แผนการจัดการเรียนรู้ 5 วิชา การบัญชีกิจการพิเศษ

แผนการจัดการเรยี นรู้ หนว่ ยที่ 5 จำนวน 12 ชว่ั โมง สปั ดาหท์ ่ี 12-14 ชือ่ วิชา การบัญชกี ิจการพิเศษ ชอื่ หนว่ ย 5 ชื่อเรอื่ ง การบญั ชเี กษตรกร 1. สาระสำคญั ผู้ที่มอี าชีพเกษตรกรส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน ซ่งึ มักจะไม่มีความรู้ทางดา้ นบญั ชี ดังนน้ั จงึ ไม่เหน็ ความจำเป็น และความสำคัญของการทำบญั ชี แต่กิจการเกษตรก็เป็นธรุ กิจรูปแบบหนึง่ ที่ต้องมีการจัดทำบญั ชีเพือ่ ให้ทราบผล การดำเนินงานและฐานะการเงิน การนำสมุดรายวันเงินสดมาใช้เป็นสมุดบันทึกรายการข้ันต้นของกิจการเกษตร จะทำให้การทำบัญชีของเกษตรกร ไมย่ ่งุ ยากอกี ตอ่ ไป 2. สมรรถนะและเกณฑก์ ารปฏิบตั ิงานประจำหน่วย 2.1 สมรรถนะประจำหน่วย 1. แสดงความรู้เกยี่ วกบั หลักการ และกระบวนการปฏิบัตงิ านบญั ชขี องกิจการประเภทเกษตรกร 2. บันทกึ บญั ชขี องกจิ การประเภทเกษตรกร 3. จดั ทำงบการเงนิ สำหรบั กจิ การประเภทเกษตรกร 2.2 เกณฑก์ ารปฏิบัตงิ านประจำหน่วย 1. บอกความหมายของเกษตรกรได้ 2. บอกประเภทของเกษตรกรได้ 3. บอกวตั ถปุ ระสงคใ์ นการทำบัญชขี องเกษตรกรได้ 4. บอกชื่อหนว่ ยงานท่เี กยี่ วข้องกับเกษตรกรได้ 5. วางแผนประกอบอาชีพได้ 6. การคำนวณกำไรขาดทุนจากการประกอบอาชีพได้ 7. ระบุสมดุ บัญชี ระบบบัญชแี ละประเภทบญั ชสี ำหรบั เกษตรกรได้ 8. บอกวงจรบญั ชีสำหรบั เกษตรกรได้ 9. บันทกึ รายการปรับปรุงได้ 10. บนั ทกึ รายการปิดบัญชไี ด้ 11 ทำงบการเงินของเกษตรกรได้ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรปู้ ระจำหน่วย 3.1 จุดประสงค์ทวั่ ไป เพื่อใหผ้ ู้เรียนมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกย่ี วกับการบัญชีเกษตรกร 3.2 จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม เมื่อสน้ิ สดุ กระบวนการเรยี นการสอนหน่วยนผ้ี เู้ รยี นสามารถ

1. บอกความหมายของเกษตรกรได้ 2. บอกประเภทของเกษตรกรได้ 3. บอกวัตถปุ ระสงคใ์ นการทำบัญชขี องเกษตรกรได้ 4. บอกชอื่ หน่วยงานท่ีเกีย่ วขอ้ งกับเกษตรกรได้ 5. วางแผนประกอบอาชพี ได้ 6. การคำนวณกำไรขาดทุนจากการประกอบอาชีพได้ 7. ระบสุ มุดบัญชี ระบบบญั ชแี ละประเภทบัญชสี ำหรับเกษตรกรได้ 8. บอกวงจรบัญชสี ำหรบั เกษตรกรได้ 9. บันทกึ รายการปรับปรุงได้ 10. บันทึกรายการปดิ บญั ชีได้ 11 ทำงบการเงินของเกษตรกรได้ 4. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของเกษตรกร 2. ประเภทของเกษตรกร 3.วตั ถปุ ระสงคใ์ นการทำบัญชขี องเกษตรกร 4.หนว่ ยงานท่เี กี่ยวข้องกับเกษตรกร 5.การวางแผนประกอบอาชีพ 6.การคำนวณกำไรขาดทุนจากการประกอบอาชพี 7.สมุดบัญชี ระบบบญั ชแี ละประเภทบัญชีสำหรบั เกษตรกร 8.วงจรบัญชีสำหรบั เกษตรกร 9.การบนั ทึกรายการปรบั ปรุง 10. การบันทึกรายการปิดบัญชี 11. งบการเงนิ 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (การจัดการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลาย เชน่ PjBL , Active Learning , STME Education) 1.ครูและผ้เู รยี นสนทนาถงึ เกษตรกร (Farmer) ซง่ึ เป็นผูป้ ระกอบอาชีพทางด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก ไดแ้ กก่ ารเพาะปลูกพชื ไร่ เช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อย พชื ผกั ผลไมต้ า่ งๆ เช่น คะนา้ ผกั กาดขาว มะระ แตงกวา องนุ่ เงาะ ลำไย ทุเรียน ขนุน ส้ม พันธ์พุ ืช พนั ธไ์ มต้ า่ งๆ เช่น ดอกกุหลาบ ดอกดาหลา ดอกกล้วยไม้ การเล้ียงสัตวบ์ กและสัตว์น้ำเพ่ือการจำหนา่ ย เชน่ เปด็ ไก่ สุกร โค แกะ แพะ สนุ ขั กงุ้ ปลา และเลี้ยงไวใ้ ช้งาน เช่น ช้าง ม้า กระบือ เปน็ ต้น 2.ผ้เู รียนยกตวั อย่างอาชพี เกษตรกรที่ตนเองชอบ หรอื ท่ีเคยรู้จักมากอ่ น และนำมาสนทนาพูดคุยกันใน หอ้ งเรยี น 3.ครูและผเู้ รียนใชเ้ ทคนิคการจดั การเรียนรแู้ บบอภปิ ราย (Discussion Method) คอื กระบวนการท่ีผูส้ อน มงุ่ ให้ผเู้ รยี นมโี อกาสสนทนาแลกเปลย่ี นความคิดเหน็ หรือระดมความคดิ ในเรอ่ื งความหมายของเกษตรกร ซึ่งอาจจะ เป็นเร่อื งหรือปัญหาท่เี กีย่ วขอ้ งกับบทเรยี นหรอื ท่ีกลมุ่ มีความสนใจร่วมกนั โดยมีจดุ มุ่งหมายเพอ่ื หาคำตอบ

แนวทางหรือแก้ปญั หาร่วมกัน โดยความหมายของเกษตรกร ตามพระราชบัญญตั ิ การปฏริ ูปทีด่ ินเพอื่ เกษตรกรรม (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2532 บัญญัตไิ ว้ในมาตรา 3 ใหย้ กเลกิ ความในบทนยิ ามคำวา่ “เกษตรกร” ในมาตรา 4 แหง่ พระราชบัญญตั ิ การปฏริ ปู ทีด่ นิ เพ่อื เกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และใหใ้ ช้คำวา่ \"เกษตรกร\" หมายความว่า ผู้ ประกอบอาชพี เกษตรกรรมเปน็ หลกั และให้หมายความรวมถงึ บคุ คลผู้ยากจนหรือผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรม หรอื ผูเ้ ปน็ บตุ รของเกษตรกร บรรดาซึง่ ไม่มที ่ีดนิ เพอ่ื เกษตรกรรมเปน็ ของตนเองและประสงคจ์ ะประกอบอาชีพ เกษตรกรรมเปน็ หลัก ตามหลกั เกณฑแ์ ละเง่ือนไขท่ีกำหนดในพระราชกฤษฎกี าด้วย\" 4.ครแู ละผ้เู รียนใชเ้ ทคนคิ การจัดการเรยี นรู้แบบบรรยาย (Lecture Method) คือ กระบวนการเรียนร้ทู ผ่ี สู้ อนเปน็ ผถู้ ่ายทอดความรใู้ ห้แกผ่ เู้ รยี นโดยการพดู บอกเลา่ อธบิ ายเน้อื หาประเภทของเกษตรกรทีผ่ ู้สอนไดเ้ ตรียมการศกึ ษา ค้นคว้ามาเป็นอย่างดี สามารถแบ่งประเภทของการประกอบอาชพี ของเกษตรกร ได้หลายประเภท เชน่ • ทำนา • ทำสวน เชน่ สวนยาง สวนผัก • ทำไร่ เช่น ไร่ขา้ วโพด สบั ปะรด • ทำฟาร์ม เช่น ฟารม์ เหด็ ฟารม์ โคนม • เลย้ี งสัตว์ เชน่ เลยี้ งปลา เล้ยี งเป็ด-ไก่ 5.ครูและผูเ้ รียนใช้เทคนิคการจดั การเรยี นรู้แบบสาธติ คือ กระบวนการทผี่ ู้สอน หรอื บุคคลใดบุคคลหนึง่ ใช้ ในการชว่ ยใหผ้ ู้เรียนไดเ้ กิดการเรียนรูต้ ามวัตถปุ ระสงค์ โดยการแสดงหรอื กระทำใหด้ เู ป็นตัวอย่างพรอ้ มกับการบอก อธบิ าย ให้ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรู้ ผ้เู รยี นจะเกิดการเรียนรจู้ ากการสงั เกต กระบวนการข้ันตอนการสาธิตนนั้ ๆ แล้วให้ ผู้เรียนซกั ถาม อภิปราย และสรปุ การเรยี นรู้เร่อื งวตั ถุประสงคใ์ นการทำบัญชขี องเกษตรกร โดยวัตถุประสงค์ในการ จัดทำบญั ชีของเกษตรกรตามวสิ ยั ทัศน์ของกรมตรวจบัญชสี หกรณ์ 6.ครแู ละผู้เรยี นใชเ้ ทคนิคการจัดการเรยี นรแู้ บบบรรยาย คือ กระบวนการเรียนรู้ทีผ่ ูส้ อนเป็นผถู้ ่ายทอด ความร้ใู หแ้ กผ่ ู้เรยี นโดยการพูดบอกเลา่ อธิบายหน่วยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งกับเกษตรกรทีผ่ ู้สอนได้เตรียมการศกึ ษา คน้ ควา้ มาเป็นอยา่ งดี และเปดิ โอกาสให้ผ้เู รยี นไดซ้ กั ถามแสดงความคดิ เห็นได้บ้างถ้าผสู้ อนเปิดโอกาส โดย หนว่ ยงานท่ีเกย่ี วข้องกับเกษตรกร ไดแ้ ก่ หน่วยงานทีเ่ ก่ยี วขอ้ งกบั เกษตรกรในประเทศ และหนว่ ยงานท่ีเกีย่ วข้อง กบั เกษตรกรต่างประเทศ 7.ครแู นะนำให้ผเู้ รยี นควรการทำบัญชดี ้วยความละเอียดรอบคอบ มีความเพยี รพยายามในการนำความรู้ ไปใชใ้ ห้ประสบความสำเรจ็ และมคี วามระมดั ระวังข้อผิดพลาดท่อี าจจะเกิดขนึ้ ได้ในระหวา่ งการทำงาน หรอื หลังจากปฏบิ ัติหนา้ ทีด่ ้วยความรับผดิ ชอบ ซึง่ เป็นการสรา้ งภูมิค้มุ กันทด่ี ีในตวั เองตามแนวทางปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ดังน้ัน ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง จงึ เปน็ หลกั การดำเนนิ ชีวิต การทำงาน การบริหาร การพัฒนา รวมถึง การดำเนินกจิ กรรมในด้านต่างๆ ของมนษุ ย์ ท่ีเน้นแนวทางสายกลางยดึ หลกั ความพอประมาณ ความมเี หตุผล และมภี ูมิคุ้มกันท่ีดี ภายใตเ้ งือ่ นไขความรอบรู้ รอบคอบ ระมดั ระวัง และเงือ่ นไขคณุ ธรรม ความซอ่ื สตั ย์สุจรติ ความเพียร ขยันอดทน และการแบง่ ปนั 8.ครูและผู้เรียนสรุปความหมายของเกษตรกร ประเภทของเกษตรกร วัตถุประสงค์ในการทำบัญชีของ เกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกร โดยการสุ่มให้ผู้เรียนตอบคำถามเกี่ยวกับเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนเกิดทักษะความชำนาญ และนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ 9.ทำแบบประเมินผล แบบฝกึ ปฏบิ ัติ และประเมินตนเองจากแบบประเมนิ ตนเอง รวมท้งั กจิ กรรมการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้

6. ส่ือและแหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี น วชิ าการบัญชีกจิ การพเิ ศษ ของบริษทั สำนักพิมพ์เอมพันธ์ จำกดั 2.รูปภาพ 3.กิจกรรมการเรยี นการสอน 4.ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส,์ PowerPoint 5.แบบประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 6.แบบประเมนิ กิจกรรมใบงาน 7. หลักฐานการเรียนรู้ 7.1 หลกั ฐานความรู้ แบบฝกึ หดั หน่วยที่ 5 7.2 หลกั ฐานการปฏบิ ตั งิ าน ใบงานที่ 1 ใบงานที่ 2 8. การวดั และประเมินผล 8.1 เครื่องมือประเมิน 1. ใชส้ มุดบนั ทกึ เวลาเรียนฯ ขานช่ือผ้เู รียนและตรวจการตรงต่อเวลา 2. ใชแ้ บบสงั เกตความพรอ้ มในการเรยี น ประเมนิ ความพรอ้ ม เชน่ มหี นงั สอ่ื สมุด ปากกา การแตง่ กาย เป็นตน้ 8.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ใชแ้ บบสงั เกตพฤตกิ รรม สงั เกตการตอบคำถาม ความสนใจใฝร่ ู้ ความรบั ผิดชอบ ต่องานทม่ี อบหมาย การร่วมกจิ กรรม 2. ภาคทฤษฎี แบบประเมนิ ผลหลงั การเรียนรผู้ ่านเกณฑ์การประเมิน 60% 3. ภาคปฏบิ ัติ ประเมินการฝกึ ปฏบิ ัติทา้ ยหนว่ ยการเรียนและใบงานเพม่ิ เติมสง่ ภายในกำหนดเวลา

9. บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้ ................................................. หนว่ ยที่ 5 (นางสาวณฐอร อว้ นลำ่ ) หัวหนา้ แผนกวชิ า 9.1 ขอ้ สรุปหลังการจดั การเรียนรู้ ................................................. 9.2 ปญั หาท่ีพบ (นางสาวธญั ญรัตน์ จำรัส) 9.3 แนวทางแกป้ ัญหา รองฝ่ายวชิ าการ ................................................. (นางขวัญธิดา เทพสุริยะ) ครผู ูส้ อน ................................................. (นางสาวธญั ญรัตน์ จำรัส) หัวหน้างานพัฒนาหลักสตู รฯ