ใบงานสรุปผลการศึกษาวรรณคดสี มัยอยธุ ยาตอนต้น รายวชิ า พฒั นาการของวรรณคดีไทย กล่มุ ที่ ๖ วรรณคดีเร่ือง โคลงนิราศหริภุญชัย รายชื่อสมาชิก ๑. ชื่อ-สกุล นายวชั รพล แซ่โคว้ รหสั ๖๓๔๑๐๑๐๐๕ บทบาทในการทางานกล่มุ สืบคน้ ขอ้ มลู จากเวบ็ วชิรญาณ ๒. ช่ือ-สกุล นางสาวปริญญา จาปี หอม รหสั ๖๓๔๑๐๑๐๑๖ บทบาทในการทางานกลมุ่ พิมพเ์ นอื้ หา ๓. ชื่อ-สกลุ นางสาวพยิ ดา โกมาลย์ รหสั ๖๓๔๑๐๑๐๑๙ บทบาทในการทางานกลมุ่ เรียบเรียงขอ้ มูล ๔. ชื่อ-สกลุ นางสาววรินทร เชือกรัมย์ รหสั ๖๓๔๑๐๑๐๒๐ บทบาทในการทางานกลุ่ม สืบคน้ ขอ้ มูล สรุปผลการศึกษา ชื่อเรื่องและผู้ ลกั ษณะคา เนื้อหา ประเภท/ ข้อมูลสาคัญ/ แต่ง ประพนั ธ์ วัตถุประสงค์การ จุดเด่น/ แต่ง ข้อสังเกต เร่ืองโคลง - ลกั ษณะคา -เน้ือหาภายใน - วตั ถปุ ระสงคค์ ือ - โคลงนิราศหริ นิราศหริภุญ ประพนั ธ์ โคลงนิราศหริภญุ เพอื่ บรรยายเป็น ภุญชยั นบั เป็น ชยั /ไม่ปรากฏ เป็นโคลงส่ี ชยั เล่าถึงผแู้ ต่งท่ี กาพยก์ ลอนอนั โคลงนิราศเรื่อง นามผแู้ ตง่ แต่ หอ้ งซ่ึงเป็น เดินทางดว้ ยกอง ไพเราะในช่วงท่ี แรกในวรรณคดี สมเดจ็ ฯ กรม โคลงส่ีสุภาพ เวียนจากเชียงใหม่ ตอ้ งเดินทางจาก ไทย พระยาดารงรา ลา้ นนา ไปนมสั การพระ นางอนั เป็นที่รัก - ตน้ ฉบบั โคลง ชานุภาพ ทรง เรียกวา่ \"กรร ธาตหุ ริภุญชยั ที่นคร ดงั เน้ือหาในโคลง นิราศหริภุญชยั สนั นิษฐานไว้ โลง\" ลาพนู ในเทศกาล นิราศหริภุญชยั กวา่ ๕ สานวน วา่ แตง่ ข้ึน ไหวพ้ ระธาตุ ท่ีวา่ \"จากสลาย เม่ือศึกษาคดั ลอก ประมาณสาม กาพยก์ ลอนเขบจ็ ต่อ ๆ กนั มาพบวา่
ร้อยปี เศษแลว้ - ๑ บทมี ๔ - กล่าวถึงนางอนั สาโรธ รักเอ่ ปาง มีคาและขอ้ ความ คือแตง่ ในปี บาท เเต่ละ เป็นท่ีรัก คือการ พีร่ ามรสร้าง จาก ที่ผดิ พลาด พ.ศ. ๒๑๘๐ บาทมี ๒ พรรณนาการ เจา้ เจียน สงาย\" คลาดเคลื่อนไป วรรค วรรค เดินทางจาก - เพ่อื ใหโ้ ลก จากตน้ ฉบบั เดิม หนา้ มี ๕ คา เชียงใหมไ่ ปลาพนู ไดร้ ับรู้ความใน มาก จึงยากที่จะ วรรคหลงั มี ผา่ นสถานท่ีสาคญั ใจของกวี ดงั กล่าววา่ ฉบบั ใด ๒ คา ยกเวน้ ต่าง ๆ ของเมือง เน้ือหาในโคลง ถูกตอ้ งท่ีสุด บาทท่ี ๔ เชียงใหมแ่ ลว้ พกั นิราศหริภญุ ชยั - การศึกษา วรรคหลงั จะ นอน ๑ คืนรุ่งเชา้ ท่ีวา่ “เป็นกรร วรรณกรรมเร่ือง มี ๔ คา (มกั ออกเดินทางต่อถึง โลงห้ือให้ โลก น้ี ควรแบ่ง ใชค้ าตายอยู่ ลาพนู ไปไหวพ้ ระ เเจง้ ใจคะนิง\" ออกเป็น ๒ ฉบบั บอ่ ยคร้ัง ) ธาตตุ กกลางคืน - มีวตั ถปุ ระสงค์ ฉบบั ท่ีแตง่ และ - การส่ง เที่ยวชมดูฟ้อนรา คือ แต่งข้ึนเพ่อื ให้ ฉบบั คดั ลอก ดว้ ย สัมผสั คา ดนตรีและ เป็ นตานาน อกั ษรธรรม สุดทา้ ย ใน การละเล่นต่าง ๆ บนั ทึกการ ลา้ นนาและ บาทที่ ๑ ส่ง จากน้นั ไปไหวพ้ ระ เดินทางมา อกั ษรไทยนิเทศ สัมผสั ไปยงั ยนื แลว้ กลบั มาวดั นมสั การพระธาตุ ภาษาไทยยวน คาสุดทา้ ย พระธาตหุ ลวงได้ หริภุญชยั จงั หวดั หรือภาษาถ่ิน วรรคหนา้ พบพระราชโอรสที่ ลาพนู เหนือเรียกวา่ ของบาทท่ี ๒ ทรงเสด็จมาบูชา “โคลงหริภญุ ชยั \" เเละบาทที่ ๓ พระธาตุแลว้ คา้ งพกั เเละ ฉบบั กลาง รวมท้งั คา อยู่ ๑ คืนแลว้ จึง เรียกวา่ \"โคลง สุดทา้ ยใน เดินทางกลบั นิราศหริภญุ ชยั \" บาทที่ ๒ ส่ง เชียงใหม่ - โคลงนิราศหริ สมั ผสั ไปยงั ภุญชยั อาจแต่ง คาสุดทา้ ย - ในเน้ือเร่ืองได้ ข้ึนในปี เมิงเป้า วรรคหนา้ พรรณนาถึง จุลศกั ราช 879 ของบาทท่ี ๔ พระพุทธรูป ๔ องค์ (พ.ศ.2060) ท่ีประดิษฐานใน
พระพทุ ธะมหา วิหารเเละวดั พระ ยนื ต้งั อยบู่ นฝ่ัง แมน่ ้าไปดา้ นทิศ ตะวนั ออกของพระ ธาตุหริภญุ ชยั - กลา่ วถึงพระแกว้ มรกตเเลว้ กล่าวถึง พระพุทธสิหิงคท์ ี่ ประดิษฐานที่เมือง เชียงใหม่ สิ่งที่เหน็ ได้ว่าได้รับอทิ ธิพลมาจากวรรณคดีในสมัยสุโขทยั ได้แก่ ๑) ไดร้ ับอิทธิพลมาจากวรรณคดีสมยั สุโขทยั เรื่อง “ศิลาจารึกพ่อขนุ รามคาแหงฯ” คือ มีการ ใชค้ าโบราณท่ีเป็นภาษาถ่ินปรากฎอยใู่ นศิลาจารึก คือคาวา่ “เสิก” เเปลวา่ “ศึก” ดงั ตวั อยา่ งโคลงนิราศหริภุญชยั ชยั ที่วา่ “ ลุเถิงเชียงใหมห่ มา้ ทวารทอง เอียงอาศประการสอง เข่ือนข้งั เหราเฟื อดฟัดฟอง คือคร่าย งามเอ่ หอเลิศเลอตา้ ยต้งั ข่ามขา้ เสิกแสลง ”
๒) ไดร้ ับอิทธิพลมาจากวรรณคดีสมยั สุโขทยั เร่ือง “ไตรภมู ิพระร่วง” คือ การนาเอาความ เชื่อทางพระพุทธศาสนาเเละความเชื่อเร่ืองสวรรคเ์ ขา้ มา ดงั ตวั อยา่ งในเน้ือหาโคลงนิราศ หริภญุ ชยั ที่วา่ “อารักษอ์ าราธนเ์ ร้ือง มงั ราย ราชแฮ เชิญส่งศรีทิพนาย หนี่งร้า เทียนทุงพจี่ กั ถวาย เป็นส่วน บญุ แฮ จูงจ่องเม้ือเมืองฟ้า เสพสร้างสุราลยั ” เเปลความจากบทประพนั ธ์ขา้ งตน้ คือ เป็นการขออาราธนาพระเจา้ มงั รายซ่ึงเป็น เทพารักษใ์ หช้ ่วยส่งนางศรีทิพมาใหค้ นหน่ึง พี่จะถวายเทียนและธงทาบุญ และจูงกนั ไปสู่เมือง ฟ้าเสวยสุขในสวรรค์ ประดิษฐการที่ไม่เคยพบมาก่อน ได้แก่ ๑) มีการใชส้ านวนภาษาในการพรรณนาถึงนางอนั เป็นท่ีรัก ผา่ นรูปแบบการแต่งโดยใช้ โคลงสี่สุภาพลา้ นนา ซ่ึงเป็นประดิษฐการท่ีไม่เคยพบมาก่อน ตวั อยา่ งการพรรณนา คือ กวนี ึกถึงนางอนั เป็ นที่รัก ถึงแมจ้ ะไม่ไดพ้ บหนา้ กนั กเ็ สมือนวา่ ไดเ้ ห็นหนา้ ของนางอนั เป็นท่ีรัก ดงั โคลงท่ีวา่ “มณแี ก้วกล้าเกดิ กลางตา กด็ ี ยงั มิยลเห็นนา นาฎนอ้ ง อนั อวรชื่อทุรา ยนิ โยชน์สันนิ ยนิ ยงิ่ ยงั ซองหอ้ ง ห่อไวว้ กั ษณ์เรียมมณี” ๒) เรื่องของตวั อกั ษรในวรรณคดีสุโขทยั คือศิลาจารึกของพอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ไม่ มีตวั อกั ษรตวั อกั ษร \"ฬ\" แตใ่ นโคลงนิราศหริภญุ ชยั ในสมยั อยธุ ยาตอนตน้ พบ \"ฬ\" ในโคลงบท ประพนั ธ์ เช่น \"ชินรูปองคอ์ ฬุ าร\" ๓) พบสัญลกั ษณ์ใหม่ เช่น ฟองมนั ท่ีมีจุดอยใู่ นวงกลม ไปยาลนอ้ ย ( ฯ )
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: