Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 11.การบูรณาการ ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการยุคใหม่ ppt

11.การบูรณาการ ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการยุคใหม่ ppt

Published by iamkittipan, 2017-07-17 02:20:21

Description: 11.การบูรณาการ ภาวะผู้นำ การบริหารจัดการยุคใหม่ ppt

Search

Read the Text Version

ทฤษฎกี ารจดั องค์การเชิงมนุษยสัมพนั ธ์ • การจดั องค์การแบบประชาธิปไตย • การบริหารคอื การให้บริการ • การตดั สินใจแบบมีส่วนร่วม • การบริหารโดยองค์คณะบุคคล

ทฤษฎกี ารจดั องค์การเชิงพฤตกิ รรมศาสตร์ • การศึกษาเรื่องแรงจูงใจ • การศึกษาภาวะผู้นา • การวเิ คราะห์ระบบสังคม

ทฤษฎอี งค์การสมัยใหม่• การจดั องค์การตามสถานการณ์• การจดั องค์การตามวทิ ยาการจัดการ• การจัดองค์การแบบคานึงคน• การจัดองค์การแบบคลุมเครือ

ทฤษฎีการจดั การ ทฤษฎีการจดั การท่ีสาคญั ๆ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม1. กลุ่มทฤษฎีการจดั การแบบด้งั เดิม2. กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์3. กลุ่มทฤษฎีการเชิงปริมาณ4. กลุ่มทฤษฎีการปัจจุบนั

กลุ่มทฤษฎีการจดั การแบบด้งั เดิม (Classical Perspective) แบ่งออกเป็น 3 แบบ1. การจดั การแบบวทิ ยาศาสตร์ (Scientific management)2. การจดั การแบบราชการ (Bureaucratic management)3. การจดั การตามหลกั การบริหาร (Administrative management)

การจดั การแบบวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการจดั การที่อาศยั หลกั เกณฑท์ างวทิ ยาศาสตร์ ในการ ทางานใหเ้ กิดประสิทธิภาพ ใชห้ ลกั เหตุผล สามารถพิสูจน์หา ขอ้ เทจ็ จริงได้ Frederick W. Taylor • ได้ชื่อว่าเป็ นบิดาของการจดั การแบบวทิ ยาศาสตร์ • สร้างแนวคดิ ทางวทิ ยาศาสตร์ ในการหาวธิ ีการทางานให้มปี ระสิทธิภาพ มากทสี่ ุด แนวคิดของ Taylor คือ • มุ่งให้ผู้ปฏิบัตงิ านใช้ความรู้ความสามารถมากทส่ี ุด • การเพมิ่ ประสิทธิภาพในการผลติ โดยพยายามลดต้นทุนและเพมิ่ กาไร

การจดั การแบบวทิ ยาศาสตร์ (2) หลกั การจดั การทางวทิ ยาศาสตร์1. อาศยั หลกั การทางวทิ ยาศาสตร์หรือหลกั ของเหตุผล เพื่อท่ีจะ คน้ หาวิธีทางานที่มีประสิทธิภาพท่ีสุด2. กาหนดมาตรฐานของงาน คุณภาพ และปริมาณของผลงานท่ี ตอ้ งการ โดยวเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงานกบั ผปู้ ฏิบตั ิ3. มีการพิจารณาผลตอบแทนในการปฏิบตั ิงาน ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผลผลิต

การจดั การแบบวทิ ยาศาสตร์ (3)ลกั ษณะที่สาคญั 4 ประการของการจดั การตามหลกั วิทยาศาสตร์ของ Taylor1. พฒั นาความรู้ในวิธีการทางานโดยอาศยั หลกั วิทยาศาสตร์2. ตอ้ งมีการคดั เลือกและพฒั นาคนงาน โดยใชห้ ลกั เกณฑท์ าง วิทยาศาสตร์: • เพ่อื ใหไ้ ดค้ นท่ีเหมาะสมกบั งาน ทาใหง้ านท่ีทามีประสิทธิภาพ สูงข้ึน3. มีการร่วมมือกนั อยา่ งจริงจงั ในทางานจากทุกฝ่ าย4. มีการแบ่งงานกนั ทาตามความเหมาะสม

การจดั การแบบวิทยาศาสตร์ (4) ผลงานที่สาคญั ของ Taylor1. การใชร้ ะบบคา่ ตอบแทนรายชิ้น: ทามากไดม้ าก ทานอ้ ยได้ นอ้ ย2. หลกั การเสียเวลา: เป็นการศึกษาเพอื่ หาเวลามาตรฐานในการ ทางานแต่ละชิ้นวา่ ควรจะใชเ้ วลาเท่าใด3. หลกั การทางานตามแบบวทิ ยาศาสตร์: ฝ่ ายบริหารควรกาหนด วธิ ีการและมาตรฐานในการปฏิบตั ิงานโดยใชว้ ิธีทาง วิทยาศาสตร์ที่สามารถวดั และตรวจสอบได้

การจดั การแบบวทิ ยาศาสตร์ (5)4. หลกั การแยกงานดา้ นการวางแผนออกจากงานปฏิบตั ิ: • งานดา้ นวางแผนเป็นหนา้ ท่ีของฝ่ ายบริหาร • งานดา้ นการปฏิบตั ิเป็นหนา้ ท่ีของคนงาน5. หลกั การควบคุมโดยฝ่ ายจดั การ: ผจู้ ดั การควรไดร้ ับการฝึกท่ีดี สามารถวางแผนและควบคุมการปฏิบตั ิงานได้6. หลกั การจดั ระเบียบการปฏิบตั ิงาน: การปฏิบตั ิงานตอ้ งมี กฎระเบียบ เพือ่ ใหก้ ารทางานมีประสิทธิภาพ

การจดั การแบบวิทยาศาสตร์ (6) Henry L. Gantt เป็นวศิ วกรเครื่องกล ไดร้ ่วมงานกบั Taylor และ ร่วมกนั สร้างผลงานหลายอยา่ ง ผลงานของ Gantt ท่ีสาคญั ไดแ้ ก่ • พฒั นาแผนภูมิบนั ทึกความกา้ วหนา้ ของงานเทียบเวลา Grant chart หรือ Barchart ต่อมาเรียก PERT (Program Evaluation and Review Technique) • ระบบการจูงใจโดยการให้ Bonus โดย Gantt เชื่อวา่ คนเป็น องคป์ ระกอบท่ีสาคญั อยา่ งหน่ึงของปัญหาดา้ นการจดั การท้งั หมด

การจดั การแบบราชการ Max Weber นกั สงั คมวทิ ยาชาวเยอรมนั ศึกษาการทางานภายในองคก์ าร และโครงสร้างของสงั คมไดแ้ ก่ ทหาร รัฐบาล การเมือง และองคก์ ารอื่นๆ Weber ไดเ้ สนอรูปแบบการจดั การท่ีเรียกวา่ ระบบราชการ ซ่ึงถือ เป็นรูปแบบขององคก์ ารในอุดมคติ และเป็นรูปแบบของ องคก์ ารที่มีประสิทธิภาพ

การจดั การแบบราชการ (2) ระบบราชการ มีลกั ษณะที่สาคญั 6 ประการ1. มีการจดั ช้นั ตาแหน่งและสายการบงั คบั บญั ชาที่ชดั เจน2. มีการแบ่งงานกนั ทาโดยคานึงถึงความชานาญเฉพาะอยา่ ง แต่ละ งานมีขอบเขตแน่นอน ไม่กา้ วก่ายซ่ึงกนั และกนั3. มีระเบียบกฎเกณฑใ์ นการปฏิบตั ิงาน4. มีการจดั ระบบของการทางานและมีระเบียบแบบแผนในการ ปฏิบตั ิ5. ไม่นาเอาความสมั พนั ธ์ส่วนตวั เขา้ มาเกี่ยวขอ้ งในงาน ทุกคนตอ้ ง ทางานโดยยดึ หลกั ของเหตุและผล6. การเลือกคนเขา้ ทางานและการเลื่อนข้นั เลื่อนตาแหน่ง จะตอ้ ง

การจดั การแบบราชการ (3) ในปัจจุบนั ระบบราชการ ไดถ้ ูกนามาใชใ้ นความหมายเชิงลบ ซ่ึงหมายถึง ระบบท่ีมีกฎเกณฑม์ ากและการรัดข้นั ตอน ในความเป็นจริงการมีกฎเกณฑส์ าหรับการปฏิบตั ิงานน้นั เป็น การกาหนดมาตรฐานที่เก่ียวขอ้ งกบั ผปู้ ฏิบตั ิงาน ทุกคนตอ้ ง ไดร้ ับการปฏิบตั ิอยา่ งเท่าเทียมกนั และทุกคนตอ้ งทราบกฎ ขอ้ บงั คบั ท่ีมีอยู่

การจดั การตามหลกั การบริหาร เป็นแนวคิดท่ีเช่ือวา่ ประสิทธิภาพขององคก์ ารจะเพ่มิ ข้ึนไดโ้ ดย การปรับปรุงกระบวนการบริหาร Henri Fayol เป็นวศิ วกรเหมืองแร่ชาวฝรั่งเศส ไดช้ ื่อวา่ เป็นบิดาของ การจดั การเชิงปฏิบตั ิการสมยั ใหม่ แนวคิดของ Fayol • การวางรากฐานเพอ่ื การสร้างประสิทธิภาพใหแ้ ก่องคก์ าร สามารถ พฒั นาผลผลิตของคนงานใหด้ ีข้ึนได้ • ใหค้ วามสาคญั ต่อภารกิจทางการบริหารของฝ่ ายจดั การ

การจดั การตามหลกั การบริหาร (2) Fayol แบ่งงานดา้ นอุตสาหกรรมออกเป็น 6 กลุ่ม1. ดา้ นเทคนิค: การผลิตงาน โรงงาน การปรับตวั2. ดา้ นการคา้ : การซ้ือ การขาย และการแลกเปลี่ยน3. ดา้ นการคลงั : การจดั หาทุน และการใชจ้ ่ายทุน4. ดา้ นความมน่ั คง: การรักษาคุม้ ครองทรัพยส์ ินและบุคลากร5. ดา้ นการบญั ชี: งานธุรการพสั ดุ การงบดุล และสถิติ6. ดา้ นการจดั การ: การวางแผน การจดั องคก์ าร การสงั่ การ การ ประสานงาน และการควบคุม

การจดั การตามหลกั การบริหาร (3) หลกั การบริหารของ Fayol1. การแบ่งงานกนั ทา2. อานาจหนา้ ท่ีและความรับผิดชอบ3. ระเบียบวนิ ยั4. เอกภาพในการบงั คบั บญั ชา5. เอกภาพของการอานวยการ6. การถือเอาประโยชน์ส่วนรวมก่อนประโยชนส์ ่วนตวั

การจดั การตามหลกั การบริหาร (4)7. การใหผ้ ลตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม8. การรวมอานาจ9. การมีสายการบงั คบั บญั ชาที่ชดั เจน10. การจดั ระเบียบ11. ความเสมอภาค12. ความมนั่ คงในการทางาน13. ความคิดริเร่ิม14. ความสามคั คี

การจดั การตามหลกั การบริหาร (5) หลกั การการจดั การท่ีสาคญั ของ Fayol1. การวางแผน (Planning)2. การจดั องคก์ ร (Organizing)3. การบงั คบั บญั ชา (Command)4. การประสานงาน (Co-ordination)5. การควบคุม (Control)

การจดั การตามหลกั การบริหาร (6) Oliver Sheldon ชาวองั กฤษไดพ้ ฒั นาความคิดในเรื่องการจดั การและการ บริหาร หลกั การของ Sheldon แบ่งออกเป็น 3 ประการ1. การบริหาร (Administration) เป็นเรื่องเก่ียวกบั การกาหนดนโยบายและการประสานงานในหนา้ ที่ตา่ งๆ2. การจดั การ (Management) เป็นเร่ืองเกี่ยวกบั การดาเนินนโยบายภายในขอบเขตจากดั ซ่ึงกาหนดข้ึนโดยฝ่ าย บริหาร3. หนา้ ที่ในการจดั องคก์ าร เป็นกระบวนการประสานงานระหวา่ งบุคคลหรือระหวา่ งกลุ่มบุคคล

การจดั การตามหลกั การบริหาร (7) Luther Gulilck และ Lyndall Urwick Gulilck เป็นศาสตราจารยใ์ นมหาวิทยาลยั โคลมั เบีย ส่วน Urwick เป็นที่ปรึกษาดา้ นการจดั การ Gulilck ไดเ้ สนอแนวคิดในการจดั การซ่ึงเป็นหนา้ ที่ของฝ่ าย บริหาร จะตอ้ งดาเนินการ POSDCORB

การจดั การตามหลกั การบริหาร (8) P (Planning) การวางแผน : เป็นการกาหนดสิ่งที่ตอ้ งการและวิธีการให้ บรรลุผลตามตอ้ งการ O (Organizing) การจดั องคก์ าร : เป็นการกาหนดโครงสร้างที่เป็นทางการ ของอานาจ S (Staffing) การบริหารงานบุคคล D (Directing) การสง่ั การ CO (Co-ordinating) การประสานงาน R (Reporting) การรายงานต่อฝ่ ายบริหาร B (Budgeting) การวางแผนการเงิน บญั ชีและการควบคุม

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (Human Rlations) แนวคิดน้ีมีผลมาจากแนวความคิดทางการจดั การแบบ วทิ ยาศาสตร์ที่คิดวา่ มนุษยท์ างานเพื่อผลตอบแทน หรือความ ตอ้ งการในดา้ นเศรษฐกิจ Elton Mayo เป็ นนกั สงั คมวิทยา (ปี 1880 – 1949) ชาวออสเตรเลีย และเป็นศาสตราจารยด์ า้ นการวิจยั อุตสาหกรรมของ Harvard University ไดท้ าการศึกษาวจิ ยั Howthorne study ซ่ึงเป็นการศึกษาวจิ ยั เชิง ทดลองในบริษทั Western Electric โดยทดลองตามสภาพแวดลอ้ มที่มีผลกระทบต่อการทางานของ พนกั งาน

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (2) การทดลองแบ่งออกเป็น 2 ข้นั ตอนระยะท่ี 1: • ทาการทดลองใชส้ ภาพของหอ้ งทดสอบ • ศึกษาถึงผลกระทบของสภาพแวดลอ้ มของการทางานท่ีมีต่อ ผลผลิต • โดยการทดสอบผลกระทบของแสงสวา่ งในการทางานท่ีมีต่อ คนงานวา่ จะทาใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงต่อปริมาณของผลผลิต อยา่ งไร • ผลการวจิ ยั พบวา่ ไม่วา่ จะเพมิ่ หรือลดแสงสวา่ งภายในหอ้ งอยา่ งไร

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (3)ระยะที่ 2 : • ทาการทดลองกบั ตวั แปรอ่ืนๆ เช่น มีอาหารเชา้ ใหค้ นงาน มีชว่ั โมงการหยดุ พกั ใหม้ าทางานในเชา้ วนั เสาร์ ลด หรือเพิม่ ชวั่ โมงการทางาน และวธิ ีการจ่ายคา่ ตอบแทน • ผลการวิจยั พบวา่ ตวั แปรขา้ งตน้ มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการทางาน แต่ไม่มากนกั • ทาใหเ้ กิดความคิดใหม่ๆ ในเร่ืองความสามารถในการรับรู้ การแปล ความหมายและท่าทีในการทางานของคนงาน

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (4) การวจิ ยั ต่อจากน้นั ไดใ้ ชเ้ ทคนิคการสมั ภาษณ์คนงานทุกแผนก ในบริษทั ประมาณ 2,000 คน พร้อมสงั เกตการทางานของ คนงานเก่ียวกบั เหตุผลที่ทาใหค้ นงานทางานมากข้ึน ทาให้ องคก์ ารมีผลผลิตมากข้ึน ผลการวจิ ยั พบวา่1. เมื่อพนกั งานรู้สึกวา่ ไดร้ ับความสนใจจากบุคคลอ่ืน จะทาใหม้ ีความ กระตือรือร้นในการทางานมากข้ึน2. ขวญั และกาลงั ใจในการทางานเป็นสิ่งสาคญั มาก ท้งั น้ีเพราะพนกั งาน มีชีวติ จิตใจ ไม่สามารถซ้ือหาดว้ ยเงินอยา่ งเดียว

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (5)3. ประสิทธิภาพการทางานมิไดข้ ้ึนอยกู่ บั สภาพแวดลอ้ มที่ดี เท่าน้นั แต่ยงั ข้ึนกบั มนุษยสมั พนั ธ์ที่ดีภายในองคก์ ารดว้ ย4. กลุ่มทางานจะเป็นผกู้ าหนดคุณลกั ษณะของสมาชิก แบบ วธิ ีการของกลุ่มตลอดจนความสาเร็จหรือความลม้ เหลวของ องคก์ ารในสดั ส่วนที่กลุ่มยอมรับได้ โดยอาศยั ความสมั พนั ธ์ เชิงอานาจของกลุ่ม5. เม่ือพนกั งานในระดบั สูงสามารถจูงใจดา้ นจิตใจ จะมี ความสาคญั มากกวา่ การจูงใจดว้ ยเงิน

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (6) Abraham Maslow : ทฤษฎีลาดบั ข้นั ความตอ้ งการ1. ความตอ้ งการทางร่างกาย2. ความตอ้ งการความปลอดภยั3. ความตอ้ งการดา้ นสงั คม4. ความตอ้ งการยกยอ่ ง5. ความตอ้ งการประสบความสาเร็จในชีวิต

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (7) Douglas McGregor: • ทฤษฎี X • ทฤษฎี Y

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (8)• ลกั ษณะท่ีสาคญั ของทฤษฎี X1. พนกั งานตอ้ งการทางานใหน้ อ้ ยท่ีสุด ดงั น้นั ผบู้ ริหารตอ้ งคอย ควบคุม สง่ั การ หรือลงโทษเพื่อใหบ้ ุคคลทางาน2. พนกั งานขาดความทะเยอทะยาน และไม่ตอ้ งการรับผดิ ชอบอะไร3. โดยทวั่ ไปพนกั งานจะต่อตา้ นการเปลี่ยนแปลง เพราะเกรงวา่ ตนเองจะเดือดร้อนหรือตอ้ งการทางานหนกั กวา่ เดิม

กลุ่มทฤษฎีการจดั การดา้ นมนุษยสมั พนั ธ์ (9)• ลกั ษณะท่ีสาคญั ของทฤษฎี Y1. ชอบทางาน2. มีความคิดริเร่ิม ในการแกป้ ัญหาในการทางานเพ่ือใหบ้ รรลุ จุดมุ่งหมาย3. พนกั งานมีความเตม็ ใจท่ีจะเสาะแสวงหางานมาทา และมีความ รับผดิ ชอบ4. พนกั งานจะยอมรับจุดมุ่งหมายขององคก์ าร เพอ่ื ท่ีจะใชค้ วาม พยายามในการทางานใหส้ าเร็จ และบรรลุเป้ าหมายขององคก์ าร5. พนกั งานมีศกั ยภาพท่ีสามารถพฒั นาตนเองได้ และขณะน้ียงั ไม่ได้ ใชค้ วามสามารถท่ีมีอยอู่ ยา่ งเตม็ ท่ี

กลุ่มทฤษฎีการจดั การเชิงปริมาณ กลุ่มทฤษฎีน้ีเนน้ แนวคิดของการบริหารท่ีสนใจทางดา้ น จานวน การนาเอาขอ้ มลู สถิติมาใชใ้ นการตดั สินใจ ประกอบดว้ ย 3 องคป์ ระกอบ1. วิทยาการจดั การ (Management Science)2. การจดั การปฏิบตั ิการ (Operation Management)3. ระบบสารสนเทศการจดั การ (Management Information System: MIS)

วิทยาการจดั การหรือการวจิ ยั ปฏิบตั ิการ เป็นการนาเอาวธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ที่คานึงถึงเหตุผล การตดั สินใจตอ้ งพิจารณาทางเลือกต่างๆ จากขอ้ มลู ท่ีเกี่ยวขอ้ ง หรือใชก้ ารวเิ คราะห์ทางคณิตศาสตร์ การใชโ้ มเดลสถานการณ์จาลอง ก่อนนาไปใชจ้ ริง

การจดั การปฏิบตั ิการ เป็นการจดั การใชเ้ ทคนิคเชิงปริมาณเพื่อปรับปรุงผลผลิตและ เพมิ่ ประสิทธิภาพการผลิตสินคา้ และบริการ การคิดคน้ ออกแบบระบบเพ่ือมาควบคุมกระบวนการผลิต การ ดาเนินงานและการบริหาร เช่น การจดั การสินคา้ คงคลงั เทคนิค ตารางเวลาเพอื่ ช่วยวางแผนการผลิต

ระบบสารสนเทศการจดั การ เป็นการพฒั นาระบบขอ้ มลู เพ่อื นามาใชใ้ นการจดั การ โดยใช้ คอมพวิ เตอร์ช่วยในการจดั ระบบของขอ้ มลู ที่จาเป็นต่อการ ตดั สินใจ ผบู้ ริหารสามารเรียกใชข้ อ้ มูลไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว

กลุ่มทฤษฎีการจดั การปัจจุบนั ในปัจจุบนั มีเทคนิคใหม่ๆ เกิดข้ึนตลอดเวลา ประเทศที่เป็ นผนู้ าไดแ้ ก่ USA และ Japan เทคนิคใหม่ๆ ที่น่าสนใจ เช่น1. การบริหารงานตามวตั ถุประสงค์ (Management by objective: MBO)2. กลุ่มควบคุมคุณภาพ (Quality control: QC)3. การร้ือปรับระบบ (Reengineering)4. เทคนิคการบริหารแบบ 5 ส5. กลยทุ ธ์การบริหารเพือ่ ใหเ้ กิดความเป็นเลิศ

 การบรู ณาการ ภาวะผนู้ า การบริหารจดั การยคุ ใหม่ ppt แนวความคิดและทฤษฎีทางการบริหาร https://kansuksa.files.wordpress.com/2012/07/e0b981e0b899e0 b8a7e0b884e0b8a7e0b8b2e0b8a1e0b884_e0b894e0b981e0b8a 5e0b8b0e0b897e0b8a4e0b8a9e0b88f_e0b897e0b8b2e0b887e0 b881e0b8b2e0b8a3.ppt


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook