Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore นวัตกรรม (Innovation)

นวัตกรรม (Innovation)

Published by jt2554, 2019-02-18 22:17:33

Description: การศึกษา เรื่อง นวัตกรรม (Innovation) ได้มีการศึกษามาเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน แต่การให้คำนิยาม หรือความหมายมีความแตกต่างกันตามมุมมองและภูมิหลังของนักวิชาการแต่ละคน

Keywords: นวัตกรรม (Innovation)

Search

Read the Text Version

นวตั กรรม (Innovation) จริยา ทองหอม. (2562 กุมภาพนั ธ์ 19). นวตั กรรม. Innovation Education Jariya Tonghom 183/21 Karom Rode, Posadet , Muang Nakorn Si Thammarat, Thailand โทรศพั ท:์ 0805322618 อีเมล: [email protected]

ความหมายของนวตั กรรม การศึกษา เรื่อง นวตั กรรม (Innovation) ไดม้ ีการศึกษามาเป็นระยะเวลา ค่อนขา้ งนาน แต่การใหค้ านิยาม หรือความหมายมีความแตกต่างกนั ตามมุมมอง และภูมิหลงั ของนกั วชิ าการแต่ละคน สาหรับรากศพั ทข์ องคาวา่ นวตั กรรมน้นั มา จากภาษาลาติน คาวา่ “Innovare” แปลวา่ “ทาส่ิงใหม่ข้ึนมา” (สานกั งานนวตั กรรม แห่งชาติ, 2550 อา้ งถึงใน สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ นั ธแ์ ละคณะ. 2553) ราชบณั ฑิตยสถาน (2555, หนา้ 287) ไดใ้ หค้ วามหมายวา่ นวตั กรรม หมายถึง สิ่งท่ีทาข้ึนใหม่หรือพฒั นาข้ึนอาจอยใู่ นรูปแบบของความคิด วธิ ีการ การ กระทา หรือสิ่งประดิษฐต์ ่าง ๆ โดยสิ่งน้นั ๆ อาจเป็น ส่ิงใหม่ท้งั หมดหรือ เพยี งบางส่วน และอาจใหม่ในบริบทใดบริบทหน่ึงหรือในช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง โดยทว่ั ไปนวตั กรรมเป็นสิ่งที่กาลงั อยใู่ นกระบวนการพิสูจน์ทดสอบ หรือไดร้ ับ การยอมรับ นาไปใชบ้ า้ งแลว้ แต่ยงั ไม่แพร่หลาย หรือเป็นส่วนหน่ึงของระบบ ปรกติ

หากพิจารณาในประเดน็ ท่ีเป็นแก่นหลกั สาคญั ๆ ของคานิยามต่าง ๆ แลว้ มี อยู่ 3 มิติ ที่เป็นมิติสาคญั ของนวตั กรรม (สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ นั ธ์และคณะ. 2553) คือ ความใหม่ (Newness) หมายถึง สิ่งใหม่ที่ถูกพฒั นาข้ึน อาจเป็น กระบวนการ การบริการ หรือผลิตภณั ฑท์ ่ีถูกปรับปรุงจากของเดิมหรือพฒั นาข้ึน ใหม่กไ็ ด้ การใชค้ วามรู้และความคิดสร้างสรรค์ (Knowledge and Creativity Idea) หมายถึง สิ่งที่เป็น นวตั กรรมจะตอ้ งเกิดจากการใชค้ วามรู้ และความคิด สร้างสรรคเ์ ป็นฐานของการพฒั นาใหเ้ กิดข้ึนใหม่ไม่ใช่การลอกเลียนแบบหรือ การทาซ้า เป็นตน้ ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจ (Economic Benefits) หมายถึง การสร้าง ความสาเร็จในเชิงพาณิชย์ กล่าวคือ นวตั กรรมน้นั สามารถทาใหเ้ กิดมูลค่าเพมิ่ ซ่ึงอาจจะวดั ไดเ้ ป็นตวั เงินหรือไม่เป็นตวั เงินกไ็ ด้

ความสาคญั ของนวตั กรรม นวตั กรรมมีความสาคญั ในการยนื อยบู่ นเวทีโลกอยา่ ง เขม้ แขง็ ของไทย ท้งั ในดา้ นเศรษฐกิจ และการพฒั นา ที่ยงั่ ยนื การปรับเทคโนโลยใี นกระบวนการผลิตของ อุตสาหกรรมสู่การพฒั นานวตั กรรมเป็นเร่ืองท่ีจาเป็น เมื่อ เปรียบเทียบกบั ประเทศเพอื่ นบา้ น หรือประเทศที่พฒั นาแลว้ พบวา่ ขณะน้ีการใชเ้ ทคโนโลยที ี่คิดคน้ เองในประเทศของ ไทยอยใู่ นระยะเริ่มตน้ จึงตอ้ งมีการเร่งกระบวนการถ่ายทอด เทคโนโลยี และการสร้างนวตั กรรมใหเ้ กิดข้ึนอยา่ งรวดเร็ว ภายใตแ้ นวคิดและรูปแบบใหม่ ท้งั ในภาคอุตสาหกรรมและ องคก์ รต่าง ๆ เพ่ือขบั เคลื่อนใหเ้ กิดนวตั กรรมท่ีจะสร้าง มูลค่าเพมิ่ ใหก้ บั เศรษฐกิจและสงั คมของประเทศไดอ้ ยา่ ง รวดเร็ว (กาญดา โกศยั . 2555)

นวตั กรรม เป็นเคร่ืองมือที่สาคญั ของการเป็นผปู้ ระกอบเพือ่ สร้างความไดเ้ ปรียบในเชิงการ แข่งขนั ทางการตลาด และความสาเร็จทางธุรกิจ Sundbo (1998. อา้ งถึงใน สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ นั ธ์ และคณะ. 2553) ไดท้ าการสรุปแนวคิดเก่ียวกบั ทฤษฎีของนวตั กรรมในเชิงเศรษฐศาสตร์ โดยได้ ระบุแนวคิดของการศึกษาทางดา้ นนวตั กรรมแบ่งออกเป็น 3 มุมมอง คือ 1) มุมมองในดา้ นผปู้ ระกอบการ (The Entrepreneur Paradigm) 2) มุมมองดา้ นเศรษฐศาสตร์และเทคโนโลยี (The Technologyeconomics Paradigm) 3) มุมมองดา้ นกลยทุ ธ์ (The Strategic Paradigm) ดงั น้นั นวตั กรรมจึงมีความสาคญั ในการยนื อยบู่ นเวทีโลกอยา่ งเขม้ แขง็ ของไทย ท้งั ใน ดา้ นเศรษฐกิจ และการพฒั นาท่ียง่ั ยนื การปรับเทคโนโลยใี นกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมสู่ การพฒั นานวตั กรรมเป็นเร่ืองที่จาเป็น เมื่อเปรียบเทียบกบั ประเทศเพือ่ นบา้ น หรือประเทศที่พฒั นา แลว้ พบวา่ ขณะน้ีการใชเ้ ทคโนโลยที ี่คิดคน้ เองในประเทศของไทยอยใู่ นระยะเร่ิมตน้ จึงตอ้ งมีการ เร่งกระบวนการถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวตั กรรมใหเ้ กิดข้ึนอยา่ งรวดเร็ว ภายใตแ้ นวคิด และรูปแบบใหม่ (กาญดา โกศยั . 2555) ท้งั ในภาคอุตสาหกรรมและองคก์ รต่าง ๆ เพ่อื ขบั เคลื่อนให้ เกิดนวตั กรรมที่จะสร้างมูลค่าเพ่ิมใหก้ บั เศรษฐกิจและสงั คมของประเทศไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

ประเภทของนวตั กรรม การจาแนกประเภทของนวตั กรรมอาจมีความแตกต่างกนั ออกไปตามบริบทและเป้าหมายของการนาไปใชป้ ระโยชน์ จากนวตั กรรม จากการทบทวนเอกสารงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งพบวา่ การจาแนกประเภทของนวตั กรรมอาจมี 3 มิติ (สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ นั ธแ์ ละคณะ. 2553) คือ 1) มิติดา้ นเป้าหมายของนวตั กรรม สามารถจาแนกได้ 2 ประเภท คือ นวตั กรรมผลิตภณั ฑ์ (Product Innovation) และ นวตั กรรมกระบวนการ (Process Innovation) 2) มิติดา้ นการเปลี่ยนแปลงของนวตั กรรม พบวา่ มีการแบ่งประเภทของนวตั กรรมตามระดบั หรือลกั ษณะของการ เปลี่ยนแปลงได้ 2 ประเภท คือ นวตั กรรมท่ีมีลกั ษณะเฉียบพลนั (Radical Innovation) และนวตั กรรมท่ีมีลกั ษณะค่อยเป็น ค่อยไป (Incremental Innovation) 3) มิติดา้ นการส่งผลกระทบต่อขอบเขตของการดาเนินงาน พบวา่ มีการแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ นวตั กรรมดา้ น เทคโนโลยี (Technological Innovation) และ นวตั กรรมดา้ นการบริหาร (Administrative Innovation) ดงั น้นั การกาหนดกลยทุ ธแ์ ละเป้าหมายทางธุรกิจของผปู้ ระกอบการควรทาความเขา้ ใจใหช้ ดั เจนเกี่ยวกบั มุมมองใน มิติต่างๆ ของนวตั กรรม ท้งั น้ีเพ่อื ใหก้ ารวางแผน และการจดั การนวตั กรรมที่จะนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายตามกลยทุ ธท์ ี่ กาหนดไว้

ข้นั ตอนของการพฒั นานวตั กรรม การพฒั นานวตั กรรมมีการกาหนดแตกต่างกนั ตามภูมิหลงั และบริบทของผใู้ ช้ พชั รพรรรณ พ่งึ นิล (2554) กล่าวถึง กระบวนการการสร้างและพฒั นานวตั กรรมวา่ มี 5 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่ ข้นั ตอนที่ 1 การศึกษาเอกสารแนวคิดหลกั การ ข้นั ตอน ท่ี 2 การเลือกและการวางแผนสร้างนวตั กรรม ข้นั ตอนที่ 3 สร้างและพฒั นานวตั กรรม ข้นั ตอนที่ 4 การหาประสิทธิภาพ ของนวตั กรรม และ ข้นั ตอนที่ 5 ปรับปรุงนวตั กรรม กาญดา โกศยั (2555) กล่าวถึงกระบวนการพฒั นานวตั กรรมที่แตกต่างออกไปวา่ การพฒั นานวตั กรรมจาแนกเป็น 5 ข้นั ตอน คือ 1. การคน้ หาความคิดใหม่ (Idea Generation) แหล่งท่ีมาของความคิดท่ีเป็นนวตั กรรม ไดแ้ ก่ 1. ความรู้ 2. การใชป้ ระโยชน์จากความคิดของลูกคา้ 3. การเรียนรู้จากกลุ่มผใู้ ชท้ ี่มีหวั กา้ วหนา้ 4. การออกแบบท่ีเขา้ ถึงใจคน 5. ฝ่าย วจิ ยั และพฒั นา 6. นวตั กรรมจากภายนอกองคก์ ร 2. การรับรู้โอกาส (Opportunity Recognition) ส่ิงท่ีสาคญั คือ เราตอ้ งฉลาดพอที่จะรับรู้วา่ สิ่งน้นั จะเป็นการ คน้ พบที่ยง่ิ ใหญ่เมื่อเราเห็นมนั ตรงหนา้ (Norman Augustine) 3. การประเมินความคิด (Idea Evaluation) เป็นการประเมิน 1. ความเหมาะสมของนวตั กรรม กบั กลยทุ ธ์ขององคก์ ร 2. ความสามารถดา้ นเทคนิคขององคก์ รในการสร้างนวตั กรรม 3. ความสามารถทางดา้ นธุรกิจที่ส่งผลใหน้ วตั กรรม ประสบความสาเร็จ

การประเมนิ นวตั กรรม การประเมินคุณภาพนวตั กรรมมีหน่วยงานและนกั วชิ าการซ่ึงเป็น ผเู้ ชี่ยวชาญ เช่น กรมวชิ าการ คุรุสภา สพฐ. และชม ภูมิภาค ไดเ้ สนอแนะ แนวการประเมิน ดงั น้ี คุรุสภา (2547-2549) กาหนดเกณฑก์ ารประเมินคุณภาพนวตั กรรมวา่ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิ ไดแ้ ก่ 1. คุณค่าทางวชิ าการ 2. ประโยชนข์ องนวตั กรรม 3. การมีส่วนร่วม ชม ภูมิภาค (2549) กล่าวถึงนวตั กรรมการศึกษาท่ีมีคุณภาพ มีความ เหมาะสมและเป็นท่ียอมรับวา่ ตอ้ งมีคุณสมบตั ิ ไดแ้ ก่ 1. มีประโยชน์ มากกวา่ 2. ตรงกบั ความตอ้ งการ 3. เขา้ ใจง่าย ไม่ซบั ซอ้ น 4. ทดลอง ปฏิบตั ิได้ 5. เกิดผลแก่เป้าหมายอยา่ งชดั เจน

สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน (2550) กาหนดเกณฑก์ ารพจิ ารณาคุณภาพของนวตั กรรมการศึกษา ประกอบดว้ ย 1. ความเป็นนวตั กรรม 2. กระบวนการพฒั นานวตั กรรม 3. คุณค่าของนวตั กรรม ดงั น้นั การประเมินวตั กรรม (เอกพรต สมุทธานนท.์ 2553). สามารถจาแนก ออกเป็น 3 ดงั น้ี 1. ดา้ นความเป็นนวตั กรรม 2. ดา้ นกระบวนการพฒั นานวตั กรรม 1. วตั ถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการพฒั นานวตั กรรม 2. การใชห้ ลกั การ แนวคิด ทฤษฎีในการพฒั นานวตั กรรม 3. การออกแบบพฒั นานวตั กรรม 4. กระบวนการ พฒั นานวตั กรรม 5. การมีส่วนร่วมในการพฒั นานวตั กรรม 6. ความสาเร็จของการพฒั นานวตั กรรม 3. ดา้ นคุณค่าและประโยชนข์ องนวตั กรรม 1. การแกป้ ัญหาหรือพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน 2. การใชท้ รัพยากรในการพฒั นานวตั กรรม 3. การเรียนรู้ร่วมกนั 4. ส่งเสริมใหเ้ กิดกระบวนการแสวงหาความรู้ 5. การยอมรับ 6. การนาไปใช้

บรรณานุกรม 1.พชั รพรรรณ พ่ึงนิล. (2554). นวตั กรรม เทคโนโลยี และสารสนเทศการศึกษา. คน้ เม่ือ 1 สิงหาคม 2558. จาก https://sites.google.com/site/nuleknwatkrrmkarsuksa/ assignments 2.สมนึก เอ้ือจิระพงษพ์ นั ธ์และคณะ. (2553). นวตั กรรม: ความหมาย ประเภท และความสาคญั ตอ่ การเป็นผปู้ ระกอบการ. วารสารบริหารธุรกิจ. คณะพาณิชยศาสตร์และ การบญั ชี มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ ปี ท่ี 33 ฉบบั ที่ 128 ตุลาคม-ธนั วาคม 2553. คน้ เมื่อ 1 สิงหาคม 2558. จาก http://webcache.googleusercontent.com/search? 3. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม. (2009). องคค์ วามรู้นวตั กรรม. คน้ เม่ือ 26 กรกฎาคม 2558. จาก http://library.dip.go.th/Industrial%20Innovation/www/inno1-01.html 4. กาญดา โกศยั . (2555). คน้ เมื่อ 26 กรกฎาคม 2558. จาก https://www.gotoknow.org/user/karndakosai/profile 5. Panita Phophon.(2555). ความหมาย องคป์ ระกอบ ประเภท และความสาคญั ของนวตั กรรม. คน้ เม่ือ 26 กรกฎาคม 2558. จาก https://www.gotoknow.org/posts/492092 6. กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม. (2009). องคค์ วามรู้นวตั กรรม. คน้ เมื่อ 26 กรกฎาคม 2558. จาก http://library.dip.go.th/Industrial%20Innovation/www/inno1-01.html 7. สุวสิ าข์ เหล่าเกิด. (2012, มกราคม 03). การพฒั นาวธิ ีการหรือนวตั กรรมเพ่ือแกป้ ัญหาหรือพฒั นาการเรียนรู้. เอกสารการเรียนรู้รายวชิ านวตั กรรมและเทคโนโลยี สารสนเทศทางการศึกษา. สาขาวชิ าคอมพวิ เตอร์ศึกษา คณะศิลปศาสตร์และวทิ ยาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นครพนม. คน้ เมื่อ 26 กรกฎาคม 2558. จาก https:// www.google.co.th/ 8. ไพฑูรย์ ปลอดอ่อน. (2556). การพฒั นานวตั กรรมเพือ่ การจดั การเรียนรู้. คน้ เม่ือ 26 กรกฎาคม 2558. จาก https://www.google.co.th/ 9. เอกพรต สมุทธานนท.์ (2553). แบบประเมิน นวตั กรรมการศึกษา. คน้ เม่ือ 26 กรกฎาคม 2558. จาก https://www.gotoknow.org/posts/392717 10. โรงเรียนกลั ยาณวตั ร. (2556. มีนาคม 18 – 31). เกณฑ์การประเมินสื่อ/นวตั กรรม โครงการประกวดส่ือนวตั กรรม. คน้ เม่ือ 26 กรกฎาคม 2558. จาก https:// www.google.co.th/ 11. อรุณ จาดนอก. (2556. มิถุนายน. 21). นวตั กรรม เทคโนโลยแี ละสารสนเทศทางการศึกษา. คน้ เมื่อ 1 สิงหาคม 2558. จาก http://pc2554144053.blogspot.com/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook