โครงงาน เรื่องการเปรียบเทยี บความสะอาดของนา้ จากเคร่ืองกรองนา้ ธรรมชาติและสารสม้ รายวิชา IS-1 (I30201) โดย เลขท่ี 7 ม.5/2 นายกีรติ กติ ินันท์ เลขที่ 9 ม.5/2 นายพสษิ ฐ์ จันทบุรี เลขที่ 10 ม.5/2 นางสาวธนัชชา ร่อนทอง เลขท่ี 11 ม.5/2 นางสาวนิพัทธา สอนสมบรู ณ์ เลขที่ 33 ม.5/2 นางสาวจริ ชยา ไชยโย เสนอ ครูดารง คนั ธะเรศน์ โรงเรยี นปัว อ้าเภอปวั จงั หวดั นา่ น สา้ นกั งานเขตพนื ทก่ี ารศึกษามัธยมศึกษาเขต 37
ชือ่ โครงงาน : การเปรยี บเทยี บความสะอาดของนา จากเคร่ืองกรองนาธรรมชาตแิ ละสารสม้ ผจู้ ดั ทา้ โครงงาน : นายกีรติ กิตินันท์ นายพสิษฐ์ จันทบรุ ี นางสาวธนชั ชา รอ่ นทอง นางสาวนิพทั ธา สอนสมบรู ณ์ นางสาวจริ ชยา ไชยโย ครทู ่ีปรกึ ษา ครดู ารง คนั ธะเรศน์ ระดับชัน : มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 ปีการศึกษา : 2564 บทคดั ย่อ การจดั ทาโครงงานการเปรยี บเทียบความสะอาดของนาจากเครอ่ื งกรองนาจากธรรมชาติ และ สารส้ม มวี ตั ถุประสงค์ เพื่อประดิษฐแ์ ละศึกษาเครื่องกรองนาจากวัสดธุ รรมชาติ วธิ กี ารทาให้นาสะอาดด้วยสารส้ม แลว้ นามาเปรยี บเทยี บความสะอาดของนาท่ีได้เคร่ืองกรองนาธรรมชาตทิ ่ที ามาจากทราย กรวด ถ่าน สาลี และ การทาใหน้ าสะอาดดว้ ยสารสม้ วา่ การกรองนาแบบใดทีจ่ ะไดน้ าสะอาดและกรองไดด้ กี ว่ากนั นอกจากนยี ังช่วย ประหยดั คา่ ใชจ้ ่ายในครัวเรอื น โดยคณะผจู้ ัดทาไดต้ ังสมมุติฐานว่านาท่ไี ด้จากการกรองนาของเครือ่ งกรองนา ธรรมชาติ(จากสาลี กรวด ถ่าน และทราย) มีความสะอาดมากกว่าวธิ กี ารท่ีใช้สารสม้ วิธีการทาโครงงานเพื่อ เปรียบเทียบความสะอาดของนาจากเครื่องกรองนาจากธรรมชาติ และ สารส้ม มีวิธดี ังนีคือ การทาเครอ่ื งกรอง จากวสั ดุธรรมชาติ(จากสาลี กรวด ถ่าน และทราย) นาขวดขนาด1.5ลิตรมาตัดใหเ้ ปน็ 2/3ของขวด นาวัสดุที่ เราเตรยี มไว้ (สาลี กรวดหยาบ กรวดละเอยี ด ทรายหยาบ ทรายละเอยี ด)มาใสใ่ นขวดท่ตี ัดไว้ โดยเรียงจากชนั แรกขึนไปด้านบนดังนี สาลี กรวดหยาบ กรวดละเอยี ด ทรายหยาบ ทรายละเอยี ด ตามลาดับ จากนันนานา คลอง 1 แกว้ ทเ่ี ตรยี มมานากรองในขวดท่ีเตรยี มไว้ สังเกตผล ส่วนการใชส้ ารสม้ ทาใหน้ าสะอาดนัน มีวธิ ดี ังนี นาสารสม้ มาแกวง่ ในนาปรมิ าณ 1 แก้วที่เท่ากนั เปน็ เวลา 20 นาที สงั เกตผล ผลการเปรียบเทียบพบว่า การ กรองทไ่ี ดจ้ ากวสั ดธุ รรมชาติใหน้ าที่สะอาดกวา่ การใชส้ ารส้มแกว่ง คณะผู้จดั ทา
กิตตกิ รรมประกาศ โครงงานเรอื่ ง “การเปรยี บเทียบความสะอาดของนาจากเครอื่ งกรองนาธรรมชาติ และสารส้ม” นีได้ สาเรจ็ ลลุ ่วงไปดว้ ยดเี พราะได้รบั ความอนุเคราะห์และความชว่ ยเหลอื จาก คุณครดู ารงค์ คันธะเรศน์ คุณครูที่ ปรึกษาโครงงาน นอกจากนียังไดร้ ับ ความอนเุ คราะหจ์ ากผู้ปกครอง ทาใหโ้ ครงงานวทิ ยาศาสตรฉ์ บบั นสี าเรจ็ ลุลว่ งไปด้วยดี คณะผู้จดั ทามีความซาบซึงในความกรุณาของทุกท่านท่ีไดก้ ลา่ วมาข้างต้นนี รวมทงั ผู้ท่ีได้มีสว่ น สนบั สนุนท่ไี ม่อาจกลา่ วได้ทังหมด ตลอดจนแหล่งเรยี นรู้ต่างๆ ที่เราได้นามาประกอบ ทางคณะผู้จัดทาจงึ ขอขอบพระคณุ ทุกๆท่านเปน็ อย่างสงู ดว้ ยความจรงิ ใจ ขอบคณุ เพื่อนๆ ท่ีร่วมช่วยกันทา คุณค่าและประโยชนท์ ี่ พงึ มีขอมอบใหผ้ ู้มพี ระคุณทกุ ๆ ทา่ นดว้ ยใจจริง ที่ได้ให้ความสนบั สนนุ โครงงานนีจนสาเรจ็ สมบูรณ์ คณะผจู้ ัดทา
บทที่ 1 บทนา้ ความเปน็ มาและความส้าคัญ ในปจั จบุ นั ในประเทศไทยมคี วามเจรญิ กา้ วหนา้ ทางเศรษฐกจิ และดา้ นอุสาหกรรมมากขึน นับตังแตม่ ี การรับหรอื แลกเปล่ยี นวฒั นธรรมกับชาติตา่ ง ๆ เพอื่ ใหเ้ กิดความทนั สมยั มากขึน ไมว่ ่าจะเปน็ ดา้ นอาหาร ชีวิต ความเปน็ อยู่ เทคโนโลยีท่ที นั สมยั ต่าง ๆ ซง่ึ นามาสู่การตงั โรงงานอตุ สาหกรรม เพ่ือสรา้ งนวตั กรรมต่าง ๆ ที่ สามารถทาให้การดาเนินชีวิตของมนุษยร์ าบรนื่ ยงิ่ ขึน แต่ความเจริญกา้ วหนา้ เหล่านนั ก็มาพร้อมกบั ผลเสยี ไมน่ ้อย ซง่ึ ปัญหาหลกั สามารถสงั เกตไดเ้ ลยวา่ มา จากอตุ สาหกรรมมากมาย ซึง่ เปน็ ปญั หาหลกั ในปจั จบุ นั ทาให้เกิดผลเสยี ในด้านตา่ ง ๆ ทังดา้ นอากาศ ซ่งึ ทาให้ อากาศเป็นมลพษิ ทางเดนิ หายใจ และสามารถทาให้เกดิ ภาวะโรคร้อนได้ และด้านทางนา เกิดจากการปลอ่ ย ของเสียของโรงงานอตุ สาหกรรม จากนาท่สี ามารถใช้อุปโภค บริโภคได้ กลบั ทาให้แมน่ าเนา่ เสยี สกปรก และ ส่งกลิน่ เหมน็ ทาให้ ไมส่ ามารถใชง้ านได้อกี ต่อไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งมชี วี ิตในนาด้วยเชน่ กัน แต่ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทีท่ ันสมัยและดา้ นวิทยาการณ์ของมนุษย์ที่ก้าวไกล ก็สามารถแกไ้ ขปัญหา เหลา่ ไดโ้ ดยวธิ การตา่ ง ๆ เชน่ การสรา้ งระบบบาบัดนา การใช้สารเคมใี นการบาบดั นา ซง่ึ สารเคมที ีใ่ ชเ้ หล่านกี ็ ยังเปน็ อันตรายต่อระบบนเิ วศทางนาดว้ ยเชน่ กนั ทางผู้จัดทาได้เลง็ เห็นปญั หาเหล่านี และตอ้ งการแกไ้ ขปัญหานาเน่าเสีย โดยการลดใชส้ ารเคมีท่เี กิดผล เสยี ตอ่ ระบบนเิ วศน์ทางนา และมาใช้สารเคมีที่ไม่เปน็ อันตราย เชน่ สารส้ม ท่ีมคี ณุ สมบัตเิ ปน็ ตัวทาให้สารที่ไม่ ละลายเหล่านันรวมตวั กันจมสูก่ ้นภาชนะได้ เรยี กวิธีนีวา่ การทาให้ตกตะกอน ซงึ่ เปน็ วิธที ่ีสะดวกและประหยดั ค่าใชจ้ า่ ย รวมถงึ การใชว้ สั ดจุ ากธรรมชาติแทน เพอ่ื เปน็ การอนุรักษ์ระบบนิเวศ และสง่ เสริมให้ความสาคัญ สาคัญจากวัสดุจากธรรมชาติในทอ้ งถน่ิ ผู้จดั ทาจงึ ได้คดิ ทาโครงงานที่เก่ียวกบั การฟนื้ ฟนู าทเ่ี น่าเสียและไม่สะอาดมาใชใ้ นการอปุ โภค บรโิ ภค จงึ เกดิ มาเปน็ โครงงาน '' โครงงานการเปรียบเทยี บความสะอาดของนาจากเครื่องกรองนาธรรมชาติ และ สารสม้ '' โดยมีจดุ มงุ่ หมายเพอื่ เปรยี บเทยี บความสะอาดของเครือ่ งกรองนาธรรมชาติและสารสม้ และ ความสามารถของการคัดกรองนาทงั สองแบบ เพ่ือนามาซึง่ นาทม่ี ีความสะอาดแตกต่างกัน ทาให้สามารถ เลอื กใชว้ ธิ ีการกรองนาไดท้ ังสองแบบ ซ่งึ เป็นวิธที ีด่ แี ละสะดวก สามารถทาได้ด้วยตนเอง อกี ทังยงั ไมเ่ ป็น อันตรายต่อส่ิงแวดลอ้ ม เพือ่ ใหเ้ กดิ ผลประโยชน์สูงสุด และสามารถทาให้นาเน่าเสียนันกลบั มาเป็นนาสะอาด และปลอดภัยเพียงพอ ท่จี ะสามารถใช้ประโยชนไ์ ด้ อีกทงั สามารถใช้วสั ดจุ ากธรรมชาติท่ีสามารถหาได้เอง ให้ เกิดประโยชน์อีกดว้ ย
วัตถุประสงค์ 1.เพอื่ ศกึ ษาและประดษิ ฐเ์ คร่ืองกรองนาจากวัสดุธรรมชาติ 2.เพ่อื ศึกษาและทาให้นาสะอาดด้วยสารส้ม 3.เพอ่ื เปรยี บเทียบความสะอาดของนาจากวสั ดุและสารส้ม สมมติฐาน นาทีไ่ ด้จากเคร่ืองกรองนาธรรมชาติ มคี วามสะอาดมากกวา่ การใช้สารสม้ ขอบเขตการศกึ ษา ตัวแปรทใ่ี ช้ในการศกึ ษา 1.ตวั แปรตน้ : เครือ่ งกรองนาธรรมชาติ และ สารสม้ 2.ตวั แปรตาม : ความสะอาดของนา 3.ตวั แปรควบคุม : แหลง่ ท่มี าของนา และ ปรมิ าณนา ผลประโยชน์ท่คี าดว่าจะไดร้ ับ 1.ได้ศึกษาการทาเครื่องกรองนาจากวัสดธุ รรมชาติ 2.ลดการใช้สารเคมีในการบาบดั นาและสารเคมใี นเคร่ืองกรองนาในปัจจุบัน 3.สามารถนาไปตอ่ ยอดเพื่อลดปญั หาการขาดแคลนนาในพืนท่ที รุ ะกนั ดาน โดยนาวัสดธุ รรมชาตทิ ่มี อี ยู่มา ประยกุ ต์ใช้ 4.สามารถนาวัสดธุ รรมชาติท่ีมอี ยู่มาประยุกตใ์ ช้ให้เกดิ ประโยชน์ นิยามศพั ท์ เครื่องกรองนา้ ธรรมชาติ คือ เป็นอุปกรณ์ท่ีช่วยปรบั ปรุงคุณภาพนาให้ดีขึนโดยการให้นาไหลผ่าน ซ่งึ จะกรองเอาสารเจือปนท่ที าให้เกดิ กลิน่ และรสออกไป ทาให้นาสะอาดขึนและส่งิ ทีผ่ ลิตขนึ มาเพ่ือนานาที่ สกปรกมากรองเพื่อใหไ้ ด้นาสะอาด และนากลับมาใช้ใหม่ได้ แตใ่ นการศึกษาครงั นีจะใช้สาลี กรวด ถา่ น และ ทรายใหน้ าไหลผา่ น กรวด คอื ก้อนหนิ เล็กๆ เขอ่ื งกว่าเมด็ ทราย ทราย คอื เศษหินเศษแร่ขนาดเล็กมาก มลี ักษณะซยุ ร่วนไม่เกาะกัน ถา่ น คือ ธาตุชนิดหน่ึง สีดา สาหรบั ใช้เป็นเชือเพลงิ แตใ่ นท่นี ีเราใช้ในการกรองนา สาลี คือ ชอ่ื เรียกปุยฝ้ายทีน่ ามาฟอกให้ขาวปราศจากเชือโรค สารสม้ คือ ผลึกเกลือมีทงั แบบเปน็ ก้อนผงสีขาว และเปน็ ผลึกใสไม่มีสี ปลอดภยั ต่อผวิ และเปน็ มิตร กบั สิ่งแวดลอ้ ม
นิยามศพั ทเ์ ชงิ ปฏิบตั กิ าร ความสะอาดของน้า หมายถึง นาทีส่ ามารถนามาใชอ้ ุปโภคได้ โดยวธิ ีการตรวจสอบ คอื 1. ความใสของนา ทดสอบโดยการใช้แสงเลเซอร์สอ่ งผ่าน แบ่งได้ 2 ระดบั 1.1 ถ้าแสงส่องผ่านไปไดม้ ากแสดงวา่ มคี วามใสมาก 1.2 ถ้าแสงสอ่ งผา่ นไปไดน้ ้อยแสดงวา่ มีความใสน้อย 2.กล่นิ ของนา ทดสอบโดยการดมกลน่ิ 3.คา่ pH ในนา จะเป็นค่าที่บอกปริมาณของกรดที่ปนอยูใ่ นนา แบง่ ได้ 3 ระดบั คือ 3.1 นาท่มี ีค่าpH เทา่ กับ 7 แสดงวา่ ในนานันบริสทุ ธป์ิ ราศจากส่งิ ปนเป้ือน 3.2 นาที่มคี า่ pH ต่ากวา่ 7 แสดงว่า ในนานันมีปรมิ าณกรดอย่มู ากเกินจุดทีส่ มดลุ 3.3 นาทมี่ ีคา่ pH มากกวา่ 7 แสดงว่า ในนานนั มีเบสมากเกินจุดที่สมดุล
บทที่ 2 เอกสารและงานวจิ ัยท่เี ก่ียวขอ้ ง การศึกษาในครังนี ผศู้ กึ ษาได้ศึกษาเอกสารและงานวิจยั ที่เก่ียวขอ้ ง โดยแบง่ เนือหาของเอกสารและ งานวิจัยเก่ยี วกบั เคร่ืองกรองนาจากวัสดุธรรมชาติและสารส้มเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี 1.ความหมายของเคร่อื งกรองนา \"เครือ่ งกรองนา\" คือ อปุ กรณ์ท่ีชว่ ยกาจัดสิง่ ปนเป้อื นท่มี ากับนา เป็นอปุ กรณ์ทช่ี ่วยปรับปรงุ คณุ ภาพ นาให้ดีขึน โดยการให้นาไหลผา่ นไส้กรองคาร์บอน ซึง่ จะกรองเอาสารเจอื ปนท่ีทาให้เกดิ กล่ิน และรสออกไป ทาใหน้ าสะอาดขึน เป็นอุปกรณส์ าคญั ที่ทุกครัวเรือน ทกุ สถานท่จี ะต้องมี ไม่ว่าจะเปน็ บ้าน สานกั งาน โรงเรียนหรืออาคารตา่ งๆ โดยภายในเครอ่ื งกรองนาจะมีไสก้ รองเปน็ ขนั ต่างๆ โดยทว่ั ไปจะมีประมาณ 4-6 ขัน สารปนเปือ้ นในนาทผี่ า่ นเขา้ มากจ็ ะแยกไปอย่ตู ามขนั แต่ละขัน จนกระท่ังได้นาท่ีบรสิ ทุ ธิส์ ามารถนามาอุปโภค บรโิ ภคไดอ้ ย่างปลอดภัย 2.ความหมายของถ่าน ถา่ น คอื ไม้ทน่ี าผ่านกระบวนการให้ความร้อนโดยอาศัยความร้อนจากเปลวไพ ในสภาวะที่ปราศจาก ก๊าซ ออกซิเจนทเ่ี ป็นตวั ทาให้เกดิ การเผาไหม้ การลุกตดิ ไฟ ไม้ท่ีไดร้ ับความร้อนจนความชืน สาระสาคัญต่าง ๆ เชน่ เซลลูโลส เฮมเิ ซลลูโลส สารเฉพาะตวั ตา่ ง ๆ เกดิ การละเหยและสลายตวั ออกไปจากเนือไม้ ซึ่งจะเหลือแต่ สว่ นท่เี ป็นคารบ์ อน ไม้จึงเปล่ียนเป็นสดี า 3.ประโยชนข์ องถ่าน ถ่านดาทีเ่ ผาด้วยอณุ หภมู ิไมส่ ูงมากใช้เวลาการเผาสันจะเหมาะเป็นเชือเพลงิ ในการปิ้งยา่ ง หรือให้ ความอบอนุ่ หากเปน็ ไมใ้ ยสันจะสามารถให้ไฟทีม่ ีคา่ ความร้อนไม่สูงแต่ตดิ ไฟไดน้ าน สว่ นถ่านทผี่ ลิตจากไม้ใย ยาว เชน่ ไมไ้ ผ่ จะเหมาะกับกิจกรรมทต่ี ้องการไฟแรงในระยะเวลาอันสัน เช่น การตีเหล็ก ถา่ นดาท่เี ผาดว้ ยการใหค้ วามรอ้ นอย่างชา้ ๆ จนอุณหภูมสิ งู ในเวลาทยี่ าวนานจะทาใหถ้ ่านดามีคา่ คาร์บอนเสถียรสูงสามารถใช้ประโยชนไ์ ด้อยา่ งหลากหลาย ในครวั เรือนสามารถใชเ้ ป็นเชือเพลิงใชด้ ดู กลิ่นและ ความชนื บาบัดนาเสียในครวั เรือน ทาให้นาใสสะอาด ชว่ ยเร่งการตกตะกอนของฝุ่นละอองในนา ในทาง การเกษตรใช้ปรับปรงุ ดนิ ใชใ้ นการทาปุ๋ยหมัก 4.ความหมายของสารส้ม เกลอื เคมปี ระเภทหนึ่งทั่วไปรู้จกั กันเฉพาะชนิดท่ใี ช้ประโยชนท์ าให้นาใสสะอาด จะมสี ารที่ช่วยจับกล่มุ อนุภาคสารทท่ี าใหเ้ กดิ floc (ตะกอนเบาซ่ึงเกดิ ขึนชา้ ๆ เมื่อเติมสารนีลงในสารแขวนลอยหรอื ของเหลวแขวน ตะกอน จะทาใหอ้ นุภาคต่าง ๆ ท่แี ขวนลอยอยมู่ ารวมตัวกันเปน็ ตะกอนมนี าหนักแล้วจมลงนอนกน้ โดยสารส้ม
มีสูตรK2SO4•Al2(SO4)3•24H2O ลกั ษณะเป็นก้อนผลกึ สีขาวใส ไมม่ ีกลิน่ มีรสเปรียวฝาด ละลายนาไดด้ ี ใช้ ประโยชน์ในการทาให้นาตาลตกตะกอน และใชฟ้ อกหนัง ยอ้ มสี 5.ประโยชนข์ องสารส้ม 1.สารสม้ ใช้แกว่งในบ่อเกบ็ นาเพือ่ ให้สิง่ สกปรกตกตะกอน 2.สามารถใช้ในการกาจัดกลิ่นตวั โดยเฉพาะใตว้ งแขน ดบั กลนิ่ ได้ 90% และนานถงึ 24 ชั่วโมง และ สามารถใชก้ าจัดกล่ินเท้าได้ 3.ทาให้อาหารกรอบ นิยมใช้กับการดองผักเพ่ือใหผ้ ักดองมคี วามกรอบ 4.ช่วยให้พริกขีหนดู สู ดใส เก็บไว้ไดห้ ลายวัน โดยการนาพริกขหี นูแชใ่ นนาสารสม้ สกั พัก แลว้ นามาผงึ่ ไว้ ก่อนทานกค็ วรล้างพรกิ เสียก่อน 5.ชว่ ยให้ข้าวเหนียวมีเมลด็ สวย โดยใช้สารส้มแกว่งในนาแชข่ ้าวเหนียว แลว้ แช่ไวส้ กั ครู่ เปล่ียนนาแช่ ใหม่ เวลานึ่งแลว้ ขา้ วจะมเี มล็ดสวย 6.สารส้ม เปน็ สารประกอบที่ใช้ในอตุ สาหกรรมทาสีย้อม เนื่องจากเปน็ สารประกอบที่มีไอออนของ อะลมู เิ นยี ม สามารถเกิดเป็นสารประกอบเชงิ ซ้อนกับสตู รโครงสร้างทางเคมีของสีและเส้นใยของพชื ทาให้สตี ดิ เสน้ ใยได้ดีขึน สจี งึ เขม้ ขึน 6. กรวด จัดอยูใ่ นประเภทหนิ ตะกอน เป็นหนิ เนือหยาบเกิดจากตะกอนของหิน กรวด ทราย ถูกกระแสนาพัด พามารวมกัน สารละลายในนาใตด้ นิ ทาตัวเปน็ ซิเมนตป์ ระสานใหอ้ นุภาคใหญ่เลก็ เหลา่ นี เกาะตัวกันเป็นก้อน หนิ เป็นหินตะกอนพัดพา มีเนือหยาบประกอบดว้ ยชินเศษหินหรือเมด็ กรวดท่มี คี วามมนสูง มขี นาด เส้นผ่าศูนยก์ ลางตงั แต่ มม. ขึนไป ฝังตัวอยู่ในเนือ พนื ท่ีเป็นตะกอนละเอียด พวกทราย ทรายแปง้ มักมวี ตั ถุ เชือ่ มประสานพวกเคล์ แคลเซยี มคาร์บอรเ์ นต เหล็กออกไซด์ 7. ทราย เป็นตัวอย่างหน่ึงของวัสดุจาพวก สสารแบบเม็ด (granular matter) ตามธรรมชาติแล้ว ทรายเกดิ จากหินทถ่ี ูกยอ่ ยเปน็ เม็ดละเอียด เปน็ วตั ถทุ ่ีเปน็ เศษหินขนาดเล็ก มลี ักษณะซุยรว่ นไม่เกาะกันมหี ลายชนิด เช่น ทรายขีเป็ด ทรายหยาบ ทรายละเอยี ด แต่อีกความหมายหนงึ่ ในแง่วิทยาศาสตร์ (โดยเฉพาะทางธรณวี ทิ ยา) แล้ว หมายถงึ ชื่อขนาดของอนุภาคขนาดเม็ด \"ทราย\" ที่มขี นาดอนภุ าคหรือเม็ดตะกอนระหวา่ ง 0.0625 ถงึ 2 มลิ ลเิ มตร อนภุ าคหนง่ึ ๆ ของทรายนนั เรยี กวา่ \"เม็ดทราย\" ขนาดของอนภุ าคทเี่ ล็กถัดลงไป เรียกวา่ ทราย แปง้ (slit) เปน็ อนภุ าคท่ีมีขนาดเลก็ กว่า 0.0625 มิลลิเมตร จนถงึ 0.004 มิลลิเมตร
8.สาลี ปัจจบุ นั สาลมี ีบทบาทในชีวิตประจาวัน ไมว่ า่ จะนามาใชท้ าความสะอาดผิวหนา้ ผิวกาย หรอื ใชท้ า ความสะอาดบาดแผล สาหรบั สาลที ี่ใช้นนั มีหลายรปู แบบ ไมว่ ่าจะเป็น สาลเี ช็ดหน้า สาลีเช็ดแผล สาลี อเนกประสงค์ สาลกี า้ น สาลีแผ่น และสาลีก้อน ซงึ่ แตล่ ะชนิดกม็ ีการใช้งานแตกต่างกันไป 9. งานวจิ ัยท่เี ก่ียวกบั เครื่องกรองนา ผศ.ดร.ธดิ ารตั น์ บญุ ศรี อาจารยป์ ระจาภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดลอ้ ม คณะวศิ วกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ ธนบุรี (มจธ.) กลา่ วว่า เนือ่ งจากในชุมชนหา่ งไกลท่ีอยตู่ ้นนา หรอื พืนท่ที ่ี ระบบสาธารณูปโภค เช่น นาประปา หรอื ไฟฟ้า ยงั เข้าไม่ถึง เชน่ บา้ นโปงลกึ -บางกลอย ตาบลห้วยแม่เพรียง อาเภอแกง่ กระจาน จังหวัดเพชรบรุ ี ซ่ึงเปน็ ชมุ ชนชาวปกาเกอะญอทอี่ าศยั อย่ตู ้นลานาเพชรบุรี ชุมชนแหง่ นจี ะ บริโภคนาจากแม่นาเพชรบุรี โดยทว่ั ไปนาจะใส ยกเว้นในฤดูฝนท่ีนาจะขนุ่ เน่ืองจากการพัดพาตะกอนจากภเู ขา แมว้ า่ นาทใี่ ชจ้ ะดูใส แตอ่ าจไม่ปลอดภยั หากนามาบรโิ ภค ทางคณะฯไดเ้ กบ็ ตัวอย่างนา ผลการวิเคราะหบ์ ง่ ชีว่า แหล่งนาอาจปนเป้ือนสิ่งปฏิกูล เน่อื งจากตรวจพบจุลนิ ทรยี ์ท่บี ่งชีว่าอาจก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหาร เช่น อ.ี โคไล สงู กว่า 2,000 โคโลนีตอ่ นา 100 มลิ ลลิ ติ ร (โคโลนี เปน็ จานวนของอโี คไล) ทผี่ ่านมายงั ไม่พบว่าชาวบา้ น ประสบปัญหาจากการอปุ โภค-บรโิ ภคนาโดยตรง เช่น ทอ้ งรว่ ง หรือโรคทางเดินอาหาร แต่เพ่อื เป็นการป้องกนั ปญั หาสขุ ภาพทีเ่ กดิ จากการรับสารปนเปื้อนในนา และสะสมเป็นเวลานาน ดว้ ยเหตนุ ที างคณะฯ จงึ ไดจ้ ดั ทา ‘ชุดกรองนาโดยนาวัสดุจากธรรมชาติ’ ท่ีสามารถหาไดใ้ นท้องถนิ่ มา ผลิตและค่มู ือวิธีสาหรับการผลิตนาสะอาดจากลาธารเพื่อการบริโภคขนึ เพอ่ื นาไปเผยแพร่และถา่ ยทอดความรู้ พนื ฐานเบืองตน้ แกช่ าวปกาเกอะญอในพนื ที่ เน่ืองจากชุมชนดงั กล่าวมที รัพยากรธรรมชาติที่อดุ มสมบูรณ์ ชาวบา้ นมีทกั ษะพืนฐานในการผลติ เครือ่ งกรองนาใชเ้ องในระดบั ครัวเรอื น โดยไม่ต้องพึ่งพานาดื่มบรรจุขวด ซง่ึ ก่อใหเ้ กดิ ขยะจากบรรจภุ ัณฑ์ และทาให้ชุมชนสามารถพงึ่ พาตนเองไดใ้ นอนาคต สาหรับชดุ กรองนาดืม่ จากวัสดธุ รรมชาตินี ประกอบดว้ ย ตัวกรอง 4 ชนั ได้แก่ ชนั กรวด ทราย ถ่าน และเซรามิคหรอื กระถาง โดยกรวดจะเปน็ ตวั กรองชันบนสดุ สามารถหาได้ท่ัวไปจากบริเวณรมิ แมน่ าลาธาร กรวดจะสามารถกาจัดอนภุ าคที่มีขนาดใหญ่ เชน่ เศษใบไม้ และตะกอนขนาดใหญ่ ถดั ลงมาเป็นชันทราย ละเอยี ด จะช่วยกาจดั อนุภาคท่ีมขี นาดเล็ก ขณะทต่ี วั กรองถ่าน ซงึ่ มคี ุณสมบัติในการดูดซับสารพษิ หรือสาร ตกคา้ ง ชว่ ยกาจัดสแี ละกลนิ่ โดยนาทีผ่ า่ นตวั กรองทงั 3 ชันดงั กลา่ ว แมจ้ ะสามารถนาไปใชอ้ ุปโภคหรอื ชาระ ล้างต่างๆ ได้ แตห่ ากต้องการนานาไปบริโภคหรือด่ืม จะต้องผา่ นตัวกรองชันที่ 4 คือ ไส้กรองเซรามิค หรอื กระถาง ทาหนา้ ที่ในการกกั เชือโรคหรือจลุ นิ ทรยี ท์ ี่มีขนาดเลก็ ได้เป็นอยา่ งดี ดังนัน ม่ันใจไดว้ ่า นาท่ผี า่ นการ กรองทงั 4 ชันดงั กลา่ วจะสามารถนามาใชด้ ืม่ หรือบริโภคได้อย่างปลอดภยั ปราศจากเชือโรค ผศ.ดร.ธิดารตั น์ กลา่ ววา่ “ส่ิงสาคญั สาหรับการนานามาใชใ้ นการบรโิ ภคนัน คือ เรอ่ื งของสารเคมี ตกค้าง และเชือโรค ท่ีกอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบต่อสุขภาพ เมื่อผลิตนาเพอื่ ใช้อุปโภคตอ้ งกาจัดสารเคมีตกค้าง จึง
ตอ้ งกรองดว้ ยถ่าน แต่นายังมีจุลินทรยี ์หลงเหลืออยใู่ นระดับทไ่ี มเ่ ป็นอันตราย แตส่ าหรับนาบรโิ ภคจะต้อง ปราศจากจลุ ินทรยี ์ โดยเฉพาะ E.coli จงึ จาเป็นตอ้ งกรองด้วย ไสก้ รองเซรามคิ หรือกระถางดินเผาท่หี าได้จาก ธรรมชาติ ตวั อยา่ งนาทเ่ี กบ็ จากในพนื ที่บา้ นโป่งลึก-บางกลอย เมอ่ื ผ่านตัวกรอง 3 ชนิดข้างตน้ แล้ว เราพบว่า อาจยังมีการปนเป้ือนของจุลินทรีย์ และ อ.ี โคไลในระดบั ท่ีไม่อันตราย เพยี ง 3 โคโลนี ต่อนา 100 มลิ ลิลติ ร แต่ เม่ือนาผา่ นไส้กรองเซรามิคซึ่งภายในเนอื เซรามิคมีรูพรนุ ขนาดเลก็ มากระดับไมโครมิเตอร์ จะสามารถกรอง จุลนิ ทรยี ์ได้ทงั หมด จงึ ค่อนข้างม่นั ใจว่านานนั สามารถดืม่ ได้อย่างปลอดภยั ” สาหรับกาลังการผลติ นาของชดุ กรองนาจากวัสดุธรรมชาตขิ นาดเล็กเหมาะสาหรับครวั เรอื นต้นแบบ ชดุ นสี ามารถผลิตนาสะอาดสาหรบั อุปโภคหรอื ใชช้ าระล้างไดใ้ นอัตราความเรว็ ท่ี 60 ลติ รตอ่ ช่วั โมง และ 1 ลิตรตอ่ ชั่วโมงสาหรบั นาดมื่ อย่างไรกต็ ามชดุ กรองนาดว้ ยวิธีการแบบง่ายๆ และไมย่ ุง่ ยากนสี ามารถนาไปขยาย ขนาดเพ่ือใหม้ ีกาลังผลติ มากขึนได้และสามารถนาไปประยุกต์ใช้ไดก้ ับทุกพนื ท่ที ่ีมปี ัญหาการขาดแคลนนาด่ืม หรอื ในพนื ท่ที ม่ี ีปัญหาขาดแคลนไฟฟา้ ใช้ เพราะเป็นวิธีการกรองและผลติ นาสะอาดตามหลกั วชิ าการโดยไม่ ต้องใช้ไฟฟา้ และสามารถใช้วัสดุทหี่ าได้ในพืนที่
บทท่ี 3 วธิ กี ารดา้ เนนิ การศกึ ษาค้นควา้ ผ้ศู ึกษาได้ทาการศึกษาเร่ืองการเปรียบเทยี บความสะอาดของนา จากเครือ่ งกรองนาธรรมชาตแิ ละ สารสม้ ซงึ่ มีวิธีการดงั นี 1.ระเบยี บวธิ ใี ชใ้ นการศึกษา ในการศึกษาใชว้ ิธสี ืบค้นข้อมูลจากหนงั สอื อินเทอร์เน็ต และการสอบถามจากครูทปี่ รึกษา และทา การทดลองตามสมมตุ ฐิ านทต่ี ังไว้ และหาข้อสรุปผลการศึกษา 2.วสั ดุและอปุ กรณ์ 1.นาคลอง 2.ขวดนาแบบใส 3.สาลี 4.กรวดหยาบ 5.กรวดละเอยี ด 6.ถา่ น 7.ทรายหยาบ 8.ทรายละเอียด 9.สารสม้ 10.ภาชนะรองรับนา 3.วธิ ีการด้าเนนิ การ แบง่ ขนั ตอนการดาเนินการเปน็ 2 สว่ น 1.การทาใหน้ าสะอาดโดยใช้ เคร่อื งกรองนาธรรมชาติ 1.ตดั ปลายดา้ นล่างของขวดนา ให้เปน็ ทรงกระบอกเปิดทงั สองข้าง 2.นาผ้าขาวบางติดด้านลา่ งของภาชนะ โดยใช้กาวรอ้ น 3.ใสส่ าลี กรวดหยาบ กรวดละเอียด ถ่าน ทรายหยาบ ทรายละเอียด ตามลาดับ 4.นาเคร่อื งกรองนาทไี่ ด้ใส่ลงในภาชนะรองรบั นา 5.เทนาคลองใสล่ งในเคร่ืองกรองนา 6.สังเกตและบนั ทกึ ผล
2. .การทาให้นาสะอาดโดยใช้ สารส้ม 1.ตกั นาคลองมาเตรยี มไว้ 2.แกว่งสารสม้ 3.ทงิ ไว้ 30 นาที เพื่อให้สิง่ แปลกปลอมตกตะกอน 4.เทนาใสลงในภาชนะที่สะอาด 5.สังเกตและบนั ทกึ ผล
บทที่4 ผลการด้าเนนิ งาน จากการทดลองทาใหน้ าสะอาด โดยประดษิ ฐ์เคร่ืองกรองนาจากวัสดธุ รรมชาติ (กรวด ทราย ถา่ น สาลี) และจากสารส้ม ได้ผลการทดลองดงั นี ภาพที่1 นาทย่ี ังไม่ไดผ้ ่านการกรอง ภาพที่2 นาทยี่ ังไม่ไดผ้ า่ นการแกว่งดว้ ยสารส้ม ภาพที่3 นาทผ่ี า่ นการกรองดว้ ยเครื่องกรองนาธรรมชาติ (ซา้ ย) นาทผ่ี ่านการแกวง่ ด้วยสารสม้ (ขวา)
ตารางผลการทดลอง ครงั ที่ ผลการเปลยี่ นแปลง ประเภทการทดลอง ความใสของนา กล่ินของนา ค่าpH 7.1 1 มคี วามขนุ่ เล็กนอ้ ย ไมม่ ีกลิน่ 7 2 7 เครื่องกรองนาธรรมชาติ 3 ใสคอ่ นข้างมาก ไม่มีกล่ิน 7.2 แกว่งสารส้ม 1 7.2 2 ใสคอ่ นข้างมาก ไม่มีกล่นิ 7.1 3 มคี วามขนุ่ เล็กน้อย ไม่มีกล่นิ มีความขนุ่ เล็กน้อย ไม่มีกลิ่น มีความขนุ่ เล็กน้อย ไม่มีกลน่ิ
บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผล จากทคี่ ณะผูจ้ ดั ทาได้ศึกษาและดาเนินงานโครงงานเรอื่ ง โครงงานการเปรียบเทยี บความสะอาดของ นาจากเคร่ืองกรองนาธรรมชาตแิ ละสารสม้ ผลการศึกษาพบว่า การใชเ้ ครอื่ งกรองนาจากธรรมชาติ ทมี่ สี ่วนประกอบมาจาก กรวด ทราย ถ่าน และสาลี สามารถทา ใหน้ าสะอาดได้ดีกว่าการแกว่งสารสม้ จากทดสอบความสะอาดของนาโดยการวัดคา่ pH ความใส และกล่ิน ของนา พบวา่ นาที่ไดจ้ ากการใชเ้ ครื่องกรองนาจากธรรมชาติ มคี วามสะอาดมากกวา่ การแกวง่ สารส้ม ซ่ึงสามารถนาไปใช้ในการอปุ โภคได้ อภิปรายผล การที่จะทราบได้วา่ นาท่ีได้จากการกรองนาโดยเครือ่ งกรองนาจากธรรมชาติ และ การแกว่งสารสม้ นาจากการทดลองใดจะมคี วามสะอาดมากกวา่ กนั ต้องใช้นาจากแหลง่ นาเดียวกัน ใชป้ ริมาณนาในปริมาณท่ี เท่ากัน จากนนั ทดสอบโดยการวัดค่า ph ความใสของนา และกลิน่ ของนา จากนาที่ไดจ้ ากการกรองนาโดย เครื่องกรองนาจากธรรมชาติ และการแกว่งสารสม้ แลว้ นามาเปรียบเทียบกัน พบวา่ 1.ค่า pH ของเครอ่ื งกรองนาจากธรรมชาติมีคา่ ใกลค้ า่ ความเปน็ กลาง คือ 7มากกวา่ การแกวง่ สารสม้ 2.ความใสของนาโดยใชแ้ สงเลเซอร์สอ่ งผ่านนาพบวา่ แสงเลเซอรส์ ามารถผ่านนาที่ได้จากเครอื่ งกรองนาจาก ธรรมชาติได้มากกว่า การแกวง่ สารส้ม 3.กล่ินของนา โดยใชผ้ ตู้ รวจสอบคนเดียวกนั ทัง 2 การทดลองพบว่านาท่ีได้จากเคร่ืองกรองนาจากธรรมชาติ และการแกวง่ สารสม้ แทบไม่ไดก้ ล่นิ ของนา ข้อเสนอแนะ 1.ถ้าหากต้องการนาทส่ี ะอาดมากขึนควรนานาที่ไดไ้ ปต้มเพ่ือฆ่าเชอื โรคก่อนอปุ โภค และไมแ่ นะนาในการ บริโภค 2.สามารถเพิ่มจานวนชนั ของวัสดธุ รรมชาตทิ ใ่ี ช้ในเครือ่ งกรองนาจากธรรมชาติเพื่อใหไ้ ด้นาท่สี ะอาดมากขนึ
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: