ความจริง 7 อย่างเก่ียวกับอิมามบคุ อรีย์ เราจะรสู้ ึกอย่างไรนะ? ถ้าชอ่ื ของเราถูกเอย่ ถึงโดยบรรดาผู้รู้ นกั วชิ าการ และ อุมมะฮฺอิสลามหลายสบิ ล้านชีวิต แถมยังถูกพูดถึงเพราะคณุ ูปการและความดีงามท่ี ไดท้ าไว้ เป็นมรดกตกทอดทีส่ ร้างประโยชน์แกผ่ ้คู นรุ่นหลัง นี่คืออิมามบุคอรีย์ ที่เกิดเมื่อวันท่ี 13 เชาวาล ปี ฮ.ศ. 194 ท่านเขียน หนังสือท่ีมีคุณภาพไว้หลายเล่ม เล่มที่ยอดเย่ียมและโด่งดังท่ีสุดคือ “เศาะฮีหฺ อัลบุคอรีย์” หรือช่ือเต็มว่า “อัลญามิอฺ อัศเศาะฮีหฺ อัลมุสนัด อัลมุคตะศ็อร มิน อุมูริเราะสูลิลลาฮฺ วะสุนะนิฮิ วะอัยยามิฮิ” เป็ นหนังสือที่ใช้เวลาเขียนนานหลายปี และสร้างประโยชนแ์ ก่ผูค้ นมาแล้วกวา่ 1 พนั ปี เราจะทาความรู้จักกับอิมามบุคอรีย์ให้มากขึ้น ด้วยความจริง 7 อย่าง เก่ียวกับตัวท่าน ท่ีจะทาให้ทุกคนได้พบกับความมหัศจรรย์และแรงบันดาลใจ และ ยกให้ทา่ นเป็น 1 ในแบบอยา่ งชวี ิตของพวกเรา อินชาอัลลอฮฺ 1. อิมามบุคอรีย์ไม่ใช่ชาวอาห รับ ท่านเกิดที่เมืองบุ คอรอ ประเทศ อซุ เบกสิ ถาน (ในปัจจบุ นั ) ท่านเกิดในสังคมแห่งวิชาการและการเรียนรู้ เอเชียกลางในยุคกลางนั้น ถือเป็นศูนย์กลางทางวิชาการท่ีให้กาเนิดบรรดาผู้รู้หะดีษหลายท่าน ไม่ใช่แค่อิมาม บุคอรีย์เท่าน้ัน อิมามมุสลิม ติรมิซีย์ อิบนุมาญะฮฺ และอบูดาวูด ล้วนเป็นอุละมาอ์ที่ ย่งิ ใหญท่ ม่ี าจากเอเชียกลางท้ังส้ิน เยาวชนมุสลิมไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างพวกเราก็สามารถเป็ น ผู้รู้ท่ีย่ิงใหญ่ได้เช่นกัน หากได้เลียนแบบชีวิตของอิมามบุคอรีย์และเจริญรอยตาม สุนนะฮฺของทา่ นนบี ศอ็ ลลัลลอฮุ อะลยั ฮิ วะสลั ลมั อนิ ชาอลั ลอฮฺ
2. ครูคนแรกของอิมามบคุ อรียค์ อื คณุ แม่ ในหนังสือ “ฟั ตหุลบารีย”์ ของอิมามอบิ นุหะญรั มีเลา่ ว่า อิมามบุคอรยี ์ไดร้ บั การเลี้ยงดูอย่างดีจากคุณแม่ เธอมอบความรักและความใส่ใจ เป็ นแรงบันดาลใจ และเป็ นผู้สนับสนุนการเรียนรู้คนสาคัญของลูกชาย รู้หรือไม่ว่าอิมามบุคอรีย์เคย ตาบอดตอนเป็นเด็ก แต่ด้วยความเมตตาของอัลลอฮฺและดุอาอ์มุสตะญาบของคณุ แม่ท่ี ศอลิหะฮฺ ดวงตาของท่านจึงกลับมาใช้งานได้ตามปกติ คุณแม่ของอิมาม บุคอรีย์ฝั นว่าได้พบกับนบีอิบรอฮีม ท่านพูดกับเธอว่า “อัลลอฮฺได้คืนการมองเห็น ใหก้ ับลูกชายของเธอแลว้ เนอื่ งจากการรอ้ งไห้และดุอาอ์ทีม่ ากมายของเธอ” คณุ แมแ่ ละดุอาอข์ องท่าน คือหนงึ่ ในกุญแจไขความสาเร็จของลูกทกุ คน 3. ท่องจากุรอานได้ท้งั เล่มต้ังแต่เด็ก และเร่ิมท่องจาหะดีษตอนอายุ 10 ขวบ ไม่เพยี งเท่าน้นั อมิ ามบุคอรียใ์ นช่วงวยั รุ่นยังม่งุ มน่ั ศึกษาและท่องจาตารา สาคัญ ๆ ด้านนิติศาสตร์อิสลาม รวมไปถึงหนังสือของอิมามอิบนุลมุบาร็อกและ อิมามวะกีอฺ บินญัรรอหฺด้วย ตอนอายุ 16 ปี ท่านได้แสดงอัจฉริยภาพให้ทุกคน ประจักษ์ด้วยความจาท่ีแม่นยา ท่านท่องจาท้ังหะดีษเศาะฮีหฺและเฎาะอีฟ ตลอดจน สายรายงานต่าง ๆ และประวัติของบรรดานักรายงานหะดษี ด้วย อิมามบุคอรีย์ในช่วง วยั รนุ่ จดจาหะดษี ไดถ้ ึง 70,000 หะดีษ พรอ้ มประวัติของนักรายงานแต่ละคน น่ีคือศักยภาพของคนเราในตอนที่ยังเป็นเด็กและเยาวชน ต้องใช้เวลาและ โอกาสในชว่ งวยั นใ้ี ห้ดที ี่สดุ
4. อมิ ามบุคอรยี ์เขียนหนังสือเล่มแรกตอนอายุ 18 ปี หนังสือเลม่ แรกของอิมามบุคอรีย์คือ “ตารีค อัลกะบีร” เป็นหนังสือสาคญั ทจ่ี าแนกบรรดานกั รายงานหะดษี ตามระดับความแขง็ แรงของสายรายงาน ท่านบรรจุ รายช่ือและประวัติของนักรายงานหะดีษกว่า 40,000 คน ท้ังผู้ชายและผู้หญิง และทั้งคนที่เชื่อถือได้และคนที่รายงานของเขาไม่ถูกยอมรับด้วย ลองนึกภาพว่า ตอนน้ันท่านอายุเพียง 18 ปเี ท่านั้น คาถามสาคัญท่ีเยาวชนมุสลิมทุกคนต้องถามตัวเองคือ ตอนอายุ 18 ปี เรากาลงั ทาอะไร? 5. เดินทางไปยังเมอื งตา่ ง ๆ เพ่ือรวบรวมหะดีษ ตั้งแต่อายุ 16 ปี อิมามบุคอรีย์ก็เร่ิมเดินทางไปยังเมืองต่าง ๆ ในหลาย ภูมิภาคเพ่อื รวบรวมหะดษี เศาะฮหี ฺ ตัวอย่างเมืองที่ท่านเดนิ ทางไป ได้แก่ เมืองมัรวา, บัลกฺ, ร็อยยฺ, หัรรอน, นัยซาบูร, มักกะฮฺ, มะดีนะฮฺ, แบกแดด, วาสิฏ, กูฟะฮฺ, บัศเราะฮฺ, ดะมสั กัส, หัมศฺ, กอ็ ยสารยี ะฮฺ และอยี ิปต์ พูดง่าย ๆ คือคดิ เป็นเศษหน่งึ ส่วนสามของ ทวีปเอเชียและแอฟริกาเหนือ การเดินทางไกลนานหลายปีน่ีเองท่ีเป็ นที่มาของ หนังสือ “เศาะฮีหฺ อัลบุคอรีย”์ ของท่าน ปั จจุบันน้ีใคร ๆ ก็เดินทางไปต่างประเทศกันเป็นว่าเล่น บางคนเดินทางไป ท่ัวโลกแล้วด้วยซ้ า แต่เป้าหมายของการเดินทางต่างหากท่ีสาคัญ เพ่ือสนุกกับ การท่องเท่ยี ว? เพอ่ื ผลกาไรทางธุรกิจ? หรือเพอื่ อะไรทีย่ ่งิ ใหญก่ วา่ นนั้ ?! 6. “เศาะฮีหฺ อลั บคุ อรยี ์” หนงั สอื เลม่ สาคญั ที่สุดของทา่ น อิมามบุคอรีย์เดินทางไปทั่วแผ่นดินในอาณาจักรอิสลาม (คิลาฟะฮฺ อับบาสียะฮฺ) และใช้เวลากว่า 16 ปีในการเขียนหนังสือเล่มน้ี ท่านใช้เวลานานในการ คัดเลือกหะดีษท่ีเศาะฮีหฺจานวน 7,397 บทจากสายรายงานต่าง ๆ กว่า 600,000 รายงานจากความจาของท่านเอง ทุกคร้ังที่จะเขียนหะดีษลงไปในแต่ละบท
ท่านจะบรรจงอาบน้าละหมาดและละหมาดสุนนะฮฺ 2 ร็อกอะฮฺอย่างสงบ และด้วย เงื่อนไขท่ีรัดกุมมาก ทาให้หนังสือเล่มน้ีถูกยอมรับว่าเป็นหนังสือท่ีเศาะฮีหฺท่ีสุดรอง จากอลั กรุ อาน เรียกได้ว่านี่คือ “โครงการแห่งชีวิต” ของอิมามบุคอรีย์เลยก็ว่าได้ คือ โครงการทีเ่ ราจะทาไวเ้ พ่ือเป็นมรดกที่ล้าคา่ และเป็นตานานฝากไวใ้ ห้กับคนร่นุ หลัง 7. อิมามบคุ อรียศ์ กึ ษากบั ครู 1,000 คน อิมามอบิ นอุ ะสากิรได้รายงานไวใ้ นหนังสือ “ตารคี ดมิ ัชกฺ” ของทา่ นวา่ อมิ าม บุคอรีย์กล่าวว่า “ฉันบันทึกความรู้มาจากครู 1,000 คน และฉันสามารถระบุสาย รายงานของทุกหะดีษได้” ใน “ฟั ตหุล บารีย์” อิมามอิบนุหะญัรก็รายงานว่า อิมาม บุคอรีย์มีครูทั้งส้ิน 1,080 คน และเขาจดจาทุกหะดีษได้อย่างถูกต้องพร้อมสาย รายงานของมัน ครูของอิมามบุคอรีย์ ได้แก่ อิมามอะหฺหมัด บินฮัมบัล, อลี บินอัลมะดีนีย์, อิสหาก บินเราะฮะวัยฮฺ และยะหฺยา บินมะอีน เป็ นต้น ส่วนลูกศิษย์ของท่านน้ันมี จานวนนบั ไมถ่ ้วน ________________________ อ้างอิง 1. ตารีค ดมิ ัชกฺ โดย อบิ นุอะสากริ 2. ฟัตหลุ บารยี ์ โดย อบิ นุหะญรั 3. อลั วาฟยี ์ ฟิลวะฟะยาต โดย เศาะลาหุดดีน อัศศอ็ ฟฟาต 4. สยิ รั อะอลฺ าม อันนบุ ะลาอ์ โดย อัซซะฮะบยี ์
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: