1
2 อิสลามได้เผยแพร่ในดินแดนอันดาลูเซีย(สเปนปั จจุบัน) ตั้งแต่ปี ฮ.ศ. 93- 897 (ค.ศ.688-1492) ตลอดระยะกว่า 8 ศตวรรษ ชาวมุสลิมได้สร้างอารย ธรรมที่เจริญสุดขีดทั้งด้าน สังคม วัฒนธรรม การศึกษา การเมือง เศรษฐกิจ การพัฒนาเมืองและอ่ืนๆ ในขณะท่ียุโรปยุคนั้น กาลังจมปลักในความเส่ือม โทรมและเสื่อมทรามทางศาสนา วัฒนธรรมและสังคม จนกระท่ังนักปรัชญา สตรีชาวอิตาลี เพทราค (ค.ศ.1330) ได้ประดิษฐ์วาทกรรมสะท้อนสังคมยุคนี้ วา่ เป็น ยคุ มืด ( Dark Ages) อันดาลูเซียภายใต้การปกครองของมุสลิม ได้กลายเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ท่ีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาตักตวงศาสตร์ในทุกแขนงวิชา ท้ังอิสลาม ศกึ ษา ภมู ิศาสตร์ ดาราศาสตร์ การแพทย์ สถาปัตยกรรมและอ่ืนๆ ชาวยโุ รปจงึ นิยมส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนจากบรรดาคณาจารย์ชาวอาหรับ จนกระทั่งการ พูดสนทนาภาษาอาหรบั ในยคุ นั้นกลายเป็นสัญลกั ษณ์ของคนศิวิไลส์ทเี ดียว แตแ่ ลว้ อันดาลูเซียกป็ ระสบกบั สัจธรรมแห่งวงลอ้ ชีวติ ทีท่ กุ อย่างเมอ่ื ถึง จุดสูงสุดแล้ว ย่อมเสอ่ื มถอยและรว่ งโรยเป็นธรรมดา มุสลิมเสียเมืองกรานาดา ฐานที่มั่นสุดท้ายเม่ือ มุฮัมมัดหรือโบอับดิล (Boabdil) ยอมจานนต่อกองทัพคริสเตียนแห่งคารธิล ซ่ึงนาโดยกษัตริย์เฟอร์ ดินานด์และพระราชินีอิซาเบลล่า โดยได้มีการลงนามในสัญญาที่บรรจุเนื้อหา 67 ข้อ ซึ่งเป็นสัญญายอมจานนท่ียาวท่ีสุดในโลก พร้อมท้ังมอบกุญแจเมือง แก่กษัตรยิ ์เฟอร์ดินานในวันท่ี 2 มกราคม 1492 ซึ่งถือเป็นการปดิ ฉากของการ ปกครองของมสุ ลมิ ในแผน่ ดินอนั ดาลเู ซยี ทีย่ าวนานถงึ 804 ปี การล่มสลายของประชาชาติถือเป็นส่ิงปกติในประวัติศาสตร์ แต่การสูญส้ิน อารยธรรมท่ีสะสมกันอย่างต่อเน่ืองกว่า 800 ปี เสมือนไม่เคยปรากฏมาก่อน เป็นส่งิ ทท่ี ุกคนไม่เคยคาดคดิ วา่ เกิดขึน้ ไดอ้ ยา่ งไร
3 มันคือการทาลายล้างทางอารยธรรมอย่างเบด็ เสร็จสมบรู ณแ์ บบท่ีสุดใน ประวตั ิศาสตรโ์ ลก เพียงแต่ในความสมบูรณแ์ บบนี้ อดุ มดว้ ยความอามหิตและโหดร้ายสยดสยอง ชวนขนลกุ ทีเดยี ว • อารยธรรมอิสลามทีเ่ คยเจริญสุดขดี ไดพ้ บจุดจบอยา่ งเบ็ดเสร็จได้ อยา่ งไร อะไรคอื คือสาเหตุหลักของการลม่ สลายในคร้งั นี้ • ทาไมอันดาลเู ซยี หรอื สเปนในปัจจุบนั จงึ ไมม่ ีรอ่ งรอยของอารยธรรม อสิ ลามแมแ้ ตน่ อ้ ย ท้งั ๆท่ี ณ ดินแดนแห่งนอี้ าทิตยอ์ ุทัยแห่งอิสลามเคย เจิสจรสั ทอแสงนานกว่า 800 ปี • ประวัติศาสตร์มีไว้เพ่ือเป็นบทเรียน ไม่ใช่สร้างโอกาสความภาคภูมิใจท่ี ไมม่ ตี วั ตนหรอื เป็นเวทแี สดงบทเศรา้ ท่ไี มร่ ู้จักจบ
4
5 ไอสไตน์เคยกล่าวว่า ในโลกนี้ไม่มีคาว่าปาฏิหารย์ ทุกส่ิงทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วน มาจากเหตุและผลท้ังส้ิน เพียงแต่ไอสไตน์ไม่สามารถอธิบายต่อว่า ใครคือผู้ กาหนดเหตุและผล เขาพยายามอธิบายว่า เม่ือมีไฟ ย่อมมีร้อนและย่อมเกิด การเผาไหม้ แต่เขาไม่เคยให้คาตอบว่าใครคือผู้วางกติกาให้ไฟนาความร้อน และเกิดการเผาไหม้ เช่นเดียวกับท่ีเขาไม่เคยพบกรณีนบีอิบรอฮีมท่ีถูกไฟไหม้ แต่ไม่ก่ออนั ตรายใดๆแกน่ บีอบิ รอฮีมเลย อัลกุรอานได้สอนเราว่า อัลลอฮฺได้กาหนดทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมนอง คลองธรรม ( )سنن كونيةเม่ือมีเหตุ ย่อมมีผลตามมา เช่นเดียวกันกับวิถีของ ประชาชาติ “นั่นคือวิถีของอัลลอฮ์แก่บรรดาผู้ท่ีล่วงลับไปแล้วแต่กาลก่อน และเจ้าจะไม่ พบการเปลย่ี นแปลงใดๆในวถิ ีของอลั ลอฮ”ฺ (อัลอะหซ์ าบ,33 : 62)
6 ชวี ิตของประชาชาติ กไ็ มต่ ่างไปจากชีวิตของคน เป็นไปไมไ่ ดท้ เี่ ราเหน็ คนๆหน่งึ มี พละกาลงั แข็งแรงกายา หรือเป็นนกั กฬี าทเ่ี ก่งกาจ โดยปราศจากการฝึกซ้อม และการเตรียมตัวอย่างดี เชน่ เดียวกบั คนปว่ ยทนี่ อนซมบนเตียงพยาบาล ซงึ่ มาจากโรคประจาตัวเขานัน่ เอง ปาฏิหารยเ์ ทา่ นน้ั หรือเป็นส่งิ ทเ่ี ป็นไปไมไ่ ดท้ ่คี นธรรมดาจะเป็นแชมปว์ ่ิงร้อย เมตรระดับโอลมิ ปกิ และเป็นส่งิ อศั จรรย์มากๆหากคนรักษาสขุ ภาพอยา่ งดี แต่ กลับเจบ็ ออดแอดเนอ่ื งจากรา่ งกายออ่ นแอ
7 อันดาลูเซียคือเรือนร่างที่เข้มแข็งสมบูรณ์ที่สุด สร้างคุณประโยชน์แก่สังคม โลกอย่างอเนกอนันต์ และกลายเป็ นกระดูกสันหลังท่ีสร้างอารยธรรมแก่ ชาวโลกมายาวนาน แต่เมื่อถึงวันร่วงโรย อันดาลูเซียกลับถูกท้ิงขว้าง หนาซ้ายังถูกลบเลือนจาก หน้าประวัติศาสตร์ ไร้ร่องรอยของความย่ิงใหญ่ ไม่หลงเหลือเค้าอดีตอัน รุง่ เรอื งให้เหน็ แม้แตช่ ้ินเดยี ว อันดาลูเซียได้ประสบกับวิถีของอัลลอฮฺที่ได้เกิดขึ้นแก่ชนชาติท่ีล่มสลายก่อน หน้าน้ี และนี่คือกฏกติกาของอัลลอฮฺที่ไม่เคยเปล่ียนแปลง และนี่คือสาเหตุ หลักการล่มสลายของอันดาลูเซยี ที่เรากาลงั พดู ถึง สรปุ ได้ดงั น้ี
8
9 1. ฝ่าฝืนบทบญั ญัติของอัลลอฮฺและไมป่ ฏบิ ตั ติ ามแนวทางท่ถี ูกตอ้ ง สถานเริงรมย์ ผบั บาร์ เหล้าสรุ า นารแี ละดนตรีกลายเป็นสว่ นหนง่ึ ของวิถชี วี ติ ที่ ขาดเสียไม่ได้ บรรดาผนู้ าแทนทจ่ี ะห่วงใยประชาชน ช่วยบาบดั ทุกข์ บารงุ สุข กลบั กลายเป็นบาเรอสขุ ใหต้ นและกระจายทกุ ข์แกป่ วงประชา อบายมุขกลาย เป็นความเคยชนิ ในขณะที่การยดึ มั่นในศาสนาไดก้ ลายเป็นคนแปลกหนา้ ยุคหน่ึงผู้พิชิตชาวอาหรับคือผู้ธารงไว้ในความยุติธรรม ถึงขนาดนัก ประวัติศาสตร์ชาวสเปนกล่าวสดุดีว่า เราแปลกใจว่าพวกเขาคือกลุ่มชนท่ีผุด ออกมาจากใต้ดินหรือจุติลงมาจากฟากฟ้ากันแน่ เพราะพวกเขาคือความ ยุติธรรม มีใจอันประเสริฐท่ีเดินเหินบนหน้าแผ่นดิน ที่เราไม่เคยพบเห็นธรรม เนียมปฏบิ ตั ิของผชู้ นะสงครามที่ไหนมาก่อนในประวัตศิ าสตร์ พวกเขาไม่เคยหลาบจาคาเตอื นของอัลลอฮฺ ความว่า “และกี่เมอื งแลว้ ท่ีเราได้ทาลายมัน(เพราะความด้อื รน้ั ของพวกเขา) โดยที่การ ลงโทษของเรามายงั เมอื งน้ัน ในยามค่าคืนหรือในขณะท่ีพวกเขานอนพักผอ่ น ยามบ่าย “ (อัลอะรอฟ,7 : 4) 2. ความฟุ ่มเฟือยและใช้ชวี ิตทห่ี รูหรา จนทาใหห้ ลงลืมปฏบิ ตั ิภารกิจสาคญั ในขณะที่ศตั รคู อยสบโอกาสทกุ ยามเมื่อ อิบนคุ อลดนู กล่าวว่า “ฉนั ไม่เคยเห็น ชุมชนทมี่ คี วามฟุ ่มเฟือย ยกเวน้ มีอธรรมควบคู่ดว้ ย” ทรัพย์สมบัติและทรัพยากร แทนท่ีจะถูกแจกจา่ ยแกป่ ระชาชนอย่างท่ังถึง กลับ ถูกกักใช้เป็นสมบัติผลดั กนั ชมในกลุ่มอามาตย์เท่านั้น แข่งขันสร้างตึกรโหฐาน และส่ิงประดับประดา ถึงขนาดกษัตริย์องค์หน่ึงโกรธกร้ิวอย่างอารมณ์เสีย เ นื่ อ ง จ า ก ไ ม่ พ อ ใ จ วิ ศ ว ก ร ไ ม่ ส า ม า ร ถ ส ร ้ า ง ร า ช วั ง ต า ม ค ว า ม ต ้ อ ง ก า ร ข อ ง พระองค์ ท้ังๆที่ในขณะน้ันศตั รจู ากท่วั สารทิศได้โจมตีเมืองและสร้างภยันตราย แก่ประชาชนทุกหยอ่ มหญา้
10 พวกเขาลืมส้นิ แล้ว คาเตือนของอัลลอฮฺทีก่ ล่าวความวา่ “และเม่ือเราปรารถนาจะทาลายเมืองหนึ่ง เราจึงบัญชาให้พวกฟุ ่มเฟือยใน เมืองนั้น และพวกเขาก็ฝ่าฝืนในเมอื งน้ัน ดังนั้นการลงโทษก็จะประสบแก่เมอื ง นน้ั และเราไดท้ าลายมนั อย่างพินาศเด็ดขาด” (อลั อสิ รออ.,17 : 16) 3.ไว้ใจศตั รแู ละมอบความรกั แกค่ ู่อริอย่างหมดหวั ใจ เพื่อให้ได้มาซ่ึงอานาจและรักษาไว้ซ่ึงราชบัลลังค์ ผู้นายุคอันดาลูเซียบางคน ยอมทาสัญญาผูกไมตรีกับกษัตริย์คริสเตียนให้ยกทัพปราบปรามกองทัพ มุสลิม พร้อมยกดินแดนส่วนหนึ่งเป็นของกานัล ดังที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ว่าเมือง ชื่ออะบูซัยด์กับกษัตริย์คริสเตียนพระองค์หนึ่ง พร้อมยอมถวายเคร่ืองราชฯ แสดงความจงรักษภ์ กั ดี จนในทสี่ ุดผวู้ ่าการอะบูซัยดย์ อมรบั เป็นครสิ ตชน เช่นเดียวกันกบั อาณาจกั ร Bani Ahmar ทีก่ อดคอรว่ มกบั อาณาจกั รคริสเตียน Castellae ทาสงครามกับกองทัพมุสลมิ เพยี งเพื่อรกั ษาบลั ลังค์ของตนเอง พวกเขาไม่เคยถอดบทเรยี นและนาคาสอนของอลั กรุ อานทเี่ ตอื นไวเ้ ป็น อุทาหรณ์ความวา่ “ผศู้ รทั ธาท้งั หลาย จงอยา่ ได้ยดึ เอาชาวยวิ และชาวคริสต์เป็นมติ ร เพราะใน ระหว่างพวกเขา ต่างช่วยเหลือเกือ้ กลู ระหว่างกนั ” (อัลมาอดิ ะฮฺ, 5 : 51)
11
12 4. เกดิ ความแตกแยกระหว่างมสุ ลมิ ดว้ ยกนั เอง หลังจากท่ีอันดาลูเซียอยู่ภายใต้การปกครองของเคาะลีฟะฮ์เพียงคนเดียวที่มี ความเป็ นปึกแผ่นและเอกภาพ พวกเขาก็พร้อมใจกันแตกแยกเป็ นเสี่ยงๆ จนกระทัง่ ได้แยกเป็นแว่นแคว้นนอ้ ยใหญถ่ ึง 27 รฐั ดว้ ยกัน (Taifa Kingdoms) แต่ละรัฐมีเขตการปกครองของตนเอง ซ้ายังรบราฆ่าฟั นระหว่างกัน ก้าวร้าว เมื่ออยู่กับพน่ี อ้ งผูศ้ รัทธา แต่อ้อนน้อมถอ่ มตนยามเผชญิ หน้ากับเหลา่ ศัตรู อิบนุหัซมิ หนึ่งในอุลามาอฺนามอุโฆษชาวอันดาลูเซียบรรยายปรากฏการณ์อัน น่าเศร้าหมองน้ีว่า ” ด้วยนามของอัลลอฮ์ หากการก้มกราบบูชาไม้กางเขนทา ให้สามารถบันดาลตามความต้องการแล้ว พวกเขาจะต้องทามันอย่างไม่ต้อง สงสัย พวกเขาพร้อมให้ความช่วยเหลือชาวคริสเตียนเพื่อปราบปรามคู่อริของ พวกเขาท่ีเป็นมุสลิมด้วยกัน ขอให้อัลลอฮ์สาปแช่งพวกเขา และทาให้พวกเขา ตกอยใู่ นอานาจของศตั รใู นท่ีสุด ท่ามกลางความแตกแยกของชาวมุสลิม แต่คริสตชนทั่วยุโรปต่างก็ผนึกกาลัง ทาสงครามคร่ังย่ิงใหญ่ท่ีพวกเขาเรยี กว่า “Reconquista” หรอื สงครามทวงคืน ดินแดน จนกระทั่ง 2 อาณาจักรท่ีย่ิงใหญ่ได้ผนึกรวมเป็นอาณาจักรเดียวกัน หลังการอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์เฟอร์ดินานแห่งอาณาจักรอารากอน กับ พระราชินอี สิ ซาเบลล่าแห่งอาณาจกั รคาสตีลล์ จนกระท่งั ท้ัง 2 พระองค์ได้เป็น แกนนากองทพั คริสเตยี นบุกล้อมกองทัพมุสลิมจนกระทง่ั สามารถยึดเมืองกรา นาดาซ่งึ เป็นทมี่ ัน่ สดุ ทา้ ยของชาวมสุ ลิมได้สาเรจ็ เม่อื ปี คศ.1492 เหล่ากษัตริย์และบรรดาขุนนางทาสงครามเพื่อปกปอ้ งราชบงั ลังคม์ ากกว่าการ ปกป้องและเผยแพร่อิสลาม จนกล่าวกันว่าจอมทัพมันศูร บิน อะบีอามิร เคย ชนะสงคราม 57 คร้ัง ซ่ึงล้วนเป็นชัยชนะเพ่ือปกป้องราชบังลังค์ท่ีมีการแย่งชิง ระหวา่ งมุสลิมด้วยกัน แทนท่จี ะเป็นชยั ชนะต่อศตั รูผ้คู ุกคาม
13 อัลกุรอานได้กาชับให้มุสลิมรวมเป็นหนึ่งภายใต้ผู้นาคนเดียว ดังที่อัลกุรอาน กล่าวความว่า ” และจงเช่ือฟั งอัลลอฮ์ และเราะซูลของพระองค์เถิดและจงอย่าขัดแย้งกัน เพราะจะทาให้พวกเจ้าพา่ ยแพ้และทาใหค้ วามเข้มแข็งของพวกเจ้าหมดไป และ จงอดทนเถิด แท้จริงอัลลอฮ์ทรงอยู่กับผู้ที่อดทน “ (อัลอันฟาล ,8 :46) คาดารัสของพระองค์ เป็นจรงิ เสมอ
14 เรื่องราวของมูฮมั มดั นอ้ ย ความเจบ็ ปวดทส่ี ะทอ้ นความโหดรา้ ยของศาล ศาสนาแห่งสเปนในยุคกลาง เชคอาลี ฏอนฏอวยี ์ ได้เลา่ เหตกุ ารณท์ เี่ ป็นกรณีศึกษาทีส่ ะทอ้ นถงึ การบงั คับขู่ เขญ็ ของมุสลมิ ในอนั ดาลเู ซยี และการยึดมั่นในอิสลามท่ามกลางการ ตรวจสอบอันเขม้ งวดของศาลศาสนาโดยยกกรณีของมฮู มั มดั น้อยทเ่ี ลา่ ถงึ ตนเองวา่ ขณะทีฉ่ ันกาลงั เรียนในระดบั ประถมศึกษา ฉนั สามารถท่องจาเนอ้ื หาบางสว่ น ของคมั ภีรไ์ บเบ้ลิ และทุกครงั้ ท่ฉี ันกลบั บา้ น ฉันจึงอ่านใหพ้ อ่ แม่ฟั ง แตแ่ ทนที่ ทั้งสองจะดีใจ ฉนั สงั เกตวา่ ทั้งสองท่านมใี บหน้าทเ่ี ศร้าหมองราวคนอมทกุ ข์ ทกุ เช้าท่ฉี ันไปโรงเรียนกับครูครสิ ต์ทม่ี ารบั ที่บา้ น แม่จะโอบกอดฉันราวกับว่าจะ จากกันอยา่ งยาวนาน บางคร้ังฉนั สังเกตเหน็ น้าตาไหลอาบแกม้ แม่ท่สี ่งย้มิ ให้ ฉัน เม่ือฉนั กลบั บ้าน แมก่ จ็ ะโผกอดฉนั ด้วยความดใี จ เมื่ออยูใ่ นบา้ น บอ่ ยคร้งั ทฉ่ี ันเห็นคณุ พ่อแอบเข้าไปในหอ้ งลับทา้ ยบา้ น ทีท่ า่ น ไม่อนญาตใหใ้ ครๆเข้าหรอื เพ่นพ่านบรเิ วณน้ันโดยเด็ดขาด ทกุ ครงั้ ท่ีพอ่ ออก จากหอ้ งน้นั ฉนั เห็นดวงตาของท่านแดงก่าเหมอื นเพ่ิงหยดุ รอ้ งไห้อยา่ งหนัก บ่อยครง้ั ที่ฉันเหน็ พอ่ แม่แอบคยุ ซุบซิบกันดว้ ยภาษาทฉี่ ันไมเ่ ขา้ ใจ แต่เม่อื ฉนั เข้าใกล้ ทง้ั สองก็จะจบการสนทนาอย่างดอ้ื ๆ และพดู ภาษาสเปนเหมือนไมม่ ี อะไรเกิดขึ้น บางคร้งั ฉันรอ้ งไหค้ นเดยี วด้วยความน้อยใจ พลางคดิ เร่ือยเป่ อื ย ว่า ฉนั เป็นลูกแทๆ้ ของพอ่ แมห่ รอื ไม่ รึวา่ ฉนั เป็นเพยี งเด็กขา้ งถนนที่ท้งั สองพบ เจอและอุปการะเล้ยี งดเู ท่านน้ั ฉนั ไม่ค่อยเลน่ กบั เพ่ือนๆรว่ มวยั เดยี วกัน ฉนั เร่มิ มโี ลกสว่ นตวั ที่ไมค่ อ่ ย สนุกสนานเหมือนเด็กๆทัว่ ไป วันหนง่ึ เมอ่ื ถึงวนั อีสเตอร์ (วันสาคัญทางศาสนาคริสต์ทเ่ี ชอื่ กันวา่ พระเยซูฟ้ ืน คืนชีพใหม่หลังจากถูกตรึงท่ีไม้กางเขน 3 วัน) พ่อแม่ของฉันก็มีข้ออ้างเป็น
15 ประจาที่จะไม่เข้าร่วมเทศกาลน้ี พอตกกลางคืน ขณะที่ผู้คนร่วมพิธีในโบสถ์ ที่ บ้านมีฉัน กับพ่อและแม่ เมื่อถึงช่วงเที่ยงคืน พ่อเรียกฉันเข้าไปในห้องลับ ส่วนตัวของเขา เม่ือเราเข้าไป พ่อรีบใส่กลอนปดิ ประตูอย่างแน่นหนา ห้องมืด สนิท พ่อจุดตะเกียงเล็กๆ ฉันไม่พบส่ิงใดในห้องน้ียกเว้นหนังสือเล่มหนึ่งท่ีวาง ไว้บนหมอนอย่างดี ข้างฝามีดาบแขวนไว้ 1 เล่ม ฉันเห็นพ่อมองฉันด้วยสายตา ที่อ่อนโยน พ่อกอดฉันอย่างแน่น จากนั้นพ่อพูดด้วยเสียงท่ีส่ันเครือว่า ลูกรัก บัดนี้เจ้าอายุ 10 ปแี ล้ว หวังว่าเจ้าสามารถรกั ษาความลับได้ เจ้าสัญญากบั พอ่ ไหมว่า ความลับที่พ่อจะบอกนี้ เจ้าห้ามไปเปิดเผยให้ใครก็ตามไม่ว่าแม่ ญาติ สนทิ หรอื เพื่อนคนไหนก็ตาม ฉันรับปากทันที พอ่ บอกอกี ว่า หากความลบั นี้ถูก เปดิ เผย สมาชิกในครอบครวั เราทุกคนจะถูกตดั สนิ โดยศาลศาสนาทันที พลันท่ีฉันได้ยินคาว่าศาลศาสนา ฉันขนลุกด้วยความหวาดกลัวสุดขีด ท้ังๆท่ี ฉันไม่เคยถูกลงโทษจากศาลศาสนานี้ แต่ฉันพบเห็นผู้คนท่ีถูกศาลศาสนาจับ ทรมานแทบทุกวัน บางคนถูกเผาท้ังเป็น ท่ามกลางผคู้ นในเวลากลางวันแสกๆ นับสิบๆ คน บ้างก็ถูกฉีกร่างด้วยกรรมวิธีอันน่าสยดสยอง โดยที่ไม่เคยรับรู้ว่า พวกเขาทาผดิ อะไร ผคู้ นจงึ พากนั หวาดกลวั ศาลศาสนานี้มาก ฉนั จึงใหส้ ญั ญามนั่ กับพ่อวา่ ฉนั จะเก็บความลับน้ไี ว้แต่เพียงผู้เดียวเท่านน้ั พ่อจึงหยิบหนังสือเล่มน้ันมาเปิดให้ฉันอ่าน ฉันอ่านไม่ได้สักตัว พ่อบอกว่าน่ี แหละอัลกุรอาน ท่ีพระเจ้าประทานแก่นบีคนสุดท้ายนบีมุฮัมมดั พร้อมคาสอน ท่ีเรียกว่าอิสลาม เป็นศาสนาที่ประกาศเอกภาพของอัลลอฮฺเพียงองค์เดียว และอิสลามได้เผยแพร่เข้ามาในดินแดนอันดาลูเซีย โบสถ์อันใหญ่โต คือ มัสยิดในอดีต ราชวังและอาคารอันสวยงามท่ีลูกเห็นท่ัวเมืองคือผลงานของ มุสลิมทั้งส้ิน มุสลิมได้สร้างอารยธรรมและความเจริญของเมืองน้ี แต่บัดน้ี กลายเป็นสมบตั ิของผปู้ ฏเิ สธศรัทธา ฉันจึงเรียนรู้ภาษาอัลกรุ อาน และหลักปฏิบตั อิ สิ ลามจากพ่อในห้องลับนี้
16 ในช่วงน้ี แม่คอยซักถามฉันว่า พ่อบอกอะไรให้ฉัน ฉันตอบว่าไม่ได้สอนอะไร น้าและอาฉันก็รบเรา้ ถามฉันเชน่ กนั แตฉ่ นั ก็ตอบวา่ พอ่ ไมไ่ ด้สอนอะไรฉนั เลย คุณพ่อสอนฉันท้ังภาษาอาหรับ อัลกุรอานในห้องมืดนี้ จนกระทั่งฉันเข้าใจ หลกั การเบอ้ื งตน้ ในอสิ ลาม กระท่ังวันหนึ่งพ่อได้เรียกฉัน และกระซิบบอกว่า ถึงเวลาที่เราจะจากกันแล้ว พ่อรู้สึกว่าเวลาของพ่อมีไม่มากนัก และพ่อพร้อมกลับสู่อัลลอฮฺในฐานะชะฮีด ท่ีพ่อปกปิดความลับตลอดระยะเวลา 40 ปีน้ี ไม่ได้หมายความว่าพ่อกลัวแต่ อย่างใด แต่พ่อเฝ้ารอโอกาสท่ีจะส่งต่ออิสลามให้กับลูก และบัดน้ีพ่อม่ันใจว่า เจ้าสามารถปฏบิ ัติภารกิจนแ้ี ล้ว และเจ้าสามารถรักษาความลบั ไดอ้ ยา่ งดเี ย่ยี ม อีกไม่นาน อาของลูกจะมารับลกู อพยพไปที่เมืองใหม่ จงเชื่อฟั งเขาและอพยพ ไปกบั เขาเถอะ อยา่ ห่วงพ่อกับแม่เลย ค่าคืนหน่ึง อามารับฉันที่บ้าน และพาฉันหนีออกจากหมู่บา้ น ข้ามทะเล ใช้ชีวิต ใหมท่ ีต่ ูนเี ซยี ระหวา่ งทางฉันพร่าเรยี กพ่อแม่และไมย่ อมตามคณุ อา แตอ่ าบอก ว่า พ่อเจ้าให้เชื่อฟั งข้าคนเดียวมิใช่หรือ บัดนี้พ่อแม่ของเจ้าคงมีความสุขใน สวนสวรรคต์ ามท่เี ขาใฝ่ฝั น ดว้ ยผลงานของศาลศาสนาแลว้ ละ่ ฉนั อพยพไปตูนีเซยี และเร่มิ ตน้ ใช้ชวี ิตใหม่ท่นี น่ั หนูน้อยมูฮัมมัดใช้ชีวิตดว้ ยการศกึ ษาอิสลาม ต่อมาเด็กคนนไี้ ด้กลายเป็นอุละมาอทฺ ่ยี ่ิงใหญใ่ นมซั ฮบั มาลิกยี ์ ชอ่ื الشيخ العلامة محمد بن الرفيع الأندلسيเสียชีวิตปฮี .ศ. 1055 رحمه الله رحمة واسعة وغفر له وأسكنه في فسيح جناته
17
18
19
20 อนั ดาลสู : อาณาจักรท่สี ญู หาย ในตอนปลายคริศตศตวรรษท่ี 8 สเปนเป็นแหล่งความเจริญและวัฒนธรรมทมี่ ี ชื่อเสียงที่สุดของยุโรปนานนับเป็นศตวรรษ การค้าขายกับโลกภายนอกของ สเปนในเวลาน้ันไม่มีชาติใดในโลกสามารถมาแข่งขันได้ และในช่วงเวลาแห่ง การขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจนี้เอง ชาวยิวที่ถูกชาวคริสเตียนกดข่ีขับไล่ ออกไปจากคาบสมุทรแห่งนี้ในศตวรรษท่ี 7 ได้กลับมามีโอกาสเติบโตและ เจริญม่งั ค่งั ขนึ้ อกี คร้งั หนึง่ อันดาลูส (เป็นภาษาอาหรับที่ถูกใช้เรียกสเปน) เจริญรุ่งเรืองไม่เพียงแต่เฉพาะในด้าน เศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็ นท่ีรู้จักกันดีในฐานะศูนย์กลางทางด้านการศึกษา วิทยาศาสตร์ สถาปั ตยกรรม บทกวีและศิลปะอันย่ิงใหญ่อีกด้วย ขณะท่ีมุสลิมกาลัง รุ่งเรืองอยู่ในเสปนเวลานน้ั ยุโรปส่วนใหญ่ยังคงอยู่ใน “ยุคมืด” แต่เป็นเพราะอนั ดาลสู น้ีเองที่ความรู้ของมุสลิมได้ผ่านเข้าไปยังยุโรปและทาให้ยุโรปเกิดยุค “ฟ้ ืนฟู ศิลป วิทยาการ” (เรอเนซองส)์ ขน้ึ มา ลักษณะสาคัญอยา่ งหนง่ึ ของอสิ ลามในขณะท่รี งุ่ เรอื งอยใู่ นสเปนเป็น เวลาหลายศตวรรษนนั้ ก็คอื ความใจกว้างทม่ี ตี ่อชาวยิวและชาวคริสเตียนของมสุ ลิม ชาวยวิ และชาวคริสเตียนท้งั หมดทีย่ อมรบั มุสลมิ เป็นผ้ปู กครองประเทศจะไดร้ บั อนุญาต ใหถ้ อื ครองทรพั ย์สนิ ของตนและมีเสรภี าพในความเชื่อและการปฏบิ ตั ิศาสนาของตน
21 มุสลมิ เขา้ ไปในสเปนครง้ั แรกเมือ่ แม่ทัพมุสลิมที่มีชอื่ วา่ ฏอรีค บนิ ซยิ าดไดน้ ากองทหาร จานวน 30,000 คน ไปขึ้นบุกทีน่ ่ันใน ค.ศ. 711 บริเวณที่ตารีคนากองทัพเรือไปข้นึ บุก น้ัน เป็นแนวโขดหินยาวซ่ึงหลังจากน้ันได้ถูกเรียกว่า “ญะบัลฏอรีค” (ภูผาฏอรีค) ซ่ึง ต่อมาได้ถูกเรียกเพี้ยนเป็น “ญิบรอลตา” มาจนถึงปัจจุบัน เม่ือขึ้นฝ่ั งแล้ว ฏอรีคได้ส่ัง ทหารของเขาให้เผาเรือท้ิงทั้งหมดเพ่ือเป็นการยืนยันว่าตอ่ ไปนี้ ถ้าไม่ชนะก็ตาย จะไม่มี การถอยหนีลงทะเล หลังจากน้ันทหารมุสลิมก็ได้บุกเข้ายึดอานาจจากพวกวิซิโกธที่ ก่อนหนา้ นไ้ี ด้เขา้ มายดึ อานาจไปจากพวกโรมนั ใน ค.ศ. 715 กองทัพมสุ ลมิ ได้ขา้ มภเู ขา พเี รนสี และสามารถควบคมุ พนื้ ที่ทม่ี คี นอาศัยอยูถ่ งึ 4 ล้านคนได้ ภายในเวลาเพยี ง 7 ปี ดินแดนส่ีในห้าส่วนของคาบสมุทรสเปนก็ถูกพิชิตและการปกครองโดยเคาะลีฟะฮก็ได้ ถูกสถาปนาขึ้นในเสปน ดังน้ัน ใน ค.ศ. 733 กองทัพของฝ่ายคริสเตียนจึงได้สกัดก้ัน มุสลิมมิให้ขยายตัวลึกเข้าไปในยุโรปมากกว่านั้นอีก ในตอนต้นศตวรรษท่ี 9 มีคน ท้องถ่ินในสเปนจานวนมากมายได้หันมาเข้ารับอิสลาม โดยเฉพาะพวกทาสท่ีได้รบั การ ปลดปล่อยใหเ้ ป็นอสิ ระ ขณะเดียวกนั ในอกี ด้านหนง่ึ มุสลมิ ก็พชิ ติ แคว้นซินด์ ซ่งึ ปัจจุบนั คือประเทศปากีสถานได้ น่ันหมายความว่าภายในระยะเวลาไม่ถึง 150 ปี อิสลามซ่ึง เร่ิมต้นจากขบวนการเล็กๆ ของชาวอาหรับทะเลทรายเพียงหยิบมือหน่ึงได้ขยายตัว ออกไปกลายเป็นมหาอานาจท่ีย่ิงใหญข่ องโลก ความสาเร็จนี้ เกิดขึ้นก็เพราะว่ามุสลิมในเวลาน้ันเป็ นคนที่ปฏิบัติตามคาสอนของ ศาสนา เจตนาเบ้ืองแรกของพวกเขาในขณะท่ีทาการต่อสู้ก็คอื การเผยแผ่อสิ ลาม มิใช่ การแสวงหาทรพั ยส์ ินและทรัพย์เชลย ไมว่ า่ คนเหลา่ นี้จะไปท่ีไหนก็ตาม พวกเขาจะสรา้ ง ระบบสังคมที่วางพ้ืนฐานอยู่บนความยุติธรรมข้ึนมาแทนระบบทรราชที่เป็ นอยู่ในเวลา น้ัน ผู้คนในดินแดนท่ีมุสลิมเข้าไปปกครองนั้น มีเสรีภาพที่จะเลือกนับถืออิสลามหรือ ปฏิบัติตามศาสนาเดิมของตนต่อไป หากเลือกท่ีจะนับถือศาสนาเดิม คนเหล่านั้นก็ จะต้องจ่ายภาษี “ญิซยะฮ์” ที่ทาให้พวกเขาได้รับการยกเว้นจากการเป็นทหาร แต่ผู้คน จานวนมากได้หันมาเข้ารับอิสลามกเ็ พราะไดเ้ ห็นลกั ษณะและความประพฤติของมุสลมิ ท่ีเข้ามาปกครองพวกตน เช่น การปลดปล่อยทาสให้เป็ นอิสระ เป็ นต้น นับตั้งแต่ ศตวรรษที่ 10 เป็นต้นมา เมอื งหลวงของรัฐเคาะลีฟะฮอฺ ันดาลูสกค็ ือเมอื งคอร์โดบา ซึ่ง มีประชากร 600,000 คน มอี าคารบ้านเรอื นและส่งิ ปลูกสรา้ งประมาณ 200,000 หลงั มัสยิด 1,500 แห่ง และห้องอาบน้าสาธารณะประมาณ 1,000 แห่ง ในห้องสมุดของ เมืองมีเอกสารและบันทึกต่างๆ กว่าครึ่งล้านชุด ศูนย์กลางของเมืองมีระบบลาคลองท่ี เชื่อมกนั และในตอนกลางคืนแม้แต่ถนนทแ่ี ย่ทีส่ ดุ กย็ ังมแี สงสวา่ ง
22 กล่าวโดยส้ันๆ เมืองน้ีมีสาธารณูปโภคพื้นฐานอย่างท่ีไม่สามารถพบได้ในเมืองต่างๆ ของยโุ รปในเวลาน้นั แม้แตก่ ษัตรยิ ์ครสิ เตยี นหลายคนกย็ งั ส่งลกู หลานของตนมาศกึ ษา ในอันดาลูส ทั้งน้ี เนื่องจากท่นี ่ีมีมหาวิทยาลัยดีๆ หลายแห่ง และภาษาอาหรบั เป็นภาษา สาคัญของโลก แต่ปั จจุบันสภาพการณ์กลับตรงกันข้าม หลายเมืองในประเทศมุสลิม กลายเป็นแหล่งเส่อื มโทรมหรือทเ่ี รียกวา่ สลัมและไมม่ ีสาธารณูปโภคพ้นื ฐาน ผูค้ นไดร้ บั ความเดอื ดร้อนจากความยากจน สงคราม โรคภยั ไขเ้ จ็บและด้อยการศกึ ษา รฐั มุสลมิ ท่ี ปกครองโดยระบบเคาะลฟี ะฮใฺ นสเปนลม่ สลายลงใน ค.ศ. 1492 เมอ่ื เมืองแกรนาดาถกู พชิ ติ โดยกษตั ริยเ์ ฟอรด์ นิ านด์และราชนิ อี ิซาเบลลา กษตั ริยแ์ ละราชนิ คี นู่ คี้ อื ผ้ปู กครองท่ี ให้เรอื 3 ลาแก่โคลมั บสั ไปเร่ิมตน้ การลา่ อาณานคิ ม การฆา่ ลา้ งเผ่าพนั ธ์ุและการคา้ ทาส ในอเมริกา มุสลิมและชาวยิวท่ีหลงเหลืออยู่ในตอนน้ันมีทางเลือกสามทาง น่ันคือ (1) หากจะนบั ถอื ศาสนาของตนต่อไปกต็ อ้ งออกไปจากประเทศ (2) หนั มารับนับถอื ศาสนา คริสต์ และ (3) ถูกฆ่า เหตุผลดังกล่าวมาทาให้เป็นเร่ืองง่ายที่จะวิเคราะห์ว่าทาไมหลัง ศตวรรษที่ 8 มุสลิมจึงได้เสียยุโรปตะวันตกให้แก่ชาติคริสเตียน นั่นก็เพราะว่าพวกเขา ไม่ปฏิบัติตามคาสอนของศาสนาอย่างที่พวกเขาจะต้องปฏิบัติ ดังนั้น จากความม่ังค่ัง รุง่ เรอื งจึงได้กลายเป็นความเสือ่ มสลาย อันดาลูสไดแ้ ตกออกเป็นรัฐเล็กๆทตี่ อ่ สูก้ นั เอง บางครั้งถึงขนาดที่ว่าพวกเขาได้เอาทหารต่างชาติต่างศาสนิกมาเป็ นผู้ช่วยในการต่อสู้ กันเองก็มี บทเรียนสาคัญท่ีเราได้จากประสบการณ์ของอันดาลูสกค็ ือการปฏิบัตติ ามคาสอนของ ศาสนาไม่เพียงแต่จะนาพามนุษย์ไปสู่ความสาเร็จในโลกหน้าเท่านั้น แต่ยังได้รับ ความสาเร็จในโลกนี้ด้วย และเม่ือใดก็ตามท่ีมนุษย์ละท้ิงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติของ ศาสนา ความหายนะก็จะตดิ ตามมาในไม่ชา้ บทความโดย อาจารยบ์ รรจง บนิ กาซนั ประธานโครงการอบรมผ้สู นใจอสิ ลาม มลู นธิ ิ สนั ติชน อา้ งองิ : http://oknation.nationtv.tv/blog/knowislam/2008/06/05/entry-2
Search
Read the Text Version
- 1 - 22
Pages: