รายงานวิชาการ-การพับผ้าแนปกิ้น (Napkin)

การพบั ผ้าแนปกนิ- (Napkin) ไพศาล แก้วศักด.ิ กล่มุ 23 เลขที8 9: จริ พร เม่นขาํ กล่มุ 23 เลขท8ี ?2 รายงานนีเ' ป็ นส่วนหน0ึงของการศึกษาวชิ า การค้นคว้าและการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ สาขาวชิ าการจดั การการโรงแรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี ภาคเรียนที0 L ปี การศึกษา MNOP



การพบั ผ้าแนปกนิ- (Napkin) ไพศาล แก้วศักด.ิ กล่มุ 23 เลขที8 9: จริ พร เม่นขาํ กล่มุ 23 เลขท8ี ?2 รายงานนีเ' ป็ นส่วนหนึ0งของการศึกษาวชิ า การค้นคว้าและการเขยี นรายงานเชิงวชิ าการ สาขาวชิ าการจดั การการโรงแรม คณะศิลปศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี ภาคเรียนท0ี L ปี การศึกษา MNOP



ก คาํ นํา รายงานฉบบั น*ีจดั ทาํ ข*ึนเพ4ือปฏิบตั ิการเขียนรายงานการคน้ ควา้ ที4ถูกตอ้ งอยา่ งเป็นระบบ อนั เป็นส่วนหน4ึงของการศึกษารายวิชา 01-210-017 การคน้ ควา้ และการเขียนรายงานเชิงวิชาการ ซ4ึงจะ นาํ ไปใชใ้ นการทาํ รายงานคน้ ควา้ สาํ หรับรายวชิ าอื4นไดอ้ ีกต่อไป การที4ผจู้ ดั ทาํ เลือกทาํ เรื4อง “การพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin)” เนื4องดว้ ยการตกแต่งโต๊ะอาหารมีความสําคญั ในการบริการจดั แต่งโต๊ะ อาหารแต่ละรูปแบบ มีผลต่อความพึงพอใจของลูกคา้ ท*งั สิ*น ดงั น*ัน จึงมีความจาํ เป็ นอย่างมากที4 จะตอ้ งทาํ การนาํ เสนอความรู้ความเขา้ ใจ ท4ีถูกตอ้ งเก4ียวกบั การพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin) รายงานเล่มน*ีกล่าวถึงเน*ือหาเก4ียวกบั ความหมาย ความสาํ คญั และประโยชน์ของผา้ แนปกิ*น (Napkin) รูปแบบข*นั ตอนการพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin) การใชง้ านตามโอกาสและลกั ษณะงาน ท*งั น*ี เหมาะสาํ หรับผทู้ 4ีตอ้ งการรับความรู้ ความเขา้ ใจ เกี4ยวกบั การพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin) ท4ีถูกตอ้ ง และ ทราบแนวทางในการใชง้ านใหถ้ ูกตอ้ ง ขอขอบคุณผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร. พนิดา สมประจบ ที4กรุณาใหค้ วามรู้และคาํ แนะนาํ โดย ตลอด และขอขอบคุณGoogle ที4ใหค้ วามสะดวกในการคน้ หาขอ้ มูล รวมไปถึงท่านเจา้ ของบทความ งานวิจยั ท4ีผเู้ ขียนใชอ้ า้ งอิงทุกท่าน หากมีขอ้ บกพร่องประการใด ผเู้ ขียนขอนอ้ มรับไวเ้ พื4อปรับปรุง ต่อไป ไพศาล แกว้ ศกั ดkิ จิรพร เม่นขาํ 20 ตุลาคม 2564



ข สารบัญ คาํ นาํ …………………………………………………..……………………………………. หนา้ สารบญั ภาพประกอบ…………………………………………………..…………………… ก ง บทที4 1 1 บทนาํ …………………………………………………..…………………………. 1 1.1 ความหมายของผา้ แนปกิ*น (Napkin)…………………………………………. 1 1.2 ความสาํ คญั ของผา้ แนปกิ*น (Napkin)…………….…….…………………….. 2 1.3 ประโยชนข์ องผา้ แนปกิ*น (Napkin)……….……………..….…….….…….… 3 2 รูปแบบและข*นั ตอนการพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin)…………………………………. 3 2.1 ข*นั ตอนการลงแป้งเพ4ือเริ4มพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin).……….……..….………. 4 2.2 ข*นั ตอนการพบั ผา้ แนปกิ*น (Napkin)………………………………………….. 4 2.2.1 การพบั แบบดอกทิวลิป…………………………………………………. 5 2.2.2 การพบั แบบดอกคาร์เนชน4ั ……………………………………………… 6 2.2.3 การพบั แบบดอกลิลล4ี…………………………………………………… 10 2.2.4 การพบั แบบดอกหนา้ ววั ………………….…………….………………. 11 2.2.5 การพบั แบบดอกบวั …………………………………………………….. 12 2.2.6 การพบั แบบพีระมิด…………………………………………………….. 14 2.2.7 การพบั แบบเพชร.………………………………………………………. 16 2.2.8 การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์……………….……………………….. 19 2.2.9 การพบั แบบโรส…………………….………….………………………. 21 u การใชง้ านตามโอกาสและลกั ษณะงาน………………….………………………. 21 3.1 การเลือกใชเ้ น*ือผา้ และสีตามความเหมาะสม………………………………… 21 3.1.1 ผา้ ฝ้าย………………………………………………………………….. 22 3.1.2 ผา้ ลินิน………………………………………………………………… 22 3.1.3 ผา้ ไหม.……………………….………………………………………..

ค สารบญั (ต่อ) บทที4 หนา้ 3.2 การใชง้ านตามลกั ษณะงาน………………………………………………….. 23 3.2.1 สาํ หรับงานแต่งงาน…….…………….……………………………….. 23 3.2.2 สาํ หรับงานสมั มนา……………………………………………………. 24 3.2.3 สาํ หรับตอ้ นรับ………………………….…………………………….. 25 3.2.4 สาํ หรับภตั ตาคาร………………………………………………………. 26 3.2.5 สาํ หรับโรงแรมทว4ั ไป…………………………………………………. 27 3.2.6 สาํ หรับโรงแรม w ดาว…………………………………………………. 28 29 4 สรุป………….……………………………….…………………………………. 31 ภาคผนวก………….……………………………….……………………………………. 33 บรรณานุกรม..………….……………………………….………………………………..

ง สารบญั ภาพประกอบ ภาพที4 หนา้ x การลงแป้งผา้ แนปกิ*น…………………………………………………………………. 3 y การพบั แบบดอกทิวลิป……………………….……………………………………….. 4 3 การพบั แบบดอกคาร์เนชนั4 …………………………………………………………….. 5 4 การพบั แบบดอกลิลลี4………………………………………………………………….. 6 5 การพบั แบบดอกหนา้ ววั ……………………………………………………………….. 10 6 การพบั แบบดอกบวั ……………………………………………………………………. 11 7 การพบั แบบพีระมิด……………………………………………………………………. 12 8 การพบั แบบเพชร………………………………………………….…………………… 14 9 การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์……………………………………………………….. 16 10 การพบั แบบโรส……………………………………………………………………….. 19 11 ผา้ ฝ้าย………………………………………………………………………………….. 21 12 ผา้ ลินิน………………………………………………………………………………… 22 13 ผา้ ไหม…………………………………………………………………………………. 22 14 สาํ หรับงานมงคลสมรส……………………………………………………………….. 23 15 สาํ หรับงานประชุมสมั มนา……………………………………………………………. 24 16 สาํ หรับตอ้ นรับแขก……………………………………………………………………. 25 17 สาํ หรับหอ้ งอาหารหรือภตั ตาคาร……………………………………………………… 26 18 สาํ หรับโรงแรมทว4ั ไป…………………………………………………………………. 27 19 สาํ หรับโรงแรมหรูระดบั 5 ดาว……………………………………………………….. 28 yz มารยาทการทานอาหารแบบตะวนั ตก………………………………………………… 32



บทท8ี K บทนํา ประมาณศตวรรษท4ี xw-x{ ในประเทศองั กฤษยงั ไม่มีมีดโกนหนวด ผูช้ ายส่วนใหญ่จึงไว้ หนวดเครายาวรุงรัง ซ4ึงหนวดเคราน*ีเองที4เป็นอุปสรรคสาํ คญั ในการรับประทานอาหาร (ในสมยั น*นั ยงั ไม่มีการผลิตชอ้ นส้อมมาใชเ้ ป็ นอุปกรณ์ในการตกั อาหาร ทาํ ใหผ้ ชู้ ายยคุ น*ีตอ้ งใชม้ ือหยบิ อาหาร และน4ีก็เป็ นสาเหตุทาํ ให้เครายาว ๆ น*นั ตกลงไปในอาหาร เลอะเทอะเปอะเป*ื อนไปท*งั เคราและ เส*ือผา้ ท4ีสวมใส่ ไม่เพียงเท่าน*ี เมื4อรับประทานอาหารเสร็จแลว้ คุณผูช้ ายมกั จะเช็ดปากที4แขนเส*ือ ของตวั เองคุณแม่บา้ นท4ีตอ้ งรับบทหนักในการทาํ ความสะอาดเส*ือผา้ จึงคิดหาวิธีป้องกนั ไม่ให้ เส*ือผา้ เลอะเทอะข*ึน โดยการน*าํ ผา้ มาผกู ไวท้ 4ีคอคุณสามีเพ4ือป้องกนั ไม่ใหเ้ ส*ือผา้ เลอะ ผลปรากฏวา่ ผา้ ผืนน*นั ไม่เพียงป้องกนั เส*ือผา้ เลอะเท่าน*นั แต่ยงั เป็ นการช่วยให้คุณผูช้ ายมีผา้ เช็ดปากเพิ4มข*ึนอีก ดว้ ย จึงมีการนาํ ผา้ มาผูกคอไวเ้ พ4ือเป็ น “ผา้ กนั เป*ื อน” ทุกคร*ังท4ีรับประทานอาหาร จนไดร้ ับความ นิยมใช้กันมา และถูกดัดแปลงมาเป็ นผา้ กันเป*ื อนท4ีวางบนตักในระหว่างรับประทานอาหาร (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์ 1.1 ความหมายของผ้าเเนปกนิ' (Napkin) ผา้ เชด็ ปาก หรือ Napkin ผา้ เชด็ ปากเป็นอุปกรณ์ในการรับประทานอยา่ งหน4ึง มกั พบในการ จดั โต๊ะอาหารที4ค่อนขา้ งที4จะเป็ นพิธีการ การจดั วางผา้ เช็ดปากบนโต๊ะอาหารน*นั สามารถวางไวใ้ น จานหรือนอกจานกไ็ ด้ ข*ึนอยกู่ บั รูปแบบการจดั โตะ๊ อาหารของแต่ละท4ี การพบั ผา้ เช็ดปากในรูปแบบ ต่างๆ น*นั กช็ ่วยเพ4ิมความสวยงามในการจดั โต๊ะอาหารไดเ้ ช่นกนั ซ4ึงโดยส่วนมากแลว้ มกั นิยมใชผ้ า้ เช็ดปากในโทนสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว สีครีม เป็ นตน้ (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์ 1.2 ความสําคญั ของผ้าเเนปกนิ' (Napkin) ผา้ เช็ดปาก (Napkin) ถือเป็ นอีกหน4ึงส4ิงสําคัญท4ีขาดไม่ได้ บนโต๊ะอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม หรือ ร้านอาหาร อาจจะฟังดูเผนิ ๆ วา่ ผา้ เช็ดปากเป็นส4ิงท4ีไม่ค่อยสาํ คญั มากนกั หากมองถึง ความเป็ นจริง ผา้ เช็ดปากยงั เป็ นส4ิงที4สะทอ้ นถึงความใส่ใจของผูจ้ ดั งาน จดั โต๊ะอาหาร และยงั เป็ น องคป์ ระกอบสาํ คญั ท4ีจะทาํ ใหโ้ ต๊ะอาหารสวยงามและครบครันสมบูรณ์แบบ อีกท*งั ผา้ เช็ดปากยงั มี ประโยชน์ใชส้ อยในการรับประทานอาหารอีกดว้ ยเพราะฉะน*นั ผา้ เช็ดปากที4อยบู่ นโต๊ะอาหารไม่ใช่ แค่ผา้ เช็ดปากธรรมดา แต่ยงั สามารถสะทอ้ นถึงความใส่ใจของผทู้ ี4จดั โต๊ะอาหาร โดยมีจุดประสงค์

2 ให้โต๊ะอาหารออกมาสมบูรณ์แบบท4ีสุด (ผ้าเช็ดปาก (Napkin) มีความสําคัญอย่างไร, 2563: ออนไลน)์ 1.^ ประโยชน์ของผ้าแนปกนิ' (Napkin) ประโยชนข์ องผา้ แนปกิ*นควรมีบนโตะ๊ อาหารกเ็ พ4ือเชด็ ปาก โดยหากยงั รับประทานไม่เสร็จ แลว้ จาํ เป็นตอ้ งลุกออกจากเกา้ อ*ี ควรวางไวข้ า้ งโตะ๊ หรือพนกั เกา้ อ*ีโดยไม่ตอ้ งพบั กลบั คืน ท4ีสาํ คญั จะ ไม่นิยมวางบนท4ีนง4ั เพราะบางคร*ังกลบั มาแลว้ อาจจะลืมและนง4ั ทบั ลงไป ดงั น*นั การใชผ้ า้ แนปกิ*น จึง ควรวางในจุดท4ีมองเห็น สาํ หรับนกั ศึกษาที4เรียนในดา้ นการโรงแรม ตอ้ งไดเ้ รียนพบั ผา้ ชนิดน*ี

บทท8ี 2 รูปแบบและขMนั ตอนการพบั ผ้าแนปกนิM (Napkin) การรับประทานอาหารแบบตะวนั ตก ในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา มักมีการทาํ กระดาษเช็ดปาก ผา้ แนปกิ*นเป็ นสีสัน และลวดลายต่าง ๆ สวยงามเพื4อใชป้ ระดบั บนโต๊ะอาหาร สําหรับประเทศไทยน*นั กระดาษเช็ดปากนิยมทาํ เป็ นสีชมพู เนื4องจากโดยมากจะนาํ ไปใชใ้ นงาน มงคล เช่น งานมงคลสมรส เป็นตน้ 2.1 ข'นั ตอนการลงแป้งเพื0อเร0ิมพบั ผ้าแนปกนิ' (Napkin) 1. ซกั ผา้ เชด็ ปากดว้ ยผงซกั ฟอกแลว้ ลา้ งน*าํ ใหส้ ะอาด บิดผา้ ใหห้ มาดพกั ไว้ 2. ผสมน*าํ แป้งในหมอ้ อตั ราส่วนน*าํ y ลิตร ต่อแป้งมนั สาํ ปะหลงั w ชอ้ นโต๊ะ คนให้แป้ง กบั น*าํ เขา้ กนั 3. นาํ หมอ้ ที4ผสมน*าํ กบั แป้งเขา้ กนั ดีเเลว้ ข*ึนต*งั ไฟ หมน4ั คนอยา่ ให้แป้งนอนกน้ หมอ้ และ อยา่ ใหแ้ ป้งเป็นเมด็ คนเร4ือย ๆ จนน*าํ แป้งเร4ิมขน้ และใส 4. นาํ ผา้ ท4ีหมาดลงตม้ ในน*าํ แป้งที4ขน้ ปล่อยไวส้ ักพกั ใหน้ *าํ แป้งซึมเขา้ เน*ือผา้ จากน*นั ตกั ผา้ ข*ึนจากหมอ้ ตม้ แป้ง ปล่อยไวใ้ หเ้ ยน็ สกั พกั จากน*นั บิดผา้ ใหห้ มาด 5. นาํ ผา้ ไปตาก ก่อนตากสะบดั ผา้ เลก็ นอ้ ย 6. นาํ ผา้ มารีด ก่อนรีดอาจจะพรมน*าํ ใหม้ ากหน่อย จะช่วยใหผ้ า้ รีดเรียบไดง้ ่ายข*ึน ภาพท4ี 1 การลงแป้งผา้ แนปกิ*น (การลงแป้ง, 2560: ออนไลน)์

4 M.M ข'นั ตอนการพบั ผ้าแนปกนิ' (Napkin) วธิ ีพบั ผา้ เช็ดปาก มีหลายๆรูปแบบการพบั ขนาดมาตรฐาน เป็นผา้ ส4ีเหล4ียมจตั ุรัส กวา้ งและ ยาว wz เซนติเมตร เป็นผา้ สีพ*ืนพ*ืนฐานในการทาํ ผา้ เช็ดปาก เร4ิมดว้ ยการเลือกผา้ การรีด การลงแป้ง การเลือกใชผ้ า้ เช็ดปาก ตลอดจนการพบั เป็ นรูปต่างๆ ที4สวยงาม เช่น พบั เป็ นดอกไมห้ ลากหลาย ชนิด ท*งั ดอกทิวลิป ดอกหนา้ ววั ดอกคาร์เนชน4ั ดอกกหุ ลาบ 2.2.x การพบั แบบดอกทิวลิป ภาพท4ี 2 การพบั แบบดอกทิวลิป (จริยา เดชกญุ ชร, 2556: ออนไลน)์ 1. พบั คร4ึงโดยใหข้ อบผา้ เสมอกนั จะไดเ้ ป็นรูปสี4เหลี4ยมผนื ผา้ y. พบั คร4ึงตามแนวเดิมอีกคร*ังแลว้ กรีดผา้ ใหเ้ รียบเสมอกนั u. พบั ผา้ ดา้ นซา้ ยและขวาเขา้ มาจดกนั ที4จุดก4ึงกลางของผา้ ‚. พบั ผา้ จากมุมดา้ นล่างซา้ ยและขวาข*ึนเป็นมุม ƒz องศาเขา้ หาจุดก4ึงกลาง w. พลิกผา้ กลบั ดา้ น พบั ผา้ จากมุมดา้ นบนซา้ ยและขวาลงเป็นมุม ƒz องศาเขา้ หาจุดก4ึงกลาง {. สอดปลายผา้ ดา้ นขวาเขา้ ในผา้ ดา้ นซา้ ยใหแ้ น่น „. กลบั ผา้ อีกดา้ นต*งั ข*ึนค่อย ๆ จดั กลีบดอกใหส้ วยงาม

5 y.y.y การพบั แบบดอกคาร์เนชนั4 ภาพท4ี 3 การพบั แบบดอกคาร์เนชน4ั (จริยา เดชกญุ ชร, 2556: ออนไลน)์ x. พบั คร4ึงใหข้ อบผา้ เสมอกนั จะไดเ้ ป็นรูปสี4เหล4ียมผนื ผา้ y. พบั คร4ึงตามยาวอีกคร*ัง กรีดรอยพบั ใหเ้ รียบ u. พบั ผา้ ข*ึนมาประมาณ x นิ*ว พบั ทบไปมา ‚. ทบผา้ ไปมาจนสุดปลายผา้ w. จบั ผา้ ส่วนล่างใหแ้ น่น ค่อย ๆ คล4ีผา้ ออกทีละช*นั {. คล4ีผา้ จนครบทุกช*นั จดั ใหส้ วยงาม „. จดั ใส่แกว้ มีกา้ น ดึงตกแต่งกลีบดอกใหส้ วยงาม …. ชิ*นงานสาํ เร็จ

6 y.y.u การพบั แบบดอกลิลล4ี x. คลายผา้ เชด็ ปากแลว้ วางลงบนโตะ๊ โดยใหด้ า้ นพิมพห์ รือยอ้ มหงายลง ภาพที4 4 การพบั แบบดอกลิลล4ี (วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปาก - แบบดอกลิลลี4, yw{‚: ออนไลน)์ y. พบั ผา้ เชด็ ปากตามแนวทแยงเพ4ือใหเ้ ป็นรูปสามเหล4ียมขนาดใหญ่ การพบั แบบดอกลิลล4ี

7 u. พบั มุมขวาของรูปสามเหลี4ยมข*ึนไปใหช้ ิดขอบดา้ นบน ทาํ ซ*าํ กบั มุมซา้ ยเพื4อสร้างตาราง การพบั แบบดอกลิลล4ี ‚. ตอนน*ีใชป้ ลายพบั ดา้ นขวาจากดา้ นบนและพบั ลงเพื4อใหต้ อนน*ีครอบคลุมจุดดา้ นล่าง ของส4ีเหล4ียม ทาํ ซ*าํ กบั ปลายดา้ นซา้ ย การพบั แบบดอกลิลลี4

8 w. ใชจ้ ุดบนสุดของสี4เหล4ียมแลว้ พบั ลงเพื4อใหป้ ลายสมั ผสั ตรงกลางระหวา่ งตะเขบ็ ระหวา่ งพนงั ดา้ นขวาและดา้ นซา้ ย การพบั แบบดอกลิลล4ี {. พบั ดา้ นบนอีกคร*ังเพื4อทบั ซอ้ นกนั ตรงกลางโดยประมาณหน4ึงเซนติเมตร การพบั แบบดอกลิลลี4

9 „. หนั ผา้ เชด็ ปาก x…z องศาพลิกผา้ เชด็ ปากเพ4ือใหด้ า้ นพบั เกบ็ คว4าํ ลงมว้ นท*งั สองดา้ นไป ทางกลางและเล*ียวมุมขวาเขา้ มุมซา้ ยดา้ นล่างพบั ดา้ นล่าง การพบั แบบดอกลิลลี4 …. หมุนผา้ เชด็ ปากไปท4ีดา้ นซา้ ยหยบิ ปลายดา้ นนอกสุดของผา้ เชด็ ปากแลว้ นาํ มาค่อยๆ เหน็บลงในผา้ เชด็ ปากท4ีพบั ไว้ หมุนผา้ เชด็ มือท4ีดา้ นขวาและทาํ ซ*าํ เม4ือเสร็จแลว้ หนั ผา้ เชด็ ปากไป รอบ ๆ โดยใหร้ อยพบั และตะเขบ็ หนั หนา้ ไปทางคุณ การพบั แบบดอกลิลล4ี

10 y.y.‚ การพบั ผา้ แบบดอกหนา้ ววั ภาพที4 5 การพบั แบบดอกหนา้ ววั (จริยา เดชกญุ ชร, 2556: ออนไลน)์ ข*นั ตอนการพบั ดอกหนา้ ววั 1. พบั คร4ึงโดยใหข้ อบผา้ เสมอกนั จะไดเ้ ป็นรูปสี4เหล4ียมผนื ผา้ 2. พบั คร4ึงจากซา้ ยไปขวาจะไดเ้ ป็นรูปส4ีเหลี4ยมจตั ุรัส u. พบั ปลายผา้ ลงมา โดยเวน้ ระยะจากขอบผา้ ประมาณ x-y เซนติเมตร ‚. พบั ลงมาจนครบทุกช*นั โดยเวน้ ระยะห่างของแต่ละช*นั เท่า ๆ กนั w. เมื4อพบั ลงมาครบทุกช*นั แลว้ หมุนปลายแหลมของผา้ เขา้ หาตวั พบั ผา้ ดา้ นขวาลงมาเป็น มุม ƒz องศาเขา้ หาจุดก4ึงกลาง {. พบั ผา้ ดา้ นซา้ ยมาจดกบั ผา้ ดา้ นขวาตรงก4ึงกลางแลว้ กรีดรอยพบั ใหเ้ รียบ „. พลิกผา้ กลบั ดา้ น พบั มุมผา้ ดา้ นล่างข*ึนไปประมาณ x/u ของผา้ …. พลิกผา้ กลบั ดา้ นแลว้ กางผา้ ออก ƒ. ชิ*นงานสาํ เร็จ

11 y.y.w การพบั แบบดอกบวั x. พบั มุมท*งั 4 ดา้ นเขา้ หาจุดก4ึงกลางผา้ 3 คร*ังแลว้ พลิกดา้ นผา้ ภาพท4ี 6 การพบั แบบดอกบวั (วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปากเป็นรูปดอกบวั , 2555: ออนไลน)์ y. พบั มุมเขา้ หาจุดก4ึงกลางอีกคร*ังหน4ึง การพบั แบบดอกบวั

12 3. ดึงผา้ ที4อยดู่ า้ นล่างมาเป็นกลีบ จดั รูปทรงใหส้ วยงาม การพบั แบบดอกบวั 2.2.6 การพบั แบบพีระมิด x. วางผา้ เชด็ ปาก ไวด้ า้ นหนา้ พบั กระดาษเชด็ ปากในช่วงคร4ึงแนวทะแยงมุม ภาพที4 7 การพบั แบบพีระมิด (วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปาก (Napkin Folding Style), 2555: ออนไลน)์

13 y. หมุนผา้ เชด็ ปากเพ4ือใหป้ ลายเปิ ด อยฝู่ 4ังตรงขา้ มกบั ตวั พบั ปลายดา้ นขวาข*ึนมาพบั ไว้ บริเวณมุมดา้ นบนพบั ปลายดา้ นซา้ ยข*ึนมาพบั ไวบ้ ริเวณมุมดา้ นบน ตามรูป การพบั แบบพีระมิด u. ข*นั ตอนต่อไป กลบั ดา้ น คว4าํ ดา้ นบน ลงไปดา้ นล่าง การพบั แบบพีระมิด

14 ‚. พบั ผา้ เชด็ ปาก จากดา้ นบนลงมาคร4ึงหน4ึงเม4ือพบั คร4ึงหน4ึงแลว้ ใหก้ ลบั ดา้ น แลว้ จบั มุม ดา้ นบนท*งั สองขา้ งเขา้ หากนั ในลกั ษณะดงั รูป การพบั แบบพีระมิด y.y.„ การพบั แบบเพรช x. วางผนื ของผา้ เชด็ ปากตามรูป พบั ชายผา้ ดา้ นบนและซา้ ยผา้ ดา้ นล่างเขา้ หากนั ที4จุด ก4ึงกลาง ภาพท4ี 8 การพบั แบบเพชร (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์

15 y. พบั ชายผา้ ดา้ นซา้ ยทบมาจดมุดใหเ้ ป็นรูปสี4เหลี4ยวจตั ุรัส การพบั แบบเพชร u. พบั มุมผา้ ดา้ นล่างข*ึนทบดา้ นบนโดยไล่ระดบั มาเรื4อยๆ การพบั แบบเพชร

16 4. พลิกผา้ กลบั ดา้ นพบั ผา้ มุมซา้ ยเเละขวาเขา้ หากนั การ การพบั แบบเพชร 2.2.8 การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์ 1. วางผนื ของผา้ เชด็ ปากตามรูปพบั ชายผา้ ดา้ นบนและซา้ ยผา้ ดา้ นล่างเขา้ หากนั ท4ีจุด ก4ึงกลาง ภาพท4ี 9 การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์ (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์

17 2. พบั ชายผา้ ดา้ นซา้ ยทบมาชนมุมใหเ้ ป็นรูปสี4เหล4ียมผนื ผา้ การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์ 3. กดปลายผา้ ดา้ นเเหลมไวเ้ เลว้ จบั มุมผา้ ดา้ นขวาหกั มุม ƒz องศาก4ึงกลางท*งั สองขา้ ง การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์

18 4. พบั คร4ึงเขา้ หากนั โดยใหข้ อบผา้ อยดู่ า้ นใน จะไดด้ งั รูป การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์ 5. ดึงกลบั ออกมาเลว้ จดั ใหส้ วยงามจะไดช้ ิ*นงานดงั รูป การพบั แบบเบิร์ดออฟพาราไดส์

19 y.y.ƒ การพบั แบบโรส x. พบั คร4ึงผา้ เชด็ ปากตามแนวทแยงมุม ภาพท4ี 10 การพบั แบบโรส (Claytor, 2020: ออนไลน)์ y. มว้ นผา้ เชด็ ปาก การพบั แบบโรส

20 u. พลิกผา้ เชด็ ปาก แลว้ มว้ นขอบถึงหาง การพบั แบบโรส ‚. ดึงหน4ึงไปทางซา้ ยและอีกอนั ไปทางขวา ข*นั ตอนน*ีง่ายข*ึนดงั น*นั ควรทาํ อยา่ ง ระมดั ระวงั พลิกผา้ เชด็ ปาก การพบั แบบโรส

บทท8ี 9 การใช้งานตามโอกาสและลกั ษณะงาน ผา้ เช็ดปาก หมายถึง ผา้ ท4ีไวส้ ําหรับใช้เช็ดปากในสําหรับลูกค้าใช้เช็ดปากในขณะที4 รับประทานอาหารหรือหลงั จากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแลว้ ลกั ษณะของผา้ เช็ดปาก คือ เป็ นสี4เหลี4ยมจตุรัสขนาด xw- yz นิ*ว หรือ yy-y{ นิ*ว เน*ือผา้ ตอ้ งซับน*ําได้ดีผา้ เช็ดปากที4ดี ตอ้ ง สามารถดูดซบั ไดด้ ี เพราะการใชง้ านในการรับประทานอาหารส่วนท4ีเป*ื อนมกั จะเป็ นของเหลว ผา้ เช็ดปากจึงควรที4จะดูดซบั ไดง้ ่ายเป็นผา้ ท4ีรีดเรียบง่าย และไม่ยบั ง่ายซกั ทาํ ความสะอาดไดง้ ่าย เพราะ การใชง้ านจะตอ้ งสัมผสั กบั ส4ิงสกปรกต่าง ๆ ผา้ ท4ีใชจ้ ึงควรเป็ นผา้ ที4ไม่ฝังคราบมากนกั เลือกสีสัน ของผา้ ใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน ถา้ เป็ นงานท4ีพิธีการมาก ๆ ก็ควรใชส้ ีท4ีสุภาพ ไม่มีลวดลาย และ ไม่มีสีสนั ฉูดฉาดมากนกั แต่ถา้ เป็นงานสงั สรรค์ ปาร์ต*ี กส็ ามารถใชผ้ า้ ที4มีสีสนั สดใสหรือมีลวดลาย ได้ ราคาตอ้ งเหมาะสมกบั รูปแบบและเส*ือผา้ (สินศิวา, ม.ป.ป.: ออนไลน)์ ^.L การเลือกใช้เนื'อผ้าและสีตามความเหมาะสม การพบั ผา้ เช็ดปากในรูปแบบต่าง ๆ น*ันก็ช่วยเพ4ิมความสวยงามในการจดั โต๊ะอาหารได้ เช่นกนั ซ4ึงโดยส่วนมากแลว้ มกั นิยมใชผ้ า้ เช็ดปากในโทนสีอ่อนๆเช่นสีขาวสีครีมเป็ นตน้ สาํ หรับ เน*ือผา้ ท4ีนิยมนาํ มาใชผ้ า้ เชด็ ปากกม็ ีหลายชนิด u.x.x ผา้ ฝ้าย เป็นผา้ ที4ดูดซึมไดง้ ่าย เเละมีราคาค่อนขา้ งถูก แต่มกั จะมีเน*ือหยาบ หนา และ ข*ึนราง่าย ภาพท4ี 11 ผา้ ฝ้าย (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์

22 u.x.y ผา้ ลินินเป็นผา้ ที4ดูดซึมไดง้ ่าย ทนทาน พบั ข*ึนรูปไดส้ วยงามเพราะ เน*ือไม่หนา ค่อนขา้ งแพง ภาพที4 12 ผา้ ลินิน (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์ u.x.u ผา้ ไหม เป็นผา้ ที4เน*ือสมั ผสั นุ่มนวล มีความทนทานเม4ือนาํ มาพบั ผา้ เชด็ ปาก สามารถ สร้างบรรยากาศ บนโตะ๊ อาหารที4หรูหราได้ แต่ไม่นิยมนาํ มาใชเ้ พราะทาํ ความสะอาดและซกั รีดยาก และราคาค่อนขา้ งแพง ภาพท4ี 13 ผา้ ไหม (ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั , 2561: ออนไลน)์

23 ^.M การเลือกใช้ตามลกั ษณะงาน u.y.x สาํ หรับงานมงคลสมรส การตกแต่งงานรื4นเริงของตารางงานแต่งงานไม่เพียง แต่มีดที4 สวยงามการจดั ดอกไมผ้ า้ ปูโต๊ะมีสไตล์ แต่ยงั มีผา้ เช็ดปากอีกดว้ ย ตอ้ งขอบคุณอุปกรณ์เสริมน*ี จึง เป็ นไปไดท้ 4ีจะเนน้ และเสริมธีมของการเฉลิมฉลอง ผา้ เช็ดปากแต่งงานเป็ นผา้ และกระดาษ เมื4อใช้ โต๊ะจดั เล*ียงจะใชอ้ ุปกรณ์เสริมท*งั สองประเภท ผา้ เช็ดปากเน*ือเย4ือเป็ นชิ*นส่วนของวสั ดุผา้ ฝ้ายหรือ ผา้ ลินินหรือผา้ ลินินทุกขนาด เพ4ือใหไ้ ดร้ ูปร่างท4ีจาํ เป็นผา้ จะตอ้ งถูกรีดก่อน ภาพที4 x‚ สาํ หรับงานมงคลสมรส (Happy Wedding Life, 2560: ออนไลน)์

24 3.2.2 สาํ หรับงานประชุมสมั มนา สาํ หรับงานเล*ียงท4ีเป็นทางการ ควรใหค้ วามสาํ คญั กบั ตวั เลือกสีเดียว บางคร*ังผา้ เช็ดปากขนาดใหญ่ ซ4ึงอยู่ใตเ้ ครื4องใชไ้ ฟฟ้าแต่ละชุดอาจเป็ นทางเลือกท4ีดี สาํ หรับผา้ ปูโตะ๊ บนโตะ๊ ควรรวมเฉดสีของผา้ ปูโตะ๊ และผา้ เช็ดปากเขา้ ดว้ ยกนั ดงั น*นั จึงขอแนะนาํ ให้ เลือกสีเดียวกนั หรือสีที4แตกต่างกนั ไม่เกินหน4ึงโทนเพื4อให้ดูดีที4สุดงานเล*ียงผา้ เช็ดปากสําหรับจดั โตะ๊ ตอ้ งสามารถใชง้ านไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง บ่อยคร*ังที4เห็นผา้ เช็ดปากสีขาวราวกบั หิมะบนโตะ๊ ผคู้ นรู้สึก อึดอดั เนื4องจากไม่ใช่ทุกคนที4คุน้ เคยกบั กฎกติกามารยาท ภาพที4 15 สาํ หรับงานประชุมสมั มนา (Pixabay, 2560: ออนไลน)์

25 u.y.u สาํ หรับตอ้ นรับแขก เวลาคุณมีแขกสาํ คญั มาเยย4ี มที4บา้ น และ อาจจะมีการสงั สรรค์ รับประทานอาหารดว้ ยกนั เช4ือวา่ ส4ิงหน4ึงท4ีคุณอยากใหม้ ีอยบู่ นโตะ๊ เพื4อใหอ้ าหารม*ือน*นั ดูสมบูรณ์ น่าดู และเป็นทางการข*ึน กค็ ือ ผา้ เชด็ ปาก ซ4ึงส4ิงน*ีแมจ้ ะดูเป็นเพียงของเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ แต่เช4ือเถอะวา่ เมื4อมีมนั พบั อยา่ งเรียบร้อยอยบู่ นโตะ๊ อาหาร จะทาํ ใหบ้ รรยากาศการทานอาหารดูหรูหรามีระดบั ข*ึนมาทนั ที และท4ีสาํ คญั มนั เป็นอะไรที4ง่ายมาก ภาพที4 16 สาํ หรับตอ้ นรับแขก (Gashi, 2564: ออนไลน)์

26 u.y.‚ สาํ หรับหอ้ งอาหารหรือภตั ตาคารผา้ เชด็ ปาก (Guest Napkin) ถา้ เป็นร้านอาหารที4ขาย อาหารราคาไม่สูงมากกไ็ ม่จาํ เป็นตอ้ งใชเ้ พราะจะมีค่าใชจ้ ่ายในการซกั รีดเพ4ิมข*ึนอีกใชเ้ พียงกระดาษ เช็ดปาก (Paper napkin) กพ็ อ ผา้ สาํ หรับในในการบริการ (Service Napkin) โดยมากมกั เป็นผา้ สีขาว ขนาดประมาณผา้ เช็ดปาก ‚zx40 cm ใชส้ าํ หรับใหพ้ นกั งานหยบิ จบั ภาชนะร้อน หรือเช็ดจานอาหาร ท4ีอาจมีอาหารเลอะท4ีขอบจาานก่อนการเสิร์ฟลงโตะ๊ อาหาร ภาพที4 17 สาํ หรับหอ้ งอาหารหรือภตั ตาคาร (ผา้ เชด็ ปาก (Napkin) มีความสาํ คญั อยา่ งไร, 2563: ออนไลน)์

27 u.y.w สาํ หรับโรงแรมทวั4 ไป ขนาดมาตรฐานของผา้ เชด็ ปาก โดยทว4ั ไปที4มีควบคู่ไปกบั โตะ๊ อาหาร คือ รูปสี4เหล4ียมจตั ุรัส กวา้ งและยาว wz เซนติเมตรการเตรียมการพบั ผา้ เช็ดปากเป็ นสิ4งที4 สาํ คญั ในงานเล*ียงที4เป็ นพิธีการ ซ4ึงควรพบั ดว้ ย ความละเอียดอ่อน งดงาม ผา้ เช็ดปากท4ีจะนาํ มาพบั น*นั ควรจะลงแป้งเลก็ นอ้ ย และรีดใหเ้ รียบร้อยเสียก่อน การพบั ทุก ๆ แบบจะตอ้ งแน่ใจวา่ ผา้ ที4นาํ มา พบั น*นั ไม่ควรมีจุด หรือรอยขาด พร้อมท*งั มือของผทู้ 4ีพบั ผา้ น*นั ตอ้ งสะอาดการวางผา้ เช็ดปากที4พบั แลว้ น*นั ให้วางไวท้ ี4ช่องว่างระหว่างมีดและส้อม โดยจดั วางไวท้ 4ีก4ึงกลางและอยูห่ ่างจากขอบโต๊ะ อาหารประมาณ y นิ*ว และใหเ้ ท่ากนั ทุกโตะ๊ ที4จดั วางเพื4อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ภาพท4ี 18 สาํ หรับโรงแรมทว4ั ไป (Pixabay, 2012: ออนไลน)์

28 u.y.{ สาํ หรับโรงแรมหรูระดบั w ดาว หลายคร*ังที4เราไปใชบ้ ริการร้านอาหาร หรือ โรงแรม ระดบั ‚-w ดาว ส4ิงหน4ึงที4ปรากฏเด่นอยบู่ นโต๊ะอาหาร คือ ผา้ รูปทรงสวยงามพบั ไวอ้ ยา่ งเรียบร้อยที4 เรียกว่า “แนปกิ*น” (Napkin) ซ4ึงคนในแวดวงอาหาร และการโรงแรมคงคุน้ เคยกนั เป็ นอย่างดี แต่ หากใครยงั ไม่รู้ว่าผา้ สวยๆบนโต๊ะอาหาร มีที4มาที4ไปอยา่ งไร ลองมาทาํ ความรู้จกั สักหน่อยผา้ เช็ด ปากบนโต๊ะอาหารที4มีการพบั เป็ นรูปทรงสวยงาม หรือ “แนปกิ*น” (Napkin) มีวตั ถุประสงคห์ ลกั เพ4ือป้องกนั ไม่ใหอ้ าหารเป*ื อนแขกท4ีมารับประทานอาหาร ขณะเดียวกนั กเ็ พ4ือเพิ4มความสวยงามและ บรรยากาศ”การพบั ผา้ มีหลายรูปแบบ แต่ในระยะหลงั พนกั งานจะพยายามสัมผสั เน*ือผา้ ให้น้อย ท4ีสุด รูปทรงต่างๆจึงเนน้ ความเรียบง่ายไม่ซบั ซอ้ นมากนกั แต่บางคร*ังการเลือกรูปทรงกเ็ ป็นไปตาม บรรยากาศของสถานที4 หรือใหเ้ ขา้ กบั งาน เช่น ถา้ งานเล*ียงขนาดใหญ่ จะพบั รูปทรงง่ายท4ีสุด เพราะ ตอ้ งพบั เป็นปริมาณมาก หรือหากเป็นร้านอาหารจีนกจ็ ะพบั ทรงจีน เป็นตน้ ภาพที4 19 สาํ หรับโรงแรมหรูระดบั 5 ดาว (Napkin, 2559: ออนไลน)์

บทท8ี ? สรุป ประวตั ิความเป็นมาของผา้ เช็ดปาก หรือ Napkin เม4ือประมาณศตวรรษที4 xw-x{ ในประเทศ องั กฤษยงั ไม่มีมีดโกนหนวด ผูช้ ายส่วนใหญ่จึงไวห้ นวดเครายาวรุงรัง ซ4ึงหนวดเคราน*ีเองที4เป็ น อุปสรรคสาํ คญั ในการรับประทานอาหาร (ในสมยั น*นั ยงั ไม่มีการผลิตชอ้ นสอ้ มมาใชเ้ ป็นอุปกรณ์ใน การตกั อาหาร ทาํ ใหผ้ ชู้ ายยคุ น*ีตอ้ งใชม้ ือหยบิ อาหารและนี4ก็เป็ นสาเหตุทาํ ใหเ้ ครายาว ๆ น*นั ตกลง ไปในอาหาร เลอะเทอะเปอะเป*ื อนไปท*งั เคราและเส*ือผา้ ที4สวมใส่ ไม่เพียงเท่าน*ี เมื4อรับประทาน อาหารเสร็จแลว้ คุณผชู้ ายมกั จะเช็ดปากท4ีแขนเส*ือของตวั เองคุณแม่บา้ นท4ีตอ้ งรับบทหนกั ในการทาํ ความสะอาดเส*ือผา้ จึงคิดหาวิธีป้องกนั ไม่ให้เส*ือผา้ เลอะเทอะข*ึน โดยการน*าํ ผา้ มาผูกไวท้ ี4คอคุณ สามีเพ4ือป้องกนั ไม่ให้เส*ือผา้ เลอะ ผลปรากฏว่า ผา้ ผืนน*นั ไม่เพียงป้องกนั เส*ือผา้ เลอะเท่าน*นั แต่ยงั เป็นการช่วยใหค้ ุณผชู้ ายมีผา้ เช็ดปากเพ4ิมข*ึนอีกดว้ ย จึงมีการนาํ ผา้ มาผกู คอไวเ้ พ4ือเป็น “ผา้ กนั เป*ื อน” ทุกคร*ังท4ีรับประทานอาหาร จนไดร้ ับความนิยมใชก้ นั มา และถูกดดั แปลงมาเป็ นผา้ กนั เป*ื อนที4วาง บนตกั ในระหวา่ งรับประทานอาหาร ผา้ เช็ดปาก หมายถึง ผา้ ท4ีไวส้ ําหรับใช้เช็ดปากในสําหรับลูกค้าใช้เช็ดปากในขณะที4 รับประทานอาหารหรือหลงั จากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแลว้ ลกั ษณะของผา้ เช็ดปาก คือ เป็ นส4ีเหล4ียมจตุรัสขนาด xw- yz นิ*ว หรือ yy-y{ นิ*ว เน*ือผา้ ตอ้ งซับน*ําได้ดีผา้ เช็ดปากท4ีดี ตอ้ ง สามารถดูดซบั ไดด้ ี เพราะการใชง้ านในการรับประทานอาหารส่วนที4เป*ื อนมกั จะเป็ นของเหลว ผา้ เช็ดปากจึงควรที4จะดูดซบั ไดง้ ่ายเป็นผา้ ที4รีดเรียบง่าย และไม่ยบั ง่ายซกั ทาํ ความสะอาดไดง้ ่าย เพราะ การใชง้ านจะตอ้ งสัมผสั กบั ส4ิงสกปรกต่าง ๆ ผา้ ที4ใชจ้ ึงควรเป็ นผา้ ท4ีไม่ฝังคราบมากนกั เลือกสีสัน ของผา้ ใหเ้ หมาะสมกบั การใชง้ าน ถา้ เป็ นงานท4ีพิธีการมาก ๆ ก็ควรใชส้ ีท4ีสุภาพ ไม่มีลวดลาย และ ไม่มีสีสนั ฉูดฉาดมากนกั แต่ถา้ เป็นงานสงั สรรค์ ปาร์ต*ี กส็ ามารถใชผ้ า้ ท4ีมีสีสนั สดใสหรือมีลวดลาย ได้ ราคาตอ้ งเหมาะสมกบั รูปแบบและเส*ือผา้ ผา้ เช็ดปาก หรือ Napkin เป็ นอุปกรณ์ในการรับประทานอย่างหน4ึง มกั พบในการจดั โต๊ะ อาหารที4ค่อนขา้ งที4จะเป็นพิธีการ การจดั วางผา้ เช็ดปากบนโตะ๊ อาหารน*นั สามารถวางไวใ้ นจานหรือ นอกจานก็ได้ ข*ึนอยกู่ บั รูปแบบการจดั โต๊ะอาหารของแต่ละที4 การพบั ผา้ เช็ดปากในรูปแบบต่าง ๆ น*ันก็ช่วยเพิ4มความสวยงามในการจดั โต๊ะอาหารได้เช่นกัน ซ4ึงโดยส่วนมากแลว้ มกั นิยมใช้ผา้ เชด็ ปากในโทนสีอ่อน ๆ เช่น สีขาว สีครีม เป็นตน้

30 ประโยชนข์ องผา้ แนปกิ*นควรมีบนโตะ๊ อาหารกเ็ พ4ือเชด็ ปาก โดยหากยงั รับประทานไม่เสร็จ แลว้ จาํ เป็นตอ้ งลุกออกจากเกา้ อ*ี ควรวางไวข้ า้ งโตะ๊ หรือพนกั เกา้ อ*ีโดยไม่ตอ้ งพบั กลบั คืน ที4สาํ คญั จะ ไม่นิยมวางบนที4นง4ั เพราะบางคร*ังกลบั มาแลว้ อาจจะลืมและนง4ั ทบั ลงไป ดงั น*นั การใชผ้ า้ แนปกิ*น จึง ควรวางในจุดท4ีมองเห็น สาํ หรับนกั ศึกษาที4เรียนในดา้ นการโรงแรม ตอ้ งไดเ้ รียนพบั ผา้ ชนิดน*ี การรับประทานอาหารแบบตะวนั ตก ในกลุ่มประเทศยุโรปและอเมริกา มักมีการทาํ กระดาษเช็ดปาก ผา้ แนปกิ*นเป็ นสีสัน และลวดลายต่าง ๆ สวยงามเพื4อใชป้ ระดบั บนโต๊ะอาหาร สําหรับประเทศไทยน*นั กระดาษเช็ดปากนิยมทาํ เป็ นสีชมพู เน4ืองจากโดยมากจะนาํ ไปใชใ้ นงาน มงคล เช่น งานมงคลสมรส เป็นตน้ วิธีพบั ผา้ เช็ดปาก มีหลายๆรูปแบบการพบั ขนาดมาตรฐาน เป็นผา้ สี4เหลี4ยมจตั ุรัส กวา้ งและ ยาว wz เซนติเมตร เป็นผา้ สีพ*ืนพ*ืนฐานในการทาํ ผา้ เช็ดปาก เร4ิมดว้ ยการเลือกผา้ การรีด การลงแป้ง การเลือกใชผ้ า้ เช็ดปาก ตลอดจนการพบั เป็ นรูปต่างๆ ท4ีสวยงาม เช่น พบั เป็ นดอกไมห้ ลากหลาย ชนิด และการพบั ผา้ เช็ดปากในรูปแบบต่าง ๆ น*นั ก็ช่วยเพ4ิมความสวยงามในการจดั โต๊ะอาหารได้ เช่นกนั ซ4ึงโดยส่วนมากแลว้ มกั นิยมใชผ้ า้ เช็ดปากในโทนสีอ่อน ๆ เช่นสีขาวสีครีม เป็นตน้ สาํ หรับ เน*ือผา้ ที4นิยมนาํ มาใชผ้ า้ เชด็ ปากกม็ ีหลายชนิด เช่น ผา้ ฝ้าย ผา้ ลินิน ผา้ ไหม

ภาคผนวก ผา้ แนปกิ*นถือเป็นหน4ึงในเรื4องมารยาทการทานอาหารแบบตะวนั ตก

32 เมื4อเขา้ ไปที4โต๊ะอาหาร สุภาพบุรุษควรดึงเกา้ อ*ีให้สุภาพสตรี แลว้ คลี4ผา้ เช็ดปากบนโต๊ะให้ สุภาพสตรีดว้ ย การคลี4ผา้ เช็ดปากให้วางบนตกั โดยพบั เป็ นสองท่อน เอาชายผา้ เขา้ หาตวั และเม4ือ ตอ้ งลุกจากโต๊ะระหว่างรับประทานอาหาร ผา้ เช็ดปากน*นั ใหว้ างลงบนเกา้ อ*ีหรือพนกั วางแขน เม4ือ รับประทานเสร็จแลว้ ใหเ้ อาผา้ วางบนโตะ๊ ดา้ นขวา ภาพที4 yz มารยาทการทานอาหารแบบตะวนั ตก

บรรณานุกรม “การพบั ผา้ เชด็ ปากในแกว้ สวยแค่ไหน?,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://beauty- th.htgetrid.com/etiket/servirovka-stola/kak-slozhit-salfetki-v-stakan/, 2016. [สืบคน้ เมื4อ 11 สิงหาคม 2564]. “การลงแป้ง,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/napkinkarphabphachedpak/ kar-lngpaeng, 2017 [สืบคน้ เม4ือ … สิงหาคม yw{‚]. “ข*นั ตอนการพบั เนปกิ*น,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/svc60g6/khan- txn-ka-rphabne-pkin, ม.ป.ป. [สืบคน้ เม4ือ 8 สิงหาคม 2564]. “คอร์สเรียนฟรี การพบั ผา้ เนปกิ*น,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://youtube.com/watch?v= c998BpIYQ4c&feature=share, 2020. [สืบคน้ เม4ือ 8 สิงหาคม 2564]. จริยา เดชกญุ ชร. “รูปแบบผา้ เนปกิ*น,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.sata pornbooks.co.th/imgadmins/product_pdf/PdfProduct_20150325161956.pdf, 2013. [สืบคน้ เม4ือ ux กรกฎาคม yw{‚]. ณิชกานต์ แก่นคาํ และสุชาดา โตทบั . “ประวตั ิความเป็นมาของผา้ เชด็ ปาก หรือ Napkin,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/napkinkarphabphachedpak/prawati- khwam-pen-ma, 2018. [สืบคน้ เมื4อ u0 กรกฎาคม yw{‚]. . “ผา้ เชด็ ปากหรือแนปกิ*น,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/ napkinkarphabphachedpak/pha-ched-pak-hrux-napkin, 2018. [สืบคน้ เมื4อ ux กรกฎาคม 2564]. . “ลายเพชร - Napkin,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/ napkinkarphabphachedpak/lay-phechr, 2018. [สืบคน้ เม4ือ 8 สิงหาคม 2564]. . “ลายดอกกหุ ลาบ,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://sites.google.com/site/ napkinkarphabphachedpak/lay-dxk-kuhlab, 2018. [สืบคน้ เมื4อ 8 สิงหาคม 2564]. “ผา้ เชด็ ปาก (Napkin) มีความสาํ คญั อยา่ งไร,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://waterlibrary. com/how-are-napkin-foods-important-to-european-food/, yzyz. [สืบคน้ เม4ือ u0 กรกฎาคม yw{‚]. “วธิ ีการพบั ผา้ เชด็ ปาก,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://magazinalsu.ru/th/kak-slozhit-salfetki- chto-kak-slozhit-salfetki-krasivye-varianty-dlya-kazhdogo.html, ม.ป.ป. [สืบคน้ เมื4อ „ สิงหาคม yw{‚].

34 “วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปากท4ีใหบ้ ริการอยา่ งสวยงาม?,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://beauty- th.htgetrid.com/etiket/servirovka-stola/kak-slozhit-salfetki/, 2016. [สืบคน้ เม4ือ 11 สิงหาคม 2564]. “วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปากเป็นรูปดอกบวั ,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://web.facebook.com/media/ set/?set=a.324120994335304.78233.251914748222596&type=1&_rdc=1&_rdr, 2012. [สืบคน้ เม4ือ „ สิงหาคม yw{‚]. “วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปาก (Napkin Folding Style),” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://atcuisinecatering. com/?name=webboard&file=read&id=35, yzxy. [สืบคน้ เมื4อ … สิงหาคม yw{‚]. “วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปาก (Napkin Fokding Style) ตอนท4ี y,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://atcuisinecatering.com/?name=webboard&file=read&id=72, yzxu. [สืบคน้ เมื4อ … สิงหาคม yw{‚]. “วธิ ีพบั ผา้ เชด็ ปาก - แบบดอกลิลล4ี,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.bosch-home.in.th/th/ experience-bosch/living-with-bosch/f, 2021. [สืบคน้ เม4ือ 8 สิงหาคม 2564]. “ศิลปะการพบั ผา้ เชด็ ปาก,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.komchadluek.net/news/ lifestyle/97604, 2011. [สืบคน้ เมื4อ 8 สิงหาคม 2564]. “10 ดีไซน์ Napkin สุด Chic ในวนั แต่งงานของคุณ,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: http://www.buddyriverside.com/Wedding/รวม-ไอเดียงานแต่งงาน/xz-ดีไซน-์ napkin- สุด-chic-ในวนั แต่งงา/, yzxw. [สืบคน้ เม4ือ ux กรกฎาคม yw{‚]. “Origami จากผา้ เชด็ ปาก,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://beauty-th.htgetrid.com/ etiket/servirovka-stola/origami-iz-salfetok/, 2015. [สืบคน้ เม4ือ 11 สิงหาคม 2564]. “Napkin,” [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://hotel5507.wordpress.com/napkin/, 2016. [สืบคน้ เม4ือ 8 สิงหาคม 2564].