DEMAND & SUPPLY Economics เ ศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ อุ ป ส ง ค์ อุ ป ท า น CLASS ROOM BENJALAK KONGLERS
อปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน (Demand and Supply) อปุ สงค์ (Demand) อุปสงค์สําหรบั สนิ ค้าหรอื บรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึง หมายถึง “ปรมิ าณสนิ ค้าหรอื บรกิ าร ชนิดใดชนิดหน่ึงทผ่ี บู้ รโิ ภคต้องการซอ้ื ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ของสนิ คา้ หรอื บรกิ ารชนิดนนั้ ๆ ในระยะเวลาท่กี ําหนด” โดยความต้องการซ้ือจะต้องเป็นความต้องการซ้อื ท่ีมอี ํานาจซ้ือ คอื ผบู้ รโิ ภคจะตอ้ งมคี วามเตม็ ใจทจ่ี ะซอ้ื และมเี งนิ เพยี งพอทจ่ี ะจา่ ยซอ้ื สนิ คา้ หรอื บรกิ ารนนั้ อปุ สงค์ สามารถแบง่ ได้เป็น 3 ชนิด คือ 1. อปุ สงคต์ ่อราคา (Price Demand) หมายถงึ ปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึงท่ี ผบู้ รโิ ภคตอ้ งการซอ้ื ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ของสนิ คา้ และบรกิ ารชนิดนัน้ ภายในระยะเวลา ใดเวลาหน่ึง 2. อปุ สงคต์ ่อรายได้ (Income Demand) หมายถงึ ปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึง ทผ่ี บู้ รโิ ภคตอ้ งการซอ้ื ณ ระดบั รายไดต้ ่างๆ กนั ของผบู้ รโิ ภคภายในระยะเวลาใดเวลาหน่ึง 3. อุปสงค์ต่อราคาสินค้าอืน่ ทีเ่ กีย่ วข้องกบั สินค้าทีก่ ําลงั พิจารณาหรืออุปสงค์ไขว้ (Cross Demand) หมายถงึ ปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึงทผ่ี บู้ รโิ ภคตอ้ งการ ซ้อื ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ของสนิ ค้าและบรกิ ารชนิดอนื่ ทเี่ กยี่ วขอ้ งภายในระยะเวลาใด เวลาหน่ึง Law of Demand “ปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึงทผ่ี บู้ รโิ ภคตอ้ งการซอ้ื จะมคี วามสมั พนั ธใ์ น เชิงผกผนั กบั ราคาของสนิ คา้ และบรกิ ารชนิดนนั้ เสมอ เมอ่ื กาํ หนดใหส้ งิ่ อ่นื ๆ คงท”่ี ซง่ึ สาเหตุทป่ี รมิ าณซอ้ื แปรผกผนั กบั ราคานนั้ ประกอบดว้ ย 2 สาเหตุ คอื ผลทางด้าน รายได้ (Income effect) คอื การเปลย่ี นแปลงของรายไดท้ แ่ี ทจ้ รงิ (Real Income) และ ผลทางการทดแทน (Substitution effect)
Economics for everyday life 9 ตารางอปุ สงค์ และเส้นอปุ สงค์ ตารางอปุ สงค์ คอื บญั ชหี รอื ตารางปรมิ าณสนิ คา้ ในระดบั ต่างๆ ทผ่ี บู้ รโิ ภคตอ้ งการและ สามารถซอ้ื ได้ ณ ระดบั ราคาต่างๆ ในชว่ งเวลาหน่ึง โดยปจั จยั อ่นื ๆ คงท่ี ตวั อยา่ ง อุปสงคข์ องผบู้ รโิ ภคทม่ี ตี ่อนมใน 1 สปั ดาห์ ราคา (P) ปรมิ าณ (Q) (บาท/ลติ ร) (ลติ ร/สปั ดาห)์ 25 8 20 10 15 12 10 16 5 20 อปุ สงคส์ ่วนบคุ คลและอปุ สงคต์ ลาด (Individual Demand and Market Demand) อปุ สงคส์ ่วนบคุ คล (Individual Demand) คอื ปรมิ าณซอ้ื สนิ คา้ ชนิดใดชนิดหน่ึงของ ผซู้ อ้ื แต่ละคนหรอื ของผซู้ อ้ื คนใดคนหน่ึง ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ของสนิ คา้ นนั้ อปุ สงคต์ ลาดสาํ หรบั สินค้าใดๆ (Market Demand) คอื ปรมิ าณสนิ คา้ ชนิดใดชนิดหน่ึง ทผ่ี ซู้ อ้ื ทุกคนในตลาดเตม็ ใจทจ่ี ะซอ้ื ณ ระดบั ราคาสนิ คา้ ต่างๆ ราคานม ปรมิ าณซอ้ื (ลติ ร/สปั ดาห)์ (บาท/ลติ ร) ก ข ปรมิ าณซอ้ื รวม 80 25 10 4 20 12 8 15 16 10 10 20 12 5 วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 10 ปัจจยั ที่กาํ หนดอปุ สงค์ (Determinants of Demand) ปจั จยั ทก่ี าํ หนดอปุ สงคห์ รอื ปจั จยั ทก่ี าํ หนดปรมิ าณซอ้ื แบ่งไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื 1. ปจั จยั โดยตรง 2. ปจั จยั โดยออ้ ม ปจั จยั โดยออ้ มทสี่ าํ คญั 1. ราคาสนิ คา้ อ่นื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง คอื ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความตอ้ งการซอ้ื สนิ คา้ ชนิดหน่ึงกบั ราคาสนิ คา้ อกี ชนิดหน่ึงทเ่ี กย่ี วขอ้ งกนั แบง่ ความสมั พนั ธข์ องสนิ คา้ ได้ 2 ประเภท คอื 1.1 สนิ คา้ ทใ่ี ชท้ ดแทนกนั (Substitution Goods) 1.2 สนิ คา้ ทใ่ี ชป้ ระกอบกนั (Complementary Goods) 2. รายไดข้ องผบู้ รโิ ภค คอื ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งความตอ้ งการซอ้ื สนิ คา้ ชนิดหน่ึงกบั รายได้ ของผบู้ รโิ ภค สามารถแบ่งประเภทของสนิ คา้ ได้ 2 ประเภท คอื 2.1 สนิ คา้ ปกติ (Normal Goods) 2.2 สนิ คา้ ดอ้ ยคณุ ภาพ (Inferior Goods) 3. รสนิยมของผบู้ รโิ ภค 4. จาํ นวนประชากร 5. การคาดคะเนราคาและปรมิ าณสนิ คา้ ในอนาคต 6. ฤดกู าล 7. สภาพการกระจายรายไดใ้ นระบบเศรษฐกจิ ฟังกช์ นั่ อปุ สงค์ (Demand Function) ฟงั กช์ นั่ อุปสงค์ คอื การแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตวั แปรหรอื ปจั จยั ต่างๆ ทม่ี อี าํ นาจใน การกาํ หนดปรมิ าณซอ้ื ฟงั กช์ นั่ อปุ สงคโ์ ดยทวั่ ไป คอื Qx = f (Px, Py, Y, A1, A2, …) Qx = f (Px) เมอ่ื ปจั จยั อน่ื ๆ คงท่ี วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 11 การเปลี่ยนแปลงของอปุ สงค์ มี 2 ชนิด คอื 1. การเปล่ียนแปลงปริมาณซื้อ (Change in Quantity Demanded) หมายถงึ การเปลย่ี นแปลงของปรมิ าณซอ้ื อนั เน่ืองมาจากปจั จยั โดยตรงหรอื ราคาสนิ คา้ นนั้ โดยปจั จยั ทม่ี ผี ลโดยออ้ มทงั้ หลายนนั้ สมมตวิ า่ มคี า่ คงท่ี P (บาท/ลติ ร) 25 20 15 10 5 5 10 15 20 Q (ลติ ร/สปั ดาห)์ 2. การเปล่ียนแปลงของเส้นอปุ สงคห์ รอื การย้ายเส้นอปุ สงค์ (Shifts in the Demand Curve) หมายถงึ ปจั จยั ทกี่ าํ หนดอุปสงคโ์ ดยออ้ มตวั ใดตวั หน่ึง หรอื หลายตวั เปลย่ี นแปลงไป ทาํ ใหป้ รมิ าณซอ้ื เปลย่ี นแปลง ในขณะทร่ี าคาสนิ คา้ นนั้ หรอื ปจั จยั โดยตรงคงเดมิ ซง่ึ จะมผี ลทาํ ให้ เสน้ อปุ สงคเ์ ดมิ เล่อื นไปทงั้ เสน้ ราคา (P) ปรมิ าณ (Q) กรณีอุปสงคเ์ พม่ิ กรณอี ุปสงคล์ ด (บาท/ลติ ร) (ลติ ร/สปั ดาห)์ ปรมิ าณ (Q) ปรมิ าณ (Q) (ลติ ร/สปั ดาห)์ (ลติ ร/สปั ดาห)์ 25 8 20 10 15 12 10 16 5 20 วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 12 P (บาท/ลติ ร) 25 20 15 10 5 5 10 15 20 25 30 Q (ลติ ร/สปั ดาห)์ P (บาท/ลติ ร) 25 20 15 10 5 5 10 15 20 Q (ลติ ร/สปั ดาห)์ วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 13 อปุ ทาน (Supply) อุปทานของสินค้าใดๆ หมายถึง “ปริมาณสินค้าหรือบริการชนิดใดชนิดหน่ึงท่ีผู้ขาย ตอ้ งการขาย ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ของสนิ คา้ หรอื บรกิ ารชนิดนนั้ ๆ ณ ระยะเวลาใดเวลาหน่ึง” โดยอุปทานของสนิ ค้าชนิดใดๆ นัน้ จะเป็นปรมิ าณสนิ ค้าท่ผี ูผ้ ลติ นําออกมาขายเท่านัน้ ไม่ได้ หมายถงึ ปรมิ าณสนิ คา้ ทงั้ หมดทผ่ี ผู้ ลติ ผลติ ได้ Law of Supply “ปรมิ าณสนิ ค้าหรอื บรกิ ารชนิดใดชนิดหน่ึงท่ผี ูข้ ายต้องการจะขายจะมคี วามสมั พนั ธ์ใน ทศิ ทางเดยี วกนั กบั ระดบั ราคาสนิ คา้ หรอื บรกิ ารชนิดนนั้ เสมอ โดยมขี อ้ สมมตวิ า่ สง่ิ อน่ื ๆ คงท”่ี ตารางอปุ ทานและเส้นอปุ ทาน ตวั อยา่ ง อุปทานของผขู้ ายทม่ี ตี ่อนมใน 1 สปั ดาห์ ราคา (P) ปรมิ าณ (Q) (บาท/ลติ ร) (ลติ ร/สปั ดาห)์ 25 16 20 14 15 12 10 10 5 8 อปุ ทานส่วนบคุ คลและอปุ ทานตลาด (Individual Supply and Market Supply) อปุ ทานส่วนบคุ คล (Individual Supply) คอื ปรมิ าณสนิ คา้ ชนิดใดชนิดหน่ึงของผขู้ าย แต่ละราย ณ ระดบั ราคาต่างๆ ของสนิ คา้ นนั้ อปุ ทานตลาดสาํ หรบั สินค้าใดๆ (Market Supply) คอื ปรมิ าณสนิ คา้ ชนิดใดชนิดหน่ึงท่ี ผขู้ ายทกุ คนในตลาดเตม็ ใจขาย ณ ระดบั ราคาต่างๆ กนั ราคานม ปรมิ าณขาย (ลติ ร/สปั ดาห)์ (บาท/ลติ ร) ก ข ปรมิ าณขายรวม 16 12 25 14 10 20 12 8 15 10 6 10 84 5 วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 14 ปัจจยั ท่ีกาํ หนดอปุ ทาน (Determinants of Supply) ปจั จยั ทก่ี าํ หนดอุปทาน ปจั จยั ทก่ี าํ หนดปรมิ าณขาย สามารถแบง่ ไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื 1. ปจั จยั โดยตรง 2. ปจั จยั โดยออ้ ม ปจั จยั โดยออ้ มทสี่ าํ คญั 1. ราคาสนิ คา้ อน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง 2. ราคาของปจั จยั การผลติ 3. กรรมวธิ กี ารผลติ 4. จาํ นวนผผู้ ลติ หรอื ผขู้ าย 5. สภาพดนิ ฟ้าอากาศ 6. นโยบายของรฐั ฟังกช์ นั่ อปุ ทาน (Supply Function) คอื การแสดงความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งปรมิ าณขาย กบั ปจั จยั ต่างๆ ทก่ี าํ หนดอปุ ทาน ฟงั กช์ นั่ อุปสงคโ์ ดยทวั่ ไป คอื Qx = f (Px, B1, B2, …) Qx = f (Px) เมอ่ื ปจั จยั อน่ื ๆ คงท่ี วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 15 การเปลี่ยนแปลงของอปุ ทาน มี 2 ชนิด คอื 1. การเปล่ียนแปลงปริมาณขาย (Change in Quantity Supplied) หมายถงึ การเปลย่ี นแปลงของปรมิ าณขายอนั เน่ืองมาจากปจั จยั โดยตรงหรอื ราคาสนิ คา้ นนั้ โดยปจั จยั ทม่ี ผี ลโดยออ้ มทงั้ หลายนนั้ สมมตวิ า่ มคี า่ คงท่ี 2. การเปลี่ยนแปลงของเส้นอปุ ทานหรือการย้ายเส้นอปุ ทาน (Shifts in the Supply Curve) หมายถงึ ปจั จยั ทกี่ าํ หนดอปุ ทานโดยออ้ มตวั ใดตวั หน่ึง หรอื หลายตวั เปลย่ี นแปลงไป ทาํ ใหป้ รมิ าณขายเปลย่ี นแปลง ในขณะทร่ี าคาสนิ คา้ นนั้ คงเดมิ ซง่ึ จะมผี ลทาํ ใหเ้ สน้ อปุ ทานเดมิ เล่อื นไปทงั้ เสน้ วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 16 การปรบั ตวั ของราคา ดลุ ยภาพของตลาด (Market Equilibrium) ตวั อย่าง ถา้ อปุ สงคต์ ลาดและอปุ ทานตลาดของนมเป็นดงั ตาราง ราคา ปรมิ าณนม (ลติ ร) Qs - Qd สถานะ (บาท/ลติ ร) Qd Qs 25 8 28 20 14 24 15 20 20 10 26 16 5 32 12 ราคา (บาท/ลติ ร) ปรมิ าณ (ลติ ร) 25 20 15 10 5 0 5 10 15 20 25 30 35 ราคาดุลยภาพ คือ ระดบั ราคาท่ีปริมาณสินค้าและบริการท่ีผู้บริโภคต้องการซ้ือใน ขณะนัน้ เท่ากับจํานวนสินค้าและบริการท่ีผู้ผลิตต้องการขายในขณะเดียวกนั นัน้ พอดี และ ปรมิ าณสนิ คา้ และบรกิ ารทร่ี ะดบั ราคาดลุ ยภาพ เราเรยี กวา่ “ปริมาณดลุ ยภาพ” ดงั นนั้ ราคาดุลยภาพและปรมิ าณดลุ ยภาพจะเกดิ พรอ้ มกนั ณ ระดบั ทป่ี รมิ าณซอ้ื เทา่ กบั ปรมิ าณขายพอดี และเรยี กสภาวะดงั กล่าววา่ “ดลุ ยภาพของตลาด” (Market Equilibrium) การเปลี่ยนแปลงภาวะดลุ ยภาพของตลาด การเปล่ยี นแปลงภาวะดุลยภาพของตลาดจะเกดิ ขน้ึ ไดเ้ ม่อื มกี ารเปล่ยี นแปลงของปจั จยั ทางออ้ มต่างๆ ไมว่ า่ จะเป็นของอุปสงคห์ รอื อุปทาน วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 17 1. กรณเี กดิ การยา้ ยเสน้ อุปสงคใ์ นขณะทเี่ สน้ อุปทานอยคู่ งที่ 1.1 กรณอี ปุ สงคเ์ พม่ิ 1.2 กรณอี ุปสงคล์ ด 2. กรณเี กดิ การยา้ ยเสน้ อุปทานในขณะทเี่ สน้ อปุ สงคอ์ ยคู่ งที่ 2.1 กรณอี ุปทานเพมิ่ 2.2 กรณอี ปุ ทานลด วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 18 3. กรณที งั้ อุปสงคแ์ ละอปุ ทานมกี ารเปลยี่ นแปลง 3.1 อุปสงคเ์ พมิ่ อุปทานเพมิ่ 3.2 อปุ สงคเ์ พมิ่ อุปทานลด 3.3 อุปสงคล์ ด อุปทานเพมิ่ 3.4 อปุ สงคล์ ด อปุ ทานลด การเข้าแทรกแซงตลาดของรฐั บาล การแทรกแซงราคาของรฐั บาลโดยทวั่ ไปมี 2 ชนิด คอื 1. การประกนั ราคาขนั้ ต่าํ (Price Support or Minimum Price) 2. การกาํ หนดราคาขนั้ สงู (Price Ceiling) 1. การประกนั ราคาขนั้ ตา่ํ (Price Support or Minimum Price) หมายถงึ รฐั บาลจะทําการกําหนดราคาขนั้ ต่ําสําหรบั สนิ คา้ และผรู้ บั ซ้อื สนิ คา้ จะต้องซ้อื สนิ คา้ ทร่ี าคาขนั้ ต่าํ นนั้ และราคาขนั้ ต่ําทก่ี าํ หนดขน้ึ น้ีจะอยสู่ งู กวา่ ราคาดลุ ยภาพเสมอ ซง่ึ การเขา้ มาแทรกแซงของรฐั โดยการประกนั ราคาขนั้ ต่าํ จะมอี ยู่ 2 วธิ ี คอื วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 19 1.1 การประกนั ราคาขนั้ ตา่ํ โดยรฐั บาลรบั ซื้ออปุ ทานส่วนเกิน คอื “การทร่ี ฐั บาลประกาศราคาประกนั และใชก้ ฏหมายบงั คบั ใหผ้ ซู้ อ้ื ทุกรายซอ้ื สนิ คา้ ใน ราคาประกนั นนั้ มฉิ ะนนั้ จะมคี วามผดิ ตามกฏหมาย” P Q 1.2 การประกนั ราคาขนั้ ตา่ํ โดยรฐั บาลจ่ายเงินอดุ หนุนให้แก่เกษตรกร คอื รฐั กาํ หนดราคาขนั้ ต่ําไว้ แต่จะปลอ่ ยใหซ้ อ้ื ขายกนั ตามกลไกราคาปกติ P Q วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 20 2. การกาํ หนดราคาขนั้ สงู (Price Ceiling) ในภาวะทเ่ี กดิ การขาดแคลนสนิ คา้ อยา่ งมากจะทาํ ใหร้ าคาของสนิ คา้ มรี าคาทส่ี งู ขน้ึ อยา่ ง มาก จนอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาเงนิ เฟ้อและกระทบต่อการครองชพี ของประชาชน ดงั นนั้ รฐั บาล จะตอ้ งเขา้ มาควบคุมราคาโดย “การกาํ หนดราคาขนั้ สงู ” ไว้ เพอ่ื ผผู้ ลติ หรอื ผขู้ ายจะไมข่ ายเกนิ ราคาขนั้ สงู ทก่ี าํ หนดไว้ ซง่ึ การกาํ หนดราคาขนั้ สงู น้ีกเ็ พอ่ื ชว่ ยเหลอื ประชาชนหรอื ผบู้ รโิ ภค ดงั นนั้ ราคาขนั้ สงู น้ีจะอยตู่ ่าํ กวา่ ราคาดุลยภาพเสมอ P Q ความยืดหยนุ่ ของอปุ สงคแ์ ละอปุ ทาน (Elasticity of Demand and Supply) ความยืดหย่นุ (Elasticity) คอื การวดั การเปล่ยี นแปลงของปรมิ าณซ้อื หรอื ปรมิ าณขายสนิ คา้ ต่อการเปล่ยี นแปลง ของตวั กาํ หนดปรมิ าณซอ้ื หรอื ปรมิ าณขายนนั้ ความยืดหย่นุ ของอปุ สงค์ (Elasticity of Demand) มี 3 ชนิด คอื (Cross 1. ความยดื หยนุ่ ของอุปสงคต์ ่อราคา (Price Elasticity of Demand) 2. ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงคต์ ่อรายได้ (Income Elasticity of Demand) 3. ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงคต์ อ่ ราคาสนิ คา้ อน่ื ทเ่ี กย่ี วขอ้ งหรอื ความยดื หยนุ่ ไขว้ Price Elasticity of Demand) วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 21 I ความยืดหย่นุ ของอปุ สงคต์ ่อราคา (Price Elasticity of Demand) คือ เปอร์เซ็นต์การเปล่ียนแปลงของปรมิ าณซ้ือต่อเปอร์เซ็นต์การเปล่ียนแปลงของ ราคาสนิ คา้ นนั้ Ed เปอรเ์ ซน็ ต◌์การเปลนย่ี แปลงของปร◌ิมาณซอ้ื เปอรเ์ ซน็ ต◌์การเปลนย่ี แปลงของราคา E d %Q x %Px ตวั อย่าง จากการสํารวจของผูข้ ายรายหน่ึงพบว่า ถ้าเขาขน้ึ ราคาสนิ คา้ 20% จะทําให้มผี ูซ้ ้ือ สนิ คา้ ของเขาลดลง 40% ใหห้ าคา่ ความยดื หยนุ่ ของอุปสงคต์ ่อราคาของสนิ คา้ ชนิดน้ี ค่าความยืดหย่นุ ของอปุ สงคต์ ่อราคาสินค้า 1. อุปสงคท์ ม่ี คี วามยดื หยนุ่ น้อยทส่ี ดุ (Perfectly Inelastic Demand ; Ed = 0) 2. อปุ สงคท์ ม่ี คี วามยดื หยนุ่ น้อย (Inelastic Demand ; 0 < Ed < 1) 3. อุปสงคท์ ม่ี คี วามยดื หยนุ่ คงท่ี (Unitary Elastic Demand ; Ed = 1) วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 22 4. อุปสงคท์ ม่ี คี วามยดื หยนุ่ มาก (Elastic Demand ; 1 < Ed < ) 5. อุปสงคท์ ม่ี คี วามยดื หยนุ่ มากทส่ี ดุ (Perfectly Elastic Demand ; Ed = ) สรปุ คา่ ความ การเปลย่ี นแปลงราคา ราคาลด ความยดื หยนุ่ ยดื หยนุ่ ราคาเพม่ิ รายรบั รวมเพม่ิ ขน้ึ รายรบั รวมลดลง รายรบั รวมคงท่ี Elastic Ed > 1 รายรบั รวมคงท่ี รายรบั รวมลดลง Unitary Elastic Ed = 1 รายรบั รวมเพมิ่ ขน้ึ Inelastic Ed < 1 ลกั ษณะของสินค้าที่มีผลต่อความยืดหย่นุ ของอปุ สงคต์ ่อราคา 1. สนิ คา้ ทจ่ี าํ เป็นและสนิ คา้ ทฟ่ี ุม่ เฟือย 2. สนิ คา้ นนั้ มเี ปอรเ์ ซน็ ตข์ องรายไดท้ ผ่ี บู้ รโิ ภคใชจ้ า่ ยมากหรอื น้อย 3. สนิ คา้ เสยี หายงา่ ยและสนิ คา้ คงทนถาวร 4. สนิ คา้ นนั้ หาสนิ คา้ อน่ื มาทดแทนไดง้ า่ ยหรอื ยาก วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 23 II ความยืดหย่นุ ของอปุ สงคต์ ่อรายได้ (Income Elasticity of Demand) คอื เปอร์เซ็นต์การเปล่ียนแปลงของปริมาณซ้ือต่อเปอร์เซ็นต์การเปล่ียนแปลงของ รายไดข้ องผบู้ รโิ ภค EY เปเอปรอเ์ รซเ์ น็ซตน็ ◌ต์ก◌า์กราเรปเลปนย่ี ลแนย่ี ปแลปงลขงอขงอปงรร◌ายิมไาดณ้ ซอ้ื %Q %Y - ถา้ คา่ ความยดื หยนุ่ ต่อรายไดเ้ ป็น “บวก” แสดงวา่ สนิ คา้ นนั้ เป็น “สนิ คา้ ปกต”ิ (Normal Goods) - ถา้ คา่ ความยดื หยนุ่ ต่อรายไดเ้ ป็น “ลบ” แสดงวา่ สนิ คา้ นนั้ เป็น “สนิ คา้ ดอ้ ยคุณภาพ” (Inferior Goods) ตวั อยา่ ง ถา้ เดมิ ผบู้ รโิ ภคมรี ายไดเ้ ดอื นละ 6,000 บาท ต่อมาผบู้ รโิ ภคมรี ายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ เป็น 7,000 บาท ทาํ ใหม้ คี วามตอ้ งการซอ้ื กาแฟสดเพมิ่ ขน้ึ จาก 600 แกว้ /เดอื น เป็น 680 แกว้ /เดอื น คา่ ความยดื หยนุ่ ของอุปสงคต์ อ่ รายไดเ้ ทา่ กบั เทา่ ใด ตวั อยา่ ง ถา้ หา้ งสรรพสนิ คา้ แหง่ หน่ึงพบวา่ สนิ คา้ ภายใตเ้ คร่อื งหมายการคา้ ของตนเองมปี รมิ าณ ความตอ้ งการซอ้ื เพม่ิ ขน้ึ 30% ทงั้ ทร่ี ายไดข้ องผซู้ อ้ื ลดลง 10% แสดงวา่ สนิ คา้ ดงั กล่าวเป็นสนิ คา้ ประเภทใด และมคี า่ ความยดื หยนุ่ ของอปุ สงคต์ ่อรายไดเ้ ป็นเทา่ ใด วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 24 III ความยืดหย่นุ ของอปุ สงคต์ ่อราคาสินค้าอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง หรอื ความยืดหย่นุ ไขว้ (Cross Price Elasticity of Demand) EC เปเปอรอเ์ รซเ์ นซ็ ตน็ ◌ต◌์กา์กราเรปเลปนย่ีลแนย่ี ปแปลงลขงอขงอรงาปครา◌สิมนิ าคณา้ อซ◌ื อ้ื ่น %Q x %Py - ถ้าค่าความยดื หยุ่นไขวเ้ ป็น “บวก” แสดงว่าสนิ คา้ 2 ชนิดนัน้ เป็น “สนิ คา้ ท่ใี ชท้ ดแทนกนั ” (Substitution Goods) - ถ้าค่าความยดื หยุ่นไขวเ้ ป็น “ลบ” แสดงว่าสนิ ค้า 2 ชนิดนัน้ เป็น “สนิ ค้าท่ใี ชป้ ระกอบกนั ” (Complementary Goods) ตวั อย่าง สมมตวิ ่าโคก้ เพม่ิ ราคาขน้ึ 10% ซง่ึ ทําใหเ้ ป็ปซส่ี ามารถขายไดเ้ พม่ิ ขน้ึ 5% ค่าความ ยืดหยุ่นของอุปสงค์สําหรับเป็ปซ่ีต่อราคาโค้ก มีค่าเท่ากับเท่าใด และโค้กกับเป็ปซ่ีมี ความสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร ตวั อยา่ ง ถา้ เดมิ กาแฟราคา 90 บาท จะทาํ ใหม้ ปี รมิ าณซอ้ื น้ําตาล 60 กโิ ลกรมั /เดอื น ต่อมา ราคากาแฟลดลงเหลอื 70 บาท พบว่าปรมิ าณการซอ้ื น้ําตาลจะเพม่ิ ขน้ึ เป็น 80 กโิ ลกรมั /เดอื น กาแฟกบั น้ําตาลมคี วามสมั พนั ธก์ นั อยา่ งไร และคา่ ความยดื หยนุ่ ไขวข้ องน้ําตาลคอื เทา่ ใด วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 25 ความยืดหย่นุ ของอปุ ทาน (Elasticity of Supply; Es) ความยดื หยุ่นของอุปทานต่อราคา (Price Elasticity of Supply) คอื เปอรเ์ ซน็ ต์การ เปลย่ี นแปลงของปรมิ าณขายต่อเปอรเ์ ซน็ ตก์ ารเปลย่ี นแปลงของราคาสนิ คา้ นนั้ Es เปอรเ์ ซน็ ต◌์การเปลนย่ี แปลงของปร◌ิมาณขา เปอรเ์ ซน็ ต◌์การเปลนย่ี แปลงของราคา Es %Q x %Px ตวั อยา่ ง สมมตวิ า่ เดมิ ราคาของขา้ วถงั ละ 1,200 บาท ปรมิ าณขายเทา่ กบั 150 ถงั ถา้ ราคาขา้ ว เหลอื ถงั ละ 1,000 บาท ปรมิ าณขายเทา่ กบั 120 ถงั คา่ ความยดื หยนุ่ ของอปุ ทานเทา่ กบั เทา่ ใด ค่าความยืดหย่นุ ของอปุ ทาน 1. อุปทานทม่ี คี วามยดื หยนุ่ น้อยทส่ี ดุ (Perfectly Inelastic Supply ; Es = 0) 2. อุปทานทม่ี คี วามยดื หยนุ่ น้อย (Inelastic Supply ; 0 < Es < 1) 3. อุปทานทม่ี คี วามยดื หยนุ่ คงท่ี (Unitary Elastic Supply ; Es = 1) 4. อุปทานทม่ี คี วามยดื หยนุ่ มาก (Elastic Supply ; 1 < Es < ) 5. อปุ ทานทม่ี คี วามยดื หยนุ่ มากทส่ี ดุ (Perfectly Elastic Supply ; Es = ) วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Economics for everyday life 26 ปัจจยั ที่กาํ หนดค่าความยืดหย่นุ ของอปุ ทาน 1. ประเภทของสนิ คา้ 2. ระยะเวลาในการผลติ 3. ความยากงา่ ยในการผลติ สนิ คา้ 4. ตน้ ทุนในการผลติ วรลกั ษณ์ หมิ ะกลสั
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: