Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Innovative skills

Innovative skills

Published by jt2554, 2019-03-01 21:25:29

Description: Develop innovative skills through the King's science and
project-based learning of grade 6 students
at Watphramahathat school, Mueang, Nakhon Si Thammarat

Keywords: Creative skills, project-based learning, the King's science

Search

Read the Text Version

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช การพัฒนาทกั ษะสร้างสรรคน์ วัตกรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามศาสตรพ์ ระราชา ของ นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นวดั พระมหาธาตุ อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช (Develop innovative skills through the King's science and project-based learning of grade 6 students at Watphramahathat school, Mueang, Nakhon Si Thammarat) จริยา ทองหอม* โรงเรยี นวดั พระมหาธาตุ สานกั งานเขตพ้นื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 1 อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช *Email: [email protected] Jariya Tonghom Watphramahathat school, Nakhon Si Thammarat primary education area office 1, Mueang, Nakhon Si Thammarat.) จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 1

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงาน ตามศาสตรพ์ ระราชา ของ นกั เรียนชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช (Develop innovative skills through the King's science and project-based learning of grade 6 students at Watphramahathat school, Mueang, Nakhon Si Thammarat) จรยิ า ทองหอม* โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ สานักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษานครศรธี รรมราช เขต 1 อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช *Email: [email protected] Jariya Tonghom Watphramahathat school, Nakhon Si Thammarat primary education area office 1, Mueang, Nakhon Si Thammarat.) บทคัดยอ่ การวิจัยครั้งนีม้ ีวตั ถุประสงค์เพอ่ื ศึกษาประสทิ ธผิ ลของทกั ษะสรา้ งสรรค์นวตั กรรมผา่ นการเรยี นรู้แบบโครงงาน ตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรยี นชั้นประถม ศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีขน้ั ตอน การดาเนินงาน 3 ข้นั ตอน คือ ข้นั ตอนท่ี 1 การสงั เคราะหข์ อ้ มูลพนื้ ฐาน ข้ันตอนท่ี 2 การพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม ผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ข้ันตอนที่ 3 การประเมินผลการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์สร้างสรรค์ นวตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา การวเิ คราะห์ขอ้ มลู เชิงปริมาณ โดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์ค่าสถิติ พ้นื ฐาน ไดแ้ ก่ การหาค่าเฉลยี่ ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าที และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้วิธีวิเคราะห์ เน้ือหาโดยการศึกษาแบบพรรณนาวิเคราะห์จากการทดลอง การการสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน การตรวจผลงานนักเรียน แลว้ นาเสนอในรูปความเรียงประกอบการอธิบายเสริมข้อมูลเชิงปริมาณ ตั้งแต่ก่อนการทดลอง ระหว่างการทดลอง และหลัง การทดลอง การตรวจสอบประสิทธิผลของทกั ษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา โดยใช้ แบบแผนการทดลอง One-Group Pretest-Posttest Design ทาการทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีที่ 6 จานวน 40 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบกลุ่ม ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยทักษะ สรา้ งสรรคน์ วัตกรรมหลงั เรียนสงู กว่ากอ่ นการเรียนอยา่ งมีนัยสาคัญท่รี ะดับ 0.05 ผลการประเมนิ ทักษะสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม มปี ระสิทธผิ ลตามเกณฑท์ ่ีกาหนด คาสาคัญ: ทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรม, การเรยี นรู้แบบโครงงาน, ศาสตรพ์ ระราชา Abstract The purpose of this research is to study the effectiveness of innovation skills through project- based learning. According to the King's science of grade 6 students, Wat Phra Mahathat School, Muang District, Nakhon Si Thammarat Province. The implementation of 3 steps: Step 1. Synthesis of basic information. Step 2 Development of innovative skills through project-based learning based on the King's จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 2

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช science. Step 3 Evaluation of skills development, creativity, innovation through learning project based on the King's sciences. Quantitative data analysis by using the program to analyze basic statistics such as average value, standard deviation, Analysis of t and analyzing qualitative data by using content analysis method by studying descriptive analysis from experiments observation of learner behavior student performance examination and presented in the form of composing, explaining, supplementing, quantitative information from before the experiment, during the experiment and after the experiment. Examining the effectiveness of innovative skills through project-based learning based on the King's science by using the One-Group Pretest-Posttest Design experiment, the experiment was conducted with students in the sample group of 40 students in grade 6, using the group selection method. After learning significantly higher than before learning at the level of 0.05, the results of the evaluation of innovative skills were effective according to the criteria set. Keywords: Creative skills, project-based learning, the King's science บทนา ประโยชน์ในการทางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ และ แข่งขันในสังคมไทยและสากล เห็นแนวทางในการ \" ก า ร พั ฒ น า ป ร ะ เ ท ศ จ ะ ส า เ ร็ จ ผ ล ม า ก น้ อ ย ประกอบอาชีพ รักการทางาน และมีเจตคติท่ีดีต่อการ เพียงใด ย่อมข้ึนอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง คือ ต้องมีคนดี ทางาน สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างพอเพียง เป็นผู้ปฏิบัติ มีวิทยาการที่ดีเป็นเคร่ืองใช้ประกอบการ และมีความสุข โดยกาหนดคุณภาพผู้เรียนเม่ือจบช้ัน และมีการวางแผนท่ีดีเป็นหลักปฏิบัติ บัณฑิตในฐานะผู้มี ประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีความเข้าใจการทางานและ ปัญญาและความรู้ จึงควรจะได้ร่วมกันเป็นกาลังพัฒนา ปรับปรุงการทางานแต่ละขั้นตอน มีทักษะการจัดการ ประเทศชาติให้วิวัฒนาการไปด้วยดีในทุก ๆ ด้าน ทักษะการทางานร่วมกัน ทางานอย่างเป็นระบบและมี ประโยชน์อันพึงประสงค์ของการพัฒนาก็คือ ความผาสุก ความคิดสร้างสรรค์ มีลักษณะนิสัยการทางานท่ีขยัน สงบ ความเจรญิ ม่ันคงของประเทศชาติและประชาชน แต่ อดทน รับผิดชอบ ซื่อสัตย์ มีมารยาท และมีจิตสานึกใน การทจี่ ะพฒั นาใหบ้ รรลุผลเปน็ ประโยชนด์ ังกลา่ วได้จาเป็น การใช้น้า ไฟฟ้าอย่างประหยัดและคุ้มค่า มีความรู้และ ที่จะต้องพัฒนาฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนให้อยู่ดี เข้าใจเก่ียวกับอาชีพ รวมท้ังมีความรู้ ความสามารถและ กินดี เป็นเบื้องต้นก่อน เพราะฐานะความเป็นอยู่ของ คุณธรรมที่สมั พนั ธ์กับอาชพี (สพฐ. 2551) ประชาชนน้ัน คือรากฐานอย่างสาคัญของความสงบและ ความเจริญมัน่ คง ถ้าประชาชนทุกคนมีฐานะความเป็นอยู่ ความทา้ ทายที่เป็นพลวัตของโลกศตวรรษที่ ๒๑ ทด่ี ีแลว้ ความสงบ และความเจริญ ย่อมจะเป็นผลก่อเกิด ท้ังในส่วนที่เป็นแรงกดดันภายนอก ได้แก่ การเปลี่ยน ต่อตามมาอย่างแน่นอน จึงอาจพูดได้ว่า การพัฒนา ก็คือ แปลงของบริบทเศรษฐกิจและสังคมโลก อันเน่ืองจากการ การทาสงครามกับความยากจน เพื่อความอยู่ดีกินดีของ ปฏิวัติดิจิทัล (Digital Revolution) การเปลี่ยนแปลงสู่ ประชาชนโดยตรง เม่ือใดก็ตาม ที่ประชาชนมีความอยู่ดี อุตสาหกรรม ๔.๐ (The Fourth Industrial กินดี และประเทศชาติมีความสงบ มีความเจริญ เม่ือนั้น Revolution) การดาเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการ การพัฒนาจึงจะถือได้ว่าประสบความสาเร็จ เป็นชัยชนะ พัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ๒๕๗๓ ของการพัฒนาอย่างแท้จริง\" (พระบรมราโชวาทของ (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อ ประเทศไทยได้ให้สตั ยาบัน รวมทัง้ ผลกระทบของการเปน็ วนั ที่ 26 กรกฎาคม 2539) ประชาคมอาเซยี น และความต้องการกาลงั คนทม่ี ที กั ษะใน ศตวรรษท่ี ๒๑ ประกอบกบั แรงกดดันจากภายในประเทศ ความคาดหวังของหลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้ จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรที่ส่งผลให้ การงานอาชีพและเทคโนโลยีมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ประเทศเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ ความเข้าใจ มีทักษะพ้ืนฐานท่ีจาเป็นต่อการดารงชีวิต การติดกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ทัศนคติความ และรเู้ ท่าทันการเปล่ยี นแปลง สามารถนาความรู้เก่ียวกับ เชื่อ ค่านิยม วัฒนธรรม และพฤติกรรมของประชากรที่ การดารงชีวิต การอาชีพ และเทคโนโลยี มาใช้ จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 3

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ปรับเปล่ียนไปตามกระแส โลกาภิวัตน์การเติบโตทาง อาชีพและเทคโนโลยีจึงไม่บรรลุตามความคาดหวังของ เศรษฐกิจของประเทศท่ีส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติถูก หลักสูตร จากการรายงานของสานักงานคณะกรรมการ ทาลายและ เสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว รวมทั้งระบบ การศึกษาแห่งชาติ เรื่อง หลักสูตรการศึกษาทั้งระดับ การศึกษาที่ยังมีปัญหาหลายประการ นับตั้งแต่ปัญหา ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา พบว่า การกาหนดสัดส่วน คุณภาพ ของคนไทยทุกช่วงวัย ปัญหาคุณภาพและ และเวลาเรียนเน้ือหาทางวิชาการและทักษะอ่ืนๆ ยังไม่ มาตรฐานการจดั การศึกษาในทุกระดับ จุดอ่อนของระบบ เหมาะสม ขาดเน้ือหาสาระที่จาเป็นต่อการเรียนรู้สู่โลก การศึกษาและการพัฒนาบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์ แห่งอนาคต ส่วนกระบวนการเรียนการสอนและการ ภาษาองั กฤษ เทคโนโลยแี ละการบริหาร จดั การศึกษาของ บรหิ ารจัดการ พบว่า ครูส่วนใหญ่ยงั ใช้การสอนแบบเดิมๆ สถานศึกษาที่ยังไม่เหมาะสม ขาดความคล่องตัว ยังมี คือ บรรยาย ไม่เนน้ กระบวนการให้ผเู้ รยี นไดพ้ ัฒนาการคิด ความเหล่ือมล้าในด้านโอกาส และความเสมอภาคทาง วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และ การศึกษา รวมทง้ั ปญั หาด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และการ ครูยังใช้ส่ือประกอบการเรียนการสอนท่ีไม่หลากหลาย ขาด ความตระหนักถึงความสาคัญของการมีวินัย ความ (ชโลธร ใจหาญ. 2558: 863) ซ่ือสัตย์สุจริต และการมีจิตสาธารณะของคนไทย ส่วน ใหญ่ ส่งผลกระทบต่อระบบการศึกษา ท่ีต้องปรับเปลี่ยน ผู้วิจัยมีแนวคิดในการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์ ให้สนองและรองรับความท้าทาย ด้านคุณภาพการศึกษา น วั ต ก ร ร ม ผ่ า น ก า ร เ รี ย น รู้ แ บ บ โ ค ร ง ง า น ต า ม ศ า ส ต ร์ ผลการพัฒนายังไม่เป็นท่ีน่าพึงพอใจ เนื่องจากผลสัมฤทธิ์ พระราชา ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน ทางการเรียนระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน มีคะแนนต่ากว่า วัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยน้อม ค่าเฉล่ียมาก และต่ากว่าหลายประเทศในแถบ เอเชีย เกล้าฯ นาศาสตร์พระราชา ซ่ึงเป็นความรู้และภูมิปัญญา นอกจากน้ี คุณภาพของกาลังแรงงานอายุ ๑๕ ปีขึ้นไป ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาล ยังไม่ตรงกับความต้องการของตลาดงานจึงจาเป็นต้องให้ ที่ 9 ทรงปฏิบัติเพ่ือช่วยเหลือประชาชนของพระองค์ ความสาคัญกับการพัฒนาผู้เรียนและกาลังแรงงานท่ีมี ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ กว่า 70 ปี เป็นความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะที่พร้อมเพื่อตอบสนอง ต่อความ และภูมิปญั ญาจากโครงการพระราชดาริสพี่ ันกว่าโครงการ ต้องการของภาคส่วนต่าง ๆ โดยจะต้องมีการวิเคราะห์ ที่เกี่ยวข้องกับการทามาหากินของคนจนชาวไร่ชาวนาทั่ว ความต้องการกาลังคน เพื่อวาง เป้าหมายการจัด ประเทศเกยี่ วกับการจดั การดนิ การจัด การนา้ การเกษตร การศกึ ษา ท้ังเพ่อื การผลติ กาลงั คนเขา้ สตู่ ลาดงานและการ แปรรูป พลงั งานทางเลือก สิ่งแวดล้อมชุมชน การปลูกป่า พัฒนากาลังคนเพื่อ ยกระดับคุณภาพกาลังแรงงานให้ ปลกู ต้นไม้ ปลูกพืชผักส่วนครัว เป็นต้น จึงเป็นหน้าท่ีของ สงู ขึ้น (สกศ. 2560) คนไทยทุกคนทคี่ วรศึกษา และนามาใชเ้ ปน็ แนวทางในการ ดาเนินชีวติ ตามรอยพระบาท และนอ้ มนาหวั ใจการศึกษา สภาพการจัดการศึกษาของประเทศไทยท่ีผ่าน ตามศาสตร์พระราชา ประกอบด้วยใจความสาคัญ 3 มายังไม่เอ้ือต่อการพัฒนาประเทศเท่าท่ีควร เพราะ ไม่ ขั้นตอนที่พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ส า ม า ร ถ ท า ใ ห้ ผู้ เ รี ย น ไ ด้ เ รี ย น ใ น สิ่ ง ท่ี ต น ถ นั ด ต า ม รัชกาลที่ 9 ทรงแนะนา ได้แก่ หนึ่ง...ให้ครูรักเด็ก และ ความสามารถและความตอ้ งการ ตลอดจนความเหมาะสม เด็กรักครู สอง...ให้ครูสอนเด็กให้มีน้าใจต่อเพื่อน ไม่ให้ กับการประกอบอาชีพของตนและท้องถิ่น (สพฐ. 2551) แข่งขันกัน แต่ให้แข่งขันกับตัวเอง...ให้เด็กที่เรียนเก่งกว่า ปัญหาการจัดการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้การ ช่วยสอนเพื่อนทเ่ี รยี นช้ากวา่ และสาม...ให้ครูจัดกิจกรรม งานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่า ครูยังจัดกิจกรรมการ ให้เด็กทาร่วมกัน เพื่อให้เห็นคุณค่าของความสามัคคี มา เรียนการสอนไม่สอดคล้องกับการปฏิรูปการศึกษา เป็นแนวทางในการออกแบบการเรยี นรู้และการวิจัย นักเรียนไม่ได้ลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง ได้ฝึกปฏิบัติน้อย ขาดทักษะและกระบวนการทางานท่ีถูกต้อง นักเรียนไม่ การเรยี นรู้โดยโครงงานเป็นส่วนหนึ่งของทฤษฎี เปลย่ี นแปลงพฤติกรรมการเรียนรู้ ไม่ชอบแสวงหาความรู้ การเรียนรู้คอนสตรัคติวิสต์ (Constructivist learning และการค้นคว้าด้วยตนเอง การวัดผลและประเมินผลครู theory) ทีร่ ะบวุ า่ “ความรสู้ ามารถสร้างข้นึ เองไดโ้ ดยผ่าน จะเน้นด้านความรู้มากกว่าทักษะกระบวนการและ การสะทอ้ นคดิ และการสร้างความรู้ใหม่จากประสบการณ์ คุณธรรมจริยธรรมจึงไม่สามารถนาความรู้ไปใช้ในการ เดิมการมีปฏิสัมพันธ์หรือร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้กับบุคล ดาเนินชีวิตจริงได้ การจัดการศึกษากลุ่มสาระการงาน อ่ืน ซ่ึงจุดมุ่งหมายในการจัดการเรียนรู้โดยโครงงาน อภิญญา สิทธิวงค์ (2558: 18-19) ได้อธิบายไว้ว่าเป็น จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 4

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช การจัดการเรียนรูเ้ พอื่ ใหผ้ ู้เรยี นรู้จักดาเนินการหรือทางาน พระราชา ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน ตามลาดับขั้นตอนตามแผนการทาโครงงานที่วางไว้อย่าง วัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรธี รรมราช เป็นระบบ อาจทาการทาโครงงานรายบุคคลหรือกลุ่มก็ได้ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ แ บ บ โ ค ร ง ง า น มุ่ ง ใ ห้ ผู้ เ รี ย น เ กิ ด วิธีการวิจัย กระบวนการเรียนรู้ที่สาคัญ จากการศึกษาเอกสาร งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน สามารถสรุปได้ว่า การ ประชากร ได้แก่ นักเรียนที่กาลังเรียนชั้น เรยี นรู้โดยโครงงานเปน็ วิธกี ารเรียนรู้ท่ีเกิดจากความสนใจ ประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 ใคร่รู้ของผู้เรียนที่อยากจะศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสิ่งใดส่ิง ของโรงเรียนในจังหวดั นครศรธี รรมราช จานวน 347 คน หนงึ่ ทตี่ นสนใจโดยใชว้ ธิ กี ารศกึ ษาหลาย ๆ วิธีเพ่ือให้ได้มา ซึ่งคาตอบที่ลึกซึ้งชัดเจนด้วยตัวผู้เรียนเอง โดยมีการวาง กล่มุ ตวั อย่าง การเลอื กกลมุ่ ตัวอยา่ งที่ใชใ้ นการ แผนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีขั้นตอนที่ต่อเนื่อง และ วิจัยคร้ังนี้ผู้วิจัยใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม ซึ่งจัดนักเรียนแบบ ลงมือปฏิบัติตามที่วางแผนไว้จนได้ข้อสรุปผลการศึกษา คละความสามารถ จานวน 40 คน ของนักเรียนช้ัน หรือคาตอบเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ การเรียนรู้โดยโครงงาน ประถมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 เป็นกิจกรรมท่ีมีขั้นตอนและการดาเนินการท่ีต่อเน่ือง ของ โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อาเภอเมือง สานักงานเขต ตั้งแต่เร่ิมต้นจนถึงข้ันสุดท้าย เมื่อพิจารณาตามความ พนื้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษานครศรีธรรมราช เขต 1 เหมาะสมกับวัย ความถนัดและความสนใจของผู้เรียนใน ระดับการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ประกอบด้วยข้ันตอนสาคัญ วิธีเลือกกลุ่มตัวอย่าง การสุ่มตัวอย่างแบบ 5 ข้ันตอน ได้แก่ 1) ขั้นการเลือกเร่ือง/ประเด็นปัญหา กลมุ่ (Cluster sampling) 2) ขั้นการวางแผนการทาโครงงาน 3) ข้ันการลงมือทา โครงงาน 4) ข้ันการเขียนรายงาน และ 5) ข้ันการ เคร่ืองมอื นาเสนอโครงงาน 1. วิธีการเรยี นรแู้ บบโครงงานตามศาสตร์ พระราชา จากเหตุผลดังท่ีกล่าวมาน้ัน จึงทาให้ผู้วิจัยเห็น 2. แบบประเมินทักษะสร้างสรรคน์ วัตกรรม ถึงความสาคญั ของการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอนทเ่ี น้น ผ้เู รยี นเปน็ ศนู ยก์ ลาง เพือ่ พฒั นาความสามารถให้นักเรียน การสร้างเครื่องมอื สามารถนากระบวนการคิดวิเคราะห์ไปใช้เป็นรากฐานใน ข้ันตอนท่ี 1 การสงั เคราะห์ขอ้ มูลพ้ืนฐาน การพฒั นาตนเองให้เตม็ ศักยภาพ และใชค้ วามสามารถท่ีมี วิธีดาเนินการ การสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน อยใู่ ห้เป็นประโยชนต์ ่อตนเองและสังคมได้ ดังนน้ั ผวู้ ิจัยจึง สนใจที่จะวิจัยและพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่าน เป็นขั้นตอนที่ผู้วิจัยใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหาจากเอกสาร การเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ งานวิจัย ใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลและใช้วิธีวิจัยเชิงประจักษ์ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ จ า ก ก า ร ศึ ก ษ า บ ริ บ ท ส ภ า พ ปั จ จุ บั น ปั ญ ห า ข อ ง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รายวิชาการงานอาชีพและ กลุ่มเป้าหมายในสถานศึกษาเพ่ือตอบปัญหาวิจัยว่าการ เทคโนโลยี เพ่ือจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน พัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบ เปน็ สาคญั นอ้ มนาหัวใจการศกึ ษาตามศาสตรพ์ ระราชามา โครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนช้ัน ใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนสามารถเลือกและสร้าง ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมือง กระบวนการเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากแหล่งความรู้ที่ จ.นครศรธี รรมราช มีประสิทธผิ ลตามวัตถปุ ระสงคห์ รือไม่ หลากหลาย อีกท้ังเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้มี ประสิทธิภาพและสอดคล้องตามเป้าหมายของการศึกษา ผู้วจิ ัยไดก้ าหนดวธิ ีศึกษาและสังเคราะห์เอกสาร ในยคุ ปจั จบุ ัน งานวิจัยข้อมูลพ้ืนฐานออกเป็น 3 หมวด มีรายละเอียด ดงั น้ี วัตถปุ ระสงค์การวิจยั หมวดที่ 1 การจัดการเรียนรู้ด้วยโครงงาน เพ่ือศึกษาประสิทธิผลของทักษะสร้างสรรค์ และการเรยี นรสู้ ร้างสรรค์นวัตกรรม เป็นข้ันตอนที่ผู้วิจัย นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์ ดา เนิ น กา รสั ง เค ร าะ ห์เ พ่ื อห า ข้อ สรุ ป ร่ว ม เกี่ ยว กั บก า ร จัดการเรียนรู้โดยโครงงานจากเอกสารงานวิจัยของนัก ก า ร ศึ ก ษ า ทั้ ง ช า ว ไ ท ย แ ล ะ ช า ว ต่ า ง ป ร ะ เ ท ศ ใ น มิ ติ ที่ เกี่ยวข้องการจัดการเรียนรู้โดยโครงงาน (Howard, J. 2002; วุทธิศักดิ์ โภชนุกูล. 2556; จริยา ทองหอม. จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 5

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 2554) และการเรียนรู้สร้างสรรค์นวัตกรรม กลุ่ม ท ด ส อ บ ใ ห้ ส่ิ ง ท ด ส อ บ (ราชบัณฑิตยสถาน. 2555; วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต ก่อน ทดลอง หลัง พฒั ผล. 2558; เนาวนิตย์ สงคราม. 2557) E (กลุ่ม O1 X O2 หมวดที่ 2 ทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม เป็น ทดลอง) ข้ันตอนท่ีผู้วิจัยดาเนินการสังเคราะห์หลักการแนวคิด ทฤษฎี จากเอกสารงานวิจัยของนักการศึกษาท้ังชาวไทย ขั้นตอนที่ 3 การประเมินผลการพฒั นา และชาวตา่ งประเทศในมติ ทิ ี่เกี่ยวขอ้ งกับทักษะสร้างสรรค์ ทกั ษะสร้างสรรค์สร้างสรรค์นวัตกรรมผา่ นการเรียนรู้ นวัตกรรมเพ่ือหาข้อสรุปร่วม โดยผู้วิจัยได้กาหนดคา แบบโครงงานตามศาสตรพ์ ระราชา สาคัญ ปฏิบัติการสืบค้น อ่านจดบันทึกเอกสารงานวิจัย สังเคราะห์ และเขียนรายงานผลการศึกษาเอกสาร วตั ถุประสงค์ เพ่ือตรวจสอบประสิทธิผลของ งานวิจัยในประเด็นท่ีเก่ียวข้องกับสมรรถนะสร้างสรรค์ การพฒั นาทักษะสร้างสรรค์สร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการ นวัตกรรม โดยกาหนดคาสาคัญ 4 ประเด็น ได้แก่ เรียนรูแ้ บบโครงงานตามศาสตรพ์ ระราชา สมรรถนะ ความคิดสรา้ งสรรค์ นวตั กรรม และสมรรถนะ สร้างสรรค์นวัตกรรม (McClelland. 1973: 1-13; วิธีดาเนนิ การ Spencer, Lyle M.; & Signe M. 1993: 9-12; 1. กาหนดเกณฑ์ประสิทธิผลของการ เนาวนิตย์ สงคราม. 2557; ปรัชญนันท์ นิลสุข และ ปณติ า วรรณพิรณุ . 2556; จรยิ า ทองหอม 2560) พัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบ โครงงานตามศาสตร์พระราชา ผลการสังเคราะหเ์ อกสารงานวิจัยท่เี กยี่ วขอ้ งกับ ที่เก่ียวข้องกบั สมรรถนะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม ทาให้ 2. นาผลการวิเคราะห์มาเปรียบเทียบกับ สามารถนาความรู้ที่ไดม้ าบูรณาการใช้เป็นขอ้ มูลพืน้ ฐาน เ ก ณ ฑ์ ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ข อ ง ก า ร พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ส ร้ า ง ส ร ร ค์ ในการพฒั นาทกั ษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผา่ นการเรียนรู้ น วั ต ก ร ร ม ผ่ า น ก า ร เ รี ย น รู้ แ บ บ โ ค ร ง ง า น ต า ม ศ า ส ต ร์ แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา อาทิ เช่น นยิ าม พระราชา ดาเนินการโดยนาผลการวิเคราะห์ข้อมูลก่อน ความหมายของสมรรถนะสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม นยิ าม ระหว่าง และหลังการใช้กับกลุ่มตัวอย่างมาตรวจสอบกับ ความหมายของทักษะสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม องคป์ ระกอบ เกณฑ์ประสทิ ธิผลทผี่ ู้วิจัยได้กาหนดไว้ ของทกั ษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม และวิธกี ารเสริมสร้าง สมรรถนะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม 3. นาข้อมลู และข้อเสนอแนะต่าง ๆ ที่ได้ จากการทดลองใช้มาประเมินผลตามเกณฑ์ท่ีกาหนดและ ขน้ั ตอนท่ี 2 การพฒั นาทักษะสร้างสรรค์ นามาปรบั ปรงุ แก้ไขท้ังในดา้ นโครงสร้างและรายละเอยี ดที่ นวัตกรรมผ่านการเรยี นร้แู บบโครงงานตามศาสตร์ เป็นองค์ประกอบของทักษะ เพ่ือให้การพัฒนาทักษะ พระราชา เปน็ ข้นั ตอนทีผ่ ูว้ จิ ัยนาทกั ษะสร้างสรรค์ สร้างสรรค์สร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบ นวตั กรรมผา่ นการเรียนรูแ้ บบโครงงานตามศาสตร์ โครงงานตามศาสตร์พระราชามีความถูกต้อง และ พระราชาไปทดลองใชก้ ับกลมุ่ ตัวอย่างเพื่อตรวจสอบ เหมาะสม และสามารถนาไปใช้ในโอกาสต่อไป ได้อย่างมี ประสิทธผิ ลของหลักสูตร ดังนี้ ประสทิ ธภิ าพ วัตถุประสงค์ เพ่ือตรวจสอบประสิทธิผลของ การเก็บข้อมูล หลักสูตร ขั้นท่ี 1 ผู้วิจัยดาเนินการศึกษาวิเคราะห์สภาพ แบบแผนการทดลองใช้หลกั สตู ร ปัจจุบันปัญหา เหตุการณ์ สถานการณ์ในบริบทของโลก ใชแ้ บบแผนการทดลองแบบ One-Group ประเทศ สถานศึกษาและผู้เรยี น Pretest-Posttest Design (นงลักษณ์ วิรัชชัย. 2531; ขัน้ ที่ 2 ผวู้ จิ ัยศกึ ษาวิเคราะห์สงั เคราะห์เอกสาร อ้างอิงจาก เนาวรัตน์ พลายน้อย และคณะ. 2543: ง า น วิ จั ย ท่ี เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ส ร้ า ง ส ร ร ค์ 124) ดงั นี้ นวัตกรรมผ่าน การเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 6

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขนั้ ที่ 3 ผ้วู จิ ยั จัดทาโครงสร้างการพฒั นาทักษะ เกณฑป์ ระสทิ ธิผลของหลกั สตู ร สร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตาม ผู้วิจัยกาหนดเกณฑ์ประสิทธิผลของ ศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช การพัฒนาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผ่านการเรียนรู้แบบ โครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนชั้น ขั้นที่ 4 ผู้วิจัยตรวจทาน และทาการปรับปรุง ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ. แก้ไขโครงสรา้ งการพัฒนาทกั ษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรมผ่าน นครศรีธรรมราชหลังการทดลองสงู กวา่ กอ่ นการทดลอง การเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ ผลการวิจัย ข้อมูลต่างๆ ท่ีได้จากการศึกษาวิจัยตาม อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมทั้งจัดทาใบความรู้และ ใบงานเพ่ือนาไปทดลองใช้ในสถานการณ์ การจัดการ วัตถปุ ระสงคท์ ศี่ ึกษาปรากฏผล ดังนี้ เรียนการสอนจริง ตาราง 1 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติ ข้ันท่ี 5 ผู้วิจัยจัดทาแบบบันทึกข้อมูลสาหรับ ทดสอบที และระดับนัยสาคัญทางสถิติของการทดสอบ เกบ็ รวมรวมข้อมลู เพอื่ นาไปใช้ในการประเมินประสิทธิผล เปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนและหลังเรียนของนักเรียน ของการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 6/1-8 (n = 40) แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนช้ัน ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ. จากตาราง 1 พบว่า การทดสอบก่อนเรียน นครศรธี รรมราช และหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6/1-8 ท่ีผ่านการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการ ข้ันที่ 6 ผู้วิจัยทาการทดลองกับนักเรียน เรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา มีคะแนนเฉล่ีย กลมุ่ เป้าหมายเพื่อทาการทดสอบประสิทธิภาพโดยทาการ เท่ากับ 32.65 คะแนน และ 41.05 คะแนน ตาม เก็บข้อมูลก่อน การทดลอง ระหว่างทดลอง และหลัง ลาดับ และเม่ือเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลัง ทดลอง เพอ่ื นามาใช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู และสรปุ ผลการ เรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่า ทดลอง ก่อนเรยี นอย่างมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ รี่ ะดบั .05 การวิเคราะห์ข้อมลู และสถิตทิ ่ีใช้ การวเิ คราะห์ข้อมลู เชิงคณุ ภาพ ผวู้ ิจยั วิเคราะห์เนอ้ื หาจากการสงั เกตพฤติกรรมของผเู้ รยี น การวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้ดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจผลงานนกั เรยี น การบนั ทกึ ผลในขณะทาการ ตามลาดบั ขนั้ ตอน ดงั น้ี สอน ตงั้ แตก่ ่อนการทดลอง ระหวา่ งการทดลอง และหลงั การทดลอง แลว้ นาเสนอในรูปความเรียงประกอบการ 1. ข้อมูลเชิงปริมาณ ดาเนินการวิเคราะห์ อธิบายเสรมิ ขอ้ มูลเชิงปริมาณ ดังนี้ ขอ้ มลู ดังนี้ การสังเกตพฤติกรรมของผู้เรียน พบว่า ผู้เรียน ผู้วิจัยทาการวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็น ส่วนใหญ่ให้ความสนใจ ให้ความร่วมมือ และตั้งใจปฏิบัติ สถิติและตัวเลขจากแบบประเมิน แบบทดสอบก่อนเรียน กจิ กรรมเปน็ อยา่ งดี และหลังเรียน การสังเกตพฤติกรรม และแบบบันทึกผล การตรวจชิ้นงาน ทาการวิเคราะห์ข้อมูลก่อนเรียน การตรวจผลงานนักเรียน พบวา่ ผู้เรียนให้ความ ระหว่างเรียน และหลังเรียนเพื่อทดสอบความแตกต่าง ร่วมมือในการทางานด้วยความเต็มใจในช่ัวโมงท่ีทาการ ระหว่างคะแนนก่อนและหลังการเพ่ือหาประสิทธิผลโดย สอน ต้องกาหนดภาระงานให้เหมาะสมกับเวลา เพื่อให้ ใช้โปรแกรมวิเคราะห์ค่าสถิติพ้ืนฐานจากเคร่ืองมือวิจัย ผู้เรียนทาเสร็จทันในเวลาจะได้ไม่มีปัญหาในการเรียนแต่ (ปกรณ์ ประจญั บาน. 2557) ละครง้ั 2. ข้อมูลเชงิ คณุ ภาพ ผู้วิจัยวิเคราะห์เนื้อหาจากการสังเกต พฤติกรรมของผู้เรียน การตรวจผลงานนักเรียน การ บันทกึ ผลในขณะทาการสอน แล้วนาเสนอในรปู ความเรียง ประกอบการอธบิ ายเสริมขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ ตง้ั แตก่ อ่ นการ ทดลอง ระหว่างการทดลอง และหลังการทดลอง จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 7

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช การบันทึกผลในขณะทาการสอน เมื่อผู้เรียน วัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ตาม ทางานเสรจ็ และสง่ ผลงานจะตอ้ งมกี ารบันทกึ ผล วัตถุประสงค์และสมมติฐานของการวิจัย ซึ่งผลการวิจัย การปฏิบตั งิ านและการทางานไว้เป็นหลักฐาน นามาอภิปรายผลได้ ดงั นี้ หลังการทดลองเกบ็ ข้อมลู โดยใหผ้ เู้ รียนนาเสนอ การทดสอบกอ่ นเรียนและหลงั เรยี นของนักเรยี น แนวทางการจดั ทาโครงงานตามความสนใจของตนเอง ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6/1-8 ท่ีผ่านการพัฒนาทักษะ จากนน้ั จงึ สุ่มตวั อยา่ งการเขยี นแนวทางการทาโครงงาน สร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตาม อาชพี ของผูเ้ รียนโดยกาหนดหวั ข้อชือ่ โครงงานอาชพี ศาสตร์พระราชา มีคะแนนเฉล่ีย เท่ากับ 32.65 วตั ถุประสงค์การทาโครงงาน ข้ันตอนการปฏบิ ัตงิ าน คะแนน และ 41.05 คะแนน ตามลาดับ และเม่ือ ได้แก่ การวเิ คราะห์วางแผนงาน การปฏบิ ตั ิงาน การจดั เปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า การผลผลติ การบริหารจัดการ และการใช้เทคโนโลยี คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรยี นอย่างมี ในการปฏบิ ตั ิงาน (บญุ ชม, 2535: 80) ปรากฏผล นัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 จากการสังเกตพฤติกรรม การวเิ คราะหร์ ายขอ้ ดังนี้ ของผเู้ รยี น พบว่า ผเู้ รียนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ ให้ความ ร่วม มือ และตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมเป็นอย่างดี จากการ ผลการวิเคราะห์ภาพรวมจากแบบสอบถาม ตรวจผลงานนักเรียน พบว่า ผู้เรียนให้ความร่วมมือในการ ปรากฏว่ามีคะแนนรวม 257 คะแนน ค่าเฉล่ีย 0.92 ทางานดว้ ยความเตม็ ใจในช่ัวโมงท่ีทาการสอน ตอ้ งกาหนด สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน 0.17 ภาระงานให้เหมาะสมกบั เวลา เพอื่ ให้ผเู้ รยี นทาเสร็จทันใน เวลาจะได้ไม่มีปัญหาในการเรียนแต่ละครั้ง และจากการ การวเิ คราะหข์ ้อมูลการประมาณค่า บันทึกผลในขณะทาการสอน เม่ือผู้เรียนทางานเสร็จและ ส่งผลงานจะต้องมีการบันทึกผลการปฏิบัติงานและการ 1. การวิเคราะหข์ ้อมูลการประมาณคา่ หรือ ทางานไว้เปน็ หลักฐานสอดคล้องกับงานวิจัยของรังศิมา ชู ระดบั ความคิดเหน็ ตอ้ งหาคา่ เฉลีย่ ( X ) และ เทียน และทศพร แสงสว่าง (2559) ท่พี บว่า ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) (บญุ ชม, 2535: 80) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนที่เรียนโดยใช้การสอน ด้วยการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน วิชาเทคโนโลยี X  X สารสนเทศและการสอื่ สาร สาหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษา N ปีท่ี 1 ในการทดสอบก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.20 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.40 S.D.  N  X 2   X 2 หลังจากที่นักเรียนได้เรียนรู้จากการสอนด้วยการเรียนรู้ N (N  1) แบบโครงงานเป็นฐาน วิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการ ส่ือสารแล้วทาการทดสอบหลังเรียน นักเรียนมีคะแนน อภปิ รายผลการวิจัย เฉล่ียสูงขึ้นจากเดิม มีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 16.17 มีค่า เบย่ี งเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 1.49 การวเิ คราะห์ การวิจัยเร่ือง การพัฒนาทักษะสร้างสรรค์ t -test ระหวา่ งกอ่ นเรียนและหลงั เรียนเท่ากับ 3.77 นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์ มีความแตกตา่ งอยา่ งมนี ยั สาคญั ทางสถติ ทิ ี่ระดับ.05 พระราชา ของ นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน จากการศึกษาประสทิ ธิผลการพัฒนาทกั ษะ สร้างสรรคน์ วัตกรรมโดยการสุ่มตัวอยา่ งการนาเสนอแนว ทางการจดั ทาโครงงานตามความสนใจหลงั การทดลอง พบวา่ ผเู้ รยี นสามารถกาหนดหวั ขอ้ ช่ือโครงงานอาชพี มี ค่าเฉลยี่ 0.95 ค่า S.D. 0.22 ผ้เู รียนสามารถกาหนด วตั ถปุ ระสงค์การทาโครงงานมีค่าเฉล่ยี 0.95 คา่ S.D. 0.22 ผูเ้ รยี นสามารถวิเคราะหว์ างแผนงานมคี า่ เฉล่ีย 0.90 คา่ S.D. 0.30 ผเู้ รียนสามารถปฏบิ ัติงาน มีค่าเฉลี่ย 0.95 ค่า S.D. 0.22 ผเู้ รียนสามารถจัดการ จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 8

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ผลผลิตมีค่าเฉล่ีย 0.90 ค่า S.D. 0.30 ผู้เรียนสามารถ เท่ากบั 82.93/80.85 ซ่ึงมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ บริหารจัดการ มีค่าเฉล่ีย 0.95 ค่า S.D. 0.22 และ กาหนดคือ 80/80 ผู้เรียนสามารถใช้เทคโนโลยีในการปฏิบัติงานมีค่าเฉล่ีย 0.83 ค่า S.D. = 0.38 สอดคล้องกบั งานวจิ ัยของชโลธร สรุปผล ใจหาญ (2558) ที่พบว่า โดยภาพรวมมีคะแนนคิดเป็น ร้อยละ 82.66 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ตามที่กา หนดไว้ การพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการ ในการจัดการเรียนรู้ ครูควรกระตุ้นให้นักเรียนคิดอย่าง เรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียน อิสระ คิดให้หลากหลายทิศทาง หลากหลายประเภท ไม่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมือง ซ้ากัน หากนักเรียนกลุ่มใดไม่มีความคิดสร้างสรรค์ จะคิด จ.นครศรีธรรมราช โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน ได้เพียงทิศทางเดียวหรือประเภทเดียว ครูควรส่งเสริมให้ ตามศาสตรพ์ ระราชา ซ่ึงเป็นการน้อมนาศาสตร์พระราชา นักเรียนกล้าคิด โดยไม่กลัวว่าความคิดของตนน้ันจะถูก มาใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเพื่อ หรือผิด ทาให้นักเรียนมีพัฒนาการความคิดสร้างสรรค์ พัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้จากความสนใจใคร่รู้ของ มากข้นึ ผู้เรียนท่ีอยากจะศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับสิ่งใดส่ิงหนึ่งที่ตน สนใจโดยใช้วิธีการศึกษาหลาย ๆ วิธีเพ่ือให้ได้มาซ่ึง จากการวเิ คราะห์ภาพรวมของประสิทธิผล คาตอบที่ลึกซึ้งชัดเจนด้วยตัวผู้เรียนเอง โดยมีการวาง การพัฒนาทักษะสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรูแ้ บบ แผนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีข้ันตอนที่ต่อเน่ือง และ โครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นักเรียนช้ันประถม ลงมือปฏิบัติตามท่ีวางแผนไว้จนได้ข้อสรุปผลการศึกษา ศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดพระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรี หรือคาตอบเก่ียวกับเร่ืองน้ันๆ ทั้งน้ีเพื่อพัฒนาทักษะ ธรรมราชโดยใช้แบบสอบถามพบว่ามีคะแนนรวม 257 สร้างสรรค์นวัตกรรม ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 คะแนน ค่าเฉล่ีย 0.92 สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 0.17 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนวัดพระ ซ่ึ ง เ ป็ น ไ ป วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์ แ ล ะ ส ม ม ติ ฐ า น ข อ ง ก า ร วิ จั ย มหาธาตุ จากการน้อมนาหัวใจการศึกษาตามศาสตร์ สอดคล้องกับงานวิจัยของรังศิมา ชูเทียน และทศพร แสง พระราชามาเป็นแนวทางในการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ สว่าง (2559) ที่พบว่านักเรียนท่ีเรียนด้วยการสอนแบบ ทักษะการออกแบบและจินตนาการ ทักษะสร้างสรรค์ โครงงานเป็นฐาน ก่อนการใช้บทเรียนการสอนด้วยการ นวัตกรรม ทักษะการนาเสนอ และทักษะการปรับปรุง เรยี นรูแ้ บบโครงงานเป็นฐาน นักเรียนทาการทดสอบก่อน และประเมนิ ในสาระงานอาชพี ทม่ี ุ่งเนน้ ให้ผู้เรียนได้ลงมือ เรียน มคี ะแนนเฉลย่ี ของคะแนนเตม็ 20 คะแนน เท่ากับ ปฏิบัติจริง มุ่งเน้นการคิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่นามาใช้ 8.20 จากจานวนนักเรียนทั้งหมด 30 คน หลังจากที่ทา ประโยชน์ได้ ตั้งแต่ การวิเคราะห์ การวางแผน การ การทดสอบก่อนเรียนเสร็จแล้ว ผู้วิจัยได้นาการสอนด้วย ปฏิบัติงาน การจัดการกับผลผลิต การจาหน่าย การ การเรียนรู้แบบโครงงานเปน็ ฐานทไี่ ดอ้ อกแบบสร้างไว้มา บริการ การบริหารจัดการ การตลาด และการใช้ ใช้ในการจดั การเรยี นการสอนโดยกาหนดกิจกรรมให้ เทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน อย่างครบวงจร เพ่ือพัฒนา นกั เรียนไดเ้ รียนรู้ ซึง่ ประกอบดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศ ผู้เรียนให้มีทักษะสร้างสรร ค์โครงงานอาชีพตาม เบือ้ งต้น เพอื่ ใหน้ ักเรียนได้เรยี นรู้ได้ด้วยตนเอง และให้ จุดประสงค์ของการเรียนโครงงานอาชีพ เช่น ค้นพบ นักเรยี นทาใบงานในแตล่ ะเรอ่ื ง นักเรยี นมีความสนใจ มี ความถนัดของตัวเอง ปฏิบัติการได้ถูกต้องตาม ความกระตอื รือร้นสนใจเรยี นมากขึน้ มีการบนั ทึกผล กระบวนการ ให้ความรู้พ้ืนฐานในการนาไปใช้ใน คะแนนระหวา่ งเรยี นไว้แลว้ นาผลของคะแนนระหว่าง ชีวิตประจาวัน ให้ทุกคนมีอาชีพเพ่ือพ่ึงตนเอง เพื่อ เรียนมาหาค่าเฉล่ยี คดิ เป็นรอ้ ยละไดเ้ ท่ากับ 82.93 ครอบครัวและสังคม ซึ่งในการวิจัยคร้ังน้ีผู้วิจัยกาหนด หลงั จากท่ีนกั เรยี นไดเ้ รยี นร้ดู ว้ ยการสอนดว้ ยการเรยี นรู้ ประเดน็ ในการตรวจสอบประสทิ ธิผล คอื นักเรียนมที กั ษะ แบบโครงงานเปน็ ฐาน วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการ สร้างสรรค์นวัตกรรมหลังการสอนโดยการจัดการเรียนรู้ ส่ือสาร จึงทาใบงานจนครบทกุ ใบงาน จากน้ันนกั เรียนทา แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชาสูงกว่ากอ่ นการสอน การทดสอบหลังเรยี น พบวา่ คะแนนทดสอบหลังเรยี นมี ค่าเฉลี่ยคดิ เปน็ ร้อยละ 80.85 แสดงให้เหน็ ว่า การสอน ด้วยการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน วชิ าเทคโนโลยี สารสนเทศและการสอ่ื สาร ทผ่ี ู้วิจัยสรา้ งขนึ้ มปี ระสทิ ธภิ าพ จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 9

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ที่ 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การนาไปใช้ จริยา ทองหอม. (2559 ธนั วาคม 08). ปรชั ญา การศึกษาเพ่อื การพัฒนาอย่างยั่งยนื ของ ผู้ วิ จั ย มี แ น ว คิ ด เ ป็ น ข้ อ เ ส น อ แ น ะ ส า ห รั บ ก า ร พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั นาไปใช้ ดงั นี้ ภูมพิ ลอดลุ ยเดช. จาก https://www.facebook.com/profile.php?i 1. การจัดการเรยี นรู้แบบโครงงานเป็นทางเลอื ก d=100001093292112 หนึ่งในการพัฒนาความคิดสรา้ งสรรค์ จริยา ทองหอม. (2560). การพฒั นาหลกั สตู รออนไลน์ 2. การเรยี นรูแ้ บบโครงงานเป็นฐาน สามารถนา เพื่อเสรมิ สรา้ งทักษะสรา้ งสรรค์นวตั กรรม. ไปประยุกต์ใช้กับการจัดการเรียนได้ทุกช่วงช้ันของ ปริญญานพิ นธ์ ปร.ด. (การวิจยั และพัฒนา การศึกษาและทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยการปรับ หลักสตู ร). กรุงเทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลยั กิจกรรมการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ. ถา่ ยเอกสาร. ในชว่ งชน้ั หรือกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ท่ีจะนาไปใช้ จริยา ทองหอม มารตุ พัฒผล และวิชัย วงษ์ใหญ่. ข้อเสนอแนะในการทาวิจัยครั้งต่อไป (2560). การวิจยั และพฒั นาหลักสูตร การแร เงา: ศาสตรพ์ ระราชาเพ่ือการพัฒนาทยี่ ั่งยืน. ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะสาหรับการทาวิจัยครั้ง โรงเรยี นวดั พระมหาธาตุ อ.เมอื ง จังหวดั ต่อไปดงั นี้ นครศรีธรรมราช. 1. ควรมีการศึกษาผลของการพัฒนาทักษะ ชโลธร ใจหาญ. (2558). การใชก้ ารเรยี นรู้แบบโครงงาน สร้างสรรค์นวัตกรรมผ่านการเรียนรู้แบบโครงงานตาม เพ่ือพฒั นาความคิดสร้างสรรค์ ของ นกั เรียนชั้น ศาสตร์พระราชากับผเู้ รยี นในระดบั ช้นั อืน่ ๆ ตอ่ ไป ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรียนเทศบาลรตั นบรุ .ี ปรญิ ญาศกึ ษาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขาวิชา 2. ควรนาศาสตร์พระราชาไปทดลองใช้กับการ หลกั สตู รและการสอน วิทยาลยั ครุศาสตร์ จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนในรปู แบบต่าง ๆ ใหม้ ากข้ึน มหาวิทยาลยั ธุรกิจบณั ฑิตย.์ เอกสารอา้ งองิ เนาวนิตย์ สงคราม. (2557). การสรา้ งนวัตกรรม กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2557 กมุ ภาพนั ธ์ 25). แผน เปลยี่ นผเู้ รยี นใหเ้ ปน็ ผ้สู ร้างนวัตกรรม. กรุงเทพฯ: สานกั พมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณ์ แม่บทเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสาร มหาวิทยาลยั . เพ่อื การศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธิการพ.ศ. 2557-2559. สืบคน้ เมอื่ 17 มิถุนายน นา้ มนต์ เรอื งฤทธ.์ิ (2553) การพฒั นารปู แบบกจิ กรรม 2558. จาก https://www.google.co.th โครงงานสาหรบั โครงการการศกึ ษาบันเทิงเพือ่ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2554 มถิ ุนายน 15). แลกเปลยี่ นนกั เรยี นในภูมภิ าคเอเชยี แปซฟิ ิ พระราชดารดิ า้ นการศกึ ษาของรชั กาลที่ 9. คดว้ ยวธิ ีการเรียนแบบร่วมมือเพื่อพัฒนาทักษะ สบื ค้นเมอ่ื 27 พฤศจกิ ายน 2559. จาก การสอ่ื สารและทกั ษะการทางานรว่ มกัน http://www.moe.go.th/5DEC/index.php ของนักเรยี นไทยและนักเรียนเกาหลีใต.้ ครรชติ มนญู ผล. (2559). การออกแบบหลักสตู รเพ่ือ วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (หลักสูตรและการสอน). พัฒนาการเรยี นรสู้ ศู่ ตวรรษที่ 21. นนทบุรี: นครปฐม: บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลัย อมั รินทร์ บคุ๊ เซน็ เตอร์. ศิลปากร. ถ่ายเอกสาร. จริยา ทองหอม. (2554). ผลการใช้กจิ กรรมโครงงาน ทม่ี ตี ่อความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละเจตคติทางการ เนาวรัตน์ พลายนอ้ ย และคณะ. (2543). พรมแดน เรียนวชิ า ศิลปะ ของนกั เรียนชั้นประถมศึกษา ความร้ดู ้านการวิจัยและสถิติ. รวมบทความทาง ปที ี่ 6 โรงเรยี นวดั นา้ รอบ จงั หวัด วชิ าการ ของ ดร.นงลกั ษณ์ วิรชั ชัย. ชลบรุ :ี นครศรธี รรมราช. วิทยานพิ นธ์ ศศ.ม. วิทยาลยั การบริหารรัฐกจิ มหาวทิ ยาลยั บรู พา. (หลักสูตรและการสอน). นนทบรุ :ี สาขาวิชา ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช. นงลกั ษณ์ วริ ชั ชยั . (2531). แผนแบบการวจิ ัย. วารสาร ถา่ ยเอกสาร. ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒวจิ ัยและพัฒนา. 2531(1): 31-37. จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 10

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช บัณฑติ วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ. (2550). สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี. ค่มู อื การจดั ทาปรญิ ญานิพนธ์ และสาระนพิ นธ์. (2554). พระมหากษตั รยิ ์นักพัฒนาเพอื่ พมิ พค์ รงั้ ที่ 3. ถา่ ยเอกสาร. ประโยชน์สขุ สปู่ วงประชา. บญุ ชม ศรีสะอาด และบญุ สง่ นลิ แกว้ . (2535). การวิจยั สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน (สพฐ). เบอ้ื งต้น. พมิ พค์ รัง้ ที่ 6. มหาสารคาม: (2551). หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ. พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551. สานักวชิ าการ และมาตรฐานการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธกิ าร. ปกรณ์ ประจันบาน. (255๗ กรกฎาคม 18). โปรแกรม กรงุ เทพ : โรงพิมพช์ มุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ การวเิ คราะห์ทางสถิต.ิ การอบรมธุรกิจอาเซยี น ประเทศไทย จากัด. กบั การยกระดบั ผลสัมฤทธก์ิ ารเรียนรูส้ งั คม ศึกษา. ณ โรงแรมเทรเชอร์ จ.สโุ ขทัย สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน (สพฐ). (2555). คู่มอื ประเมินสมรรถนะสาคญั ของ ปรชั ญนนั ท์ นิลสขุ และปณิตา วรรณพริ ณุ . (2556). ผูเ้ รยี นระดบั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐานตามหลักสูตร การเรยี นรแู้ บบจนิ ตวิศวกรรม(Imagineering). แกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานพทุ ธศกั ราช วารสารพฒั นาเทคนิคศกึ ษา. ปีที่ 25 ฉบับที่ 2551. กรงุ เทพฯ: สานักทดสอบทาง 86 เมษายน – มิถุนายน. 2556. สืบค้นเม่ือ การศกึ ษา. 28 กมุ ภาพนั ธ์ 2559. จาก https://www.academia.edu สานกั งานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2548). คู่มอื สมรรถนะขา้ ราชการพลเรอื นไทย. ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา.(มถิ ุนายน 9, 2560). “ศาสตร์ กรงุ เทพฯ: บริษัท พี.เอ ลีฟวงิ่ สานักงาน พระราชา สกู่ ารพฒั นาอยา่ งย่ังยนื ” เลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ). (2560). สถานโี ทรทัศนร์ วมการเฉพาะกจิ แผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙. แหง่ ประเทศไทย ยูเนสโก. (2549). ยเู นสโกกับ กรงุ เทพฯ: บรษิ ัท พรกิ หวานกราฟฟคิ จากัด การศึกษาเพ่ือการพฒั นาทย่ี ง่ั ยืน. ข่าวสานกั งาน คณะผแู้ ทนถาวรไทยประจายูแนสโก. (13 สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสงั คม มถิ ุนายน 2549) แหง่ ชาติ (สศช) (2559). แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. ๒๕๖๐- รงั ศิมา ชเู ทียน และทศพร แสงสวา่ ง. (2559). การ ๒๕๖๔. สานักนายกรัฐมนตร.ี พฒั นาการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน วชิ า อภิญญา สิทธวิ งค์. (2558). การศกึ ษาพฒั นาโครงงาน เปรียบเทยี บความคดิ สร้างสรรคใ์ นการเรยี นวชิ า เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร สาหรับ ศิลปะ เทคนคิ จติ รกรรมสีนา้ ของนกั เรยี นชั้น มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 โรงเรยี นไทยครสิ เตยี น นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1. วารสารครุ กรงุ เทพมหานครท่ีเรยี นด้วยการจดั การเรียนรู้ แบบโครงงาน. ปริญญานิพนธ์ กศ. ศาสตร์อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี ม.(ศลิ ปศึกษา). กรุงเทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ. ถ่ายเอกสาร. ราชมงคลธญั บรุ ี. ปีท่ี 4 ฉบบั ที่ 1 เดอื น อลิสณา อนนั ตะอาด. (2556). ผลการจดั กิจกรรม มกราคม-มิถนุ ายน 2559. การเรยี นรแู้ บบโครงงาน เรอ่ื ง การออกแบบ ลายผา้ ทอตามภูมิปญั ญาทอ้ งถ่ิน. กลุ่มสาระการ วุทธิศักดิ์ โภชนุกลู . (2556). การพัฒนาระบบการฝึกหดั เรียนรศู้ ิลปะ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6.ปรญิ ญา ครเู ชงิ สมรรถนะผา่ นการเรยี นรทู้ างไกลดา้ น นิพนธ์ กศ.ม. (ศลิ ปศกึ ษา). กรงุ เทพฯ: บัณฑิต เทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาสาหรับครู วิทยาลัยมหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ. ถา่ ย ประจาการ. วทิ ยานพิ นธ์ ปร.ด. (ภาวะผู้นาและ เอกสาร. นวัตกรรมทางการศึกษา).บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์. ถ่ายเอกสาร. วิชยั วงษใ์ หญ่ และมารตุ พฒั ผล. (2558). กระบวนทัศน์ การโค้ชเพ่ือเสริมสร้างทกั ษะการสร้างสรรค์และ นวัตกรรม. พมิ พค์ รัง้ ที่ 1.กรงุ เทพฯ: บรษิ ทั สนิท วงศ์การพิมพ.์ จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 11

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช Anderson, T. et al. (2004). Theory and Practice of Online Learning. Printed at Athabasca University. Canada. Howard, J. (2002). Technology-Enhanced Project-Based Learning in Teacher Education: Addressing the Goals of Transfer. Journal of Technology and Teacher Education, 10(3), 343-364. Kleysen, R. F. & Street, C. T. (2001). Towards a Multi-dimensional measure of individual innovative behavior. Journal of Intellectual Capital. 2(3), pp.284- 296. McClelland, David C. (1973). Testing for Competence rather than for intelligence. Massachusetts: Department of Psychology and Social Reletions, Harvard University, William James Hall, Cambridge. Miller, George E. (1990). The Assessment of Clinical Skills/Competence/ Performance. Invited Reviews. Volume 65(9). September supplement.1990. Rogers, Everett M. & Shoemaker, F. Floyd. (1971). Communication of Innovations a: Cross-Cultural Approach. New York: Free Press. Spencer, Lyle M.; & Signe M. (1993). Competence at work: Models for Superior Performance. U.S.A.: Lyle, M. & Signe, M. Spencer. Torrance, E.P. (1965). Rewarding Creative Behavior. Englewood Cliffs, N.J.: Prentice Hall. Tyler, W. Ralph. (1949). Basic Principles of Curriculum and Instruction. Chicago and London: The Univesity of Chigago Press. จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมือง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 12

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 13

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 14

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 15

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 16

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 17

การพฒั นาทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมผา่ นการเรียนรู้แบบโครงงานตามศาสตร์พระราชา ของ นกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 6 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จริยา ทองหอม. โรงเรียนวดั พระมหาธาตุ ถนนราชดาเนิน ต.ในเมอื ง อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 02/03/2562 18


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook