Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่4 ภูมิศาสตร์น่ารู้

หน่วยที่4 ภูมิศาสตร์น่ารู้

Published by Nannongbon School, 2021-07-02 03:02:48

Description: หน่วยที่4 ภูมิศาสตร์น่ารู้

Search

Read the Text Version

ประเพณีบุญบง้ั ไฟ จดั ขึน้ ในชว่ งเดอื น 6 กอ่ นฤดทู ำนำเพ่อื บูชำเทวดำ (พญำแถน) ขอให้ฝนตกตำมฤดูกำล เกดิ ควำมอดุ มสมบรู ณ์ ลกั ษณะพื้นทมี่ ีดินปนทราย ไม่อุม้ น้า ประเพณีบุญบัง้ ไฟที่จัดขึ้นโดยรวมมรี ปู แบบคล้ำยกัน มคี วามแห้งแลง้ ฝนไมต่ กตามฤดูกาล แตกตำ่ งกนั ทจ่ี ุดเนน้ เพ่ือกำรทอ่ งเทยี่ ว ประเพณีบุญบงั้ ไฟ ทีเ่ ปน็ ทีร่ ู้จกั กันท่ัวไปคือที่จังหวัดยโสธร

ภาคกลาง : สงั คมและวัฒนธรรม อาหารภาคกลาง ประเพณีแขง่ ขันเรอื ยาว บา้ นเรอื นไทยภาคกลาง

สงั คมและวฒั นธรรม : ท่อี ยูอ่ าศยั หลังคาสงู เพื่อช่วยระบายนา้ ฝน กำรสรำ้ งทอ่ี ยู่อำศัยมักนยิ มสร้ำงใหส้ อดคลอ้ งกบั ลักษณะทำงกำยภำพ ของพืน้ ท่ี เชน่ ลักษณะภมู ิประเทศเปน็ ทีร่ ำบรมิ แม่น้ำ การสรา้ งบ้านริมนา้ จะยกพื้นสูง หน้าต่างกว้างชว่ ยระบายความรอ้ น เพ่ือป้องกันนา้ ท่วม วางเสาบา้ นบนตอมอ่

ประเพณีและวฒั นธรรม ประเพณีแขง่ ขันเรือยาว นยิ มจดั ในงำนทอดกฐนิ ทอดผำ้ ปำ่ ชว่ งเดือน 11 และเดอื น 12 ซึ่งเป็นชว่ งฤดนู ำ้ หลำก และว่ำงเว้นจำกกำรทำไรท่ ำนำ ประเภทของกำรแขง่ ขันเรอื ยำว แบง่ เป็น ผคู้ นมักต้งั ถ่ินฐำนอยใู่ กลแ้ หล่งน้ำ - เรอื ยำวใหญม่ ีฝีพำย 41-55 คน อำศยั แหลง่ น้ำเปน็ เสน้ ทำงคมนำคม - เรือยำวกลำงมีฝพี ำย 31-40 คน - เรือยำวเลก็ มฝี พี ำยไม่เกิน 30 คน

ภาคใต้ : สังคมและวฒั นธรรม อาหารภาคใต้ ประเพณชี ักพระทางนา้ การแต่งกาย

สังคมและวฒั นธรรม : อาหาร ใบมะกรดู ตะไคร้ มะม่วงดบิ ข้าวยา นยิ มนำพืชผกั สมนุ ไพรท่หี ำง่ำย ในทอ้ งถ่นิ มำเปน็ ส่วนประกอบ พริกปน่ ถั่วงอก ถว่ั ฝักยาว มะนาว กุ้งแหง้ ป่น สม้ โอ น้าบูดู

ประเพณีชักพระทางนา้ ด้วยควำมเชอ่ื ทวี่ ่ำ พระพุทธเจ้ำเสดจ็ กลบั ลงมำจำกสวรรค์ชั้นดำวดึงส์ ชำวบำ้ นจึงพำกนั ไปเฝ้ำ รบั เสด็จ จนเกดิ เปน็ ประเพณชี ักพระ จดั ในวนั แรม 1 คำ่ เดอื น 11 บษุ บกประดิษฐานพระพทุ ธรูป ประเพณีชักพระทางนา้ เรียก เรือพระน้า ประเพณีชักพระทำงน้ำ มักเป็นวดั ทีต่ ั้งอยู่รมิ แม่นำ้ ลำคลอง สว่ นวัดที่ตงั้ อย่ไู กลจำกแมน่ ำ้ สว่ นชกั พระทางบก เรียก เรือพระบก จะจดั ประเพณีชักพระทำงบก

คาถาม ลักษณะทางกายภาพสง่ ผลตอ่ กจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในประเทศไทยอย่างไร และกิจกรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมในประเทศไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ของสง่ิ แวดลอ้ มทางกายภาพอยา่ งไร

การเปล่ยี นแปลงทางกายภาพและผลกระทบ ลกั ษณะกำรเปล่ยี นแปลงทำงกำยภำพของประเทศไทย การขยายตัวของเมือง กจิ กรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์ การตดั ไม้ทาลายป่า ส่งผลใหภ้ มู ิอากาศเปล่ยี นแปลง การนาพื้นที่เพาะปลูกมาสร้างโรงงาน ทรพั ยากรเสอื่ มสภาพจากกจิ กรรมตา่ งๆ อุตสาหกรรม บ้านจดั สรร ทาให้เกิดการ ของมนษุ ย์ ทาให้ทรัพยากรลดลง เปล่ียนแปลงสภาพภมู ปิ ระเทศ

การเปลยี่ นแปลงทางกายภาพและผลกระทบ กำรเปล่ยี นแปลงทำงกำยภำพของประเทศไทยส่งผลกระทบตอ่ กจิ กรรมทำงเศรษฐกจิ และสังคม เกิดกำรอพยพย้ำยถิ่นฐำน เกิดกำรย้ำยงำน จำกภำคเกษตรกรรมมำสูภ่ ำคอตุ สำหกรรม พื้นท่ที ำกำรเกษตรถกู ปรับเปล่ยี นเปน็ พนื้ ทห่ี ม่บู ำ้ นจัดสรร พ้ืนทโ่ี รงงำนอุตสำหกรรม มีกำรสร้ำงบ้ำนแบบสมัยใหม่ ติดเครื่อง ปรบั อำกำศ หรืออำศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม กำรรับประทำนอำหำรมีควำมหลำกหลำย เพรำะมรี ำ้ นสะดวกซ้ือ

คาถาม การเปลย่ี นแปลงทางกายภาพของประเทศไทยในอดีตกับปัจจุบันเปน็ อยา่ งไร และสง่ ผลต่อกจิ กรรมทางเศรษฐกจิ และสังคมอยา่ งไร

2 ภยั พบิ ตั ิในประเทศไทย

อุทกภัย เปน็ ภยั ธรรมชำติมที ้งั อุทกภยั แบบฉบั พลนั เชน่ นำ้ ป่ำไหลหลำก และอุทกภัยทเี่ กิดขน้ึ ชำ้ ๆ จำกน้ำลน้ ตลิง่

อุทกภัย : สาเหตุ การตดั ไม้ทาลายป่า ทาให้ไมม่ ีตน้ ไมช้ ว่ ยดดู ซบั น้าฝน ฝนตกหนักต่อเนอื่ งเปน็ เวลานาน จนไมส่ ามารถระบายนา้ ออกจากพน้ื ที่ได้ทนั การระบายน้าไมด่ ี หรอื มีสิ่งกดี ขวางทางนา้ เช่น สร้างบา้ นเรอื นขวางทางน้าไหล ถนนไมม่ ที อ่ ระบายนา้

อุทกภยั : ผลกระทบ ทำใหท้ รพั ยส์ นิ อำคำร บำ้ นเรือน เสน้ ทำงคมนำคม พื้นท่ี ทำงกำรเกษตรเสียหำย ก่อใหเ้ กิดโรค และอำจกอ่ ใหเ้ กดิ เหตุไฟรั่วได้ อทุ กภัยครง้ั ใหญท่ เ่ี กิดในประเทศไทยเกดิ ข้นึ เมอ่ื พ.ศ.2554 มพี ้ืนท่ีประสบภยั กระจำยอยทู่ ่ัวประเทศ

อุทกภยั : การเตรียมพรอ้ มรบั มือ ไมต่ ัดไม้ทาลายป่า ใชเ้ ทคโนโลยีชว่ ย ฝึกซอ้ มเผชิญ เตรยี มข้าวของเครอื่ งใช้ ในการวางแผนรับมอื สถานการณ์และ ในสถานการณ์ฉกุ เฉนิ วางแผนการอพยพ และแก้ไขปญั หา

อทุ กภัย : ลกั ษณะภูมปิ ระเทศทีเ่ สย่ี งตอ่ การเกิดอุทกภยั บริเวณท่มี ีควำมเสีย่ งต่อกำรเกดิ อทุ กภยั คือ บริเวณทร่ี ำบล่มุ หรือท่ตี ำ่ โดยเฉพำะบริเวณท่ีรำบล่มุ แมน่ ำ้ และแอง่ ท่รี ำบ เช่น บริเวณจังหวัดแพร่ อตุ รดิตถ์ สโุ ขทัย พิจิตร นครสวรรค์ สพุ รรณบุรี พระนครศรีอยธุ ยำ ขอนแก่น มหำสำรคำม ชมุ พร พทั ลุง และสงขลำ

อุทกภยั : การสังเกตสถานการณอ์ ทุ กภัย เฝ้าระวังระดับนา้ เม่ือเกดิ เหตกุ ารณฝ์ นตกตอ่ เน่ืองเปน็ เวลานาน • สงั เกตระดับน้ำในแมน่ ำ้ ลำคลองหำกเพิ่มสูงกว่ำปกตจิ น ใกลเ้ คยี งระดับตลง่ิ ให้เตรียมพร้อมรบั มืออุทกภัย • ส่วนอุทกภยั จำกน้ำปำ่ ให้สงั เกตสขี องนำ้ ในลำธำรถ้ำเปน็ สีแดงขุ่นหรอื สีโคลน ใหร้ ะวังกำรเกดิ น้ำปำ่ ไหลหลำก 90 80 70 60 50 40

สึนามิ สนึ ำมิ คอื ภัยธรรมชำตทิ เ่ี กิดข้นึ จำกคลน่ื ขนำดใหญใ่ นทะเล ที่พดั เขำ้ ชำยฝ่งั

สึนามิ : ลกั ษณะภมู ิประเทศที่เส่ยี งต่อการเกิดสึนามิ ทะเลอนั ดามนั อา่ วไทย ชายฝ่งั ทะเลอ่าวไทย 16 จงั หวดั ชายฝัง่ ทะเลอันดามนั 6 จงั หวดั ตรำด จนั ทบุรี ระยอง ชลบรุ ี ฉะเชิงเทรำ สมทุ รปรำกำร ภูเกต็ พงั งำ ระนอง กระบี่ สมุทรสำคร สมทุ รสงครำม เพชรบุรี ประจวบคีรีขนั ธ์ ชุมพร ตรัง สตูล สรุ ำษฎรธ์ ำนี นครศรีธรรมรำช สงขลำ ปตั ตำนี นรำธิวำส

ภัยพบิ ัตสิ นึ ามิในประเทศไทย วนั ท่ี 26 ธนั วาคม พ.ศ. 2547 รอยเลอื่ นย้อน ภเู ก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรงั สตูล ระดบั ความรุนแรง 9.0 ตามมาตราริกเตอร์ 26 ธันวาคม 2547 เกดิ แผน่ ดินไหวใต้น้ำ กอ่ ใหเ้ กดิ คล่ืนน้ำขนำดใหญบ่ ริเวณนอกชำยฝงั่ ดำ้ นตะวนั ตกของเกำะสมุ ำตรำ ประเทศอนิ โดนเี ซีย เคลื่อนเข้ำมำยงั ภำคใตบ้ รเิ วณชำยฝงั่ ทะเลอนั ดำมนั ของไทย มผี ลกระทบ 6 จังหวดั ได้แก่ ภูเก็ต พงั งำ ระนอง กระบี่ ตรัง และสตลู

สึนามิ : ผลจากสึนามใิ นประเทศไทย ภำพขอ้ มูลดำวเทียมรำยละเอียดสูงบริเวณหำดกะรน อำเภอเมอื ง จ.ภูเก็ต บนั ทกึ ภำพโดยดำวเทยี ม IKONOS ก่อนเกิดสึนามิ ภาพขยายบรเิ วณ A หลงั เกิดสึนามิ ชายฝ่ังเสยี หาย อาคารเสียหาย 24 มกราคม 2547 29 ธันวาคม พ.ศ. 2547 รวบรวม วิเครำะห์ และประมวลผลโดย ผศู้ ำสตรำจำรย์ สมบัติ อยเู่ มือง และทีมงำน ภำพข้อมูลจำกดำวเทยี ม IKONOS ไดร้ บั ควำมอนเุ ครำะหจ์ ำก สำนักพฒั นำเทคโนโลยีอวกำศและภมู สิ ำรสนเทศ (องค์กำรมหำชน) – สทอภ. ศูนย์วิจยั ภมู สิ ำรสนเทศเพอื่ ประเทสไทย (GISTHAI) www.gisthai.org สงวนสิทธ์ิ ห้ำมทำซำ้ แก้ไข ดัดแปลงเพือ่ กำรค้ำ 12 มกรำคม 2547

สึนามิ : การเตรยี มพรอ้ มรบั มอื และสังเกตกอ่ นเกิดสึนามิ 4 ประกาศเตือนภยั 3 พฤติกรรมของสตั วไ์ ม่ปกติ เช่น ฝูงนกขนาดใหญบ่ ินทั่วทอ้ งฟา้ 1 ร้สู กึ ถึงแผน่ ดินไหว 2 ระดบั นา้ ทะเลลดลง ติดตามขา่ วสารจากชอ่ งทางตา่ ง ๆ 5 สังเกตปา้ ยเตือนในพน้ื ทแ่ี ละปฏิบัตติ าม 6

สึนามิ : การปฏิบัตติ นขณะเกดิ สึนามิ กรณอี ยบู่ นบก หนีขนึ้ ทสี่ งู ท่ีมัน่ คงแขง็ แรง เช่น ภเู ขา ตกึ 2 กรณีอยใู่ นนา้ ออกจากบรเิ วณชายหาดใหเ้ รว็ ทีส่ ดุ 1 4 หากอยู่บนเรอื ให้แล่นออกไปสู่ทะเลลกึ เพราะความรนุ แรงของคลน่ื นอ้ ยกว่า 3 หากว่ายน้าอย่ใู หม้ องหาสิ่งยดึ เกาะได้ เชน่ ทอ่ นไม้ และวา่ ยออกสู่ทะเลลึกให้เรว็ ที่สุด สนึ ามิ สำมำรถเกดิ ขนึ้ ไดห้ ลำยระลอกและเกดิ นำนเป็นชั่วโมง จงึ ไมค่ วรรีบขึ้นฝงั่ ให้รอฟงั ประกำศจำกหนว่ ยงำนรำชกำรว่ำคลื่นสงบแลว้

สึนามิ : การปฏบิ ตั ติ นหลังเผชญิ ภยั สึนามิ 1 ติดตามข่าวสารจากทุกชอ่ งทาง 2 ออกห่างจากอาคารทไ่ี ด้รบั ความเสยี หาย

วาตภยั เปน็ ภยั ธรรมชำตทิ ่ีเกดิ จำกลมพัดอย่ำงรนุ แรง จนสร้ำงควำมเสียหำยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของผูป้ ระสบภัย

วาตภัย : สาเหตุ วำตภัยมีสำเหตมุ ำจำกกำรเกิดพำยุฤดูร้อน ประเทศไทยตั้งอยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ส่งผลให้มีอุณหภูมิเฉลี่ยค่อนข้ำงสูงในฤดูร้อน เมื่อมวลอำกำศร้อนยกตัวสูงขึ้น มวลอำกำศเยน็ จะพดั เข้ำมำแทนท่ี และเม่ืออำกำศรอ้ นและอำกำศเย็นเคลื่อนที่ มำปะทะกนั ทำให้เกิดควำมแปรปรวนของอำกำศก่อใหเ้ กดิ พำยุ

วาตภยั : ผลกระทบ วาตภยั ทีร่ ุนแรงกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายตอ่ ชวี ิต ทรพั ย์สนิ อาคารบา้ นเรอื น และส่งิ ก่อสรา้ งตา่ งๆ

วาตภยั : การเตรยี มพรอ้ มรับมือ 2 1 ตดิ ตำมขำ่ วสภำวะอำกำศเป็นประจำ ดแู ลโครงสร้ำงอำคำรบ้ำนเรอื น ใหแ้ ขง็ แรงอยเู่ สมอ 3 4 หลบอยู่ในอำคำรหรอื สถำนที่ปลอดภยั เม่อื เกดิ พำยุ ไมใ่ ช้อุปกรณไ์ ฟฟำ้ ไมส่ วมเครือ่ งประดับโลหะ ไม่ควรอยกู่ ลำงแจ้ง และไมค่ วรอยใู่ กลต้ น้ ไม้ขณะเกิดพำยุ ฝนฟ้ำคะนอง เพรำะอำจถูกฟ้ำผำ่ ได้

วาตภัย : ลักษณะภูมิประเทศท่ีเสีย่ งต่อการเกดิ วาตภยั บริเวณทีม่ คี วำมเส่ยี งตอ่ กำรเกดิ วำตภัย คอื แนวบรเิ วณท่ีร่อง ลมมรสุม ทงั้ ลมมรสมุ ตะวนั ออกเฉียงเหนือ และลมมรสมุ ตะวันตก เฉยี งใต้พัดผ่ำน

วาตภยั : การสงั เกตสถานการณ์วาตภัย กอ่ นเกดิ วาตภยั สภำพอำกำศจะร้อนอบอำ้ วติดต่อกนั หลำยวนั ลมคอ่ นขำ้ งสงบ มคี วำมชน้ื ในอำกำศสงู ท้องฟ้ำมืดคร้ึม มเี มฆมำก ขณะเกิดวาตภยั มพี ำยุรุนแรงเปน็ เวลำ 15-20 นำที มเี มฆมำก ลมกระโชก เปน็ ครง้ั ครำว ฝนตกหนัก มีฟำ้ แลบฟ้ำรอ้ ง และอำจมีลูกเหบ็ ตก หลงั เกิดวาตภัย เมอื่ พำยสุ งบ จะมีสภำพอำกำศทีเ่ ยน็ ลง ทอ้ งฟ้ำแจ่มใส

ดินโคลนถลม่ เป็นภัยธรรมชำตทิ ีม่ กั จะเกดิ ควบคู่กบั ฝนตกหนักหรอื ฝนตก ตดิ ต่อกันเป็นระยะเวลำนำน ส่งผลใหด้ นิ หรอื หินหลุด หรอื พังทลำยลงมำ

ดินโคลนถลม่ : สาเหตุ ดินโคลนถล่ม มีสำเหตุมำจำกกำรมีฝนตกติดต่อกัน เป็นเวลำนำน มีปริมำณน้ำฝนมำก ทำให้ดินและพืช ไม่สำมำรถอุ้มน้ำได้ทั้งหมด ส่งผลให้ดินกลำยสภำพ เปน็ ดนิ โคลน ไหลถลม่ ลงมำตำมควำมลำดชันของพ้นื ที่ ลงมำยงั พ้นื ทเ่ี บอ้ื งล่ำง

ดนิ โคลนถลม่ : ผลกระทบ ดนิ โคลนถลม่ ทมี่ คี วำมรุนแรง จะกอ่ ใหเ้ กิดควำมเสียหำย ต่อชีวิตและทรัพย์สิน อำคำร บ้ำนเรือนของผู้ที่อยู่อำศัย ในพืน้ ทป่ี ระสบภยั

ดนิ โคลนถล่ม : การเตรียมพร้อมรับมือ ไม่ตดั ไมท้ ำลำยป่ำ ไม่สรำ้ งบ้ำนหรอื สง่ิ กอ่ สรำ้ ง บริเวณที่ลำดเชิงเขำ หำกมี หำกพลัดตกลงไปในกระแสน้ำ ขวำงทำงนำ้ ฝนตกต่อเนอื่ งยำวนำน หำ้ มว่ำยทวนกระแสน้ำ ควรอพยพออกจำกพืน้ ที่ เพรำะจะถกู ต้นไมแ้ ละกอ้ นหิน ทีไ่ หลมำกระแทก

ดนิ โคลนถลม่ : ลักษณะภมู ปิ ระเทศท่ีเสีย่ งตอ่ การเกิดดินโคลนถล่ม บริเวณที่มคี วามเสีย่ งตอ่ การเกดิ ดินโคลนถลม่ - พนื้ ทีท่ ่ีมีควำมลำดชนั มำก เชน่ ภูเขำ หน้ำผำ หรือตำมไหล่เขำทมี่ ี กำรบุกรุกแลว้ ถำงเพ่อื ทำกำรเกษตร หรอื สรำ้ งทอ่ี ยอู่ ำศัย - พื้นที่ปำ่ ต้นนำ้ ลำธำรทีเ่ ป็นภูเขำสูง เหตดุ ินโคลนถล่มมกั จะเกดิ บริเวณตอนบนของประเทศ เชน่ ภำคเหนอื และภำคตะวนั ออกเฉียงเหนือ

ดินโคลนถล่ม : การสงั เกตสถานการณ์ดินโคลนถล่ม - เมอ่ื เกดิ ฝนตกหนกั ตอ่ เนอ่ื งยำวนำน แล้วนำ้ ในลำห้วยหรอื ลำธำรมคี วำมขุ่นมำก หรือมสี ีแดงขุ่น แสดงว่ำมีตะกอนดนิ ไหลปะปนมำ - หรอื มีเสยี งดังคลำ้ ยตน้ ไมล้ ้ม หรอื เสียงก้อนหินกลิ้งให้ระวังกำรเกิดเหตุดินโคลนถลม่

การจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และส่งิ แวดลอ้ มอยา่ งยั่งยนื

ทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกบั การดาเนินชีวิต ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม มีความสาคัญตอ่ การดาเนนิ ชีวิตอยา่ งไร ?

ความสาคัญของทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม แหลง่ ปจั จยั พนื้ ฐำนในกำรดำรงชวี ติ เปน็ ส่ิงกำหนดกำรต้งั ถ่ินฐำน กำรประกอบอำชีพ วิถชี วี ิต เป็นทพ่ี ักผอ่ นและประกอบกจิ กรรมต่ำงๆ เปน็ ทร่ี องรับของเสยี และของเหลือใช้จำกกระบวนกำรผลติ และบรโิ ภค

การเปลี่ยนแปลงของทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม สขุ ภำพอนำมยั ส่งผลกระทบต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์ กำรประกอบอำชพี กำรตง้ั ถิน่ ฐำน ทาไมเราจงึ ต้องดแู ล รักษาสิ่งแวดล้อม ?

แนวทางการจดั การทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม จากภาพนกั เรยี น คิดวา่ จะสง่ ผลอยา่ งไร ?

แนวทางการจดั การทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมในประเทศไทยอยา่ งย่งั ยืน มีกรอบแนวคดิ ในการปฏิบตั ิ ดังน้ี จดั ทาแผนแมบ่ ทโดยนาหลักปรชั ญา สร้างจติ สานกึ แห่งการอนรุ ักษ์ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ต์ ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม พฒั นาฐานข้อมูลสงิ่ แวดลอ้ มที่มี ส่งเสริมใหป้ ระชาชนทุกระดับ ประสทิ ธิภาพและทันสมัย มสี ว่ นรว่ มในการอนุรกั ษ์ ส่งเสริมการผลติ การบรโิ ภคสนิ ค้า และบรกิ ารท่เี ป็นมติ รกบั สงิ่ แวดลอ้ ม

จากัดการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ ใชม้ าตรการทางกฎหมาย ไม่ให้เกินศักยภาพของพ้ืนท่ี อย่างเคร่งครัด ส่งเสรมิ การศกึ ษา วิจัยเทคโนโลยี ส่งเสรมิ การรักษาความม่นั คง และนวัตกรรมดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ของฐานทรพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม ส่งเสริมการพฒั นาเมอื ง และชุมชนสีเขยี ว สง่ เสรมิ การใช้ประเพณี วัฒนธรรม และภมู ิปัญญาท้องถิน่ ในการอนุรกั ษ์ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม

แนวคิด 7R นากลับมาใชใ้ หม่ (Recycle) คิดใหม่ (Rethink) นำสิง่ ของที่ใชก้ ำรไมไ่ ดแ้ ลว้ ไปแปรสภำพ เชน่ นำขวดนำ้ มำทำเป็นกระถำงตน้ ไม้ มจี ิตสำนกึ ทด่ี ใี นกำรใชท้ รพั ยำกรธรรมชำติ และส่ิงแวดล้อม เช่น ซ้ือสินคำ้ ท่ีเปน็ มติ รกบั ลดการใช้ (Reduce) สงิ่ แวดล้อม ใช้ทรพั ยำกรเท่ำทีจ่ ำเป็น ตอบแทน (Return) เช่น ไม่เปิดน้ำทิ้งไว้ ทำให้ธรรมชำตกิ ลับมำมคี วำมสมบูรณ์ ซ่อมแซม (Repair) อกี ครง้ั เช่น ปลูกต้นไม้ ปล่อยลูกพนั ธุ์ สตั วน์ ้ำสู่แหล่งนำ้ ธรรมชำติ นำสง่ิ ท่ชี ำรดุ เสียหำยเล็กน้อยมำซอ่ มแซม เพื่อใช้งำน เช่น ปะ ชุน เสื้อและกำงเกง ใชซ้ ้า (Reuse) ทม่ี รี อยขำด กำรนำส่ิงของเดิมกลับมำใชซ้ ้ำๆ ปฏิเสธ (Reject) เชน่ นำขวดน้ำทด่ี มื่ นำ้ หมดแลว้ มำกรอกนำ้ ไวด้ ่มื ไมใ่ ช้สนิ ค้ำที่ทำลำยส่งิ แวดล้อม เชน่ ไมร่ บั ถุงพลำสตกิ เวลำไปซ้ือของ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook