บริษทั วนชัย พาเนล อนิ ดสั ทรี่ส์ จากดั VANACHAI PANEL INDUSTRIES CO.,LTD. คู่มือความปลอดภยั เบื้องต้น 11 12 1 10 2 9 3 8 6 4 7 5 \"ร่วมปลกู จิตสำนึก ทงั้ รว่ มฝึ กเป็นนิสยั ร่วมปฏิบตั ิงำนอย่ำงปลอดภยั ต้องรว่ มใจจำก..วนชยั ฯ..ทกุ คน\" พนักงำนทกุ คนต้องอ่ำนค่มู ือควำมปลอดภยั เบอื้ งต้นเล่มนี้ เพ่ือให้เกิดควำมรู้ ควำมเข้ำใจ และสำมำรถนำไปปฏิบตั ิได้ อย่ำงถกู ต้อง เหมำะสม รวมถึงเป็นกำรป้องกนั มิให้เกิดอบุ ตั ิเหตทุ งั้ ต่อรำ่ งกำย ชีวิต และทรพั ยส์ ินต่อไป ความปลอดภยั ในโรงงาน
คำนำ ทรัพยากรบุคคลถือวา่ เป็ นปัจจยั สาคญั ส่วนหน่ึงในการดาเนินธุรกิจของบริษทั ฯ ใหบ้ รรลุเป้าหมาย การเสริมสร้างและพฒั นาบุคคลใหม้ ีคุณภาพชีวิตท่ีดีจึงเป็ นส่วนหน่ึงของนโยบายบริษทั ฯ โดยบริษทั ฯ ถือวา่ การจดั ระบบการดาเนินงานดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ ม ในการทางาน รวมท้งั ส่งเสริมใหพ้ นกั งานมีจิตสานึกในความปลอดภยั จึงเป็ นความรับผิดชอบหลกั ของ บริษทั ฯ คู่มือความปลอดภยั เบ้ืองตน้ เล่มน้ี เป็ นเอกสารฉบบั หน่ึงท่ีบริษทั ฯ มุ่งหมายจะใหค้ วามรู้และเป็ น แนวทางปฏิบตั ิที่คานึงถึงความปลอดภยั เป็ นหลกั ซ่ึงพนกั งานสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นสถานการณ์ ต่างๆ ในชีวิตประจาวนั ได้ ท้งั น้ีหากมีการฝึ กฝนและปฏิบตั ิจนเป็ นนิสยั ยอ่ มสามารถเอ้ือประโยชน์ต่อการ ปฏิบตั ิงานของตวั พนกั งานและเพ่ือนร่วมงานไดเ้ ป็ นอยา่ งดี คณะกรรมการความปลอดภยั และมาตรฐานแรงงาน 1 ตลุ าคม 2555 ความปลอดภยั ในโรงงาน
กำรบรหิ ำรกจิ กรรมดำ้ นควำมปลอดภยั ของหน่วยงำน เพ่ือใหห้ น่วยงานไดท้ ราบถึงแนวทางในการบริหารกิจกรรมดา้ นความปลอดภยั และเพ่ือใหก้ ารบริหาร กิจกรรมดา้ นความปลอดภยั ของหน่วยงานมีประสิทธิภาพมากยงิ่ ข้ึน รวมถึงใหห้ น่วยงานตระหนกั ถึง ความปลอดภยั และช่วยกนั ลดอุบตั ิเหตุจากการทางานของพนกั งาน ทางหน่วยงานความปลอดภยั จึงได้ กาหนดแนวทางการบริหารกิจกรรมดา้ นความปลอดภยั ของหน่วยงานหลกั ๆ ดงั น้ี 1. ด้านกจิ กรรม (สร้างจิตสานึก) - การเฝ้าสงั เกตการณ์ปฏิบตั ิงานเพ่ือป้องกนั การประสบอนั ตราย - การรายงานเหตกุ ารณ์เกือบเกิดอุบตั ิเหตุ - การรายงานผลการปฏิบตั ิกิจกรรม Morning Talk - การประชาสมั พนั ธ์ดา้ นความปลอดภยั 2. ด้านการเฝ้าระวงั - การตรวจวดั สภาวะแวดลอ้ ม แสง เสียง ฝ่ นุ สารเคมี ปล่องควนั - การตรวจวดั รังสี - การตรวจสุขภาพพนกั งาน - การตรวจสอบลิฟทข์ นส่งสารเคมี , ป้ันจนั่ ชนิดอยกู่ บั ที่ / ชนิดเคลื่อนที่ - การตรวจสอบหมอ้ น้า (Boiler) - การตรวจสอบวสั ดุอุปกรณ์ดบั เพลิง และ Fire pump - การตรวจสอบสญั ญาณแจง้ เหตเุ พลิงไหม้ และอุปกรณ์ตรวจจบั ควนั ไฟ Smoke detector - การตรวจสารเสพติดพนกั งาน 3. ด้านการควบคุมปฏิบัติ - การขออนุญาตทางานที่ก่อใหเ้ กิดประกายไฟ - การขออนุญาตทางานในท่ีอบั อากาศ - การรายงานอุบตั ิเหตุและเหตุการณ์เกือบเกิดอุบตั ิเหตุ - การขออนุญาตทางานในพ้ืนท่ีเส่ียงอนั ตรายสูง - การควบคุมผูร้ ับเหมา ส่วนความปลอดภยั และส่ิงแวดลอ้ ม ฝ่ ายบริหาร ความปลอดภยั ในโรงงาน
นโยบำยสงิ่ แวดลอ้ ม อำชวี อนำมัยควำมปลอดภยั และ มำตรฐำนแรงงำนไทย Environmental Occupational Health Safety and Thai Labour Standard Policy บริษทั วนชยั พาเนล อินดสั ทรี่ส์ จากดั ผูผ้ ลิตแผ่นปาร์ติเกิ้ลและแผ่นเอ็มดีเอฟ ภายใตก้ ารดาเนินงานที่ มุง่ เนน้ การมีส่วนร่วมของพนกั งาน โดยมีความมุ่งมน่ั และตระหนกั ถึงสิทธิ ความปลอดภยั คุณภาพชีวิตท่ีดี ของพนกั งาน และความรับผิดชอบต่อสังคมในการรักษาส่ิงแวดลอ้ ม พร้อมท้งั ปฎิบตั ิตามกฎหมาย และ ปรับปรุงพฒั นาอยา่ งตอ่ เน่ือง โดยดาเนินการดงั น้ี 1. ปฎิบตั ิตามกฎหมายและขอ้ กาหนดมาตรฐานตา่ งๆ ในดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม อาชีวอนามยั ความปลอดภยั และมาตรฐาน แรงงานไทย 2. เคารพสิทธิและคุม้ ครองพนกั งานใหเ้ ป็ นไปตามกฎหมายแรงงาน เท่าเทียมกนั ทุกระดบั 3. บริหารจดั การมลภาวะที่เกิดจากการดาเนินงานของบริษทั โดย 3.1 ลด คดั แยก จดั เก็บ และกาจดั ของเสียและขยะ ที่เกิดข้ึนใหเ้ ป็ นไปตามท่ีกฎหมายกาหนด 3.2 ปรับปรุง ป้องกนั และควบคุมมลภาวะทางน้า อากาศ และเสียง ใหเ้ ป็ นไปตามท่ีกฎหมายกาหนด 3.3 มีสภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศในการทางานท่ีดี 3.4 ลด ละ เลิก การใชพ้ ลงั งานและทรัพยากรธรรมชาติที่เกินความจาเป็ น และใชอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ 4. บริหารจดั การความเสี่ยงใหก้ ารทางานปราศจากอุบตั ิเหตหุ รืออุบตั ิเหตุเป็ นศูนย์ โดยป้องกนั การเกิด อนั ตรายจาก 4.1 การใชเ้ ครื่องจกั ร อุปกรณ์ และการปฎิบตั ิงานต่างๆ 4.2 การใชไ้ ฟฟ้า 4.3 สารเคมีและกมั มนั ตรังสี 5. พฒั นา แกไ้ ข/ ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทางานอยา่ งต่อเนื่อง โดยมุง่ เนน้ การทางานท่ีทุกคนมี ส่วนร่วมและทางานร่วมกนั เป็ นทีม ท้งั น้ี บริษทั จะจดั ใหม้ ีการประเมินผลการปฏิบตั ิตามนโยบายที่กาหนดไวข้ า้ งตน้ อยา่ งสมา่ เสมอ ความปลอดภยั ในโรงงาน
นโยบำยคณุ ภำพ ผลิตสินค้าคุณภาพดี ตรงตามความต้องการของลูกค้า ด้วยวธิ ีการทางานทมี่ ีคณุ ภาพ และพนักงานมีคณุ ภาพชีวติ ทดี่ ี ท้งั น้ีเพื่อใหบ้ ริษทั ฯ สามารถบรรลุไดต้ ามเป้าหมายของนโยบายคุณภาพ พนกั งานทุกคนจะตอ้ งทาความ เขา้ ใจยดึ ถือและปฎิบตั ิ ดงั น้ี สินค้าคณุ ภาพดี หมายถึง - สินคา้ ท่ีมีคุณสมบตั ิตามท่ีลูกคา้ ตอ้ งการและไดก้ าหนดไวเ้ ป็ นมาตราฐานของบริษทั ฯ - ลูกคา้ มีความพึงพอใจท้งั คุณภาพและการรับมอบหมายทนั กาหนดเวลาที่ไดต้ กลงไว้ การทางานทม่ี คี ณุ ภาพ หมายถึง - ไดป้ ฎิบตั ิงานตามระบบคุณภาพที่ไดจ้ ดั ทาข้ึนและมีการทบทวนระบบอยา่ งสมา่ เสมอ - ปรับปรุง แกไ้ ขปัญหา และขอ้ บกพร่องของการทางานอยา่ งเป็ นระบบ - เพิ่มประสิทธิภาพในการทางานและปรับปรุง พฒั นาอยา่ งต่อเน่ือง - ทางานร่วมกนั เป็ นทีม คุณภาพชีวติ ทดี่ ี หมายถึง - ทางานดว้ ยความปลอดภยั - มีสภาพแวดลอ้ ม และบรรยากาศในการทางานที่ดี - ทาโรงงานใหเ้ สมือนบา้ นเรา ประกาศ ณ วนั ที่ 1 มิถุนายน 2545 ความปลอดภยั ในโรงงาน
บทบำทหนำ้ ทขี่ อง จป.วชิ ำชพี ตามท่ีกฎกระทรวง กาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และ สภาพแวดลอ้ มในการทางาน พ.ศ. 2549 ลงวนั ที่ 16 พฤษภาคม 2549 กาหนดใหน้ ายจา้ งแต่งต้งั ลูกจา้ ง ซ่ึงมี คุณสมบตั ิเฉพาะตามที่กาหนดในกฎกระทรวง เป็ นเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทางานระดบั วิชาชีพ ประจาสถานประกอบกิจการ อยา่ งนอ้ ยหน่ึงคนเพ่ือปฏิบตั ิงานดา้ นความปลอดภยั น้นั โดยเจ้าหน้าทคี่ วามปลอดภัยในการทางานระดบั วชิ าชีพ มีหน้าทด่ี งั นี้ 1. ตรวจสอบเสนอแนะใหน้ ายจา้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายเก่ียวกบั ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพ แวดลอ้ มในการทางาน 2. วเิ คราะหเ์ พื่อช้ีบ่งอนั ตราย รวมท้งั กาหนดมาตรการป้องกนั หรือข้นั ตอนการทางานอยา่ งปลอดภยั เสนอตอ่ นายจา้ ง 3. ประเมินความเสี่ยงดา้ นความปลอดภยั ในการทางาน 4. วิเคราะห์แผนงานโครงการ รวมท้งั ขอ้ เสนอแนะของหน่วยงานต่างๆ และเสนอแนะมาตรการความ ปลอดภยั เสนอต่อนายจา้ ง 5. ตรวจประเมินการปฏิบตั ิงานของสถานประกอบกิจการใหเ้ ป็ นไปตามแผนงานโครงการหรือมาตรการ ความปลอดภยั ในการทางาน 6. แนะนา ฝึ กสอน อบรมลูกจา้ งเพื่อใหก้ ารปฏิบตั ิงานปลอดจากเหตอุ นั จะทาใหเ้ กิดความไม่ปลอดภยั ใน การทางาน 7. ตรวจวดั และประเมินสภาพแวดลอ้ มในการทางาน หรือดาเนินการร่วมกบั บุคคลหรือหน่วยงานท่ีข้ึน ทะเบียนกบั กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงานเป็ นผรู้ ับรองหรือตรวจสอบเอกสารหลกั ฐานรายงานในการ ตรวจสอบสภาพแวดลอ้ มในการทางานภายในสถานประกอบการ 8. เสนอแนะตอ่ นายจา้ งเพื่อใหม้ ีการจดั การดา้ นความปลอดภยั ในการทางานท่ีเหมาะสมกบั สถาน ประกอบกิจการ และพฒั นาใหม้ ีประสิทธิภาพอยา่ งต่อเน่ือง 9. ตรวจสอบหาสาเหตุ และวเิ คราะห์การประสบอนั ตราย การเจบ็ ป่ วย หรือการเกิดเหตเุ ดือดร้อนราคาญ อนั เนื่องจากการทางาน และรายงานผล รวมท้งั เสนอแนะตอ่ นายจา้ งเพื่อป้องกนั การเกิดเหตุโดยไมช่ กั ชา้ 10.รวบรวมสถิติ วเิ คราะหข์ อ้ มลู จดั ทารายงาน และขอ้ เสนอแนะเกี่ยวกบั การประสบอนั ตราย การเจบ็ ป่ วยหรือการเกิดเหตุเดือดร้อนราคาญอนั เนื่องจากการทางานของลูกจา้ ง 11. ปฏิบตั ิงานดา้ นความปลอดภยั ในการทางานอ่ืนตามท่ีนายจา้ งมอบหมาย ท้งั น้ีต้งั แตว่ นั ที่ 20 เมษายน 2558 เป็ นตน้ ไป ความปลอดภยั ในโรงงาน
บทบำทหนำ้ ทขี่ อง จป.บรหิ ำร เพ่ือใหเ้ ป็ นไปตามกฎกระทรวง กาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน พ.ศ. 2549 กาหนดใหส้ ถานประกอบกิจการแต่งต้งั ลูกจา้ ง ระดบั บริหารเป็ นเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทางานระดบั บริหารของสถานประกอบกิจการ โดยเจ้าหน้าทคี่ วามปลอดภัยในการทางานระดบั บริหาร มีหน้าทด่ี งั นี้ 1. กากบั ดูแลใหเ้ จา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทางานระดบั หวั หนา้ งาน ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ท่ีรับผิดชอบ ใหเ้ ป็ นไปตามกฏ ระเบียบคาสงั่ หรือมาตรการความปลอดภยั ในการทางาน 2. กากบั ดูแลการปฏิบตั ิงานของพนกั งานภายในหน่วยงานท่ีรับผิดชอบใหป้ ฏิบตั งานดว้ ยความปลอดภยั รวมถึงการพจิ ารณาตรวจสอบกระบวนการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน ซ่ึงเม่ือพจิ ารณาแลว้ เห็นวา่ กระบวนการ ทางานที่พนกั งานปฏิบตั ิงานมีความเสี่ยง หรือมีโอกาสที่จะเกิดอนั ตรายได้ ก็ใหด้ าเนินการวิเคราะหข์ ้นั ตอนการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน เพื่อจดั ทาเอกสารวิธีการปฏิบตั ิงานภายในหน่วยงาน เร่ืองความปลอดภยั ในการทางาน โดยศึกษารูปแบบแนวทาง การดาเนินการจดั ทา ตามเอกสารวธิ ีการปฏิบตั ิงาน เร่ือง การจดั ทา คู่มือความปลอดภยั ประจาหน่วยงาน 3. รายงานการประสบอนั ตราย การเจบ็ ป่ วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนราคาญ อนั เนื่องจากการทางาน ของลูกจา้ งต่อเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทางานระดบั วิชาชีพ 4. ตรวจสอบหาสาเหตกุ ารประสบอนั ตราย การเจบ็ ป่ วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนราคาญอนั เนื่องจาก การทางานของลูกจา้ งร่วมกบั เจา้ หนา้ ท่ีความปลอดภยั ในการทางานระดบั หวั หนา้ งาน หรือระดบั วิชาชีพ และรายงานผล รวมท้งั เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขปัญหาต่อนายจา้ งโดยไม่ชกั ชา้ 5. ส่งเสริมและสนบั สนุนการดาเนินงานหรือกิจกรรมงานเกี่ยวกบั ความปลอดภยั ในการทางานตามที่ บริษทั ฯ กาหนด ท้งั น้ีต้งั แตว่ นั ที่ 1 ตลุ าคม 2561 เป็ นตน้ ไป ความปลอดภยั ในโรงงาน
บทบำทหนำ้ ทข่ี อง จป.หวั หนำ้ งำน เพื่อใหเ้ ป็ นไปตามกฎกระทรวง กาหนดมาตรฐานในการบริหารและการจดั การดา้ นความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทางาน พ.ศ. 2549 กาหนดใหส้ ถานประกอบกิจการแตง่ ต้งั ลูกจา้ ง ระดบั หวั หนา้ งานเป็ นเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทางานระดบั หวั หนา้ งานของสถานประกอบกิจการ โดยเจ้าหน้าทคี่ วามปลอดภยั ในการทางานระดบั หัวหน้างานมหี น้าทดี่ งั นี้ 1. กากบั ดูแลใหพ้ นกั งาน ภายในหน่วยงานท่ีรับผิดชอบปฏิบตั ิตามกฎระเบียบ คาสง่ั หรือมาตรการ ดา้ นความปลอดภยั 2. วเิ คราะหง์ านในหน่วยงานท่ีรับผิดชอบเพ่ือคน้ หาความเส่ียงหรืออนั ตรายเบ้ืองตน้ โดยอาจร่วม ดาเนินการกบั เจา้ หนา้ ท่ีความปลอดภยั ในการทางานระดบั บริหาร 3. สอนวิธีการปฏิบตั ิงานที่ถูกตอ้ งแก่พนกั งานในหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อใหเ้ กิดความปลอดภยั ในการปฏิบตั ิงาน 4. ตรวจสอบสภาพการทางานของเคร่ืองจกั ร เคร่ืองมือ และอุปกรณ์ใหอ้ ยใู่ นสภาพที่ปลอดภยั ก่อน ลงมือปฏิบตั ิงาน 5. กากบั ดูแล การใชอ้ ุปกรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคลในหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ 6. รายงานการประสบอนั ตราย การเจบ็ ป่ วย หรือการเกิดเหตุเดือดร้อนราคาญ อนั เนื่องจากการทางาน ของลูกจา้ งตอ่ เจา้ หนา้ ท่ีความปลอดภยั ในการทางานระดบั วิชาชีพ 7. ตรวจสอบหาสาเหตกุ ารประสบอนั ตราย การเจบ็ ป่ วย หรือการเกิดเหตเุ ดือดร้อนราคาญอนั เนื่องจาก การทางานของลูกจา้ งร่วมกบั เจา้ หนา้ ท่ีความปลอดภยั ในการทางานระดบั บริหารหรือระดบั วิชาชีพ และ รายงานผลรวมท้งั เสนอแนะแนวทางแกไ้ ขปัญหาตอ่ นายจา้ งโดยไม่ชกั ชา้ 8. ส่งเสริมและสนบั สนุนกิจกรรมดา้ นความปลอดภยั ในการทางาน 9. ปฏิบตั ิงานดา้ นความปลอดภยั ในการทางานตามท่ีเจา้ หนา้ ที่ความปลอดภยั ในการทางานระดบั บริหาร หรือระดบั วิชาชีพมอบหมาย ท้งั น้ีต้งั แตว่ นั ที่ 1 ตลุ าคม 2561 เป็ นตน้ ไป ความปลอดภยั ในโรงงาน
สารบญั หน้า 1 เร่ือง 2 ความรู้ทวั่ ไปเกี่ยวกบั ความปลอดภยั ในการทางาน 3 ประเภทและอนั ตรายของสภาพแวดลอ้ มในการทางาน 5 อนั ตรายจากปัจจยั สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ 7 อนั ตรายจากปัจจยั สภาพแวดลอ้ มทางเคมี 8 อนั ตรายจากปัจจยั สภาพแวดลอ้ มทางชีวภาพ 9 อนั ตรายจากปัจจยั สภาพแวดลอ้ มทางเออร์กอนอมิคส์ 10 ความปลอดภยั เกี่ยวกบั การเคลื่อนยา้ ยของหนกั ดว้ ยมือ 11 ความปลอดภยั เกี่ยวกบั การทางานในท่ีสูง 12 ความปลอดภยั เก่ียวกบั เคร่ืองมือ/อุปกรณ์ 13 ความปลอดภยั เก่ียวกบั เครื่องมือกล 14 ความปลอดภยั เกี่ยวกบั ไฟฟ้า 15 ความปลอดภยั เก่ียวกบั เคร่ืองจกั ร 16 ความปลอดภยั เกี่ยวกบั สารเคมี 17 ความปลอดภยั เก่ียวกบั ฝ่ นุ 18 ความปลอดภยั เก่ียวกบั รถยก 19 ความปลอดภยั ในการใชย้ านพาหนะ 21 การปฎิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ในสานกั งาน 23 การป้องกนั และระงบั อคั คีภยั 25 ประเภทของถงั ดบั เพลิง 26 อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคล 30 สญั ลกั ษณ์ความปลอดภยั โปสเตอร์ความปลอดภยั ในโรงงาน ความปลอดภยั ในโรงงาน
ความ รทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั ความปลอดภยั ในการทางาน อาชีวอนามัย หมายถงึ ศาสตร์และศิลปะเก่ียวกบั การป้องกนั ส่งเสริม คุม้ ครองและธารงไวห้ รือให้ ผูป้ ระกอบอาชีพทุกอาชีพ มีสภาวะอนามยั ท่ีสมบูรณ์ท้งั ร่างกาย จิตใจและความเป็ นอยใู่ นสังคมท่ีดี ความปลอดภยั (Safety) หมายถงึ สภาวะการปราศจากภยั หรือพน้ ภยั รวมถึงการปราศจากอนั ตราย การบาดเจบ็ (Injury) การเสี่ยงภยั (Risk) หรือการสูญเสีย (Loss) ภัย (Hazard) หมายถึง เป็ นสภาวะการณ์ซ่ึงมีแนวโนม้ ท่ีจะก่อใหเ้ กิดการบาดเจบ็ ต่อบุคคล หรือความเสีย หายตอ่ ทรัพยส์ ินหรือวสั ดุ หรือกระทบกระเทือนตอ่ ขีดความสามารถในการปฎิบตั ิงานปกติของบุคคล อันตราย (Danger) หมายถึง สภาวะที่เป็ นอนั ตรายจากภยั (Hazard) ระดบั ความรุนแรงจะมากหรือนอ้ ยข้ึน อยกู่ บั มาตรการป้องกนั อุบัตกิ ารณ์ (Incident) หมายถึง เหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาที่อาจจะเกิดข้ึน ซ่ึงจะมีผลทาใหเ้ กิดความ สูญเสีย (Loss) เหตุการณ์เกือบเกิดอุบัติเหตุ (NEAR MISS) หมายถึง เหตกุ ารณ์ท่ีไม่พึงประสงค์ แตเ่ ม่ือเกิดข้ึนแลว้ มีแนว โนม้ ท่ีจะก่อใหเ้ กิดอุบตั ิเหตุ อุบัตเิ หตุ (Accident) หมายถงึ เหตกุ ารณ์ท่ีไมพ่ งึ ประสงค์ ที่อาจเกิดข้ึนจากการท่ีไม่ไดค้ าดคิดไวล้ ่วงหนา้ หรือไมท่ ราบล่วงหนา้ หรือขาดการควบคุม แตเ่ ม่ือเกิดข้ึนแลว้ มีผลทาใหเ้ กิดการบาดเจบ็ หรือเสียชีวติ หรือ ความสูญเสียต่อทรัพยส์ ิน หรือความเสียหายต่อสภาพแวดลอ้ มในการทางาน หรือตอ่ สาธารณชน อันตรายจากการทางาน 1. อุบัติเหตุจากการทางาน หมายถึง เหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึนแลว้ มีผลทาใหค้ นไดร้ ับบาดเจบ็ พกิ าร หรือทรัพย์ สินเสียหายอนั เนื่องจากการกระทาของพลงั งานหรือสสารต่างๆ ซ่ึงมีมากเกินขอบเขตที่ร่างกายและทรัพยส์ ิน จะทนทานได้ 2. โรคจากการทางาน หมายถึง การเจบ็ ไข้ ป่ วยไมส่ บายอนั เนื่องจากการทางานซ่ึงไดพ้ จิ ารณาวา่ มีสาเหตุจาก กิจกรรมการทางานหรือส่ิงแวดลอ้ มของที่ทางาน ความปลอดภยั ในโรงงาน 1
ประเภทและอนั ตรายของสภาพแวดลอ้ มในการทางาน สภาพแวดลอ้ มในการทางานโดยทว่ั ไปจะหมายถึง ส่ิงต่างๆ ท่ีอยลู่ อ้ มรอบตวั ผูป้ ฏิบตั ิงานใน ขณะที่ ทางาน เช่น หวั หนา้ ผูค้ วบคุมงาน เพ่ือนร่วมงาน เครื่องจกั ร เคร่ืองมือและ อุปกรณ์ตา่ งๆ ปัจจยั สภาพ แวดลอ้ มในการทางานที่อยลู่ อ้ มรอบตวั ผปู้ ฏิบตั ิงานในขณะทางานน้นั พอจะแบ่ง เป็ นหมวดหมไู่ ด้ 4 ประเภท คือ 1. ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางกายภาพ (Physical) ไดแ้ ก่ ความเยน็ รังสี แสงสวา่ ง ความกดดนั บรรยา กาศ นอกจากน้นั สภาพแวดลอ้ ม (environment) ท่ีอยรู่ อบๆ ตวั ผูป้ ฏิบตั ิในขณะ ทางาน ยงั รวมถึงเคร่ือง จกั ร เครื่องมือ อุปกรณ์ต่างๆ 2. ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางเคมี (Chemical environment) ท่ีผปู้ ฏิบตั ิงาน ตอ้ งเกี่ยวขอ้ ง เช่น สารเคมี ชนิดตา่ งๆ ท่ีใชเ้ ป็ นวตั ถุดิบ หรือผลผลิต หรือของเสียท่ีตอ้ งจากดั โดยทวั่ ไปสารเคมีดงั กล่าว อาจจะอยใู่ น รูปของกา๊ ซ ไอ ฝ่ ุน ฟมู ควนั ละออง หรืออยใู่ นรูป ของเหลว เช่น ตวั ทาลาย ต่างๆ 3. ปัจจัยสภาพแวดล้อมทางชีวภาพ (Biological environment) ของผปู้ ฏิบตั ิงานน้นั มีท้งั ชนิดท่ีมี ชีวติ และไม่มีชีวติ ตวั อยา่ งของชนิดที่มีชีวิต เช่น ไวรัส แบคทีเรีย เช้ือรา พยาธิและสัตวอ์ ื่นๆ สาหรับ ตวั อยา่ งของชนิดไมม่ ีชีวิต เช่น ฝ่ ุนพืชตา่ งๆ ซ่ึงรวมถึงฝ่ ุน ไม้ ฝ่ นุ ฝ้าย และฝ่ นุ เมลด็ พืชต่าง 4. ปัจจัยทางเออร์กอนนอมคิ ส์และจิตวทิ ยาทาง สังคม (Ergonomics) การทางานบาง อยา่ งท่ีเร่งรัด ตอ้ งทา งานแข่งกบั เวลา การทางานเป็ นผลดั การทางานท่ีมีชวั่ โมง การทางานที่ยาวนาน การ ทางาน หนกั เกินไป การทางานที่จาเจซ้าซาก การทางานท่ีไม่เหมาะสมกบั ความสามรถของร่างกาย และ จิตใจ อิริยาบถการทางานท่ีไม่เหมาะสม หน่วยงานท่ีทางานไมเ่ หมาะสม เป็ นตน้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 2
1. เสียงดงั ที่เกิดจากเครื่องมือ เคร่ืองจกั ร เครื่องกล และอุปกรณ์ตา่ งๆ ในสถาน ท่ีทางาน เสียงดงั ท่ี เกิดข้ึน ประกอบกิจการต่างๆ น้นั อาจจะมีความแตก ต่างกนั ออก ไปซ่ึงความดงั น้ีมีหน่วย เป็ นเดซิเบล (decibel = dB) โดยเฉพาะถา้ อยใู่ นส่ิงแวดลอ้ มท่ีมีเสียงดงั เกิน 90 เดซิเบล (เอ) วนั ละ 8 ชวั่ โมง เป็ นเวลานานจะมีอนั ตราย ต่อหูไดอ้ นั ตรายจากเสียง ท่ีอาจเกิดแก่ผปู้ ฏิบตั ิงาน 2. ความส่ันสะเทือน ท่ีเกิดจากเคร่ืองมือหรือ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น เคร่ืองเจาะหรือตดั หินที่ใชใ้ นการร้ือถอน อาคารหรือถนน ความสน่ั สะเทือนน้ีส่วนมากจะก่อใหเ้ กิด อนั ตรายท่ีนิ้วมือเพราะจบั หรือถือ เครื่องมือท่ีมีความสนั่ สะเทือน เป็ นเวลานาน อาจจะมีอาการนิ้วมือซีด และนิ้ว ไม่มีความรู้สึก อยา่ งชว่ั คราวหรือถาวรได้ 3. ความกดดนั บรรยากาศทผ่ี ดิ ปกติ ในการทางาน ใตด้ ินหรือใตพ้ ้ืนน้าลึกๆเช่นผูป้ ฏิบตั ิงาน ก่อสร้างหรือนกั ประดาน้ามกั จะเส่ียงอนั ตรายจากความกดดนั บรรยากาศที่สูงกวา่ ปกติ ซ่ึงการอยใู่ นภาวะความ กดดนั สูงและการลดความกดดนั บรรยากาศลด ลงอยา่ งรวดเร็วน้ี อาจทาใหป้ ฏิบตั ิงานปวดหูหรือหูอ้ือในบางรายอาจ จะถึงกบั หูหนวกได้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 3
4. ความร้อน ที่เกิดจากการทางานใน กระบวนการผลิต ต่างๆ เช่น การหลอมโลหะการรีดเหล็ก การหลอมแกว้ อุตสาหกรรมการยอ้ มผา้ เป็ นตน้ ความร้อน จากแหล่งดงั กล่าว จะทาใหส้ ภาพแวดลอ้ มการทางาน มี อุณหภูมิสูงข้ึนแลว้ มี ผลทาใหอ้ ุณหภูมิของร่างกายผูป้ ฏิบตั ิ งานสูงข้ึนและการ สูญเสียเหง่ือมากกวา่ ปกติจนอาจทาใหเ้ กิดอนั ตรายได้ 5. แสงสว่าง ในสถานที่ทางานถา้ หากมีแสงสวา่ งพอเหมาะกจ็ ะช่วยทาใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานทางาน ดว้ ยความปลอดภยั และมีประสิทธิภาพสูง แตใ่ นทางตรงกนั ขา้ มถา้ แสงสวา่ งน้นั ไม่เหมาะสม คืออาจจะนอ้ ย เกินไป 6. รังสี รังสีมี 2 ชนิด คือชนิดที่ก่อใหเ้ กิดการแตกตวั น้นั เกิดจากคล่ืนแมเ่ หล็กไฟ ฟ้า เช่น รังสีเอกซ์ ท่ีใช้ ในดา้ นการ แพทยด์ า้ น วิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรม บางประเภทรังสีเอกซ์ มี อานาจทะลุ ทะลวงสูงมาก ถา้ หากถูกร่างกายคนก็จะสามารถทาลาย เน้ือเยอื่ ตา่ งๆ ในร่างกายได้ ส่วนรังสีชนิดท่ีไมก่ ่อใหเ้ กิดการแตกตวั เป็ นรังสีที่เกิดจากคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้าชนิดท่ีมี ความยาวคลื่นกวา้ งกวา่ รังสีชนิดแตกตวั เช่น รังสีเหนือมว่ ง รังสีใตแ้ ดง ไมโครเวฟ และ คลื่น วทิ ยุ เป็ นตน้ ส่วนรังสีชนิดที่ไมก่ ่อใหเ้ กิดการแตกตวั เป็ นรังสีที่เกิดจากคลื่นแมเ่ หล็ก ไฟฟ้าชนิดที่มีความยาว ความปลอดภยั ในโรงงาน 4
1. ฝ่ ุน (dusts) เป็ นอนุภาคของแขง็ ที่ฟุ้ง กระจายในอากาศ โดยเกิดจากการบด กระแทก ทุบ ขดั และระบิด เป็ นตน้ ขนาดฝ่ นุ ที่พบวา่ สามารถเขา้ ไปสะสมในปอดไดน้ ้นั จะมี ขนาดประมาณไมเ่ กิน 10 ไมครอน (1 ไมครอน = 1/10,000 เซนติเมตร) วตั ถุที่ทาให้ เกิดฝ่ ุนได้ คือ หิน แร่ โลหะ ไม้ และถ่านหิน เป็ นตน้ 2. ฟูม (fumes) เป็ นอนุภาคของแขง็ ที่เกิดจาก การรวมตวั ของสารจากสถานะเป็ นไอเช่นโลหะถูกทาใหร้ ้อนจนกลาย เป็ นไอแลว้ เกิดการควบแน่นข้ึนในอากาศ ปกติแลว้ ขนาดของ ฟมู จะมีขนาดเลก็ คือเลก็ กวา่ 1 ไมครอน ฟมู ที่พบ ในอุตสาหกรรม เช่น ฟมู ของตะกวั่ ออกไซดใ์ นการหลอม ตะกวั่ และฟมู ของเหล็ก ออกไซด์ ในการเช่ือม ประสานไฟฟ้า เป็ นตน้ 3. ควนั (smoke) ประกอบข้ึนดว้ ยอนุภาค ท่ีเลก็ ละเอียดซ่ึง โดยทว่ั ไปควนั จะมีขนาดเลก็ กวา่ 1 ไมครอน ส่วนประกอบ ทางเคมี ของควนั น้นั ค่อนขา้ ง ซบั ซอ้ น ปกติควนั จะเป็ นผล ท่ีเกิดจาก การเผาไหมท้ ี่ ไม่ สมบรูณ์ของวตั ถุท่ีมีธาตุคาร์บอน เป็ นส่วนประกอบ เช่น ถ่านหินและน้า มนั เป็ นตน้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 5
4. ละออง (mists) เป็ นอนุภาคของเหลวท่ีมีขนาดไมเ่ กิน 10 ไมครอนฟุ้งกระจายอยใู่ นอากาศ โดยทวั่ ไปมิสตเ์ กิดจากการควบแน่นจากสภาพก๊าซเป็ นของเหลวหรือโดยการแตกตวั ของ ของเหลว ไปอยใู่ นภาวะท่ีฟ้งุ กระจายได้ 5. ไอ (vapor) คือ ภาวะท่ีกา๊ ซของสารท่ีเป็ นของแขง็ หรือของเหลวท่ีเป็ นอุณหภมู ิและความดนั ปกติ เช่น เบนซิน เป็ นของเหลวท่ีอุณหภูมิปกติแลว้ ระเหยเพ่ือเปลี่ยนเป็ นไอ นอกจากน้ีกม็ ีสาร ตวั ทาลายอ่ืนๆ และแนพธาลีน (naphthalene) เป็ นตน้ ไอของสารเหล่าน้ีสามารถเปล่ียนรูป กลบั เป็ นของเหลวหรือ ของแขง็ ได้ โดยการเพ่ิมความกดดนั บรรยากาศและลดอุณหภมู ิลง โดยทวั่ ไปแล้วจะมีโอกาสเข้าสู่ร่างกาย ผู้ปฏิบัตงิ านได้ 3 ทาง คือ 1. ทางจมูก สารเคมีที่อยใู่ นรูปของกา๊ ซ ไอ ฝ่ นุ ควนั มิสต์ ส่วนมากจะเขา้ สู่ร่างกายโดย การหายใจเขา้ ไปและพบวา่ สารเคมีท่ีคนสูดหายใจเขา้ ไปจะถูกสะสมไวใ้ นปริมาณที่คอ่ นขา้ งสูง 2. ทางผวิ หนงั สารเคมีบางชนิดสามารถซึมผ่านผิวหนงั ปกติได้ และบางชนิดอาจเขา้ สู่ร่าง กายเม่ือผิวหนงั มีบาดแผลหรือถลอก 3. ทางปาก สารเคมีที่เขา้ สู่ทางปากมกั จะเกิดจากการกินเขา้ ไปโดยมิไดเ้ จตนาเช่น ผปู้ ฏิบตั ิ งานที่มือเป้ื อนสารเคมีแลว้ ไปหยบิ จบั อาหาร ขนม โดยไมไ่ ดล้ า้ งมือใหส้ ะอาดเสียก่อนหรือฝ่ ุน สารเคมีน้นั อาจฟ้งุ กระจายและลอยไปติดริมฝี ปากผูป้ ฏิบตั ิงานในขณะทางาน เป็ นตน้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 6
1. การติดเชื้อโรคต่างๆ เนื่องจากเกษตรกรหรือผูป้ ฏิบตั ิงานตอ้ งคลุกคลีอยกู่ บั สตั วห์ รือ หนงั สัตว์ ขนสัตว์ หรือฟางขา้ ว ชานออ้ ยท่ีมีเช้ือโรคหรือจลุ ินทรีย์ ชนิดต่างๆ อยู่ ดว้ ยเช่น เช้ือแบคทีเรีย ไวรัส และเช้ือรา 2. การเป็ นโรคพยาธิ น้นั อาจจะเกิดในกลุ่มเกษตรกรหรือผูป้ ฏิบตั ิ ท่ีตอ้ งทางานเก่ียวขอ้ ง กบั แหล่งของโปรโตซวั หนอนพยาธิ และแมลงนาโรคบางชนิด ตวั อยา่ งโรคท่ีเกิด จากโปรโตซวั คือ มาลาเรียบิด และโรคติดเช้ือของระบบทางเดินอาหาร เป็ นตน้ สาหรับโรคหนอนพยาธิน้นั จะรวมถึง โรคพยาธิปากขอ โรคซีสโตโทรมิเอซีส เป็ นตน้ ส่วนแมลงนาโรคน้นั ส่วนมากจะทาใหเ้ กิดความผิดปกติ ข้ึนที่ผิวหนงั 3. การเกดิ การระคายเคือง การเป็ นพิษหรือเกิดภมู ิแพจ้ ากการทางานใกลช้ ิดกบั พชื และ สัตว์ บางชนิดโดยอนั ตราย ท่ีเกิดข้ึนน้นั จะมีสาเหตุมาจากฝ่ ุน เช่น ขนและเกล็ดของแมลง มลู สตั ว์ ข้ีเล่ือยเกสรดอกไม้ สปอร์ของเช้ือรา และยงั รวมถึงฝ่ ุนเส้นใยพืช เช่น ฝ้าย ชานออ้ ย ป่ าน ปอหรือเมลด็ พชื เป็ นตน้ 4. การถูกสัตว์กัดในขณะทางาน ซ่ึงอาจจะเป็ นสตั วเ์ ล้ียง สัตวป์ ่ าหรือสัตวน์ ้า เช่น ชาวไร่ ชาวนาหรือชาวสวน อาจถูกงูพษิ กดั หรือแมลงตอ่ ย ความปลอดภยั ในโรงงาน 7
1. การเกดิ ความเครียด หรือรู้สึกเบ่ือหน่ายต่องานโดยทวั่ ไปจะเกิดจากความตอ้ งการข้นั พ้ืนฐาน ของผูท้ างานไม่ไดร้ ับการตอบสนองอยา่ งเหมาะสม เช่น บรรยากาศการทางานที่ตึงเครียด การเกิดความ รู้สึกวา่ ตนเองไมม่ ีความสาคญั ในงาน ปัญหาน้ีก่อใหเ้ กิดผลเสียมากมาย เช่น ทาใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิงานเป็ น โรค ประสาทเกิดการติดสุราและสารเสพติด เกิดการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมในการทางาน เป็ นตน้ 2. การเกิดความกดดนั จากสภาพการทางานทไี่ ม่เหมาะสม เช่น การทางานเป็ นผลดั หรือเป็ นกะ ท่ีนอกเหนือจากเวลาปกติ โดยปกติแลว้ คนส่วนใหญจ่ ะไมส่ ามารถปรับตวั ได้ ในที่สุดกก็ ่อใหเ้ กิดความ กดดนั ตอ่ กลไกของร่างกาย เกิดปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรมซ่ึงอาจจะเกิดเป็ นโรคกระเพาะอาหาร เกิดโรคหวั ใจ และเกิดปัญหาของระบบร่างกาย 3. การเกิดอุบัตเิ หตุจากปัญหาจิตวทิ ยาทางสังคม เช่น งานบางอยา่ งท่ีมีความซ้าซากจาเจและ เร่งรีบ เช่น การประกอบผลิตภณั ฑบ์ างชนิด นอกจากจะทาใหเ้ กิดความเบื่อหน่ายแลว้ อาจจะทา ใหเ้ กิดการทางานผิดพลาดข้ึนได้ ซ่ึงความผิดพลาดน้ีอาจเกิดเป็ นอุบตั ิเหตขุ ้ึนและผูป้ ฏิบตั ิงาน บางคนอาจตอ้ งมี ภาระความรับผิดชอบตอ่ ครอบครัวมากและ รายไดท้ ี่ไม่พอกบั รายจ่ายอาจทา ใหต้ อ้ งดิ้นรนทางานมากข้ึน โดยการทางานนอกเวลาแต่ บางคร้ังร่างกายรับไม่ไดก้ อ็ าจทาให้ เกิดอุบตั ิเหตุไดเ้ ช่นเดียวกนั เป็ นตน้ 4. การเกิดการเจ็บป่ วยจากอิริยาบถการทางานทไี่ ม่เหมาะสม เช่น พนกั งานพิมพข์ อ้ มูล คอมพิวเตอร์ ท่ีอาจจะมีสถานท่ีทางานไมเ่ หมาะสมคือ โตะ๊ และเกา้ อ้ีอาจจะ สูงหรือตา่ เกินไปและการพิมพง์ าน ที่เร่งรีบติดต่อกนั วนั ละหลายๆ ชวั่ โมงไม่มีเวลาหยดุ พกั อยา่ ง เหมาะสมกอ็ าจเกิดการปวดหลงั และ เป็ นโรคนิ้วแขง็ เหยยี ดนิ้วลาบาก และมีอาการปวดเจบ็ ที่ทอ้ งแขนเมื่อใชน้ ิ้วกด เป็ นตน้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 8
ควำมปลอดภยั เกี่ยวกบั กำรเคลื่อนย้ำยของหนักด้วยมอื จะตอ้ งพจิ ารณาส่ิงของวสั ดุท่ีจะตอ้ งเคล่ือนยา้ ยโดยใชม้ ือยก จะตอ้ งพจิ ารณาการใชอ้ ุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายส่วนบุคคลท่ีเหมาะสม ตลอดจนความเหมาะสม ของคนท่ีจะปฏิบตั ิงาน ตอ้ งสวมถุงมือชนิดต่างๆ ใหเ้ หมาะสมกบั วสั ดุท่ีจะทาการยก ถา้ ยกของเกินกวา่ จะยกคนเดียวไดใ้ หเ้ รียกคนอื่นมาช่วยมากพอท่ีจะยกได้ โดยไมต่ อ้ งฝื นออกแรง มากจนเกินกาลงั วธิ ีการยก งอเขา่ และคูล้ งต่าใกลข้ องใหล้ าตวั ชิดลง ใหห้ ลงั ตรงเกือบเป็ นแนวด่ิง แลว้ ยนื ขาท้งั สองข้ึน ใหใ้ ชข้ ายกอยา่ ใชห้ ลงั ยก เม่ือจะวางของใหว้ ธิ ียอ้ นกลบั ตามวธิ ีเดิม กรณีท่ีมีการใชอ้ ุปกรณ์ช่วยขนยา้ ย เช่น พวกลอ้ เล่ือน รถเขน็ ต่างๆ มีขอ้ ควรระวงั ดงั น้ี ในการวางของหา้ มวางของเอียงและตอ้ งไม่บรรทุกน้าหนกั มากเกินไป หรือสูงเกินไป จนเขน็ รถมองไม่เห็นทางขา้ งหนา้ ถา้ เป็ นทางลาดใหเ้ ขน็ โดยใหต้ วั รถอยขู่ า้ งหนา้ ของผูเ้ ขน็ ถา้ เขน็ ข้ึนทางลาดใหค้ นเขน็ ลากรถโดยตวั รถอยดู่ า้ นหลงั ความปลอดภยั ในโรงงาน 9
ควำมปลอดภยั เก่ียวกบั กำรทำงำนในที่สงู พ้ืนท่ีงานสูงกวา่ 2 เมตรข้ึนไปตอ้ งใชบ้ นั ไดหรือนง่ั ร้าน บนั ไดพาดควรมีมมุ พาดไม่นอ้ ยกวา่ 45 องศา ปลายบนั ไดบนจะตอ้ งเหลือความยาวมากกวา่ 60 ซม.จากจดุ พาด ควรมีวสั ดุกนั ลื่นรองขาบนั ได หรือมีคนคอยจบั ไวใ้ ห้ หากตอ้ งทางานที่สูงกวา่ 4.5 เมตร ตอ้ งสวมหมวกนิรภยั และใชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั ความปลอดภยั ในโรงงาน 190
ควำมปลอดภยั เกี่ยวกบั เครื่องมอื / อปุ กรณ์ อยา่ ใชเ้ ครื่องมืออุปกรณ์ท่ีชารุด อยา่ พกอุปกรณ์เครื่องมือที่แหลมคมในกระเป๋ าเส้ือผา้ ใชเ้ ครื่องมือใหถ้ ูกตอ้ งกบั ชนิดของงาน จดั ใหม้ ีการดูแล ควบคุมเครื่องมือ และมีผรู้ ับผิดชอบตรวจตราการนาไปใชก้ ารจดั เก็บและ บารุงรักษา หา้ มขวา้ ง โยนเคร่ืองมือใหแ้ ก่กนั ใหส้ ่งดว้ ยมือตอ่ มือ การเคลื่อนยา้ ยเคร่ืองมือใหใ้ ส่ในกล่องท่ีแขง็ แรง วธิ ีการจดั วางเครื่องมือ/อปุ กรณ์ ความปลอดภยั ในโรงงาน 191
ควำมปลอดภยั เกี่ยวกบั เครอื่ งมือกล หา้ มสวมถุงมือผา้ หรือเส้ือแขนยาวเม่ือทางานกบั เครื่องเจาะ กลึง ใส หรือเครื่องจกั รท่ีหมนุ ได้ ตอ้ งใชท้ ่ียดึ ชิ้นงานแทนการจบั ชิ้นงาน หา้ มเชื่อมโลหะในหรือใกลบ้ ริเวณที่มีก๊าซเคมีท่ีไวไฟ หรือเช้ือเพลิงอ่ืนๆ เมื่อเลิกใชง้ านแลว้ ตอ้ งปิ ดเคร่ืองทนั ทีแลว้ เกบ็ เขา้ ท่ี เคร่ืองมือตอ้ งอยใู่ นสภาพท่ีดีพร้อมอยเู่ สมอ ตอ้ งใชใ้ หถ้ ูกวิธีและเหมาะสมกบั งาน เคร่ืองมือบางชนิดตอ้ งต่อสายดินเพ่ือป้องกนั ไมใ่ หไ้ ฟฟ้าซ่ึงอาจรั่วดูดผใู้ ชง้ านได้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 192
ควำมปลอดภยั เกี่ยวกบั ไฟฟ้ำ สวมรองเทา้ ที่เหมาะสมขณะปฏิบตั ิงานเก่ียวกบั ไฟฟ้า อยา่ ซ่อมเคร่ืองจกั รโดยไมต่ ดั กระแสไฟฟ้า อยา่ เปิ ดสวติ ชโ์ ดยไม่ตรวจสอบความพร้อมของทุกฝ่ าย อยา่ จบั อุปกรณ์ไฟฟ้าขณะมือเปี ยก อยา่ ใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าท่ีชารุด / สายไฟชารุด อยา่ วางสายไฟเกะกะทางเดิน อยา่ ลืมถอดปลกั๊ อุปกรณ์ไฟฟ้าและปิ ดอุปกรณ์ไฟฟ้าหลงั การใชง้ านแลว้ อยา่ แขวนหลอดไฟหรือติดต้งั ใกลเ้ ช้ือเพลิง อยา่ เดินสายไฟหรือวางสายไฟโดยฉนวนถูกความร้อนเพราะจะทาใหฉ้ นวนเสียหาย อยา่ ต่อสายไฟโดยไมใ่ ชเ้ ทปพนั สายไฟ อยา่ เสียบสายไฟโดยไมใ่ ชป้ ลกั๊ กบั เตา้ เสียบสายไฟ(เพราะอาจถูกไฟดูดในขณะเสียบสายไฟ) อยา่ เปิ ดสวิตชไ์ ฟฟ้าที่มีป้ายแขวนเตือนเด็ดขาด ควรใหค้ วามสาคญั ในเร่ืองสญั ลกั ษณ์ ป้ายเตือน ก่อนลงมือปฏิบตั ิงาน การทางานตรวจซ่อมอุปกรณ์ในที่สูงจะตอ้ งใชเ้ ขม็ ขดั นิรภยั ทุกคร้งั ความปลอดภยั ในโรงงาน 193
ควำมปลอดภยั เกี่ยวกบั เครอ่ื งจกั ร ตอ้ งเดินสายดินป้องกนั ไฟรั่ว ก่อนใชเ้ คร่ืองจกั รตอ้ งแน่ใจวา่ มีเครื่องป้องกนั อนั ตรายติดอยใู่ นที่ของมนั เรียบร้อยแลว้ ทาเซฟการ์ดครอบ และทาสีส้มบริเวณส่วนที่หมนุ ไดข้ องเคร่ืองจกั ร ก่อนทางานกบั เคร่ืองจกั รตอ้ งแต่งกายใหร้ ัดกุมและจะตอ้ งสวมอุปกรณ์ป้องกนั อนั ตราย มีสติ อยา่ เลินเล่อ อยา่ หยอกลอ้ กนั ขณะปฏิบตั ิงาน หากจาเป็ นตอ้ งปรับแตง่ หรือทาความสะอาดใหห้ ยดุ เครื่องเสียก่อนแลว้ แขวนป้าย“หา้ มเดินเคร่ืองจกั ร” อยา่ ใชเ้ ครื่องจกั รเกินกาลงั พยายามรักษาความสะอาดอยเู่ สมอ อยา่ ปล่อยใหเ้ ครื่องจกั รทางานตามลาพงั โดยไมม่ ีคนดูแลควบคุม ใชเ้ ฉพาะบุคคลซ่ึงมีหนา้ ท่ีเท่าน้นั ความปลอดภยั ในโรงงาน 194
ควำมปลอดภยั เกี่ยวกบั สำรเคมี สารเคมีทุกชนิดมีอนั ตรายนอ้ ยถึงมากที่สุด สารเคมีสามารถเขา้ สู่ทางร่างกาย ทางปาก ทางจมกู และ ผิวหนงั ควรศึกษาใหเ้ ขา้ ใจถึงพษิ ของสารเคมีท่ีใชอ้ ยเู่ ป็ นประจาพร้อมท้งั การป้องกนั รักษาเม่ือไดร้ ับอนั ตราย จากสารเคมีน้นั ๆ ใชอ้ ุปกรณ์ความปลอดภยั ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพของงาน เช่น - ใชห้ นา้ กากครอบจมูกป้องกนั เฉพาะสารเคมีน้นั ๆ - สวมแวน่ ตานิรภยั - สวมรองเทา้ ยางป้องกนั สารเคมี - สวมถุงมือ - สวมชุดป้องกนั สารเคมีบางชนิด เมื่อสารเคมีสมั ผสั กบั ร่างกายใหร้ ีบลา้ งดว้ ยน้าสะอาดทนั ที และไปพบแพทยห์ รือพยาบาล ควรอ่านวธิ ีการใชแ้ ละขอ้ ควรระวงั จากสลากท่ีติดอยขู่ า้ งหีบห่อและปฏิบตั ิตาม อยา่ งเคร่งครัด การปฏิบตั ิตนเม่ือมีเหตุฉุกเฉิน ก. เมอ่ื ถูกกรดหรอื ด่าง - รีบลา้ งดว้ ยน้าสะอาดทนั ทีและรีบไปพบพยาบาล ข. เม่ือสูดดมกา๊ ซ - นาผปู้ ่ วยออกไปบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทไดด้ ี - ช่วยการหายใจ ถา้ ผูป้ ่ วยหายใจติดขดั - ปลดกระดุมเส้ือผา้ ออกใหห้ ลวมตวั ความปลอดภยั ในโรงงาน 195
ควำมปลอดภยั เก่ียวกบั ฝ่ นุ ผทู้ างานสมั ผสั กบั ฝ่ นุ ละออง ก๊าซ ไอ สารอนั ตรายตา่ ง ๆ มีโอกาสเกิดอนั ตรายต่อร่างกายได้ ควรตอ้ งใส่อุปกรณ์ป้องกนั อนั ตรายระบบทางเดินหายใจซ่ึงมีหลายชนิด เช่น ป้องกนั ฝ่ นุ ฝ่ ุนพษิ ผงเคมี ละออง ไอโลหะ ไอสารเคมี ควนั จากการเช่ือม ผูใ้ ชค้ วรเลือกชนิดใหม้ ีประสิทธิภาพเหมาะสม กบั สารพษิ ที่สมั ผสั สวมใส่ถูกวธิ ี ทาความสะอาด เกบ็ รักษาถูกตอ้ ง ซ่อมแซม หรือเปล่ียนใหม่ทนั ทีท่ีชารุด หลีกเลี่ยงการอยใู่ นท่ีแออดั มีฝ่ นุ ละออง ไอ ควนั ของมลพษิ หรือสารเคมี และการระบายอากาศไม่ดี ผูท้ ่ีทางานเกี่ยวขอ้ งกบั ฝ่ นุ สารเคมี หรือสารอนั ตรายจะตอ้ งตรวจเอกซเรยป์ อด ทดสอบสมรรถภาพ ปอดประจาปี ความปลอดภยั ในโรงงาน 196
ควำมปลอดภยั เก่ียวกบั รถยก บริษทั ฯ กาหนดใหพ้ นกั งานที่สามารถขบั ขี่รถโฟลค์ ลิฟท์ ตอ้ งเป็ นพนกั งานท่ีมีหนา้ ท่ีรับผิดชอบ ในการขบั ข่ีรถโฟลค์ ลิฟทใ์ นการปฏิบตั ิงานเท่าน้นั กรณีจาเป็ นเร่งด่วนซ่ึงตอ้ งใชร้ ถโฟลค์ ลิฟในการปฏิบตั ิงานและไม่สามารถจดั หาพนกั งานท่ีมี หนา้ ท่ีความรับผิดชอบในการขบั ข่ีรถโฟลค์ ลิฟทไ์ ด้ ใหพ้ นกั งานบงั คบั บญั ชาข้ึนไปเป็ นผูใ้ ช้ ดุลยพินิจอนุญาตเป็ นกรณีไป และใหใ้ ชเ้ ฉพาะในภาระกิจน้นั ๆ เท่าน้นั ศึกษาคู่มือวิธีการใชร้ ถโฟลค์ ลิฟทแ์ ละเอกสารดา้ นความปลอดภยั ในการใชร้ ถโฟลค์ ลิฟท์ และ ปฏิบตั ิตามวิธีการใชแ้ ละขบั ขี่รถโฟลค์ ลิฟทอ์ ยา่ งถูกวิธีและปลอดภยั ตรวจสอบสภาพของรถโฟลค์ ลิฟทใ์ หพ้ ร้อมและปลอดภยั ก่อนนาไปใชง้ านทุกคร้ัง และเมื่อใช้ งานเสร็จแลว้ ตอ้ งนารถโฟลค์ ลิฟทเ์ ขา้ ท่ีจอดใหเ้ ป็ นระเบียบเรียบร้อยและจะตอ้ งลดงาติดกบั พ้ืน ก่อนทุกคร้งั ตอ้ งขบั ข่ีรถโฟลค์ ลิฟทด์ ว้ ยความระมดั ระวงั ไม่กระทาการเป็ นท่ีหวาดเสียวหรือลกั ษณะทานอง เดียวกนั และขบั ข่ีรถโฟลค์ ลิฟทโ์ ดยใชค้ วามเร็วไม่เกินจากท่ีกาหนด(20 กม./ชม.) หา้ มนารถโฟลค์ ลิฟทไ์ ปใชป้ ฏิบตั ิงานอ่ืนนอกเหนือจากลกั ษณะงานท่ีตอ้ งใชร้ ถโฟลค์ ลิฟทท์ ่ี กาหนดไว้ หา้ มพนกั งานหรือบุคคลอ่ืนใด โดยสารบนรถโฟลค์ ลิฟท์ ยกเวน้ พนกั งานผขู้ บั ขี่รถโฟลค์ ลิฟท์ เท่าน้นั และหา้ มบรรทุกวสั ดุสิ่งของบนรถโฟลค์ ลิฟทโ์ ดยเดด็ ขาด ใชส้ ัญญาณเตือนในการถอยหลงั และจะตอ้ งมองขา้ งหลงั ก่อนเสมอ อยา่ บรรทุกของสูงเกินหรือหนกั เกินอตั ราท่ีกาหนด อยา่ ออกหรือหยดุ รถกะทนั หนั ขณะบรรทุกของ ตรวจวา่ กองวสั ดุที่จะยกเป็ นระเบียบหรือจดั วางอยใู่ นลกั ษณะท่ีปลอดภยั หรือไม่ พ้ืนรองยก (แพลเลท) ตอ้ งอยใู่ นสภาพดี แขง็ แรง พนกั งานผใู้ ชร้ ถโฟลค์ ลิฟทจ์ ะตอ้ งปฏิบตั ิตามระเบียบการใชแ้ ละขบั ข่ีรถโฟลค์ ลิฟทโ์ ดยเคร่งครัด ความปลอดภยั ในโรงงาน 197
ควำมปลอดภยั ในกำรใช้ยำนพำหนะ 1. การตรวจสอบสภาพรถให้ปลอดภยั ตรวจสอบสภาพรถใหป้ ลอดภยั ที่ปัดน้าฝน อยใู่ นสภาพใชง้ านได้ สายพานพดั ลม อยใู่ นสภาพท่ีดี ไมห่ ยอ่ น มีรอยปริหกั คลทั ชแ์ ละคนั เบรคตอ้ งไม่สูง หรือตา่ เกินไป เบรกมือใชง้ านได้ ดี ดอกยาง ความดนั ลม มีเหมาะสม ในการยดึ เกาะถนน การเบรค และการทรงตวั ที่ดี สญั ญาณไฟ เช่น ไฟหนา้ ไฟหลงั ไฟเล้ียว ไฟเบรคใชก้ ารได้ โคมไฟหนา้ ตอ้ งไม่ ส่องสูงจน เกินไป น้ามนั เช้ือเพลิง น้ามนั เคร่ือง น้ามนั เบรก น้ามนั เกียร์ น้าในหมอ้ น้า น้ากลนั่ หมอ้ แบตเตอรี่ 2. ความปลอดภัยก่อนออกรถ จดั ท่านง่ั ใหถ้ ูกตอ้ ง โดยใหห้ ลงั พงิ พนกั เตม็ ท่ี เข่างออยเู่ หนือสะโพก ขอ้ ศอกงอเล็กนอ้ ย ปรับกระจกมองหลงั และกระจก มองขา้ งใหส้ ามารถมองเห็นรถที่ตามมาไดช้ ดั เจน คาดเขม็ ขดั นิรภยั ใหก้ ระชบั พอดี ขบั ทิง้ ระยะห่างจากรถคนั หนา้ ใหส้ ามารถหยดุ รถไดอ้ ยา่ งปลอดภยั เม่ือมีทศั นะวสิ ยั ไม่ดีขณะขบั รถ เช่น ฝนตก หมอกลง มากใหเ้ ปิ ดไฟหนา้ หรือไฟหรี่ ลดความ เร็วลงหา้ มทาการเบรคโดยกะทนั หนั หรือหกั พวงมาลยั ทนั ที 3. ความปลอดภยั บนท้องถนน ไม่ขบั รถ ขณะเมาสุรา ยาเสพติดขบั ประมาทหวาดเสียว และทาความ เดือดร้อนแก่ผูอ้ ื่น ใชค้ วามเร็วรถที่ปลอดภยั เพราะหากขบั รถเร็วเกินไปจะ ทาใหเ้ วลา ตดั สินใจนอ้ ยลง ระยะเบรก นอ้ ยลงแตม่ ีแรง ปะทะมากข้ึน เม่ือยางแตก หรือระเบิด ใหค้ วบคุมสติพยายามควบคุม พวงมาลยั ไมใ่ หร้ ถ ออกนอกช่องทางเดินรถ ปล่อยคนั เร่ง พร้อมเปล่ียนเกียร์ตา่ ลดลงเรื่อยๆ จนรถชะลอความเร็วลง จึง เหยยี บเบรกเบาๆ และ เล้ียวเขา้ ขา้ งทาง ความปลอดภยั ในโรงงาน 198
กำรปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั ในสำนักงำน 1. ล่ืนหกล้ม ควรเกบ็ เศษวสั ดุ เครื่องใชส้ านกั งาน เช่น ปากกา ดินสอ ทนั ทีท่ี พบวา่ ตกอยบู่ นพ้ืน ควรแจง้ ผูร้ ับผิดชอบใหท้ าความสะอาดทนั ทีท่ีพบน้า หรือของเหลวหกอยบู่ นพ้ืน ควรบอกกล่าวผเู้ ดินผา่ น หรือ ทาป้ายแสดงบนพ้ืนที่เปี ยกช้ืนขณะทาความสะอาด 2. ถูกของทบั ของตกใส่ ควรเก็บเอกสารและของมีน้าหนกั มากภายในลิ้นชกั เก็บ เอกสารจากช้นั ล่างสุดข้ึนไปช้นั บนเพ่ือไมใ่ หต้ ูล้ ม้ เม่ือเปิ ด ลิ้นชกั บนซ่ึงมีน้าหนกั มาก ไม่ควรเปิ ดลิ้นชกั ตูเ้ กบ็ เอกสารในเวลาเดียวกนั เกินกวา่ หน่ึงลิ้นชกั ไมค่ วรวางวสั ดุสิ่งของไวบ้ นหลงั ตูเ้ กบ็ เอกสารเพราะอาจจะหล่น ลงมาได้ 3. สะดดุ หกล้ม สุภาพสตรีไม่ควรใส่รองเทา้ แตะ เพราะจะทาใหส้ ะดุด และ ลื่นหกลม้ ขณะท่ีมีถุงน่องสวมอยู่ ควรจดั เกบ็ วสั ดุสิ่งของใหเ้ ป็ นระเบียบและไม่วางกีดขวาง ทางเดิน ช่องประตู ควรเดินสายไฟ สายโทรศพั ท์ ฯลฯ ไม่ใหก้ ีดขวางทาง เดิน ควรปิ ดลิ้นชกั โตะ๊ ตูเ้ กบ็ เอกสารทุกคร้งั หากไม่มีการใชง้ าน ไม่ควรยกของสูงจนบงั สายตาทาใหม้ องไม่เห็นพ้ืนหรือส่ิงของที่วาง ขวางทางเดินอยู่ ความปลอดภยั ในโรงงาน 199
กำรปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั ในสำนักงำน 4. การชนกระแทก ควรจดั ช่องทางเดินใหม้ ีความกวา้ งเพียงพอที่จะไมเ่ ดินชนถูกโตะ๊ ตูท้ างาน ฯลฯ ได้ ควรหลีกเหลียงการยนื หรือเดินผ่านใกลก้ บั ประตูท่ีปิ ดอยู่ เพราะ อาจจะมีผอู้ ื่นเปิ ดประตูออกมากระแทกถูกได้ ควรจดั ทาป้ายสติกเกอร์ปิ ดที่ประตหู รือผนงั ที่เป็ นกระจกใหเ้ ห็น เด่นชดั เพ่ือป้องกนั การเดินชน ควรเดินดา้ นขวาของทางเดินและเดินอยา่ งชา้ ๆ ขณะเดินมุมตึก หรือมมุ หอ้ ง เพ่ือป้องกนั การชนกบั ผูอ้ ื่นซ่ึงเดินมาจากอีกมมุ หน่ึง 5. เวยี นศีรษะ ไม่สูบบุหรี่ภายในพ้ืนท่ีท่ีทางาน ไม่ทิง้ เศษอาหารใหห้ มกั หมม หรือรับประทานอาหารในท่ีทางาน ควรแจง้ ผรู้ ับผิดชอบหากมีอาการวงิ เวียนที่อาจมาจากระบบการถ่ายเทอากาศภายในสานกั งาน ควรเกบ็ น้ามนั สารเคมีใหถ้ ูกวธิ ีและเหมาะสม หากมีสารเคมีหกควรทาความสะอาดโดยทนั ที 6. หงายหลัง ควรใชบ้ นั ไดเม่ือตอ้ งการหยบิ ของ บนที่สูงแทนการยนื บนเกา้ อ้ี ท่ีมีลอ้ เล่ือน ไม่ควรนงั่ เอนตวั ไปดา้ นหลงั มากเกินไปหรือนง่ั ขอบดา้ นหนา้ ของเกา้ อ้ีมากเกินไป ไม่ควรนงั่ เกา้ อ้ีที่ชารุดมีรอยแตกร้าว ควรนงั่ ทางานโดยมีขาเกา้ อ้ีทุกขาวางอยบู่ นพ้ืนตลอดเวลา 7. ถูกบาด ถูกหนีบ ควรจบั กระดาษที่มมุ แทนการจบั ดา้ นขา้ งเพ่ือป้องกนั กระดาษบาดมือ ควรเกบ็ และใชเ้ ครื่องมืออุปกรณ์สานกั งานอยา่ งระมดั ระวงั เช่นเกบ็ ปากกาดินสอโดยใหป้ ลายช้ีลงและหุบกรรไกร ใบมีด คตั เตอร์ใหเ้ รียบร้อย ควรใชท้ ี่ดึงลวดเยบ็ กระดาษแทนการใชเ้ ล็บมือดึงลวดเยบ็ กระดาษทุกคร้งั เมื่อปิ ดลิ้นชกั ตูเ้ กบ็ เอกสารควรใชม้ ือจบั ที่จบั ไวแ้ ละใหแ้ น่ใจวา่ ไม่ไดว้ างนิ้ว มือไวบ้ นขอบบนของลิ้นชกั ความปลอดภยั ในโรงงาน 290
กำรป้องกนั และระงบั อคั คีภยั อคั คีภยั คือ ภยนั ตรายที่เกิดจากไฟ ท่ีเกินการควบคุม และลุกลาม ต่อเน่ือง สร้างความเสียหาย ให้ แก่ชีวิต ทรัพยส์ ิน และสภาพแวดลอ้ ม การสันดาปหรือการเผาไหม้(combustion) คือ ปฎิกิริยาทางเคมี ซ่ึงเช้ือเพลิงไดร้ วมตวั กบั ออกซิเจน จากอากาศและปล่อยพลงั งานความร้อนและแสงสวา่ ง องค์ประกอบของไฟ (fire triangle) การที่จะเกิดไฟข้ึนไดน้ ้นั ตอ้ งมีองคป์ ระกอบ 3 อยา่ ง คือ 1. เช้ือเพลิง (fuel) ซ่ึงจะอยใู่ นสภาพของแขง็ ของเหลว หรือแก๊ส 2. ออกซิเจน (oxygen) ซ่ึงะมีอยใู่ นอากาศประมาน 21% โดยปริมาณ 3. ความร้อน (heat) พอเพยี งที่จะติดไฟได้ เมื่อมีองคป์ ระกอบท้งั 3 ครบแลว้ ไฟจะเกิดลุกไหมข้ ้ึนและเกิดปฎิกิริยาลูกโซ่ ความปลอดภยั ในโรงงาน 291
ชนิ ดของไฟ มีการแยกประเภทของไฟ ตามชนิดของเช้ือเพลิงและแหล่งเกิดพลงั งานสาหรับการติดไฟน้นั ๆ ซ่ึงโดยทวั่ ไปจะแบ่งเป็ น 1. ประเภท A หรือ ก เกิดจากเช้ือเพลิง ซ่ึงประกอบดว้ ย คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน เช่น เส้ือผา้ หญา้ แหง้ กระดาษ ไม้ และฟาง สญั ลกั ษณ์ รูปสามเหล่ียม พ้ืนสีเขียว อกั ษร A 2. ประเภท B หรือ ข เกิดจากเช้ือเพลิง ซ่ึงประกอบดว้ ย คาร์บอน และไฮโดรเจน เป็ นส่วนใหญ่ เช่น น้ามนั เช้ือเพลิง กา๊ ซหุงตม้ สัญลกั ษณ์ รูปส่ีเหลี่ยม พ้ืนสีแดง อกั ษร B 3. ประเภท C หรือ ค เกิดจากพลงั งานของเคร่ืองกาเนิดไฟฟ้า หรือเคร่ืองใช้ ไฟฟ้าที่พร้อมทางานหรือกาลงั ทางาน ทาใหส้ ่วนประกอบของมนั และ สิ่งอ่ืนที่เป็ นเช้ือเพลิงรอบขา้ งติดไฟได้ สญั ลกั ษณ์ รูปวงกลม พ้ืนสีฟ้าหรือสีน้าเงิน อกั ษร C 4. ประเภท D หรือ ง เกิดจากโลหะท่ีมีสมบตั ิติดไฟไดห้ รือกาเนิดแก๊สติดไฟได้ ง่ายเมื่อสมั ผสั กบั อากาศและความช้ืนในอากาศ เช่น โลหะโซเดียม อะลูมิเนียมท่ีเป็ นผง เป็ นตน้ สัญลกั ษณ์ รูปดาว พ้ืนสีเหลือง อกั ษร D 5. ประเภท K เป็ นการเผาไหมท้ ่ีเกิดจาก คราบน้ามนั หมู น้ามนั พชื หรือ ในปล่องระบายควนั ในหอ้ งครัว สัญลกั ษณ์ หกเหลี่ยม พ้ืนสีดา อกั ษร K *เคร่ืองดบั เพลิงทใี่ ช้อยู่ทั่วไปจะกำหนดอย่ำงชัดเจนท่ีฉลำกว่ำสำมำรถใช้กบั ไฟประเภทใดบ้ำง* ความปลอดภยั ในโรงงาน 2923
ประเภทของถงั ดบั เพลิง 1. ถงั ดบั เพลิงชนิดผงเคมแี ห้ง (Dry Chemical) ดบั ไฟไดเ้ กือบทุกประเภท คือ ประเภท A B C ยกเวน้ ประเภท K เหมาะกบั ที่พกั อาศยั โรงงานอุตสาหกรรม เมื่อฉีดออกมาจะเป็ นฝ่ ุนผงเคมีฟ้งุ กระจายออกมาเม่ือฉีดออกมาแลว้ ไม่วา่ จะใชห้ มด หรือไม่หมดถงั แรงดนั ของถงั จะตกและไมส่ ามารถใชง้ านไดอ้ ีก ตอ้ งส่งอดั บรรจุใหม่ 2. ถงั ดบั เพลิงชนิดนำ้ ยำเหลวระเหย NON - CFC สามารถดบั ไฟ A B และ C ได้ ซ่ึง คอ่ นขา้ งครอบคลุมเช้ือเพลิงทวั่ ไปที่เราเจอกนั ในชีวิตประจาวนั เหมือนกบั ถงั ดบั เพลิง เคมีแหง้ ไม่วา่ จะเป็ นผา้ ไม้ น้ามนั เช้ือเพลิง และอุปกรณ์ไฟฟ้า เม่ือฉีดออกมาแลว้ จะ ระเหยไปในทนั ทีทาใหไ้ มท่ ิง้ คราบไวบ้ นสิ่งของท่ีเราฉีดใส่ 3.ชนิดก๊ำซคำร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สารเคมีภายในบรรจุก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ กา๊ ซท่ีฉีดออกมาจะเป็ นไอเยน็ จดั คลา้ ยน้าแขง็ แหง้ ลดความร้อนของไฟได้ ไม่ทิ้ง คราบสกปรก สามารถดบั ไฟไดป้ ระเภท B C เหมาะสาหรับการใชง้ านในหอ้ ง เคร่ืองจกั ร Line การผลิตอุตสาหกรรม อาหาร ถงั สีแดง ปลายกระบอกฉีดจะใหญ่ 4.ถังดบั เพลิงชนดิ นำ้ สะสมแรงดนั ถงั ดบั เพลิงชนิดน้ีจะบรรจนุ ้าธรรมดา เป็ นสาร ดบั เพลิงพร้อมกบั อดั แรงดนั เขา้ ไป ทาใหป้ ระสิทธิภาพในการดบั เพลิงน้นั สูงข้ึนโดย ถงั ดบั เพลิงชนิดน้าสะสมแรงดนั น้นั จะสามารถดบั ไดเ้ พยี งไฟประเภท A เท่าน้นั 5.ชนดิ โฟมนำ้ ยำ AFFF สารเคมีภายในบรรจโุ ฟม เม่ือฉีดออกมาจะเป็ นฟองโฟมคลุม ผิวเช้ือเพลิงที่ลุกไหม้ จึงสามารถดบั ไฟไดป้ ระเภทA B แต่ไมส่ ามารถนาไปดบั ไฟ ประเภท C ได้ เพราะ เป็ นส่ือนาไฟฟ้า เหมาะสาหรับ ภาคอุตสาหกรรม ดบั เช้ือเพลิง ประเภททินเนอร์และสารระเหยติดไฟ 6.ถังดบั เพลงิ สูตรนำ้ Low Pressure Water Mist สามารถดบั ไฟไดท้ ุกประเภท คือ A B C D และ K จึงเหมาะกบั การติดต้งั ในหลายๆ สถานที่ และอุตสาหกรรม เม่ือฉีด สารดบั เพลิงออกมา จะไมฟ่ ้งุ กระจาย ทาใหท้ าความสะอาดไดง้ ่ายกวา่ เคมีแหง้ และ ไม่เป็ นอนั ตรายตอ่ คน และส่ิงมีชีวติ ความปลอดภยั ในโรงงาน 293
วิธีกำรใช้งำนถงั ดบั เพลิงและกำรบำรงุ รกั ษำ การใช้ ถงั ดบั เพลงิ กรณที ว่ั ไป มีเพยี ง 4 ข้นั ตอนเบื้องต้นดงั นี้ คือ \" ดงึ ปลด กด ส่าย \" 1) ดงึ คือ ดึงสลกั บริเวณมือจบั ออก คนั บีบจะถูกปลดล็อคทาใหเ้ คร่ืองดบั เพลิงอยใู่ นสภาพที่พร้อมใชง้ าน 2) ปลด คือ ปลดปลายสายฉีดและจบั ปลายสายฉีดช้ี ไปที่ฐานของเปลวไฟ 3) กด คือ กดคนั บีบที่มือจบั เพ่ือฉีดผงเคมีดบั เพลิง ไปที่ฐานของเปลวไฟ ปล่อยคนั บีบเม่ือตอ้ งการ หยดุ ใชง้ าน 4) ส่าย คือ ส่ายปลายสายฉีดส่วนปลายสายฉีด จากดา้ นหน่ึงไปยงั อีกดา้ นหน่ึง ใหผ้ งเคมีพุ่ง ไปท่ีฐานของไฟ จนกระทงั่ ไฟดบั สนิท วธิ ีการบารุงดูแลรักษาถงั ดบั เพลิง 1. ดูแลรักษาจากภายนอก ตรวจสอบสภาพของสายฉีด ไม่แตก หกั หรือรั่วและตวั ถงั ไม่ผกุ ร่อนข้ึนสนิม 2. ดูแลรักษาน้ายาในถงั โดยหมน่ั พลิกถงั ดบั เพลิง กลบั หวั ลง เพ่ือตรวจสอบวา่ น้ายาดบั เพลิงในถงั ยงั คง สภาพเดิม (เป็ นของเหลว) ไม่จบั ตวั เป็ นกอ้ นแขง็ 3. ดูแลแรงดนั ตรวจสอบความดนั ของถงั ดบั เพลิงวา่ ยงั อยใู่ นช่วงท่ีกาหนดโดยดูจาก Gauge วดั โดยถา้ เขม็ ยงั คงอยใู่ นช่วงแถบสีเขียว แสดงวา่ ถงั ดบั เพลิงน้นั ยงั อยใู่ นสภาพใชก้ ารได้ ความปลอดภยั ในโรงงาน 294
อปุ กรณ์ป้องกนั อนั ตรำยส่วนบคุ คล อุปกรณ์ป้องกนั ศีรษะ อุปกรณ์ป้องกนั ใบหนา้ และดวงตา อุปกรณ์ป้องกนั หู อุปกรณ์ป้องกนั ระบบทางเดินหายใจ อุปกรณ์ป้องกนั มือและแขน อุปกรณ์ป้องกนั ลาตวั อุปกรณ์ป้องกนั เทา้ อุปกรณ์ป้องกนั การตกท่ีสูง ความปลอดภยั ในโรงงาน 295
สญั ลกั ษณ์ควำมปลอดภยั ความปลอดภยั ในโรงงาน 296
สญั ลกั ษณ์ควำมปลอดภยั เคร่ืองหมายเกี่ยวกบั อคั คีภยั เครื่องหมายสภาวะความปลอดภยั เคร่ืองหมายบงั คบั ชนดิ ต่างๆ ความปลอดภยั ในโรงงาน 297
สญั ลกั ษณ์ควำมปลอดภยั เคร่ืองหมายเตือนชนิดต่างๆ ความปลอดภยั ในโรงงาน 298
สญั ลกั ษณ์ควำมปลอดภยั เครื่องหมายห้ามชนดิ ต่างๆ ความปลอดภยั ในโรงงาน 299
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 390
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 391
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 392
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 393
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 394
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 395
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 396
โปสเตอรค์ วำมปลอดภยั ในโรงงำน ความปลอดภยั ในโรงงาน 397
ค่มู ือความปลอดภยั เบือ้ งต้น คณะที่ปรึกษา นายสุรพงษ์ ดาริหศ์ ิลป์ กรรมการบริหาร นายไพโรจน์ สุทธิบญั ญตั ิ ผูจ้ ดั การฝ่ ายบริหาร นายพณิทช์ จนั ทรัตน์ ผูจ้ ดั การฝ่ ายผลิต คณะผ้จู ัดทา 1. คณะกรรมการความปลอดภยั และมาตรฐานแรงงาน 2. ส่วนความปลอดภยั และส่ิงแวดลอ้ ม ฝ่ ายบริหาร
11 12 1 10 2 93 84 76 5 \"สวมใส่อปุ กรณ์โดยเคร่งครดั ปฏิบตั ิตำมกฎควำมปลอดภยั ยึดหลกั ให้เป็นนิสยั อบุ ตั ิภยั ไม่มำเยือน\" \"พบเหน็ สภำพกำรณ์ / กำรกระทำท่ีไมป่ ลอดภยั โปรดแจ้งหวั หน้ำงำนต้นสงั กดั หรอื แจ้งแผนกควำมปลอดภยั \" โทร 077-278500 - 7777 โทร 077-278500 - 7760 โทร 077-278500 - 7750 VANACHAI PANEL INDUSTRIES CO.,LTD. เลขท่ี 8/8 หมู่ท่ี 1 ตาบลเขานิพนั ธ์ อาเภอเวยี งสระ จังหวดั สุราษฎร์ธานี 84190
Search
Read the Text Version
- 1 - 48
Pages: