Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore มหาเวสสันดรชาดกกี้

มหาเวสสันดรชาดกกี้

Published by Bangearn, 2021-12-26 16:00:18

Description: มหาเวสสันดรชาดกกี้

Keywords: ม,หาเวสสันดรชาดก

Search

Read the Text Version

คำนำ สมุดอิเล็กทรอนิกส์เรื่อง มหาเวสสันดรชาดก เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชา วรรณคดีมรดก ท ๓๐๒๐๘ โดยมีจดุ ประสงคเ์ พ่ือเป็นหนงั สือเสริมความร้ทู างวรรณคดีท่ีนาเสนอความรู้เก่ียวกับผู้ แต่ง จุดมุ่งหมายในการแต่ง ความเป็นมา เนื้อเร่ือง และข้อคิดประจากัณฑ์ของมหาเวสสันดร ทั้งหมด ๑๓ กัณฑ์ ผู้จัดทา

สำรบญั เรื่อง หนำ้ มหาเวสสนั ดรชาดก ๑ กัณฑท์ ี่ ๑ ทศพร ๒ กัณฑท์ ี่ ๒ หมิ พานต์ ๔ กัณฑ์ท่ี ๓ ทานกัณฑ์ ๖ กัณฑ์ท่ี ๔ วนประเวสน์ ๘ กัณฑท์ ี่ ๕ ชชู ก ๑๐ กัณฑ์ท่ี ๖ จลุ พน ๑๒ กัณฑ์ท่ี ๗ มหาพน ๑๔ กัณฑท์ ี่ ๘ กมุ าร ๑๖ กัณฑ์ท่ี ๙ มัทรี ๑๘ กัณฑท์ ี่ ๑๐ สักบรรพ ๒๐ กัณฑท์ ่ี ๑๑ มหาราช ๒๒ กัณฑ์ที่ ๑๒ ฉกษัตรยิ ์ ๒๔ กัณฑ์ที่ ๑๓ นครกัณฑ์ ๒๖

มหำเวสสนั ดรชำดก ผแู้ ตง่ : สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ิตชโิ นรส พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว กวสี านักวดั ถนน กวีวดั สังขจาย พระเทพโมลี (กล่ิน) เจ้าพระยาพระคลัง (หน) ลักษณะคำประพันธ์ : ร่ายยาว ๑ หนึ่งบทจะมีวรรคก็ได้ แต่ส่วนมากมี ๕ วรรคข้ึนไปวรรคหน่ึง ๆ มีตั้งแต่ ๕ ข้ึนไปถึง ๖๐ คาหรือมากกว่าบังคับเฉพาะระหว่างวรรคคือคาสุดท้ายของวรรคจะส่ง สัมผัสไปท่ีคาที่ ๖ ถงึ ๕ ของวรรคตอ่ ไปเม่อื จบตอนมักมีคาสรอ้ ยเช่น\"นัน้ แล\" จุดม่งุ หมำยในกำรแตง่ : เพ่ือใช้ในการสวดและเทศนาสงั่ สอน ท่ีมำ : มหา + เวสสันดร + ชาดก หมายถึง เรื่องราวท่ีเกี่ยวกับพระพุทธเจ้าในพระชาติกาเนิด อันย่ิงใหญ่ คือ เป็นพระเวสสันดร ชาดกเร่ืองนี้เป็นเร่ืองหนึ่งใน นิบาตชาดก มีปรากฏอยู่ใน พระไตรปิฎก เรามักเรียกนิบาตชาดกเป็นไทยๆว่า พระเจ้าห้าร้อยห้าสิบชาติ นิบาตชาดกเป็น คัมภีร์ซึ่งประกอบไปด้วยนิทานเรื่องต่าง ๆ ล้วนเป็นอุทาหรณ์สอนธรรมะเล่าถึงการเสวยพระชาติ ในอดีตของพระพทุ ธเจา้ ควำมเป็นมำ : เวสสนั ดรชาดกนเ้ี ป็นเรอ่ื งใหญ่จดั รวมไว้ในมหานิบาตชาดกรวมเร่อื งใหญ่ ๑๐ เรื่อง ท่ีเรียกกันว่า ทศชำติ สาคัญกว่าชาดกอื่น ๆ ด้วยปรากฏบารมีของพระโพธิสัตว์บริบูรณ์ในเรื่อง มหาเวสสนั ดรชาดกท้งั ๑๐ บารมี อานิสงส์การฟังเทศน์มหาชาติ การตง้ั ใจฟงั เทศน์มหาชาติให้ จบเพียงวันเดยี วครบบริบรู ณ์ ทง้ั ๑๓ กณั ฑจ์ ะเป็นเหตใุ หส้ าเร็จความปรารถนา คัมภีร์ซึ่งประกอบไปด้วยนิทานเรื่องต่าง ๆ ล้วนเป็นอุทาหรณ์สอนธรรมะเล่าถึงการเสวยพระชาติ ในอดตี ของพระพุทธเจ้า



กณั ฑท์ ี่ ๑ กณั ฑ์ทศพร ผแู้ ต่ง : สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ิตชิโนรส เนอ้ื เรอ่ื งยอ่ : พระอินทร์ประสาทพรแก่พระนางผุสดี ก่อนท่ีจะจุติลงมาเป็นพระราชมารดาของพระเวสสันดร ภาคสวรรค์ พระนางผุสดีเทพอัปสรส้ินบุญ ท้าวสักกะเทวราชสวามีทรงทราบจึงพาไปประทับยัง สวนนันทวันในเทวโลก พร้อมให้พร ๑๐ ประการ คือ ให้ได้อยู่ในประสาทของพระเจ้าสิริราชแห่ง นครสีพี ขอให้มีจักษุดาดุจนัยน์ตาลูกเนื้อ ขอให้คิ้วดาสนิท ขอให้พระนามว่า ผุสดี ขอให้มีโอรสท่ี ทรงเกียรตยิ ศเหนือกษัตริยท์ ั้งหลายและมใี จบุญ ขอใหม้ ีครรภ์ท่ีผิดไปจากสตรสี ามัญคือแบนราบใน เวลาทรงครรภ์ ขอให้มีถนั งามอยา่ ร้ดู าและหยอ่ นยาน ขอให้มีเกศาดาสนิท ขอใหม้ ผี วิ งาม และข้อ สุดทา้ ยขอให้มีอานาจปลดปล่อยนักโทษได้ ข้อคิดประจำกัณฑ์ ๑. ตอ้ งกระทาความดี ๒. ต้องรกั ษาความดีนน้ั ไว้ ๓. หมน่ั เพมิ่ พนู ความดีใหม้ ากยง่ิ ข้ึน



กณั ฑ์ท่ี ๒ หิมพำนต์ ผแู้ ต่ง : สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานชุ ิตชโิ นรส เนอื้ เรอ่ื งย่อ : พระเวสสันดรบริจาคทานช้างปัจจัยนาค ประชาชนสีพีโกรธแค้นจึงขับไล่ให้ไปอยู่เขาวงกต พระ นางผุสดีได้จุติลงมาเป็นพระราชธิดาพระเจ้ามัททราช เม่ือเจริญชนม์ได้ ๑๖ ชันษาจึงได้อภิเษก สมรสกับพระเจ้ากรุงสัญชัย แห่งสีวิรัฐนคร ต่อมาได้ประสูติพระโอรสนามว่า “เวสสันดร”ในวันที่ ประสูตินั้นได้มีนางช้างฉัททันต์ตกลูกเป็นช้างเผือกขาวบริสุทธ์ิจึงนามาไว้ในโรงช้างต้นคู่บารมีให้มี นามว่า “ปัจจัยนาค” เมื่อพระเวสสันดรเจริญชนม์ ๑๖ พรรษา พระราชบิดาก็ยกสมบัติให้ ครอบครองและทรงอภเิ ษกกับนางมัทรี พระราชบดิ าราชวงศม์ ทั ทราช มีพระโอรส ๑ องค์ช่ือ ชาลี ราชธิดา ช่ือ กัณหา พระองค์ได้สร้างโรงทาน บริจาคทานแก่ผู้เข็ญใจ ต่อพระเจ้ากาลิงคะแห่งนคร กาลิงครัฐได้ส่งพราหมณ์มาขอพระราชทานช้างปัจจัยนาค พระองค์จึงพระราชทานช้างปัจจัยนาค พระองค์จงึ พระราชทานชา้ งปัจจยั นาคแก่พระเจ้ากาลิงคะ ชาวกรงุ สัญชยั จึงเนรเทศพระเวสสันดร ออกนอกพระนคร ข้อคิดประจำกณั ฑ์ ๑. คนดีเกดิ มานาพาโลกใหร้ ม่ เยน็ ๒. โลกต้องการผูเ้ สียสละมิฉะนัน้ หายนะจะบังเกิด ๓. การทาดยี ่อมมอี ุปสรรค “มารไม่มีบารมีไมม่ ามารยิง่ มาบารมยี ่งิ แก่กล้า” ๔. จุดหมายแห่งการเสยี สละอย่ทู ่ีพระโพธญิ าณมิหวน่ั ไหวแม้จะได้รบั ทกุ ข์



กัณฑ์ท่ี ๓ ทำนกัณฑ์ ผูแ้ ต่ง : กวีสานักวดั ถนน เน้อื เรอ่ื งย่อ : พระเวสสนั ดรทรงแจกมหาสัตสดกทาน คือ การแจกทานครงั้ ยิง่ ใหญ่ ก่อนทีพ่ ระเวสสนั ดรพร้อม ด้วยพระนางมัทรี ชาลี และกัณหาออกจากพระนคร จึงทูลขอพระราชทานโอกาสบาเพ็ญมหา สัตสดกทาน คือ การให้ทานคร้ังยิ่งใหญ่ อันได้แก่ ช้าง ม้า โคนม นารี ทาสี ทาสาสรรพวัตถาภรณ์ ต่าง ๆ รวมท้งั สุราบานอยา่ งละ ๗๐๐ ขอ้ คิดประจำกณั ฑ์ ๑. ความรักของแม่ – ความห่วงของเมยี , นา้ ตาแม่ – น้าใจเมีย ๒. โทษทัณฑ์ของการเป็นหม้าย คือ ถูกประณาม หยามหม่ิน อาจถึงจบชีวิตด้วยการก่อกอง ไฟให้ รุ่งโรจนแ์ ล้วโดดฆา่ ตวั ตาย ๓. เพอ่ื ประโยชนส์ ุขส่วนรวม พึงยอมเสียสละประโยชน์สุขสว่ นรวม ๔. ยามบุญมีเขาก็ยก ยามเม่ือตกเขาก็หยาม ชีวิตมีทั้งชื่นชมและขมขืน่ ทาดีจะให้ถูกใจคนท้ัง โลกเปน็ ไปไม่ได้



กัณฑ์ ๔ กณั ฑว์ นประเวศน์ ผูแ้ ตง่ : พระบามสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว (รัชกาลท่ี ๔) เนอ้ื เรือ่ งย่อ : พระเวสสนั ดร พระนางมัทรี และสองพระกมุ ารเสด็จโดยพระบาทเป็นระยะทางถึง ๓๐ โยชน์ จึงลุ มาตุลนคร แคว้นเจตราษฎร์ด้วยพระบารมีเทวดาจึงทรงย่นระยะทางให้เสด็จถึงตัวเมืองภายใน เวลาเพียงวันเดียวทั้งส่ีพระองค์ได้ประทับแรมท่ีแคว้นเจตราษฎร์น้ี เม่ือ กษัตริย์เจตราษฎร์ ทรง ทราบได้กราบทูลขอถวายความอนุเคราะห์ทุกประการ ท้ังเชิญเสด็จเสวยราชสมบัติแทนพระองค์ แต่พระเวสสันดร มิทรงรับ ด้วยผิดพระประสงค์ ทรงขอเพียงให้ชี้ทางไปเขาวงกต สถานท่ีที่ พระองค์ตง้ั พระทัยม่ันจะประทบั รกั ษาพระจริยวตั รของนกั พรตโดยเคร่งครดั สืบไป ข้อคิดประจำกณั ฑ์ ๑. ยามเข็ญใจ-ยามจน ยามเจ็บ,ยามเจ๊ง,ยามจาก,เป็นยามท่ีควรจะได้รับความเหลียวแลจาก หม่มู ิตร ๒. ผลดีของมิตร คือ ไม่ทอดท้ิงในยามเพื่อนทุกข์ ช่วยอุ้มชูยามเพ่ือนอ่อนล้า ช่วยฉุดดึงยาม เพ่ือนตกตา่ ชว่ ยคา้ ยนั ยามเพอ่ื นสูงขน้ึ ๓. น้าใจของคนดี-หากรชู้ ัดว่าปกติสุขของคนส่วนมากจะตง้ั อยไู่ ด้ เพราะการเสยี สละของตน ก็ สมคั รสลดั โอกาสและโชคลาภอันพงึ จะได้ ดว้ ยความแช่มชื่น



กณั ฑท์ ี่ ๕ ชูชก ผแู้ ต่ง : กวีวดั สังข์กระจาย เนื้อเร่ืองย่อ : เป็นกัณฑ์ท่ีชูชกได้นางอมิตตามาเป็นภรรยาและหมายจะได้โอรส และธิดาพระ เวสสนั ดรมาเป็นทาสในแคว้นกาลิงคะมพี ราหมณ์แกช่ ่ือชูชก พนกั ในบา้ นทุนวิฐะ เท่ยี วขอทานใน เมืองต่าง ๆ เม่ือได้เงินถึง ๑๐๐ กหาปณะ จึงนาไปฝากไว้กับพราหมณ์ผัวเมีย แต่ได้นาเงินไปใช้ เป็นการส่วนตัวเม่ือชูชกมาทวงเงินคืนจึงยกนางอมิตดาลูกสาวให้แก่ชูชก นางอมิตดาเมื่อมาอยู่ ร่วมกับชูชกได้ทาหน้าที่ของภรรยาที่ดี ทาให้ชายในหมู่บ้านเปรียบเทียบกับภรรยาตน หญิงใน หมู่บ้านจึงเกลียดชังและรุมทาร้ายทุบตีนางอมิตดา ชูชกจึงเดินทางไปทูลขอกัณหาชาลีเพื่อเป็น ทาสรบั ใช้ เม่อื เดนิ ทางมาถึงเขาวงกตกถ็ กู ขัดขวางจากพราหมณ์เจตบตุ รผู้รกั ษาประตูปา่ ข้อคดิ ประจำกณั ฑ์ ๑. ของที่รักและหวงแหนที่โบราณห้ามฝากผู้อ่ืนไว้ คือ เงิน, ม้า, เมีย, ย่ิงน้องเมีย ห้ามฝาก เด็ดขาด ๒. ภรรยาท่ีดี ยอ่ มไมย่ อ่ หยอ่ นตอ่ หนา้ ที่ ขา้ วตา นา้ ตกั ฝืนตอหกั หา นา้ รอ้ นนา้ ชา เตรยี มไวใ้ ห้ เสร็จ ๓. ของไม่คู่ควรย่อมมีปัญหา ตาราหิโตปเทศ กล่าวว่า \"ความรู้เป็นพิษเพราะเหตุที่ไม่ใช่ อาหารเป็นพษิ เพราะเหตุไฟธาตุไม่ย่อย



กณั ฑท์ ่ี ๖ จลุ พน ผู้แต่ง : พระบามสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว (รัชกาลท่ี ๔) เนอื้ เรื่องย่อ : เป็นกัณฑ์ท่ีพรานเจตบุตรหลงชูชก และชี้ทางสู่อาศรมอจุตฤๅษีชูชกได้ชูกลักลักพริกขิงแก่พราน เจตบุตรอา้ งวา่ เปน็ พระราชสาสน์ของเจา้ กรงุ สญชยั จึงได้พาไปยังต้นทางท่ีจะไปอาศรมฤๅษี ขอ้ คดิ ประจำกณั ฑ์ ๑. มอี านาจหากขาดปัญญายอ่ มถกู หลอกไดง้ ่าย ๒. คนโงเ่ ปน็ เหย่อื ของคนฉลาด ๓. ไวใ้ จทาง วางใจคน จะจนใจตัว



กณั ฑท์ ่ี ๗ มหำพน ผแู้ ต่ง : พระเทพโมลี ( กล่นิ ) เนือ้ เรือ่ งย่อ : เฒ่าชูชกเดินทางไปกลางป่าพบฤาษีอัตจุตก็เล่าความเท็จอีก ฤาษีจึงยอมชี้ทางไปอาศรมของพระ เวสสนั ดรเมื่อไปถงึ เป็นเวลาพลบค่าเฒ่าชชู กกซ็ ่อนตวั บนชะง่อนเขาด้วยคิดว่า ตอ้ งรอรงุ่ เชา้ ให้พระ นางมัทรอี อกไปหาผลไมเ้ พราะนางคงไมย่ อมยกลูกใหใ้ ครแน่ ข้อคิดประจำกณั ฑ์ ๑. ฉลาดแตข่ าดเฉลยี ว มปี ัญญาแตข่ าดสติกเ็ สียทพี ลาดทา่ ได้ ๒. สงสารฉบิ หาน เชอื่ ง่ายเปน็ ทกุ ข์ ๓. คบคนใหด้ หู นา้ ซ้อื ผ้าใหด้ เู นอ้ื ซ้อื เสื่อใหด้ ูลาย



กณั ฑ์ที่ ๘ กุมำร ผู้แต่ง : เจ้าพระยาพระคลงั (หน) เนอ้ื เรอื่ งย่อ : เฒ่าชูชกเดินทางไปถึงอาศรมของพระเวสสันดร เป็นช่วงท่ีพระนางมัทรีไปป่าหาผลไม้ จึงรีบเข้าไป ขอพระชาลีและพระกัณหา ท้ัง ๒ กุมารได้ยินแล้วพากันตกใจกลัว หนีไปซ่อนตัวอยู่ในสระบัวบัง กายไว้ พระองคไ์ ดข้ อร้องใหท้ ง้ั สองออกมา แล้วเฒ่าชูชกก็นาท้งั สองพระองค์ไป ขอ้ คิดประจำกัณฑ์ ๑. ความเป็นผู้รู้จักกาลเทศะ ไม่ผลีผลามเข้าไปขอ รอจนพระมัทรีเข้าป่าจึงเข้าเฝ้า เพื่อของ สองกุมาร เป็นเหตุให้ชูชกประสบผลสาเร็จใจสิ่งที่ตนปรารถนา ดังภาษิตโบราณว่า “ช้า ๆ จะไดพ้ รา้ เลม่ งาม ด่วนไดส้ ามผลามมกั พลกิ แพลง” ชา้ เป็นการนานเป็นคุณ ผรู้ จู้ ักโอกาส มี มารยาท กล้าหาญ ใจเยน็ เป็นสาเรจ็ ๒. พ่อแม่ทุกคนรักลูกเหมือนกัน แต่เป็นห่วงไม่เท่ากัน ห่วงหญิงมากกว่าห่วงชาย เพราะท่าน เปรยี บไวว้ า่ “ลูกหญงิ เหมอื นข้าวสาร ลกู ชายเหมือนข้าวเปลือก” ๓. สติ เตสัง นิวารณัง สตเิ ปน็ เครอื่ งป้องกนั อันตรายทั้งปวงได้ ขันติ สาหสวารณา ขันตปิ ้องกัน ความหุนหันพลันแล่นได้ เป็นเหตุให้พระเวสสันดรไม่ประหารชูชกด้วยพระขรรค์ เม่ือถูกชู ชกประนาม ๔. วิสัยหญิงนั้น แม้จะมากอยู่ด้วยเมตตากรุณา ชอบปลดเปลื้องทุกข์แก่ผู้อ่ืนก็จริงอยู่ แต่เว้น อย่างเดยี ว ทีผ่ ้หู ญิงนัน้ ไม่มีวนั จะสละสิง่ น้ัน คือ “ลูก”



กณั ฑ์ท่ี ๙ มัทรี ผแู้ ตง่ : เจา้ พระยาพระคลัง (หน) เนอ้ื เรอ่ื งย่อ : พระนางมัทรีทรงได้ตดั ความห่วงหาอาลยั ในสายเลอื ด อนโุ มทนาทานโอรสทั้งสองแก่ชชู ก พระนางมัทรีเดินเข้าไปหาผลไม้ในป่าลึกจนคล้อยเย็นจึงเดินทางกลับอาศรม แต่มีเทวดาแปลง กายเป็นเสือนอนขวางทางจนค่า เม่ือกลับถึงอาศรมไม่พบโอรส พระเวสสันดรได้กล่าวว่านาง นอกใจ จึงออกเท่ียวหาโอรสและกลับมาสนิ้ สตติ อ่ เบ้ืองพระพักตร์ พระองค์ทรงตกพระทัยลมื ตน ว่าเป็นดาบส จึงทรงเข้าอุ้มพระนางมัทรีและทรงกันแสง เม่ือนางมัทรีฟ้ืนจึงถวายบังคมประทาน โทษพระเวสสันดรจงึ บอกความจริงวา่ ได้ประทานโอรสแก่ชชู กแล้ว หากชวี ิตไม่สิ้นคงจะไดพ้ บนาง จงึ ไดท้ รงอนุโมทนา ข้อคดิ ประจำกัณฑ์ ลูกคือแก้วตาดวงใจของผู้เป็นพ่อแม่ \"ลูกดีเป็นที่ชื่นใจของพ่อแม่ ลูกแย่พ่อแม่ช้าใจ\" รักใครเล่าจะ เท่าพ่อแม่รัก ห่วงใดเล่าจะเท่าพ่อแม่ห่วง หวงใดเล่าจะเท่าพ่อแม่หวง ให้ใครเล่าจะเท่าพ่อแม่ให้ เพราะฉะนัน้ พงึ เปน็ ลูกแก้ว ลกู ขวญั ลกู กตญั ญู ที่ชาวโลกชื่นชม พรหมกส็ รรเสริญฯ



กณั ฑท์ ่ี ๑๐ สกั บรรพ ผ้แู ต่ง : พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจา้ อยู่หัว (รชั กาลที่ ๔) เนอ้ื เรือ่ งย่อ : ขณะน้นั ท้าวสหสั นยั บนสวรรค์เกรงว่าจะมขี ายโจดมาทูลขอพระนางมัทรีจึงจาแลงกายเปน็ นักบวช ชรามาทูลขอพระนางพระเวสสันดรทรงยินดีบริจาคทานให้ แตน่ กั บวชชราเมอื่ ไดร้ ับแล้วก็ไม่เอาไป กลับถวายคืนแก่พระเวสสันดรโดยห้าพระองค์ประทานบางแก่ผู้ใดอีกองค์อินทร์ประสาทพรก่อน กลับไดป้ ระสาทพรให้พระเวสสนั ดร ขอ้ คิดประจำกณั ฑ์ การทาดีแม้ไม่มีคนเห็นก็เป็นความดีอยู่วันยังค่าดุจทองคาแม้จะอยู่ในตู้โชว์หรือในกาป่ันก็เป็น ทองคาอยู่นั่นเองเข้าลักษณะว่าความ (ของดดี เี ด็ดเหมอื นเพชรเหมือนทองถงึ ไร้เจ้าของก็เหมือนตัว ยงั ถึงใสอ่ ดุ ถึงชดุ หลุมฝังก็มีวันปล่ังอะหลั่งน่ังการทาความดีแม้ไม่มีคนเหน็ แตเ่ ทพยดาอารักษ์เบ้ือง บนทา่ นย่อมรู้



กณั ฑ์ท่ี ๑๑ มหำรำช ผแู้ ตง่ : สมเด็จพระมหาสมณะเจ้า กรมพระปรมานชุ ิตชโิ นรส เนอ้ื เร่อื งย่อ : ด้านชูชกเฒ่าน้ันลากสองกุมารน้อยไปหลางทุบตีไปหลางด้วยหวังจะกลับไปหาภรรยาโดยเร็วเมื่อ ถงึ ทางแยกเข้าเมืองกงคราฐเทพยดาดลบันดาลให้ชูชกเดินเข้ามาในเมืองสหรัฐพระเจ้ากรุงสัญชัยก็ ได้ทรงสุบินประหลาดว่ามีขายอัปลักษณ์ทาดอกบัวตูมและดอกบัวบานมาถวายให้พระองค์รับมา ทัดท่ีพระกรรณแล้วก็ทรงต่ืนบรรทมเหล่าโหรก็ถวายคาทานายว่าพระราชวงศ์ที่จากพลัดไปจะ เสด็จคืนวังวันรุ่งนั้นเฒ่าชูชกจูงกุมารน้อยผ่านหน้าพระสานพระราชาทรงเฉลียวพระทัยจึงให้เรียก ตัวเข่าอัปลักษณ์และกุมารน้อยมอมแมม แต่ผิวพรรณเปล่งปล่ังน้ันเข้ามาเฝ้าเม่ือพระราชา สอบถามชูชกก็กราบทูลว่าได้รับบริจาคมามิได้ไปฉุดคร่ามาท่ีโตพระราชาจึงทรงรู้ว่า ๒ กุมารน้อย นั้นเป็นหลานของพระองค์จึงทรงไถ่ตัวหลานและพระราชทานรางวัลให้แก่ชูชกมากมายท้ังยังจัด อาหารคาวหวานช้ันเลิศมาใหแ้ กช่ ูชกอกี ดว้ ยขอทานเฒ่าไม่เคยเหน็ อาหารช้ันดีมีความโลภจะกินให้ หมดจึงกินเข้าไปไม่หยุดจนกระทั่งท้องแตกตายไปพระราชาเจ้ากรุงสัญชัยทรงจัดพิธีเวียนเทียน บายศรีสมโภชรับขวัญหลานเป็นที่ยิ่งใหญ่สมเกียรติครั้นแล้วก็ทรงถามถึงพระนางมัทรีและพระ เวสสันดรท่ีจากไปนานเปน็ เวลา ๑ ปี ๑๕ วนั แลว้ “ พระมารดาทรงลาบากเหลือแสนพระเจ้าข้าชา ลีราชกุมารทลู พระราชาด้วยสรุ ะเสียงกาสรดย่ิงนกั เสด็จคืนเวียงวังพระราชาจึงทรงให้จัดขบวนแห่ง กองเกียรติยศยกออกนครไปรับพระเวสสันดรกลับสู่เวียงวังด้วยทรงคิดถึงราชบุตรและสานึกผิด แลว้ ขอ้ คิดประจำกณั ฑ์ คนดีตกนา้ ไมไ่ หลตกไฟไม่ไหมย้ ่อมไดร้ บั ความปกปอ้ งคมุ้ ครองภยั ในทกุ สถาน



กัณฑท์ ่ี ๑๒ ฉกษัตรยิ ์ ผู้แต่ง : สมเดจ็ พระมหาสมณเจา้ กรมพระปรมานุชติ ชิโนรส เนื้อเร่อื งยอ่ : การเสด็จพระราชดาเนินของพระเจ้ากรุงสัญชัยและจตุรงคเสนาเป็นขบวนเสด็จจากรุงเชตุต รนครหลวงถงึ เขาวงกตเป็นระยะทาง ๖๐ โยชน์เทา่ กบั ๔๐๐ กโิ ลเมตรกษัตริย์ทั้ง ๕ พระองคไ์ ดม้ า พบกนั ดว้ ยในกลางปา่ โดยมิไดค้ าดฝันจึงไดร้ ว่ มเดินทางไปยงั เขาวงกตพร้อมกันกองขบวนเกียรติยศ พร้อมมโหรและไพร่พลก็เคล่ือนสู่ป่าด้วยเสียงอันกึกก้องล่ันป่าพระเวสสันดรเข้าพระทัยว่ากองใน พระราชวังคงจะมาประหารพระองค์จึงทรงพระนางมัทรีไปหลบซ่อนในพุ่มไม้ครั้นพระเจ้ากรุงสัญ ชยั บอกความใหท้ ราบพระนางมทั รกี ็ออกมาถวายบงั คมต่างก็รา่ ไหด้ ้วยสลดใจกนั ถว้ นทั่วในเคราะห์ กรรมแม้บรรดาเสนาอามาตย์และนางกานัลต่างก็ร้องไห้กันทั่วพระราชาตรัสให้พระเวสสันดรลา ผนวชกลับคืนสู่เวียงวังพระนางผุสดีก็ขอให้พระนางมัทรีคืนสู่พระราชวังเถิดพระนางมัทรีได้ แต่ กันแสงสวมกอดกั ณ หาพระธิดาและพระโอรสชาติไว้แนบอกด้วยทรงคิดถึงย่ิงบริเวณป่าเต็มไป ด้วยเสียงคร่าครวญระมจบหมดสติไปทั้งส้ินพระอินทร์บนสรวงสวรรค์เล็งทิพยเนตรเห็นดังน้ันจึง ทรงบันดาลสายฝนให้โปรยปรายเป็นอัศจรรย์ป่าชุ่มชื้นด้วยในโบกขรพรรษที่มีสาดให้ผู้ใดเปียก ปอนในบรรดาพระราชวงศ์ก็ทรงฟื้นขึ้นมาด้วยความแช่มชื่นปราโมทย์หลังจากน้ันได้ขอลุแก่โทษ และทลู อาราธนาให้พระเวสสันดรทรงลาผนวช ขอ้ คดิ ประจำกณั ฑ์ ๑. พรากมวี นั พบจากมวี นั เจอจากกันยามเปน็ ได้เห็นนา้ ใจจากกนั ยามตายไดเ้ ห็นน้าตา ๒. การให้อภยั เป็นเพราะได้สานึกเปน็ เหตใุ ห้ลบรอยรา้ วฉานบันดาลสันติสขุ แกส่ ่วนรวม ๓. สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้ผิดบรรพชิตยังเผลอความผิดพลาดเป็นเร่ืองของมนุษย์ แต่ การใหอ้ ภัยเป็นวิสัยของเทวดา



กณั ฑ์ที่ ๑๓ นครกณั ฑ์ ผ้แู ตง่ : สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระมหาปรมานุชติ ชิโนรส เน้ือเรือ่ งย่อ : เม่ือทรงลาผนวชแล้วทรงสั่งลาพระอาศรมรับเคร่ืองทรงกษัตริย์แล้วเสด็จกลับไปครองเมืองสญชัย พระเวสสันดรเสด็จขึ้นครองราชย์ครองแผ่นดินทาให้ไพร่ฟ้าเสนาอามาตย์มีสุขสงบกันทั่วทั้งแคว้น ชาวเมืองต่างก็หมั่นถือศีลบาเพ็ญกุศลตามสัตย์อธิษฐานของพระเวสสันดรกษัตริย์เมืองกลิงคราฐก็ นาช้างปจั จยั นาเคนทรม์ าถวายคืนเพราะบ้านเมืองมีฝนตกตอ้ งตามฤดกู าลแล้วพระเวสสันดรก็ทรง อยู่ในทศพิธราชธรรมและยังคงทรงบริจาคทานจนพระชนมายุได้ ๑๒๐ พรรษาจึงสวรรคตแล้วไป ปรากฏอุบตั เิ ป็นท้าวสันดุสติ เทพบุตรบนสวรรคช์ ัน้ ดุสติ รวมระยะเวลาที่พระเวสสันดร มทั รี กัณหา ชาลี หาต้องนริ าศจากพระนครไปอย่ปู ่าเป็นเวลา ๑ ปี ๑๕ วนั ข้อคดิ ประจำกณั ฑ์ เร่ืองนี้มีคติธรรมสั่งสอนให้คนเราเพียรประกอบคุณงามความดีโดยมีท้อถอยหากรู้จักสละทรัพย์ บริจาคทานเน่ืองนิจก็จะเป็นที่สรรเสรญิ ทั่วไปคนโลภคนจิตบาปหยาบร้ายก็ต้องได้ภัยเพราะตัวเอง ดัง่ ชชู กน้ันเอง

มหำเวสสนั ดรชำดก รำยวชิ ำ วรรณคดมี รดก ท๒๐๑๐๘ จดั ทำโดย ๑. นางสาวฤทัยทิพย์ ทิพย์สงั ข์ เลขที่ ๑๖ ม.๖/๙ ๒. นางสาวรชั ตะมณี คงจุ้ย เลขที่ ๑๗ ม.๖/๙ ๓. นางสาวศตพร โชว์สงวน เลขท่ี ๑๙ ม.๖/๙ ๔. นางสาวสริ ิมนต์ สมหวัง เลขที่ ๒๒ ม.๖/๙ ๕. นางสาวคุณัญญา ยงเขนยสิน เลขท่ี ๒๓ ม.๖/๙ เสนอ คุณครสู ชุ านาถ โศภิษฐิกุล โรงเรยี นสตรีพทั ลุง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook