พุทธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการเรียนรู้ นายธีร์รัตน์ ธรรมจักร เลขที่ 6 ชั้น4.3

พทุ ธศาสนาเปน็ ศาสตรแ์ ห่งการเรยี นรู้ จัดทาโดย นายธีรร์ ตั น์ ธรรมจักร เลขท่ี 6 ช้นั 4/3

การทีบ่ ุคคลจะทาอะไรไดด้ ีและทาเป็นนน้ั ข้นึ อยู่ กับการฝึกหดั อบรม ซึง่ กระทาได้ 2 ทาง 1.การฝกึ หดั อบรมตนและการพง่ึ ตนเอง 2.เรยี กวา่ สกิ ขา มี 3 ขั้นตอน

สกิ ขา อธศิ ลี สกิ ขา คือ การฝกึ อบรมหรือการควบคมุ ตนในเร่ืองศลี อธจิ ติ ตสิกขา คือ ฝึกอบรมในเรื่องจติ เรียกง่ายๆ วา่ สมาธิ เป็นการฝึกฝน พฒั นาจิตใหด้ ีงามย่ิงๆ ข้ึนไปในด้านตา่ ง ๆ อธิปญั ญาสิกขา เปน็ การฝกึ อบรมในเรื่องปญั ญา ให้เกดิ ความรู้ ความเข้าใจ ท้ังความรูใ้ นทางวิชาการซึ่งเปน็ ประโยชนต์ อ่ การดาเนนิ ชีวติ

พระพุทธศาสนามงุ่ สู่อสิ รภาพ เปา้ หมายของการฝกึ หัดอบรมตนเองตามหลักพระพุทธศาสนา คือ วิมตุ ติ หรอื ความหลดุ พน้ หมายถึง ความหลุดพน้ จากการ ครอบงาของความโลภ ความโกรธ และความหลง ซงึ่ จัดไดว้ ่า เปน็ อสิ รภาพอยา่ งหน่ึง

พระพทุ ธศาสนามุง่ ประโยชนส์ ขุ และสันติภาพแก่ ชาวโลก หลกั คาสอนที่ให้ละเวน้ จากการเบยี ดเบียนชวี ิตผู้อื่น หลกั คาสอนท่ีให้ละความโลภ ความเห็นแกต่ ัว หลกั คาสอนทใี่ ห้ละจากความโกรธ หลกั คาสอนที่ให้ละจากความหลงผิด หลักคาสอนในเรอื่ งความอดทน หลักคาสอนของพระพทุ ธศาสนาซึ่งอยู่ในลกั ษณะของพุทธ ศาสนสภุ าษิต