Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เท่าทันสื่อ อำนาจในมือพลเมืองดิจิทัล

เท่าทันสื่อ อำนาจในมือพลเมืองดิจิทัล

Published by 000bookchonlibrary, 2021-06-10 03:09:37

Description: เท่าทันสื่อ อำนาจในมือพลเมืองดิจิทัล

Search

Read the Text Version

เทา่ ทนั สอ่ื : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ลั 51 ในชว่ งปลายเดอื นมกราคม พ.ศ. 2561 นบั เปน็ ครง้ั แรกในประวตั กิ ารณ์ ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่ีแอคทีฟซึ่งเคยมีจำ�นวนเพิ่มข้ึนทุกปี กลับพบว่า มีจำ�นวน ลดลง จาก 185 ลา้ นราย เหลอื 184 ลา้ นราย โดยผใู้ ชท้ ล่ี ดจ�ำ นวนลงพบใน อเมรกิ าและแคนาดา ซง่ึ เปน็ ภมู ภิ าคทที่ �ำ รายไดต้ อ่ แตล่ ะบญั ชผี ใู้ ชม้ ากทส่ี ดุ คือ 26.76 เหรียญสหรัฐต่อหน่ึงรายช่ือผู้ใช้ต่อปี เมื่อเปรียบเทียบเฉลี่ย รายไดจ้ ากประเทศอน่ื ๆ ทว่ั โลกอยทู่ ่ี 6.18 เหรยี ญสหรฐั ตอ่ หนง่ึ รายชอ่ื ตอ่ ปี น่ีเป็นตัวอย่างหนึ่งของผู้ประกอบการแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่สามารถ ทำ�รายได้จากธุรกิจ จึงไม่น่าแปลกใจท่ีบริษัทเหล่าน้ีต้องพยายามปรับปรุง ผลติ ภณั ฑห์ รอื กจิ กรรมใหมๆ่ เพอ่ื สรา้ งความเพลดิ เพลนิ กระตนุ้ และจงู ใจให้ ผใู้ ชบ้ รกิ ารยงั คงความสมั พนั ธท์ เ่ี หนยี วแนน่ กบั แพลตฟอรม์ ตา่ งๆ เหลา่ นไ้ี ว้ ให้นานท่ีสดุ อีกตัวอย่างของบทบาทเอกชนในการเข้ามาเก่ียวข้องกับการโพสต์ ข้อความของพลเมอื งดจิ ทิ ัล ได้แก่ เฟซบุ๊ก16 ซ่ึงทดลองใช้ปญั ญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เพ่ือมาช่วยสอดส่องการโพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ ส่อเค้าวา่ จะน�ำ ไปส่กู ารฆ่าตวั ตายและการก่อการรา้ ย มารค์ ซคั เคอรเ์ บริ ์ก ผกู้ อ่ ตง้ั เฟซบกุ๊ อธบิ ายการท�ำ งานของระบบตรวจจบั ความเสย่ี งการฆา่ ตวั ตาย ทเ่ี รม่ิ ทดสอบซอฟตแ์ วรม์ าตง้ั แตเ่ ดอื นมนี าคม พ.ศ. 2560 วา่ ขน้ั ตอนเรม่ิ จาก การคน้ หาข้อความส่วนตวั การแสดงความคิดเห็น รวมท้งั การถ่ายทอดสด เฟซบุ๊กที่มีสัญญาณบ่งช้ีว่า ผู้ใช้เหล่านั้นอาจมีความคิดท่ีจะทำ�ร้ายตัวเอง หรืออาจถงึ ฆ่าตัวตาย เมอ่ื พบความเสี่ยง ซอฟตแ์ วร์นี้จะพยายามติดต่อไป ยังผู้ใช้รายน้ัน หรือยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผ่านการส่งรายชื่อ เบอร์ติดต่อ ของเพือ่ นหรอื คนสนทิ ของผใู้ ชท้ มี่ ีความเสยี่ ง หรือเบอร์สายดว่ นหนว่ ยงาน ท่ดี ูแลเร่อื งน้ใี นสหรัฐฯ ขณะเดียวกันก็จะส่งระบบแจ้งเตือนมายังทีมงาน 16 https://www.voathai.com/a/facebook-suicide-prevention/4144160.html 12/3/2007

52 เทา่ ทนั ส่ือ : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ลั ของเฟซบกุ๊ ทคี่ อยดแู ลดา้ นการรบั มอื กบั ความเสยี่ งดงั กลา่ วตลอด 24 ชว่ั โมง ทกุ วนั เพอ่ื ใหท้ มี งานตดิ ตอ่ หนว่ ยงานทด่ี แู ลโดยตรง รวมทง้ั ครอบครวั และ คนสนทิ ของผใู้ ชไ้ ดท้ นั ทว่ งที การใช้ AI มาช่วยสอดสอ่ งพฤตกิ รรมของผูใ้ ช้ เฟซบุ๊ก ก่อให้เกิดเสียงวิจารณ์ถึงการละเมิดความเป็นส่วนตัวที่อาจทำ�ให้ สถานการณเ์ ลวรา้ ยลงไปอกี และมขี อ้ เสนอวา่ เฟซบกุ๊ ควรเตรยี มแผนจดั การ การคกุ คามรังแกบนโลกโซเชียลมากกวา่ ป้องกนั การฆา่ ตวั ตายทป่ี ลายเหตุ หากดูแง่มุมทางกฎหมายในบ้านเราพบว่า บทบาทของภาคเอกชน มีส่วนในการกำ�กับดูแลเน้ือหาในอินเทอร์เน็ตตามพระราชบัญญัติว่าด้วย การกระท�ำ ความผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ ซงึ่ ระบภุ าระรบั ผดิ อยทู่ ต่ี วั กลาง17 สาระส�ำ คัญคือ หากผใู้ ห้บริการจงใจสนับสนุนหรือยนิ ยอมใหม้ กี ารกระท�ำ ความผดิ ตามทก่ี ฎหมายก�ำ หนดไวใ้ นระบบคอมพวิ เตอรท์ อ่ี ยใู่ นความควบคมุ จะไดร้ ับโทษ ดังนั้นเมอื่ เว็บไซตม์ ีการพัฒนาเข้าส่ยู ุค 2.0 อยา่ งเตม็ รูปแบบ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถผลิตเน้ือหาเข้าสู่เว็บไซต์ต่างๆ ได้เอง โดยผ่าน แอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊ก ทวติ เตอร์ ฯลฯ หรอื ที่ร้จู ักกนั ว่า Users generate content. ทำ�ให้การผลิตและกล่ันกรองเนื้อหาเปล่ียน รูปแบบไป ด้วยลักษณะอันเปิดกว้างและกระจายศูนย์มากยิ่งขึ้นทำ�ให้ ผใู้ หบ้ รกิ ารอนิ เทอรเ์ นต็ ตอ้ งอาศยั ความระมดั ระวงั ในการก�ำ กบั ดแู ลเนอ้ื หา ภายใต้ข้อกำ�หนดตามกฎหมาย18 ผู้ให้บรกิ ารอินเทอรเ์ น็ต (Internet Service Provider) และผปู้ ระกอบ กจิ การโทรคมนาคมหรอื ใหบ้ รกิ ารโทรศพั ทม์ อื ถอื ลว้ นเปน็ ภาคเอกชนทต่ี อ้ ง ขอรบั ใบอนญุ าตจากองคก์ รก�ำ กบั ดแู ล ในกรณขี องประเทศไทย หนว่ ยงาน ดงั กลา่ วไดแ้ ก่ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. แม้ว่ากฎหมายจะกำ�หนดขอบเขต 17 สนใจอา่ นเพมิ่ เตมิ ใน https://thainetizen.org/wp-content/uploads/2010/05/Inter-liability-full.pdf 18 พริ งรอง รามสตู . (2556) การก�ำ กบั ดแู ลเนอ้ื หาอนิ เทอรเ์ นต็ . โรงพมิ พแ์ หง่ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั . กรุงเทพฯ.หน้า 312

เท่าทนั สอ่ื : อำ�นาจในมือพลเมืองดจิ ิทัล 53 ผ้บู ริหาร Telenor เขียนถึง นสพ.นอรเ์ วย์วา่ ไดร้ บั โทรศพั ทจ์ าก กสทช. เมอื่ วันที่ 28 พ.ค. 2014 ใหป้ ดิ ก้นั การเขา้ ถึงเฟซบกุ๊ ของผ้ใู ช้ไทย ท่มี าภาพ : เว็บไซตบ์ างกอกโพสต์ อำ�นาจหน้าที่ตลอดจนการกำ�กับการส่ือสารท่ีคำ�นึงถึงสิทธิเสรีภาพในการ สื่อสารได้รับการบัญญัติไว้ แต่เหตุการณ์ “ปิดเฟซบุ๊กช่ัวคราว” ได้สร้าง ความตระหนกใหก้ บั พลเมอื งดจิ ทิ ลั ทว่ั ประเทศทม่ี ผี ใู้ ชเ้ ฟซบกุ๊ ราว 10 ลา้ นคน เมือ่ วันที่ 28 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 15.45 นาฬิกา เป็นเวลาราว หน่ึงชั่วโมง19 เวลาน้ัน ฝ่ายรัฐหลายหน่วยงานได้ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่า เปน็ ปญั หาในเชงิ เทคนคิ ในเวลาตอ่ มา Telenor บรษิ ทั โทรคมนาคมสญั ชาติ นอร์เวย์ ซง่ึ ดำ�เนินการในไทยภายใต้ DTAC เผยแพรค่ �ำ ช้ีแจงว่า เหตกุ ารณ์ ปิดกั้นการเข้าถึงเฟซบุ๊กมาจากคำ�ขอร้องของ กสทช.20 เป็นที่น่าสังเกตว่า ไมม่ บี รษิ ทั ผปู้ ระกอบกจิ การโทรคมนาคมรายอน่ื ๆ ในประเทศไทยทอ่ี อกมา เปิดเผยถึงที่มาของเหตุการณ์ครั้งสำ�คัญดังกล่าว และหลังจากนั้นไม่นาน สื่อมวลชนในไทยได้เผยแพร่คำ�ขอโทษของ DTAC ต่อรัฐบาลไทยภายใต้ 19 https://freedom.ilaw.or.th/blog/OnlineMedia2014 12/4/2017 20 https://www.privacyinternational.org/node/1346 12/5/2017

54 เท่าทันส่อื : อ�ำ นาจในมอื พลเมอื งดจิ ทิ ัล การปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ กสทช. ที่ได้ แถลงการณท์ ม่ี าของเหตกุ ารณด์ งั กลา่ ว และแสดงความเขา้ ใจตอ่ สถานการณ์ การเมอื งในประเทศไทยวา่ อยรู่ ะหว่างการสรา้ งความปรองดอง21 กรณีการจำ�กัดการเข้าถึงเฟซบุ๊กภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้ง ทางการเมืองที่เกิดขึ้นใน พ.ศ. 2558 เป็นเหตุการณ์เพียงช่วงเวลาส้ันๆ ที่สร้างผลกระทบกับผู้ใช้วงกว้าง ก่อให้เกิดความโกลาหล ความไม่พอใจ สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากพลเมืองจำ�นวนมากทั้งกลุ่มที่ใช้เฟซบุ๊กเป็น พ้ืนท่ีแสดงความคิดเห็นทางการเมือง การค้าขายออนไลน์ ตลอดจนการ ติดต่อส่ือสารทั่วไป ปรากฏการณ์น้ีนับเป็นหลักฐานชิ้นสำ�คัญที่ทำ�ให้เรา ตระหนักชดั เจนว่า เสรีภาพในการสอ่ื สารบนพื้นที่ออนไลน์ เป็นเสรีภาพที่ ท้ังภาครัฐและเอกชนที่ดำ�เนินการให้บริการด้านโทรคมนาคมสามารถ เขา้ มาแทรกแซงการเขา้ ถงึ ของพลเมืองได้ในหลายรปู แบบ ในประเด็นเร่ือง ตลาด สังคมและรฐั กบั สือ่ มมี ุมมองน่าสนใจของ นธิ ิ เอียวศรวี งศ2์ 2 ศาสตราจารยด์ า้ นประวัติศาสตร์ เขาเหน็ ว่า ในบรรดา พลงั สามสว่ นนี้ รฐั คอื ตวั อนั ตรายทสี่ ดุ หากรฐั มอี �ำ นาจก�ำ กบั ควบคมุ สอื่ แลว้ ย่อมใช้อำ�นาจนั้นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนของผู้ถืออำ�นาจรัฐเท่านั้น และ พรอ้ มจะใหร้ า้ ยและลงโทษผอู้ น่ื เพอ่ื รกั ษาประโยชนส์ ว่ นตน โดยไมต่ อ้ งกลวั สงั คมตรวจสอบดว้ ย เพราะสอ่ื จะไมก่ ลา้ รายงาน นธิ มิ องวา่ รฐั ไมม่ หี นา้ ท่ี ก�ำ กบั ควบคมุ สอ่ื โดยตรง แตม่ หี นา้ ทท่ี �ำ ใหก้ ฎหมายทอ่ี อกตามความเหน็ ชอบ ของประชาชน ซ่ึงกำ�กับควบคุมความสัมพันธ์ทางสังคมถูกบังคับใช้อย่าง เทีย่ งตรง เชน่ กฎหมายหมนิ่ ประมาท กฎหมายคุ้มครองความเป็นสว่ นตัว กฎหมายรักษาความลับทางการค้า กฎหมายอนาจาร ฯลฯ 21 http://www.nationmultimedia.com/breakingnews/Telenor-Group-apologises-for-saying- dtac-ordered-t-30236306.html 12/5/2017 22 บทความเรอื่ ง ตลาด สงั คมและรฐั กบั สอื่ ใน https://www.matichon.co.th/news/552561 2/5/2018

เทา่ ทันสอ่ื : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดิจทิ ัล 55 สอ่ื ในฐานะเอกชน ถกู รฐั ก�ำ กบั ควบคมุ อยแู่ ลว้ แตเ่ พอ่ื ประโยชนข์ อง ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อเสรมิ สรา้ งอ�ำ นาจของกล่มุ ใดกลุม่ หนึง่ เขาเหน็ วา่ สงิ่ ที่ รัฐต้องท�ำ กับสอ่ื คอื ท�ำ ให้สงั คมเข้มแข็งพอจะตรวจสอบและกำ�กบั สอ่ื ผ่าน ตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น เผยแพร่ความรู้ท่ีจะทำ�ให้ฉลาดในการ รบั สอื่ (media literacy) แกเ่ ดก็ และเยาวชนในสถานศกึ ษา, สนบั สนนุ องคก์ ร สงั คมทที่ �ำ งานดา้ นประเมนิ สอ่ื (หลายองคก์ รไมใ่ ชอ่ งคก์ รเดยี ว) ใหไ้ ดท้ �ำ งาน และได้เผยแพร่ผลการวิเคราะหข์ องตนต่อสงั คม เปน็ ต้น ดังนัน้ หากตลาด และสังคมทำ�งานร่วมกัน โดยมีสังคมนำ� จะเป็นการกำ�กับควบคุมท่ีมี ประสิทธิภาพและทำ�ให้สือ่ มีคณุ ปู การตอ่ ส่วนรวมได้มาก

56 เท่าทนั ส่อื : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ลั

เทา่ ทันส่อื : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดจิ ทิ ัล 57 บทที่ 4 เทา่ ทัน “ขา่ วปลอม” ในยุคหลงั ความจริง “เราต้องมคี วามสามารถประเมนิ ได้ว่าอะไรจริงหรอื ไม่จริง และถ้าไปไกลกว่าน้นั คอื สามารถสร้างส่ือดว้ ยตัวเอง สร้างความจรงิ ในชุดแบบทตี่ อ้ งการ คนอืน่ กอ็ าจจะ เหน็ ว่าไมส่ มบูรณ์ แตม่ ันคอื โลกที่พลเมืองมคี วามรู้ ความสามารถในการประเมิน และสรา้ งวาทกรรม สร้างส่ือ เพอ่ื ต่อสกู้ บั แนวคดิ อ่นื ๆ ไดด้ ้วย” มมุ มองของ วรพจน์ วงศ์กจิ รงุ่ เรือง

58 เทา่ ทนั สอ่ื : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ลั ในปี พ.ศ. 2560 เปน็ ปที ค่ี วามนา่ เชอื่ ถอื ของขา่ วสารตกเปน็ เปา้ โจมตี และถอื เปน็ ปรากฏการณท์ ม่ี กี ารกลา่ วถงึ กนั มาก จนกระทง่ั Collins Dictionary ยกให้คำ�วา่ Fake News เป็นคำ�แหง่ ปี ค.ศ. 2017 ความหมายของคำ�น้ีถกู นำ�มาใช้ในสองบริบท อย่างแรก คือการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพ่ือหวังผล ทางการเมือง เช่น การใช้ระบบคอมพิวเตอร์กระพือข่าวเท็จจนส่งผลต่อ ความคดิ ของคนในวงกว้าง และ บริบทที่สอง สืบเน่ืองมาจากผู้นำ�สหรัฐ- อเมรกิ า ประธานาธบิ ดี โดนลั ด์ ทรมั ป์ แสดงความเหน็ ตอ่ สอื่ หรอื ส�ำ นกั ขา่ ว ตา่ งๆ ทท่ี �ำ งานมานาน เชน่ CNN, New York Times, Washington Post, NBC ว่าเป็นผู้เสนอข่าว fake news ที่เชื่อถือไม่ได้23 ซ่ึงนัยยะหลังน้ี น�ำ มาสกู่ ารวพิ ากษ์วจิ ารณ์กนั อย่างแพรห่ ลาย นอกจากคำ�ว่าข่าวปลอม หรือ fake news แล้ว หากย้อนกลับไป ในปีก่อนหน้าน้นั คำ�ว่า หลังความจริง (Post-Truth) เป็นคำ�ยอดนิยมอีก ค�ำ หนง่ึ ซงึ่ หมายถงึ เรอื่ งเกยี่ วกบั เหตกุ ารณห์ รอื สถานการณท์ คี่ วามจรงิ ไมม่ ี ความสำ�คัญหรือไมม่ คี วามหมายอกี ต่อไป สิง่ ทส่ี ำ�คัญกวา่ คอื อารมณร์ บั รู้ และความเชอ่ื สว่ นบุคคล พูดอีกแบบหนึง่ กค็ อื ความรูส้ กึ ชอบหรือไมช่ อบ ในเรอ่ื งนน้ั ๆ น�ำ มาสกู่ ารปกั ใจเชอ่ื และเปน็ ขอ้ มลู สนบั สนนุ การแสดงความเหน็ หรอื จดุ ยืนมากกวา่ ขอ้ เท็จจรงิ ศัพทค์ �ำ นี้ พจนานกุ รม Oxford Dictionary เลอื กเปน็ ค�ำ แหง่ ปี ค.ศ. 2016 หลงั จากมกี ารใชค้ �ำ นเ้ี พม่ิ ขน้ึ จ�ำ นวนมากใน 23 https://www.voathai.com/a/yearender-fakenews-ro/4179210.html 1/3/2018

เทา่ ทันสอ่ื : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ลั 59 ชว่ ง พ.ศ. 2559 ช่วงปนี ั้นมเี หตกุ ารณน์ า่ ต่นื ตาและผันผวนทางการเมืองใน ตะวันตกสองเหตุการณ์ ได้แก่ การแสดงประชามติของชาวอังกฤษเพ่ือ สนบั สนนุ การแยกตวั จากสหภาพยโุ รป (Brexit) และการเลอื กตง้ั ประธานาธบิ ดี สหรฐั อเมริกาท่พี ลิกผันและสรา้ งความแตกแยก24 การถกเถยี งอภิปรายเกย่ี วกับ Post truth และ Fake news ไดน้ �ำ ไป สู่โฟกัสใหม่ในเร่ืองการเท่าทันส่ืออย่างกว้างขวาง ถึงขนาดเป็นประเด็น สัมมนาในการประชุมสื่อระดับโลกของปี โดยเม่ือวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ได้มีการจัด the 8th European Public Communication Conference ที่ประเทศเบลเยียม ภายใต้หัวข้อ Media Literacy in the Post-Truth Era-Surviving in a World of Fake News and Misinformation25 และกอ่ นหนา้ นนั้ ทางสมาพนั ธห์ อ้ งสมดุ นานาชาติ (International Federation of Library Associations and Institutions) ได้เผยแพร่อินโฟกราฟิกและ จดั แปลมากกวา่ 30 ภาษาเพอื่ ใหข้ อ้ มลู กับสาธารณะเก่ยี วกบั วธิ ีการงา่ ยๆ 8 ขอ้ ส�ำ หรบั ตรวจสอบวา่ ขา่ วใดเปน็ ขา่ วปลอม เนอื่ งจากสมาพนั ธห์ อ้ งสมดุ เห็นว่า การคิดแบบวิพากษ์ (critical thinking) เป็นทักษะสำ�คัญในการ เทา่ ทนั สอ่ื และขอ้ มลู ขา่ วสาร และพนั ธกจิ ของหอ้ งสมดุ คอื การใหก้ ารศกึ ษา และผลักดันให้เหน็ ถึงความสำ�คญั ดงั กล่าว แปดขอ้ พ้นื ฐานในการตรวจสอบข่าวท่ีเราก�ำ ลงั อา่ นตรงหนา้ ได้แก่ 1.ตรวจสอบแหล่งที่มา เช่น พิจารณาจากเว็บไซต์ขององค์กรว่ามีพันธกิจ ขององค์กรท่ีเกี่ยวข้องหรือไม่ และมีตำ�แหน่งแห่งท่ีที่สามารถติดต่อได้ 2.ตรวจสอบผู้เขียนว่ามีตัวตนไหม 3.ตรวจสอบวันที่เผยแพร่ เพราะ หลายคร้ังที่การเผยแพร่เรื่องในอดีตไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน 4.ดูใหแ้ น่ว่า เปน็ เรื่องเยาะเยย้ เสยี ดสี เร่อื งตลกหรือเปล่า 5.อา่ นเนือ้ เร่อื ง 24 https://www.voathai.com/a/word-of-the-year-ct/3599534.html 1/3/2018 25 http://ethicaljournalismnetwork.org/media-literacy-post-truth-era-surviving-world-fake-news- misinformation 1/3/2018

60 เทา่ ทนั ส่อื : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดจิ ทิ ลั ตรวจตราทีม่ า อานเน้ือหาโดยรวม ดูเวบ็ ไซต ภารกิจองคก ร ที่ตดิ ตอ พาดหวั หวือหวา แลวเนอื้ หาละ ใชเ ร่ืองเดยี วกันไหม ? รจู ักผูเ ขียน ลงิ คทเ่ี หน็ เกยี่ วกบั เน้อื หาไหม ? คนดใู หไ ววา ผูเ ขยี นมตี ัวตนไหม นาเชื่อถอื เพยี งใด คลิกดูความเก่ียวขอ งของลงิ คกับเนื้อหาขาว ตรวจสอบวนั ท่เี ผยแพร ขาวลอ เลน หรอื เปลา ? การโพสตข า วเกา อาจจะไมส อดคลอง ดใู หแนว า เปนเรอื่ งลอ เลน กับเหตุการณป จ จบุ นั หรอื เยาะเยย เสยี ดสหี รอื เปลา ตรวจสอบอคตขิ องเรา ถามผรู ู ถา ไมแ นใ จในเรอื่ งนั้นๆ เพราะความเช่อื สว นตัว ควรถามผรู ูหรือตรวจสอบกับ อาจจะไปตัดสินผูอืน่ ได แหลงขอมูลท่ีนำเสนอขอเทจ็ จรงิ อน่ื ๆ International Federation of Library Associations and Institutions With thanks to www.FactCheck.org ที่มา : How to Spot Fake News : The International Federation of Library Associations and Institutions (IFLA)

เทา่ ทันส่อื : อำ�นาจในมือพลเมอื งดจิ ิทลั 61 ทง้ั หมดแทนทจ่ี ะดเู ฉพาะพาดหวั แลว้ ท�ำ การเผยแพรต่ อ่ 6.ตรวจสอบดลู งิ ก์ ในเนอ้ื หาทน่ี �ำ เสนอนนั้ ๆ วา่ เรอ่ื งราวสอดคลอ้ งเกยี่ วขอ้ งหรอื สนบั สนนุ เรอื่ ง หรือไม่ 7.ตรวจสอบอคติของเราเอง เพราะบ่อยครั้งความเชื่อส่วนบุคคล ของเราอาจจะนำ�ไปสู่การตัดสินผู้อ่ืนได้ 8.สอบถามผู้รู้หรือตรวจสอบกับ แหลง่ ขอ้ มลู ทน่ี �ำ เสนอขอ้ เทจ็ จรงิ อนื่ ๆ เพอื่ ใหแ้ นใ่ จในความถกู ตอ้ งของขา่ ว ทอ่ี ่านเจอ26 นอกจากบทบาทของหอ้ งสมดุ สถาบนั ทส่ี งั คมตะวนั ตกใหค้ วามส�ำ คญั ในฐานะท่ีเป็นองค์กรซึ่งมีพันธกิจในการเผยแพร่เรื่องการเท่าทันสื่อและ เท่าทนั ขอ้ มูลข่าวสารแก่สาธารณะแล้ว สถาบันการศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา ในหลายประเทศต่างเห็นว่าเร่ืองน้ีมีความจำ�เป็นเร่งด่วนที่ต้องเผยแพร่ให้ สาธารณะมคี วามรู้ความเข้าใจ27 นักวชิ าการด้านภาษาศาสตรป์ ระยุกต์จาก the Open University แหง่ สหราชอาณาจกั ร เหน็ วา่ มหาวทิ ยาลยั เปน็ สถาบนั การศึกษาท่ีฝึกฝนให้ผู้เรียนมีทักษะเชิงวิพากษ์ในงานเขียนทางวิชาการ การเผยแพร่ความรู้ในเร่ืองเท่าทันข้อมูลข่าวสารโดยการตรวจสอบแหล่ง ที่มาและการอ้างอิงข้อมูลเป็นทักษะเดียวกับการฝึกฝนทางวิชาการ และ มหาวิทยาลัยจึงได้มีโครงการเผยแพร่ความรู้เท่าทันข่าวสารในยูทูปเพื่อ บรกิ ารสาธารณะ ขณะที่ Sheffield University จดั ท�ำ หลักสูตรออนไลนฟ์ รีช่อื Making sense of Data in the Media เพื่อให้ผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารมีความคิด เชิงวิพากษ์เกี่ยวกับข้อมูลตัวเลขท่ีเผยแพร่ในส่ือและตรวจสอบลักษณะ ของขา่ วลวงดว้ ย นกั วชิ าการผอู้ อกแบบหลกั สตู รนมี้ องวา่ ตวั เลขหรอื ขอ้ มลู ทางสถิติเป็นพ้ืนที่ของการต่อสู้ช่วงชิงความจริง และมักมีการอ้างหรือ นำ�เสนอในฐานะท่ีเป็น “ความจริงเชิงภววิสัย” คือ วัดได้ตรวจสอบได้ 26 https://www.ifla.org/publications/node/11174 1/4/2018 27 http://www.bbc.com/news/education-41902914 1/4/2018

62 เท่าทนั สือ่ : อำ�นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ัล การอา้ งตวั เลขจงึ เปน็ การสรา้ งความนา่ เชอื่ ถอื ใหป้ ระชาชนคลอ้ ยตามจดุ ยนื ทางการเมอื งหนงึ่ ๆ ทถี่ กู สรา้ งขน้ึ มา และเมอ่ื สถติ หิ รอื ขอ้ มลู ถกู สรา้ งขน้ึ มา เพ่ือประโยชน์เฉพาะ อาจส่งผลให้ข่าวปลอมแต่ละเรื่องกลายเป็นข่าวน่า เช่ือถอื ได้ ดังน้นั จงึ เปน็ เรอ่ื งท่ีเปน็ ประโยชนส์ �ำ หรบั ผบู้ รโิ ภคส่อื จะได้เรียนรู้ จากการตีความขอ้ มลู เหล่านน้ั เพ่ือความเทา่ ทนั ในการรบั ขอ้ มูลข่าวสาร28 สำ�หรับภาคเอกชนอย่างเฟซบกุ๊ ซ่งึ เปน็ แพลตฟอรม์ โซเชียลมเี ดียที่ กลายเปน็ พนื้ ทอี่ นั ดบั ตน้ ๆ ของการแพรก่ ระจายขา่ วลวง ไดน้ �ำ เสนอวธิ กี าร ป้องกันข่าวปลอมหลากหลายวิธีในช่วงตลอดปีที่ผ่านมา เช่น การเปิดตัว ฟเี จอรใ์ หม่ เมอื่ ผบู้ รโิ ภคคลกิ ปมุ่ ทจ่ี ะชว่ ยใหข้ อ้ มลู เกย่ี วกบั บทความดงั กลา่ ว ไอเดยี ของฟเี จอรน์ ค้ี อื การใหบ้ รบิ ทของขา่ วส�ำ หรบั ผบู้ รโิ ภคในการพจิ ารณา ความนา่ เชอื่ ถอื ของทม่ี าขา่ วนน้ั ๆ29 เฟซบกุ๊ ยงั รว่ มมอื กบั หลายโครงการ เชน่ factcheck.org ซงึ่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของศนู ยน์ โยบายสาธารณะแหง่ มหาวทิ ยาลยั เพนซลิ วาเนยี เพอ่ื สนบั สนนุ ใหผ้ ใู้ ชเ้ ฟซบกุ๊ ชว่ ยกนั ตรวจสอบและตดิ สญั ลกั ษณ์ หรอื สง่ ขอ้ มลู เพอ่ื ใหม้ กี ารตรวจสอบวา่ เปน็ ขา่ วปลอมหรอื ไม่ รวมทง้ั เปดิ เผย รายชื่อเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวปลอมและข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง30 และเมื่อวันท่ี 19 มกราคม พ.ศ. 2561 มารก์ ซคั เกอรเ์ บอรก์ ผกู้ อ่ ตง้ั เฟซบกุ๊ แสดงความเหน็ ในเพจของเขาว่า โลกทุกวันน้ีเต็มไปด้วยเร่ืองกระตุ้นความรู้สึกของผู้คน มากเกนิ ไป หรอื ไมก่ เ็ ปน็ ขอ้ มลู ขา่ วสารผดิ พลาด หรือเรื่องแบ่งข้างแบ่งขั้ว และเครอื ขา่ ยสงั คมออนไลนช์ ว่ ยใหก้ ารกระจายขา่ วสารเหลา่ นร้ี วดเรว็ มาก ยง่ิ ขน้ึ กวา่ ทผ่ี า่ นมา เฟซบกุ๊ จงึ เตรยี มรบั มอื ดว้ ยการปรบั ฟดี ขา่ วของส�ำ นกั ขา่ ว 28 สนใจหลักสูตรออนไลนฟ์ รี ดไู ด้จาก https://www.futurelearn.com/courses/media-data/2?utm_ source=BBC&utm_medium=referral&utm_campaign=TUOS_08_10_2017_media-data2 1/4/2018 29 http://ethicaljournalismnetwork.org/resources/videos/fake-news-social-media-aljazeera 1/4/2018 30 https://www.factcheck.org/fake-news/ 1/12/2018

เท่าทนั สือ่ : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดจิ ิทลั 63 ทม่ี ีความน่าเช่อื ถือ คำ�ถามคือว่า เฟซบกุ๊ จะใชว้ ธิ ีการอย่างไรในการกำ�หนด วา่ แหลง่ ขา่ วหรือสำ�นักขา่ วใดน่าเช่อื ถือ เขาตอบว่า เฟซบกุ๊ เลอื กวธิ กี ารให้ ชมุ ชนผใู้ ชเ้ ฟซบกุ๊ เขา้ มามสี ว่ นรว่ มในการใหข้ อ้ มลู ผา่ นการส�ำ รวจเชงิ คณุ ภาพ เพ่ือดูว่า แหล่งข่าวใดที่ผู้ใช้มีความคุ้นเคยและเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ ในการน�ำ เสนอข่าวสาร ผลการส�ำ รวจขอ้ มูลจากผู้ใช้เฟซบุก๊ จะมผี ลต่อการ เห็นฟดี ข่าวของส�ำ นกั ข่าวนนั้ ๆ บนเฟซบุ๊ก ‘ข่าวปลอมคกุ คามประชาธิปไตย’ นักการเมืองอย่างอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ- อเมริกา31 เป็นผู้หนึ่งที่แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ข่าวปลอม และ เหน็ วา่ “ขา่ วปลอมคกุ คามประชาธปิ ไตย” (Fake news threatens democracy) เขาเคยเสนอเรื่องน้ีตั้งแต่ก่อนลงจากตำ�แหน่งว่า ข่าวปลอมในเฟซบุ๊กและ แพลตฟอรม์ ตา่ งๆ บอ่ นท�ำ ลายกระบวนการทางการเมอื งของสหรฐั อเมรกิ า โอบามาเหน็ วา่ ถา้ ยงั ไมม่ กี ารเอาจรงิ เอาจงั ในการแกไ้ ขเรอ่ื งขา่ วปลอม และ ปล่อยให้ผู้คนยังคงอยู่ในความสับสนกับข้อเท็จจริง โดยไม่รู้ว่า อันไหน ถกู ต้อง หรือไมถ่ กู ต้อง หรอื ไมส่ ามารถแยกแยะว่า เร่อื งใดเป็นข้อโตแ้ ยง้ ที่ จริงจัง (serious argument) หรือเรอื่ งใดเปน็ โฆษณาชวนเช่ือ (propaganda) ประเทศต้องประสบปัญหาอย่างแน่นอน ซ่ึงในการเลือกต้ังประธานาธิบดี สหรัฐเม่ือ พ.ศ. 2559 พบว่า ส่อื สังคมมบี ทบาทอย่างมากในการเผยแพร่ ข่าวทไี่ ม่เป็นความจริงและสร้างความเข้าใจผดิ ให้กับผู้คน การแพรก่ ระจาย 31 https://www.usatoday.com/story/tech/2016/11/17/fake-news-threatens-democracy-obama- says/94045428/ 1/7/2018

64 เทา่ ทันส่อื : อ�ำ นาจในมอื พลเมอื งดจิ ทิ ลั เป็นไปอย่างรวดเร็วมากข้ึนเม่ือผู้บริโภคข่าวสารสามารถแชร์ข่าวสาร เหลา่ นน้ั ในโลกดจิ ทิ ลั ดว้ ยตนเองผ่านแพลตฟอรม์ แบบตา่ งๆ จากทวีปอเมริกา มาที่ทวปี ยุโรปกนั บ้าง ผนู้ �ำ ประเทศฝรัง่ เศสอยา่ ง ประธานาธบิ ดีเอ็มมานเู อล มาครง เปน็ อกี คนหน่งึ ท่ปี ระกาศนโยบายแกไ้ ข ปัญหาขา่ วปลอมใหเ้ ป็นนโยบายระดับชาติ ใน พ.ศ. 2561 โดยจะผลักดนั กฎหมายเพื่อสกัดก้ันข่าวปลอม เขาเป็นนักการเมืองอีกคนหนึ่งท่ีเห็นว่า ข่าวปลอมเป็นเร่ืองคุกคามประชาธิปไตย เนื่องจากการสร้างข่าวปลอม เป็นการสง่ เสรมิ ใหค้ นอ่านมีความคลางแคลงใจในเรอื่ งใดเรอ่ื งหนึ่ง และยัง สร้างความจริงทางเลือกที่ทำ�ให้ประชาชนเห็นว่าส่ือและนักการเมืองเป็น พวกหลอกลวงอยู่เสมอ ประธานาธิบดีฝร่ังเศสมองว่า หากเราต้องการ ปกป้องประชาธิปไตยเสรีนิยม จำ�เป็นต้องมีการออกกฎหมายที่เข้มงวด เพอ่ื ใหบ้ ทบาทกับกล่มุ เฝ้าระวงั ส่อื และแนวคิดของกฎหมายฉบับนีพ้ ่งุ เป้า ไปที่ส่ือสังคมออนไลน์เพ่ือทำ�ให้แพลตฟอร์มออนไลน์มีความโปร่งใสใน การนำ�เสนอเนื้อหาที่ได้รับสปอนเซอร์32 ประธานาธิบดีมาครงเปิดเผย เร่ืองนี้ในการสัมมนาร่วมกันสื่อมวลชนเม่ือช่วงปีใหม่ 2561 ซ่ึงองค์กรที่ เฝา้ ระวงั เรอ่ื งสทิ ธเิ สรภี าพของสอื่ และขอ้ มลู ขา่ วสารอยา่ ง Reporter without Borders ยงั ไมไ่ ดแ้ สดงจดุ ยนื ในเรอื่ งน้ี โดยจะรอจนกวา่ รา่ งแรกของกฎหมาย ฉบับน้ีไดม้ ีการเผยแพร่ก่อน33 เยอรมนี เปน็ อกี ประเทศทมี่ กี ารบงั คบั ใชก้ ฎหมายฉบบั ใหมล่ า่ สดุ ใน ชว่ งตน้ ปี พ.ศ. 2561 กฎหมายฉบบั นใ้ี ชก้ �ำ กบั ดแู ลโลกของขอ้ มลู ขา่ วสารใน ยุคดิจิทัลเป็นการเฉพาะภายใต้ชื่อย่อว่า the NetzDG- หรือ Network Enforcement Act ขอบเขตของกฎหมายนใ้ี ชบ้ งั คบั กบั ผใู้ หบ้ รกิ ารแพลตฟอรม์ ต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ท่ีมีหน้าท่ีต้องดำ�เนินการเคล่ือนย้ายข้อมูลนั้น 32 https://www.rt.com/news/414945-macron-france-fake-news-law/ 1/7/2018 33 https://rsf.org/en/news/rsf-hails-president-macrons-support-its-initiatives 1/12/2018

เท่าทนั สอ่ื : อำ�นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ลั 65 ออกจากระบบภายในเวลาที่กำ�หนด ข้อมูลท่ีเข้าข่ายต้องลบจะสอดคล้อง ตามขอบเขตทบี่ ัญญัติไวใ้ นกฎหมายอาญาของเยอรมัน โดยในกฎหมายที่ ประกาศใชฉ้ บบั ใหมแ่ บง่ ออกเปน็ สองระดบั คอื “ขอ้ มลู ทผี่ ดิ กฎหมายอยา่ ง โจง่ แจง้ ” (manifestly unlawful) ผใู้ หบ้ รกิ ารแพลตฟอรม์ ตอ้ งลบเนอื้ หาภายใน 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องเรียน ส่วนข้อมูลที่เข้าข่ายผิดกฎหมายแต่ยัง ไมช่ ดั แจ้ง มรี ะยะเวลา 7 วนั หลังจากไดร้ บั การร้องเรยี น ส�ำ หรบั ประเทศในอาเซยี น อยา่ งอนิ โดนเี ซยี ปจั จบุ นั มผี ใู้ ชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ราว 150 จาก 255 ล้านคน ได้มีการต้งั หนว่ ยงานไซเบอร์ใหม่ ซงึ่ มีหนา้ ท่ี รบั มอื กบั ปญั หาขา่ วปลอม ค�ำ พดู สรา้ งความเกลยี ดชงั และการเผยแพรค่ วาม รนุ แรง หนงึ่ ในคดเี รอื่ งขา่ วปลอมทแ่ี พรห่ ลายในอนิ โดนเี ซยี คอื การเผยแพร่ ขา่ วเทจ็ ทว่ี า่ รฐั บาลจนี เตรยี มจะท�ำ สงครามชวี ภาพกบั อนิ โดนเี ซยี ขา่ วปลอม นี้ทำ�ให้สถานทูตจีนในกรุงจาการ์ตาออกแถลงการณ์ว่า เรื่องดังกล่าวเป็น ขา่ วปลอม34 34 http://www.straitstimes.com/asia/se-asia/indonesia-launches-cyber-agency-to-tackle- extremism-fake-news 1/23/2018

66 เท่าทนั ส่อื : อำ�นาจในมือพลเมอื งดจิ ิทลั Fake News ในบรบิ ทไทย กลับมาดูที่ประเทศไทย ปญั หาเรือ่ ง “ขา่ วปลอม” ในบ้านเราเหมือน หรือแตกต่างกบั ตา่ งประเทศอยา่ งไร? 35 ปัญหาการแพร่หลายของข่าวเท็จ ข่าวปลอมในโลกออนไลน์ของ บา้ นเรา พบวา่ แตล่ ะกลมุ่ ในสงั คมแสดงความหว่ งใยและเสนอแนวทางแกไ้ ข ปัญหานี้แตกต่างกันไป เช่น กรณีของสื่อกระแสหลักอย่างสำ�นักข่าวไทย อสมท. ไดต้ ง้ั ศนู ยช์ วั รก์ อ่ นแชร์ ส�ำ นกั งานขา่ วไทย อสมท.36 โดยเรมิ่ เผยแพร่ ออกอากาศในสถานโี ทรทศั น์ ชอ่ ง อสมท. เพอ่ื น�ำ เสนอรายการตรวจสอบ ความจริงเร่ืองที่แชร์กันบนโซเชียลตั้งแต่ พ.ศ. 2558 พีรพล อนุตรโสตถ์ิ แหง่ ศนู ย์ชวั ร์ก่อนแชร์ สำ�นกั ข่าวไทย อสมท. บอกว่า ขา่ วปลอมมีจ�ำ นวน เพิ่มมากข้ึนในแต่ละปี และข่าวสารออนไลน์ท่ีผู้บริโภคส่ือมีความสงสัยใน ขอ้ เทจ็ จรงิ สว่ นมากเปน็ เรอื่ งสขุ ภาพ โดยเฉพาะกลมุ่ โรคไมต่ ดิ ตอ่ เรอื้ รงั เชน่ มะเรง็ เบาหวาน เป็นต้น เมอื่ เดอื นเมษายน พ.ศ. 2560 อสมท.ไดร้ ่วมมอื กับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และองค์กรพันธมิตรในการ ตรวจสอบและให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน ที่ผ่านมาได้มีการนำ�เสนอ เนือ้ หาทแ่ี ก้ไขความเข้าใจผิดซึง่ ปรากกฎในสอ่ื ออนไลน์มากกว่า 500 เร่ือง ผา่ นสอ่ื ตา่ งๆ ในรปู แบบของคลปิ วดิ โี อ สกปู๊ ขา่ ว สารคดวี ทิ ยุ อนิ โฟกราฟกิ และบทความ ซง่ึ เผยแพรใ่ นเวบ็ ไซต์ รายการโทรทศั น์ และเฟซบกุ๊ 35 เม่อื วนั ที่ 25 กุมภาพนั ธ์ 2561 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดสัมมนาวิชาการ เรื่อง วิกฤติ Fake News ในนิเวศน์ธุรกิจส่ือ และเมื่อวันท่ี 13 มกราคม 2561 สาขานิเทศศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทยั ธรรมาธิราช จัดสมั มนาเรอื่ ง Fake News วิกฤติการส่อื สารในยุคดจิ ิทัล ดูเพิม่ เตมิ http://www.thaibja.org/?p=3909 และเฟซบ๊กุ Fake News วิกฤตกิ ารส่อื สารในยคุ ดิจทิ ลั 36 https://www.it24hrs.com/2017/sure-and-share-check-news/

เทา่ ทนั สอ่ื : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดิจทิ ัล 67 แวดวงวชิ าการและสอื่ มวลชนให้ความสนใจแลกเปลี่ยนปญั หาเรื่องข่าวปลอม อยา่ งกว้างขวาง ท่มี าภาพ : http://www.law.tu.ac.th/fakenews การผลิตข้อมูลเท็จเพ่ือเผยแพร่ หรือข่าวปลอม มีวัตถุประสงค์ หลายอย่าง เช่น การเผยแพร่ข้อมูลเท็จเพื่อหลอกลวงใหผ้ ูบ้ ริโภคซอื้ สนิ คา้ หรือบริการ หรือการสร้างเว็บปลอมเพ่ือเลียนแบบให้ผู้อ่านเข้าใจผิด เช่น กรณีที่เคยมีการเผยแพร่เว็บไซต์ปลอมของสำ�นักข่าวอย่างน้อยสองแห่ง ไดแ้ ก่ เวบ็ ไซต์ของมติชน37 และไทยรฐั 38 เป็นท่นี ่าสังเกตว่า การทำ�เวบ็ ไซต์ ปลอมของสำ�นักข่าวจำ�นวนหน่ึง เป็นการแชร์ข่าวอาชญากรรม และ บางกรณเี มอื่ ผบู้ รโิ ภคคลกิ ไปลงิ กด์ งั กลา่ วอาจมผี ลตอ่ การกระจายของไวรสั ที่นำ�ไปสู่การเจาะข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ตามมา ซึ่งสำ�นักข่าวสองสำ�นัก ขา้ งต้นได้เผยแพรข่ อ้ ความเพอ่ื เตือนให้ผ้อู า่ นทราบวา่ วิธีการตรวจสอบว่า เป็นเว็บไซต์จริงของสำ�นักขา่ วน้ันตอ้ งดอู ย่างไร 37 https://www.matichon.co.th/news/211838 1/23/2018 38 https://www.thairath.co.th/content/629890 1/23/2018

68 เท่าทนั สือ่ : อำ�นาจในมือพลเมืองดิจิทัล ในซีกของผู้บริหารประเทศ ก็เจอเรื่องสถานการณ์ข่าวปลอมด้วย เชน่ กนั การแพรก่ ระจายของขา่ ววา่ รฐั บาลจะเกบ็ ภาษจี ากเงนิ ทไี่ ดร้ บั บรจิ าค ในโครงการก้าวคนละกา้ วเพอื่ โรงพยาบาลของรัฐ ในอัตรารอ้ ยละ 7 เพ่ือ นำ�ไปปรับปรุงสถานีตำ�รวจให้มีคุณภาพ ซ่ึงเวลาต่อมาโฆษกรัฐบาลได้ ออกมาแก้ข่าวดังกล่าวและเตือนว่า ทั้งผู้สร้างข่าวเท็จท่ีนำ�ไปเผยแพร่ ออนไลน์และผูส้ ่งต่อขา่ วดงั กล่าวเข้าขา่ ยการกระท�ำ ความผดิ เน่ืองจากเจตนาในการสร้างข่าวปลอมมีหลายวัตถุประสงค์ ดังนั้น การแก้ปัญหาเรื่องข่าวปลอม จึงควรต้องแยกแยะถึงประเภทและความ มุ่งหมายของข่าวปลอมนั้นว่า มีวัตถุประสงค์เพ่ือหลอกลวงให้ผู้บริโภค ซ้ือสินค้าหรือบริการ หรือ การเจาะข้อมูลส่วนบุคคล หรือมีเหตุผลทาง การเมืองอ่ืนๆ ในการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารท่ีเป็นเท็จในโลกออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ปญั หาที่ใหญ่หลวงพอๆ กับว่าปัญหาขา่ วปลอม คือ ปัญหา อันเนื่องมาจากความคลุมเครือของการนิยามความหมายว่าด้วยข้อความ อันเปน็ เทจ็ ในกฎหมาย ซง่ึ พลเมืองจะมหี ลกั ประกันอะไรหากหน่วยงานรฐั ของแตล่ ะประเทศจะใชก้ ฎหมายดงั กลา่ วมาด�ำ เนนิ การกบั กลมุ่ พลเมอื ง หรอื องคก์ รสือ่ ทท่ี ำ�หนา้ ทต่ี รวจสอบการท�ำ งานของรฐั หรือนโยบายสาธารณะ ในประเทศไทย การน�ำ เสนอขอ้ มลู ขา่ วสารอนั เปน็ เทจ็ ในโลกออนไลน์ เป็นสิ่งที่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำ�ความผิดเกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 ซ่ึงเป็นฉบับท่ีปรับปรุงแก้ไขมาจากฉบับแรกที่ ประกาศใชเ้ มื่อ พ.ศ. 2550 ในสมยั พลเอกสรุ ยทุ ธ์ จลุ านนท์ ดำ�รงตำ�แหนง่ นายกรฐั มนตรี ซงึ่ เปน็ ทนี่ า่ สงั เกตวา่ ทง้ั สองฉบบั ลว้ นเปน็ กฎหมายทเี่ กดิ ขนึ้ ในช่วงรัฐบาลรัฐประหาร กฎหมายคอมพิวเตอร์ฉบับล่าสุดยังมีข้อกังวล จากเครือข่ายพลเมืองเน็ตและองค์กรแอมเนสต้ีที่เห็นว่ากฎหมายมีความ คลมุ เครอื และอาจน�ำ ไปสกู่ ารตคี วามใหเ้ ขา้ ขา่ ยกฎหมายปดิ ปากได้ โดยเฉพาะ ในมาตรา 14 ท่ีระบถุ งึ ความผิดโทษจำ�คกุ และปรับหากมีการน�ำ เขา้ ขอ้ มูลที่

เท่าทันสอื่ : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดจิ ิทลั 69 “บดิ เบอื นหรอื ปลอมไมว่ า่ ทง้ั หมดหรอื บางสว่ น” หรอื ขอ้ มลู ทนี่ า่ จะเกดิ ความ เสยี หายตอ่ การรกั ษาความมน่ั คงของประเทศ ความมน่ั คงแหง่ ราชอาณาจกั ร ไปจนถงึ การสร้างความตื่นตระหนกแกป่ ระชาชน39 นอกจากประเทศไทยแล้ว ยังมคี วามพยายามของหลายประเทศใน เอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใตท้ ม่ี กี ารออกกฎหมายใหมห่ รอื แกไ้ ขกฎระเบยี บเพอื่ ใหค้ รอบคลมุ การเผยแพรต่ พี มิ พข์ า่ วปลอมใหเ้ ปน็ การกระท�ำ ทผ่ี ดิ กฎหมาย เรื่องน้ีสรา้ งความกังวลตอ่ กลุ่มนักเคล่ือนไหวดา้ นสทิ ธสิ อื่ ว่า อาจจะมสี ิง่ ที่ น่ากลัวเกิดขึ้นคือแทนท่ีจะมีการมุ่งเน้นการจัดการกับเนื้อหาข่าวปลอมที่ มกี ารเผยแพรท่ างโซเชยี ลมเี ดยี ภาครฐั อาจใชก้ ฎหมายเหลา่ นใ้ี นการพงุ่ เปา้ จัดการตอ่ องค์กรส่อื ทอี่ อกมาวพิ ากษว์ จิ ารณร์ ัฐบาลแทน40 เทา่ ทนั ขอ้ เทจ็ จรงิ -ความจรงิ ในยคุ หลงั ความจรงิ เทพชยั หยอ่ ง สอ่ื มวลชนอาวโุ ส41 เหน็ วา่ ในสงั คมไทยมสี ง่ิ ทเ่ี รยี กวา่ fake news หลายระดับ และมขี อบเขตของคำ�จำ�กัดทีไ่ ม่หยุดนิ่ง นบั ต้งั แต่ ข่าวเร่ืองดวงชะตาเสริมราศีท่ีหลอกลวง ข่าวสารในเร่ืองท่ีเก่ียวข้องกับ การใบห้ วย ข่าวที่กุขึน้ มา เชน่ การเสียชีวิตของบุคคลส�ำ คัญ ซ่งึ กรณีหลงั นี้ เขาเห็นว่า เปน็ เรอื่ งท่สี ามารถตรวจสอบไดง้ ่าย แต่รปู แบบของ fake news ทเ่ี ขาเหน็ วา่ เปน็ ปญั หาตอ่ สงั คมมากทส่ี ดุ คอื การน�ำ เสนอของสอ่ื ทโ่ี ฆษณา ชวนเช่ือทางการเมือง และปลุกเร้าอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนในทางท่ี กอ่ ให้เกิดความรุนแรง 39 http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2560/A/010/24.PDF 40 https://www.reuters.com/article/us-asia-media-fakenews-analysis/fake-news-crutch-used- by-se-asian-leaders-to-control-media-critics-charge-idUSKBN1FB0F8 1/23/2018 41 https://www.facebook.com/2068381733390867/videos/2095035064058867/ 1/24/2561

70 เท่าทนั สอ่ื : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดจิ ทิ ัล เขาชวนยอ้ นมองกลบั ไปในอดตี ทส่ี อ่ื มเี พยี งสง่ิ พมิ พ์ และวทิ ยุ โทรทศั น์ ตวั อย่างของ fake news ที่เจบ็ ปวดในความทรงจำ�ของเขา คอื เหตุการณ์ 6 ตลุ าคม 2519 เวลานน้ั ผมู้ อี �ำ นาจใชเ้ ครอ่ื งมอื สอ่ื สารคอื วทิ ยแุ ละหนงั สอื พมิ พ์ นำ�เสนอข่าวว่า นักศึกษาฝักใฝ่ลัทธิคอมมิวนิสต์ ผู้ฟังถูกปลกุ เรา้ เนอ้ื หา ของ fake news สามารถทำ�ให้คนไทยฆ่ากันตายได้โดยไม่ร้สู ึกว่านั่นเป็น การฆาตกรรม เขาชวนคิดว่า หากเหตุการณ์ในเวลานั้นเกิดข้ึนในยุคที่มี เครอื ขา่ ยสอ่ื สงั คมเชน่ ในปจั จบุ นั สถานการณจ์ ะนา่ กลวั เพยี งใด มาถงึ ยคุ น้ี ที่สังคมไทยมีความแตกแยกทางการเมือง fake news มีส่วนปลุกเร้าทาง การเมืองมากเสียจนกระท่ังข้อเท็จจริงเป็นส่ิงที่สำ�คัญน้อยกว่าความรู้สึก และทศั นคติ ยง่ิ ระบบการสอ่ื สารสมยั ใหมท่ ร่ี วู้ า่ ผบู้ รโิ ภคชอบหรอื ไมช่ อบอะไร ขอ้ มลู ขา่ วสารจะถกู สง่ มาถงึ และยงิ่ เปน็ การตอกย�ำ้ ในสงิ่ ทชี่ อบหรอื ไมช่ อบ ไดม้ ากขน้ึ เทพชัยเห็นว่า การที่ผู้บริโภคสื่อสามารถเชื่อข่าวสารท่ีเผยแพร่โดย ไมม่ แี หลง่ อา้ งองิ และทมี่ าใดๆ อยา่ งไมต่ ง้ั ค�ำ ถาม เปน็ สถานการณท์ ส่ี ะทอ้ น วุฒิภาวะของคนในสงั คม ถ้าคนในสงั คมตืน่ ตัว รเู้ ท่าทนั ข่าวสารบา้ นเมอื ง การต้ังคำ�ถามกับข่าวสารย่อมเกิดข้ึนเป็นเรื่องปกติ และสิ่งท่ีเป็นอันตราย มากในเร่ืองข่าวปลอม คือคนท่ีเข้าไปช่วยเสริมความน่าเช่ือถือของข่าว ปลอมน้ันๆ เทพชัยมีข้อสังเกตว่า ทุกครั้งที่มีวิกฤตสำ�คัญๆ จะพบว่า ประชาชนจะหันมาดูข่าวจากต้นตอในสื่อกระแสหลักมากขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งแสดงว่า คนในสังคมต้องการพึ่งพาแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพ่ือยืนยัน สิ่งท่ีเขาได้ยิน และจะได้มั่นใจว่าข้อมูลท่ีได้รับถูกต้อง ดังน้ันเขาจึงเห็นว่า สื่อกระแสหลักควรมีหน้าที่ให้ความกระจ่างกับสังคมในการแสวงหา ความจริง และเม่ือมีข่าวปลอมหรือกระแสน่าเป็นห่วง สื่อต้องทำ�หน้าที่ ตรวจสอบขา่ วลือ ข่าวปลอม ขา่ วที่สรา้ งปัญหาใหเ้ กิดความเขา้ ใจผิด

เท่าทนั สื่อ : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ัล 71 วรพจน์ วงศ์กจิ รุ่งเรอื ง42 หัวหน้าโครงการวจิ ยั อินเทอร์เน็ตศึกษา มี ความเหน็ วา่ “ทางทฤษฎี ไมม่ คี วามจรงิ สมบรู ณอ์ ยแู่ ลว้ ทกุ อยา่ งถกู ประกอบ สรา้ ง ความจริงถูกสือ่ ผา่ นสายตาผู้เล่า เวลาฟงั กต็ อ้ งฟังความจรงิ ด้านหน่ึง และประเมินจากหลักฐาน ประกอบเหตุผลท่ีใช้ ว่าเหมาะสมไหม และมี ความรู้ความสามารถไปหาแหล่งข้อมูล ดีเบทอื่นๆ ที่สำ�คัญและเห็นต่าง และสุดท้ายเราก็ต้องมีความสามารถในการประเมินได้ว่า ส่ิงนี้อะไรจริง หรอื ไมจ่ รงิ และถา้ ไปไกลกวา่ นนั้ คอื คณุ สามารถสรา้ งสอื่ ดว้ ยตนเอง สรา้ ง ความจรงิ ในชดุ แบบทต่ี ้องการไดด้ ว้ ย คนอนื่ กอ็ าจจะเหน็ วา่ มนั ไมส่ มบรู ณ์ แต่มันคือโลกที่พลเมืองมีความรู้ความสามารถในการประเมิน และสร้าง วาทกรรม สร้างสอื่ เพอื่ ตอ่ สูก้ ับแนวคิดอ่ืนๆ ไดด้ ว้ ย” จากซ้าย วรพจน์ วงศก์ ิจรงุ่ เรือง, ยงิ่ ชีพ อชั ฌานนท์ และ ศโิ รฒน์ คล้ามไพบลู ย์ ในวงเสวนาเรื่อง พลเมอื งแบบไหนในยคุ ดจิ ทิ ัล ในงาน MIDL WEEK 2017 วันท่ี 6-10 พ.ย. 2560 ที่มาภาพ : เฟซบุ๊ก Jam (แจ่ม) 42 วทิ ยากร ในงาน MIDL Week 2017 วันท่ี 6-10 พฤศจิกายน พ.ศ.2560

72 เท่าทันสื่อ : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดิจทิ ลั ในยคุ ปจั จบุ นั ขอ้ เทจ็ จรงิ หนงึ่ สามารถจะถกู โตแ้ ยง้ ดว้ ยอกี ขอ้ เทจ็ จรงิ หนึ่งไดต้ ลอดเวลา ซึ่งสรา้ งความสบั สนให้กบั คนสว่ นใหญ่ งานวิจยั บางชนิ้ ระบุว่า ข้อเท็จจริงมีแนวโน้มที่จะมีอิทธิพลต่อผู้คนน้อยกว่าอารมณ์และ ความเชอ่ื สว่ นตวั ตลอดจนผใู้ ชโ้ ซเชยี ลมเี ดยี กลมุ่ ใหญเ่ ลอื กเสพสอ่ื ทมี่ คี วาม เห็นสอดคล้องกับจุดยืนของตนเอง ยิ่งชีพ อัชฌานนท์43 แห่งโครงการ อนิ เทอร์เน็ตเพือ่ กฎหมายประชาชน หรือ iLaw เสนอว่า ก่อนมคี วามเหน็ ต่อข่าวใดๆ เราควรมีการตรวจสอบข้อมูลก่อน เขายกตัวอย่างของข่าว การเมืองว่า อย่างน้อยที่สุดแต่ละคนควรอ่านหรือรับฟังความเห็นสุดข้ัว ในเรอ่ื งหนงึ่ ๆ เพอ่ื น�ำ มาเปน็ ขอ้ มลู ในการขบคดิ และมคี วามเหน็ ของตนเอง “พลเมอื ง” ทว่ี รพจน์และยิง่ ชพี กล่าวถึง นา่ จะเป็นนยิ ามในอดุ มคติ ของความเป็นพลเมืองในสังคมประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก เน่ืองจาก “สอ่ื อาชพี ” ทน่ี �ำ เสนอขา่ วกย็ งั ตอ้ งเจอกบั ตวั กรองในแบบตา่ งๆ ตง้ั แตก่ ฎหมาย การเข้ามาสอดส่องของรฐั ในรูปแบบตา่ งๆ ความอยูร่ อดของธุรกจิ ทต่ี ลาด หรอื เอกชนเขา้ มาก�ำ กบั หรอื ขอ้ จ�ำ กดั ในแงม่ มุ มองของผนู้ �ำ เสนอขา่ ว และ ภายใต้ยุคที่อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการแพร่กระจายข่าวสารอย่าง รวดเรว็ ในแพลตฟอรม์ แบบตา่ งๆ อนาคตวา่ ดว้ ย “ความจรงิ ” และขอ้ มลู ผดิ ๆ ในโลกออนไลน์ สามารถกระจายตัวได้รวดเร็วมากย่งิ ข้นึ Pew Research Center ไดจ้ ัดท�ำ รายงานเรือ่ ง The Future of Truth and Misinformation Online เมอื่ เดอื นตลุ าคม พ.ศ. 2560 รายงานชน้ิ นเ้ี สนอประเดน็ เรอ่ื ง ขอ้ มลู ทผ่ี ดิ พลาดออนไลน์ (misinformation online) ซง่ึ ผตู้ อบแบบสอบถามรายหนง่ึ เห็นว่า ข้อมูลท่ีผิดออนไลน์เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย โดยเฉพาะท่ี ปรากฏมาในรูปข่าว ตั้งแต่ข่าวท่ีตั้งใจหลอกลวง (intentional deception) ข้อมลู ท่มี คี ณุ ภาพตำ�่ (low-quality information) หรอื ข่าวท่ีถือขา้ งฝ่ายหน่งึ อยา่ งสุดข้ัว (hyper partisan) 43 วิทยากร ในงาน MIDL Week 2017 วนั ท่ี 6-10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

เทา่ ทันสือ่ : อำ�นาจในมือพลเมอื งดิจิทลั 73 ในสังคมประชาธิปไตยจึงต้องสนับสนุนให้มีพ้ืนที่สาธารณะที่ น่าไว้วางใจและเชื่อถือได้ ซึ่งการส่งเสริมให้มีการหมุนเวียนของข่าวและ ขอ้ มูลทีม่ คี วามแม่นย�ำ ถูกตอ้ ง เพื่อใหเ้ กิดขอ้ มลู ขา่ วสารท่ีน่าเชื่อถอื จึงถอื เปน็ เรอ่ื งส�ำ คญั เพอื่ สรา้ งระบบนเิ วศนข์ า่ วทม่ี คี ณุ ภาพ และ จดั การกบั ขอ้ มลู ผิดที่ปรากฏอย่างแพร่หลาย แนวทางการแก้ปัญหาการแพร่กระจายของ ข้อมูลผิดควรคำ�นึงถึงวิธีการที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ปัจจุบันเรื่องนี้ ไดร้ บั ความหว่ งใยในต่างประเทศ และน�ำ ไปสกู่ ารริเร่มิ โครงการต่างๆ เพ่อื สนบั สนนุ ให้เกิดแหล่งข้อมูลท่นี า่ เชือ่ ถือส�ำ หรบั พลเมอื ง วรพจน์ ใหค้ วามเหน็ และขอ้ เสนอแนะในเรอื่ งนว้ี า่ “โลกเรยี กรอ้ งกบั เรามากขนึ้ กระทงั่ การจะมสี ว่ นรว่ มอะไรซกั เรอ่ื งหนง่ึ อยา่ งเรอ่ื งสงิ่ แวดลอ้ ม เรากต็ อ้ งการความรู้เยอะแยะเต็มไปหมด ไม่เหมือนแตก่ ่อน เวลาเราเรียน อะไรกเ็ บสคิ มาก ปจั จบุ นั ความรแู้ บบสหวทิ ยาการ ขา้ มศาสตร์ มคี วามส�ำ คญั ต่อการเข้าใจ และถ้าเราจะมีส่วนร่วมในฐานะของพลเมืองที่มีความหมาย จรงิ ๆ สอ่ื ใหมม่ คี วามส�ำ คญั แตส่ อื่ ในทกุ แพลตฟอรม์ ทมี่ คี วามเปน็ มอื อาชพี ยังมีความสำ�คัญและมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ� เพราะเราต้องการแหล่งข้อมูล ท่ีเช่ือถือได้ ซึ่งเขามีความเป็นวิชาชีพมารองรับก่อนนำ�เสนอข่าว ไม่ใช่ ส่ือกระแสหลักวิ่งไปนิวมีเดีย เสนอแบบเฟซบุ๊ก ทุกคนจะลงเหวไปหมด สอื่ (มอื อาชีพ) มีส่วนชว่ ยใหเ้ ราไมเ่ หน่ือย ไม่ตอ้ งวงิ่ หาขอ้ มลู เยอะแยะ” ความจ�ำ เปน็ ในการพฒั นาสอื่ ทกุ แพลตฟอรม์ ทมี่ คี วามเปน็ มอื อาชพี เพอื่ สรา้ งความนา่ เชอ่ื ถอื ของแหลง่ ขอ้ มลู ทว่ี รพจนเ์ สนอแนะนน้ั สอดคลอ้ ง กับผลการศึกษาของสถาบันรอยเตอร์ ซ่ึงได้เผยแพร่ผลงานวิจัยท่ีทำ�การ ศกึ ษามมุ มองของคนธรรมดาตอ่ ขา่ วลวง44 งานชน้ิ นพ้ี บมมุ มองของผรู้ บั สาร ว่า ขา่ วลวงไม่ไดเ้ ปน็ แค่การนยิ ามคับแคบว่าเป็นการรายงานขา่ วที่ถกู สร้าง 44 งานนศ้ี กึ ษากลมุ่ ตวั อยา่ งในการสนทนากลมุ่ และการส�ำ รวจในสหรฐั อเมรกิ า สหราชอาณาจกั ร สเปน และฟินแลนด์ https://reutersinstitute.politics.ox.ac.uk/sites/default/files/2017-10/Nielsen%- 26Graves_factsheet_1710v3_FINAL_download.pdf สมาคมนกั ขา่ ววทิ ยแุ ละโทรทศั นไ์ ทยไดจ้ ดั แปล ผลงานวจิ ยั ดงั กลา่ ว ดูเพม่ิ เติม http://www.thaibja.org/?p=3823

74 เท่าทันสื่อ : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ัล ขนึ้ เพอื่ ผลประโยชนห์ รอื จดุ มงุ่ หมายทางการเมอื งตามทป่ี รากฏในสอ่ื เทา่ นน้ั นนั่ นับเป็นแค่ปญั หาส่วนหน่ึง แต่ปญั หาอีกส่วนหนงึ่ ทผี่ รู้ บั สารสะทอ้ นคือ การเขียนข่าวแย่ การโฆษณาชวนเช่ือทางการเมือง และรูปแบบโฆษณา ท่ีชวนให้เข้าใจผิด และเน้ือหาจากสปอนเซอร์อีกด้วย ผู้รับสารยังสะท้อน ความเห็นในเร่ืองความไม่พอใจเก่ียวกับแหล่งข่าวสาธารณะต่างๆ เช่น ส�ำ นักข่าว นักการเมือง และบริษัทผู้สรา้ งแพลตฟอรม์ ซึง่ มนั ชัดเจนอยู่แล้ว ทั้งสำ�หรับผู้เสพข่าวท่ัวไป นักข่าว นักการเมือง และนักวิจัย โลกน้ี ไม่สามารถแบ่งความจริงและความลวงออกได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด งานวจิ ยั ชน้ิ นเ้ี สนอวา่ การพฒั นากลไกอยา่ งการแบน (ban) การปกั ธง (flag) การลบ (delete) การรายงานขา่ วลวงและขา่ วบดิ เบอื นมงุ่ รา้ ยจากบรรยากาศ การสอื่ สารอาจเปน็ กา้ วยา่ งทจี่ �ำ เปน็ แตก่ ลไกนย้ี อ่ มสรา้ งทงั้ ความชอบและ ไม่ชอบใจ ดังน้ัน หากต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงในเร่ืองนี้ นักข่าว บริษัทผู้สร้างแพลตฟอร์ม ตลอดจนสำ�นักข่าวต้องกล้าเผชิญกับความจริง และร่วมกันกอบกู้ต่อสถาบันท่ีหลายคนสูญเสียความม่ันใจไปแล้วให้กลับ คนื มา ความรุนแรงของการต่อสู้ในโลกข้อมูลข่าวสารยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และทวคี วามสลบั ซบั ซอ้ นมากขนึ้ ตวั อยา่ งกรณลี า่ สดุ ประธานาธบิ ดที รมั ป์ มคี �ำ สัง่ หา้ มใช้คำ�ต่างๆ จ�ำ นวน 7 ค�ำ ในเอกสารงบประมาณของหน่วยงาน ควบคมุ โรค45 ค�ำ เหลา่ นไี้ ดแ้ ก่ ความหลากหลาย (diversity) สทิ ธติ ามสถานะ (entitlement) ทม่ี หี ลกั ฐานสนบั สนนุ (evidence-based) ลกู ออ่ นในครรภ์ (fetus) ทมี่ หี ลกั วทิ ยาศาสตรส์ นบั สนนุ (science-based) คนขา้ มเพศ (transgender) และ ออ่ นไหวหรอื สมุ่ เสยี่ ง (vulnerable) การประกาศหา้ มใชค้ �ำ เหลา่ นน้ี �ำ มา สู่การอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญในวงการแพทย์ นักรณรงค์ และนักการเมือง จิตแพทย์ชื่อดังชาวสหรัฐอเมริกาเห็นว่า เร่ืองน้ีเป็นการ 45 https://www.voathai.com/a/banned-words-cdc-ro/4168080.html 1/11/2018

เท่าทนั สอ่ื : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ลั 75 ท�ำ รา้ ยความจรงิ ซง่ึ การกระท�ำ ของประธานาธบิ ดเี ทา่ กบั เปน็ ความพยายาม ลบองคค์ วามรู้ สถานภาพของบคุ คล และการพดู คยุ อยา่ งมเี หตมุ ผี ลใหห้ าย ไปดว้ ยการหา้ มใช้ค�ำ ต่างๆ 46 ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกมิติ ขณะที่สื่อที่มี ความเป็นมืออาชีพในทุกแพลตฟอร์มต้องพัฒนากอบกู้ความน่าเช่ือถือ ในการเป็นแหล่งข้อมูลสืบค้นความจริง ทักษะการเท่าทันข้อมูลข่าวสาร ข้อเท็จจริงและความจริง ตลอดรวมถึงการเท่าทันอารมณ์ของพลเมือง ในฐานะที่เป็นท้ังผู้บริโภคส่ือ ผู้ผลิต ผู้แพร่กระจายส่ือต่างๆ ก็เป็นเรื่อง ทา้ ทายส�ำ หรบั ทกุ คนด้วย 46 สนใจดูเพ่ิมเติมที่ https://www.democracynow.org/2017/12/19/cdc_bars_words_like_ transgender_science 1/11/2018

76 เท่าทนั ส่อื : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ลั

เทา่ ทันสื่อ : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ัล 77 บทที่ 5 การใช้ MIDL ประสบการณ์ในการศกึ ษาของไทย และสหรัฐอเมริกา “...ในระบบการศึกษา สง่ิ ทีจ่ ำ�เปน็ ต่อการเตบิ โต ของการรูเ้ ทา่ ทนั สื่อ ประกอบด้วย มาตรฐานของหลักสูตรและกรอบการทำ�งาน การให้การศึกษาแกค่ รูและการพัฒนาวชิ าชีพ เครอื ขา่ ยวชิ าชีพเพ่อื แบง่ ปนั ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทรพั ยากรต่าง ๆ ท่ีจะใช้ในการสรา้ งหลักสตู ร ยทุ ธศาสตร์ตลอดจนวัสดอุ ุปกรณใ์ นการสอน และสภาพแวดลอ้ มท่ีเออ้ื ต่อการปฏบิ ัตงิ าน รวมทง้ั สนบั สนนุ การวจิ ยั และการประเมนิ ผลโครงการ เพื่อใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขนึ้ ” มมุ มองของ Pam Steager

78 เท่าทนั สอ่ื : อำ�นาจในมอื พลเมืองดจิ ทิ ลั Pam Steager47 นกั เขยี นอาวโุ สและนกั วจิ ยั ประจ�ำ Media Education Lab (MEL) แห่งสหรัฐอเมริกา เสนอว่า คำ�ว่า literacy มีภูมิหลังทาง ประวัติศาสตร์มายาวนาน นับต้ังแต่สมัยโรมัน ช่วงเวลานั้นมีการถกเถียง เกย่ี วกบั ขอ้ ดี ขอ้ เสยี ของการปกครองอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม จงึ ไดม้ กี ารใชแ้ ทน่ พมิ พ์ ตัวอักษรเพื่อกระจายข้อมูลไปยังบุคคลท่ัวไป ซ่ึงนับเป็นความพยายามใน การเพม่ิ จ�ำ นวนผคู้ นใหส้ ามารถเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ทไ่ี มจ่ �ำ กดั เพยี งเฉพาะกลมุ่ คนใน แวดวงชน้ั สงู เทา่ นน้ั ตอ่ มาในยคุ แสงสวา่ งทางปญั ญา มกี ารสง่ เสรมิ ใหท้ กุ คน อา่ นออกเขยี นไดอ้ ยา่ งเทา่ เทยี มและรเู้ ทา่ ทนั ขอ้ มลู จงึ ไดม้ กี ารจดั ตง้ั หอ้ งสมดุ จ�ำ นวนมากเพอื่ เปน็ แหลง่ ในการคน้ ควา้ เมอื่ ถงึ ยคุ สมยั ทม่ี กี ารประดษิ ฐแ์ ละ กระจายการใช้วิทยุกระจายเสียง ยุคนี้มีเสียงห่วงใยจากพ่อแม่ถึงอิทธิพล ของวทิ ยตุ อ่ เดก็ ๆ จงึ เรมิ่ มแี นวคดิ การปกปอ้ งเดก็ และเยาวชนไมใ่ หห้ ลงเชอ่ื ขอ้ มลู ท่ีมาจากรายการวทิ ยตุ ่างๆ ส�ำ หรบั การรเู้ ทา่ ทนั ขอ้ มลู เชงิ วพิ ากษ์ เปน็ เรอ่ื งทไี่ ดร้ บั ความสนใจใน ชว่ งทศวรรษ 1970 เนอื่ งจากไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากหนงั สอื เรอื่ ง “การศกึ ษาของ ผ้ถู ูกกดข่ี” โดย เปาโล เฟรเร แนวคิดนี้น�ำ มาสู่การวเิ คราะห์เร่ืองการสร้าง ข้อมลู อิทธิพลของข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล ในเวลาต่อมา ได้มีการนำ�เสนอ เร่ืองการรู้เท่าทันสื่อ เนื่องจากเห็นถึงความจำ�เป็นของผู้รับส่ือท่ีควรรับฟัง 47 วทิ ยากรในงานสมั มนาเรอ่ื ง MIDL อ�ำ นาจในมอื พลเมอื ง ผสู้ รา้ งการเปลย่ี นแปลง วนั ท่ี 20-21 เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เทา่ ทนั สอื่ : อำ�นาจในมอื พลเมืองดิจิทัล 79 ขา่ วสารดว้ ยการคดิ เชงิ วพิ ากษแ์ ทนการเชอื่ ขอ้ มลู ทกุ อยา่ งทกี่ ระจายมาจาก สอ่ื มวลชน นยิ ามของค�ำ วา่ รเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ในชว่ งหนง่ึ จงึ หมายถงึ ความสามารถ ทจี่ ะเขา้ ถงึ วเิ คราะห์ ประเมนิ และสรา้ งสอื่ ในรปู แบบทหี่ ลากหลาย อยา่ งไร กต็ าม ขอบเขตของความหมายมกี ารปรบั เปลยี่ นไปตามบรบิ ทแตล่ ะยคุ สมยั Pam Steager เห็นวา่ ในปจั จุบนั การร้เู ท่าทนั ส่ือ เปน็ วิธีการศึกษา ในศตวรรษที่ 21 ที่มุ่งสร้างความเข้าใจบทบาทของส่ือในสังคม และสร้าง ทักษะในการสืบค้นและการแสดงออกของตนเองท่ีจำ�เป็นต่อการเป็น พลเมอื งประชาธปิ ไตย เธอเหน็ ว่า เปา้ หมายของการรูเ้ ทา่ ทันสือ่ อยทู่ ีก่ าร สร้าง “ผบู้ ริโภคเชงิ รกุ ” ท่ีมคี วามเข้าใจในการรับส่อื ขณะเดยี วกนั กร็ ูว้ ธิ ที จี่ ะ ใชส้ ือ่ ให้เกดิ ประโยชน์ด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มเดก็ และเยาวชน กระบวนการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื และดจิ ทิ ลั ที่ MEL ใชเ้ ปน็ กรอบในการท�ำ งาน ให้ความส�ำ คญั กบั (1) การเข้าถงึ สือ่ และเทคโนโลยีในรูปแบบท่หี ลากหลาย (2) ความสามารถในการวเิ คราะหแ์ ละประเมนิ ผล (3) การสรา้ งสื่อ (4) ทักษะ ในการไตร่ตรอง (5) การปฏบิ ัติการอยา่ งมคี วามรับผิดชอบ Pam Steager เสนอว่า องค์ประกอบของประชาธิปไตยท่ีประสบ ผลสำ�เรจ็ ประกอบด้วย ความสามารถของพลเมอื งและหน่วยงานต่างๆ ท่ี เขา้ ถงึ สารสนเทศทถี่ กู ตอ้ ง เสรภี าพในการแสดงความคดิ เหน็ การสนบั สนนุ ใหม้ แี นวคดิ ทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ สาธารณะและการก�ำ หนดนโยบายสาธารณะ บนฐานของสารสนเทศทเี่ ชื่อถือได้ ผบู้ รโิ ภคสอ่ื ควรท�ำ ความเขา้ ใจในเรอื่ งพน้ื ฐานวา่ สารทนี่ �ำ เสนอไมใ่ ช่ ทกุ เรอ่ื งทเ่ี ปน็ เรอ่ื งสรา้ งสรรค์ แตล่ ะเรอื่ งลว้ นถกู สรา้ งขนึ้ มาโดยปจั เจกบคุ คล หรอื กลมุ่ คนทกี่ ระท�ำ เพอ่ื วตั ถปุ ระสงคใ์ ดวตั ถปุ ระสงคห์ นงึ่ และมกี ารใชร้ หสั และแบบแผนท่ีแตกต่างกนั ไป เช่น การใช้เทคโนโลยีในเกมวดิ ีโอ แตกต่าง จากรปู แบบของขา่ ว มวิ สคิ วดิ โี อ หรอื แผน่ ปา้ ยโฆษณา หรอื แตล่ ะวฒั นธรรม มีการใช้รหัสในการแสดงออกเพื่อส่ือสารแตกต่างกัน หรือแม้แต่ภายใต้

80 เทา่ ทนั ส่อื : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดิจิทลั วัฒนธรรมเดียวกัน ผู้คนต่างเพศ วัยหรืออาชีพอาจตีความสารท่ีได้รับ แตกต่างกันได้ด้วย การรู้เท่าทันสื่อจึงควรท�ำ ความเข้าใจว่าส่ือนั้นต้องการ เจาะจงไปท่กี ลมุ่ คนใด หากวเิ คราะหข์ อ้ มลู ขา่ วสารดว้ ยมมุ มองเชงิ วพิ ากษข์ องเปาโล เฟรเร ขา่ วสารทป่ี รากฏ ลว้ นเปน็ เรอ่ื งเกย่ี วขอ้ งกบั อ�ำ นาจทางเศรษฐกจิ และการเมอื ง คำ�ถามพื้นฐานที่ผู้บริโภคส่ือควรถามคือ ใครเป็นเจ้าของบริษัทที่ผลิตสื่อ เหลา่ น้ี คนผลติ สอื่ เปน็ ผตู้ ดั สนิ ใจวา่ จะน�ำ เสนอหรอื ตดั ทอนเนอ้ื หาใดๆ ภาย ใต้เง่ือนไขใด ดังน้ันผู้บริโภคส่ือจึงควรรู้เท่าทันว่า ข้อมูลใดที่ขาดหายหรือ บกพรอ่ งไปจากการน�ำ เสนอ การนำ�เสนอของส่ือยังเก่ียวข้องกับการโฆษณาสินค้าและบริการ งานวิจัยพบว่า ส่ือมีอิทธิพลต่อผู้บริโภค การใช้ภาพประกอบสี และแสง มีผลด้านจิตวิทยาต่อการตัดสินใจของผู้ซ้ือ เช่น การใส่รูปกะโหลกและ กระดกู ไขวจ้ ะท�ำ ใหม้ ปี ฏกิ ริ ยิ าของผพู้ บเหน็ โดยทนั ทที เี่ หน็ เครอื่ งหมายแสดง อันตราย หรือ มงี านศึกษาท่วี ิเคราะห์ว่า สอี ะไรท่จี ะสรา้ งความรูส้ ึกต่างๆ เพือ่ กระตุ้นความต้องการบรโิ ภคสนิ คา้ หรือบรกิ ารนั้นๆ Pam Steager แนะนำ�วิธตี งั้ ค�ำ ถามหลัก 5 ขอ้ ว่าด้วยการเท่าทนั สือ่ ได้แก่ 1.ใครเป็นผู้เขียน และมีเป้าประสงค์อะไร 2.ใช้เทคนิคอะไรในการ ดงึ ดดู ความสนใจและธ�ำ รงความสนใจของผรู้ บั สาร 3.ไลฟส์ ไตล์ คณุ คา่ และ จดุ ยนื แบบไหนทใี่ ชใ้ นการน�ำ เสนอ 4.คนทแี่ ตกตา่ งกนั จะตคี วามสารทไ่ี ดร้ บั มาอยา่ งไร 5.อะไรทข่ี าดหายไปในสารที่นำ�เสนอ

เทา่ ทันสอ่ื : อำ�นาจในมือพลเมืองดจิ ิทัล 81 ประสบการณ์จากสหรฐั อเมรกิ า Pam Steager ไดร้ ับทุนมาท�ำ งานวิจัยทม่ี หาวทิ ยาลยั โรดไอรแ์ ลนด์ สหรฐั อเมรกิ า เพอื่ สรา้ งการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ ในโรงเรยี นทเี่ มอื งโพรวเิ ดนซ์ ซง่ึ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของกจิ กรรมของ Media Education Lab (MEL) หนว่ ยงานทที่ �ำ งาน วจิ ยั ดา้ นการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ สนบั สนนุ การพฒั นาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พฒั นาหลกั สตู ร รณรงคด์ า้ นนโยบายการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ และสนบั สนนุ ใหช้ มุ ชน และเยาวชนผลิตสื่อของตนเอง เธอเห็นว่า การรู้เท่าทันส่ือและดิจิทัลสามารถช่วยลดการแตกข้ัว ทางการเมืองและทำ�ให้เกิดประชาธิปไตยในระดับโลกได้ ท้ังนี้พลเมือง ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ องค์กรส่ือ และผู้นำ�ทางการศึกษา ล้วนมีบทบาท อยา่ งสำ�คญั ในการทำ�งานเพื่อสรา้ งวฒั นธรรมการรเู้ ท่าทันส่อื เธอเสนอวา่ ในระบบการศกึ ษา สง่ิ จ�ำ เปน็ ตอ่ การเตบิ โตของการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื ประกอบดว้ ย มาตรฐานของหลกั สตู รและกรอบการท�ำ งาน การใหก้ ารศกึ ษาแกค่ รแู ละการ พฒั นาวชิ าชพี เครอื ขา่ ยวชิ าชพี เพอื่ แบง่ ปนั ขอ้ มลู ขา่ วสาร ทรพั ยากรตา่ งๆ ที่จะใช้ในการสร้างหลักสูตร ยุทธศาสตร์ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ในการสอน และสภาพแวดล้อมที่เอ้ือต่อการปฏิบัติงาน รวมท้ังสนับสนุนงานวิจัยและ การประเมนิ ผลโครงการเพ่อื ให้มีประสทิ ธิภาพมากขน้ึ ประสบการณข์ อง MEL ในการใช้ MIDL มาสรา้ งพลเมอื งประชาธปิ ไตย คอื การสรา้ งพน้ื ทที่ เ่ี สมอภาคและเทา่ เทยี มส�ำ หรบั ทกุ คน โดยมงุ่ เปา้ ท�ำ งาน ในโรงเรียน เนื่องจากในสหรัฐอเมริกา ภาษีของประชาชนจะส่งกลับไปท่ี ชุมชน ตวั อยา่ งเช่น เมอื งโพรวเิ ดนซ์ เปน็ เมอื งเล็กๆ ในรฐั โรด ไอแลนด์ มผี อู้ พยพจากหลากหลายประเทศมาอาศยั อยู่ ภาษาทใี่ ชม้ มี ากถงึ 14 ภาษา ภายใต้บริบทของความหลากหลายของภาษาและวัฒนธรรมเป็นโจทย์

82 เทา่ ทนั ส่อื : อำ�นาจในมือพลเมืองดจิ ิทัล ที่ท้าทาย การใช้ภาพในการสื่อสารเป็นวิธีการหน่ึงที่ช่วยลดช่องว่างของ ความแตกต่างทางวัฒนธรรมโดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนท่ียังมีข้อจำ�กัด ในการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ รวมท้ังการต้ังคำ�ถามกับกลุ่มเยาวชนเพื่อ ชี้ใหเ้ หน็ วา่ เสยี งของใครท่ขี าดหายไปจากการน�ำ เสนอก็เป็นอกี วธิ กี ารหนึง่ ทเ่ี ปิดใหท้ ุกคนทุกกลุ่มได้มพี ื้นท่ีในการแสดงออก การผลติ สอ่ื เพอ่ื เปดิ โอกาสใหเ้ ดก็ และเยาวชนไดเ้ ลา่ เรอื่ งของตนเอง เปน็ กจิ กรรมท่ี MEL เลอื กน�ำ มาท�ำ งาน เชน่ โครงการสนบั สนนุ ใหเ้ ดก็ ทเ่ี ปน็ ลูกบุญธรรมต่างชาติผลิตส่ือเพื่อแสดงออกเร่ืองราวของตน การสนับสนุน กลมุ่ เด็กชาวยวิ และปาเลสไตนผ์ ลติ สอื่ รว่ มกันเพื่อได้เรยี นร้ปู ระสบการณท์ ่ี เหมอื นและแตกต่างกนั การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างหนัง เป็นอีกกิจกรรมความ ร่วมมือกับเทศกาลหนังของเมืองโพรวิเดนซ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อสอนเรื่อง รเู้ ทา่ ทนั สอื่ เทา่ ทนั ภาพยนตร์ และการถา่ ยท�ำ ภาพยนตร์ กจิ กรรมนใี้ ชเ้ วลา ราวชั่วโมงครึ่ง ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมได้เรยี นรูแ้ ละสามารถท่ีจะพัฒนาเส้นทาง อาชีพได้ด้วย โดยพวกเขาได้ทดลองทำ�งานเป็นผู้กำ�กับหนัง แมวมอง เป็นผ้สู �ำ รวจสถานทีถ่ า่ ยภาพยนตร์ เขยี นสตอร่ีบอรด์ การคิดไอเดยี ใหม่ๆ ในเรอ่ื งทพ่ี วกเขาเปน็ หว่ งเกย่ี วกบั โลกใบนี้ ในระหวา่ งเวริ ค์ ชอป ผจู้ ดั กจิ กรรม จะตั้งคำ�ถามว่า เด็กในวัยของเขาสามารถเปล่ียนแปลงโลกได้อย่างไร การทำ�หนังของเด็กๆ ไม่ต้องแสดงหรือเปิดเผยโฉมหน้าของคนทำ�เพื่อ เป็นการคุ้มครองและไม่ไปละเมิดสิทธิของเด็ก ตลอดจนไม่ต้องมีปัญหา ในเรือ่ งการได้รบั อนญุ าตจากผู้ปกครองของเดก็ ผู้เข้าร่วมกจิ กรรมมีท้งั ครูและเด็กที่อยู่ในช่วงอายุ 10-17 ปี มีผู้ผลิต ภาพยนตรม์ าร่วมงานดว้ ย ก่อนมาเขา้ รว่ มงานเทศกาลฉายหนงั นานาชาติ เด็กๆ จะกรอกข้อมูลวา่ พวกเขาสนใจประเด็นทางสังคมเร่อื งอะไร หรือมี ความต้องการท่จี ะทำ�หนงั ในประเดน็ ทางสังคมเรือ่ งใด เชน่ ความอดอยาก

เท่าทันส่ือ : อำ�นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ัล 83 คนไรท้ ่ีอยู่ เรื่องโลกรอ้ น สทิ ธขิ องสัตว์ สิทธเิ ดก็ เปน็ ต้น ผ้จู ดั ไดจ้ ัดเตรียม ขอ้ มลู ตามประเดน็ ตา่ งๆ ไว้ ผเู้ ขา้ รว่ มบางคนสนใจทกุ ประเดน็ บางคนเลอื ก บางประเด็น แต่ในที่สุดแต่ละรายจะเลือกมาคนละหน่ึงประเด็นท่ีตนเอง สนใจมากที่สดุ จากนัน้ ผูจ้ ดั จะต้งั คำ�ถามกับผเู้ ข้ารว่ มว่า ในวยั ของพวกเขา สามารถทำ�อะไรได้บา้ งในการแก้ไขปัญหาที่เขาสนใจ เดก็ ๆ ทม่ี ีความสนใจ ประเดน็ เดยี วกนั จะมารวมกลมุ่ กนั และพดู คยุ เรอ่ื งบทหนงั ขน้ั ตอนการท�ำ หนงั เป็นแบบเรียบง่าย เช่น เฟรมหน่ึงพูดถึงเรื่องที่เขาสนใจและอีกเฟรมหน่ึง อาจเปน็ รปู วาดหรอื ภาพตดั มาแปะ ซงึ่ เปน็ สง่ิ ทเี่ ขาตอ้ งการจะสอ่ื ในประเดน็ ทเ่ี ขาสนใจและน�ำ เสนอวา่ คนรนุ่ พวกเขาจะท�ำ อะไรไดบ้ า้ งเพอื่ แกไ้ ขปญั หา ที่ห่วงใย จากน้ัน ผู้จัดกิจกรรมจะนำ�หนังท่ีเด็กทำ�ส่งไปยังห้องสมุดต่างๆ เพื่อทจ่ี ะขนึ้ เว็บไซตข์ องห้องสมุดและอาจส่งไปใหส้ ือ่ มวลชนดว้ ย กจิ กรรม ทใ่ี ชส้ อ่ื ในกระบวนการเรยี นรแู้ ละลงมอื สรา้ งสรรคง์ านเชน่ นเี้ ปน็ การสง่ เสรมิ ใหเ้ หน็ วา่ เยาวชนในวยั นส้ี ามารถท�ำ อะไรไดบ้ า้ งทจี่ ะแกไ้ ขปญั หาสงั คมทเ่ี ขา เผชิญอยู่ จะเห็นได้ว่า ความเข้าใจเก่ียวกับการรู้เท่าทันส่ือยังค่อนข้างจำ�กัด อยู่เพียงเร่ืองสื่อดี-ส่ือเลว ซึ่งเรื่องน้ีเป็นโจทย์ท้าทายท้ังในสังคมไทยและ สหรัฐอเมริกา Pam Steager เล่าว่า ในการสัมมนาระดับชาติหลายครั้ง ได้มีการระดมสมองกันว่าจะทำ�ให้คนในชุมชนเข้าใจเรื่องรู้เท่าทันสื่อที่ กว้างขวางข้ึนได้อย่างไร จึงมีความพยายามสนับสนุนให้แต่ละชุมชนมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการรู้เท่าทันส่ือเพ่ือท่ีจะช่วยให้ข้อมูลหรือแลกเปลี่ยน ความรู้เม่ือมีสถานการณ์ใหม่ๆ เกิดข้ึน และนี่เป็นแนวทางหน่ึงในการ บรู ณาการเรื่องร้เู ทา่ ทันสื่อในสังคมไดม้ ากข้ึน ยคุ ดจิ ทิ ลั ยงั ไดส้ รา้ งความเปลย่ี นแปลงอยา่ งมหาศาลในวงการศกึ ษา เรื่องนี้เป็นอีกเร่ืองท่ีได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก การเปล่ียนแปลงของ เทคโนโลยสี ง่ ผลตอ่ ความรสู้ กึ ของครแู ละหอ้ งเรยี นอยา่ งไมอ่ าจหลกี เลย่ี งได้

84 เท่าทันสอ่ื : อ�ำ นาจในมอื พลเมอื งดิจทิ ัล สถานภาพของครจู ากในอดตี ทเ่ี ปน็ ผทู้ ฉ่ี ลาดทสี่ ดุ ในหอ้ งเรยี น และเปน็ ฝา่ ย ท่ีสอนอย่างเดยี ว ครูกลบั กลายเปน็ digital immigrant ท่ีมขี อ้ จ�ำ กัดในการ ใชเ้ ทคโนโลยี ขณะทน่ี กั เรยี นกลายเปน็ digital native ทส่ี ามารถใชเ้ ทคโนโลยี ไดค้ ลอ่ งแคล่ว ภายใต้สภาวการณเ์ ช่นนี้ Pam Steager เสนอวา่ การศึกษา ตอ้ งเปน็ เรอ่ื งของการท�ำ งานเปน็ ทมี ตอ้ งสรา้ งการมสี ว่ นรว่ มระหวา่ งครแู ละ นักเรียน ครูต้องตระหนักและเข้าใจว่าการท่ีเด็กๆ กดปุ่มต่างๆ เขาได้รับ อทิ ธพิ ลอะไรจากสอื่ หรอื แอปพลเิ คชนั เหลา่ นนั้ บา้ ง ครตู อ้ งเปน็ ฝา่ ยชว่ ยเขา สืบค้นและต้ังคำ�ถามในเชิงลึกมากขึ้น นอกจากครูแล้ว พ่อแม่ผู้ปกครองก็ ต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีและการตั้งคำ�ถามในเชิงวิพากษ์เพ่ือพูดคุยกับ เดก็ และเยาวชนเชน่ กนั ยกตวั อยา่ งเชน่ เวลาพอ่ แมอ่ า่ นหนงั สอื รปู ภาพกบั ลกู ควรมกี ารพูดคุยกับลกู วา่ เหน็ รปู แลว้ คดิ อย่างไรและมกี ารเชอ่ื มโยงกับชวี ิต ประจ�ำ วนั เธอเหน็ วา่ กระบวนการคดิ เชงิ วพิ ากษเ์ ปน็ เรอ่ื งทจ่ี �ำ เปน็ ๆ เพอ่ื ให้ เทา่ ทนั กบั ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ซง่ึ เดก็ และเยาวชนควรเรยี นรู้ ในสิง่ เหล่าน้ีไปพร้อมกนั นบั ตั้งแต่การเรมิ่ ใช้เทคโนโลยี ประสบการณจ์ ากประเทศไทย อรรถพล อนันตวรสกุล ผู้อำ�นวยการศูนย์ประสานงานเครือข่าย การศกึ ษาเพือ่ สร้างพลเมืองประชาธปิ ไตย (Thai Civic Education Center- TCE) เสนอว่า ในมุมของการเรียนการสอน การรู้เท่าทันสื่อถือว่าเป็น สมรรถนะ (competence) ตวั หนง่ึ ซึง่ เป็นความท้าทายส�ำ หรบั ครูว่าจะเอา มาใชใ้ นการเรยี นการสอนอยา่ งไร เชน่ การใชข้ า่ วรายวนั มาสอื่ สารใหผ้ เู้ รยี น มองเห็นภาพรวมและค่านิยมของสังคมท่ีซ้อนและซ่อนอยู่ในสื่อน้ันๆ ได้

เทา่ ทนั สือ่ : อำ�นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ัล 85 เร่ืองเท่าทันสือ่ เท่าทันสารสนเทศ จงึ ไมใ่ ชเ่ ปน็ เรอ่ื งวิชาใดวิชาหนง่ึ แตเ่ ปน็ ทักษะข้ามวิชาท่ีครูทุกคนต้องเข้าใจว่าคืออะไร แล้วใช้ความเข้าใจในการ ปรบั แตง่ ทกั ษะพนื้ ฐานของผเู้ รยี นในเรอ่ื งการคดิ การสอ่ื สาร และการเขา้ ใจ สงั คม สานเสวนา ไทย-อเมริกา เร่ือง MIDL กับการศกึ ษาเพื่อสรา้ ง พลเมืองประชาธิปไตย จากซา้ ย : ดร.วชั รฤทัย บญุ ธินนั ท์ ผศ.อรรถพล อนนั ตวรสกลุ และ Pam Steager ที่มาภาพ : เวบ็ ไซตน์ กั ข่าวพลเมอื งไทยพีบเี อส บทบาทของครใู นยคุ ปจั จบุ นั คอื เปน็ ผดู้ แู ลพฒั นาการทางทกั ษะของ ผเู้ รยี น เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถอา่ นสอื่ ออก เขา้ ใจสงั คมผา่ นสอ่ื ได้ และใชส้ อ่ื อย่างเข้าใจธรรมชาติของสื่อนั้นๆ เช่น อคติท่ีแฝงมากับสาร จุดยืนทาง การเมืองท่ีแตกต่างกันของแต่ละสำ�นักข่าว มุมมองหรือแว่นตาท่ีแตกต่าง กนั ในแตล่ ะเรอื่ ง ดงั นนั้ การจะพฒั นาพลเมอื งใหร้ เู้ ทา่ ทนั สอื่ สารสนเทศและ ดจิ ทิ ลั ควรพฒั นาในสม่ี ติ ิ ไดแ้ ก่ การรจู้ กั ตนเองและทกั ษะชวี ติ การอยรู่ ว่ มกนั ในยคุ สือ่ สารสนเทศและดจิ ทิ ลั การอยู่รว่ มกันในสังคมประชาธิปไตยและ การอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรม อรรถพลยกตวั อยา่ งวา่ หากเราเหน็ ขา่ ว

86 เทา่ ทันสื่อ : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดจิ ิทัล ฆาตกรรมหมู่ 8 ศพท่ภี าคใต้ ผูอ้ ่านรสู้ กึ โกรธแค้น เขาเสนอว่า ผูอ้ า่ นควร ตอ้ งเทา่ ทนั ความโกรธของตนกอ่ นทจ่ี ะรบี ตคี วามขา่ วและเผยแพรข่ า่ วนั้นๆ หรอื การแสดงคอนเสริ ต์ ของล�ำ ไย ไหทองค�ำ หลายคนทเ่ี หน็ วา่ เปน็ กจิ กรรม ไม่เหมาะสม อาจจะเผยแพร่โดยการแชร์ หรือโพสต์ประณามโดยทันที เขาเหน็ ว่า กอ่ นอื่นผบู้ ริโภคส่อื ควรตงั้ ค�ำ ถามวา่ มองสื่ออยา่ งไรก่อนท่จี ะมี ปฏกิ ริ ยิ าใดๆ ซง่ึ การสอ่ื สารใดๆ ควรค�ำ นงึ ถงึ การอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมทเี่ คารพ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น และเคารพความหลากหลายทาง วัฒนธรรม และสองมิติหลัง อรรถพลเห็นว่าเป็นเรื่องสำ�คัญในการเข้ามา กำ�กับปฏิบตั ิการใดๆ ของผ้บู ริโภคส่ือ การปรบั มมุ มองแนวคดิ ใหมใ่ นการจดั การเรยี นรโู้ ดยเฉพาะในหอ้ งเรยี น เปน็ อกี เรอื่ งทอ่ี รรถพลเหน็ วา่ มคี วามส�ำ คญั ในการสรา้ งพลเมอื ง หอ้ งเรยี น แบบใหม่ที่รองรับกับความเปล่ียนแปลง ควรเป็นห้องเรียนท่ีเน้นให้เด็ก มีโอกาสเรียนด้วยตัวเองผ่านสื่อมากขึ้น และเข้าใจความแตกต่างของ ความสามารถในการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน เขายกตัวอย่างห้องเรียน แบบใหมว่ า่ เดก็ นกั เรยี นสามารถเรยี นดว้ ยตนเองในบา้ นกอ่ นโดยการดคู ลปิ วดิ โี อ ผา่ นการฟงั ทค่ี รจู ดั มาใหท้ างออนไลน์ มกี ารมอบหมายตามชอ่ งทาง การสอ่ื สารตา่ งๆ มโี อกาสในการตอบค�ำ ถาม คดิ ยอ่ ยความคดิ แลกเปลย่ี น ความเห็นผ่าน “บล็อก” หรือช่องทางการโต้ตอบหรือตอบคำ�ถามของครู ผ่านทางอีเมล หรือการโพสต์เข้าไปในโซเชียลมีเดียของวิชาต่างๆ และ ใช้เวลาในการถกเถียงกับเพ่ือนในช้ันเรียนมากขึ้น กระบวนการเหล่านี้ เปน็ การสรา้ งบรรยากาศการท�ำ งานรว่ มกนั และเรยี นรทู้ กั ษะระหวา่ งกนั และ กนั มากขน้ึ และสามารถน�ำ ไปสกู่ ารสร้างชนิ้ งานทแ่ี ต่ละคนเป็นเจ้าของ เมื่อกลางเดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2560 ผู้บรหิ ารกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายห้ามนักเรียนในสถานศึกษาทุกระดับใช้โทรศัพท์ มอื ถอื ในหอ้ งเรยี น เนอื่ งจากนายกรฐั มนตรแี สดงความเปน็ หว่ งวา่ นกั เรยี น

เท่าทันสื่อ : อำ�นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ัล 87 นกั ศกึ ษานยิ มใชโ้ ทรศพั ทม์ อื ถอื ในการบนั ทกึ เสยี งหรอื ถา่ ยภาพแทนการจด บันทกึ และมองว่า การจดบันทกึ เป็นการสง่ เสรมิ ให้เกดิ การคิดและจดจ�ำ ได้ แม่นยำ�มากกว่าการใช้สมาร์ตโฟน อรรถพลเห็นแย้งกับแนวความคิดของ กระทรวงและเห็นว่าการปกป้องเด็กจากมือถืออาจกลายเป็นการลดทอน โอกาสทจ่ี ะพฒั นาสมรรถนะในการใชท้ กั ษะเหลา่ นเ้ี พอ่ื การเรยี นรู้ เขาเลา่ วา่ หลายประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาส่งเสริมการใช้สมาร์ตโฟนในการเรียน การสอน หรือที่เรียกว่า iPadagogy และมีแอปพลิเคชันที่ช่วยการเรียนรู้ ไมว่ ่าจะเป็นการตดั ต่อหนงั การสรา้ งงานในรปู แบบต่างๆ การแปลงข้อมลู อย่างงา่ ยใหเ้ ปน็ ควิ อารโ์ คด้ การเลน่ เกม active learning การสนบั สนนุ ให้ เด็กและเยาวชนสรา้ งสอ่ื เอง โดยครทู ำ�หนา้ ที่แนะนำ�วธิ กี ารสืบค้นขอ้ มูล การสร้างงานช้ินหนึ่งของนักเรียน นักศึกษาก่อให้เกิดกระบวนการ เรียนรู้มากมายทั้งในการสร้างสมรรถนะ การขบคิดกับประเด็นทางสังคม ส่ิงแวดล้อม และความเหล่ือมลำ้�ในการกระจายทรัพยากร กระบวนการ เรียนรู้เหล่านี้ ฝึกฝนให้ผู้เรียนรู้จักการสืบค้น การเลือกข้อมูลข่าวสาร การวิเคราะห์อคติ เรียนรู้เก่ียวกับประเด็กถกเถียงในบางเร่ืองที่เปราะบาง อ่อนไหว เช่น การเลือกใช้พลังงานไฟฟ้าจากถ่านหินหรือพลังงานน้ำ�จาก แมน่ ้ำ�โขง การสรา้ งโจทย์ท�ำ ใหม้ กี ารถกเถียงเพือ่ หาทางเลอื กใหม่ๆ ซง่ึ เป็น กระบวนการท่ีห้องเรียนพลเมืองต้องส่งเสริมให้เกิดการโต้เถียงผ่านการใช้ เหตุผลพูดคุย การหยิบยกข่าวสาร หรือส่งเสริมการพูดเร่ืองการเมืองผ่าน การนำ�เสนอข่าวโดยการถกเถียงเพ่ือให้ผู้เรียนได้ย่อยข้อมูลทบทวน ความเข้าใจของตนเอง ฟงั ความคดิ ผ้อู ่นื กระบวนการเหลา่ น้ีเป็นการสรา้ ง วฒั นธรรมใหมใ่ นการเรยี นรทู้ ท่ี �ำ ใหเ้ รอ่ื งพลเมอื งกบั สง่ิ ทม่ี ากบั สอ่ื สารสนเทศ และดจิ ทิ ลั มีความเชอ่ื มโยงกัน การผนวกเรอ่ื งการรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื สารสนเทศและดจิ ทิ ลั เขา้ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษาทงั้ ในระบบและนอกระบบ เปน็ ขอ้ เสนอหนงึ่ ทที่ งั้ นกั วชิ าการ

88 เท่าทนั ส่ือ : อ�ำ นาจในมือพลเมอื งดิจทิ ลั และนักวิจัยท่ีทำ�งานเร่ืองการปฏิรูปส่ือและการศึกษาต่างเห็นว่า นโยบาย ของภาครฐั ควรให้ความสำ�คญั ในเรือ่ งนี้ Pam Steager เลา่ วา่ หลกั สตู รของ โรงเรยี นในสหรฐั อเมรกิ าบรรจเุ รอ่ื งการรเู้ ทา่ ทนั สอื่ ดว้ ย แตถ่ งึ กระนน้ั กต็ าม มลรัฐโรด ไอแลนด์ ท่ีเธอทำ�งานอยู่ก็ยังไม่ได้ผนวกเร่ืองดังกล่าวเข้าไปใน ระบบการศึกษาอย่างเต็มท่ีนัก เธอให้คำ�แนะนำ�ว่า การริเริ่มผลักดันเรื่อง การรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื เรม่ิ ไดก้ บั ทกุ กลมุ่ ทกุ ภาคสว่ น เธอยกตวั อยา่ งวา่ หากสงั คม หนง่ึ ๆ มผี สู้ งู อายทุ เี่ ปน็ ผมู้ อี ทิ ธพิ ลในครอบครวั หรอื ชมุ ชน กข็ อใหเ้ รมิ่ ท�ำ งาน กับคนกลุ่มนี้ได้ทันที การขยายพันธมิตร แนวร่วมและเครือข่ายเป็น เร่ืองส�ำ คญั ในการท�ำ งาน ขณะท่ี อรรถพล ในฐานะนักการศกึ ษาเสนอวา่ การเสนอนโยบายเรื่องรู้เท่าทันสื่อในระบบการศึกษามีความสำ�คัญมาก พอๆ กับการนำ�เสนอแนวปฏิบัติเพ่ือให้ครูสามารถนำ�ไปใช้ได้กับเด็กและ เยาวชนด้วย เขาเห็นว่า การบรรจุเรื่องรู้เท่าทันส่ือในระบบการศึกษาเป็น เรอื่ งส�ำ คญั กจ็ รงิ แตไ่ มไ่ ดเ้ ปน็ หลกั ประกนั วา่ เดก็ และเยาวชนทกุ คนสามารถ เข้าถึงสมรรถนะหรอื ความรู้ได้ สิง่ สำ�คัญคอื ครผู ูส้ อนต้องเขา้ ใจสงั คมและ ออกแบบเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ ซ่ึงในเรื่องนี้ต้องมีการศึกษาหาความรู้ ในหลายชุดสำ�หรับการทำ�งานดังกล่าว และขณะนี้ สสย. กับเครือข่าย การศึกษาเพ่ือสร้างพลเมืองประชาธิปไตย กำ�ลังทำ�การศึกษาตัวบ่งช้ีเพ่ือ ใชเ้ ป็นกรอบในการพฒั นาการเรยี นรู้ส�ำ หรับเดก็ เยาวชนในแต่ละชว่ งวัย หากพิจารณาการขับเคลื่อนงานด้านรู้เท่าทันส่ือ สารสนเทศและ ดจิ ทิ ลั ภายใตก้ ารก�ำ กบั ดแู ลของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร พบวา่ หลายหนว่ ยงาน มีการจัดประชุมเชิงปฏบิ ตั กิ ารเพื่อเผยแพรค่ วามรู้เกยี่ วกบั เท่าทันสื่อดิจิทัล ใหก้ บั บคุ ลากรของกระทรวง ไดแ้ ก่ ศกึ ษานเิ ทศก์ ครแู กนน�ำ เพอื่ ใหบ้ คุ ลากร เหล่าน้ีไปเผยแพร่ความรู้ต่อไป ตัวอย่างเช่น การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มีการจัดอบรมเน้นการสร้าง ชดุ เครอื่ งมอื ความรเู้ รอ่ื งสอื่ ออนไลนแ์ ละหลกั สตู รความเขา้ ใจดจิ ทิ ลั (Digital

เท่าทันสอื่ : อำ�นาจในมอื พลเมืองดจิ ิทัล 89 Literacy) และมีแผนงานท่ีจะปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางของการศึกษา ข้ันพ้ืนฐานโดยเติมองค์ความรู้เร่ืองการใช้สื่อสำ�หรับเด็กและเยาวชนท่ี เหมาะสม48 เฉลิมชัย พันธ์เลิศ49 ผู้อำ�นวยการสถาบันสังคมศึกษา สำ�นักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทำ�งาน เครือข่ายการศึกษาพลเมืองประชาธิปไตย และมีส่วนผลักดันในเร่ือง เทา่ ทันสื่อในหลักสตู รการศกึ ษาไทย เขาใหค้ วามเหน็ วา่ ปญั หาของระบบ การศกึ ษาไทยมคี วามแขง็ ตวั และเคลอ่ื นทไ่ี ปอยา่ งเชอื่ งชา้ ดงั จะเหน็ ไดจ้ าก แผนหรือโครงสร้างหลักสูตรไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงท่ีเปล่ียนแปลง ไปมาก ผลทต่ี ามมาคอื สง่ิ ทส่ี อนในหอ้ งเรยี นกบั โลกขา้ งนอกมคี วามแตกตา่ ง กันมาก ช่วงท่ีผ่านมา จึงได้มีการทดลองการเรียนการสอนและการผลิตสื่อ การสอนเพอ่ื ใหค้ รสู ามารถน�ำ มาใชก้ บั นกั เรยี นในเรอื่ งเทา่ ทนั สอ่ื และพบวา่ ไดผ้ ลลพั ธ์ทด่ี ี ทำ�ให้เกิดคำ�ถามตามมาว่า ทำ�อยา่ งไรที่จะยกระดบั จากการ ทดลองเปน็ แนวปฏบิ ตั ใิ นการเรยี นการสอนทว่ั ไปดว้ ย ซง่ึ กระบวนการผลกั ดนั มอี งคป์ ระกอบหลายสว่ น ไดแ้ ก่ ครู นกั เรยี น ผปู้ กครองและชมุ ชน ทสี่ ามารถ หนุนเสริมให้การเรียนรู้เกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ และภายใต้กระบวนการนี้ “การพฒั นาคณุ ภาพของครู” ถอื เป็นโจทยห์ น่งึ ทที่ ้าทายอย่างยิ่ง 48 http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=49944&Key=hotnews 1/14/2018 49 วิทยากร ในงาน MIDL Week 2017 วนั ที่ 6-10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

90 เท่าทนั ส่อื : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ลั

เทา่ ทันสอื่ : อำ�นาจในมือพลเมืองดจิ ทิ ลั 91 บทที่ 6 พลงั พลเมือง เพอ่ื สิทธิด้านสิง่ แวดล้อม “การนำ�เสนอเนื้อหาดเี ป็นเรือ่ งพ้ืนฐานส�ำ คัญที่สดุ แตก่ ารท�ำ ให้เน้ือหาดงั กลา่ วแพร่กระจายออกไป ดว้ ย ‘การแชร์ข้อมูล’ นน้ั ๆ เป็นส่ิงที่มคี วามหมาย ในการส่อื สารที่ทรงพลัง ...” มมุ มองของ วฑิ ูรย์ เลีย่ นจ�ำ รญู

92 เทา่ ทันสอ่ื : อำ�นาจในมือพลเมอื งดิจิทัล ด้วยความที่ส่ือออนไลน์เข้ามามีบทบาทในการรณรงค์สิทธิพลเมือง ดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม ในการสัมมนาเรอื่ ง MIDL อำ�นาจในมือพลเมือง ผู้สร้าง การเปล่ียนแปลง เม่ือเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2560 ได้จัดหัวข้อหนึ่งเพื่อ พูดคุยเรือ่ งนี้ โดยนักเคลอื่ นไหวดา้ นส่ิงแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาตทิ ี่ ไดร้ บั เชญิ มารว่ มงาน ไดแ้ ก่ ศศนิ เฉลมิ ลาภ แหง่ มลู นธิ สิ บื นาคะเสถยี ร และ วิฑูรย์ เลี่ยนจำ�รูญ แห่งไบโอไทย ทั้งคู่นำ�เสนอมุมมองท้ังในฐานะของ นักเคล่ือนไหวท่ีใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการรณรงค์ เผยแพร่ข้อมูล ข่าวสาร และประเดน็ รณรงค์ทางสังคม ขณะเดียวกันกไ็ ด้แชร์ประสบการณ์ ทพี่ บเหน็ จากการน�ำ เสนอขอ้ มลู ขา่ วสารทปี่ รากฏในสอื่ สาธารณะตา่ งๆ ซงึ่ พวกเขาเหน็ วา่ เปน็ ความจ�ำ เปน็ ทผี่ รู้ บั ขา่ วสารในฐานะพลเมอื งควรเทา่ ทนั การน�ำ เสนอขา่ วเหลา่ นั้น บทเรยี นการใชโ้ ซเชียลมเี ดียของ ศศนิ เฉลิมลาภ ช่วงหลายปีท่ีผ่านมา การคัดค้านการก่อสร้างเข่ือนแม่วงก์ ในเขต อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จงั หวัดนครสวรรค์ ได้หวนกลับมาในการพจิ ารณา ของผู้บริหารประเทศอีกคร้ัง และในคร้ังน้ีนับเป็นการเคลื่อนไหวท่ีใช้ โซเชียลมีเดียในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารด้านส่ิงแวดล้อมมากท่ีสุด

เท่าทันสื่อ : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดิจิทัล 93 เรอ่ื งหนึง่ ราวเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ศศิน เฉลมิ ลาภ เลขาธกิ ารมลู นธิ ิ สบื นาคะเสถียร ร่วมกบั เครอื ขา่ ยชาวบ้านและองคก์ รอนุรกั ษ์สิง่ แวดลอ้ ม คัดค้านรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านส่ิงแวดล้อมและสุขภาพ ในโครงการกอ่ สรา้ งเขอื่ นแมว่ งก์ โดยเสนอขอ้ มลู ทแี่ สดงใหเ้ หน็ ความส�ำ คญั และความอดุ มสมบรู ณ์ของระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาตฯิ หน่ึงในวิธีการคัดค้านของศศินเลือกใช้คือการออกเดินเท้า 13 วัน ระยะทางกวา่ 300 กโิ ลเมตร และใช้เฟซบุ๊กในการสอ่ื สารความคิดของเขา ซึง่ มสี ว่ นจุดประกายการคดั ค้านเขอื่ นในวงกว้างกว่าเดมิ จากที่อยูใ่ นแวดวง ของคนเฉพาะกลุ่ม การเคล่ือนไหวของเขาได้นำ�ไปสู่สิ่งที่ไทยรัฐออนไลน์ เมือ่ วนั ท่ี 5 ตุลาคม 2556 นำ�มาพาดหวั ว่า “ปรากฏการณ์คัดค้าน “เขือ่ น แมว่ งก์” เกล่ือนโซเชยี ลฯ และทุกฝา่ ยให้ข้อมูลจริง” 50 การเคลื่อนไหวใน เรอ่ื งนไี้ ดร้ บั ความสนใจและแรงสนบั สนนุ จากดารานกั แสดง และชนชนั้ กลาง ในเมืองอย่างกว้างขวาง ด้วยการแชร์รูปภาพและข้อความในส่ือออนไลน์ หลายแพลตฟอรม์ ดึงดดู ใหค้ นออกมาชุมนมุ นับหม่นื บริเวณหนา้ หอศลิ ป- วฒั นธรรมกรงุ เทพมหานคร เมอ่ื วนั ท่ี 22 กนั ยายน 2556 ผลการเคลอื่ นไหว ในคร้ังนั้นนับเป็นเงื่อนไขหน่ึงที่ส่งผลให้กรมชลประทานเจ้าของโครงการ ขอถอนรายงานการวเิ คราะหผ์ ลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มและสขุ ภาพออกจากการ พิจารณาของคณะกรรมการผชู้ ำ�นาญการ เพอื่ ทบทวนแนวทางการบริหาร จดั การน�้ำ ในล่มุ น้ำ�สะแกกรังเมื่อเดอื นตุลาคม พ.ศ. 256051 มูลนิธิสืบนาคะเสถียร เป็นองค์กรเอกชนท่ีทำ�งานด้านการอนุรักษ์ ปา่ ไมแ้ ละสัตว์ป่าภายใตว้ สิ ัยทัศน์ ‘ร่วมรกั ษาป่าใหญใ่ หค้ นไทยทง้ั ชาต’ิ ซึ่ง สืบทอดเจตนารมย์ของสืบ นาคะเสถยี ร ขา้ ราชการกรมป่าไม้ นักอนรุ กั ษ์ที่ จากไปตง้ั แต่ พ.ศ. 2533 50 https://www.thairath.co.th/content/373930 1/16/2018 51 http://www.bbc.com/thai/thailand-41745226 1/16/2018

94 เทา่ ทนั สื่อ : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดิจิทลั ศศิน เฉลิมลาภ52 เล่าถึงประสบการณ์ในการใช้โซเชียลมีเดียว่า มาจากการท่ีทีมงานของเขาอัดคลิปคำ�อธิบายเก่ียวกับเรื่องสถานการณ์ นำ้�ท่วมใน พ.ศ. 2554 และอัปโหลดข้ึนยูทูป การนำ�เสนอตอนนั้นเขาใช้ แผนที่และแต่งตัวแบบหนีนำ้�ท่วมอยุธยามานำ�เสนอ คลิปน้ันได้รับความ สนใจอยา่ งรวดเรว็ คนื แรกมผี เู้ ขา้ ชมราว 4,000-5,000 คน อกี สองวนั ตอ่ มา มีคนเข้าชมราวสองหม่ืนคน และเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระท่ังมากกว่า 5 แสนวิว ภายหลังจากท่ีมีผู้ชมนำ�ไปแชร์ในเฟซบุ๊ก เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2554 แมว้ า่ เวลานน้ั ศศนิ จะคนุ้ เคยกบั การเลน่ เฟซบกุ๊ และมเี พอ่ื นเตม็ พกิ ดั 5,000 คนแล้ว แต่เขาก็รู้สึกตกใจกับพลังของการสื่อสารยุคใหม่ท่ีสามารถ สรา้ งความสนใจกับผูช้ มไดใ้ นวงกว้างอย่างรวดเรว็ ถึงเพยี งนี้ ภมู หิ ลงั ของศศนิ เปน็ นกั วทิ ยาศาสตรด์ า้ นธรณวี ทิ ยา เขาไมไ่ ดม้ ที กั ษะ ในการสอ่ื สาร ภายหลงั จากทค่ี ลปิ วดิ โี อสถานการณน์ �ำ้ ทว่ มของเขาเผยแพร่ ในวงกวา้ งอย่างไม่ได้วางแผนลว่ งหน้า เขาไดร้ ับเชญิ ออกรายการโทรทศั น์ ของหลายสถานี และพบว่าตนเองไม่ได้ถนดั ถนีใ่ นการน�ำ เสนอหรือสอื่ สาร เท่าที่ควร เขาจึงเลือกใช้ “แผนที่” เป็นเครื่องมือส่ือสารเรอ่ื งราวประกอบ การอธิบาย ซ่ึงพบว่าเป็นเคร่ืองมือท่ีได้ผล ความดังของเขาจากคลิปและ การออกรายการโทรทัศน์ทำ�ให้เฟซบุ๊กของศศินเพิ่มผู้ติดตามยอดสูงหลาย หมนื่ คน เรอ่ื งราวทเี่ ขาโพสตใ์ นเฟซบกุ๊ จะถกู แชรอ์ อกไปโดยตลอด ถดั มาใน พ.ศ. 2555 เขาทำ�คลิปวิดีโอนำ�เสนอข้อมูลเก่ียวกับเหตุผลในการคัดค้าน เขอ่ื นแมว่ งก์ แน่นอนว่า เขาหวังว่าคลปิ น้ตี อ้ งกระห่มึ กระจายออกไปอย่าง รวดเรว็ เชน่ เดยี วกบั คลปิ น�ำ้ ทว่ ม ผลปรากฏวา่ มผี ตู้ ดิ ตามมากดไลคร์ าว 300 ไลคเ์ ท่าน้ันจากแฟนเพจจำ�นวน 8 หมนื่ ราย ‘การสรา้ งเขื่อนแมว่ งก์ ไม่ใช่ เรือ่ งทอี่ ยู่ในความสนใจของแฟนเพจ’ นนั่ คือส่ิงท่ีเขารับรู้ตอนน้ัน 52 วทิ ยากรรบั เชญิ ในงานสมั มนาเรอ่ื ง MIDL อ�ำ นาจในมอื พลเมอื ง ผสู้ รา้ งการเปลย่ี นแปลง วนั ท่ี 20-21 เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2560

เท่าทนั สอ่ื : อำ�นาจในมือพลเมอื งดจิ ิทัล 95 ด้วยเหตุนี้ เขาจึงออกเดินเท้า 13 วัน ระยะทาง 388 กิโลเมตร เรม่ิ จากหน่วยพทิ กั ษป์ ่าแม่เรวา ผ่านอำ�เภอแมว่ งก์ จงั หวดั นครสวรรค์ ถึง สีแ่ ยกปทมุ วัน กรงุ เทพฯ ผา่ นจงั หวัดต่างๆ รวม 8 จังหวดั เส้นทางทศ่ี ศิน เลอื กเดินเปน็ ทางเดนิ ของสายน้ำ� เพ่ืออธิบายให้เห็นว่า เขอ่ื นแมว่ งก์ไมไ่ ด้ แก้ปัญหานำ้�ท่วมทั้งหมด แต่มีวิธีอ่ืนๆ ท่ีจัดการนำ้�ได้ และเขาก็โพสต์ เร่ืองราวต่างๆ ที่เขาคิดในเฟซบุ๊ก สิ่งที่ศศินเรียนรู้จากประสบการณ์ใน เวลานน้ั คอื ไมค่ อ่ ยมคี นสนใจเนอื้ หาทเี่ ขาโพสตม์ ากเทา่ กบั เวลาทเี่ ขาโพสต์ ในท�ำ นองว่า ‘เหลืออีก 2 กิโล ผมจะไปกินกาแฟตรงนูน้ ’ การโพสตแ์ บบน้ี จะไดร้ บั เสยี งตอบรบั จากผอู้ า่ นมาก เชน่ “อาจารยส์ ๆู้ นะคะ เดย๋ี วกถ็ งึ แลว้ ” ศศินเปลี่ยนแนวการโพสต์ข้อความของเขาจากเร่ืองทางนำ้�หรือ เข่ือนทำ�ลายสิ่งแวดล้อมตามท่ีต้ังใจไว้เป็นเร่ืองความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย ของเขา เขาเรียนรู้ว่า แฟนเพจของเขาสนใจว่า “ผมจะเดินถึงหรือเปล่า” ศศินบอกว่า ระหว่างเส้นทางเดินรณรงค์คัดค้านเขื่อนแม่วงก์ “ผมแค่เดิน และเล่นเฟซบกุ๊ เท่าน้ัน” ส่วนทเ่ี หลอื เป็นเรอื่ งทมี่ ีหลายฝา่ ยเข้ามาเก่ยี วขอ้ ง ซ่ึงล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนท้ังส้ิน ไม่ว่าจะเป็นการท�ำ ท่มี าภาพ : เว็บไซตน์ กั ขา่ วพลเมอื งไทยพบี เี อส

96 เทา่ ทนั ส่ือ : อ�ำ นาจในมอื พลเมืองดิจทิ ัล มิวสิควิดีโอเก่ียวกับการเดิน หรือคนอื่นๆ ท่ีมาร่วมเดินด้วยตลอดจน วธิ สี ่อื สารตา่ งๆ เก่ียวกับการคัดคา้ นท่มี กี ารเผยแพร่ ประสบการณ์ในการใช้ส่ือสังคมออนไลน์ของศศิน ได้ข้อสรุปว่า “บางเรอ่ื งกไ็ ด้ บางเรอ่ื งกไ็ มไ่ ด”้ ส�ำ หรบั กรณกี ารคดั คา้ นเขอ่ื นแมว่ งก์ ภายใต้ การชปู ระเดน็ NO DAM เปน็ เรอื่ งทสี่ ามารถเชอื่ มกบั ชนชนั้ กลางได้ “พอเรา บอกว่า เราค้านเข่ือน มันมคี วามรูห้ รือความเช่อื ชุดหนึ่งว่า เขื่อนจะท�ำ ลาย ส่ิงแวดล้อม พอมีใครสักคนไปปฏิบัติการ ก็ไปเชื่อมติด แต่ถ้ามีโจทย์ว่า เสนอการจัดการนำ้�ทางเลือกโดยกระจายแหล่งน้ำ�ขนาดเล็กออกไป มันก็ ยากกว่าการชูประเดน็ ที่ส่ือชัดๆ วา่ NO DAM” คำ�บอกเลา่ ของศศนิ ช่วย ตอบคำ�ถามว่า ทำ�ไมปรากฏการณ์คัดค้านเขื่อนแม่วงก์จึงเกล่ือนโซเชียล ในช่วงเวลาหนึ่ง วิฑูรย์ เล่ยี นจ�ำ รูญ กบั พลงั การใชข้ ้อมลู เพอื่ การ รณรงค์สรา้ งความเปลยี่ นแปลง วิฑูรย์ เล่ียนจำ�รูญ53 นักเคล่ือนไหวด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม เปน็ อกี คนหนงึ่ ทเ่ี หน็ ถงึ พลงั ของการใชข้ อ้ มลู เพอื่ การเปลยี่ นแปลง ปจั จบุ นั วฑิ ูรย์ด�ำ รงตำ�แหนง่ ผู้อ�ำ นวยการไบโอไทย54 ซึ่งเป็นองค์กรพฒั นาเอกชนท่ี ทำ�งานด้านความหลากหลายทางชีวภาพและส่งเสริมให้มีการฟื้นฟูและ อนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพและพันธ์ุพืชพ้ืนเมือง ในช่วงหลายปีท่ีผ่านมา หนว่ ยงานของเขาไดน้ �ำ เสนอเรอ่ื งความปลอดภยั ในเรอ่ื งอาหารและเชอ่ื มโยง กับระบบการค้าปลีก เน่ืองจากระบบการค้าปลีกของบริษัทขนาดใหญ่ 53 วทิ ยากรรบั เชญิ ในงานสมั มนาเรอ่ื ง MIDL อ�ำ นาจในมอื พลเมอื ง ผสู้ รา้ งการเปลย่ี นแปลง วนั ท่ี 20-21 เดอื นกรกฎาคม พ.ศ. 2560 54 สามารถตดิ ตามกจิ กรรมองคก์ รไบโอไทย ไดท้ ่ี http://www.biothai.net/

เท่าทันส่ือ : อ�ำ นาจในมอื พลเมืองดิจิทัล 97 เนน้ ทกี่ ารตอบสนองผลประโยชนข์ องผปู้ ระกอบการและละเลยเรอื่ งสขุ ภาพ และสง่ิ แวดล้อม อีกท้ังยังกีดกนั ทที่ างของเกษตรกรรายยอ่ ยทวั่ ไปในระบบ การผลิตอาหารดว้ ย นอกจากนี้ยังรณรงคใ์ นประเด็นตา่ งๆ เช่น การเสนอ ยกเลิกการใช้สารเคมีกำ�จัดศัตรูพืชซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ของ บรษิ ัทขา้ มชาติ เป็นเรอื่ งการล็อบบท้ี างการเมืองระหว่างธุรกิจกับผูบ้ รหิ าร ประเทศ ขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องของสงครามการใช้ข้อมูลข่าวสารเพื่อ แยง่ ชงิ พน้ื ทค่ี วามเขา้ ใจอยา่ งดเุ ดอื ดดว้ ย บรษิ ทั ทมี่ งี บประมาณจ�ำ นวนมาก ย่อมได้เปรียบในเรื่องการสื่อสารเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของเขา ภายใต้ เง่ือนไขแบบน้ี วิฑูรย์บอกว่า องค์กรที่ทำ�งานจำ�เป็นต้องพัฒนาเคร่ืองมือ ในการสือ่ สาร ซง่ึ หัวใจของการสื่อสารต้องอยูบ่ นฐานของข้อเท็จจรงิ และ ขอ้ มูลทางวิทยาศาสตร์เป็นส่วนหนึ่งทีม่ ีความส�ำ คญั ในการอธิบาย ในยคุ ดจิ ทิ ลั วฑิ รู ยเ์ หน็ วา่ อ�ำ นาจในการสอ่ื สารและการก�ำ หนดวาระ ไม่จำ�เป็นต้องพ่ึงพาสื่อหลักอย่างเดียวอีกต่อไป องค์กรท่ีทำ�งานด้าน สิ่งแวดล้อมอย่างไบโอไทย ได้สร้างเพจเพ่ือให้ข้อมูลสำ�หรับการสร้าง ความเข้าใจท่ีเก่ียวข้องกับฐานความรู้บางอย่างทำ�ให้ผู้อ่านเห็นตัวระบบ ท้ังหมดของสถานการณ์น้ันๆ มากกว่าเพียงแค่นำ�เสนอปรากฏการณ์ ยกตวั อยา่ งเชน่ กรณีบริษทั ญีป่ ุ่นจดสิทธิบตั รพชื กระท่อม วิฑรู ย์ไดร้ ับเชญิ ไปอภิปรายในประเด็นน้ีในมหกรรมแห่งหน่ึงซ่ึงมีส่ือมวลชนมาติดตามข่าว จำ�นวนมาก แตป่ รากฏวา่ ในเชา้ วนั รงุ่ ขน้ึ ไมม่ สี อ่ื ฉบบั ใดทน่ี �ำ เสนอประเดน็ น้ี ซ่งึ สะท้อนว่า สื่อและกลไกหลักที่นักรณรงค์เคล่ือนไหวเคยหวังพ่ึงพาสื่อ กระแสหลักไม่ได้ท�ำ งานใหก้ บั ประเดน็ ของนกั สง่ิ แวดลอ้ มเสมอไป ไบโอไทย จงึ น�ำ เสนอเรอ่ื งนใ้ี นเพจขององค์กรและใช้วิธีการส่ือสารที่ดึงดูดความสนใจ และสนับสนุนด้วยข้อมูลต่างๆ เพื่อเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย จนกระทั่ง ประเดน็ พืชกระทอ่ มได้รับการพจิ ารณา และท้ายท่ีสดุ สือ่ กระแสหลักจงึ หัน มาตดิ ตามประเด็นนี้

98 เทา่ ทนั สอื่ : อ�ำ นาจในมือพลเมืองดิจทิ ัล การแปรขอ้ มลู เปน็ รปู ภาพ เปน็ ความจ�ำ เปน็ ของการสอ่ื สาร โดยเฉพาะ การใช้เทคนิคอินโฟกราฟิก สามารถสร้างกระแสสาธารณะได้มากท่ีสุด ในฐานะของนักรณรงค์เคลื่อนไหวทางส่ิงแวดล้อม วิฑูรย์พบว่าการจัด แถลงข่าวเพ่ือเตือนประชาชนในหลายเรื่องไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร แตก่ ารใช้อินโฟกราฟิก และเผยแพร่ในโซเชยี ลมเี ดยี กลบั ไดร้ บั ความสนใจ และเขา้ ถงึ ประชาชนไดม้ ากกวา่ เชน่ การเผยแพรข่ อ้ มลู เรอ่ื งผกั และผลไมท้ ี่ พบว่ามีสารพษิ ตกคา้ ง ผลจากการรณรงค์ในครงั้ นน้ั มผี ูอ้ า่ นแฟนเพจของ ไบโอไทยแชรภ์ าพกราฟิกดงั กลา่ วราว 3,000 คร้งั และสง่ ผลให้ตัวแทนของ หา้ งสรรพสนิ คา้ หลายแหง่ ยนิ ดมี ารว่ มประชมุ พดู คยุ เพอื่ น�ำ ไปสกู่ ารปรบั ปรงุ การจำ�หนา่ ยสนิ ค้าปลอดภัยให้กับประชาชนมากขน้ึ การท�ำ ใหป้ ระเดน็ ทกี่ �ำ ลงั เคลอื่ นไหวเปน็ ประเดน็ สาธารณะ เปน็ เรอื่ ง ที่ท้าทายท่ีสุดสำ�หรับนักเคลื่อนไหว ดังน้ันการนำ�เสนอเน้ือหาท่ีดีจึงเป็น พน้ื ฐานสำ�คญั มากที่สดุ และการท�ำ ใหเ้ นือ้ หาดงั กล่าวแพร่กระจายออกไป ดว้ ย “การแชร์ขอ้ มลู ” นนั้ ๆ เป็นสิง่ ทม่ี คี วามหมายในการสือ่ สารทีท่ รงพลัง เขายกตวั อยา่ งการโพสตเ์ นื้อหาท่ีนำ�ไปสกู่ ารเปลยี่ นแปลง กรณกี ารเปิดให้ เอกชนกลมุ่ หนง่ึ มาบรหิ ารไรส่ วุ รรณหรอื ศนู ยว์ จิ ยั ขา้ วโพดขา้ วฟา่ งแหง่ ชาติ ซง่ึ อยภู่ ายใตก้ ารบรหิ ารของมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ ซง่ึ เปน็ แหลง่ ปรบั ปรงุ พนั ธข์ุ า้ วโพดของประเทศ ภายหลงั จากไดร้ บั ขา่ วการแตง่ ตง้ั ผบู้ รหิ ารศนู ยน์ ้ี ทางเพจไบโอไทยไดเ้ ผยแพรแ่ ละแสดงจดุ ยนื วา่ การแตง่ ตง้ั ประธานทม่ี าจาก กลุ่มเอกชนเชน่ น้ีเปน็ การแปรรปู ทรพั ยากรของประเทศ และมหาวทิ ยาลัย ท่ีควรมีหน้าท่ีพัฒนาวิจัยสายพันธ์ุพืชเพ่ือประโยชน์ของเกษตรกรจะกลาย เปน็ ประโยชนข์ องบรรษทั เอกชนทม่ี เี ปา้ หมายเพอ่ื ผลก�ำ ไรเปน็ หลกั ปรากฏวา่ มแี ฟนเพจแชรโ์ พสตน์ มี้ ากกวา่ 5,000 ครั้ง ขา่ วนสี้ ามารถเขา้ ถงึ คนอา่ นได้ มากกวา่ 4 แสนคน ในทส่ี ดุ ผบู้ รหิ ารทไ่ี ดร้ บั การแตง่ ตง้ั จากสภามหาวทิ ยาลยั ไดล้ าออก วิฑูรย์พูดถึงกรณีนี้ว่า “เราสามารถขับเคลือ่ น เผยแพร่เรอ่ื งนีใ้ น

เท่าทนั ส่อื : อำ�นาจในมอื พลเมอื งดจิ ิทลั 99 พน้ื ทท่ี เ่ี ราก�ำ หนดได้ อนั นเ้ี ปน็ ปฏบิ ตั กิ ารโดยตรง ผมไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งยน่ื หนงั สอื ต่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในฐานะศิษย์เก่า แต่ผมสามารถสื่อสารกับ พี่น้อง เครือข่ายประชาชนท้ังหลาย และได้คนเข้ามามีส่วนร่วมอย่าง กวา้ งขวาง” ส�ำ หรบั เทคนคิ ในการสรา้ งเครอ่ื งมอื สอ่ื สาร วฑิ รู ยแ์ นะน�ำ วา่ ผทู้ �ำ การ ออกแบบอินโฟกราฟิกต้องเข้าใจเน้ือหาที่จะนำ�เสนอจึงจะออกแบบได้ดี และควรมกี ระบวนการตรวจสอบความถกู ตอ้ งกอ่ นน�ำ เผยแพร่ การน�ำ เสนอ ดว้ ยภาพและขอ้ มลู ขององคก์ รไบโอไทย เนน้ ไปทกี่ ารสอื่ สารกบั คนทกุ กลมุ่ และสามารถทำ�ให้ผู้อ่านนำ�ไปแชร์ต่อได้ แต่อย่างไรก็ตาม ในการทำ�งาน เคล่ือนไหวประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมอ่ืนๆ ล้วนแล้วแต่ต้องมี เครือข่ายเป็นองค์ประกอบสำ�คัญ เขามองว่า การสื่อสารในยุคปัจจุบัน มีความสะดวกและง่ายมากข้ึนเม่ือเปรียบเทียบกับการทำ�งานเคลื่อนไหว ในอดีต งานของเขาล้วนทำ�กิจกรรมในรูปแบบเครือข่าย ได้แก่ เครือข่าย เกษตรกรรมทางเลอื ก, เครือขา่ ย FTA Watch และ ไทยแพน เขามองว่า ที่มาภาพ : เวบ็ ไซต์นักข่าวพลเมืองไทยพบี เี อส

100 เท่าทนั ส่ือ : อำ�นาจในมือพลเมืองดิจทิ ัล การทำ�งานเครือข่ายเป็นคำ�ตอบในหลายเร่ืองไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อน การเปลี่ยนแปลงและเป็นคำ�ตอบของความรู้ เพราะใครคนใดหรือกลุ่มใด กลุ่มหนึ่งรู้เรื่องเฉพาะกลุ่ม แต่ภายใต้เครือข่ายจะทำ�ให้เราได้รับความรู้ที่ แตกตา่ งออกไป ด้านหน่ึงโซเชียลมีเดียเป็นโอกาสในการส่ือสารของพลเมืองและ องค์กรทท่ี �ำ งานเคลือ่ นไหวในประเด็นสาธารณะในสายตาของวิฑรู ย์ พืน้ ท่ี สื่อใหม่ที่เกิดข้ึนย่อมเป็นสมรภูมิของการนำ�เสนอข่าวสารของภาคเอกชน ทต่ี อ้ งการน�ำ เสนอขอ้ มลู ของเขาเชน่ กนั การทพ่ี ลเมอื งจะรเู้ ทา่ ทนั สอ่ื จะตอ้ ง เห็นถึงโครงสร้างของระบบข้อมูลและรูปแบบการเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ เขายกตวั อยา่ ง เรอ่ื งการรณรงคย์ กเลกิ การใชส้ ารเคมกี �ำ จดั ศตั รพู ชื พาราควอต ซ่ึงมยี อดขายปีละราว 3-4 พนั ลา้ นบาทต่อปี ทนั ทีท่กี ระทรวงสาธารณสุข รบั ขอ้ เสนอเรอ่ื งการยกเลกิ น�ำ เขา้ สารเคมี วฑิ รู ยพ์ บวา่ มสี อ่ื มวลชนราว 5 ฉบบั เขียนเร่ืองในแนวทางท่ีสนับสนุนการใช้พาราควอต และมีฉบับยักษ์ใหญ่ นำ�เสนอข้อมูลเรื่องนี้ติดต่อกันราวหน่ึงเดือน เขาเห็นว่า การใช้ข้อมูลทาง วทิ ยาศาสตรเ์ พอื่ เปน็ หลกั ฐานในการน�ำ เสนอขา่ วสารอาจเปน็ เครอ่ื งมอื หนงึ่ ที่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบริษัทยักษ์ใหญ่ ตลอดจนการสนับสนุนทาง การเงนิ ผา่ นการโฆษณาในสอื่ หลากหลายรปู แบบลว้ นเปน็ พน้ื ฐานทพ่ี ลเมอื ง ต้องเท่าทนั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook