ทำเนี ยบภูมิปั ญญาท้องถิ่น ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ก ศ น . ตำ บ ล ล า ด ห ญ้ า ศู นย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองกาญจนบุรี สำนั กงาน กศน.จังหวัดกาญจนบุรี
ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชอื่ : รอ้ ยโทวิเชียร ศรีจนั โฉม อายุ : 55 ปี ทอ่ี ยู่ : บ้านเลขท่ี 286 หมูท่ ่ี 1 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จังหวดั กาญจนบรุ ี อาชีพ : รับราชการ (หัวหนา้ สวนเกษตรอนิ ทรีย์วถิ พี อเพียง กองพลทหารราบท่ี 9)
ภมู ิปญั ญาดา้ นการเกษตร (เศรษฐกจิ พอเพียง) ร้อยโทวิเชยี ร ศรจี นั โฉม ภูมปิ ัญญาดา้ นการเกษตร (เศรษฐกจิ พอเพยี ง) เปน็ หวั หนา้ สวนเกษตรอินทรียว์ ถิ พี อเพยี ง กองพลทหารราบท่ี 9 สวนเกษตรอนิ ทรียว์ ถิ ี พอเพยี ง ดาเนินการโดยกรมสนบั สนุนของกองพลทหารราบที่ 9 ได้ดาเนินการตามหลัก เศรษฐกจิ พอเพียงดังตอ่ ไปน้ี การกอ่ สร้างบา้ นด้วยดิน 1. การก่อสร้างบา้ นด้วยดินนี้สามารถลดตน้ ทนุ ค่าใช้จา่ ยในเรอ่ื งของการ กอ่ สรา้ งอยูท่ ่ีประมาณ 40 -50 เปอรเ์ ซ็นต์ เปน็ การรักษาสภาพสิง่ แวดล้อมโดยใชด้ นิ ที่มี อย่ตู ามธรรมชาติ 2. ลดอุณหภมู ภิ ายในบา้ น 5-6 องศา
การปลูกพชื ผกั ปลอดสารพษิ หรือ พืชอินทรีย์ ผัก ป ลอ ดสา รพิ ษน้ีทางศูนย์สามา รถ ผลิตเมล็ดพั นธุ์ ได้เองในโครงการ “ทหารพันธุ์ดี”เม่ือผลผลิตโตเก็บเกี่ยวได้แล้วทางศูนย์ก็จะนาไปจาหน่ายจ่ายแจกให้กับ ประชาชน ราษฎร และอีกส่วนหนึ่งคือ กาลังพลของกองพลทหารราบที่ 9 ก็ได้บริโภค พชื ผกั ปลอดสารเคมี
การผลติ ปุ๋ยอินทรยี ์ ป๋ยุ อนิ ทรีย์นพี้ ่ีนอ้ งประชาชน ราษฎร บคุ คลทว่ั ไปกส็ ามารถผลิตข้ึนมาใช้ เองได้ โดยใช้มูลสัตว์ เศษใบไม้ เศษวัฏพืช และนา้ หมักชวี ภาพ เป็นสว่ นประกอบ ซึ่งมี ตน้ ทุนในการผลิตค่อนข้างตา่ และสามารถใช้ไดต้ อ่ เนื่องและยาวนาน การขยายพันธ์ุพืช ทางศูนย์สามารถผลิตพนั ธพุ์ ชื เพอ่ื มาปลกู เอง และสามารถตอ่ ยอดการปลกู ได้โดยจะไมใ่ ช้การตดั ต่อพนั ธกุ รรม ส่วนใหญจ่ ะเปน็ พืชท่ีใช้บรโิ ภคในชีวติ ประจาวัน เชน่ ผักบงุ้ คะนา้ มะเขอื เปราะ มะเขอื ยาว พริก ถวั่ ฝักยาว เปน็ ต้น
ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ช่ือ : นางสรนิ ยา นิลบตุ ร อายุ : 64 ปี ทอี่ ยู่ : หมู่ที่ 1 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบรุ ี อาชพี : ขา้ ราชการเกษียณ ( ผู้อานวยการโรงเรยี นสร้างสุขผู้สูงอายวุ ัดทุ่งลาดหญา้ )
ภูมปิ ัญญาด้านศลิ ปกรรม สาขาการแสดง การละเลน่ พืน้ บา้ น นางสรินยา นิลบุตร ภมู ปิ ญั ญาด้านศลิ ปกรรม สาขาการแสดง การละเล่น พื้นบ้าน ในการแสดงมีการถ่ายทอดสืบในรูปแบบของ ขนบธรรมเนียมประเพณี และ การประกอบอาชีพ เช่น การรากลองยาว การเต้นเพือ่ สภุ าพ การราวง ฯลฯ นางสรินยา นิลบุตร ผู้อานวยการโรงเรียนสร้างสุขผู้สูงอายุ วัดทุ่งลาดหญ้า จึงจัดให้มีกิจกรรมสาหรับผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุมาพบปะกัน และได้ทากิจกรรม ร่วมกัน อีกท้ังยังสบื สานและถ่ายทอดประเพณกี ารแสดงใหก้ บั เยาวชนคนรุ่นหลงั ตอ่ ไป ภาพการแสดง
ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชื่อ : นางธนกร เมืองเก่า อายุ : 50 ปี ท่ีอยู่ : หม่ทู ่ี 5 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี อาชพี : ผใู้ หญบ่ า้ น
ภูมิปญั ญาด้านการเกษตร (เศรษฐกิจพอเพยี ง) นางธนกร เมอื งเกา่ ภมู ิปัญญาดา้ นการเกษตร (เศรษฐกิจพอเพียง) มกี าร ทาการเกษตรโดยใช้วิธีการทาแบบกางมุ้งให้พืชผักเพื่อลดการกวนของแมลงและความ คุมอุณหภูมิให้กับพืชผัก นอกจากน้ีปุ๋ยและยาที่ใช้จะเป็นการหมักชีว ภาพโดยทา การเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ การเพาะปลูกจะปลูกพืชหลายชนิดทั้งพืชสวน พืชไร่ เลี้ยงปลา เปน็ ต้น
ประโยชนท์ ไี่ ดจ้ ากการภมู ปิ ัญญาดา้ นการเกษตร (เศรษฐกิจพอเพียง) – การบงั คับใหช้ ะอมออกยอดนอกฤดู – การปอ้ งกนั มใิ หว้ วั มากัดกนิ ยอดอ่อนของต้นไม้ – การปลกู พชื ผกั สวนครวั แบบหมุนเวียนแปลง – เทคนคิ การปลกู พชื ผักสวนครวั และการดแู ล ง
ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ช่ือ : นางพมิ พกาญจน์ สุดประพนั ธ์ อายุ : 68 ปี ท่อี ยู่ : 145 หมู่ท่ี 1 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จังหวัดกาญจนบรุ ี อาชพี : ตัดเย็บเส้ือผ้า
ภมู ปิ ญั ญาด้านศิลปกรรม สาขาการแสดง(ราเหย่ย) นางพิมพกาญจน์ สุดประพันธ์ ภูมิปัญญาด้านศิลปกรรม ในสาขา การแสดง ไดน้ าศิลปะการแสดงพน้ื บ้านที่นยิ มร้องและเลน่ มาแตโ่ บราณเดมิ มีชื่อเรียกกัน หลายอยา่ งแตกต่างกนั ออกไปตามท้องถ่ิน ท่ีเรียกว่า เหย่ย เป็นเพราะวา่ คาร้องทุกวรรค ลงท้ายด้วยเสียงเดียวกันคือ เอย หรือ เหย่ย ซ่ึงเป็นเสียงที่เพี้ยนมาจากคาว่า \"เอย” เพลงเหย่ย\" หรือ\"ราเหย่ย\" มีลักษณะการเล่น เริ่มจากการประโคมกลองอย่างกึกก้อง เพื่อให้ผู้เล่นและผู้ดูเกิดความรู้สึกสนุกสนาน วิธีการเล่นไม่จากัดจานวน ผู้เล่นย่ิงมากยิง่ สนกุ สนาน โดยแบ่งผู้เลน่ ออกเป็นฝ่ายชาย กบั หญงิ แตล่ ะฝา่ ยจะมีผูร้ อ้ งประกอบด้วยพ่อ เพลง แม่เพลง ลูกคู่ และผู้รา เม่ือเร่ิมเล่นฝ่ายชายจะเปน็ ผู้เร่ิมชวนฝ่ายหญิงให้เล่นเพลง เหย่ยกัน ฝา่ ยหญงิ รบั คาชวนก็จะมายนื ล้อมเป็นวงกบั ฝ่ายชาย แม่เพลงจะร้องโต้ตอบกับ พ่อเพลงโดยมีลูกคู่รับทั้งสองฝ่าย เน้ือร้องส่วนใหญ่จะเป็นทานองหยอกล้อ เก้ียวพาราสี เครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงราเหย่ย ประกอบด้วย กลองยาว รามะนา ฉิ่ง ฉาบใหญ่ ฉาบเลก็ กรับ และโหมง่
การแตง่ กายของผเู้ ล่นเพลงเหยย่ การแต่งกายของผเู้ ลน่ เพลงเหยย่ ชาย นงุ่ โจงกระเบนต่างสกี นั สวมเสอื้ คอ กลมแขนสัน้ มผี ้าขาวม้าคาดพงุ และสไบพาดไหลโ่ ดยให้ชายสไบทงั้ สองขา้ งอยดู่ ้านหลงั สว่ นผู้หญิง จะนุ่งโจงกระเบนผา้ พิมพ์ลายตา่ งสีสนั สวมเสอ้ื คอกลมแขนยาว ห่มสไบทับ เส้ือ สวมใส่เคร่อื งประดับ สร้อยคอ ตา่ งหู สรอ้ ยขอ้ มอื และทดั ดอกไม้สสี ด สว่ นใหญก่ าร แตง่ กายของผู้เลน่ ชายและหญิงจะใชผ้ า้ สสี ด เพือ่ ความสดใส สวยงาม
ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ช่ือ : นางสมจิตร เสือส่าน อายุ : 53 ปี ทีอ่ ยู่ : 153 หม่ทู ี่ 1 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบุรี จงั หวัดกาญจนบรุ ี อาชีพ : พนกั งานนวดแผนไทย (ประธานกลุม่ วสิ าหกิจชุมชนลกู สาวป่ชู ีวกนวดไทย)
ภมู ิปญั ญาดา้ นแพทย์แผนไทย (ลูกประคบสมุนไพรไทย) นางสมจิตร เสือส่าน ภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทย ได้มีการนาสมุนไพรมาใช้ ในการบาบัดรักษาโรคของการแพทย์แผนไทย โดยใช้ควบคู่กับการนวดไทย ลูกประคบ สมุนไพรการนาสมุนไพรหลายชนิดมาหอ่ รวมกัน ส่วนใหญ่จะเป็นสมุนไพรที่มีนามันหอม ระเหย เชน่ ไพล ขมินชนั ตะไคร้ มะกรดู การบรู ซงึ่ เมอื่ นาไปนง่ึ แลว้ กลน่ิ และนามันหอม ระเหยที่มีฤทธิ์ทางยาจะละลายออกมาพร้อมกบั ไอนาและซึมเข้าใต้ผิวหนังตามร่างกาย การทาลูกประคบสมุนไพรเป็นอาชีพหน่ึงท่ีน่าสนใจ เนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจการนวด แผนไทยได้รบั ความนยิ มเป็นอยา่ งมาก การเรยี นรู้เกีย่ วกับการทาลกู ประคบสมุนไพร จึง เปน็ อีกทางเลอื กหนึง่ ที่สามารถสรา้ งรายได้และรว่ มสบื สานอนุรกั ษภ์ มู ปิ ัญญาท้องถ่ิน
วิธที าลูกประคบ 1. นาหัวไพล ขมินชัน ตะไคร้ มะกรูด ล้างทาความสะอาด นามาหั่นหรือสับให้เป็นชิน ตามขนาดทต่ี ้องการตาพอหยาบ ๆ 2. นาใบมะขาม ใบส้มปอ่ ย ผสมกบั สมนุ ไพรในข้อ 1 เสร็จแล้วใส่เกลือ การบรู คลกุ เคล้า ใหเ้ ขา้ เป็นเนือเดยี วกนั แตอ่ ยา่ ให้แฉะเป็นนา 3. แบ่งสมุนไพรที่คลุกเคล้าใหเ้ ข้ากนั แล้วเป็นส่วนเท่า ๆ กัน โดยใช้ผ้าฝ้ายหรือผา้ ดบิ ห่อ เปน็ ลูกประคบมดั ด้วยเชอื กใหแ้ นน่ 4. นาลูกประคบทีไ่ ดไ้ ปนงึ่ ใชเ้ วลานึง่ ประมาณ 15-20 นาที ประโยชนข์ องการประคบสมนุ ไพร 1. กระตุ้นหรือเพิ่มการไหลเวยี นของโลหติ 2. ลดอาการเกรง็ ของกล้ามเนอื และบรรเทาอาการปวดเมอ่ื ย 3. ลดการตดิ ขดั ของขอ้ ตอ่ บริเวณทป่ี ระคบและทาให้เนอื เย่อื พงั ผดื ยืดตัวออก 4. ลดอาการบวมท่ีเกิดจากการอักเสบของกล้ามเนือหรือบริเวณข้อต่อต่าง ๆ หลังจาก 24-48 ชัว่ โมงไปแลว้
ข้อควรระวังในการประคบ 1. อยา่ ใช้ลูกประคบท่ีร้อนเกนิ ไป โดยเฉพาะกบั บริเวณผวิ หนงั ทีอ่ ่อน บริเวณท่มี กี ระดูก ยน่ื หรอื บรเิ วณทเี่ คยเปน็ แผลมากอ่ น ควรใชผ้ า้ ขนหนรู องหรอื ใชล้ กู ประคบอุ่นๆ 2. ตอ้ งระมัดระวงั ในกรณที เ่ี ปน็ ผปู้ ว่ ยโรคเบาหวาน อมั พาต เด็กและผสู้ งู อายุ เพราะมกั มี ความรตู้ อบสนองช้า อาจทาให้ผวิ หนังไหมพ้ องไดง้ า่ ย ควรใชล้ ูกประคบทไ่ี มร่ อ้ นจัด 3. หา้ มใชก้ ารประคบสมนุ ไพรในกรณที มี่ ีการอักเสบ (ปวด บวม แดง รอ้ น) ในชว่ ง 24 ชว่ั โมงแรก เพราะจะทาให้บวมมากขนึ และเลือดออกมากขึนได้ 4. หลังการประคบสมนุ ไพรไม่ควรอาบนาทันที เพราะจะไปชะลา้ งตวั ยาออกจากผวิ หนงั และรา่ งกายยังปรบั ตวั ไมท่ ัน
ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชอ่ื : นายแถม กลว้ ยหอม อายุ : 93 ปี ทอ่ี ยู่ : 27 หม่ทู ่ี 6 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี อาชพี : รับจา้ ง ( ตกี ลองยาว , ตีเหล็ก )
ภมู ิปญั ญาดา้ นศิลปกรรม สาขาดนตรีไทยพ้นื บ้าน (กลองยาว) นายแถม กล้วยหอม ภูมิปัญญา ด้า นศิลป ก รรม สา ข า ดนตรีไทย พื้นบ้าน (กลองยาว) ได้นากลองยาวซึ่งเป็นศิลปกรรม พื้นบ้านซง่ึ เป็นดนตรที ่อี ย่คู ู่กับทอ้ งถ่นิ มานานโดย ใช้เสียงเป็นส่ือในการถ่ายทอดออกมาเป็นลีลา ทานอง อารมณ์ของเพลง ช่วยเสริมแต่งให้เป็น กิจกรรมทางประเพณีในท้องถิ่น ซ่ึงแสดงถึงภูมิปัญญาท้องถ่ินด้านศิลปกรรมในด้าน ดนตรีไทยพื้นบ้าน และบ่งบอกถึงความมีอารยธรรมแสดงถึงเอกลักษณ์ประจาท้องถิ่น จึงมคี ณุ คา่ ควรแก่การอนุรกั ษ์และสืบทอดและพัฒนาให้คงอยู่ตอ่ ไป กลองยาวเป็นเคร่ืองดนตรีสาหรับตีด้วยมือ ตัว กลองทาด้วยไม้ มีลักษณะกลมกลวง ขึงด้วยหนัง มีหลายชนิด ถ้าทาด้วยหนังหน้าเดียว มีรูปยาว มากใช้สะพายในเวลาตี เรียกว่ากลองยาวหรือ เถิดเทิง เช่ือกันว่ากลองยาวได้แบบอย่างมาจาก พม่า ในสมัยกรุงธนบุรี หรือต้นกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยท่ีไทยกับพม่ากาลังทาสงครามกนั เวลาพักรบ ทหารพม่าก็เล่น \"กลองยาว\" กันสนุกสนาน พวกชาวไทยได้เห็นก็จา แบบอย่างมาเล่นบ้าง แต่บางท่านกเ็ ล่าวา่ กลองยาวของพม่าแบบนี้ มีชาวพม่าพวกหนึ่ง นาเข้ามาเล่นในงานที่มีกระบวนแห่ เช่น บวชนาค ทอดกฐิน เป็นต้น และนิยมเล่นกัน เปน็ ทีร่ ่ืนเริง สนกุ สนานในเทศกาลสงกรานต์ และเล่นกนั แพรห่ ลายไปแทบทุกหวั บ้านหัว เมอื ง วงหน่งึ ๆ จะใช้กลองยาวหลายลูกกไ็ ด้ เครือ่ งดนตรีทใ่ี ช้บรรเลงรว่ ม มี ฉิ่ง, ฉาบเล็ก, กรับ, โหม่ง เรียกการเลน่ ชนิดนี้วา่ \"เถิดเทิง\" หรือ \"เทิงกลองยาว\" ที่เรียกเช่นน้ีเขา้ ใจวา่ เรยี กตามเสยี งกลองท่ตี แี ละตามรูปลกั ษณะกลองยาว
การอนุรักษ์ภูมปิ ญั ญาด้านศิลปกรรม สาขาดนตรไี ทยพืน้ บา้ น (กลองยาว) 1. เปน็ ครูสอนตกี ลองยาวใหก้ ับเดก็ นักเรยี นและชาวบ้าน 2. ถา่ ยทอดความรู้ให้กับเยาวชนคนรุ่นหลงั ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากภมู ิปญั ญา – เผยแพรภ่ ูมิปัญญา รกั ษาวฒั นธรรมไทยให้ดารงอยอู่ ยา่ งย่ังยืน และให้ความ บันเทงิ กบั ประชาชน
ภมู ิปญั ญาดา้ นหตั ถกรรม (ตเี หลก็ ) นายแถม กล้วยหอม มคี วามสามารถในด้านการตีเหล็ก เริ่มต้ังแต่ การศกึ ษาธรรมชาตขิ องเหล็กแต่ละชนดิ ที่จะนามาผลิตเป็นของใชไ้ ด้ อยา่ งดีมีคณุ ภาพ เหมาะสม ซึ่งเป็นงานประณตี ใชฝ้ มี อื เฉพาะตวั โดยท่ัวไปเหล็กที่นามาใชใ้ นการผลติ เครอ่ื งมอื เคร่ืองใชโ้ ดยลุงแถมจะใช้ความรู้ความสามารถสูง ในการนาเหลก็ มาแปรรูป เริ่มจากการนาเอาเหล็ก มาเผาในเตาเผา จนเหลก็ แดงได้ที่ ใชค้ ีมคบี มาตดี ว้ ยค้อนบนท่งั ตเี หลก็ เมื่อเหล็กเย็นลงก็จะนาไปเผาซ้าอีก จนกวา่ จะตีเหลก็ ให้ไดร้ ปู รา่ งทีต่ อ้ งการ ซึ่ง ลุงแถมมคี วามสามารถและถนดั ในด้านหัตถกรรมการตีเหล็กในพืน้ ทจี่ ึงไดร้ ับการยอมรับ ในการเปน็ ภูมิปัญญาในท้องถิ่น ดา้ นหัตถกรรมการตเี หล็ก
เคร่ืองมอื ทใี่ ช้ในการตเี หลก็ 1. คีมด้ามยาว 2. คอ้ น 3. เหล็กสกดั 4. เหลก็ ทากน่ั 5. เหลก็ ตะไบ
ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชอ่ื : นางลาพู พนิ สวุ รรณ อายุ : 62 ปี ทีอ่ ยู่ : 148/7 หมู่ 2 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี อาชพี : แมบ่ า้ น
ภูมิปญั ญาดา้ นแพทย์แผนไทย นางลาพู พินสวุ รรณ ภูมปิ ญั ญาด้านแพทยแ์ ผนไทย ในด้านการรักษาโรคดว้ ย หมอเป่าซึ่งเปน็ กลุ่มหมอพ้ืนบา้ นในสังคมของคนชนบทในพนื้ ท่ี การเปา่ เป็นวธิ กี ารรกั ษา ของหมอพน้ื บา้ น เพอื่ รกั ษาอาการเจบ็ ปว่ ยโดยใช้เวทมนตรค์ าถาเป่าไปตามร่างกาย ผปู้ ว่ ย บางครงั้ อาจจะใช้สมุนไพรในการรกั ษาดว้ ย นางลาพูได้รบั การถา่ ยทอดความรู้ ด้านการรกั ษาโรคดว้ ยการเป่าจากบรรพบุรษุ ทีส่ บื ทอดกนั มา ชว่ ยรักษาอาการเจบ็ ไขไ้ ด้ ปว่ ยได้ ประโยชนท์ ่ไี ดจ้ ากภมู ปิ ญั ญา – เผยแพรภ่ มู ปิ ัญญา การรกั ษาโรคงูสวดั ,โรคเริม ซึ่งสบื ทอดการรกั ษาจากบรรพ บรุ ุษการรักษาดว้ ยสมนุ ไพร และการเปา่ ใหย้ งั่ ยืนตลอดไป
ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ช่ือ : นายสน อยไู่ ทย อายุ : 62 ปี ทีอ่ ยู่ : 115/1 หมู่ 4 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบรุ ี อาชพี : ขา้ ราชการเกษียณ
ภูมปิ ัญญาด้านการเกษตร นายสน อยู่ไทย มีความรู้ความสามารถในการทาการเกษตรที่มีการ เพาะปลูกพชื หลายชนดิ ท้ังพืชสวน พืชไร่ เลย้ี งปลา เป็นการทาการเกษตรผสมผสานไม่มี การจาเพาะเจาะจงในการแบ่งพื้นที่เพาะปลูก มีการนาพ้ืนท่ีจัดสรรปันส่วนในการทา การเกษตร การปรับปรุงบารุงดินโดยใช้มูลสัตว์ และเศษวัชพืชในพื้นท่ีในท้องถ่ิน นายสน อยไู่ ทย จงึ ได้รบั การยกย่องให้เป็นภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ ดา้ นการเกษตร
เนื้อหาสาระของความร้ทู ่ไี ดจ้ ากการเรยี นรู้ สืบทอด และอนรุ กั ษ์ – การปรับปรงุ บารุงดนิ โดยใชม้ ลู สัตว์ และเศษวชั พืช – วิธกี ารขยายพนั ธุ์ไม้ผลตา่ งๆ – การเกบ็ รกั ษาและการขยายเมล็ดพนั ธุ์ผกั – การดแู ลรักษาต้นไม้ กอ่ นออกดอกและหลงั ตดิ ผล เน้ือหาสาระของความรู้ท่ีทา่ นไดจ้ ากการคน้ คว้า ทดลองปฏบิ ตั ดิ ้วยตนเอง – การบงั คบั ใหช้ ะอมออกยอดนอกฤดู – การปอ้ งกนั มิให้ววั มากดั กินยอดอ่อนของตน้ ไม้ – การปลกู พชื ผกั สวนครวั แบบหมุนเวียนแปลง – เทคนคิ การปลูกพืชผกั สวนครวั และการดแู ล
ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชอ่ื : นางอานวย เสือสา่ น อายุ : 79 ปี ทีอ่ ยู่ : 112/1 หมู่ 4 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี อาชพี : แมบ่ า้ น
ภมู ปิ ัญญาดา้ นศลิ ปกรรม นางอานวย เสอื สา่ น ภูมิปัญญาด้านศลิ ปกรรม มีความชานาญในด้าน ศิลปกรรมท้องถ่นิ ที่เกี่ยวกบั การละเลน่ กลองยาว เพลงเหยอ่ ย/เพลงฉ่อย ซึ่งเป็น ประเพณใี นท้องถ่ินท่ไี ดท้ ากจิ กรรมร่วมกนั ในพ้นื ท่ี นางอานวย เสอื สา่ นไดร้ บั ประสบการณ์ตั้งแตเ่ ปน็ วยั รุ่น ในการร่วมรอ้ งรากลองยาว รอ้ งเพลงเหยอ่ ย เพลงฉ่อย ตามงานเทศกาลตา่ งๆในพ้นื ทที่ อ้ งถ่นิ จนถึงปัจจบุ นั
ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชื่อ : นายถนอม ไชฮะ อายุ : 73 ปี ทอี่ ยู่ : 144/1 หมู่ 7 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมอื งกาญจนบรุ ี จงั หวัดกาญจนบุรี อาชพี : รบั จา้ ง
ภมู ปิ ัญญาด้านดนตรไี ทยพืน้ บา้ น (ซออู้) นายถนอม ไชฮะ ภูมิปัญญาด้านดนตรีไทยพ้ืนบ้าน (ซออู้) ซ่ึงเป็นเครื่องดนตรี ไทยพ้ืนบ้านท่ีผลิตเองโดยใช้วัตถุดิบในชุมชนทาด้วยมือ นายถนอม ไชฮะใช้ภูมิปัญญา ทอ้ งถิ่นพัฒนาเป็นผลติ ภัณฑ์ ไดม้ าตรฐาน ตงั้ เป็นวงในการแสดงในงานพธิ ตี ่าง ๆ รับงาน ตลอดทั้งปี และมีการถ่ายทอดการแสดงใหก้ บั นกั เรียน นกั ศกึ ษาและผ้สู นใจเรยี น ประโยชน์ท่ไี ด้จากภมู ปิ ญั ญา – เผยแพรภ่ ูมปิ ัญญา รกั ษาวฒั นธรรมไทยใหด้ ารงอยูอ่ ยา่ งย่งั ยนื และให้ ความบนั เทงิ กบั ประชาชน
ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น ชือ่ : นายธีระศักดิ์ สัคคบัญชร อายุ : 76 ปี ที่อยู่ : 83 หมู่ 6 ตาบลลาดหญ้า อาเภอเมืองกาญจนบรุ ี จงั หวดั กาญจนบุรี อาชีพ : รับจา้ ง
ภมู ิปัญญาด้านแพทยแ์ ผนไทย สาขาสมุนไพรไทย นายธีระศักด์ิ สคั คบัญชร ภูมปิ ญั ญาด้านแพทยแ์ ผนไทย มีรคู้ วามสามารถใน การนาสมุนไพร ท่ีสามารถนามาใช้เป็นยารักษาโรคหรือบารุงร่างกายโดยใช้วิธีการกิน การทา อาจใช้ได้ท้ังต้นหรือแค่เฉพาะบางส่วนของผลผลิตนั้นๆเพื่อปรุงเป็นยารักษาโรค เช่น เฉพาะสว่ นราก โดยอาจจะตอ้ งผ่านกระบวนการบางอย่างก่อนนามาใช้ เช่น บด ตม้ คัน้ ตาก ฯลฯ ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากภูมปิ ัญญา – เผยแพร่ภูมปิ ญั ญา การรกั ษาโรคด้วยสมุนไพรไทยทกุ ชนดิ ให้ยง่ั ยืนตลอดไป
ภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ น ชื่อ : นางจาเนยี น โกมลวานิช อายุ : 65 ปี ท่อี ยู่ : หมทู่ ่ี4 ตาบลลาดหญา้ อาเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวดั กาญจนบุรี อาชีพ : แมบ่ า้ น
ภูมปิ ญั ญาดา้ นศลิ ปกรรม (กจิ กรรมทางกายและการออกกาลังกาย) นางจาเนียน โกมลวานิช มีการนาวิถี ชีวิตที่ส่งเสริมกิจกรรมทางกายและการออก กาลังกาย โดยใช้การเต้นมาขยับร่างกายเกิด ความเพลดิ เพลนิ สนุกสนาน ทาใหร้ ่างกายได้ เคลื่อนไหว นิยมใช้กับผู้สูงอายุทาให้เขามี กิจกรรมที่ได้ทาร่วมกันในพ้ืนที่ ซ่ึงการกาลัง กายที่นามาใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยส่วนใหญ่ จะใช้การเต้นโดยใช้ผ้าขาวม้าหรืออุปกรณ์ที่สามารถนามาประยุกต์ใช้ได้ในท้องถ่ินก็ สามารถนามาเป็นกิจกรรมในการออก กาลังกายได้ ประโยชน์ท่ีได้จากภมู ปิ ญั ญา การใช้กาลังและแรงในการบริหารร่างกายเพื่อสร้างร่างกายให้มีความแข็งแรง โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือให้ร่างกายได้มีการเผาผลาญสารอาหารให้ได้มากท่ีสุด ซ่ึงจะส่งผล ให้ระบบตา่ งๆในร่างกายทางานได้ดีข้นึ
Search
Read the Text Version
- 1 - 39
Pages: