Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการเรียนรู้สมุนไพรไกลโรค

คู่มือการเรียนรู้สมุนไพรไกลโรค

Published by palita scisak, 2019-06-11 04:25:37

Description: iคู่มือการเรียนรู้สมุนไพรไกลโรค

Keywords: รักษาโรค

Search

Read the Text Version

คมู่ อื การเรียนรู้ ผา่ นนิทรรศการ มหัศจรรย์สมุนไพรหา่ งไกลโรค สแกนเพื่ออา่ น E-book ปาลิตา โตศรีสวสั ดเิ์ กษม ศูนยว์ ิทยาศาสตรเ์ พ่อื การศกึ ษาสระแก้ว

ฐานเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ เรื่อง มหศั จรรย์สมุนไพรไกลโรค

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ เรื่อง มหัศจรรย์สมนุ ไพรไกลโรค เวลา 15 นาที แนวคิด สวนสมนุ ไพร เปน็ ฐานเรียนรู้ผา่ นนิทรรศการเก่ียวกบั พืชสมุนไพรใชเ้ ป็นยา สมุนไพรใช้ดืม่ สมุนไพร เครอื่ งเทศ โดยจดั อยู่ในรปู แบบแปลงปลูก ตวั อยา่ งพืชสมนุ ไพรแตล่ ะดา้ นพร้อมป้ายขอ้ มูล ในการจุดประกาย ความคิดทางดา้ นวิทยาศาสตร์ให้กบั ผรู้ บั บรกิ าร โดยผรู้ ับบริการสามารถแลกเปลีย่ นเรยี นรูร้ ว่ มกันดว้ ยส่อื การเรยี นรู้ จรงิ ทาให้ผรู้ บั บรกิ ารเห็นความสาคญั ของการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ที่สอดคลอ้ งกับชวี ติ ประจาวนั วตั ถปุ ระสงค์ เมอ่ื สน้ิ สดุ แผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรนู้ ี้แลว้ ผู้รบั บรกิ ารสามารถ แลกเปลยี่ นเรียนรู้และศกึ ษาเกยี่ วกับสมุนใชเ้ ปน็ ยา สมนุ ไพรใช้ดื่ม และสมนุ ไพรเครอื่ งเทศ เนอ้ื หา 1. สมุนไพรใชเ้ ป็นยา 2. สมนุ ไพรใช้เป็นเครอื่ งด่มื 3. สมุนไพรใชเ้ คร่ืองเทศ ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นตอนที่ 1 กจิ กรรมการเรียนรปู้ ระสบการณท์ างวิทยาศาสตร์ (S : Science Experience Activity) 1. ผู้จดั กิจกรรมทกั ทายและแนะนาตนเองกบั ผ้รู ับบรกิ าร และชีแ้ จงวัตถปุ ระสงคข์ องฐานการ เรียนรู้ผ่านนิทรรศการ เร่ือง มหัศจรรย์สมุนไพรไกลโรค ซึ่งฐานการเรียนรู้ผ่านนิทรรศการน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ ผู้รับบริการแรกเปลยี่ นเรียนรู้และศกึ ษาเก่ียวกับสมนุ ไพรใช้เป็นยา สมุนไพรใช้ด่มื และสมนุ ไพรเครอื่ งเทศ 2. ผจู้ ัดกจิ กรรมแจกเอกสารประกอบการชมนทิ รรศการ 3. ผูจ้ ัดกิจกรรมแนะนารายละเอยี ดภาพรวมของเนอื้ หาในฐานการเรยี นรผู้ ่านนิทรรศการ เรื่อง สมุนไพรตามใบความรู้สาหรับผู้จัดกิจกรรม เรื่องแนะนารายละเอียดภาพรวมของเน้ือหาในการเรียนรู้ผ่าน นทิ รรศการเรื่องมหศั จรรยไ์ กลโรค ขั้นตอนท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรท์ ่ีทา้ ทาย (C : Challenge Learning Activity) 1. ผู้จัดกจิ กรรมบรรยายให้ความรู้และอธิบายผ่านนิทรรศการ เร่อื ง มหัศจรรย์สมุนไพรไกลโรค ตามใบความรผู้ จู้ ัดกจิ กรรม เร่ือง มหัศจรรยส์ มุนไพรไกลโรค 2. เปดิ โอกาสให้ผรู้ ับบริการพูดคุย ซกั ถาม และแลกเปลย่ี นเรยี นร้รู ว่ มกนั 3. ผูจ้ ดั กจิ กรรมและผ้รู บั บรกิ ารสรปุ ส่ิงทเ่ี รียนรว่ มกนั ข้ันตอนท่ี 3 กจิ กรรมการสรุปผลการนาวิทยาศาสตรไ์ ปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ( I : Implementation Conclusion Activity ) 1. ผู้จัดกจิ กรรมสุ่มผ้รู ับบรกิ ารจานวน 1-2 คน ทส่ี มัครใจใหต้ อบคาถามในประเดน็ ทีท่ า่ นไดร้ ับรู้ อะไรบ้างผ่านนิทรรศการในฐานการเรียนรู้เรื่อง มหัศจรรย์สมุนไพรไกลโรค และท่านคิดว่าจะนาความรู้ทาง วทิ ยาศาสตร์ที่ได้รับไปใช้ในชวี ิตประจาวนั ของท่านอย่างไร 2. ผจู้ ัดกิจกรรมและผ้รู ับบรกิ ารสรุปสง่ิ ทีเ่ รียนรู้รว่ มกนั 3 .ผ้จู ัดกิจกรรมให้ผูร้ ับบริการประเมณิ ความพึงพอใจท่ีมตี ่อฐานจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ผ่านนิทรรศการ

เร่ือง มหศั จรรยส์ มุนไพรไกลโรค สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้ 1. เอกสารประกอบการชมนิทรรศการ 2. ฐานการเรยี นรู้เร่อื ง มหศั จรรยส์ มนุ ไพรไกลโรค การวัดและประเมนิ ผล 1. สงั เกตพฤติกรรมการมีสว่ นร่วม ความตงั้ ใจ ความสนใจของผ้รู ับบริการ 2. ผลการประเมณิ การเรียนรู้ผ่านนทิ รรศการ เรอ่ื ง มหัศจรรยส์ มุนไพรไกลโรค บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

บนั ทึกผลหลงั การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ผลการใชแ้ ผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ 1. จานวนเนือ้ หากับจานวนเวลา  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบเุ หตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. การเรยี งลาดบั เน้อื หากบั ความเข้าใจของผรู้ ับริการ  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบเุ หตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. การนาเข้าสบู่ ทเรียนเน้อื หาแต่ละหวั ขอ้  เหมาะสม  ไมเ่ หมาะสม ระบุเหตผุ ล……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้กบั เนื้อหาในแต่ละขอ้  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบุเหตุผล……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. การประเมินผลกบั วัตถปุ ระสงค์ในแต่ละเนือ้ หา  เหมาะสม  ไม่เหมาะสม ระบเุ หตุผล……………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ผลการเรียนรู้และผรู้ บั บริการ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ของผ้จู ักจิ กรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ใบความรแู้ ผนจัดกจิ กรรมที่ 7 เรอื่ ง มหศั จรรย์สมนุ ไพรไกลโรค เน้ือหา สมนุ ไพรใชเ้ ปน็ ยา สมุนไพรใชด้ ่ืม สมนุ ไพรเครื่องเทศ สมุนไพรใช้เปน็ ยา ขเ้ี หล็ก ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cassia siamea Britt. วงศ์ : Leguminosae ชือ่ สามัญ : Cassod Tree / Thai Copper Pod ช่อื อืน่ : ขเี้ หลก็ แกน่ ขีเ้ หลก็ บาน ขีเ้ หลก็ หลวง ข้เี หล็กใหญ่ ลักษณะ : ไม้ยนื ตน้ สงู 10-15 เมตร ใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับใบย่อยรูปขอบขนาน กวา้ งประมาณ 1.5 ซม. ยาว 4 ซม. ใบออ่ นมขี นสีน้าตาลแกมเขยี ว ดอกชอ่ ออกท่ีปลาย ก่งิ กลบี ดอกสีเหลือง ผลเปน็ ฝกั แบนยาวและหนา ประโยชนท์ างสมุนไพร : ตารายาไทยใช้ดอกเป็นยานอนหลบั ลดความดันโลหิตดอกตมู และใบอ่อนเปน็ ยาระบาย ใบแกร้ ะดูขาว แก้นวิ่ ขบั ปสั สาวะ แกน่ แก้ไข้ ทาใหน้ อนหลบั รกั ษากามโรค ใบ อ่อนและแกน่ มีสารกลมุ่ แอนทราควิโนน หลายชนิด จึงมฤี ทธ์ิเปน็ ยาระบายใชใ้ บออ่ นครงั้ ละ 2-3 กามอื ต้มกับน้า 1-1.5 ถ้วย เตมิ เกลือเลก็ น้อย ด่ืมก่อนอาหารเช้าครัง้ เดียว นอกจากนีใ้ นใบอ่อนและดอกตมู ยงั พบสารซ่ึงมฤี ทธิก์ ดประสาทสว่ นกลางทาใหน้ อนหลับ โดยใชว้ ธิ ีดองเหล้าดมื่ ก่อนนอน

ชมุ เห็ดเทศ ชอื่ วิทยาศาสตร์ : Senna alata L. วงศ์ : Leguminosae ช่อื สามญั : Ringworm Bush ชื่ออ่ืน : ขค้ี าก ลับมีนหลวง หมากกะลิงเทศ ชมุ เห็ดใหญ่ ลักษณะ : ไม้พุ่ม สูง 1 - 3 เมตร แตกกง่ิ ออกดส้ นข้าง ในแนวขนานกบั พืน้ ใบประกอบ แบบขนนก เรยี งสลบั ใบยอ่ ยรูปขอบขนาน รูปวงรแี กมขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ กวา้ ง 3-7 ซม. ยาว 6-15 ซม. หใู บเปน็ รูปสามเหลยี่ ม ดอกช่อออกทีซ่ อกใบตอนปลายก่งิ กลีบดอกสี เหลืองทอง ใบประดับ สีน้าตาลแกมเหลืองหมุ้ ดอกยอ่ ยเห็นชัดเจนผลเป็นฝักมีครบี 4 ครีบ เมล็ดแบน รูปสามเหลยี่ ม ประโยชน์ทางสมนุ ไพร : รสเบ่ือเอียน ใบตาทาแกก้ ลากเกลอ้ื น โรคผวิ หนัง ดอกและใบตม้ รับประทานแกอ้ าการ ท้องผูกมสี ารแอนทราควโิ นน กลยั โคซายด์ หลายชนดิ ไดแ้ ก่ emodin,aloe - emodin และ rhein ใช้เปน็ ยาระบายกระตุ้นลาไส้ใหญใ่ หบ้ ีบตัว การทดลองในสัตว์ และคน พบวา่ ใบแกม่ ีฤทธิ์ น้อยกวา่ ใบอ่อนนอกจากน้นี ้าจากใบยังมีฤทธฆิ์ ่าเชือ้ แบคทีเรยี ดว้ ย

ยา่ นาง ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Tiliacora triandra Diels วงศ์ : Menisspermaceae ลกี ษณะ : ไมเ้ ถา ใบเดยี่ ว เรยี งสลบั รูปไขแ่ กมใบหอก กว้าง 2-4 ซม. ยาว 5-12 ซม. ดอกช่อ ออกตามเถาและทีซ่ อกใบ แยกเพศอยู่คนละต้น ไม่มีกลีบดอก ผลเปน็ ผลกลมุ่ ผลยอ่ ย รปู วงรี ประโยชนท์ างสมุนไพร : ตารายาไทยใช้รากตม้ กับนา้ ด่ืมเป็นยาแก้ไขท้ ุกชนดิ การทดลองพบว่า สารสกดั รากมีฤทธิ์ต้านเชอ้ื มาลาเรียชนดิ ฟลั ซิพารมั ในหลอดทดลอง

เพกา ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Oroxylum indicum (L.) Vent. วงศ์ : Bignoniaceae ชอื่ อน่ื : มะลิดไม้ มะลนิ้ ไม้ ลดิ ไม้ ลิ้นฟา้ ลีกษณะ : ไม้ยนื ตน้ สูง 3-12 เมตรแตกกิ่งกา้ นนอ้ ย ใบประกอบแบบขนนกสามชั้น ขนาดใหญ่ เรยี ง ตรงขา้ มรวมกนั อยู่บริเวณปลายกิ่ง ใบยอ่ ยรูปไขห่ รือรปู ไขแ่ กมวงรี กว้าง 4-8 ซม.ยาว 6- 12 ซม. ดอกชอ่ ออกที่ปลายยอดก้านช่อดอกยาวดอกยอ่ ยขนาดใหญ่กลบี ดอกสนี วลแกม เขยี ว โคนกลบี เปน็ หลอดสมี ว่ งแดง หนาย่น บานกลางคนื ผลเป็นฝัก รูปดาบเมอ่ื แก่จะ แตก ภายในเมล็ดแบน สขี าว มีปกี บางโปรง่ แสง ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตารายาไทยใชร้ ากเปน็ ยาบารงุ ธาตุ แก้ท้องรว่ ง เมล็ดเป็นยาระบาย ยาจนี ใช้เมล็ดเปน็ ยาแก้ไอขบั เสมหะ

เสลดพังพอน ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Barleria lupulina Lindl. วงศ์ : Acanthaceae ชื่ออ่นื : ตราด ชองระอา, ท่ัวไป เสลดพังพอนตวั ผู้, กลาง พมิ เสนตน้ ,จีน เซ้กแซเกย่ี ม ฮวยเฮียวแกโ่ ตว่ เกยี ง ลักษณะ : ไม้พุ่ม สงู ถึง 2 เมตร ใบเดี่ยวออกตรงขา้ ม ตัวใบเรียวยาว ด้านบนสีเขยี วเข้ม เส้นใบสีแดง ด้านล่างสจี างกวา่ ผวิ ใบเกล้ียง ยาว 5-10 ซม. กว้าง 0.5-1.5 ซม. ก้านใบสนั้ ตามซอกใบ จะมหี นามแหลม 2 อนั ชอ่ ดอกรปู ทรงกระบอก ตง้ั ตรงหรือหอ้ ยลง ยาว 3-9 ซม. กลบี ดอกสีเหลอื ง ยาว 2-4 ซม. กลีบรองดอกสีเขียวปลายยอดสมี ว่ ง ผล ยาวประมาณ 1.5 ซม. พบท่วั ไป นิยมปลูกเป็นไม้ประดบั ประโยชน์ทางสมุนไพร : ตารายาแผนโบราณ ใบ พอกฝี แก้ช้าบวม ทัง้ ตน้ แกพ้ ิษงู แห้ปวดฟัน ราก ฝนกับสรุ า ทาถอนพษิ งู ตะขาบ แมลงปอ่ ง ผ้ึง ปลาแขยง

ฝาง ชือ่ วงศ์ : Ceasalpiniaceae ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ : ชื่อสามัญ : Ceasalpinia sappan Linn. ชอ่ื อนื่ ทเ่ี รยี กตามทอ้ งถน่ิ : Sappan Tree ประโยชน์ทางสมุนไพร : ฝาง (ทั่วไป), ฝางเสน (ภาคกลาง), ง้าย (กะเหรย่ี ง-กาญจนบรุ ี), ฝางสม้ (กาญจนบุร)ี , หนามโคง้ (ภาคเหนอื ), โซบ๊ัก (จีน) แบง่ ฝางออกเปน็ 2 ชนดิ ตามสี ของเนอ้ื แกน่ คือ แก่นสีเหลอื ง เรียกวา่ ฝางส้ม และแกน่ สแี ดง เรียกว่า ฝางเ คุณสมบัติทางยาของสารประกอบในแก่นฝางจะมีจากสารในกลุ่มกลุ่มฟลาโว นอยด์ (flavonoid) เป็นหลัก และสารอ่ืนๆในกลุ่มสเตอรอยด์ (sterols) ผลการ ทดสอบสาร brazilin ทสี่ กดั ไดจ้ ากแกน่ ฝางในหลายงานวิจยั พบวา่ มฤี ทธติ์ ้าน การอกั เสบ และตา้ นการเตบิ โตของเชอื้ จลุ ินทรีย์ไดด้ ี ทาให้มีผลชว่ ยระงับอาการ อักเสบ อาการหอบหืด และต้านเชือ้ โรคตา่ งๆได้ดี รวมถึงยับย้งั เนอื้ งอกหรอื เซลล์มะเรง็ ชว่ ยเสรมิ สร้างภูมคิ ุม้ กัน และต้านอาการภมู ิแพ้ชนดิ ต่างๆไดด้ แี กน่ ที่ มสี ีแดง และเน้อื ไมด้ ้านนอก มรี สฝาดขม ตม้ เอานา้ ดม่ื ช่วยบารุงโลหิต แกโ้ รค ปอด แก้ร้อนใน กระหายนา้ แก้อาหารทอ้ งร่วง แกบ้ ดิ แก้ประจาเดอื นมาไม่ปกติ ช่วยลดไข้ แกห้ อบหืด เปน็ ยาขบั ระดอู ย่างแรง แก้เลอื ดออกทางทวารหนกั แก้ไอ ขับเสมหะ รกั ษาวัณโรค และแกเ้ ลอื ดกาเดา

บอระเพด็ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ : Tinospora crispa ( L.) Miers ex Hook.f. & Thoms วงศ์ : Menisspermaceae ชือ่ อื่น : เครอื เขาฮอ จงุ่ จงิ เจตมูลหนาม เจตมลู ยาน เถาหัวดว้ น หางหนู ลีกษณะ : ไมเ้ ถาเลอ้ื ยพนั มลี ักษณะคลา้ ยชงิ ช้ามาก ต่างกนั ทเี่ ถามีขนาดใหญ่กว่า มีปุ่มปมมากกวา่ มรี สขมกวา่ และไม่มีปุ่มใกล้ฐานใบ ประโยชนท์ างสมนุ ไพร : ตารายาไทยใช้เถาเปน็ ยาแกไ้ ข้ ขบั เหงือ่ แก้กระหายนา้ แก้รอ้ นใน โดยนาเถาสด ขนาดยาว 2 คืบครง่ึ (30-40 กรมั ) ตม้ ค้นั เอานา้ ดื่ม หรอื ต้มเค่ียวกับน้า 3 ส่วนจนเหลอื 1 ส่วน ดม่ื ก่อนอาหารวนั ละ 2 ครั้งเช้าเยน็ หรอื เมื่อมีไข้ นอกจากนใ้ี ชเ้ ป็นยาขมเจรญิ อาหารดว้ ย ปจั จุบันองคก์ ารเภสัชกรรมผลิตทิงเจอรบ์ อระเพ็ด เพ่ือใช้แทน Tincture Gentian ซงึ่ เป็นส่วนผสมของยาธาตุที่ตอ้ งนาเขา้ จากต่างประเทศ การทดลองในสัตว์ พบวา่ น้าสกดั เถาสามารถลดไข้ได้

สมุนไพรใช้เป็นเครื่องดม่ื ดอกอญั ชนั ชื่อสมนุ ไพร อัญชนั ชื่ออื่นๆ แดงชัน (เชยี งใหม่) เออ้ื งชนั (เหนอื ) ชื่อวทิ ยาศาสตร์ เออื้ งจนั แดงจัน อังจัน(เหนือ) ชื่อวงศ์ Clitorea ternatea L. Fabaceae (Leguminosae-Papilionoideae) ประโยชน์ของอญั ชัน น้าอญั ชนั มสี ว่ นช่วยตอ่ ตา้ นอนุมูลอสิ ระในรา่ งกาย เครื่องด่ืมน้าอัญชนั ช่วยเสริมสรา้ งภมู ิ ต้านทานให้รา่ งกายและเพมิ่ พลงั งานให้ร่างกายมสี ่วนชว่ ยในการชะลอวยั และร้วิ รอยแห่ง วัย ดอกมีส่วนช่วยในการบารุงสมอง เพ่ิมการไหลเวยี นเลอื ดดอกอญั ชันมีฤทธใ์ิ นการ ละลายลิ่มเลอื ด ชว่ ยปอ้ งกันโรคเส้นเลอื ดสมองตีบ ช่วยรักษาอาการผมร่วง (ดอก) อัญชันทาคิ้ว ทาหวั ใช้เป็นยาปลกู ผม ปลกู ขนช่วยใหด้ กดาเงางามย่งิ ข้นึ (น้าคนั้ จากดอก) ชว่ ยลดความเสย่ี งจากการเกิดเส้นเลือดอุดตนั ช่วยลดความเสยี่ งของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลอื ดหัวใจอุดตนั ช่วยลดความเสีย่ งจากการเกิดโรคมะเร็งด้วยสารต้านอนุมลู อิสระ ช่วยลดระดบั นา้ ตาลในเลือดของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน อัญชันมีคุณสมบตั ิในการชว่ ยล้างสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย ชว่ ยบารงุ สายตา แก้อาการตาฟาง ตาแฉะ (น้าค้นั จากดอกสดและใบสด) ชว่ ยปอ้ งกันโรคต้อกระจก ต้อหนิ ตาเสื่อมจากโรคเบาหวาน และแก้อาการปัสสาวะพกิ าร ใช้แก้อาการฟกช้า (ดอก) ช่วยเพ่ิมความสามารถในการมองเหน็ ให้ดยี ง่ิ ข้นึ นารากไปถูกบั นา้ ฝน นามาใช้หยอดตาและหู (ราก) นามาถฟู ันแกอ้ าการปวดฟนั และทาให้ฟนั แข็งแรง (ราก) ใช้เป็นยาระบาย แต่อาจทาให้คลืน่ ไสอ้ าเจียนได้ (เมล็ด) ใชร้ ากปรงุ เปน็ ยาขบั ปัสสาวะ (ราก,ใบ)

เตยหอม ชอ่ื สมุนไพร : ใบเตย หรือ เตยหอม ชอ่ื สามัญ: Pandanus Palm , Fragrant Pandan , ชอ่ื อน่ื : เตยหอมใหญ่ (Toei-hom-yai) (ภาคกลาง) เตยหอมเลก็ (Toei-hom-lek) ปาแนะวองงิ (Pa-nae-wo-nging) (มลายู) หวานข้าวไหม้ (เหนือ) ปาแนะออรงิ (ใต้) ปาแนกอ๊ จี (ไทย ช่อื วิทยาศาสตร์ : มุสลมิ ) ปานหนัน (นราธิวาส-ปตั ตาน)ี ชือ่ วงศ์ : Pandanus amaryllifolius Roxb. สว่ นท่ใี ช้ : andanaceae ต้นและราก, ใบสด ประโยชน์เตยหอม: ใบเตยเปน็ พืชที่คนไทยทุกคนตา่ งก็รู้จักกนั ดี เน่อื งจากมกี ารนามาใชก้ นั อยา่ งหลากหลา ต้ังแต่สมัยโบราณแล้ว โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การนามาปรุงแตง่ อาหารอย่างขนมไทยให้มีกล่นิ หอม อรอ่ ย และยงั ใหส้ ีสันน่ารับประทานอกี ด้วยนอกจากน้ใี บเตยยงั ประกอบด้วยวิตามิน และแร่ธาตุสาคญั อกี หลายชนดิ โดยใบเตยหอมจะมี เบต้าแคโรทีน, วิตามินซี, วิตามินบ2ี , วติ ามนิ บี3, ธาตุแคลเซียม, ธาตุเหลก็ , ธาตุฟอสฟอรัส, คาร์โบไฮเดรต, โปรตนี และยงั ให้ พลังงานอกี ดว้ ย

มะนาว ช่ือวิทยาศาสตร์ : Citrus aurantifolia Swing. วงศ์ : Rutaceae ชื่อสามญั : Common Lime ชือ่ อืน่ : ส้มมะนาว มะลวิ (ภาคเหนือ) ลกั ษณะ : ไม่พุ่ม สงู 2-4 เมตร ก่งิ ออ่ นมีหนาม ใบประกอบชนดิ มใี บยอ่ ยใบเดยี ว เรียงสลับ รูปไข่ รปู วงรีหรอื รปู ไข่แกมขอบขนานกว้าง 3-5 ซม. ยาว 4-8 ซม. เน้ือใบมีจุดนา้ มันกระจาย กา้ น ใบมคี รบี เล็ก ๆ ดอกเดีย่ วหรือช่อ ออกที่ปลายก่ิงและทซี่ อกใบ กลบี ดอกสขี าว กล่ินหอม รว่ งงา่ ย ผลเป็นผลสด กลมเกล้ียง ฉ่าน้า ประโยชน์ทางสมนุ ไพร : ตารายาไทยใช้นา้ มะนาวและผลดองแหง้ เปน็ ยาขบั เสมหะแกไ้ อ แกโ้ รคเลือดออกตาม ไรฟนั เพราะมวี ติ ามินซี นา้ มะนาวเปน็ กระสายยาสาหรับสมนุ ไพรท่ีใช้ขับเสมหะเชน่ ดีปลี

สมุนไพรใชเ้ ป็นเครอื่ งเทศ ดปี ลี ช่ือวิทยาศาสตร์ : Piper chaba Hunt วงศ์ : Piperaceae ช่ือสามญั : Long Pepper ช่อื อ่ืน : ลักษณะ : ไม้เถารากฝอยออกบริเวณขอ้ เพ่อื ใช้ยึดเกาะ ใบ เดี่ยวรปู ไข่แกมขอบขนาน กว้าง 3-5 ซม. ยาว 7-10 ซม. สีเขยี วเขม้ เปน็ มนั ดอก ช่อ ออกท่ซี อกใบ ดอกยอ่ ยอัดกนั แนน่ แยก เพศ ผล เปน็ ผลสด มีสเี ขยี ว เมอ่ื สกุ จะเปลยี่ นเป็นสีแดง รสเผ็ดรอ้ น ประโยชนท์ างสมุนไพร : ตารายาไทยใช้ผลแก่จัดแตย่ งั ไมส่ ุกตากแห้งเปน็ ยาขบั ลม บารุงธาตุ แก้ท้องเสีย ขับรก หลงั คลอด โดยใชผ้ ล 1 กามือ (ประมาณ 10-15 ผล) ต้มเอานา้ ด่มื นอกจากนี้ใช้เป็นยา แกไ้ อ โดยเอาผลแห้งครง่ึ ผลฝนกับมะนาวแทรกเกลอื ใชก้ วาดคอหรอื จิบบ่อยๆ ฤทธ์ขิ ับลม และแก้ไอ เกิดจากน้ามนั หอมระเหยและสาร piperine พบว่าสารสกัดเมทานอลมีผล ยบั ย้งั การบบี ตัวของลาไสเ้ ลก็ และสารสกัดปโิ ตรเลียมอีเธอร์ ทาให้สัตวท์ ดลองแท้ง จงึ ควร ระวงั การใช้ในสตรมี ีครรภ์

ตระไคร้ ช่อื วิทยาศาสตร์ : Cymbopogon citratus Stapf วงศ์ : Gramineae ช่ือสามัญ : Lemon Grass ช่อื อนื่ : จะไคร ไคร ลกั ษณะ : ไม้ล้มลกุ อายหุ ลายปี สงู 0.75-1.2 เมตร แตกเป็นกอ เหง้าใตด้ ินมีกล่นิ เฉพาะ ขอ้ และ ปล้องสน้ั มาก กาบใบสีขาวนวลหรอื ขาวปนม่วง ยาวและหนาหุ้มข้อและปลอ้ งไวแ้ นน่ ใบ เด่ยี วเรยี งสลบั กวา้ ง 1-2 ซม. ยาว 70-100 ซม. แผน่ ใบและขอบใบสากและคม ออกดอกยาก ประโยชน์ทางสมนุ ไพร : โคนกาบใบและลาต้นทั้งสดและแหง้ มนี ้ามันหอมระเหย ตารายาไทยใช้เป็นยาขับลม แกท้ ้องอดื เฟอ้ แนน่ จกุ เสียดใช้ลาตน้ แกส่ ดประมาณ 1 กามือ (40-60 กรัม) ทุบพอแหลก ตม้ นา้ พอเดือดหรอื ชงน้า ด่มื วนั ละ 3 คร้ัง ก่อนอาหาร นอกจากนใ้ี ชเ้ ปน็ ยาขับปัสสาวะ สาหรบั ผู้ป่วยที่มีอาการขัดเบาหรือปัสสาวะไมค่ ลอ่ ง โดยผปู้ ว่ ยตอ้ งไม่มอี าการบวมท่แี ขน และขา พบวา่ นา้ มันตะไคร้มฤี ทธิ์ฆา่ เชื้อราและแบคทเี รยี

กระชาย ชื่อวทิ ยาศาสตร์ : Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. วงศ์ : Zingiberaceae ชอื่ อื่น : กะแอน จี๊ปู ซฟี ู เปาซอเร๊าะ เปา๊ สี่ระแอน วา่ นพระอาทติ ย์ ลักษณะ : เป็นไมล้ ้มลกุ ไมม่ ลี าตน้ บนดนิ มีเหงา้ ใต้ดนิ ซึ่งแตกรากออกไปเปน็ กระจกุ จานวนมาก อวบ น้า ตรงกลาลพองกวา้ งกว่าสว่ นหัวและท้าย ใบ เดี่ยว เรยี งสลบั เปน็ ระนาบเดยี วกนั รูป ขอบขนานแกมรูปไข่ กว้าง 4.5-10 เซนติเมตร ยาว 13-15 เซนติเมตร ตรงกลางดา้ นใน ของก้านใบมีรอ่ งลึก ดอก ช่อ ออกแทรกอยู่ระหว่างกาบใบทโี่ คนตน้ กลีบดอกสีขาวหรอื ชมพอู อ่ น ใบประดบั รปู ใบหอกสมี ว่ งแดง ดอกยอ่ ยบานครงั้ ละ 1 ดอก ประโยชน์ทางสมุนไพร : ตารายาไทยใช้เหง้าแกโ้ รคในปากเชน่ ปากเปอ่ื ย ปากเปน็ แผล ปากแห้ง ขับระดขู าว ขบั ปัสสาวะ รกั ษาโรคบิด แก้ปวดมวนทอ้ ง จากการทดลองในสารสกดั แอลกอฮอล์และ คลอโรฟอรม์ พบวา่ มฤี ทธ์ิตา้ นเช้ือราทที่ าให้เกิดโรคผวิ หนงั และในปากไดด้ พี อควร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook