Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore QOL 30 Mar 2015

QOL 30 Mar 2015

Published by 1.patanrad, 2020-02-01 22:35:19

Description: QOL 30 Mar 2015

Search

Read the Text Version

ขอ้ ดีของ 9-THAI  เป็นแบบสอบถามที่พฒั นามาใช้สาหรบั คนไทย ไม่ได้แปลจากต่างประเทศ จงึ ไม่มีปัญหาในเรอื่ งการ นามาใช้ขา้ มวฒั นธรรม (cross cultural)  พฒั นาโดยหน่วยงานรฐั จงึ เป็นของประเทศ ไมม่ ีปัญหาเรอื่ งลิขสิทธ์ิ หากใช้แบบสอบถามจาก ต่างประเทศหรอื กล่มุ คนใดๆ อาจต้องขอลิขสิทธ์ิก่อนใช้  มีความเที่ยง (reliability) และความตรง (validity) ทงั้ ในประชากรปกติ 37,202 คนและในกล่มุ ผปู้ ่ วยรกั ษา ทดแทนไต (KT=133, HD=107, CAPD=62)

9-THAI: General Population ความเที่ยงแบบความสอดคลอ้ งภายในของ 9-THAI อยใู่ นเกณฑด์ ี Cronbach’s alpha = 0.87 [physical ขอ้ 1-4] 0.72 [mental ขอ้ 5-7]) ผลการศึกษา construct validity โดยใช้วิธีการทางสถิติ Confirmatory factor analysis พบว่า คาถาม 7 มิติ แบง่ เป็น 2 องคป์ ระกอบคือ สขุ ภาพกาย (ขอ้ 1 - 4) สขุ ภาพจิต (ขอ้ 5 - 7)





9-THAI: General Population ผลการประเมินความตรง known-group validity โดยใช้ข้อมูล การสารวจอนามยั และสวสั ดิการ พ.ศ. 2546 พบว่ามีความตรง อายมุ าก อายนุ ้อย ป่ วย ไมป่ ่ วย เคยพกั รกั ษาตวั ในโรงพยาบาล ไม่เคย สขุ ภาพแย่กว่าปี ที่แล้ว ไม่แย่กว่า สขุ ภาพแย่กว่าคนอ่ืน ไมแ่ ย่กว่า คะแนนตา่ กว่า คะแนนสงู กว่า





9-THAI: RRT ความเที่ยงแบบ test-retest ของ 9-THAI อย่ใู นเกณฑด์ ี Intraclass correlation (ICC) = 0.79 [physical] 0.78 [mental]) 9-THAI มีความตรงแบบ convergent และ divergent validity เมอ่ื วดั ค่ขู นานกบั SF-36 9-THAI มีความตรงแบบ concurrent validity กบั ภาวะ anemia และ ประวตั ิการเคยเข้าพกั รกั ษาตวั ในโรงพยาบาล 9-THAI มีความตรงแบบ predictive criterion validity กบั การรอดชีพ (3-year survival) 9-THAI ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลง (responsiveness) คะแนนตอบสนองต่อการที่ผปู้ ่ วยระบวุ ่าดีขึน้



















ขอ้ ดีของ 9-THAI  ข้อมลู จากการสารวจอนามยั และสวสั ดิการ พ.ศ. 2546 มาจากการส่มุ ตวั อย่างประชากรปกติคนไทย ทกุ จงั หวดั ทงั้ ในและนอกเขตเทศบาล/ สขุ าภิบาล 37,202 คน  จงึ นามาใช้เป็นค่าคะแนนของคนปกติ เพ่อื แปลผลเปรียบเทียบคะแนนแบบ norm-based scoring (ลกั ษณะเดียวกบั PCS, MCS ของ SF-36)  มีค่าคะแนนเฉล่ียของกล่มุ โรคท่ีพบบอ่ ยในประชากร ได้แก่ ภมู ิแพ้ กระเพาะอาหาร เบาหวาน ความดนั โลหิตสงู ปวดข้อเข่า ปวดหลงั ฯลฯ

การแปลคะแนน 9-THAI โดยเปรียบเทียบกบั ประชากรปกติสขุ ภาพดี (Norm-based Scoring) คะแนนในช่วง 20-80 (+3SD) แสดงว่าอยใู่ นกล่มุ เดียวกบั ประชากรที่นามาเปรียบเทียบ (~99%) 9-THAI ใช้ค่าเฉลี่ยของคนปกติเพศ กล่มุ อายเุ ดียวกนั ไมป่ ่ วยในรอบ 1 เดือน ไม่เข้า รพ ในรอบ 1 ปี ไม่มีโรคเรอื้ รงั The Normal Curve คนปกติเพศ กล่มุ อายเุ ดียวกนั ท่ีแขง็ แรง



การคานวณคะแนน 9-THAI  คะแนนรวมจาแนกเป็นด้านกาย และใจ  คะแนนด้านกาย รวมจากข้อ 1-4  คะแนนด้านใจ รวมจากข้อ 5-7  นาคะแนนรวมแต่ละด้านมาคานวณเป็น standardize T score โดยใช้คะแนนเฉล่ียของคนปกติ แขง็ แรง (healthy population) ท่ีอย่ใู นกล่มุ อายเุ ดียวกนั และเพศเดียวกนั ซ่ึงไม่มีโรคประจาตวั ไมเ่ จบ็ ป่ วยในช่วงหน่ึงเดือนก่อนการ ตอบแบบสอบถาม และไมเ่ คยพกั รกั ษาตวั ในโรงพยาบาล ในช่วงหนึ่งปี ก่อนตอบแบบสอบถาม





การคานวณคะแนน 9-THAI ตวั อย่างการคานวณคะแนน สมมติผปู้ ่ วยเพศชาย อายุ 56 ปี    

การคานวณคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยเพศชาย อายุ 56 ปี คะแนนรวมด้านกาย 7 คะแนน คนปกติ เพศชายกล่มุ อายุ 50-59 ปี ค่าเฉล่ียคะแนนรวมด้านกาย = 19.34318 ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานคะแนนรวมด้านกาย = 1.565454 คานวณคะแนนสขุ ภาพด้านกาย (Physical Health Score) Standardized T score = 50 + 10 7 – 19.34318 = -28.85 1.565454

การใช้ตารางคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยเพศชาย อายุ 56 ปี คะแนนรวมด้านกาย 7 คะแนน คะแนนมาตรฐาน Standardized T scores ของสขุ ภาพด้านกาย (Physical Health Score) เท่ากบั -28.85

การคานวณคะแนน 9-THAI ตวั อย่างการคานวณคะแนน สมมติผปู้ ่ วยเพศชาย อายุ 56 ปี   

การคานวณคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยเพศชาย อายุ 56 ปี คะแนนรวมด้านใจ 5 คะแนน คนปกติ เพศชายกล่มุ อายุ 50-59 ปี ค่าเฉล่ียคะแนนรวมด้านใจ = 14.36454 ส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐานคะแนนรวมด้านใจ = 1.610060 คานวณคะแนนสขุ ภาพด้านใจ (Mental Health Score) Standardized T score = 50 + 10 5 – 14.36454 = -30.66 1.1610060

การใช้ตารางคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยเพศชาย อายุ 56 ปี คะแนนรวมด้านใจ 5 คะแนน คะแนนมาตรฐาน Standardized T scores ของสขุ ภาพด้านใจ (Mental Health Score) เท่ากบั -30.66

การแปลผลคะแนน 9-THAI คะแนนด้านกาย และใจ ทีน่ ้อยกว่า 0 ทานายการเสียชีวิต (จากการวิเคราะหอ์ ตั ราการรอดชีพ 3 ปี [3-year survival])  ผลการวิเคราะหไ์ ด้คานึงและขจดั ความแตกต่างของ ผปู้ ่ วย โดยปรบั ให้ปัจจยั ต่างๆ เหมือนกนั ด้วยสถิติ Cox proportional hazard model โดยปัจจยั ที่ปรบั ได้แก่ อายุ เพศ สถานภาพสมรส ระดบั การศึกษา การเป็น โรคเบาหวานรว่ มด้วย และชนิดของ dialysis (HD/ CAPD) ความตรงตามเกณฑ์ชนิดทานายของเครอื่ งมอื วดั คุณภาพชวี ติ ทีเ่ กยี่ วเน่ืองกับสขุ ภาพ 9-THAI โดยการทานายอตั ราการ รอดชีพของผู้ปว่ ยลา้ งไต (อารีวรรณ เชี่ยวชาญวัฒนา และ ดรุณี จันทร์เลิศฤทธ์ิ, วารสารสมาคมพยาบาลฯ สาขาภาค ตะวันออกเฉียงเหนอื ปีท่ี 30 ฉบบั ที่ 2 เมษายน-มิถนุ ายน 2555)

การแปลผลคะแนน 9-THAI กล่มุ ท่ีคะแนน PHS ตงั้ แต่ 0 ขึน้ ไป เสียชีวิตน้อยกว่าอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ โดยลดลงเป็น 0.05 เท่า (ลดลง 95%) เม่ือเปรียบเทียบกบั กล่มุ ท่ี PHS น้อยกว่า 0 [HR=0.05, 95% CI 0.01 to 0.44, p=0.007] ความตรงตามเกณฑช์ นิดทานายของเครอื่ งมอื วดั คณุ ภาพชีวิตที่เกี่ยวเนื่องกบั สขุ ภาพ 9-THAI โดย การทานายอตั ราการรอดชีพของผปู้ ่ วยล้างไต (อา รีวรรณ เช่ียวชาญวฒั นา และ ดรณุ ี จนั ทรเ์ ลิศฤทธ์ิ, วารสารสมาคมพยาบาลฯ สาขาภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ปี ที่ 30 ฉบบั ท่ี 2 เมษายน- มิถนุ ายน 2555)

การแปลผลคะแนน 9-THAI กล่มุ ท่ีคะแนน MHS ตงั้ แต่ 0 ขึน้ ไป เสียชีวิตน้อยกว่าอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ โดยลดลงเป็น 0.05 เท่า (ลดลง 95%) เมื่อเปรียบเทียบกบั กล่มุ ที่ MHS น้อยกว่า 0 [HR=0.27, 95% CI 0.08 to 0.89, p=0.032] ความตรงตามเกณฑช์ นิดทานายของเคร่อื งมือวดั คณุ ภาพชีวิตที่เก่ียวเนื่องกบั สขุ ภาพ 9-THAI โดย การทานายอตั ราการรอดชีพของผ้ปู ่ วยล้างไต (อา รีวรรณ เช่ียวชาญวฒั นา และ ดรณุ ี จนั ทรเ์ ลิศฤทธ์ิ, วารสารสมาคมพยาบาลฯ สาขาภาค ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ปี ท่ี 30 ฉบบั ที่ 2 เมษายน- มิถนุ ายน 2555)

การแปลผลคะแนน 9-THAI ขอ้ 3, 5, 7 ตอบว่ารนุ แรง/รนุ แรงมาก ทานายการเสียชีวิต (จากการวิเคราะหอ์ ตั ราการรอดชีพ 3 ปี [3-year survival])  ผลการวิเคราะหไ์ ด้คานึงและขจดั ความแตกต่างของผปู้ ่ วย โดยปรบั ให้ปัจจยั ต่างๆ เหมือนกนั ด้วยสถิติ Cox proportional hazard model โดยปัจจยั ที่ปรบั ได้แก่ อายุ เพศ สถานภาพสมรส ระดบั การศึกษา รายได้ กล่มุ รกั ษาทดแทนไต (KT/ HD/ CAPD), BUN, Cr, hct และ การมีประวตั ิเข้าพกั รกั ษาตวั ในโรงพยาบาลในรอบ 1 ปี

การแปลผลคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยท่ีตอบว่ามีปัญหาในการทางานใน/ นอกบา้ น ระดบั รนุ แรง/ รนุ แรงมาก เสียชีวิตมากกว่า 6.71 เท่าอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ เมอื่ เปรียบเทียบกบั ผทู้ ่ี ตอบว่ามีปัญหาปานกลาง/ เลก็ น้อย/ ไมม่ ีปัญหาเลย [HR=6.71, 95% CI 2.03 to 22.20, p=0.002]

การแปลผลคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยท่ีตอบว่ามีปัญหาวิตกกงั วล/ ซึมเศร้า ระดบั รนุ แรง/ รนุ แรงมากเสียชีวิต มากกว่า 6.86 เท่าอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติ เมอ่ื เปรียบเทียบกบั ผทู้ ่ีตอบว่ามี ปัญหาปานกลาง/ เลก็ น้อย/ ไม่มีปัญหาเลย [HR=6.86, 95% CI 1.89 to 24.91, p=0.003]

การแปลผลคะแนน 9-THAI ผปู้ ่ วยที่ตอบว่ามีปัญหาเข้ารว่ มกิจกรรมทางสงั คม ระดบั รนุ แรง/ รนุ แรงมาก เสียชีวิตมากกว่า 4.27 เท่าอยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถิติ เมอื่ เปรียบเทียบกบั ผทู้ ่ี ตอบว่ามีปัญหาปานกลาง/ เลก็ น้อย/ ไม่มีปัญหาเลย [HR=4.27, 95% CI 1.14 to 15.99, p=0.031]

สรปุ การใช้คะแนน 9-THAI ใช้ค้นหาผปู้ ่ วยท่ีมีคณุ ภาพชีวิตแย่ ได้แก่ ตอบคาถามว่ามีปัญหารนุ แรงหรอื รนุ แรงมาก หลายขอ้ ตอบคาถามว่ามีปัญหารนุ แรงหรือรนุ แรงมากในขอ้ ใดขอ้ หน่ึง ดงั นี้ การทางาน ใน/นอก บา้ น (ข้อ 3) หดหู่ วิตกกงั วล ซึมเศร้า (ข้อ 5) การเข้ารว่ มกบั สงั คม (ข้อ 7) คะแนนด้านกาย (PHS) หรือใจ (MHS) น้อยกว่า 0

SECTION ตวั อย่างผปู้ ่ วยทีม่ ี คณุ ภาพชีวิตไมด่ ี

ตวั อย่างผปู้ ่ วยท่ีคะแนน 9-THAI น้อยกว่า 0 ผปู้ ่ วยเพิ่งทา CAPD เมื่อ 30 พ.ค. 2554 ซ่ึงก่อนหน้านี้ผปู้ ่ วยทา HD เคยมี JC และเอาออกเม่ือเริ่มทา PD ผปู้ ่ วยไม่ได้ทางาน มีภรรยาทางานรบั จ้าง ลกู 3 คน 2 คนกาลงั เรียนหนังสือ ส่วนอีกคนเพ่ิงจบ ม.6 กาลงั หางานทา คะแนนคณุ ภาพชีวิตท่ีแย่มากนัน้ มาจากการที่ผปู้ ่ วยต้องปรบั ตวั รบั สภาพการล้างไต รวมทงั้ สภาพครอบครวั ที่ยงั มีภาระมาก ซึ่งตนเองเป็นหวั หน้าครอบครวั แต่ต้องเจบ็ ป่ วยด้วยโรคไตวายระยะสดุ ท้าย

ตวั อย่างผปู้ ่ วยท่ีคะแนน 9-THAI น้อยกว่า 0 ผปู้ ่ วย CAPD มีปัญหา IHD (Ischemic Heart Disease) หน้ามืด เหน่ือยง่าย น้าเกินบ่อย มาฉุกเฉินบอ่ ย จากการทา counseling ผปู้ ่ วยและภรรยา พบว่า ผปู้ ่ วยมีปัญหาไม่มีกาลงั ใจ เบื่อหน่ายกบั ภาวะสขุ ภาพ ต้องพ่ึงพาภรรยา มกั มีอารมณ์หงุดหงิด ดภุ รรยาและลกู บอ่ ยๆ

ตวั อย่างผปู้ ่ วยท่ีคะแนน 9-THAI น้อยกว่า 0 ผปู้ ่ วย HD (2/wk) ระหว่างรอการปลกู ถ่ายไต มาเพ่ือขอใบรบั รองแพทยท์ า ฌาปนกิจสงเคราะห์ ซ่ึงก่อนหน้านี้ประมาณ 5 เดือน กม็ าขอใบรบั รองแพทยไ์ ปทา ประกนั ชีวิตมาแล้ว ผปู้ ่ วยมีลกั ษณะเงียบๆ ไม่ค่อยพดู คะแนนสภาวะสขุ ภาพด้านกายไม่น้อยกว่าศนู ย์ แต่กค็ ่อนข้างน้อย ผปู้ ่ วยระบมุ ีปัญหาการทางานปานกลาง (ผปู้ ่ วยมีสถานะการทางานไม่เตม็ เวลา ซ่ึง ผปู้ ่ วยรายนี้ทา HD สปั ดาหล์ ะ 2 ครงั้ ) ส่วนคะแนนด้านใจนัน้ น้อยกว่าศนู ย์ จากการที่ผปู้ ่ วยตอบว่ามีปัญหากงั วล ซึมเศร้าปานกลาง และมีปัญหากิจกรรมทางสงั คมปานกลาง (ผปู้ ่ วยต้องทา HD สปั ดาหล์ ะ 2 ครงั้ )

ตวั อย่างผปู้ ่ วยท่ีคะแนน 9-THAI น้อยกว่า 0 ผปู้ ่ วยทา CAPD ระหว่างรอการปลกู ถ่ายไต คะแนนคณุ ภาพชีวิตที่มีคะแนนน้อยนัน้ มาจากการท่ีผปู้ ่ วยอายนุ ้อย เม่ือคานวณคะแนนมาตรฐานโดยเปรียบเทียบกบั คนท่ีมีอายนุ ้อยด้วยกนั จึงได้คะแนนน้อย สาหรบั คะแนนด้านกาย ในส่วนคะแนนด้านใจนัน้ การได้คะแนนน้อย เกิดจากการที่ผปู้ ่ วยมีความวิตกกงั วลว่าจะได้รบั การปลกู ถ่ายไตหรือไม่

SECTION QOL ASSESSMENT INTERVIEW MODE

การสมั ภาษณ์ QOL ผปู้ ่ วย  การใช้เครื่องมอื วดั มาตรฐาน ดงั เช่นแบบสอบถาม QOL ทาให้ได้มาซ่ึงข้อมูลการประเมินผลลพั ธก์ ารรกั ษาในมมุ มองของ ผปู้ ่ วยโดยตรง  การใช้แบบสอบถาม QOL จึงจาเป็นต้องมีการปฏิบตั ิที่เป็น มาตรฐาน เพ่ือให้ได้ข้อมลู ท่ีถกู ต้อง เป็นจริง ปราศจากอคติ  QOL มีความเป็นปัจเจกสงู แพทย์ พยาบาลที่ให้การดแู ลรกั ษา กไ็ มส่ ามารถทราบถงึ ความ คิดเหน็ ของผปู้ ่ วยท่ีมีต่อสภาวะการป่ วยของตนเอง  ควรให้ผปู้ ่ วยตอบแบบสอบถามด้วยตนเอง ซึ่งไมม่ ีคาตอบผิดหรอื ถกู ประสบการณ์การใช้แบบสอบถามประเมินคณุ ภาพชีวิตผปู้ ่ วยรกั ษาทดแทนไต (ดรณุ ี จนั ทรเ์ ลิศฤทธิ)์

การสมั ภาษณ์ QOL ผปู้ ่ วย “ให้ญาติผปู้ ่ วยทาแบบสอบถามแทนได้ไหม”  แมก้ ระทงั่ ญาติเองกไ็ ม่สามารถตอบคาถามแทนผปู้ ่ วยได้อย่างที่ ผปู้ ่ วยคิดกบั ตนเอง  แมว้ ่าผปู้ ่ วยอาจสามารถตอบคาถามได้ แต่ญาติมกั จะแย่งทา แบบสอบถามแทน หรอื อาจจะมีการปรกึ ษาหารือกนั ว่าจะตอบ อย่างไรจึงจะดี  ญาติผปู้ ่ วยบางรายกลวั ว่าจะเสียเวลา หรือกลวั ว่าผปู้ ่ วยจะตอบไม่ได้ กลวั ว่าแพทย์ พยาบาล จะไม่ได้ข้อมลู ที่ต้องการ จึงปรารถนาดีตอบ คาถามแทนให้  ก่อนให้ผปู้ ่ วยประเมินคณุ ภาพชีวิตนัน้ ควรจดั ให้ญาติอย่ใู นที่ๆ เหมาะสม และให้ผปู้ ่ วยได้ตอบข้อคาถามด้วยตนเอง โดยปราศจาก การรบกวนของญาติ ประสบการณ์การใช้แบบสอบถามประเมินคณุ ภาพชีวิตผ้ปู ่ วยรกั ษาทดแทนไต (ดรณุ ี จนั ทรเ์ ลิศฤทธิ)์

การสมั ภาษณ์ QOL ผปู้ ่ วย “ถ้าผปู้ ่ วยไม่สามารถทาแบบสอบถามด้วยตนเอง จะทาอย่างไร”  ถ้าผปู้ ่ วยไมส่ ามารถอ่านข้อคาถามด้วยตนเอง กไ็ ม่ควรให้ญาติเป็น ผอู้ ่านแบบสอบถาม เพราะผปู้ ่ วยอาจไม่กล้าตอบตามความเป็นจริง  ไม่ควรให้แพทย์ พยาบาลเป็นผอู้ ่านข้อคาถาม เพราะผปู้ ่ วยอาจอยู่ ในภาวะคาดเดาใจแพทย์ พยาบาล ว่าต้องการคาตอบแบบไหน โดยที่ไม่ใช่ความคิดท่ีแท้จริงของตนเอง (social desirable bias)  ควรให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รบั การฝึ กอบรมในการใช้แบบสอบถาม มาทา หน้าที่อ่านคาถามและตวั เลือกคาตอบแก่ผปู้ ่ วย โดยไมม่ ีการแปล ข้อคาถาม คาตอบ หรอื ชี้แนะแก่ผปู้ ่ วยแต่อย่างใด ประสบการณ์การใช้แบบสอบถามประเมินคณุ ภาพชีวิตผปู้ ่ วยรกั ษาทดแทนไต (ดรณุ ี จนั ทรเ์ ลิศฤทธิ)์

การสมั ภาษณ์ QOL ผปู้ ่ วย “ถา้ ผปู้ ่ วยไม่สามารถทาแบบสอบถามด้วยตนเอง จะทาอย่างไร”  ผปู้ ่ วยมกั ชอบขอความคิดเหน็ จากผสู้ มั ภาษณ์ หรือขอให้ชี้นาว่า ควรเลือกคาตอบใด ในกรณีเช่นนี้ ผสู้ มั ภาษณ์ที่ทาหน้าที่อ่าน แบบสอบถาม ไมค่ วรอธิบายหรอื ชี้แนะแต่อย่างใด แต่ควรแจ้งแก่ ผปู้ ่ วยว่า ให้เลือกคาตอบท่ีเขาคิดว่าเป็นจริงหรอื ใกล้เคียงกบั ความจริงท่ีเขาคิดมากที่สดุ  หากผปู้ ่ วยต้องการให้อ่านทวนคาถามและตวั เลือกคาตอบอีกครงั้ ผสู้ มั ภาษณ์กท็ าหน้าที่อ่านซา้ อีก โดยไมค่ วรแสดงอาการไม่พอใจ ราคาญ หรอื ดถู กู ผปู้ ่ วย  การอ่านข้อคาถามคาตอบแต่ละข้อควรใช้น้าเสียงราบเรยี บ สมา่ เสมอ ไม่เน้นที่คาตอบใดเป็นพิเศษ เพื่อมิให้เป็นการชี้นาแก่ ผปู้ ่ วย ประสบการณ์การใช้แบบสอบถามประเมินคณุ ภาพชีวิตผ้ปู ่ วยรกั ษาทดแทนไต (ดรณุ ี จนั ทรเ์ ลิศฤทธิ)์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook