Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บทที่ 4-บทที่ 7

บทที่ 4-บทที่ 7

Published by artist130646, 2022-08-18 10:56:49

Description: บทที่ 4-บทที่ 7

Search

Read the Text Version

แบบฝึ กหดั บทที่ 4 เร่ืองระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ นายสหลาภ ทาสะโก จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนกั ศึกษา 4641070641117 นายธธี ชั สงั เขป จิตรกกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศกึ ษา 4641070641114 นายอภสิ ทิ ธ์ิ ซ่อื สตั ย์ จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศึกษา 4641070641125

แบบฝึ กหดั เร่อื งระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ 1.ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอรห์ มายถงึ -ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ (computer network) คือ ระบบทม่ี คี อมพวิ เตอร์อย่างน้อยสองเคร่อื งเช่อื มต่อกนั โดยใช้ ส่อื กลาง และสามารถส่อื สารข้อมลู กนั ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ซ่ึงทาให้ผ้ใู ช้คอมพิวเตอร์แต่ละเคร่อื งสามารถแลกเปล่ยี นข้อมลู ซ่งึ กนั และกนั ได้ นอกจากน้ยี งั สามารถใช้ทรพั ยากรท่มี อี ยู่ในเครอื ข่ายร่วมกนั ได้ เช่น เคร่อื งพิมพ์ สแกนเนอร์ ฮารด์ ดิสก์ เป็นต้น 2. จงบอกประโยชนข์ องระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 2.1 การใช้อปุ กรณ์ร่วมกนั 2.2 การใช้โปรแกรมและข้อมูลร่วมกนั ได้ 2.3 ความประหยัด 2.4 สามารถประยุกตใ์ ช้ในงานด้านธรุ กจิ ได้ 2.5 ความเช่อื ถอื ได้ของระบบงาน 3.การแลกเปลยี่ นขอ้ มูลอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพสามารถแบง่ ออกไดก้ ปี่ ระเภท อะไรบา้ ง 3.1 แบ่งตามแหล่งท่มี า -ข้อมูลปฐมภมู ิ (Primary Data) คือข้อมูลท่เี กบ็ รวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลข้นั ต้นหรือได้มาจากแหล่งข้อมูลโดยตรง -ข้อมูลทุติยภมู ิ (Secondary Data) คอื ข้อมูลทไ่ี ด้จากแหล่งท่รี วบรวมข้อมลู ไว้แล้ว โดยผ้หู น่งึ ผ้ใู ด หรือหน่วยงานได้ทาการ เกบ็ รวบรวมหรือเรยี บเรียงไว้ ซ่ึงข้อมูลสามารถนามาใช้อ้างองิ ได้เลย 3.2 แบ่งตามลกั ษณะของข้อมูล -ข้อมูลเชิงปรมิ าณ (Quantitative Data) คือข้อมลู ทว่ี ดั ออกมาเป็นตวั เลข -ข้อมลู เชงิ คุณลกั ษณะหรอื เชิงคณุ ภาพ (Qualitative Data) คือข้อมูลท่ไี ม่ได้วดั ออกมาเป็นตวั เลขแต่จะแสดงถึงคุณลกั ษณะ ของส่งิ น้นั 3.4 แบ่งตามสภาพของข้อมลู ท่เี ก่ยี วข้องกบั กล่มุ ตัวอย่าง -ข้อมูลสว่ นบุคคล (Personal Data) คือข้อมูลท่เี ก่ยี วกบั ข้อเทจ็ จรงิ สว่ นตัวของกล่มุ ตวั อย่าง เช่น ช่อื สกุล อายุ เพศ อาชพี ศาสนา เป็นต้น -ข้อมูลส่งิ แวดล้อม (Environmental Data) คือข้อมลู ท่เี ป็นข้อเทจ็ จรงิ เก่ยี วกบั สง่ิ แวดล้อมของกล่มุ ตัวอย่าง เช่น ลักษณะ ท้องถ่นิ ทก่ี ล่มุ ตวั อย่างอาศัยอยู่ เป็นต้น

-ข้อมูลพฤติกรรม (Behavioral Data) คือข้อมลู ทเ่ี ป็นคุณลักษณะทม่ี ีอยู่ในตวั ของกล่มุ ตวั อย่าง เช่น คุณลักษณะด้าน ความสามารถของสมอง ได้แก่ ผลสมั ฤทธ์ทิ างวิชาการหรอื การเรยี น เช่น ความร้คู วามเข้าใจ ความถนัด และการกระทาสง่ิ ต่าง ๆ 3.4 แบ่งตามการนาไปใช้กบั คอมพิวเตอรไ์ ด้ -ข้อมูลตวั เลข (Numeric Data) หมายถงึ ข้อมลู ทส่ี ามารถนาไปคานวณได้ เช่น จานวนเงนิ เดือน ราคาสนิ ค้า ซ่ึงอาจอยู่ในรปู ของจานวนเตม็ ทศนยิ ม เศษสว่ น เป็นต้น -ข้อมลู ตัวอกั ษร (Text Data) หมายถงึ ข้อมลู ทไ่ี ม่สามารถนาไปคานวณได้ แต่อาจนาไปเรยี งลาดับได้ เช่น ช่ือ ท่อี ยู่ เบอร์ โทรศัพท์ เลขประจาตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ เป็นต้น -ข้อมลู เสยี ง (Audio Data) หมายถึง ข้อมูลท่เี กดิ จากการได้ยนิ เช่น เสยี งคนพูด เสยี งสตั ว์ร้อง เสยี งจากปรากฏการณ์ ธรรมชาติ หรอื เสยี งจากอุปกรณต์ ่าง ๆ ทส่ี ามารถแสดงผลข้อมูลในรปู แบบเสยี งได้ เช่น แผน่ ซดี ี โทรทศั น์ วิทยุ เป็นต้น -ข้อมูลภาพ (Images Data) หมายถงึ ข้อมูลทเ่ี ป็นภาพในลักษณะต่าง ๆ ทเ่ี รามองเหน็ ซ่งึ อาจเป็นภาพน่งิ เช่น ภาพวาด ภาพถ่าย เป็นต้น หรอื ภาพเคล่อื นไหว เช่น ภาพจากโทรทศั น์ ภาพจากวดี ิทศั น์ ภาพจากคอมพวิ เตอร์ เป็นต้น -ข้อมลู ภาพเคล่อื นไหว (Video Data) หมายถึง ข้อมูลท่เี ป็นภาพเคล่อื นไหว หรอื ข้อมูลท่มี ที ้งั ภาพ เสยี ง ข้อความปนกนั เช่น ภาพเคล่อื นไหวทถ่ี ่ายด้วยกล้องวิดีโอ หรือภาพทท่ี าจากโปรแกรมต่าง ๆ เป็นต้น 4.จงยกตวั อยา่ งการทางานบนระบบเครือข่าย(Network)ทีน่ าฮารด์ แวรม์ าใช้ ร่วมกนั เป็ นฮารด์ แวรป์ ระเภทใดบา้ ง ฮาร์ดแวร์ของระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ หมายถงึ อปุ กรณท์ ่มี ีความจาเป็นต้องใช้ในการตดิ ต้งั ระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ ซ่ึงจานวนอปุ กรณจ์ ะมีความซบั ซ้อนมากหรือน้อย ข้นึ อยู่กบั ขนาดขององคก์ ร หรอื ประเภทของระบบเครอื ข่าย ตัวอย่างเช่น ระบบเครือข่ายระดบั ท้องถ่นิ หรือ เครือข่ายคอมพิวเตอรร์ ะยะใกล้ 4.1 เคร่อื งคอมพวิ เตอร์ (Computer) 4.2 เคร่อื งแม่ข่าย -เคร่อื งแม่ข่ายหรอื เคร่อื งเซิร์ฟเวอร์ (Server) ควรเป็นเคร่อื งคอมพิวเตอร์ท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพสงู มหี น่วยความจาสงู ใช้เป็น ศูนย์กลางการเกบ็ ข้อมูลและประมวลผลของระบบเครอื ข่าย 4.3 เคร่ืองลกู ข่าย - เคร่อื งเวิร์กสเตชนั (Workstation) เป็นเคร่อื งคอมพิวเตอรท์ ่มี ีความสามารถในการประมวลผลด้วยตนเองสามารถทางาน ได้เรว็ เพราะไม่ต้องรอรับผลจากเคร่อื งแม่ข่าย -เคร่อื งเทอรม์ ินัล (Terminal) เป็นเคร่อี งคอมพวิ เตอรท์ ไ่ี ม่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ด้วยตนเอง มีความสามารถในการ ทางานช้า เพราะต้องรอการประมวลผลจากเคร่อื งแม่ข่ายเทา่ น้นั 4.4 แผงวงจรเช่อื มต่อเครือข่าย (Network Interface Card : NIC)

5.จงบอกประโยชนก์ ารใชซ้ อฟตแ์ วรร์ ่วมกนั -ได้รบั ความช่วยเหลือและคาแนะนา : ด้านเทคนิค ข้อมูลสทิ ธ์กิ ารใช้งานและอ่นื ๆ จากบรษิ ทั ซอฟตแ์ วรท์ าให้สามารถบริหาร จดั การซอฟต์แวร์ได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพค้มุ ค่าการลงทุน -ลดความเส่ยี งในการทาผิดกฎหมาย : ฐานละเมิดลิขสทิ ธ์ซิ อฟตแ์ วรแ์ ละกฎหมายอ่นื -ลดความเส่ยี งภยั ไซเบอร์ : เพราะจะได้รบั บริการอปั เดต (Update) อปั เกรด (Upgrade) และแพตช์ (Patch) เพ่ือความ ปลอดภยั สารสนเทศ 6.การใชร้ ะบบมลั ติยูสเซอร์ (Multi-Users) หมายถงึ -หมายถงึ โปรแกรมหรอื ระบบปฏบิ ตั ิการท่ยี อมให้มผี ้ใู ช้ได้มากกว่าหน่งึ คน ในเวลาเดียวกนั เช่น การจัดข้อมูลพ้นื ฐาน เพ่ือให้ผ้ใู ช้หลายคนสามารถเรียกหาได้พร้อม ๆ กนั อย่างในระบบเครือข่าย (network) เป็นต้น

แบบฝึ กหดั บทที่ 5 เร่ืององค์ประกอบพ้ืนฐานของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ นายสหลาภ ทาสะโก จติ รกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศกึ ษา 4641070641117 นายธธี ชั สังเขป จิตรกกรรมไทย ปี 2 รหัสนกั ศึกษา 4641070641114 นายอภิสทิ ธ์ิ ซ่อื สตั ย์ จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศึกษา 4641070641125

1. องคป์ ระกอบพ้ นื ฐานของระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรม์ อี ะไรบา้ ง จงอธิบาย -ระบบเครือข่าย คอมพวิ เตอร์ มีองคป์ ระกอบท่สี าคัญ เพ่อื การเช่อื มต่อเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้แก่ คอมพวิ เตอร์แม่ ข่าย (File Server) ช่องทางการส่อื สาร (Communication Chanel) สถานงี าน (Workstation or Terminal) และ อปุ กรณใ์ น เครือข่าย (Network Operation System) 2.ลกั ษณะการทางานของคอมพวิ เตอรท์ ีเ่ ชือ่ มต่อในการทางานระบบเครือข่าย คอมพิวเตอรจ์ ะแบ่งเครื่องคอมพวิ เตอร์ เป็ น 2 ประเภท คือประเภทใดบา้ ง 1. ผ้สู ง่ หรอื อุปกรณส์ ่งข้อมลู (Sender)ข้อมูลต่างๆ ทอ่ี ยู่ต้นทางจะต้องจดั เตรียมนาเข้าส่อู ปุ กรณ์สาหรับส่งข้อมูล ซ่ึงได้แก่ เคร่อื งพิมพ์ หรืออปุ กรณ์ควบคุมต่าง ๆ จานไมโครเวฟ จานดาวเทยี ม ซ่ึงข้อมลู เหล่าน้นั ถกู เปล่ยี นให้อยู่ใน รูปแบบทส่ี ามารถ ส่งข้อมูลน้ันได้ก่อน 2. ผ้รู บั หรอื อปุ กรณ์รับข้อมลู (Receiver)ข้อมูลท่ถี กู ส่งจากอุปกรณ์ส่งข้อมลู ต้นทาง เม่อื ไปถงึ ปลายทางกจ็ ะมอี ุปกรณส์ าหรับ รับข้อมลู เหล่าน้ันเพ่ือนาไปใช้ประโยชน์ต่อไป อปุ กรณ์เหล่าน้ไี ด้แก่ เคร่อื งพิมพ์ คอมพวิ เตอร์ จานไมโครเวฟ จานดาวเทยี ม ฯลฯ 3. ใหน้ กั ศึกษาอธิบายหนา้ ที่ของอปุ กรณเ์ หลา่ น้ ี 3.1 แลนการ์ด ทาหน้าท่อี ะไร -เป็นการเช่อื มโยงเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ถงึ กนั ท้งั หมดโดยอาศยั ส่อื กลาง มกี ารแบ่งแยกเครอื ข่ายออกเป็น 2 รปู แบบการ เช่อื มโยงคอื การเช่ือมโยงภายในพ้นื ทร่ี ะยะใกล้หรือ แลน (LAN) และการเช่อื มโยงระยะไกลหรอื แวน (WAN) โดยการ เช่อื มโยงเครือข่ายแบบแลน 3.2 ฮับ (Hup) ทาหน้าท่อี ะไร -ฮบั เป็นอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ าหน้าท่เี ช่นเดียวกบั มลั ตเิ พลก็ ซ์เซอร์ ซ่งึ นยิ มใช้กบั ระบบเครอื ขา่ ยท้องถ่นิ (LAN) มรี าคา ต่า ตดิ ต่อส่อื สารข้อมูลตามมาตรฐาน IEEE 802.3 3.3 รพี ีตเตอร์ (Repeater) ทาหน้าทอ่ี ะไร -เป็นอุปกรณ์ทใ่ี ช้สาหรบั สง่ สญั ญาณซา้ เพ่ือสง่ สญั ญาณต่อไปน้ใี นระยะไกลป้ องกนั การขาดหายของสญั ญาณ ซ่ึงรปู แบบของ เครอื ข่ายแต่ละแบบรวมท้งั สายสญั ญาณทใ่ี ช้เป็นตวั กลางหรอื ส่อื กลาง แต่ละชนดิ จะมขี ้อจากดั ของระยะทางในการสง่ ดงั น้นั เม่อื ต้องการส่งสญั ญาณให้ไกลกว่าปกตติ ้องเช่อื มต่อกบั รพี ีตเตอรด์ งั กล่าว เพ่อื ทาให้สามารถสง่ สญั ญาณ ได้ไกลย่งิ ข้นึ 3.4 บริดจ์ (Bridge) ทาหน้าทอ่ี ะไร -เป็นอุปกรณ์ IWU (Inter Working Unit) ทใ่ี ช้สาหรับเช่อื มเครือข่ายท้องถ่นิ (Local Area Network หรอื LAN) 2 เครอื ข่ายเข้าด้วยกนั ซ่งึ อาจจะใช้โปรโตคอลท่เี หมอื นกนั หรือต่างกนั กไ็ ด้

3.5 เราตเ์ ตอร์ (Router) ทาหน้าท่ี อะไร -เป็นอปุ กรณท์ ใ่ี ช้เช่อื มต่อเครอื ข่ายเข้าด้วยกนั ซ่งึ อาจจะเป็นเครอื ข่ายเดยี วกนั หรือข้ามเครือข่ายกนั โดยการเช่อื มกนั ระหว่าง หลายเครือข่ายแบบน้เี รยี กว่า เครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ (Internet) โดยเครือข่ายแต่ละเครอื ข่ายจะเรยี กว่า เครอื ข่ายย่อย (Subnetwork) สว่ นอุปกรณท์ ่ใี ช้เช่อื อมต่อระหว่างเครอื ข่าย เรยี กว่า IWU (Inter Working Unit) ได้แก่ เราเตอร์และบริดจ์ 3.6 เกตเวย์ (Gateway) ทาหน้าท่อี ะไร -เกตเวยเ์ ป็นอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนิกสท์ ่มี หี น้าทห่ี ลักคือ ทาให้เครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ 2 เครือข่ายหรือมากกว่าซ่ึงมีลักษณะ แตกต่างกนั สามารถส่อื สารกนั ได้เสมือนกบั เป็นเครือข่ายเดยี วกนั โดยท่วั ไปแล้วระบบเครือข่ายแต่ละเครอื ข่ายอาจจะแตกต่าง กนั ในหลายกรณี เช่น ลักษณะการเช่ือมต่อ (Connectivity) ทไ่ี ม่เหมอื นกนั โปรโตคอลทใ่ี ช้สาหรบั รับส่งข้อมลู ต่างกนั เป็นต้น 4. สายสญั ญาณทีใ่ ชเ้ ป็ นมาตรฐานในระบบเครือข่ายคอมพวิ เตอรม์ กี ่ีประเภท อะไรบา้ ง -สายค่บู ิดเกลยี วชนดิ หุ้มฉนวน - สายค่เู กลยี วชนดิ ไม่หุ้มฉนวน 5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถึงอะไร ปัจจุบนั โปรโตคอลใดที่นยิ มใชท้ ีส่ ดุ -ชุดข้อบงั คับ หรือข้นั ตอนในการแลกเปล่ยี นข้อมลู ระหว่างอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ อย่างเช่น ในการส่อื สารระหว่าง คอมพวิ เตอร์ เพ่ือให้เกดิ ความเข้าใจตรงกนั จาเป็นต้องมขี ้อตกลงร่วมกนั ก่อนว่าจะสง่ และรับข้อมูลด้วยวิธกี ารอะไร ซ่ึงเจ้า ข้อตกลงทว่ี ่าน้ี กเ็ ป็นหน้าทข่ี องโปรโตคอลน่ันเอง -มาตรฐานโปรโตคอล อยู่ภายใต้การกากบั ดแู ลโดยองคกร์ ะดับนานาชาติ หรือระดับอุตสาหกรรม แต่หากจะกล่าวถงึ ระบบ โปรโตคอลของคอมพวิ เตอร์ทม่ี ีความสาคัญท่สี ดุ หน่งึ ในน้นั กต็ ้องเป็น Open Systems Interconnection (OSI) ท่พี ฒั นาโดย องคก์ ารระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (International Organization for Standardization (ISO)) ซ่งึ เป็นคนกาหนด แนวทางในการออกแบบระบบส่อื สารระหว่างคอมพวิ เตอร์

แบบฝึ กหดั บทที่ 6 เร่ืองความร้พู ้ืนฐานเก่ยี วกบั ระบบการส่อื สารข้อมูล นายสหลาภ ทาสะโก จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนกั ศกึ ษา 4641070641117 นายธธี ชั สังเขป จิตรกกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศกึ ษา 4641070641114 นายอภิสทิ ธ์ิ ซ่อื สตั ย์ จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนกั ศกึ ษา 4641070641125

1. จงบอกความหมายของระบบการสอื่ สารขอ้ มูล - การส่อื สารข้อมลู หมายถึง กระบวนการหรือวธิ กี ารถ่ายทอดข้อมูลระหว่างผ้สู ่งและผ้รู ับท่อี ยู่ห่างไกลกนั ด้วยระบบการ ส่อื สารโทรคมนาคม (Telecommunication) เป็นส่อื กลางในการส่งข้อมูล ระบบการส่อื สารโทรคมนาคมจะสง่ ข้อมลู ผ่านส่อื หรอื ตัวกลาง เพ่อื หลีกเล่ยี งการรบกวนจากภายนอก โดยการเปล่ยี น ข้อมลู เป็นสญั ญาณหรอื รหัส เม่อื ถงึ ปลายทางจะต้องถอดรหัส (สญั ญาณคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้ า) เพ่อื ให้ผ้รู บั เข้าใจข้อมลู ทถ่ี ูกสง่ มาถึง 2. อธิบายองคป์ ระกอบพ้ นื ฐานระบบการสอื่ สารขอ้ มูล 2.1 ผ้สู ง่ หรอื อปุ กรณส์ ง่ ข้อมูล (Sender) เป็นแหล่งต้นทางของการส่อื สารโดยมหี น้าทใ่ี นการให้กาเนดิ ข้อมลู หรือเตรียม ข้อมูล เช่น ผ้พู ดู คอมพวิ เตอรต์ ้นทาง เป็นต้น 2.2 ผ้รู ับหรืออปุ กรณร์ ับข้อมูล (Receiver) เป็นแหล่งปลายทางของการส่อื สาร หรอื เป็นอุปกรณส์ าหรบั ข้อมลู ทจ่ี ะนาข้อมลู น้นั ไปใช้ดาเนนิ การต่อไป เช่น ผ้รู บั คอมพิวเตอร์ปลายทาง เคร่อื งพิมพ์ 2.3 ข่าวสาร (Massage) เป็นตวั เน้อื หาของข้อมูล ซ่งึ มีได้หลายรปู แบบดงั น้ี คอื - ข้อความ (Text) ข้อมลู ท่อี ยู่ในรูปอกั ขระ หรอื เอกสาร เช่น ข้อความในหนงั สอื เป็นต้น - เสยี ง (Voice) ข้อมลู เสยี งท่แี หล่งต้นทางสร้างข้นึ มา ซ่งึ อาจจะเป็นเสยี งท่มี นุษย์หรืออปุ กรณ์บางอย่างเป็นตวั สร้างกไ็ ด้ - รูปภาพ (Image) เป็นข้อมูลท่ไี ม่เหมือนข้อความตวั อกั ษรท่เี รยี งตดิ ต่อกนั แต่จะมีลกั ษณะเหมอื นรปู ภาพ เช่น การสแกน ภาพเข้าคอมพวิ เตอร์ เป็นต้น เม่อื เปรียบเทยี บข้อมูลรปู ภาพกบั ข้อมูลข้อความ แล้วรปู ภาพจะมีขนาดใหญ่กว่า - ส่อื ผสม (Multimedia) ข้อมลู ทผ่ี สมลกั ษณะของท้งั รปู ภาพ เสยี งและข้อความเข้าด้วยกนั โดยสามารถเคล่อื นไหวได้ เช่น การเรยี นผ่านระบบ VDO conference เป็นต้น โดยข้อมูลจะมขี นาดใหญ่มาก 2.4 ส่อื กลางหรือตวั กลางในการนาสง่ ข้อมลู (Medium) เป็นส่อื หรอื ช่องทางทใ่ี ช้ในการนาข้อมลู จากต้นทางไปยงั ปลายทาง ซ่งึ อาจเป็นตวั กลางทม่ี ีสายสญั ญาณ เช่น สายไฟ หรือตวั กลางทไ่ี ม่ใช้สายสญั ญาณ เช่น อากาศ เป็นต้น 2.5 โปรโตคอล (Protocol) เป็นข้อกาหนดหรอื ข้อตกลงถึงกฎระเบียบและวธิ กี ารท่ใี ช้ในการส่อื สารเพ่อื ให้ผ้สู ่งและผ้รู ับมี ความเข้าใจตรงกนั 3. จงบอกการสง่ สญั ญาณบนสอื่ กลางขอ้ มูลในรูปแบบต่างๆ ได้ 3.1 ส่อื กลางประเภทสายสญั ญาณ 3.2 ส่อื กลางประเภทไร้สาย 4. ใหน้ กั ศึกษายกตวั อยา่ งชนดิ สอื่ กลางส่งขอ้ มูลทีน่ ามาใชง้ านบน เครือข่ายน้นั ท้งั แบบสอื่ กลางสง่ ขอ้ มูลแบบใชส้ าย และแบบไรส้ าย พรอ้ มท้งั อธิบายการ

การทางาน 1. ส่อื กลางแบบใช้สาย - สายค่บู ิดเกลยี ว (twisted pair cable) สายนาสญั ญาณแบบน้แี ต่ละค่สู ายท่เี ป็นสายทองแดงจะถกู พันบิดเป็นเกลยี ว เพ่อื ลบ การรบกวนของคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้ าจากค่สู ายข้างเคยี งภายในสายเดยี วกนั - สายโคแอกซ์ (coaxial cable) เป็นสายนาสญั ญาณท่เี ราร้จู ักกนั ดี โดยใช้เป็นสายนาสญั ญาณทต่ี ่อจากเสาอากาศเคร่อื งรับ โทรทศั น์หรืสายเคเบลิ ทวี ี - สายไฟเบอร์ออพตกิ (fiber-optic cable) ประกอบด้วยกล่มุ ของเส้นใยทาจากแก้วหรอื พลาสตกิ ท่มี ขี นาดเลก็ ประมาณเส้น ผม แต่ละเส้นจะมีแกนกลาง (core) ท่ถี กู ห่อหุ้มด้วยวสั ดใุ ยแก้วอกี ชนดิ หน่งึ ซ่งึ เรียกว่า แคลด็ ดงิ (cladding) และหุ้มอกี ช้นั ด้วยฉนวนเพ่อื ป้ องกนั การกระแทกและฉีก 2.ส่อื กลางแบบไร้สายการส่อื สารแบบไร้สายอาศัยคล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้ าเป็นส่อื กลางนาสญั ญาณ ซ่งึ คล่นื แม่เหลก็ ไฟฟ้ าท่ี สามารถนามาใช้ในการส่อื สารข้อมูลมหี ลายชนดิ แบ่งตามช่วงความถ่ที ่แี ตกต่างกนั การส่อื สารแบบไรสายมผี ้นู ยิ มใช้มากข้นึ เน่อื งจากมีความคล่องตวั สงู และสะดวกสบาย มกั นิยมใช้กนั ในพ้นื ท่ที ก่ี ารตดิ ต้งั สานนาสญั ญาณทาได้ลาบากหรือค่าใช้จ่ายใน การตดิ ต้งั สงู เกนิ ไป ส่อื กลางของการส่อื สารแบบน้ี เช่น อนิ ฟราเรด ( Infrared : IR ) ไมโครเวฟ ( microwave ) คล่นื วิทยุ (radio wave) และดาวเทยี มส่อื สาร (communications satellite ) 5.จงอธิบายการทาหนา้ ที่ของอปุ กรณท์ ี่ใชใ้ นการส่งรบั ขอ้ มูลการสอื่ สาร มาอย่างนอ้ ย 3 ชนดิ 1. โมเดม็ ( Modem ) โมเดม็ เป็นฮาร์ดแวรท์ ่ที าหน้าทแ่ี ปลงสญั ญาณแอนะลอ็ ก ให้เป็นสญั ญาณดิจทิ ลั เม่อื ข้อมลู ถกู สง่ มายังผ้รู บั และแปลงสญั ญาณดิจทิ ลั ให้เป็นแอนะลอ็ กเม่อื ต้องการสง่ ข้อมูลไปบนช่องส่อื สาร 2. เกตเวย์ ( Gateway ) เกตเวยเ์ ป็นอุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ กี อย่างหน่ึงทช่ี ่วยในการส่อื สารข้อมลู คอมพวิ เตอร์ หน้าท่ี หลักคือช่วยให้เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ 2 เครอื ข่ายหรอื มากกว่าซ่งึ มลี กั ษณะไม่เหมอื นกนั สามารถตดิ ต่อส่อื สารกนั ได้เหมอื น เป็นเครอื ข่ายเดียวกนั 3. เราเตอร์ ( Router ) เราเตอร์ เป็นอุปกรณ์ในระบบเครอื ข่ายทท่ี าหน้าทเ่ี ป็นตวั เช่อื มโยงให้เครือข่ายท่มี ีขนาดหรือ มาตรฐานในการสง่ ข้อมูลต่างกนั สามารถตดิ ต่อแลกเปล่ยี นข้อมลู ระหว่างกนั ได้ เราเตอรจ์ ะทางานอยู่ในช้นั Network หน้าท่ี

ของเราเตอรก์ ค็ ือ ปรบั โปรโตคอล ( Protocol ) (โปรโตคอล เป็นมาตรฐานในการส่อื สารข้อมลู บนเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์) ท่ี ต่างกนั ให้สามารถส่อื สารกนั ได้ แบบฝึ กหดั บทที่ 7 เร่ืองประเภทของเครือข่ายคอมพิวเตอร์

นายสหลาภ ทาสะโก จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศึกษา 4641070641117 นายธธี ชั สังเขป จิตรกกรรมไทย ปี 2 รหัสนกั ศกึ ษา 4641070641114 นายอภสิ ทิ ธ์ิ ซ่ือสตั ย์ จิตรกรรมไทย ปี 2 รหัสนักศกึ ษา 4641070641125 1. จงบอกประเภทของเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ 1. เครอื ข่ายสว่ นบคุ คล หรอื แพน ( Personal Area Network: PAN ) 2. เครือข่ายเฉพาะท่ี หรือแลน ( Local Area Network: LAN ) 3. เครอื ข่ายนครหลวง หรือแมน (Metropolitan Area Network: MAN) 4. เครอื ข่ายวงกว้าง หรอื แวน (Wide Area Network: WAN) 2. ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอรส์ ามารถจาแนกไดก้ ่ีประเภทอะไรบา้ ง 2.1 ใช้ขนาดกายภาพทางภมู ศิ าสตร์ของเครอื ข่ายเป็นเกณฑ์ แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังน้ี 2.1.1 เครือข่ายท้องถ่นิ (LAN: Local Area Network)

2.1.2 เครือข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network 2.1.3 เครอื ข่ายบรเิ วณกว้าง (WAN: Wide Area Network) 2.2 ใช้ลักษณะหน้าท่กี ารทางานของคอมพวิ เตอรใ์ นเครือข่ายเป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังน้ี 2.2.1 เครือข่ายแบบเท่าเทยี ม (Peer-to-Peer Network) 2.2.2 เครอื ข่ายแบบผ้ใู ช้บรกิ ารและผ้ใู ห้บริการ (Client-Server Network ) 2.2.3 ประเภทของเซิร์ฟเวอรท์ ใ่ี ห้บรกิ ารต่างๆ 2.3 ใช้ระดับความปลอดภยั ของข้อมลู เป็นเกณฑ์ สามารถแบ่งได้ดงั น้คี ือ 2.3.1 เครือข่ายสาธารณะ (Internet) 2.3.2 เครือข่ายสว่ นบคุ คล (Intranet) 2.3.3 เครือข่ายร่วม (Extranet) 3.ประเภทเครือขา่ ยทีใ่ ชข้ นาดทางกายภาพของเครือขา่ ยเป็ นเกณฑแ์ บ่งเป็ นกี่ ประเภท อะไรบา้ งจงอธิบาย 3.1 เครอื ข่ายท้องถ่นิ (LAN: Local Area Network) เครอื ข่ายท้องถ่นิ (LAN: Local Area Network) เป็นรากฐานของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่วั ไปเป็นการเช่อื มโยง เครือข่ายคอมพวิ เตอรถ์ งึ กนั ท้งั หมดโดยอาศยั ส่อื กลาง มกี ารแบ่งแยกเครือข่ายออกเป็น 2 รูปแบบการเช่อื มโยงคอื การ เช่อื มโยงภายในพ้นื ทร่ี ะยะใกล้หรือ แลน (LAN) และการเช่อื มโยงระยะไกลหรอื แวน (WAN) โดยการเช่อื มโยงเครือข่าย แบบแลน มี 3 รปู แบบ (สานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยแี ห่งชาติ, 2554) คอื แบบบสั (Bus) แบบสตาร์ (Star) แบบรงิ (Ring) 3.2 เครือข่ายในเขตเมอื ง (MAN: Metropolitan Area Network) เครือข่ายในเขตเมือง (MAN: Metropolitan Area Network) คือ เครอื ข่ายคอมพวิ เตอรข์ นาดใหญ่มากจะมี ขนาดครอบคลมุ เมอื งหรอื บริเวณมหาวิทยาลัย ระบบโครงสร้างพ้นื ฐานโดยปกติแล้วจะเป็นระบบไร้สายเช่นการใช้คล่นื

ไมโครเวฟหรือใช้ใยแก้วนาแสง เป็นตวั เช่อื มต่อระหว่างสถานท่ตี ่างๆเข้าด้วยกนั (ฝ่ ายตาราวิชาการคอมพิวเตอร์, 2558) ตัวอย่างการใช้งานจรงิ เช่น ภายในมหาวทิ ยาลยั หรอื ในสถานศกึ ษา จะมีระบบแมนเพ่อื เช่อื มต่อระบบแลนของแต่ละคณะวชิ า เข้าด้วยกนั เป็นเครอื ข่ายเดียวกนั ในวงกว้าง เทคโนโลยีทใ่ี ช้ในเครอื ข่ายแมนได้แก่ ATM FDDI และ SMDS ระบบเครือข่าย แมนท่จี ะเกดิ ในอนาคตอนั ใกล้ คือระบบทจ่ี ะเช่อื มต่อคอมพวิ เตอร์ภายในเมอื งเข้าด้วยกนั โดยผ่านเทคโนโลยี Wi-Max การสง่ ข้อมลู ของเครือข่ายแมนจะข้นึ กบั ช่องทางการส่อื สาร ทอ่ี าจมีความเรว็ ปานกลางจนถงึ ความเรว็ สงู ระบบ การส่งข้อมูลท่ใี ช้ในเครอื ข่ายแมนน้นั มีท้งั แบบใช้สายสญั ญาณและแบบไม่ใช้สายสญั ญาณ แต่จะใช้คล่นื ไมโครเวฟหรอื คล่นื วิทยุแทนกไ็ ด้ 3.3 เครอื ข่ายบรเิ วณกว้าง (WAN: Wide Area Network) เครอื ข่ายบริเวณกว้าง (WAN: Wide Area Network) เป็นระบบเครือข่ายท่เี ช่อื มโยงเครอื ข่ายแบบท้องถ่นิ ต้งั แต่ 2 เครอื ข่ายข้นึ ไปเข้าด้วยกนั ผ่านระยะทางท่ไี กลมาก โดยการเช่อื มโยงจะผ่านช่องทางการส่อื สารข้อมลู สาธารณะของบริษทั โทรศัพทห์ รือองคก์ ารโทรศพั ทข์ องประเทศต่างๆ เช่น สายโทรศพั ทแ์ บบอนาลอก สายแบบดจิ ิทัล ดาวเทยี ม ไมโครเวฟ เป็น ต้น LAN เป็นเทคโนโลยีสาหรบั การเช่อื มต่าเครอื ข่ายภายในอาคาร หรือพ้นื ทท่ี ม่ี รี ัศมีประมาณ 2-3 กโิ ลเมตร สว่ น WAN เป็นเครือข่ายท่ใี ช้สาหรับการเช่อื มต่อระยะไกล เช่น เครอื ข่ายภายในหรือระหว่างเมือง หรอื แม้กระทง่ั การเช่อื มต่อ ระหว่างประเทศท่วั โลก เทคโนโลยีทจ่ี ดั อยู่ในประเภท WAN เช่น รโี มทแอก็ เซสส์ (Remote Access) สายค่เู ช่า (Leased Line) ISDN (Integrated Service Digital Network) ADSL (Asynchronous Digital Subscriber Line) และระบบดาวเทยี ม เป็นต้น 4.ประเภทเครือขา่ ยทีใ่ ชล้ กั ษณะหนา้ ที่การทางานของคอมพวิ เตอรใ์ นเครือข่าย เป็ นเกณฑ์ สามารถแบ่งไดก้ ป่ี ระเภท อะไรบา้ งจงอธิบาย 4.1 เครอื ข่ายแบบเพียรท์ ูเพียร์ (Peer to Peer Network) เป็นการเช่อื มต่อเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ ข้าด้วยกนั โดยเคร่อื งคอมพิวเตอร์แต่ละเคร่อื งจะสามารถแบ่งทรพั ยากร ต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นไฟล์หรอื เคร่อื งพมิ พ์ซ่งึ กนั และกนั ภายในเครอื ข่ายได้ เคร่อื งแต่ละเคร่อื งจะทางานในลกั ษณะท่ที ดั เทยี มกนั ไม่มเี คร่อื งใดเคร่อื งเคร่อื งหน่งึ เป็นเคร่อื งหลกั เหมอื นแบบ Client/Server แต่กย็ งั คงคุณสมบัติพ้นื ฐานของระบบเครือข่ายไว้ เหมอื นเดมิ การเช่อื มต่อแบบน้มี กั ทาในระบบท่มี ขี นาดเลก็ ๆ เช่น หน่วยงานขนาดเลก็ ทม่ี ีเคร่อื งใช้ไม่เกนิ 10 เคร่อื ง การ เช่อื มต่อแบบน้มี จี ุดออ่ นในเร่อื งของระบบรกั ษาความปลอดภัย แต่ถ้าเป็นเครอื ข่ายขนาดเลก็ และเป็นงานท่ไี ม่มีข้อมูลทเ่ี ป็น ความลับมากนัก เครอื ข่ายแบบน้ี กเ็ ป็นรปู แบบทน่ี ่าเลอื กนามาใช้ได้เป็นอย่างดี 4.2 เครอื ข่ายแบบไคลเอนทเ์ ซิรฟ์ เวอร์ (Client/Server Network) เป็นระบบท่มี ีเคร่อื งคอมพิวเตอร์ทุกเคร่อื งมฐี านะการทางานทเ่ี หมอื นๆ กนั เทา่ เทยี มกนั ภายในระบบเครือข่าย แต่จะมเี คร่อื งคอมพิวเตอรเ์ คร่อื งหน่งึ ทท่ี าหน้าทเ่ี ป็นเคร่อื ง Server ท่ที าหน้าทใ่ี ห้บรกิ ารทรัพยากรต่างๆ ให้กบั เคร่อื ง Client หรอื เคร่อื งทข่ี อใช้บริการ ซ่ึงอาจจะต้องเป็นเคร่อื งท่มี ปี ระสทิ ธภิ าพทค่ี ่อนข้างสงู ถึงจะทาให้การให้บรกิ ารมีประสทิ ธภิ าพตาม ไปด้วย ข้อดขี องระบบเครือข่าย Client - Server เป็นระบบท่มี กี ารรักษาความปลอดภยั สงู กว่าระบบแบบ Peer To Peer

เพราะว่าการจดั การในด้านรักษาความปลอดภัยน้นั จะทากนั บนเคร่อื ง Server เพยี งเคร่อื งเดยี ว ทาให้ดูแลรักษาง่าย และ สะดวก มกี ารกาหนดสทิ ธกิ ารเข้าใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้กบั เคร่อื งผ้ขู อใช้บริการ หรอื เคร่อื ง Client 5. ประเภทเครือข่ายที่ใชร้ ะดบั ความปลอดภยั ของขอ้ มูลเป็ นเกณฑม์ อี ะไรบา้ งจง อธิบาย การแบ่งประเภทเครอื ข่ายตามระดับความปลอดภยั ของข้อมูล ซ่งึ จะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทคอื อนิ เทอร์เนต็ (Internet) อนิ ทราเนต็ (Intranet) และ เอก็ สท์ ราเนต็ (Extranet) อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นเครอื ข่ายสาธารณะทท่ี ุกคนสามารถเช่อื มต่อเข้าได้ เครือข่ายน้ีจะไม่มคี วามปลอดภยั ของข้อมูลเลย ถ้าทกุ คนสามารถเข้าถึงข้อมูลท่แี ชรไ์ ว้บนอนิ เทอรเ์ นต็ ได้ ในทางตรงกนั ข้าม อนิ ทราเนต็ เป็นเครือข่ายส่วนบคุ คล ข้อมูลจะถูกแชรเ์ ฉพาะผ้ทู ใ่ี ช้อยู่ข้างในเท่าน้นั หรอื ผ้ใู ช้อนิ เทอร์เนต็ ไม่สามารถเข้ามาดู ข้อมูลในอนิ ทราเนต็ ได้ถงึ แม้ว่าทง้ั สองเครอื ข่ายจะมีการเช่อื มต่อกนั อยู่กต็ าม สว่ นเอก็ ทราเนต็ น้นั เป็นเครือข่ายแบบก่งึ อนิ เทอร์เนต็ และอนิ ทราเนต็ กล่าวคือ การเข้าใช้เอก็ สท์ ราเนต็ น้นั มกี ารควบคมุ เอก็ สท์ ราเนต็ ส่วนใหญ่จะเป็นเครือข่ายท่ี เช่อื มต่อระหว่างองค์กรเพ่อื แลก เปล่ยี นข้อมลู บางอย่างซ่งึ กนั และกนั ในการแลกเปล่ยี นข้อมลู น้ีต้องมกี ารควบคุม เพราะมี เฉพาะข้อมูลบางอย่างเทา่ น้นั ทต่ี ้องการแลกเปล่ียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook