Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บันทึกการเรียนรู้วิชา ศิลปศึกษา ม.ต้น

บันทึกการเรียนรู้วิชา ศิลปศึกษา ม.ต้น

Published by namfon1789, 2021-10-27 04:43:19

Description: บันทึกการเรียนรู้วิชา ศิลปศึกษา ม.ต้น

Search

Read the Text Version

บนั ทกึ การเรยี นรู้ วชิ าศิลปศึกษา รหัสวิชา ทช21003 รายวชิ าบงั คบั ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ชอื่ .................................................สกุล................................................ รหัสประจำตวั นกั ศกึ ษำ.................................................... กศน.ตำบล/กลุ่ม.............................................................. ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ สำนักาำนส่าเสริมกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัย

คานา กระทรวาศึกษำธิกำรไดป้ ระกำศใชห้ ลกั สูตรกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศกึ ษำขั้นพ้นื ฐำน พุทธศักรำช 2551 มีสำระและมำตรฐำนกำรเรียนรู้ 5 สำระ ไดแ้ ก่ ทกั ษะกำรเรียนรู้ ควำมร้พู ื้นฐำน กำรประกอบอำชีพ ทกั ษะกำรดำเนนิ ชวี ิต กำรพัฒนำสัาคม และมีแนวทำาในกำรจดั กำรศึกษำ กำรเทียบโอน กำรวดั ผลและประเมินผล เกณฑก์ ำรจบหลกั สตู ร เอกสำรหลักฐำนกำรศึกษำ ในกำรจัดกำรศกึ ษำตำมหลกั สตู ร กำรศกึ ษำนอกระบบระดบั กำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 และสถำนศึกษำตอ้ าดำเนินกำรจดั ทำ หลกั สตู รสถำนศึกษำ และแผนกำรจัดกำรเรียนรใู้ ห้สอดคล้อากบั นโยบำยระดบั ประเทศ กระทรวาศกึ ษำธกิ ำร สำนกั าำน กศน. ทอ้ าถิ่น ชมุ ชน และเหมำะสม สอดคลอ้ ากบั ควำมตอ้ ากำรขอาผ้เู รยี น ศนู ย์กำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จาึ ไดด้ ำเนนิ กำร จัดทำแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้และบันทกึ กำรเรียนรู้ ตำมหลกั สตู รกำรศกึ ษำนอกระบบกำรศกึ ษำขั้นพ้ืนฐำน พทุ ธศกั รำช 2551 เพื่อเพ่มิ ประสทิ ธิภำพในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนขอาครู และเป็นประโยชน์ดีต่อกำรเรียนรขู้ อา ผเู้ รียน ในกำรนีศ้ ูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศยั อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ขอขอบคณุ สำนักาำน กศน.จาั หวัดนครรำชสีมำ คณะกรรมกำรสถำนศกึ ษำ ครู บคุ ลำกรและผู้เก่ียวขอ้ าทุกท่ำน ท่ีมสี ่วน รว่ มในกำรดำเนินกำรให้เสร็จส้ินอยำ่ าสมบูรณ์

สารบญั ๑ เรื่อง หนา้ 1 1. คำแนะนำกำรใชบ้ นั ทึกกำรเรยี นรู้ 2 2. คำอธิบำยรำยวิชำ 3 3. กำหนดระยะเวลำกำรเรียนรู้ 5 4. สว่ นที่ 1 แบบทดสอบกอนเรียน 7 5. สวนที่ 2 ใบาำน/แบบบนั ทึกกำรเรียนรู้ 9 6. ส่วนที่ 3 แบบทดสอบหลัาเรยี น และเฉลยแบบทดสอบกอนเรยี น หลัาเรยี น ภำคผนวก เอกสำรอ้ำาอิา ตวั อย่ำากำรเขยี นกำหนดเวลำกำรเรียนรดู้ ว้ ยตนเอา คณะผู้จัดทำ

๒ คาแนะนาการใช้บนั ทึกการเรยี นรู้ วชิ ำศิลปศึกษำ รหัสวชิ ำ ทช21003 รำยวชิ ำบาั คบั ระดบั มัธยมศกึ ษำตอนต้น ตำมหลักสตู รกำรศึกษำนอกระบบระดบั กำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช 2551 ประกอบด้วย 3 สวน คือ สว่ นที่ 1 แบบทดสอบก่อนเรยี น สวนท่ี 2 ใบาำน/แบบบนั ทึกกำรเรยี นรู้ สว่ นที่ 3 แบบทดสอบหลาั เรยี น และเฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน หลาั เรยี น ให้ผูเ้ รยี นดาเนนิ การตามขนั้ ตอน ดงั นี้ 1. ศกึ ษำรำยละเอียดเนอื้ หำรำยวชิ ำจำกนั้นวำาแผนเพอื่ กำหนดเวลำกำรเรยี นรู้ดว้ ยตนเอาและจัดเวลำท่ีผู้เรยี น มีควำมพรอมจะศึกษำ 2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียนเพ่ือทรำบพ้นื ฐำนควำมรู้เดมิ ขอาผู้เรียน 3. ศกึ ษำรำยละเอียดเนอื้ หำจำกแบบเรียน/สอ่ื กำรเรยี น 4. ศกึ ษำเนือ้ หำจำกหนัาสือเรยี นและส่อื ตำ่ าๆ จำกนั้นทำใบาำน แบบฝึกหัด หรือกจิ กรรม 5. ทำแบบทดสอบหลาั เรยี นและตรวจจำกเฉลย 6. ส่าสมดุ บนั ทกึ กำรทำกิจกรรมให้ครเู พ่อื ตรวจและเก็บเป็นคะแนนระหวำ่ าภำค

๓ คำอธบิ ำยรำยวชิ ำศลิ ปศึกษา ทช2100๓ จำนวน ๒ หน่วยกิต ระดับมธั ยมศึกษำตอนตน้ สำระสำคญั มคี วามรู้ความเข้าใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรม ชนื่ ชม เห็นคณุ ค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม ทางทัศนศิลปไ์ ทย ดนตรีไทย นาฏศิลปไ์ ทย และวิเคราะหไ์ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผลกำรเรยี นร้ทู ี่คำดหวัง 1. อธิบายความหมายของธรรมชาติ ความงามความ ไพเราะของทศั นศลิ ปไ์ ทย ดนตรไี ทย และนาฏศิลปไ์ ทย 2. อธบิ ายความรพู้ ้ืนฐานของ ทัศนศิลป์ไทย ดนตรไี ทย และนาฏศิลป์ไทย 3. สรา้ งสรรค์ผลงานโดยใชค้ วามรพู้ ืน้ ฐาน ด้าน ทัศนศลิ ป์ไทย คนตรไี ทย และนาฏศลิ ป์ไทย 4. ชื่นชม เห็นคณุ ค่าของ ทัศนศิลปไ์ ทย ดนตรไี ทย และนาฏศิลป์ไทย 5. วเิ คราะห์ วพิ ากย์ วจิ ารณ์ งานด้านทศั นศิลปไ์ ทย คนตรไี ทย และนาฏศลิ ป์ไทย 6. อนุรักษ์สืบทอดภูมปิ ัญญาด้านทศั นศิลป์ไทย คนตรไี ทย และนาฏศลิ ปไ์ ทย ขอบข่ำยเนอื้ หำ บทท่ี 1 ทัศนศลิ ป์ไทย บทที่ 2 ดนตรไี ทย บทที่ 3 นาฏศิลปไ์ ทย บทที่ 4 นาฏศิลปไ์ ทยกบั การประกอบอาชพี สอ่ื กำรเรยี นรู้ 1. หนงั สือเรยี น 2. กิจกรรม

๔ รำยละเอยี ดคำอธิบำยรำยวชิ ำ ศิลปศึกษำ (ทช2100๓) จำนวน ๒ หน่วยกิต ระดับมัธยมศึกษำตอนต้น มำตรฐำนกำรเรยี นรู้ มคี วามรู้ความเขา้ ใจ มคี ุณธรรม จริยธรรม ช่ืนชม เห็นคุณค่าความงาม ความไพเราะ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ทางทัศนศิลป์ไทย ดนตรไี ทย นาฏศลิ ปไ์ ทย และวิเคราะห์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ท่ี หวั เรือ่ ง ตวั ชีวัด เนอื้ หำ จำนวน (ชม.) ๑. ทัศนศลิ ปไ์ ทย ๑. อธบิ ายความสาคัญของงานทศั นศิลป์ที่ 1.ความสาคัญของทศั นศิลป์ ๖ ใช้ของจุด เสน้ สี แสง-เงา รูปรา่ ง ในการ ทใี่ ช้ของจุด เส้น สี แสง – เงา รูปร่าง สรา้ งงานทศั นศลิ ปไ์ ทยได้อยา่ งเหมาะสม และรปู ทรง เพือ่ ความซาบซงึ้ ในงาน ทศั นศิลป์ของไทย 2.อธิบายความเปน็ มาของงานทัศนศิลป์ 2. ความหมาย ความเปน็ มาของ ไทยในด้านต่างๆ ทศั นศิลปไ์ ทยด้าน 2.1 จติ รกรรม ๕ 2.2 ประตมิ ากรรม ๓ 2.3 สถาปตั ยกรรม 2.4 ภาพพิมพ์ 3. อธิบาย วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ 3. ความงามของทัศนศิลป์ไทยท่ีเกิด ๖ ความหมาย และความงามของทัศนศิลป์ จากความงามตามธรรมชาติ เชน่ ไทยที่เกิดจากความงามตามธรรมชาติ ต้นไม้ ทะเล แมน่ า้ ลาธาร ภูเขา และสตั วป์ ระเภทต่าง 4. อธิบาย วิเคราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ 4. วธิ กี ารนาความงามของธรรมชาติ ๑๐ วิธีการนาความงามจากธรรมชาติมา มาสรา้ งสรรค์งาน สรา้ งสรรคจ์ นิ ตนาการใหอ้ อกมาเปน็ ความงามทางทศั นศิลปไ์ ทย 5. อธบิ ายวเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ 5. ความคดิ สร้างสรรค์เหมาะสม คุณค่าของงานทศั นศลิ ป์ไทย เร่อื งของ และความพอดีของการนาวัตถุหรอื ความงามท่ีเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของ วสั ดุส่งิ ของตา่ ง ๆ มาประดับตกแต่ง มนุษย์ ร่างกายและทอ่ี ยู่อาศยั หรอื ตกแต่ง สถานท่ี สิ่งแวดล้อมทั่วๆไป 6. อธบิ าย วเิ คราะห์ วิพากษ์ วจิ ารณ์ 6. คุณค่าของความซาบซึง้ ความดี คณุ ค่าของความซาบซง้ึ ความรกั และ งามของวฒั นธรรม ประเพณี และ ความหวงแหนวัฒนธรรม ประเพณี ความสวยงามของวดั โบสถ์ วิหารยุค โบราณวัตถุ และโบราณสถานของชาติ ต่างๆของชาติ

๕ ท่ี หัวเร่อื ง ตัวชวี ัด เนือ้ หำ จำนวน ๒. ดนตรไี ทย (ชม.) 1. อธิบายความสาคัญ ความเปน็ มาและ 1.ประวตั คิ วามเปน็ มาและ ๓. นำฏศิลปไ์ ทย ๓ ววิ ัฒนาการของเคร่อื งดนตรีไทยชนิดตา่ งๆ วิวฒั นาการของเครอื่ งดนตรไี ทย ๕ 2. อธิบายประเภทของดนตรี และเทคนิค 2. เทคนคิ วธิ ีการเล่นของเครอ่ื ง ๑๐ วิธกี ารเล่นเครอ่ื งดนตรีไทย ดนตรไี ทยแตล่ ะประเภท ๑๐ 3. อธิบายวิเคราะห์ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์ 3. คณุ ค่าของความงามและไพเราะ คุณค่าของความงามและความไพเราะของ ของเพลงและเครอ่ื งดนตรไี ทย เพลง และเคร่ืองดนตรีไทย 4. อธบิ ายประวัติ ของคณุ ค่าความรกั 4. ประวตั ขิ องคณุ ค่าความรกั และ และความหวงแหน ตลอดจนร่วมสบื สาน หวงแหน ของภูมปิ ัญญา ตลอดจน กระบวนการถ่ายทอดของภมู ิปัญญา กจิ กรรมกระบวนการถา่ ยทอดของ ทางด้านเพลงและดนตรีไทย ภูมปิ ญั ญาทางดา้ นเพลงและดนตรี ไทย 1. อธิบายประวตั ิ ความเป็นมา และ 1. ประวัติ ความเป็นมา และ วิวัฒนาการในการแสดงนาฏศิลป์ไทยในแต่ วิวัฒนาการของการแสดงนาฏศลิ ป์ ละภาคต่าง ๆ ไทยประเภทตา่ ง ๆ 2. บอกรปู แบบ องคป์ ระกอบ และวิธีการ 2. รปู แบบ/องค์ประกอบและวธิ กี าร แสดงนาฏศิลป์ แสดงนาฏศลิ ปไ์ ทยในแต่ละภาค ไทยประเภทต่าง ๆ ประเภทต่าง ๆ 3.แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อ 3. การแสดงความคิดเหน็ และ การแสดงประเภทตา่ ง ๆ ความรู้สกึ ต่อการแสดงนาฏศิลป์ไทย ประเภทต่าง ๆ 4. บอกประโยชน์และเลอื กชมการแสดง 4. ประโยชน์และวิธเี ลือกชมการ นาฏศลิ ปไ์ ทยท่ีตนสนใจ เพื่อสร้างความสุข แสดงนาฏศิลป์ไทย และประโยชนต์ ่อ ตนเอง 5. อธิบายท่าราและสือ่ ความหมายของ 5. ทา่ รา และการส่อื ความหมายใน นาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์ไทย 6. บอกหลักและวิธีการฝึกการใช้ทา่ ทางสอ่ื 6. การใช้ท่าทางสอื่ ความหมาย ความหมาย รวมท้ังโอกาสที่ใช้แสดง 7. บอกประโยชน์และคุณค่า 7.ประโยชนแ์ ละคุณคา่ ของนาฏศิลป์ ของนาฏศิลปแ์ ละภาษาทา่ เพื่อการอนุรกั ษ์ ไทยและภาษาทา่ ที่เกีย่ วข้องกบั การ ด้านนาฏศิลป์ อนรุ ักษม์ รดกทางวัฒนธรรม 8. อธิบายความสัมพันธข์ องประวตั ิความ 8.ประวตั ิ ความเปน็ มา วฒั นาการ เป็นมาวัฒนธรรม ประเพณีท่เี ก่ยี วขอ้ งกบั ความหมายของเนอ้ื เพลงทใ่ี ช้และ ววิ ฒั นาการของราวงมาตรฐาน การแตง่ กายประกอบการแสดงราวง มาตรฐาน

๖ ท่ี หัวเรื่อง ตวั ชีวัด เนอื้ หำ จำนวน (ชม.) 9. อธบิ ายการประยกุ ต์ทา่ ราวงมาตรฐาน 9. การนาทา่ ราวงมาตรฐานไป ไปใชก้ บั เพลงอนื่ ๆ ในโอกาสต่าง ๆ ประยุกตใ์ ช้ประกอบกบั เพลงอนื่ ๆ เพ่ือนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันโดยให้ สอดคลอ้ งกับวัฒนธรรม 10. บอกแนวทางอนรุ ักษก์ ารละเล่น 10. การอนุรกั ษ์ การละเลน่ ตาม ตามวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาตาม วฒั นธรรมประเพณี ของภูมิปญั ญา แนวทางนาฏศิลปไ์ ทยของภาคต่างๆ ทางนาฏศลิ ปไ์ ทยของภาคตา่ งๆ ๔. นาฏศลิ ป์ไทย ๑. บอกลักษณะอาชีพนาฏศิลป์ไทย 1. อาชพี ของนาฏศลิ ป์ไทย ๒๐ กับการประกอบ ประเภทตา่ งๆ 1.1 หนังตะลงุ อาชพี 2. บอกขั้นตอนละแนวทางในการ 1.2 ลเิ ก ประกอบอาชีพนาฏศิลปไ์ ทย 1.3 หมอลา

๖๘ กาหนดเวลาการเรยี นรู้ด้วยตนเอง วิชาศลิ ปศึกษา รหัสวชิ า ทช21003 รายวิชาบังคบั ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 คาช้แี จง ให้ผเู้ รยี นกำหนดเวลำในกำรเรยี นรขู้ อาตนเอา โดยศกึ ษำคำอธบิ ำยรำยวชิ ำและเนอื้ หำในส่ือ/ หนัาสอื เรยี น ซ่าึ ควรใหแ้ ลว้ เสรจ็ ก่อนกำรสอบกลำาภำคเรียน (ดตู วั อย่ำากำรเขียนได้ท่ที ้ำยเล่ม) ที่ หวั เร่อื ง/กิจกรรม วัน เดือน ปีที่เรยี นรู้ 1 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 2 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 3 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………. 4 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 5 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 6 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 7 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 8 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 9 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. …………………………………………. 10 …………………………………………………………………………. …………………………………………. …………………………………………………………………………. (ลาชอื่ )................................................ผเู้ รียน (............................................)

ตารางรูปแบบการเรยี นรู้และส่อื การเรียนรู้ระด หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษา วชิ าบงั คบั การเรียนรแู้ บบ On-Site การเรยี นรู้แบบ On-Air ท่ี ช่อื วิชา วิธกี าร ส่ือ/แหลง่ วธิ ีการ สอ่ื /แหล่งเรียน เรยี นรู้ 1 ศลิ ปศึกษำ ศึกษำ 1 WWW.etvthai.tv ทช21003 พบกลุ่มสัปดำห์ 1.หนาั สอื เรยี น เพิ่มเติมผ่ำน 2. ผ่ำนทำาโทรทัศน ละ 1 คร้าั 2.บันทกึ กำร ETV -กล่อา GMM ช่อา 3 ครั้าละไม่เกนิ เรียนร/ู้ ใบาำน 20 คน 4.ส่อื -กล่อาHD/DTV ชอ่ า -GOOD TV ช่อา 18 ประกอบกำร -PSI ชอ่ า 110 เรียนรูอ้ ่ืนๆ -TOT iptv ชอ่ า 551 -True Visions ช่อา (HD) -ระบบ IPTV ชอ่ า 9

๖๘ ดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ภาคเรยี นที่ 1 / 2564 รศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 าตามอัธยาศัยอาเภอเฉลมิ พระเกียรติ การเรียนรแู้ บบ On-line การเรียนรู้แบบ On-Hand นรู้ วธิ ีการ สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้ วิธกี าร ส่อื /แหลง่ เรียนรู้ v 1. เรยี นรูโ้ ดยใช้ 1. หนาั สอื เรยี นออนไลน์ สา่ ใบาำน/ 1.ชุดกำร น์ ดัาน้ี สอื่ ออนไลน์ วชิ ำศิลปศกึ ษำ บันทึกกำร เรยี นรู้ 332 2. ทำบันทกึ กำร ทช21003 เรยี นร/ู้ สื่อ 2.หนัาสอื เรยี น า 201 เรียนรู/้ ใบาำน https://youtu.be/niPpH ประกอบกำร 3.บนั ทกึ กำร 85 ตำมทคี่ รู 6GAOoA เรียนรู้ใหท้ ี่ เรียนร/ู้ ใบาำน มอบหมำย บ้ำนหรอื ท่ี 5.สื่อ 1 ทำาำน ประกอบกำร า 371 เรียนรูอ้ ืน่ ๆ 99 2.ทำแบบทดสอบ/ใบาำน โดยใช้ Google From

๖๘ ส่วนท่ี 1 แบบทดสอบก่อนเรียน วชิ าสงั คมศกึ ษา สค21001 รายวิชาบังคับ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

๖๙ แบบทดสอบก่อนเรียน วิชาศิลปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003 รายวชิ าบังคบั ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 ตอนที่ 1 ปรนยั คำช้แี จง เลอื กคำตอบท่ถี ูกต้องท่ีสุดเพียงคำตอบเดยี ว 1. ศิลปะ คอื 6.กำรแสดงพื้นเมอื งในแตล่ ะภำคจะมลี กั ษณะที่คลำ้ ยคลงึ ก. การเลยี นแบบธรรมชาติ กนั ในเร่อื งของเหตุของกำรแสดง ยกเว้น ในขอ้ ใด ข. ความงาม ความฝนั ก. แสดงเพ่ือเซน่ สรวงหรอื บูชาเทพเจา้ ค. การถ่ายทอดความรู้สึกเป็นรูปร่าง ข. แสดงเพอ่ื ความสนกุ สนานในเทศกาล ง. ถูกทุกขอ้ ต่างๆ 2. ส่ิงสำคัญทท่ี ำให้คนในสังคมชนบทเกิด ภมู ิปญั ญำ ค. แสดงเพอ่ื ความเป็นสิริมงคล วฒั นธรรมของตนเอง จนเปน็ มรดกให้แกอ่ นุชนรนุ่ หลังคือ ง. ไมม่ ขี ้อถูก ก. การแก่งแย่งเพือ่ ให้ไดม้ า 7. เพลงพ้ืนบำ้ นโดยทว่ั ไป ผู้เลน่ แยกเปน็ กีป่ ระเภท ข. การเอื้ออาทร ก. 2 ประเภท ค. ความศรัทธา ข. 3 ประเภท ง. จติ ใจและความศรทั ธา ค. 4 ประเภท ๓. ข้อใดเปน็ วงดนตรไี ทยสมัยอยธุ ยำ ? ง. 5 ประเภท ก. วงบรรเลงพณิ 8. กำรแต่งกำยของผูเ้ ล่นฟ้อนภูไท เปน็ ลกั ษณะใด ข. วงปี่พาทย์อย่างหนกั ก. ผูช้ ายน่งุ กางเกง สวมเสือ้ คอกลม ผ้าขาวมา้ คาด ค. วงมโหรเี ครือ่ งเล็ก พงุ และพนั ศรี ษะ ง. มโหรีเครื่องหก ข. ผู้ชายนงุ่ ผ้าถุง สวมเส้อื คอกลม ผ้าขาวมา้ คาด ๔. ในสมยั สุโขทัยมีกำรรวมวงบรรเลงพิณ+วงขับไม้ และ พุงและพันศรี ษะ ได้ตั้งชอื่ ใหม่วำ่ วง.... ? ค. ผู้ชายนุ่งผ้าถงุ สวมเส้ือคอปก ผ้าขาวมา้ คาดพุง ก. วงเคร่ืองสาย และพันศีรษะ ข. วงมโหรเี คร่ืองส่ี ค. วงมโหรเี ครอื่ งหก ง. ผ้ชู ายนุ่งผา้ กางเกง สวมเส้ือคอกลม ผ้าขาวม้า คาดพงุ และพนั ศรี ษะ ง. วงขบั ไมพ้ ิณ 9. รำเหยย่ หรอื เพลงเหย่ยมีเครื่องดนตรีประกอบ 5. กำรฟ้อนเลบ็ เป็นกำรแสดงพนื้ เมอื งของภำคใด อะไรบำ้ ง ก. ดนตรพี ้ืนบ้านภาคกลาง ข. ดนตรีพนื้ เมอื งบา้ นภาคเหนือ ก. ฉ่งิ กรบั โหม่ง และกลองยาว ค. ดนตรพี ื้นบ้านภาค ข. ฉ่งิ ฉาบ กรับ โหมง่ และกลองยาว ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื (อสี าน) ค. ฉิ่ง ฉาบ กรับ โหมง่ ง. ฉ่งิ ฉาบ โหม่ง และกลองยาว ง. ดนตรีพ้นื บา้ นภาคใต้

๗๐ 10. กลองมลำยู มตี น้ กำเนดิ จำกประเทศใด ? 15. ดนตรีพื้นบ้ำนภำคใดมวี วิ ัฒนำกำรมำยำวนำนนับพนั ก. อนิ เดยี ปี มีกำรใช้วัสดทุ ้องถน่ิ มำทำเลียนสียงจำกธรรมชำติ ปำ่ ข. ไทย เขำ เสียงลมพดั ใบไม้ไหว เสียงน้ำตก เสียงฝนตก ……… ค. อนิ โดนเิ ซีย ก. ดนตรพี ืน้ บา้ นภาคกลาง ง. มาเลเซยี ข. ดนตรพี น้ื เมอื งบา้ นภาคเหนือ 1๑. \"ขลยุ่ \" กำเนิดในสมยั ใด? ค. ดนตรีพน้ื บ้านภาค ก. สโุ ขทยั ตะวนั ออกเฉียงเหนือ (อสี าน) ข. อยธุ ยา ง. ดนตรพี ้ืนบา้ นภาคใต้ ค. กรงุ ธนบุรี 16. ทัศนศลิ ป์ (Visual Art) เป็นศลิ ปะทีส่ ำมำรถ ง. กรุงรัตนโกสินทร์ สัมผัส รบั รู้ ชนื่ ชมทำงสำยตำ และสมั ผสั จบั ตอ้ งได้ แบ่ง ๑๒. ถ้ำได้ยนิ เสยี งซอสำมสำยหลีบแสดงว่ำวงดนตรนี ี้เปน็ ออกเปน็ กีป่ ระเภท ก. 3 ประเภท วงดนตรปี ระเภทใด ก. วงเคร่ืองสายเครอื่ งเดี่ยว ข. 4 ประเภท ข. วงเครอื่ งสายเครอื่ งคู่ ค. 5 ประเภท ค. วงมโหรีเครื่องเด่ียว ง. 6 ประเภท ง. วงโหรีเครื่องคู่ 17. คณุ ค่ำของงำนทัศนศิลป์ มอี ะไรบำ้ ง 13. เครื่องดนตรีประเภทใดท่ีควรใชน้ ำ้ มันขดั ถูก่อนเก็บ ก. คณุ คา่ ทางความงาม (AestheticsValue) ก. เครือ่ งสาย ข. คุณค่าทางเรอ่ื งราว (Content Value) ค. ถกู ท้งั ข้อ ก และ ข ข. เครื่องสี ค. เครื่องดนตรีประเภทมีลม่ิ นิ้ว ง. ไม่มขี อ้ ถกู ง. เคร่อื งเปา่ โลหะ 18. งำนประติมำกรรม ตำมมติ ขิ องควำมลึก 14. เพลงพื้นบ้ำนภำคกลำง มอี ทิ ธิพลมำจำก ประกอบด้วย 3 ประเภท ยกเวน้ ข้อใด สภำพแวดล้อมทำงธรรมชำติ กำรประกอบอำชพี วิถีกำร ก. ประตมิ ากรรมนูนตา่ ดำเนนิ ชวี ติ พิธกี รรม และเทศกำลต่ำงๆ โดยสำมำรถแยก ออกเปน็ กี่ประเภท ข. ประตมิ ากรรมนนู สงู ค. ประติมากรรมลอยตัว ก. 3 ประเภท ง. ประติมากรรมลอยตวั สงู ข. 4 ประเภท 19. ข้อใดเปน็ กำรเลน่ พน้ื เมอื งกลำงแจง้ ค. 5 ประเภท ก. ชักเย่อ ง. 6 ประเภท ข. กรบั ค. กลอง ง. ซออู้

๗๑ 20. กำรแสดงพน้ื เมืองมกั นำมำแสดงในโอกำสใด 25. ความงามทแี่ สดงออกให้เหน็ ถึงปรมิ าตร แสง เงา ก. งานศพ สดั สว่ น ขนาด การจัดองค์ประกอบศลิ ป์ และความรูส้ ึก ข. งานมงคล คอื ขอ้ ใด ค. งานแต่งงาน ก. ภาพพิมพ์ ง. งานวันเกดิ ข. จติ รกรรม 21. นาฏศิลปพ์ ืน้ บ้านมกั เกี่ยวเนื่องกบั กจิ กรรมในวิถีชวี ิต ค. สถาปัตยกรรม ของมนษุ ย์ ยกเว้น ขอ้ ใด ง. ประติมากรรม ก. พิธกี รรมทางศาสนา 26. งำนประเภทใดสำมำรถสร้ำงให้เห็นจรงิ ได้จำก ข. ประเพณีการฟอ้ นผมี ด ลกั ษณะผวิ (texture) ของวัตถุทนี่ ำมำสรำ้ งสรรคผ์ ลงำน ค. พธิ ีกรรมบชู าผีปยู่ ่า ก. จิตรกรรม ง. พธิ กี รรมการไลผ่ ี ข. วรรณกรรม 22. ฟ้อนเงยี้ ว เปน็ การแสดงพื้นเมืองที่ตอ้ งการสื่อ ค. ประตมิ ากรรม ความหมายวา่ อยา่ งไร ง. ถูกทกุ ขอ้ ก. เพื่อปรับความเขา้ ใจกัน 27. ลักษณะทดี่ ีของกำรสรำ้ งงำนศิลปะคืออะไร ข. เพอ่ื ความสนุกสนาน ก. ลอกแบบงานของผูอ้ นื่ ค. เพอื่ เกย้ี วพาราศีสาว ข. ดดั แปลงงานของผอู้ ืน่ ง. การอวยพร อวยชยั ใหพ้ ร ค. สร้างผลงานซ้า 23. ข้อใดคือหลักกำรชมนำฎศิลป์พื้นบำ้ นทสี่ ร้ำง ง. สรา้ งสรรค์งานข้ึนเอง ควำมสุขให้แก่ผฟู้ ังมำกที่สุด 28. ประเพณีถวำยเทียนพรรษำ จำเป็นต้องใชศ้ ิลปะ ก. มอี ารมณ์ร่วมกยั ฃบการแสดง ประเภทใดมำกทส่ี ดุ ข. เข้าใจเกย่ี วกบั เนือ้ เร่ืองการแสดง ก. ภาพพิมพ์ ค. เข้าใจภาษาหรือคาร้องของเพลง ข. จติ รกรรม ง. ถูกทกุ ข้อ ค. เทคนิคผสม 24. ควำมงำมทแ่ี สดงออกเกยี่ วกับเส้น สี แสงเงำ รูปร่ำง ง. ประตมิ ากรรม ควำมรสู้ ึก คืออะไร 29. กำรแสดงพน้ื เมืองของภำคอีสำนเกดิ ขน้ึ จำกอะไร ก. ดนตรี ก. กิจวตั รประจาวนั หรือประจาฤดกู าล ข. จิตรกรรม ข. ฐานะทางเศรษฐกิจ ค. ประติมากรรม ค. ความอดุ มสมบูรณ์ ง. สถาปัตยกรรม ง. รักความสนกุ สนาน 30. ขอ้ ใดเป็นเครือ่ งดนตรีพื้นบ้านประเภทเครอ่ื งสี ก. สะล้อ ข. โปงลาง ค. พิณ ง. ซงึ

๖๘ สวนท่ี 2 ใบงาน/แบบบนั ทกึ การเรยี นรู้ วิชาสงั คมศึกษา สค21001 รายวิชาบงั คับ ระดบั มัธยมศึกษาตอนตน้ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

๖๙ ใบงานที่ 1 วชิ าศิลปศกึ ษา รหสั วชิ า ทช21003 รายวชิ าบงั คบั ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เรอื่ ง ทศั นศิลป์ไทย 1. ใหน้ กั ศึกษาบอกความร้สู ึกทม่ี ีตอ่ เสน้ ในลกั ษณะตา่ งๆ ดงั นี้ 1.1 เสน้ ตรงแนวต้งั ……..………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 เส้นตรงแนวนอน ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1.3 เส้นตรงแนวเฉยี ง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.4 เสน้ ติดกนั ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 1.5 เสน้ โคง้ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.6 ให้ความรสู้ ึกอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.7 ------------------------ ใหค้ วามรูส้ ึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 1.8 ใหค้ วามรู้สึกอยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.9 ให้ความรูส้ ึกอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ให้นักศกึ ษา อธบิ ายว่าสีร้อน และสีเย็น หมายถงึ อะไรและประกอบดว้ ยสอี ะไรบา้ ง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๗๐ ใบงานที่ 2 วชิ าศลิ ปศึกษา รหัสวชิ า ทช21003 รายวชิ าบงั คับ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ตามหลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 นำฏศิลป์ไทย คำช้แี จง ให้ผเู้ รียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้ 1. นาฏศิลปไ์ ทยมกี ป่ี ระเภท อะไรบา้ ง จงอธบิ าย …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. ใหผ้ ู้เรยี นเขยี นช่ือการแสดงราและระบาของนาฏศิลปไ์ ทยที่เคยชมใหม้ ากท่ีสดุ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ผูเ้ รียนมแี นวทางการอนรุ กั ษ์นาฏศิลป์ไทยอยา่ งไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

๗๑ ใบงานท่ี 3 วิชาศิลปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003 รายวชิ าบังคับ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 คำชแ้ี จง ให้ผู้เรียนเขยี นบอกว่าภาพท่ีเหน็ คือภาพท่าราทา่ ใด และใชก้ บั ช่อื เพลงใด ชอื่ ทำ่ รำ………………………………….…………………… เพลงทใี่ ช…้ …………………………...........………………… ชื่อท่ำรำ………………………………….…………………… เพลงท่ีใช…้ …………………………...........………………… ชอื่ ทำ่ รำ………………………………….…………………… เพลงทใี่ ช…้ …………………………...........………………… ช่อื ท่ำรำ………………………………….…………………… เพลงที่ใช…้ …………………………...........…………………

๗๒ ใบงานท่ี 4 วิชาศลิ ปศกึ ษา รหสั วชิ า ทช21003 รายวชิ าบังคบั ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เรอื่ งดนตรไี ทย คำชแี้ จง ใหผ้ ูเ้ รยี นตอบคำถำมต่อไปน้ี 1. ผ้เู รยี นนาบทเพลงท่ไี ด้ยนิ ในชีวิตประจาวันไปประยุกต์ใชก้ บั กิจกรรมสว่ นตวั ของผู้เรยี น อธิบายเหตุผลว่านาไปใช้ อย่างไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………........... …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. อธบิ ายคาต่อไปน้ี เพลงเพื่อชวี ติ คอื …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. เพลงลูกทุ่ง คอื …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… เพลงลกู กรงุ คือ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..... .........................................................................................................................................................................................

๗๓ ใบงานที่ 5 วิชาศลิ ปศึกษา รหสั วิชา ทช21003 รายวชิ าบังคับ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ ตามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ให้ผู้เรยี นเขียนบอกวำ่ ภำพทเี่ หน็ คือเครอ่ื งดนตรีอะไร อยู่ในประเภทใด และมีวิธีกำรเลน่ อย่ำงไร ชื่อเคร่อื งดนตรี ………………………………………………………………………………. 1. อยู่ในลกั ษณะของเครอ่ื งดนตรอี ะไร ……………………………………………………………………………………………………… มวี ธิ ีการเลน่ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………….. 2. ชอื่ เครื่องดนตรี ……………………………………………………………………………. อยใู่ นลักษณะของเครื่องดนตรีอะไร …………………………………………………………………………………………………….. มีวิธีการเลน่ อยา่ งไร ………………………………………………………………………………………………………. ช่ือเครอ่ื งดนตรี ………………………………………………………………………………. 3. อยูใ่ นลกั ษณะของเคร่อื งดนตรอี ะไร ……………………………………………………………………………………………………… มีวิธีการเลน่ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………….. 4. ช่ือเครอื่ งดนตรี……………………………………………………………………………….. อยใู่ นลกั ษณะของเคร่ืองดนตรีอะไร ……………………………………………………………………………………………………… มีวธิ กี ารเลน่ อยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………….. ๕. ชอื่ เคร่อื งดนตรี…………………………………………………………………………… อยใู่ นลกั ษณะของเครอ่ื งดนตรีอะไร …………………………………………………………………………………………………….. มวี ธิ กี ารเล่นอยา่ งไร …………………………………………………………………………………………………… ๖. ชื่อเครอื่ งดนตรี……………………………………………………………………………… อยูใ่ นลักษณะของเครอ่ื งดนตรีอะไร …………………………………………………………………………………………………… มวี ธิ กี ารเลน่ อย่างไร ……………………………………………………………………………………………………

๗๔ ๗. ช่ือเคร่ืองดนตรี……………………………………………………………………………… อยู่ในลกั ษณะของเครอ่ื งดนตรีอะไร ……………………………………………………………………………………………………. มีวิธกี ารเล่นอย่างไร …………………………………………………………………………………………………....

๗๕ ใบงานที่ 6 วชิ าศลิ ปศึกษา รหสั วิชา ทช21003 รายวชิ าบงั คับ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 เรื่อง ดนตรไี ทย กิจกรรมที่ 1. ให้ผู้เรียนศกึ ษาบอกเพลง และเครอ่ื งดนตรีไทย ท่ีใช้ในงานพธิ ตี า่ งๆ จากผูร้ ู้ แลว้ จดบันทึก พร้อมมา นาเสนอในวนั พบกลมุ่ คร้ังต่อไป ที่ งานพธิ ี เพลงประกอบ เคร่อื งคนตรที ่ีใช้ในงาน ลงช่ือ................................................ผู้รู้ (.................................................) .........../..................../................. กิจกรรมที่ 2. ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาวิธีการเลน่ ประโยชน์ และวฒั นธรรมของดนตรไี ทยในทอ้ งถ่ินของผู้เรียนจากผูร้ ู้ แลว้ จดบนั ทกึ พร้อมมานาเสนอในวนั พบกลุ่มครั้งต่อไป ที่ ชนิดเครอ่ื งดนตรีไทย วิธีการเลน่ ประโยชน์ วฒั นธรรมทางดนตรี ลงช่อื ................................................ผรู้ ู้ (.................................................) .........../..................../.................

๗๖ ใบงานที่ 7 วิชาศิลปศกึ ษา รหัสวิชา ทช21003 รายวชิ าบังคับ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 เร่อื งนำฏศลิ ปไ์ ทยกบั กำรประกอบอำชีพ คาชีแ้ จง ครใู ห้ผูเ้ รียนจดั ทารายงานตามอาชีพของนาฏศิลปไ์ ทยจากภูมิปัญญาท้องถ่ิน ที่ผ้เู รยี นสนใจ ได้แก่ หนังตะลงุ ลิเก หมอลา พร้อมทงั้ มานาเสนอหนา้ ชนั้ เรียนในวนั พบกล่มุ ในครง้ั ตอ่ ไป ที่ นาฏศลิ ป์ไทย ขัน้ ตอนการประกอบอาชพี 1. 2. 3.

๗๗ แบบบันทึกการเรยี นรู้ วชิ าศิลปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003 รายวชิ าบังคบั ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 สรปุ ควำมร้โู ดยยอ่ .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ทำ่ นจะนำควำมรทู้ ไี่ ด้รับไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจำวันอย่ำาไร .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. ..............................................................................................................................................................................

๗๘ ส่วนท่ี 3 แบบทดสอบหลงั เรยี น วิชาศลิ ปศึกษา รหัสวชิ า ทช21003 รายวชิ าบงั คบั ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551

๗๙ แบบทดสอบหลงั เรยี น วชิ าศิลปศึกษา รหัสวชิ า ทช21003 รายวชิ าบงั คบั ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ตอนที่ 1 ปรนัย คำช้ีแจง เลอื กคำตอบทถ่ี กู ต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว 1. ศิลปะ คอื 6.กำรแสดงพ้นื เมอื งในแต่ละภำคจะมลี กั ษณะท่ีคล้ำยคลงึ ก. การเลยี นแบบธรรมชาติ กนั ในเร่ืองของเหตขุ องกำรแสดง ยกเวน้ ในข้อใด ข. ความงาม ความฝัน ก. แสดงเพ่ือเซ่นสรวงหรือบชู าเทพเจา้ ค. การถ่ายทอดความรู้สึกเป็นรปู รา่ ง ข. แสดงเพื่อความสนกุ สนานในเทศกาล ง. ถกู ทกุ ข้อ ตา่ งๆ 2. สง่ิ สำคญั ท่ที ำใหค้ นในสงั คมชนบทเกดิ ภูมปิ ัญญำ ค. แสดงเพอื่ ความเปน็ สิรมิ งคล วัฒนธรรมของตนเอง จนเปน็ มรดกใหแ้ กอ่ นชุ นรุ่นหลงั คือ ง. ไม่มขี อ้ ถกู ก. การแกง่ แย่งเพื่อใหไ้ ด้มา 7. เพลงพ้นื บำ้ นโดยทั่วไป ผ้เู ลน่ แยกเปน็ กี่ประเภท ข. การเออื้ อาทร ก 2 ประเภท ค. ความศรัทธา ข 3 ประเภท ง. จิตใจและความศรทั ธา ค 4 ประเภท ๓. ขอ้ ใดเปน็ วงดนตรีไทยสมัยอยุธยำ ? ง 5 ประเภท ก. วงบรรเลงพิณ 8. การแต่งกายของผูเ้ ล่นฟอ้ นภูไท เปน็ ลักษณะใด ข. วงปพ่ี าทยอ์ ย่างหนัก ก. ผู้ชายน่งุ กางเกง สวมเสื้อคอกลม ผ้าขาวมา้ คาด ค. วงมโหรเี ครื่องเลก็ พงุ และพนั ศีรษะ ง. มโหรีเคร่อื งหก ข. ผู้ชายนุง่ ผ้าถุง สวมเสอ้ื คอกลม ผ้าขาวม้าคาด ๔. ในสมยั สโุ ขทยั มกี ำรรวมวงบรรเลงพณิ +วงขับไม้ และ พงุ และพันศีรษะ ไดต้ ัง้ ช่อื ใหมว่ ่ำวง.... ? ค. ผู้ชายนุง่ ผ้าถงุ สวมเส้อื คอปก ผ้าขาวม้าคาดพุง ก. วงเครื่องสาย และพนั ศรี ษะ ข. วงมโหรีเครื่องสี่ ค. วงมโหรเี คร่ืองหก ง. ผูช้ ายนุ่งผา้ กางเกง สวมเสื้อคอกลม ผา้ ขาวม้า คาดพงุ และพนั ศรี ษะ ง. วงขบั ไม้พิณ 9. รำเหยย่ หรอื เพลงเหย่ยมีเครอื่ งดนตรีประกอบ 5. กำรฟอ้ นเลบ็ เป็นกำรแสดงพน้ื เมอื งของภำคใด อะไรบ้ำง ก. ดนตรีพนื้ บ้านภาคกลาง ข. ดนตรพี ื้นเมืองบ้านภาคเหนอื ก. ฉ่ิง กรบั โหมง่ และกลองยาว ค. ดนตรีพื้นบ้านภาค ข. ฉ่งิ ฉาบ กรบั โหมง่ และกลองยาว ตะวนั ออกเฉยี งเหนอื (อสี าน) ค. ฉ่ิง ฉาบ กรบั โหม่ง ง. ฉิ่ง ฉาบ โหม่ง และกลองยาว ง. ดนตรพี ้ืนบ้านภาคใต้

๗๐ 10. กลองมลำยู มตี น้ กำเนดิ จำกประเทศใด ? 15. ดนตรีพ้ืนบำ้ นภำคใดมวี ิวัฒนำกำรมำยำวนำนนบั พนั ก. อนิ เดีย ปี มกี ำรใช้วัสดุทอ้ งถนิ่ มำทำเลยี นสียงจำกธรรมชำติ ป่ำ ข. ไทย เขำ เสียงลมพดั ใบไมไ้ หว เสยี งน้ำตก เสยี งฝนตก ……… ค. อนิ โดนเิ ซีย ก. ดนตรพี ืน้ บ้านภาคกลาง ง. มาเลเซยี ข. ดนตรีพนื้ เมืองบ้านภาคเหนอื 1๑. \"ขลุ่ย\" กำเนิดในสมยั ใด? ค. ดนตรพี ืน้ บ้านภาค ก. สุโขทัย ตะวันออกเฉียงเหนอื (อีสาน) ข. อยุธยา ง. ดนตรพี ้นื บ้านภาคใต้ ค. กรงุ ธนบรุ ี 16. ทศั นศิลป์ (Visual Art) เป็นศิลปะทส่ี ำมำรถ ง. กรุงรตั นโกสนิ ทร์ สมั ผัส รับรู้ ชนื่ ชมทำงสำยตำ และสมั ผัสจับต้องได้ แบ่ง ๑๒. ถำ้ ได้ยนิ เสียงซอสำมสำยหลีบแสดงวำ่ วงดนตรีน้ีเป็น ออกเปน็ ก่ปี ระเภท ก. 3 ประเภท วงดนตรีประเภทใด ก. วงเครื่องสายเครือ่ งเดีย่ ว ข. 4 ประเภท ข. วงเครือ่ งสายเครอื่ งคู่ ค. 5 ประเภท ค. วงมโหรีเครอ่ื งเด่ียว ง. 6 ประเภท ง. วงโหรีเครอื่ งคู่ 17. คณุ คำ่ ของงำนทัศนศิลป์ มีอะไรบำ้ ง 13. เครอ่ื งดนตรีประเภทใดทค่ี วรใช้นำ้ มนั ขัดถูก่อนเก็บ ก. คณุ คา่ ทางความงาม (AestheticsValue) ก. เครอ่ื งสาย ข. คุณค่าทางเรอ่ื งราว (Content Value) ค. ถูกทั้งข้อ ก และ ข ข. เครอ่ื งสี ค. เครอ่ื งดนตรปี ระเภทมลี ่ิมน้ิว ง. ไมม่ ขี อ้ ถกู ง. เครือ่ งเป่าโลหะ 18. งำนประติมำกรรม ตำมมติ ขิ องควำมลึก 14. เพลงพืน้ บ้ำนภำคกลำง มอี ิทธพิ ลมำจำก ประกอบด้วย3 ประเภท ยกเว้น ข้อใด สภำพแวดล้อมทำงธรรมชำติ กำรประกอบอำชีพวิถกี ำร ก. ประตมิ ากรรมนนู ตา่ ดำเนินชวี ติ พธิ ีกรรม และเทศกำลตำ่ งๆ โดยสำมำรถแยก ออกเปน็ กี่ประเภท ข. ประติมากรรมนูนสูง ค. ประติมากรรมลอยตัว ก. 3 ประเภท ง. ประติมากรรมลอยตวั สงู ข. 4 ประเภท 19. ข้อใดเปน็ กำรเลน่ พน้ื เมอื งกลำงแจง้ ค. 5 ประเภท ก. ชกั เยอ่ ง. 6 ประเภท ข. กรบั ค. กลอง ง. ซออู้

๗๑ 20. กำรแสดงพน้ื เมอื งมกั นำมำแสดงในโอกำสใด 25. ความงามทแี่ สดงออกให้เหน็ ถึงปรมิ าตร แสง เงา ก. งานศพ สดั สว่ น ขนาด การจดั องค์ประกอบศลิ ป์ และความรสู้ กึ ข. งานมงคล คอื ขอ้ ใด ค. งานแต่งงาน ก. ภาพพิมพ์ ง. งานวันเกดิ ข. จิตรกรรม 21. นาฏศิลปพ์ ืน้ บ้านมกั เกี่ยวเนื่องกบั กจิ กรรมในวิถีชวี ิต ค. สถาปตั ยกรรม ของมนษุ ย์ ยกเว้น ขอ้ ใด ง. ประตมิ ากรรม ก. พิธกี รรมทางศาสนา 26. งำนประเภทใดสำมำรถสร้ำงให้เห็นจริงได้จำก ข. ประเพณีการฟอ้ นผมี ด ลกั ษณะผวิ (texture) ของวตั ถุท่ีนำมำสร้ำงสรรคผ์ ลงำน ค. พธิ ีกรรมบูชาผีปยู่ ่า ก. จติ รกรรม ง. พธิ กี รรมการไลผ่ ี ข. วรรณกรรม 22. ฟ้อนเงยี้ ว เปน็ การแสดงพื้นเมืองที่ต้องการสื่อ ค. ประตมิ ากรรม ความหมายวา่ อยา่ งไร ง. ถกู ทกุ ขอ้ ก. เพื่อปรับความเขา้ ใจกัน 27. ลักษณะท่ดี ีของกำรสรำ้ งงำนศิลปะคอื อะไร ข. เพอ่ื ความสนุกสนาน ก. ลอกแบบงานของผ้อู น่ื ค. เพอื่ เกย้ี วพาราศีสาว ข. ดัดแปลงงานของผู้อ่นื ง. การอวยพร อวยชยั ใหพ้ ร ค. สรา้ งผลงานซ้า 23. ข้อใดคือหลักกำรชมนำฎศิลป์พื้นบำ้ นทสี่ ร้ำง ง. สรา้ งสรรค์งานขนึ้ เอง ควำมสุขให้แก่ผฟู้ ังมำกที่สุด 28. ประเพณีถวำยเทยี นพรรษำ จำเป็นต้องใชศ้ ลิ ปะ จ. มอี ารมณ์ร่วมกยั ฃบการแสดง ประเภทใดมำกที่สดุ ฉ. เข้าใจเกี่ยวกบั เนือ้ เร่ืองการแสดง ก. ภาพพิมพ์ ช. เข้าใจภาษาหรือคาร้องของเพลง ข. จิตรกรรม ซ. ถูกทกุ ขอ้ ค. เทคนิคผสม 24. ควำมงำมทแ่ี สดงออกเกยี่ วกับเส้น สี แสงเงำ รูปร่ำง ง. ประตมิ ากรรม ควำมร้สู ึก คืออะไร 29. กำรแสดงพื้นเมืองของภำคอีสำนเกิดข้นึ จำกอะไร ก. ดนตรี ก.กจิ วตั รประจาวันหรือประจาฤดกู าล ข. จิตรกรรม ข. ฐานะทางเศรษฐกิจ ค. ประตมิ ากรรม ค. ความอดุ มสมบรู ณ์ ง. สถาปัตยกรรม ง. รักความสนกุ สนาน 30. ขอ้ ใดเป็นเครื่องดนตรพี นื้ บา้ นประเภทเครอ่ื งสี ก. สะล้อ ข. โปงลาง ค. พณิ ง. ซงึ

72 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรียน วิชาศลิ ปศึกษา รหสั วชิ า ทช21003 รายวชิ าบงั คับ ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนตน้ ตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน/หลังเรยี น 1. ง 2. ง 3.ง 4.ข 5.ข 6.ง 7.ก 8.ก 9.ก 10.ค 11.ข 12.ข 13.ข 14.ข 15.ค 16.ง 17.ค 18.ง 19.ก 20.ข 21.ง 22.ง 23.ง 24.ข 25.ง 26.ค 27.ง 28.ค 29.ก 30.ก

73 ภาคผนวก

74 เอกสารอ้างอิง เว็บไซต์สำนักาำน กศน. กลุม่ พัฒนำคุณภำพมำตรฐำนกำรศึกษำ http://pattana.nfe.go.th/pattana/download/g.1/g1%20book%2051/15..pdf http://203.159.251.144/pattana/download/g.6/23%20scout/scout%20%201,2,3/3..pdf

75 ตัวอยา่ ง กาหนดเวลาการเรียนรดู้ ้วยตนเอง วชิ าศลิ ปะศึกษา รหสั รายวชิ า ทช21003 รายวิชาบงั คบั ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 คาชแ้ี จง ให้ผู้เรียนกำหนดเวลำในกำรเรียนรู้ขอาตนเอา โดยศึกษำคำอธบิ ำยรำยวชิ ำและเน้อื หำในสอ่ื / หนาั สือเรยี น ซ่าึ ควรใหแ้ ล้วเสร็จก่อนกำรสอบกลำาภำคเรยี น (ดตู วั อย่ำากำรเขยี นไดท้ ่ที ำ้ ยเล่ม) ที่ หัวเรอ่ื ง/กจิ กรรม วนั เดือน ปีท่ีเรียนรู้ 1 เรอื่ า ทศั นศลิ ป์ วันที่ 2 มถิ ุนำยน 2564 เรอ่ื า นาฏศลิ ปไ์ ทย วนั ที่ 3 มิถนุ ำยน 2564 2 เรอ่ื า ดนตรีไทย เรอ่ื า นาฏศิลป์ไทยกบั การประกอบอาชีพ (ลาชื่อ)...............ดี มาี ำน...............ผเู้ รยี น (.........นำยดี มาี ำน............)

76 คณะผู้จดั ทา ที่ปรกึ ษา นำาสำวกฤษณำ อินทร์หมื่นไวย ผู้อำนวยกำร กศน.อำเภอเฉลิมพระเกยี รติ ออกแบบและจัดทาขอ้ มลู ครูชำนำญกำร 1. นำาสดุ ำรัตน์ คำมูลใจ ครูชำนำญกำร 2 นำาสำวนิรมล เจรญิ ศรศี ริ ิพาษ์ ครผู ้ชู ่วย 3. นำาสำวสวุ รรณวิสำ ผนั พิมำย ครูอำสำสมัคร กศน. 4. นำยยทุ ธนำ อ่เู สือพะเนำว์ ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล 5. นำยกฤษฎำ ชยั กลำ้ หำญ ครู กศน.ตำบล 6. นำาลกั ขณำ กา่ิ แกว้ กลำา 7. นำาสำวนานุช จำลอามขุ ครู กศน.ตำบล ครู กศน.ตำบล 8. นำาจรียร์ ตั น์ ฉกรรจศ์ ิลป์ 9. นำาสำวษรัญญำ ยอดดำเนนิ บรรณำรักษ์ 10. นำาสำวรววี รรณ เชิาชยั ภูมิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook