เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (30001-2001) เร่ือง ความรู้เกีย่ วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม ผเู้ รยี บเรยี ง นายอดินันต์ แวบาดะ ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครชู ำนาญการ วิทยาลัยเทคนิคปตั ตานี สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
หน่วยที่ 1 ความรเู้ กย่ี วกับคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม คำนำ เอกสารประกอบการสอนรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัสวิชา 30001-2001 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม หน่วยที่ 1 เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม เล่มนี้ ผู้สอนได้นำประสบการณ์จากการสอน และจากการศึกษาค้นคว้านำมาเรียบเรียงเปน็ เอกสารประกอบการเรียน ซ่ึงประกอบด้วยสาระสำคญั เกี่ยวกับ ความหมายของคอมพิวเตอร์ ประเภทของคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม องค์ประกอบ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม หน้าที่ของระบบโทรคมนาคมซึ่งสอดคล้องกับจุดประสงค์ รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และคำอธิบายรายวิชาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นสูง พุทธศักราช 2563 ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยแบง่ เน้ือหาออกเปน็ 8 หนว่ ย ดังนี้ เลม่ ที่ 1 หน่วยท่ี 1 ความรเู้ กี่ยวกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคม เลม่ ท่ี 2 หนว่ ยท่ี 2 ระบบเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ เล่มท่ี 3 หนว่ ยที่ 3 การสืบคน้ ขอ้ มูลสารสนเทศ เล่มที่ 4 หน่วยที่ 4 การจัดเกบ็ สืบคน้ ส่งผา่ นและจดั ดำเนนิ การขอ้ มูลสารสนเทศ เล่มที่ 5 หน่วยที่ 5 การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการนำเสนอข้อมูลสารสนเทศ ประเภทส่อื สิง่ พมิ พ์ เล่มที่ 6 หน่วยที่ 6 การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการนำเสนอข้อมูลสารสนเทศ ประเภทตารางงาน เล่มที่ 7 หน่วยที่ 7 การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการนำเสนอข้อมูลสารสนเทศ ประเภทการนำเสนอ เล่มท่ี 8 หน่วยที่ 8 การประยกุ ตใ์ ช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพ่อื ส่อื สารข้อมลู สารสนเทศ ผู้เรียบเรียง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารประกอบการสอนเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้เรียน ผู้สอน ให้ได้ใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนตามหลักในการจัดการอาชีวศึกษา หากมี ข้อเสนอแนะประการใด ผู้เรยี บเรยี งยนิ ดนี อ้ มรบั ไวด้ ้วยความขอบคุณยง่ิ นายอดินนั ต์ แวบาดะ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชพี (30001-2001) หหนนา้ ้า||1ก ผูเ้ รยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม สารบัญ เรอ่ื ง หน้า คำนำ ก จุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธบิ ายรายวชิ า 3 กำหนดการสอน 4 คำแนะนำการใชเ้ อกสารประกอบการสอน 5 จุดประสงค์การเรยี นรู้ 7 แบบทดสอบก่อนเรียน 8 ความร้เู กย่ี วกับคอมพวิ เตอร์ 11 ความหมายของคอมพวิ เตอร์ 11 ประเภทของคอมพิวเตอร์ 11 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 15 คอมพิวเตอร์แบง่ ตามลกั ษณะวธิ กี ารทำงาน 19 หลกั การทำงานของคอมพิวเตอร์ 19 ลักษณะเดน่ ของคอมพิวเตอร์ 20 ประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์ 21 โทรคมนาคม 22 ความหมายของโทรคมนาคม 22 อุปกรณโ์ ทรคมนาคม 22 องค์ประกอบของอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 25 หนา้ ทีข่ องระบบโทรคมนาคม 27 สรุปเน้ือหาสาระ 27 แบบฝกึ หดั 28 เฉลยแบบฝึกหัด 29 แบบทดสอบหลังเรยี น 30 เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น 32 ใบงาน 33 แบบประเมินใบงาน 37 บรรณานุกรม 38 เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 2 ผู้เรยี บเรียง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความรเู้ กยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคม จุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะรายวชิ า และคำอธิบายรายวชิ า ช่อื รายวชิ า เทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหสั วิชา 30001-2001 ระดับชน้ั ปวส. 1 สาขาวิชา เทคนิคเคร่อื งกล สาขางาน เทคนิคยานยนต์ หน่วยกติ 3 จำนวนช่ัวโมงรวม 4 ชัว่ โมง จำนวนสปั ดาห์ 18 สัปดาห์ จดุ ประสงค์รายวชิ า 1. เข้าใจเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และ สารสนเทศ การสืบค้นและสือ่ สารขอ้ มลู สารสนเทศในงานอาชพี 2. สามารถสบื คน้ จดั เกบ็ คน้ คนื ส่งผา่ น จัดดำเนินการข้อมลู สารสนเทศ นำเสนอและสอ่ื สาร ข้อมูลสารสนเทศในงานอาชีพโดยใชค้ อมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม และโปรแกรมสำเรจ็ รูปท่ี เกีย่ วขอ้ ง 3. มีคุณธรรม จริยธรรมและความรับผิดชอบในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ อาชพี สมรรถนะรายวิชา 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการและกระบวนการสืบค้น จัดดำเนินการและสื่อสารข้อมูล สารสนเทศในงานอาชีพ โดยใช้คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์โทรคมนาคม ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์และ สารสนเทศ และโปรแกรมสำเร็จรูปทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 2. ใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมในการสืบค้นและสื่อสารข้อมูลสารสนเทศผ่าน ระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรแ์ ละสารสนเทศ 3. จัดเก็บ คน้ คนื สง่ ผา่ นและจัดดำเนินการข้อมูลสารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 4. นำเสนอและสื่อสารขอ้ มูลสารสนเทศในงานอาชพี โดยประยกุ ตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเรจ็ รปู คำอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ัติเก่ียวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ และสารสนเทศ การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ การจัดเก็บ ค้นคืน ส่งผ่านและจัดดำเนินการข้อมูล สารสนเทศ การประยุกต์ใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการนำเสนอและสื่อสารข้อมูลสารสนเทศตาม ลกั ษณะงานอาชีพ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 3 ผู้เรยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม กำหนดการสอน ชอื่ รายวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชีพ รหสั วิชา 30001-2001 ระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพชนั้ สูง (ปวส.) ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม ทฤษฎีรวมปฏิบัติ 4 คาบ/สปั ดาห์ รวม 72 ช่วั โมง หน่วยท่ี ช่อื หน่วยการสอน จำนวนช่วั โมง - 2 1 ปฐมนเิ ทศ 6 2 8 3 ความร้เู ก่ียวกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 8 4 4 ระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอรแ์ ละสารสนเทศ 5 8 การสืบค้นข้อมูลสารสนเทศ 6 12 การจัดเก็บ สืบคน้ ส่งผ่านและจัดดำเนนิ การข้อมูล 7 สารสนเทศ 12 การประยุกต์ใชโ้ ปรแกรมสำเร็จรปู ในการนำเสนอและสือ่ สาร 8 ข้อมลู สารสนเทศตามลักษณะงานอาชพี 12 การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเร็จรปู เพอื่ นำเสนอข้อมูล สารสนเทศประเภทสื่อสิง่ พิมพ์ การประยุกตใ์ ชโ้ ปรแกรมสำเร็จรูปเพ่อื นำเสนอข้อมูล สารสนเทศประเภทตัวเลขและตารางงาน การประยุกตใ์ ช้โปรแกรมสำเร็จรปู เพ่อื นำเสนอและสื่อสาร ขอ้ มูลสารสนเทศ รวม 72 เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 4 ผเู้ รียบเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม คำแนะนำการใช้เอกสารประกอบการสอน เอกสารประกอบการสอนรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการอาชีพ รหัส 30001- 2001 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม หน่วยที่ 1 เรื่อง ความรู้ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม เล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าด้วย ตนเอง และเพื่อให้ครูใช้เป็นคู่มือประกอบการสอน นอกจากนี้ยังสามารถใช้เพื่อซ่อมเสริมกรณีที่ นักเรียนทำกจิ กรรมการเรียนรู้ไมผ่ า่ นเกณฑ์ โดยมคี ำแนะนำในการใช้ดังนี้ สำหรบั ครู 1. ใชเ้ ปน็ สื่อการเรียนการสอน เพื่อศกึ ษาเนอ้ื หาของความรูเ้ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โทรคมนาคม โดยก่อนใช้ควรชี้แจงให้นักเรียนทราบถึงวิธีการศึกษาและมีความซื่อสัตย์ในการทำ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบฝกึ หัดระหว่างเรยี น และแบบทดสอบหลังเรียน 2. ใช้เป็นแนวทางในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และ อุปกรณ์โทรคมนาคม โดยใช้ศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ โดยให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ศึกษาเนื้อหา แล้วทำแบบฝึกหัด ใบงาน แบบทดสอบหลังเรียน และเฉลยแบบฝึกหัด เฉลย แบบทดสอบก่อนเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน 3. ในการจัดกิจกรรมภาคปฏิบัติ อาจให้นักเรียนทำเป็นรายบุคคลหรือรายกลุ่มตามความ เหมาะสม เพ่ือฝกึ ให้นักเรียนสามารถทำงานร่วมกับบุคคลอน่ื ได้ 4. เมอ่ื จบกิจกรรมการเรยี นรู้ครูควรให้นักเรยี นชว่ ยกนั สรุปและมีส่วนชว่ ยกันประเมินผลงาน และครูบนั ทกึ คะแนนก่อนเรยี น ระหวา่ งเรยี น และหลังเรียน เพื่อให้นักเรยี นเห็นพัฒนาการของตนเอง ถ้านักเรยี นทำคะแนนได้ไม่ถงึ เกณฑ์ ควรให้นกั เรียนศึกษาซ้ำอีกหรือครูจะสอนซ่อมเสริมให้จนกระทั่ง ทดสอบแล้วผา่ นเกณฑท์ ่ีกำหนดไว้ สำหรบั นกั เรียน 1. ใช้ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองและต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองทั้งก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน 2. ในการศึกษาเอกสารนี้ หากไม่เข้าใจให้บันทึกไว้เพ่ือสอบถามครูในเวลาเรียนหรือนอก เวลาเรียน 3. ขั้นตอนการศึกษา มีดงั น้ี 3.1 ทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน 3.2 ศกึ ษาเนือ้ หาใหเ้ ขา้ ใจอยา่ งละเอียด 3.3 ทำแบบฝึกหดั ตามท่กี ำหนด 3.4 ปฏบิ ตั ิงานเกี่ยวกบั ความรูเ้ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม 3.5 นำผลงานทีท่ ำแลว้ สง่ ครู ประเมนิ ผลรว่ มกัน 3.6 ทำแบบทดสอบหลงั เรียน เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 5 ผู้เรยี บเรียง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 3.7 ตรวจคำตอบแบบฝึกหัด แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน เพื่อทราบผลการ พัฒนาตนเอง ซึ่งในแต่ละกิจกรรมต้องผ่านเกณฑ์ตามกำหนด หากไม่ผ่านเกณฑ์ควรซ่อมเสริมโดย ทบทวนแล้วทำกจิ กรรมนั้นใหม่จนผา่ นเกณฑ์ 4. ในการศึกษานักเรียนควรได้รับความรู้ ทักษะ และฝึกนิสัยที่ในการทำงาน ปฏิบัติงานดว้ ย ความเป็นระเบียบเรียบร้อย ประณีต รอบคอบ คำนึงถึงความปลอดภัย ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัด และรักษาสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสร้างคุณธรรมให้เกิดกับตัวเอง ได้แก่ การมีวินัย ความซ่ือสัตย์ ความ สนใจใฝ่รู้ การมีมนุษยสัมพันธ์ และความสามัคคี เพื่อให้เป็นคนดี คนเก่ง และอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสขุ ส่ือทใี่ ชใ้ นการเรยี นการสอนท้งั ทฤษฎแี ละปฏบิ ตั ิ 1. สอ่ื PowerPoint/E-book เรือ่ ง ความร้เู ก่ียวกับคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 2. เอกสารประกอบการสอน เรื่อง ความร้เู กยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 3. สอื่ ของจรงิ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 6 ผู้เรียบเรียง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความรเู้ กย่ี วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม หนว่ ยที่ 1 ความรเู้ กี่ยวกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม หลังจากได้ศึกษาเอกสารประกอบการสอนรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดการ อาชีพ รหัสวิชา 30001-2001 ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประเภทวิชาอุตสาหกรรม หน่วยที่ 1 เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมแล้ว ผู้เรียนจะมีความรู้ ความสามารถ ดงั นี้ สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของคอมพิวเตอร์ 2. องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ 3. ประเภทของคอมพิวเตอร์ 4. อปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 5. หนา้ ทข่ี องระบบโทรคมนาคม สมรรถนะประจำหน่วย 1. สามารถอธบิ ายถึงความหมายของคอมพิวเตอรไ์ ด้ 2. จำแนกประเภทของคอมพิวเตอร์ 3. สามารถบอกองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์และระบบโทรคมนาคมได้ 4. แสดงความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. ด้านความรู้ 1.1 บอกความหมายของคอมพวิ เตอร์และโทรคมนาคมได้ 1.2 อธิบายองคป์ ระกอบคอมพิวเตอร์และระบบโทรคมนาคมได้ 1.3 จำแนกประเภทของคอมพิวเตอร์ได้ 1.4 อธบิ ายความหมายโทรคมนาคมได้ 1.5 บอกหนา้ ที่ของระบบโทรคมนาคมไดด้ ้านทกั ษะ 2. ดา้ นทกั ษะ 2.1 เลอื กใชง้ านคอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคมกบั ชีวิตประจำวันได้อยา่ งถูกต้อง 3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ 3.1 นำประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์และระบบโทรคมนาคมไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจำวนั ได้ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 7 ผเู้ รียบเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม แบบทดสอบก่อนเรียน คำแนะนำ 1) จงทำเครือ่ งหมายกากบาท (×) ข้อทีถ่ ูกที่สุดเพยี งข้อเดยี ว ลงในกระดาษคำตอบที่ แจกให้ 2) ข้อสอบจำนวน 10 ข้อ ใช้เวลาสอบ 10 นาที คะแนนเต็ม 10 คะแนน 1. ข้อใดคือบอกความหมายของคอมพิวเตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง ก. อปุ กรณ์ไฟฟ้าทส่ี ามารถนำมาใชค้ ำนวณได้ ใชใ้ นการแก้ปญั หาตา่ งๆ ข. อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์แบบอตั โนมัตทิ ส่ี ามารถทำงานได้เอง ค. เคร่อื งมือชว่ ยในการจัดเก็บข้อมลู ได้จำนวนมาก ใชส้ ำหรับแก้ปัญหาตา่ ง ๆ ง. เครื่องอเิ ล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมตั ิ ทำหนา้ ท่เี สมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปญั หาต่าง ๆ 2. ขอ้ ใดคือความหมายของอุปกรณ์โทรคมนาคมถกู ต้องทีส่ ุด ก. เป็นเครอ่ื งมือในการส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอกั ษรภาพและเสียง โดยใชค้ ล่ืน แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า ข. เป็นเครอ่ื งมือที่ใช้ในการสื่อสารผ่านทางสายโทรศัพท์ ค. การติดตอ่ ส่ือสารโดยผ่านทางโทรศัพท์เท่านัน้ ง. ถกู ทกุ ขอ้ 3. ข้อใดไมใ่ ชป่ ระเภทของคอมพวิ เตอร์ ก. เมนเฟรม ข. ไมโครคอมพวิ เตอร์ ค. มินิคอมพวิ เตอร์ ง. คอมพวิ เตอร์พกพา 4. จอภาพเป็นอุปกรณป์ ระเภทใด ก. รับข้อมลู ข. ประมวลผลข้อมลู ค. แสดงผลขอ้ มูล ง. สำรองขอ้ มลู 5. อปุ กรณใ์ ดไม่ได้อยู่ในหนว่ ยรบั ขอ้ มูล ก. เมาส์ ข. แปน้ พิมพ์ ค. ไมโครโฟน ง. ลำโพง 6. ขอ้ ใดไมไ่ ดอ้ ย่ใู นองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ก. Hardware ข. Software ค. People Ware ง. Network เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (30001-2001) หน้า | 8 ผู้เรียบเรียง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกับคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 7. อปุ กรณ์โทรคมนาคม ขอ้ ใดไม่ใช่ ก. Transducer ข. Terminal ค. Transmitter ง. Network 8. ในระบบโทรคมนาคมส่วนใหญใ่ ชอ้ ปุ กรณใ์ นการรับสง่ ข้อมูลขา่ วสารตา่ งชนิดตา่ งย่หี ้อกัน แต่ สามารถแลกเปล่ยี นข้อมูลระหวา่ งกนั ได้เพราะใช้ชุดคำสง่ั มาตรฐานชดุ เดียวกนั กฎเกณฑ์มาตรฐาน ในการสือ่ สารนเ้ี ราเรยี กวา่ อะไร ก. Protocol ข. Prototype ค. Terminal ง. Channel 9. ไมโครโปรเซสเซอรถ์ ูกเรียกวา่ อะไรในคอมพวิ เตอร์ ก. ชิพ (chip) ข. หน่วยประมวลผลกลางหรือซพี ยี ู ค. เมนบอร์ด ง. การ์ดแสดงผล 10. มนสั จำเป็นจะต้องใช้คอมพวิ เตอร์ในการทำงานในสถานท่ีคบั แคบมากและมผี คู้ นมาก จะตอ้ งเลอื กใช้ คอมพวิ เตอรป์ ระเภทใด ก. คอมพวิ เตอร์แบบต้ังโต๊ะ ข. โนต๊ บุคส์ ค. ไมโครคอนโทรลเลอร์ ง. แท็บเล็ต เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 9 ผู้เรยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยที่ 1 เรื่อง ความรูเ้ ก่ียวกับคอมพิวเตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม ข้อท่ี คำตอบ ข้อท่ี คำตอบ 1. ง. 6. ง. 2. ก. 7. ง. 3. ง. 8. ก. 4. ค. 9. ข. 5. ง. 10. ง. เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 10 ผู้เรียบเรยี ง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม หนว่ ยที่ 1 ความรู้เก่ียวกบั คอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม คอมพิวเตอร์ (computer) เข้ามามีบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อสังคมของมนุษย์เราในปัจจุบัน แทบ ทุกวงการ ล้วนนำคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้งาน จนกล่าวได้ว่า คอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยที่ สำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตและการทำงานในชีวิตประจำวนั ฉะนั้น การเรียนรูเ้ พื่อทำความรู้จัก กับคอมพิวเตอร์จึงถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่งเพื่อที่จะทราบว่าคอมพิ วเตอร์คืออะไร ทำงานอย่างไร และมคี วามสำคญั ตอ่ มนุษยอ์ ย่างไร 1.1 ความร้เู ก่ยี วกับคอมพวิ เตอร์ 1.1.1 ความหมายของคอมพวิ เตอร์ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้คำจำกัดความของคอมพิวเตอร์ไว้ ค่อนข้างกะทัดรัดว่า เครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับ แกป้ ญั หาต่าง ๆ ทง้ั ทง่ี ่ายและซับซ้อน โดยวธิ ีทางคณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์จงึ เป็นเคร่ืองจักรอิเล็กทรอนิกส์ท่ีถูกสร้างขึ้นเพ่ือใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้าน การคิด คำนวณและสามารถจำข้อมูลทั้งตัวเลขและตัวอักษรได้ เพื่อการเรียกใช้งานในครั้งต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถจัดการกับสัญลักษณ์ได้ด้วยความเร็วสูง โดยปฏิบัติตามขั้นตอนของโปรแกรม คอมพวิ เตอร์ ยงั มคี วามสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทเิ ช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การ รบั สง่ ข้อมลู การจัดเกบ็ ขอ้ มลู ในตัวเคร่อื งและสามารถประมวลผลจากข้อมูลตา่ งๆ ได้ 1.1.2 ประเภทของคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์ได้ใช้วงจรเบ็ดเสร็จขนาดใหญ่มาก (very large scale integrated circuit) ซึ่งสามารถบรรจุทรานซิสเตอร์ได้มากกว่าสิบล้านตัว เราสามารถแบ่งคอมพิวเตอร์ในรุ่น ปัจจบุ ันออกเปน็ 4 ประเภทดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ (supercomputer) ถือได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วมาก และมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับคอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ เครื่องซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มี ราคาแพงมาก มขี นาดใหญ่ สามารถคำนวณทางคณิตศาสตรไ์ ด้หลายแสนล้านครงั้ ต่อวินาที และได้รับ การออกแบบ เพื่อให้ใช้แก้ปัญหาขนาดใหญ่มากทางวิทยาศาสตร์และทางวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่าง รวดเร็ว เช่น การพยากรณ์อากาศล่วงหน้าเป็นเวลาหลายวัน การศึกษาผลกระทบของมลพิษกับ สภาวะแวดล้อมซึ่งหากใช้คอมพิวเตอร์ชนิดอื่น ๆ แก้ไขปัญหาประเภทนี้ อาจจะต้องใช้เวลาในการ คำนวณหลายปีกวา่ จะเสร็จสิน้ ในขณะทีซ่ ุปเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถแก้ไขปัญหาได้ภายในเวลาไม่ก่ี ชว่ั โมงเทา่ นั้น เน่อื งจากการแก้ปัญหาใหญ่ ๆ จะตอ้ งใชห้ น่วยความจำสูง ดงั นั้น ซปุ เปอร์คอมพิวเตอร์ จึงมีหน่วยความจำที่ใหญ่มาก ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์มีหลายประเภท ตั้งแต่รุ่นที่มีหน่วยประมวลผล (processing unit) 1 หน่วย จนถึงรุ่นที่มีหน่วยประมวลผลหลายหมื่นหน่วยซึ่งสามารถทำงานหลาย อย่างไดพ้ รอ้ ม ๆ กัน เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 11 ผเู้ รยี บเรยี ง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม รปู 1.1 แสดงเคร่อื งซุปเปอร์คอมพวิ เตอร์ ท่มี า: https://sites.google.com/site/cam5910122137046/supercomputer 9/6/64 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (mainframe computer) มีสมรรถนะที่ต่ำกว่าซุปเปอร์ คอมพิวเตอร์มาก แต่ยังมีความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพสูงกว่ามินิคอมพิวเตอร์หรือ ไมโครคอมพิวเตอร์ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์สามารถให้บริการผู้ใช้จำนวนหลายร้อยคนพร้อม ๆ กัน ฉะนั้น จึงสามารถใช้โปรแกรมจำนวนนับร้อยแบบในเวลาเดียวกันได้ โดยเฉพาะถ้าต่อเครื่องเข้า เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้สามารถใช้ได้จากทั่วโลก ปัจจุบัน องค์กรใหญ่ ๆ เช่น ธนาคาร จะใช้ คอมพิวเตอร์ประเภทนี้ในการทำบัญชีลูกค้า หรือการให้บริการจากเครื่องฝากและถอนเงินแบบ อัตโนมัติ (automatic teller machine) เนื่องจากเครื่องเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ถูกใช้งานมากใน การบรกิ ารผใู้ ชพ้ ร้อม ๆ กนั เมนเฟรมคอมพิวเตอร์จงึ ตอ้ งมหี นว่ ยความจำที่ใหญ่มาก รปู 1.2 แสดงเครอ่ื งเฟรมคอมพิวเตอร์ ที่มา: https://sites.google.com/site/thekhnoloyilaeakhxmphiwtexr032/prapheth-khxng- khxmphiwtexr/menferm-khxmphiwtexr-mainframe-computer 9/6/64 3. มินิคอมพิวเตอร์ (mini computer) คือ เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ๆ ซึ่งสามารถ บริการผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อม ๆ กัน แต่จะไม่มีสมรรถภาพเพียงพอที่จะบริการผู้ใช้ในจำนวนท่ี เทียบเท่าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ได้ จึงทำให้มินิคอมพิวเตอร์เหมาะสำหรับองค์กรขนาดกลาง หรือ สำหรบั แผนกหน่ึงหรือสาขาหน่งึ ขององคก์ รขนาดใหญเ่ ทา่ นนั้ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 12 ผเู้ รยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความรเู้ กยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคม รูป 1.3 แสดงเคร่อื งมินคิ อมพิวเตอร์ ทมี่ า: https://sites.google.com/site/phitchakorn461/mi-ni-khxmphiwtexr-mini-computer 9/6/64 4. ไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก และใช้ทำงานคน เดียว นิยมเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) หรือ พีซี (PC) เป็น คอมพิวเตอร์ใช้งานที่พบได้อย่างแพร่หลาย จัดว่าเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ทั้งระบบใช้งาน ครง้ั ละเครอื่ ง หรือใชง้ านในลกั ษณะเครือขา่ ย แบง่ ได้หลายลกั ษณะตามขนาด เชน่ เครือ่ งคอมพิวเตอร์ ส่วนบุคคลแบบตั้งโต๊ะ (Personal Computer) หรือแบบ พกพา (Portable Computer) ลักษณะ ของไมโครคอมพวิ เตอร์สามารถแบ่งได้ เป็นรูปแบบย่อยดงั นี้ รปู 1.4 แสดง Desktop computer รวมถงึ Tower ทีม่ า: https://www.hellotech.com/blog/best-desktop-computers 9/6/64 4.1 โน้ตบุ๊ค คือ คอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็กกว่าไมโครคอมพิวเตอร์ ถูกออกแบบไว้เพื่อนำ ติดตัวไปใช้ตามที่ต่าง ๆ มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบา ในปัจจุบันมีขนาดพอ ๆ กับสมุดที่ทำด้วย กระดาษ 4.2 เนต็ บคุ๊ คือ คอมพิวเตอรท์ ีม่ ีขนาดเล็กกวา่ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คและเล็กกว่าโน้ตบุ๊ค ไม่ มีไดรฟ์สำหรับอ่านและเขียนแผ่น และใช้ฮาร์ดดิสแบบ SSD ทำให้น้ำหนักเบา ถูกออกแบบไว้เพื่อนำ ติดตวั ไปใช้ตามท่ตี า่ ง ๆ มขี นาดเลก็ และน้ำหนักเบา ปัจจุบันไม่ไดร้ บั ความนยิ ม รูป 1.5 แสดง Notebook และ Netbook computer หนา้ | 13 ทม่ี า: http://www.notebookfocus.com/read-news/265/ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี (30001-2001) ผู้เรียบเรียง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เกยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม 4.3 อัลตรา้ บคุ๊ คือ คอมพวิ เตอร์ทม่ี ีขนาดเลก็ กวา่ ไมโครคอมพวิ เตอร์และมีขนาดเท่ากับ โนต้ บ๊คุ ถูกออกแบบไวเ้ พื่อนำติดตวั ไปใช้ตามทตี่ า่ ง ๆ และนำ้ หนักเบากว่าโนต้ บุ๊ค และเนน้ ความ สวยงาม ทนั สมยั แปลกใหม่ รปู 1.6 แสดง อัลตร้าบุค๊ (Ultrabook) ทีม่ า: https://sites.google.com/a/tupr.ac.th/rucak-kab-khxmphiwtexr/prapheth/xalt-ra- bukh 4.4 แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ (tablet computer) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า แท็บเล็ต คือเครื่อง คอมพวิ เตอร์ท่ีสามารถใช้ในขณะเคล่ือนที่ได้ ขนาดกลางและใชห้ น้าจอสัมผัสในการทำงานเป็นอันดับ แรก มีคีย์บอร์ดเสมือนจริงหรือปากกาดิจิตอลในการใช้งานแทนที่แป้นพิมพ์คีย์บอร์ด มีขนาดเล็ก สามารถถอื ดว้ ยมอื เดียว และน้ำหนักเบา โดยมีรูปแบบดังนี้ 1. Convertible Tablet มีโครงสร้างเดียวกับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คส์ แต่ตัว จอภาพสามารถ หมนุ แล้วพับซอ้ นบนคียบ์ อรด์ หรือสามารถแยกสว่ นได้ รูป 1.7 แสดงตัวอยา่ ง Convertible Tablet ท่มี า: https://www.notebookcheck.net/HP-ZBook-x2-convertible-tablet-coming- in-December.258570.0.html 9/6/64 2. State Tablet จะเป็นแท็บเล็ตที่มีเพียงหน้าจอคล้ายกับกระดานชนวน จะมี คยี บ์ อร์ดใน ตัวแต่บางยีห่ ้อสามารถใชป้ ากกาเป็นอปุ กรณอ์ นิ พตุ แทนคีย์บอร์ด เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 14 ผู้เรียบเรียง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกับคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม รปู 1.8 แสดงตวั อย่าง State Tablet ทีม่ า: https://tabletpre2.files.wordpress.com/2012/04/asus-eee-slate-ep121-tablet-pc- image-1.jpg 9/6/64 4.5 ไมโครคอนโทลเลอร์ (Microcontrollers) มักย่อว่า µC, uC หรอื MCU) คอื อุปกรณ์ ควบคมุ ขนาดเล็ก ซงึ่ บรรจุความสามารถที่คล้ายคลึงกับระบบคอมพิวเตอร์ในไมโครคอนโทรลเลอร์ได้ รวมเอาซีพียู, หน่วยความจำ และพอร์ต ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญของระบบคอมพิวเตอร์เข้าไว้ ด้วยกัน โดยทำการบรรจุเข้าไว้ในตัวถังเดียวกัน ไมโครคอนโทรลเลอร์เป็นคอมพิวเตอร์แบบฝังตัว (Embedded Computers) ออกแบบมาเป็นพิเศษ มีขนาดเล็ก ป้อนโปรแกรมเพื่อให้ทำงานด้านใด ด้านหนึ่งโดยเฉพาะสามารถสังเกตได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปในปัจจุบัน มักมีเป็นสว่ นประกอบแทบทั้งสนิ้ เชน่ สมาร์ททวี ี เคร่อื งไมโครเวฟ เครื่องซกั ผา้ และตู้เย็น เป็นตน้ รปู 1.9 แสดงตัวอย่าง microcontroler ทมี่ า: https://nefastor.com/microcontrollers/ 9/6/64 1.1.3 องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ 1. ฮาร์ดแวร์ หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆ ที่ประกอบขึ้นเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ มีลักษณะเป็น โครงร่างสามารถมองเห็นด้วยตาและสัมผัสได้ (รูปธรรม) เช่น จอภาพ คีย์บอร์ด เครื่องพิมพ์ เมาส์ เป็นต้น ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ตามลักษณะการทำงาน ได้ 4 หน่วย คือ หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit : CPU) หน่วยแสดงผล (Output Unit) หน่วยเก็บข้อมูลสำรอง (Secondary Storage) โดยอุปกรณ์แต่ละหน่วยมีหน้าที่การทำงาน แตกต่างกนั ดงั ภาพ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 15 ผ้เู รยี บเรียง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรเู้ กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม CPU Register Secondary Storage รูป 1.10 แสดงสว่ นประกอบของคอมพวิ เตอร์ 2. ซอฟท์แวร์ หมายถึง ส่วนที่มนุษย์สัมผัสไม่ได้โดยตรง (นามธรรม) เป็นโปรแกรมหรือ ชุดคำส่งั ที่ถกู เขยี นขน้ึ เพื่อ สงั่ ใหเ้ คร่ือง คอมพวิ เตอรท์ ำงาน ซอฟตแ์ วรจ์ งึ เป็นเหมือนตัวเช่ือมระหว่าง ผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ ถ้าไม่มีซอฟต์แวร์เรา ก็ไม่สามารถใช้เครื่อง คอมพวิ เตอรท์ ำอะไรได้เลย ซอฟต์แวรส์ ำหรับเคร่อื งคอมพิวเตอร์สามารถแบ่งออกได้เป็น 2.1 ซอฟต์แวร์สำหรับระบบ (System Software) คือ ชุดของคำสั่งที่เขียนไว้เป็นคำส่ัง สำเรจ็ รปู ซึ่งจะทำงานใกลช้ ิดกับคอมพิวเตอรม์ ากท่ีสดุ เพอื่ คอยควบคุมการ ทำงาน ของฮาร์ดแวร์ทุก อย่าง และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใชใ้ นการใชง้ าน ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมระบบที่รู้จกั กันดกี ็คอื DOS, Windows, Unix, Linux รวมท้ังโปรแกรมแปลคำส่ังท่เี ขยี นในภาษาระดบั สูง เช่น ภาษา Basic, Fortran, Pascal, Cobol, C เป็นต้น นอกจากนี้โปรแกรมที่ใช้ในการตรวจสอบระบบเช่น Norton’s Utilities กน็ บั เปน็ โปรแกรมสำหรบั ระบบด้วยเช่นกัน 2.2 ซอฟต์แวรป์ ระยกุ ต์ (Application Software) คือ ซอฟต์แวร์หรอื โปรแกรมทีน่ ำมาให้ คอมพิวเตอร์ทำงานต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการ ไม่ว่าจะด้านเอกสาร บัญชี การจัดเก็บ ข้อมูล เป็นต้น ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกตส์ ามารถจำแนกได้เปน็ 2 ประเภท คือ 2.1.1 ซอฟต์แวร์สำหรับงานเฉพาะด้าน คือ โปรแกรมซึ่งเขียนขึ้นเพื่อการทำงาน เฉพาะอย่างที่เราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program เช่น โปรแกรมการทำบัญชีจ่ายเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซอ้ื โปรแกรมการทำสินค้าคงคลัง เป็นตน้ ซง่ึ แตล่ ะโปรแกรมก็มกั จะมีเงื่อนไข หรือ แบบฟอร์มแตกต่างกันออกไปตามความต้องการ หรือกฎเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานที่ใช้ ซึ่งสามารถ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 16 ผู้เรยี บเรียง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรเู้ กย่ี วกบั คอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม ดดั แปลงแกไ้ ขเพ่ิมเติม (Modifications) ในบางส่วนของโปรแกรมได้ เพ่อื ใหต้ รงกบั ความต้องการของ ผูใ้ ช้ และ ซอฟตแ์ วรป์ ระยุกตท์ ่เี ขยี น ขึ้นนีโ้ ดยสว่ นใหญ่มกั ใชภ้ าษาระดับสูงเป็นตัวพัฒนา 2.1.2 ซอฟต์แวร์สำหรบั งานทัว่ ไป เป็นโปรแกรมประยุกต์ท่ีมีผู้จัดทำไว้ เพื่อใช้ในการ ทำงานประเภทตา่ งๆ ทั่วไป โดย ผใู้ ชค้ นอ่ืนๆ สามารถนำโปรแกรมน้ีไปประยุกต์ใช้กบั ข้อมลู ของตนได้ แต่จะไมส่ ามารถทำการดัดแปลง หรือแกไ้ ขโปรแกรมได้ ผใู้ ช้ไม่จำ เป็นต้องเขียนโปรแกรมเอง ซ่ึงเป็น การประหยดั เวลา แรงงาน และคา่ ใชจ้ ่ายในการเขียนโปรแกรม นอกจากนี้ ยังไมต่ ้อง เวลามากในการ ฝึกและปฏิบัติ ซึ่งโปรแกรมสำเร็จรูปนี้ มักจะมีการใช้งานในหน่วยงานเรา ขาดบุคลากร ที่มีความ ชำนาญ เป็นพิเศษ ในการเขียนโปรแกรม ดังนั้น การใช้โปรแกรมสำเร็จรูปจึงเป็นสิ่งที่อำนวยความ สะดวก และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ตัวอย่างโปรแกรม สำเร็จรูปที่นิยมใช้ได้แก่ MS-Office, Lotus, Adobe Photoshop, SPSS, Internet Explorer และเกมสต์ า่ งๆ เป็นตน้ 3. บุคลากร (people ware) หมายถึง บุคลากรในงานด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความรู้ เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งาน สั่งงานเพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่ต้องการ แบ่งออกได้ 4 ระดับ ดังนี้ 3.1 ผู้จัดการระบบ (System Manager) คือ ผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไป ตามเปา้ หมายของหน่วยงาน 3.2 นักวิเคราะห์ระบบ (System Analyst) คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และ ทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน เพื่อให้โปรแกรม เมอร์เปน็ ผ้ทู ่ีเขยี นโปรแกรมให้กับระบบงาน 3.3 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คอื ผเู้ ขยี นโปรแกรมส่งั งานเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ พ่ือให้ ทำงานตามความตอ้ งการของผู้ใช้ โดยเขียนตาม แผนผังทน่ี ักวเิ คราะห์ ระบบไดเ้ ขยี นไว้ 3.4 ผู้ใช้ (User) คือ ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง และ วิธกี ารใชง้ านโปรแกรม เพอื่ ใหโ้ ปรแกรม ท่มี ีอย่สู ามารถทำงานไดต้ ามที่ตอ้ งการเนื่องจากเปน็ ผู้กำหนด โปรแกรมและใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ มนุษย์จึงเป็น ตัวแปรสำคัญในอันที่จะทำให้ผลลัพธ์มีความ น่าเชื่อถือ เนื่องจากคำสั่งและข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผล ได้รับจากการ กำหนดของมนุษย์ (Peopleware) ทงั้ สน้ิ 4. ข้อมูล(data) เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่ต้อง ป้อนเข้าไปในคอมพิวเตอร์ พร้อมกับ โปรแกรมที่นกั คอมพิวเตอรเ์ ขียน ขึ้นเพื่อผลิตผลลพั ธ์ท่ีต้องการ ออกมา ข้อมูลที่สามารถนำมาใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ มี 5 ประเภท คือ ข้อมูลตัวเลข (Numeric Data) ข้อมูลตัวอักษร (Text Data) ข้อมูลเสียง (Audio Data) ข้อมูลภาพ (Images Data) และข้อมูลภาพ เคลอ่ื นไหว (Video Data) 4.1 โครงสร้างขอ้ มูล (Data Structure) ในการนำขอ้ มูลไปใชน้ ั้น เรามีระดบั โครงสร้างของขอ้ มูลดังนี้ บิต (Bit) คือ ข้อมูลที่มีขนาดเลก็ ที่สุด เป็นข้อมูลทีเ่ ครื่องคอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจ และนำไปใช้ งานได้ ซงึ่ ไดแ้ ก่ เลข 0 หรอื เลข 1 เทา่ นนั้ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 17 ผู้เรยี บเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความร้เู กยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม ไบต์ (Byte) หรือ อักขระ (Character) ได้แก่ ตัวเลข หรือ ตัวอักษร หรือ สัญลักษณ์ พิเศษ 1 ตัว เช่น 0, 1, …, 9, A, B, …, Z และเครื่องหมายต่างๆ ซึ่ง 1 ไบต์จะเท่ากับ 8 บิต หรือ ตัว อักขระ 1 ตัว เป็นต้น ฟิลด์ (Field) ได้แก่ ไบต์ หรือ อักขระตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไปรวมกันเป็นฟิลด์ เช่น เลข ประจำตัว(ID) ชือ่ พนักงาน(name) เป็นตน้ เรคคอร์ด (Record) ได้แก่ ฟิลด์ตั้งแต่ 1 ฟิลด์ ขึ้นไป ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้อง รวมกันเป็นเรคคอร์ด เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัว ยอดขาย ข้อมูลของพนักงาน 1 คน เป็น 1 เรคคอรด์ ไฟล์ (Files) หรือ แฟ้มข้อมูล ได้แก่ เรคคอร์ดหลายๆ เรคคอร์ดรวมกัน ซึ่งเป็นเรื่อง เดียวกัน เช่น ข้อมูลของประวัติพนักงานแต่ละคนรวมกันทั้งหมดเป็นไฟล์หรือแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับ ประวตั ิพนักงานของบรษิ ทั เปน็ ต้น ฐานข้อมูล (Database) คือ การเก็บรวบรวมไฟล์ขอ้ มูลหลายๆ ไฟล์ที่เกีย่ วข้องกันมา รวมเขา้ ด้วยกนั เชน่ ไฟล์ข้อมูลของแผนกต่างๆ มารวมกนั เปน็ ฐานข้อมูลของบรษิ ทั เปน็ ตน้ ฐานข้อมูล รูป 1.11 แสดงโครงสร้างของ data structure 4.2 การวัดขนาดขอ้ มูล ในการพิจารณาว่าข้อมูลใดมีขนาดมากน้อยเพียงไร เรามีหน่วยในการวัดขนาดของ ขอ้ มลู ดงั ตอ่ ไปน้ี 8 Bit = 1 Byte หรอื 1 ตวั อักษร 1,024 Byte = 1 KB (กโิ ลไบต์) 1,024 KB = 1 MB (เมกกะไบต์) 1,024 MB = 1 GB (กิกะไบต)์ 1,024 GB = 1TB (เทระไบต์) เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 18 ผเู้ รียบเรียง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรเู้ กยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม 1.1.4 คอมพวิ เตอรแ์ บ่งตามลักษณะวิธกี ารทำงาน การจำแนกคอมพิวเตอร์ตามลักษณะวธิ ีการทำงานภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์อาจแบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 1. แอนะลอ็ กคอมพิวเตอร์ (analog computer) เปน็ เคร่อื งคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ท่ีไม่ได้ใช้ ค่าตัวเลขเป็นหลักของการคำนวณ แต่จะใช้ค่าระดับแรงดันไฟฟ้าแทน ไม้บรรทัดคำนวณ อาจถือเปน็ ตัวอย่างหนึ่งของแอนะล็อกคอมพิวเตอร์ ที่ใช้ค่าตัวเลขตามแนวความยาวไม้บรรทัดเป็นหลักของการ คำนวณ โดยไม้บรรทัดคำนวณจะมีขีดตัวเลขกำกับอยู่ เมื่อไม้บรรทัดหลายอันมาประกบรวมกัน การ คำนวณผล เชน่ การคณู จะเปน็ การเลอ่ื นไมบ้ รรทัดหนึ่งไปตรงตามตวั เลขของตวั ตง้ั และตัวคูณของขีด ตัวเลขชุดหนึ่ง แล้วไปอ่านผลคูณของขีดตัวเลขอีกชุดหนึง่ แอนะล็อกคอมพิวเตอร์แบบอิเลก็ ทรอนิกส์ จะใช้หลักการทำนองเดยี วกนั โดยแรงดนั ไฟฟา้ จะแทนขีดตวั เลขตามแนวยาวของไม้บรรทัด แอนะล็อกคอมพิวเตอร์จะมีลักษณะเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่แยกส่วนทำหน้าที่เป็นตัว กระทำและเป็นฟงั กช์ นั ทางคณิตศาสตร์ จึงเหมาะสำหรับงานคำนวณทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมท่ี อยู่ในรูปของสมการคณิตศาสตร์ เช่น การจำลองการบิน การศึกษาการสั่งสะเทือนของตึกเนื่องจาก แผ่นดินไหว ข้อมูลตัวแปรนำเข้าอาจเปน็ อุณหภมู คิ วามเรว็ หรือความดนั อากาศ ซงึ่ จะต้องแปลงให้เป็น คา่ แรงดนั ไฟฟ้า เพ่ือนำเขา้ แอนะล็อกคอมพวิ เตอร์ผลลัพธ์ทไี่ ดอ้ อกมาเปน็ แรงดันไฟฟ้าแปรกับเวลาซึ่ง ตอ้ งแปลงกลบั ไปเป็นค่าของตัวแปรทกี่ ำลังศึกษา ในปัจจุบันไม่ค่อยพบเห็นแอนะล็อกคอมพิวเตอร์เท่าไรนักเพราะผลการคำนวณมีความ ละเอยี ดนอ้ ย ทำใหม้ ีขดี จำกัดใชไ้ ดก้ บั งานเฉพาะบางอย่างเทา่ น้ัน 2. ดิจิทัลคอมพิวเตอร์ (digital computer) เป็นคอมพิวเตอร์ที่พบเห็นทั่วไปในปัจจุบัน จัดเป็นดิจิทัลคอมพิวเตอร์แทบทั้งหมด ดิจิทัลคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องคำนวณอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งาน เกี่ยวกับตัวเลข มีหลักการคำนวณที่ไม่ใช่แบบไม้บรรทัดคำนวณ แต่เป็นแบบลูกคิด โดยแต่และหลัก ของลูกคิดคือ หลักหน่วย หลักร้อย และสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็นระบบเลขฐานสินที่แทนตัวเลขจากศูนย์ ถ้าเก้าไปสบิ ตวั ตามระบบตัวเลขทใ่ี ชใ้ นชีวิตประจำวัน ค่าตวั เลขของการคำนวณในดจิ ทิ ลั คอมพิวเตอรจ์ ะแสดงเปน็ หลักเชน่ เดียวกัน แตจ่ ะเป็นระบบ เลขฐานสองที่มีสัญลักษณ์ตัวเลขเพียงสองตัว คือเลขศูนย์กับเลขหนึ่งเท่านั้น โดยสัญลักษณ์ตัวเลขทง้ั สองตัวนี้ จะแทนลักษณะการทำงานภายในซึ่งเป็นสัญญาณไฟฟ้าที่ต่างกัน การคำนวณภายในดิจิทัล คอมพิวเตอร์จะเป็นการประมวลผลด้วยระบบเลขฐานสองทั้งหมด ดังนั้นเลขฐานสิบที่เราใช้และ คุ้นเคยจะถูกแปลงไปเปน็ ระบบเลขฐานสองเพ่ือการคำนวณภายในคอมพิวเตอร์ ผลลัพธ์ที่ไดก้ ็ยังเป็น เลขฐานสองอยู่ ซ่ึงคอมพวิ เตอร์จะแปลงเปน็ เลขฐานสบิ เพอื่ แสดงผลให้ผู้ใชเ้ ข้าใจได้งา่ ย 1.1.5 หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดก็ตาม จะมีลักษณะการทำงานของส่วนต่างๆ ที่มีความ สมั พนั ธก์ ันเป็นกระบวนการ โดยมอี งคป์ ระกอบพนื้ ฐานหลักคือ Input Process และ output เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 19 ผเู้ รยี บเรยี ง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรเู้ กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม ข้ันตอนที่ 1 : รับข้อมลู เข้า (Input) เริ่มต้นด้วยการนำข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถผ่านทางอุปกรณ์ชนิด ต่างๆ แล้วแต่ชนิดของข้อมูลที่จะป้อนเข้าไป เช่น ถ้าเป็นการพิมพ์ข้อมูลจะใช้แผงแป้นพิมพ์ (Keyboard) เพื่อพิมพ์ข้อความหรือโปรแกรมเข้าเครื่อง ถ้าเป็นการเขียนภาพจะใช้เครื่องอ่านพิกัด ภาพกราฟกิ ส์ (Graphics Tablet) โดยมปี ากกาชนิดพิเศษสำหรับเขียนภาพ หรอื ถา้ เปน็ การเล่นเกมก็ จะมีกา้ นควบคุม (Joystick) สำหรบั เคลือ่ นตำแหนง่ ของการเลน่ บนจอภาพ เป็นต้น ข้นั ตอนที่ 2 : ประมวลผลข้อมูล (Process) เมื่อนำข้อมูลเข้ามาแล้ว เครื่องจะดำเนินการกับข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับมาเพื่อให้ ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ การประมวลผลอาจจะมีได้หลายอย่าง เช่น นำข้อมูลมาหาผลรวม นำข้อมูล มาจดั กลุ่มนำข้อมูลมาหาค่ามากทส่ี ดุ หรอื น้อยทส่ี ดุ เปน็ ต้น ข้ันตอนท่ี 3 : แสดงผลลัพธ์ (Output) เป็นการนำผลลัพธ์จากการประมวลผลมาแสดงให้ทราบทางอุปกรณ์ที่กำหนดไว้ โดยทั่วไปจะแสดงผ่านทางจอภาพ หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า \"จอมอนิเตอร์\" (Monitor) หรือจะพิมพ์ ข้อมูลออกทางกระดาษโดยใชเ้ คร่ืองพิมพ์กไ็ ด.้ 1.1.6 ลักษณะเดน่ ของคอมพวิ เตอร์ เคร่ืองคอมพิวเตอร์ถูกสร้างข้นึ มาเพ่ือให้มีจดุ เดน่ 4 ประการ เพื่อทดแทนข้อจำกัดของมนุษย์ เรียกว่า 4 S special ดงั น้ี 1. หน่วยเก็บ (Storage) หมายถึง ความสามารถในการเก็บข้อมูลจำนวนมากและเป็น เวลานาน นับเป็นจุดเด่นทางโครงสร้าง และเป็นหัวใจของการทำงานแบบอัตโนมัติของเครื่อง คอมพวิ เตอร์ ทง้ั เป็นตัวบง่ ชป้ี ระสทิ ธิภาพของคอมพวิ เตอรแ์ ต่ละเคร่ืองด้วย 2. ความเร็ว (Speed) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล (Processing Speed) โดยใช้เวลาน้อย เป็นจุดเด่นทาง โครงสร้างที่ผู้ใช้ทั่วไปมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยที่สุด เป็นตัวบ่งช้ี ประสิทธภิ าพ ของเครอื่ งคอมพิวเตอร์ท่ีสำคญั ส่วนหนงึ่ เช่นกัน 3. ความเป็นอัตโนมัติ (Self Acting) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลข้อมูล ตามลำดับขั้นตอนได้อย่างถูกต้องและต่อเนื่องอย่างอัตโนมัติ โดยมนุษย์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะใน ขัน้ ตอนการกำหนดโปรแกรมคำสั่งและขอ้ มลู กอ่ นการประมวลผลเทา่ น้ัน 4. ความน่าเชื่อถอื (Sure) หมายถึง ความสามารถในการประมวลผลให้เกดิ ผลลพั ธ์ทีถ่ ูกต้อง ความนา่ เช่อื ถือนับเป็นส่ิงสำคัญ ทส่ี ดุ ในการทำงาน ของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ ความสามารถน้ีเกี่ยวข้อง กับโปรแกรมคำสั่งและข้อมูล ที่มนุษย์กำหนด ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์โดยตรง กล่าวคือ หากมนุษย์ ป้อนขอ้ มลู ท่ไี ม่ถูกต้องให้กบั เครอื่ งคอมพวิ เตอร์กย็ ่อม ได้ผลลัพธท์ ีไ่ มถ่ ูกตอ้ งดว้ ยเชน่ กัน อา้ งอิง: https://guru.sanook.com/4145/ 3/7/64 เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (30001-2001) หน้า | 20 ผเู้ รียบเรยี ง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความรูเ้ กย่ี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม 1.1.7 ประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์ 1. จากการที่คอมพิวเตอร์มีลักษณะเด่นหลายประการ ทำให้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ต่อ การ ดำเนินชีวิตประจำวัน ในสังคมเป็นอย่างมาก ที่พบเห็นได้บ่อย ที่สุดก็คือ การใช้ในการพิมพ์เอกสาร ต่างๆ เช่น พิมพ์จดหมาย รายงาน เอกสารต่างๆ ซึ่งเรียกว่างานประมวลผล (word processing) นอกจากนี้ยังมีการประยกุ ต์ใช้คอมพิวเตอร์ในด้านตา่ งๆ อกี หลายดา้ น ดังต่อไปน้ี 2. งานธุรกิจ เช่น บริษัท ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ตลอดจนโรงงานต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ใน การทำบญั ชี งานประมวลคำ และตดิ ต่อกับหน่วยงานภายนอกผ่านระบบโทรคมนาคม นอกจากนี้งาน อุตสาหกรรม ส่วนใหญ่กใ็ ช้คอมพิวเตอร์มา ช่วยในการควบคุมการผลิต และการประกอบช้ินส่วนของ อุปกรณ์ต่างๆ เชน่ โรงงานประกอบรถยนต์ ซึง่ ทำให้การ ผลติ มีคุณภาพดีขึน้ บริษัทยังสามารถรับ หรือ งานธนาคาร ทีใ่ หบ้ รกิ ารถอนเงินผ่านต้ฝู ากถอนเงินอตั โนมตั ิ ( ATM ) และใช้คอมพวิ เตอร์คิดดอกเบี้ย ให้กบั ผู้ฝากเงนิ และการโอนเงนิ ระหวา่ งบญั ชี เชือ่ มโยงกันเป็นระบบเครอื ขา่ ย 3. งานวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และงานสาธารณสุข สามารถนำคอมพิวเตอร์มา ใช้ใน นำมาใช้ในส่วน ของการ คำนวณที่ค่อนข้างซับซ้อน เช่น งานศึกษาโมเลกุลสารเคมี วิถีการโคจรของ การสง่ จรวดไปสอู่ วกาศ หรืองานทะเบียน การเงิน สถติ ิ และเป็นอุปกรณ์สำหรบั การตรวจรักษาโรคได้ ซงึ่ จะให้ผลท่แี มน่ ยำกว่าการตรวจด้วยวธิ ีเคมแี บบเดิม และใหก้ ารรกั ษาได้รวดเร็วข้ึน 4. งานคมนาคมและสื่อสาร ในส่วนที่เกี่ยวกับการเดินทาง จะใช้คอมพิวเตอร์ในการจองวัน เวลา ที่นั่ง ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปยังทุกสถานีหรือทุกสายการบินได้ ทำให้สะดวกต่อผู้เดินทางที่ไม่ต้อง เสียเวลารอ อีกทั้งยังใช้ในการควบคุมระบบการจราจร เช่น ไฟสัญญาณจราจร และ การจราจรทาง อากาศ หรือในการสื่อสาร ก็ใช้ควบคุมวงโคจรของดาวเทียมเพื่อให้อยู่ในวงโคจร ซึ่งจะช่วยส่งผลต่อ การสง่ สัญญาณให้ระบบการส่ือสารมีความชัดเจน 5. งานวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม สถาปนิกและวิศวกรสามารถใช้คอมพิวเตอร์ในการ ออกแบบ หรือ จำลองสภาวการณ์ ต่างๆ เช่น การรับแรง สั่นสะเทือนของอาคารเมื่อเกิดแผ่นดินไหว โดยคอมพิวเตอรจ์ ะคำนวณ และแสดงภาพสถาน การณ์ใกล้เคียงความจริง รวมทั้งการใชค้ วบคมุ และ ติดตามความกา้ วหนา้ ของโครงการ ตา่ งๆ เชน่ คนงาน เครือ่ งมอื ผลการทำงาน 6. งานราชการ เป็นหน่วยงานที่มีการใช้คอมพิวเตอร์มากที่สุด โดยมีการใช้หลายรูปแบบ ทง้ั นี้ขึ้นอย่กู บั บทบาท และหน้าทข่ี องหน่วยงานนัน้ ๆ เช่น กระทรวงศึกษาธิการ มกี ารใชร้ ะบบประชุม ทางไกลผ่านคอมพิวเตอร์ , กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้จัดระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพอ่ื เชื่อมโยงไปยังสถาบันตา่ งๆ , กรมสรรพากร ใชจ้ ดั ในการจัดเก็บภาษี บันทึกการเสียภาษี เปน็ ตน้ 7. การศึกษา ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการเรียนการสอน ซึ่งมีการนำคอมพิวเตอร์ มา ช่วยการสอนในลักษณะ บทเรียน CAI หรืองานด้านทะเบียน ซึ่งทำให้สะดวกต่อการค้นหาข้อมูล นกั เรียน การเกบ็ ขอ้ มลู ยืมและการสง่ คืนหนงั สือหอ้ งสมุด อ้างองิ : http://web.ku.ac.th/schoolnet/ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 21 ผูเ้ รียบเรยี ง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม 1.2 โทรคมนาคม (Telecommunications) 1.2.1 ความหมายของโทรคมนาคม โทรคมนาคม (telecommunication) หมายถึงการสื่อสารระยะไกล โดยใช้เทคโนโลยี ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านทางสัญญาณไฟฟ้า หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นการส่งสารสนเทศใน รูปแบบของตัวอักษร ภาพและเสียงโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าหรือการติดต่อสารจากที่หนึ่งไปยังอีกท่ี หนึ่ง โดยใช้พลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปตามสายเคเบิลทองแดง เคเบิลเส้นใยแก้วนำแสง หรือโดยอาศัย คลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้ ในการส่งสัญญาณไปในบรรยากาศ เช่น การส่งวิทยโุ ทรทศั น์ การสง่ คลืน่ ไมโครเวฟ และการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียม โดยจุดที่ส่งข่าวสารกับจุดรับจะอยู่ห่างไกลกัน และข่าวสารที่ส่ง เฉพาะเจาะจงผู้รบั คนใดคนหนึ่งหรือสง่ ให้ผู้รบั ทวั่ ไปก็ได้ โทรคมนาคมเป็นการใช้ส่ืออุปกรณ์รบั ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น วิทยุโทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสารและ โทรพิมพ์ เพื่อการสือ่ สารในระยะไกล โดยอุปกรณ์เหล่านี้จะแปลงข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ เช่น เสียงและ ภาพไปเป็นสัญญาณไฟฟ้า สัญญาณเหล่านี้จะถูกส่งไปโดยสื่อ เช่น สายโทรศัพท์หรือคลื่นวิทยุ เมื่อ สัญญาณไปถึงจุดปลายทาง อปุ กรณ์ด้านผ้รู ับจะรับและแปลงกลับสัญญาณไฟฟ้าเหล่านี้ใหเ้ ป็นข้อมูลที่ สามารถเข้าใจได้ เช่น เป็นเสียงทางโทรศัพท์หรือภาพบนจอโทรทัศน์หรือข้อความ และภาพบน จอคอมพิวเตอร์ โทรคมนาคมจะช่วยให้บุคคลสามารถติดต่อสารกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ๆ ในโลก ใน รูปแบบของข่าวสารความรู้และความบันเทิง การติดต่อเพื่อการสื่อความหมายระหว่างผู้สู่งข่าวสาร และผู้รบั ขา่ วสาร แตผ่ ู้สง่ ขา่ วสารและผู้รับข่าวสารอาจจะอยู่ในสถานท่ีเดยี วกัน หรอื อยู่ตา่ งสถานที่กัน ก็ได้ หากอยูต่ า่ งสถานทีก่ ันอาจจะตอ้ งใชร้ ะบบการส่ือสาร เชน่ โทรเลข โทรศพั ท์หรอื โทรสาร เพอื่ การ ตดิ ตอ่ สื่อสาร ระหว่างผู้ข่าวสารและผู้รับขา่ วสาร คำว่า “Tele” เป็นรากศัพทท์ ม่ี าจากภาษากรีก หมายความวา่ “ไกล” หรอื “อยู่ไกลออกไป” Telecommunications สามารถใหค้ วามหมายอยา่ งกว้าง ๆ ตามรูปศัพท์ได้วา่ หมายถึง “การสือ่ สาร ไปยังผรู้ บั ปลายทางท่อี ยู่ไกลออกไป” สรุปได้ว่า โทรคมนาคม (Telecommunications) หมายถึง “การส่งข่าวสารทุกรูปแบบไม่ ว่าจะเปน็ เสยี งพดู ตัวอกั ษร สญั ลักษณ์ ภาพถา่ ย ภาพเคลอื่ นไหว (Video) ฯลฯ ไปยังปลายทาง โดย อาศัยสัญญาณไฟฟ้าหรือสัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ว่ารูปแบบใดและไม่จำกัดว่าจะไปใช้สื่อชนิดใด (เชน่ ระบบวทิ ยคุ ่สู ายทองแดง หรอื optical fiber ฯลฯ)” 1.2.2 อปุ กรณ์โทรคมนาคม (Telecommunications) อุปกรณโ์ ทรคมนาคม (Telecommunication Device) จะหมายถึง อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ที่ ทำให้เกิดการสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยความเร็วในการรับส่ง ขา่ วสารของอุปกรณ์โทรคมนาคม มีการวัดทใ่ี ช้หนว่ ยท่เี รียกว่า bit per second (bps) คอื ข่าวสาร 1 bit ต่อการสง่ ใน 1 วินาที thousand of bits per second (Kbps) คือข่าวสาร 1,000 bits ต่อการสง่ ใน 1 วินาที million of bits per second (Mbps) คอื ข่าวสาร 1,000,000 bits ต่อการส่งใน 1 วนิ าที giga of bits per second (Gbps) คือขา่ วสาร1,000,000,000 bits ตอ่ การส่งใน 1 วนิ าที เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 22 ผ้เู รยี บเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม อุปกรณโ์ ทรคมนาคม ประกอบดว้ ย 1.4.1 อปุ กรณโ์ ทรคมนาคมระบบสื่อสารโทรคมนาคม 1) โทรศัพท์มือถือ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ คือ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการสื่อสาร สองทางผ่านโทรศัพท์มือถือ ใช้คลื่นวิทยุในการติดต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือโดยผ่านสถานีฐาน โดยเครือข่ายของโทรศัพท์มือถือแต่ละผู้ให้บริการจะเชื่อมต่อกับเครือข่ายของโทรศัพท์บ้านและ เครือข่ายโทรศัพท์มือถือของผู้ให้บริการอื่น โทรศัพท์มือถือที่มีความสามารถเพิ่มขึ้นในลกัษณะ คอมพิวเตอร์พกพาจะถูกกล่าวถึงในชื่อสมาร์ตโฟน โทรศัพท์มือถือในปัจจุบันนอกจากความสามารถ พ้ืนฐานของโทรศัพท์แล้ว ยังมีคุณสมบัติพ้ืนฐานของโทรศัพท์มือถือที่เพิ่มขึ้นมา เช่น การส่งข้อความ ปฏิทิน นาฬิกาปลุก ตารางนัดหมาย เกม การใช้งานอินเทอร์เน็ต บลูทูธ อินฟราเรด กล้องถ่ายภาพ SMS วิทยเุ ครื่องเลน่ เพลงและ GPS 2) โทรสาร หรือแฟกซ์(Fax) เป็นสื่อคมนาคมประเภทหนึ่ง ราชบัณฑิตยสถาน บัญญัติศัพท์ใช้คำว่าโทรภาพ เพราะเดิมหมายถึงภาพหรือรูปที่ส่งมาโดยทางไกล ตลอดจนหมายถึง กรรมวิธีในการถอดแบบเอกสารตีพิมพ์หรือรปู ภาพ โดยทางคลื่นวิทยุหรือทางสาย เช่นสาย โทรศัพท์ ในสังคมสารนิเทศปัจจุบันนิยมใช้คำว่า โทรสารแทนโทรภาพ เพราะครอบคลุมประเภทของการส่ง สารสนเทศได้มากกว่าภาพ 3) วิทยุ–โทรทัศน์ หรือวิทยุ-โทรทัศน์ดิจิตอล (Digital Broadcasting) หมายถึง การ สง่ ผ่านภาพและเสยี งโดยสัญญาณดิจิตอลทม่ี ีประสิทธิภาพสูง ภาพและเสียงคมชดั สามารถส่งข้อมูลได้ มากกว่าแบบอนาล็อกในหน่ึงช่องสัญญาณ และทำให้ได้คุณภาพของภาพและเสียงดีกว่าการเปลี่ยน ระบบจากอนาลอ็ กเป็นดจิ ติ อล เปน็ กระแสของโลกท้ังในกจิ การวิทย-ุ โทรทศั นต์ ่างๆ ดังน้ี 1. ระบบแพร่ภาพดิจิตอลผ่านดาวเทียม (The Digital Video Broadcasting - Satellite System) หรอื DVB-S 2 ระบบแพร่ภาพดิจิตอลผ่านสายเคเบิ้ล (The Digital Video Broadcasting - Cable System) หรือ DVB-C 3. ระบบแพร่ภาพดิจิตอลภาคพืน้ ดนิ (The Digital Video Broadcasting - Terres trial System) หรือ DVB-T จุดใหญท่ จี่ ะทำให้ดจิ ิตอลทวี ตี ่างจากอนาล็อกทวี มี าก คอื เทคนิคในด้านนี้ ซ่ึงก็จะเริ่มเห็นจากตัวอย่างของระบบโทรศัพท์ที่เปลี่ยนจากอนาล็อกมาเป็นดิจิตอลในทำนองคล้าย โทรทัศน์ดิจิตอลจะกลายเป็นสื่อผสม ชนิดหนึ่ง (Multimedia) โดยเป็นสื่อผสมที่มีความเร็วสูงสุด สื่อผสมในที่นี้จะประกอบด้วยภาพ เสียงและ ข้อมูลภาพจะเห็นได้จากดิจิตอลทีวีก็จะขึ้นเป็นระดับ ความคมชดั สูง (HDTV) ภาพที่รบั ชมก็สามารถโตต้อบ (Interactive) ได้ 4) จีพีเอส (GPS) Global Positioning System หมายถึง ระบบกำหนดตำแหน่งบน โลก โดยใช้วิธีการคำนวณตำแหน่งพิกัดภูมิศาสตร์ของอุปกรณ์รับสัญญาณ จากค่าตำแหน่งพิกัดจาก ดาวเทียมทโ่ี คจรอยรู่ อบโลก ที่ส่งผ่านสัญญาณนาฬกิ ามายงั โลก 1.4.2 อุปกรณโ์ ทรคมนาคมเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ 1) สายโทรศัพท์ ทำหน้าที่เชื่อมผู้เช่าเข้ากับชุมสาย เป็นตัวนำสัญญาณเสียงของคู่ สนทนาให้ถึงกัน สายเคเบิลที่จะนำมาใช้งานในกิจการโทรศัพท์ต้องคำนึงถึงคุณสมบัติหลายประการ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 23 ผู้เรยี บเรยี ง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคม เช่น ขนาดลวดทองแดง ความต้านทานของฉนวน ค่าคาปาซิเตอร์ในคู่สาย การทนความร้อนของ ฉนวน คา่ ความต้านทานและการลดทอนของลวดตัวนำเหลา่ นี้ตอ้ งคำนึงถงึ 2) สายใยแก้วนำแสง หรือออปติกไฟเบอร์ หรือไฟเบอร์ออปติก เป็นแก้วหรือพลาสติก คุณภาพสูง ยืดหยุ่นโค้งงอได้ เส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 8-10 ไมครอน (10 ไมครอน = 10 ในล้านส่วน ของเมตร =10x10-6= 0.00001 เมตร = 0.01 มม.) เล็กกว่าเส้นผมที่มีขนาด 40-120 ไมครอน, กระดาษ 100 ไมครอน ใยแก้วนำแสงทำหน้าที่เปน็ ตวั กลางในการส่งแสง จากดา้ นหน่ึงไปอีกด้านหนึ่ง ด้วยความเร็วเกือบเท่าแสง เมื่อนำมาใช้ในการสื่อสารโทรคมนาคม ทำให้สามารถส่ง-รับข้อมูลได้เร็ว มาก ได้ระยะทางเกิน 100 กม.ในหนึ่งช่วง และเนื่องจากแสงเป็นตัวนำส่งข้อมูล ทำให้สัญญาณ แม่เหล็กไฟฟ้าภายนอกไม่สามารถรบกวนความชัดเจนของข้อมูลได้ ใยแก้วนำแสงจึงถูกนำมาใช้แทน ตัวกลางอืน่ ๆในการส่งข้อมูล 3) เคเบิลใต้น้ำ (submarine communications cable) เป็นสื่ออีกอย่างหน่ึงที่มีการ ใช้ในการส่ือสารโทรคมนาคมระหว่างประเทศ มีการรับส่งสัญญาณทุกชนดิ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ มีการพัฒนาเทคโนโลยีมาตลอด ต้ังแต่ยุคของเคเบิลใตน้ำชนิดแกน (coaxial cable) มาจนถึงสาย เคเบิลชนิดใยแก้ว (optical fiber cable) ซ่ึงมีใช้แพร่หลายทั่วโลกเพราะเหมาะกับสภาวการณ์ ปจั จุบัน และมีการพฒั นาความสามารถให้ทันสมยั 4) คลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูง ซึ่งมีคุณสมบัติกระจายไปได้เป็นระยะ ทางไกล ด้วยความเร็วเท่ากับแสงคือ 300 ล้านเมตรต่อวินาที เครื่องส่งวิทยุจะทำหน้าที่สร้างคลื่น แม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูงหรือคลื่นวิทยุ (RF) ผสมกับคลื่นเสียง (Audio Frequency - AF) แล้วส่ง กระจายออกไป ลำพงั คล่นื เสียงซ่งึ มีความถีต่ ่ำไม่สามารถส่งไปไกล ๆ ไดต้ อ้ งอาศยั คลืน่ วิทยุเป็นพาหะ จึงเรียกคลื่นวิทยุว่า คลื่นพาหะ(Carrier Wave) เครื่องรับวิทยุจะทำหน้าที่รับคลื่นวิทยุและแยกคล่ืน เสียงออกจากคลื่นวิทยุให้รับฟังเป็นเสียงปกติได้ ความถี่ของคลื่น หมายถึง จำนวนรอบของการ เปลี่ยนแปลงของคลื่นในเวลา 1 นาที คลื่นเสียงมีความถี่ช่วงที่หูของคนรับฟังได้คือ ตั้งแต่ 20 เฮิรตซ์ ถึง 20 กิโลเฮิรตซ์ (1 KHz =1,000 Hz) ส่วนคลื่นวิทยุเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูง มีต้ังแต่ 3 KHz ไปจนถึง 300 GHz ( 1 GHz = พันล้าน Hz) คลื่นวิทยุแต่ละช่วงความถี่จะถูกกำหนดให้ใช้งาน ด้านตา่ งๆ ตาม ความเหมาะสม 5) คลื่นไมโครเวฟ เป็นคลื่นความถี่วิทยุชนิดหน่ึงทีม่ ีความถี่อยู่ระหว่าง 0.3 GHz - 300 GHz การใช้งานน้ันส่วนมากนยิ มใชค้ วามถรี่ ะหวา่ ง 1 GHz - 60 GHz เพราะเปน็ ย่านความถ่ีท่ีสามารถ ผลติ ขนึ้ ไดด้ ว้ ยอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 6) ดาวเทียม คือ สิ่งประดิษฐ์ที่มนุษย์คิดค้นขึ้น สามารถโคจรรอบโลกได้โดยอาศัยแรง ดึงดูดของโลก ส่งผลให้สามารถโคจรรอบโลกได้ในลักษณะเดียวกันกับที่ดวงจันทร์โคจรรอบโลก และ โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ วัตถุประสงค์ของสิ่งประดิษฐ์น้ีเพือ่ ใช้ทางการทหาร การสื่อสารการรายงาน สภาพอากาศ การวจิ ัยทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น การสำรวจทางธรณีวิทยา สงั เกตการณ์สภาพของอวกาศ โลก ดวงอาทิตย์ดวงจนั ทรแ์ ละดาว อน่ื ๆ รวมถงึ การสังเกตวัตถแุ ละดวงดาวกาแล็กซีตา่ งๆ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 24 ผเู้ รยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความร้เู กยี่ วกับคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ประเภทของขอ้ มูลในการสอื่ สารโทรคมนาคมสามารถแยกได้เปน็ 4 ประเภท คอื 1. ประเภทเสียง เชน่ เสียงพดู เสยี งดนตรี 2. ประเภทตัวอักษร เช่นอักษร ตวั เลข สัญลักษณ์ 3. ประเภทภาพ ท้งั ภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว 4. ประเภทรวม เปน็ การสอ่ื สารทงั้ ตัวอกั ขระ ภาพและเสียง รูป 1.12 แสดงตวั อยา่ งการส่ือสารโทรคมนาคม ทมี่ า: http://1.bp.blogspot.com/-8GdPhO514aQ/VbWW_G0- uwI/AAAAAAAAAHI/xxIrwb4IUjs/s1600/1.jpg 9/6/64 1.2.3 องคป์ ระกอบของอุปกรณ์โทรคมนาคม ระบบโทรคมนาคม มีการแบง่ รายละเอยี ดของโครงสร้างสว่ นประกอบดังน้ี 1.5.1 เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือเปลี่ยนปริมาณใดให้เป็นไฟฟ้า (Transducer) เช่น โทรศพั ท์ หรอื ไมโครโฟน เปน็ ตน้ รปู 1.13 แสดงตัวอย่างเครื่องโทรศพั ท์รุ่นตา่ ง ๆ ทม่ี า: https://highgatehill-historical-vignettes.com/2019/03/31/the-telephone- becomes-automatic/ 9/6/64 1.5.2 เครื่องเทอร์มินอลสำหรบั การรบั ข้อมูลหรอื แสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องคอมพวิ เตอร์หรือ โทรศพั ท์ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 25 ผู้เรยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม รูป 1.14 แสดงภาพเทอร์มินอล ทีม่ า: https://www.mindphp.com/บทความ/212-network/5871-terminal.html 9/6/64 1.5.3 อุปกรณ์ประมวลผลการสื่อสาร (Transmitter) ทำหน้าที่แปรรูปสัญญาณไฟฟ้าให้ เหมาะสมกับช่องสัญญาณ เช่น โมเด็ม (MODEM) มัลติเพล็กเซอร์ (multiplexer) แอมพลิไฟเออร์ (Amplifier) และดาวเทียม (Satellite) ดำเนนิ การได้ทัง้ รับและสง่ ข้อมูล รปู 1.15 แสดงการประมวลผลของอปุ กรณ์ส่งและรับสัญญาณ ทีม่ า: https://mezashite.wordpress.com/modem/ 9/6/64 1.5.4 ช่องทางสื่อสาร (Transmission Channel) หมายถึงการเชื่อมต่อรูปแบบใด ๆ เช่น สายโทรศัพทใ์ ยแกว้ นำแสง สายโคแอกเชยี ล หรอื แมแ้ ตก่ ารสือ่ สารแบบไรส้ าย รปู 1.16 แสดงตัวอย่างชอ่ งทางส่ือสาร ที่มา:https://th.stuklopechat.com/obrazovanie/85119-volokonnaya-optika-i-ee- primenenie.html 7/6/64 1.5.5 ซอฟต์แวร์การสื่อสารซึ่งทำหน้าที่ควบคุมกิจกรรมการรับส่งข้อมูลและอำนวยความ สะดวก ในการสอื่ สาร เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 26 ผูเ้ รยี บเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม รูป 1.17 แสดงตัวอยา่ งซอฟต์แวรก์ ารสือ่ สาร ทม่ี า: http://www.sichompusuksa.ac.th/tech/files/chap5-16.htm 9/6/64 1.2.4 หน้าทีข่ องระบบโทรคมนาคม ระบบโทรคมนาคม ทำหน้าที่ในการส่งและรับข้อมูลระหว่างจุด 2 จุด ได้แก่ ผู้ส่งข่าวสาร (Sender) และ ผู้รับข่าวสาร (Receiver) จะดำเนินการจัดการลำเลียงข้อมูลผ่านเส้นทางที่มี ประสิทธภิ าพท่สี ุด จดั การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลท่ีจะส่งและรบั เข้ามา สามารถปรับเปล่ียน รูปแบบข้อมูลให้ทั้งสองฝ่ายสามารถเข้าใจได้ตรงกัน ซึ่งที่กล่าวมานี้ส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นตัว จัดการ ในระบบโทรคมนาคมสว่ นใหญใ่ ช้อุปกรณ์ในการรับส่งข้อมลู ขา่ วสารต่างชนิด ต่างยี่ห้อกัน แต่ สามารถแลกเปล่ียนข้อมลู ระหว่างกนั ได้เพราะใชช้ ุดคำสั่งมาตรฐานชดุ เดียวกนั กฎเกณฑ์มาตรฐานใน การสื่อสารนี้เราเรียกว่า “โปรโตคอล (Protocol)” อุปกรณ์แต่ละชนิดในเครือข่ายเดียวกันต้องใช้ โปรโตคอลอย่างเดียวกัน จึงจะสามารถสื่อสารถึงกันและกันได้ หน้าที่พื้นฐานของโปรโตคอล คือ การทำความรู้จักกับอุปกรณ์ตัวอื่นที่อยู่ในเส้นทางการถ่ายทอดข้อมูล การตกลงเงื่อนไขในการ รบั สง่ ขอ้ มลู การตรวจสอบความถกู ต้องของข้อมลู การแกไ้ ขปญั หาข้อมลู ทเ่ี กิดการผดิ พลาดในขณะที่ ส่งออกไปและการแก้ปญั หาการสื่อสารขดั ข้องท่ีอาจเกดิ ขึน้ โปรโตคอลทร่ี ู้จกั กันมาก ได้แก่ โปรโตคอล ในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น Internet Protocol ; TCP/IP , IP Address ที่เราใช้กันอยู่ทุก วนั นี้ สรุปเนอ้ื หาสาระ คอมพิวเตอร์คือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ ทำหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับ แก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์ ซึ่งสามารถแบ่งสาระการเรียนรู้ ไม่ว่า จะเป็นประเภทของคอมพิวเตอร์ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์ ประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์ นอกจากนัน้ คอมพวิ เตอรย์ ังสามารถทำงานร่วมกับระบบโทรคมนาคมเพ่ือ เชอ่ื มต่อในระบบการส่ือสารให้เกิดประสทิ ธิภาพมากยงิ่ ขน้ึ โดยใช้อุปกรณโ์ ทรคมนาคมชนิดตา่ ง ๆ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 27 ผ้เู รยี บเรยี ง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรเู้ กย่ี วกบั คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม แบบฝึกหดั หน่วยท่ี 1 เร่อื ง ความรู้เก่ียวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม คำชี้แจง : ใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั ตอ่ ไปน้ดี ว้ ยตนเอง ใหถ้ ูกต้อง 1. คอมพิวเตอร์ หมายถงึ อะไร ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. ประเภทของคอมพวิ เตอรม์ ีอะไรบ้าง คอื ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. 3. องคป์ ระกอบของระบบโทรคมนาคมมอี ะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. 4. หลักการทำงานของคอมพวิ เตอร์มกี ่ีขั้นตอน อะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………. เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (30001-2001) หน้า | 28 ผู้เรียบเรยี ง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความร้เู กย่ี วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม เฉลยแบบฝกึ หัด หนว่ ยท่ี 1 เรอ่ื ง ความรู้เก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หัดต่อไปน้ดี ว้ ยตนเอง ใหถ้ ูกตอ้ ง 1. คอมพวิ เตอร์ หมายถงึ อะไร ตอบ คอมพวิ เตอร์ (Computer) หมายถึง อุปกรณท์ างอเิ ล็กทรอนิกส์ทมี่ นุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วย จัดการกับข้อมูลที่อาจเป็นได้ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ คอมพิวเตอร์สามารถกำหนดชุดคำสั่งหรือโปรแกรมล่วงหน้าได้ ทำงานได้หลายรูปแบบ และนำไป ประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง ทั้งด้านการแพทย์ การศึกษา อุตสาหกรรม การค้า และความ บนั เทิง 2. ประเภทของคอมพวิ เตอรม์ ีอะไรบ้าง คอื ตอบ 1. ซุปเปอร์คอมพวิ เตอร์ (Super Computer) 2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe Computer) 3. มนิ คิ อมพวิ เตอร์ (Minicomputer) 4. เวิรก์ สเตชัน่ (Workstation) 5. ไมโครคอมพวิ เตอร์ (Microcomputer) 3. องค์ประกอบของระบบโทรคมนาคมมีอะไรบา้ ง ตอบ 1. เครื่องคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือเปลี่ยนปริมาณใดให้เป็นไฟฟ้า (Transducer) เช่น โทรศพั ท์ หรอื ไมโครโฟน เปน็ ต้น 2. เครื่องเทอร์มินอลสำหรับการรับข้อมูลหรือแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์หรือ โทรศัพท์ 3. อุปกรณ์ประมวลผลการสื่อสาร (Transmitter) ทำหน้าที่แปรรูปสัญญาณไฟฟ้าให้ เหมาะสมกับช่องสัญญาณ เช่น โมเด็ม (MODEM) มัลติเพล็กเซอร์ (multiplexer) แอมพลิไฟเออร์ (Amplifier) และดาวเทียม (Satellite) ดำเนนิ การไดท้ ้งั รบั และสง่ ขอ้ มลู 4. ช่องทางสื่อสาร (Transmission Channel) หมายถึงการเชื่อมต่อรูปแบบใด ๆ เช่น สายโทรศพั ทใ์ ยแก้วนำแสง สายโคแอกเชยี ล หรือแมแ้ ตก่ ารสอื่ สารแบบไร้สาย 4. หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์มีกี่ขนั้ ตอน อะไรบา้ ง ตอบ การทำงานพ้ืนฐานของคอมพวิ เตอร์ มี 4 ขั้นตอน ดังนี้ 1. รับข้อมูล (Input) คอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่รับข้อมูลไปประมวลผล อุปกรณ์ที่ทำหน้าท่ี รับขอ้ มลู ไดแ้ ก่ แป้นพมิ พ์ เมาส์ เครอ่ื งสแกน เป็นตน้ 2. ประมวลผลข้อมูล (Process) เมื่อคอมพิวเตอร์รับข้อมูลเข้าสู่ระบบแล้วจะทำการ ประมวลผลตามคำสั่ง หรือโปรแกรมทีก่ ำหนด อุปกรณท์ ที ำหน้าทป่ี ระมวลผลไดแ้ ก่ CPU 3. แสดงผลข้อมูล (Output) เมื่อทำการประมวลผลแล้ว คอมพิวเตอร์จะแสดงผลลัพธ์ อปุ กรณท์ ีท่ ำหนา้ ทีใ่ นการแสดงผลข้อมลู คือ จอภาพและเครือ่ งพิมพ์ เปน็ ตน้ 4. จัดเก็บข้อมูล คอมพิวเตอร์จะทำการจัดเก็บข้อมูลลงในอุปกรณ์ที่เก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดดิสก์ แผน่ ซีดี แฟลชไดรฟ์ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 29 ผูเ้ รียบเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หน่วยท่ี 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม แบบทดสอบหลงั เรยี น คำแนะนำ 1) จงทำเครอื่ งหมายกากบาท (×) ข้อที่ถกู ที่สุดเพียงข้อเดียว ลงในกระดาษคำตอบท่ี แจกให้ 2) ข้อสอบจำนวน 10 ข้อ ใชเ้ วลาสอบ 20 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน 1. ขอ้ ใดคือบอกความหมายของคอมพวิ เตอร์ไดถ้ ูกตอ้ ง ก. อุปกรณ์ไฟฟา้ ทสี่ ามารถนำมาใช้คำนวณได้ ใชใ้ นการแก้ปญั หาตา่ งๆ ข. อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกสแ์ บบอัตโนมัตทิ ส่ี ามารถทำงานได้เอง ค. เคร่อื งมือช่วยในการจัดเก็บข้อมลู ได้จำนวนมาก ใช้สำหรบั แก้ปญั หาตา่ ง ๆ ง. เครื่องอเิ ล็กทรอนกิ สแ์ บบอัตโนมตั ิ ทำหนา้ ท่ีเสมือนสมองกล ใชส้ ำหรบั แก้ปญั หาตา่ ง ๆ 2. ขอ้ ใดคือความหมายของอุปกรณโ์ ทรคมนาคมถูกต้องที่สุด ก. เป็นเครื่องมอื ในการสง่ สารสนเทศในรปู แบบของตวั อักษรภาพและเสยี ง โดยใชค้ ลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟ้า ข. เปน็ เคร่ืองมือที่ใช้ในการสื่อสารผ่านทางสายโทรศัพท์ ค. การติดตอ่ สื่อสารโดยผ่านทางโทรศัพท์เทา่ นั้น ง. ถกู ทุกข้อ 3. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของคอมพิวเตอร์ ก. เมนเฟรม ข. ไมโครคอมพิวเตอร์ ค. มนิ ิคอมพิวเตอร์ ง. คอมพิวเตอร์พกพา 4. จอภาพเป็นอปุ กรณป์ ระเภทใด ก. รับขอ้ มูล ข. ประมวลผลข้อมูล ค. แสดงผลขอ้ มูล ง. สำรองข้อมลู 5. อปุ กรณใ์ ดไม่ได้อย่ใู นหน่วยรับข้อมูล ก. เมาส์ ข. แป้นพมิ พ์ ค. ไมโครโฟน ง. ลำโพง 6. ขอ้ ใดไมไ่ ด้อยใู่ นองค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ ก. Hardware ข. Software ค. People Ware ง. Network เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 30 ผ้เู รียบเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกับคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม 7. อุปกรณ์โทรคมนาคม ขอ้ ใดไม่ใช่ ก. Transducer ข. Terminal ค. Transmitter ง. Network 8. ในระบบโทรคมนาคมส่วนใหญใ่ ช้อปุ กรณ์ในการรับสง่ ข้อมูลขา่ วสารตา่ งชนิดตา่ งยหี่ ้อกัน แต่ สามารถแลกเปล่ยี นข้อมูลระหวา่ งกนั ได้เพราะใช้ชุดคำสง่ั มาตรฐานชดุ เดียวกนั กฎเกณฑ์มาตรฐาน ในการสือ่ สารนเี้ ราเรียกว่าอะไร ก. Protocol ข. Prototype ค. Terminal ง. Channel 9. ไมโครโปรเซสเซอรถ์ ูกเรียกว่าอะไรในคอมพวิ เตอร์ ก. ชิพ (chip) ข. หนว่ ยประมวลผลกลางหรอื ซีพยี ู ค. เมนบอร์ด ง. การ์ดแสดงผล 10. มนัสจำเป็นจะตอ้ งใช้คอมพวิ เตอรใ์ นการทำงานในสถานท่ีคบั แคบมากและมีผ้คู นมาก จะตอ้ งเลอื กใช้ คอมพิวเตอร์ประเภทใด ก. คอมพวิ เตอรแ์ บบตั้งโต๊ะ ข. โนต๊ บคุ ส์ ค. ไมโครคอนโทรลเลอร์ ง. แท็บเล็ต เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 31 ผเู้ รยี บเรยี ง : นายอดนิ นั ต์ แวบาดะ
หน่วยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยที่ 1 เรื่อง ความรู้เก่ียวกับคอมพิวเตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม ขอ้ ที่ คำตอบ ขอ้ ที่ คำตอบ 1. ง. 6. ง. 2. ก. 7. ง. 3. ง. 8. ก. 4. ค. 9. ข. 5. ง. 10. ง. เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (30001-2001) หน้า | 32 ผเู้ รยี บเรยี ง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ความร้เู ก่ียวกบั คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. สามารถบอกความหมายของคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคมได้ 2. บอกประเภทของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. บอกองค์ประกอบของคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคมได้ 4. บอกหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคมได้ งานทม่ี อบหมาย ให้นักเรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลมุ่ โดยแต่ละกลุ่มเลอื กประธานและเลขานุการ ร่วมกัน อภปิ รายเก่ยี วกบั เน้ือหาในหน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 ตามหวั ข้อท่ีกำหนดจัดทำการสรุปอภปิ ราย พรอ้ มส่ง ตวั แทนออกมานำเสนอ (10 คะแนน) กำหนดส่งงาน ภายในสัปดาห์ถัดไป หัวข้ออภิปราย กลุ่มที่ ความหมายของคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม 1 เนื้อหาโดยสรุป เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 33 ผู้เรยี บเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกยี่ วกบั คอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง ความรเู้ กยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม 1. สามารถบอกความหมายของคอมพิวเตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคมได้ 2. บอกประเภทของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. บอกองคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคมได้ 4. บอกหลกั การทำงานของคอมพวิ เตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคมได้ งานทีม่ อบหมาย ใหน้ ักเรียนแบ่งกลุ่มออกเปน็ 4 กลมุ่ โดยแต่ละกลมุ่ เลือกประธานและเลขานุการ รว่ มกนั อภปิ รายเกีย่ วกบั เนื้อหาในหน่วยการเรียนรูท้ ี่ 1 ตามหวั ข้อท่ีกำหนดจัดทำการสรปุ อภิปราย พร้อมส่ง ตวั แทนออกมานำเสนอ (10 คะแนน) กำหนดส่งงาน ภายในสัปดาหถ์ ัดไป กล่มุ ที่ ประเภทของคอมพิวเตอร์ หัวข้ออภิปราย 2 เน้อื หาโดยสรุป เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพือ่ การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 34 ผู้เรยี บเรียง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความรเู้ กย่ี วกับคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณโ์ ทรคมนาคม ใบงานท่ี 1 เร่อื ง ความรู้เก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม จุดประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. สามารถบอกความหมายของคอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคมได้ 2. บอกประเภทของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. บอกองคป์ ระกอบของคอมพิวเตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคมได้ 4. บอกหลกั การทำงานของคอมพวิ เตอร์และอปุ กรณโ์ ทรคมนาคมได้ งานที่มอบหมาย ใหน้ กั เรียนแบง่ กลมุ่ ออกเปน็ 4 กลุ่ม โดยแต่ละกลมุ่ เลอื กประธานและเลขานุการ รว่ มกนั อภปิ รายเก่ียวกับเน้ือหาในหน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 ตามหวั ข้อท่ีกำหนดจัดทำการสรปุ อภปิ ราย พรอ้ มส่ง ตัวแทนออกมานำเสนอ (10 คะแนน) กำหนดส่งงาน ภายในสัปดาหถ์ ดั ไป หัวข้ออภปิ ราย กลมุ่ ที่ องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์โทรคมนาคม 3 เนื้อหาโดยสรุป เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (30001-2001) หนา้ | 35 ผู้เรียบเรียง : นายอดนิ ันต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรู้เกย่ี วกับคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคม ใบงานท่ี 1 เรื่อง ความร้เู กย่ี วกับคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. สามารถบอกความหมายของคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณ์โทรคมนาคมได้ 2. บอกประเภทของคอมพวิ เตอรไ์ ด้ 3. บอกองค์ประกอบของคอมพิวเตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคมได้ 4. บอกหลกั การทำงานของคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคมได้ งานทม่ี อบหมาย ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุม่ ออกเป็น 4 กลมุ่ โดยแตล่ ะกลมุ่ เลอื กประธานและเลขานุการ ร่วมกนั อภปิ รายเกยี่ วกับเน้ือหาในหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 ตามหัวข้อท่ีกำหนดจดั ทำการสรุปอภปิ ราย พรอ้ มส่ง ตวั แทนออกมานำเสนอ (10 คะแนน) กำหนดส่งงาน ภายในสัปดาห์ถดั ไป หัวข้ออภิปราย กลุ่มที่ หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์โทรคมนาคม 4 เนอื้ หาโดยสรปุ เอกสารประกอบการสอน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 36 ผ้เู รียบเรยี ง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยท่ี 1 ความร้เู กยี่ วกับคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณ์โทรคมนาคม แบบประเมนิ ผลใบงาน ใบงานท่ี.................................. ช่อื ผเู้ รยี น............................................................. เลขท.่ี ...................... ระดบั ชน้ั ........................................... สาขางาน.................................. ประเมิน กจิ กรรม ระดบั คะแนนท่ีได้ 32 1 ความรู้-ทักษะ 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2. การแบง่ หนา้ ท่ีรับผิดชอบ 3. การปฏิบัตหิ น้าทที่ ่ไี ดร้ บั มอบหมาย 4. การประเมินผลและปรบั ปรุงผลงาน 5. การนำเสนอ คณุ ธรรม- 6. การตรงต่อเวลา จริยธรรม 7. การแต่งกาย 8. ความสามัคคี 9. การมสี ัมมาคารวะ 10. การทำความสะอาดพ้นื ที่ปฏบิ ตั งิ านและการเกบ็ รักษาเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ รวม รวมท้ังสิน้ เกณฑ์การประเมินผลงาน ความหมายของระดับคะแนน 3 = ปฏบิ ัติอย่างสมำ่ เสมอ โดยไมต่ ้องมีการชนี้ ำหรือตักเตอื น 2 = ปฏิบัตบิ ้างในบางครงั้ จากการเชิญชวนหรือช้ีนำ 1 = ตอ้ งสัง่ บังคับ ว่ากลา่ วหรอื ตักเตือน จึงจะปฏบิ ตั ิหรือมักจะปฏบิ ัติในทางทผ่ี ดิ เสมอ เกณฑ์การประเมิน 26-30 คะแนน = ดีมาก 21-25 คะแนน = ดี 16-20 คะแนน = พอใช้ 0-15 คะแนน = ควรปรบั ปรงุ ลงช่ือ...........................................ผ้ปู ระเมนิ วันท่.ี ........................................................ เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจดั การอาชพี (30001-2001) หนา้ | 37 ผู้เรียบเรยี ง : นายอดินนั ต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความรูเ้ กยี่ วกบั คอมพวิ เตอร์และอุปกรณโ์ ทรคมนาคม บรรณานุกรม ศิวชั กาญจนชมุ และ ใกลร้ งุ่ พันธุน์ ุช เทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการจัดการอาชพี (3001-2001). กรงุ เทพฯ : จติ รวัฒน์, 2558 สธุ ิดา ทะนันท์ (2558). เทคโนโลยสี ารสนเทศเพอื่ การจัดการอาชีพ. นนทบุรี : บริษัทศูนย์หนงั สอื เมืองไทย จำกัด. พนม บุญญไพร (2560) คอมพวิ เตอร์และสารสนเทศเพอื่ งานอาชีพ. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ บริษทั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) จำกดั . เอกสารประกอบการสอน วชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศเพอ่ื การจดั การอาชพี (30001-2001) หน้า | 38 ผู้เรยี บเรียง : นายอดินันต์ แวบาดะ
หนว่ ยที่ 1 ความร้เู กยี่ วกบั คอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณโ์ ทรคมนาคม
Search
Read the Text Version
- 1 - 40
Pages: