ความหมายของงานธุรการ122

งานธรุ การและประชาสมั พนั ธห์ อ้ งสมดุความหมายของงานธรุ การ งานธุรการ หมายถึง งานท่ีเก่ียวกับการจัดหา จัดใช้ ดูแลและบริการ เพ่ือนามาซึ่งความสะดวกของงานอ่ืนๆ ในห้องสมุด งานธุรการไม่เพียงเป็นงานสานักงานท่ีเกี่ยวข้องกับการจัดเก็บและรียกใช้เอกสารเท่าน้ันแต่ยังรวมไปถึงการบารุงรักษา การให้บริการติดต่อประสานงานทั้งในและนอกห้องสมุด การจัดหา จัดใช้อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ให้เกิดผลคุ้มค่าและประหยัดท่ีสุด และให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อุปกร ณ์แล ะสถานท่ีซึ่ง จะเห็นว่างานธุร การ เปรี ยบเสมื อน แม่บ้านของหอ้ งสมุดและองค์การทัว่ ๆ ไป ที่เกยี่ วข้องกับผู้คนทุกระดับตั้งแต่ผู้บริหารหัวหน้า เจ้าหน้าทผ่ี ปู้ ฏิบตั งิ าน ไปจนถึงนักการและพนักงานขบั รถขอบเขตของงานธรุ การงานธุรการแบ่งแยกงานตามหน้าท่ีความรับผิดชอบได้ดังนี้ (วิชัย โถสวุ รรณจนิ ดา. 2537:11-1) 1. งานสถานที่ ได้แก่ การจัดหาสานักงาน การบริหารสานักงานการบารุงรกั สานกั งาน และสถานทต่ี ่างๆ ท่ีใช้เป็นท่ีทาการซึ่งรวมถึงการซ่อมแซมอาคาร การปรับปรุงสานักงาน การรักษาความสะอาด การรักษาความปลอดภัยการจราจรลานจอดรถ ระบบไฟฟ้า ประปาสุขภัณฑ์และระบบอากาศ 2. งานจัดซื้อและพัสดุ เป็นงานจัดซื้อ จัดหาวัสดุอุปกรณ์ และเครื่องมอื สานักงาน และงานบารุงรักษาอุปกรณ์เคร่ืองใช้ต่างๆ ให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้เสมอ

3. งานติดต่อส่ือสาร ได้แก่ การจัดระบบโทรเลขโทร โทรเลขโทรศพั ท์ โทรสารการคมนาคม การรบั สง่ สิ่งของและผู้โดยสารการรับส่งเอกสาร ไปรษณีย์ วิทยสุ ือ่ สาร ระบบอเิ ล็กทรอนิกส์ ระบบโทรคมนาคม 4. งานสารบรรณ ได้แก่ การจัดระบบงานเอกสาร การรับส่ง เสนอเอกสาร การจัดเก็บรักษาเอกสารสาคัญ การจัดการประชุมงานติดต่อทางราชการอ่ืนๆ 5.งานบริหาร ได้แก่ การจัดรูปโครงสร้างของหน่วยงาน การวางแผนการทางาน การกาหนดเป้าหมายระยะส้ันและระยะยาว การกาหนดงบประมาณ การประชาสัมพนั ธ์ การประเมนิ ผลงาน 6.งานบริหารการเงนิ ได้แก่ การควบคุมค่าใช้จ่ายระบบบัญชี 7.งานบุคคล เป็นการกาหนดขอบเขตของหน่วยงาน กาหนดหน้าที่ของพนักงาน เป็นรายบุคคล จัดทาใบพรรณนางาน คู่มือการปฏิบัติงาน การตรวจสอบงาน การแนะนา สอนงาน และการให้คาปรึกษาหารอื เมอื่ พนักงานประสบปัญหา หรืออุปสรรคในการทางาน งานธุรการห้องสมุดท่ีต้องทาเป็นประจา ได้แก่ การจัดทาบัญชีการเงิน การจัดซื้อและทาบัญชีพัสดุครุภัณฑ์ของห้องสมุดตามท่ีได้รับอนุญาต จัดทาบันทึก จดหมายติดต่อต่างๆ งานธุรการที่จาเป็นสาหรับการดาเนนิ งานหอ้ งสมุด มีดงั น้ีงานสารบรรณ งานสารบรรณ เป็นงานท่ีเก่ียวข้องกับการบริหารงานหนังสือหรือเอกสาร เร่ิมต้ังแต่การร่าง การพิมพ์การทาสาเนา ย่อเร่ือง เก็บข้าที่ค้นหา การยมื และกาทาลาย ซ่งึ เป็นส่วนหนึง่ ของงานธรุ การ ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยเร่ืองสารบรรณ พ.ศ. 2526เป็นระเบียบท่ีเก่ียวข้องกับการจัดพิมพ์รูปแบบหนังสือราชการประเภทต่างๆ การเก็บรักษา การยืม ตลอดจนการทาลายหนังสือราชการเพ่ือให้

งานหนังสอื ราชการอย่ใู นมาตรฐานเดยี วกัน บรรณารักษจ์ ะตอ้ งมีความรู้เก่ียวกับงานสารบรรณต่อไปน้ี(ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. 2526 2535:1-11) หนังสือราชการ คือ เอกสารท่ีเปน็ หลกั ฐานในราชการ ได้แก่ 1. หนังสอื ที่ไปมาระหว่างส่วนราชการ 2. หนังสือที่ส่วนราชการมีไปถึงหน่วยงานอื่นซึ่งมิใช่ส่วนราชกร หรอื ท่มี ีไปถึงบคุ คลภายนอก 3. ห นั ง สื อ ท่ี ห น่ ว ย ง า น อ่ื น ใ ด ซึ่ ง มิ ใ ช่ ส่ ว น ร า ช ก า ร ห รื อ บคุ คลภายนอกมีมาถงึ ส่วนราชการ 4. เอกสารที่ทางราชการจดั ทาข้นึ เพอื่ เป็นหลักฐานในราชการ 5. เอกสารที่ทางราชการจัดทาข้ึนตามกฎหมาย ระเบียบ หรือ ขอ้ บังคับ ชนิดของหนังสอื ราชการหนงั สอื ราชการมี 6 ชนดิ ดังน้ี1.หนังสือภายนอก คือ หนังสือติดต่อราชการท่ีเป็นพิธี โดยใช้กระดาษตราครฑุ เป็นหนังสือติดต่อระหว่างส่วนราชการ หรือส่วนราชการมีถึงหน่วยงานอ่ืนใด ซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือท่ีมีถึงบุคคลภายนอก ให้จัดทาตามแบบท่ี 1. ท้ายระเบียบ ให้รายละเอียดสาคัญ คือ เลขทะเบียนหนังสือเช่น ทม.1040/ ส่วนราชการเจ้าของหนังสือ วัน เดือน ปี เรื่อง คาขึ้นต้น อ้างถึง (ถ้ามี)ส่ิงท่ีส่งมาด้วย(ถ้ามี) ข้อความ คาลงท้าย ลงช่ือและตาแหน่งเจ้าของหนังสือ ส่วนราชการเจ้าของเร่ือง โทรศัพท์สาเนาส่ง (ถ้ามี)2. หนังสือภายใน คอื หนงั สือติดต่อราชการที่เป็นแบบพิธีน้อยกว่าหนังสือภายนอก เป็นหนังสือติดต่อภายในกระทรวง ทบวง กรม

หรือจังหวัดเดียวกัน ใช้กระดาษบันทึกข้อความ และให้จัดทาตาแบบที่ 2ทา้ ยระเบยี บ ใหร้ ายละเอยี ดทส่ี าคัญ คือ ส่วนราชการ เลขทะเบียนหนังสือ ซึ่งเป็นการลงรหัสพยัญชนะและเลขประจาของเจา้ ของเร่ือง วนั ที่ เรื่อง คาขึน้ ตน้ ขอ้ ความ ลงซ่ือและตาแหน่ง3. หนังสือประทับตรา คือ หนังสือท่ีใช้ประทับตราแทนการลงชื่อของหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป โดยให้หัวหน้าส่วนราชการระดับกอง หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไป เป็นผู้รับผิดชอบลงชื่อย่อกากับตราหนังสือประทับตราให้ใช้ท้ังระหว่างส่วนราชการกับส่วนราชการและระหว่างส่วนราชการกับบุคคลภายนอก เฉพาะกรณีท่ีไม่ใช่เร่อื งสาคัญ ไดแ้ ก่ การขอรายละเอียดเพ่ิมเติม การส่งสานาหนังสือสิ่งของ เอกสาร หรือบรรณสาร การตอบรับทราบท่ีไม่เกี่ยวกับราชการสาคัญหรือการเงิน การแจ้งผลงานท่ีได้ดาเนินการไปแล้วให้ส่วนราชการท่ีเก่ียวข้องทราบ การเตือนเร่ืองท่ีค้าง เรื่องซึ่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมขึ้นไปกาหนดโดยทาเป็นคาส่ังให้ใช้หหนังสือประทับตรา ใช้กระดาษตราครุฑ ท้ายประกาศโดยให้รายละเอียดคือ เลขทะเบียนให้ลงรหัสและเลขประจาของเจ้าของเรื่องถึง (ให้ลงส่วนราชการ หน่วยงาน หรือบุคคลท่ีหนังสือนั้นมีไปถึง) ข้อความ ชอื่ สวนราชการ วัน เดือน ปี ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง โทรศพั ทห์ รือท่ีตง้ั4. หนงั สอื สัง่ การ ให้ใช้ตามแบบที่กาหนดไว้ในระเบียบ เว้นแต่จะมีกฎหมาย กาหนดไว้เฉพาะ หนงั สอื สง่ั การมี 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ 4.1 คาส่ัง คือ บรรดาข้อความท่ีผู้บังคับบัญชาส่ังการให้ปฏิบัติโดยชอบด้วยกฎหมาย ใช้กระดาษตราครุฑ ท้ายระเบียบโดยให้รายละเอียด คือ คาสั่ง ท่ี (ให้ลงเลขท่ีท่ีออกค้าส่ัง) เร่ืองขอ้ ความ สง่ั ณ วนั ที่ ลงชอื่ ตาแหนง่

4.2 ระเบียบ คือ บรรดาข้อความท่ีผู้มีอานาจหน้าท่ีได้วางไว้โดยอาศัยอานาจของกฎหมายหรือไม่ก็ได้ เพ่ือถือเป็นหลักปฏบิ ตั งิ านเปน็ การประจาใชก้ ระดาษตราครุฑ 4.3 ข้อบังคับ คือบรรดาข้อความที่ผู้มีอานาจหน้าท่ีกาหนดให้ใช้ โดยอาศัยอานาจของกฎหมายท่ีบัญญัติให้กระทาได้ ใชก้ ระดาบตราครุฑ5. หนังสอื ประชาสมั พันธม์ ี 3 ชนดิ ไดแ้ ก่ 5.1 ประกาศ คือบรรดาข้อความที่ทางราชการประกาศหรือช้แี จงให้ทราบ หรอื แนะแนวทางปฏิบตั ิ ใช้กระดาษตราครฑุ 5.2 แถลงการณ์ คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการแถลงเพ่ือทาความเข้าใจในกิจการของทางราชการ หรือเหตุการณ์ หรือกรณีใดๆ ให้ทราบชัดเจนโดยทั่วกัน ใชก้ ระดาษตราครุฑ 5.3 ข่าว คือ บรรดาข้อความที่ทางราชการเห็นสมควรเผยแพรใ่ ห้ทราบ6. หนังสือท่ีเจ้าหน้าท่ีทาข้ึนหรือรับไว้เป็นหลักฐานในราชการคอื หนงั สือทที่ างราชการทาขึ้นนอกจากทกี่ ล่าวมาแล้วข้างต้นหรือหนังสือทีห่ นว่ ยงานอื่นใด ซึ่งมิใช่ส่วนราชการหรือบุคคลภายนอกมีมาถึงส่วนราชการและส่วนราชการรับไว้เป็นหลักฐานของทางราชการมี 4 ชนิด ได้แก่ 6.1 หนังสือรับรอง คือหนังสือท่ีส่วนราชการออกให้เพ่ือรับรองแก่บุคคล นิติบุคคล หรือหน่วยงาน เพื่อวัตถุประสงค์อย่างหน่ึงอย่างใด ให้ปรากฏแก่บุคคลโดยทั่วไปโดยไม่จาเพาะเจาะจงใช้กระดาษตราครุฑ

6.2 รายงานการประชุม คือ การบันทึกความคิดเห็นของผู้มาประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมและมติของทปี่ ระชุมไว้เป็นหลักฐาน 6.3 บันทึก คือ ข้อความซึ่งผู้ใต้บังคับบัญชาเสนอต่อผู้บังคับบัญชา หรือผู้บังคับบัญชาสั่งการแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา หรือข้อความที่เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานระดับต่ากว่าส่วนราชการระดับกรมติดต่อกันในการปฏิบัติราชการ โดยปกติให้ใช้กระดาษบันทึกขอ้ ความ7. หนังสืออื่น คือ หนังสือ หรือเอกสารอื่นใดท่ีเกิดขึ้นเน่ืองจากการปฏิบัติงาน ของเจ้าหน้าท่ีเพ่ือเป็นหลักฐานในราชการ ซึ่งรวมถึง ภาพถ่าย ฟิล์ม แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพด้วย หรือหนังสือของบุคคลภายนอกท่ีย่ืนต่อเจ้าหน้าท่ีและเจ้าหน้าท่ีได้รั บหนังสือของทางราชการแล้วมีรูปแบบตามที่กระทรวงทบวงกรมจะกาหนดข้ึนใช้ตามความเหมาะสม เว้นแต่มีแบบตามกฎหมายเฉพาะเร่ืองให้ทาตามแบบ เช่น โฉนด แผนท่ี แบบแผนผัง สัญญาหลกั ฐานการสบื สวนและสอบสวน และคารอ้ ง เปน็ ต้น





การประชาสมั พนั ธ์1.การประชาสัมพันธ์ห้องสมุดประชาชน หมายถึง การติดต่อส่ือสรระหว่า ห้องสมุดประชาชนกับผู้ใช้บริการเพ่ือแจ้งข่าวสารสร้างความเขา้ ใจและสรา้ งภาพลักษณ์ท่ีดีของห้องสมดุ ประชาชน2.วัตถุประสงค์ในการประชาสัมพันธ์มี 4 ประการ คือ เพื่อสร้างความนิยมให้ เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนการรักษาชื่อเสียงของสถาบันไม่ให้เสื่อมเสียซ่ือเสียงและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีการแก้ไขภาพลักษณ์ท่ีไม่ดีขององคก์ รและเพอื่ สรา้ งความเขา้ ใจอนั ดีภายในองคก์ ร3.ภาพลักษณ์ หมายถึง ส่ิงที่เกิดขึ้นในใจของคนเราท่ีมีต่อส่ิงต่างๆเช่นภาพลักษณต์ ่อหอ้ งสมดุ ภาพลักษณ์ต่อบรรณารกั ษ์4. การประชาสัมพันธ์โดยตรง หมายถึง การประชาสัมพันธ์โดยไม่ต้องผ่านสื่อข้ึนอยู่กับการจัดสภาพห้องสมุดหรือการสร้างบรรยากาศของสมุดให้น่าเข้าใชบ้ รกิ ารและจากการท่ีบรรณารกั ษ์หรอื บุคลากรห้องสมุดอนื่ ๆใหร้ กิ ารแกผ่ ใู้ ชด้ ้วยความประทับใจ5. สื่อการประชาสัมพันธ์ห้องสมุดประชาชนมีหลายอยางห้องสมุดต้องเลือกให้เหมาะสมกับเร่ืองราวที่ด้องการประชาสัมพันธ์ เช่น ใช้ป้ายนิเทศส่อื คาพูดสอ่ื มวลชน หรอื การผลติ สอ่ื สงิ่ พมิ พ์เปน็ ต้นความหมายของการประชาสมั พนั ธ์ การประชาสัมพันธ์มาจากคาภาษาอังกฤษ\"public relations\"พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานฉบับ 2525 ได้ให้ควนหายของการปร ะช าสั ม พัน ธ์ห มา ย ถึง กา รติ ด ต่อ สื่อ สา ร เพ่ื อส่ งเ ส ริม คว าม เ ข้า ใจ อั นถกู ต้องต่อกนั ในงานประชาสัมพนั ธ์ได้ให้ความหมายไวด้ ังน้ี

การประชาสัมพันธ์ คือ วิธีการของสถาบันอันมีแผนการและการกระทาสิงที่ดีท่ีมีคุณค่ากับสังคมอย่างต่อเนื่องในอันท่ีจะสร้างหรือทาให้เกิดความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มประชาชนเพ่ือสถาบันกับกลุ่มประชาชนที่เ ก่ี ย ว ข้ อ ง มี ค ว า ม รู้ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ม อ ง ภ า พ พ จ น์ ห รื อ มี ทั ศ น ค ติ ที่ ดี ต่ อหน่วยงานองค์การบริษัทห้างร้านหรือสมาคมเพื่อหน่วยงานได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือที่ดีจากสาธารณชนท่ีเก่ียวข้องอย่างต่อเนืองอนั จะเป็นประโยชน์ใหส้ ถาบันนน้ั ดาเนินงานได้ผลดีการประชาสัมพนั ธ์ห้องสมดุ ประชาชน การประชาสัมพันธ์ห้องสมุดประชาชน หมายถึง การติดต่อสื่อสารระหว่างห้องสมุดประชาชนกับผู้ใช้บริการเพื่อแจ้งข่าสรสร้างความเข้าใจและสร้างภาพลักษณ์ท่ีดีของห้องสมุดประชาชนเพ่ือความสัมพันธ์ท่ีดีต่อกันซึ่งจะส่งผลต่อการดาเนินงานห้องสมุดประชาชนให้ระสบผลสาเร็จมากย่ิงข้ึนห้องสมุดประชาชนเป็นหน่วยงานหน่ึงของสังคมจึงจาเป็นท่ีจะต้องสร้างความเข้าใจอันดีกับประชาชนเพ่ือความก้าวหน้าของหน่วยงานบรรณารักษ์ผู้ปฏิบัติงานในห้องสมุดประชาชนจะต้องมีค ว า ม รู้ แ ล ะ ค ว า ม เ ข้ า ใ จ ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ เ พ ร า ะ จ ะ ต้ อ ง ติ ด ต่ อ กั บประชาชนอยู่ตลอดเวลาควรที่จะให้ระชาชนเกิดความนิยมในห้องสมุดเ พ ร า ะ ปั จ จุ บั น ป ร ะ ช า ช น ส่ ว น ใ ห ญ่ ข อ ง ป ร ะ ท ศ ยั ง ไ ม่ มี ค ว า ม เ ข้ า ใ จหอ้ งสมุดประชาชนเทา่ ที่ควร วัตถปุ ระสงคข์ องกาประชาสมั พันธ์ การประชาสัมพันธ์ช่วยให้การบริหารและการจัดองค์กรดาเนินไปด้วยดีเพ่ือให้ประชาชนเกิดความพึงพอใจในการดาเนินง านรักษาชื่อเสียงและแก้ไขควบเข้าใจผิดของประชาชนท่ีมีต่อองค์กรเพ่ือให้เกิดความเลื่อมใสในองค์กรซ่ึ งวัตถุประสงค์ของการปร ะชาสัมพันธ์โดยทว่ั ไปมดี งั 1. เพื่อสร้างความนิยมให้เกิดข้ึนในหมู่ประชาช น เน่ืองจากป ร ะ ช า ช น จ ะ ช่ ว ย ส่ ง เ ส ริ ม แ ล ะ ส นั บ ส นุ น ก า ร ด า เ นิ น ง า น ข อ ง อ ง ค์ ก รเพอ่ื ใหเ้ กิดความนิยมจึงจะต้องมกี ารปลกู กระตนุ้ เพ่ือสร้างและดารงไว้ซ่ึง

ความนิยมเช่ือถือศรัทธาจากประชาชนในการดาเนินกิจการต่างๆของสถาบันเพราะถ้าหน่วยงานขาดความศรัทธาจากประชาชนก็จะดาเนินไปด้วยความลาบากโดยเฉพาะห้องสมุดประชาชนท่ีมีจุดประสงค์ไประโยชน์แกป่ ระชาชนโดยไมห่ วังผลกาไร 2. การรักษาชื่อเสียงของสถาบันไม่ให้เส่ือมเสียชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ที่ดีเป็นสิ่งสาคัญน้ีองจากการสร้างช่ือเสียงต้องใช้เวลานานกว่าจะเป็นที่รู้จักของประชาชนห้องสมุดปะชาชนก็เช่นเดียวกันกว่าท่ีจะสรา้ งความเข้าใจอันดีสามารถดึงประชาชนเข้ามาร่วมเป็นสังคมเดียวกันให้การสนับสนุนการดาเนินงานจนกระทังได้รับความไว้วางใจต้องใช้เวลานานดงั น้นั ห้องสมุดประชาชนจะต้องรกั ษาภาพลักษณ์ดงั กลา่ วไว้ 3. การแก้ไขภาพลักษณ์ท่ีไม่ดีขององค์กร ห้องสมุดประชาชนเป็นห น่ ว ย ง า น ท่ี ไ ม่ ไ ด้ ห วั ง ผ ล ก า ไ ร ถึ ง แ ม้ จ ะ ไ ม่ มี คู่ แ ข่ ง ท า ง ธุ ร กิ จ แ ต่ ใ นบางครั้งอาจจะเกิดมีเรืองทีประชาชนไปข้าใจหรือมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อองค์กรจะต้องมีการชีแจงและแก้ไขสิ่งดังกล่าวให้หมดไปอย่างรวดเร็วก่อนทีจ่ ะขยายวงกวา้ งออกไปยงั ผใู้ ชค้ นอนื่ ๆ 4. เพ่ือสร้างความเข้าใจอันดีกายในองค์กรห้องสมุดประชาชนแต่ละแห่ง เปน็ องค์กรที่มีระบบการบริหารงานข้ึนตรงต่อหน่วยงานระดับสูงอี ก ที ห นึ่ ง ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ เ พื่ อ แ จ้ ง ใ ห้ ห น่ ว ย ง า น ต้ น สั ง กั ด ไ ด้ ท ร า บความเคลื่อนไหวในการดาเนินงานเพื่อให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆรวมทั้งการสร้างความเข้าใจอันดีระหวงบุคลากรภายในห้อง สมุดเพื่อปฏิบตั ิงานได้ถูกตอ้ งตามโยบายของห้องสมุด การสรา้ งภาพลักษณ์ ภาพลักษณ์ (image) หรือจินตภาพหรือภาพพจน์หมายถึงสิ่งท่ีเกิดข้ึนในใจของคนเราอาจจะเป็นที่มีต่อสิ่งมีชีวิตหรือส่ิงที่ไม่มีชีวิตก็ได้ต่อสถาบันเช่นโรงเรียนมหาวิทยาลัยห้องสมุดต่อองค์กรเช่นองค์การสหประชาชาติองค์การอนามัยโลกหรือต่อบุคคลเช่นภาพลักษณ์ของบรรณารักษ์กรประชาสัมพันธ์เก่ียวข้องกับภาพลักษณ์โดยตรงเนื่องจาก

การประชาสัมพัน ธ์เป็นการสร้าง ภาพลักษ ณ์ที่ดีของหน่วยง านน้ันใ ห้เกิ ด ข้ึ น ใ น ใ จข อ งก ล่ มเ ป้า ห มา ย นั่น เ อง ล้ าห้ อง ส มุด ป ร ะ ช าช น มีภาพลักษณ์ที่ดีย่อมได้รับความไว้วางใจซ่ึงจะส่งผลต่อการให้ความช่วยเหลือและข้าใช้บริการมากยิ่งข้ึนซึ่งการท่ีจะสร้างภาพลักษณ์ของห้องสมุดประชาชนก็คือการใ ห้ข่าวและข้อมูลที่ถูกต้องและการดาเนนิ งานดว้ ยความจรงิ ใจในการนาเสนอบริการที่ดีต่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง หลักการสร้างภาพลักษณ์ท่ีดีของห้องสดประชาชนบรรณารักษ์ผทู้ าหน้าท่ีประชาสัมพันธ์หน่วยงานในกรสร้างภาพลักษณ์จะต้องปฏิบัติดังน้ี 1.ค้นหาข้อดีของห้องสมุดประชาชนท่ีมีต่อชุมชน โดยเฉพาะห้องสมดุ ประชาชนเปน็ หน่วยงานที่ดาเนินงานโดยไม่หวังผลกาไรในจุดนี้จะตอ้ งเปน็ สิง่ ท่ีอย่ใู นใจของประชาชนและปฏิบัติให้เห็นจริงตามนนั้ 2 วางแผนและกาหนดขอบเขตของภาพลักษณ์ต้องเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของห้องสมุดประชาชนรวมท้ังความต้องการของชมุ ชนและเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ทไี่ ม่ดีของห้องสมุดประชาชน 3. การคิดคาหรือข้อความที่จะดึงดูดความสนใจขอประชาชนท่ีมีต่อห้องสมุดประชาชนซ่ึงในยุคสารสนเทศห้องสมุดประชาชนไม่ได้เป็นท่ีเก็บข้อมูลเพียงแห่งเดียวข้อมูลมีอยู่ทุกหนทุกแห่งแหล่งสารสนเทศท่ีจดั ทาขน้ึ เพ่ือหวังผลกาไรทางธุรกจิ เกิดข้ึนมากมายซึ่งเป็นทางเลือกท่ีจะทาให้ระชาชนไดไ้ ปใชบ้ ริการถงึ แม้ว่าจะเสียค่าบริการดังน้ันส่ิงท่ีจะต้องดึงมาเป็นคาที่จะใช้เพ่ือการสร้างภาพลักษณ์ของห้องสมุดประชาชนจะต้องเกี่ยวข้องกับคาว่าเหล่งสารสนเทศแบบได้เปล่าใกล้บ้านและเหล่งสารสนทศเพอ่ื การศึกษา 4. ประชาสัมพันธ์ให้สอดคล้องกับชุมชนท่ีห้องสมุดให้บริการเช่นโปสเตอรว์ ทิ ยกุ ระจายเสยี ง วทิ ยุโทรทศั น์ หนงั สอื พิมพ์ทอ้ งถ่นิ จุลสาร การประชาสัมพนั ธโ์ ดยตรง

การประพันธ์หรือการทาให้ผู้ใช้เห็นความสาคัญของห้องสมุดโดยไมต่ ้องผา่ นสอ่ื ภาพลักษณท์ ่ดี ีของห้องสมุดเกิดจากผลงานบริการหรือตัวบุคลากรของห้องสมดุ ดังน้ี 1.การจัดสภาพห้องสมุดหรือการสร้างบรรยากาศ ภาพลักษณ์ของห้องสมุดที่มองเป็นเพียงสถานท่ีจัดเก็บเฉพาะหนังสือและสิ่งพิมพ์ท่าน้ันจะต้องลาออกให้หมดล้าหากจุดนี้ไม่ได้ถึงแม้จะใช้วิธีกรประชาสัมพันธ์ท่ีดีขนาดไหนก็คงไม่อาจทาให้ผู้ใช้เกิดความเข้าใจได้เละมั่นใจว่าห้องสมุดเป็นสถานท่ีรวบรวมสารสนทศเพ่ือตอบสนองความต้องการของผู้ใช้การสร้างห้องสมุดให้มีลักษณะดังกล่าวหมายถึงการจัดสถานทีทังภายในและภายนอกห้องสมุดให้สวยงามเป็นสัดส่วนมีบรรยากาศเหมาะสาหรับน่าไปศึกษาค้นคว้า(บรรยากาศทางวิชาการ) พักผ่อนหย่อนใจมีส ถ า น ท่ี เ ฉ พ า ะ ส า ห รั บ ก า ร พ บ ป ะ พู ด คุ ย แ ล ก เ ป ล่ี ย น ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ข อ งสมาชิกในชุมนในสภาพสังคมปัจจุบันคงจะหลีกเล่ียงไม่ได้กับคาว่าพองารบริการสารสนเทศสร้างคว ามพึงพอใจให้กับผู้ใช้มากย่ิงข้ึนโดยเฉพาะห้องสมุดประชาชนที่อยู่ชนบทห่างไกลทุรกันดานและการคมนาคมไม่สะดวกเทคโนโลยีสื่อสารข้อมูลจะช่วยให้สิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารเกิดความเท่าเทียมกันกับประชาชนที่อยู่ในเขตเมืองบริการเชิงรุกจะช่วยให้การประชาสัมพันธ์ห้องสมุดได้ผลมากย่ิงขึ้นขยายบริการออกไปสู่กลุ่มผู้ที่ไม่เคยเข้าใช้บริการห้องสมุดโดยเฉพาะข้อมูลที่เป็นเร่ืองใกล้ตัวเกี่ยวข้องกับการประกอบอาชีการดูแลสุขภาพกฎหมายในชีวิตประจาวันฯลฯจะทาให้เห็นความสาคัญของห้องสดและกลายเป็นกลุม่ ผู้ใช้หอ้ งสมดุ ในโอกาสต่อไป 2.บุคลากรห้องสมุดการประชาสัมพันธ์ห้องสมุดจะดาเนินไปได้ข้ึนอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างปัจจัยที่สาคัญอย่างหนึ่งก็คือบุคลากรที่ปฏิบัติงานในห้องสมุดทุกคนจะต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ห้องสมุดเ รี ย น รู้ วิ ธี ก า ร ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์ เ พ ร า ะ ทุ ก ค น ส า ม า ร ถ ช่ ว ย กั นประชาสัมพันธ์ห้องสมุดโดยการมีมนุษยสัมพันธ์ เต็มใจให้บริการมีบุคลิกภาพท่ีดีแต่งกายถูกกาลเทศะโดยเฉพาะบรรณารักษ์ที่ทาหน้าที่

ให้บริการสารนิเทศทีติดต่อกับผู้ใช้บริการโดยตรงด้องมีคุณสมบัติการให้ริการดังน้ี 2.1 มคี วนรเู้ กีย่ วกบั วิธีกรติดต่อสื่อสารกบั ผู้ใช้บริการ 2.2 มีมนุษยสัมพันธ์ท่ีดีกับบุคคลท่ัวไป มีความจริงใจเอาใจใส่ต่อ หน้าท่มี อี ธั ยาศยั ดรี ักการให้บรกิ าร 2.3 มีความละเอียดความจาดีอดทนตรงต่อเวลามีระเบียบวินัยในการทางนและมคี วามคดิ สร้างสรรค์ในการทางาน 2.4 มคี วามรู้ด้านวชิ าชีพและวิชาการอื่นๆเป็นอย่างดีเพราะสามรถใหบ้ รกิ าร แกผ่ ู้ใชไ้ ด้อยา่ งประทับใจ สื่อการประชาสัมพันธ์ห้องสมดุ ประชาชน การประชาสัมพันธ์เป็นกระบวนการทีเก่ียวข้องกับการส่ือสารซึ่งจะต้องอาศัยช่องทางหรือส่ือเพ่ือการสื่อสารระหว่างห้องสมุดประชาชนและกลุ่มเป้าหมายไม่แตกต่างจากส่ือท่ีใช้สาหรับการประชาสัมพันธ์องคก์ รอน่ื ๆแตจ่ ะต้องเลอื กให้ เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ จุ ด มุ่ ง ห ม า ย ใ น ก า ร ป ร ะ ช า สั ม พั น ธ์โดยท่ัวไปส่ือท่ีใช้สาหรับการประชาสัมพันธ์มีดังน้ีป้ายนิเทศป้ายนิเทศเป็นทักวัสดุทีห้องสมุดประชาชนได้นามาใช้ในการนาเสนอเรืองราวต่างๆเผยแพร่ให้ประชาชนได้รับข่าวสารควนรู้โดยใช้เทคนิคและวัสดุหลายประเภทติดไว้บนแผ่นป้ายเช่นรูปภาพ แผนภูมิ ข้อความ รวมท้ังวัสดุ 3 มิติท่ีมีน้าหนักเบา การจัดป้ายนิเทศมักจะนาเสนอเร่ืองใดเรื่องหน่ึงที่มีความสมบูรณ์ในตัว แต่ถ้าหากเรื่องราวยังไม่จบ ถ้าจะต่อป้ายต่อไปไม่ควรจะอยู่ห่างกันมากเกินไป ป้ายนิเทศจะติดต้ังแบบช่ัวคราวที่ทาแบบง่ายและเคล่ือนท่ีได้สะดวกใช้ไม้อัดใช้แผงกันห้องหรือวัสดุที่มีในท้องถิ่นเช่นฝ่าไม้ไผ่หรือเส่ือลาแพนส่วนป้ายนิเทศแบบถาวรติด ไว้ตามผนังตึกอาคารหรือจัดทาเป็นป้ายนิเทศสถานท่ีติดตั้งป้ายนิเทศ มีดังน้ี

1. ภายในห้องสมุดเพ่ือเผยแพร่ข่าวสารข้อมูลและประกาศต่างๆของห้องสมุดให้ผู้เข้ามาใช้ห้องสมุดได้รับและเพื่อส่ือสารกันระหว่างบคุ ลากรภายในองคก์ ร 2.การติดต้ังนอกห้องสมุด ในเขตชุมชนที่เป็นจุดศูนย์รวมของประชาชน เช่น ศาลาประชาคม ท่ีอ่านหนังสือประจาหมู่บ้าน สถานท่ีราชการทม่ี ผี ไู้ ปใชบ้ รกิ ารจานวนมาก