ส่อื กลางในการสื่อสารข้อมูล จัดทาโดย นางสาวภารดี เจริญสวัสดิ์ ปวส.2 คอมพิวเตอรธ์ รุ กิจ หอ้ ง2
สอ่ื กลางในการสือ่ สารขอ้ มูล ส่ือกลางหรือตัวกลางเป็นสว่ นทที่ าให้เกดิ การ เชือ่ มต่อระหว่างอปุ กรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน และอุปกรณ์นี้ ยอม ให้ข่าวสารข้อมูลเดินทางจากผู้ส่งไปสู่ผู้รับ สื่อกลางที่ ใช้ในการส่ือสารข้อมูลมีอยู่หลายประเภท แต่ละ ประเภทมี ความแตกต่างกนั ในดา้ นของปริมาณขอ้ มลู ทส่ี ามารถนา ผา่ นไปได้ใน ณ ขณะใดขณะหนงึ่ ซง่ึ ขึ้นอยู่ กับแบนดว์ ดิ ท์ (Bandwidth) ของส่อื กลางแตล่ ะประเภท ลกั ษณะของ สอ่ื กลางต่างๆ มีดังตอ่ ไปนี้ แบนด์วิดท์ (Bandwidth) คือแถบความถ่ีของ ช่องสญั ญาณ ซึ่ง หากมชี ่องสญั ญาณขนาดใหญ่ข้ึน ก็ จะส่งผลให้สามารถเคล่ือนย้าย ปริมาณข้อมูลได้ จานวนมากข้ึน ส่งผลให้การส่งข้อมูลรวดเร็วข้ึน โดยมากเราวัดความเร็วของการส่ง ข้อมูลเป็น bps (bit per second)
สอ่ื กลางประเภทมีสาย สายค่บู ิดเกลียว (Twisted pair Cable) สายคู่บิดเกลียวประกอบด้วยสายทองแดง 2 เส้น แต่ละเส้นมีฉนวนหุ้มพันกัน เป็นเกลียว สามารถลดการ รบกวนจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการสูญเสีย พลังงานจากการแผ่รังสีความร้อนใน ขณะที่มีการส่งสัญญาณ สายคู่บิดเกลียว 1 คูจ่ ะแทนการสอื่ สาร ได้ 1 ช่องทางส่ือสาร(Channel) สาหรับการ ใชง้ านจริงเช่นสายโทรศพั ทจ์ ะเป็นสายรวมที่ ประกอบดว้ ยสายคูบ่ ดิ เกลียวอยู่ภายในเป็นร้อยๆ คู่ แนวคิด : การนาสายมาถักเปน็ เกลียวมี เหตผุ ลสาคัญ คอื ชว่ ยลดการแทรกแซงจาก สญั ญาณ รบกวน (Crosstalk)
สายคู่บิดเกลียวสามารถใช้ได้ทั้งการส่งสัญญาณข้อมูลแบบอนาล็อกและแบบ ดิจิตอล และเนื่องจากสายคู่ บิดเกลยี วจะมกี ารสญู เสียสญั ญาณขณะสง่ สญั ญาณ ดังน้นั จงึ จาเปน็ ตอ้ ง มีเคร่ืองขยายสัญญาณ (Amplifier) สาหรับการส่งสัญญาณข้อมูลแบบอนาล็อกในระยะทางไกล ๆ หรือทุก 5 –6 กิโลเมตร สาหรับการส่ง สญั ญาณขอ้ มลู แบบดิจิตอลจะต้องมเี ครื่องทบทวนสัญญาณ (Repeater) ทกุ ๆ 2 – 3 กิโลเมตร สายประเภท น้มี ดี ้วยกัน 2 ชนิดคอื ก ) ส า ย คู่ บิ ด เ ก ลี ย ว ช นิ ด หุ้ ม ฉ น ว น รูปท่ี 1 (Shielded Twisted Pair : STP) เป็นสายคู่ บิดเกลียวท่ีหุ้มด้วยลวดถัดช้ันนอกท่ีหนา อีกช้ันดังรูปท่ี 2 เพ่ือป้องกันการรบกวน ของคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ รปู ท่ี 2 ข) สายคู่บดิ เกลยี วชนิดไมห่ ้มุ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair : UTP) เปน็ สายคูบ่ ดิ เกลียวมีฉนวนชั้นนอกทบ่ี างอีกชน้ั ดงั รปู ที่ 3 ทาใหส้ ะดวก ในการโคง้ งอ แตส่ ามารถปอ้ งกัน การรบกวนของคล่นื แมเ่ หลก็ ไฟฟ้าได้ น้อยกว่าชนิดแรก แต่ก็มีราคาตา่ จงึ นยิ มใชใ้ นการเช่อื มตอ่ อุปกรณ์ใน เครือขา่ ย ตวั อย่างสายคบู่ ิดเกลยี วชนิดน้ี เช่น สายโทรศัพทท์ ่ใี ชอ้ ยตู่ าม บ้าน
หวั เชือ่ มต่อ (Modular Plugs) สายคู่บิดเกลยี วจะใชห้ ัวเช่อื มต่อแบบ RJ-45 ซง่ึ จะมีลักษณะคล้ายกับหัว เชื่อมต่อแบบ RJ-11ท่ีเป็นหัวท่ีใช้กับสายโทรศัพท์ทั่ว ๆ ไป ข้อแตกต่าง ระหว่างหัว เช่ือมต่อสองประเภทนี้คือ หัว RJ-45 จะมีขนาดใหญ่กว่า เล็กน้อยและไม่สามารถเสียบเข้ากับปลั๊กโทรศัพท์ ได้ และหัว RJ-45 จะ เชื่อมสายคู่บิดเกลียว 4 คู่ ในขณะท่ีหัว RJ-11 ใช้ได้กับสายเพียง 2 คู่ เท่าน้ัน
ขอ้ ดี ข้อเสยี 1. ราคาถกู 1. ความเร็วในการส่งขอ้ มลู ตาํ่ เมอ่ื เทยี บกบั ส่ือประเภทอื่น 2. งา่ ยต่อการนําไปใช้งาน 2. ใชไ้ ด้ในระยะทางสั้นๆ 3. ในกรณีเป็นสายแบบไมม่ ชี ีลด์ปอ้ งกันสัญญาณรบกวน จะไวตอ่ สัญญาณ สญั ญาณรบกวน (Noise) ภายนอก
ขอบคณุ ค่ะ......
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: