คมู่ อื การประเมนิ ความเส่ียงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณใี ช้สารเคมีอันตราย (Manual for Occupational Health Risk Assessment of Hazardous Chemicals) จดั ทำโดย สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน) กระทรวงแรงงาน สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คูม่ ือการประเมินความเสย่ี งสุขภาพลูกจา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมีอันตราย ช่อื หนังสือ : คู่มือการประเมินความเส่ียงสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย (Manual for Occupational Health Risk Assessment of Hazardous Chemicals) (สสปท. 2-4-02-01-00-2564) ชือ่ ผู้แต่ง : คณะทำงานจัดทำคู่มอื การประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอันตราย ปีทพ่ี ิมพ์ : พ.ศ. 2564 จัดทำโดย : สถาบันสง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน) ISBN (E-Book) : 978-616-8026-22-9 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมินความเสีย่ งสุขภาพลกู จา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมอี ันตราย ก คณะอนุกรรมการวิชาการ 1. นายกฤษฎา ชัยกุล ประธานคณะอนุกรรมการ 2. นางสาวสดุ ธิดา กรงุ ไกรวงศ์ อนุกรรมการ 3. รศ.สราวุธ สุธรรมาสา อนกุ รรมการ 4. ดร.เด่นศักดิ์ ยกยอน อนุกรรมการ 5. นางสาวปรียานนั ท์ ลขิ ติ ศานต์ อนกุ รรมการ 6. นางสาวบษุ กร แสนสขุ อนกุ รรมการ 7. นายพงษ์สิทธิ์ ศริ ิฤกษ์อดุ มพร อนกุ รรมการ 8. นายชลาธิป อนิ ทรมารุต อนุกรรมการ 9. นายบญั ชา ศรีธนาอทุ ัยกร อนุกรรมการ 10. นายพฤทธ์ฤทธิ์ เลศิ ลีลากจิ จา อนุกรรมการและเลขานกุ าร 11. ผศ.ดร.ชลฤทธ์ิ เหลอื งจนิ ดา อนุกรรมการและผ้ชู ว่ ยเลขานุการ 12. นายประเสริฐ เหลา่ บศุ ณอ์ นันต์ อนุกรรมการและผชู้ ่วยเลขานุการ 13. ดร.พรรณทวิ า นวะมะรตั น์ อนกุ รรมการและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมนิ ความเสย่ี งสุขภาพลกู จ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมอี นั ตราย ข คณะทำงานจัดทำคูม่ ือการประเมนิ ความเส่ยี งสุขภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอนั ตราย 1. รศ.ดร.ประมุข โอศริ ิ ประธานคณะทำงาน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล 2. นางสาวอมุ าพร ครองสกุลสขุ คณะทำงาน กรมสวสั ดิการและคุม้ ครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน 3. นางสาวสุภัค ภู่ภมู ริ ตั น์ คณะทำงาน บรษิ ทั ไทยอาซาฮเี คมีภัณฑ์ จำกัด 4. ผศ.ดร.เพญ็ ศรี วจั ฉละญาณ คณะทำงาน คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 5. นายนฐั ชานนท์ เขาราธ คณะทำงาน คณะสาธารณสขุ ศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น 6. ผศ.ดร.ชลฤทธ์ิ เหลืองจนิ ดา คณะทำงาน สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) 7. นางสาวสุภารตั น์ คะตา คณะทำงานและเลขานุการ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน) 8. นางสาวกฤตตกิ า เหล่าวฒั นโรจน์ คณะทำงานและผชู้ ่วยเลขานกุ าร สถาบนั สง่ เสริมความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) 9. นางสาวปญั ชลกิ า ชันขุนทด คณะทำงานและผ้ชู ่วยเลขานุการ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน) สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คู่มือการประเมนิ ความเส่ียงสุขภาพลกู จ้าง ในกรณีใช้สารเคมอี นั ตราย ค คำนำ สถาบนั ส่งเสริมความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน) ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยอำนาจหน้าที่หนึ่งของสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน คือ การพัฒนาและสนับสนุนการจัดทำมาตรฐาน คู่มือ แนวปฏิบตั ิ เพ่ือสง่ เสรมิ ความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน สสปท. ได้จัดทำคู่มอื การประเมินความเสยี่ งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมีอันตรายฉบบั นี้ขน้ึ เพื่อ เป็นแนวทางให้สถานประกอบกิจการสามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณี ใช้สารเคมีอันตราย และเป็นแนวทางให้สถานประกอบกิจการสามารถดำเนินการประเมินความเสี่ยงต่อ สุขภาพของลูกจ้างจากการสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตรายได้อย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นการคุ้มครองดูแลสุขภาพ ลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมี เพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี โดยคู่มือฉบับนี้อธิบายถึง วิธีการชี้บง่ อันตราย การจัดระดับอนั ตรายตามลักษณะของสารเคมี การจัดระดบั การสมั ผัสสารเคมีอันตราย และกระบวนการประเมินระดับความเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีอันตราย รวมถึงรายละเอียดการบริหาร จัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีอันตราย สสปท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือฯ ฉบับนี้จะเป็นแนวทาง ให้บุคลากรด้านความปลอดภัยและผู้ที่เกี่ยวข้องของสถานประกอบกิจการได้นำไปปฏิบัติ และประยุกต์ใช้ตาม ความเหมาะสม เพื่อให้สถานที่ทำงานมคี วามปลอดภยั และผู้ปฏบิ ตั งิ านมีสุขภาพอนามัยดี คู่มือประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตรายฉบับนี้ ได้ดำเนินการตาม กระบวนการจัดทำคู่มือของสสปท. มีการจัดทำร่างโดยคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญ ผ่านการระดมความคิดเห็นจาก ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และผ่านการกลั่นกรองโดยคณะอนุกรรมการวิชาการ รวมถึง ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภัยฯ เรียบรอ้ ยแล้ว ประกาศ ณ วันที่ 7 กันยายน 2564 (นายวรานนท์ ปตี ิวรรณ) ผู้อำนวยการสถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ ือการประเมนิ ความเสี่ยงสุขภาพลูกจา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมอี นั ตราย ง สารบัญ เรอ่ื ง หน้า คณะอนกุ รรมการวชิ าการ ก คณะทำงานจัดทำค่มู ือประเมนิ ความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ข คำนำ ค สารบญั ง บทท่ี 1 บทนำ 1 1 1.1 วตั ถุประสงค์ 1 1.2 ขอบเขต 1 1.3 คำจำกัดความ 4 บทที่ 2 คณะทำงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจา้ งฯ 4 2.1 หลกั การคณะทำงานประเมนิ ความเสย่ี ง 4 2.2 ขั้นตอนการกำหนดโครงสร้าง บทบาท หน้าที่ของคณะทำงานประเมินความเส่ียง 7 บทที่ 3 กระบวนการประเมนิ ความเสยี่ งสุขภาพลูกจา้ งฯ 7 3.1 หลักการของคณะทำงานประเมินความเสย่ี ง 8 3.2 ข้นั ตอนการดำเนนิ การประเมนิ ความเสีย่ ง 11 บทท่ี 4 การจดั กลุ่มการสัมผัสทคี่ ลา้ ยกัน 11 4.1 หลกั การจัดกลมุ่ การสมั ผัสที่คล้ายกัน 11 4.2 การรวบรวมข้อมูล 13 4.3 ขน้ั ตอนการกำหนดกลุ่มการสัมผสั ที่คล้ายกนั 14 บทที่ 5 การช้ีบง่ อันตราย 14 5.2 หลกั การช้ีบ่งอนั ตราย 14 5.3 การรวบรวมขอ้ มลู 15 5.3 ข้นั ตอนการชบี้ ง่ อันตราย 19 บทที่ 6 การจดั ระดับอันตรายตามลักษณะของสารเคมี 19 6.1 หลกั การจัดระดับอนั ตรายตามลกั ษณะของสารเคมี 19 6.2 การรวบรวมขอ้ มูล 22 6.3 ขัน้ ตอนการจัดระดบั อันตรายตามลักษณะของสารเคมี 27 บทท่ี 7 การจัดระดบั การสมั ผัส 27 7.1 หลกั การจดั ระดับการสมั ผสั 27 7.2 การรวบรวมข้อมูล 27 7.3 ขนั้ ตอนการจดั ระดบั การสัมผสั 34 บทที่ 8 การประเมนิ ระดบั ความเสีย่ ง 34 8.1 หลักการประเมินระดับความเสยี่ ง 34 8.2 การรวบรวมข้อมลู 34 8.3 ขน้ั ตอนการประเมินระดับความเสี่ยง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมีอันตราย จ สารบัญ (ต่อ) เร่อื ง หน้า บทท่ี 9 การบริหารจัดการความเสยี่ ง 36 36 9.1 หลักการบริหารจดั การความเสย่ี ง 37 9.2 ขัน้ ตอนการพจิ ารณาผลการประเมนิ ความเส่ยี งสขุ ภาพของลูกจ้างฯ 40 สำหรับการบริหารจัดการความเสยี่ ง 41 เอกสารอ้างอิง 42 ภาคผนวก 44 46 ภาคผนวก ก แหล่งข้อมลู สารสนเทศของสารเคมี (Chemical Hazard Information) ภาคผนวก ข วธิ ีการจัดระดบั อันตรายตามลักษณะของสารเคมี 48 ภาคผนวก ค การพจิ ารณาค่าระดับอนั ตรายของสารเคมีอันตราย จากข้อมลู แสดง 50 ความเปน็ อันตรายอื่น ๆ ภาคผนวก ง ตัวอยา่ งแบบรายงานการประเมนิ ความเส่ยี งสขุ ภาพของลูกจ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมีอันตราย ภาคผนวก จ ขั้นตอนและตวั อยา่ งการประเมินความเสีย่ งสุขภาพของลกู จา้ ง ในกรณีใช้สารเคมอี นั ตราย สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คมู่ อื การประเมินความเส่ียงสขุ ภาพลกู จา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย 1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 วัตถปุ ระสงค์ คู่มือการประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ฉบับนี้ได้จัดทำข้ึน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย เพื่อเป็นแนวทางให้ สถานประกอบกิจการที่มีการใช้หรือครอบครองสารเคมีอันตรายได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการประเมิน ความเส่ียงสุขภาพของลูกจ้างที่อาจเกิดขึน้ จากการสัมผัสกบั สารเคมที ี่เปน็ อันตรายต่อสขุ ภาพ ซึ่งเปน็ การส่งเสรมิ ให้มีแนวทางในการคุ้มครอง ดูแลความปลอดภัยในการทำงานของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย และสร้างเสริมคณุ ภาพชีวติ การทำงานท่ดี ี 1.2 ขอบเขต คู่มือการประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตรายฉบับนี้ มีขอบเขต สำหรับสถานประกอบกิจการที่ใช้สารเคมีอันตราย รวมถึงวัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ส่วนผสมผลิตภัณฑ์ ผลพลอยได้ จากกระบวนการผลติ และของเสียที่เกิดข้ึนจากกระบวนการทำงาน โดยผ้ทู ่ีมีความรู้ในการประเมินความเสี่ยงสุขภาพ ซง่ึ มเี นอื้ หาประกอบด้วย 5 ประเด็นสำคญั คอื 1) การชีบ้ ่งอนั ตราย (Hazard Identification) 2) การจดั ระดบั อันตรายตามลกั ษณะของสารเคมี (Hazard Characterization) 3) การจดั ระดบั การสมั ผสั (Exposure Characterization) 4) การประเมินระดบั ความเสี่ยง (Risk Assessment) 5) การบรหิ ารจัดการความเสย่ี ง (Risk Management) 1.3 คำจำกดั ความ 1.3.1 อนั ตราย หมายถึง อันตรายต่อสุขภาพของสารเคมีทลี่ ูกจ้างสัมผสั อันอาจจะก่อให้เกิด อันตรายหรือมีผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจา้ ง ที่ก่อให้เกดิ ผลเสียต่อสุขภาพท้ังแบบเฉยี บพลนั และแบบเร้ือรัง 1.3.2 สารเคมีอันตราย หมายถึง ธาตุ สารประกอบ หรือสารผสม ตามบัญชีรายชื่อที่ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานประกาศกำหนด ซึ่งมีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือก๊าซ ไมว่ า่ จะอยู่ในรปู ของเส้นใย ฝุ่น ละอองไอ หรือฟมู ท่มี คี ุณสมบัติอย่างหน่ึงอย่างใดหรือหลายอย่างรวมกนั ดงั นี้ 1) มพี ิษ กัดกรอ่ น ระคายเคือง ซง่ึ อาจทำให้เกดิ อาการแพ้ การก่อมะเร็ง การเปล่ียนแปลง ทางพันธุกรรม เปน็ อนั ตรายต่อทารกในครรภ์หรือสุขภาพอนามัย หรอื ทำให้ถงึ แก่ความตาย 2) เป็นตัวทำปฏิกิริยาทีร่ ุนแรง เป็นตัวเพิ่มออกซิเจนหรือไวไฟ ซึ่งอาจทำให้เกิดการระเบิด หรอื ไฟไหม้ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ อื การประเมนิ ความเสยี่ งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอนั ตราย 2 1.3.3 ความเส่ียง หมายถึง ความนา่ จะเปน็ ที่จะเกิดอนั ตรายจากการสัมผสั อันตรายจากสารเคมี ในขณะปฏบิ ตั งิ านทอ่ี าจมีผลกระทบตอ่ สุขภาพอนามัยของลูกจ้าง 1.3.4 ระดับความเสี่ยง หมายถึง ค่าคาดการณ์ถึงความน่าจะเป็นที่จะเกิดอันตรายจาก การสมั ผสั สารเคมีอนั ตราย ในขณะปฏบิ ตั ิงานท่ีอาจสง่ ผลกระทบต่อสขุ ภาพอนามัยของลกู จ้าง 1.3.5 การประเมนิ ความเส่ียง หมายถงึ กระบวนการประมาณระดับความเสี่ยงที่เกิดจาก การใช้สารเคมีในการทำงาน และการตัดสินว่าความเสี่ยงนั้นอยู่ในระดับที่ยอมรับได้หรือยอมรับไม่ได้ โดยคำนึงถงึ ผลกระทบทเี่ ปน็ อันตรายต่อสขุ ภาพของลูกจ้างที่ใช้สารเคมี 1.3.6 สถานประกอบกิจการ หมายถึง หนว่ ยงานแต่ละแหง่ ของนายจ้างที่มลี ูกจ้างทำงาน อยู่ในหน่วยงาน 1.3.7 นายจ้าง หมายถึง นายจ้างตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 หมายความว่า นายจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และให้หมายความรวมถึงผู้ประกอบกิจการซึ่งยอมให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดมาทํางานหรือทําผลประโยชน์ ให้แก่หรือในสถานประกอบกจิ การ ไม่วา่ การทํางานหรือการทําผลประโยชน์นน้ั จะเป็นส่วนหน่ึงส่วนใดหรือ ทัง้ หมดในกระบวนการผลติ หรอื ธุรกจิ ในความรบั ผิดชอบของผู้ประกอบกิจการนนั้ หรือไม่กต็ าม 1.3.8 ลูกจ้าง หมายถึง ลูกจ้างตามพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และ สภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2554 หมายความว่า ลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน และให้หมายความรวมถึงผู้ซึ่งได้รับความยินยอมให้ทํางานหรอื ทําผลประโยชนใ์ ห้แก่หรือในสถานประกอบ กจิ การของนายจา้ ง ไม่ว่าจะเรยี กชอื่ อยา่ งไรกต็ าม 1.3.9 การสัมผสั หมายถึง ชอ่ งทางที่สารเคมสี ามารถเข้าสู่ร่างกายในการทำงาน ซ่ึงทำให้ เกิดอันตรายต่อสุขภาพของลูกจ้าง โดยช่องทางเข้าสู่ร่างกายขึ้นอยู่กับลักษณะสมบัติของสารเคมี เมื่อเข้าสู่ รา่ งกายแลว้ สารเคมีอาจเปลี่ยนรปู โดยปฏิกริ ิยาทางเคมีในรา่ งกาย หลงั จากนั้นจะถูกกำจัดออกจากร่างกาย ผ่านทางกลไกการขับถ่ายต่าง ๆ เช่น ลมหายใจเข้า หายใจออก เหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ เป็นต้น แต่ในบางกรณี สารเคมีอาจมีการกระจายและสะสมในอวัยวะที่เฉพาะเจาะจง คงอยู่ในร่างกายได้เป็นระยะเวลานานและ ก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตราย ซึ่งประเภทช่องทางสำคัญของการเข้าสู่ร่างกาย แบ่งได้ 3 ประเภท คือ การสูดดม การดูดซึมผ่านผิวหนงั หรอื ดวงตา การกลืนกนิ จากการปนเปอื้ นสารเคมี 1.3.10 กลุ่มการสัมผัสที่คล้ายกัน (Similar Exposure Groups; SEGs) หมายถึง กลุ่ม ลูกจา้ งทมี่ กี ารสัมผัสสารเคมีอันตรายเข้าสูร่ ่างกายในปริมาณที่ใกล้เคยี งกัน โดยพิจารณาจากการทำงานในแผนก เดียวกัน หรือในกระบวนการเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามบางกรณีที่มีลักษณะการทำงานที่แตกต่างกัน อาจได้รับสารเคมใี นปรมิ าณท่ใี กล้เคยี งกันกไ็ ด้ 1.3.11 คณะทำงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย หมายถงึ ลกู จา้ งซ่งึ เป็นผู้แทนในการบริหารจัดการเกย่ี วกับการประเมินความเสีย่ งสุขภาพของลูกจ้าง ในกรณีใช้ สารเคมอี ันตราย สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คู่มือการประเมนิ ความเสยี่ งสุขภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมีอนั ตราย 3 1.3.12 การทำงาน หมายถึง การทำงานของลูกจ้างตามหน้าที่รับผิดชอบที่ได้รับ มอบหมาย 1.3.13 สภาพแวดล้อมในการทำงาน หมายถึง สภาพแวดล้อมที่อยู่โดยรอบลูกจ้างท่ี สามารถสัมผสั สารเคมเี ข้าสู่ร่างกาย 1.3.14 การใช้สารเคมีอันตราย หมายถึง การกระทําใด ๆ ซึ่งอาจทำให้ลูกจ้างสัมผัส สารเคมีอันตราย เช่น การผลิต การติดฉลาก การห่อหุ้ม การเคลื่อนย้าย การเก็บรักษา การถ่ายเท การขนถ่าย การขนส่ง การกำจัด การทำลาย การเก็บสารเคมีอันตรายที่ไม่ใช้แล้ว รวมทั้งการบำรุงรักษา การซ่อมแซม และ การทำความสะอาดเคร่ืองมือ เครอื่ งใช้ ตลอดจนภาชนะบรรจุสารเคมีอนั ตราย 1.3.15 ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หมายถึง ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงต่อสุขภาพ ของลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ได้แก่ ลูกค้า ผู้รับเหมา คู่ค้า ผู้เยี่ยมชม ผู้มาติดต่อ หน่วยงาน ราชการ และหนว่ ยงานภาคเอกชน 1.3.16 ขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงาน (Occupational Exposure Limit; OEL) หมายถึง ระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายที่กำหนดให้มีอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่ลูกจ้างซึ่งมี สุขภาพปกติสามารถสัมผัส โดยไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งค่าขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงาน ประกอบด้วย 1) ค่า OEL-TWA (Occupational Exposure Limit-Time Weighted Average) คือ ขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงาน ที่สัมผัสกับความเข้มข้นสารเคมีเฉลีย่ ตลอดเวลาการทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน หรือ 40 ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ 2) ค่า OEL-C (Occupational Exposure Limit- Ceiling) คือ ขีดจำกัดการสัมผัส ในการทำงาน ณ เวลาใด ๆ ห้ามมีคา่ การสมั ผสั กับสารเคมีสูงกวา่ คา่ น้ี 3) ค่า OEL-STEL (Occupational Exposure Limit- Short term Exposure Limit) คือ ขีดจำกัดการสมั ผัสในการทำงาน ท่ีสัมผสั กบั ความเข้มขน้ สารเคมใี นระยะเวลาสั้น ๆ ทั้งนี้ ขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงานอาจเรียกแตกต่างกันและมีค่าต่างกัน ใน แต่ละองค์กรหรือหน่วยงานต่างๆ ประกาศใชห้ รือเสนอแนะ เช่น อาจกาํ หนดเป็นคา่ ขีดจํากัดสารเคมีที่สัมผัสได้ใน สถานที่ทํางาน (Threshold Limit Values; TLVs) หรือ ค่าขีดจํากัดสารเคมีที่ยอมให้สัมผัสได้ในสถานที่ทํางาน (Permissible Exposure Limits; PELs) 1.3.17 ความเข้มข้นของสารเคมีในระดับปฏิบัติการ (Action Level; AL) หมายถึง ระดับทีต่ อ้ งเร่ิมดำเนินการ เพ่ือควบคุมและป้องกันการสัมผัสสารอนั ตรายของลูกจ้าง ซ่งึ ในท่นี เี้ สนอให้ AL เร่ิมต้นที่ 50% ของค่าขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงาน ทั้งน้ีเนือ่ งจากความแตกต่างระหว่างบุคคล ฉะนั้นเพื่อเปน็ การคุม้ ครอง ลกู จ้างทุกคน จึงควรกําหนดแนวทางปอ้ งกันและดําเนินการเมอ่ื มีสารอนั ตรายในระดับ AL สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
ค่มู ือการประเมินความเสี่ยงสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย 4 บทท่ี 2 คณะทำงานประเมินความเส่ียงสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณใี ช้สารเคมอี นั ตราย 2.1 หลักการของคณะทำงานประเมินความเสย่ี งสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมีอันตราย การประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย จะประสบ ความสำเร็จได้ขนึ้ กับการแสดงความม่งุ ม่ันของผู้บรหิ ารระดับสูงของสถานประกอบกิจการ ในการมีส่วนร่วม เป็นสำคัญ ซึ่งจำเป็นต้องแต่งตั้งบุคลากรที่รับผิดชอบงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้างฯ เรียกว่า คณะทำงานประเมินความเสี่ยง ซึ่งควรประกอบด้วย คณะจัดการความเสี่ยง (Risk Management Team) และคณะประเมินความเส่ียง (Risk Assessment Team) ทัง้ นี้สำหรับสถานประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดเลก็ คณะจัดการความเสยี่ งและคณะประเมนิ ความเสยี่ งอาจเปน็ คณะเดียวกนั ได้ เพ่อื ใหส้ ามารถทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เกดิ ประสทิ ธผิ ล บรรลตุ ามเป้าหมายขององค์กรได้ ซงึ่ ต้องมีคุณสมบัติหลกั ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) มคี วามรู้ในงาน กจิ กรรม กระบวนการผลิตทีม่ ีการทำงานเกี่ยวกับสารเคมี (2) มีความรู้ ความเข้าใจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (3) มีความรู้ ความเข้าใจด้านการประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง กรณีใช้สารเคมีอันตราย และการบรหิ ารจดั การความเส่ียง 2.2 ขนั้ ตอนการกำหนดโครงสรา้ ง บทบาท หนา้ ท่ขี องคณะทำงานประเมินความเส่ียง สถานประกอบกิจการต้องกำหนดถึงโครงสร้าง บทบาท หน้าท่ี และความรับผิดชอบของ ตำแหน่งงานต่าง ๆ ทีจ่ ะใช้ในการดำเนนิ การประเมินความเส่ยี งสุขภาพลูกจ้างฯ ทจ่ี ดั ทำข้ึน ท้ังน้ีจะต้องจัด ให้มผี รู้ บั ผิดชอบอย่างเหมาะสมทั้งจำนวนและคณุ สมบัติ เพอ่ื ใหม้ ัน่ ใจได้วา่ จะรบั ผดิ ชอบต่อภาระงานท่ีได้รับ โดยแต่งตงั้ เปน็ คณะทำงานประเมินความเสีย่ งสำหรบั การดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปอย่างมปี ระสิทธิภาพ ดงั น้ี 2.2.1 การจัดตง้ั คณะจดั การความเสีย่ ง ผู้บริหารระดับสูงของสถานประกอบกิจการ แต่งตั้งผู้แทนฝ่ายบริหารด้านการประเมิน ความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตรายเป็นคณะจัดการความเสี่ยง โดยคณะทำงานอาจพิจารณา แต่งตั้งจากผู้แทนที่มีตำแหน่งที่เกี่ยวขอ้ ง เช่น ผู้จัดการฝ่ายผลิต ผู้จัดการฝ่ายซ่อมบำรุงรักษา ผู้จัดการฝ่ายบคุ คล วิศวกรประจำโรงงาน เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับวิชาชีพ หัวหน้างานฝ่ายเทคนิค หัวหน้างาน ฝ่ายซ่อมบำรุง หัวหน้างานฝ่ายบัญชีและบุคคล เป็นต้น เพื่อดูแลให้มีการดำเนินงานของระบบอย่างถูกต้อง และทว่ั ท้งั องค์กร โดยคำนึงถึงคุณสมบัติ ดังนี้ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คู่มือการประเมินความเสยี่ งสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย 5 - มีความเป็นผนู้ ำ - มีความเข้าใจในระบบ - มคี วามสามารถในการบรหิ ารจัดการ - มที กั ษะในการสือ่ สาร - มีความต้งั ใจและเห็นความสำคญั ของการประเมนิ ความเส่ียงฯ - มคี วามสามารถในการจงู ใจ - เปน็ ท่ยี อมรับ สามารถใหค้ วามเช่ือถือจากบุคลากรหนว่ ยงานอนื่ ๆ - ได้รับการสนบั สนนุ จากผ้บู ริหารระดับสูงเป็นอย่างดี โดยคณะจัดการความเสย่ี ง มีหน้าท่ี ดงั นี้ 1) เป็นผู้นำ ประสานงาน ปฏิบัติการจัดการความเสี่ยงตามระบบมาตรฐานการประเมิน ความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้างฯ ที่จัดทำขึ้น มีการนำไปใช้และดำเนินการไปตามข้อกำหนดในมาตรฐาน การประเมนิ ความเส่ยี งฯ อยา่ งต่อเน่ือง 2) กำหนดขอบเขตการประเมินความเสี่ยง โดยกำหนดตามลักษณะงาน กิจกรรม กระบวนการ หรือการวิเคราะหง์ าน 3) มอบหมายให้คณะประเมินความเสี่ยง ดำเนินการประเมินความเสี่ยงตามขั้นตอน การประเมนิ ความเสีย่ ง 4) กำหนดเป้าหมาย และระยะเวลาในการทบทวนในการจัดการความเสี่ยง โดย กำหนดตามขัน้ ตอนการบริหารจัดการความเสย่ี ง 5) รายงานผลการปฏิบัติงานต่อผู้บริหารระดับสูง เพื่อนำไปใช้ในการทบทวนและ เป็นแนวทางสำหรับการปรับปรงุ ต่อไป 2.2.2 การจัดตงั้ คณะประเมนิ ความเสีย่ ง คณะจัดการความเสี่ยง อาจแต่งตั้งคณะประเมินความเสี่ยงที่ประกอบด้วยผู้แทน จากหน่วยงานต่าง ๆ โดยการจัดตั้งคณะทำงานอาจคัดเลือกจากผู้แทนที่มีตำแหน่งท่ีเกี่ยวข้อง เช่น ผปู้ ฏบิ ัติงานในพ้นื ทที่ ำงาน วศิ วกร ช่างซอ่ มบำรงุ เจ้าหน้าที่ความปลอดภยั ในการทำงาน เปน็ ต้น เพ่ือสามารถ มอบหมายการดำเนินการจัดทำระบบมาตรฐานการประเมนิ ความเส่ยี งสุขภาพลูกจ้างฯ ให้ดำเนินไปอย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ โดยคำนงึ ถึงคณุ สมบตั ิ ดังนี้ - มคี วามเข้าใจในระบบความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน - มที กั ษะในการส่ือสาร - มคี วามตง้ั ใจและเห็นความสำคัญของการประเมินความเสี่ยงฯ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คมู่ อื การประเมินความเส่ยี งสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมีอนั ตราย 6 โดยคณะประเมนิ ความเสย่ี ง มีหนา้ ท่ี ดงั นี้ 1) จัดเตรียมรายการขอ้ มลู สำหรบั การประเมินความเส่ียงสุขภาพลูกจา้ งฯ 2) ประเมินความเสี่ยงในพ้ืนทต่ี ามขอบเขตการประเมินความเส่ยี ง ตามที่ได้รับ มอบหมายจากคณะจดั การความเส่ยี ง 3) รายงานความกา้ วหน้าการประเมินความเสย่ี งตอ่ คณะจัดการความเส่ียง สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ ือการประเมนิ ความเสยี่ งสุขภาพลกู จ้าง ในกรณใี ช้สารเคมีอนั ตราย 7 บทที่ 3 กระบวนการประเมนิ ความเส่ยี ง 3.1 หลักการกระบวนการประเมินความเส่ยี ง การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) เป็นกระบวนการวิเคราะห์งานที่ทำของลูกจ้าง ในบริเวณที่มีการใช้สารเคมีอันตราย โดยกําหนดให้มีคณะทำงานในการประเมินความเสี่ยงสุขภาพของ ลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย เพื่อที่จะหาอันตรายจากการทำงานที่มีผลต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้าง รวมถึงประเมินโอกาสและความรุนแรงที่มีต่อลูกจา้ งเหล่านั้นว่ามีระดบั ความเสีย่ งมากน้อยเพียงใด ให้ได้มา ซง่ึ แนวทางในการบรหิ ารจดั การความเสีย่ ง ซ่ึงเป็นการคุ้มครองดูแลสุขภาพลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับสารเคมี สร้างเสริมคุณภาพชีวิตในการทำงานที่ดี ทั้งนี้ การประเมินความเสี่ยง ประกอบด้วยการวิเคราะห์ องค์ประกอบของความเสี่ยง (Risk Analysis) และการประเมินระดับความเสี่ยง (Risk Evaluation) อย่างเป็น ขั้นตอนสำหรับจัดระดับความเสยี่ ง เพอื่ การบริหารจัดการความเส่ยี ง (Risk Management) ตอ่ ไป โดยการประเมินความเส่ียงสุขภาพลูกจ้างฯ นนั้ จะต้องมีการดำเนินการทุกขั้นตอนการทำงาน ทเี่ กย่ี วข้อง ซ่งึ ครอบคลมุ ทกุ ประเภทกจิ กรรมการทำงานของกระบวนการผลติ ไดแ้ ก่ 1) การผลิต 2) การตดิ ฉลาก การหอ่ หุ้ม 3) การเคลอื่ นย้าย 4) การเก็บรักษา 5) การถ่ายเท การขนถา่ ย 6) การขนสง่ 7) การกำจดั การทำลาย 8) เก็บสารเคมีอันตรายท่ีไม่ใช้แล้ว 9) การบำรุงรกั ษา การซ่อมแซม 10) การทำความสะอาดเคร่ืองมือ เครอ่ื งใช้ ตลอดจนภาชนะบรรจุสารเคมอี ันตราย ทั้งนี้ การประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้างฯ จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์งาน เพื่อประเมิน ความเส่ยี งฯ ซึ่งพิจารณาครอบคลุมรายละเอยี ดเก่ียวกบั งาน กิจกรรม กระบวนการผลิตท่ีลูกจ้างปฏิบัติงาน เกี่ยวกับสารเคมี ได้แก่ (1) ลักษณะของงาน (2) สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (3) ข้อมูลและข้อบ่งชี้การใช้ สารเคมีอันตราย และ (4) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ภายใต้แนวคิดพื้นฐานในการดำเนินการจัดกลุ่มการสัมผัสท่ี คลา้ ยกัน (ซ่ึงจะกล่าวละเอยี ดต่อไปในบทท่ี 4) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
ค่มู อื การประเมินความเสีย่ งสุขภาพลูกจ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี ันตราย 8 ดงั นนั้ การปฏบิ ตั ิงานเก่ยี วกบั สารเคมีของลูกจา้ งทีเ่ ขา้ ขา่ ย ตอ้ งประเมนิ ความเสีย่ ง ได้แก่ 1) งานที่มีแนวโน้มของการสัมผัสสารเคมีอันตรายสูงเกินกว่าขีดจำกัดการสัมผัสในการ ทำงาน ของสารเคมีอนั ตราย 2) งานทีม่ คี วามรุนแรงอันก่อให้เกิดอุบัตเิ หตุ หรือมกี ารร้องเรยี น หรอื รอ้ งทุกข์ของลูกจ้าง ในการทำงาน 3) งานหรอื กิจกรรมใหม่ ซ่ึงไม่เคยมีการประเมินความเสย่ี งสุขภาพลูกจา้ งฯ มากอ่ น ได้แก่ งานที่ทำในขั้นตอนการผลิตเกี่ยวกับกระบวนการวิจัยและพัฒนา การออกแบบ การทดลอง การก่อสร้าง การขยายหรือดัดแปลงการผลิต เป็นต้น หรือแม้กระทั่งเป็นงานที่ทำในขั้นตอนการแก้ไขในช่วงที่เกี่ยวข้อง กบั การซอ่ มแซมบำรุงรกั ษา หรอื หลงั การเกดิ อุบัติเหตุ ก็สามารถพจิ ารณาดำเนนิ การได้ 4) งานท่ีเป็นข้อกาํ หนดตามกฎหมาย 3.2 ขั้นตอนการดำเนินการประเมินความเส่ยี ง การประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้างฯ เป็นกระบวนการที่มีขั้นตอนในการดำเนินงาน ตามหลักการประเมินความเสี่ยง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมินสามารถใช้ในการกำหนดแนวทาง ในการดำเนินการแก้ไข หรือบริหารจัดการด้านความปลอดภัยในการทำงานต่อไป โดยกระบวนการประเมิน ความเสยี่ ง จำเป็นตอ้ งมแี นวคดิ พืน้ ฐานเกีย่ วกบั การประเมนิ ความเสย่ี ง ตามภาพที่ 2-1 ประกอบด้วยขั้นตอน ดังน้ี 3.2.1 ขั้นตอนการวิเคราะห์งานเพื่อประเมินความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้างฯ ซึ่งใช้ หลักการจัดกลุ่มสัมผัสที่คล้ายกัน (Similar Exposure Groups; SEGs) โดยทำการพิจารณารายละเอียด จากขอ้ มลู เกยี่ วกับงาน กิจกรรม กระบวนการผลติ ท่ีลูกจ้างปฏิบัติงาน และข้อมลู เก่ยี วกบั การสัมผัสสารเคมี เข้าสรู่ ่างกายของลูกจา้ ง 3.2.2 ขั้นตอนการประเมนิ ความเสย่ี ง ซงึ่ ประกอบดว้ ยกระบวนการสำคัญ ดังนี้ 1) วิเคราะห์องค์ประกอบของความเสี่ยง ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ การชี้บ่ง อนั ตราย การจัดระดับอนั ตรายตามลักษณะของสารเคมี และการจดั ระดับการสัมผสั 2) การประเมินระดบั ความเสยี่ ง ประกอบดว้ ยขน้ั ตอนสำคญั คือ การจดั ระดับความเสย่ี ง 3.2.3 ขั้นตอนการบริหารจัดการความเสี่ยง ซี่งใช้หลักการควบคุมความเสี่ยงฯ ภายใต้ แนวคิดตามหลักการลำดับชน้ั ของการแผนการกำจัด หรอื ลดความเส่ียงใหอ้ ยใู่ นระดับทย่ี อมรับได้ ทั้งนี้ ขั้นตอนการดำเนินการประเมินความเสี่ยง ในขั้นตอนการวิเคราะห์งานเพื่อประเมิน ความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้างฯ และขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง จำเป็นต้องดำเนินการบันทึกข้อมูลลงใน แบบรายงานประเมินความเสีย่ งสุขภาพลูกจ้างฯ (ตัวอย่างการบนั ทกึ ข้อมูล ดภู าคผนวกตาราง จ.1 และ ตาราง จ.2) สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คูม่ ือการประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอันตราย ข้ันตอนการประเมนิ ความเสย่ี งสขุ ภ ขน้ั ตอน 1. การวเิ คราะห์งานเพ ประเมนิ กลมุ่ สมั ข้อมลู เกี่ยวกบั งาน กิจกรรม กระบวนการผลิต ลกั ษณะของงาน ขน้ั ตอน 2. การประเม สภาพแวดล้อมในการทำงาน ข้อมูลสารเคมีและขอ้ บ่งใช้ สารเคมีอนั ตราย 1. กา สารเคมีอันตราย 1,516 สาร + สารผสม การจัดทำบัญชีรายการสารเคมี ผูม้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสีย สารเคมีอ่ืนๆ อนั ตรายทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์ งาน กรณีใช้ H code 2 การจดั ระดบั อนั ตรายตามลกั ษณะของสารเคมี (HR กรณีไม่มี H code ลกั ษณ ภาพที่ 2-1 : แผนภาพขนั้ ตอนการดำเนินการป สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย แ
9 ภาพของลกู จา้ งในกรณใี ชส้ ารเคมอี ันตราย พอ่ื ประเมนิ ความเส่ียงสขุ ภาพของลกู จา้ งฯ มผัสสารเคมที ่ีคลา้ ยกนั ข้อมูลเกยี่ วกบั การสมั ผสั สารเคมีเข้าสู่ร่างกาย มินความเสย่ี งสขุ ภาพของลกู จา้ งฯ ช่องทางการสมั ผัสเข้าสรู่ า่ งกาย ผลการตรวจวดั การสมั ผัสสารเคมี ารชบ้ี ่งอันตราย สารท่เี ปน็ อันตรายตอ่ สขุ ภาพแบบเฉยี บพลัน การจดั ประเภทผลกระทบของ สารท่ีเปน็ อันตรายต่อสุขภาพแบบเรือ้ รงั สารเคมีอันตราย R) 3 การจดั ระดบั การสมั ผสั (ER) ระดับความถีก่ ารสัมผสั สารเคมี (FR) ณะความเสี่ยง (RR) ระดับระยะเวลาทส่ี มั ผัสสารเคมี (DR) ระดบั ความเขม้ ข้นสารเคมที ี่สมั ผสั (MR) ประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพของลูกจ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอนั ตราย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมนิ ความเส่ยี งสขุ ภาพลกู จา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมอี ันตราย ขั้นตอนการประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพข ความเส่ยี งทีไ่ มย่ อมใหเ้ กดิ ขึ้น 4 การ การแ ด ค ข้ันตอนท แผนง การกำจดั หรือแกไ้ ขความเสย่ี ง การเพิม่ ( โดยทันที หรอื แผ ภาพที่ 2-1 : แผนภาพขนั้ ตอนการดำเนินการปร สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั แ
10 ของลกู จ้างในกรณใี ช้สารเคมอี นั ตราย (ต่อ) รประเมินระดบั ความเส่ียง ความเสย่ี งที่ยอมรับได้ แบง่ กล่มุ ระดบั ความเสย่ี ง ด้วย Rating Matrix ความเสย่ี งท่ียอมรบั ไมไ่ ด้ ที่ 3 การบรหิ ารจัดการความเสีย่ ง งานบริหารจดั การความเสี่ยง (ปรับปรงุ /เปลย่ี นแปลง) มาตรการ การคงไว้ซงึ่ แผนการควบคมุ ความเส่ยี ง ผนการควบคุมความเสีย่ งทม่ี อี ยู่ และมาตรการที่มีอยู่ ระเมินความเสยี่ งสุขภาพของลูกจา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย (ต่อ) และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คู่มอื การประเมนิ ความเส่ยี งสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอนั ตราย 11 บทที่ 4 การจัดกลุ่มการสมั ผัสที่คล้ายกนั 4.1 หลกั การจัดกลุ่มการสมั ผัสที่คล้ายกนั คณะทำงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ต้องจัดกลุ่ม ลูกจ้างท่ีใช้สารเคมีอันตรายในการทำงาน ที่มีการสัมผัสเข้าสู่ร่างกายในทุกเส้นทางที่เป็นไปได้ทั้งหมด โดยคณะทำงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้างฯ ต้องวิเคราะห์งานหรือกิจกรรมของลูกจ้างที่มีการใช้ สารเคมีอันตรายเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยจัดกลุ่มลูกจ้างซึ่งมีการระบุข้อมูลร้อยละการสัมผสั สารเคมีของลูกจ้างที่มีความเข้มข้นของสารเคมีในระดับปฏิบัติการ (Action Level; AL) ไว้อย่างชัดเจน ภายใต้แนวคิดพื้นฐานในการดำเนินการจัดกลุ่มการสัมผัสที่คล้ายกัน (Similar Exposure Groups; SEGs) ซงึ่ สามารถพิจารณาโดยใช้หลักการพน้ื ฐาน 2 ประการ ดังน้ี 1) การสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน คือ การท่ีลูกจ้างมีการทำงานท่ี เป็นงาน กิจกรรม หรือกระบวนการผลิต ที่มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานเหมือนกัน ลูกจ้างกลุ่มนั้น อาจเปน็ SEGs เดียวกัน 2) การสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกายในลักษณะเดียวกัน คือ การท่ีลูกจ้างสัมผัสกับสารเคมี ชนิดเดียวกัน ในช่องทางการสัมผัสเหมือนกันในการปฏิบัติงานที่มีการใช้สารเคมีนั้น ลูกจ้างกลุ่มนั้น อาจเป็น SEGs เดยี วกนั 4.2 การรวบรวมขอ้ มูล การจัดกลมุ่ ลกู จา้ ง ตามการสัมผสั ที่คลา้ ยกัน สามารถดำเนนิ การโดยทำการรวบรวมข้อมูล ระบุรายละเอยี ดเกย่ี วกับข้อมูลงาน กิจกรรม กระบวนการผลิตที่ลูกจ้างปฏบิ ัตงิ าน ซึ่งนำมาพิจารณาร่วมกับ ขอ้ มลู การสมั ผสั สารเคมเี ข้าสู่ร่างกายของลูกจา้ ง โดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี 4.2.1 ข้อมูลเกี่ยวกับงาน กิจกรรม กระบวนการผลิต เป็นการระบุรายละเอียดข้อมูล เก่ยี วกับปจั จัยท่ีเก่ียวข้องในการปฏบิ ตั ิงานของลูกจ้างที่มีการใชส้ ารเคมีในการปฏบิ ตั ิงาน เพือ่ กำหนดกลุ่ม SEGs ตามหลกั การสมั ผสั สารเคมีเขา้ สรู่ า่ งกายในปริมาณทใี่ กลเ้ คียงกนั ซง่ึ มรี ายละเอียด ดังน้ี 1) ลักษณะของงาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่ทำงาน ซึ่งแหล่งข้อมูลดังกล่าว รวบรวมจากแผนผังโรงงาน และข้อมูลประเภทขั้นตอนงาน กิจกรรม กระบวนการผลิต ซึ่งแหล่งข้อมูล ดงั กล่าวรวบรวมจากคู่มือการผลิตของสถานประกอบกิจการ เปน็ ต้น 2) สภาพแวดล้อมในการทำงาน เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการควบคุมป้องกัน อันตรายจากสารเคมีในการทำงานที่มีอยู่ของสถานประกอบกิจการ ซึ่งแหล่งข้อมูลดังกล่าวรวบรวมจาก แผนงานโครงการมาตรการควบคุมป้องกันของสถานประกอบการ เป็นตน้ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คูม่ อื การประเมนิ ความเส่ียงสุขภาพลกู จา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมอี นั ตราย 12 3) ข้อมูลสารเคมีและข้อบ่งชี้การใช้สารเคมีอันตราย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อสารเคมี และข้อมูลการทำงานของลูกจ้าง (ระยะเวลาการทำงานต่อวัน หรือจำนวนกะในการทำงานต่อวัน) เป็นต้น ซึ่งแหล่งข้อมูลดังกล่าวรวบรวมจาก ข้อมูลบันทึกการวิเคราะห์กิจกรรมของแต่ละตำแหน่งงาน และข้อมูล การสมั ภาษณ์ลูกจ้างผปู้ ฏบิ ัติงาน เปน็ ตน้ 4) ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานของลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับ สารเคมี ซึง่ แหล่งข้อมลู ดังกล่าวรวบรวมจากแผนผังองคก์ ร เป็นตน้ 4.2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับการสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย เป็นการระบุรายละเอียดเกี่ยวกับ การสัมผัสสารเคมีในการปฏิบัติงานของลูกจ้าง เพื่อกำหนดกลุ่ม SEGs ตามหลักการสัมผัสสารเคมี เขา้ สู่ร่างกายในลักษณะเดยี วกนั ซ่งึ มีรายละเอยี ด ดังน้ี 1) ผลการตรวจวัดการสัมผัสสารเคมี ได้แก่ ข้อมูลร้อยละการสัมผัสสารเคมีของ ลูกจา้ งทม่ี คี วามเขม้ ข้นของสารเคมีในระดบั ปฏิบตั กิ าร (Action Level; AL) ซงึ่ แหล่งขอ้ มลู ดังกล่าวรวบรวม จากรายงานผลความเข้มข้นสารเคมีจากการเก็บตัวอย่างสารเคมี ได้แก่ การเก็บตัวอย่างบริเวณที่ทำงาน ซึ่งเป็นการเก็บตัวอย่างสารเคมี โดยการตั้งอุปกรณ์เก็บตัวอย่างไว้ในบริเวณที่ทำงาน และการเก็บตัวอย่าง ท่ตี วั บุคคล ซง่ึ เปน็ การเกบ็ ตวั อยา่ งสารเคมีโดยตดิ ตั้งอปุ กรณท์ ี่บคุ คล 2) ช่องทางการสัมผสั สารเคมีเข้าสู่ร่างกาย ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกบั ช่องทางที่สารเคมี สามารถเข้าสู่ร่างกาย ที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของลูกจ้างแต่ละคน ซึ่งต้องพิจารณาภายใต้หลักการ ทางสรีรวิทยาและพษิ วิทยา ซึง่ ได้มีรปู แบบการเข้าสู่รา่ งกายจำแนกได้ 3 ประเภท คือ การสูดดม การดูดซึม ผ่านผิวหนังหรือดวงตา การกลืนกิน ซึ่งการที่จะสามารถระบุข้อมูลการสัมผัสของสารเคมีได้อย่างชัดเจน จำเป็นต้องใช้ข้อมูลมาเป็นเกณฑ์การพิจารณา เพื่อนำมาประกอบการระบุรูปแบบการสัมผัสเข้าสู่ร่างกาย ของสารเคมใี นแตล่ ะด้าน ดังตารางท่ี 4-1 ตาราง 4-1 เกณฑก์ ารพจิ ารณาชอ่ งทางการสัมผสั สารเคมเี ขา้ สรู่ ่างกาย ช่องทางการสัมผสั เขา้ ส่รู า่ งกาย ขอ้ มลู ทน่ี ำมาเป็นเกณฑ์การพิจารณา - การสูดดม - คา่ ความเขม้ ขน้ ของสารเคมีที่ปนเปื้อนในอากาศ - การดดู ซมึ ผา่ นผวิ หนงั หรอื ดวงตา - คา่ ปรมิ าณอากาศทปี่ นเปือ้ นเมื่อสดู ดมเข้าไป (ถา้ ม)ี - การกลืนกนิ - คา่ ปรมิ าณของสารเคมีท่ีถกู ดดู ซึมในร่างกาย - ค่าน้ำหนักของรา่ งกาย - คา่ ความเขม้ ข้นของสารเคมบี นพ้นื ผวิ สมั ผสั - คา่ ปริมาณของสารเคมที ถี่ ูกดดู ซึมผ่านผวิ หนงั - คา่ นำ้ หนักของร่างกาย - ค่าความเขม้ ขน้ ของสารเคมบี นพืน้ ผิวสัมผัส - ค่าปรมิ าณของสารเคมที ผ่ี ่านทางปากและกลืนเขา้ ไป (ถ้ามี) - ค่าปรมิ าณสารเคมที ่ถี กู ดูดซมึ ในระบบย่อยอาหาร - ค่านำ้ หนักของร่างกาย สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ อื การประเมินความเสย่ี งสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมอี ันตราย 13 4.3 ข้ันตอนการกำหนดกลุม่ สมั ผสั ท่ีคล้ายกนั การกำหนดกลุ่มสัมผัสที่คล้ายกัน เป็นการพิจารณาจัดกลุ่มลูกจ้างที่มีการสัมผัสสารเคมี อันตรายชนิดเดียวกันที่ระดับการสัมผัสเดียวกัน โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้จากข้อ 4.2 มาใช้ จำแนก SEGs ซง่ึ สามารถทำได้ 2 วธิ ี ดงั น้ี 4.3.1 พิจารณาจากข้อมูลเกีย่ วกบั งาน กิจกรรม กระบวนการผลิต โดยพิจารณาข้อมูลเก่ียวกบั งาน กิจกรรม กระบวนการผลิตของลูกจ้างแต่ละคนที่มี การสัมผัสสารเคมีในการปฏิบัติงาน ซึ่งข้อมูลและปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานของลูกจ้าง ได้แก่ 1) ลกั ษณะของงาน 2) สภาพแวดลอ้ มในการทำงาน 3) ข้อมูลและข้อบ่งใช้สารเคมีอันตราย และ 4) ผู้มีสว่ น ได้ส่วนเสีย มีข้อมูลท่ีเหมือนกัน แสดงว่าลูกจ้างเหล่านั้นอาจเป็น SEGs เดียวกัน ซึ่งอาจมีระดับของสารเคมีใน การปฏิบัติงานในปริมาณใกล้เคียงกัน แต่ทั้งนี้ หากข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติงานของ ลูกจ้างแต่ละคนมขี อ้ มูลที่แตกตา่ งกันเกดิ ขึ้น ก็อาจทำให้เปน็ คนละ SEGs ได้ 4.3.2 พิจารณาจากข้อมูลเกี่ยวกับการสัมผสั สารเคมีเขา้ สู่ร่างกาย โดยพิจารณาผลการตรวจวัดการสัมผัสสารเคมีของลูกจ้างแต่ละคน ในทุกช่องทาง การสัมผัส ซึ่งเป็นค่าที่แสดงถึงความเข้มข้นของสารเคมีในระดับปฏิบัติการ (AL) นำมาพิจารณาแบ่งกลุ่ม การสัมผัสที่คล้ายกันด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลการสัมผัสทางสถิติ ซึ่งหากพบว่า 95% ของลูกจ้างในกลุ่ม มีการสัมผสั สารเคมีอันตรายเฉลี่ยตลอดระยะเวลาการทำงาน แตกต่างกันไม่เกินสองเท่าของค่าเฉล่ีย ถือว่า เป็นลกู จา้ งทมี่ ีการสมั ผสั คลา้ ยกนั สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ ือการประเมินความเสี่ยงสขุ ภาพลกู จา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมีอนั ตราย 14 บทที่ 5 การช้ีบ่งอันตราย 5.1 หลกั การช้ีบ่งอนั ตราย คณะทำงานประเมินความเส่ียงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ตอ้ งทำการชี้บ่งอันตราย ซ่งึ เปน็ การจำแนกประเภทของสารเคมีอันตราย ตามผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นกับลูกจ้าง โดยพิจารณา ทุกขั้นตอนการทำงานที่เกี่ยวข้อง ให้ครอบคลุมทุกรายการสารเคมีอันตราย เช่น วัตถุดิบ ตัวกลาง ผลิตภัณฑ์หลัก และส่วนประกอบในการผลิตต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากกระบวนการทำงาน เช่น วัตถุดิบ ผลิตภัณฑ์ ส่วนผสม ผลิตภัณฑ์ ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต และของเสีย เป็นต้น โดยไม่คำนึงถึงการสวมใส่อุปกรณ์คุ้มครอง ความปลอดภยั สว่ นบุคคล หรือมาตรการควบคุมใด ๆ ท่ีมีอยู่ 5.2 การรวบรวมข้อมลู การชี้บ่งอันตราย เริ่มต้นด้วยการรวบรวมข้อมูลสารสนเทศของสารเคมี และข้อมูลสนับสนุนท่ี เกย่ี วข้อง ดงั ตอ่ ไปนี้ 5.2.1 ข้อมูลสารสนเทศของสารเคมี คือ ข้อมูลหลักของสารเคมี ที่ใช้จัดทำรายชื่อสารเคมีที่ เป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพของลูกจ้าง ทใ่ี ชห้ รอื มีอยู่ในการทำงานหรือสภาพแวดล้อมการทำงาน ซึ่งเป็นข้อมูลบ่งช้ี รายละเอียดข้อมูลเก่ยี วกบั สารเคมี ดังต่อไปน้ี 1) ข้อมูลจำเพาะสารเคมีและการใช้งาน ได้แก่ - หมายเลข CAS (Chemical Abstracts Service) - ช่ือสารเคมี - สตู รโครงสร้างของสารเคมี - คุณสมบัติทางกายภาพและเคมีของสารเคมี เช่น จุดหลอมเหลว จุดเดือด ความหนาแนน่ สัมพัทธ์ ความดนั ไอ การละลายนำ้ อณุ หภูมจิ ุดติดไฟ (ความไวไฟ) การเกิดปฏกิ ิรยิ าร่วม เป็นตน้ - รูปแบบการใช้งาน โดยระบุสถานะการใช้สารเคมี หรือที่มีอยู่ในสภาพแวดล้อม ในการทำงาน - ช่องทางของการเข้าสู่ร่างกายของสารเคมี โดยระบุความเสียหายของอวัยวะ เปา้ หมายท่ีอาจได้รับผลกระทบเม่ือสารเคมีเข้าสรู่ ่างกายที่สอดคล้องกบั ชอ่ งทางการสมั ผัสสารเคมี 2) ข้อมูลการจำแนกและการติดฉลาก ซึ่งเป็นข้อมูลบ่งชี้สำคัญเกี่ยวกับผลกระทบจาก อนั ตรายของสารเคมี ซ่ึงจะกลา่ วถงึ ใน ขอ้ 5.3.2 ต่อไป สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมินความเส่ยี งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณใี ช้สารเคมอี นั ตราย 15 5.2.1 ข้อมูลสนับสนุน คือ ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาทจี่ ำเปน็ ได้แก่ 1) ผังโรงงานของพื้นที่ทำงาน ควรแสดงถึงตำแหน่งของเครื่องจักร ภาชนะบรรจุของ สารเคมีท่เี ป็นอันตรายต่อสุขภาพ และตำแหน่งการทำงานของลกู จ้าง 2) ผังกระบวนการผลิต ควรแสดงลำดับขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิต เริ่มจาก ขั้นตอนการเตรยี มการจนถึงขั้นตอนสุดท้าย 3) ผู้ปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง โดยระบุข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับผู้ปฏิบัติงานที่สัมผัสกับ สารเคมีอันตราย ได้แก่ จำนวนพนักงานชายและหญงิ ในแต่ละพ้นื ทท่ี ำงาน ช่ัวโมงทำงาน หมายเหตุ : ประเภทแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศของสารเคมี (Chemical Hazard Information) ท่ีมีความน่าเช่อื ถือ และเป็นปจั จบุ ันทส่ี ามารถอา้ งอิงข้อมลู เชน่ 1) ฉลากผลติ ภัณฑ์ เช่น ฉลาก GHS 2) เอกสารข้อมูลความปลอดภยั ของสารเคมที ีจ่ ดั ทำโดยผู้ผลติ หรือผู้จำหน่าย ได้แก่ SDS 3) เอกสารขอ้ มูลความปลอดภัยของสารเคมที ่ีจดั ทำโดย International Occupational Safety and Health Information Centre; (CIS) ไดแ้ ก่ ICSC, MSDS 4) ขอ้ มูลจากภาครฐั และสมาคมการคา้ 5) เวบ็ ไซต์อินเทอรเ์ น็ต เช่น http://www.chemtrack.org/ 6) แหล่งข้อมลู เพ่ิมเติม (ดรู ายการท่ี ภาคผนวก ก) 5.3 ขนั้ ตอนการชี้บ่งอันตราย ขั้นตอนการชี้บ่งอันตรายสำหรับประเมินความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ประกอบดว้ ย 2 ข้นั ตอน ดังนี้ 5.3.1 การจดั ทำบญั ชรี ายการสารเคมีอนั ตราย สารเคมีที่ต้องนำมาพิจารณาในการประเมินความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้างฯ นั้น เป็น สารเคมีที่มีการใช้ในการทำงานที่ได้จากการวิเคราะห์งาน เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย ซึ่งต้อง พจิ ารณาภายใตก้ ฎหมายทเ่ี กีย่ วขอ้ ง ได้แก่ 1) กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกีย่ วกับสารเคมอี ันตราย พ.ศ. 2556 2) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย ลงวันท่ี 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมินความเสย่ี งสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมอี นั ตราย 16 3) ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่องแบบบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย และรายละเอยี ดขอ้ มูลความปลอดภยั ของสารเคมีอนั ตราย ลงวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556 4) สารเคมีอื่น ๆ ที่ไม่ได้ถูกกำหนดตามกฎหมายข้างต้น ที่กำหนดไว้ในกฎหมายอื่น ๆ ทีเ่ ก่ยี วขอ้ ง เชน่ สารกัมตรังสี สารกอ่ มะเร็ง เป็นตน้ ทงั้ นี้ มีสารเคมีบางประเภทท่ีไม่จำเปน็ ตอ้ งทำการประเมนิ ความเสี่ยงสขุ ภาพของลูกจ้างฯ เนือ่ งจากมขี อ้ บังคบั ใช้งานภายใต้เง่ือนไขท่ีควบคุมอยา่ งเคร่งครัด ไดแ้ ก่ 1) สารเคมีท่ีเปน็ ส่วนผสมทางเภสัชกรรม (Active Pharmaceutical Ingredients; API) 2) สารเคมีที่ไม่ได้ใช้เป็นสารเคมีอุตสาหกรรม ท่ีอยู่ภายใต้กฎระเบียบเฉพาะ เช่น สารเคมีทางการเกษตร เครือ่ งสำอาง อาหารและอาหารสัตว์ เป็นตน้ 3) สารเคมที ี่ใชเ้ พอ่ื วตั ถปุ ระสงค์ทางทหาร เช่น วตั ถรุ ะเบิด เป็นตน้ 4) สารเคมีทสี่ ามารถนำมาแปรรปู ใหม่ เพื่อนำกลับมาใชง้ านอีกครง้ั 5.3.2 การจัดประเภทผลกระทบของสารเคมอี นั ตราย หลังจากจัดทำบัญชีรายการสารเคมี ตามข้อ 5.3.1 แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องนำมา ดำเนินการจำแนกประเภทของสารเคมีอันตรายที่มีผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจ้าง ซึ่งผลกระทบอันตราย เกีย่ วกับสารเคมแี บง่ เป็น 3 ประเด็น ดงั ตารางที่ 5-1 ไดแ้ ก่ 1) ผลกระทบของอนั ตรายทางสขุ ภาพ 2) ผลกระทบของอนั ตรายทางสิง่ แวดลอ้ ม 3) ผลกระทบของอนั ตรายทางกายภาพ สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คู่มอื การประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมีอนั ตราย 17 ตารางที่ 5-1 ประเภทของสารเคมตี ามผลกระทบของอันตราย ทางสุขภาพ กลมุ่ ชนดิ อนั ตรายของสารเคมีทมี่ ผี ลกระทบของอนั ตราย ทางสิง่ แวดลอ้ ม ทางกายภาพ - สารที่มีความเปน็ พษิ (ทางปาก / ผิวหนัง / - วัตถรุ ะเบดิ - อนั ตรายเฉยี บพลันต่อ สภาพแวดลอ้ มในนำ้ การสดู ดม) - ก๊าซไวไฟ - อนั ตรายเรื้อรงั ต่อส่ิงแวดลอ้ มในน้ำ - สารที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง (การกัดกร่อน / - ละอองลอยไวไฟ - ความเปน็ อันตรายต่อโอโซนในชัน้ การระคายเคือง) - กา๊ ซออกซไิ ดซ์ บรรยากาศ - สารทเ่ี ปน็ อนั ตรายต่อ ดวงตา (ระคายเคือง / - ก๊าซภายใตค้ วามดนั ทำความเสยี หายรนุ แรงตอ่ ดวงตา) - ของเหลวไวไฟ - สารทก่ี อ่ อาการแพ้ทางระบบหายใจ - ของแขง็ ไวไฟ - สารที่กอ่ ใหเ้ กิดอาการแพท้ างผิวหนัง - สารทเี่ กดิ ปฏิกริ ยิ าไดเ้ อง - สารทกี่ ่อการกลายพันธุ์ - ของเหลวทลี่ ุกตดิ ไฟไดเ้ องในอากาศ - สารก่อมะเร็ง - ของแข็งทลี่ กุ ติดไฟไดเ้ องในอากาศ - สารทเี่ ปน็ พษิ ต่อระบบสืบพันธุ์ - สารเคมีที่เกดิ ความรอ้ นได้เอง - สารทม่ี ีความเป็นพษิ ต่ออวัยวะเป้าหมาย - สารทีส่ มั ผสั กับน้ำแลว้ ทำให้เกดิ กา๊ ซไวไฟ อยา่ งเฉพาะเจาะจง ซง่ึ มาจากการรับ - ของเหลวออกซิไดซ์ สัมผสั ครั้งเดยี ว - ของแขง็ ออกซิไดซ์ - สารทมี่ คี วามเปน็ พิษต่ออวัยวะเป้าหมาย - สารเพอรอ์ อกไซดอ์ ินทรยี ์ อย่างเฉพาะเจาะจง ซงึ่ มาจากการรับ - สารกดั กร่อนโลหะ สมั ผสั ซำ้ - สารทีม่ คี วามหน่วงในการระเบิด - สารทม่ี ีอันตรายจากการสำลกั ทงั้ น้ี ในการประเมนิ ความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอนั ตรายครง้ั น้ี กล่าวถึงเฉพาะชนิดที่ เกี่ยวข้องในการประเมินความเสี่ยงสุขภาพในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมี ที่มุ่งเน้นผลกระทบของอันตรายทาง สุขภาพเท่านั้น โดยมีการระบุชี้บ่งอันตรายของสารเคมีของผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นภายใต้หลักการทางพิษวิทยา ซึง่ ไดม้ กี ารจำแนกขอ้ มูลอนั ตรายของสารเคมีได้ 2 ประเภทหลกั ดงั นี้ (1) สารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแบบเฉียบพลัน เป็นกลุ่มสารเคมีที่มีการแสดงค่า ขดี จำกดั (Threshold) หรือคา่ ปรมิ าณสารเคมที ี่มากท่ีสุด กลา่ วคอื เมอื่ สัมผัสทกุ วนั ซ้ำ ๆ แลว้ จะไม่ทำใหเ้ กิดความ ผิดปกติทางสุขภาพ หากไม่ได้สัมผัสเกินกว่าปรมิ าณทกี่ ำหนด ซึง่ สามารถแบ่งกลุม่ ย่อย ดงั นี้ - สารที่มคี วามเป็นพิษ (ทางปาก / ผวิ หนงั / การสดู ดม) - สารทีเ่ ป็นอันตรายตอ่ ผวิ หนัง (การกดั กรอ่ น / การระคายเคอื ง) สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คู่มอื การประเมินความเส่ยี งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณใี ช้สารเคมีอันตราย 18 - สารท่เี ป็นอนั ตรายต่อดวงตา (ระคายเคือง / ทำความเสียหายรุนแรงต่อดวงตา) - สารทกี่ อ่ อาการแพ้ทางระบบหายใจ - สารท่กี ่อใหเ้ กดิ อาการแพ้ทางผิวหนงั (2) สารทเ่ี ป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพแบบเร้อื รงั เปน็ กลมุ่ ของสารทไ่ี มม่ คี า่ ขีดจำกัดในการเป็น อนั ตราย ซึ่งหมายความวา่ ไม่ว่าจะสัมผสั สารเคมีปรมิ าณน้อยเพียงใด เมอ่ื สมั ผสั ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน กม็ ีโอกาสท่ี จะเกิดความผดิ ปกตทิ างสุขภาพได้ แต่ทั้งนอี้ าจมบี างสารทมี่ กี ารแสดงค่าขีดจำกัด ซึง่ สามารถแบง่ กลุม่ ยอ่ ย ดงั น้ี - สารก่อมะเรง็ - สารกอ่ การกลายพันธ์ุ - สารที่เป็นพษิ ตอ่ ระบบสบื พันธุ์ - สารทเ่ี ป็นพิษแบบเจาะจงอวัยวะ สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คู่มอื การประเมินความเส่ียงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมีอันตราย 19 บทที่ 6 การจดั ระดบั อันตรายตามลกั ษณะของสารเคมี 6.1 หลักการจัดระดับอันตรายตามลักษณะของสารเคมี คณะทำงานประเมินความเส่ียงสุขภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมีอนั ตราย ตอ้ งทำการจัดระดับ อันตรายตามลักษณะของสารเคมี เพื่ออธิบายลักษณะอันตรายของสารเคมีที่ลูกจ้างใช้ในการปฏิบัติงาน ซึ่งเปน็ กระบวนการดำเนินการจัดระดับความเป็นอันตราย (Hazard Rating) สำหรับชี้วัดความรุนแรงของอันตราย ที่อาจเกิดขนึ้ 6.2 การรวบรวมขอ้ มูล การอธิบายลักษณะของอันตราย จำเป็นต้องทำการรวบรวมข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับข้อมูล สารสนเทศของสารเคมี (Chemical Hazard Information) ซง่ึ ข้อมูลหลกั ของสารเคมี ทใ่ี ช้จดั ทำรายช่อื สารเคมี ที่เป็นอนั ตรายตอ่ สุขภาพของลกู จา้ งท่ีใชห้ รอื มีอยู่ในการทำงานหรือสภาพแวดลอ้ มการทำงาน ซงึ่ เป็นข้อมูลบ่งชี้ รายละเอยี ดขอ้ มลู เก่ยี วกับสารเคมี ดงั ตอ่ ไปนี้ ข้อมูลแสดงความเป็นอันตราย (Hazard Phases; H-Phases) แสดงข้อมูลเกี่ยวกับความ เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (Health Hazards) ซึ่งเป็นกลุ่มความเป็นอันตรายที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตราย ต่อมนุษย์ ทั้งในระยะสั้น (ความเป็นอันตรายเฉียบพลัน) หรือในระยะยาว (ความเป็นอันตรายเรื้อรัง) ซึ่งมีจำนวน ความเป็นอันตรายทงั้ หมด 10 ประเภท ได้แก่ - ความเปน็ พิษเฉียบพลนั - การกดั กร่อนและระคายเคอื งต่อผวิ หนัง - การทำลายดวงตาอยา่ งรนุ แรงและการระคายเคืองต่อดวงตา - การทำใหไ้ วตอ่ การกระตนุ้ อาการแพ้ต่อระบบทางเดนิ หายใจหรือผวิ หนัง - การก่อใหเ้ กิดการกลายพนั ธ์ุของเซลลส์ ืบพนั ธุ์ - การกอ่ มะเร็ง - ความเปน็ พษิ ตอ่ ระบบสืบพันธ์ุ - ความเป็นพษิ ต่ออวยั วะเปา้ หมายอย่างเฉพาะเจาะจง จากการรบั สัมผสั ครั้งเดยี ว - ความเปน็ พษิ ตอ่ อวยั วะเปา้ หมายอย่างเฉพาะเจาะจง จากการรบั สัมผสั ซำ้ - ความเปน็ อันตรายจากการสำลัก สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คูม่ อื การประเมนิ ความเส่ียงสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณใี ช้สารเคมีอนั ตราย 20 โดยรหัสข้อมูลแสดงความเป็นอันตราย ที่ใช้บ่งบอกลักษณะของความเป็นอันตรายที่จะเกิด จากสารเคมีจะใช้อักษร H นำหน้า ตามด้วยตัวเลขที่แสดงรหัสความเสี่ยงที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับความเป็น อนั ตรายต่อสุขภาพ ซ่ึงอาจเป็นแบบรหสั เด่ียว และรหสั แบบผสม ดังตารางท่ี 6-1 ตารางที่ 6-1 รหสั ขอ้ มูลแสดงความเปน็ อนั ตรายของสารเคมีทเี่ ป็นอนั ตรายต่อสขุ ภาพ รหสั แบบเดีย่ ว รหัสแบบผสม H300 เปน็ พิษมากเมอ่ื กินเข้าไป H300+H310 เปน็ พิษมากเมื่อกินเขา้ ไป และเมอื่ สมั ผสั กับผิวหนงั H301 เป็นพิษเมอ่ื กินเข้าไป H300+H330 เปน็ พษิ มากเม่ือกินเขา้ ไป และเม่ือสดู ดม H302 อนั ตรายเม่อื กนิ เขา้ ไป H310+H330 เปน็ พิษมากเมอ่ื สัมผัสกับผิวหนงั และเม่ือสดู ดม H303 อาจเป็นอันตรายเมือ่ กนิ เข้าไป H300+H310+H330 เปน็ พิษมากเม่อื กินเขา้ ไป เมือ่ สมั ผสั กบั ผิวหนงั และเม่อื สดู ดม H304 อาจทำให้เสยี ชีวิตเเมื่อกินเขา้ ไป และสำลักเข้าทางเดิน H301+H311 เป็นพษิ เมอื่ กนิ เข้าไป และเมอื่ สมั ผสั กบั ผิวหนัง หายใจ H305 อาจเป็นอันตรายเเมื่อกนิ เขา้ ไป และสำลกั เข้าทางเดนิ H301+H331 เปน็ พิษเม่อื กินเขา้ ไป และเมอ่ื สดู ดม หายใจ H310 เปน็ พษิ มากเมื่อสมั ผสั กับผวิ หนัง H311+H331 เปน็ พิษเม่ือสมั ผสั กบั ผวิ หนงั และเมอื่ สดู ดม H311 เปน็ พษิ เมอื่ สัมผสั ผวิ หนงั H301+H311+H331 เปน็ พษิ เมอ่ื กนิ เขา้ ไป เมอ่ื สมั ผสั กบั ผิวหนัง และเมือ่ สูดดม H312 อนั ตรายเมือ่ สัมผัสกบั ผิวหนัง H302+H312 อนั ตรายเมื่อกนิ เขา้ ไป และเมอื่ สมั ผสั กับผิวหนัง H313 อาจเป็นอนั ตรายเมอื่ สมั ผสั กบั ผิวหนงั H302+H332 อันตรายเมื่อกินเขา้ ไป และเม่อื สดู ดม H314 เกิดแผลไหมร้ นุ แรงตอ่ ผวิ หนัง /ทำลายดวงตา H312+H332 อันตรายเมื่อสัมผสั กบั ผิวหนัง และเมอื่ สดู ดม H315 ระคายเคืองต่อผิวหนัง H302+H312+H332 อันตรายเมอื่ กนิ เข้าไป เม่อื สมั ผสั กับผิวหนงั และเมื่อสดู ดม H316 ระคายเคอื งต่อผิวหนังเล็กน้อย H303+H313 อาจเปน็ อนั ตรายเมอื่ กนิ เขา้ ไป และเมอื่ สมั ผสั กบั ผิวหนงั H317 อาจเกิดอาการแพเ้ มื่อสัมผสั กบั ผิวหนัง H303+H333 อาจเปน็ อันตรายเมอ่ื กนิ เข้าไป และเมอ่ื สดู ดม H318 อนั ตรายรา้ ยแรงทต่ี า H313+H333 อาจเปน็ อันตรายเมอ่ื สมั ผสั กับผวิ หนงั และเมื่อสูดดม H319 ระคายเคอื งรุนแรงต่อตา H303+H313+H333 อาจเป็นอนั ตรายเมือ่ กินเขา้ ไป สัมผสั กบั ผวิ หนงั และเมอื่ สูดดม H320 ระคายเคอื งตอ่ ตา H315+H320 ระคายเคอื งต่อผวิ หนัง และดวงตา H330 เปน็ พษิ มากเมื่อสดู ดม H331 เป็นพิษเมอ่ื สูดดม H332 อนั ตรายเมอื่ สดู ดม สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
ค่มู ือการประเมนิ ความเสี่ยงสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย 21 รหสั แบบเดยี่ ว รหัสแบบผสม H333 อาจเป็นอันตรายเมื่อสดู ดม H334 อาจเกิดอาการแพเ้ มอื่ สดู ดม H335 ระคายเคืองตอ่ ทางเดนิ หายใจ H336 อาจทำให้เกิดอาการมนึ งงหรือวงิ เวียนศรี ษะ H340 อาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบต่อการถา่ ยทอดทางพนั ธกุ รรม H341 กอ่ ให้เกิดผลกระทบต่อการถา่ ยทอดทางพันธุกรรม H350 อาจกอ่ ใหเ้ กดิ มะเรง็ H350i อาจกอ่ ใหเ้ กดิ มะเร็งจากการสูดดม H351 มีความเสยี่ งตอ่ การเกดิ มะเรง็ H360 อาจก่อให้เกดิ ความผดิ ปกตติ อ่ การปฏสิ นธหิ รอื ต่อทารก ในครรภ์ H360d อาจก่อใหเ้ กดิ ความผดิ ปกติต่อทารกในครรภ์ H360f อาจกอ่ ให้เกิดความผดิ ปกติตอ่ การปฏสิ นธิ H361 ก่อใหเ้ กดิ ความผดิ ปกติต่อการปฏสิ นธหิ รือต่อทารกใน ครรภ์ H361d กอ่ ใหเ้ กิดความผดิ ปกตติ อ่ ทารกในครรภ์ H361 f กอ่ ให้เกิดความผดิ ปกตติ อ่ การปฏิสนธิ H362 อาจทำใหเ้ ป็นอันตรายต่อการให้นมบุตร H370 ทำใหเ้ กิดการทำลายรา่ งกายทไี่ มอ่ าจรักษาใหห้ ายได้ H371 อาจทำให้เกิดการทำลายรา่ งกายทไ่ี ม่อาจรักษาใหห้ ายได้ H372 ทำใหเ้ กดิ การทำลายร่างกายท่ีไมอ่ าจรกั ษาใหห้ ายได้ เมื่อสัมผสั ซำ้ ๆ เป็นเวลานาน H373 อาจทำให้เกดิ การทำลายรา่ งกายทไี่ ม่อาจรกั ษาใหห้ าย ได้เมื่อสมั ผสั ซ้ำ ๆ เป็นเวลานาน สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คู่มอื การประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย 22 6.3 ขน้ั ตอนการจัดระดบั อันตรายตามลกั ษณะของสารเคมี ขั้นตอนการจัดระดับอันตรายตามลักษณะของสารเคมี เพื่ออธิบายลักษณะอันตราย สำหรับประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตรายนั้น มี 2 ขั้นตอน ดังน้ี (แสดงวิธีการจัด ระดบั อนั ตรายตามลักษณะของสารเคมีใน ดภู าคผนวก ข) 6.3.1 การระบลุ กั ษณะของสารเคมีอนั ตราย ทำการระบุข้อมลู สารสนเทศของสารเคมีอันตรายท่ีมีการสัมผัสของลูกจ้างในการทำงานจริง โดยพิจารณาจากข้อมูลแสดงความเป็นอันตราย (Hazard Phases; H-Phases) ซึ่งระบุเกี่ยวกับศักยภาพของ สารเคมีอันตรายที่จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของลูกจ้าง โดยข้อมูลแสดงความเป็นอันตรายที่ระบุได้นน้ั จะมคี วามสอดคล้องกับผลกระทบต่อสขุ ภาพของสารเคมอี นั ตรายที่ได้ถูกรวบรวมไว้ ในข้ันตอนการชีบ้ ่งอันตราย ทก่ี ลา่ วมาแล้วในบทที่ 5 6.3.2 การจดั ระดบั อันตรายของสารเคมีอันตราย เป็นการประมาณระดับอันตรายของสารเคมี ท่ีอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งอันตรายแบบเฉียบพลัน หรืออันตรายแบบเรื้อรัง โดยนำข้อมูลแสดงความเป็นอันตราย ทั้งรหัสเดี่ยว หรือ รหัสผสม มาใช้จัดระดับอันตรายของสารเคมีในการใช้งานของลูกจ้าง ดังแสดงรายละเอียดในตารางท่ี 6-3 เพื่อจัดระะดบั อันตรายของสารเคมี แบ่งเป็น 5 ระดับ ดงั ตารางท่ี 6-2 ตารางท่ี 6-2 การจัดระดับอนั ตรายของสารเคมี อนั ตรายของสารเคมี คำอธบิ ายผลกระทบต่อสขุ ภาพของอนั ตราย ระดับอนั ตรายของ สารเคมี ต่ำมาก ไม่มีผลกระทบของอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ เมอื่ สมั ผัสเขา้ สรู่ ่างกาย หรือยังไม่มี 1 ตำ่ ขอ้ มลู ระบุว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 ปานกลาง มีผลกระทบของอันตรายต่อสุขภาพที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำให้ 3 เกดิ การเจ็บปว่ ยต่อรา่ งกายหากสมั ผสั เข้าสู่รา่ งกาย สงู 4 สงู มาก มีผลกระทบของอันตรายต่อสุขภาพที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งทำให้เกิดการเจ็บป่วยต่อร่างกาย หากสัมผัสซ้ำหรือมีการสัมผัสเป็น 5 ระยะเวลานาน และอาจทำให้เสยี ชีวติ มีผลกระทบของอันตรายต่อสุขภาพท่ีไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ซึ่งทำให้เกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงต่อร่างกาย หรือทำให้เสียชีวิต หากสัมผสั ซำ้ เพียงคร้งั เดียวหรอื มีการสมั ผสั เป็นระยะเวลานาน มีผลกระทบของอนั ตรายตอ่ สุขภาพ ทำให้เกิดการเจ็บป่วยอย่างรุนแรงต่อ รา่ งกาย หรือทำให้เสยี ชวี ติ สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คู่มือการประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมอี ันตราย 23 นอกจากน้ี ในการประมาณระดับอันตรายของสารเคมีที่อาจก่อให้เกดิ ผลกระทบต่อสุขภาพ โดยพิจารณาจากข้อมูลแสดงความเป็นอันตราย (Hazard Phases; H-Phases) ในขา้ งตน้ นั้น สามารถพิจารณา ใช้ข้อมูลอื่นๆ ในการอธิบายความเป็นอันตรายจากของสารเคมีที่แสดงเกี่ยวกับศักยภาพของสารเคมีอันตรายท่ี จะกอ่ ให้เกดิ ผลกระทบตอ่ สุขภาพ เพื่อจัดระดับอันตรายตามลกั ษณะของสารเคมี (ดูภาคผนวก ค) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คู่มือการประเมินความเสย่ี งสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี ันตราย ตารางที่ 6-3 ระดับอันตรายของสารเคมีตามรหสั ข้อมูลแสดงความเป็นอันตร ผลกระทบของอันตราย ความเปน็ อันตรายเฉียบพลนั ของสารเคมี การสูดดม การดดู ซมึ การดูดซมึ การกลนื กิน อ - สารที่มีความเป็นพษิ ผ่านผวิ หนงั ผ่านดวงตา เฉยี บพลนั (ทางปาก H330 H300 ผวิ หนงั และการสูดดม) H310 - H331 H311 - H301 H332 H312 - H302 - - - H303 - H313 - - - สารทเี่ ป็นอนั ตรายต่อ - H314 H314 - ผวิ หนัง/ ดวงตา - - H318 - - (การกดั กร่อน) - สารทเ่ี ปน็ อนั ตรายตอ่ ผิวหนัง/ ดวงตา - (การระคายเคอื ง) - H315 H319, - H320 - H316 - - - สารทกี่ ่ออาการแพท้ าง H334 - - - ระบบหายใจ/ ผิวหนัง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั แ
24 ราย ความเป็นอนั ตรายเร้อื รัง คา่ ระดบั อนั ตราย ของสารเคมี อ่นื ๆ การสูดดม การดดู ซมึ การดูดซมึ การกลืนกิน อนื่ ๆ ผ่านผวิ หนงั ผา่ นดวงตา 5 - ----- ----- - 4 ----- - 3 ----- - 2 ----- - 1 ----- - 4 ----- - 3 ----- - 2 ----- - ---- - 1 และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน) - 3
คู่มือการประเมนิ ความเส่ียงสุขภาพลกู จ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย ผลกระทบของอนั ตราย ความเปน็ อันตรายเฉยี บพลนั ของสารเคมี การสูดดม การดดู ซมึ การดดู ซมึ การกลนื กนิ อ - สารทม่ี คี วามเปน็ พษิ เมอ่ื ผ่านผวิ หนัง ผา่ นดวงตา สมั ผสั ซำ้ (ทางปาก, - - ผิวหนงั , และการสดู ดม - H317 - - - - - - - สารก่อมะเรง็ - - - - สารกอ่ การกลายพันธ์ุ - --- - --- - สารทีเ่ ปน็ พษิ ตอ่ ระบบ - --- สบื พนั ธ์ุ - --- - --- --- - --- ---- สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั แ
25 ความเป็นอนั ตรายเรื้อรัง คา่ ระดับอันตราย ของสารเคมี อ่นื ๆ การสูดดม การดูดซมึ การดูดซมึ การกลืนกิน อ่นื ๆ ผา่ นผิวหนัง ผา่ นดวงตา 2 - 1 ----- - 4 H372 ----- ----- --- - - H373 3 - H350i - - - H350 5 --- - - H351 4 --- - - H341 5 --- - - H340 4 --- - - H360, H360d 5 --- - H360f 4 - H361, H361d, --- - 3 H361f - H362 และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คู่มอื การประเมนิ ความเสย่ี งสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมอี นั ตราย ผลกระทบของอนั ตราย ความเปน็ อันตรายเฉียบพลนั ของสารเคมี การสูดดม การดูดซมึ การดดู ซมึ การกลืนกิน อ - สารทเ่ี ปน็ พษิ ตอ่ อวยั วะ ผ่านผวิ หนัง ผ่านดวงตา เปา้ หมายอยา่ ง - H3 เฉพาะเจาะจง ซงึ่ มาจาก --- การสัมผสั ครั้งเดียว - H H335 --- สารที่เปน็ พษิ ตอ่ อวยั วะ H336 --- เป้าหมายอย่าง --- เฉพาะเจาะจง ซึง่ มาจาก - --- การสัมผัสซำ้ - --- สารท่ีมอี ันตรายจากการ - - - H304 สำลกั - - - H305 สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย แ
26 ความเปน็ อันตรายเรือ้ รัง คา่ ระดับอนั ตราย ของสารเคมี อน่ื ๆ การสูดดม การดูดซมึ การดูดซมึ การกลืนกนิ อื่น ๆ ผ่านผิวหนัง ผ่านดวงตา 5 - 370 - - - - H371 - - - - - 4 3 ----- - 1 4 ----- - - - - - - H372 - - - - - H373 3 3 ----- - 2 ----- - และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู ือการประเมนิ ความเสย่ี งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี ันตราย 27 บทท่ี 7 การจดั ระดับการสมั ผัส 7.1 หลักการจัดระดับการสัมผัส คณะทำงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจา้ ง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย ต้องพิจารณาระดบั ความถี่ ในการสมั ผัสสารเคมี ระดับระยะเวลาการสมั ผัส และระดับความเขม้ ขน้ ของสารเคมี ทกุ กรณีที่เป็นไปได้ ในทุกช่องทางทเี่ ข้าสูร่ ่างกายของลูกจา้ ง ซึ่งเป็นกระบวนการดำเนินการจัดระดบั การสัมผัส (Exposure Rating) สำหรบั ชว้ี ัดโอกาสการสมั ผสั สารเคมีอนั ตราย 7.2 การรวบรวมขอ้ มูล การจัดระดับการสัมผัสของสารเคมีอันตราย จำเป็นต้องทำการรวบรวมข้อมูลเฉพาะเกี่ยวกับ ข้อมูลสารสนเทศของสารเคมี และข้อมูลสนับสนุนทเ่ี ก่ียวข้องในการประเมินการสัมผัสในสถานที่ทำงาน ดังตอ่ ไปนี้ 7.2.1 ขอ้ มลู เก่ยี วกับการสัมผสั ของกลุ่มลูกจ้าง ดงั ต่อไปนี้ (1) ขอ้ มลู ความถใี่ นการสมั ผัสสารเคมี (2) ขอ้ มูลระยะเวลาที่สัมผัสสารเคมี (3) ขอ้ มูลความเขม้ ข้นหรือขนาดของการสัมผัสสารเคมี 7.2.2 ข้อมูลสนับสนุน ได้แก่ ข้อมูลปัจจัยอื่น ๆ เกี่ยวกับมาตรการทางด้านความปลอดภัยและ อาชีวอนามัย ที่มีอยู่ ซึ่งสามารถนำมาประกอบการพิจารณากำหนดค่าปรับแก้ไข (Modifying Factors) เช่น มาตรการในการทำงาน และพฤติกรรมการทำงาน เปน็ ตน้ 7.3 ขน้ั ตอนการจดั ระดับการสัมผสั ขั้นตอนจัดระดับการสัมผัส สำหรับการประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมี อนั ตราย ประกอบดว้ ย 3 ขน้ั ตอน ดังนี้ 7.3.1 กำหนดระดับของขอ้ มลู ทเ่ี กย่ี วกับการสัมผัส 1) ระดับความถีก่ ารสมั ผสั สารเคมี (Frequency of Exposure Rating; FR) การประเมินความถใี่ นการสัมผสั สารเคมีในการทำงาน มักใช้เปน็ ขอ้ มลู ในการประเมินการ สัมผัส กรณีสารเคมีอันตรายที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพลูกจ้างแบบเฉียบพลัน ซึ่งการ ประเมินความถี่ในการสัมผัสสารเคมี สามารถดำเนินการโดยการสังเกตการสัมผัสสารเคมีในการทำงานแต่ละครั้ง ตลอดระยะเวลาในการทำงาน ดงั ตารางท่ี 7-1 สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คูม่ อื การประเมินความเส่ียงสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณีใช้สารเคมอี ันตราย 28 ตารางที่ 7-1 ระดับความถก่ี ารสมั ผสั สารเคมีอันตรายทอี่ าจก่อให้เกดิ ผลกระทบที่เปน็ อนั ตรายแบบเฉยี บพลัน ความถ่ีการสมั ผัสสารเคมี คำอธิบายความถี่การสัมผสั สารเคมี* ระดบั ความถ่ีการสมั ผัสสารเคมี นาน ๆ ครั้ง สัมผสั ปลี ะ 1 ครง้ั 1 ไม่บ่อย (โดยการสัมผัสแตล่ ะครัง้ 2 ชวั่ โมง ถึง 4 ชัว่ โมง 2 ต่อเน่ืองกันใน 1 กะ ) คอ่ นข้างบอ่ ย สัมผสั ปลี ะ 2 ถึง 3 ครง้ั 3 บ่อย (โดยการสมั ผสั แต่ละครงั้ 2 ช่ัวโมง ถงึ 4 ช่วั โมง 4 ประจำ ตอ่ เนือ่ งกันใน 1 กะ ) 5 สมั ผสั เดือนละ 2 ถึง 3 ครั้ง (โดยการสมั ผัสแตล่ ะคร้งั 2 ช่วั โมง ถึง 4 ช่ัวโมง ตอ่ เน่อื งกนั ใน 1 กะ ) สัมผสั 2 ชวั่ โมง ถงึ 4 ชัว่ โมง ตอ่ เนื่องกันใน 1 กะ สัมผสั ต่อเนอื่ งกนั ตลอดทง้ั กะ หมายเหตุ * คำอธิบายความถ่ีการสัมผัสสารเคมีในการจัดระดับความถ่ีการสัมผัสสารเคมี สามารถปรับหรือดัดแปลงการกำหนดได้ ท้ังนขี้ นึ้ อยกู่ ับบรบิ ทและความเหมาะสมของสถานประกอบกิจการ 2) ระดับระยะเวลาท่สี ัมผสั สารเคมี (Duration of Exposure Rating; DR) การประเมินระยะเวลาในการทำงาน มักใช้เป็นข้อมลู ในการประเมินการสัมผัสกรณี สารเคมีอันตรายที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายแบบเรื้อรัง ซึ่งการประเมินระยะเวลาที่สัมผัสสารเคมี สามารถดำเนินการ โดยการรวมระยะเวลาการทำงานกับสารเคมีแต่ละครั้งตลอดระยะเวลาในการทำงาน ดงั ตารางท่ี 7-2 สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คู่มอื การประเมนิ ความเส่ยี งสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมอี นั ตราย 29 ตารางท่ี 7-2 ระดับระยะเวลาท่ีสมั ผัสสารเคมีอันตรายท่ีอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่เปน็ อนั ตรายแบบเร้อื รัง ระยะเวลาการทำงานทลี่ ูกจา้ งสมั ผัส คำอธิบายระยะเวลาการทำงาน ระดับระยะเวลา สารเคมี ทีล่ กู จ้างสมั ผัสสารเคมี ทส่ี ัมผสั สารเคมี (คิดเปน็ % ตอ่ ตลอดระยะเวลาการ ทำงาน 8 ชวั่ โมง/วัน หรือ 40 ช่วั โมง/ สัปดาห์) น้อยกว่า 12.5% นอ้ ยกวา่ 1 ชว่ั โมงตอ่ กะ/ นอ้ ยกว่า 1 5 ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ 12.5-25% 1-2 ชว่ั โมงตอ่ กะ/ ตั้งแต่ 5 ชวั่ โมง 2 แตไ่ มเ่ กนิ 10 ชั่วโมงตอ่ สปั ดาห์ 25-50% 2-4 ช่ัวโมงต่อกะ/ ตงั้ แต่ 10 ช่ัวโมง 3 แต่ไมเ่ กนิ 20 ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ 50-87.5% 4-7 ช่วั โมงต่อกะ/ ต้งั แต่ 20 ชวั่ โมง 4 แตไ่ มเ่ กนิ 35 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ มากกว่า 87.5% มากกว่า 7 ชวั่ โมงตอ่ กะ/ มากกว่า 5 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 3) ระดับขนาดของการสมั ผสั (Magnitude of Exposure Rating; MR) การจัดระดับขนาดของการสัมผัส โดยวิธีการประเมินเชิงปริมาณ พิจารณาจาก ค่าเฉลี่ยความเข้มข้นของสารเคมีที่ลูกจ้างสัมผัสตลอดระยะเวลาทำงาน ซึ่งการกำหนดค่าระดับความเข้มข้นของ สารเคมีที่สัมผัส โดยมุ่งเน้นการประเมินการสัมผัสในกรณีสารเคมีที่สัมผสั ทางการสูดดมเป็นสำคัญ สามารถดำเนินการ จัดระดบั ความเข้มข้นสารเคมีทส่ี มั ผสั ดงั ตารางท่ี 7-3 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คมู่ ือการประเมินความเส่ียงสุขภาพลกู จา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมอี นั ตราย 30 ตารางท่ี 7-3 ระดับขนาดของการสัมผัส (กรณีสารเคมีที่สมั ผัสทางการสดู ดม) ขนาดของการสมั ผัสของลกู จา้ ง * ระดบั ขนาดของการสัมผสั (คดิ เปน็ % ต่อขดี จำกัดการสัมผัสในการทำงาน) 1 ตำ่ กว่า10% ของ OEL-TWA ตำ่ กว่า 50% ของ OEL-TWA 2 ต่ำกว่า 75% ของ OEL-TWA 3 เทา่ กบั 75% ถึง 100% ของ OEL-TWA 4 สูงกว่า 100% ของ OEL-TWA 5 หมายเหตุ * ในกรณีระดับขนาดของการสัมผัสที่มีการพิจารณาขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงาน เป็นค่า OEL-STEL หรือ OEL-C ให้จัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่สัมผัสที่ระดับ 5 เนื่องจากเป็นขีดจำกัดการสัมผัสในการทำงานที่เป็น คา่ ทีก่ ำหนด เพื่อเนน้ ปกปอ้ งคนทำงานจากการสัมผสั สารเคมีทีส่ ามารถก่อใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ สขุ ภาพทนั ที ทั้งนี้ การจัดระดับความเข้มข้นสารเคมี สำหรับการสัมผัสสารเคมีกรณีการดูดซึมเข้าสู่ ร่างกาย โดยพิจารณาจากความสัมพันธ์ระหว่างระดับของการคงอยู่ของสารเคมี และระดับการดูดซึมเข้าสู่ ร่างกายของสารเคมี ดังตารางที่ 7-4 ซึ่งมีคำอธิบายเกี่ยวกับระดับของการคงอยู่ของสารเคมี และระดับการดูด ซมึ เขา้ สรู่ ่างกายของสารเคมี ดงั ตารางท่ี 7-5 และตารางที่ 7-6 ตามลำดับ ตารางที่ 7-4 ระดับขนาดของการสัมผสั (กรณีสารเคมีท่ีสมั ผสั ทางการดดู ซมึ เขา้ สรู่ ่างกาย) ระดบั การคงอยูข่ องสารเคมี ระดบั การดูดซึมเขา้ สู่ร่างกายของ ระดบั ความเขม้ ขน้ ของสารเคมีทส่ี มั ผสั ต่ำ สารเคมี ต่ำ 1 ปานกลาง 2 สงู 3 ปานกลาง ตำ่ 2 ปานกลาง 3 4 สูง ตำ่ 3 สงู ปานกลาง 4 5 สูง สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คมู่ ือการประเมินความเสย่ี งสุขภาพลกู จา้ ง ในกรณใี ช้สารเคมีอันตราย 31 ตารางที่ 7-5 ระดับการคงอยู่ของสารเคมีที่ใช้ในการจัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่สัมผัส กรณีสารเคมีที่ สัมผสั ทางการดดู ซมึ เขา้ สู่รา่ งกาย ระดบั การคงอยู่ของ คำอธิบายการคงอยขู่ องสารเคมี สารเคมี ต่ำ - สารเคมีท่ีสามารถแขวนลอยในอากาศได้เล็กน้อย ซึ่งมีระยะเวลาปรากฏอยู่ใน สภาพแวดล้อมการทำงานได้ไม่นาน - สารเคมที ่ไี ม่สามารถซมึ ซบั บนเส้ือผ้าและพ้นื ผวิ การทำงาน - สารเคมีไมส่ ามารถดดู ซึมเขา้ สรู่ ่างกาย ปานกลาง - สารเคมีที่สามารถแขวนลอยในอากาศได้ปานกลาง ซึ่งมีระยะเวลาปรากฏอยู่ใน สภาพแวดล้อมการทำงานได้ช่วงเวลาหนึ่ง เช่น สารเคมีที่มีการระเหยตัวปานกลาง หรือ สารเคมีท่ีมีกล่ินเม่อื เจือปนในอากาศ เป็นตน้ - สารเคมที ่สี ามารถซึมซบั บนเสอ้ื ผา้ และพนื้ ผวิ การทำงาน - สารเคมีสามารถดูดซมึ ผา่ นเข้าสูร่ า่ งกาย สูง - สารเคมีทสี่ ามารถแขวนลอยในอากาศไดด้ ี ซ่ึงมีระยะเวลาปรากฏ และกระจายตัวอยู่ใน สภาพแวดล้อมการทำงานไดช้ ่วงเวลานาน เช่น สารเคมีท่มี ีการระเหยตวั เรว็ หรอื สารเคมีท่ี เปน็ ละอองฝอย ฝุ่นละออง หรือสารเคมที ม่ี ีกล่ินเมอ่ื เจือปนในอากาศ เป็นตน้ - สารเคมีท่ีสามารถซมึ ซบั ได้ดบี นเสอ้ื ผ้าและพ้นื ผิวการทำงาน - สารเคมีสามารถดูดซมึ ผ่านเข้าสรู่ า่ งกายได้ดี สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องคก์ ารมหาชน)
คูม่ ือการประเมนิ ความเสี่ยงสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณีใช้สารเคมอี ันตราย 32 ตารางที่ 7-6 ระดับการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายของสารเคมีที่ใช้ในการจัดระดับความเข้มข้นของสารเคมีที่สัมผัส กรณสี ารเคมที สี่ ัมผสั ทางการดูดซมึ เขา้ ส่รู า่ งกาย ระดบั การดดู ซึมเขา้ สู่ คำอธิบายการดดู ซึมเขา้ สู่รา่ งกายของสารเคมี ร่างกายของสารเคมี - ปริมาณพื้นที่ของร่างกายที่สัมผัสสารเคมี มีพื้นที่สัมผัสค่อนข้างจำกัด (เฉพาะบริเวณฝ่ามือ) ต่ำ หรือมขี นาดพื้นที่ของร่างกายทส่ี ัมผัสสารเคมี ไมเ่ กิน 0.04 ตารางเมตร (ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 2 ของ พนื้ ทรี่ ่างกายท้งั หมด) - การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่ไม่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง หรือไม่มีอาการ การระคายเคืองหรือการกัดกรอ่ น ปานกลาง - ปรมิ าณพื้นทข่ี องรา่ งกายท่ีสมั ผัสสารเคมี มพี ื้นที่สัมผสั บางส่วนของรา่ งกาย (การสัมผัสดว้ ยมอื ข้างหนึ่งหรือดว้ ยมือทงั้ สองข้างขนึ้ ไปถงึ ขอ้ ศอก) หรอื มีขนาดพน้ื ทีข่ องร่างกายทส่ี ัมผสั สารเคมี ตั้งแต่ 0.04 – 0.1 ตารางเมตร (รอ้ ยละ 2 - 5 ของพ้นื ทีร่ ่างกายทงั้ หมด) - การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายที่เกิดการระคายเคืองหรือการกัดกร่อน ทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน และมีอาการผ่ืนแดง สงู - ปริมาณพื้นที่ของร่างกายที่สัมผัสสารเคมี มีพื้นที่สัมผัสครอบคลุมหลายบริเวณของร่างกาย (การสัมผัสมากกว่ามือทั้งสองข้างขึ้นไปถึงข้อศอก และบริเวณส่วนอื่นของร่างกาย) หรือ มีขนาด พื้นที่ของร่างกายที่สัมผัสสารเคมี เกินกว่า 0.1 ตารางเมตร (มากกว่าร้อยละ 5 ของพื้นท่ี ร่างกายทั้งหมด) - การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายท่ีเกิดการระคายเคืองหรือการกัดกร่อนรุนแรง ทำให้ผิวหนังแห้งลอก และแตกอยา่ งรุนแรง หรอื เกิดความเสยี หายของดวงตารว่ มด้วย นอกจากน้ี ในการพิจารณาค่าระดับความเข้มข้นหรือขนาดของการสัมผัสสารเคมีอันตราย ยังสามารถกำหนดค่าปรับแก้ไข (Modifying Factors) ในการประเมินการสัมผัสสารเคมี โดยพิจารณาข้อมูล เกยี่ วกับมาตรการในการทำงาน และพฤติกรรมการทำงาน เพื่อนำมาพิจารณาปรับแก้ไขสำหรับการเพ่ิมหรือลดค่า ระดับความเข้มของของสารเคมีที่สัมผัส เช่น หากมีข้อมูลพฤติกรรมการทำงานที่ไม่ปลอดภัยที่ทำให้เกิดการ สัมผัสสารเคมีเพิ่มขึ้นจากการฝ่าฝืนขั้นตอนการปฏิบัติงาน จะมีค่าบวกเพิ่มค่าระดับความเข้มของการสัมผัส สารเคมี หรือหากมีข้อมลู มาตรการแนวทางในการลด หรอื ควบคมุ ป้องกนั ทบี่ คุ คล ด้วยการสวมอปุ กรณค์ ้มุ ครอง ความปลอดภยั ส่วนบคุ คล สามารถลดค่าระดับความเขม้ ของการสัมผัสสารเคมีลงได้ เป็นต้น สถาบันสง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คูม่ อื การประเมินความเส่ยี งสุขภาพลกู จา้ ง ในกรณีใช้สารเคมอี นั ตราย 33 7.3.2 การจัดระดับการสมั ผัสสารเคมีอันตราย ทำการจัดระดับการสัมผัสสารเคมีอันตราย โดยพิจารณาข้อมูลการกำหนดระดับการสัมผัส สารเคมีอันตราย จากข้อ 7.3.1 ซึ่งมีเกณฑ์การกำหนดระดับความถี่การสัมผัสสารเคมี หรือระดับระยะเวลาที่ สัมผัสให้เป็นไปตาม ตารางที่ 7-1 และ 7-2 กับการกำหนดระดับความเข้มข้นของสารเคมีอันตรายที่ลูกจ้าง สัมผัสตามเกณฑ์การจัดระดับขนาดของการสัมผัส ดังตารางที่ 7-3 หรือ 7-4 โดยมีการจัดระดับการสัมผัสสารเคมี โดยใช้ Rating Matrix ในรปู แบบ 5x5 ซง่ึ สามารถจดั ระดับการสัมผสั สารเคมี แบ่งออกเป็น 5 ระดบั ดังตารางท่ี 7-7 ตารางที่ 7-7 การจดั ระดับการสัมผัสสารเคมี ระดบั ความถก่ี ารสัมผัสสารเคมี ระดบั ขนาดของการสัมผัส การสมั ผสั สารเคมี หรือระดับระยะเวลาทส่ี มั ผสั ต่ำมาก ต่ำ ปานกลาง สูง สูงมาก โอกาสการสัมผัส ระดับ สารเคมี (2) (3) (4) (5) สารเคมี การสัมผสั (1) สารเคมี ต่ำมาก (1) (1) (1) (2) (2) (2) ตำ่ มาก 1 ตำ่ (2) (1) (2) (3) (3) (4) ต่ำ 2 ปานกลาง (3) (2) (3) (3) (4) (4) ปานกลาง 3 สูง (4) (2) (3) (4) (4) (5) สงู 4 สงู มาก (5) (2) (4) (4) (5) (5) สูงมาก 5 สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมินความเส่ยี งสขุ ภาพลกู จา้ ง ในกรณีใชส้ ารเคมีอนั ตราย 34 บทท่ี 8 การประเมนิ ระดับความเสย่ี ง 8.1 หลักการประเมินระดบั ความเส่ียง คณะทำงานประเมินความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตรายต้องทำการ กำหนดจัดระดับความเสี่ยง (Risk Rating; RR) โดยสามารถคำนวณค่าระดับความเสี่ยง จากระดับอันตรายของ สารเคมี และระดับการสัมผสั สารเคมี ที่ได้จากบทท่ี 6 และบทที่ 7 ข้างต้น เพื่อจำแนกประเภทความเสี่ยง เพ่ือ นำไปส่กู ารจัดการความเส่ียง 8.2 การรวบรวมขอ้ มูล การจดั ระดับความเสย่ี งของสารเคมอี ันตราย จำเปน็ ต้องทำการรวบรวมขอ้ มูล ดงั ต่อไปน้ี 1) ขอ้ มลู ระดับอันตรายตามลักษณะของสารเคมีของกลุ่มลกู จ้างที่มีการใช้สารเคมีในการทำงาน 2) ขอ้ มลู ระดับการสมั ผสั สารเคมีของกลมุ่ ลกู จ้างท่ีมีการใช้สารเคมีในการทำงาน 8.3 ขั้นตอนการประเมินระดบั ความเสีย่ ง การประเมนิ ระดบั ความเสย่ี ง (Risk rating; RR) ซึ่งคำนวณหาได้จากรากที่สองของผลคูณระดับระดับอันตรายตามลักษณะของสารเคมี กับ ระดับการสัมผัสสารเคมี ดงั สมการ RR=√HR ×ER โดยผลของระดับความเสี่ยงที่คำนวณได้จากสมการข้างต้น สามารถนำมาพิจารณาวิเคราะห์ เปน็ คา่ สำหรับการอธิบายลักษณะความเสยี่ ง ซง่ึ มกี ารประเมินระดบั ความเส่ยี งการสัมผสั สารเคมี โดยใช้ Rating Matrix ในรูปแบบ 5x5 ดังแสดงในตารางที่ 8-1 ทั้งนี้สามารถปรับช่วงใช้ Risk Rating Matrix ขึ้นอยู่กับการจัดกลุ่ม ความเสี่ยงตามทีอ่ งคก์ รเหน็ สมควร สถาบันส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ ือการประเมนิ ความเสี่ยงสขุ ภาพลูกจา้ ง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอนั ตราย 35 ตารางที่ 8-1 การจดั ระดับความเส่ยี ง ระดับอันตรายของสารเคมี ระดบั การสัมผัสสารเคมี ตำ่ มาก ต่ำ ปานกลาง สงู สงู มาก (1) (2) (3) (4) (5) 1.4 1.7 2.0 ต่ำมาก (1) 1.0 (1) (2) (2) 2.2 ต่ำ (2) (1) 2.0 2.5 2.8 (2) 1.4 (2) (3) (3) 3.2 ปานกลาง (3) (1) 2.5 3.0 3.5 (3) สงู (4) 1.7 (3) (3) (4) 3.9 (2) 2.8 3.5 4.0 (4) สงู มาก (5) 2.0 (3) (4) (4) 4.5 (2) 3.2 3.9 4.5 (5) 2.2 (3) (4) (5) 5.0 (2) (5) โดยทั่วไป การตัดสินค่าความเสี่ยงสามารถพิจารณา โดยใช้การประเมินค่าระดับความเสี่ยง ด้วย Risk Rating Matrix ซึ่งสามารถจำแนกประเภทความเสี่ยง เพื่อนำไปสู่การจัดการความเสี่ยง สามารถแบ่งเปน็ 3 กลมุ่ ได้แก่ 1) ระดับความเสี่ยงที่ไม่ยอมให้เกิดขึ้น (ระบุด้วยสีแดง) ที่จำเป็นต้องดำเนินการกำจัดหรอื แกไ้ ขความเส่ียงโดยทนั ที ซง่ึ คะแนนความเสีย่ งเทา่ กบั 4.5 และ 5.0 2) ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ (ระบุด้วยสีเหลือง) ที่จำเป็นต้องมีการเพิ่มมาตรการหรือ แผนการควบคุมความเสี่ยงที่มีอยู่ เพื่อลดระดับความเสี่ยง ซึ่งคะแนนความเสี่ยงเท่ากับ 1.7 2.0 2.2 2.5 2.8 3.0 3.2 3.5 3.9 และ 4.0 3) ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (ระบุด้วยสีเขียว) ยังคงไว้ซึ่งแผนการควบคุมความเสี่ยงและ มาตรการ ยังไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งปรบั ปรุงเพม่ิ เติม ซง่ึ คะแนนความเสยี่ งเท่ากับ 1.0 และ 1.4 ทั้งน้ี ในกรณที ไี่ ม่สามารถระบุระดับอันตรายของสารเคมี และระดับการสัมผัสสารเคมี กล่าวคอื ไม่มีข้อมูลความเป็นพิษของสารเคมี และไม่มีการระบุระดับความเข้มข้นของสารเคมอี ันตรายอย่างชัดเจน และเป็นท่ี ทราบกันดีวา่ สารเคมีกลมุ่ น้ีเปน็ อันตราย ใหจ้ ัดระดับความเสย่ี งอยูใ่ นกลุ่มความเส่ยี งระดับปานกลางขึ้นไป สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ ือการประเมนิ ความเสีย่ งสขุ ภาพลูกจ้าง ในกรณใี ชส้ ารเคมีอันตราย 36 บทที่ 9 การบรหิ ารจัดการความเส่ยี ง 9.1 หลกั การบรหิ ารจัดการความเส่ยี ง เปน็ กระบวนการพิจารณาผลการประเมนิ ความเส่ียงสุขภาพของลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย สำหรับดำเนินการควบคุมความเสี่ยงฯ ภายใต้แนวคิดตามหลักการลำดับชั้นของแผนการกำจัด หรือลดความเสี่ยง ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้างในการทำงาน โดยการพิจารณา แผนการบริหารจัดการความเส่ียงให้มีการปฏบิ ัติตามลำดับขั้นอย่างเป็นระบบ ในการป้องกันนีจ้ ะเพ่ิมความปลอดภัย ในการทำงาน เพือ่ ให้เกดิ ความยงั่ ยืนในควบคุมความเสี่ยงต่อสขุ ภาพอนามัยของลูกจ้าง โดยลำดับขน้ั การควบคุม ความเสีย่ ง ดังน้ี 9.1.1 การขจัด โดยการเลิกใช้สารเคมีที่มีอันตรายนั้น ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการ จดั การความเสย่ี งสงู ท่ีสดุ เนอื่ งจากเป็นการควบคมุ ไม่ใหม้ ีความเส่ยี งเกิดขึ้น เชน่ ปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตท่ี ใช้ปริมาณสารเคมีที่อันตรายน้อยกว่า เช่น การเปลี่ยนวิธีการผลิตในการประกอบชิ้นงาน โดยใช้กระบวนการอัด ยดึ ชิ้นงานดว้ ยแรง แทนการใชส้ ารยดึ ตดิ (กาว Epoxy) เปน็ ต้น 9.1.2 การทดแทน ด้วยสารเคมีที่มีอันตรายน้อยกว่า เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการจัดการ ความเส่ยี งสงู เนอ่ื งจากเป็นการควบคุมความเสี่ยงท่ีแหล่งกำเนดิ โดยตรง เช่น การเปลีย่ นไปใช้สารเคมีตัวอื่นที่มี อนั ตรายน้อยลง ซง่ี ยงั สามารถคงความเป็นวตั ถุดบิ คลา้ ยเดิม เช่น การใช้เสน้ ใยหนิ บะซอลตใ์ นการผลิตฉนวนกนั ความร้อน และการใชเ้ สน้ ใยเซลลูโลสในการผลติ ผ้าเบรกคลตั ซ์ แทนเส้นใยแอสเบสตอส เป็นต้น 9.1.3 การควบคุมทางวศิ วกรรม โดยการใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือเครื่องจักรในกระบวนการ ทำงานท่ีสามารถปอ้ งกันหรอื ลดอนั ตรายของสารเคมที ่แี หลง่ กำเนิด หรอื ปิดกน้ั เส้นทางการสมั ผสั สารเคมอี นั ตราย เชน่ 1) การออกแบบวัสดุที่ใช้ทำอุปกรณ์ที่เกี่วข้องกับสารเคมีให้ทนต่อคุณสมบัติของ สารเคมอี นั ตราย เช่น การใชเ้ ซรามกิ ทท่ี นต่อการกัดกร่อนได้ดกี วา่ โลหะ 2) การออกแบบโดยใช้ระบบอุปกรณ์ป้องกันภัยสารเคมีอันตราย เช่น ท่อสองชั้น เพ่อื ป้องกนั สารเคมไี ม่ให้สัมผสั กับผู้ปฏบิ ตั ิงาน เป็นตน้ 3) การติดตั้งระบบควบคุมป้องกันการทำงานล้มเหลวของอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ สารเคมีอันตราย เช่น การติดตั้ง Relief Valve ท่ีภาชนะบรรจุ ระบบท่อ หรือการติดตั้งระบบตรวจจับก๊าซ ระบบสัญญาณเตอื น เปน็ ต้น สถาบนั ส่งเสรมิ ความปลอดภยั อาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน)
ค่มู อื การประเมนิ ความเสย่ี งสขุ ภาพลกู จ้าง ในกรณีใชส้ ารเคมอี ันตราย 37 9.1.4 การควบคุมด้านการบริหารจัดการ โดยการกำหนดมาตรฐานการทำงาน เพื่อป้องกัน หรอื ลดการสมั ผสั สารเคมี หรอื อบรมใหค้ วามรคู้ วามปลอดภัยในการทำงานเกย่ี วกับสารเคมีขั้นสงู เปน็ ต้น เชน่ 1) การจัดทำวธิ กี ารปฏิบัตงิ าน หรือระเบยี บการปฏบิ ัติงานเกยี่ วกบั สารเคมอี ยา่ งปลอดภัย 2) การจดั ทำค่มู อื และอบรมความปลอดภัยในการปฏิบตั ิงานเก่ยี วกบั สารเคมีอนั ตราย 3) การจดั ทำฉลากสารเคมี และอบรมเกยี่ วกบั ฉลากสารเคมีอันตราย 4) การตรวจสอบความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายของสถาน ประกอบกิจการ ท่อี าจเกิดจากการกระทำท่ไี ม่ปลอดภัย และสภาพแวดล้อมการทำงานทไี่ ม่ปลอดภัย 9.1.4 การควบคุมที่ตัวบุคคล โดยใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลในขณะ ปฏิบัติงาน เช่น หน้ากากนิรภัย ถุงมือนิรภัย แว่นตานิรภัยสำหรับป้องกันสารเคมีอันตราย เป็นต้น ซึ่งอาจมี ประสทิ ธิภาพในการจดั การความเส่ียงน้อยท่ีสดุ เพราะเป็นการควบคุมความเสย่ี งท่ีตัวบุคคลเท่านนั้ 9.2 ขัน้ ตอนการบรหิ ารจัดการความเสย่ี ง ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยง และการประเมินค่าความเสี่ยง จากกระบวนการประเมิน ความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้าง ในกรณีใช้สารเคมีอันตราย จะถูกนำไปพิจารณาตัดสินใจกำหนดแนวทางใน การจัดทำแผนการควบคุมความเส่ียง (ดังแสดงในรูปที่ 9-1) เพื่อให้ผลการวิเคราะห์ความเสี่ยงที่ได้จาก การประเมินระดับความเสี่ยงที่จัดทำขึ้นมีการดำเนินการตามมาตรฐานประเมินความเสี่ยงสุขภาพลูกจ้างฯ ที่ระบุในข้อกำหนด 4.3 โดยพิจารณานำผลการประเมินความเสี่ยงสุขภาพของลูกจ้าง ในการใช้สารเคมีอันตราย ไปจัดทำบันทึกทะเบียนความเสี่ยง ซึ่งเรียงลำดับความเสี่ยงจากความเสี่ยงสูงมากไปหาความเสี่ยงน้อยที่สุด เพื่อพิจารณาความเร่งด่วนในการนำไปวางแผนการควบคุมความเสี่ยงให้ลดลงหรืออยู่ในระดับที่ยอมรับได้ (ดงั ภาพท่ี 9-1) สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามยั และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
คมู่ ือการประเมินความเสย่ี งสุขภาพลูกจ้าง ในกรณใี ช้สารเคมีอันตราย 38 การประเมินความเสีย่ ง การวิเคราะห์ความเส่ยี ง และการประเมินคา่ ความเสย่ี ง (Risk Assessment) - การจดั กล่มุ การสมั ผัสท่คี ลา้ ยกัน - การจัดระดบั อนั ตรายตามลักษณะของสารเคมี และการจัดระดับการสมั ผสั - การประเมนิ ระดับความเสี่ยง การจัดการความเส่ยี ง แผนงานบรหิ ารจดั การความเสี่ยง (Risk Management) ภาพที่ 9-1 : แผนภาพการพจิ ารณาผลการประเมนิ ความเส่ียงทางสุขภาพของลูกจ้าง สำหรับการบรหิ ารจดั การ ความเสี่ยง ในบางครั้ง การพิจารณาดำเนินการบริหารจัดการความเสี่ยงก็ไม่สามารถทำได้ตามแผนการ ควบคุมความเสี่ยงที่กำหนด หรือไม่สามารถลดความเสี่ยงได้ตามเป้าหมาย เนื่องด้วยปัจจัยจำยอม (Sacrifice Factors) บางประการ แตจ่ ำเป็นต้องพิจารณาดำเนินกิจกรรมแผนการควบคุมความเสี่ยงเท่าที่จะทำได้ โดยเป็นการ บริหารจัดการความเสี่ยงให้มีค่าระดับความเสี่ยงคงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ภายใต้เงื่อนไขเหตุผลความจำเป็น จากปัจจัยจำยอมในแง่มุมของความเป็นไปได้ และประสิทธิภาพ ที่มีผลต่อการดำเนินการลดความเสี่ยงของ แผนงานบริหารจดั การความเสย่ี ง ซง่ึ ปัจจัยจำยอม มีดังน้ี 1) ปัจจัยด้านเทคนิค ได้แก่ ทักษะ ประสบการณ์ของผู้ดำเนินงาน หรือเครื่องมือในการ ประเมินความเส่ียง เป็นตน้ 2) ปัจจัยด้านการจัดการ ได้แก่ ระยะเวลา กำลังคน การจัดสรรงบประมาณที่ต้องใช้ในการ ดำเนินการ เป็นตน้ 3) ปัจจยั ดา้ นการเงิน ไดแ้ ก่ ค่าใชจ้ า่ ยหรืองบประมาณทีต่ อ้ งใช้ในการดำเนินการ สถาบนั สง่ เสรมิ ความปลอดภยั อาชวี อนามัย และสภาพแวดลอ้ มในการทำงาน (องค์การมหาชน)
Search