Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบงานการปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน 1

ใบงานการปฏิบัติวิชาชีพครูระหว่างเรียน 1

Published by oranuchfjw45, 2021-12-08 16:49:58

Description: ใบงานที่ 1 แบบบันทึกการวิเคราะห์ตนเอง
ใบงานที่ 2 การสังเกต การปฏิบัติหน้าที่ครู
ใบงานที่ 3 การสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครู
ใบงานที่ 4 การศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษาและความสัมพันธ์กับชุมชน
ใบงานที่ 5 การศึกษาชั้นเรียนคณิตศาสตร์
ใบงานที่ 6 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในรูปแบบกิจกรรม PLC
ใบงานที่ 7 กิจกรรมวิเคราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู
ใบงานที่ 8 สรุปองค์ความรู้ที่ได้จากประสบการณ์เรียนรู้ในสถานศึกษา

Search

Read the Text Version

ใบงานการปฏิบัตงิ าน การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ชดุ วชิ า “การฝึกปฏิบตั วิ ชิ าชีพครูระหวา่ งเรียน 1” (Practicum 1) นางสาวอรนุช ฟองจางวาง รหัสประจำตัวนักศึกษา 6412106019 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ ฝึกที่โรงเรยี นชาตติ ระการวิทยา ตำบลปา่ แดง อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณโุ ลก

คำนำ เลม่ ใบงานการฝกึ ประสบการณ์วิชาชีพครูเลม่ น้ีเป็นสว่ นหน่ึงของรายวิชา EDUC 191 การฝึกปฏิบตั ิ วชิ าชีพครูระหว่างเรยี น 1 (Practicum 1) ซึง่ ได้รวบรวมใบงานเก่ียวกบั การสังเกตการณส์ อนและมีสว่ นร่วม โรงเรียนชาติตระการวิทยา ตำบลป่าแดง อำเภอชาตติ ระการ จังหวดั พิษณโุ ลก โดยมเี นอื้ หาเกีย่ วกบั แบบ บนั ทกึ การวเิ คราะหต์ นเอง การสงั เกต การปฏิบตั ิหน้าทคี่ รู การสงั เกตการจัดการเรยี นรขู้ องครู การศกึ ษา สังเกตบรบิ ทของสถานศกึ ษาและความสมั พันธก์ ับชมุ ชน การศึกษาชัน้ เรียนคณิตศาสตร์ กจิ กรรมแลกเปลยี่ น เรียนร้ใู นรปู แบบกิจกรรม PLC กจิ กรรมวเิ คราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู และสรปุ องค์ความรทู้ ไ่ี ด้จาก ประสบการณ์เรียนรู้ในสถานศกึ ษา ข้าพเจ้าหวงั ว่าเล่มใบงานการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูเล่มนี้จะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ผู้ที่ศกึ ษาไม่มากก็ น้อย ถ้าหากใบงานเลม่ นมี้ ขี ้อผิดพลาดประการใด ทางผูจ้ ดั ทำกข็ ออภยั มา ณ ท่นี ด้ี ว้ ย นางสาวอรนุช ฟองจางวาง ผู้จัดทำ

ขอ้ มลู ทัว่ ไปของนกั ศึกษา ชอื่ -สกุล นางสาวอรนุช ฟองจางวาง รหสั ประจำตวั นักศกึ ษา 6412106019 ว.ด.ป.เกดิ 24 พฤศจกิ ายน 2545 อายุ 19 ปี ภูมลิ ำเนาของนกั ศกึ ษา 4/1 หมู่ 2 ตำบลทา่ สะแก อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณโุ ลก รหสั ไปรษณยี ์ 65170 สังเกตการณ์ ณ โรงเรยี นชาตติ ระการวิทยา ท่อี ยโู่ รงเรียน 124 หมู่ 4 ตำบลป่าแดง อำเภอชาตติ ระการ จงั หวัดพิษณุโลก รหสั ไปรษณยี ์ 65170 นกั ศึกษาฝกึ ประสบการณ์ (ชดุ สังเกตการณ์ ปี 64) ที่ร่วมสังเกตการณใ์ นสถานศึกษาเดยี วกนั 1. นางสาววรัมพร นวลอยู่ 2. นายกริ วตั น์ อนิ ตะ๊ เสน 3. นางสาวสุจนิ ดา แสนแทน 4. นางสาวณชิ กานต์ แสนคำ

การปฏบิ ตั วิ ชิ าชพี ครูระหวา่ งเรียน 1 ใบงานที่ 1 แบบบนั ทึกการวเิ คราะห์ตนเอง ใบงานท่ี 2 การสงั เกต การปฏิบตั หิ น้าทค่ี รู ใบงานท่ี 3 การสังเกตการจัดการเรยี นรูข้ องครู ใบงานท่ี 4 การศึกษาสงั เกตบริบทของสถานศกึ ษาและความสมั พนั ธ์กบั ชุมชน ใบงานที่ 5 การศึกษาชั้นเรียนคณิตศาสตร์ ใบงานท่ี 6 กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนร้ใู นรปู แบบกิจกรรม PLC ใบงานท่ี 7 กิจกรรมวเิ คราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู ใบงานที่ 8 สรุปองคค์ วามรู้ทีไ่ ดจ้ ากประสบการณ์เรยี นรู้ในสถานศึกษา

ใบงานท่ี 1 แบบบันทกึ การวิเคราะหต์ นเอง คำช้ีแจง ใหน้ ักศกึ ษาบนั ทกึ ผลการวเิ คราะห์ตนเอง ในประเด็นดงั ตอ่ ไปน้ี 1. ความใฝ่ฝันอยากเป็นครู ดิฉนั มคี วามใฝ่ฝันท่ีอยากจะเปน็ คุณครูตง้ั แต่เด็กเพราะชอบไปโรงเรยี น ชอบสงั คมในโรงเรียนไดเ้ ห็น การทำงานของคุณครูท่ีเต็มไปดว้ ยความรัก ความเมตตา ความปรารถนาทด่ี ีตอ่ นักเรียน ดฉิ นั จึงมีแรงบนั ดาล ใจมาจากคณุ ครทู ี่เคยสอนดฉิ นั มาหลายๆท่าน พวกทา่ นคอยดูแลเอาใจใส่ คอยอบรมสงั่ สอนให้ดิฉันมคี วามรู้ สอนการอยู่ร่วมกบั ผู้อื่นในสังคมได้อยา่ งสงบสุข ดิฉนั จึงอยากจะเป็นครทู ดี่ ี คอยสอนนกั เรยี นให้เปน็ คนดีมี ความรู้ เปน็ คนดีของสงั คม เหมือนอยา่ งที่ดิฉันได้รบั จากคุณครู 2. ความรักและศรัทธาในวชิ าชพี ครู อาชพี ครูเป็นอาชพี ที่มีเกียรติและศกั ดิ์ศรี มีความสำคัญตอ่ สงั คม นา่ เคารพนับถือ ไมว่ า่ จะประกอบ อาชีพอะไรทกุ คนลว้ นแต่ได้รบั การอบรมสั่งสอนจากครู เพราะฉะนัน้ อาชีพครจู ึงเปน็ อาชพี ทีส่ ําคญั อยา่ งยงิ่ เป็นความนา่ ภาคภมู ิใจจึงศรัทธาในวชิ าชีพครู 3. ทัศนคติทด่ี ีตอ่ วชิ าชีพครู คุณครเู ป็นอาชพี ท่ีมคี วามเสยี สละ การเป็นครูทดี่ ีต้องมใี จรกั และศรัทธาในวิชาชพี เป็นแบบอย่างท่ีดี ใหก้ ับนักเรยี นมคี วามรกั ความเมตตากรุณา มีความปรารถนาดตี ่อนักเรียน มีความเขา้ ใจนักเรยี น เมื่อ นกั เรยี นมปี ัญหาคอยใหค้ าํ ปรกึ ษาและช่วยเหลือนักเรยี นเสมอ การจดั การเรียนการสอนนั้นจะต้องมเี ทคนิคที่ สามารถสอนใหน้ ักเรยี นเข้าใจในบทเรยี น สามารถนาํ ความร้ไู ปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาํ วันได้และยังสอน ทักษะชีวิต การรจู้ กั เอาตัวรอดและการอย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื ในสังคมได้อยา่ งมีความสุข 4. ความสนใจเรอื่ งราวเกี่ยวกบั ครู (การติดตามขอ้ มูลขา่ วสารเกี่ยวกับคร)ู ดิฉนั มีการติดตามข้อมูลขา่ วสารอยูเ่ สมอจาก Facebook โทรทศั น์ และเวบ็ ไซตท์ ีม่ ีขอ้ มลู เก่ยี วกับ อาชีพครู ความเคล่อื นไหวของอาชีพครู การสอบใบประกอบวิชาชีพครู การสอบบรรจขุ ้าราชการครู เทคนิค การสอนและการทำสอื่ การสอนของครู เพื่อเปน็ ความรนู้ ำไปประยกุ ตใ์ ช้ในอนาคตขา้ งหนา้

5. การเตรียมพร้อมส่คู วามเปน็ ครู ดฉิ นั มกี ารเตรยี มความพร้อมโดยการศึกษาการสอบใบประกอบวชิ าชีพครู การสอบบรรจุขา้ ราชการ ครู ตดิ ตามขอ้ มลู ขา่ วสารจาก Facebook โทรทัศน์ และเวบ็ ไซต์ท่มี ขี ้อมลู เกีย่ วกับอาชพี ครู 6. สามารถนำผลจากการเรยี นรู้ในสถานศกึ ษามาร่วมแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับเพ่อื นรว่ มชนั้ เรียน ไดอ้ ยา่ งไร จากการมาสงั เกตการณ์สอนที่โรงเรยี นชาตติ ระการวิทยา สามารถนําประสบการณท์ ไ่ี ด้จากการ สังเกตการณ์สอนของครูพเ่ี ลีย้ งมาแลกเปลีย่ นพูดคุยกนั นาํ ข้อดีปัญหาท่พี บ วิธีการแกไ้ ข เทคนคิ การสอน การควบคุมนกั เรยี นในชัน้ เรียนหรอื ความรู้ดๆี มาแลกเปลย่ี นประสบการณ์กนั

ใบงานท่ี 2 การสงั เกต การปฏิบตั ิหนา้ ท่คี รู สาระสำคัญ ครูมีความรกั และศรทั ธาในวิชาชีพครู ปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณและวินัยครู ปฏบิ ัติตามบทบาท หนา้ ท่ีครผู ู้สอนและครูประจำชั้นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม วตั ถุประสงค์ 1. แสดงพฤติกรรมท่สี ะท้อนถึงการมจี ติ วญิ ญาณความเป็นครู 2. ระบุบทบาทหนา้ ท่ขี องครผู ้สู อนและครปู ระจำชั้นในการชว่ ยเหลือและพฒั นาผ้เู รียน เน้อื หาสาระ 1. ความรกั และศรทั ธาในวิชาชพี ครู 2. จรรยาบรรณและวินยั ครู 3. บทบาทหนา้ ที่ครผู สู้ อนและครูประจำช้นั กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. ศกึ ษาเอกสารเกย่ี วกบั บทบาทหน้าที่ครูผสู้ อนและครปู ระจำช้นั จรรยาบรรณวิชาชพี ครู 2. สนทนา อภปิ ราย แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับคุณลักษณะท่ีดขี องครตู ามจรรยาบรรณวิชาชีพครู ความรักและศรัทธาในวิชาชพี ครู 3. กำหนดหัวข้อสำหรับการศึกษาสงั เกตและสรุปลงในแบบบนั ทึก 4. นำผลการศึกษาสังเกตมานำเสนอเพือ่ อภปิ รายในชั้นเรยี น ส่ือการเรียนรู้ 1. แบบบันทึกการสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีครู 2. เอกสารประกอบการศกึ ษาด้วยตนเอง การวัดประเมินผล 1. ตรวจแบบบนั ทกึ การสังเกต 2. สังเกตพฤติกรรมการให้ความรว่ มมือในชน้ั เรียน

1.วิธีการแสดงออกท่ใี ห้เห็นถงึ ความรักและความศรัทธาในวิชาชพี ครู จากการท่ดี ฉิ นั ไดส้ ังเกตการณ์สอนของคุณครู ทําใหด้ ิฉนั ไดท้ ราบถงึ ความรกั ความหว่ งใยที่ คุณครูได้มอบใหน้ ักเรยี น ถงึ แมว้ ่าครจู ะสอนในรายวิชาเดียวหลายระดบั ชนั้ หลายห้องเรียน คุณครกู ็มีความ มุง่ มั่นตง้ั ใจในการสอน ในคาบเรยี นคุณครูจะคอยกระตุ้นนกั เรียนโดยพดู คยุ ถามตอบให้นกั เรยี นไดโ้ ตต้ อบ เพือ่ ไม่ใหส้ ถานการณ์ในห้องเรียนตึงเครียด ครูมีความเอาใจใสน่ กั เรยี น โดยการจําชอื่ ของนกั เรียนและคอย สอบถามงานทีค่ ุณครูมอบหมายกบั นักเรียน ถึงแมด้ ฉิ ันจะสังเกตการณส์ อนในระยะเวลาทีส่ ้นั แต่ดิฉันกร็ บั ร้ถู ึง ความรักและความศรัทธาในวิชาชพี ครขู องครู ที่เต็มเปีย่ มไปด้วยความรกั ความเมตตา ให้แก่นกั เรียน เพือ่ อยากให้นกั เรียนไดม้ คี วามรมู้ ากท่ีสดุ 2. การปฏบิ ัตติ นตามจรรยาบรรณและวินัยครผู ูส้ อนและครปู ระจำชนั้ ต่างๆ ดงั นี้ 2.1 จรรยาบรรณต่อตนเอง คุณครูมีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ีในการสอน มีวินยั ต่อตนเอง ทั้งเร่ืองเวลา เรือ่ งการแต่งกาย และ พฒั นาตนเองหาความรมู้ าสอนอยเู่ สมอ มีความรกั และความศรัทธาในวิชาชพี ครู คอยหว่ งใย ติดตามสอบถาม นักเรยี นเร่ืองการส่งงาน มีความเอาใจใสน่ ักเรียน และคอยให้ความช่วยเหลอื 2.2 จรรยาบรรณต่อวชิ าชีพ คณุ ครูมีความรบั ผิดชอบต่อหนา้ ที่ ภาระงานท่ีตอ้ งทาํ การเป็นครไู มไ่ ด้มีหน้าทเ่ี พียงสอนอย่าง เดยี วแต่ให้ความสําคญั ตอ่ ภาระงานหรือหนา้ ท่ีอยา่ งอ่นื ท่ีตอ้ งรบั ผิดชอบดว้ ย ต้องมคี วามรกั ตงั้ ใจในการ ทํางานดว้ ยความเต็มใจ มีความรบั ผิดชอบงานที่ไดร้ บั มอบหมายให้สาํ เร็จตรงตามท่ีกําหนดและไมล่ ะเลย หนา้ ท่ีในการอบรม สงั่ สอนให้ความร้แู ก่นักเรียน 2.3 จรรยาบรรณตอ่ ผู้รับบริการ คุณครูมีความประพฤตปิ ฏิบตั ิตนเปน็ แบบอย่างท่ดี ีใหแ้ ก่นักเรียน อาจจะมีดบุ า้ งแต่ใชค้ ําสภุ าพในการ ว่ากลา่ วตกั เตือน มีความเอาใจใสน่ ักเรียน เหน็ ความสาํ คัญของนกั เรยี นทกุ คน คอยให้คาํ ปรกึ ษานกั เรยี น ตอบ ขอ้ สงสัยเกีย่ วกับการเรยี น คอยขัดเกลาสงั่ สอนให้แกน่ ักเรียน รกั นกั เรยี นเท่าเทยี มกันและสอนนกั เรียนด้วย ความเตม็ ใจเสมอ 2.4 จรรยาบรรณต่อผู้รว่ มประกอบวิชาชีพ คุณครูคอยให้ความช่วยเหลือกับเพอื่ นรว่ มวชิ าชีพเมือ่ มเี หตุท่ีทําให้ไม่สามารถมาสอนได้หรือเป็นที่ ปรึกษาให้ คุณครูเป็นคนมนี ้ำใจและมีอัธยาศัยดกี ับผู้ร่วมงานเร่ืองไหนที่คุณครสู ามารถชว่ ยได้ คุณครูจะคอย ช่วยเหลือและแสดงความหว่ งใยกบั คณุ ครูท่านนนั้ 2.5 จรรยาบรรณตอ่ สงั คม คณุ ครมู ีการแสดงถงึ ความรกั ชาติศาสนาและพระมหากษตั รยิ ์เหน็ ประโยชน์งานส่วนรวมมากกว่างาน ส่วนตน ช่วยเหลืองานส่วนรวมทุกครั้งอยา่ งสม่ำเสมอและปฏิบตั ติ ่อสงั คมดว้ ยความเสมอภาค

3. บทบาทหน้าทีข่ องครูผู้สอนและครปู ระจำช้นั ด้านต่างๆ ดังน้ี 3.1 ความรับผิดชอบของครู ครมู คี วามรบั ผิดชอบตอ่ งานท่ไี ดร้ บั หมายเป็นอยา่ งดี เป็นคนตรงต่อเวลาในการเขา้ สอนทุกคาบ มี การเตรยี มความพร้อมและมีความม่งุ มน่ั ตง้ั ใจในการสอน มีความรบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ที่ท่ไี ดร้ บั หมอบหมาย 3.2 การเอาใจใส่ สง่ เสริมผูเ้ รียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคล คณุ ครมู ีความเอาใจใสใ่ นนักเรยี นรายบคุ คล มกี ารติดตามงานของนกั เรยี น นักเรียนทกุ คนมคี วาม แตกตา่ งกนั คนไหนทีเ่ รียนไม่คอ่ ยเขา้ ใจคุณครกู ็จะอธิบายเพิ่มเตมิ เสมอเพื่อใหน้ ักเรยี นได้เรยี นรแู้ ละมคี วาม เขา้ ใจเพมิ่ มากข้นึ สว่ นคนทเี่ ข้าใจแลว้ กจ็ ะได้เข้าใจเพ่มิ มากขึ้น และคอยสง่ เสรมิ ความสามารถของผ้เู รยี นแต่ ละคนอย่างสดุ ความสามารถ 3.3 การปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างที่ดีแกผ่ เู้ รยี น คุณครูมีการปฏบิ ัตติ นเป็นแบบอย่างที่ดี เชน่ แตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย ตรงต่อเวลาการทำงาน การ เขา้ สอนตรงตอ่ เวลา สอนครบตามเวลาทก่ี าํ หนด คุณครมู ีความรับผดิ ชอบต่อหนา้ ทข่ี องตวั เอง และมคี วาม เมตตาต่อผู้เรียน 3.4 การสรา้ งแรงบันดาลใจให้กับผูเ้ รยี น คณุ ครูจะคอยกระตุน้ ใหน้ กั เรียนมคี วามสนใจในการเรยี น มีการพดู คุย มีการถาม-ตอบให้นกั เรยี นมี ความกระตือรอื ร้น มีการสรา้ งบรรยากาศในหอ้ งเรียนไม่ตงึ เครยี ดเกนิ ไป และเสริมแรงผู้เรียนโดยการพูดชม ผ้เู รยี นอยู่เสมอ

ใบงานที่ 3 การสังเกตการจดั การเรยี นรขู้ องครู วัตถปุ ระสงค์ 1. เพื่อให้นักศกึ ษาสังเกตการควบคุมชน้ั เรียนของครผู ู้สอน 2. เพอื่ ใหน้ กั ศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรู้ของครูผสู้ อน เพ่อื ให้นักศกึ ษานำส่งิ ท่ไี ดจ้ ากการสงั เกต การควบคุมช้ันเรยี น และการจดั การเรียนรขู้ องครผู ูส้ อนมาเป็นแนวทางในการจัดการเรยี นรู้ ของตนเอง 3. เพอื่ ให้นักศกึ ษาสงั เกตและฝกึ ทักษะการแก้ปญั หาเฉพาะหน้า ขอบเขต ให้นกั ศึกษา ศกึ ษา สงั เกต และฝกึ ทกั ษะจากผู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งในสถานศกึ ษา แล้วบันทกึ ขอ้ มูล ในแบบบันทึกตามประเดน็ ดังนี้ 1. สังเกตเทคนคิ การควบคมุ ช้นั เรียนของครูผู้สอน 2. สงั เกตการจดั การเรยี นรู้ของครผู ้สู อน 3. นำสง่ิ ทไ่ี ด้จากการสังเกตการควบคมุ ช้ันเรยี น และการจัดการเรียนรู้ของครูผ้สู อนมาประยกุ ตใ์ ช้ ในการจัดการเรยี นรู้ 4. สงั เกตปัญหาทพ่ี บในการจัดการเรยี นรขู้ องครผู ู้สอน และเทคนคิ แนวทางในการแกไ้ ขปัญหา ผู้เก่ียวข้อง/แหลง่ ขอ้ มลู 1. ผูอ้ ำนวยการ / รองผอู้ ำนวยการโรงเรียน 2. ครูผูส้ อน / ครพู เ่ี ล้ยี ง / นกั เรียน หมายเหตุ สังเกต 3 ครง้ั ต่อสปั ดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครั้ง

แบบสงั เกตการจดั การเรียนรู้ ครั้งที่ 1 โรงเรยี นชาติตระการวิทยา ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1/5 รายวชิ าคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน รหสั วิชา ค21102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ วนั ที่ 18 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.20 - 12.10 น. จำนวน 1 ช่วั โมง 50 นาที ครูผูส้ อน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเด็น รายละเอียด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรียนรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ดา้ นท่ี 2 การใชจ้ ิตวทิ ยาในการจัดการเรียนรู้ ชวนนักเรียนพดู คยุ เพ่อื ใหผ้ ่อนคลาย และมมี ขุ ตลกเพ่ือให้ นกั เรยี นเกดิ ความสนใจและต้งั ใจฟังในขณะท่สี อน ด้านที่ 3 สังเกตการจัดการเรยี นรู้ (ตวั อย่างข้ันตอนการจดั การเรียนรู้สามารถปรบั เปลยี่ นได้ ตามสถานการณจ์ รงิ ) - ขั้นนำ ครูแนะนำตัวและทำความรูจ้ ักกับนักเรียน ครูพดู คยุ กบั นกั เรียนเรื่องการบา้ นช่วงเรยี นออนไลน์ - ขน้ั สอน ครอู ธิบายความหมายของอัตราสว่ น การเขียนสญั ลักษณ์ อตั ราสว่ น ครูยกตัวอยา่ งการเขยี นอัตราสว่ น โดยยกตวั อยา่ งอัตราสว่ น ของครูกับนกั เรียนในห้องเรียน ครูสอบถามนกั เรยี นจากตวั อยา่ งอตั ราสว่ นของครกู บั นักเรียนในห้องเรียน และตวั อย่างจากหนงั สือเรยี น - ขั้นสรปุ ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปการเขียนอตั ราสว่ น ดา้ นท่ี 4 ปญั หาทพ่ี บ / แนวทางแกไ้ ข ปญั หาที่พบในการจดั การเรยี นรู้ นักเรียนไมก่ ล้าตอบคำถามของครู การแกไ้ ขปญั หาในชั้นเรยี นของครผู ู้สอน มีการใช้ภาษาทเี่ ป็นกนั เอง ชวนพูดคุยบอ่ ยๆ เพื่อให้ นักเรียนผ่อนคลายและกล้าตอบคำถามมากขึน้

ดา้ นท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพฒั นาคุณภาพ ครมู ีการต้งั คำถามเกีย่ วกับเรื่องที่สอนแล้วสังเกตนักเรยี น ผเู้ รียนในรูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรอื ไม่ เพ่อื ทดสอบวา่ นกั เรียนมีความเข้าใจและต้ังใจฟังมากนอ้ ย อย่างไร เพยี งใด ดา้ นท่ี 4 สิง่ ทไี่ ดร้ บั / การประยุกตใ์ ช้ ไดท้ ราบถงึ กระบวนการจัดการเรียนการสอน การสรุป เน้อื หาให้มคี วามนา่ สนใจ เขา้ ใจงา่ ย โดยยกตวั อย่าง สถานการณจ์ รงิ ทำใหน้ ักเรียนเข้าใจและเหน็ ภาพมากขน้ึ หมายเหตุ สังเกต 3 ครัง้ ต่อสัปดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 คร้งั

แบบสงั เกตการจัดการเรยี นรู้ ครง้ั ที่ 2 โรงเรยี นชาตติ ระการวิทยา ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1/1 รายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน รหสั วชิ า ค21102 จำนวน 1.5 หน่วยกติ วนั ท่ี 18 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 13.00 – 13.55 น. จำนวน 55 นาที ครูผู้สอน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเด็น รายละเอยี ด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ด้านที่ 2 การใชจ้ ิตวทิ ยาในการจดั การเรียนรู้ มคี วามห่วงใยนักเรยี น ชวนนักเรียนพดู คุย คอยสอบถาม ความใจของนักเรียนอยูเ่ สมอ ด้านที่ 3 สงั เกตการจัดการเรียนรู้ (ตวั อยา่ งขัน้ ตอนการจดั การเรยี นรู้สามารถปรบั เปลยี่ นได้ ตามสถานการณจ์ ริง) - ข้นั นำ ครแู นะนำตัวและเช็คชอื่ ทำความรู้จักกบั นักเรยี น ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรยี น ครพู ดู คยุ กับนกั เรียนเร่ืองการบา้ น การทำงานส่งชว่ งเรยี น ออนไลน์ - ข้ันสอน ครอู ธบิ ายความหมายของอัตราส่วน การเขียนสญั ลักษณ์ อตั ราสว่ น ครยู กตวั อยา่ งการเขยี นอตั ราส่วน โดยยกตวั อยา่ งอัตราส่วน ของผลไม้ 3 ชนิด ครูสอบถามนักเรยี นจากตัวอย่างอัตราส่วนของผลไม้ 3 ชนิด และยกตวั อยา่ งจากหนังสือเรยี น - ขน้ั สรปุ ครูและนักเรียนร่วมกันซกั ถามสรุปเกย่ี วกับเร่ืองอตั ราสว่ น ครูซักถามถงึ ความเข้าใจและข้อสงสัยเรอ่ื งอัตราส่วน ดา้ นที่ 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแก้ไข ปัญหาท่ีพบในการจัดการเรียนรู้ นักเรียนไม่ค่อยสนใจสงิ่ ที่ครูสอน การแกไ้ ขปัญหาในช้ันเรียนของครูผ้สู อน

ครมู กี ารเรียกชือ่ เพ่ือกระต้นุ ใหน้ ักเรียนกลับมาสนใจสง่ิ ท่ี เรียน ดา้ นท่ี 5 ครมู รี ายงานผลการพัฒนาคุณภาพ ครูมีการต้งั คำถามเกี่ยวกบั เรื่องท่ีสอนแลว้ สงั เกตนักเรยี น ผ้เู รียนในรปู แบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ เพ่ือทดสอบวา่ นักเรียนมีความเข้าใจและตั้งใจฟังมากน้อย อย่างไร เพียงใด ด้านท่ี 4 สง่ิ ทีไ่ ดร้ ับ / การประยกุ ต์ใช้ ไดท้ ราบถึงกระบวนการจัดการเรยี นการสอน การจดั การชั้น เรียนของครูทต่ี ้องรับมือกบั นักเรยี น หมายเหตุ สังเกต 3 คร้งั ต่อสปั ดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจดั การเรยี นรู้ คร้งั ที่ 3 โรงเรยี นชาตติ ระการวทิ ยา ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1/4 รายวิชาคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหสั วิชา ค21102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต วันท่ี 19 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 13.00 – 13.55 น. จำนวน 55 นาที ครผู ้สู อน ครูสมคดิ ฟองจางวาง ประเด็น รายละเอยี ด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ด้านท่ี 2 การใช้จิตวทิ ยาในการจัดการเรียนรู้ มีความหว่ งใยนกั เรียน คอยสอบถามความเข้าใจและข้อ สงสยั ของนักเรียน ด้านที่ 3 สงั เกตการจดั การเรียนรู้ (ตัวอยา่ งข้นั ตอนการจัดการเรยี นรสู้ ามารถปรับเปล่ยี นได้ ตามสถานการณ์จริง) - ข้นั นำ ครูแนะนำตัวและเช็คช่อื ทำความร้จู ักกับนักเรียน ครูกล่าวทักทายนกั เรยี น ครพู ูดคุยกับนกั เรียนเรอื่ งการสง่ การบา้ นช่วงเรียนออนไลน์ - ขัน้ สอน ครทู บทวนความรู้เรื่องอัตราสว่ นทสี่ อนช่วงเรยี นออนไลน์ ครูอธบิ ายความหมายของอัตราสว่ น การเขยี นสญั ลักษณ์ อัตราส่วน ครูถาม - ตอบกับนกั เรียนโดยยกตัวอยา่ งจากในหนงั สือ เรียน - ขั้นสรปุ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปเกี่ยวกบั เรอื่ งอตั ราส่วน ครสู ่ังแบบฝกึ หัดท้ายบท ด้านท่ี 4 ปญั หาท่ีพบ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาทพี่ บในการจดั การเรยี นรู้ มีนักเรยี นไมต่ ง้ั ใจฟังขณะทค่ี รูบรรยาย การแกไ้ ขปญั หาในชนั้ เรยี นของครผู ู้สอน มีการกระต้นุ นกั เรียน เช่น เรยี กชอื่ นักเรยี นให้กลับมาสนใจ และสอดแทรกมขุ ตลก

ด้านที่ 5 ครูมรี ายงานผลการพฒั นาคุณภาพ ครูมีการต้งั คำถามเกีย่ วกับเร่อื งที่สอนแลว้ สงั เกตนักเรยี น ผ้เู รยี นในรปู แบบการศกึ ษารายกรณีหรอื ไม่ เพอ่ื ทดสอบว่านักเรยี นมีความเข้าใจและตง้ั ใจฟงั มากนอ้ ย อยา่ งไร เพียงใด ดา้ นท่ี 4 สงิ่ ท่ไี ด้รบั / การประยกุ ต์ใช้ ได้ทราบถงึ กระบวนการจดั การเรียนการสอน และเทคนิค การควบคมุ นักเรยี นในชน้ั เรยี นของคุณครู หมายเหตุ สังเกต 3 ครัง้ ตอ่ สัปดาห์ รวมอยา่ งน้อย 9 ครัง้

แบบสังเกตการจัดการเรยี นรู้ ครง้ั ท่ี 4 โรงเรยี นชาตติ ระการวิทยา ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1/4 รายวิชาคณิตศาสตร์พน้ื ฐาน รหสั วิชา ค21102 จำนวน 1.5 หน่วยกติ วันท่ี 22 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.20-12.10 น. จำนวน 1 ชัว่ โมง 50 นาที ครผู สู้ อน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเดน็ รายละเอยี ด ดา้ นท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ด้านที่ 2 การใช้จิตวทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ชวนนกั เรียนพูดคยุ คอยสอบถามความเข้าใจและขอ้ สงสัย ของนักเรียน ด้านที่ 3 สังเกตการจดั การเรียนรู้ (ตัวอยา่ งข้นั ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรบั เปลีย่ นได้ ตามสถานการณ์จรงิ ) - ขัน้ นำ ครกู ลา่ วทักทายนกั เรยี นและเช็คชือ่ นักเรยี น ครูตรวจการบ้านนกั เรียนช่วงท่เี รยี นออนไลน์ - ขัน้ สอน ครูอธบิ ายความหมายของอัตราส่วน การเขียนสญั ลักษณ์ อัตราส่วน การหาอัตราสว่ นที่เทา่ กนั และการตรวจสอบการ เทา่ กนั ของอตั ราส่วน ครูยกตัวอย่างการหาอัตราส่วนท่ีเท่ากัน และยกตัวอย่าง การตรวจสอบการเท่ากนั ของอัตราสว่ น โดยเขียนบน กระดานเพ่ือให้นักเรยี นเหน็ ภาพและเขา้ ใจมากขนึ้ - ขน้ั สรปุ ครูมีการตั้งคำถามใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั ตอบเพ่อื ให้นกั เรยี น เขา้ ใจมากข้ึน ดา้ นท่ี 4 ปัญหาท่ีพบ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพ่ี บในการจดั การเรียนรู้ มีนกั เรียนไม่ตง้ั ใจฟังขณะทีค่ รบู รรยายและพูดคยุ กันเสียงดัง การแกไ้ ขปัญหาในช้นั เรยี นของครผู ู้สอน มีการกระต้นุ นกั เรียน เช่น เรียกช่ือนกั เรียน และมีการถาม คำถามในเรอ่ื งทีส่ อนเพ่อื เตือนสตใิ ห้นกั เรียนกลับมาสนใจ ในสิง่ ทคี่ รูสอน

ด้านที่ 5 ครูมีรายงานผลการพฒั นาคุณภาพ ครมู ีการเรียกช่ือนักเรยี นคนท่ไี ม่สนใจและพูดคยุ เสยี งดงั ใน ผ้เู รยี นในรูปแบบการศึกษารายกรณีหรอื ไม่ ขณะทคี่ รกู ำลังสอน เพือ่ ให้นักเรียนกลบั มาสนใจในสิ่งท่คี รู อยา่ งไร กำลังสอน ด้านท่ี 4 ส่งิ ที่ได้รบั / การประยุกตใ์ ช้ ได้ทราบถึงกระบวนการจดั การเรียนการสอน การกระตุ้นให้ นกั เรียนมีความสนใจในการเรียน หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้งั ต่อสัปดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครงั้

แบบสงั เกตการจัดการเรียนรู้ ครั้งท่ี 5 โรงเรียนชาติตระการวิทยา ระดับชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1/4 รายวิชาคณิตศาสตร์เพม่ิ เตมิ รหสั วชิ า ค21202 จำนวน 1 หนว่ ยกิต วันท่ี 24 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 08.30 - 10.20 น. จำนวน 1 ช่ัวโมง 50 นาที ครผู สู้ อน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเดน็ รายละเอียด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรียนรู้ การบรรยาย ใชส้ ่อื ประกอบการสอน และการถาม – ตอบ ด้านท่ี 2 การใช้จิตวิทยาในการจัดการเรยี นรู้ สื่อสารชัดเจน ชวนนักเรยี นพดู คยุ คอยสอบถามความเข้าใจ และขอ้ สงสัยของนักเรยี น ด้านท่ี 3 สังเกตการจดั การเรียนรู้ (ตัวอยา่ งขน้ั ตอนการจัดการเรียนร้สู ามารถปรับเปล่ยี นได้ ตามสถานการณจ์ ริง) - ขัน้ นำ ครกู ลา่ วทกั ทายนักเรยี นและเช็คชอื่ นกั เรียน ครูตรวจการบา้ นนักเรยี นชว่ งเรียนออนไลน์ - ขนั้ สอน ครูมกี ารนำส่ือมาใช้ประกอบการสอนโดยมีกราฟ และเส้น จำนวนมาอธิบายการเขยี นกราฟของคู่อันดับ การเขยี น กราฟ การอา่ นกราฟ จำนวนบนเสน้ จำนวนเต็มบวก เต็มลบ และศูนย์ ครยู กตวั อยา่ งการเขยี นกราฟ โดยยกตวั อยา่ งจากในหนงั สอื เรยี นมาอธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟงั เพือ่ ให้นกั เรียนเข้าใจมากขนึ้ - ขน้ั สรปุ ครูมีการต้งั คำถามใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั ตอบเพ่ือให้นกั เรยี น เขา้ ใจมากขน้ึ และรว่ มกันสรุปเร่ืองกราฟของคู่อนั ดบั ดา้ นท่ี 4 ปญั หาทพี่ บ / แนวทางแก้ไข ปญั หาท่ีพบในการจดั การเรยี นรู้ มนี ักเรยี นเล่นกันในขณะทค่ี รูสอน การแก้ไขปญั หาในช้ันเรียนของครูผสู้ อน ครมู กี ารถามคำถามในเรอ่ื งท่ีสอนเพ่อื กระตนุ้ เตอื นสติให้ นกั เรียนสนใจในขณะทคี่ รกู ำลงั สอน

ด้านท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพัฒนาคณุ ภาพ ไมม่ ี ผู้เรียนในรูปแบบการศกึ ษารายกรณีหรอื ไม่ อยา่ งไร ดา้ นท่ี 4 สงิ่ ทีไ่ ด้รับ / การประยุกตใ์ ช้ ได้ทราบถึงกระบวนการจัดการเรียนการสอน การกระตนุ้ ให้ นกั เรยี นมีความสนใจในการเรียน การสอนโดยใช้สื่อ ประกอบเพอ่ื ให้นกั เรียนเหน็ ภาพและเข้าใจมากขึ้น หมายเหตุ สงั เกต 3 คร้ังต่อสปั ดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ ครัง้ ที่ 6 โรงเรียนชาติตระการวิทยา ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1/3 รายวิชาคณิตศาสตร์พ้ืนฐาน รหสั วิชา ค21102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกติ วนั ท่ี 26 พฤศจิกายน 2564 เวลา 08.30 - 10.20 น. จำนวน 1 ชวั่ โมง 50 นาที ครูผูส้ อน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเด็น รายละเอยี ด ด้านที่ 1 การออกแบบการเรียนรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ด้านท่ี 2 การใชจ้ ิตวิทยาในการจัดการเรยี นรู้ ชวนนักเรยี นพดู คุย คอยสอบถามความเข้าใจของนกั เรียน และพดู ชมเมอื่ นักเรียนตอบคำถามได้ ดา้ นที่ 3 สังเกตการจัดการเรียนรู้ (ตัวอยา่ งข้ันตอนการจัดการเรยี นรู้สามารถปรับเปลย่ี นได้ ตามสถานการณ์จรงิ ) - ขั้นนำ ครูแนะนำตัวและเช็คชอ่ื ทำความรจู้ กั กบั นักเรียน ครูพูดคุยกบั นกั เรยี นเร่อื งการเข้าเรยี นช่วงเรียนออนไลน์ - ขัน้ สอน ครูทบทวนเรอ่ื งอัตราส่วนชว่ งเรียนออนไลน์ ครูอธิบายความหมายของอัตราสว่ น การเขียนสญั ลักษณ์ อัตราส่วน และการตรวจสอบการเท่ากนั ของอตั ราส่วน โดย ใช้หลักการคูณและการคูณไขว้ ครูอธิบายตัวอย่างแล้วสอบถามนักเรยี นโดยยกตวั อยา่ งจาก ในหนงั สือเรยี น - ขัน้ สรุป ครมู กี ารตง้ั คำถามใหน้ ักเรียนช่วยกันตอบเพื่อให้นักเรียน เข้าใจมากข้นึ และรว่ มกนั สรุปเร่อื งอตั ราสว่ นแล้วส่ัง แบบฝึกหัดทา้ ยบท ดา้ นที่ 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาทพี่ บในการจดั การเรยี นรู้ นกั เรยี นไมต่ ง้ั ใจฟังขณะท่คี รบู รรยาย การแก้ไขปัญหาในชน้ั เรียนของครผู สู้ อน มกี ารกระตุ้นใหน้ กั เรียนมีความสนใจในการเรยี น โดยการ เรยี กชือ่ นกั เรยี นให้กลบั มาสนใจในสิ่งท่คี รูกำลงั บรรยาย

ดา้ นท่ี 5 ครมู ีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพ ครมู ีการตงั้ คำถามเก่ยี วกบั เรอื่ งที่สอนแล้วสงั เกตนักเรียน ผ้เู รยี นในรูปแบบการศึกษารายกรณีหรือไม่ เพ่ือทดสอบว่านกั เรียนมีความเข้าใจและตงั้ ใจฟงั มากนอ้ ย อยา่ งไร เพยี งใด ดา้ นท่ี 4 สง่ิ ท่ีได้รับ / การประยกุ ต์ใช้ ได้ทราบถงึ กระบวนการจดั การเรียนการสอน การกระตนุ้ ให้ นกั เรียนมีความสนใจในการเรยี น การสอนให้นักเรียนมี ความเขา้ ใจในเนื้อหา หมายเหตุ สงั เกต 3 ครั้งตอ่ สัปดาห์ รวมอย่างนอ้ ย 9 คร้งั

แบบสงั เกตการจัดการเรียนรู้ คร้ังที่ 7 โรงเรยี นชาติตระการวิทยา ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1/4 รายวิชาคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน รหัสวิชา ค21102 จำนวน 1.5 หน่วยกิต วันท่ี 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 10.20-12.10 น. จำนวน 1 ชวั่ โมง 50 นาที ครผู ้สู อน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเดน็ รายละเอยี ด ด้านท่ี 1 การออกแบบการเรยี นรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ด้านที่ 2 การใช้จิตวทิ ยาในการจัดการเรยี นรู้ มีความห่วงใยนักเรยี น คอยสอบถามความเข้าใจและข้อ สงสยั ของนกั เรยี น ดา้ นที่ 3 สงั เกตการจดั การเรยี นรู้ (ตัวอย่างขัน้ ตอนการจดั การเรยี นรูส้ ามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามสถานการณ์จริง) - ข้นั นำ ครูกล่าวทกั ทายนกั เรยี นและเช็คชอ่ื นกั เรยี น ครูตรวจงานสมุดนกั เรยี นทีละคน ครใู ห้นกั เรียนอ่านหนังสือทบทวนเร่อื งอตั ราส่วน - ขน้ั สอน ครอู ธบิ ายเรอ่ื งอตั ราส่วนของจำนวนหลายๆจำนวน ครูอธิบายตวั อยา่ งและแสดงวธิ ที ำบนกระดานแลว้ ถาม - ตอบกับนักเรยี นโดยยกตวั อย่างจากในหนงั สือเรียน - ขน้ั สรุป ครูมกี ารตั้งคำถามใหน้ กั เรยี นช่วยกันตอบเพือ่ ใหน้ กั เรียน เข้าใจมากข้ึน แล้วให้นักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ท้ายบทส่งท้าย ชัว่ โมง ด้านที่ 4 ปญั หาทีพ่ บ / แนวทางแกไ้ ข ปัญหาทพี่ บในการจดั การเรยี นรู้ นักเรยี นไมก่ ล้าตอบคำถามของครู การแก้ไขปัญหาในชน้ั เรยี นของครูผสู้ อน มีการใช้ภาษาที่เป็นกนั เอง ชวนพูดคุยบ่อยๆ และมมี ขุ ตลก เพือ่ ให้นกั เรียนกล้าตอบคำถามมากขน้ึ

ดา้ นท่ี 5 ครมู ีรายงานผลการพฒั นาคุณภาพ ไมม่ ี ผ้เู รียนในรปู แบบการศึกษารายกรณีหรอื ไม่ อย่างไร ด้านที่ 4 สิ่งทีไ่ ดร้ ับ / การประยกุ ต์ใช้ ได้ทราบถงึ กระบวนการจัดการเรยี นการสอน การกระตนุ้ ให้ นกั เรยี นมีความสนใจในการเรียนและการให้นักเรียนมคี วาม รบั ผิดชอบในการสง่ งาน หมายเหตุ สงั เกต 3 ครั้งต่อสปั ดาห์ รวมอย่างน้อย 9 ครัง้

แบบสังเกตการจัดการเรียนรู้ ครง้ั ท่ี 8 โรงเรยี นชาติตระการวทิ ยา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 รายวิชาคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน รหัสวิชา ค21102 จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต วนั ท่ี 30 พฤศจกิ ายน 2564 เวลา 08.30 – 10.20 น. จำนวน 1 ช่ัวโมง 50 นาที ครผู ูส้ อน ครูสมคิด ฟองจางวาง ประเด็น รายละเอียด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ดา้ นที่ 2 การใช้จิตวิทยาในการจัดการเรยี นรู้ ส่อื สารชัดเจน ชวนนกั เรียนพูดคุยคอยสอบถามความเข้าใจ และข้อสงสัยของนักเรยี น ดา้ นที่ 3 สังเกตการจดั การเรียนรู้ (ตัวอยา่ งข้ันตอนการจัดการเรยี นรู้สามารถปรับเปลีย่ นได้ ตามสถานการณจ์ รงิ ) - ข้ันนำ ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียนและเชค็ ช่อื นักเรยี น ครูตรวจงานสมุดนักเรยี นทีละคน - ขัน้ สอน ครูทบทวนเร่อื งการเขียนอัตราสว่ นของจำนวนหลายๆ จำนวน ครูอธบิ ายตัวอย่างและแสดงวิธที ำบนกระดาน โดย ยกตัวอยา่ งจากในหนังสอื เรียน - ขัน้ สรุป ครพู านกั เรียนทำแบบฝึกหดั ท้ายบทโดยเขียนบนกระดาน แลว้ ถาม – ตอบกับนกั เรยี น ด้านที่ 4 ปญั หาทพี่ บ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพี่ บในการจัดการเรยี นรู้ มนี กั เรียนเลน่ กันในขณะท่คี รูสอนและไม่กลา้ ตอบคำถาม การแกไ้ ขปญั หาในช้นั เรียนของครผู สู้ อน ครูมีการเรยี กชื่อนักเรียนเตือนสติใหน้ กั เรียนสนใจในขณะที่ ครกู ำลังสอน และชวนพูดคุยบ่อยๆ ใหน้ ักเรยี นผ่อนคลาย เพ่อื ให้นกั เรยี นกล้าตอบคำถามมากขึ้น

ด้านท่ี 5 ครมู รี ายงานผลการพัฒนาคุณภาพ ครูมกี ารตงั้ คำถามเกี่ยวกบั เรื่องท่ีสอนแล้วสังเกตนักเรยี น ผ้เู รยี นในรปู แบบการศึกษารายกรณีหรือไม่ เพ่ือทดสอบวา่ นกั เรยี นมคี วามเข้าใจและตง้ั ใจฟงั มากน้อย อย่างไร เพียงใด ดา้ นท่ี 4 ส่งิ ที่ได้รบั / การประยกุ ต์ใช้ ไดท้ ราบถงึ กระบวนการจัดการเรียนการสอน การกระตนุ้ ให้ นกั เรียนมคี วามสนใจในการเรียนและเทคนิคการควบคมุ นักเรียนในชัน้ เรยี นของคณุ ครู หมายเหตุ สังเกต 3 ครัง้ ต่อสปั ดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 ครั้ง

แบบสังเกตการจดั การเรียนรู้ ครง้ั ที่ 9 โรงเรยี นชาตติ ระการวิทยา ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 1/5 รายวิชาคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน รหัสวชิ า ค21102 จำนวน 1.5 หน่วยกิต วันท่ี 2 ธนั วาคม 2564 เวลา 10.20-12.10 น. จำนวน 1 ชั่วโมง 50 นาที ครูผสู้ อน ครูสมคดิ ฟองจางวาง ประเด็น รายละเอียด ดา้ นที่ 1 การออกแบบการเรยี นรู้ การบรรยาย และการถาม – ตอบ ด้านที่ 2 การใชจ้ ิตวทิ ยาในการจดั การเรยี นรู้ ชวนนกั เรียนพูดคุย คอยสอบถามความเข้าใจของนักเรียน และพดู ชมเม่อื นักเรียนตอบคำถามได้ ดา้ นท่ี 3 สังเกตการจัดการเรียนรู้ (ตัวอย่างขน้ั ตอนการจดั การเรยี นรสู้ ามารถปรบั เปลย่ี นได้ ตามสถานการณ์จริง) - ขนั้ นำ ครูกลา่ วทกั ทายนักเรียนและเช็คชอ่ื นักเรียน ครูตรวจงานสมุดนักเรียนทีละคน - ขัน้ สอน ครูอธบิ ายทบทวนเรือ่ งการเขียนสญั ลักษณ์อัตราส่วน ครูอธิบายการเขียนอัตราสว่ นของจำนวนหลายๆจำนวน ครอู ธิบายตัวอยา่ งและแสดงวิธที ำบนกระดานแลว้ ถาม - ตอบกับนักเรียน โดยยกตัวอยา่ งจากในหนงั สือเรียน - ข้ันสรปุ ครมู ีการตงั้ คำถามใหน้ กั เรยี นชว่ ยกันตอบเพื่อให้นกั เรียน เขา้ ใจมากขนึ้ แลว้ ใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกหัดท้ายบท ดา้ นท่ี 4 ปญั หาท่พี บ / แนวทางแก้ไข ปญั หาทพ่ี บในการจัดการเรยี นรู้ นักเรยี นไม่ตงั้ ใจฟงั ขณะท่คี รบู รรยาย การแกไ้ ขปญั หาในชน้ั เรียนของครูผ้สู อน มีการกระต้นุ ให้นกั เรยี นมีความสนใจในการเรียน โดยการ เรียกช่อื นกั เรียนใหก้ ลบั มาสนใจในส่งิ ทคี่ รกู ำลังบรรยาย ด้านท่ี 5 ครูมีรายงานผลการพฒั นาคณุ ภาพ ครูมีการตง้ั คำถามเก่ียวกบั เรอ่ื งที่สอนแล้วสงั เกตนักเรยี น ผูเ้ รียนในรปู แบบการศกึ ษารายกรณีหรือไม่ เพอ่ื ทดสอบว่านกั เรยี นมคี วามเข้าใจและตง้ั ใจฟังมากนอ้ ย อย่างไร เพียงใด

ดา้ นที่ 4 สิ่งทไี่ ดร้ ับ / การประยกุ ต์ใช้ ไดท้ ราบถงึ กระบวนการจดั การเรยี นการสอน การกระตนุ้ ให้ นกั เรียนมีความสนใจในการเรียนและการสอนให้นกั เรยี นมี ความเข้าใจในเนอ้ื หา หมายเหตุ สังเกต 3 ครั้งต่อสัปดาห์ รวมอยา่ งนอ้ ย 9 ครั้ง

ใบงานท่ี 4 การศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษาและความสมั พนั ธก์ ับชุมชน วัตถุประสงค์ เพื่อให้นักศึกษาสังเกตบริบทของสถานศึกษา ขอบเขต ใหน้ ักศึกษา ศึกษา สงั เกต และฝึกทักษะจากผ้ทู ี่เกีย่ วข้องในสถานศึกษา แลว้ บันทึกข้อมลู ในแบบบนั ทกึ ตามประเด็น ดังนี้ 1. ทำเล ที่ตงั้ ของสถานศึกษาสังเกตการจัดการเรียนรขู้ องครูผ้สู อน 2. อาคารเรยี น และอาคารประกอบการอนื่ ๆ 3. ห้องเรียน และเครือ่ งใช้ต่างๆ ในห้องเรียน 4. มมุ พยาบาล / ห้องพยาบาล / เรือนพยาบาล 5. โรงอาหาร / ท่รี บั ประทานอาหาร 6. โรงประชุม / หอประชุม 7. หอ้ งพักครู 8. หอ้ งสมุด / หอสมุด 9. หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารตา่ งๆ (วทิ ยาศาสตร์ฯลฯ) 10. นำ้ ด่มื / น้ำใช้ 11. หอ้ งน้ำ / หอ้ งส้วม / ทปี่ ัสสาวะ 12. สนามกีฬา / สนามเด็กเล่นตา่ งๆ 13. สถานท่พี กั ผอ่ นหยอ่ นใจ 14. แหล่งขอ้ มูลที่ใช้ในการศึกษาคน้ ควา้ / อา้ งอิงหนว่ ยท่ี 1 สภาพทว่ั ไปของสถานศกึ ษา ผเู้ กีย่ วขอ้ ง/แหล่งข้อมูล ผู้อำนวยการ / รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ครผู ้สู อน / ครูพี่เลีย้ ง / นักเรียน

ขอ้ มูลที่เกย่ี วกบั สถานศกึ ษา ชอื่ สถานศกึ ษา โรงเรยี นชาติตระการวิทยา ปรชั ญา เศรษฐกจิ พอเพียงเป็นปัจจยั สำคัญตอ่ การศึกษา คตธิ รรม ขยัน อดทน สามัคคี มีระเบยี บวนิ ัย วิสยั ทัศน์ โรงเรียนชาติตระการวิทยาจดั การศึกษาสู่มาตรฐานสากลตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง ภายในปี พ.ศ. 2567 เปา้ หมาย 1. มีหลักสูตรเทยี บเคยี งมาตรฐานสากลตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง 2. ผู้เรียนสู่มาตรฐานสากลและมคี ุณลกั ษณะตามปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 3. เปน็ ครสู ู่ครมู ืออาชพี 4. มกี ารบรหิ ารจัดการตามเกณฑร์ างวัลคุณภาพ OBECQA 5. มแี หลง่ เรยี นรู้ สบื สานวฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ สือ่ เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างมี ประสิทธิภาพ 1. อาคารเรยี น และอาคารประกอบการอน่ื ๆ โรงเรียนมอี าคารเรยี น 2 หลงั ใช้ในการเรยี นการสอน แบง่ ออกเป็นอาคารมัธยมตน้ 1 หลัง และ อาคารมธั ยมปลาย 1 หลงั อาคารประกอบ 5 หลัง ได้แก่ อาคารดนตรี-ศิลปะ 1 หลัง อาคารพลศึกษา 1 หลงั อาคารการงาน 1 หลัง หอ้ งสมุด 1 หลัง หอประชุม 1 หลัง และโรงอาหาร 1 หลงั 2. ห้องเรยี น และเคร่อื งใชต้ ่างๆ ในห้องเรยี น จำนวนหอ้ งเรยี นทง้ั หมด 33 หอ้ งเรยี นภายในห้องเรียนมีอปุ กรณ์เครื่องใช้ ได้แก่ จอโปรเจคเตอร์ เครื่องฉายโปรเจคเตอร์ เครื่องฉาย 3 มิติ กระดาน โต๊ะ เกา้ อ้ี 3. หอ้ งพกั ครู ห้องปฏิบัติงานและเจ้าหน้าท่ี ห้องพักครมู ที ้ังหมด 8 หอ้ ง ได้แก่ ห้องวชิ าการ ห้องบคุ คล หอ้ งส่อื ห้องพัสดุ ห้องปกครอง หอ้ ง ระบบดแู ลนักเรยี น หอ้ งพยาบาล ห้องแผนและงบประมาณ

4. หอ้ งปฏิบัตกิ ารตา่ งๆ (วทิ ยาศาสตร์ฯลฯ) หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารมีท้ังหมด 13 หอ้ ง ไดแ้ ก่ หอ้ งปฏบิ ัติการศิลปะ หอ้ งปฏบิ ัติการดนตรี หอ้ งปฏบิ ตั ิการ นาฎศิลป์ ห้องปฏิบัตกิ ารเกษตร 3 หอ้ ง ห้องปฏบิ ตั ิการฟสิ กิ ส์ หอ้ งปฏบิ ัติการเคมี ห้องปฏิบัติการ อุตสาหกรรม 2 หอ้ ง หอ้ งปฏิบัติการชีวะ หอ้ งปฏิบัติการมธั ยมต้น และหอ้ งปฏิบตั ิการมัธยมปลาย 5. สถานที่พกั ผ่อนหยอ่ นใจ/สนามเด็กเล่น ภายในโรงเรียนจะมสี ถานท่ีพกั ผอ่ นหยอ่ นใจมีท้งั หมด 4 สถานที่ ไดแ้ ก่ สนามกีฬาต่างๆ ศาลากรฑี า ลานหนิ อ่อน และโดมนัง่ พกั ผ่อน 6. แหลง่ ข้อมลู ที่ใช้ในการศึกษาคน้ ควา้ / อา้ งองิ หน่วยที่ 1 สภาพทวั่ ไปของสถานศกึ ษา การศึกษาคน้ คว้าเก่ยี วกบั ประวตั แิ ละข้อมูลโรงเรยี น ไดส้ บื คน้ จากคุณครูฝ่ายบรหิ ารงานทั่วไป เว็บไซตข์ องโรงเรยี นและเดินสํารวจบรเิ วณโรงเรยี น

ข้อมลู ความสมั พันธร์ ะหวา่ งโรงเรยี นกบั ชมุ ชน 1. ศึกษาบรบิ ทของชมุ ชนทส่ี ถานศึกษาตงั้ อยู่ โรงเรยี นชาติตระการวิทยา ตั้งอยู่หม่บู ้านไทรงาม หมู่ที่ 4 ตำบลป่าแดง อำเภอชาติตระการ จงั หวดั พิษณุโลก บริเวณโดยรอบของโรงเรียนเป็นชมุ ชน มภี ูเขาอยทู่ างด้านหลงั โรงเรยี น ดา้ นหน้าติดถนน นครไทย- อตุ รดิตถ์และคนในชุมชนส่วนมากประกอบอาชพี เกษตรกร 2. ศกึ ษาความสัมพันธร์ ะหวา่ งโรงเรยี นกบั ชมุ ชน สภาพชุมชนรอบโรงเรยี นมีลักษณะเปน็ ชุมชนชนบทมีความสัมพนั ธก์ บั โรงเรยี นอย่ใู นระดับดีมากมี การลงพื้นทีเ่ ย่ียมเยือนนักเรยี นเพื่อสรา้ งความคนุ้ เคยกบั ผู้ปกครองและชุมชน ทางโรงเรยี นไดเ้ ข้าร่วมงานกบั ชมุ ชนเนอ่ื งในงานการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและประเพณีต่าง ๆ เช่น วันวิสาขบชู า วนั เข้าพรรษา วนั อาสาฬหบูชา วันมาฆบูชา งานบญุ พระเวสสันดร เขา้ ร่วมกิจกรรมการเดินรณรงค์ตา่ ง ๆ เชน่ เดินรณรงค์ ตอ่ ตา้ นยาเสพติด เดินรณรงคว์ ันสิ่งแวดลอ้ มโลก ชมุ ชนให้ความร่วมมือสนบั สนนุ โรงเรยี น มีการเขา้ มาใช้ บริการอาคารสถานที่ในการฝึกอบรม การแขง่ ขันกีฬา บริเวณใกลเ้ คียงโดยรอบโรงเรยี นมีสถานทส่ี ําคัญ ได้แก่ โรงพยาบาลชาติตระการ โรงเรยี นบ้านป่าแดง ท่ีวา่ การอำเภอชาตติ ระการ สถานีตำรวจภธู รชาตติ ระการ ตลาดสดเทศบาลตำบลป่าแดง

ใบงานท่ี 5 แบบรายงานผลการศึกษาชน้ั เรยี นคณติ ศาสตร์ เร่อื งที่สอน อัตราสว่ นของจำนวนหลายๆจำนวน ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1/3 ชอื่ ครปู ระจำชั้น คุณครูคนึง แสงกองแก้ว, คุณครูบรรจง อินทุภูติ 1. สภาพปญั หาในชั้นเรียน นกั เรยี นบางคนขาดความรบั ผดิ ชอบ ไม่ทำงานตามทค่ี ณุ ครูมอบหมาย ทำให้ไม่มีงานมาสง่ คณุ ครู ตามที่กำหนดส่ง และมนี กั เรียนบางส่วนทำงานไมเ่ รียบรอ้ ย 2. จดุ ประสงคใ์ นการศึกษา 1. เพอ่ื ให้เขา้ ใจถึงปญั หาและศกึ ษาวธิ กี ารแก้ปัญหา 2. เพื่อส่งเสริมนกั เรยี นให้พัฒนาไปในทิศทางที่ดขี ึ้น 3. เพื่อปรับเปลย่ี นพฤตกิ รรมของนกั เรยี น 3. สภาพท่ัวไปของชั้นเรียน ภายในหอ้ งเรยี นเป็นระเบียบเรยี บร้อย มีความสะอาด ห้องเรยี นมีอากาศถา่ ยเท มีประตเู ขา้ ออกได้ สะดวก มหี นา้ ตา่ งและแสงสว่างเพียงพอ กระดานมขี นาดเหมาะสม มกี ารจดั โต๊ะเรียนและเก้าอี้ของนกั เรยี น เปน็ แถวอย่างมรี ะเบียบ มีการเวน้ ระยะห่างเน่อื งจากสถานการณ์ Covid–19 มีการติดป้ายเนื้อหาสาระท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อการเรียนการสอน สมาชิกในหอ้ งเรียนและขอ้ ตกลงในชน้ั เรยี น 4. แนวทางการแก้ปัญหา/ส่งเสรมิ 1. ทำความเข้าใจค้นหาสาเหตุท่แี ท้จริง แสดงความเป็นมติ ร พูดชี้แนะ และแสดงความช่นื ชมอยู่ เสมอ ให้การบา้ นท่ีเปน็ ลำดับขนั้ ตอนทำใหน้ กั เรียนรู้สึกอยากทำการบา้ น 2. คอยสรา้ งเสรมิ แรงจงู ใจ แรงสนับสนนุ ใหแ้ กน่ กั เรยี น 3. อาศัยความร่วมมอื ของผู้ปกครอง ช่วยควบคุมดูแลนักเรยี นใหท้ ำการบ้าน

5. การศึกษาช้ันเรยี นคร้งั น้มี ปี ระโยชนต์ ่อการประกอบวชิ าชพี ครูของนกั ศึกษา ดังน้ี 1. ได้ทราบถงึ ปญั หาตา่ งๆ ที่เกดิ ขึ้นกับนักเรยี นและมีแนวทางรว่ มกนั ปรับปรุงแก้ไข 2. ได้ทราบถึงวธิ กี ารจดั การเรยี นรู้ใหเ้ หมาะสมใหเ้ ข้าใจถึงพฤติกรรมของเดก็ นกั เรยี น 3. เพอื่ ฝึกความเป็นครูของเราในอนาคต (ลงชื่อ)………………………………………………ผ้บู นั ทกึ ( นางสาวอรนชุ ฟองจางวาง ) (ลงช่ือ)……………………………………………ครูพเ่ี ลีย้ ง ( นางสมคิด ฟองจางวาง )

ใบงานท่ี 6 กจิ กรรมการแลกเปลยี่ นเรยี นรูใ้ นรปู แบบกจิ กรรม PLC ชอ่ื -สกุล นางสาวอรนชุ ฟองจางวาง รหัสนักศึกษา 6412106019 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ ชอ่ื อาจารยน์ ิเทศก์ รศ.ดร.ภัคพล ปรชี าศิลป์ ชอ่ื ครูพีเ่ ลยี้ ง นางสมคดิ ฟองจางวาง ชื่อโรงเรยี นทอ่ี อกปฏิบัติการสอน โรงเรียนชาตติ ระการวทิ ยา 1. กลุ่ม PLC Math CW New Normal 2. สมาชิกกลมุ่ PLC 1) นางเจริญรัตน์ วงษา 2) นางสาววรมั พร นวลอยู่ 3) นางสาวอรนชุ ฟองจางวาง 4) นายกิรวัตน์ อนิ ตะ๊ เสน 3. สมาชิกร่วมกนั กำหนดปญั หา พูดคุยในเรื่องของปญั หาของเดก็ ท่ไี ด้ไปสังเกตการณ์สอนท่ีโรงเรียนชาติตระการวิทยา ซ่งึ ได้พบ ปัญหาของเดก็ นกั เรียน ท่ีเป็นเฉพาะกล่มุ ทำให้เด็กนักเรียนในกลมุ่ นนั้ ประสบปัญหา เปน็ ปญั หาเรง่ ด่วนทค่ี วร แก้ไขกอ่ น เพอื่ ลดความโดดเดี่ยวในการทำงาน และไม่ทำให้เด็กรูส้ กึ ไมก่ ล้าหรือกลวั เวลาเรียนกบั คุณครู ซง่ึ จะ สง่ ผลถึงผลการเรยี นในอนาคต 4. สมาชิกรว่ มกนั ออกแบบกิจกรรมในการแกไ้ ขปญั หา เน่ืองจากทางโรงเรยี นมีการเปิดเรยี นแบบแบง่ กล่มุ เรยี นเปน็ 2 กล่มุ A กบั B ซง่ึ ทำใหม้ กี ารมาเรียน สลับวนั ในการมาโรงเรียนของนักเรียน เน่ืองจากสถานการณโ์ ควดิ 19 จึงทำให้เป็นถงึ ปัญหาของนกั เรยี นได้ อยา่ งชดั เจน พวกเราจึงมกี ารเข้าไปช่วยในการเรียนการสอน โดยการเขา้ ไปพดู คยุ และชว่ ยแกไ้ ขปญั หา พรอ้ ม ใหค้ ำแนะในการทำงานหรือในส่วนที่เรยี นไม่เขา้ ใจในชั่วโมงในแตล่ ะคาบทเ่ี ข้าไปสังเกตการณ์สอน พรอ้ มทั้ง ไดพ้ ูดคยุ และปรึกษากบั ครผู ู้สอน เพ่อื ให้รบั ทราบถึงปัญหาของนักเรียน ซง่ึ มกี ารจดั กิจกรรมให้นักเรยี นไดท้ ำ ร่วมกบั ครผู ู้สอน เช่น การเลน่ เกม การพดู คยุ กัน ทำใหน้ ักเรยี นกล้าแสดงออก กลา้ พูดกับคุณครมู ากข้นึ 5. สมาชกิ ร่วมกนั เสนอผลของการนำไปใช้ เมือ่ มกี ารไดเ้ ขา้ ไปพดู คุยพดู คุย ให้คำแนะนำ เล่นเกม และทำกิจกรรมร่วมกนั ผลทไ่ี ด้คอื นกั เรียนมี ความกล้าแสดง ในการถามตอบ และกล้าเข้าหาคุณครผู ู้สอนมากข้นึ ทำใหม้ ีความสนิทกบั ครผู ู้สอน ทำให้ เขา้ ใจในตอนเรยี นมากข้นึ และส่งผลทำใหม้ ีคะแนนที่เพม่ิ มากขึ้นอีกด้วย

6. สมาชกิ รว่ มอภิปรายผล และสรุปผล จากทไ่ี ดเ้ ข้าไปพูดคยุ ให้คำแนะนำ เล่นเกม และทำกจิ กรรมร่วมกัน นักเรียนมกี ารพัฒนาในทางด้าน กลา้ แสดงออก สามารถถ่ายทอดปญั หาทเ่ี กิดข้นึ ใหค้ ุณครูช่วยแกไ้ ขปญั หาหรอื ช่วยให้คำแนะนำอยา่ งถูกทาง และยงั ทำใหน้ ักเรยี นสามารถใชช้ วี ติ ได้งา่ ยยง่ิ ข้ึน ไมร่ ูส้ กึ อึดอดั ในเวลาเรียนหรอื พบคุณครู 7. สรปุ รายงานนวตั กรรมสำหรับการพัฒนาผเู้ รยี น การท่ีเข้าไปพูดคยุ ให้คำแนะนำ เล่นเกม และทำกิจกรรมร่วมกัน ซง่ึ ทำใหน้ กั เรียนเกิดความกลา้ แสดงออกได้มากย่ิงขึ้น จึงสามารถมกี ารพัฒนาในดา้ นต่างๆเพ่มิ มากขน้ึ เชน่ การเรียน กจิ กรรม การอยู่ ร่วมกันในสังคม

ใบงานท่ี 7 กจิ กรรมรายวเิ คราะห์ตนเองตามสมรรถนะครู ชอื่ -สกลุ นางสาวอรนชุ ฟองจางวาง รหัสนักศกึ ษา 6412106019 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ ช่อื อาจารยน์ เิ ทศก์ รศ.ดร.ภัคพล ปรีชาศิลป์ ชื่อครพู เ่ี ลยี้ ง นางสมคิด ฟองจางวาง ชอ่ื โรงเรียนทอ่ี อกปฏบิ ตั ิการสอน โรงเรยี นชาตติ ระการวทิ ยา สมรรถนะ ตัวบ่งชี้ รายงานพฤติกรรมของ นักศกึ ษา 1. การมงุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ ใน 1.1 ความสามารถในการวางแผน การกำหนด การปฏบิ ัติงาน (Working เปา้ หมาย การวเิ คราะห์ สังเคราะห์ภารกิจงาน สามารถแก้ไข Achievement สถานการณ์เฉพาะหน้า Motivation) มกี ารวางแผนการ ปฏบิ ัตงิ านทาํ อย่างไร 1.2 ความมุ่งมนั่ ในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี ให้มคี ุณภาพ ใหส้ ามารถเก็บช่ัวโมง ถกู ตอ้ ง ครบถว้ นสมบูรณ์ ในการทำงานให้ครบ ตามเป้าหมายท่กี ำหนด 1.3 ความสามารถในการติดตามประเมนิ ผลการ มีความต้ังใจในการ ปฏิบัตงิ าน ปฏบิ ัติหน้าท่ี ไม่วา่ จะ เปน็ ภาระงานทีไ่ ด้รับ มอบหมายหรอื การ สังเกตการณส์ อน คอยสอบถามคณุ ครู และเพือ่ นรว่ มฝึก ประสบการณ์ใน โรงเรียนอย่เู สมอ เพื่อ นําขอ้ บกพร่องมา ปรับปรงุ และแกไ้ ขใน คร้งั ต่อไป

1.4 ความสามารถในการพัฒนา การปฏิบัตงิ านให้มี เมือ่ ทราบถงึ ประสิทธภิ าพอยา่ ง ต่อเนื่องเพื่อใหง้ านประสบ ขอ้ บกพร่องแลว้ นาํ มา ความสำเร็จ ปรบั ปรุงแกไ้ ขให้ดกี วา่ เดิมและจะพฒั นา ตนเองอยูเ่ สมอ 2. การบรกิ ารท่ีดี 2.1 ความตัง้ ใจและเต็มใจใน การให้บรกิ าร มคี วามตั้งใจและเตม็ ใจ (Service Mind) ทกุ ครั้งในการให้ความ 3. การพฒั นาตนเอง (Self- Development) ชว่ ยเหลือคุณครแู ละให้ ความช่วยเหลือ นกั เรยี น 2.2 การปรับปรุงระบบบรกิ ารให้มี ประสทิ ธิภาพ ยงั ไมป่ รากฎแสดง 3.1 การศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ตดิ ตาม องคค์ วามรู้ คอยตดิ ตามขา่ วสาร ใหม่ๆ ทางวชิ าการและวิชาชพี ใหม่ๆทางวิชาชพี ครูใน สถานการณ์ปัจจบุ ันอยู่ เสมอ 3.2 การสรา้ งองคค์ วามรูแ้ ละนวตั กรรมใน การ พัฒนาตนเองให้เท่าทนั พัฒนาองคก์ รและวชิ าชีพ สถานการณ์ปัจจบุ นั และศึกษาการสร้างสือ่ การเรยี นการสอนท่ที าํ ใหน้ กั เรยี นสนใจ 3.2 การแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และสร้าง มีการแลกเปลย่ี น เครอื ขา่ ย ความรู้ที่ได้รับ การ แกไ้ ขปัญหา ได้ทํา ความรจู้ ักกับร่นุ พี่ทม่ี า สงั เกตการณ์สอน ได้ ทํางานรว่ มกนั ทําให้ การทาํ งานผา่ นไปได้ ด้วยดแี ละมีการ ตดิ ต่อสอื่ สารกนั ทาง กลุ่มไลนข์ องนักศึกษา ทมี่ าสังเกตการณ์สอน

4. การทำงานเปน็ ทมี 4.1 การใหค้ วามรว่ มมอื ช่วยเหลือและ สนบั สนุน ทาํ ให้มเี ครอื ข่ายในการ (Team Work) เพอ่ื นร่วมงาน แลกเปลีย่ นความร้แู ละ ช่วยเหลอื กนั ในอนาคต 5. จรยิ ธรรม และ 4.2 การเสรมิ แรงให้กำลงั ใจเพ่อื นรว่ มงาน มีการใหค้ ําแนะนาํ จรรยาบรรณวชิ าชีพครู 4.3 การปรับตวั เขา้ กับกลมุ่ คนหรอื สถานการณ์ ปรึกษากันในการ (Teacher’s Ethics and ท่ีหลากหลาย ทาํ งานหรอื แลกเปลย่ี น Integrity) ความรู้ขอ้ คดิ เหน็ กับ 4.5 การเขา้ ไปมีส่วนรว่ มกบั ผูอ้ น่ื ใน การพฒั นาการ เพื่อนทีม่ าสงั เกตการณ์ จัดการศึกษาใหบ้ รรลุ ผลสำเรจ็ ตามเป้าหมาย สอนและให้ความ 1. ความรกั และศรัทธาในวิชาชีพ ช่วยเหลอื คุณครใู น โรงเรียน 2. มวี นิ ัย และความรบั ผิดชอบในวิชาชีพ คอยใหก้ าํ ลังใจเพอ่ื น ร่วมสงั เกตการณ์สอน ให้ผา่ นไปได้ด้วยดี นอกจากจะช่วยเหลอื คุณครพู ี่เล้ียงแลว้ ยัง ช่วยเหลือคุณครูฝา่ ย วิชาการ เพือ่ ปรบั ตัวให้ เขา้ กับผู้อ่นื ได้ มกี ารแก้ไขปญั หา ร่วมกบั ครพู เ่ี ลี้ยง เมอื่ พบปญั หาในช้ันเรยี น มีความรกั และศรัทธา ในวชิ าชพี ครูระหวา่ ง การปฏบิ ตั หิ น้าท่แี ละ สงั เกตการณ์สอน เม่ือบา้ นอยู่ห่างไกล จากโรงเรยี น ทาํ ให้ตอ้ ง จัดการกับเวลาตัวเอง และมวี นิ ัยในการ ตืน่ นอน เพ่ือมายนื

3. การประพฤตปิ ฏบิ ัตติ น เปน็ แบบอย่างทดี่ ี ตอ้ นรับนกั เรยี นในตอน เช้า การมาโรงเรยี นแตเ่ ชา้ การแตง่ กาย การพูดจา มารยาทในการเคารพ ผูใ้ หญ่ ความตรงต่อ เวลา มีความ รับผดิ ชอบ และมนี ้ำใจ ตอ่ ผู้อน่ื

ใบงานที่ 8 สรุปองคค์ วามรู้ท่ไี ด้จากประสบการณ์เรียนรู้ในสถานศกึ ษา ชือ่ -สกุล นางสาวอรนชุ ฟองจางวาง รหสั นักศึกษา 6412106019 สาขาวชิ าคณิตศาสตร์ ชอื่ อาจารย์นเิ ทศก์ รศ.ดร.ภัคพล ปรีชาศิลป์ ชอื่ ครพู ีเ่ ลยี้ ง นางสมคิด ฟองจางวาง ชอ่ื โรงเรียนที่ออกปฏบิ ตั กิ ารสอน โรงเรียนชาติตระการวิทยา 1. ถอดบทเรยี นจากการสงั เกตการเรยี นรู้ จากการที่ไดเ้ ขา้ ไปสังเกตการณ์สอนโรงเรียนชาตติ ระการวทิ ยาปจั จบุ ันเป็นชว่ งสถานการณ์การแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทางโรงเรยี นจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ On-site โดยแบง่ เป็น 2 กลุ่ม A กับ B มีการสลับวันในการมาโรงเรยี นของนกั เรียน ทำให้ครผู ู้สอนต้องมีการสอนเนอ้ื หาทงั้ 2 กล่มุ ให้ เหมอื นกนั คุณครกู ็ต้องเตรยี มความพรอ้ มทง้ั เน้ือหาท่จี ะสอน คุณครเู ขา้ สอนทุกครง้ั ต้งั ใจสอน มคี วาม รบั ผดิ ชอบต่อหน้าท่ีของตนเอง คอยมอบความรใู้ หแ้ ก่นักเรียน ไม่วา่ จะเปน็ ความรู้เกย่ี วกบั วชิ าท่สี อนหรือ ความรนู้ อกวชิ า คอยกระตุ้นสรา้ งบรรยากาศในห้องเรียนใหน้ ่าเรยี น สอนให้นกั เรยี นเขา้ ใจในเน้ือหา คอยถาม นักเรียนอย่เู สมอวา่ เข้าใจในเรื่องท่สี อนหรอื ไม่ การควบคุมนกั เรยี นในชัน้ เรยี นและการใชเ้ ทคนิคต่างๆ ในการ จดั การเรยี นการสอนของครผู ู้สอน และคุณครูก็ต้องแกไ้ ขสถานการณ์เมอ่ื ต้องเจอกบั ปัญหาต่าง ๆ ได้ 2. สงั เคราะห์องคค์ วามรทู้ ่นี กั ศกึ ษาได้รบั ทำใหไ้ ด้เรยี นรเู้ กย่ี วกบั การจัดการเรยี นการสอนของคณุ ครู การเตรยี มตวั ในเนอ้ื หาท่ตี อ้ งสอน และ เทคนิควิธกี ารสอนทจี่ ะดงึ ดงู ความสนใจของเด็กนักเรียนในระดับช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 การควบคุมชั้นเรยี น ของครผู สู้ อน การแก้ปญั หาเฉพาะหน้าต่างๆ ทเี่ กิดขึน้ ในห้องเรียน ไดเ้ ห็นการปฏบิ ตั หิ น้าที่ของคณุ ครูใน โรงเรยี น และการทํางานรว่ มกับผอู้ ืน่ ในโรงเรยี น 3. การนำผลองคค์ วามรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้ สามารถนาํ ความรแู้ ละประสบการณท์ ่ไี ดร้ บั จากการไปฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชพี ครูในคร้ังน้ีไปปรบั ใช้ และประกอบอาชพี ในอนาคต ไม่ว่าจะเปน็ การทำหนา้ ที่ของตนเองอยา่ งเตม็ ความสามารถ พัฒนาตนเองอยู่ เสมอ ได้เรียนรกู้ ารจัดการเรยี นการสอน เทคนิคการสอนของคุณครู การแก้ปญั หาเฉพาะหนา้ การปรับตัว ตามสถานการณ์ต่างๆ และการปฏิบัตติ นใหเ้ ปน็ แบบอย่างทีด่ ใี หก้ ับนักเรียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook