็ นชินเลก็ ลง บดใหเ้ ป็ นผง อดั ใหเ้ ป็ นแท่ง หรือปอกเปลือกออก เป็ นตน้ เมือพดู ถึงสมุนไพร คนทวั ๆ ไป มกั จะนึกถงึ เฉพาะพืชทีนาํ มาใชป้ ระโยชน์ในทางยา ทงั นีเพราะ สตั ว์ และแร่มีการใชน้ อ้ ย จะใชเ้ ฉพาะในโรคบางชนิด เท่านนั ประวตั กิ ารใช้สมุนไพร สมนุ ไพร คือ ของขวญั ทีธรรมชาติมอบใหก้ บั มวลมนุษยชาติ มนุษยเ์ รารู้จกั ใชส้ มุนไพรในดา้ นการบาํ บดั รักษาโรค นบั แต่ยคุ นีแอนเดอร์ทลั ในประเทศอริ ักปัจจุบนั ทีหลุมฝังศพพบวา่ มีการใชส้ มุนไพรหลายพนั ปี มาแลว้ ทีชาวอินเดียแดงใน เมก็ ซิโก ใชต้ น้ ตะบองเพชร(Peyate) เป็ นยาฆ่าเชือและรักษาบาดแผล ปัจจุบนั พบวา่ ตะบองเพชรมีฤทธิกลอ่ มประสาท ประมาณ , ปี มาแลว้ ทีชาวสุเมเรียนไดเ้ ขา้ มาตั งรกราก ณ บริเวณแม่นาํ ไทกริสและยเู ฟรติสปัจจบุ นั คือ ประเทศอริ ัก ใช้ สมนุ ไพร เชน่ ฝิ น ชะเอม ไทม์ และมสั ตาร์ด และต่อมาชาวบาบิโลเนียน ใชส้ มุนไพรเพมิ เตมิ จากชาวสุเมเรียน ไดแ้ ก่ใบ มะขามแขก หญา้ ฝรัน ลูกผกั ชี อบเชย และกระเทียม ในยคุ ต่อมาอียปิ ตโ์ บราณมี อิมโฮเทป แพทยผ์ มู้ ีชือเสียงซึงตอ่ มาไดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ป็ นเทพเจา้ แห่งการรักษาโรค ของอียปิ ต์ มีตาํ ราสมุนไพรทีเก่าแก่ คือ Papytus Ebers ซึงเขียนเมือ , ปี ก่อนคริสตศกั ราช ซึงคน้ พบโดยนกั อียปิ ตว์ ทิ ยาชาว เยอรมนั นี ชือ Georg Ebers ในตาํ รานีไดก้ ล่าวถึงตาํ ราสมนุ ไพรมากกวา่ ตาํ รับ และสมุนไพรมากกวา่ ชนิด เช่น วา่ น หางจระเข้เวอร์มวดู (warmwood) เปปเปอร์มนิ ต์ เฮนเบน(henbane) มดยอบ, hemp dagbane ละหุ่ง mandrake เป็ นตน้ รูปแบบ ในการเตรียมยาในสมยั นนั ไดแ้ ก่ การตม้ การชง ทาํ เป็ นผง กลนั เป็ นเมด็ ทาํ เป็ นยาพอก เป็ นขีผึง นอกจากนียงั พบวา่ ชาติต่างๆ ในแถบยโุ รปและแอฟริกา มีหลกั ฐานการใชส้ มุนไพร ตามลาํ ดบั ก่อนหลงั ของการเริมใช้ สมนุ ไพร คือ หลงั จากสมนุ ไพรไดเ้ จริญรุ่งเรืองในอียปิ ตแ์ ลว้ กไ็ ดม้ ีการสืบทอดกนั มา เช่น กรีก โรมนั อาหรับ อิรกั เยอรมนั โปรตเุ กส สวเี ดน และโปแลนดส์ ่วนในแถบเอเซีย ตามบนั ทึกประวตั ศิ าสตร์พบวา่ มีการใชส้ มุนไพรทีอินเดียก่อน แลว้ สืบ ทอดมาทีจีน มะละกา และประเทศไทย ประเทศไทยมีภูมิอากาศทีเหมาะสมตอ่ การเจริญงอกงามของพชื นานาชนิด โดยเฉพาะพืชสมุนไพรมีอยู่ มากมายเป็ นแสนๆ ชนิด ทงั ทีเกิดขึนเองตามธรรมชาติและจากการเพาะปลูก บางชนิดก็ใชเ้ ป็นวตั ถดุ ิบในการผลิตยาแผนปัจจุบนั สมนุ ไพร หลายชนิด ถูกนาํ มาใชใ้ นรูปของยากลางบา้ น ยาแผนโบราณ รากฐานของวชิ าสมนุ ไพรไทยไดร้ ับอทิ ธิพลจากประเทศ อินเดียเป็ นส่วนใหญ่ เพราะตามหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ชาติไทยไดอ้ พยพถินฐานมาจากบริเวณเทือกเขา อลั ไตนป์ ระเทศ จีน มาจนถึงประเทศไทยในปัจจบุ นั จึงมีส่วนไดร้ ับอิทธิพลทางวฒั นธรรม ประเพณี ศาสนา ตลอดจนการบาํ บดั รักษาโรค จากประเทศอนิ เดียเป็นจาํ นวนมาก
ซึงปรากฏหลกั ฐานชดั เจนวา่ ไดอ้ าศยั คมั ภีร์อายรุ เวทของอินเดียเป็ นบรรทดั ฐาน คือ การวนิ ิจฉยั โรค ชือสมนุ ไพรทีใชร้ ักษา โรคมีเคา้ ชือของภาษาบาลีสนั สกฤตอยไู่ มน่ อ้ ย เชน่ คาํ วา่ มะลิ (ภาษาสนั สกฤตวา่ มลั ลิ) เป็ นตน้ มีผปู้ ระมาณวา่ ในแต่ละปี มีผูใ้ ชส้ มุนไพรในประเทศเป็ นมูลค่ากวา่ 500 ลา้ นบาท (สมนุ ไพรเหล่านีไดม้ าจากทงั ในประเทศ และนาํ เขา้ จากนอกประเทศโดยเฉพาะ จีน เกาหลี และอินเดีย) ทงั นีเนืองจากป่ าไมถ้ กู ทาํ ลาย ทาํ ใหต้ อ้ งมีการรณรงคใ์ หม้ ีการ ปลูกเป็นสวนสมุนไพรขึน ในปี พทุ ธศกั ราช 1800 ซึงตรงกบั รัชสมยั ของพอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช ซึงนบั เป็ นยคุ ทองของ สมุนไพรไทย สวนป่ าสมนุ ไพรของพระองคใ์ หญ่โตมากอยบู่ นยอดเขาคีรีมาศ อ.คีรีมาส จ.สุโขทยั มีเนือทีหลายร้อยไร่ ซึง ปัจจุบนั ยงั คงไดร้ ับการอนุรักษไ์ ว้ เป็ นป่ าสงวนเพอื เป็ นแหลง่ ศึกษาคน้ ควา้ ของผทู้ ีสนใจ ต่อมาในรัชกาลของ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช ทรงเห็นวา่ สมนุ ไพรเป็ นทงั ยาและอาหาร ประจาํ ครอบครวั ชาติจะเจริญ มนั คงไดก้ ็ดว้ ยครอบครัวเลก็ ๆ ทีมีความมนั คงแขง็ แรง มีสุขภาพพลานามยั สมบูรณ์ทงั ทางกายและจิตใจ จึงทรงมีพระ กรุณาธิคุณโปรดเกลา้ ฯ ใหด้ าํ เนินโครงการตามพระราชดาํ ริ สวนสมุนไพรขึนในประเทศในปี พทุ ธศกั ราช 2522 โดยทรงมี พระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ใหม้ ีการรวบรวมศึกษาคน้ ควา้ ในเรืองเกียวกบั สมนุ ไพรทุกดา้ น เช่น ดา้ นวชิ าการทางชีววทิ ยา ทาง การแพทย์ การบาํ บดั การอนุรักษส์ ิงแวดลอ้ มโดยเฉพาะพชื ทีเป็ นประโยชน์ก่อใหเ้ กิดโครงการพระราช ดาํ ริ สวนป่ า สมุนไพรขึนมากมายหลายแหล่ง อีกทงั ยงั มีการศึกษาวจิ ยั อยา่ งกวา้ งขวางโดยสถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี เพอื หาสาระสาํ คญั ของสมุนไพรทีมีพษิ ทางเภสัชมาสกดั เป็ นยาแทนยาสงั เคราะห์ทีใชก้ นั ในปัจจุบนั คนไทยไมเ่ พยี งแต่ใชพ้ ชื สมนุ ไพรเป็ นยารักษาโรคเท่านนั แต่ไดน้ าํ มาดดั แปลงเพอื บริโภคในรูปของอาหารและเครืองดืมสมนุ ไพร ซึงในทีนีจะ กล่าวถึงเฉพาะ \"สมนุ ไพรทีนาํ มาใชเ้ ป็ นเครืองดืมบาํ รุงสุขภาพ\" ชีวติ ความเป็ นอยขู่ องคนไทยนนั มีรากฐานมานานนบั ร้อย นบั พนั ปี อารยธรรมตา่ งๆ ทีถือเป็ นเอกลกั ษณ์ในการแสดงถึงชาติ แสดงถึงเผา่ พนั ธุ์ และความเป็ นผทู้ ีเจริญแลว้ สิงหนึงที แสดงออกมาไดเ้ ป็ นอยา่ งดีก็คือ ศิลปะทีผสมผสานและผกู พนั อยใู่ นการใชช้ ีวติ ประจาํ วนั ของคนไทยนนั เอง ศิลปะดงั กลา่ วนี รวมไปถึงเรืองการกินอยดู่ ว้ ยอาทิ เช่น การจดั ตงั สาํ รบั และการประกอบจดั อาหาร กไ็ มเ่ พยี งเพอื ความอร่อยลินอยา่ งวเิ ศษ เพยี งประการเดียว ยงั มีความสวยงามในการจดั แตง่ เป็ นองคป์ ระกอบของอาหารใหง้ ามตายงิ ขึนไปอีก จึงไมใ่ ช่เรืองแปลก เลยทีเครืองดืมของไทยนนั จะแฝงไวด้ ว้ ยเจตนารมณใ์ ห้ ผดู้ ืมไดซ้ ึมซบั ทงั รสชาติและคุณประโยชนไ์ ปพร้อมๆ กนั อยา่ งชาญ ฉลาดหากจะสืบสาวถึงความเป็นมาของเครืองดืมสมุนไพรก็มีมาตงั แตค่ รังสมยั พทุ ธกาล มีนาํ ชนิดหนึงเรียกวา่ \"อชั บาล\" หรือ นาํ ปานะ ซึงพระสงฆส์ ามารถฉนั นาํ ชนิดนีไดต้ ลอดทงั วนั แทนการขบเคียวอาหาร หลงั มือ เพลตามบญั ญตั ิของพทุ ธ ศาสนา นาํ ปานะนีใชส้ มุนไพร หรือพืชผลชนิดทีมีความเผด็ รอ้ น เช่น ขิง ขา่ กระทือ ตะไคร้ เป็ นตน้ ตม้ ในนาํ ร้อนและผสม นาํ ตาลทรายแด
ประโยชน์ของพืชสมนุ ไพร .สามารถรักษาโรคบางชนิดได้ โดยไมต่ อ้ งใชย้ าแผนปัจจุบนั ซึงบางชนิดอาจมีราคาแพง และตอ้ งเสียคา่ ใชจ้ ่าย มาก อีกทงั อาจหาซือไดย้ ากในทอ้ งถินนนั .ใหผ้ ลการรักษาไดด้ ีใกลเ้ คียงกบั ยาแผนปัจจุบนั และใหค้ วามปลอดภยั แก่ผใู้ ชม้ ากกวา่ แผนปัจจบุ นั .สามารถหาไดง้ ่ายในทอ้ งถินเพราะส่วนใหญไ่ ดจ้ ากพชื ซึงมีอยทู่ วั ไปทงั ในเมืองและ ชนบท .มีราคาถกู สามารถประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในการซือยาแผนปัจจบุ นั ทีตอ้ งสงั ซือจากตา่ ง ประเทศเป็ นการลดการขาด ดุลทางการคา้ .ใชเ้ ป็นยาบาํ รุงรักษาใหร้ ่างกายมีสุขภาพแขง็ แรง .ใชเ้ ป็นอาหารและปลกู เป็ นพืชผกั สวนครัวได้ เช่น กะเพรา โหระพา ขิง ข่า ตาํ ลึง .ใชใ้ นการถนอมอาหารเช่น ลูกจนั ทร์ ดอกจนั ทร์และกานพลู .ใชป้ รุงแตง่ กลิน สี รส ของอาหาร เชน่ ลกู จนั ทร์ ใชป้ รุงแตง่ กลินอาหารพวก ขนมปัง เนย ไสก้ รอก แฮม เบคอน .สามารถปลกู เป็ นไมป้ ระดบั อาคารสถานทีต่าง ๆ ใหส้ วยงาม เชน่ คูน ชุมเห็ดเทศ .ใชป้ รุงเป็ นเครืองสาํ อางเพอื เสริมความงาม เช่น วา่ นหางจระเข้ ปรนะคาํ ดีควาย .ใชเ้ ป็ นยาฆ่าแมลงในสวนผกั , ผลไม้ เชน่ สะเดา ตะไคร้ หอม ยาสูบ .เป็นพชื ทีสามารถส่งออกทาํ รายไดใ้ ห้กบั ประเทศ เช่น กระวาน ขมินชนั เร่ว .เป็ นการอนุรักษม์ รดกไทยใหป้ ระชาชนในแตล่ ะทอ้ งถิน รู้จกั ช่วยตนเองในการ นาํ พชื สมุนไพรในทอ้ งถินของ ตนมาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ตามแบบแผนโบราณ .ทาํ ใหค้ นเห็นคุณคา่ และกลบั มาดาํ เนินชีวติ ใกลช้ ิดธรรมชาติยงิ ขนึ 15.ทาํ ใหเ้ กิดความภมู ิใจในวฒั นธรรม และคุณคา่ ของความเป็นไทย
สรรพคุณสมุนไพรพืนบ้าน ขิง (ginger)สมนุ ไพรทีนาํ มาใชใ้ นการประกอบอาหารไดห้ ลากหลายเมนู อกี ทงั ยงั มากมายไปดว้ ยสรรพคุณทางยาที ช่วยในการรักษาโรคไดเ้ ป็ นอยา่ งดี รสชาติของขิงจะเผด็ ร้อน หากแต่อุดมไปดว้ ยวติ ามินและแร่ธาตทุ ีสาํ คญั ตอ่ ร่างกาย ไมว่ า่ จะเป็ นวติ ามนิ เอ วติ ามินบ1ี วติ ามินบ2ี วติ ามินบ3ี วติ ามินซี แคลเซียม ธาตเุ หลก็ ฟอสฟอรัส คาร์โบไฮเดรต เสน้ ใย และ โปรตนี ทุกส่วนของขงิ เช่น ราก เหงา้ ตน้ แก่น ดอก ใบ และผล กล็ ว้ นสามารถนาํ มาใชป้ ระโยชนไ์ ดท้ งั หมด สรรพคุณ . แกอ้ าการเมารถเมาเรือ . แกป้ ัญหาผมขาดร่วง . ช่วยลดอาการทอ้ งอืด . บรรเทาอาการคลืนไส้อาเจียน . บรรเทาอาการไมเกรน . ลดความเสียงของการเกิดความดนั โลหิตสูง . ลดระดบั นาํ ตาลในเลือด
. ช่วยในการป้องกนั โรคมะเร็ง . รักษากรดไหลยอ้ น 10.ช่วยรักษาโรคตา่ งๆ อีกมากมาย ตะไคร้ (ชือสามญั : Lemongrass) (ชือวทิ ยาศาสตร์: Cymbopogon citratus); ชือทอ้ งถิน: จะไคร (ภาคเหนือ), หวั ซิงไค (ภาคอีสาน), ไคร (ภาคใต)้ , คาหอม (แมฮ่ อ่ งสอน), เชิดเกรย, เหลอะเกรย (เขมร-สุรินทร์), ห่อวอตะโป่ (กะเหรียง- แมฮ่ อ่ งสอน) ) เป็ นพืชลม้ ลกุ ในวงศห์ ญา้ (Poaceae) ความสูงประมาณ - ฟตุ ใบยาวเรียว ปลายใบมีขนหนาม ลาํ ตน้ รวมกนั เป็ นกอ มีกลินหอม ดอกออกเป็ นช่อยาวมีดอกเลก็ ฝอยเป็ นจาํ นวนมาก ตะไครเ้ ป็ นพืชทีสามารถนาํ ส่วนตน้ หวั ไป ประกอบอาหาร และจดั เป็ นพชื สมุนไพรดว้ ย สรรพคุณ . ทาํ ใหร้ ะบบยอ่ ยอาหารทาํ งานดีขึน . ลดแกส๊ ในลาํ ไส้ 3. ช่วยลดคอเลสเตอรอล 4. ลา้ งพษิ ในร่างกาย 5. ป้องกนั โรคมะเร็ง 6. รกั ษาความผิดปกตใิ นระบบทางเดินหายใจ 7. ช่วยเพมิ ภูมิคุม้ กนั
มะนาว ลูกกลมเลก็ แต่รสชาติเปรียวจีด เหมากบั การนาํ มาปรุงรสอาหาร ทาํ ใหร้ สชาติกลมกล่อมมากยงิ ขึน มะนาวเป็ น พชื ทีอยคู่ ูก่ บั คนไทยมานาน มีตน้ กาํ เนิดอยแู่ ถบเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ แถมยงั เป็ นพชื เศรษฐกิจทีทาํ รายไดใ้ หป้ ระเทศ เพราะมีรสชาติทีใคร ๆ ก็ตใิ จเมือนาํ ไปปรุงอาหาร เรียกไดว้ า่ มีตดิ ครัวกนั แทบทุกบา้ น นอกจากรสชาติเปรียว ทีไวใ้ ชใ้ น การปรุงรสของอาหารแลว้ มะนาว ยงั มีสรรพคุณทงั ทางยา และการรักษาผวิ และรูปร่างไดด้ ีอีกดว้ ย นอกจากนีมะนาว ยงั สามารถนาํ มาใชป้ ระโยชนไ์ ดท้ กุ ส่วน ไมว่ า่ จะราก ใบ ดอก เมลด็ เปลือก ตา่ งกม็ ีสรรพคุณคุณทางยามากมาย ถือว่าเป็ นยา อายวุ ฒั นะชนิดหนึง โดยเฉพาะนาํ มะนาวนนั ยงั ช่วยดูแลผวิ พรรณใหผ้ ดุ ผอ่ ง ช่วยใหร้ ูปร่างสมส่วน ใชท้ าํ ความสะอาด เครืองเรือนและ ยงั ช่วยเจริญอาหารอกี ดว้ ย สรรพคณุ .ชว่ ยบรรเทาอาการปวดศรีษะ .บรรเทาอาการวงิ เวยี นศรีษะ แกอ้ าการเมาคา้ ง ในบางทีก็รักษาอาการไขไ้ ด้ ( ดว้ ยการนาํ ใบมาหนั เป็ นฝอย ๆ แลว้ นาํ มาชงในนาํ เดือด ดืมเป็ นนาํ ชาหรือใชอ้ มกลวั คอเพอื ช่วยฆา่ เชือโรค ) .ใชเ้ ป็นยาบว้ นปาก ดว้ ยการใชน้ าํ มะนาว - หยด .ช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลีย เมือยลา้ ( ดืมนาํ มะนาวผสมนาํ ตาล ) .บรรเทาอาการคนั ตามผิวหนงั ( นาํ นาํ มะนาวมาทาบริเวณทีเป็ น ) .แกโ้ รคเหนบ็ ชา ร้อนในกระหายนาํ ดว้ ยการดืมนาํ มะนาว ( ดืมนาํ มะนาว )
แกป้ ัญหา กลาก เกลือน หิด โรคทางผิวหนงั ตา่ ง ๆ ( นาํ กาํ มะถนั มาตาํ ใหล้ ะเอียดผสมกบั นาํ มะนาว แลว้ นาํ มาทาบริเวณ ดงั กล่าวหลงั อาบนาํ ) .แกฝ้ ี ชนิดตา่ ง ๆ และลดอาการปวดฝี ( ใชร้ ากมะนาวสดมาฝนกบั เหลา้ และนาํ มาทา ขดู เอาผวิ มะนาวผสมกบั ปูน แดงปิ ดไว้ ) .ช่วยบรรเทาอาการคนั หนงั ศีรษะ จากรังแคและเชือราบนหนงั ศรีษะ ( ใชน้ าํ มะนาวนวดศีรษะใหท้ วั แลว้ คอ่ ยสระ ผม ) .ลดอาการอกั เสบ ปวดบวม จากแผลหกลม้ ฟกชาํ ( นาํ นาํ มะนาวกบั ดินสอพองมาผสมใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ทาบริเวณ ดงั กล่าววนั ละ - ครงั ) .บรรเทาอาการจาก แผลไฟไหม้ นาํ ร้อนลวก พพุ องแสบร้อน ( ใชน้ าํ มะนาวชโลมบริเวณแผล ) .แกอ้ าการระดูขาว ( รดืมนาํ มะนาวผสมเกลือกบั นาํ ตาลนิดหน่อย ) .แกแ้ ผลบาดทะยกั ( ใชน้ าํ มะนาวมาทาบริเวณทีเกิดบาดแผล )
ใบบวั บก บวั บก ชือสามญั Gotu kola บวั บก ชือวทิ ยาศาสตร์ Centella asiatica (L.) Urb. จดั อยใู่ นวงศผ์ กั ชี (APIACEAE หรือ UMBELLIFERAE) สมุนไพรบวั บก มีชือทอ้ งถินอืน ๆ วา่ ผกั หนอก (ภาคเหนือ), ผกั แวน่ (ภาคใต)้ , กะโต่ เป็ นตน้ จดั เป็ นพชื สมุนไพรทีมีตน้ กาํ เนิดในแถบเอเชีย เป็ นพชื ลม้ ลกุ ขนาดเล็ก มีกลินฉุน มีรสขมหวาน เมือพูดถึงบวั บก สมุนไพร ชนิดนีขึนมาทีไร หลาย ๆ คนคงนึกไปวา่ มนั แค่ช่วยแกอ้ าการชาํ ในเฉย ๆ (ส่วนอาการอกหกั นีไมเ่ กียวกนั นะ) แต่ในความ เป็ นจริงแลว้ บวั บกหรือใบบวั บกนนั มีสรรพคุณมากมาย เพราะไดร้ ับการกลา่ วขานเกียวการรักษาโรคไดห้ ลายชนิด อยา่ ง โรคลมชกั โรคผวิ หนงั ทอ้ งเสีย ทอ้ งอืด แผลในกระเพาะอาหาร มีฤทธิกลอ่ มประสาท ช่วยบาํ รุงสมอง เพมิ ความจาํ ช่วยลด ความออ่ นลา้ ของสมอง ใบบวั บก มีสารประกอบสาํ คญั หลายชนิด อยา่ งเชน่ บราโมซยั ด์ บรามิโนซยั ด์ ไตรเตอพนี อยด์ มาดิ แคสโซซยั ด์ ซึงมีฤทธิช่วยตา้ นการอกั เสบ และยงั มีกรดมาดิแคสซิค วติ ามินบี 1 วติ ามินบี 2 วติ ามนิ บี 6 วติ ามินเอ วติ ามินเค ธาตแุ คลเซียม ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโซเดียม และกรดอะมิโน อยา่ งเช่น แอสพาเรต กรดกลูตามิก เซรีน ทรีโอนีน อะลานีน ไลซีน ฮีสทีดิน เป็ นตน้ สรรพคณุ
.บวั บกเป็ นพืชทีมีแคลเซียมในระดบั ปานกลางถึงสูง แต่มีระดบั สารออกซาเลตทีเป็ นอนั ตรายตอ่ ร่างกายใน ปริมาณตาํ .ใบบวั บกช่วยคืนความออ่ นเยาว์ ยอ้ นอายแุ ละวยั .ใชเ้ ป็นยาอายวุ ฒั นะ .ชว่ ยเสริมสร้างและกระตุน้ การสร้างคอลลาเจนและอลี าสติน .มีสารตอ่ ตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยตอ่ ตา้ นการเสือมของเซลลต์ า่ ง ๆในร่างกาย .ประโยชนข์ องใบบวั บก ชว่ ยบาํ รุงและรกั ษาสายตา ฟืนฟรู อบดวงตา เพราะบวั บกมีวติ ามินเอสูง .ชว่ ยรักษาอาการตาอกั เสบบวมแดง ดว้ ยการใชใ้ บบวั บกลา้ งนาํ สะอาด คนั เอาแตน่ าํ นาํ มาหยดทีตา - ครงั ตอ่ วนั .ช่วยบาํ รุงประสาทและสมองเหมือนใบแปะกว๊ ย .ชว่ ยทาํ ใหค้ วามจาํ ดีขึนและทาํ ใหม้ ีปฏิภาณไหวพริบเพมิ มากขึน .ช่วยเพมิ ความจาํ ในผสู้ ูงอายุ
มะขามป้อม ภาษาองั กฤษ คือ Indian gooseberry มีชือทางวทิ ยาศาสตร์วา่ Phyllanthus emblica Linn. จดั เป็ นพืชตระกลู เดียวกบั มะยม คือ ตระกลู Phyllanthus L. ปกติแลว้ จะปลูกขึนในเอเชียเขตรอ้ น จึงสามารถเจริญเติบโตไดด้ ีในประเทศไทย โดยมี ลกั ษณะทางพฤกษศาสตร์คือ - ตน้ : เป็ นไมย้ นื ตน้ ขนาดกลาง สูงประมาณ - เมตร ลาํ ตน้ มีลกั ษณะคดงอ ไมต่ รง - เปลือก : เปลือกนอกของลาํ ตน้ เป็นสีนาํ ตาลอมเทา ส่วนเปลอื กในเป็ นสีชมพสู ด - ใบ : ใบเป็ นชอ่ เป็ นใบเลียงเดียวเรียงสลบั ปลายใบแหลม โคนใบโคง้ มน ขอบใบเรียบ มีสีเขียวอ่อน เรียงชิด ติดกนั บนกา้ นใบ - ดอก : มีดอกสีขาวหรือเหลืองออ่ นเล็ก ๆ รวมอยบู่ นกิงเดียวกนั โดยจะออกดอกประมาณเดือนกนั ยายน
- ผล : มีผลกลม เนือหนา สีเขียว ถา้ เป็ นผลออ่ นจะมีสีเขียวออ่ น ถา้ เป็ นผลแก่จะมีสีเขียวอมเหลือง คอ่ นขา้ งใส ออกนาํ ตาลนิด ๆ สามารถกินได้ มีรสฝาด เปรียว ขม และอมหวาน โดยจะออกผลประมาณเดือนพฤศจิกายน-เดือน กุมภาพนั ธ์ ผลไมร้ สเปรียวจีด ทีใครหลายคนตอ้ งส่ายหนา้ แตผ่ ลไมช้ นิดนีช่วยบาํ รุงร่างกายไดเ้ กือบทุกส่วน เป็ นผลไมท้ ีมี วติ ามินซีสูง แกอ้ าการปวดฟัน แกเ้ จบ็ คอ บรรเทาอาการหวดั ได้ เราลองมาดขู อ้ มลู ทีน่าสนใจ เกียวกบั มะขามป้อมกนั เลย ดีกวา่ สรรพคณุ . อดุ มไปดว้ ยสารอาหารและเป็นแหลง่ ของวติ ามินซี . ดบั กระหาย . แกไ้ อ เจ็บคอ ลดเสมหะ แกห้ วดั . แกไ้ ข้ 5. แกป้ วดฟัน 6. รักษาลกั ปิ ดลกั เปิ ด 7. บรรเทาอาการคนั จากเชือรา นาํ กดั เทา้ 8. รักษาแผล แกฟ้ กชาํ 9. รักษาหอบหืด 10. แกอ้ าการผนื คนั
กระเทยี ม กระเทียม (garlic) มีชือทางวทิ ยาศาสตร์วา่ Allium sativum Linn. แทบทุกครัวเรือนรูว้ ิธีการเจียวกระเทียมใน นาํ มนั ใหห้ อมก่อน แลว้ จึงใส่เนือสตั วห์ รือผกั เป็ นวธิ ีดบั กลินคาวของเนือสัตวแ์ ละเพมิ รสชาติใหก้ บั อาหารประเภทผดั ชนิด ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งดี ทงั ยงั ใชก้ ระเทียมเจียวโรยหนา้ อาหารอีกหลายอยา่ ง หรือใชเ้ ป็นส่วนประกอบทีสาํ คญั อยา่ งหนึงใน เครืองแกงชนิดตา่ งๆ โดยเฉพาะเป็ นตวั ช่วยแตง่ กลินและรสร่วมกบั มะนาวในนาํ พริกกะปิ แมแ้ ตพ่ ริกนาํ ปลาหรือนาํ จิมรส แซบก็จะลมื กระเทียมไปไม่ได้ นอกจากนีใบและหวั กระเทียมสดๆ ยงั เป็ นผกั รวมถึงกระเทียมดองของอร่อย กระเทียมยงั เป็ นสมนุ ไพรแกไ้ ขบรรเทาปัญหาสุขภาพของชาวบา้ นมาโดยตลอด หมอพนื บา้ นไทยใชก้ ระเทียมสดรักษาโรคผวิ หนงั กลาก เกลือน โรคบิด ป่ วง แกไ้ อ และกระจายโลหิต กระทงั เป็นทีสรุปไดว้ า่ กระเทียมเป็ นสมนุ ไพรทีมีสรรพคุณเด่น ประการ คือ ใชท้ ารักษาโรคผวิ หนงั และรับประทานแกโ้ รคความดนั โลหิตสูง สรรพคณุ .ฆ่าเชือรา คือ กลาก เกลือน และเชือราทีเกิดตามเลบ็ หนงั ศีรษะและผม .ฆ่าเชือยสี ตช์ นิดทีทาํ ใหเ้ กิดลินขาวเป็ นฝ้าในเด็กทารก และทาํ ใหเ้ กิดโรคมุตกิดระดูขาวทีมกั จะเกิดในหญิงที ตงั ครรภ์ หรือกินยาคุมกาํ เนิด ยาปฏิชีวนะหรือยาสเตียรอยดเ์ ป็ นเวลานานๆ .ลดความดนั โลหิตสูง .ลดไขมนั และคอเลสเตอรอล .ป้องกนั ผนงั หลอดเลือดหนาและแขง็ ตวั .ลดนาํ ตาลในเลือด
.ฆ่าหรือยบั ยงั เชือแบคทีเรียแทบทุกชนิด .รกั ษาไขห้ วดั และไขห้ วดั ใหญ่ .เป็ นยาขบั เสมหะและมีฤทธิขบั เหงือและขบั ปัสสาวะ .รกั ษาโรคไอกรน
บรรณานุกรม https://sites.google.com/site/phuchsmunphir07/bthna
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: