Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

Published by Guset User, 2021-11-12 15:00:12

Description: ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

Search

Read the Text Version

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี

ผู้พระราชนิพนธ์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ลักษณะคำประพันธ์ ร้อยแก้วประเภทบทความ กาพย์ยานี ๑๑ จุดมุ่งหมายใ นการแต่ง เพื่อแสดงพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทยและบทกวีจีน ซึ่งกล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ของชาวนา

เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน ข้าวนี้น่ะมีรส ให้ชนชิมทุกชั้นชน เบื้องหลังสิทุกข์ทน และขมขื่นจนเขียวคาว

ความเป็นมา จิตร ภูมิศักดิ์ หนังมณีพลอยแสง

เนื้อเรื่องย่อ เนื้อความในตอนแรกของบทความเรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยาม บรมราชกุมารี ได้ทรงยกบทกวีของจิตร ภูมิศักดิ์ ซึ่งได้กล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ยากของชาวนา ต่อมาทรงแปลบทกวีจีนของหลี่เชินเป็นภาษาไทยทำให้มองเห็นภาพของชาวนาจีน เมื่อเปรียบ เทียบกับชาวนาไทยว่า มิได้มีความแตกต่างกัน แม้ในฤดูกาลเพาะปลูก ภูมิอากาศจะเอื้ออำนวยให้ พืชพันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ดี แต่ผลผลิตไม่ได้ตกเป็นของผู้ผลิต คือ ชาวนาเท่าที่ควร ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ ทรงชี้ให้เห็นว่าแม้จิตร ภูมิศักดิ์และหลี่เชินจะมีกลวิธีการนำเสนอความทุกข์ยากของชาวนา และทำให้เห็น ว่าชาวนาในทุกแห่งและทุกยุคทุกสมัยล้วนประสบแต่ความทุกข์ยากไม่แตกต่างกันเลย

บทกวีไทย เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ เหงื่อกูที่สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน ข้าวนี้น่ะมีรส ให้ชนชิมทุกชั้นชน เบื้องหลังสิทุกข์ทน และขมขื่นจนเขียวคาว จากแรงมาเป็นรวง ระยะทางนั้นเหยียดยาว จากกรวงเป็นเม็ดพราว ส่วนทุกข์ยากลำเค็ญเข็ญ เหงื่อหยดสักกี่หยาด ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น ปูดโปนกี่เส้นเอ็น จึงแปรรวงมาเปิบกิน น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง และน้ำแรงอันหลั่งริน สายเลือดกูท้งสิ้น ที่สูชดกำชาบฟัน

บทกวีจีน หว่านข้าวในฤดูใบไม้ผลิ ข้าวเมล็ดหนึ่ง จะกลายเป็นหมื่นเมล็ดในฤดูใบไม้ร่วง รอบข้างไม่มีนาที่ไหนทิ้งว่าง แต่ชาวนาก็ยังอดตาย ตอนอาทิตย์เที่ยงวัน ชาวนายังพรวนดิน เหงื่อหยดบนดินภายใต้ต้นข้าว ใครจะรู้บ้างว่าในจานใบนั้น ข้าวแต่ละเม็ดคือความยากแค้นแสนสาหัส

ความแตกต่างของบทกวีไทยและจีน บทกวีของหลี่เชินเป็นบทกวีที่เรียบง่าย แต่แสดงความขัดแย้งอย่างชัดเจน คือ แม้ว่าใน ฤดูกาลเพาะปลูก ภูมิอากาศจะเอื้ออำนวยให้พืชพันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ดี แต่ผลผลิต ไม่ได้ตกเป็นของผู้ผลิต คือ ชาวนาหรือเกษตรกรเท่าที่ควร หลี่เชินบรรยายภาพที่เห็น เหมือนจิตรกรวาดภาพให้คนชม ส่วนจิตร ภูมิศักดิ์ ใช้กลวิธีการบรรยายเสมือนว่าชาวนาเป็นผู้บรรยายเรื่องราวให้ผู้ อ่านฟังด้วยตนเอง อย่างไรก็ตามแนวคิดของกวีทั้งสองคนคล้ายคลึงกัน คือ ต้องการ สื่อให้ผู้อ่านได้เห็นว่าสภาพชีวิตชาวนาในทุกแห่งและทุกสมัยต้องประสบกับความ ทุกข์ยากไม่แตกต่างกัน

คุณค่าของบทประพันธ์ คุณค่าด้านวรรณศิลป์ กลวิธีการแต่งบทประพันธ์แสดงให้เห็นแนวความคิดชัดเจน ลําดับเรื่องราวเข้าใจง่ายมีส่วนประกอบของงานเขียนประเภทบทความอย่างครบถ้วน คุณค่าด้านสังคม ให้เห็นถึงความยากลําบากของชาวนาที่ปลูกข้าวซึ่งเป็นอาหารสําคัญของคนทุกชนชั้น ให้เห็นถึงความทุกข์ของชาวนาและสภาพชีวิตของชาวนาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบอยู่ เสมอ

นางสาวจริยา วงศ์นิกร 6206510054


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook