คู่มอื การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ค่ายสนุกจดั เตม็ กบั สะเตม็ ศกึ ษา เรอื่ ง The young designer สแกนเพ่ืออ่าน E-book ปาลิตา โตศรีสวัสด์ิเกษม ศูนยว์ ทิ ยาศาสตร์เพื่อการศกึ ษาสระแกว้
ฐานการเรยี นรทู้ ี่ 11 เรอ่ื ง The young designer แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 11 เร่ือง The young designer จานวน 2 ชวั่ โมง
แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 11 เร่ือง The young designer เวลา 2 ชั่วโมง แนวคิด การตดั เยบ็ เสือ้ ผา้ เปน็ อาชีพหนงึ่ ทตี่ ้องอาศัยความรู้ทางคณติ ศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างย่งิ ความรู้ในเรอ่ื งการ วดั ความยาว การคิดคานวณ ความรพู้ ้นื ฐานเกยี่ วกบั รูปเรขาคณิตต่าง ๆ รวมถงึ การประมาณ ในการตัดเย็บ เส้อื ผ้า ตา่ ง ๆ น้ัน มีรปู แบบและวธิ ีการในการตัดเยบ็ ทม่ี ีความยากงา่ ยแตกตา่ งกนั การตัดเย็บกระโปรงเบ้ืองตน้ เชน่ กระโปรง วงกลม เปน็ ตวั อย่างของการตดั เยบ็ เสอ้ื ผ้าท่ีสามารถเข้าใจได้ไม่ยาก และสะท้อนใหเ้ หน็ การนาความรคู้ ณติ ศาสตร์ไปใช้ ในชวี ิตจริง วัตถุประสงค์ เมื่อส้นิ สุดแผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้นแี้ ล้ว ผู้รบั บริการสามารถ 1. เขา้ ใจและสามารถประยกุ ต์ใช้ความรเู้ รอ่ื งสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี วในการแก้ปญั หาเก่ยี วกบั วงกลมใน สถานการณท์ ่ีสนใจและสอดคลอ้ งกับชีวิตจรงิ 2. พัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี และใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หาเชงิ วิศวกรรมในการแกป้ ญั หาท่ีตอ้ งการ 3. พฒั นาทกั ษะท่จี าเป็นสาหรบั การดารงชีวติ และอาชพี เชน่ ทักษะการสืบค้นข้อมลู และการสารสนเทศ การคิดวิเคราะห์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาน การทางานเป็นทีม การออกแบบ การอา่ น การฟงั และการสื่อสารอยา่ งมี ประสิทธิภาพ เนือ้ หา 1. รูปวงกลม 2. การออกแบบตัดเย็บเสื้อผา้ ข้ันตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ขนั้ ตอนท่ี 1 กจิ กรรมการเรียนรปู้ ระสบการณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ (S : Science Experience Activity) 1. ผู้จดั กจิ กรรมทกั ทายและแนะนาตนเองกบั ผรู้ ับบรกิ าร และชแี้ จงวัตถปุ ระสงคข์ องฐานการ เรียนรู้ท่ี 11 เร่อื ง The young designer ได้แก่ (1) อธิบายจานวนจรงิ และการแก้สมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียวมาประยุกตใ์ ช้กับการออกแบบตัดเยบ็ กระโปรงวงกลม (2) อธิบายการออกแบบ (3) อธิบายการสร้างแบบกระโปรงวงกลม (4) ลักษณะของเนอ้ื ผ้าที่ใช้ตดั กระโปรงวงกลม 2. ผ้จู ดั กิจกรรมซกั ถามประสบการณ์เดิมของผู้รบั บริการเก่ยี วกับเรอ่ื งท่จี ะเรยี นรู้โดยส่มุ ผู้รบั บรกิ ารจานวน 3-5 คน ตามความสมัครใจให้ตอบคาถาม จานวน 3 ประเด็นดังน้ี ประเดน็ ที่ 1 “อาชีพที่ตอ้ งใชค้ วามรู้ทางคณิตศาสตรม์ ีอาชพี ใดบ้าง” ประเดน็ ท่ี 2 “รู้จกั กระโปรงยว้ ยวงกลมหรอื ไม”่ ประเดน็ ท่ี 3 “ควรใชล้ ักษณะเนื้อผ้าแบบใด”
3. ผู้จัดกิจกรรมและผู้รบั บริการ แลกเปล่ียนความคิดเห็น และสรปุ สง่ิ ทีไ่ ด้เรียนร้รู ่วมกัน ข้ันตอนที่ 2 กิจกรรมการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรท์ ีท่ ้าทาย (C : Challenge Learning Activity) 1. ผูจ้ ัดกจิ กรรมรว่ มกนั อภิปรายเกีย่ วกบั ปญั หาใกล้ตัวและความตอ้ งการของผู้เรยี น เพือ่ คน้ หาและสร้าง สถานการณ์สาหรบั กจิ กรรมสะเต็มศึกษา 2. ผจู้ ัดกจิ กรรมแบง่ ผเู้ รียนออกเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 5-10 คน 3. ผรู้ บั บริการทาความเขา้ ใจสถานการณท์ ่กี าหนดให้ “ ผู้รบั บริการเปน็ ดไี ซเนอร์ที่ตอ้ งการจะเขา้ รว่ มการประกวด The Young Designer Contest โดยในการแข่งขนั ครั้งนี้ เป็นการแข่งขนั การออกแบบกระโปรงแบบร่วมสมัย โดยมีข้อกาหนดวา่ จะต้องเปน็ กระโปรงวงกลม ความยาวระดับเข่า และมคี วามสวยงามเหมาะสมกับนางแบบ ผู้เรียน จึงตอ้ งออกแบบแพทเทิรน์ และตัดกระโปรงให้เหมาะสมกบั นางแบบทเี่ ลือกไว้ เพื่อใหช้ นะการ ประกวดครัง้ น้ี” 4. ผู้รบั บริการพยากรณ์วา่ ถา้ คล่ีกระโปรงวงกลมใหช้ ายกระโปรงอยู่ในระดบั เดียวกนั จากน้ันวางกระโปรงให้ ราบไปกบั พนื้ แลว้ มองจากด้านบน ภาพทมี่ องเห็นจะมลี ักษณะอย่างไร เพราะเหตุใด แล้ววาดภาพประกอบคาอธิบาย 5. ผรู้ ับบริการทากิจกรรมเพ่อื ตรวจสอบการพยากรณแ์ ละคน้ หาความสัมพนั ธข์ องกระโปรงในลกั ษณะอ่ืน ๆ เมื่อกาหนดภาพของกระโปรงทคี่ ลี่แล้ววางราบบนพน้ื แล้วให้ผู้รับบรกิ ารพยากรณ์โดยวาดภาพของกระโปรงเมอื่ ยก กระโปรงในแตล่ ะภาพขึน้ มา บันทกึ ผลการพยากรณ์ในใบบนั ทึกกิจกรรมที่ 1 6. ผ้รู ับบริการนาผา้ รูปแบบตา่ ง ๆ ท่ีผจู้ ัดกจิ กรรมแจกใหส้ วมทีข่ วดนา้ 4 ขวด ขวดละ 1 ผนื สงั เกตและวาด ภาพลกั ษณะของผ้าท่ีเกิดขนึ้ บนขวดแต่ละใบ จากนน้ั เปรียบเทียบส่งิ ทสี่ งั เกตไดก้ บั ที่พยากรณไ์ วใ้ นตอนแรกและอธิบาย ความแตกต่างระหวา่ งสงิ่ ทพ่ี ยากรณไ์ วก้ บั สง่ิ ท่สี ังเกตได้ แลว้ เชอ่ื มโยง และลงความเหน็ ว่า แบบรปู (pattern) ของ กระโปรงยว้ ยควรเปน็ แบบใด จงึ จะไดก้ ระโปรงยว้ ยวงกลมทตี่ อ้ งการบันทึกผลการทดลองในใบบนั ทึกกจิ กรรมท่ี 1 7. ผรู้ บั บรกิ ารหาขอ้ มูลต่าง ๆ ทีไ่ ด้จากการสบื คน้ มาออกแบบกระโปรงยว้ ยวงกลม วัสดุทีต่ อ้ งใช้ ปรมิ าณของ วัสดุ แต่ละชนิดทต่ี อ้ งการใช้ รวมถึงแสดงการคานวณหารัศมขี องวงกลมที่แสดงความยาวรอบเอวและวงกลมทแ่ี ทนขอบ กระโปรง จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ เลือกสมาชิก 1 คน เพอ่ื เป็นหนุ่ สาหรับการออกแบบกระโปรง แลว้ บันทึกกจิ กรรมที่ 2 8. ผรู้ ับบรกิ ารแต่ละกลมุ่ วางแผนในการสร้างกระโปรงยว้ ยวงกลม แลว้ เขียนข้นั ตอนการทางาน ระบุเวลาทต่ี อ้ ง ใช้ในแต่ละขน้ั ตอนโดยประมาณ พรอ้ มทั้งระบุผู้ที่รบั ผดิ ชอบในขน้ั ตอนน้นั ๆ และช่วยกันระดมความคิดเกีย่ วกบั ปัญหา และอปุ สรรคต่าง ๆ ในระหวา่ งทีล่ งมอื สร้างแบบจาลองลงในบันทกึ กิจกรรมที่ 3 9. ผู้รบั บริการนาแบบจาลองท่ไี ดม้ าทดสอบโดยใหเ้ พื่อนทรี่ ับบทบาทเป็นหนุ่ สวมกระโปรง จากนน้ั ชว่ ยกนั
สงั เกตลกั ษณะของแบบจาลองกระโปรง เชน่ มคี วามเหมาะสมกับหุ่นที่สวมใส่ หากพบปญั หาวา่ แบบจาลองท่ีสรา้ งข้ึนยงั ไมเ่ ป็นไปตามเงอ่ื นไข ใหช้ ่วยกนั หาแนวทางปรบั แกแ้ บบจาลอง บนั ทึกสง่ิ ทีส่ งั เกตและแนวทางแก้ไขลงในบนั ทกึ กิจกรรม ท่ี 4 10. ผู้รบั บริการช่วยกันพจิ ารณาว่ากระโปรงยว้ ยวงกลมตามแบบจาลองนี้ ควรจะเลือกใชผ้ ้าชนดิ ใดที่มีความพล้ิว ไหว โดยให้แต่ละกลุม่ สืบค้นหาขอ้ มูลหาคุณสมบัติของผา้ ท่ีจะนามาตัดกระโปรงยว้ ยวงกลม กอ่ นตดั สนิ ใจเลือกผา้ ทจ่ี ะใช้ ทากระโปรง โดยใหเ้ หตุผลประกอบการพิจารณาเลอื กเนอ้ื ผา้ ดว้ ย 11. ผรู้ ับบรกิ ารแต่ละกลุม่ นาเสนอผลงาน ซงึ่ อาจนาเสนอโดยใชโ้ ปสเตอรห์ รือจัดการประกวดผลงานทงั้ นี้ต้อง นาเสนอในประเด็นต่าง ๆ ต่อไปน้ี ประเดน็ ท่ี 1 วธิ กี ารในการหารัศมีของวงกลมวงใน รัศมีของวงกลมวงนอก และจานวนกระดาษปรฟู๊ ทีใ่ ช้ ประเดน็ ที่ 2 ข้นั ตอนการออกแบบ แนวคดิ และแรงบนั ดาลใจในการสร้างลวดลาย ประเด็นท่ี 3 ปญั หาและอปุ สรรคทเ่ี กิดขนึ้ ระหวา่ งการทางาน และแนวทางในการแกไ้ ข ขน้ั ตอนที่ 3 กิจกรรมการสรปุ ผลการนาวทิ ยาศาสตร์ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวัน (I : Implementation Conclusion Activity) 1. ใหผ้ ู้รบั บรกิ ารตอบคาถามโดยสุม่ ผู้รับบริการ จานวน 3 – 5 คน ตามความสมัครใจ ให้ตอบ คาถามในประเดน็ “ท่านจะนาความรู้ เร่อื ง The young designer ไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาวนั อย่างไร” 2. ผู้จดั กจิ กรรมและผรู้ บั บรกิ ารสรุปร่วมกัน สื่อ วสั ดอุ ปุ กรณ์ และแหล่งเรียนรู้ 1. ใบความรู้สาหรบั ผู้จดั กิจกรรม เรอ่ื ง รูปวงกลม 2. ใบความรสู้ าหรับผู้จัดกิจกรรม เรอ่ื ง การออกแบบ 3. ใบความรสู้ าหรับผู้รับบริการ เร่ือง รูปวงกลม 4. ใบความรสู้ าหรบั ผู้จัดบรกิ าร เรือ่ ง การออกแบบ 5. ใบกจิ กรรม เรอ่ื ง การออกแบบตดั เยบ็ กระโปรงย้วยวงกลม 6. กระดาษปรฟู๊ ขนาด 31 น้ิว x 43 นว้ิ 7. สายวดั 8. ยางลบ 9. ดนิ สอ 10. วงเวียน 11. กรรไกร 12. กาวสองหนา้ แบบบาง 13. เทปใส 14. สไี ม้หรอื สีเมจิก 15. กระดาษสี คละสี 16. เมจิกเทป (เทปตนี ต๊กุ แก) 17. ทีเ่ ยบ็ กระดาษ 18. ตวั อยา่ งผา้ ตา่ งเนือ้ และต่างสี
การวดั และประเมนิ ผล 1. สงั เกตการณ์มีส่วนร่วมของผ้รู ับบรกิ าร 2. ชิน้ งาน/ผลงาน 3. ความค้มุ คา่ 4. การนาเสนอ 5. ทกั ษะและความคิดสรา้ งสรรค์
บนั ทกึ ผลหลงั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ ผลการใช้แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ 1. จานวนเน้ือหากบั จานวนเวลา เหมาะสม ไม่เหมาะสม ระบุเหตผุ ล ................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................... 2. การเรยี งลาดับเน้ือหากบั ความเขา้ ใจของผรู้ บั บรกิ าร เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ระบเุ หตผุ ล ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 3. การนาเข้าสบู่ ทเรยี นกบั เนอ้ื หาแต่ละหัวข้อ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ระบเุ หตุผล ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 4. วิธีการจัดกิจกรรมการเรยี นร้กู บั เนื้อหาในแตล่ ะขอ้ เหมาะสม ไม่เหมาะสม ระบเุ หตุผล ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. 5. การประเมนิ ผลกับวัตถปุ ระสงค์ในแต่ละเนอื้ หา เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม ระบเุ หตผุ ล ................................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................. ผลการเรียนรู้ของผู้รบั บรกิ าร ........................................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................... ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรขู้ องผู้จดั กจิ กรรม ........................................................................................................................................................................................ ...................................................................................................................................................... ขอ้ เสนอแนะ ............................................................................................................................................................................................... ...............................................................................................................................................
ใบความรู้สาหรบั ผู้จดั กิจกรรม เร่อื ง รูปวงกลม (circle) 1. รปู วงกลม (circle) วงกลม คือ รปู รา่ งทางเรขาคณิตรปู แบบหน่ึง เป็นรูปปดิ ไม่มมี มุ สามารถวาดได้โดยกาหนดจดุ ศูนย์กลาง ข้ึนมา 1 จดุ จากนั้นจึงลากเส้นใหม้ รี ะยะห่างจากจุดนเ้ี ท่ากนั โดยตลอด วนรอบจุดศนู ย์กลางจนกลับมาถึงจดุ เร่ิมตน้ โดย ระยะหา่ งจากจดุ ศนู ยก์ ลางนมี้ ีช่อื เรียกวา่ “รศั มี” 2. สว่ นประกอบของวงกลม เสน้ รอบ คอร์ด วง จดุ ศนู ย์กลาง รศั มี เสน้ ผา่ ศูนย์กลาง เซกเตอร์ 2.1 จุดศนู ยก์ ลางของวงกลม (centralpoint) คอื จุดทอ่ี ยูต่ รงกลาง และหา่ งจากเส้นรอบวงเท่ากนั โดยตลอด (ในวงกลมหนึ่งๆจะมจี ุดศูนยก์ ลางได้เพียงจดุ เดียว) 2.2 รัศมี (radius ; r) คอื ส่วนของเสน้ ตรงที่ลากจากจุดศูนยก์ ลางไปยังเส้นรอบวง รศั มีแตล่ ะเส้นยาวเทา่ กนั (ในรปู วงกลมจะมรี ัศมมี ากมายนับไมถ่ ว้ น) 2.3 เส้นผ่านจุดศนู ยก์ ลาง (diameter) คือ สว่ นของเส้นตรงท่ลี ากจากเสน้ รอบวงด้านหนึง่ โดยผ่านจุดศนู ยก์ ลาง ไปยังเส้นรอบวงอีกดา้ นหนงึ่ (เสน้ ผา่ นจดุ ศนู ย์กลางยาวเปน็ สองเทา่ ของรศั ม)ี 2.4 คอร์ด (chord) คือ ส่วนของเส้นตรงทล่ี ากจากเส้นรอบวงดา้ นหน่ึงไปยงั เสน้ รอบวงอกี ด้านหนงึ่ โดยทีจ่ ดุ ปลายท้งั สองอย่บู นวงกลมเดียวกัน (ในวงกลมใด ๆ คอรด์ ทย่ี าวที่สุดคือเสน้ ผ่านจุดศูนยข์ องวงกลมนนั้ ) 2.5 เซกเตอร์ (segter) คือ ส่วนของวงกลมที่เกิดจากเสน้ รอบวงและเสน้ รัศมสี องเสน้ เปน็ รปู สามเหลี่ยมฐานโค้ง (พ้ืนทที่ อ่ี ยภู่ ายในสามเหล่ยี มฐานโคง้ ) 2.6 เซกเมนต์ (segment) คือ ส่วนของวงกลมท่ีเกิดจากคอรด์ และเสน้ รอบวง (พืน้ ทท่ี ีอ่ ย่รู ะหวา่ งเสน้ รอบรปู กับ คอรด์ ) 2.7 อาร์ค (arc) คือ สว่ นของเสน้ รอบวง (สว่ นใดส่วนหน่งึ ของเส้นรอบวงกลม)
3. การหาความยาวเสน้ รอบรูป การหาความยาวเส้นรอบรปู จาก = 22 = 3.14 7 การหาความยาวเสน้ รอบรูป จาก 2 r เมอื่ r = รศั มี 4. พ้ืนท่วี งกลม พื้นทีว่ งกลม = πr2 5. พืน้ ท่ีวงแหวน พื้นท่วี งแหวน πR2 - πr2 = π(R2-r2) (เมือ่ R = รัศมีวงกลมใหญ่ , r = รศั มีวงกลมเลก็ ) 6. ส่ิงท่ีควรทราบเกย่ี วกับวงกลม 6.1 รัศมีวงกลมเดียวกนั ย่อมเท่ากัน 6.2 เสน้ ผา่ ศนู ย์กลางยาวเป็นสองเท่าของรัศมี 6.3 คอรด์ ยาวท่ีสุดของวงกลม คอื เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 6.4 มมุ ในครึ่งวงกลมเปน็ มุมฉากเสมอ 6.5 วงกลม 2 วงสัมผัสกนั ได้ที่จดุ เดยี วกัน 6.6 วงกลม 2 วงตัดกันไดเ้ พียง 2 จุดเทา่ กัน 6.7 เส้นผา่ ศนู ย์กลางของวงกลม จะแบ่งวงกลมออกเป็น 2 สว่ นเทา่ ๆ กนั แต่ละส่วนเรยี กวา่ \" ครึ่งวงกลม\" 6.8. ถา้ ใช้รัศมีของวงกลมตดั เส้นรอบวง จะแบง่ เส้นรอบวงออกเปน็ 6 ส่วน เทา่ ๆ กัน 6.9 วงกลมขนาดเท่ากัน 3 วงตัดกนั โดยใหเ้ สน้ รอบวงกลมแตล่ ะวงผ่านจดุ ศนู ย์กลางของอกี 2 วง และเมื่อ ตอ่ เช่ือม จดุ ตัดนัน้ แล้ว จะเกดิ รูปสามเหล่ยี มดา้ นเทา่ 6.10 วงกลม 2 วง มจี ดุ ศนู ย์กลางรว่ มกัน แต่ความยาวของรศั มีไม่เท่ากัน จะเกิดวงแหวนข้นึ
ตวั อยา่ ง วงกลมวงหนึ่ง มรี ัศมียาว 7 เซนตเิ มตร จะมคี วามยาวของเสน้ รอบวงเท่าไร รศั มคี อื r = 7 เส้นรอบรูปของวงกลม = 2πr เส้นรอบรูปของวงกลม = 2 x 22/7 x 7 เส้นรอบรูปของวงกลม = 44 เซนตเิ มตร ตอบ ๔๔ เซนตเิ มตร
ใบความรสู้ าหรับผ้รู ับบรกิ าร เรือ่ ง รูปวงกลม (circle) 1. รปู วงกลม (circle) วงกลม คือ รปู รา่ งทางเรขาคณิตรูปแบบหนึง่ เปน็ รปู ปิด ไม่มมี ุม สามารถวาดไดโ้ ดยกาหนดจดุ ศูนย์กลาง ขึ้นมา 1 จุด จากนั้นจึงลากเสน้ ใหม้ รี ะยะหา่ งจากจดุ น้ีเท่ากันโดยตลอด วนรอบจดุ ศูนย์กลางจนกลับมาถงึ จดุ เริม่ ตน้ โดย ระยะหา่ งจากจดุ ศนู ยก์ ลางนม้ี ีช่ือเรียกว่า “รศั มี” 2. สว่ นประกอบของวงกลม เส้นรอบ คอร์ด วง จุดศนู ยก์ ลาง รศั มี เสน้ ผา่ ศูนย์กลาง เซกเตอร์ 2.1 จุดศนู ยก์ ลางของวงกลม (centralpoint) คือ จดุ ที่อยูต่ รงกลาง และห่างจากเสน้ รอบวงเทา่ กันโดยตลอด (ในวงกลมหนึ่งๆจะมจี ดุ ศนู ย์กลางได้เพยี งจุดเดยี ว) 2.2 รัศมี (radius ; r) คอื ส่วนของเสน้ ตรงทลี่ ากจากจดุ ศนู ยก์ ลางไปยังเส้นรอบวง รัศมีแตล่ ะเส้นยาวเท่ากัน (ในรปู วงกลมจะมรี ัศมีมากมายนบั ไม่ถ้วน) 2.3 เส้นผ่านจดุ ศนู ย์กลาง (diameter) คอื ส่วนของเส้นตรงท่ลี ากจากเส้นรอบวงด้านหนง่ึ โดยผา่ นจดุ ศูนยก์ ลาง ไปยังเสน้ รอบวงอกี ดา้ นหนง่ึ (เส้นผา่ นจุดศูนยก์ ลางยาวเป็นสองเท่าของรศั มี) 2.4 คอร์ด (chord) คือ ส่วนของเสน้ ตรงท่ีลากจากเสน้ รอบวงด้านหน่งึ ไปยงั เส้นรอบวงอีกด้านหนงึ่ โดยท่ีจดุ ปลายทง้ั สองอย่บู นวงกลมเดียวกนั (ในวงกลมใด ๆ คอรด์ ที่ยาวท่สี ดุ คือเส้นผ่านจุดศูนยข์ องวงกลมนัน้ ) 2.5 เซกเตอร์ (segter) คอื สว่ นของวงกลมทีเ่ กดิ จากเส้นรอบวงและเสน้ รัศมสี องเสน้ เป็นรูปสามเหลี่ยมฐานโค้ง (พนื้ ท่ที ่ีอยู่ภายในสามเหลี่ยมฐานโค้ง) 2.6 เซกเมนต์ (segment) คือ ส่วนของวงกลมทเ่ี กิดจากคอรด์ และเสน้ รอบวง (พื้นที่ท่อี ยรู่ ะหวา่ งเส้นรอบรปู กบั คอร์ด) 2.7 อาร์ค (arc) คือ ส่วนของเสน้ รอบวง (ส่วนใดส่วนหนึ่งของเส้นรอบวงกลม)
3. การหาความยาวเสน้ รอบรูป การหาความยาวเส้นรอบรปู จาก = 22 = 3.14 7 การหาความยาวเสน้ รอบรูป จาก 2 r เมอื่ r = รศั มี 4. พ้ืนท่วี งกลม พื้นทีว่ งกลม = πr2 5. พืน้ ท่ีวงแหวน พื้นท่วี งแหวน πR2 - πr2 = π(R2-r2) (เมือ่ R = รัศมีวงกลมใหญ่ , r = รศั มีวงกลมเลก็ ) 6. ส่ิงท่ีควรทราบเกย่ี วกับวงกลม 6.1 รัศมีวงกลมเดียวกนั ย่อมเท่ากัน 6.2 เสน้ ผา่ ศนู ย์กลางยาวเป็นสองเท่าของรัศมี 6.3 คอรด์ ยาวท่ีสุดของวงกลม คอื เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง 6.4 มมุ ในครึ่งวงกลมเปน็ มุมฉากเสมอ 6.5 วงกลม 2 วงสัมผัสกนั ได้ที่จดุ เดยี วกัน 6.6 วงกลม 2 วงตัดกันไดเ้ พียง 2 จุดเทา่ กัน 6.7 เส้นผา่ ศนู ย์กลางของวงกลม จะแบ่งวงกลมออกเป็น 2 สว่ นเทา่ ๆ กนั แต่ละส่วนเรยี กวา่ \" ครึ่งวงกลม\" 6.8. ถา้ ใช้รัศมีของวงกลมตดั เส้นรอบวง จะแบง่ เส้นรอบวงออกเปน็ 6 ส่วน เทา่ ๆ กัน 6.9 วงกลมขนาดเท่ากัน 3 วงตัดกนั โดยใหเ้ สน้ รอบวงกลมแตล่ ะวงผ่านจดุ ศนู ย์กลางของอกี 2 วง และเมื่อ ตอ่ เช่ือม จดุ ตัดนัน้ แล้ว จะเกดิ รูปสามเหล่ยี มดา้ นเทา่ 6.10 วงกลม 2 วง มจี ดุ ศนู ย์กลางรว่ มกัน แต่ความยาวของรศั มีไม่เท่ากัน จะเกิดวงแหวนข้นึ
ตวั อยา่ ง วงกลมวงหนึ่ง มรี ัศมียาว 7 เซนตเิ มตร จะมคี วามยาวของเสน้ รอบวงเท่าไร รศั มคี อื r = 7 เส้นรอบรูปของวงกลม = 2πr เส้นรอบรูปของวงกลม = 2 x 22/7 x 7 เส้นรอบรูปของวงกลม = 44 เซนตเิ มตร ตอบ ๔๔ เซนตเิ มตร
ใบความรู้สาหรบั ผจู้ ัดกจิ กรรม เรือ่ ง การออกแบบ (Design) การออกแบบ หมายถึง การสร้างสรรค์ผลงานในรูป 2 มิติ และ 3 มิติ ใหเ้ กิดความสวยงาม และ ถ่ายทอดรูปแบบ จากความคิดออกมาเป็นผลงานท่ผี ู้อน่ื สามารถมองเหน็ รบั รู้ หรือสัมผสั ได้ เพอ่ื ให้มคี วามเข้าใจในผลงานร่วมกนั และ เป็น การสร้างสรรค์ผลงานขน้ึ ไมล่ อกเลียนของเดมิ หรือความคิดเดิมท่ีมีมาก่อน เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการด้านประโยชน์ใช้ สอย หรือความต้องการดา้ นอืน่ ๆ ความหมายของการออกแบบเสื้อผา้ เครอื่ งแตง่ กาย ตรงกับคาศัพทภ์ าษาอังกฤษวา่ Fashion Design หรือ Costume Design ในวงการ การออกแบบเสือ้ ผ้าเครื่องแต่งกาย ได้มีการนาคาศัพท์ เหล่าน้ีมาใชเ้ รียกทบั ศัพท์อยู่เสมอ ซงึ่ ความหมายคาศพั ท์ท่ีนยิ มนามาใช้ ได้แก่ คาวา่ Fashion, Costume, Design ความสาคญั ของการ ออกแบบเสื้อผ้า มอี ย่หู ลายประการ กล่าวคอื 1. ในแงข่ องการวางแผนการการทางาน งานออกแบบเสือ้ ผ้าจะชว่ ยให้การทางานเปน็ ไปตามขัน้ ตอนอยา่ ง เหมาะสมและประหยดั เวลาดังนั้นอาจถือวา่ การ ออกแบบเสอ้ื ผ้า คอื การวางแผนการทางานก็ได้ 2. ในแงข่ องการนาเสนอผลงาน ผลงาน ออกแบบเส้อื ผ้าจะช่วยให้ผเู้ กี่ยวขอ้ งมีความเข้าใจตรงกันอยา่ งชัดเจน ดังนั้น ความสาคญั ในด้านนี้ คือเปน็ สื่อความหมายเพื่อความเข้าใจระหวา่ งกนั 3. เปน็ สิ่งท่ีอธิบายรายละเอียดเก่ียวกับงาน งานบางประเภทอาจมรี ายละเอียดมากมายซับซอ้ น ผลงานการ ออกแบบเส้ือผ้าจะช่วยให้ผู้เกย่ี วข้อง และผูพ้ บเห็นมีความเขา้ ใจท่ีชัดเจนข้ึน หรอื อาจกลา่ วไดว้ ่า ผลงานออกแบบเส้อื ผ้า คือตัวแทนความคดิ ของูผอู อกแบบเสือ้ ผ้าไดท้ งั้ หมด 4. แบบ จะมีความสาคัญอย่างทส่ี ดุ ในกรณีทนี่ ักออกแบบเส้อื ผา้ กับผสู้ รา้ งงานหรอื ผู้ผลิตเป็นคนละคนกัน เช่น สถาปนกิ กบั ช่างก่อสรา้ ง นักออกแบบเสื้อผ้ากับผู้ผลิตในโรงงานหรือถา้ จะเปรียบไปแลว้ นกั ออกแบบเส้อื ผ้ากเ็ หมือนกบั คนเขียนบทละครนั่นเอง ที่มา : https://missfriendly.co/บล็อก/การออกแบบหมายถึงอะไร/ 5 ข้นั ตอนง่าย ๆ สู่การเป็นนกั ออกแบบเสอ้ื ผา้ แฟชัน่ มอื อาชพี “นกั ออกแบบ” เปน็ กล่มุ อาชีพที่หลายคนคิดว่าเปน็ ได้ยาก หลายคนคิดวา่ ทาไม่ได้แน่นอน ตอ้ งเปน็ คนทีเ่ กดิ มา พรอ้ มกับพรสวรรคเ์ ท่าน้นั ที่สามารถทาได้ ซ่งึ จริง ๆ แลว้ ไม่ใชเ่ ลย ความเป็นจรงิ ใคร ๆ ก็สามารถเป็นนักออกแบบได้ ทุก คนมีพรสวรรคท์ ต่ี ิดตวั ตัง้ แต่เกิด เพียงแตเ่ ราอาจจะยังไม่คน้ พบวิธีการนาพรสวรรค์เหล่าน้นั มาใช้ให้ถกู วธิ เี ทา่ น้ันเอง บางคนค้นพบตัวเองวา่ อยากให้โลกน้ีมสี ินคา้ ทเ่ี ราออกแบบเองต้ังแต่ยงั เดก็ ยังเรียนอยรู่ ะดบั ช้ันมัธยม บางคนคน้ พบว่า ตวั เองอยากเป็นนกั ออกแบบเมือ่ เรยี นจบปริญญาตรี ในขณะทบ่ี างคนคน้ พบว่าอยากเปน็ นักออกแบบในวัยทางาน เราต่าง มีชว่ งเวลาและเหตุผลในการเปน็ นักออกแบบที่ต่างกัน “ความคดิ ริเริ่ม” คอื ส่ิงทน่ี กั ออกแบบต้องมี ไม่ว่าคณุ จะอยากเป็น นกั ออกแบบเสอื้ ผ้าแฟชน่ั นักออกแบบ ตกแต่งภายใน หรอื นักออกแบบผลิตภณั ฑ์ บุคลิกของนักออกแบบในแตล่ ะสายอาชพี อาจจะแตกต่างกัน แตส่ ่งิ หนงึ่ ที่นัก ออกแบบทกุ คนมเี หมอื นกันทุกสายอาชีพการออกแบบ คือ ความคดิ สร้างสรรค์ หรอื ที่เราเรียกว่า “ความเพ้อเจอ้ ” ความคิดเพ้อเจ้อน่แี หละ เปน็ องค์ประกอบสาคญั ในการเป็นนักออกแบบ เราตอ้ งกลา้ ทจ่ี ะมีความคิดสร้างสรรค์ คิดในสิง่ ทย่ี ังไม่มีใครคิด ทาในส่งิ ทีย่ งั ไม่มีใครทา ใหอ้ อกมาแปลกใหมแ่ ละใชไ้ ด้จรงิ ใหไ้ ดม้ ากทสี่ ุด ยิ่งในยคุ ปัจจบุ ัน การคิดและ “เรม่ิ ทา” ในส่งิ ท่ยี ังไม่มใี ครทาเป็นเจ้าแรก ๆ จะไดเ้ ปรียบมาก เราจะ กลายเปน็ ผนู้ าแฟชั่นในทนั ที
เชือ่ ว่าหลาย ๆ คนเคยมีไอเดียอยากทาเสื้อผา้ แฟชน่ั ดไี ซน์ของเราเอง มคี ลอเลคช่นั เส้ือผ้าทีเ่ ราเองเปน็ คน ออกแบบไมเ่ หมือนใคร ไมซ่ ้าใคร ได้เลอื กเนอ้ื ผ้าท่ีเราชอบ ดไี ซน์ทเี่ ราชอบ และอยากให้คนอนื่ ไดล้ องสวมใสเ่ สอื้ ผา้ ของเรา แตห่ ลายคร้ังท่เี ราถอดใจและคิดว่าเปน็ ไปไม่ได้ เพราะเราคิดไปเองวา่ กวา่ จะทาเสอ้ื ออกมาไดแ้ ตล่ ะตัวยากมากอยา่ งกบั เข็นครกขึ้นภูเขาเลยทเี ดยี ว เราทาไดแ้ ค่คิด แลว้ ปลอ่ ยมนั ผา่ นเลยไป ซึง่ จริง ๆ แล้ว ขั้นตอนในการทาเสอ้ื ผ้าแฟช่นั ดีไซน์ของเราเอง มเี พยี ง 5 ข้ันตอนง่าย ๆ ดังน้ี 1. การออกแบบและสเก็ตช์ภาพ เราสามารถนาแรงบนั ดาลใจจากสิ่งต่าง ๆ ท่ีเราพบเจอในชีวติ ประจาวนั มา ออกแบบเป็นเส้ือผ้าแฟชัน่ สไตล์ตัวเอง ส่งิ สาคัญของการออกแบบคอื การวาดหรือสเก็ตภาพออกมาเพอ่ื เปน็ ตน้ แบบของ การทาเส้ือผ้า เนอื่ งจากภาพสเกต็ นเ้ี องจะเป็นตัวบอกถึงลาดบั ขั้นในการทาตอ่ ไป เมื่อวาดแบบเสร็จแลว้ จะเปน็ ขั้นตอน ถดั ไปคือการลงสี หรอื เลอื กสี ซ่ึง Fashion Design แตล่ ะคนมีรูปแบบและการทางานทแ่ี ตกต่างกันไป แตเ่ ปน็ คอนเซป็ ต์ คอื การทาให้จนิ ตนาการเหน็ ภาพมากข้ึนกอ่ นท่จี ะผลิตเสื้อผ้าออกมาจริง 2. การทาแพทเทิร์น ปจั จุบนั วิธีการทาแพทเทิรน์ จะแบง่ ออกเปน็ 2 วธิ หี ลัก วธิ ที ่ี 1 วาดแบบแพทเทริ น์ ลงในกระดาษทาแพทเทิร์น วธิ ีนเ้ี หมาะสาหรบั นักออกแบบเส้ือผ้าแฟชนั่ ท่ีชานาญแล้ว สามารถวัด และกาหนดขนาดของ องคป์ ระกอบแต่ละส่วนของเสอื้ ได้ วธิ ีที่ 2 ใช้โปรแกรมสาเร็จรูปในการออกแบบแพทเทิรน์ เส้อื ผ้า วธิ นี ้เี หมาะสาหรับนกั ออกแบบเสอ้ื ผา้ แฟช่นั มอื ใหมท่ ย่ี งั ไม่ชานาญ เรื่องขนาดขององคป์ ระกอบแตล่ ะส่วนของเสื้อ นกั ออกแบบเส้อื ผ้าแฟชนั่ มอื ใหมส่ ามารถทา แพทเทริ ์นเส้อื ผ้าได้ดว้ ยตวั เอง โดยใช้ 5 โปรแกรมยอดนิยมทีใ่ ช้ในการการออกแบบแพทเทริ ์นเส้อื ผ้า อาทิ เชน่ CAD Pattern Design, Poly Pattern Design, Fashion Design Software, TexPro Design CAD System Textile หรอื Lectra Modaris Pattern
3. การทดลองสวมใส่จรงิ (FITTING) หากเราเคยตัดเสือ้ ผ้าในห้องเสอ้ื ท่มี มี าตรฐาน คงจะพอจากันได้วา่ หลงั จาก การวัดตวั คร้ังแรกไปซักระยะหนง่ึ ทางรา้ นจะใหเ้ ขา้ ไปที่รา้ นเพ่อื ทาการลองชุด ซ่งึ ชดุ ที่ใหล้ องในครั้งแรกนีจ้ ะเปน็ ชุดทเ่ี ย็บ แบบชว่ั คราว เพือ่ ให้ช่างตดั เสื้อไดด้ ูผลงานแบบคร่าว ๆ และแกไ้ ขจดุ ท่ีผิดพลาดไดท้ ันท่วงทหี ลังจากการวดั ไซส์ในคร้งั แรก เน่ืองจากถา้ หากตัดเย็บจรงิ ไปแลว้ เกดิ ความผดิ พลาดขนึ้ อาจจะตอ้ งเริม่ ต้นใหมห่ มดขน้ั ตอน ทาให้ข้นั ตอน Fitting นขี้ น้ึ 4. การตัดเย็บและผลิต เมื่อเราออกแบบ และทาแพทเทริ ์นเรียบรอ้ ยแลว้ เรากเ็ รม่ิ ข้ันตอนที่ 4 นั่นคือ ขั้นตอน การผลิต การผลิตเส้ือผ้าแฟชนั่ นักออกแบบสามารถตัดเยบ็ และผลติ ได้ดว้ ยตัวเอง ซึง่ ต้องใช้ความเชียวชาญ และการ แกไ้ ขปัญหาเฉพาะหนา้ อยา่ งมากเน่ืองจากการผลิตชนิ้ งานจริงไมไ่ ด้เปน็ งานที่ Routine 5. อัพเดทแฟช่ันและฝกึ ฝน นักออกแบบเส้อื ผ้าต้องคอย อัพเดทแฟชนั่ เสมอ เมื่อเราจบขัน้ ตอนท่ี 5 ก็ย้อนกลับ ไปข้ันตอนท่ี 1 ทาอยา่ งน้วี นไปเร่อื ย ๆ เส้อื ผ้าทเี่ ราออกแบบจะได้อินเทรนด์ สามารถใชไ้ ดท้ กุ โอกาส และการทาซ้าบอ่ ย ๆ นีเ่ องกเ็ ปน็ การฝกึ ฝนทาให้มีความเชยี วชาญและประสบการณ์ท่ีมากขึ้น นกั ออกแบบท่ีดีไม่ว่าจะเป็นนกั ออกแบบเส้ือผา้ แฟชนั่ นกั ออกแบบตกแต่งภายใน หรอื นกั ออกแบบผลิตภณั ฑ์ ต้องเรียนรจู้ ากผบู้ ริโภค พร้อมท้งั พฒั นาการออกแบบให้ ผู้บรโิ ภคไดร้ บั ประโยชน์จากการออกแบบให้ได้มากทส่ี ุด ถา้ สนใจดา้ น FASHION DESIGN จะเริ่มทไ่ี หนดี ตอ้ งยอมรับวา่ Fashion Design เป็นการออกแบบสินค้าท่จี ับตอ้ งได้ เพราะฉะนน้ั หากเรียนออนไลน์ เรยี นตามวีดิโออาจจะไม่ใชท่ างออก ทด่ี นี กั ทมี่ า : https://www.designil.com/5-step-fashion-designer.html
ใบความรสู้ าหรับผ้รู ับบริการ เรอ่ื ง การออกแบบ (Design) การออกแบบ หมายถึง การสร้างสรรค์ผลงานในรูป 2 มติ ิ และ 3 มิติ ใหเ้ กิดความสวยงาม และ ถ่ายทอดรูปแบบ จากความคิดออกมาเปน็ ผลงานที่ผ้อู ื่นสามารถมองเห็น รับรู้ หรือสมั ผัสได้ เพอื่ ใหม้ คี วามเข้าใจในผลงานร่วมกนั และ เปน็ การสร้างสรรคผ์ ลงานขึ้น ไมล่ อกเลียนของเดิมหรือความคดิ เดมิ ทม่ี มี ากอ่ น เพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการด้านประโยชนใ์ ช้ สอย หรือความตอ้ งการด้านอื่น ๆ ความหมายของการออกแบบเสือ้ ผา้ เครอื่ งแตง่ กาย ตรงกับคาศัพท์ภาษาอังกฤษวา่ Fashion Design หรอื Costume Design ในวงการ การออกแบบเส้อื ผ้าเครอื่ งแต่งกาย ได้มกี ารนาคาศพั ท์ เหลา่ น้มี าใช้เรียกทบั ศพั ทอ์ ยเู่ สมอ ซง่ึ ความหมายคาศัพท์ทนี่ ยิ มนามาใช้ ไดแ้ ก่ คาวา่ Fashion, Costume, Design ความสาคญั ของการ ออกแบบเสือ้ ผา้ มีอยู่หลายประการ กล่าวคือ 1. ในแงข่ องการวางแผนการการทางาน งานออกแบบเส้ือผ้าจะชว่ ยใหก้ ารทางานเปน็ ไปตามขั้นตอนอย่าง เหมาะสมและประหยัดเวลาดังนั้นอาจถอื วา่ การ ออกแบบเสือ้ ผา้ คอื การวางแผนการทางานกไ็ ด้ 2. ในแงข่ องการนาเสนอผลงาน ผลงาน ออกแบบเสื้อผ้าจะช่วยให้ผู้เกย่ี วขอ้ งมคี วามเข้าใจตรงกนั อย่างชดั เจน ดังนนั้ ความสาคัญในดา้ นน้ี คอื เป็นสอื่ ความหมายเพื่อความเข้าใจระหวา่ งกนั 3. เป็นสิ่งที่อธบิ ายรายละเอียดเก่ียวกับงาน งานบางประเภทอาจมีรายละเอียดมากมายซบั ซอ้ น ผลงานการ ออกแบบเสือ้ ผา้ จะช่วยให้ผูเ้ กย่ี วขอ้ ง และผ้พู บเห็นมคี วามเข้าใจทชี่ ัดเจนขนึ้ หรืออาจกลา่ วได้วา่ ผลงานออกแบบเสื้อผ้า คือตัวแทนความคดิ ของูผอู อกแบบเส้อื ผา้ ไดท้ ั้งหมด 4. แบบ จะมคี วามสาคัญอยา่ งทสี่ ดุ ในกรณีท่นี กั ออกแบบเสื้อผ้ากบั ผู้สรา้ งงานหรอื ผู้ผลิตเปน็ คนละคนกนั เชน่ สถาปนิกกบั ช่างก่อสร้าง นักออกแบบเสอ้ื ผ้ากับผู้ผลิตในโรงงานหรือถ้าจะเปรยี บไปแลว้ นกั ออกแบบเสื้อผ้ากเ็ หมือนกบั คนเขียนบทละครน่ันเอง ท่ีมา : https://missfriendly.co/บล็อก/การออกแบบหมายถงึ อะไร/ 5 ขั้นตอนงา่ ย ๆ สกู่ ารเป็นนกั ออกแบบเสอื้ ผ้าแฟชั่นมืออาชพี “นักออกแบบ” เปน็ กลมุ่ อาชพี ท่หี ลายคนคดิ ว่าเปน็ ได้ยาก หลายคนคิดว่าทาไม่ได้แน่นอน ต้องเปน็ คนท่ีเกิดมา พรอ้ มกับพรสวรรคเ์ ท่าน้ันทส่ี ามารถทาได้ ซ่งึ จริง ๆ แลว้ ไม่ใชเ่ ลย ความเปน็ จริงใคร ๆ ก็สามารถเป็นนกั ออกแบบได้ ทุก คนมพี รสวรรคท์ ่ตี ิดตัวต้งั แตเ่ กิด เพยี งแต่เราอาจจะยงั ไม่คน้ พบวิธกี ารนาพรสวรรคเ์ หลา่ นน้ั มาใช้ให้ถกู วิธเี ท่านน้ั เอง บางคนค้นพบตัวเองว่าอยากใหโ้ ลกนีม้ สี ินคา้ ทเ่ี ราออกแบบเองตั้งแต่ยงั เด็ก ยังเรยี นอยู่ระดับช้นั มัธยม บางคนค้นพบวา่ ตวั เองอยากเปน็ นักออกแบบเม่ือเรยี นจบปริญญาตรี ในขณะทบ่ี างคนคน้ พบวา่ อยากเปน็ นักออกแบบในวัยทางาน เราตา่ ง มชี ว่ งเวลาและเหตุผลในการเปน็ นักออกแบบท่ีตา่ งกนั “ความคดิ รเิ ร่ิม” คอื สิ่งทน่ี ักออกแบบต้องมี ไมว่ ่าคุณจะอยากเป็น นักออกแบบเสอ้ื ผา้ แฟชนั่ นกั ออกแบบ ตกแต่งภายใน หรือนักออกแบบผลิตภณั ฑ์ บุคลิกของนกั ออกแบบในแตล่ ะสายอาชพี อาจจะแตกต่างกนั แตส่ ิ่งหนงึ่ ทนี่ ัก ออกแบบทกุ คนมเี หมือนกนั ทกุ สายอาชีพการออกแบบ คอื ความคิดสร้างสรรค์ หรอื ที่เราเรียกวา่ “ความเพอ้ เจอ้ ” ความคดิ เพ้อเจ้อน่ีแหละ เป็นองคป์ ระกอบสาคัญในการเป็นนักออกแบบ เราตอ้ งกลา้ ท่ีจะมคี วามคิดสร้างสรรค์ คิดในสิ่งทยี่ ังไมม่ ีใครคิด ทาในสงิ่ ทยี่ งั ไม่มีใครทา ใหอ้ อกมาแปลกใหม่และใช้ได้จริง ใหไ้ ด้มากท่สี ุด ยิ่งในยคุ ปัจจบุ นั การคิดและ “เริ่มทา” ในสิง่ ท่ยี งั ไมม่ ใี ครทาเป็นเจ้าแรก ๆ จะไดเ้ ปรียบมาก เราจะ กลายเป็นผ้นู าแฟช่ันในทันที
เช่อื ว่าหลาย ๆ คนเคยมีไอเดยี อยากทาเสอ้ื ผา้ แฟช่นั ดไี ซน์ของเราเอง มีคอลเลคชั่นเส้อื ผา้ ท่เี ราเองเป็นคน ออกแบบ ไม่เหมอื นใคร ไม่ซา้ ใคร ไดเ้ ลอื กเนอื้ ผ้าท่เี ราชอบ ดีไซน์ทเ่ี ราชอบ และอยากให้คนอ่นื ได้ลองสวมใสเ่ ส้ือผ้าของ เรา แต่หลายครง้ั ที่เราถอดใจและคดิ ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะเราคิดไปเองวา่ กว่าจะทาเส้อื ออกมาได้แตล่ ะตวั ยากมากอยา่ ง กบั เข็นครกขน้ึ ภเู ขาเลยทเี ดียว เราทาไดแ้ คค่ ิด แล้วปลอ่ ยมนั ผา่ นเลยไป ซง่ึ จริง ๆ แล้ว ข้นั ตอนในการทาเสอื้ ผ้าแฟชนั่ ดีไซน์ของเราเอง มีเพยี ง 5 ข้ันตอนงา่ ย ๆ ดงั นี้ 1. การออกแบบและสเก็ตช์ภาพ เราสามารถนาแรงบันดาลใจจากสง่ิ ต่าง ๆ ที่เราพบเจอในชีวติ ประจาวนั มา ออกแบบเป็นเสื้อผ้าแฟชน่ั สไตลต์ วั เอง สิ่งสาคัญของการออกแบบคือการวาดหรอื สเกต็ ชภ์ าพออกมาเพือ่ เปน็ ต้นแบบของ การทาเสอื้ ผ้า เนอื่ งจากภาพสเกต็ ช์น้เี องจะเปน็ ตวั บอกถึงลาดบั ขั้นในการทาต่อไป เม่ือวาดแบบเสร็จแลว้ จะเปน็ ขัน้ ตอน ถัดไปคอื การลงสี หรือเลอื กสี ซ่ึง Fashion Design แตล่ ะคนมีรปู แบบและการทางานทีแ่ ตกต่างกันไป แต่เปน็ คอนเซ็ปต์ คือการทาให้จินตนาการเห็นภาพมากขน้ึ กอ่ นที่จะผลติ เส้ือผ้าออกมาจรงิ 2. การทา แพทเทิรน์ ปจั จุบนั วิธีการทาแพทเทริ ์นจะแบ่งออกเป็น 2 วธิ หี ลกั วิธที ่ี 1 วาดแบบแพทเทิร์นลงในกระดาษทาแพทเทิร์น วธิ ีน้ีเหมาะสาหรบั นักออกแบบเสื้อผ้าแฟช่ันที่ชานาญแลว้ สามารถวัด และกาหนดขนาดของ องค์ประกอบแต่ละส่วนของเสอ้ื ได้ วิธีท่ี 2 ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู ในการออกแบบแพทเทิร์นเสือ้ ผ้า วิธีนเ้ี หมาะสาหรบั นกั ออกแบบเสือ้ ผา้ แฟช่ัน มือใหม่ท่ยี งั ไม่ชานาญ เร่ืองขนาดขององค์ประกอบแต่ละสว่ นของเสื้อ นักออกแบบเส้ือผ้าแฟชน่ั มอื ใหม่สามารถทา แพทเทริ ์นเส้อื ผ้าได้ดว้ ยตัวเอง โดยใช้ 5 โปรแกรมยอดนิยมทใ่ี ชใ้ นการการออกแบบแพทเทิรน์ เสือ้ ผ้า อาทิ เชน่ CAD Pattern Design, Poly Pattern Design, Fashion Design Software, TexPro Design CAD System Textile หรือ Lectra Modaris Pattern
3. การทดลองสวมใสจ่ รงิ (FITTING) หากเราเคยตัดเส้ือผ้าในหอ้ งเสือ้ ทม่ี ีมาตรฐาน คงจะพอจากนั ได้วา่ หลังจาก การวัดตัวครง้ั แรกไปซักระยะหนงึ่ ทางร้านจะใหเ้ ขา้ ไปที่ร้านเพอื่ ทาการลองชุด ซึ่งชุดท่ีใหล้ องในคร้ังแรกนจ้ี ะเปน็ ชดุ ทเี่ ยบ็ แบบช่วั คราว เพอ่ื ให้ช่างตัดเส้อื ได้ดูผลงานแบบคร่าว ๆ และแก้ไขจุดทีผ่ ิดพลาดได้ทนั ทว่ งทหี ลงั จากการวดั ไซสใ์ นครง้ั แรก เนอ่ื งจากถา้ หากตัดเย็บจรงิ ไปแลว้ เกดิ ความผดิ พลาดขน้ึ อาจจะต้องเร่ิมตน้ ใหม่หมดขนั้ ตอน ทาให้ขัน้ ตอน Fitting นี้ข้นึ 4. การตดั เยบ็ และผลิต เมอ่ื เราออกแบบ และทาแพทเทิรน์ เรียบร้อยแล้ว เรากเ็ รม่ิ ข้ันตอนที่ 4 นนั่ คอื ขั้นตอน การผลิต การผลิตเสื้อผ้าแฟช่ัน นักออกแบบสามารถตัดเย็บและผลิตได้ดว้ ยตัวเอง ซงึ่ ตอ้ งใช้ความเชียวชาญ และการ แก้ไขปญั หาเฉพาะหนา้ อย่างมากเนือ่ งจากการผลิตชน้ิ งานจรงิ ไมไ่ ด้เป็นงานท่ี Routine 5. อัพเดทแฟช่นั และ ฝึกฝน นักออกแบบเส้อื ผา้ ตอ้ งคอย อัพเดทแฟชนั่ เสมอ เม่อื เราจบขัน้ ตอนท่ี 5 ก็ย้อนกลบั ไปขัน้ ตอนที่ 1 ทาอยา่ งนวี้ น ไปเรอ่ื ย ๆ เสื้อผ้าทเ่ี ราออกแบบจะได้อนิ เทรนด์ สามารถใช้ไดท้ กุ โอกาส และการทาซา้ บอ่ ย ๆ นเี่ องกเ็ ป็นการฝกึ ฝนทาให้ มีความเชียวชาญและประสบการณ์ทีม่ ากขน้ึ นกั ออกแบบที่ดีไม่ว่าจะเปน็ นักออกแบบเส้ือผา้ แฟช่ัน นักออกแบบตกแตง่ ภายใน หรอื นักออกแบบผลติ ภณั ฑ์ ต้องเรยี นรูจ้ ากผู้บรโิ ภค พรอ้ มทัง้ พฒั นาการออกแบบให้ผ้บู รโิ ภคไดร้ บั ประโยชนจ์ าก การออกแบบใหไ้ ด้มากที่สุด ถ้าสนใจดา้ น FASHION DESIGN จะเริม่ ที่ไหนดี ต้องยอมรบั วา่ Fashion Design เปน็ การ ออกแบบสินค้าที่จบั ต้องได้ เพราะฉะนัน้ หากเรยี นออนไลน์ เรียนตามวีดโิ ออาจจะไม่ใช่ทางออกท่ดี นี ัก ท่ีมา : https://www.designil.com/5-step-fashion-designer.html
ใบกิจกรรม เรื่อง การออกแบบตดั เยบ็ กระโปรงยว้ ยวงกลม วัตถปุ ระสงค์ เมอื่ ส้ินสุดแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรนู้ แ้ี ล้วผรู้ ับบริการสามารถ 1. นาความรู้เรื่องจานวนจริงและการแก้สมการเชงิ เส้นตวั แปรเดยี วมาประยกุ ตใ์ ช้กับการ ออกแบบตัด เย็บกระโปรงวงกลม 2. ออกแบบตัดเย็บกระโปรงวงกลมโดยคานงึ ถึงทรัพยากรทางเทคโนโลยี เนื้อหา 1. รูปวงกลม 2. การออกแบบตัดกเยบ็ กระโปรงยว้ ยวงกลม คาชี้แจง ให้ผู้รบั บริการปฏบิ ัติกิจกรรมดงั ตอ่ ไปน้ี 1. คาดการณว์ ่าภาพของกระโปรงท่ีคลแ่ี ลว้ วางราบบนพ้นื ท่ีกาหนดใหใ้ นแตล่ ะข้อทาให้เกิด ทรงกระโปรงแบบใด 2. ออกแบบกระโปรงวงกลม 3. วางแผนการตัดกระโปรงยว้ ยวงกลม 4. ทดสอบและแกไ้ ข
กจิ กรรมท่ี 1 คาดการณ์ว่าภาพของกระโปรงที่คลี่แล้ววางราบบนพื้นทกี่ าหนดให้ในแต่ละข้อทาให้เกิดทรงกระโปรงแบบใด ภาพของกระโปรงท่ีคลี่แล้ว ทรงกระโปรงท่คี าดการณ์ ทรงกระโปรงจริงท่ไี ด้จากการ วางราบบนพ้นื ทดลอง
กจิ กรรมท่ี 2 ออกแบบกระโปรงวงกลม โดยบันทึกขอ้ มลู ของนักเรียนทเี่ ป็นหนุ่ สาหรับการออกแบบกระโปรง วาดแบบ รูปของกระโปรงวงกลม พร้อมระบรุ ายละเอยี ด เช่น ความยาวรอบเอว ความยาวกระโปรง ข้อมูลผู้เรียนท่ีเป็นหุ่นสาหรบั การ ออกแบบกระโปรง ช่ือ........................................................... ความยาวรอบเอว................................... ความยาวของกระโปรง........................... วัสดแุ ละปริมาณทต่ี อ้ งการใช้ ................................................................ ................................................................ ................................................................ .......................................................... ................................... แสดงการคานวณหารัศมขี องวงกลมซ่ึงมีเสน้ รอบวงยาวเท่ากบั ความยาวรอบเอว และรศั มีของวงกลมทแี่ ทนขอบ กระโปรง ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................
กจิ กรรมที่ 3 บนั ทึกขอ้ มลู เกย่ี วกับขนั้ ตอนการตัดกระโปรงยว้ ยวงกลม เวลาทใี่ ช้ และผรู้ ับผิดชอบในแต่ละขั้นตอน ลงในตารางต่อไปนี้ ลาดับที่ กจิ กรรม เวลาท่ีใช้ ผรู้ ับผิดชอบ
กจิ กรรมท่ี 4 ทดสอบการใช้งานแบบจาลองกระโปรงย้วยวงกลม พรอ้ มบนั ทกึ ข้อมลู (สามารถวาดรปู ประกอบการอธิบายได)้ 1. กระโปรงยว้ ยวงกลมเหมอื นหรือแตกตา่ งกบั ทไี่ ดอ้ อกแบบไว้หรือไม่ อย่างไร ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. . 2. ปญั หาหรืออุปสรรคอ่ืน ๆ ท่ีพบ มีอะไรบา้ ง ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. . 3. แนวทางการปรับปรงุ แกไ้ ขปญั หาและอุปสรรคทาได้อย่างไร ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. 4. ผลการทดสอบกระโปรงยว้ ยวงกลมหลงั จากการปรบั ปรงุ แก้ไขแลว้ เป็นอย่างไร ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 24
Pages: