หน่วยที่ 8 ฝากทรัพย์ ความหมายและลักษณะของสัญญาฝากทรัพย์ หน้าที่ของผู้รับฝาก การฝากทรัพย์เฉพาะกรณีพิเศษ อายุความตามสัญญาฝากทรัพย์
ความหมายและลักษณะของ สัญญาฝากทรัพย์ ฝากทรัพย์ คือ สัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่งเรียกว่า ผู้ฝาก ส่งมอบทรัพย์สินให้แก่บุคคลอีก คนหนึ่งเรียกว่า ผู้รับฝาก และผู้รับฝากตกลงว่าจะเก็บรักษาทรัพย์สินนั้นไว้ในอารักขาแห่ง ตนแล้วจะคืนให้ (มาตรา 657)
ความหมายและลักษณะของ สัญญาฝากทรัพย์ ซึ่งลักษณะของสัญญาฝากทรัพย์ มีดังนี้ 1. สัญญาฝากทรัพย์เป็นสัญญาสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเรียกว่า ผู้ฝาก ยืกฝ่ายหนึ่งเรียกว่า ผู้รับมาก 2. วัตถุแห่งสัญญาฝากทรัพย์ต้องเป็นทรัพย์ที่มีรูปร่าง และยึดถือเอาได้ 3. สัญญาฝากทรัพย์เป็นสัญญาที่ไม่มีแบบ หากแต่สัญญาจะสมบูรณ์โดยที่ผู้ฝากส่งมอบทรัพย์ ที่ฝากให้ ไปอยู่ในความครอบครองของผู้รับฝาก 4. ผู้รับฝากตกลงจะเก็บรักษาทรัพย์สินที่ฝากไว้ในอารักชาของตนแล้วจะคืนให้ผู้ฝาก 5. สัญญาฝากทรัพย์จะมีค่าตอบแทนและไม่มีค่าตอบแทนก็ได้
ความหมายและลักษณะของ สัญญาฝากทรัพย์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 925/2536 การที่จำเลยที่ 1 จัดบริการให้แก่ลูกค้าซึ่งไปรับประทาน อาหารที่ภัตตาคารของจำเลยที่ 1 โดยให้จำเลยที่ 2 ต้อนรับ เอากุญแจรถยนต์ขับรถยนต์เข้าที่จอด และ เคลื่อนย้ายรถยนต์หากมีรถยนต์คันอื่นเข้าออกในบริเวณภัตตาคาร มีการออกใบรับที่จดหมาย เลขทะเบียน รถยนต์และรับกุญแจรถยนต์ของลูกค้าเก็บไว้ การที่จำเลยที่ 1 ปฏิบัติเช่นนี้ ถือได้ว่า เป็นการฝากทรัพย์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 657
หน้าที่ของผู้รับฝาก หน้าที่ของผู้รับฝาก ในเรื่องของการฝากทรัพย์ กฎหมายได้กำหนดหน้าที่ของผู้ฝากไว้เพียงแค่ส่งมอบ ทรัพย์หรือ จ่ายค่าตอบแทนในกรณีที่มีการฝากทรัพย์แบบมีบำเหน็จ ส่วนใหญ่แล้วสัญญาฝากทรัพย์ หน้าที่จะเป็น ของผู้รับฝาก
หน้าที่ของผู้รับฝาก ซึ่งมีระดับการดูแลทรัพย์สินไว้ในระดับที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1. ผู้รับฝากทรัพย์แบบไม่มีบำเหน็จหรือไม่มีค่าตอบแทนนั้น ระดับการดูแลทรัพย์ที่รับฝากคือ ดูแล ทรัพย์ของตนอย่างไร ก็ดูแลทรัพย์ของผู้อื่นอย่างนั้น ยกตัวอย่างเช่น นายแดงฝากโทรศัพท์มือถือ แก่ นายดำ ปกตินายดำจะใส่โทรศัพท์ของตนไว้ในกระเป๋าถือ เมื่อนายดำรับฝากโทรศัพท์มือถือจากนาย แดง นายดำจะเก็บรักษาโทรศัพท์มือถือนั้นในกระเป๋าถือก็ได้ ถ้าดูแลรักษาไว้เช่นนี้แล้วโทรศัพท์หาย ก็ ถือว่าไม่มีความผิด คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1527/2542 โจทก์นำรถยนต์จอดไว้ที่หน้าร้านของจำเลยโดยไม่มี บำเหน็จค่าฝาก ต่อมารถยนต์ของโจทก์หายไป ปรากฎว่ารถยนต์ของจำเลยก็จอดไว้ที่หน้าร้านของ จำเลยเป็นประจำเช่นเดียวกัน ถือว่าเป็นการใช้ความระมัดระวังเสมือนทรัพย์ของตนแล้ว
หน้าที่ของผู้รับฝาก ผู้รับฝากทรัพย์แบบมีบำเหจหรือมีค่าตอบแทน ระดับการดูแลทรัพย์ต้องใช้ความระมัดระวัง และใช้ฝีมือในการรักษาทรัพย์นั้นดังเช่นวิญญูชนพึงปฏิบัติ ตังนั้น จะเห็นว่ากฎหมายกำหนดระดับการดูแล ว่าต้องใช้ฝีมือให้มากกว่าการดูแลหรัพย์ตามปกติ ดังตัวอย่างข้างต้น หากนายแดงฝากโทรศัพท์มือถือไว้กับ นายต่ำ และนายดำขอค่ารับฝาก 200 บาท นายดำจะเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าอย่างเดียวไม่พอ แต่นายดำ ต้องนำกระเป๋านั้นคิดตัวไปเพื่อดูแลโทรศัพท์ในกระเป๋านั้นต้วย การฝากรับฝากทรัพย์แบบมีบำเหน็จ ผู้รับฝากทรัพย์จะหลุตพ้นความรับผิดในกรณีทรัพย์เสียหายหรือสูญหายกรณีเดียวเท่านั้นคือ การเสียหาย หรือสูญหายจากเหตุสุดวิสัย เช่น ฟ้าฝาวัวที่รับฝากตาย หรือเกิดพายุใหญ่น้ำท่วมลานจอดรถที่รับฝาก ทำให้รถยนต์เสียหาย เป็นต้น
หน้าที่ของผู้รับฝาก 3. หากผู้รับฝากทรัพย์เป็นผู้มีวิชาชีพเฉพาะหรืออาชีพอย่างหนึ่งอย่างใด ผู้รับฝากจำต้องใช้ความ ระมัดระวังและฝีมือเท่าที่เป็นธรรมดาจะต้องใช้ และสมควรจะต้องใช้ในอาชีพอย่างนั้น ตัวอย่างเช่น นาย แดงเปิดโกดังรับฝากสินค้าพวกข้าวเปลือก หากข้าวเปลือกที่รับฝากในโกดังเป็นเชื้อราเพราะมีความชื้น หรือ มีมด มอดมากิน นายแดงก็ต้องรับผิดชอบ เพราะกิจการของนายแดงเป็นโกดัรับฝากข้าวเปลือกนายแดงควร มีการจัดการโกดังสำหรับการฝากข้าวที่มีประสิทธิภาพกว่าโกดังโดยทั่วๆ ไป
หน้าที่ของผู้รับฝาก คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6280/2538 จำเลยประกอบธุรกิจธนาคาร การจ่ายเงินตามเช็คที่มีผู้มา ขอ เบิกเงินเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งของจำเลยซึ่งต้องปฏิบัติอยู่เป็นประจำ จำเลยย่อมมีความชำนาญในการ ตรวจ สอบลายมือชื่อในเช็คว่าเป็นลายมือชื่อของผู้สั่งจ่ายหรือไม่ยิ่งกว่าบุคคลธรรมดา ทั้งจำเลยจะต้อง มีความ ระมัดระวังในการจ่ายเงินตามเช็คยิ่งกว่าวิญญูชนทั่วๆ ไป การที่จำเลยจ่ายเงินตามเช็คพิพาท ให้แก่ผู้นำมา เรียกเก็บเงินไปโดยที่ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่ใช่ลายมือชื่อโจทก์ทั้งที่มีตัวอย่างลายมือชื่อโจทก์ ที่ให้ไว้กับจำเลย กับมีเช็คอีกหลายฉบับที่โจทก์เคยสั่งจ่ายไว้อยู่ที่จำเลย จึงเป็นการขาดความระมัดระวั ของจำเลย เป็นการ กระทำละเมิดและผิดสัญญาฝากทรัพย์ต่อโจทก์ จำเลยจะยกข้อตกลงยกเว้นความรับผิด ตามที่ระบุไว้ใน คำขอเปิดบัญชีกระแสรายวันมาอ้างเพื่อปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ การที่เช็คพิพาทซึ่งอยู่ใน ความครอบครอง ของโจทก์ตกไปอยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่นจนกระทั่งมีการปลอมลายมือชื่อโจทก์ นั้นแสดงว่าโจทก์ ละเลยไม่ระมัดระวังในการดูแรักษาแบบพิมพ์เช็คดังกล่าวอันถือได้ว่าโจทก์มีส่วนก่อให้ เกิดความเสียหาย
หน้าที่ของผู้รับฝาก 4. ห้ามผู้รับฝากใช้ทรัพย์สินที่ฝากหากฝ่าฝืนผู้รับฝากต้องรับผิดเมื่อทรัพย์สินซึ่งฝากนั้นสูญหายหรือ บุบสลายอย่างใดอย่างหนึ่ง ถึงแม้จะเป็นเพราะเหตุสุดวิสัย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าถึงอย่างไรทรัพย์สินนั้น ก็คงจะสูญหายหรือบุบสลายอยู่นั่นเอง เช่น นายแดงฝากรถไว้กับนายดำ นายดำเอารถออกไปขับ ต่อมา มีสิ่งของปลิวมาตกถูกรถทำให้เกิดรอยบุบ เช่นนี้นายดำต้องรับผิดชอบ 5. ผู้รับฝากต้องบอกกล่าวแก่ผู้ฝากโดยพลันเมื่อบุคคลภายนอกอ้างสิทธิเหนือทรัพย์สินที่ฝาก 6. ผู้รับฝากต้องคืนทรัพย์ที่ฝากนั้น และเมื่อการฝากทรัพย์นั้นกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ยังเป็นของผู้ฝากอยู่ เพียงแต่ผู้รับฝากมีสิทธิครอบครอง ดอกผลของทรัพย์ที่ฝากยังคงเป็นของผู้ฝาก ดังนั้น ในการส่งคืนทรัพย์ ต้องคืนดอกผลไปด้วยหากผู้รับฝากเบียดบังนำทรัพย์มาเป็นของตนโดยทุจริตจะมีความผิดฐานยักยอก ทรัพย์
การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี คือ การฝากทรัพย์ที่มีกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ไว้เป็นการเฉพาะ ได้แก่ การฝากเงิน และการฝากของในโรงแรม
การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี การฝากเงิน คือ การนำเงินไปฝากไว้กับผู้รับฝาก ธนาคาร หรือองค์กรต่างๆ โดยการฝากเงิน ในลักษณะนี้ มุ่งเน้นที่ \"มูลค่า\" เงิน มากกว่า \"คุณค่า\" ของเงินตรานั้นๆ ไม่ได้หมายความถึงการฝาธนบัตร โบราณ เหรียญโบราณ ซึ่งแบบนี้ก็ใช้หลักเกณฑ์การฝากทรัพย์ทั่วๆ ไป
การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี การฝากเงินกฎหมายกำหนดหลักเกณฑ์ดังนี้ 1. ผู้รับฝากไม่จำต้องคืนเงินตราฉบับเดียวกับที่ฝากแต่ต้องคืนเงินให้ครบตามจำนวนที่ฝาก 2. ผู้รับฝากสามารถใช้เงินที่ฝากก็ได้แต่เพียงต้องคืนให้ครบถ้วนเท่านั้น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1795/2541 จำเลยเป็นธนาคารผู้รับฝากเงินเป็นอาชีพโดยหวังผลประโยชน์ ในการเอาเงินฝากของผู้ฝากไปแสวงหาผลประโยชน์จะต้องใช้ความระมัดระวังและความรู้ความชำนาญ เป็นพิเศษตรวจสอบลายมือชื่อผู้จ่ายว่าเหมือนลายมือชื่อที่ให้ตัวอย่างไว้แก่จำเลยหรือไม่ ฉะนั้น เมื่อไม่ปรากฎ ว่าจำเลยได้ใช้ความระมัดระวังและความรู้ความชำนาญดังกล่าวแต่อย่างใด การที่จำเลยได้จ่ายหรือหัก บัญชีเงินฝากของโจทก์ให้บุคคลอื่นไปจึงถือได้ว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของจำเลย
การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี การฝากของในโรงแรม ผู้ควบคุมและจัดการโรงแรมหรือสถานที่สำหรับบุคคลที่ประสงค์จะพัก ชั่วคราว เรียกว่า เจ้าสำนักโรงแรม บุคคลผู้ที่มาพักอาศัยในโรงแรมหรือสถานที่ทำนองเดียวกันโดยเสียค่า พักอาศัยเรียกว่า แขกอาศัย โดยกฎหมายว่า เจ้าสำนักโรงแรมต้องรับผิดในความสูญหายหรือบุบสลาย อย่างใดๆ ที่แขกอาศัยได้พามาโดยกฎหมายจำกัดความรับผิดในทรัพย์สินมีค่า เช่น เงินตรา ธนบัตร ตั๋วเงิน อัญมณี หรือของมีค่าอื่นๆ ไว้เพียง 500 บาท เว้นแต่ ได้บอกราคาของทรัพย์สินนั้นไว้ เจ้าสำนักโรงแรม ต้องรับ ผิดตามราคาแห่งทรัพย์สินนั้นแม้ว่าบางโรงแรมจะมีข้อความยกเว้นหรือจำกัดความรับผิดของ เจ้าของสำนัก กฎหมายกำหนดให้ข้อความลักษณะเช่นนี้เป็นโมฆะ เว้นแต่แขกอาศัยจะได้ตกลงเรื่องการ จำกัดความรับผิด ชอบนั้นด้วย
การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี กรณีที่เจ้าสำนักโรงแรมไม่ต้องรับผิดชอบความสูญหายหรือบุบสลายที่เกิดขึ้น แก่ทรัพย์สินของ แขกอาศัย ได้แก่ 1. เหตุสุดวิสัย เช่น เกิดแผ่นดินไหวทำให้ตึกโรงแรมถล่มพังทลายทับ ทรัพย์สินของแขกอาศัยสูญหายหมด 2. สภาพแห่งทรัพย์นั้นเอง เช่น ของสด ของเน่าเสียง่าย 3. ความผิดของแขกอาศัยหรือบริวารแขกอาศัย เช่น เพื่อนร่วมห้องลักทรัพย์ กันเองบุคคลที่แขกอาศัยได้ต้อนรับ เช่น ผู้ที่มาเยี่ยมหรือติดต่องานลักทรัพย์ไป
การฝากทรัพย์เฉพาะกรณี คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2526 ความรับผิดของเจ้าสำนักโรงแรมเพื่อทรัพย์สินของคนเดินทาง หรือแขกอาศัยที่สูญหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 674 และ 675 มิได้จำกัดแต่เฉพาะ ในทรัพย์สินซึ่งคนเดินทางพาเข้าไปในห้องพักหรือพาเข้าไปในบริเวณตัวอาคารโรงแรมเท่านั้นเมื่อโจทก์ มาพัก โรงแรมของจำเลย และนำรถยนต์จอดไว้ที่โรงจอดรถหรือลานจอดรถในบริเวณโรงแรมโดยล็อกกุญแจ ประตู รถไว้ ต่อมารถสูญหายโดยถูกคนร้ายลักไป และโจทได้แจ้งให้จำเลยทราบทันทีจำเลยก็ต้องรับผิดต่อโจทก์
อายุความตามสัญญาฝากทรัพย์ อายุความฟ้องตามสัญญาฝากทรัพย์ ผู้รันฝากทรัพย์สามารถเรียกร้องคำบำเหน็จในการรับฝาก คำใช้จ่ายในการฝากทรัพย์ และค่าสินไหมทดแทนกรณีที่เกิดความเสียหาย โดยอายุความฟ้องร้องคือ เดือนนับแต่วันสิ้นสัญญา คือ เมื่อผู้ฝากเรียกทรัพย์สินที่ฝากคืน เมื่อฝ่ายหนึ่งบอกเลิกสัญญาเพราะ อีกผ้ายหนีนิดสัญญา ตลอดจนเมื่อทรัพย์สินที่ฝากถูกทำลายสูญหายไป ส่วนอายุความกรณีผู้ฝากทรัพย์เรียกคืนทรัพย์สินที่ฝาก มีอายุความ 10 ปี อายุความพ้องร้องเรียกค่าสินไหมทดแทน จากเจ้าสำนักอันเกี่ยวกับทรัพย์สินของคนเดินทางหรือ แขกอาศัยสูญหายหรือบุบสลาย ต้องพัองเจ้าสำนักภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่ตนออกจากสถานที่นั้น
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: