1 การพัฒนาหลกั สตู รออนไลน์ เพอื่ เสรมิ สร้างทักษะสร้างสรรค์นวตั กรรม (Development of online curriculum for enhancing creative innovation skills.) นางสาวจริยา ทองหอม ตาแหน่ง ศกึ ษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1
2 การพัฒนาหลกั สตู รออนไลน์ เพอื่ เสรมิ สร้างทักษะสร้างสรรค์นวตั กรรม (Development of online curriculum for enhancing creative innovation skills.) นางสาวจริยา ทองหอม ตาแหน่ง ศกึ ษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1
3ก คำนำ ตามที่สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา ขอเรยี นเชิญสง่ ผลงานวิจัยเพ่อื คดั เลือกให้นาเสนอ ในการประชุมทางวิชาการการวจิ ยั ทางการศกึ ษา ระดบั ชาติ ครง้ั ที่ ๑๖ \"นวัตกรรมการศึกษา : กลา้ เปลีย่ น สร้างสรรค์ ยกระดับคุณภาพการศกึ ษาไทย\" ในวนั ท่ี ๑๖ - ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ณ โรงแรมเซน็ ทรา แจง้ วัฒนะ กรงุ เทพฯ นนั้ ผู้วิจัยได้นาส่งผลงานวิจัยเพื่อคัดเลือกให้นาเสนอในการจัดประชุมทางวิชาการ การวิจัย ทางการศึกษาระดับชาติ ครั้งที่ 16 เพ่ือเผยแพร่ แลกเปลย่ี นเรียนรู้ผลงานวิจยั องค์ความรู้ นวตั กรรม ซ่ึง เป็นแบบอย่างที่ดีทางการศึกษาเพื่อจะนาไปสู่การปฏิบัติ เพื่อสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของนักวิจัย ในการรว่ มกันออกแบบและพัฒนาการวิจยั ใหม้ ีความเข้มแข็ง สามารถผลิตงานวจิ ยั ท่ใี ช้ประโยชนไ์ ดจ้ ริง ขอขอบคุณทุกหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการขับเคล่ือนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยใชก้ ารวิจยั เป็นฐาน เพือ่ การพัฒนาประเทศใหม้ คี วามม่ันคง มั่งคัง่ และยง่ั ยืน (นางสาวจริยา ทองหอม) ศกึ ษานเิ ทศกช์ านาญการพิเศษ สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 1 10 พฤษภาคม 2564
ข4 หนา้ สารบญั ก ข เรอ่ื ง 5 6 คานา 6 สารบญั 6 ส่วนท่ี 1 ช่อื ผลงานและประวัตผิ ู้วิจยั 6 ส่วนที่ 2 บทคดั ย่อผลงานวิจยั 8 2.1 ชอ่ื ผลงานวิจยั 8 2.2 ระบแุ หล่งทนุ สนับสนนุ 9 2.3 ระบคุ วามสอดคล้องของผลงานวิจัยกับประเด็นของการจดั ประชมุ คร้ังน้ี 9 2.4 การเผยแพร่ และรางวลั ท่ไี ด้รับ 11 2.5 บทคัดย่อ 11 2.6 คาสาคญั ของงานวิจัย (Keywords) 12 2.7 ที่มาความสาคัญและปัญหาการวจิ ัย 13 2.8 วตั ถปุ ระสงค์การวจิ ัย 15 2.9 หลักการหรอื แนวคิดเชิงทฤษฎีทสี่ นับสนุน 17 2.10 ระเบยี บวธิ ีการวจิ ัยและแผนการวจิ ยั 18 2.11 ผลการวจิ ัย 19 2.12 การอภิปรายและข้อเสนอแนะ 2.13 บรรณานกุ รม การรับรองผลงานและจรยิ ธรรมการวิจัย ภาคผนวก
5 การสง่ ผลงานวิจัยเพอ่ื คัดเลือกให้นาเสนอ ในการจัดประชมุ ทางวิชาการ การวิจยั ทางการศึกษาระดบั ชาติ ครงั้ ท่ี 16 สว่ นที่ 1 ช่ือผลงานและประวัตผิ ูว้ จิ ัย ชือ่ ผลงาน (ภาษาไทย) การพฒั นาหลกั สูตรออนไลนเ์ พื่อเสริมสรา้ งทักษะสรา้ งสรรค์นวตั กรรม (ภาษาอังกฤษ) Development of online curriculum for enhancing creative innovation skills. ชอ่ื - นามสกุล ผ้สู ง่ ผลงาน นางสาวจรยิ า ทองหอม (พรอ้ มระบุ ยศ หรือ ตาแหน่ง ตาแหน่ง ศกึ ษานิเทศก์ชานาญการพเิ ศษ ทางวิชาการ หรือ คานาหน้า ช่ือ) อายุ (ปี) 56 ปี - ปรญิ ญาตรี (สาขา/ สถาบันการศกึ ษา/ปี พ.ศ. ที่สาเรจ็ การศึกษา) : ศษ.บ. (เทคโนโลยีการศึกษา) มหาวิทยาลยั สงขลานครนิ ทร์ ปี พ.ศ. 2531 - ปรญิ ญาโท (สาขา/ สถาบันการศกึ ษา/ปี พ.ศ. ท่สี าเรจ็ การศึกษา) : ศษ.ม. (หลักสตู รและการสอน) มหาวทิ ยาลยั สโุ ขทัยธรรมาธริ าช ปี พ.ศ. 2555 - ปรญิ ญาเอก (สาขา/ สถาบันการศึกษา/ปี พ.ศ. ทส่ี าเรจ็ การศกึ ษา) : ปร.ด. (การวิจยั และพัฒนาหลักสตู ร) มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ ปี พ.ศ. 2560 อาชพี ศกึ ษานเิ ทศก์ สถานทีท่ างาน สถานท่ีทางาน : กลมุ่ นิเทศตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 1 อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 80000 ท่อี ยู่ : บ้านเลขที่ 183/21 หมทู่ ่ี 1 ต.โพธิเ์ สดจ็ ถนน กะโรม อ.เมอื ง จ.นครศรธี รรมราช 80000 ท่ีอยูท่ ี่สามารถติดต่อได้ กลมุ่ นเิ ทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครศรธี รรมราช เขต 1 อ.เมอื ง จ.นครศรีธรรมราช 80000 โทรศพั ท์ 080-532-2618 โทรศพั ท์มอื ถือ 080-532-2618 Email address [email protected] ชื่อ - นามสกลุ ผู้ร่วมวจิ ัย -
6 ส่วนท่ี 2 บทคดั ย่อผลงานวิจัย (ต้ังแต่ขอ้ 2.5 – 2.13 ความยาวรวมกนั ไม่เกิน 10 หนา้ ) 2.1 ชือ่ ผลงานวิจัย (ภาษาไทย) การพฒั นาหลกั สูตรออนไลน์เพื่อเสรมิ สรา้ งทกั ษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม (ภาษาอังกฤษ) Development of online curriculum for enhancing creative innovation skills. ปีทีท่ าผลงานวจิ ัยเสรจ็ 2559 2560 2561 2562 2563 2.2 ระบุแหล่งทนุ สนับสนุน (ถ้ามี) .- 2.3 ระบคุ วามสอดคล้องของผลงานวิจัยกับประเด็นของการจดั ประชุมครง้ั น้ี (1) การจัดการศึกษาปฐมวัย 1) นโยบาย/กฎหมายท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การศกึ ษาปฐมวัย และแนวโนม้ ทางการศึกษาปฐมวัย 2) หลกั สูตรและการจัดการเรียนการสอนสาหรบั เด็กปฐมวัย 3) การจดั โปรแกรมทางการศึกษาปฐมวัยสาหรบั เดก็ เฉพาะกลมุ่ 4) การปฏิรูปการศกึ ษาปฐมวยั ใหเ้ ทา่ ทนั การเปลย่ี นแปลง 5) การปฏบิ ัตกิ ารทีเ่ หมาะสมกับพัฒนาการของเด็กปฐมวยั 6) การประสานพลังความมือของโรงเรียน บา้ น และชมุ ชน 7) การดแู ลเด็กปฐมวยั โภชนาการ สุขภาวะ และความปลอดภัย 8) การบริหารจัดการการศึกษาปฐมวยั เพ่อื ความเท่าทันและเท่าเทยี ม 9) งานวิจยั นวัตกรรมในประเด็นที่เก่ียวขอ้ ง/สอดคลอ้ งกับประเดน็ การศึกษาปฐมวยั (2) การจัดการศึกษาขัน้ พื้นฐาน เพื่อตอบสนองการเรยี นรูแ้ ละการเปล่ยี นแปลงในศตวรรษที่ 21 1) การพัฒนาหลกั สูตร/หลักสตู รฐานสมรรถนะ 2) การจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษท่ี 21 3) การจดั การเรยี นการสอนเพ่อื พัฒนาคณุ ธรรมและจริยธรรมของผูเ้ รียน 4) การพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ. 2561 5) การจดั การศกึ ษาตามแนวทางพหปุ ัญญา/การพัฒนาผู้เรียนเตม็ ศักยภาพ 6) การพัฒนาส่อื การเรยี นรู้ 7) การจดั กจิ กรรมเสริมหลักสูตรเพือ่ พัฒนาศกั ยภาพผู้เรยี น 8) การจดั การเรยี นการสอนสนองความแตกต่างระหว่างบุคคล 9) การวัดและประเมนิ ผลการศึกษา 10) การจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 11) งานวิจัยในประเด็นทเ่ี กีย่ วข้อง/สอดคล้องกับประเด็นการศึกษาข้ันพืน้ ฐานฯ (3) การพัฒนากาลงั คนในระดบั อาชีวศึกษาและอดุ มศกึ ษา/ผูเ้ รยี นในวยั แรงงาน 1) การจดั อาชวี ศึกษาระบบทวภิ าคแี ละระบบอนื่ ๆ ทเ่ี นน้ การฝกึ ปฏิบัตอิ ยา่ งเต็มรูปแบบ
7 2) การจัดการเรียนการสอนในระดบั อุดมศึกษาที่มงุ่ พฒั นาผเู้ รียนเตม็ ตามศักยภาพ 3) การผลิตนวตั กร และนกั วิจยั เพื่อขับเคล่อื นประเทศไปสู่ Thailand 4.0 4) การพัฒนาทกั ษะ และสมรรถนะทีจ่ าเป็นสาหรับอาชีพใหม่ 5) การเตรยี มความพร้อมเข้าสอู่ าชีพในปัจจบุ ันและอนาคต 6) การจัดการศึกษาเพ่อื รับใช้สังคม ชุมชน ทอ้ งถน่ิ 7) การสร้างทักษะใหม่ท่ีจาเป็นในการทางานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน และการพฒั นาเพ่ือยกระดับทกั ษะเดิมใหด้ ีขึ้น (UpSkill) เพ่อื รองรบั การเตบิ โตในอนาคต 8) งานวจิ ยั ในประเด็นทเ่ี กยี่ วขอ้ ง/สอดคล้องกบั ประเดน็ การจดั การศึกษาเพื่อพฒั นากาลังคนฯ (4) การสง่ เสริมการศึกษา/เรียนร้สู าหรับผสู้ งู อายุ 1) การจดั การศกึ ษาสาหรับผูส้ งู อายุเพื่อเตรยี มความพร้อมสสู่ ังคมผสู้ ูงอายอุ ยา่ งเตม็ รูปแบบ 2) การผลิตและพัฒนาสือ่ การเรียนรู้ และแหลง่ การเรยี นรูส้ มัยใหม่มนยุคดจิ ทิ ลั สาหรับผสู้ งู อายุ 3) การเรยี นรแู้ ละพัฒนาทกั ษะเพอื่ สร้างเสรมิ รายได้สาหรับผู้สูงอายุ 4) งานวิจัยในประเด็นที่เกี่ยวข้อง/สอดคล้องกับประเด็นการส่งเสริมการศึกษา/เรียนรู้สาหรับ ผสู้ งู อายุ (5) การจัดการศกึ ษาสาหรับผทู้ ่ีมีความต้องการจาเป็นพิเศษ ได้แก่ ผู้ท่ีมีความสามารถพิเศษ ผู้ที่มี ความตอ้ งการดูแลเปน็ พเิ ศษ และผู้พกิ าร 1) การสง่ เสรมิ การศึกษาสาหรบั ผู้ทมี่ คี วามต้องการจาเป็นพเิ ศษ 2) การจดั การเรยี นการสอนสาหรบั ผู้ทม่ี ีความต้องการจาเปน็ พิเศษ 3) การจัดการศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education) 4) การคดั กรองและวนิ จิ ฉยั ผู้ทมี่ คี วามต้องการจาเป็นพเิ ศษ 5) การผลิตและพัฒนาส่ือการเรียนรู้ และแหล่งการเรียนรู้สมัยใหม่ในยุคดิจิทัลสาหรับผู้ที่มี ความต้องการจาเปน็ พเิ ศษ 6) งานวิจัยในประเด็นท่ีเกี่ยวข้อง/สอดคล้องกับประเด็นการจัดการศึกษาสาหรับผู้ท่ีมีความ ต้องการจาเปน็ พิเศษ (6) การผลิตและพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษาท่ีมคี ณุ ภาพ 1) การผลิต และพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาเพ่ือตอบสนองการ เปล่ยี นแปลงในศตวรรษท่ี ๒๑ 2) การพัฒนาขีดความสามารถของอาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาในระดับอาชีวศึกษา และอุดมศกึ ษาใหม้ คี วามรแู้ ละทักษะท่ีสอดคล้องกับการเตบิ โตทางเศรษฐกจิ ของประเทศ 3) การพัฒนาคณุ ธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณของครู คณาจารย์ 4) การผลติ และพฒั นาครู และบุคลากรทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั การศกึ ษาปฐมวัย 5) การพัฒนาสมรรถนะครู อาจารย์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล การวิจัย และการสร้างสรรค์ นวตั กรรม 6) การส่งเสริมความก้าวหนา้ ทางวิชาชีพของครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา 7) การพฒั นาทักษะและสมรรถนะท่ีจาเปน็ ของครยู ุคใหม่ 8) งานวิจยั ในประเดน็ ท่เี กีย่ วขอ้ ง/สอดคลอ้ งกบั ประเด็นการผลติ และพัฒนาครฯู (7) การพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี งานสร้างสรรค์หรือส่ิงประดิษฐ์เพื่อส่งเสริมคุณภาพ
8 การเรยี นรู้ของผู้เรียน 1) การพัฒนาระบบการเรียนรู้ดิจิทลั 2) การส่งเสริมการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมเพ่ือการศึกษาอย่าง สรา้ งสรรค์ 3) การผลติ และพัฒนาส่ือการเรียนรู้ และแหล่งการเรยี นรสู้ มยั ใหมใ่ นยุคดจิ ทิ ลั 4) งานวิจยั สรา้ งคุณค่าใหมท่ างนวตั กรรมทางการศึกษา 5) งานวิจยั ในประเดน็ ท่ีเกย่ี วข้อง/สอดคล้องกบั ประเด็นการพัฒนานวตั กรรม เทคโนโลยีฯ (8) การจัดการศึกษาเพื่อลดความเหลื่อมล้า การสร้างโอกาส ความเสมอภาค สิทธิทางการศึกษา ทุกชว่ งวยั และการมีสว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษาของทกุ ภาคส่วน 1) การส่งเสริมการศึกษาตลอดช่วงชวี ติ 2) กฎหมายและสิทธทิ างการศกึ ษาของผเู้ รยี นทุกชว่ งวัย 3) การพฒั นารูปแบบสมชั ชาการศกึ ษาเพอื่ ส่งเสรมิ การมสี ่วนร่วมของประชาชน 4) การจัดการศึกษาแบบมสี ว่ นร่วมของภาคสว่ นต่างๆ 5) การสร้างเครอื ขา่ ยการจดั การศกึ ษา /เครอื ข่ายการเรียนรู้ 6) งานวิจัยในประเด็นที่เก่ียวข้อง/สอดคล้องกับประเด็นกฎหมายและสิทธิทางการศึกษา และ การมสี ่วนรว่ มฯ 2.4 การเผยแพร่ และรางวัลทไี่ ด้รับ ผลงานวิจัยเคยได้รับการเผยแพร่ และตพี ิมพ์ (ระบุชอ่ื หนว่ ยงานและปี พ.ศ. ทีเ่ ผยแพร่) บัณฑติ วิทยาลัย มหาวิทยาลยั ศิลปากร วารสารวชิ าการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ปที ี/่ ฉบับท่/ี เดอื น/หน้าที่ 10/02/พ.ค.-ส.ค.2560/138-156 ฉบบั ภาษาไทย สาขามนษุ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ วารสารวชิ าการ ผลงานวจิ ยั เคยได้รบั การนาเสนอในเวทวี ิชาการ (ระบุ) - ผลงานวิจัยเคยไดร้ บั รางวลั (ระบ)ุ - 2.5 บทคัดย่อ การวิจัยคร้ังนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพ่ือพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์ นวตั กรรม และ 2) เพื่อศึกษาประสทิ ธิผลของหลกั สตู รออนไลน์เพื่อเสรมิ สร้างทักษะสร้างสรรคน์ วัตกรรม โดย มีข้ันตอนการดาเนินการ 4 ขั้นตอน คือ ข้ันตอนที่ 1 การศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐาน ขนั้ ตอน ท่ี 2 การพัฒนา (ร่าง) หลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม ขน้ั ตอนท่ี 3 การ ทดลองใช้หลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม ขั้นตอนที่ 4 การประเมินผลและ ปรับปรุงหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมการวิเคราะห์เชิงปริมาณ ดาเนินการ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้โปรแกรมวิเคราะห์ค่าสถิติพ้ืนฐาน ได้แก่ การหาค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าที (t-test แบบ Dependent) ค่าอานาจจาแนกแบบ Item total correlation ค่า ความเชื่อม่ันแบบสัมประสิทธิ์แอลฟ่า และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยวิธีวิเคราะห์เนื้อหา โดยการศึกษา แบบพรรณนา วิเคราะห์จากเอกสาร การทดลอง การบันทึกผลระหว่างการทดลอง บันทึกพฤติกรรมผู้เรียน และการนาเสนอผลงานของผเู้ รียน
9 ผลการวิจัยทาให้ได้หลักสูตรออนไลน์ กระบวนการจัดการเรียนรู้จินตวิศวกรรม และแนวทาง การพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมของผู้เรียน ตรวจสอบประสิทธิผลของหลักสูตรออนไลน์โดยใช้ แบบแผนการทดลอง แบบ One Group Pretest-Posttest Design ทาการทดลองกับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 40 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง ผลการวิจัยพบว่านักเรียน กลุ่มตวั อยา่ งมีค่าเฉลย่ี คะแนนทักษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรมหลงั เรียนสงู กว่ากอ่ นเรียนอยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ิท่ี ระดับ 0.05 นักเรียนมีความคิดเหน็ ตอ่ หลักสูตรออนไลน์อยูใ่ นระดบั มากท่ีสุดมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.66 ค่า เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.38 ค่าที (t-test แบบ Dependent) เท่ากับ 9.81 ผลการประเมินหลักสูตรออนไลน์ พบว่า มีประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่กาหนด หลังจากการทดลองผู้วิจัยได้ดาเนินการปรับปรุงหลักสูตรและ แผนการจัดการเรียนรู้ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนให้มีความเหมาะสมย่ิงข้ึนและจัดทาเป็นหลักสูตร ออนไลน์ เพอื่ เสรมิ สร้างทักษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรมฉบบั สมบรู ณ์ 2.6 คาสาคญั ของงานวจิ ัย (Keywords) คาสาคัญ: หลักสูตรออนไลน์ การจัดการเรยี นรูจ้ ินตวศิ วกรรม ทกั ษะสรา้ งสรรคน์ วตั กรรม 2.7 ท่ีมาความสาคัญและปัญหาการวจิ ยั โลกเปลี่ยนแปลงไปสู่เศรษฐกิจฐานความรู้และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ด้วยความเจริญก้าวหน้าอย่าง รวดเรว็ ของนวตั กรรม เทคโนโลยี และวิศวกรรม ซึ่งทกุ ประเทศตา่ งให้ความสาคัญต่อการสร้างสรรคน์ วัตกรรม เพื่อสร้างความเจริญม่ังคั่งทางเศรษฐกิจก่อให้เกิดอาชีพและธุรกิจใหม่ ๆ รวมถึงยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับ ประชาชน การให้ความสาคัญกับความแตกต่างทางการค้า ความคิดใหม่ ๆ หรือที่เรียกโดยภาพรวมว่า การสร้างสรรค์นวัตกรรมจึงมีส่วนช่วยสนับสนุนให้การดาเนินธุรกิจของประเทศเจริญเติบโต จากงาน วิจัยท้ังในประเทศและต่างประเทศจานวนมากระบุว่าสมรรถนะหรือทักษะความสามารถในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมของบุคคลมีผลต่อความสาเร็จ สร้างความได้เปรียบในการแขง่ ขันอย่างไรข้ ีดจากัด (ตรีทิพ บุญแย้ม. 2554: 1-4) ทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นกลยุทธ์สาคัญเพื่อบรรลุความสาเร็จในระยะยาว มุ่งเน้นความ ได้เปรียบทางการค้า การแข่งขัน และการลงทุน เป็นความโน้มเอียงในการสร้างหรือการใช้กระบวนการหรือ ผลิตภัณฑ์ใหมใ่ นระบบธุรกิจเพื่อความสาเร็จ (สมนึก เอื้อจิระพงษ์พันธ์. 2553) ส่วนนวตั กรรมเปน็ เคร่อื งมือ ท่ีใช้เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขัน เป็นเหตุให้แต่ละประเทศต้องหากลวิธีท่ีหลากหลายเพ่ือพัฒนาทักษะ สรา้ งสรรคน์ วตั กรรมใหแ้ กป่ ระชาชน การวิเคราะหส์ ภาพปัญหาในระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐานท่ีสง่ ผลกระทบต่อการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์ นวัตกรรมของผู้เรียน พบว่า เด็กยากจนยังเข้าไม่ถึงการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และผลการเรียนรู้ที่อยู่ในระดับต่า การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการแสดงออกด้านความคิด สร้างสรรค์ที่ต่า สอดคล้องกับท่ีครรชิต มนูญผล (2558 มีนาคม 31: ออนไลน์) ได้กล่าวถึงสภาพความเป็น จริงของผู้เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานว่าส่วนใหญ่ยากจน เป็นผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาหรือมาจาก ครอบครัวที่มีปัญหาซึ่งโรงเรียนต้องดูแลรับผิดชอบผู้เรียนในด้านต่าง ๆ ต้ังแต่ อาหารกลางวัน วัสดุอุปกรณ์ การเรียน สมุดหนังสือเรียน หนังสือแบบฝึกหัด ถุงเท้า รองเท้า เสื้อผ้า เครื่องแบบนักเรยี น และทุนการศึกษา ทาให้ประสบปัญหาในด้านการจัด การเรียนการสอนในหลากหลายมิติ จากเอกสารงานวจิ ัยเก่ียวกับหลักสูตร และผลการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 ตลอดจนผลการประเมินคุณภาพ การศึกษาต่างๆ พบว่า การเรียนการสอนอัดแน่นไปด้วยเนื้อหาวิชามากกว่าการส่งเสริมให้เรียนรู้ด้วยตนเอง ผเู้ รียนมีภาวะความเครียด คิดวเิ คราะหไ์ มเ่ ป็น (สพฐ. 2558: 1-2) ปัญหาค่านิยมของการเป็นผ้ใู ช้ ผซู้ ้ือหรือ ผู้บริโภค เช่น เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ได้ ใช้ของใหม่เป็น ตามทันผลิตภัณฑ์ใหม่เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ พร้อมรับ
10 การเปล่ียนแปลง และเปล่ียนสินค้าใหม่ได้เรื่อย ๆ (ไพฑูรย์ สินลารัตน์. 2557:7) การส่งเสริมและพัฒนาขีด ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยังไม่ทั่วถึงและเพียงพอ (วสันต์ สุทธาวาศ. 2559: 197) จาก สภาพปัญหาข้างต้นส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนรู้ท่ีไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ทาให้ผู้วิจัยเกิดข้อคาถามว่าจะ จัดการศึกษาอย่างไรให้เหมาะสมกับธรรมชาติของผู้เรียน เหมาะสมกับยุคสมัย ก้าวทันกระแสความ เปล่ียนแปลงของโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูลข่าวสารจากความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารท่ีเข้ามามีบทบาท มีความสาคัญต่อการพัฒนาประเทศทั้งในด้านการศึกษาสังคม เศรษฐกจิ และการเมือง จะทาอยา่ งไรให้ผู้เรยี นมที กั ษะสร้างสรรค์นวัตกรรม การพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมจึงเป็นการเตรียมความพร้อม ของผู้เรียนสู่โลกยุคเศรษฐกิจฐานความรู้และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ท่ีต้องพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะสร้างสรรค์ นวัตกรรมด้วยการจัดการเรียนรู้ท่ีเน้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เป็นผู้มีความคิดสร้างสรรค์และ สามารถสร้างนวัตกรรมได้ ท้ังน้ีเพื่อสนับสนุนเด็กไทยให้เติบโตเต็มตามศักยภาพ เป็นผู้มีความคิด รู้เท่าทัน เทคโนโลยี รู้จักตัวเอง รู้จักเลือกและสร้างสรรค์นวัตกรรมท่ีชาญฉลาด ภาคภูมิใจในบริบทของตนเอง มี คุณลักษณะของผู้ผลิต มองข้ามเทคโนโลยีใหม่ พัฒนานวัตกรรมท่ีสอดคล้องกับสังคม เป็นผู้กาหนดการ เปล่ียนแปลง มีทักษะในการออกแบบสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดสร้างสรรค์ผลผลิตหรือ นวัตกรรมที่เหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยเพอ่ื ใหส้ ามารถยืนอยไู่ ดด้ ้วยตนเอง (ไพฑูรย์ สินลารัตน์. 2557) โดยการออกแบบพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมให้เป็นหลักสูตรการเรยี น การสอนทางไกลผา่ นระบบอินเทอร์เน็ต เป็นการจดั การเรยี นรู้ท่เี นน้ การสรา้ งองคค์ วามร้แู ละการสรา้ งงานดว้ ย ตนเอง โดยจัดสภาพแวดล้อมเป็นการใช้แหล่งการเรียนรู้ท่ีหลากหลายบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตท่ีผู้เรียนและ ผสู้ อนสามารถสื่อสาร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ขอ้ มูลยอ้ นกลับ และนาเสนอผลงานได้ทั้งในมติ ิประสานเวลาและ ต่างเวลา ไม่จากัดระยะทาง สถานที่ และเวลาสามารถปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงเนื้อหา หรอื กจิ กรรมให้สอดคลอ้ ง กับบริบท สถานการณ์ และความสนใจของผู้เรียนได้งา่ ย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดและไม่ส้ินเปลือง เป็นการ ส่งเสริมการเรียนรู้ได้ตรงกับความต้องการของผู้เรียน อานวยความสะดวกให้ผู้เรียนสามารถเรยี นรู้ด้วยตนเอง จากแหล่งความรู้ต่าง ๆ ทั้งที่เป็นห้องเรียน ชุมชน และท่ีบ้าน เป็นการรวมกันระหว่างทฤษฎีความแตกต่าง ระหว่างบุคคล และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์โดยอาศัยความสามารถของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในการ สร้างความรู้ (Knowledge Constructor) เพื่อช่วยสนับสนุนให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น มีทักษะในการ เลือกรับข้อมูลวิเคราะห์และสังเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ (Hramiak Alison et al. 2013) เป็นการ พัฒนาทักษะการเรียนรู้ ที่ผู้เรียนมีอิสระในการแลกเปล่ียนเรียนรู้ สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การสืบสวน สอบสวนหาข้อเท็จจริง รู้จักดัดแปลง ทุก ๆ สิ่งตามความต้องการ (Bellanca James & Brandt Ron. 2010; วิจารณ์ พานิช. 2555) โดยมผี ู้สอนคอยให้คาแนะนาตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร และวัตถุประสงค์ ของการออกแบบบทเรียนสร้างมุมมองแปลกใหม่ ท้าทาย ทดลอง ค้นคว้าหาคาตอบ และสร้างสรรค์ผลผลิต ใหม่ ๆ ท่ีมคี ุณคา่ ตอ่ การดารงชวี ิตตามคณุ ลกั ษณะและธรรมชาตขิ องผเู้ รียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเหตุผลดังกลา่ วผ้วู จิ ัยจงึ มีความเห็นวา่ การพัฒนาหลกั สูตรออนไลน์เพื่อเสริมสรา้ งทักษะสร้างสรรค์ นวัตกรรมเป็นสิ่งที่จาเป็นทั้งในปัจจบุ ันและอนาคต เป็นการส่งเสริมผู้เรียนให้สร้างสรรค์ส่ิงที่ตนจินตนาการไว้ มาสู่สิ่งท่ีเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติเป็นการถ่ายทอดภาพความคิดให้กลายเป็นส่ิงประดิษฐ์และนวัตกรรมท่ีจับ ตอ้ งได้เป็นกลยุทธข์ องการปรบั การเรยี นเปล่ียนการสอน เปลีย่ นผู้เรียนใหเ้ ป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมหรอื จินต วิศวกรต้ังแต่วัยแรกรุ่น มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเป็นผู้มีทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม สร้างช้ินงานตามจินตนาการ มี ทักษะการนาเสนอ การเผยแพรผ่ ลงานทีน่ ่าประทับใจ มที กั ษะการประเมินและการปรับปรุงแกไ้ ขผลงาน ไม่ว่า ผลงานจะมีข้อบกพร่องหรือสมบูรณ์ ก็สามารถประเมินได้ และมีทักษะการประยุกต์ใช้ความรู้เพื่อพัฒนาต่อ
11 ยอดนวตั กรรมใหม่ ๆ (ปรัชญนันท์ นิลสุข และปณิตา วรรณพิรณุ .2556: 35) เปน็ การสร้างเด็กไทยให้เตบิ โต เต็มตามศักยภาพของตนเอง มคี วามฉลาดในการคิด การตัดสินใจ เลือกที่จะรับรู้ และบริโภคอย่างมเี หตุผล มี ความคิด การกระทาหรือการประดิษฐ์สินค้า และบริการ ที่มีคุณภาพไม่ซ้าแบบใคร เป็นท่ีต้องการของสังคม สามารถสร้างรายได้ให้แก่ตนเองหรือการแขง่ ขันในตลาดโลก เหมาะสมกับบริบทของสงั คมไทย และสังคมโลก ซ่ึงเป็นแนวทางการสร้างคุณภาพการศึกษา การแก้ ปัญหาของผู้เรียนที่ตอบสนองการจัดการศึกษาของ ประเทศในปัจจุบันและอนาคตตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560 - 2564 2.8 วตั ถุประสงค์การวจิ ยั การวิจยั คร้งั น้ีผวู้ ิจัยได้ต้ังความมงุ่ หมาย ดงั น้ี 1. เพอ่ื พฒั นาหลกั สตู รออนไลน์เพอ่ื เสริมสรา้ งทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม 2. เพ่อื ศึกษาประสิทธิผลของหลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสรา้ งทักษะสร้างสรรคน์ วตั กรรม 2.9 หลักการหรือแนวคดิ เชิงทฤษฎที ี่สนบั สนนุ การวิเคราะห์สังเคราะห์เอกสารงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้าง ทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมจาแนกองค์ประกอบต่าง ๆ ของข้อมูลตามท่ีเก่ียวเน่ืองสัมพันธ์กันเพื่อให้บรรลุ ถึงเป้าหมายตามทฤษฎีเชิงระบบ (System Theory) เป็น 3 ขั้นตอน คือ ปัจจัยนาเข้า (Input) ได้แก่ การวิเคราะห์สังเคราะห์ข้อมูลพ้ืนฐานซึ่งเป็นองค์ประกอบแรกท่ีนาเข้าสู่การวิจัยและพัฒนาหลักสูตรออนไลน์ กระบวนการ (Process) ไดแ้ ก่ กระบวนการพัฒนาหลักสูตร และการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวตั กรรมซ่ึงเป็น องค์ประกอบท่ีจะนาไปสู่ผลงานหรือผลผลิตของระบบ และผลิตผล (Output) ได้แก่ ทักษะสร้างสรรค์ นวัตกรรมซึ่งเป็นองค์ประกอบสุดท้ายของระบบที่เป็นความสาเร็จท่ีมีประสิทธิภาพหรือประสิทธิผล ดังแสดง ในภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดการวจิ ัย ภาพที่ 1 กรอบแนวคดิ การวิจัย ท่มี า: การวเิ คราะห์สังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของผู้วิจยั
12 2.10 ระเบียบวิธีการวิจัยและแผนการวิจัย การวิจัยครั้งน้ีได้ดาเนินการในลักษณะของการวิจัยและพัฒนา (Research and development) ซ่ึง มี รายละเอยี ดของการวจิ ยั แตล่ ะข้นั ตอน ดงั นี้ ขนั้ ตอนท่ี 1 การศึกษาวิเคราะห์และสังเคราะห์ขอ้ มูลพ้ืนฐาน (R1) ประกอบด้วย 1. การศกึ ษาแนวคดิ ทฤษฎีจากเอกสารและงานวจิ ัยท่ีเกยี่ วข้องกับการพฒั นาหลกั สูตรออนไลน์ การจัดการเรียนรู้ทางไกล การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้โดยโครงงาน การเรียนรู้สร้างสรรค์นวัตกรรม การเรยี นรู้ออนไลน์ การเรียนรจู้ ินตวิศวกรรม สมรรถนะ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และนวัตกรรม โดยมีจดุ มงุ่ หมาย เพอ่ื เตรียมข้อมลู และนามาเป็นขอ้ มูลในการพัฒนาหลกั สูตรออนไลนเ์ พ่ือเสริมสร้างทักษะสรา้ งสรรคน์ วตั กรรม 2. ศกึ ษาความต้องการจาเป็นในการพัฒนาทกั ษะสร้างสรรค์นวตั กรรมโดยการใชแ้ บบสอบถามเพื่อ การวจิ ยั 3. ศึกษาวิเคราะห์สภาพความพร้อมของโรงเรียนและผ้เู รยี นดา้ นเทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี การเชอ่ื มโยงการเรยี นร้ผู า่ นเครือข่ายอินเทอร์เนต การใช้เฟสบคุ๊ ไลน์ และอีเมล์ของผเู้ รียน ขน้ั ตอนท่ี 2 การพัฒนาหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสรา้ งทักษะสร้างสรรคน์ วัตกรรม (D1) ประกอบด้วย 1. การออกแบบหลักสูตรออนไลน(์ ฉบับรา่ ง)โดยใช้ข้อมลู พื้นฐาน ไดแ้ ก่ การกาหนดกรอบโครงสรา้ ง หลกั สูตรออนไลน์ และการเขียนหลักสตู รออนไลน์(ฉบับรา่ ง)ตามกรอบทก่ี าหนด การนาร่างหลกั สูตรออนไลน์ เอกสารประกอบหลกั สูตรออนไลน์ แบบประเมนิ ความเหมาะสม และแบบประเมินความสอดคลอ้ งเพ่ือ ตรวจสอบและขอคาแนะนาเพ่ิมเตมิ จากผู้เชี่ยวชาญ 2. การทดลองนาร่องใชห้ ลกั สูตรออนไลน(์ ฉบบั รา่ ง)กับนักเรียนที่ไมใ่ ช่กลมุ่ ตวั อย่างเพ่ือศึกษา ความเปน็ ไปไดข้ องการนาหลักสูตรไปใช้นาร่องก่อนการปฏิบตั ิจริงว่าเหมาะสมกับบริบท สภาพปจั จบุ นั ของ การจดั การเรียนการสอนโดยใชเ้ ทคโนโลยีและการเช่ือมโยงการเรียนรู้ผ่านเครอื ขา่ ยอนิ เทอร์เนต การใช้ เฟสบุ๊ค ไลน์ และอีเมลข์ องผูเ้ รียนซึ่งพบปัญหาและอุปสรรคนานาประการจากการทดลองใช้ ผ้วู จิ ัยได้ทาการ ปรับปรุงแก้ไขก่อนนาไปใชก้ ับกล่มุ ตัวอยา่ ง ข้ันตอนที่ 3 การทดลองใช้หลักสตู รออนไลนเ์ พ่ือเสริมสรา้ งทกั ษะสร้างสรรคน์ วตั กรรม (R2) เป็น การนาหลกั สูตรออนไลน์ท่ปี รับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใชก้ ับนักเรยี นกลุ่มตวั อย่าง ผู้วจิ ัยได้ใช้แบบแผน การทดลอง One-Group Pretest-Posttest Design (เนาวรัตน์ พลายน้อย และคณะ. 2543: 124) เพอื่ ตรวจสอบประสิทธภิ าพ ดาเนนิ การเลอื กห้องเรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนวดั พระมหาธาตุเพ่ือเปน็ กลุม่ ตวั อย่างในการทดลอง ทาการประเมนิ ความคดิ เหน็ ของกลุ่มตวั อย่างก่อนการสอน ดาเนนิ การสอนตาม หลักสตู รและทาการทดสอบหลังการทดลองโดยใชแ้ บบสอบถามฉบับเดิม โดยทาการทดลองในช่ัวโมงท่ีผูว้ จิ ัย ทาการสอน และช่ัวโมงกจิ กรรมลดเวลาเรียนเพ่มิ เวลารเู้ พื่อเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนได้ทางานรว่ มกันเปน็ กลุม่ ส่งเสริมให้ผเู้ รยี นทุกคนมโี อกาสได้ใช้คอมพิวเตอรแ์ ละอนิ เทอรเ์ นตในการสบื ค้นข้อมูลเพ่ือส่งเสริมใหผ้ ูเ้ รียนได้ ทากิจกรรมออนไลนท์ ผี่ ู้เรยี นสามารถเรียนร้ไู ด้ดว้ ยตนเองทุกที่ ทกุ เวลา ขัน้ ตอนที่ 4 การประเมินผลและปรับปรงุ หลักสูตรออนไลน์เพ่อื เสรมิ สรา้ งทักษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม (D2) เป็นการตรวจสอบประสิทธิผลของหลักสตู รออนไลน์โดยนาผลการวเิ คราะห์ข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการทดลองใช้ หลกั สูตรมาประเมนิ ผลตามเกณฑท์ ี่กาหนดและนามาปรบั ปรุงแก้ไขหลักสูตรทั้งในด้านโครงสรา้ งหลกั สตู รและ รายละเอยี ดทเ่ี ปน็ องคป์ ระกอบของหลักสตู รเพื่อให้หลกั สูตรมีความถูกต้อง เหมาะสม สามารถนาไปใช้ในการ ส่งเสริมทกั ษะสรา้ งสรรค์นวตั กรรมในโอกาสตอ่ ไปไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิผลอีกทั้งไดห้ ลักสูตรออนไลน์ฉบับ สมบูรณท์ ีพ่ ร้อมสาหรบั การนาไปใชจ้ รงิ ในการพฒั นาผ้เู รยี น
13 เครื่องมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ัย เค ร่ือ งมือ วิจั ย ท่ี ใช้ ใน ก ารพั ฒ น า ห ลั ก สู ต รอ อน ไล น์ เพ่ื อ เส ริม ส ร้ างทั ก ษ ะส ร้า งส รร ค์ น วัต ก รร ม มี 2 ประเภท ดังนี้ 1. เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการทดลอง ไดแ้ ก่ หลกั สตู รออนไลน์เพอ่ื เสรมิ สรา้ งทักษะสร้างสรรค์ นวตั กรรม 2. เคร่ืองมือท่ีใชใ้ นการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล ไดแ้ ก่ แบบสอบถามความคดิ เหน็ ของนักเรยี นท่ีมี ต่อหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมท่ีครอบคลุมนิยามเชิงปฏิบัติการ 6 ประเด็น กาหนดเกณฑ์การให้คะแนนชนิด Analytic scoring rubrics เป็น 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ ระหว่าง 0.60 – 1.00 และมีค่าความเช่อื ม่นั แบบสัมประสทิ ธิ์แอลฟา่ เทา่ กับ 0.98 การวเิ คราะหข์ อ้ มลู ประกอบดว้ ย ผู้วจิ ยั ได้ดาเนนิ การวเิ คราะหข์ ้อมลู ตามลาดับขน้ั ตอน ดงั น้ี 1. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้โปรแกรม วเิ คราะห์ค่าสถิติพื้นฐานจากเคร่ืองมือวิจยั (ปกรณ์ ประจัญบาน. 2552) ได้แก่ การหาค่าเฉล่ีย ส่วนเบ่ียงเบน มาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าที (t-test แบบ Dependent) ค่าอานาจจาแนก แบบ Item total correlation คา่ ความเช่ือม่ันแบบสัมประสทิ ธ์ิแอลฟ่า ซึ่งผลการวิเคราะห์แบบสอบถามความคิดเห็นของผูเ้ รียนโดยภาพรวม ก่อนทาการสอนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.83 ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.50 ค่าความเช่ือม่ันเท่ากับ 0.95 และการวิเคราะห์เครื่องมือโดยภาพรวมก่อนทาการสอนได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.35 ค่าความเชื่อมน่ั เทา่ กบั 0.98 2. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยดาเนินการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการศึกษาแบบ พรรณนาวิเคราะห์ทาการวเิ คราะห์เน้ือหาจากการรวบรวมจากเอกสาร การทดลอง การบันทึกผลระหว่างการ ทดลอง บันทกึ พฤตกิ รรมผเู้ รยี น และการนาเสนอผลงานของผเู้ รียน 2.11 ผลการวจิ ัย ผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามความมุ่งหมายของการวจิ ัย 1) เพื่อพฒั นาหลักสูตรออนไลนเ์ พอ่ื เสรมิ สรา้ ง ทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม และ 2) เพ่ือศึกษาประสิทธิผลของหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะ สร้างสรรค์นวัตกรรม ซ่ึงผู้วิจัยได้นาเสนอผลการวิเคราะห์ความเหมาะสมและความสอดคล้องของหลักสูตร ออนไลน์ เพอ่ื เสรมิ สร้างทักษะสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมโดยผู้เช่ยี วชาญ ดังแสดงในตาราง 1 ดงั นี้
14 จากตาราง 1 ผลการวิเคราะหค์ วามเหมาะสมและความสอดคล้องของหลักสตู รออนไลนเ์ พื่อ เสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยผู้เช่ียวชาญ จานวน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านองค์ประกอบของหลักสูตร ออนไลน์ จานวน 5 ท่าน และด้านทกั ษะสรา้ งสรรคน์ วตั กรรม จานวน 5 ท่าน ดงั น้ี 1. ด้านองค์ประกอบของหลักสูตรออนไลน์ พบว่า หลักสูตรออนไลน์ท่ีพัฒนาขึ้นโดยภาพรวม มคี วามเหมาะสมอย่ใู นระดบั มาก โดยมีคา่ เฉลยี่ รวมทุกด้านเท่ากับ 4.45 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเทา่ กับ 0.45 วิเคราะหค์ ่าอานาจจาแนก แบบ Item Total Correlation มีค่าความเชื่อม่ันแบบสัมประสิทธแ์ิ อลฟา เท่ากับ 0.8592 ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอด คล้องระหวา่ งองค์ประกอบต่าง ๆ ของร่างหลักสูตรออนไลน์ มี ค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60–1.00 ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างส่วนประกอบต่าง ๆ ของ แผนการจดั การเรียนรู้ มคี ่าดัชนีความสอดคล้องเท่ากบั 0.60 – 1.00 แสดงว่าหลักสูตรออนไลน์ท่ีพัฒนาข้ึน มคี วามสอดคล้องกันทงั้ องคป์ ระกอบภายในและมีความสอดคลอ้ งกบั แผนการจัดการเรียนรู้ 2. ด้านทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม ผลการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้องของผู้เชี่ยวชาญ ในการประเมินความเท่ียงตรงเชิงเน้ือหาของทักษะสร้างสรรคน์ วัตกรรม พบว่า ความคิดเห็นของผู้เชีย่ วชาญท่ี มีต่อข้อมูลเกี่ยวกบั การพัฒนาหลักสูตรออนไลน์สามารสรุปได้โดยการวิเคราะห์ค่าดัชนีความสอดคล้อง พบว่า ผู้เชี่ยวชาญมีความคิดเห็นสอดคล้องกันในทุกข้อทุกประเด็น โดยมีค่าดัชนีความสอดคล้องอยู่ระหว่าง 0.60- 1.00 แสดงว่าข้อมูลท่ีผู้วิจัยศึกษาวิเคราะห์สังเคราะห์มีความเหมาะสมถูกต้องในทุกข้อทุกประเด็น แสดงว่า หลักสตู รออนไลน์ท่พี ัฒนาข้นึ มีความเหมาะสม มีประสิทธผิ ลตามเกณฑ์ทีก่ าหนดสามารถนาไปใช้พัฒนาทักษะ สรา้ งสรรคน์ วัตกรรมให้กบั ผู้เรยี นได้ ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคา่ เฉลย่ี คะแนนการประเมินตนเองของผเู้ รยี นก่อนและหลัง การเรียนด้วยหลักสูตรออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม สาหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมทุกมติ ดิ ว้ ยการวเิ คราะห์ค่าที (t-test แบบ Dependent) ปรากฏผลดังแสดงในตาราง 2 จากตาราง 2 ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนเฉล่ียจากการประเมินตนเองก่อนเรียน และหลังเรยี นด้วยหลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จานวน 40 คน พบว่าผู้เรยี นมคี วามคิดเห็นเกี่ยวกบั หลักสูตรออนไลน์โดยภาพรวมในทกุ มิตกิ ่อนเรียนอยู่ใน ระดับมาก มคี ะแนนเฉล่ียเท่ากับ 3.95 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.44 และหลังเรียนอยู่ในระดับมากท่ีสุด มี คะแนนเฉล่ียเท่ากับ 4.66 ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.38 ค่าที 9.81 ผู้เรียนมีความคิดเห็นเก่ียวกับการ จัดการเรียนรู้จินตวิศวกรรมโดยภาพรวมในทุกมิติก่อนเรียนอยู่ในระดับมากมีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 3.81 ค่า เบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.53 และหลังเรียนอยู่ในระดับมากที่สุดมีคะแนนเฉล่ียเท่ากับ 4.60 ค่าเบี่ยงเบน มาตรฐาน 0.33 ค่าที 9.09 ผู้เรียนมีความคดิ เห็นเกี่ยวกับทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยภาพรวมในทุกมิติ
15 ก่อนเรียนอยู่ ในระดับมากมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.83 ค่าเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.50 และหลังเรียนอยู่ใน ระดับมากท่ีสุด มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.61 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.36 ค่าที 950 และเมื่อเปรียบเทียบ ระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียน พบว่า คะแนนการประเมินตนเองหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสาคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .05 2.12 การอภปิ รายและขอ้ เสนอแนะ การอภปิ ราย การวิจยั และพฒั นาหลักสตู รออนไลน์เพือ่ เสรมิ สรา้ งทักษะสร้างสรรคน์ วตั กรรม สาหรับนักเรยี น ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 มปี ระเดน็ ทน่ี ่าสนใจ สามารถนามาอภิปรายผล ดงั น้ี 1. หลกั สตู รออนไลน์เพื่อเสริมสร้างทักษะสรา้ งสรรคน์ วัตกรรม สาหรับนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ท่ีพัฒนาขึ้นในคร้ังน้ีมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมของนักเรียนใน 6 มิติ คือ ทักษะ การจินตนาการ ทักษะการออกแบบ ทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม ทักษะการนาเสนอ ทักษะการปรับปรุง และทักษะการประเมิน สามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอนทกุ กลุม่ สาระการเรยี นรู้ โดยการ วิจัยครง้ั นไี้ ด้ใชเ้ นือ้ หาของสาระการเรียนรู้เทคโนโลยีสารสนเทศ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และศิลปะ จัด กระบวนการเรียนรู้แบบจินตวิศวกรรมโดยใช้กระบวนการกลุ่ม ใช้กิจกรรมการเรยี นรู้ทางไกล การเรียนรู้ด้วย ตนเอง การเรียนรู้ด้วยโครงงาน การเรียนรู้สร้างสรรค์นวัตกรรม และการเรียนรู้ออนไลน์ จากการทดลองใช้ เพื่อศึกษาประสิทธิผลของหลักสูตร พบว่า ผู้เรียนมีทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมสูงขึ้น โดยมีปัจจัยท่ีส่งเสริม ดงั นี้ 1.1 การจัดกระบวนการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ทางไกล การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้ โครงงาน การเรียนรู้ออนไลน์ การเรียนรู้สร้างสรรค์นวัตกรรมและการเรียนรู้จินตวิศวกรรม มาสังเคราะห์เป็น กิจกรรมที่เอ้ือต่อการส่งเสริมให้นักเรียนสามารถระดมพลังสมอง สร้างความคิดท่ีหลากหลาย ต้ังอยู่บน หลักการของการนาจุดเด่นของการจัดการเรียนรู้ท่ีได้สังเคราะห์มาพัฒนาผู้เรียนให้มีอิสระในการแสดงออก มี อิสระ ในการสรา้ งจนิ ตนาการ เกดิ ความม่ันใจในการแสดงออก 1.2 การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการกลุ่มในการจัดการเรียนรู้แบบจินตวิศวกรรม เป็น วธิ ีการจัดการเรียนรู้ที่กระตุ้นให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกลุ่ม เป็นการกระตุ้นย่ัวยุให้ผู้เรยี น ปรับตัว สอดคล้องกับผลการวิจยั ของ จริ ะ จิตสุภา, ปรชั ญนันท์ นิลสุข และจุฬาลักษณ์ วัฒนานนท์. (2555: 114-115) ท่ีพบว่า ผลการเรียนรู้แบบจินตวิศวกรรมของนักศึกษาที่มีประสบการณ์การทาโครงงานอยู่ใน ระดับมาก อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ เน่ืองจากการได้รับการฝึกทักษะ ด้านความคดิ สร้างสรรค์ และการสร้างผลงานเชิงจินตนาการจะทาให้ผ้เู รียนสรา้ งผลงานไดส้ งู ขึ้น 2. ผลการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยคะแนนทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมก่อนและ หลังการทดลองใช้หลักสูตรออนไลน์ พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม โดยภาพรวมของ กลุ่มตัวอย่างหลังการเรียนสูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ 0.05 ซ่ึงเป็นไปตาม สมมติฐานทกี่ าหนด ทั้งนเ้ี น่ืองจากหลักสตู รออนไลน์ท่ีพฒั นาขนึ้ มีการจัดกระบวนการเรยี นรูท้ ่หี ลากหลาย คือ กิจกรรมการเรียนรู้จินตวิศวกรรม กิจกรรมการเรียนรู้สร้างสรรค์นวัตกรรม กิจกรรมโครงงาน กิจกรรมกลุ่ม กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง กิจกรรมการเรียนรู้ออนไลน์ และกิจกรรมการเรียน รู้ทางไกล ซึ่งกิจกรรม ดังกล่าวช่วยส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพิ่มมากข้ึน ดังจะเห็นได้จากผลการวิจัยของ ตรีทิพ บุญแย้ม (2554: บทคัดย่อ) ท่ีพบว่า พฤติกรรมสร้างนวัตกรรมในระดับบุคคลได้รับความแปรปรวน จากปัจจัยในระดับกลุ่มงานและระดับบุคคลโดยปัจจัยในระดับบุคคลท่ีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสร้างนวัตกรรม ในระดบั บุคคลมากทส่ี ุดก็คอื ลกั ษณะการคิดริเร่ิมรองลงมาคือลักษณะเปิดกว้างทางความคิดในขณะที่เครือขา่ ย
16 ทางสังคมมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมสร้างนวัตกรรมในระดับบุคคลพฤติกรรมสร้างนวัตกรรมในระดับกลุ่ มงาน ส่งผลต่อนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ได้ในขณะที่การสนับสนุนนวัตกรรมขององค์การปรากฏอิทธิพลท่ีชัดเจนต่อ บรรยากาศส่งเสริมนวัตกรรมในกลุ่มงาน ดังที่ วิชัย วงษ์ใหญ่ และมารุต พัฒผล (2558: 6-7) ได้กล่าวว่า ทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมเป็นความชานาญหรือความสามารถในการใช้กระบวนการคิดสร้างสรรค์ โดยใช้ จนิ ตนาการและการถา่ ยทอด ใช้ทักษะในการสร้างส่ิงที่มีเอกลักษณ์ของตน จนทาให้เกิดส่ิงใหม่หรอื นวัตกรรม มีองค์ประกอบ 3 ประการ คือ การคิดสร้างสรรค์ การทางานร่วมกับบุคคลอ่ืนอย่างสร้างสรรค์ และการ สร้างสรรค์นวัตกรรมให้เกิดความสาเร็จ ซึ่งสอดคล้องกับผลการวิจัยของเนาวนิตย์ สงคราม (2557) ที่ กล่าวถึง กระบวนการสร้างและพัฒนานวัตกรรมว่าประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมสาหรับการสร้าง นวัตกรรม การกาหนดหัวข้อที่สนใจ การแลกเปล่ียนความรู้ ประสบการณ์ และความคิดเห็น การวางแผน สร้างนวัตกรรม การดาเนินการสร้างผลงานนวัตกรรม การทดลองใช้ผลงานนวัตกรรม การนาเสนอผลงาน นวัตกรรม และการประเมินผล ดังที่ ทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์ (2559: 569-577) กล่าวว่า การจัดการเรียนรู้ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนตจะช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน ช่วยเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์ นวัตกรรมให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม ช่วยเพ่ิมช่องทางการศึกษาสาหรับผู้เรียนเป็นสาคัญ ดังนั้น การจัดกระบวนการเรียนรู้ดังกลา่ ว จึงน่าจะเป็นปัจจัยหนึง่ ทที่ าให้กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉล่ยี คะแนนทักษะ สรา้ งสรรค์นวตั กรรมหลังการทดลองสงู ขนึ้ อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติท่ีระดับ 0.05 ข้อเสนอแนะ 1. ขอ้ เสนอแนะในการนาหลักสูตรไปใช้ 1.1 หลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม สาหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2ใช้เพือ่ พฒั นาทักษะสรา้ งสรรคน์ วตั กรรม โดยการบูรณาการกลุ่มสาระการเรยี นรู้ 3 กล่มุ ได้แก่ กลุม่ การงาน อาชีพ และเทคโนโลยี กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ และกลุ่มศิลปะ ไปทดลองใช้กับนกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ซ่ึงผลการทดลอง พบว่า มีประสิทธิผล หากผู้สอนจะนาหลักสูตรน้ีไปใช้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น หรือ กลุ่มตวั อย่างอน่ื ๆ ก็ควรปรับเนื้อหาสาระใหเ้ หมาะกับระดบั ชน้ั และสถานการณ์ 1.2 การจัดสภาพแวดล้อม และบรรยากาศการเรียนรู้ในขณะดาเนินการสอนตามหลักสตู รออนไลน์ เพ่ือเสริมสร้างทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม ผู้สอนควรสร้างบรรยากาศแห่งความเป็นกัลยาณมิตร ให้ ความสาคัญกับนักเรียนทุกคน ส่งเสริมให้นักเรียนได้คิดอย่างอิสระ ยอมรับความคิดท่ีแตกต่าง และให้การ เสริมแรงทางบวกเพื่อให้นกั เรียนมคี วามกระหายใครร่ ู้ และมคี วามมัน่ ใจในตนเอง 2. ข้อเสนอแนะในการวิจยั ครง้ั ตอ่ ไป 2.1 การวิจัยและพฒั นาหลักสูตรออนไลน์เพ่ือเสริมสร้างทกั ษะสร้างสรรคน์ วัตกรรมคร้ังนี้ เป็นความ จาเป็นอันดับแรกเน่ืองจากนักเรียนในระดับน้ีควรได้รับการพัฒนาทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรม หารได้มีการ ส่งเสริมให้นาไปใช้ในระดับอื่น ๆ ทั้งการศึกษาในระบบ และนอกระบบจะช่วยให้นักเรียนได้รับการพัฒนา ศักยภาพทางทักษะสร้างสรรค์นวัตกรรมท่ีสงู ขน้ึ จึงควรมีการวิจัยเพื่อพัฒนาหลักสตู รออนไลน์เพ่ือเสริมสร้าง ทักษะสรา้ งสรรค์นวัตกรรม สาหรับกลมุ่ ตัวอย่างอ่ืน ๆ ต่อไป 2.2 ผลการวิจยั และพัฒนาหลักสตู รออนไลนเ์ พ่ือเสรมิ สร้างทักษะสร้างสรรคน์ วตั กรรมครัง้ นี้ใช้ไดผ้ ล กับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางของการวิจัย และพัฒนา หลกั สูตร และรปู แบบการจัดการเรยี นร้เู พ่ือพฒั นาทักษะสร้างสรรคน์ วัตกรรมได้ทั้งสองมิติ 2.3 ผลจากการวิจัยครั้งน้ี พบว่า การพัฒนาหลักสูตรออนไลน์ ยังมีจานวนน้อย ดังน้ัน จึงควร สง่ เสรมิ ใหม้ กี ารวิจยั เพื่อพัฒนาหลกั สูตรออนไลน์ใหม้ ากขน้ึ ในทุกระดับ
17 2.13 บรรณาณกุ รม ภาษาไทย กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2557). \"แผนแม่บทเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สารเพ่ือการศกึ ษา.\" เขา้ ถึงเม่ือ 17 มถิ นุ ายน 2558. เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.google.co.th ครรชิต มนูญผล. (2558 มนี าคม 31). การสร้างครดู ีแกแ่ ผ่นดนิ ตามรอยพ่อ: Active learning. เข้าถงึ เมอื่ 4 ธันวาคม 2559. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.facebook.com/kanchit.manoonphol จริ ะ จิตสภุ า, ปรัชญนนั ท์ นลิ สขุ และจุฬาลกั ษณ์ วัฒนานนท์. (2555). \"การเปรยี บเทียบการเรยี นรู้ อยา่ งเป็นระบบกบั การเรียนรู้แบบจนิ ตวศิ วกรรมของนักศึกษาปริญญาตรีสาขาคอมพิวเตอร์ ท่ีมปี ระสบการณ์ตา่ งกนั .\" คณะวิทยาการจดั การ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏสวนดุสิต. เข้าถงึ เมื่อ 28 กมุ ภาพันธ์ 2559. เขา้ ถงึ ได้จาก https://www.academia.edu ตรที พิ บุญแย้ม. (2554). \"ปัจจยั เชงิ สาเหตุพหรุ ะดับท่มี ีอิทธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรมสร้างนวตั กรรม ระดับบุคคลและระดับกลุ่มงานเพื่อสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในบริษัทเอกชนของไทย.\" ปริญญา นิพนธ์ วท.ด. (การวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์). กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรีนคริ นทรวโิ รฒ. ทวศี ักดิ์ จินดานรุ กั ษ์. (2559). \"นวัตกรรมและสือ่ ในการจดั การเรยี นการสอนวิทยาศาสตร์ในศตวรรษ ท่ี 21.\" Veridian E-Journal, Silpakorn University. ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศลิ ปะ ปีที่ 9, ฉบับท่ี 1 (เดือนมกราคม – เมษายน 2559): 560-581. เนาวนิตย์ สงคราม. (2557). การสรา้ งนวัตกรรม เปล่ียนผเู้ รียนใหเ้ ป็นผสู้ ร้างนวตั กรรม. กรุงเทพฯ: สานักพมิ พแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. เนาวรัตน์ พลายน้อย และคณะ. (2543). พรมแดนความรู้ดา้ นการวจิ ัยและสถิต.ิ รวมบทความ ทางวิชาการ ของ ดร.นงลกั ษณ์ วิรชั ชัย. ชลบรุ ี: วทิ ยาลัยการบรหิ ารรัฐกิจ มหาวิทยาลัยบูรพา. ปกรณ์ สุปินานนท์. (2551). \"การพฒั นาหลกั สูตรออนไลนส์ ่งเสริมการเรียนร้ดู ้วยอเิ ลก็ ทรอนิกส์ สาหรบั พนักงานใหมข่ องบรษิ ัทเอม็ เคเรสโตรองต์จากดั .\" วทิ ยานพิ นธ์ ศษ.ด (หลกั สูตรและการสอน). กรงุ เทพฯ: บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์. ปรัชญนันท์ นิลสุข และปณิตา วรรณพิรณุ . (2556). \"การเรยี นรูแ้ บบจินตวิศวกรรม (Imagineering).\" วารสาร พัฒนาเทคนคิ ศึกษา. ปที ่ี 25 ฉบับที่ 86 (เมษายน – มิถนุ ายน). เข้าถึงเมอื่ 28 กุมภาพนั ธ์ 2559. เขา้ ถึงไดจ้ าก https://www.academia.edu ไพฑรู ย์ สนิ ลารตั น์ และคณะ. (2557). เตบิ โตเตม็ ตามศักยภาพสู่ศตวรรษที่ 21 ของการศกึ ษาไทย. กรงุ เทพฯ: สานักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. วสันต์ สทุ ธาวาศ. (2559). \"การพฒั นาโปรแกรมเสรมิ สร้างศักยภาพความเป็นนวัตกรการศึกษา.\" Veridian E-Journal, Silpakorn University. ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศลิ ปะ ปีท่ี 9, ฉบับที่ 2 (เดอื นพฤษภาคม – สงิ หาคม 2559): 194-215. วจิ ารณ์ พานิช. (2555). วถิ ีสร้างการเรียนรเู้ พอื่ ศิษยใ์ นศตวรรษท่ี 21. กรุงเทพฯ : มลู นธิ สิ ดศรี- สฤษดวิ์ งศ์. เข้าถึงเมื่อ 8 กุมภาพนั ธ์ 2557. เข้าถงึ ไดจ้ าก http://www.noppawan.sskru.ac.th วชิ ยั วงษใ์ หญ่ และมารตุ พัฒผล. (2558). กระบวนทัศน์การโค้ชเพ่อื เสริมสรา้ งทกั ษะการสรา้ งสรรค์ และนวตั กรรม. พมิ พ์ครงั้ ท่ี 1. กรุงเทพฯ: บรษิ ทั สนิทวงศ์การพมิ พ์ จากัด
18 สมนึก เออ้ื จิระพงษ์พนั ธ์. (2553). การจดั การความรูก้ บั นวตั กรรม. กรงุ เทพฯ: สามลดา. สมศักด์ิ เตชะโกสิต และ ปรัชญนันท์ นลิ สขุ . (2559). \"กระบวนการเรยี นรู้จนิ ตวศิ วกรรม ทางวิทยาศาสตร์ ด้วยเทคโนโลยเี สมือนจรงิ .\" สาขาวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สาร เพ่ือการศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ. เข้าถึงเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2559. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://www.academia.edu สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ. (2558). \"ทิศทางของแผนพฒั นา เศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 12.\" กรกฎาคม 2558. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน. (2558). แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ “ลดเวลา เรียน เพม่ิ เวลารู้” ชัน้ ม.1-3. กรงุ เทพฯ: สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา. อภญิ ญา สทิ ธิวงค์. (2558). \"การศกึ ษาพฒั นาโครงงานเปรยี บเทยี บความคิดสรา้ งสรรค์ในการเรียนวชิ า ศิลปะ เทคนคิ จิตรกรรมสีนา้ ของนักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 โรงเรียนไทยคริสเตยี น กรุงเทพมหานคร ที่เรยี นดว้ ยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน.\" ปรญิ ญานพิ นธ์กศ.ม. (ศลิ ปศกึ ษา). กรุงเทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลัย มหาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ. อรอนงค์ โรจนว์ ัฒนบลู ย์. (2553). \"การพฒั นาตวั แบบผู้นาเชิงนวัตกรรม.\" วิทยานิพนธ์ พบ.ด. (รฐั ประศาสนศาสตร์) กรงุ เทพฯ: บัณฑติ วทิ ยาลัย สถาบนั บณั ฑติ พฒั นบริหารศาสตร์. ภาษาต่างประเทศ Athabasca University (2002a). Student Academic Services 2002. Accessed July 21, 2003. Available from http://intra.athabascau.ca/ reports/student services 2002.doc Anderson, T. et al. (2004). Theory and Practice of Online Learning. Printed at Athabasca University. Canada. Bellanca, James; & Ron Brandt. (2010). 21st Cetury Skills: Rethinking How Students Learn. U.S.A: Solution-tree press. Hramiak Alison et al. (2013). Escalating the use of Web 2.0 Technology in Secondary Schools in the United Kingdom: Barriers and Enablers Beyond Teacher Training. Accessed December 28, 2013, Available from http://scholar.google.co.th การรบั รองผลงานและจริยธรรมการวจิ ัย ข้าพเจ้าขอรับรองว่าผลงานวิจัยที่ส่งเข้าร่วมคัดเลือกเพ่ือนาเสนอในการจัดประชุมทางวิชาการ การวิจัยทางการศึกษาระดับชาติ คร้งั ที่ 16 เป็นผลงานวจิ ัยที่ดาเนินการด้วยตนเอง โดยไม่ได้คัดลอกหรือ ดดั แปลงมาจากผลงานวิจัยของผอู้ ืน่ ไม่มีการละเมดิ ลขิ สิทธ์ิ และไมล่ ะเมิดจริยธรรมทางวิชาการใดๆ ลงช่ือ.......................................................... (นางสาวจริยา ทองหอม) ผูส้ ง่ ผลงานวิจัย
19 ภาคผนวก
20
Search
Read the Text Version
- 1 - 20
Pages: