0
อิมามมาลกิ : ครูใหญใ่ นตำนานของเมอื งนบี อิมามมาลิก หรือ มาลิก บินอนัส บินอัมรฺ อัลอัศบาฮีย์ เกดิ ในปี ฮ.ศ.93 (ตรงกับปี ค.ศ.714) ทซ่ี ุลมัรวะฮฺ ทางตอน เหนือของเมืองมะดีนะฮฺ บรรพบุรุษของท่านมาจากเยเมน แตไ่ ด้อพยพยา้ ยมาอาศยั อยู่ท่ีเมอื งมะดนี ะฮฺในรุ่นของคุณปู่ หลังจากเข้ารบั อสิ ลาม อิมามมาลิกเกิดมาในครอบครัวผู้รู้และมีฐานะดี ใน วัยเด็กท่านไม่จาเป็ นต้องทางานเพื่อหาเล้ียงชีพเหมือนเด็ก บางคน สนใจเรยี นรูอ้ ิสลามและตัดสนิ ใจใช้เวลาท้งั ชวี ิตเพ่ือ ศึกษาเรียนรู้ที่เมืองมะดีนะฮฺ โดยอยู่ร่วมกับบรรดาตาบิอีน และเศาะหาบะฮฺของท่านนบี ﷺอิมามมาลิกได้เจอกับ บรรดาเศาะหาบะฮฺและตาบิอีนหลายคน ว่ากันว่าท่านรับ ความรู้จากครู 900 คน เป็นตาบิอีน 300 คน และตาบิอิต ตาบิอีนอีก 600 คน ท่านรวบรวมและท่องจาหะดีษของ ทา่ นนบี ﷺจานวนมาก ตอนอายุ 21 ปี อิมามมาลิกได้รับการยอมรับและ อนุญาตจากผู้รู้กว่า 70 คนให้ทาการสอนและฟั ต วา ในมสั ญิดนบไี ด้ ทา่ นมกั จะกล่าวคาวา่ 1
“ลา เหาละ วะลา กุววะตะ อิลลา บิลลาฮฺ - ไม่มีอานาจและ พลังใด ๆ เว้นแต่ด้วยอนุมัติจากอัลลอฮฺ” เสมอเม่ือต้องให้ ฟั ตวาปัญหาต่าง ๆ และท่านไมอ่ ายท่จี ะพดู ว่า “ฉันไม่รู”้ หรอื เงียบเฉย ไม่พูดอะไร เมื่อท่านไม่ทราบคาตอบของปั ญหาท่ี ถูกถามมา บางคนเป็นตัวแทนของชาวเมืองเดินทางมาไกล นาน 6 เดือนจากเมืองของตนเอง ทะยอยถามคาถามต่าง ๆ แตอ่ ิมามมาลิกไมม่ ีคาตอบให้ ชายคนนั้นถามว่า “แล้วจะให้ผมกลับไ ป บอก ชาวเมืองของผมยังไงละครับท่าน?” ท่านตอบว่า “บอกกับ พวกเขาวา่ มาลิกไม่รู”้ อมิ ามมาลกิ ได้ประพนั ธห์ นงั สือหะดษี “อลั มวุ ฏั ฏออ”์ โดยรวบรวมสายรายงานหะดีษจากท่านนบี ﷺและคาพูด ของบรรดาเศาะหาบะฮฺ ตาบิอีน และคนรุ่นต่อมา ท่ายเคย กล่าวว่า “ฉันได้นาเสนอหนังสือ (อัลมุวัฏฏออ์) ให้กับ อลุ ะมาอ์ 70 คนของเมอื งมะดีนะฮฺ และทกุ คนให้การยอมรับ มัน ฉันจึงตั้งชื่อหนังสือขอ งฉันเล่มน้ีว่ าอัลมุ วั ฏฏ ออ์ (หมายถึง ส่ิงที่ถูกยอมรับ)” หนังสือเล่มนี้ใช้เวลาเขียนนาน ถึง 40 ปี มีลูกศิษย์ของอิมามมาลิกมากกว่า 1,000 คนท่ีได้ ถ่ายทอดเน้ือหาหนังสือเล่มนี้ แต่รายงานที่มีช่ือเสียงท่ีสุด คอื รายงานของยะหยฺ า บินยะหยฺ า อัลลยั ษฺ 2
อัลอันดาลูซีย์ ที่ต่อมาเป็ นคนท่ีมีบทบาทสาคัญในการ เผยแพร่หลักนิติศาสตร์อิสลามตามแนวทางการวินิจฉัย ของมซั ฮับมาลกิ ยี ์ในแผน่ ดนิ อันดาลเู ซีย (สเปน) อิมามมาลิกเป็นคนที่มีเสน่ห์ รูปร่างสูง ผิวขาว ต่อ ให้ไม่รู้ว่าท่านเป็ นอิมามคนหนึ่ง ก็รู้สึกได้ว่า คน ๆ นี้ท่ีน่า เคารพมาก ๆ เราเรียกว่าส่ิงนี้ว่า \"ออร่านูร\" หรือ \"มีรัศมี\" นัน่ เอง ส่ิ ง ที่ ท า ใ ห ้ อิ ม า ม ม า ลิ ก รู ้ สึ ก ห นั ก ใ จ ม า ก ที่ สุ ด คื อ คาถามเกี่ยวกับหะลาล-หะรอม เพราะมันหมายถึง ท่าน จะต้องตอบคาถามหรือให้คาตัดสินเพ่ือกาหนดบทบัญญัติ ต่าง ๆ แทนอลั ลอฮฺ สบุ หานะฮุ วะตะอาลา บนโลกใบนี้ อิมามมาลิกใช้เวลาตลอดทั้งชีวิตอยู่ทีเ่ มืองมะดีนะฮฺ ท่านไม่เคยออกจากเมืองมะดีนะฮฺเลย นอกจากตอน ประกอบพิธฮี ัจญแ์ ละอมุ เราะฮทฺ ี่เมืองมักกะฮเฺ ทา่ นั้น อิมามมาลกิ เป็นคนที่กล้าหาญ ยืนหยดั และพรอ้ มท่ี จะเผชิญความลาบากเพ่ือส่ิงที่ท่านเชื่อม่ัน เม่ือผู้ปกครอง เมืองมะดีนะฮฺบังคับให้ชาวเมืองกล่าวคาปฏิญาณภักดีต่อ เคาะลีฟะฮฺอบูญะอฺฟั ร อัลมันศูร แห่งราชวงศ์อับบาสิยะฮฺ ท่านได้ออกคาฟั ตวาว่า คาสาบานหรือคาปฏิญานตนที่เอ่ย ออกมาเพราะถูกบีบบังคับนั้นถือเป็นโมฆะ น่ีทาให้ท่านถูก 3
จับกุมตัวและถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีต่อหน้าสาธารณชน ด้วยขอ้ หาแสดงความเป็นปฏปิ ักษต์ ่อเคาะลีฟะฮฺ แม้ว่าอิมามมาลิกจะถูกกล่าวหาว่าเป็นปฏิปั กษ์ต่อ เคาะลฟี ะฮฺและถกู ตดั สินลงโทษ แตก่ ไ็ มไ่ ด้ทาให้ชอ่ื เสียงของ ท่านในฐานะผู้รู้ท่ีได้รับการยอมรับนับถือเสื่อมถอยลงแต่ อย่างใด ลูกศิษย์ลูกหาของท่านต่างขยันขันแข็งในการเผย แผ่ความรู้ หะดีษ คาวนิ ิจฉยั และฟั ตวาต่าง ๆ ของท่าน กระท่ังมัซฮับของท่าน ได้รับการตอบรับอย่างกว้างในแผ่นดินต่าง ๆ เช่นในเมือง มะดีนะฮฺเอง ฮิ ญาซ แอฟริกา เมืองบัศ เร าะฮฺ อียิปต์ โมร็อคโค หรือแมแ้ ต่อันดาลูเซียในยุโรป อิมามมาลิกเสียชีวิตด้วยวัย 86 ปี ท่านจากไปใน วันท่ี 14 เดือนเราะบีอุลเอาวัล ปี ฮ.ศ.179 ที่เมืองมะดีนะฮฺ ศพของท่านถูกฝั งไว้ท่ีกุโบร์บะกีอฺ ปั จจุบันมัซฮับมาลิกี แ พ ร่ ห ล า ย อ ยู่ ใ น ท า ง ต อ น เ ห นื อ แ ล ะ ต ะ วั น ต ก ข อ ง ท วี ป แอฟริกา, อยี ปิ ต์, ซูดาน และฝ่ั งตะวันออกของเกาะอาหรับ 4
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: