Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิเคราะห์หลักฐาน เรื่อง ละหมาดตัสเบี๊ยะและละหมาดฮาญัต | อ ปราโมทย์ ศรีอุทัย

วิเคราะห์หลักฐาน เรื่อง ละหมาดตัสเบี๊ยะและละหมาดฮาญัต | อ ปราโมทย์ ศรีอุทัย

Published by Ismail Rao, 2021-01-14 11:16:28

Description: วิเคราะห์หลักฐาน เรื่อง ละหมาดตัสเบี๊ยะและละหมาดฮาญัต
อ ปราโมทย์ ศรีอุทัย

Search

Read the Text Version

นมาซตัสเบีย๊ ะห์ อ ปราโมทย์ ศรอี ทุ ยั นมาซตสั เบี๊ยะหเ์ ป็นนมาซสุนตั ชนิดหน่ึงที่มีรูปแบบปฏิบตั ิแตกต่างไปจากนมาซโดยทวั่ ๆไป ... และหะดีษเก่ียวกบั นมาซตสั เบี๊ยะหก์ เ็ ป็นหะดีษท่ีค่อนขา้ งมีปัญหาในดา้ นสายรายงาน ... ดว้ ยเหตุน้ี บรรดานกั วิชาการจึงมีทศั นะขดั แยง้ กนั อยา่ งมากเกี่ยวกบั ความน่าเช่ือถือของหะดีษ เร่ืองนมาซตสั เบ๊ียะห์ ... ท่านอิบนุล้ ญูซีย์ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 597) กล่าววา่ หะดีษเร่ืองนมาซตัสเบ๊ียะห์ เป็ นหะดีษเมาฎ๊วั ะอฺ หรือหะดีษท่ีถูกกขุ ้ึนมา .. (จากหนงั สือ “ُ‫ ”ُحْتَفةُحُاْلأَ ْحَوِذ ْى‬เล่มท่ี 2 หนา้ 596) ... ท่านอิหม่ามนะวะวีย์ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 676) ไดก้ ล่าวในหนงั สือ “‫ ”اَلْ َم ْج حمْو حُع‬เล่มท่ี 4 หนา้ 55 ว่า ท่านอลั -อุกอ็ ยลีย,์ ท่านอิบนุลอะรอบีย์ และนกั วชิ าการอ่ืนๆกล่าววา่ ไม่มีหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์และหะดีษ หะซันเลยในเร่ืองนมาซตสั เบ๊ียะห์ .. (คือเป็นหะดีษเฎาะอีฟท้งั หมด) ... แต่ตวั ท่านอิหม่ามนะวะวยี เ์ อง กลบั ลงั เลและสับสนในเร่ืองน้ี โดยท่านกล่าวในหนงั สือดงั กล่าว หนา้ 5 สอดคลอ้ งกบั คากล่าวของนกั วชิ าการขา้ งตน้ วา่ หะดีษเรื่องนมาซตสั เบ๊ียะห์ เป็นหะดีษเฎาะอีฟ ... แต่ขณะเดียวกันท่านกลับกล่าวในหนังสื อ “‫ ”تَ ْه ِذْي حُبُاْلَأْْسآُِءَُوالُلّغَا ُِت‬ว่า หะดีษเรื่อง นมาซตัสเบย๊ี ะห์ เป็ นหะดีษหะซัน, .. และในหนงั สือ “‫ ”اَلأَذَْكاحُر‬ของท่าน หนา้ 168-169 กโ็ นม้ เอียงไป ในดา้ นการยอมรับความหะซนั ของนมาซตสั เบี๊ยะห์น้ี ... เช่นเดียวกบั ท่านอิบนุหะญรั ฺ อลั -อสั เกาะลานีย์ (สิ้นชีวติ ปี ฮ.ศ. 852) ท่ีกล่าวในหนงั สือ “ُ‫تَْل ِخْي حص‬ ‫”اْْلَبُِِْي‬ เล่มท่ี 2 หนา้ 7 ว่า สายรายงานของหะดีษเร่ือนมาซตัสเบี๊ยะห์ท้ังหมด เป็ นสายรายงานที่เฎาะ อฟี ... แต่ท่านผูน้ ้ีกลบั กล่าวในลกั ษณะ “โน้มเอยี ง” ในดา้ นการยอมรับหะดีษเรื่องนมาซตสั เบ๊ียะห์ใน ‫ُح‬หปُ‫ู ِِح‬นร‫ีببِِْْيي‬ย‫اا‬งั ‫์ََصص‬ส(ใื‫مم‬อََนทْْ‫ُُ่“االل‬าหُ‫ِةُُثِر‬นِ‫اا‬น‫ََكك‬เْ‫ي‬ชัง‫็َْشفِْد‬คส‫مَحلاأ‬อِืْอ‫أَُ”ا‬ะُ‫ُحج‬ห‫ُن‬เ“ِْ‫ئ‬ล‫ىُا‬ม์‫่تََْع‬มَ”‫ن‬ดั ‫ِ”ذ‬ท‫و‬วَมแ่ี่‫ح‬า1ْุหลหَ‫أ‬หะมั‫ل‬ะหْ‫ا‬นมُด‫ح‬นُ‫ة‬าด้ั ษี‫َف‬งชั4‫ْت‬เส‫ُح‬ร1า”กื่ื9ออ)ิเรงล“ฺน‫ةُ(ح‬ก่ม‫ر‬ใَมล‫ِف‬นท‫ك‬าَ่า่ีหซว2‫حم‬นสตْ‫ل‬ห‫ُا‬งัสอั ُ‫ل‬สน‫ح‬ดเบ‫ืا‬อ้าค‫๊ีَص‬ยล6“ะِ‫ُحْل‬อ‫้ح‬0ْหَ‫ا‬1ง‫ح ์”ْي‬ก)เِป.น.ั‫็ّص‬.َนแวแ‫ل‬หล่า‫ُا‬ละะ‫حُع‬ภะดท‫ِم‬าก‫ا‬ษีพَ่า‫ل‬ลْْหนรَ่า‫”ا‬ะววอซมเอลัลยัขน-่มา่ออลทงัลงฆิ ่ี“หบ2อ็ชะายัดหนดรเนจีษีิยฮนา้ี์เ(ร..”3ใื่.อ5นใง2นหน)ห,มนนทาังซงสั่าสนตือือมัส“ุบเ“ُบُาُ‫ี๊حةق‬ยَร‫ِْيوب‬ะ็อ‫تْجِق‬หْกََُ‫์أ‬ ถือเป็ นหะดีษหะซัน ... -1-

ท่านอบูบกั รฺ อลั -อาญิรีย,์ ท่านอบูมุหัมมดั อบั ดุรฺ รอหีม อลั -มิศรีย,์ ท่านอบุลหะซัน อลั -มุก็ อดดิซียถ์ ือว่า หะดีษเร่ืองนมาซตัสเบ๊ียะห์ เป็ นหะดีษเศาะเห๊ียะฮ์ .. ดงั คากล่าวของท่านอลั -มุนซิรีย์ .. (จากหนงั สือ “ُ‫ ”ُحْتَفةُحُاْلأَ ْحَوِذ ْى‬เล่มที่ 2 หนา้ 598) ... ก่อนที่จะวิเคราะห์ขอ้ เทจ็ จริงของความขดั แยง้ ขา้ งตน้ กจ็ ะใหท้ ่านผอู้ ่านไดร้ ับทราบเน้ือหาของ หะดีษเรื่องนมาซตสั เบ๊ียะห์ดงั ต่อไปน้ี ... มีรายงานว่า ท่านศาสดามุหมั มดั ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั ไดก้ ล่าวแก่ลุงของท่าน คือท่าน อบั บาส บินอบั ดุลมุฏฏอลิบ ร.ฎ. วา่ ... ُُُ‫ُلُِنْْحلهَُُقبََُاإٍََُِارُحَُُثئُُُِِّنَُُكُم‬،ُ‫ََْصَُُشوَذ‬،‫ُحاجكَُُِْلَرَحَُُُدعُلُكَُحأََُُُُُعحلكََُْانَُعُوأفََُُِلُُنْتََتحٍُْكُشتحقُرَا‬،‫َُذرُلُكُتةَُُُلَُُُِوْ)ُأفََِِرنخْْ)حََكعَُْفُثُكَّعََُُُُْلصأتٍَََُُةاَُْغُرُبفٍَََْفسقَحلرِاِفَُعْلر‬،َُّ‫َُفَُُُْمفَعَتَِحُلُِإْلَِرعُُْفحقََْعنُُكَُْذْوشَألَََُُُُِْحلّشرَاَوَُُلمْاَحِر‬،‫ُذَْحءُعَفحهحالَُعحُِةُافَع‬،ُ‫َُِقْنِّحقُرُْريََََُكإةُرِتاَْتَو‬،َ‫لِْتتفَََام‬،‫ُحََُحعُُِرمْجْكَََُصْولَُعُكََعنُاحٍََُُُةعُثٍةٍُّفَفاَُلُل‬،‫رََُةُُرْحُعُشُحَُْغُكُلَُُْحرُكَُمََُُِِرألُّْتَِسُرَُلَةَُُُِّْفرَُخُسُه‬،ُ‫وْفَُوَُحُكِإَثُفََّبَُُِنُكَعُْيذَِففَاُُتََِإرُِْْْشهحََُعرفَُْفَْفَُُن‬،ُ‫عهُحْبّرُُُُةعحَْبُُلَُِس‬،َُ‫َحل‬،‫حَُخلُْألََُُاُْْنُكََُُولُسَبََُُسةَُعَححُلسأُْرنَََصُُْفٍُُْةوْغَِتشََوَْيَُرعَْةٍرفاَخََْمسر‬،‫متَتََاُْكُاوُلَحقدَُُُلححكْكُهحفَِوََُُُبُِِإأ‬،َُْ‫َُُُِلطاُإٍَُِةُلُْيْلَُُحَُُُيثَُُّهَبتََِعَََُُْوخفُكْتإٍفَُِماُْشَعأطَََُُُِْلسّراأفتَََُُْلالُُهُحَِةُاحُفجْفَُُُلفأَاَََُحلَعحُدوذلِْفلَُُِْعحْلَْفِكَبحو‬،‫كعهحُنُُلَحُلَِع‬،‫ُألُِكَََِعَحُِِّفَُِلُلُْلِتفََُْدشفَُيُُُْحِإُقاَراحثوََرْْحْْوك‬،ُُُ‫لَركُُْيفَْنُلُُِقَُُُُُحُعفرَُأتححقَََعُتَوُاََِّدِرْحمقأَْصْْاْلْفُيَلَِوَُهُحيُسَْهَُحمحملَ!ََُّاحرهحُُُدةََُاوك‬،ََْ‫بطَََُُّعاْوَعحآاَُراأْححَُِسثَُخٍَّنََُُسُتَُ!ُرُتُهَحُأاَت‬،َُ‫اأَتََََُُعُّيْوْْشسلَُرُفتَحَسرهاَُحرْبَعَحكُع‬:َ(‫أَ(ْربَع‬ ُُُُُُُ“ลุงจ๋า! น้ีแน่ะ ฉนั จะมอบใหล้ ุง 10 ประการ .. เมื่อลุงปฏิบตั ิมนั พระองคอ์ ลั ลอฮ์ ซ.บ. กจ็ ะทรง อภยั โทษใหล้ ุงในบาปของลุง ท้งั ตอนเร่ิมต้นและตอนสุดท้ายของมนั , ท้งั ใหม่และท้งั เก่าของมัน, ท้ัง ทผี่ ิดพลาดและทเี่ จตนาของมัน, ท้งั เลก็ และท้ังใหญ่ของมนั , ท้งั ทีล่ บั และท่ีแจ้งของมัน .. (นี่แหละคือ การอภัยโทษ) 10 ประการ (ที่ฉันกล่าวไว้ .. และวิธีการท่ีจะให้ ได้มาซ่ึงการอภัยโทษ 10 ประการ ดังกล่าวกค็ ือ) ใหล้ ุงนมาซ 4 ร็อกอะฮ์ ในทุกๆร็อกอะฮใ์ หอ้ ่านฟาติหะฮแ์ ละอ่านซูเราะฮ์ เม่ือลุงอ่านซู เราะฮ์เสร็จในร็อกอะฮ์แรกแลว้ ก็ให้กล่าวในขณะกาลงั ยืนตรง (ก่อนรุกั๊วะอฺ) ว่า “ซุบหาน้ัลลออ์, วัลหัมดุลลิ ลาฮ์, วะลาอลิ าฮะอลิ ล้ลั ลอฮ์, วลั ลอฮุ อกั บัรฺ” 15 คร้ัง, ต่อมาให้ลุงกม้ รุกว๊ั ะอฺและใหก้ ล่าว อยา่ งน้นั ในขณะรุกว๊ั ะอฺ 10 คร้ัง, ต่อมา ใหเ้ งยศรี ษะข้ึนและกล่าวมนั ขณะยนื ตรง (เอ๊ียะอฺติดาล) อีก 10 คร้ัง, ต่อมากใ็ หล้ งสุญูด (คร้ังแรก) และใหก้ ล่าวมนั (ในขณะสุญูด) 10 คร้ัง, ต่อมาใหเ้ งยศีรษะข้ึนจาก สุญูดและใหอ้ ่านมนั (ขณะนงั่ พกั ระหว่างสองสุญูด) 10 คร้ัง, ต่อมากใ็ หล้ งสุญูด (คร้ังท่ีสอง) และให้ อ่านมนั (ขณะกาลงั สุญูด) อีก 10 คร้ัง, ต่อมากใ็ หเ้ งยข้ึนจากสุญูด (ข้ึนมานง่ั ก่อนลุกข้ึนยนื ทาร็อกอะฮ์ ท่ีสอง) และใหอ้ ่านมนั (ขณะนง่ั ) อีก 10 คร้ัง, รวมแล้วเป็ น 75 คร้ังในแต่ละร็อกอะฮ์, .. ใหล้ ุงทาอยา่ ง น้นั ใน 4 ร็อกอะฮ์ .. หากลุงมีความสามารถ ก็ให้ลุงกระทามนั ทุกๆวนั , หากไม่สามารถ ก็ให้ทามนั -2-

สัปดาห์ละคร้ัง, หากไม่สามารถ กใ็ หท้ ามนั เดือนละคร้ัง, หากไม่สามารถ ก็ให้ทามนั ปี ละคร้ัง, และ หากไม่สามารถอีก กใ็ หล้ ุงทามนั สกั 1 คร้ังในชว่ั ชีวติ ลุงกไ็ ด”้ (บนั ทึกโดย ท่านอบูดาวูด หะดีษท่ี 1297, ท่านอิบนุมาญะฮ์ หะดีษท่ี 1387, ท่านอิบนุคุซัย มะฮ์ หะดีษที่ 1216, และท่านอลั -หากิม ในหนงั สือ “‫ ”اَلْ حم ْستَ ْدَرحُك‬เล่มที่ 1 หน้า 463 โดยรายงานมา จากท่านอิบนุอบั บาส ร.ฎ.) ... อธิบาย-วเิ คราะห์ ความจริง หะดีษเรื่องนมาซตสั เบี๊ยะห์น้ี มีรายงานมาหลายกระแสจากเศาะหาบะฮ์จานวน 10 ท่าน .. ดงั จะไดก้ ล่าวต่อไป ... นักวิชาการหะดีษได้ตรวจสอบดูแลว้ ปรากฏว่า ทุกๆกระแสของมนั ไม่มีกระแสใดเลยท่ีจะ ถูกต้องสมบูรณ์ในตัวเอง, ทวา่ , แต่ละกระแสลว้ นมีขอ้ บกพร่องดว้ ยกนั ท้งั สิ้น แต่กระแสขา้ งตน้ น้ี ซ่ึงเป็นสานวนจากการบนั ทึกของท่านอบูดาวดู ถือเป็ นกระแสรายงานท่ีดี ทส่ี ุดของหะดษี เกยี่ วกบั เร่ืองนี้ โดยมีสายรายงานดงั ต่อไปน้ี ... 1. ท่านอบั ดุรฺเราะห์มาน บินบุชร์ บินอลั -หะกมั อนั -นยั ซาบูรีย์ 2. ท่านมูซา บิน อบั ดุลอะซีซ 3. ท่านอลั -หะกมั บิน อะบาน 4. ท่านอิกริมะฮ์ 5. ท่านอบั ดุลลอฮ์ อิบนุอบั บาส ร.ฎ. 6. ท่านรอซูล้ ุลลอฮ์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั ท่านอลั -มุนซิรีย์ ไดก้ ล่าวในหนงั สือ “‫ ”اَلَتّْرِغْي حُبَُوالَتّْرِهْي حُب‬ของท่านวา่ ... ُ‫يُُْ ُِث‬،‫َُذلَاْياْْلََُسِدُيِْْفُُُِثُإَِصلُْساَنَةُاُُِدالَُأتَّ ْْحسبِْيَسُِححُنُُِمَحْنُِدُيَْه َثُذاَُُُصيَْعِحِْيُْنُحُإُِْسَغنَْياحرَُُدَُُُهَحَذاِد‬:‫ُُُحَُُُلَُُُأَُيحُِْرْبَُُوُُيَُىُحقُِْوْحُفُلَُُه‬:‫ُاَُُُْلَُُِسُُْع‬:‫َُوِعُقَاُْكَُُِلرَُمُ(ةَُحم(َُْوسَعقَلِاِنُحُمَُُلُابُْبْأَبححُنِنُُُُْواَُْعبََْبلَّاْكَّجُِرٍاسُُِبْ)ُج)ُحُنَُرُُِِأَُِحَُُْبهُحُُُُاَدُلاُُلححوَُُُدتََُُُع‬ “ท่านอบูบกั รฺ บุตรชายของท่านอบูดาวูดกล่าวว่า ฉันได้ยินบิดาของฉันกล่าวว่า : ในเรื่อง นมาซตสั เบี๊ยะห์น้ัน ไม่มีหะดีษใดท่ีถูกต้องนอกจากบทนี้เพียงบทเดียว, .. และท่านมุสลิม บินอลั - หัจญาจญ์ (เจ้าของหะดีษเศาะเห๊ี ยะฮ์มุสลิม) กล่าวว่า :ไม่ปรากฏมีสายรายงานใดในหะดีษ (นมาซตสั เบย๊ี ะห์) นี้ ทจี่ ะสวยงามยง่ิ ไปกว่าสายรายงานนีอ้ กี แล้ว (ท่านหมายถึงการรายงานของท่านอิก ริมะฮ์ จากท่านอิบนุอบั บาส ร.ฎ. ดงั ขา้ งตน้ )” -3-

(จากหนงั สือ “ُ‫ ”ُحْتَفُةحُاْلأَ ْحَوِذ ْى‬เล่มท่ี 2 หนา้ 598) วา่ ... ท่านอิบนุหะญรั ฺ อลั -อสั เกาะลานีย์ ไดก้ ล่าวในหนงั สือ “‫”اَْْلِ َصا حلُُالْ حم َكِفِرةُح‬ ُ‫َُُوفَحمَْهوَذَسااْلَِإُبْْسحنَنُاُحدَُعُْبِمِدُُُْناُلْ َعَشِزْيْرُِزُِطُُقَا َُل‬:ُُ،‫ُُُُُُقََوااَُْْللَُاَكبْحمُحنُُُالَْصَمحدُ ِْدويٌُِِْن‬،،ُ‫)ُُُِعَُُُْوكُقَاُِرَمَُُلُةحُُُُاإِلَُُنُّْحُتََسُاَُّئُجُُُُِّبَُُُِِهَُُُاُْنلَُْبحُوَُُُخُذَالُِِرَُُُّكى‬،!)‫نَهُاُحُِدلَُُِهَُشُأََواَرلَُِهُىَََدُُبْبُِتِحُهَسَُُقََُِِبوِْيْبُِِهْسمُا‬:َ‫َُجُاحمُحعِفَلُِْإُإٍَِيُُّنُُْسل‬،‫افُِْْيُْلُِهَُُ(اَسبْ( ِنِرحُن‬ “บรรดาผรู้ ายงานของสายรายงานหะดีษบทน้ี ไม่มีปัญหา! ท่านอกิ ริมะฮ์ ไดร้ ับการยอมรับจาก ท่านบุคอรีย,์ ท่านอลั -หะกมั กพ็ อจะเชื่อถือได,้ ท่านมูซา บิน อบั ดุลอะซีซ ถูกท่านยะห์ยา บินมุอีนก ล่าววจิ ารณ์วา่ ฉนั เห็นวา่ เขาไม่มีปัญหาใดๆ และท่านอนั -นะซาอียก์ ก็ ล่าวในลกั ษณะเดียวกนั , ท่านอะ ลีย์ บินอลั -มะดีนียก์ ล่าว(วจิ ารณ์) ว่า : สายรายงานนี้ เป็ นหน่ึงจากเงื่อนไขของหะดีษหะซัน เนื่องจาก มนั มีหลกั ฐานยนื ยนั มากมายท่ีช่วยสนบั สนุนใหม้ นั มีน้าหนกั มากยงิ่ ข้ึน” (จากหนงั สือ “ُ‫ ”ُحْتَفةُحُاْلأَ ْحَوِذ ْى‬เล่มที่ 2 หนา้ 599) นี่คือ มุมมองของนกั วชิ าการผมู้ ีช่ือเสียงหลายท่านเก่ียวกบั สายรายงานของหะดีษขา้ งตน้ ... แต่ข้อเท็จจริงตามหลักวิชาการแล้ว สายรายงานของหะดีษบทนี้ ไม่อาจเรียกได้ว่า เป็ นสาย รายงานทเี่ ศาะเหย๊ี ะฮ์ หรือสายรายงานทหี่ ะซันได้เลย ... ท้ังน้ี เพราะผูร้ ายงานลาดับที่ 2 คือท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ (สิ้นชีวิตปี ฮ.ศ. 175) และ ผรู้ ายงานลาดบั ท่ี 3 คือท่านอลั -หะกมั บินอะบาน (สิ้นชีวติ ปี ฮ.ศ. 154) น้นั แมท้ ้งั 2 ท่านน้นั จะเป็นผทู้ ่ี พُ‫ ِظ‬อ‫لِْف‬จْْะ‫)ا‬เ,ช(โแื่อปลถระือดทได่ดานูห้ (อนٌُลังั‫ْو‬-ส‫حد‬หือ‫َص‬ะ“ก)‫ُب‬มัِแกْ‫ي‬ต‫ِذ‬ย็ ่ทง‫ْัه‬ถّ่า‫لَت‬นูก‫ُا‬วُ‫ب‬ม‫ح‬จิ ูซาْ‫ِري‬าร‫ْق‬กณَ‫็”ت‬ย์วงั า่เถลมูก่มีควทวิจี่ า2ามรหผณดิน์วพา้่าล2มา8ีคด5ว-(2า‫ُم‬8ม‫ها‬6َบ‫و‬,َْ‫أ‬ก)แพอลรยะ่บอู่เลงา้ ่มงใทน..ี่.ด1า้ นหคนวา้ า1ม9ท0)รง..จ. า (ُ‫َس َُِءح‬ ผูร้ ายงานที่มีความบกพร่องดา้ นความทรงจาและความผิดพลาด มิใช่คุณสมบตั ิของผูร้ ายงาน ของหะดีษเศาะเห๊ียะฮห์ รือหะดีษหะซนั ... เพียงแต่อาจจะพูดไดว้ ่า สายรายงานหะดีษขา้ งตน้ มีคุณสมบตั ิ “ใกล้เคยี ง” สายรายงานของหะ ดีษหะซนั มากที่สุด .. เท่าน้นั ... ท้งั น้ี เนื่องจากความบกพร่องในดา้ นความทรงจาหรือความผดิ พลาดอยบู่ า้ ง ตามหลกั วิชาการ หะดีษถือว่าเป็นขอ้ บกพร่องเพียงเลก็ นอ้ ย ซ่ึงอาจจะไดร้ ับการเสริมและสนบั สนุนจากรายงานอ่ืนใหม้ ี น้าหนกั น่าเชื่อถือข้ึนมาได้ ... และตามขอ้ เท็จจริงดังได้กล่าวมาแล้วก็คือ หะดีษบทนี้ได้รับการสนับสนุน! เพราะมีการ รายงานมาโดยเศาะหาบะฮอ์ ื่นๆรวมท้งั หมดเป็น 10 ท่าน – ดว้ ยสายรายงานท่ีต่อเนื่อง – ดงั ต่อไปน้ี ... -4-

1. รายงานมาจากท่านอบั ดุลลอฮ์ อบิ นุอบั บาส ร.ฎ. ดงั การบนั ทึกขา้ งตน้ ... 2. รายงานมาจากท่านอลั -ฟัฏล์ อบิ นุอบั บาส ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอบู นุอยั ม์ อลั -อศั บะฮานียใ์ น หนงั สือ “ُ‫ )”قحْرََب حُنُالْ حمَتِّقْ َي‬... 3. รายงานมาจากท่านอบั ดุลลอฮ์ บินอมั รฺ บินอลั -อาศ ร.ฎ. (บนั ทึกโดย ท่านอบูดาวูด หะดีษที่ 1298, และท่านอิบนุชาฮีน ในหนงั สือ “‫ )”اَلَتّْرِغْي حُب‬... 4. รายงานมาจากท่านอบูรอเฟี๊ ยะอฺ ร.ฎ. คนรับใชข้ องท่านรอซู้ลุลลอฮ์ ศ็อลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิ วะซลั ลมั (บนั ทึกโดยท่านอตั -ติรฺมีซีย์ หะดีษที่ 482, และท่านอิบนุมาญะฮ์ หะดีษท่ี 1386) ... 5. รายงานมาจากท่านอบิ นุอมุ ัรฺ ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอลั -หากิมในหนงั สือ “ُ‫ ”اَلْ حم ْستَ ْدَرحك‬เล่มที่ 4 หนา้ 464) ... 6. รายงานมาจากท่านอลั -อบั บาส ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอบูนุอยั ม์ อลั -อศั บะฮานียใ์ นหนงั สือ “ُ‫ ))”قحْرََب حنُُالْ حمَتِّقْ َي‬... 7. รายงานมาจากท่านอะลยี ์ อบิ นุอบีย์ฏอลบิ ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอดั -ดารุกฏุ นีย)์ ... 8. รายงานมาจากท่านญะอฺฟัรฺ อิบนุอบีย์ฏอลิบ ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอิบรอฮีม บินอะห์มดั บินญะอฺฟัรฺ อลั -ฆอ็ รฺกีย์ ในหนงั สือ “‫ )”اَلَْفَوائِحُد‬... 9. รายงานมาจากท่านอบั ดุลลอฮ์ บินญะอฟฺ ัรฺ ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอดั -ดารุกฏุ นีย)์ ... 10. รายงานมาจากท่านอุมมุ สะละมะฮ์ ร.ฎ. (บนั ทึกโดยท่านอบูนุอยั ม์ อลั -อศั บะฮานียใ์ น หนงั สือ “ُ‫ )”قحْرََب حنُُالْ حمَتِّقْ َي‬... นอกจากน้ี หะดีษเรื่องการนมาซตสั เบ๊ียะห์ ยงั ถูกรายงานมา “ด้วยสายรายงานทมี่ ุรฺซัล” จากตา “ُ‫َُْتِقْي حق‬ บิอีนอีกหลายท่าน ดงั การบนั ทึกของท่านอิบนุหะญรั ฺ อลั -อสั เกาะลานียใ์ นตอนทา้ ยของหนงั สือ ُ‫”ِم ْش َكاُِةُالْ َم َصابِْي ِح‬ เล่มที่ 2 หนา้ 1782 ... (หะดีษมุรฺซลั คือหะดีษซ่ึงตาบิอีนผรู้ ายงาน มิไดร้ ะบุนามเศาะหาบะฮท์ ี่เป็นคนกลางระหว่างตวั เขากบั ท่านรอซูล้ ฯ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั ไวด้ ว้ ย) ... ท่านอิบนุหะญรั ฺ อลั -อสั เกาะลานีย์ ไดก้ ล่าวในการตอบปัญหาหะดีษเร่ืองการนมาซตสั เบี๊ยะห์ ُใُนُُห)น)ُ‫حم‬งั َ‫ل‬ส‫أืَ ْع‬อُ‫ُيح”َقََُّوْتَقىْيُحِقُِبَُاِمُالْش َطَّكِرُياُْةِحُقُاُلاْْلَمأحْوَصَالُبُِْيَوُِحال“ُلح‬เ‫ُْت‬ลِّ่ม‫ُاَل‬ท‫رقِีُِ่ه‬2‫طحح‬หُُ‫رِة‬นَْ‫ث‬า้‫ َك‬1ِ‫ُل‬7‫ُِن‬8‫َس‬2َ‫ل‬วْْา่‫ةُُا‬.ِ.‫َج‬. ‫((َواْْلَ ُّقُُأََنّهُحُِْفَُُدَر‬ “และที่ถูกตอ้ งกค็ ือ มนั (หะดีษเร่ืองนมาซตสั เบ๊ียะห์) อยู่ในระดับหะดีษหะซัน อนั เนื่องมาจาก มนั มีกระแสรายงานมาจานวนมาก ซ่ึงทาใหก้ ระแสแรกของมนั (คือกระแสของท่านอิบนุอบั บาส ร.ฎ. ขา้ งตน้ ) มีน้าหนกั แขง็ แรงข้ึนมาได”้ ... -5-

ท่านอะห์มดั มุหัมมดั ชากิรฺ นกั วิชาการหะดีษชาวอินเดีย ไดก้ ล่าวในหนงั สือ “ُ‫”اَْْلَاِم حعُُال َّص ِحْي حح‬ ซ่ึงเป็นหนงั สืออธิบายหะดีษของท่านอตั -ติรฺมีซีย์ เล่มท่ี 2 หนา้ 352 วา่ ... ُُ))‫َُُوِمنْهُحُيَظَْهحُرُأََُنُّهحُ َح ِديْثُُ َح َس ُن‬،‫ُُُُ((َوقَُْدُبََيَّنّاُ َحاَلُُالُّرَواةُُِِْفُُإِ ْسنَاُِدُ َه َذااْْلَ ِديْ ِث‬ “และแน่นอน เราได้อธิบายให้ทราบแลว้ ถึงสถานภาพผูร้ ายงานของสายรายงานหะดีษน้ี (หมายถึงหะดีษนมาซตสั เบี๊ยะห์ดังการบันทึกของท่านอตั -ติรฺ มีซีย์ หมายเลข 482) .. และจากการ อธิบายน้นั ทาใหเ้ ป็นท่ีชดั เจนวา่ หะดีษนี้ เป็ นหะดีษหะซัน” ท่านมุบาร็อกปูรีย์ นักวิชาการหะดีษชาวอินเดียอีกท่านหน่ึง ได้กล่ าวใน ห นังสื อ “ُ‫ُحْتَقُةح‬ ُ‫ ”اْلأَ ْحَوِذ ْى‬เล่มที่ 2 หนา้ 601 วา่ ... ُ‫َُمُْوُ(حض(ْوَوقَعُُْدُ؟َُُوُقََوَاعُلُاظَاْختِِهلحُراَُ ِعحْنُفُُِدأَْهْىُُِلُأََُنّاهُلحُْعِْلُلَُِمُُيَِْنُْفَُحأَ َُُّّنطُُُ َعَحْنُِديَُْدََرُثَُجُِةَصُالْاَْلَُِةَُسالَتُِّن)ْس)بُِْيُُُِحَُُُهُُُْلُُُحهَُُوَُُُُُصُُِحُْيحُُأَُْمُ َح َس ُنُأَُْمُ َضعِْيفُُأَُْم‬ “นกั วิชาการมีความเห็นขดั แยง้ กนั ในประเด็นท่ีว่า หะดีษเรื่องนมาซตสั เบี๊ยะห์น้นั เป็ นหะดีษ เศาะเห๊ียะฮ์, หรือหะดีษหะซัน, หรือหะดีษเฎาะอีฟ, หรือหะดีษเมาฎว๊ั ะอฺ ? ซ่ึงตามรูปการณ์ท่ีปรากฏ สาหรับฉนั กค็ ือ สถานภาพของมนั ไม่ลดต่าไปกว่าหะดีษหะซัน (คือ อยา่ งนอ้ ยตอ้ งเป็นหะดีษหะซนั )” ... และท่านอลั -อลั บานีย์ นักวิชาการหะดีษผูม้ ีช่ือเสียงเป็ นที่ยอมรับกนั มากท่ีสุดในปัจจุบนั ได้ กล่าวในหนงั สือ “ُ‫ ”َُْتِقْي حُقُِم ْش َكاُةُِالْ َم َصابِْي ِح‬ของท่านเล่มที่ 1 หนา้ 419 วา่ ُُ‫ِهَُُدَُُوكَِكلثِاْيََُحرهَةُاُُيَُْقَضطَعِيْحُعُالْفَُُواِمقِ ُْنحُفُقُِبََِعلُلَُْياَْهْالُِْفَِبَُِظَُّنَُُلوِأَْل َشَحاَِرُديُْاِْْلثَُاُأَكِحمُْصُلحَُاثُُُّأُاَل َِّصذْيَهلُِاُُّب‬،‫ُلُِْلُثََنَحاِدُايْْْلَُِثَُك حمُطحُحربْقاحنَُُُأوََََبشََونا‬،ُ‫َُسََُوحُهبَُْوحُنَُُحَعْبقُُِد!ُُاُلَُْعفَِزِإيْ َِزّن‬،‫إَُُِلُ(ُ(تَفِْْيقِهُِويَُتِحمِهْو‬ ُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُ))............... “ในสายรายงานของหะดีษบทน้ี มีช่ือท่านมูซา บิน อับดุลอะซีซ ซ่ึงรายงานมาจากท่านอัล- หะกัม บินอะบาน ท้ังสองท่านน้ี เฎาะอีฟในด้านคงามทรงจา, ท่านอลั หากิมได้บ่งช้ีในหนังสือ “‫( ”اَلْ حم ْستَ ْدَرحُك‬เล่มท่ี 1 หนา้ 463), รวมท้งั ท่านอษั -ษะฮะบียด์ ว้ ยวา่ (หะดีษเรื่องนมาซตสั เบ๊ียะห์จากการ รายงานของท่านอิบนุอบั บาส ร.ฎ.) เป็นหะดีษท่ีมีน้าหนกั เพราะไดร้ ับการสนบั สนุนจากกระแสอื่น, น่ี คือ ความถูกต้อง! .. เพราะหะดีษเรื่องน้ี มีรายงานมาเป็ นจานวนมากมายหลายกระแส และยงั มี หลกั ฐานยนื ยนั (‫ ) َشا ِه ُد‬อีกจานวนมาก ซ่ึงผูท้ ี่ไดป้ ระสบพบเห็นมนั ยอ่ มจะฟันธงไดเ้ ลยวา่ หะดีษน้ีมี พ้นื ฐานและท่ีมาที่ไป ..................” -6-

สรุปแลว้ หะดีษเรื่องการนมาซตสั เบี๊ยะห์ – ตามทศั นะของผม – ถือว่า เป็ น “หะดีษหะซัน ลฆิ อ็ ยริฮี” คือเป็นหะดีษที่สวยงามเพราะไดร้ ับการสนบั สนุนจากหะดีษกระแสอ่ืนๆอีกจานวนมาก ดงั ขอ้ มูลที่ไดน้ าเสนอไปแลว้ น้นั ... ส่วนในเร่ืองเวลาการปฏิบตั ินมาซตสั เบี๊ยะห์ ตามหะดีษซ่ึงรายงานมาโดยท่านอบั ดุลลอฮ์ บินอัมรฺ บินอัล-อาศ ร.ฎ. ดังการบันทึกของท่านอบูดาวูด หะดีษที่ 1298 ระบุว่า ท่านศาสดา ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั ไดแ้ นะนาใหน้ มาซตสั เบ๊ียะห์หลงั จากตะวนั คลอ้ ย (ก่อนนมาซซุฮร์ ิ) ... ถา้ หากปฏิบตั ิในเวลาดงั กล่าวไม่ได้ ก็ให้นมาซในตอนกลางวนั หรือตอนกลางคืนกไ็ ด้ .. ดงั ขอ้ ความตอนทา้ ยของหะดีษบทน้นั ... และวิธีนมาซตสั เบ๊ียะห์ตามรูปการณ์ที่ปรากฏในหะดีษของท่านอิบนุอบั บาส ร.ฎ. ท่ีผ่านมาก็ คือ ให้นมาซท้งั 4 ร็อกอะฮ์โดยให้สล่ามเพยี งคร้ังเดียว .. ไม่วา่ จะเป็นการนมาซตอนกลางวนั หรือตอน กลางคืน, .. ดงั คากล่าวของท่านมุบาร็อกปูรียใ์ นหนงั สือ “‫ ”ُحُْتَفُةحُاْلأَ ْحَوِذ ُْى‬เล่มท่ี 2 หนา้ 595 ... ********** นมาซฮายตั คาว่า ฮายัต (ُ‫ ) َحا َجة‬มีความหมายภาษาไทยว่า ความจาเป็ นหรือความต้องการอย่างแท้จริง, ความต้องการทไ่ี ม่อาจหลกี เลย่ี งได้ .. ซ่ึงตรงกบั ภาษาองั กฤษวา่ Need ... การนมาซฮายตั จึงเป็ นการนมาซเพื่อแสดงออกถึงความตอ้ งการอย่างแทจ้ ริงของผูน้ มาซ ใน การขอความช่วยเหลือจากพระองคอ์ ลั ลอฮ์ ซ.บ. ใหท้ รงประทานใหใ้ นสิ่งท่ีตนตอ้ งการน้นั ... เป็ นที่น่าสังเกตว่า การนมาซฮายตั น้ี ไม่เคยปรากฏข่าวว่าจะมีการปฏิบตั ิกนั อย่างเอิกเกริกใน ประเทศมุสลิมอื่นๆ นอกจากในประเทศไทยเราเท่าน้นั ... หรือพวกเขาจะมีการปฏิบตั ิกนั เป็นการส่วนตวั ผมกไ็ ม่ทราบ ... แต่สาหรับในประเทศไทยแลว้ การนมาซฮายตั เป็ นที่นิยมปฏิบตั ิกนั อยา่ งแพร่หลายและอย่าง เปิ ดเผยโดยพนี่ อ้ งมุสลิมกลุ่มหน่ึง ... โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ใน 4 จงั หวดั ภาคใต้ และในภาคกลางบางส่วน ... เวลามีข่าวการลอบวางระเบิด, การก่อความป่ันป่ วนวุ่นวายข้ึนจนเกิดความเสียหายต่อชีวติ และ ทรัพยส์ ินของประชาชน กจ็ ะมีมุสลิมกลุ่มหน่ึงรวมตวั กนั นมาซฮายตั เพื่อวิงวอนขอต่อพระผเู้ ป็นเจา้ ให้ช่วยปัดเป่ าภยั พิบตั ิเหล่าน้ีให้หายไปจากสังคม เพ่ือประชาชนจะไดใ้ ชช้ ีวิตอยู่อยา่ งสงบสุข .. ดงั มี ปรากฏใหเ้ ห็นกนั บ่อยทางทีวี ... -7-

แมก้ ารกระทาดงั กล่าวจะเป็นเจตนาดี .. แต่, อนั เน่ืองมาจากการนมาซ --ไม่ว่าจะเป็นนมาซฟัรฺฎู หรือนมาซสุนตั -- เป็ นอิบาดะฮ์ท่ีมีรูปแบบชัดเจน และจะต้องปฏิบัติตามแบบอย่างของท่านศาสดา มหุ มั มดั ศ็อลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซัลลมั เท่าน้นั ... การปฏิบตั ินมาซ -- ทุกประเภท -- จึงไม่ไดม้ ีความหมายเพยี งวา่ “เจอหลกั ฐาน” จากตาราเล่มใด แลว้ เรากส็ ามารถนามาปฏิบตั ิไดเ้ ลย ... ทว่า, .. ตามหลกั การแลว้ “หลักฐาน” ดงั กล่าว จะตอ้ งเป็ น “หลักฐานที่ถูกต้อง” มาจากท่าน ศาสดา ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั อีกดว้ ย ... และการนมาซกไ็ ม่ใช่เป็น “‫ ”فَ َضائِ حُلُاْلأَ ْع َماُِل‬หรืออิบาดะฮ์ประเภท “อาหารเสริม” ที่สามารถ นาเอาหะดีษเฎาะอีฟมาอา้ งเพื่อปฏิบตั ิได้ .. อยา่ งที่บางคนเขา้ ใจ ... แต่การนมาซคืออิบาดะฮ์หลกั .. ไม่ว่าจะเป็ นนมาซฟัรฺ ฎูหรือนมาซสุนัตก็ตาม ดังน้ัน การ ปฏิบตั ินมาซใดๆ โดยไม่มีหลกั ฐานจากหะดีษท่ีถูกตอ้ งจึงเป็ นเรื่องเสี่ยง ต่อคาว่า “บิดอะฮ์” เป็นอยา่ ง มากสาหรับมุสลิมที่มีอีหม่าน และเขา้ ใจในหลกั การศาสนาอยา่ งแทจ้ ริง ... ผมเขียนเรื่องนมาซฮายตั น้ี มิใช่เพื่อเป็ นการหักลา้ งความเขา้ ใจ, หรือเพ่ือสกดั ก้นั การกระทา ของผใู้ ด ... แต่เป็ นการเขียนเพื่อวิเคราะห์หลักฐานเกี่ยวกับเร่ืองน้ีตามหลักวิชาการ และเพื่อช้ีแจง ขอ้ เทจ็ จริงเกี่ยวกบั เรื่องน้ีใหพ้ ี่นอ้ งมุสลิมไดร้ ับทราบว่า การนมาซฮายตั ดงั ท่ีมีการปฏิบตั ิกนั น้นั เป็ น เร่ืองที่ถูกตอ้ งตามหลกั การศาสนาหรือไม่อยา่ งไร ? .. เท่าน้นั ... หลักฐานเรื่องการนมาซฮายตั เท่าท่ีตรวจสอบดูแลว้ ปรากฏว่ามาจากหะดีษ ”เพียงบท เดียว” เท่าน้นั ดงั ต่อไปน้ี ... มีการอา้ งรายงานวา่ ท่านรอซูล้ ุลลอฮ์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั ไดก้ ล่าววา่ ... ُُُُُّ،‫حَُث)ََُّحكُ)ُالِِرَُيْحواَُحجُيلُْةَُُصغَُُنُُِِْيُلِهُحسَُمُْبََرُةََُُْكَُُُحَعلَُِماتَََُُْْنُنُكُُِيُُُُُُاِحركُحلَُثُِِّلُضُلُُُالُُِيَحُبِرُُإِثٍْرَُُُُُِِبنُل‬،‫ْهُوحلَُِفُلَِيُْحيحرضتََِْقوحُموَءََُُُّلدَُكاُُحْلُر‬،‫َسائِّرُلَُمِْنُُحلُجُُفَُتَُاِإَامهلَْحنّْْغح‬،ِ‫ُتََََُوخَروُِِْلرََُلِةَُحَُّضُُتُُِأإًََِْمهلَُّااَُهََُكُوُلُُُْإِيإحََِشُوَلُآَُّْحَّلُعُءََُفزَا‬:َُ‫ِلُْلُتُيآ‬،َْ‫لَُلَِأَْيُُْلُُِهُِمَُحأََُْذٍَنُُدْنوْسُُبأَأََِسلامحَْملُّْإُِنَِرُُمَُكَُُُاُلُّلحََُخحّمثُُّْلدَُْغونِْقلَِْفيَيَُِهجْاربتَحَُقُاهُحَْوُلاف‬،ُُ‫أََلرُُحَحُاَِحَُبصَُكثََُّلُّجُُاأيَةَُلََُْعَلُُْأَّساُْاألََُوتَلحُِمحُلُلَإِدََُُُْعاَيلَُعل‬،‫ُلحُدَُُُهُاُاالِلَأََلِنُِِِّّلِلُْلْسُُُِب‬،ََ‫ْحَُكُُِلُُِلَاُلقََُُهحَُْْإعُِلََضلإٍَِْْيْثمَت‬،‫اَُلْوَاعُللَعَُْرَ(َّس(ِلُُشَمااَُلَماِْنُلُْلةََُُُعََُِموكِْلظايْيحْنُنَِمَُص‬ -8-

“ผูใ้ ดตอ้ งการ (ความช่วยเหลืออยา่ งแทจ้ ริง) ต่อพระองคอ์ ลั ลอฮห์ รือต่อมนุษยค์ นใด กใ็ หเ้ ขา ทาวุฎูอใ์ ห้ดีท่ีสุด แลว้ ให้เขานมาซ 2 ร็อกอะฮ์, หลงั จากน้ัน ให้เขาสรรเสริญต่ออลั ลอฮ์และเศาะละ วาตใหแ้ ก่ท่านนบีย์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั ต่อจากน้นั ใหเ้ ขากล่าววา่ ... ُُُّ‫أَذَ“ْنْسبُأَُلاحُإَِكُ َل‬ไُُ‫ُْل‬ม،ِ‫َ่ي‬มُُْ‫ีَع‬พ‫لََدِم‬รَ‫َعُات‬ะّ‫لَُْل‬เ‫ا‬จَُ‫ُبُأ‬า้ ُِ‫َك‬อ‫่ืَر‬น‫ِلُأَُلح‬ใ‫لَِِّْس‬ดَُ‫حُدُأ‬น،‫ثْم‬อٍَْ‫إِْل‬กَُْ‫ا‬จ‫ُُِل‬،า‫ُِمحك‬ก‫ظُْي‬อِ‫ ُْن‬ลั‫ُلْ)ُِمَع‬ล)‫ُْلةَُُا‬อ‫ََِِمُش‬ฮ‫์َْلهراا‬ผ‫َูتََّعس‬ทْ้‫واَُضلاْيل‬รَُ‫ُِب‬งَ‫ق‬،ُข‫ٍَُُلرَّر‬นัِ‫ُلُإُِِلب‬ตُ‫حكضิُِاال‬ทُ‫اُِرَن‬รُ‫َْحُن‬งُ‫ِمَك‬เ‫ْب‬มُ‫ُةَُلَحس‬ตُ‫َََُُم‬ต‫ْي‬،ِ‫ِنه‬า‫ُْغيَح‬,ْ‫َجَكَواةُِرل‬มُْ‫ل‬،‫ا‬ห‫ُمََُكحا‬า‫لَح‬บ‫لََوَلِرتِْي‬ร‫ْغิُِْْف‬สُ‫َمُا‬،ุ‫ح‬ท‫اتََمُلهُحُل‬ธ‫ّاิ ์ُئِْج‬แ‫ََعَََّرُلز‬ด‫ََُُ่وإِف‬อّ‫َُُُل‬ล،ั ِ‫ُكهإ‬ลََ‫ًُهّإِال‬อَِ‫حَُلَُت‬ฮَُُِْ‫ر(ل‬ผ์ َ(‫َُูو‬ทُُ้‫ُُُِت‬รُ،ُง‫بَُهحا‬เَ‫رُجت‬ปُِْ‫ُْ็َوف‬น‫ُحمَغ‬ จา้ วแห่งบัลลังก์อันยิ่งใหญ่, บรรดาการสรรเสริญท้ังมวลเป็ นของอัลลอฮ์ ผูท้ รงอภิบาลจกั รวาล ท้งั หลาย, ขา้ ฯ วงิ วอนขอต่อพระองคซ์ ่ึงสิ่งท่ีทาใหไ้ ดร้ ับความเมตตาจากพระองคอ์ ยา่ งแน่นอน, และ สิ่งที่ทาใหไ้ ดร้ ับการอภยั โทษจากพระองคอ์ ยา่ งแทจ้ ริง, และสิ่งซ่ึงเป็นผลประโยชนพ์ ลอยไดจ้ ากความ ดีทุกอยา่ ง, และการรอดพน้ จากความชวั่ ทุกอยา่ ง, ขา้ ฯ วิงวอนขอต่อพระองคโ์ ปรดอยา่ ละทิ้งบาปใด แก่ขา้ ฯ เวน้ แต่พระองคไ์ ดอ้ ภยั โทษมนั , และอยา่ ละทิ้งความระทมทุกขใ์ ดแก่ขา้ ฯ เวน้ แต่พระองคไ์ ด้ ปลดเปล้ืองมนั , และอยา่ ละทิ้งความตอ้ งการใด (ของขา้ ฯ) ที่พระองคท์ รงพอพระทยั เวน้ แต่พระองค์ ไดโ้ ปรดสนองมนั แก่ขา้ ดว้ ยเถิด” ... หลงั จากน้ัน กใ็ ห้เขาขอต่อพระองคอ์ ลั ลอฮ์ในส่ิงท่ีเขาประสงคจ์ ากกิจการของโลกน้ีและโลก หนา้ เพราะมนั จะถูกกาหนดให้ (ตามที่ขอน้นั ) ... (บนั ทึกโดย ท่านอตั -ติรฺมีซีย์ หะดีษที่ 479, ท่านอิบนุมาญะฮ์ หะดีษที่ 1384, และท่านอลั -หา กิม เล่มที่ 1 หนา้ 466, ... สานวนขา้ งตน้ น้ี เป็นสานวนของท่านอิบนุมาญะฮ์ โดยรายงานมาจากท่าน อบั ดุลลอฮ์ บิน อบียเ์ อาฟา อลั -อสั ละมีย์ ร.ฎ.) ... อธิบาย เนื่องจากสผถรู้าานยภงาานพขขอองงมหนั ะคดนีษหบนท่ึงนคี้ เือป็ นُ‫ُّف‬หِ‫ْو‬ะ‫حك‬ดْ‫اีل‬ษُ‫ِْحَ“ِن‬ม‫لَّุر‬ง‫ُا‬ก‫ัِد‬ร‫ُ َع”ฺْب‬ซ‫ْึ่حن‬ง‫ُب‬ถ‫ืحد‬อِ‫ائ‬วَ‫่ف‬าเเปป็็นนผหทู้ะี่ขดาีษดทค่ีอว่อามนนม่าาเกชื่อ(‫ا‬ถ‫ืًّد‬อ‫ِج‬อُย‫ف‬า่ ง‫ْي‬มِ‫َضع‬าก) ... ท่านบุคอรียไ์ ดก้ ล่าววจิ ารณ์ในหนงั สือ “ُ‫ ”اَل ُّضَعَفاءحُال َُّصغِْيحر‬ของท่าน หมายเลขบุคคลที่ 299 ว่า ... ُُ))‫ُحمْن َكحرُاْْلَِديْ ِث‬:ُ‫ُ َع ِنُابْ ِنُأَِْبُُأَْوَف‬،‫((فَائِحدُبْ حنُ َعْب ِدالَّرِْحَ ِنُالَْع َطّاحرُالْ حكْوُِّفُأََراهحُأَََبالَْوْرقَاِء‬ -9-

“ฟาอิด บินอบั ดุรฺเราะห์มาน อลั -อฏั ฏอรฺ แห่งเมืองกูฟะฮ,์ ฉนั มองว่า (ฉายาของ) เขาคือ อบู อัล-วรั ฺ กออ์, รายงาน(หะดีษ)มาจากท่านอบียเ์ อาฟา, เป็ นผู้รายงานหะดีษท่ีมุงกัรฺ (คือขาดความ น่าเช่ือถืออยา่ งมาก)” ... ท่านอนั -นะซาอียไ์ ดก้ ล่าววจิ ารณ์ในหนงั สือ “ُ‫ ”اَل ُّضَعَفاءحَُوالْ َمْتحرْوكِْ َي‬ของท่าน หมายเลขบุคคลท่ี 487 วา่ ... ُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُ))‫َُمْتحرْوحكُاْْلَ ِديْ ِث‬:ُ‫ُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُ((فَائِحدُأَبحوُالَْوْرقَاِء‬ “ฟาอิด (ฉายา) อบูอลั -วรั ฺกออ,์ เป็ นผู้รายงานหะดษี ทถี่ ูกเมนิ (คือ อ่อนมาก)... ท่านอิบนุหะญัรฺ อัล-อัสเกาะลานีย์ ได้สรุปประวตั ิของท่านฟาอิดในหนังสือ “ُ‫تَُْقِريْ حب‬ ُ‫ ”الَتّ ْه ِذيْ ِب‬เล่มท่ี 2 หนา้ 107 วา่ ... ُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُ))‫ُُإَِتّ َه حمْوهح‬،‫َُمْتحرْوك‬.......ُ‫ُُُُُُُُُُُُُُ((فَائِحدُبْ حنُ َعْب ِدُالَّرِْحَ ِنُالْ حكْوُِّف‬ “ฟาอิด บินอบั ดุรฺเราะห์มาน ชาวเมืองกูฟะฮ,์ .......... เป็ นผุ้รายงานหะดษี ทถ่ี ูกเมนิ , นักวชิ าการ หะดษี ท้งั หลายไม่ไว้วางใจเขา” ... ท่านอลั -หากิม อนั -นยั ซาบูรีย์ ไดก้ ล่าววจิ ารณ์ท่านฟาอิดผนู้ ้ีวา่ ... ُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُُ))‫ُُُُُُُُُُُُُُُُُُُ((َرَوىُ َع ِنُابْ ِنُأَِْبُأَْوَفُأَ َحاِديْ َثَُمْو حضْوَعة‬ “เขา (ฟาอิด) ไดร้ ายงานมาจากท่านอิบนุ อบียเ์ อาฟาอ์ เป็ นหะดีษเมาฎ๊ัวะอฺ (หะดีษเก๊) จานวน มาก” “ُِ‫(ِم ْش َكاة‬จْ‫ُال‬า‫حق‬ก‫ْي‬ต‫ْتِق‬ะَُอ”ฺลขีกอหงทน่าังนสอือลั -“อُ‫حف‬ลั บ‫ِش‬า‫ا‬น‫ีَك‬ย‫” ์اَْل‬เลข่มอทง่ี 1ท่าหนนอา้ ัษ4-1ษ7ะ) ฮ...ะบียเ์ ล่มท่ี 2 หน้า 325, และหนังสือ และหะดีษเรื่องนมาซฮายัตข้างต้น กเ็ ป็ นหะดีษที่ท่านฟาอดิ บินอบั ดุรฺเราะห์มาน รายงานมา จากท่านอบิ นุ อบยี ์เอาฟา! ... ท่านอิหม่ามนะวะวีย์ ซ่ึงเป็ นท้งั นกั วิชาการฟิ กฮ์และนกั วิชาการหะดีษแห่งมษั ฮบั ชาฟิ อีย์ ได้ นาเอาหะดีษเร่ืองนมาซฮายตั บทน้ีจากการบันทึกของท่านอัต-ติรฺ มีซีย์ มาระบุลงไวใ้ นหนังสือ “‫ ”اَلُْ َم ْج حمْو حُع‬เล่มท่ี 4 หนา้ 55 .. พร้อมกบั เสนอคาวิจารณ์ของท่านอตั -ติรฺมีซียท์ ี่ว่า หะดีษนี้เป็ นหะดีษ เฎาะอฟี ! .. โดยไม่มีการทว้ งติงใดๆท้งั สิ้น ซ่ึงความหมายกค็ ือ ท่านอิหม่ามนะวะวียย์ อมรับการวจิ ารณ์ ดงั กล่าวน้นั ... สรุปแล้ว หะดีษเร่ืองนมาซฮายตั จึงถือว่า เป็ นหะดีษท่ี ُ‫ حمْن َكر‬หรือ “เฎาะอีฟมาก” ตาม ความเห็นสอดคลอ้ งกนั ของบรรดานกั วชิ าการหะดีษ ... - 10 -

เม่ือเป็นหะดีษเฎาะอีฟมาก จึงไม่สามารถนาเอาหะดีษน้ีมาอา้ งเป็นหลกั ฐานเพ่ือการปฏิบตั ิได้ .. ไม่วา่ ในลกั ษณะของ ‫( فَ َضائِ حلُاْلأَ ْع َماُِل‬งานประเภทเสริมบุญ) หรือลกั ษณะใดกต็ าม ... ُُُُُُُُُُُُُُُ)ُ‫ُْْيُْلََُُوِِدَبُيُْتحُْ)ُوِحُث‬،‫ُُِِداُه‬ท‫่اَئُِْنر‬าّ‫لَِقمَت‬นُ‫جواَع‬อْ‫ิَوَاحل‬หُ‫مَبجُا‬มِِ‫่تِا‬า‫َْْيحك‬ม‫ْإِحغ‬นِ‫ُاْأَْلر‬ะّ‫اُْللَُت‬ว‫وواُح‬ะْ‫َِحَف‬วَُُ‫ُل‬ยี‫ِّبَ์ِاِه‬ไَُّ‫جإِا‬ด‫ََموح‬กُ‫ْوَاجع้ا‬ลُْ‫่تِألح‬า‫قَْحَلا‬วُใ‫ُلُِْإا‬น،ُْ‫ُِفلا‬อُ‫وِحئ‬าْ‫ْيا‬ร‫ัَعََِضح‬ม‫اََفَُض‬ภ‫َلوو‬บََ‫نُُُف‬ท‫َسحِفص‬ห‫صْيح‬นََِ‫َّضوع‬งัَ‫ُِق‬ส‫اืالْحل‬อُ‫َكمُُاْوُِفَمعُحَصأََُّ“مَِحاْيك‬،،‫ْاةحَواُأَ”َْلاْْقَأللَْ ََْمسَساحٍِْنجم‬เَُ‫ُث‬ล‫ِِ่ياَح‬ม‫حغثَْيْل‬ทَُِ‫ّصُ่ีحث‬1َ‫اِدْليْف‬หَُِ‫ْثُل‬นِْ‫باَِه‬าُِْ้‫ُي‬:‫ِد‬5‫حلَُحل‬9‫باَْمْء‬ว‫ُلََمَِع‬าَ่‫وِعحامْل‬.‫لْا‬.َ‫َاك‬.ُُ‫ُُِِرفَُ(واْا(لقَيُأََاتحَْحهحل‬ “บรรดานกั วิชาการกล่าวว่า หะดีษน้นั มี 3 ประเภทคือ หะดีษเศาะเหี๊ยะฮ,์ หะดีษหะซนั , และ หะดีษเฎาะอีฟ, พวกเขากล่าวอีกว่า .. หะดีษท่ีจะนามา “อ้างเป็ นหลักฐาน”ในเร่ืองหุก่ม (ท้งั 5 คือ วา ญิบ, สุนตั , ญาอิซหรืออนุญาต, มกั รูฮ,์ และหะรอม) ได้ กเ็ ฉพาะหะดีษเศาะเห๊ียะฮ์และหะดีษหะซัน เท่าน้ัน, อน่ึง หะดีษเฎาะอีฟ กไ็ ม่อนุญาตให้อ้างมนั เป็ นหลกั ฐานในเรื่องหุก่มดงั กล่าวและในเรื่องอะกี ดะฮ์ (ภาคศรัทธา) แต่อนุญาตให้ “รายงาน” และ “ปฏิบัติตาม” มนั ในเรื่องอ่ืนจากหุก่มต่างๆ .. อาทิ เช่น ในเร่ืองเล่าประวตั ิต่างๆ, ในงานประเภทเสริมบุญต่างๆ, ในเรื่องส่งเสริมใหท้ าความดีและสาทบั ใหห้ วาดกลวั จากการทาความชวั่ ” ... เมื่อพิจารณาดูจากคากล่าวของท่านอิหม่ามนะวะวียข์ า้ งตน้ ก็จะพบว่า บรรดานักวิชาการได้ กาหนดเงื่อนไขของการอา้ งและการปฏิบตั ิตามหะดีษต่างๆดงั ต่อไปน้ี ... 1. ในเรื่องหุก่มท้งั 5 และเรื่องอะกีดะฮห์ รือภาคศรัทธา หลกั ฐานที่นามาอา้ งจะตอ้ งเป็นหะดีษ เศาะเหี๊ยะฮห์ รือหะดีษหะซนั เท่าน้นั ... (ُُ‫فَ َضائِ حل‬ “ปฏิบัติ 2. ในเร่ืองของประวตั ิหรือเรื่องเล่าต่างๆ, เรื่องการปฏิบตั ิประเภทเสริมบุญบางอย่าง ُ‫)اُْلأَ ْع َماِل‬, เร่ืองส่งเสริมให้ทาความดี, เรื่องการสาทบั ใหเ้ กรงกลวั จากความชว่ั กอ็ นุโลมให้ ตาม” หรือ “รายงาน” หะดีษท่ีเฎาะอีฟเพยี งเลก็ นอ้ ยได้ .. อยา่ งไรก็ตามในกรณีที่ 2 น้ี โดยเฉพาะในเรื่อง ُ‫ فَ َضائِ حلُُاْلأَ ْع َماِل‬นักวิชาการหะดีษก็ยงั มีทศั นะ ขดั แยง้ กนั อยมู่ ากวา่ จะอนุโลมใหน้ าหะดีษเฎาะอีฟมาปฏิบตั ิไดห้ รือไม่ ? ... 3. ในกรณีของหะดีษท่ี “เฎาะอีฟมาก, โดยเฉพาะอย่างย่ิงหากเป็ นหะดีษเมาฎั๊วะอฺ” ดว้ ยแลว้ นกั วชิ าการต่างมีความเห็นสอดคลอ้ งกนั วา่ ไม่อนุญาตให้นามาอ้างเป็ นหลกั ฐานเพื่อการปฏบิ ตั ิ ไม่ว่าใน เร่ืองใดๆท้ังสิ้น! .. และไม่อนุญาตให้รายงานมัน นอกจากจะตอ้ งช้ีแจงสถานภาพของมนั ใหท้ ราบดว้ ย, หรืออยา่ งนอ้ ยท่ีสุดกต็ อ้ งระบุผบู้ นั ทึกหรือสายรายงานของมนั ใหท้ ราบดว้ ยทุกคร้ังที่นามาอา้ ง ... - 11 -

ดงั น้ัน การ “ปฏิบัติ” นมาซฮายตั ตามหะดีษขา้ งตน้ ซ่ึงเป็ นหะดีษ “เฎาะอีฟมาก” ก็ดี, .. การ “อ้าง” หะดีษนมาซฮายตั มาเป็ นหลกั ฐานในการปฏิบตั ิกด็ ี, จึงเป็ นเร่ือง “ต้องห้าม” ตามหลกั วิชาการ และตามทศั นะของนกั วชิ าการหะดีษ .. ดงั ขอ้ มูลท่ีไดอ้ ธิบายไปแลว้ ... วลั ลอฮุ อะอฺลมั หมายเหตุ มีผูร้ ู้บางท่าน ไดอ้ า้ งเอาหะดีษท่ีถูกตอ้ งบทหน่ึงซ่ึงท่านอิบนุมาญะฮ์ไดบ้ นั ทึกไวใ้ นหนังสือ “อสั -สุนัน” ของท่าน, ภายใตช้ ่ือบทวา่ “‫ ”ََب حُبَُما َجاُءَُُِْفُ َصلاَُِةُاْْلَا َجُِة‬หรือ “บาบ ว่าด้วยเรื่องการนมาซ ฮายัต” มาเป็ นหลกั ฐานเรื่องนมาซฮายตั .. ท้งั ๆท่ีความจริง หะดีษบทน้นั มิใช่เป็ นเร่ืองของนมาซฮายตั และมิไดเ้ กี่ยวขอ้ งกบั นมาซฮายตั แต่อยา่ งใด ทว่า, มนั เป็ นเรื่องการ “ตะวัซซุล” ของคนตาบอดดว้ ย “ดุอา” ของท่านนบีย์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะ ลยั ฮิวะซลั ลมั ท่ีไดส้ อนใหเ้ ขาอ่านเฉพาะตวั เป็นกรณีพิเศษ .. ดงั จะไดอ้ ธิบายใหท้ ราบกนั ต่อไป ... คาว่า “ตะวซั ซุล” ตามหลกั การศาสนาหมายถึง .. การอา้ งหรืออาศยั สิ่งใดเป็นสื่อกลางเพ่ือให้ บรรลุวตั ถุประสงค์ ... การตะวซั ซุล มีท้งั ที่อนุญาตและที่ตอ้ งหา้ ม ซ่ึงผมจะไม่กล่าวถึงรายละเอียด ณ ที่น้ี ... “ตะวซั ซุล” ตามเน้ือหาของหะดีษบทน้นั คือการทีช่ ายตาบอดผู้หนึ่งได้อาศัยดุอาของท่านนบีย์ ศ็อลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซัลลมั ซ่ึงสอนให้เขาโดยเฉพาะ .. เป็ นสื่อ เพื่อใหพ้ ระองคอ์ ลั ลอฮ์ ซ.บ.ทรงรับคา วงิ วอนของตนใหห้ ายจากการตาบอด ... ท่านอุษมาน บินหะนีฟ ร.ฎ. (สิ้นชีวติ ในสมยั คอลีฟะฮม์ ุอาวยิ ะฮ์ ร.ฎ.) ไดร้ ายงานมาวา่ ... ُُ،ُ‫ُْوُلَُُُوَحيَرتُُِْدْبُلَُعحََُِوكُْف‬،َ‫ليحََُوُّرإَِّجحَجصْنُْلِهُحُلََُُِحشفََُُْئَََُرِْكببِأَََُعَُ)تََُُكَْدُِإِيَع‬:ََ‫حْوُنحُُد!فَ!حضَُُفْقَإِوَعاِءََهنُُْحَُلُلُُُُتاف‬:ِ‫يُِحهُُُْنُُُْحُيَحيُقََُِعُاساُحَفِلُمََُنيََُُّم‬،ََ‫ْنََُنوُُِاحَِيبُشَْدتَُِفاعُحَلْعوَُِّراَِّْْضُنلحُأَلََُُُِةُفِأْيف‬:ُ(َُ‫َرّمُهحَُلٍُُُدُأ‬،َ‫َُُِهُُكافَحُُْبدَِوَنَشبعحِِفَيسِهُحَلّْع!َهُمَُحُكُُُفَُفَِأََُحّفََُقممَا‬:‫َُُّفَُجاُلَُهقحاَُلحالَُإُِلَّلَُلحْيَعهُلََُّمْي‬،‫ََو‬،‫يَُْرااََصَحللْبََالبَّْرحهَجََصتِّمَُتُْىُِرُُإَُِهفَِأَتَِذُْنحهُهََُُِوأَُُلُِاْتحسلََنأّْخَقلِْحي َّبُُرَضَُُُكلََََُصُوَأَلَِّكتَْل‬:‫أََُِِّنبََوإَُِذَاْرنُالحُج ُّلدِشاُْئَعُا ِءَََُضُُُِر‬ “ชายตาบอดผูห้ น่ึง ไดม้ าหาท่านนบีย์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั แลว้ กล่าววา่ “ท่านจงขอดุ อาต่ออลั ลอฮใ์ หฉ้ นั หาย (จากตาบอด) ดว้ ยเถิด” ท่านนบียฯ์ จึงกล่าววา่ “หากท่านประสงค์ (ใหข้ อดุ อา) ฉันกจ็ ะขอดุอาให้ท่าน, แต่ถา้ ท่านประสงค์ (ไม่ใหข้ อดุอา) ท่านกจ็ งอดทน! ซ่ึงจะเป็นการดีที่สุด สาหรับท่าน”, เขากล่าววา่ ท่านจงขอดุอาต่ออลั ลอฮ์เถดิ , ท่านนบีย์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซลั ลมั จึงใช้ ใหเ้ ขาทาวฎุ ูออ์ ยา่ งดี แลว้ ใหเ้ ขานมาซ 2 ร็อกอะฮ,์ เสร็จแลว้ ใหเ้ ขาขอดุอาดงั ต่อไปน้ีคือ .. “โออ้ ลั ลอฮ!์ แท้จริง ขา้ ฯ วิงวอนขอต่อพระองค์ และขา้ ฯ มุ่งมายงั พระองค์ด้วย (บะรอกัตของดุอา) นบียแ์ ห่ง - 12 -

พระองค์ คือท่านมุหมั มดั ซ่ึงเป็ นนบียแ์ ห่งความเมตตา, โอ้ ท่านมุหัมมดั ! แน่แท้ ขา้ ฯ มุ่งไปยงั พระผู้ อภิบาลของขา้ ฯ ดว้ ยการอาศยั (ดุอา) ของท่านเพ่ือให้ไดร้ ับการสนองตอบในส่ิงที่ขา้ ฯ ตอ้ งการน้ี, โอ้ อัลลอฮ์! โปรดจงรับการอนุเคราะห์ของเขา (มุหัมมดั ) ให้แก่ข้าฯ ด้วย (และจงโปรดอนุเคราะห์ข้าฯ เพราะเห็นแก่เขาด้วยเถิด” .. ท่านอุษมาน บินหะนีฟ ร.ฎ. กล่าวต่อไปว่า แลว้ ชายผูน้ ้ันก็ปฏิบตั ิตาม และเขากห็ าย (จากการตาบอด) ... (บันทึกโดย ท่านอัต-ติรฺ มีซีย์ หะดีษที่ 3578, ท่านอะห์มดั เล่มที่ 4 หน้า 138, ท่านอิบนุ มาญะฮ์ หะดีษท่ี 1385, ท่านอลั -หากิม เล่มที่ 1 หนา้ 458, และท่านอิบนุคุซยั มะฮ์ หะดีษที่ 1219) ... “ُ‫َص ِحْي ححُُ حسنَ ُِن‬ หะดีษบทน้ี เป็ นหะดีษเศาะเหี๊ยะฮ์ ดงั คากล่าวของท่านอลั -อลั บานียใ์ นหนงั สือ ‫ ”اُبْ ُِنَُما َجُْه‬เล่มท่ี 1 หนา้ 232 ... อธิบาย ดงั ไดก้ ล่าวมาแลว้ ว่า หะดีษบทนี้เป็ นหลักฐานเร่ืองการตะวัซซุล, มิใช่เป็ นหลักฐานเรื่องการ นมาซฮายัต ดังท่ีมีการปฏิบัติกนั ก็ด้วยเหตุผลจากการพิจารณาเน้ือหาและข้อเท็จจริงของหะดีษ ดงั ต่อไปน้ี ... (1). ชายตาบอดผนู้ ้นั มาขอร้องท่านนบียฯ์ ใหข้ อดุอาใหเ้ ขาหายจากการตาบอด เพราะเขาทราบ ดีวา่ ดุอาของท่านนบียฯ์ น้นั “มสุ ตะญาบ” .. คือจะถูกรับอยา่ งแน่นอน! ต่างกบั ดุอาท่ีเขาขอดว้ ยตนเอง ซ่ึงยงั ไม่รู้วา่ จะถูกรับหรือไม่ ... (2). ท่านนบีย์ ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะวลั ลมั ได้รับปากและสัญญาว่าจะขอดุอาให้กบั เขา หากเขา ประสงค์ .. ดว้ ยคาพูดที่วา่ ‫ُإِ ْنُُ ِشْئ َََُُد َعْو حُتُلَ َُك‬: หากท่านประสงค์ ฉันกจ็ ะขอดุอาให้ท่าน ... แต่ขณะเดียวกนั ท่านกแ็ นะนาเขาในสิ่งท่ีดีกวา่ คือใหเ้ ขาอดทนในสภาพน้นั ของเขาต่อไป ... (3). เมื่อชายตาบอดผนู้ ้นั ยงั ยนื กรานที่จะใหท้ ่านนบียฯ์ ขอดุอาใหด้ ว้ ยคากล่าวท่ีวา่ ‫ُاحْدعحُهح‬: ท่าน จงขอดุอาต่ออัลลอฮ์เถิด! แสดงว่าท่านนบีย์ ศ็อลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซัลลมั จะต้องขอดุอาให้แก่เขา จริงๆตามทท่ี ่านสัญญาไว้น้ัน! เพราะท่านนบียฯ์ ไม่เคย .. และจะไม่ผดิ สัญญากบั ผใู้ ดเป็นอนั ขาด ... เพียงแต่ว่า ดุอาที่ท่านขอให้แก่ชายตาบอดตามสัญญาน้นั มิใช่ทางตรง, แต่เป็ น “ทางอ้อม” .. คือ ท่านสอนใหเ้ ขาอ่านเอง ในสิ่งท่ีท่านจะขอให้ ... (4). เน้ือหาบางส่วนของดุอาท่ีท่านนบียฯ์ สั่งใหเ้ ขาอ่าน .. อนั ไดแ้ ก่ประโยคท่ีว่า โอ้ อัลลอฮ์! โปรดจงรับการอนุเคราะห์ของเขา (มุหัมมดั ) ให้แก่ข้าฯ ด้วย! .. บ่งบอกความหมายวา่ การหายจากการ ตาบอดของชายผูน้ ้นั มิใช่เป็ นเพราะการนมาซและดุอาที่เขาขอเอาเอง .. แต่เกิดจากการ “อนุเคราะห์ และบะรอกตั ของดุอาทท่ี ่านนบยี ์ฯ สอนให้เขาอ่านแทนตัวท่าน” .. จนประสบผลสาเร็จตามที่ขอ ... - 13 -

เมื่อไดพ้ ิจาณาอยา่ งละเอียดแลว้ จึงเห็นไดช้ ดั เจนว่า เน้ือหาของหะดีษบทน้ี แตกต่างกบั การ นมาซฮายตั และการขอดุอาหลงั นมาซฮายตั .. ดงั ท่ีมีการปฏิบตั ิกนั ... เพราะท่านศาสดา ศอ็ ลลลั ลอฮุ อะลยั ฮิวะซัลลมั ไม่เคยสัญญาหรือรับปากกบั ผู้นมาซฮายัตคน ใดว่า ท่านจะขอดุอาให้พวกเขา, หรือจะให้การอนุเคราะห์ใดๆแก่พวกเขา .. เหมือนดงั ท่ีท่านได้ให้ สัญญาแก่ชายตาบอดผนู้ ้นั ... และท่านกไ็ ม่เคยสอนให้ผูน้ มาซฮายตั คนใด “ตะวซั ซุล” ดว้ ยดุอาใดๆของท่านเป็นการเฉพาะ และเป็นกรณีพิเศษ! .. เหมือนดงั ท่ีท่านสอนคนตาบอดคนน้นั ให้ตะวซั ซุลดว้ ยดุอาของท่านในหะดีษ บทน้นั ... ทวา่ , .. ดุอาท้งั หมดที่ผนู้ มาซฮายตั ขอ เป็ นดุอาท่วี ่ากนั เอาเอง, จากความรู้สึกนึกคิดของผู้ (นา) นมาซฮายัตเอง .. เพื่อให้สอดคลอ้ งกบั เหตุการณ์จริงท่ีเกิดข้ึน และเป็ นตวั บงการใหม้ ีการนมาซฮายตั ในแต่ละคร้ัง ... แต่เป็นไปไดเ้ ช่นกนั ว่า บางคร้ัง (หรือบ่อยคร้ัง) .. ดุอาที่ขอกนั เองหลงั นมาซฮายตั อาจจะไม่ ตรงและไม่สอดคลอ้ งกบั เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนจริงกไ็ ด้ .. ซ่ึงผมคิดวา่ ไม่น่าจะเดาผดิ ... สรุปแลว้ หะดีษบทขา้ งตน้ จึงมิใช่เป็นหลกั ฐานเร่ืองการนมาซฮายตั ดงั กล่าวมาแลว้ ... วลั ลอฮุ อะอฺลมั ... - 14 -