รายงานผลการวิจัยในชั้นเรียน

รายงานผลการวจิ ัยในชน้ั เรียน เรอื่ ง การพฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรียนวิชาเคม5ี ของนักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6/5 โดยใชบ้ ทเรยี นสาํ เรจ็ รปู เร่อื ง สารชวี โมเลกลุ จดั ทาํ โดย นางสาวรจนญี า พัดเกาะ ครผู ูช้ ว่ ย ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนมธั ยมดา่ นขนุ ทด อาํ เภอด่านขุนทด จงั หวดั นครราชสมี า สาํ นักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษา เขต31

ก คาํ นาํ ความรับผดิ ชอบในการเรียนน้นั มีความสําคญั และจําเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งปลูกฝังใหก้ ับนักเรียน เพราะความ รบั ผดิ ชอบในการเรียนเปรยี บเสมอื นรากฐานทส่ี าํ คญั ในการทาํ กจิ กรรมตา่ งๆ ใหส้ ําเร็จลุลว่ งไปด้วยดี และ ความรบั ผดิ ชอบเปน็ คณุ ลักษณะสําคัญของการเปน็ พลเมืองทดี่ ีดว้ ย เพราะส่ิงเหลา่ น้ีจะชว่ ยใหก้ ารอยรู่ วมกันใน สังคมเปน็ ไปอย่างราบรน่ื และสงบสขุ จากประสบการณก์ ารสอนทโ่ี รงเรยี นมัธยมดา่ นขุนทด กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ในรายวชิ า เพ่มิ เตมิ เคม5ี (ว30225) ชันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6/5 ได้สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี น พบว่านกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี6/5 หลายคนขาดความรบั ผิดชอบในการเรยี น ซ่ึงสงั เกตพฤตกรรมจากการท่นี ักเรียนไม่มีความ รับผดิ ชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย ไมต่ ้งั ใจเรยี น ไม่เอาใจใสต่ ่อการเรยี น เข้าชัน้ เรียนไมต่ รงเวลา ไม่อา่ น หนงั สอื หรอื ทบทวนบทเรยี น และแบ่งเวลาเรยี นไมเ่ หมาะสม ด้วยเหตุผลดังกลา่ วขา้ งตน้ ผ้วู จิ ยั จึงมีความสนใจทจี่ ะศึกษาความรบั ผดิ ชอบในการเรียนวิชาเคมี ของนักเรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/5 จํานวน 33 คน ซึ่งจะเปน็ ขอ้ มูลในการพิจารณาแนวทางในการปลูกฝังและ พฒั นาความรบั ผดิ ชอบในการเรียนวิชาเคม5ี (ว30225) และนาํ ไปปรบั ใช้ในการพฒั นาการเรยี นการสอนวชิ า เคมี5 (ว30225) ให้มีประสทิ ธภิ าพย่ิงข้นึ นางสาวรจนีญา พัดเกาะ ครผู ้ชู ่วย กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์

สารบัญ หนา้ คํานาํ ก รายงานผลการวิจัย 1

1 รายงานการวิจยั ในชั้นเรียน เรอื่ ง การพัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี นรูว้ ิชาเคม5ี ของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6/5 โดยใชบ้ ทเรยี นสําเรจ็ รูป เรอื่ ง สารชีวโมเลกลุ ผู้วิจัย นางสาวรจนญี า พัดเกาะ ครูผชู้ ว่ ย โรงเรียนมัธยมดา่ นขนุ ทด 1. ความสาํ คญั และท่ีมาของปญั หา วิทยาศาสตร์เป็นกลุม่ สาระการเรียนรหู้ ลักในโครงสร้างหลกั สตู รการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 หลักสูตรและการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนการวดั และประเมินผลการเรยี นรมู้ ีความสําคญั อย่างยิ่ง ในการ วางรากฐานการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตรข์ องผ้เู รียนแต่ละระดบั ช้ันให้ต่อเนอ่ื ง เชือ่ มโยงตัง้ แต่ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี4 ถึง ช้ันมัธยมศึกษาปที 6่ี กระบวนการจดั การเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรจ์ ําเปน็ ตอ้ งจัดลาํ ดับความยากง่ายของเน้ือหาสาระ แตล่ ะระดบั ชั้น เริ่มตน้ ต้งั แตก่ ารเชอ่ื มโยงความรกู้ ับกระบวนการการจดั กจิ กรรมการเรียนรูท้ ่ีใหผ้ ้เู รียนพัฒนา ความคดิ ทั้งความคดิ ทเ่ี ปน็ เหตเุ ปน็ ผล คดิ สร้างสรรค์ คิดวเิ คราะห์ วิจารณอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล มที กั ษะสําคญั ในการ ค้นคว้าและหาองคป์ ระกอบความรู้ด้วยกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ สามารถแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างเปน็ ระบบ สามารถตดั สนิ ใจโดยใชข้ อ้ มลู หลากหลายและประจกั ษพยานทตี่ รวจสอบได้ รวมถงึ มที ักษะในการใช้เทคโนโลยี ในการสบื คน้ ขอ้ มลู และการจดั การ ผ้วู ิจัยเปน็ ครผู สู้ อนกลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตรใ์ นระดับชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6/5 พบวา่ หน่วยการ เรียนรู้บางหน่วยนักเรียนยงั เรยี นไมเ่ ขาใจ ทาํ ใหไ้ มส่ ามารถทําแบบทดสอบผ่านเกณฑ์ ผวู้ จิ ยั ได้ พจิ ารณาแลว้ ทําใหท้ ราบวา่ นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที 6ี่ /5 โรงเรยี นมธั ยมดา่ นขนุ ทด ทําคะแนนเพอี่ ทดสอบผลสมั ฤทธใิ์ น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 เร่อื ง สารชวี โมเลกลุ ไดค้ ะแนนผลสมั ฤทธิ์ไมผ่ า่ นตามเป้าหมายทก่ี าํ หนดไว้ ด้วยเหตผุ ลดังกลา่ ว ผู้วจิ ัยจงึ มีแนวคดิ ท่ีจะสร้างสอ่ื การเรียนรูท้ สี่ ามารถทําให้ผู้เรียนไดม้ โี อกาสฝึกฝนทง้ั ในห้องเรยี นและนอกห้องเรียน น่ันคือการสร้างบทเรียนสาํ เรจ็ รปู เรื่อง สารชีวโมเลกลุ การเลือกสรา้ งส่อื การเรียนการสอน ถือเป็นเปน็ นวัตกรรมเพราะส่อื การเรียนการสอนจะชว่ ยใหน้ ักเรยี น ไดส้ ัมผสั กับเหตุการณจ์ รงิ ทาํ ให้ผเู้ รียนไดร้ บั ความรจู้ ากประสบการณต์ รง จึงทําให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจใน บทเรียนไดด้ ยี ง่ิ ข้นึ ตลอดจนช่วยเพ่ิมพนู ความร้แู ละทกั ษะในการแก้ปญั หา ตลอดจนคดิ สรา้ งสรรคไ์ ด้อยา่ งมี เหตมุ ผี ล บทเรยี นสาํ เรจ็ รูปจะช่วยใหผ้ ู้เรยี นสามารถทําแบบทดสอบไดแ้ ละเกดิ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นตาม เปา้ หมายที่กาํ หนดไว้ และเพือ่ ให้ทราบวา่ สื่อการเรยี นการสอนที่ผู้วจิ ัยสรา้ งขน้ึ มปี ระสทิ ธภิ าพทจ่ี ะช่วย พัฒนาการเรยี นรูใ้ นเนื้อหา เร่ือง สารชวี โมเลกุล ได้จรงิ หรอื ไม่ ผู้วิจัยจงึ ทาํ การ วจิ ัยในชน้ั เรยี นควบคูไ่ ปด้วย

2 2. วัตถปุ ระสงคข์ องการวิจัย 1. เพอ่ื เปรยี บเทียบผลสัมฤทธิท์ างการเรียนรู้วชิ าเคมี5 เร่ือง สารชวี โมเลกุล ระหวา่ งกอ่ นเรียนและ หลังเรยี นด้วยบทเรียนสําเร็จรูป เร่อื ง สารชวี โมเลกุล ของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที6่ /5 โรงเรียนมัธยมดา่ นขนุ ทด ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2562 3. สมมตฐิ านการวิจัย หลงั จากนําบทเรียนสาํ เรจ็ รูป เรื่อง สารชีวโมเลกุล มาใชก้ บั นักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี6/5 โรงเรยี น มัธยมดา่ นขุนทด ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 แลว้ นักเรียนมผี ลสัมฤทธใ์ิ นการทดสอบหลังเรียนท่ี ผา่ นตามเป้าหมายท่วี างไว้ 4. ขอบเขตการวิจัย ในการวิจัยครงั้ นี้ ผ้วู จิ ัยไดก้ าํ หนดขอบเขตการวจิ ยั ดงั นี้ 1. กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนชัน้ มธั ยมศึกษาปีท6ี่ /5 แผนการเรียนวิทย์-คณิต โรงเรยี นมัธยมดา่ นขนุ ทด อ.ด่านขนุ ทด จ.นครราชสมี า (สพม.31) จํานวน 33 คน 2. เนอ้ื หา เนื้อหาทีใ่ ช้ในการทาํ บทเรยี นสาํ เร็จรูป เรอ่ื ง สารชวี โมเลกลุ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยกาํ หนดขอบเขตเนื้อหาตามหลักสตู รการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ของกระทรวงศึกษาธกิ าร เลือกเฉพาะเร่ืองทเี่ นื้อหาค่อนข้างเข้าใจยาก โดยมเี นือ้ หาในเรอื่ งดงั ต่อไปนี้ 1) คารโ์ บไฮเดรต 2) ไขมันและน้ํามนั 3) โปรตีน 4) กรดนิวคลอี กิ 3. ตวั แปรที่ใชใ้ นการวจิ ยั 3.1 ตวั แปรตน้ คือ บทเรียนสําเร็จรูป เรือ่ ง สารชวี โมเลกุล 3.2 ตัวแปรตาม ได้แก่ ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นวิชาเคมี 5 (ว30225) เรอ่ื ง สารชวี โมเลกุล 4. ระยะเวลาท่ีใช้ในการวิจยั ผวู้ ิจยั ใชเ้ วลาในการวิจยั กับนกั เรยี น ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 จํานวน 2 สัปดาห์ สัปดาหล์ ะ 3 ชัว่ โมง รวม 6 ช่ัวโมง โดยแบง่ เป็น 2 ชว่ ง คอื 1) การปฐมนเิ ทศชแี้ จงวิธจี ดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จาํ นวน 30 นาที 2) การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้โดยใหผ้ ูเ้ รยี นใชบ้ ทเรยี นสําเร็จรปู เรอื่ ง สารชวี โมเลกลุ จํานวน 5 ชั่วโมง

3 5. กรอบแนวคดิ การวจิ ยั ครั้งนเ้ี ป็นการวิจัยเชงิ ทดลอง (มนตช์ ยั เทียนทอง. [Online]) โดยดําเนินการทดลองแบบ One Group Pretest Posttest Design ดังแผนภาพน้ี O1 X O2 เมอื่ O1 หมายถึง การวัดผลกอ่ นการทดลอง X หมายถงึ บทเรียนสําเรจ็ รูป เร่ือง สารชีวโมเลกลุ O2 หมายถึง การวดั ผลหลังการทดลอง 5. วธิ ีการดําเนนิ การวจิ ัย ในการดาเนนิ การวจิ ยั ได้มขี ัน้ ตอนในการดําเนนิ การดงั น้ี 1. ขั้นเตรยี มการ 1.1 ศกึ ษาปญั หาด้านผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น โดยการแยกเปน็ หน่วยเนือ้ หาทป่ี รากฏในหลกั สูตร 1.2 วเิ คราะห์ปญั หาและสรา้ งทางเลือกที่จะแกป้ ัญหาโดยการสร้างนวัตกรรมการเรยี น คือ บทเรยี นสาํ เร็จรปู 1.3 การสร้างบทเรียนสาํ เร็จรูปโดย 1.3.1 ศึกษาวธิ ีการสร้างบทเรียนสาํ เร็จรูป 1.3.2 จดั หาวัสดุ/อปุ กรณท์ จ่ี ะทาํ บทเรียนสาํ เร็จรูป 1.3.3 ลงมือทาํ บทเรียนสําเรจ็ รูปทไี่ ด้วางไว้ 2. ข้นั ดําเนินการ นาํ บทเรยี นสําเร็จรูป เร่ือง สารชีวโมเลกุล ทดลองกับกลมุ่ เปา้ หมายคอื นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษา ปีท่ี6/5 โรงเรยี นมธั ยมด่านขุนทด จาํ นวน 33 คน แล้วดาํ เนินการรวบรวมคะแนนทงั้ คะแนน แบบทดสอบกอ่ นเรียน และแบบทดสอบหลงั เรียน 3. ข้นั ประเมินผล 3.1 นาํ ข้อมูลทไ่ี ด้มาหาผลการพัฒนาความแตกต่างระหว่างการทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี นด้วย สถติ ิรอ้ ยละ 3.2 นาํ ผลการทาํ แบบสอบทงั้ ก่อนและหลังเรียนมาหาคา่ ดัชนปี ระสิทธิผล (E.I.) ของนวตั กรรมที่ใช้ 3.3 นําผลท่ีไดม้ าวิเคราะหแ์ ละรายงานผล 7. เคร่ืองมือในการวิจยั 1. แผนการจดั การเรียนรเู้ รอ่ื ง สารชวี โมเลกลุ 2. บทเรียนสําเรจ็ รปู เรือ่ ง สารชีวโมเลกุล 3. แบบทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรียน (แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน)

4 8. วธิ ีการรวบรวมข้อมลู การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลมขี ้นั ตอนในการดําเนนิ การดงั นี้ 1. ทดสอบก่อนเรยี น 2. ดําเนินการใชบ้ ทเรยี นสําเร็จรปู เรอ่ื ง สารชีวโมเลกุล กับนกั เรียนกลุ่มตวั อย่าง คอื นกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 6/5 ภาคเรยี นที่2 ปกี ารศกึ ษา 2562 3. ทดสอบหลงั เรียน (แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน) 9. การวเิ คราะหข์ ้อมลู นาํ คะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนทีน่ ักเรยี นในกลมุ่ ตัวอย่างทาํ ได้มาหาผลการพฒั นา โดย การใช้ค่าสถติ ิร้อยละ และค่าดชั นปี ระสทิ ธิผล (E.I.) 10. ผลการวจิ ยั ตารางที่ 1 : ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนกอ่ นและหลงั จากดาํ เนนิ การใช้บทเรียนสาํ เร็จรปู เร่ือง สาร ชวี โมเลกุล รายวิชาเคมี5 (ว30225) กบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/5 ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ที่ ช่ือ-สกลุ ชน้ั กอ่ นเรยี น หลังเรียน พฒั นาการ (20) (20) 1 นายเกยี รตศิ กั ดิ์ พวงสนั เท๊ียะ ม.6/5 5 16 11 2 นายธวัชชัย ศรีทอง ม.6/5 6 18 12 3 นายอัครพล ขุนแกว้ ม.6/5 4 15 11 4 นายอดุ มศักด์ิ ดุกขุนทด ม.6/5 7 14 7 5 นางสาวกุลศณิ ี สรวงแก้ว ม.6/5 9 16 7 6 นางสาวกุลสิณี หอพิกลาง ม.6/5 2 19 17 7 นางสาวแกว้ ตา ภญิ โญภาพ ม.6/5 5 17 12 8 นางสาวจันทิมา นุชเจริญ ม.6/5 4 12 8 9 นางสาวชลธชิ า อ่วยกลาง ม.6/5 5 13 8 10 นางสาวณัฏฐณชิ า เทิ่งขนุ ทด ม.6/5 7 14 7 11 นางสาวณัฐฎา เอยี งสนั เทยี ะ ม.6/5 6 15 9 12 นางสาวณฐั ธิดา ภมู โิ คกรักษ์ ม.6/5 5 16 11 13 นางสาวณชิ าพร มามขุนทด ม.6/5 9 16 7 14 นางสาวทดั ดาว เสร้งขุนทด ม.6/5 7 12 5 15 นางสาวธันยพร วจิ บ ม.6/5 6 18 12

ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ท่ี ชือ่ – สกลุ ช้ัน กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น พัฒนาการ (20) (20) 16 นางสาวนารีรัตน์ พบื ขุนทด 17 นางสาวนารีรัตน์ มติ รสนั เทยี ะ ม.6/5 9 17 8 18 นางสาวนุตประวณี ์ สุขคลาย 19 นางสาวปานชนก วอทอง ม.6/5 5 19 14 20 นางสาวพลอยไพลนิ ประเสรฐิ กลุ 21 นางสาวมญั ชุนันท์ อนิ ทร์เพช็ ร ม.6/5 3 16 13 22 นางสาวรตั นาวลี มืมขุนทด 23 นางสาวลลิตา กรมขุนทด ม.6/5 4 15 11 24 นางสาววริญญา มอื ขนุ ทด 25 นางสาววลยั รัตน์ ปลง่ั กลาง ม.6/5 1 14 13 26 นางสาวสิริยากรณ์ บุญสนั เทียะ 27 นางสาวสุติกา วยั สุวรรณ ม.6/5 5 12 7 28 นางสาวสนุ ษิ า พามขนุ ทด 29 นางสาวหน่ึงฤทยั โปยขุนทด ม.6/5 8 13 5 30 นางสาวอภญิ ญา อาจวิชัย 31 นางสาวอรปรียา นาคบญุ ธรรม ม.6/5 8 16 8 32 นางสาวอารยิ า กายขนุ ทด 33 นางสาวฟา้ รงุ่ คะเซ็นเชอ้ื ม.6/5 7 15 8 สรุปภาพรวม ม.6/5 6 18 12 ม.6/5 4 19 15 ม.6/5 4 14 10 ม.6/5 5 17 7 ม.6/5 8 13 5 ม.6/5 5 15 10 ม.6/5 9 16 7 ม.6/5 4 17 13 ม.6/5 2 18 16 รวม 184 510 326 เฉล่ยี 5.58 15.45 9.88 รอ้ ยละ 27.88 77.27 49.39 จากตารางที่ 1 พบว่า ผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนวชิ าเคมี 5 (ว30225) เรือ่ ง สารชวี โมเลกลุ โดยใช้ บทเรียนสาํ เรจ็ รปู เรอ่ื ง สารชวี โมเลกลุ ก่อนเรียนมคี า่ เฉลี่ย เทา่ กบั 5.58 และหลังเรียน ค่าเฉลี่ย เท่ากบั 15.45 ผลตา่ งของคะแนนเฉล่ีย เทา่ กับ 9.88 คิดเปน็ ร้อยละ 49.39

6 ตารางที่ 2 : แสดงดัชนปี ระสิทธผิ ล(E.I.)ของการใชบ้ ทเรียนสาํ เรจ็ รูป เร่ือง สารชีวโมเลกลุ รายวชิ าเคม5ี (ว30225) กับนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 6/5 คะแนนเตม็ คะแนนรวม คะแนนเฉลยี่ ดชั นปี ระสทิ ธิผล (E.I.) ก่อนเรยี น 20 184 5.58 0.6849 หลังเรียน 20 510 15.45 จากตารางที2่ พบวา่ ดชั นีประสทิ ธผิ ลของการใชบ้ ทเรียนสาํ เรจ็ รปู เรือ่ ง สารชวี โมเลกลุ รายวิชาเคม5ี (ว 30225)โดยภาพรวมนักเรียนมคี ะแนนเพมิ่ ขนึ้ (กา้ วหน้า)เทา่ กับ 0.6849 หรือคดิ เป็นร้อยละ 68.49 11. สรุปผลการวจิ ัย จากการวจิ ัยพบวา่ บทเรียนสาํ เรจ็ รูป เรื่องสารชวี โมเลกุล สามารถพัฒนาการเรียนรู้วิชาเคมี 5 (ว30225) ช้นั มัธยมศึกษาปีท่6ี /5 ไดด้ งั หลกั ฐานจากผลวิเคราะห์การทดสอบความแตกตางค่าเฉลีย่ ของคะแนนทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียนโดยใช้ค่าสถติ รอ้ ยละ ซงึ่ คา่ คะแนนการทดสอบกอ่ นเรยี น อยูท่ รี่ ้อยละ 27.88 และผลทดสอบหลังเรยี นอยทู่ รี่ ้อยละ 77.27 โดยหลงั เรียนมคี ่าคะแนนสูงกว่าก่อน เรยี น และมคี ่าดัชนีประสิทธผิ ลของการใชบ้ ทเรยี นสําเร็จรูป เร่อื งสารชวี โมเลกุล ร้อยละ 68.49 ตามสมมุติฐานท่วี างไว้ 13. อภิปรายผล จากผลการวิจัยทพบว่านกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่6/5 ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนมธั ยมดา่ นขุนทด มีการพัฒนาผลสมั ฤทธข์ิ องคะแนนก่อนเรยี นและหลงั เรยี น ตามผลการ วเิ คราะห์ค่าคะแนนดว้ ยค่ารอ้ ยละ ปรากฏวามผลการพัฒนาการจากร้อยละ 27.88 เป็นรอ้ ยละ 77.27 ซึ่งผลการวิจยั นส้ี อดคลอ้ งกับแนวคิดของนกั การศึกษาซ่งึ กล่าวไวว้ ่า ส่อื การเรียนการสอนสามารถ นํามาใช้ประกอบและปรับปรงุ การเรียนรเู้ พอื่ เพม่ิ พนู ความรู้และทกั ษะในการแก้ปัญหา ตลอดจนคดิ สรา้ งสรรคไ์ ด้อยา่ งมีเหตผุ ล ดว้ ยเหตผุ ลดังกล่าวจึงอาจกล่าวไดว้ ่า บทเรยี นสําเรจ็ รปู เรือ่ งสารชีว โมเลกุล เปนนวัตกรรมทมี่ ีคณุ ค่าในการพฒั นาการเรียนรู้

7 14. ขอเสนอแนะ 1. ครผูส้ อนควรใหน้ ักเรยี นไดล้ งมือทาํ การศกึ ษาวิธกี ารใชบ้ ทเรียนสําเร็จรปู เรื่องสารชีว โมเลกลุ ดว้ ยวิธกี ารท่ีถกู ต้อง 2. ผู้บริหารสถานศกึ ษาควรมกี ารส่งเสริมใหค้ รผู ู้สอนมที ักษะในการผลติ บทเรยี นสาํ เร็จรูปแบบ ออนไลนม์ ากขนึ้ 3. ครูผ้สู อนควรมกี ารพัฒนาส่ือ/นวตั กรรมในรูปแบบตา่ งๆอย่เู สมอเพอื่ ใหท้ ันกับกาเปลีย่ นแปลง ของการจดั กระบวนการเรียนรู้ในยุคโลกาววิ ฒั น์ 4. ครูผสู้ อนควรมกี ารวิจัยการใชบ้ ทเรยี นสาํ เร็จรูปเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิ ระหว่างหอ้ งเรียน 5. ควรมกี ารวจิ ัยเพื่อพฒั นาสื่อและนวตั กรรมในรูปแบบอ่ืนๆ 6. ควรมีการวิจัยเรื่องการใชส้ ่ือการเรียนการสอนกับเนื้อหาอน่ื ๆหรอื ระดบั ชั้นอน่ื ๆ