fever

การใหความรูผ ดู แู ล ในการดแู ลจัดการเรอ่ื งไข

ใครใครร ูเรอ่ื งไข? ไข (Fever) ภาวะทีอ่ ณุ หภมู ใิ นรา งกายสงู กวาระดับปกติ (36.5– 37.4 oc) จะทราบไดโ ดยการคลําหนา ผากซอกคอหรอื บริเวณอนื่ ๆ ของรางกาย จะรสู ึกรอนกวาปกติอาจจะมอี าการครั่นเน้ือครัน่ ตัวหนาวๆรอนๆ ปากแหง คอแหง ปวดศรี ษะหนาวสั่นหรืออาการอน่ื ๆ รว มดวย

ระดบั ของไข 1. ไขตาํ่ (Low fever) 2. ไขปานกลาง มีอณุ หภูมริ ะหวาง (Moderate fever) 37.5 – 38.4⁰C มีอุณหภมู ริ ะหวา ง 38.5 – 39.4⁰C 3. ไขส งู (High fever) มี 4. ไขส งู มาก อณุ หภมู ิระหวาง (Hyperpyrexia) มอี ณุ หภมู ิ 39.5 – 40.5⁰C ตั้งแต 40.5 ⁰C ขน้ึ ไป

ภาวะแทรกซอ นจากไขส ูง “ชักจากไขส งู ”

1.วัดอณุ หภูมริ างกายเด็กเม่อื รูส กึ วา เดก็ มไี ข 2. เมื่ออุณหภูมิรางกายเทากบั 37.5 oc ใหเร่มิ เชด็ ตวั ลดไข 3. เมอ่ื อุณหภูมิรา งกายเทากับ 38 oc ใหเช็ดตัวลดไข รว มกับใหยาลดไขได 4. กระตนุ ใหเด็กท่มี ีไขไ ดร บั นํ้า นม ไดต ามปกติ 5. แนะนาํ ใหบิดามารดาสงั เกตอาการผดิ ปกติ ท่ีตอ งนาํ สง โรงพยาบาล ไดแ ก ซึมลง ออ นเพลีย กระสบั กระสา ย ตวั เกรง็ ตาลอย ชัก หรือกนิ ยารว มกับเช็ดตวั ลดไข แตไ ขไ มลด เปนตน

䢌 37.5 oc ˹àÙ ¤Âª¡Ñ ÁÒ àÃÔèÁãËÂŒ ÒŴ䢌 ÃÇ‹ Á¡ºÑ àª´ç µÇÑ Å´ä¢·Œ ¹Ñ ·Õ

การปฏบิ ัติตัว เมอ่ื เด็กมีอาการชกั จากไข

ไมส บาย อณุ หภมู ิมากกวา ตัวเกรง็ 37.4องศาเซลเซียส

ตาเหลือก กัดฟน แนน นํา้ ลายฟมู ปาก

ต้งั สติ สงั เกตความรสู กึ ตัว ลักษณะริมฝป าก ปลายมอื ปลายเทาเขียว

นอนตะแคงไมหนุนหมอน ทําทางเดินหายใจใหโลง หามใชวตั ถุงัดปาก หามใหย าลดไข หรอื เขยาตวั ขณทเี่ ด็กกาํ ลงั ชัก

สังเกตลักษณะการชกั ถามีบคุ คลที่ 2และ 3 ใหอดั คลิปวดี โิ อลักษณะ การชักของเดก็

คลายเส้อื ผา และเชด็ ตวั ลดไข รบี มาพบแพทย

การดแู ล จัดการกับภาวะไข โดยอาศัยหลักการนาํ การพา การแผรังสี และการระเหย ใชใ นการเชด็ ตวั

กะละมงั ใสนํา้ (ใชนํา้ อุน) ผา สาํ หรบั เชด็ ตัว 2ผืนขึ้นไป ผาขุนหนูสําหรับหลัง เชด็ ตวั เสร็จ

ใชเวลาในการเชด็ ตัว 15 – 20 นาที เชด็ หนาไลลงมาท่คี อ เช็ดแขน เริม่ จากมือ และเช็ดเขา หาหวั ใจ พกั ผา ไวท ี่หนา ผาก

นําผาทพี่ ักไวท ีซ่ อกคอ ซุบนาํ้ บดิ ใหหมาดอีกครั้งแลว นาํ มาเช็ดลาํ ตวั พกั ผาไวท ี่รกั แรท้ัง2ขาง

นาํ ผาท่พี ักไวต รงรักแรม าซับนํา้ แลว เชด็ ขาจากปลายเทา ยอ นข้นึ เมอ่ื เช็ดเสร็จนาํ ผา มาพกั ไวท่หี ัวใจ

บดิ ใหหมาดอีกครั้งจากนนั้ พักผาไวทข่ี าหนีบ นาํ ผา ทไ่ี วต รงหวั ใจมาซบั นาํ้ บิดใหห มาดอกี ครั้ง แลวจดั ทานอนตะแคงตัว เพื่อเชด็ ดานหลงั เช็ดจากตน หอเขาหาหัวใจ และจากกน กบเขาหาหวั ใจ

การใหยา ลดไขใ นเดก็

รปู แบบ ยาลดไขใ นเด็กชนิดนํา้ https://www.amarinbabyandkids.com/health/antipyretics-for-children/

รปู แบบ ยาลดไขในเดก็ ชนิดนํา้ /https://www.amarinbabyandkids.com/health/antipyretics-for-children

รปู แบบ ยาลดไขในเดก็ ชนดิ นํา้ https://www.amarinbabyandkids.com/health/antipyretics-for-children/

รปู แบบ ยาลดไขใ นเด็กชนิดนํา้ https://www.amarinbabyandkids.com/health/antipyretics-for-children/

รปู แบบ ยาลดไขใ นเดก็ ชนดิ นํา้ /https://www.amarinbabyandkids.com/health/antipyretics-for-children

รปู แบบ ยาลดไขใ นเดก็ ชนดิ นํา้ /https://www.amarinbabyandkids.com/health/antipyretics-for-children

วธิ ีและขนาดการใชยา การใหย าลดไขแ นะนาํ ใหในเดก็ ที่อายุมากกวา 3 เดือน  เดก็ 2-3 เดือนที่มนี า้ํ หนกั ตัว 4-6 Kg. กินครั้งละ คร่งึ ชอนชาหรอื 2.5 ml วนั ละ 1 ครั้ง เฉพาะเวลาปวดหรอื มไี ข  เด็กมากกวา 3 เดอื น กินยาเฉพาะเวลามีไขว ันละไมเกิน 5 ครง้ั แตละครง้ั หา งกนั อยางนอย 4 ชว่ั โมงตามตารางขนาดยา











ขอควรปฏบิ ัติระหวางการใชย า 1. ไมก ินยาติดตอกันเปน เวลานานโดย ไมปรกึ ษาแพทยหรือเภสัชกร 2. ถา กนิ ยาแลว ใชไ มล ดภายใน 3 วนั ใหไ ป พบแพทยเนอ่ื งจากอาจเปน อาการของโรค ทรี่ า ยแรงได

อา งอิง: ทศั นียา วงั สะจันทานนท และอมจิต วอ งวาณิช.(2555).ประสบการณข องมารดาและการจัดการภาวะไขเ ด็ก อายุต่ํากวา 5 ป.วารสารสมาคมพยาบาล ฯ สมาคมภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ,ปท ี่30(4),117-123 บงกช นลิ ออ น. (2556). ผลของโปรแกรมการสงเสริมการมีสว นรวมของมารดาตอ ความสามารถในดูแลบตุ ร ทม่ี ีภาวะชกั จากไขส งู ;56(1 ):9-25 ปารฉิ ตั ร แสนไชย และคณะ.(2560).การอบรมความรูการจัดการอาการไขในเดก็ สําหรบั ผปู กครอง;56(2) :97-106. เพยี งเพญ็ เดชพร(2559). ความรแู ละการจดั การลดไขของผูปกครองเมอื่ เด็กมีภาวะไข.วารสารการแพทย วลั ลภา วาสนาสมปอง และคณะ. (2556-2557). ผลของโปรแกรมสุขศกึ ษาโดยประยกุ ตทฤษฎแี บบแผน ความเชื่อดา นสขุ ภาพเพ่ือปองกันโรคไขหวดั ของนักเรยี นระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปท ี่5. มหาลัยราช ภฏั สวนสนุ ันทา , 397-40 สรีพร ชมบุญ และคณะ.(2562). ผลของการใหค วามรผู ดู แู ลกอนจาํ หนา ยเด็กทม่ี ีภาวะไขเฉยี บพลนั ตอ การ เขารับบริการซํ้าโรงพยาบาลเทศบาลนครนครศรีธรรมราช.วารสารเกือ้ การุณย,ปท่ี 26,92-106 สธุ ิศา ลา มชาง และคณะ. (2558). ปจจัยท่ีเก่ยี วของกับการปฏิบตั ิของบิดามารดาในเด็กที่ชกั จากไขส ูง.