ฉะน้ัน “การเจริญรอยตาม” จึงเปน็ ส่งิ จาเปน็ และสอื่ ของ “การ เจรญิ รอยตาม” คือการที่ทา่ นรู้จกั ผทู้ เ่ี ชือ่ มตัวท่านไปยังท่านนะบี เพราะผ้ตู ามไมใ่ ช่ผรู้ ู้ قَْا َلْْال ْص َحْاْبَةُْْْلَْيْ َْسْْبِالْت ْْمِْويو الِعْلْ ُْمْْقَا َْلْاللهُْْْقَا َْلَْْر ُسْولُْو بَْْْي َنْْالَْر ُْسوِلَْْْوبَْْْي َنْْقَْْْوِلْْفَِْقْيو َْماْالِْعلْ َمْْنَْ ْْصبُْ َْكْلِْلْ ِْخَْل ِْفْ ُسَْفْا َىْة ْإّْلْال َحْ ِدْي َثَْْْوإِّْْلْالِْفقْوَِْْْفيْال ِّْدي ِن ُْك ُّلْْالْعُْْلُوِْمْ ِسَْْوىْالُقْْْرآ ِنُْْْمشِْغْلَْة الِْعلْ ُْمَْْماَْكْا َنِْْفْيِوْْقَْا َلْْ َْح ْدثَْْنَاَْْوَْما ِْسَْوىْ َذْا َكْْْفَِْو ْْسَْوا ُسْْال ْشْيَا ِطْي ِْن ศาสตรน์ ้นั คือ อลั ลอฮฺตรัส เราะสูลกลา่ ว สหายกล่าว มไิ ด้มาก เกินกว่าน้ี มิใชศ่ าสตร์ ดงึ ทา่ นโต้ โงง่ มตี ค้านนะบี ดว้ ยคาพูด อุละมาอฺ สรรพศาสตร์ อน่ื กุรอาน เป็นใช้ได้ เว้นหะดีษ แลเขา้ ใจ ศาสนา ศาสตร์น้นั อยู่ ในคาสบื ทอดกนั มา อ่นื น้ีหนา เพียงกระซบิ จากชัยฏอน อนึง่ “ผตู้ ามอย่างไม่รู้” เขาไม่ได้รู้หลักฐานมาจากอัลลอฮฺ หรือ จากทา่ นเราะสูล เขารู้แค่ทรรศนะอมิ ามชาฟิอวี ่าอย่างไร อิมามอะห์มัด ว่าอย่างไร หรอื คนนน้ั คนนีว้ ่าอยา่ งไรโดยไมร่ ู้หลกั ฐานจากอัลกรุ อานและ สนุ นะฮฺ มีคากล่าวได้กลา่ วไว้วา่ “ไม่มขี ้อแตกต่างเลยระหว่างผตู้ ามอย่าง ไมร่ กู้ ับพวกที่ถกู จูงจมูก” เป็นที่น่าเสยี ใจอย่างยงิ่ ที่องค์กรบางองคก์ รทที่ างานเพ่ืออิสลาม ม่งุ เนน้ อบรมประชาชนให้ยดึ มัน่ ใน “การตามอยา่ งไมร่ ู้” โดยพวกเขาไม่ได้ อสั สะละฟียะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 42
อบรมผู้อยภู่ ายใตก้ ารดูแลของพวกเขาใหช้ นิ กับการสอบถามถงึ หลกั ฐาน จากอัลกรุ อานหรือสุนนะฮฺ และเม่อื มใี ครไปถามถงึ หลักฐานบางทเี ขา อาจจะโดนตบหนา้ กเ็ ป็นได้ เพราะผูถ้ ามไม่มสี ทิ ธท์ิ ่ีจะทราบหลักฐาน จงึ สมควรท่ีทา่ นต้องรจู้ ักหลักฐานและเดนิ บน “การเจรญิ รอยตาม” ทา่ น นะบี คนบางคนคิดว่า “การสบื หาหลักฐานจากผูอ้ อกคาตดั สินทาง ศาสนาเป็นมารยาทท่ไี มด่ ี” แต่อนั ทจ่ี รงิ แล้วมันไม่ใชม่ ารยาททรามแต่ อยา่ งใด กลับเปน็ การแสดงออกถึงความยาเกรงต่ออลั ลอฮฺ และเจตน์จานง ในการตอกยา้ ว่าท่านเดินตามรอยทา่ นนะบี อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 43
รากที่ 3 “ตัซกียะฮฺ” “ตัซกยี ะฮฺ” หมายถึง การพฒั นา และการซักฟอก การตซั กียะฮฺ เป็นสง่ิ สาคัญอีกอย่างท่ีท่านนะบอี นั ทรงเกยี รติของเราถูกสง่ ลงมาพร้อมกับ สงิ่ น้ี ดังพระดารัสของอลั ลอฮฺ ทีว่ า่ ُْىَْو ال ِذي بَ َع َْث ِفي اْلُِّْمِيّي َنْ َر ُسوًّلْ ِّمْن ُه ْمْ يَْتلُو َعلَْيِه ْمْ آيَاتِِوْ َويَُزِّكيِه ْم َويَُعِلّ ُم ُه ُْم الْ ِكتَا َْب َوالْ ِح ْك َمةَْ َوإِن َكانُوا ِمن قَْب ُلْ لَِفي َضَل ٍْل ُّمبِي ٍْن พระองคค์ ือผูท้ รงส่งแต่งตัง้ เราะสลู ข้ึนคนหนึง่ ในหมู่ผ้ไู ม่รู้หนังสอื จาก พวกเขาเอง เพ่อื สาธยายโองการตา่ ง ๆ ของพระองคแ์ ก่พวกเขา และ ทรงทาให้พวกเขาสะอาด และทรงสอนคมั ภีร์และวิทยปัญญาแก่พวก เขา และแมว้ า่ ก่อนหน้านี้พวกเขาจะอยู่บนความหลงผดิ อยา่ งชดั แจง้ ก็ ตาม (อัลญุมอะฮฺ 2) ท่านนะบี ไดข้ อการซกั ฟอกจิตวญิ ญาณของท่าน โดยทา่ น กล่าวว่า أَنْ َتْ َولِيُ َها َوَمْوَّل َىا، َوَزِّكَها أَنْ َتْ َخْي ُْر َم ْْن َزكَها، الل ُهمْ آ ِْت نَْف ِسي تَ ْقَوا َىا โออ้ ัลลอฮฺโปรดทรงนาความยาเกรงมาสจู่ ติ ใจของข้าพระองค์เถิด และ โปรดทรงซกั ฟอกจิตใจของข้าพระองคด์ ้วยเถดิ พระองค์นน้ั คอื ผู้ทรง อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 44
ซักฟอกจิตใจที่ดที ส่ี ดุ พระองคน์ น้ั คือผู้เปน็ ท่ีรักของจติ ใจ และเป็นผู้ ครองจิตใจ35 และอัลลอฮฺ ทรงมอบความเมตตาแก่มุสลมิ ดว้ ยกับการซกั ฟอก ดังกลา่ ว โดยพระองค์ทรงตรัสว่า ََْولَْوَّْل فَ ْض ُلْ اللِوْ َعلَْي ُك ْْم َوَر ْح َمتُوُْ َما َزَكا ِمن ُكم ِّم ْنْ أَ َح ٍدْ أَبًَدا َولَ ِكنْ اللو يَُزِّكي َمن يَ َشاء และหากไร้ซึง่ ความโปรดปรานของอัลลอฮแฺ ละพระเมตตาของพระองค์ ตอ่ พวกเจ้าแลว้ ก็จะไม่มีผใู้ ดในหมพู่ วกเจา้ บริสุทธแิ์ ตอ่ ัลลอฮฺจะทรงทา ใหผ้ ทู้ ่ีพระองค์ทรงประสงคบ์ รสิ ทุ ธิ์ (อันนรู 21) อลั ลอฮฺทรงสาบาน 11 ครัง้ ติดต่อกันในคมั ภรี ์ของพระองค์ และไม่ เคยปรากฏบนอัลกรุ อานวา่ จะมีการสาบานติดต่อกันเชน่ นี้ตัง้ แตต่ น้ จนจบ และดว้ ยจานวนของการสาบานที่มากมายน้ี ช้ใี หเ้ ห็นว่าความสาเรจ็ ของ ปวงบา่ วทีแ่ ทจ้ รงิ นนั้ ขึ้นอยกู่ บั การซกั ฟอกจิตใจ และความล้มเหลวในชวี ติ ก็ ขน้ึ อยกู่ ับการหมกมุ่นกบั อารมณใ์ ฝต่ ่าเช่นกนั อัลลอฮฺทรงตรัสว่า 35 มสุ ลมิ บท อัซซกิ ร บซิ ิยาดะฮฺ ฟเี อาวะลิฮิ วะอาคริ ฮิ ิ (4117), อะห์มดั (4/371) และ(6/209) ท่านรายงานสานวนดุอาอฺว่า “.........”اللهم أعط อสั สะละฟียะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 45
َوالش ْم ِْس َو ُض َحا َىا๐ َوالَْق َم ِرْ إِذَا تََل َىا๐ َوالن َها ِْر إِذَا َجَل َىا๐ َواللْي ِلْ إِ َذا يَغْ َشا َىا๐ َوالس َماِْء َوَما بَنَا َىا๐ َواْلَْر ِضْ َوَما طَ َحا َىا๐ َونَْف ٍْس َوَما َسوا َىا ๐ فَأَلَْه َمَها فُ ُجوَرَىا َوتَْقَوا َىا๐ قَ ْد أَفْلَ َْح َم ْْن َزكا َىا๐َوقَدْ َخا َبْ َم ْنْ َدسا َىا ขอสาบานต่อดวงอาทติ ยแ์ ละแสงสว่างของมัน ๐ และต่อดวงจนั ทร์เม่อื โคจรตามหลังมนั ๐ และด้วยเวลากลางวันเมื่อมันทอแสง ๐ และดว้ ย เวลากลางคืนเมอ่ื ปกคลุมมัน ๐ และดว้ ยชน้ั ฟ้าและท่ีพระองคท์ รงสร้าง มัน ๐ และด้วยแผ่นดินและทพ่ี ระองคท์ รงแผ่มัน ๐ และดว้ ยชีวิต และท่ี พระองค์ทรงทาให้มนั สมบูรณ์ ๐ แล้วพระองค์ทรงดลใจมนั ใหร้ ู้ทางช่ัว ของมันและทางสารวมของมัน ๐ แนน่ อนผขู้ ดั เกลาชีวติ ย่อมไดร้ บั ความสาเร็จ ๐ และแน่นอน ผูห้ มกม่นุ ย่อมล้มเหลว (อัชชัมส 1-10) อันทจ่ี ริงอลั ลอฮฺนน้ั ไมจ่ าเป็นตอ้ งสาบานกย็ ่อมได้ เพราะใครจะพูด จรงิ กว่าอลั ลอฮอฺ ีกเล่า? แต่พระองค์ต้องการจะดงึ ความสนใจของเราไปยงั ความยง่ิ ใหญ่และคุณคา่ ของเร่ืองนี้ พระองค์จึงทรงสาบานติดต่อกนั มากมายขนาดนใ้ี นสานวนที่พระองค์ทรงกลา่ วว่า “ผทู้ ซี่ ักฟอกจติ ใจย่อม ได้รบั ความสาเร็จ และผทู้ ่ีหมกมนุ่ อยู่กับอารมณ์ใฝต่ ่ายอ่ มล้มเหลว” การ ได้รับความสาเรจ็ ของผูซ้ ักฟอกจิตใจคือ เขาจะสุขสบายทั้งในดุนยา และ อาคเิ ราะฮ กลา่ วคือ ใครกต็ ามทซี่ ักฟอกจิตใจของเขาจะมคี วามสุขในดุนยา ประหนงึ่ ว่าเขาไดพ้ านักในสรวงสวรรค์ สงบสุข, เปน็ สขุ และอิ่มเอิบ กับอัลลอฮฺ ดังเชน่ ท่านเราะสูล กล่าววา่ َو ُجَعلَ ْتْقُرةُْ َعْينِيِْفيْالصَلِْة อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 46
และฉันไดร้ ับความชืน่ ตาช่ืนใจในการละหมาด36 และปรากฏว่าท่านเราะสลู จะถือศีลอดติดต่อกนั (วาศลิ ) ใน ขณะเดียวกันทา่ นจะหา้ มผู้อ่ืนจากการวศิ อล37 เศาะหาบะฮกฺ ็กลา่ วกันว่า “ทา่ นเองก็ถือศลี อดติดต่อกันหลายวนั นค่ี รบั ?” ท่านเราะสลู จึงกลา่ ว ว่า َو َسا ٍقْ يُ ْسِقيَنِي، إِِنّي أَبِي ُْت لِي ُمطِْع ٌمْ يُطِْع ُمنِي، إِني لَ ْْس ُْت َكَهْيئَتِ ُك ْْم สภาพของฉนั ไมเ่ หมือนพวกท่านหรอกนะ เพราะในตอนค่ามีผ้ใู หอ้ าหาร มาป้อนอาหารให้ฉนั และมีผู้ใหน้ า้ มาดบั กระหายแก่ฉัน38 ด้วยความอม่ิ อกอิม่ ใจท่ีเปี่ยมล้นในหวั ใจของท่านนะบี และ ความหวานฉา่ ในสถานภาพความศรัทธาของท่าน ทาใหท้ ่านไมม่ ีความ ตอ้ งการในอาหารและเครื่องดื่มแต่อยา่ งใด ดงั ทม่ี ีบางคนกล่าวว่า لهاْأحاديثْمنْذكراكْتشغلها عنْالطعامْوتلهيهاْعنْالزاد 36 อนั นะสาอี บท อชั เราะตนุ นสิ าอฺ (7/61), อะหม์ ดั (3/128,199,285) และอลั หากมิ (2/160) บทอันนกิ าห์ และทา่ นกลา่ วเพิม่ ว่าหะดษี นถ้ี กู ตอ้ งตามเงื่อนไขของอมิ าม มสุ ลมิ ซงึ่ ทา่ นอซั ซะฮะบีก็เห็นพอ้ งกบั ท่าน และอัลบานีก็บอกว่าเศาะหหี ์ด้วย 37 อลั วิศอล – الوصالคือการถอื ศลี อดติดต่อกัน 2 วันข้ึนไปโดยไมก่ ินอะไรเลยแมจ้ ะ ตอนกลางคนื แลว้ กต็ าม 38ฟัตหุลบารี บทอศั เศามฺ เลขท่ี 1862,เศาะหหี ์ อบิ นหิ ิบบาน บท อศั เศาม์ เลขท่ี 3659, มุสลิม บทอัศศยิ าม (7/212) และมาลิกในอลั มุวฏั เฏาะ บทอศั ศิยาม (1/300) อัสสะละฟียะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 47
หลากหะดีษ บ่งนะบี อิบาดะฮฺ จนเลยละ จากอาหาร ลมื เสบียง39 คนเราเมื่อตอนทอี่ ีมานเพิ่มข้ึนสงู กร็ ้สู กึ วา่ มีเพยี งอัลลอฮกฺ ส็ งบ และสขุ ได้ ซึง่ ไม่ตอ้ งการอาหารหรือเคร่อื งดื่มมากมาย ความเอบิ อิม่ ในหวั ใจ กเ็ ป็นท่เี พยี งพอแล้ว ดว้ ยเหตุน้ผี ูศ้ รัทธาจึงกินแค่พออ่ิม แต่ผู้ปฏิเสธกินกัน จนพงุ กาง ซึง่ ผ้ศู รทั ธาท่เี ปี่ยมดว้ ยอมี านและสมั ผัสไดถ้ ึงความหอมหวาน ของมัน จึงไม่ไดต้ ้องการอาหารและเครื่องดื่มอะไรมากมาย สรุปไดว้ ่า ความสาเรจ็ ของมนุษย์เราข้ึนอยู่กบั การขดั เกลาจิตใจ และความล้มเหลวของชีวิตก็อยู่ที่การหมกมุ่นกับอารมณใ์ ฝต่ ่า การซกั ฟอก ขน้ั แรกของผ้เู ดนิ บนทางที่ถูกต้อง (คือสะละฟี หรือ อะฮฺลซิ สุนนะฮวฺ ัลญะ มาอะฮฺ) คอื การซักฟอกหลักเตาหดี เพราะสง่ิ สกปรกทีส่ ุดคือคราบชิ รกิ อลั ลอฮฺ ทรงตรสั วา่ ْإِن َماْالْ ُم ْش ِرُكو َنْنَ َج ٌس แทจ้ ริงแลว้ บรรดาผ้ตู งั้ ภาคนี นั้ เป็นสิง่ สกปรก (อัตเตาบะฮฺ 28) َوَويْلٌْ ِلّْل ُم ْش ِركِين๐َْال ِذي َْن َّلْ يُْؤتُو َْن الزَكاة 39 อลั มัดฮชั เล่ม 1 หนา้ 455 อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 48
และความหายนะจงประสบแด่บรรดาผตู้ ง้ั ภาคี ๐ ผูซ้ ง่ึ ไม่ยอมจ่ายซะ กาต (ฟศุ ศลิ ัต 6-7) ท่านอิบนิอบั บาส ได้อธบิ าย “ผูซ้ ง่ึ ไม่ยอมจ่ายซะกาต”40 วา่ “คือ ผ้ซู ่ึงไม่ปฏิญาณว่าไม่มีพระเจา้ อ่ืนใดนอกจากอัลลอฮฺ” การซะกาตตรงนี้ จงึ หมายถึงการซักฟอกหลกั เตาหีด อลั ลอฮฺได้สง่ ท่านนะบีมูซา ไปยงั ฟริ เอานฺแล้วกล่าวว่า فَُق ْْل َىل ل َكْ إِلَى أَن تََزكى๐َوأَْى ِديَ َكْ إِلَى َرِبّ َكْ فَتَ ْخ َشى แลว้ จงกล่าวเถิดวา่ ท่านประสงค์จะซกั ฟอกไหม ๐ และจะให้ฉันนาท่าน ไปสู่เพราะเจา้ ของทา่ นไหม เพอ่ื ทา่ นจะไดย้ าเกรง (อนั นาซิอาต 18-19) ซ่ึงการซักฟอกนน้ั คอื การซักฟอกหลกั เตาหีด และละทิ้งการตัง้ ภาคี ต่อพระองค์ ฉะนน้ั ส่ิงทีจ่ ะสามารถซกั ฟอกจติ ใจได้ก็ต้องดว้ ยเตาหดี ส่วน การซ่อมแซมและเติมเต็มความสมบรู ณแ์ กจ่ ิตใจก็ดว้ ยการปฏิบตั บิ ังคับ บญั ญัต(ิ วาญบิ ) และอาสาบัญญตั ิ (สุนตั ) ให้มาก และขณะเดียวกนั จิตใจจะ เปน็ สงิ่ มีตา่ ชา้ ไรร้ าคาจนแทบจะมองไม่เหน็ ค่าของมัน กด็ ว้ ยกับการตง้ั ภาคี ตอ่ อัลลอฮฺและการฝ่าฝนื พระองค์ 40 ซะกาต ทางภาษาอาหรบั มาถึงการทาใหส้ ะอาด การซักฟอก ส่วนความหมายทาง บญั ญัตคิ ือการออกทรพั ยส์ ่วนตนแกผ่ ้ยู ากจนตามจานวน และประเภทการออกท่ี บัญญัติศาสนากาหนดไว้ อัสสะละฟียะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 49
قَدْ أَفْلَ َْح َم ْنْ َزكا َىا๐َوقَ ْد َخا َْب َم ْنْ َدسا َىا แนน่ อนผ้ขู ัดเกลาจิตใจยอ่ มไดร้ ับความสาเรจ็ ๐ และแนน่ อนผ้หู มกมุ่น กบั อารมณใ์ ผ่ตา่ ย่อมลม้ เหลว (อัชชมั สฺ 9-10) “ผใู้ ดซักฟอกจติ ใจเขาย่อมได้รบั ความสาเรจ็ ” ซักฟอกจิตใจคือ ยกระดับมนั ทาความสะอาดมัน และเติมเตม็ มันดว้ ยการให้เอกภาพ ตอ่ อลั ลอฮแฺ ละการเช่ือฟังพระองค์ “ผใู้ ดหมกมุน่ กับอารมณใ์ ฝต่ ่าเขาย่อมไดร้ บั ความล้มเหลว” หมกมุ่นเปน็ สิ่งตรงขา้ มกบั การซักฟอก คือการลดค่า และบั่นทอน ดังพระ ดารัสของอลั ลอฮฺ أَيُْم ِس ُكوُْ َعلَى ُىوٍنْ أَْْم يَُد ُّسوُْ ِفي الُتّ َرا ِْب เขาจะเก็บเอาไว้ด้วยความอัปยศหรอื ฝงั มันในดิน (อันนูร 59) หมายถึงซ่อนไว้ใต้ดนิ ดังน้นั จิตใจจะกลายเป็นสิ่งไร้คา่ ทท่ี า่ นไม่ สามารถเหน็ คา่ ของมันได้ก็ด้วยการการตงั้ ภาคตี ่ออลั ลอฮแฺ ละการฝ่าฝนื พระองค์ ดังน้ัน จดุ เร่ิมตน้ ของการซกั ฟอกจิตใจในแนวทางสะละฟี หรอื อะฮฺลซิ สุนนะฮวฺ ลั ญะมาอะฮฺ คอื การซกั ฟอกหลักเตาหีด หมายถงึ ท่าน จะตอ้ งรูจ้ ักอลั ลอฮฺอย่างถกู ต้อง ดังเชน่ ท่ีอัลลอฮฺและท่านเราะสูลุลลอฮฺ อัสสะละฟียะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 50
บอกใหเ้ รารู้ถึงตัวตนของพระองค์ ต่อจากนั้นท่านจาเป็นจะต้องให้ความ เป็นเอกภาพตอ่ อลั ลอฮฺด้วยเอกภาพด้านเจตน์และจานง โดยการซกั ฟอก จติ ใจประเภทอ่นื ๆ จะเกิดข้ึนไม่ได้ หากไมไ่ ดร้ ับการซักฟอกหลักเตาหีด เป็นลาดับแรก เพราะส่ิงจาเป็นขอ้ แรกของมุกลั ลัฟ41คือการรจู้ กั อลั ลอฮฺ ตามที่อลั ลอฮฺ และเราะสูล ได้บอกเราไว้ และตอ้ งใหเ้ อกภาพต่อ พระองค์ในการสักการะ หลงั จากนน้ั ก็ใหซ้ ักฟอกจติ ใจดว้ ยการปฏิบัติบงั คับบัญญตั ิ นกี่ ็เป็น การซักฟอกท่จี าเปน็ อีกเชน่ กัน ซึ่งการปฏบิ ตั ิทีป่ ระเสริฐท่ีสุดคือการปฏิบตั ิ ตามสงิ่ ที่อลั ลอฮฺทรงส่ังใช,้ หลกี ห่างจากสิ่งท่อี ัลลอฮฺทรงสง่ั ห้าม และมี ทัศนะคติท่ีดีต่อพระบัญญัติของอัลลอฮฺ ดังเชน่ ในหะดษี กุดสี42ทรี่ ายงาน โดยท่าน อบูฮรุ อยเราะฮฺ ว่าทา่ นเราะสลู กลา่ วว่า َوَما تََقر َبْ إِلَ ْي َعْب ِدي بِ َش ْيٍءْ أَ َحبْ إِلَ ْي ِمما افْتَ َر ْضتُْوُ َعلَْيِْو 41 มกุ ลั ลฟั คอื ผู้ถกู บงั คับภายใต้เงอ่ื นไขกาหนด 4 ประการ 1. เขา้ เกณฑศ์ าสน บัญญัติ 2 .มสี ติปญั ญาครบถ้วนสมบูรณ์ 3. รบั รู้หลักธรรมคาสอนของอสิ ลามแล้ว 4. ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ยังสามารถใช้การไดด้ ี 42 หะดษี กุดสี – حديث القدسيคือ คาพดู ท่ีพาดพงิ กลบั ไปยงั ท่านนะบี โดยคาพดู เป็นของทา่ นนะบี แต่ความหมายนัน้ กลับไปหาอลั ลอฮฺ ซงึ่ ตา่ งกบั อลั กุรอานที่ทัง้ คาพดู และความหมายเป็นของอัลลอฮฺทั้งส้นิ และข้อต่างอกี อย่างคือ หะดษี กดุ ซี มีทง้ั เศาะ หีห์ หะสัน และ เฎาะอีฟ แตอ่ ลั กรุ อานจะอยใู่ นข้นั มตุ ะวาฏริ จงึ เศาะหีหท์ งั้ หมดโดย ไมต่ ้องสบื สายรายงาน อัสสะละฟยี ะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 51
และไมม่ ีสิ่งใดท่ีฉนั ชอบใหบ้ า่ วของฉนั ใช้มนั ใกล้ชิดมายงั ฉันมากไปกวา่ สงิ่ ท่ฉี นั บญั ญตั ิใชแ้ กเ่ ขา43 มุสลิมเราต้องไมเ่ ป็นคนที่ไมย่ อมออกซะกาตทรัพยส์ ว่ นตน แต่ กลบั ไปทาอมุ เราะฮฺทุกปี หรือสร้างมสั ยิดเยอะแยะ วา่ กันว่า “ใครก็ตามท่ี สาละวนอยู่กับบงั คับบัญญตั ิจนละเลยจากอาสาบัญญตั เิ ขาคอื ผู้ได้รับ การผอ่ นปรน” เพราะเขายงุ่ อยกู่ บั สิง่ ท่ีอลั ลอฮฺรักมากทสี่ ดุ คอื บังคับบญั ญัติ ดังนั้นใครท่ยี ุ่งกบั บงั คบั บญั ญัตจิ นละเลยจากอาสาบญั ญตั ิเขาคือ “ผู้ไดร้ บั การผอ่ นปรน” ส่วนผู้ใดที่ยุ่งอยูก่ บั อาสาบัญญตั จิ นละเลยต่อบังคบั บัญญตั ิ เขาคือ “ผ้หู ลอกตวั เอง” มุสลมิ เราสมควรที่เขาจะทุ่มเทให้กับบังคับบญั ญตั ิ ใคร่ครวญใน สถานะของตน ว่า การละหมาดของเขาอยู่ในชว่ งแรกของเวลาและใน รปู แบบญะมาอะฮฺรเึ ปลา่ ? รกุ อุ ฺ,สุญดู ,คชุ ุอสฺ มบรู ณ์หรือไม?่ หรือวา่ เขา ละหมาดชว่ งท้ายเวลาคนเดยี ว? แล้วเขามที รัพยถ์ ึงเกณฑ์ที่ตอ้ งออกซะกาต แลว้ หรอื ยงั ? แลว้ เขามคี วามาสามารถจะไปทาฮจั ญแ์ ลว้ ไม่ยอมไปทารึ เปลา่ ? แลว้ เขาถือศีลอดในเดือนเราะมะฎอนดว้ ยความศรัทธาและ ความหวงั ในความพึงพอพระทัยของอัลลอฮฺรึเปล่า? เช่นเดยี วกันบงั คับบัญญตั ิภาคละท้ิงก็จาเปน็ เช่นกนั อาทเิ ชน่ การ ผิดประเวณี, การขโมย, การด่ืมสรุ า, การกินดอกเบีย้ , การกินยดึ ทรพั ยผ์ ้อู น่ื โดยอธรรม, การนินทาวา่ ร้าย และอืน่ ๆ จากส่งิ ที่อัลลอฮฺบัญญตั ใิ ห้เราหลีก ห่างและละท้ิงสง่ิ เหลา่ นัน้ ดงั เช่นทา่ นนะบี กล่าววา่ َوإِ َذا نَ َهْيتُ ُك ْْم َع ْْن َش ْيٍءْ فَانْتَ ُهْوا، ْإِ َذا أََمْرتُ ُك ْمْ بِ َش ْيٍْء فَأتُوا ِمْنوُْ َما ا ْستَطَْعتُ ْم 43 อลั บุคอรี บทอรั รอกออิก เร่อื ง อตั ตะวาฎุอฺ เลขที่ 6050 และ อัลบานี ใน อัสสิลสิ ละฮฺ อศั เศาะหหี ะฮฺเลขที่ 1640 อัสสะละฟียะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 52
เมอ่ื ฉนั สั่งใช้ส่งิ ใดแกพ่ วกท่านกจ็ งทาไปตามที่พวกท่านสามารถเถิด และ เม่อื ฉันสงั่ หา้ มพวกทา่ นจากสง่ิ ใด พวกทา่ นก็จงงดเว้นเสียเถดิ 44 ดังกลา่ วนค้ี ือการซักฟอกด้วยบังคับบญั ญตั ิ หลักจากการซักฟอก ด้วยเตาหีด จากนน้ั กจ็ ะเปน็ การซักฟอกจติ ใจด้วยอาสาบญั ญัตทิ ี่ทา่ นเราะ สลู ได้อธิบายไวใ้ หเ้ รา บทบัญญัตขิ องทา่ นนะบีนั้นเพียบพร้อมไปดว้ ยวธี ี ต่าง ๆ ในการซักฟอกจิตใจ โดยไม่จาเป็นท่เี ราตอ้ งคิดค้นแนวทางหรอื วิธกี ารใดมาซกั ฟอกจิตใจอีก เหมือนการโยกและเต้นของพวกศฟู ี หรือการ ราลึกถงึ อลั ลอฮฺด้วยชื่ออย่างเดยี ว45 หรอื ห้ามตวั เองจากส่ิงทีอัลลอฮฺอนมุ ตั ิ ให้กินและด่ืม และอนื่ จากที่กลา่ วมา ยิ่งไปกวา่ น้นั จาเป็นที่เราต้องเข้า ใกลอ้ ลั ลอฮฺ ด้วยกับสิง่ ที่ปรากฏชดั จากท่านนะบี และเราจะต้องยดึ ม่นั ว่าแนวทางทีด่ ที สี่ ุดคือแนวทางของท่านเราะสูลของอัลลอฮฺ และเปน็ ไปไม่ไดท้ ี่มสุ ลิมเราจะอยบู่ นแนวทางใด แนวทางหนึ่งทีจ่ ะ ดเี ลิศไปกว่าแนวทางของท่านนะบี มหุ มั หมัด ครัน้ เมอ่ื ท่านนะบี ได้ ยินเรือ่ งของชายสามคนในหมู่เศาะหาบะฮฺ ทพี่ วกเขาพากนั ไปยังบ้านของ ภริยาท่านนะบี แล้วไต่ถามเก่ยี วกบั การอบิ าดะฮฺของท่านนะบี ครัน้ แลว้ พวกเขากม็ ีความรสู้ กึ ว่าพวกเขาทาอิบาดะฮฺน้อยเหลอื เกิน และพวกเขาก็ กลา่ วว่า “แล้วเราอยู่ในสว่ นในของทา่ นนะบลี ่ะเน่ยี ? ก็ในเมอ่ื ที่อัลลอฮฺ ทรงอภยั โทษให้ท่านนะบที ั้งในอดีตและอนาคต” 44 มสุ ลมิ บท อัลฮจั ญฺ ในเลขท่ี 1337 รายงานวา่ إذا نهيتكم عن شيء فدعوهและใน َُما نََهيتُ ُكم َعنوُ فَاجتَنِبُوه หนงั สอื ญามลุ อลุ ูมวิ ลั หิกมั หะดีษที่ 9 รายงานวา่ เช่น “อลั ลอฮฺ อลั ลอฮฺ อัลลอฮฺ” 45 คือการกลา่ วคาราลึกถงึ อลั ลอฮดฺ ว้ ยเดยี วโดด ๆ หรอื “ยา ฆอฟูร ยา ฆอฟรู ยา ฆอฟูร” อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 53
พวกเขาเลยคิดไปวา่ ทา่ นนะบี ไม่จาเปน็ ต้องทาอบิ าดะฮฺให้ มากมายก็ย่อมได้ ดว้ ยเหตุนที้ ่านเลยถอื ศลี อดแล้วละศลี อดได้ ทา่ นเลย ละหมาดแล้วกน็ อนตาหลับได้ และทา่ นเลยแต่งงานกับสตรีได้ แต่พวกเขา นน้ั จาเปน็ ต้องทุ่มเทใหห้ นกั กว่านะบี พวกเขาคนหนง่ึ เลยกล่าวว่า “ฉันจะ ละหมาดแล้วจะไมน่ อนอีก” คนท่ีสองกลา่ วว่า “สว่ นฉนั จะถอื ศลี อดแล้ว ไมล่ ะศีลอดอีก” คนที่สามกล่าวว่า “ง้ันฉนั จะไม่แต่งงานเลย” ตอ่ มาเมื่อ เรอื่ งมาถึงหูทา่ นนะบี ท่านจึงกลา่ วว่า ُْ َوأَ ُصوم، ُ َولَ ِكِنّي أَقُوُْم َوأَنَاْم، َوأَ َش ُّد ُى ْْم لَْوُ َخ ْشيَة، أَما إِِنّي أَ ْعلَ ُم ُه ْْم بِاللِْه فمن رغب عن سنتي فليس مني، َوأتزوج النساء، َوأَفْ ِطُْر ตัวฉันเนย่ี รจู้ กั อัลลอฮฺมากกวา่ พวกเขา มคี วามยาเกรงต่อพระองค์ มากกวา่ พวกเขา แต่ฉันละหมาดแลว้ ฉันกย็ ังนอน ฉนั ถือศีลอดแลว้ ฉนั ก็ ยังละศีลอด และฉนั ก็ยงั แต่งงานกับสตรี ถา้ ใครไม่ชอบใจในแบบของฉัน เขาไมใ่ ชพ่ วกของฉัน46 ฉะน้นั เปน็ ไปไม่ได้ที่บ่าวจะอย่บู นแนวทางใดดีไปกว่าแนวทางของ ท่านนะบี จึงสรปุ ไดว้ ่า ในบทบัญญัติศาสนานั้นมีหลากหลายวิธใี นการ 46 สานวนน้ยี งั ไม่พบแหลง่ อา้ งองิ ผมพบแค่สานวนที่ใกลเ้ คยี ง ปรากฏในหะดษี บุคอรี บท อนั นิกาห์ เลชที่ 4709 รายงานโดย ท่านอะนัส อิบนมิ าลิก วา่ الخ... أََما َوالَلِّو إِِّن َلَخ َشا ُكم لَِلِّو َوأَت َقا ُكم لَوُ لَ ِكِّن ความวา่ “ส่วนตัวฉันน้ี ขอสาบานต่ออัลลอฮฺว่า ฉันมีความเกรงกลัวและยาเกรง ต่ออลั ลอฮมฺ ากกวา่ พวกเขาแน่นอน แตฉ่ ัน ... จนจบหะดีษ” วัลลอฮอุ ะอฺลมั อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 54
ขัดเกลาจติ ใจ แมก้ ระท่ังการละหมาดสนุ ัต เช่น ละหมาดเราะวาตบิ ท้ัง 12 รอกอะฮตฺ ามท่ีทา่ นอิบนุอมุ ัร บอกไว้ حفظت عن رسول الله ، واثنان بعد الظهر، \" أربعْاً قبل الظهر: واثنان قبل الصبح، واثنان بعد العشاء، واثنان بعد المغرب ฉันจดจาไดจ้ ากท่านเราะสูลุลลอฮฺ วา่ ทา่ นทา 4 รอกอะฮกฺ ่อน ละหมาดซฮุ รฺ , 2 รอกกะฮฺหลังละหมาดซุฮฺร, 2 รอกอะฮหฺ ลังละหมาดมัฆ รบิ , 2 รอกอะฮหฺ ลังละหมาดอิชาอฺ และ 2 รอกอะฮกฺ ่อนละหมาดศุบหฺ47 โดยท่านเราะสลู ไดช้ ีแ้ จงถึงความประเสรฐิ ของทง้ั 12 รอกอะฮนฺ ้ใี น หะดีษที่รายงานจากทา่ นหญงิ อุมมหุ ะบบี ะฮฺ เราะฎยิ ัลลอฮุอนั ฮา ท่านหญิง กลา่ ววา่ ท่านเราะสลู ุลลอฮฺ กล่าววา่ 47 ยงั ไมพ่ บรายงานจากทา่ นอิบนุอมุ รั วา่ มีสบิ สองเราะกะอะฮฺ ซงึ่ ทพี่ บรายงานจาก ทา่ นในเศาะหหี บ์ ุคอรยี ์และมสุ ลมิ มีแค่ 10 เราะกะอะฮฺ ส่วนทผี่ มพบหะดษี ทบี่ อกถึง จานวน 12 เราะกะอะฮฺคลา้ ยกบั สานวนข้างต้น คือหะดีษที่บันทึกใน เศาะหีห์บุคอรีย์ และญามอิ ฺ อัตตริ มิซี จากทา่ นหญงิ อาอชิ ะฮฺ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา วา่ ،يِنَوَقَركبَعَلتَيالِنَفبَجعِرَد ال َمغِر ِب،الَوعََركصَعتَِر،ِن َوبََرعكَعَدتَ ايلِنعِ قََشباِءَل،أَربًَعا قَب َل اَلوَرُكظَّعهتَِري “ส่เี ราะกะอะฮฺก่อนซุฮรฺ ี, สองเราะกะอะฮฺก่อนอสั รี, สองเราะกะอะฮหฺ ลังมฆั ริบ, สองเราะกะอะฮหฺ ลงั อชิ าอฺ และสองเราะกะอะฮฺก่อนละหมาดฟะญรั (ศบุ หฺ) อสั สะละฟียะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 55
بني لو بيت، من صلى في يوم وليلة اثنى عشر سجدة سوى المكتوبة في الجنة ผู้ใดละหมาดในหนงึ่ วันและหนึง่ คืน 12 รอกอะฮฺอื่นจากทีบ่ ัญญัตใิ ช้ บ้านหลังหนึง่ ในสวรรค์จะถกู สรา้ งไว้ให้แกเ่ ขา48 คนเราเมื่อรักษาละหมาดสนุ นะฮฺเราะวาติบต่างๆ เขากจ็ ะรักษา ละหมาด 12 รอกอะฮนฺ ้ันทุกๆวันจนเป็นนิจ ปราสาทหลังหนึ่งก็จะถูกสรา้ ง ใหก้ ับเขาในสวรรค์ และท่านไมต่ อ้ งแปลกใจหรอก เพราะขนาดขึน้ ต่าที่สดุ ของสวรรคก์ ็ย่ิงกวา่ ดนุ ยาต้ัง 10 เทา่ แลว้ แลว้ ยงั มี กิยามลุ ลัยลฺ - ละหมาดยามค่าคืน เป็นละหมาดท่เี ยี่ยม ยอดท่ีสดุ รองจากละหมาดฟัรฎู แล้วไหนจะละหมาดสนุ ัตฎุหาและตะหียะ ตลุ มัสยิด และละหมาดสุนัตทั่วไปอ่ืน ๆ อีก ยกเวน้ ในเวลาทต่ี ้องห้าม ยังมถี ือศีลอดสุนัตอีก เชน่ วนั จันทร์กับวนั พฤหสั บดี, 3 วนั ขาว49 ของทกุ เดือน, 6 วนั ของเดือนเชาวาล, วนั อาเราะฟะฮฺ, วันอาชูรออฺ และ การถือศีลอดวนั เว้นวนั อย่างท่ีท่านนะบีดาวดู ได้กระทาก็เป็นการถือศีลอด ทอ่ี ลั ลอฮฺทรงรัก ทา่ นนะบี กล่าววา่ ًْ َجَع َلْ بَْينَوُْ َوبَْي َنْ النَا ِرْ ُخْن ُدقا، َْم ْْن َصا َمْ يَْوماًْ ِفي َسبِي ِلْ اللِه َك َما بَْي َْن الس َماِْء َوالَْر ِْض 48 อบูดาวดู บทอับวาบตุ ตะเตาวุอฺ(1237) มีนาสานวนคล้าย ๆ กนั ในเศาะหีห์ มสุ ลมิ เล่ม 6 หนา้ 6 49 วันขาว– اَليام البيضคือวันที่ 13, 14 และ15 ของทกุ เดือนอิสลาม อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 56
ใครกต็ ามถอื ศลี อดวนั นงึ ในหนทางของอลั ลอฮฺ พระองค์จะทรงให้มี ชอ่ งว่างระหว่างเขากับไฟนรก ดงั เช่นชอ่ งวางระหวา่ งช้นั ฟ้าและ แผน่ ดิน50 ยังมีอาสาบญั ญตั ิในเร่ืองการใหท้ าน และการบริจาคอีก อัลลอฮฺ ทรงตรสั วา่ مثَ ُْل ال ِذي َنْ يُنِفُقو َنْ أَْمَوالَُه ْْم ِفي َسبِي ِْل اللِّوْ َك َمثَِلْ َحبٍةْ أَنبَتَ ْتْ َسْب َْع َسنَابِ َْل ِفي ُك ِّلْ ُسنبُلٍَةْ ِّمئَةُْ َحبٍْة َواللّْوُ يُ َضا ِع ُفْ لَِمن يَ َشاء อุปมาบรรดาผทู้ บ่ี ริจาคทรพั ย์ของพวกเขาในหนทางของอลั ลอฮฺ อุปมัย ด่งั เมล็ดพืช ท่ีงอกข้ึนเปน็ 7 รวงและในแต่ละรวงมีอกี 100 เมล็ด และอัลลอฮฺนน้ั จะทรงเพ่มิ พูนแก่ผทู้ รงพระองคท์ รงประสงค์ (อลั บะเกาะเราะฮฺ 261) ยงั มอี าสาบัญญตั เิ ร่ืองการทาฮัจญฺ และอุมเราะฮฺว่า َْْوالْ َح ُّجْالْ َمْب ُروُرْلَْي َسْلَوُْ َجَزاءٌْإِّل،ْالْعُ ْمَرةُْإِلَىْالُْع ْمَرةَِْكفاَرةٌْلَِماْبَْينَ ُه َما ُْالْ َجنة 50 ญามอิ อัตติรมิซี เลขท่ี 1547, มุสนดั อรั รูยานี เลขที1่ 196, อลั มอุ ฺญมั อัลกะบีร ของท่านอัฎฎอบรอนี เลขท่ี 7842 อสั สะละฟียะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 57
จากอมุ เราะฮฺหน่งึ ไปยังอกี อุมเราะฮฺ จะลบลา้ งบาประหว่างมันทง้ั สอง และฮัจญทฺ ่ถี ูกตอบรับมไิ ดม้ ีผลตอบแทนอนั ใดนอกเสียจากสวรรค์51 ยังมอี าสาบัญญตั เิ รื่องการขอดุอาอฺให้แก่ท่านนะบี โดยท่านนะ บกี ลา่ ววา่ ًمن صلى عل ّيْ واحدة صلى الله عليو بها عشرْا ผูใ้ ดสรรเสรญิ ให้แกฉ่ นั หน่ึงครั้ง อัลลอฮจฺ ะทรงสรรเสรญิ เขาสบิ คร้งั 52 นัน่ คอื เมื่อทา่ นกลา่ วสรรเสริญ (กล่าวศอลาวาต) ใหแ้ ก่ท่านนะบี หนึ่งครัง้ อัลลอฮฺจะสรรเสริญทา่ นถงึ 10 ครงั้ การขอดุอาอกฺ ็เปน็ การขดั เกลาจิตใจเหมือนกนั เพราะว่า“ดุอาอฺ นั้นคอื การอบิ าดะฮฺ” อัลลอฮฺทรงตรัสวา่ َْوقَا َْل َرُبّ ُك ُمْ ا ْدعُونِي أَ ْستَ ِج ْْب لَ ُك ْمْ إِنْ ال ِذي َنْ يَ ْستَ ْكبُِرو َْن َع ْنْ ِعبَا َدتِي َْسيَ ْد ُخلُو َْن َجَهن َمْ َْدا ِخ ِري َن 51 อัลบุคอรี บทอลั อมุ เราะฮฺ เลขท่ี 1657 และมสุ ลมิ บท ฟีฟฎั ลลิ หจั ญ... เลขที2่ 411, สุนันนะสาอี เลขท่ี 2588 52 เศาะหีหม์ สุ ลมิ บทอศั เศาะลาฮฺ เลขท่ี 621, สนุ นั อะบีดาวดู เลขที่ 1310, มสุ นัด อิมามอะหฺมดั เลขที่ 8655 อสั สะละฟยี ะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 58
และพระเจา้ ของพวกเจ้าตรัสวา่ จงวิงวอนขอตอ่ ข้า ข้าจะตอบรบั แก่ พวกเจ้า ส่วนบรรดาผ้โู อหังตอ่ การเคารพภักดแี กข่ า้ นั้น จะเขา้ ไปอยู่ใน นรกอย่างตา่ ต้อย (อัลฆอฟริ 60) ยงั มีอาสาบัญญัตเิ รอ่ื งดุอาอฺอีก ทงั้ ดุอาอยฺ ามเชา้ และยามเย็น, ดุ อาอฺก่อน–หลงั รบั ประทานอาหาร, ก่อนนอน–ตน่ื นอน และดอุ าอฺอน่ื ๆ ทง้ั ทเี่ จาะจงและไมไ่ ด้เจาะจงเวลาในการกล่าว ท่านนะบี ไดก้ ลา่ ววา่ مثل الذي يذكر ربو والذي ّل يذكر كمثل الحي والميت อุปมาผู้ท่ีราลกึ ถงึ พระเจา้ ของเขาและผทู้ ี่มไิ ด้ราลกึ อปุ มัยด่งั ผู้มีชีวติ และ ผ้ไู ร้ชีวติ 53 ช่องทางทาดนี ั้นมีเยอะ และวิธจี ะใช้ชาระลา้ งจติ ใจก็หลากหลาย จงึ ไม่จาเปน็ เลยที่ต้องอตุ ริพธิ กี รรมใหม่ ๆ เพอ่ื ซักฟอกจติ วิญญาณอีก คนเรา เมือ่ มีชอ่ งทางหนึ่งจากชอ่ งทางตา่ ง ๆ ในการขดั เกลาจิตใจ ถกู เปิดให้กบั เขา (หมายถึงเขามีความสุขทจ่ี ะเดินบนทางสายน้นั ) แล้วเขาก็ พยายามอยา่ งแข็งขนั ในหนทางดงั กล่าวแลว้ เขาย่อมบรรลุสู่จดุ ประสงคท์ ่ี หวังไว้อยา่ งแนน่ อน ผใู้ ดท่ีมีอัลลอฮอฺ ยู่ในหวั ใจกเ็ สมือนกบั ว่าเขาได้คน้ พบ 53 อิบนหิ ิบบาน (2398) และอลั หากมิ (1/491) และท่านอซั ซะฮะบีกลา่ ววา่ “เศาะ หีห”์ โดยอัลบคุ อรยี บ์ ันทกึ สานวนทีค่ ลา้ ยๆกันเอาไว้ตา่ งกนั แค่ของอิมามบุคอรยี ์ บนั ทกึ วา่ والذي لا يذكر ربوซ่ึงในตัวบทข้างตน้ ไม่มี ربوดเู พ่มิ เตมิ ในเรื่องฟฎั ลซิ ิกรลิ ลาฮฺ ในหนังสอื เศาะหีห์บคุ อรีย์ อัสสะละฟียะฮฺ กฎหลักและรากฐาน 59
ทุกส่ิง และผ้ใู ดปลอ่ ยเลยไมข่ วนขวายจะร้จู กั อัลลอฮเฺ ขากย็ ่อมพลาดจากทุก สิ่งอยา่ งแน่นอน และน่ีคอื วธิ ใี นการซักฟอกจติ ใจของอะฮฺลุซสนุ นะฮวฺ ัลญะ มาอะฮฺ และอะฮลฺ ุซสุนนะฮจฺ ะซักฟอกจิตใจกเ็ พ่ือใหเ้ กดิ ความสมบรู ณใ์ น การเป็นบา่ วของอัลลอฮฺ นเ่ี ปน็ เพยี งส่วนย่อของ “รากฐานความรู้สู่การเรียกร้องไปสู่ แนวทางสะลัฟ(ดะอฺวะฮฺสะละฟียะฮฺ)” ดังกล่าวคือเน้อื หาพอสงั เขป เก่ยี วกับความเป็นสะละฟี เราจึงขอให้อัลลอฮโฺ ปรดทรงชี้นาเราและท่านให้ ได้เขา้ ใจในเนือ้ หา และนาไปสกู่ ารปฏบิ ัติ และขออัลลอฮใฺ ห้ทรงรวมเราไว้ บนสัจธรรมเสมอื นกบั ท่ีไดน้ าเรามารวมกนั ไวใ้ นทแ่ี ห่งนี้ และขอพระองค์ โปรดทรงนาเราไปรวมกันยงั บ่อนา้ ของท่านนะบีมหุ ัมหมัด ดงั ทเ่ี รา ศรทั ธาโดยไมเ่ คยแมจ้ ะเหน็ และขอให้เราได้ดม่ื นา้ จากมืออันละมุนของ ทา่ นนะบี ซงึ่ เป็นการดื่มที่สดชื่นและจะไมก่ ระหายอีกต่อไป أقول قولي ىذا وأستغفر الله لي ولكم أستغفرك وأتوب إليك، أشهد أن لا إلو إلا أنت،سبحانك اللهم وبحمدك وصلى الله وسلم وبارك على محمد وآلو وصحبو อัสสะละฟียะฮฺ กฎหลกั และรากฐาน 60
Search