THE BEST PRACTICE สบื สาน รกั ษา ตอ่ ยอด การสอนประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทยและ บุญคุณของพระมหากษตั ริย์ไทย โดย นางสาวบงั อร ภูชาดา ครู กศน.ตาบลหนองแปน ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอมัญจาคีรี สานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบแ
คานา ประวตั ศิ าสตร์คอื สง่ิ ทเ่ี ราทุกคนควรจะศกึ ษาเรียนรูเ้ อาไว้ เพราะในอดีตน้นั ไดเ้ กดิ เหตกุ ารณ์มากมายทีค่ วรค่า แก่การจดจา และได้นาเอาขอ้ คิด บทเรยี น ท่แี ฝงอยู่ในเร่อื งราวเหล่าน้นั มาปรับใชก้ ับชวี ิตในสมัยปัจจบุ ัน ประวัตศิ าสตรม์ ีทง้ั เรอื่ งท่ีดแี ละไม่ดีเกิดขน้ึ ฉะนนั้ การศกึ ษาเรือ่ งราวของประวตั ิศาสตรน์ ้นั ควรใชว้ จิ ารณญาณและหา แหลง่ ศึกษาขอ้ มูลใหม้ าก เพือ่ ท่ีเราจะไดท้ ราบถึงข้อเทจ็ จรงิ อย่างถูกตอ้ งมากทส่ี ุด ทาง ข้าพเจ้านางสาวบงั อร ภูชาดา ตาแหน่งครู กศน.ตาบลหนองแปน จึงไดศ้ กึ ษาและสอนพร้อมทัง้ จดั ทา รายงานเกยี่ วกับประวตั ศิ าสตร์การอพยพย้ายถน่ิ ฐานเข้ามาอยอู่ าศัย ของพ่นี อ้ งชนชาตไิ ทย ซ่งึ มีการตอ่ ส้กู ันมาอย่าง ยาวนานในอดตี เข้ามาจาลองไว้ในหอ้ งสมุดประวัติศาสตรช์ าตไิ ทยและบุญคุณของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทย กศน.ตาบล หนองแปนและหอ้ งสมุดประวัติศาสตรช์ าติไทยและบญุ คณุ ของพระมหากษัตรยิ ์ไทย กศน.อาเภอมญั จาครี ี ซึง่ การ จดั ทารายงานเลม่ นเ้ี ปน็ เปน็ ส่วนหนงึ่ ของวิชาประวัติศาสตร์ ระดับประถมศกึ ษา รหัสวิชา สค ๑๓๐๕๕ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ รหัสวิชา สค ๒๓๐๔๙ และระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย รหสั วชิ า สค ๓๓๑๐๔ โดยมีจดุ ประสงค์ ใหผ้ ู้จัดทาได้ฝกึ การศึกษาค้นคว้าจากสถานท่จี รงิ และนาความร้ทู ่ีไดศ้ กึ ษาค้นคว้ามา รวบรวมไวเ้ ป็นองคค์ วามรู้ท่ีมี ประโยชน์ตอ่ ผู้ท่ีสนใจ และชนรนุ่ หลังตอ่ ไป ขอขอบพระคุณ ผอ.สุรินทร์ หวา่ งจติ ร ผอ.กศน.อาเภอมญั จาครี ี อยา่ งสงู ทีก่ รณุ าตรวจ ใหค้ าแนะนาเพือ่ แกไ้ ข ให้ขอ้ เสนอแนะตลอดการทางาน ผู้จัดทาหวงั วา่ รายงานฉบับนี้คงมปี ระโยชน์ต่อ ผู้ที่นาไปใช้ใหเ้ กดิ ผลสมั ฤทธิต์ ามความคาดหวังไว้ นางสาว บังอร ภูชาดา ครู กศน.ตาบลหนองแปน ผจู้ ัดทา
สารบัญ หนา้ เร่อื ง ๑ ๑ คานา ๒-๕ สารบญั ๖ ๑.บทนา ๗ ๒.วตั ถปุ ระสงค์ ๓.กระบวนการพฒั นาผลงาน ๘ ๔.ผลการดาเนินการ/ผลสมั ฤทธิ์/ประโยชนท์ ่ีได้รับ ๙-๒๗ ๕.การเผยแพร่ ๒๘ ภาคผนวก ๑.รูปกจิ กรรม ๒.ผูจ้ ัดทา
BEST PRACTICE ช่ือผลงาน สบื สาน รักษา ตอ่ ยอด การสอนประวตั ิศาสตรช์ าติไทยและบญุ คุณของพระมหากษตั ริยไ์ ทย ความเป็นมา จากพระราชเสาวนียข์ องสมเด็จพระนางเจา้ สริ กิ ิตต์พิ ระบรมราชินนี าถ พระราชทาน เมอื่ วันท่ี ๑๑ สงิ หาคม ๒๕๕๑ พระองค์ทรงหว่ งใยการเรียนการสอนประวัตศิ าสตรไ์ ทย ซ่ึงเป็นวชิ าทบ่ี ม่ เพาะลกู หลานให้รู้จกั เขา้ ใจ และ ภูมิใจถงึ รากเหงา้ และความยากลาบากของบรรพบรุ ษุ ทีเ่ สยี เลอื ดเสยี เนือ้ สรา้ งชาติ สรา้ งแผ่นดนิ กวา่ จะมาเปน็ ชาติ ไทย ความวา่ \" ประเทศไทยบรรพบุรุษของเราสละชวี ิต เพอื่ ปกป้องผืนแผน่ ดินมาด้วยเลอื ดเน้อื ด้วยชีวติ แตเ่ สียดาย ตอนน้ีท่านนายกฯ เขาไม่ใหเ้ รยี น ประวตั ิศาสตรแ์ ลว้ นะ ฉนั กไ็ มเ่ ขา้ ใจ เพราะตอนทีฉ่ นั อยู่ เรียนอยู่ทส่ี วติ เซอร์แลนด์ สวติ เซอร์แลนด์ก็ แสนไม่มีประวัตศิ าสตร์อะไรเทา่ ไร แตเ่ รากต็ อ้ งเรียนประวตั ิศาสตร์ของสวสิ แตเ่ มืองไทยนี่ บรรพ บรุ ุษ เลอื ดทาแผน่ ดิน กวา่ จะมาถงึ ที่ให้พวกเราอยู่ นั่งอย่กู นั สบาย มีประเทศชาตเิ รากลับไม่ให้เรยี น ประวัติศาสตร์ ไม่ รวู้ ่าใครมาจากไหน.........\" (สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน,๒๕๕๗:๔) นบั ว่า พระราชเสาวนียข์ อง พระองค์ทา่ น ได้กระตนุ้ ให้นกั วิชาการหนั มามองวา่ เราให้ความสาคญั กบั วิชาประวัตศิ าสตรโ์ ดยเฉพาะประวตั ิศาสตร์ ไทยมากน้อยเพยี งใด ประวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทยบอกให้เรารู้วา่ นับแตช่ าติอบุ ัตขิ นึ้ ในโลกนี้ และตลอดเวลาอนั ยาวนานทเ่ี รารักษา ความเปน็ ไทย ฟันฝา่ อปุ สรรคและภยันตรายที่ชาติเพ่อื นบา้ นท้ังใกลแ้ ละไกล คอยทาลายล้างชาตไิ ทยของเราให้มลาย สญู หายจากประวตั ศิ าสตร์ของมนุษย์ อย่างม่งุ ม่นั ปั้นหมายดว้ ยความพยายามอยา่ งไมล่ ดละเปน็ เวลาหลายร้อยปีพันปี มาแลว้ แต่กห็ าได้ประสบความสาเรจ็ ไม่ ตรงกนั ข้ามกลับทาให้ชาติไทยเติบใหญก่ ลา้ แข็งและเจรญิ กา้ วหน้ามาโดย ลาดับและตลอดชว่ งเวลาอันยาวนานนบั ร้อยพันปที ผี่ า่ นมา ไทยไม่เคยเสียอิสระตกเปน็ ขา้ ทาสชาติอ่ืนอย่างยอ่ ยยบั โดย สิ้นเชิงชนิดว่าขาดเชื้ออย่างเช่นบางชาติที่เคยมุง่ ร้ายคดิ ทาลายเรา อะไรเปน็ เหตแุ ละมีผลให้ประวตั ิศาสตรข์ องชาติไย เป็นเชน่ นั้น ก็นอกจากคณุ สมบัตพิ เิ ศษของตนของคนไทยแต่ละคนทเี่ กิดมามยี ีนรกั ชาตทิ ่ไี มเ่ หมอื นใครเพื่อทาหนา้ ที่ รกั ษาและเสรมิ สรา้ งความเปน็ ชนชาตไิ ทยมิใหส้ ูญหายไปจากโลกแล้ว ชาติของเรายงั มคี ุณลักษณะพิเศษประจาชาติ ไทยซึ่งไมเ่ หมือนใครในโลกไม่เหมือนชนชาติอ่นื นนั่ คือการเปน็ ชาตทิ ี่ยอมรบั นบั ถือระบบผ้นู ากลุ่มด้วยการเป็นผ้ตู ามที่ ดีและเปน็ ผู้นาท่ีสามารถและเสยี สละ ในประการสุดท้ายก็คือ ความกตญั ญรู คู้ ณุ ต่อผทู้ ่ีทาความดีงามให้แก่ชาติ คณุ สมบตั พิ ิเศษของชนชาติไทยว่ามานั้นกค็ ือ ระบบการรวมกลุ่มชนชาติโดยการมี “ พระมหากษัตริย์เปน็ มง่ิ ขวัญและ ผนู้ า “ ยาวนานกวา่ ใครในโลกจนถงึ ปจั จบุ นั วตั ถปุ ระสงค์ เพื่อให้นักศึกษาและประชาชนทวั่ ไปไดเ้ รยี นรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ และนอ้ มราลกึ ถึงบญุ คณุ ของ พระมหากษตั รยิ ์ไทยและเป็นองค์ความรทู้ ่ีมปี ระโยชน์แก่ผ้ทู ี่สนใจและชนร่นุ หลงั ตอ่ ไป เป้าหมาย เพื่อใหน้ ักศึกษาสายสามญั ระดบั ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษาตอนต้นและมัธยมศกึ ษาตอนปลายและประชาชน ทวั่ ไป ได้เรยี นรูป้ ระวัตศิ าสตรจ์ ากแหล่งเรยี นร้ทู างประวัตศิ าสตรต์ ามมาตรฐานการเรียนและตวั ชว้ี ัดของหลักสตู ร การศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑.และสามารถเข้าใจและถ่ายทอดสิง่ ที่รับรู้มา ออกไปบอกเล่าตอ่ กันได้
การดาเนนิ งาน การสอนประวัติศาสตร์ผ่านแหล่งเรยี นร้ทู างประวตั ศิ าสตรโ์ ดยใชก้ ระบวนการสร้างวัฒนธรรมการวจิ ยั ให้ นักศึกษา มีข้ันตอนการดาเนินงานดังน้ี ๑ ศึกษาสภาพปัจจบุ ัน/หลักสตู ร/มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ัด ๒ สารวจแหล่งเรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตร/์ ท้องถิ่น ๓ จัดทาโครงการทศั นศึกษาแหลง่ เรยี นรูท้ างประวตั ิศาสตร์ ๔ ออกแบบหนว่ ยการเรียนร/ู้ กิจกรรมการเรยี นรโู้ ดยใชก้ ระบวนการสรา้ งวัฒนธรรมการ วจิ ัยให้นกั เรียน/ สบื ค้นด้วยวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ ๕ ดาเนนิ งานตามจดุ ประสงค์ ๖ กากับติดตาม ประเมนิ ผลการจดั กิจกรรม ๗ สรปุ รายงานและประเมินผลการดาเนินงาน ๘ นาผลการดาเนนิ งานไปปรับปรงุ
ขน้ั ตอนการดาเนินงาน ศกึ ษาสภาพปัจจุบนั /หลักสตู ร/ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด สารวจแหลง่ เรียนรู้ทาง ประวัติศาสตร์/ทอ้ งถน่ิ จดั ทาโครงการทัศนศึกษา แหล่งเรียนรูท้ างประวตั ศิ าสตร์ การสอนประวัติศาสตร์ ออกแบบหนว่ ยการเรียนร/ู้ กจิ กรรมการเรยี นรูโ้ ดยใช้ นาผลการดาเนินงาน ผ่านแหล่งเรียนรู้ โดย กระบวนการสร้างวฒั นธรรมการวิจยั ให้นักศึกษา/สบื ค้น ไปปรบั ปรงุ กระบวนการสรา้ ง ด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์ วฒั นธรรมการวิจยั ให้ ปรับปรุง ดาเนนิ งานตามจดุ ประสงค์ พัฒนา กากับ ตดิ ตาม ประเมินผล การจดั กิจกรรม สรปุ รายงานและประเมินผลการดาเนินงาน รปู ภาพท่ี ๑ ขั้นตอนการ ดาเนนิ งาน
ผลการดาเนินการ/ผลสมั ฤทธ์ิ/ประโยชนท์ ี่ได้รบั ๑ ผลการดาเนนิ การ การสอนประวัติศาสตรผ์ า่ นแหลง่ เรียนรู้ทางประวตั ศิ าสตรโ์ ดยใชก้ ระบวนการสรา้ ง วัฒนธรรมการวจิ ัยใหน้ กั เรยี น ผสู้ อนได้ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมการเรยี นร้รู วบรวมข้อมลู และมผี ลการดาเนินงานดงั น้ี ผลที่เกิดกับผู้สอน ๑) ครูตอ้ งเตรียมวางแผนการสอน โดยการศกึ ษาหลกั สตู รวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวัด จดั ทา โครงสร้างรายวชิ า ออกแบบหน่วยการเรียนรู้ ๒) จัดกระบวนการเรียนรู้ โดยกระบวนการสรา้ งวฒั นธรรมการวจิ ยั ๔ ขั้นตอน ไดแ้ ก่ การต้งั คาถาม การวางแผนคน้ หาคาตอบ ดาเนินการค้นหาคาตอบ สรุปผลการคน้ คว้าและนาเสนอ ๓) ครูสร้างสถานการณก์ ระตนุ้ ให้นักศึกษาเกดิ การคิด สงสยั และเกิดคาถาม ๔) ครูกบั นกั ศกึ ษามปี ฏสิ มั พนั ธ์ที่ดีต่อกนั ๕) ครูจัดทาโครงการศึกษาแหล่งเรียนรทู้ างประวัตศิ าสตร์ ผลที่เกิดกับนักศึกษา ๑) นกั ศกึ ษามคี วามพงึ พอใจกับกิจกรรมการเรียนประวัตศิ าสตรผ์ ่านแหล่งเรยี นร้ทู าง ประวัตศิ าสตร์โดย ใชก้ ระบวนการสรา้ งวัฒนธรรมการวิจยั ในระดับมากที่สุด ๒) นกั ศกึ ษาไดว้ ิธีการเรียนรู้ โดยใชก้ ระบวนการวิจยั สนกุ กับการเรยี นรู้ ได้เปล่ยี นแปลง พฤติกรรมการ เรยี นรู้ จากเดมิ ท่ีนกั ศึกษาเป็นเพียงผรู้ บั ความร้ปู ฏบิ ตั ิงานหรือทากจิ กรรมตามคาส่ังท่ี ไดร้ ับมอบหมายจากครู ๓) นกั ศกึ ษาสามารถแสวงหาความรู้ได้ดว้ ยตนเองและรวู้ า่ จะไปหาความร้จู าก ทีไ่ หนจะไปหา อยา่ งไร และปฏิบตั ิอย่างไรจึงจะได้ความรนู้ ัน้ มา ๔) นักศึกษาไดม้ กี ารพัฒนาวธิ ีการเรยี นรู้ โดยการตั้งคาถาม และนักศึกษานาเสนอผลการ ค้นคว้าตาม วธิ กี ารทางประวัตศิ าสตร์ ๕ข้นั ตอนได้แก่ กาหนดหัวข้อเร่อื งทีส่ นใจ รวบรวมหลักฐาน และข้อมูล ตรวจสอบหลักฐาน ตีความหลกั ฐานและสรปุ และนาเสนอ ๕) นักศกึ ษาไดร้ บั ประสบการณ์ตรงจากการศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ทางประวัตศิ าสตรแ์ ละเกิดความรู้ที่คงทน ๕. ปัจจัยความสาเรจ็ ๕.๑ ครูมีความอดทน มงุ่ มนั่ อุทิศเวลา มมี นษุ ยสัมพันธ์ทด่ี ี เพราะตอ้ งประสานกบั บุคลากรใน โรงเรยี น / หนว่ ยงาน/ องค์กร/ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่ิน /แหลง่ เรยี นรู้ที่เกย่ี วขอ้ ง ๕.๒ ผบู้ ริหารให้การสนับสนุนงบประมาณดาเนนิ การ / นิเทศ กากบั ตดิ ตาม เสนอแนะ ๕.๓ ผู้ปกครอง ชมุ ชน และหนว่ ยงานภายนอกใหค้ วามร่วมมอื ในเรือ่ งแหล่งเรียนรทู้ ี่หลากหลายและ เป็น วทิ ยากรใหก้ ับนักศึกษา บทเรยี นท่ีได้รบั จากการดาเนนิ การ การสอนประวตั ศิ าสตร์ผ่านแหลง่ เรียนรู้ทางประวัตศิ าสตร์โดยใช้ กระบวนการสร้าง วัฒนธรรมการวจิ ัยให้เรียน มกี ารดาเนินงานอยา่ งต่อเนอื่ ง ครูไดแ้ สวงหาความรู้ ใหม่ ๆ ผู้บรหิ ารมกี ารนิเทศ ติดตาม อย่างเป็นระบบและต่อเน่ือง ทาให้การดาเนินงานประสบ ความสาเรจ็ ส่งผลดีต่อผู้เก่ยี วข้อง ดงั น้ี
๑ ครูต้องเตรยี มวสั ดุ อุปกรณ์ ประสานงานกบั หนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วขอ้ งทัง้ ภายใน กศน.ตาบลหนองแปนและ นอก กศน.ตาบลหนองแปน ใหพ้ ร้อม และเตรียมส่ือต่าง ๆ เชน่ ใบงาน ใบความรเู้ พมิ่ เติมให้นักศกึ ษา เพอ่ื ส่งเสรมิ สนับสนุนให้ นกั ศึกษาเกดิ การเรียนรู้ได้อย่างเตม็ ประสิทธภิ าพ ๒ นักศึกษาสามารถสร้างองคค์ วามรู้ได้ด้วยตนเองอยา่ งเปน็ ขั้นเปน็ ตอน โดยครูเป็นผกู้ ระตุ้นให้ นกั ศึกษา เกดิ คาถาม วางแผนการค้นควา้ ดาเนินการคน้ หาคาตอบ และนาเสนอความรู้ ๓ ครูต้องเตรยี มพรอ้ มเพือ่ แกป้ ญั หาเฉพาะหน้า เพราะในขณะทส่ี อนเหตุการณอ์ าจไมเ่ ป็นไปตาม แผนทีค่ รู วางไว้ ครจู งึ ตอ้ งเตรยี มพร้อมในการแกป้ ญั หา เพ่ือดงึ เกมการเรียนรู้การสอนใหเ้ ปน็ ไปตาม แผนท่ีวางไว้และสอดคล้อง กับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชีว้ ัด ๔ นักศึกษามีพัฒนาการและทกั ษะในการแสวงหาความรแู้ ละสามารถนาประยกุ ตใ์ ช้ใน ชวี ติ ประจาวนั ได้ เช่น นกั ศึกษาต้ังคาถามเพือ่ นาไปสกู่ ารสบื คน้ ได้ มกี ารวางแผนการสืบค้น นาเสนอ ความรแู้ ละสร้างชน้ิ งานออกมาได้ อยา่ งเหมาะสม ๕ นกั ศึกษามที กั ษะในการค้นหาข้อมลู และกระบวนการทางาน ทาให้ครเู หน็ ความแตกตา่ งของ นักศกึ ษาใน การเรียนรซู้ ึ่งอาจแบ่งกลุม่ ได้ ดงั น้ี ๕.๑ กล่มุ ชอบเขยี นรายงาน สว่ นมากจะเป็นเดก็ ผหู้ ญงิ เน่ืองจากลายมือสวย ๕.๒ กลุ่มชอบสืบค้น เน่อื งจากเขียนหนังสอื ไม่คอ่ ยถูก ๕.๓ กลุ่มชอบนาเสนอเนื่องจากชอบพูดและสามารถสรปุ ใจความสาคญั ของเรอ่ื งได้ ๕.๔ กลุ่มชอบทาชิ้นงาน เนอ่ื งจากมีฝมี ือในการประดิษฐ์ ตกแตง่ วาดภาพระบายสี ๖ ก่อนพานักศึกษาไปศึกษาแหล่งเรยี นรู้ ครตู อ้ งสอนเนอ้ื หานัน้ ๆ ให้นักศึกษาเป็นอย่างดี เมือ่ ไป พบสถานที่ จริงนักศึกษาจะเขา้ ใจเรื่องราวต่างๆ ไดด้ ีย่ิงข้นึ และได้รับคาชมจากวทิ ยากร เพราะ นักศกึ ษาสามารถโต้ตอบการ พูดคุยกับวทิ ยากรได้ การเผยแพร่ ๑ ผู้สอนไดเ้ ผยแพร่ให้กับครู กศน.ตาบลหนองแปน และคณะครู กศน.อาเภอมญั จาคีรี และครผู ู้สอนทีส่ นใจ ๒ เผยแพร่ทาง เว็ปไซดข์ อง กศน.ตาบลหนองแปน www.http://๒๐๒.๑๔๓.๑๓๗.๑๐๐: ๘๑/nongpaen/ และ Facebook : กศน ตาบลหนองแปน อาเภอมัญจาคีรี จงั หวดั ขอนแกน่ ๓ จดั ทาแผ่นพับเผยแพรแ่ ก่นกั ศกึ ษาและผ้ปู กครอง
จัดทาโดย ท่ปี รกึ ษา ๑.นายสรุ นิ ทร์ หว่างจติ ร ผ้อู านวยการกศน.อาเภอมัญจาครี ี ๒.นางสาวภัชณีภรณ์ บารุงราษฎร์ ครู ๓.นายสมบูรณ์ ยุทธชยั ครูผชู้ ่วย ผูเ้ รยี บเรยี งขอ้ ข้อมลู ครู กศน.ตาบล ครู กศน.ตาบล นางสาวบงั อร ภูชาดา ครูศนู ยก์ ารเรียนชุมชน นางสาวปภชั ญา สาราญบารงุ นางสาวพยอม ขวาซุย ครู กศน.ตาบล ผู้จดั ทารูปเลม่ นางสาวบงั อร ภชู าดา
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: