โรงพยาบาล ระเบียบปฏิบตั ทิ ี่ เร่ือง แนวทางการเตรียมผู้ป่ วยไตวายก่อนผ่าตัด ชื่อ/สกลุ หรือคณะกรรมการ/ทีม ลายเซ็น วัน เดือน ปี จดั ทาโดย ทบทวนโดย อนุมัตโิ ดย วันที่เริ่มใช้……………… สาเนาฉบับท่ี....................
บันทึกการแก้ไข แก้ไข วันที่เร่ิมใช้ หน้าท่ี หวั ข้อทแี่ ก้ไข ผ้ขู อแก้ไข คร้ังที่ ห้ามหน่วยงานแกไ้ ข / เพ่มิ เตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเท่าน้นั
1.0 วัตถปุ ระสงค์ เพอื่ เป็นแนวทางในการเตรียมผูป้ ่ วยไตวายก่อนผ่าตดั 2.0 นโยบาย - 3.0 ขอบข่าย ใชเ้ ป็นแนวทางสาหรับเตรียมผูป้ ่ วยไตวายก่อนผา่ ตดั ในโรงพยาบาลสมทุ รปราการ เท่าน้นั 4.0 นิยามศัพท์ - 5.0 เอกสารอ้างองิ - 6.0 ความรับผิดชอบ - 7.0 รายละเอียดการปฏิบตั ิ 7.1 แนวทางการเตรียมผปู้ ่ วยไตวายก่อนผา่ ตดั 7.1.1 ประเมิน Volume status ของผปู้ ่ วย ถา้ มี hypovolemia พจิ ารณา Volume replacement โดย crystalloid หรือ colloid ตามความเหมาะสมโดยตดิ ตาม vital signs อาการ อาการแสดง และปริมาณปัสสาวะเป็นระยะ 7.1.2 แกไ้ ขภาวะ Volume overload, hypovolemia, metabolic acidsis โดย medical กอ่ นถา้ ลม้ เหลว ปรึกษาอายรุ แพทยโ์ รคไต ประเมนิ เพอ่ื ทา hypovolemia 7.1.3 หลีกเลย่ี ง nephrotoxic drugs เช่น NSAIDS, Aminoglycosides, contrast media , ACEI เป็นตน้ รวมท้งั การปรบั ขนาดยาทเี่ หมาะสม 7.1.4 กรณีผปู้ ่ วยมี serum creatinine มากกวา่ 6 มิลลกิ รัม/เดซิลติ ร อาจมีปัญหา เลอื ดออก (จาก platelet dysfunction) แนวทางการเตรียมผปู้ ่ วยก่อนผ่าตดั มีดงั น้ี ห้ามหน่วยงานแกไ้ ข / เพมิ่ เตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเท่าน้นั
7.1.4.1 แพทยผ์ รู้ ับปรึกษาและศลั ยแพทยป์ รึกษาร่วมกนั โดยดขู อ้ มลู เช่น ลกั ษณะ การผา่ ตดั เป็น major operation หรือไม่ ความรีบด่วนของการ ผา่ ตดั 7.1.4.2 แนวทางการแกไ้ ขภาวะ platelet dysfunction ไดแ้ ก่ - แกไ้ ขภาวะ anemia โดยการให้ PRC ปรับ Hct 28-30% (ระวงั ภาวะ volume overload ดว้ ย) - ให้ Cryoprecipitate 10 bags 1 ชว่ั โมงกอ่ นผา่ ตดั ใหซ้ ้าไดท้ ุก 12-24 ชว่ั โมง - ให้ Desmopressin (DDAVP) • 0.3 mg/kg + NSS 50 ml V in ½ hr-1 hr ก่อนผา่ ตดั • หรือ 3 mg/kg intranasal 1 hr ก่อนผ่าตดั - Hemodialysis 1-2 คร้งั ก่อนผา่ ตดั (กรณี elective major surgery) - กรณีผปู้ ่ วย Chronic hemodialysis ที่ไดร้ ับ regular hemodialysis ให้ ถือว่าไมม่ ี platelet dysfunction ผ่าตดั ไดเ้ ลย 8.0 เครื่องชี้วดั คณุ ภาพ เตรียมผปู้ ่ วยไตวายกอ่ นผา่ ตดั ไดถ้ กู ตอ้ ง 100 % 9 ภาคผนวก • ระบปุ ระเภทผปู้ ่ วยโดยมาหลกั ในการพจิ ารณาตดั สินใจ ดงั น้ี 1. กรณีท่ีลกั ษณะสภาวะการเจ็บป่ วยท่ีเป็นจริงของผปู้ ่ วยในขณะประเมินตรงกบั ลกั ษณะทีร่ ะบไุ วค้ รบทกุ ประเดน็ ในระดบั หน่ึงของประเภทผปู้ ่ วย ใหต้ ดั สินใจระดบั ภาวการณ์เจ็บป่ วย หรือ ประเภทน้นั ๆ ไดเ้ ลย หรือถา้ ลกั ษณะของผปู้ ่ วยตรงกบั ประเดน็ ในประเด็นหน่ึงหรือมากกวา่ 1 ประเดน็ แต่ ไม่ครบทกุ ประเด็น ก็ใหร้ ะดบั ภาวการณ์เจ็บป่ วยหรือประเภทการเจ็บป่ วยน้นั ไดเ้ ลย เช่นกนั ห้ามหน่วยงานแกไ้ ข / เพิม่ เตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเท่าน้นั
2. กรณีที่ลกั ษณะสภาวะการเจ็บป่ วยที่เป็นจริงของผูป้ ่ วยในขณะประเมินตรงกบั ลกั ษณะ ที่ระบุไวต้ า่ งประเภทหรือต่างระดบั กนั ใหต้ ดั สินประเภทหรือระดบั ภาวการณ์เจ็บป่ วยทเ่ี ป็นจริงของ ผปู้ ่ วย ตรงกบั ประเภทหรือระดบั ของลกั ษณะภาวการณเ์ จบ็ ป่ วยทรี่ ุนแรงที่สุดในการประเมนิ ขณะน้นั • ในการประเมนิ และจาแนกประเภทผปู้ ่ วยใหป้ ระเมนิ ซ้าทกุ 8 ชวั่ โมง โยให้ประเมนิ ใน ช่วงเวลาทีใ่ กลจ้ ะสิ้นสุดเวลาการปฏบิ ตั ิงานในแต่ละเวร เช่น เวรเขา้ ประเมินให้เวรบ่าย เวรบา่ ยประเมนิ ให้ เวรดึก ฯลฯ เพ่อื ให้ไดข้ อ้ มูลทใ่ี กลเ้ คียงกบั สภาพความเป็นจริงของผปู้ ่ วยในขณะน้นั ใหม้ ากท่ีสุด และเป็น การป้องกนั ความลาเอยี ง หรือการบิดเบอื นความเป็นจริงทเี่ กิดข้นึ จากการให้ขอ้ มลู การจดั ประเภทผปู้ ่ วยท่ี สูงเกินไป หา้ มหน่วยงานแกไ้ ข / เพ่ิมเติมขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคมุ หรือทาสาเนาเผยแพร่เอง สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศูนยพ์ ฒั นาคุณภาพเท่าน้นั
ประเภทผูใ้ ชบ้ ริการตวั บ่งช้ี ลักษณะของผู้ป่ วยแต่ละประเภท 1 = หนกั มาก ตัวบ่งชี้หลกั 1. การเปลีย่ นแปลงของ 1. มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 1. มกี ารเปล่ีย สัญญาณชีพ บอ่ ยคร้ังของ T P R และ BP หรืออยา่ ง บอ่ ยคร้งั ของ ใดอยา่ งหน่ึงมากกวา่ 1 อยา่ งใน ใดอยา่ งหน่ึง กลกั ษณะทบ่ี ง่ บอกถึงภาวะผดิ ปกติ ลกั ษณะทีบ่ ง่ รุนแรง รุนแรงตลอด 1.1 อุณหภูมิ (T) ของร่างกายสูงกวา่ การเปลี่ยนแป 39.50 ซ.หรือในทารกที่มี T ต่ากว่า 1.1 อุณห 35.50 โดยมีระยะเวลาติดต่อกนั ไม่นอ้ ย 380-39.50 ซ.ห กว่า 8 ชวั่ โมง ท้งั น้ีอาจมอี าการซึม 380-39.50 โด หมดสติ หรือมพี ยาธิสภาพในสองร่วม 39.50 โดยมรี ดว้ ย กวา่ 8 ชว่ั โมง 1.2 ชีพจร (P) มอี ตั ราการเตน้ ของ 1.2 ชีพจ ชีพจรมากกวา่ คา่ ปกตหิ รือนอ้ ยกว่าคา่ ชีพจรมากกว ปกติ ค่าใดคา่ หน่ึง 40% ข้ึนไป ซ่ึงอาจมี ปกติ ค่าใดค่า ลกั ษณะการเตน้ แสดงถงึ ความผดิ ปกติ อาจพบชีพจร ร่วมดว้ ย อนั ไดแ้ กจ่ งั หวะการเตน้ ไม่ สมา่ เสมอเตน้ เบาหรือชีพจรหยุดเตน้ หรืออาจประเมนิ ความผดิ ปกติไดจ้ าก คลื่นไฟฟ้าหวั ใจ
2 = หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 1. มีการเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเร็ว 1. สญั ญาณชีพปกติในผูป้ ่ วยทวั่ ไป ง T P R และBP หรืออย่าง บอ่ ยคร้ังของ T, P, R, และBP หรืออยา่ ง หรือมีการเบีย่ งเบนจากค่าปกติ งหรือมากกว่า 1 อยา่ ง ใน ใดอย่างหน่ึงหรือมากกวา่ 1 อยา่ ง ใน งบอกถึงภาวะผิดปกติ ลกั ษณะทีบ่ ง่ บอกถึงภาวะผิดปกติทไ่ี ม่ ดเวลาแตส่ ามารถควบคุม รุนแรง ร่างกาย อาจปรับตวั ต่อ ปลงได้ ภาวะการเจบ็ ป่ วยไดห้ รืออาจบาบดั ดว้ ย วธิ ีการงา่ ย ๆหรือยาเบ้อื งตน้ ก็สามารถ หภมู ิ (T) ของร่างกายสูงกว่า ขจดั ปัญหาได้ หรือในทารกทีม่ ี T ตา่ กว่า ดยทารกทมี่ ี T ต่ากว่า 380- 1.1 อณุ หภมู ิ (T) ของร่างกายสูงกว่า ระยะเวลาตดิ ตอ่ กนั ไมน่ อ้ ย 370-38.0 ซ. ตดิ ตอ่ กนั ไมน่ อ้ ยกว่า 8 ง ชวั่ โมง จร (P) มีอตั ราการเตน้ ของ 1.2 ชีพจร (P) มีอตั ราการเตน้ ของชีพ ว่าค่าปกตหิ รือนอ้ ยกวา่ คา่ จรมากกว่าค่าปกติหรือนอ้ ยกวา่ คา่ ปกติ าหน่ึงในระดบั 20- 40%ซ่ึง ค่าใดคา่ หน่ึงในระดบั 10- 20%ลกั ษณะ รเตน้ ไมส่ ม่าเสมอ หรือจงั หวะการเตน้ สม่าเสมอ
ประเภทผใู้ ชบ้ ริการตวั บง่ ช้ี ลกั ษณะของผ้ปู ่ วยแต่ละประเภท 1 = หนกั มาก 1.3 การหายใจ (R) มอี ตั ราการ 1.3 การห หายใจมากกว่าคา่ ปกตหิ รือนอ้ ย หายใจมาก กวา่ ค่าปกติ คา่ ใดค่าหน่ึง 40% ข้ึน กว่าค่าปกต ไป ซ่ึงอาจมีลกั ษณะการหายใจที่ ข้นึ ไป บ่งบอกหายใจลกึ หนา้ อกกระแทก หรือหายใจต้นื ทรวงอก เคลอื่ นไหวนอ้ ย หรือหายใจหอบ จมกู บานหรือหยดุ หายใจเป็นพกั ๆ และอาจมีเหงอ่ื ออกตวั เยน็ เลบ็ มือ เล็บเทา้ และริมฝีปากเขยี ว 1.4 ความ 1.4 ความดนั โลหิต (BP) มีค่า Systolic an Systolic and Diastolic Pressure สูงกว่าค่าป สูงกว่าคา่ ปกติหรือต่ากวา่ ค่าปกติ คา่ ใดค่าหน ค่าใดคา่ หน่ึง 40 % หรือวดั คา่ Pulse Press Diastolic ไม่ ไดเ้ ลยวดั ค่า 20-40% Diastolic Pressure ไดแ้ คบกว่าคา่ ปกติ 40% (ข้นึ ไป) หรือวดั ไมไ่ ด้
2 = หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา หายใจ (R) มีอตั ราการ 1.3 การหายใจ (R) มีอตั ราการ กกว่าคา่ ปกตหิ รือนอ้ ย หายใจมากกวา่ คา่ ปกตหิ รือนอ้ ย ติ คา่ ใดค่าหน่ึง 20-40% กว่าค่าปกติ ค่าใดคา่ หน่ึง 10-40% ข้นึ ไป มดนั โลหิต (BP) มีค่า 1.4 ความดนั โลหิต (BP) มีค่า and Diastolic Pressure Systolic and Diastolic Pressure ปกติหรือต่ากว่าค่าปกติ สูงกว่าค่าปกตหิ รือต่ากว่าคา่ ปกติ น่ึง 20-40 % วดั คา่ ค่าใดค่าหน่ึง 10-40 % sure ไดแ้ คบกวา่ คา่ ปกติ
ประเภทผใู้ ชบ้ ริการ ลักษณะของผ้ปู ่ วยแต่ละประเภท 2= ตวั บ่งช้ี 1 = หนกั มาก 2. อาการและอาการแสดง 1. อาการและอาการแสดงบง่ บอก 1. อาการและอ ถึงความเจบ็ ป่ วยอยใู่ นระดบั บอกถงึ ความเจบ็ รุนแรงไมส่ ามารถควบคุมไดแ้ ละ รุนแรงไม่แตส่ าม คกุ คามตอ่ กลไกการทางานของ หรืออาจเขา้ สู่ภา อวยั วะสาคญั ตอ้ งเฝา้ ระวงั อยา่ ง ตลอดเวลาตอ้ งเฝ ใกลช้ ิดและตอ่ เน่ือง เพ่อื ป้องกนั ใกลช้ ิด การคุกคามตอ่ ชีวิต โดยประเมนิ ระ โดยประเมินระดับผ้ปู ่ วยได้จาก ข้อใดข้อหนงึ่ หร ข้อใดข้อหนง่ึ หรือมากกว่าหน่ึงข้อ ดงั นี้ ดังน้ี 1.1 ระดบั ความรุนแรงแสดงถึง ภาวะผิดปกติรุนแรง มาก ระดบั ห้ามหน่วยงานแกไ้ ข / เพ่มิ เตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา อาการแสดงบง่ 1. อาการและอาการแสดงบง่ 1. อาการและอาการแสดงอาการ บป่ วยอยใู่ นระดบั บอกถึงความเจบ็ ป่ วยทีไ่ มร่ ุนแรง อาการแสดงอยใู่ นระยะฟ้ื นสู่ มารถควบคุมได้ สามารถควบคมุ ไดด้ ว้ ยการ สภาพให้สามรถดารงชีวติ อยใู่ น าวะรุนแรงได้ รกั ษาพยาบาลหรือสามารถ สงั คมไดผ้ ลตรวจต่าง ๆอยใู่ น ฝ้าระวงั อยา่ ง ประคบั ประคองอาการ อาการ ภาวะปกติ แสดงมิไดล้ กุ ลาม ะดับผ้ปู ่ วยได้จาก โดยประเมนิ ระดับผ้ปู ่ วยได้จาก รือมากกว่าหน่งึ ข้อ ข้อใดข้อหนง่ึ หรือมากกว่าหนึ่งข้อ ดงั น้ี สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเทา่ น้นั
ความรุนแรงไม่คงท่ี และมี 1.1 ระดบั ค แนวโนม้ ทวคี วามรุนแรงตลอด แสดงถึงภาวะ 1.2 ลกั ษณะการเกิดของอาการ แตค่ วบคมุ ได และอาการแสดงน้นั เกิดข้ึนแบบ ฉุกเฉินมาก Emergent ตอ้ งการการ ตรวจและรักษาทนั ที มฉิ ะน้นั จะ 1.2 ลกั ษณะก ตายหรือพกิ ารอยา่ งถาวรเช่น และอาการแสดง ฉุกเฉินมาก (Urgent) หรือเป Emergent ท่ไี ดร้ ควบคุมไดแ้ ลว้ แ ระวงั การเกิดซ้า หา้ มหน่วยงานแกไ้ ข / เพิ่มเติมขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
ความรุนแรง 1.1 ระดบั ความรุนแรง แสดง ะผดิ ปกติท่ีรุนแรง ถงึ ดด้ ว้ ยการรกั ษา ความรุนแรงเล็กนอ้ ยหรือมี อาการเฉพาะทไี่ มม่ ผี ล การเกิดของอาการ 1.2 ลกั ษณะการเกิดของอาการ งน้นั เกิดข้นึ แบบ และอาการแสดงน้นั เกิดข้ึนแบบ ฉุกเฉินมาก ป็ นอาการแบบ (Urgent) หรือเป็นอาการแบบ รบั การบาบดั และ Emergent ที่ไดร้ บั การบาบดั และ แตย่ งั ตอ้ งการเฝา้ ควบคุมไดแ้ ลว้ แตย่ งั ตอ้ งการเฝา้ เช่น ระวงั การเกิดซ้า เช่น สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคุณภาพเทา่ น้นั
ประเภทผใู้ ชบ้ ริการตวั บง่ ช้ี ลกั ษณะของผ้ปู ่ วยแต่ละประเภท 2=ห 1 = หนกั มาก 1) Cardiac arrest 1) ผปู้ ่ วย Cardi 2) Respiratory arrest ไดร้ ับการช่วยฟ้ื นค 3) Airway obstruction จนกระทง่ั ใส่เครื่อ แลว้ และ Clinical 2) ผปู้ ่ วย G. l. Stop bleeding ไดแ้ 3) EKG. มี PV ในกรณีผปู้ ่ วยมปี ร Arrhythemia มาก่อ 2.3 มีขอ้ มูลที่ช้ีบง่ ถึงความน่าจะ 2.3 มีขอ้ มลู ทช่ี ้ เกิดพยาธิสภาพทร่ี ุนแรงไดจ้ ากผล น่าจะเกิดพยาธิสภ การตรวจตา่ ง ๆเช่น จากผลการตรวจต UA,EKG,blood gas, X-ray l/o UA,EKG,blood ga ฯลฯ ฯลฯ อยา่ งเช่น
หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา iac arrest ที่ คืนชีพแลว้ องช่วยหายใจไว้ l stable bleeding ที่ แลว้ VC.6 ตวั ข้นึ ไป 2.3 มขี อ้ บ่งบอกถงึ ความนา่ จะ ระวตั ิ เกิดพยาธิสภาพท่ีผิดปกติเลก้ นอ้ ย อน และสามารถควบคมุ ไดด้ ว้ ยการ รักษาง่าย ๆ เช่น ชีบ่งถงึ ความ ภาพทีร่ ุนแรงได้ ตา่ ง ๆเช่น as, X-ray l/o
ประเภทผใู้ ชบ้ ริการตวั บง่ ช้ี ลกั ษณะของผ้ปู ่ วยแต่ละประเภท 2=ห 1 = หนกั มาก ข. ตวั บง่ ช้ีรอง 1) EKG. มี PVC 6 ตวั ข้ึนไปใน 1) สูญเสียเลือด 3 1. ภาวะการรับรู้ กรณี ผปู้ ่ วยไม่เคยมีภาวะ ปริมาณเลือดท Arrhythemia (moderte sho 2) สูญเสียเลือดมากกวา่ 40% 2) จานวนน้าเขา้ - ของปริมาณมากกว่าเลอื ด สมดุลยป์ ัสสา ท้งั หมด กวา่ 0.5 ซีซี/ก ติดตอ่ กนั 3) จานวนน้าเขา้ -ออกร่างกายไม่ สมดุลยป์ ัสสาวะไม่ออก 1. รู๔สึกตงั ไดเ้ อง และทาตามคาสง่ั ไ 1. ไมร่ ู้สึกตวั ไม่ตอบสนองตอ่ ส่ิง เร้าภายนอก ห้ามหน่วยงานแกไ้ ข / เพมิ่ เตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา 30-40% ของ 1) สูญเสียเลือด 20-30% ของ ท้งั หมด ปริมาณเลอื ดท้งั หมด ook) -ออกร่างกายไม่ 2) จานวนน้าเขา้ -ออกร่างกายไม่ าวะไม่ออกนอ้ ย สมดุลยป์ ัสสาวะไมอ่ อกนอ้ ย กก./ชม. กว่า 500 ซีซี/วนั ง ตอบคาถาม 1. รู้สึกซึม มึนงง สับสนบางคร้ัง 1. รู้สึกตวั ดี ตอบสนองต่อส่ิงเร้า ไมไ่ ด้ หรือซึมเศร้า หรือผปู้ ่ วยจะง่วง ใจปกติหรือไมถ่ ูกตอ้ งแตไ่ ม่ นอนหลบั แตป่ ลุกตน่ื รบกวนการใชช้ ีวิตประจาวนั สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเทา่ น้นั
2. ใกลห้ มดสติ หลบั ตลอดเวลา 2. งว่ งซึมมาก หลง ไม่ทาตามคาสง่ั ยงั คงมีการ ปลุกคอ่ ยคืนบางค ตอบสนองความเจบ็ ปวด ตอบสนองตอ่ การ 3. ไมร่ ับรู้กาลเวลา บุคคล สถานที่ หรือต่อความเจบ็ ป หรือโตต้ อบส่ิงเร้าไมถ่ กู ตอ้ ง ตาแหน่งทเ่ี จบ็ 3. มีพฤตกิ รรม หร ระยะ ๆ โตต้ อบรับ เป็ นบางคร้ งั หา้ มหน่วยงานแกไ้ ข / เพ่มิ เติมขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคมุ หรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
งั เป็นส่วนใหญ่ 2. ตอบคาถามได้ สับสนบางคร้งั 2. รู้สึกตวั ดี สามารถตอบสนอง คร้ังมปี ฏกิ ิริยา เช่น ตอบคาถามเกี่ยวกบั เวลา ต่อสิ่งกระตนุ้ ไดด้ ี รวดเร็ว รเรียกหรือคาสัง่ บคุ คลสถานทผ่ี ดิ บา้ งถกู บา้ ง ปวดโดยรู้ 3. รู้จกั ตวั เองและสิ่งแวดลอ้ มดีรู้ 3. ตอบสนองและโตต้ อบสิ่งเร้าใจ กาลเวลาบคุ คล สถานท่ีได้ รื อซึมเศร้าเป็ น ชา้ มากหรือไมถ่ ูกตอ้ ง ซ่ึงรบกวน ถกู ตอ้ ง บรู้ต่อสิ่งเร้าได้ ตอ่ การดาเนินชีวติ ประจาวนั บา้ ง แตไ่ ม่เป็นอนั ตรายตอ่ ตนเองและ ผอู้ ่ืน สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผา่ นศนู ยพ์ ฒั นาคุณภาพเทา่ น้นั
ประเภทผใู้ ชบ้ ริการตวั บง่ ช้ี ลกั ษณะของผ้ปู ่ วยแต่ละประเภท 2= 1 = หนกั มาก 2. ความสามรถในหาร 1. ไมส่ ามารถไม่สามารถ 1. ไมส่ ามารถไม เคล่ือนไหว เคลอื่ นไหวร่างกายเพ่อื ช่วยตนเอง เคลอื่ นไหวช่วยเห ไดเ้ นื่องจากพยาธิสภาพของโรค อากาลงั กายไดน้ หรือภาวะการเจ็บป่ วยที่รุนแรง สภาพของโรคทร่ี มาก 2. เคล่อื นไหวร่าง 2. สามารถเคลื่อนไหวไดแ้ ต่ไมม่ ี จนเองจากถกู จาก เป้าหมายอาจเกิดอุบตั ิเหตแุ ละ/ บนเตียงอยา่ งเขม้ หรือแผลกดทบั ไดซ้ ่ึงตอ้ งไดร้ บั rest) การช่วยเหลอื ในการออกกาลงั กาย ท้งั หมด ห้ามหน่วยงานแกไ้ ข / เพ่มิ เติมขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา มส่ ามารถ 1. สามารถเคล่ือนไหวช่วยเหลอื 1. สามารถเคลอื่ นไหวร่างกาย หลอื ตนเองหรืออ ตนเองหรือออกกาลงั กายไดแ้ ต่ ช่วยเหลือตนเองไดแ้ ตต่ อ้ งการ นอ้ ยมาก เนื่องจาก ตอ้ งการแตท่ าไดล้ าบาก อาจ ความช่วยเหลอื ในการพยงุ หรือ รุนแรง ปฏิเสธการเคล่ือนไหวตอ้ งคอย ประคบั ประคองขณะเคลอื่ นไหว กระตนุ้ ให้เคลื่อนไหว เช่น ผปู้ ่ วย งกายไดน้ อ้ ยมาก ปวดแผลผ่าตดั ปวดขอ้ 2. สามารถเคลอ่ื นไหวร่างกาย กดั กิจกรรมเแพาะ ช่วยเหลือตนเอง ออกกาลงั กาย มงวด(absolutebad 2. สามารถเคล่ือนไหวช่วยเหลือ ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งการความ ตนเอง หรืออกกาลงั กายได้ แต่ถกู ช่วยเหลือ จากดั กิจกรรมเฉพาะบนเตยี ง (bed rest) ตอ้ งคอยควบคมุ การ เคลือ่ นไหวใหเ้ หมาะสม สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศนู ยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเทา่ น้นั
3. สภาวะทางดา้ นจิตใจอารมณ์ 1. ไมย่ อมรบั สภาพความเจ็บป่ วย 1. ไมย่ อมรับสภา ปฏกิ ิริยาตอ่ ตา้ นไ และสังคม และ/หรือไม่ยอมรับรู้ขอ้ มลู ใด ๆ ปฏเิ สธการรกั ษา เก่ียวกบั การรกั ษา 2. ไมส่ นใจตนเองและ 2. ซึมเศร้า ทอ้ แท ส่ิงแวดลอ้ มในสภาวะสิ้นหวงั มี นอนไมห่ ลบั อาจ ความคิดอยากตาย กิจวตั รตา่ ง ๆเอง ช่วยเหลือและกร 3. รับรู้ความเจบ็ ป่ วยทเี่ กิดข้นึ 3. อยใู่ นห้องแยก 3.1 คกุ คามตอ่ ชีวติ อาจรกั ษา สภาพแวดลอ้ มป หายหรือไมห่ าย เกิดพฤติกรรมเบ หา้ มหน่วยงานแกไ้ ข / เพิ่มเตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคุมหรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
าพความเจบ็ ป่ วยมี 1. รู้วา่ ตนเองป่ วยตอ้ งการ 1. ยอมรบั สภาพความเจบ็ ป่ วยได้ ไมร่ ่วมมอื หรือ รกั ษาพยาบาล แต่ยอมรับสภาพ แต่แสดงความวิตกกงั วลเกี่ยวกบั าพยาบาล ความเจบ็ ป่ วยตามความเป็นจริงยงั โรคทเ่ี ป็นอยู่ อาจซกั ถามเร่ือง ไม่ไดอ้ ยใู่ นระยะปรับตวั เดิมซ้า ๆ ท้ หวดกาลงั ใจ จยกตวั ไม่ยอมทา 2. แสดงความวติ กกงั วลสูง เช่น 2. รบั รู้วา่ เป็นการเจบ็ ป่ วย งตอ้ งคอยให้ความ 2.1 เรียกร้องความสนใจ ขาด เลก็ นอ้ ยไมม่ ผี ลกระทบตอ่ การ ระตนุ้ เตือนใหท้ า ความมนั่ ใจในการ ดาเนินชีวิตตามปกติหรืออาจทา รักษาพยาบาลหรือในการทา ใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลง กหรือถูกแยกจาก กิจวตั รประจาวนั นอนไม่ สิ่งแวดลอ้ มในการดาเนินชีวิต ปกติมแี นวโนม้ จะ หลบั บา้ งเล็กนอ้ ย บยี่ งเบนได้ สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผ่านศูนยพ์ ฒั นาคณุ ภาพเท่าน้นั
ประเภทผใู้ ชบ้ ริการตวั บ่งช้ี ลกั ษณะของผ้ปู ่ วยแต่ละประเภท 2= 1 = หนกั มาก 2.2 เป็นความเจ็บป่ วยท่ที าให้ เกิดความพิการ สูญเสียหนา้ ทข่ี อง อวยั วะสาคญั สูญเสียภาพลกั ษณ์มี ผลกระทบต่อบทบาทและ สถานภาพทางสังคม หา้ มหน่วยงานแกไ้ ข / เพม่ิ เตมิ ขอ้ ความใด ๆ ในเอกสารควบคมุ หรือทาสาเนาเผยแพร่เอง
หนกั 3 = ปานกลาง 4 = เบา 2.2อาจปฏเิ สธ บ่ายเบ่ียง หรือ 3. ยอมรบั สภาพความเจ็บป่ วย ต่อรองการรกั ษาพยาบาลอ่านร้อง และใหค้ วามร่วมมือในการ ใหห้ รือเหม่อลอยเมอื่ อยคู่ นเดียว รักษาพยาบาลเป็นอยา่ งดี เช่น ผปู้ ่ วยเดก็ สามารถดาเนินการไดโ้ ดยผา่ นศนู ยพ์ ฒั นาคุณภาพเทา่ น้นั
Search
Read the Text Version
- 1 - 25
Pages: