2.ม.4ดินและปุ๋ย .

คํานาํ โรงเรียนราชประชานุเคราะห ๓๑ จังหวัดเชียงใหม สังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ไดนํา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ ไปใชเปนกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตร สถานศึกษา และจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนานักเรียน ทักษะภาษาและการส่ือสาร ทักษะการชวยเหลือ ตนเองและสุขอนามัย ทักษะสังคมและการดํารงชีวิต ทักษะวิชาการ และทักษะอาชีพ ใหนักเรียนสามารถ พ่งึ พาตนเอง อยกู บั ครอบครัวและสงั คมไดอยา งมคี วามสุข เปา หมายการพัฒนานักเรียน ซึง่ กําหนดสมรรถนะทีส่ ําคญั ของนักเรียนไว ๕ ขอ คือ ความสามารถใน การสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป ญหา ความสามารถในการใชทักษะชีวิตและ ความสามารถในการใชเทคโนโลยี ดังน้ัน หลักสูตรดินและปุยเปนแนวทางใหนักเรียนไดเลือกเรียนตาม ความสามารถและความถนัดของตนเอง หลักสูตรดินและปุยเลมน้ี เปนหลักสูตรมุงเนนกระบวนการพัฒนาดานความคิดและการปฏิบัติ เพื่อ เปดโอกาสใหนักเรียนไดเ ลอื กเรยี น ตามความถนัดและความสนใจของตนเอง เพ่ือเปน พื้นฐานและแนวทางให นักเรยี นในการเลือกศกึ ษาตอและประกอบาชีพ ในอนาคตไดต ามศักยภาพ

รหัสวชิ า ง 31265 คําอธบิ ายรายวชิ า เวลาเรยี น 60 ชั่วโมง รายวชิ า หลักดินและปยุ 1.5 หนว ยกิต ศึกษา ประโยชน และประเภทของงานที่เก่ียวกับการเกษตร ดิน และคุณสมบัติของดินชนิด ตางๆ ปุยและคุณสมบัติของปุยชนิดตางๆ วิธกี ารอนุรักษดินและนํ้า ปจ จยั ที่ท่ีมีผลตอการเจริญเติบโตของพืช และสัตว สารอาหารที่จําเปนตอสัตวเลี้ยง ประเภทของอาหารและการใหอาหารสัตว การสุขาภิบาลสัตว วิธีการใชเครื่องมือการเกษตรชนิดตางๆ การใชสื่อชนิดตางๆและคอมพิวเตอรเพ่ือสืบคนขอมูล สารสนเทศ วิธีการ ขน้ั ตอน การตัดสนิ ใจและการวางแผนการประกอบอาชีพทางการเกษตร มีทักษะเก่ียวกับการเตรียมดินในการปลูกพืชชนิดตางๆ การใชปุย การอนุรักษดิน และนํ้า การดแู ลรกั ษาพืชชนิดตางๆ การใหอาหารสตั ว การสขุ าภบิ าลสตั ว การใชเ คร่ืองมอื วสั ดุและอปุ กรณต ลอดจน การบํารุงรักษา การสืบคนขอมูลสารสนเทศทางการเกษตร การวิเคราะห สังเคราะหขอมูลเพื่อการตัดสินใจ และวางแผนการทาํ งาน การนําความรทู ้ังมวลมาสรางองคความรแู ละสามารถนาํ มาใชใ นชวี ิตประจําวันได มคี วามรับผดิ ชอบ ตรงตอเวลา ขยัน ซ่ือสัตย ประหยัด อดออม อดทน เอ้ือเฟอ และ เสียสละมีวินัยใน การทํางาน มีความมงุ ม่ัน รกั การทาํ งาน เหน็ คุณคาความสาํ คญั ของกาประกอบอาชพี สจุ ริต และมีเจตคติท่ีดี ตองานการเกษตร ผลการเรียนรู 1. นักเรยี นสามารถอธิบายสว นประกอบของดินได 2. นักเรียนสามารถแยกประเภทของดนิ ได 3. รูละเขาใจเกีย่ วกับความเปน กรดเปน ดางของดนิ ได 4. รแู ละเขาใจเก่ียวกบั วธิ ีแกป ญ หาสาํ หรับดนิ ได 5. นกั เรียนรูและเขาใจเกยี่ วกับการวเิ คราะหด นิ ได 6. นักเรยี นสามารถแยกประเภทของปยุ ได 7. รูและเขาใจธาตอุ าหารที่จําเปนสาํ หรับพืชได 8. รแู ละเขาใจเกีย่ วกบั ฮอรโมนของพืชได 9. รูและอธบิ ายเก่ยี วกับดนิ และปยุ สําหรบั พชื ผกั

ผังมโนทศั น รายวชิ า ดินและปุย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1 ความเปนกรดเปนดา ง ดนิ กบั สรรพสิ่งมีชีวิต ดนิ และปุยสาํ หรับพชื 10 ชัว่ โมง 10 ช่ัวโมง 10 ชัว่ โมง รายวชิ าดนิ และปุย จาํ นวน 60 ชว่ั โมง ชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 4 ปยุ อินทรยี  ธาตอุ าหารท่จี าํ เปน สําหรับพชื ฮอรโมน 10 ชวั่ โมง 10 ช่วั โมง 10 ชั่วโมง

การบรู ณาการตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2 เง่อื นไข 3 หลักการ 4 มิติ รายวชิ าดินและปุย ความรู คณุ ธรรม 1. แสดงความรูเกย่ี วกบั ดนิ กบั สรรพส่งิ มชี ีวิต 1. ความมีระเบยี บ วินัย กจิ นสิ ัยท่ีดใี นการเรยี น 2. แสงความรู ความเขาใจเกี่ยวกับดินและปุย วชิ าการเล้ียงสุกร 2. ความรับผิดชอบ สาํ หรบั พืช 3. ความสนใจใฝร ู และปฏบิ ตั งิ านคํานึงถึงความ 3. แสดงความรู ความเขาใจเก่ียวกับฮอรโ มนพืช ปลอดภัย 4. แสดงความรู ธาตุอาหารที่จาํ เปน สาํ หรับพืช 4. ความซอ่ื สตั ย 5. แสดงความรูความเขา ใจปุย อินทรีย 5. ความสะอาด 6. แสดงความเขา ใจเกี่ยวกับความเปนกรดเปน ดาง พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู ิคมุ กนั 1.ศกึ ษาเก่ยี วกับดนิ และสรรพสิ่งมชี ีวิตท่ีมอี ยู 1.นําความรูท ี่มีอยใู หใ ชอ ยาง 1. มกี ารวางแผนในการ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ในพน้ื ที่ อยา งสมเหตุผล 2. ดาํ เนินกจิ กรรม ตามลาํ ดบั ขั้นตอน 2. เรียนรทู ี่จะใชวัสดุ อปุ กรณแ ละทรัพยากร 2. นําวัสดอุ ปุ กรณทมี่ อี ยูใน 3. มีทกั ษะในการคิด การ ทมี่ ีในทองถ่ินอยา งคมุ คาและประหยัดโดย ทอ งถิ่นนํามาใชใหเ กิดประโยชน แกปญ หา และการ การใชวสั ดุอุปกรณทีม่ ใี หเกิดประโยชนแกดนิ มากท่ีสดุ ตัดสินใจ 3.รูจกั นาํ ปยุ อนิ ทรียแทนปุย เคมีเพ่อื ใหเกิด 3.นาํ ปยุ อินทรยี ท ่ไี ดจากมา ประโยชนสงู สุด ทดแทนปยุ เคมีใหไ ดประโยชน 4. มคี วามเขาใจเก่ียวกับ 4รจู ักวธิ กี ารปรบั ปรงุ ดินเพ่ือเพิ่มธาตอุ าหาร มากท่สี ุด การใชป ระโยชนใ หม าก ในดิน 4.นาํ วธิ ีการปรับปรุงดนิ มาใชให ท่ีสุด เกดิ ประโยชนสงู สุด

วตั ถุ สงั คม สงิ่ แวดลอม วัฒนธรรม 1. รูหลกั การใชทรพั ยากร 1.รแู ละเขา ใจความ 1.การแยกขยะจากการ 1. รูหลกั การใช อยางคุม คา แตกตา งระหวา งบคุ คลอยู 2. รจู กั การเลือกใชวัตถดุ ิบ รวมกบั คนอน่ื ไดอ ยางมี ปฏิบตั งิ าน ทรัพยากรและ เหลอื ใชท ม่ี ีอยใู นทอ งถน่ิ มา ความสขุ ใชในการปรับปรุงดิน 2. รจู กั กฎ ระเบียบ 2. ใชวตั ถุดิบที่ วัตถดุ ิบอยางคุมคา กตกิ า หนาท่ีในการอยู รว มกบั คนอน่ื ปราศจากสารเคมี 3. ยอมรับความคิดเหน็ และเคารพในการตัดสนิ ใจ ของผูอนื่ 4. รจู กั มารยาทในสงั คม และการแบงปน

โครงสรา งหลักสูตร รายวชิ า ดนิ และปยุ ความสาํ คัญ รายวิชาเลือกระดับชั้นมัธยมศึกษาปที่ 4 มีเนื้อหาท่ีมุงเนนเกี่ยวกับพัฒนาทักษะการเรียนรู ความ หลากหลาย ใหนักเรียนไดเลือกเรียน ตามความถนัด ความสนใจ เสริมศักยภาพท่ีมีในตัวของนักเรียน และ สงเสริมนักเรียนในดานการเรียนรูดวยตนเอง การใชแหลงเรียนรู การจัดการความรู การคิดอยางเปนระบบ โดยมีวัตถุประสงคเพื่อใหนักเรียนสามารถกําหนดเปาหมายวงแผนการเรียนรูดวยตัวเอง เขาถึงและเลือกใช แหลง เรียนรู จัดการความรู กระบวนการแกป ญหาและตัดสนิ ใจ อยางมีเหตผุ ล ท่ีสามารถใชเปนเคร่อื งมือชน้ี ํา ในการเรียนรู และการประกอบอาชีพใหสอดคลองกับหลักการพื้นฐาน และหลักสูตรแกนกลาง พุทธศักราช 2551 จุดมงุ หมาย ๑. เพือ่ ใหน ักเรยี นมีความรูเรื่อความรูเกี่ยวกับดินและปุย ๒. เพือ่ ใหน ักเรยี นมคี วามรูและสามารถปฏิบัติงานทเ่ี กี่ยวกับดนิ และปยุ ๓. เพอื่ ใหนักเรียนมคี วามรูเพอ่ื เปน แนวทางในการประกอบอาชพี ในการผลิตปุยปยุ อินทรียม าใช ทดแทนสารเคมี ผลการเรยี นรู 1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายสว นประกอบของดินได 2. นักเรียนสามารถแยกประเภทของดนิ ได 3. รลู ะเขา ใจเก่ยี วกับความเปนกรดเปนดางของดนิ ได 4.รู และเขา ใจเก่ยี วกบั วิธีแกปญ หาสาํ หรับดินได 5. นักเรยี นรูและเขา ใจเกย่ี วกบั การวิเคราะหดินได 6. นักเรยี นสามารถแยกประเภทของปยุ ได 7. รแู ละเขาใจธาตอุ าหารท่จี าํ เปนสําหรบั พชื ได 8. รแู ละเขาใจเกย่ี วกับฮอรโ มนของพชื ได 9. รูและอธบิ ายเกีย่ วกบั ดินและปุยสาํ หรับพืชผกั

เนอ้ื หาของหลักสูตร ประกอบดว ยเนือ้ 6 เรือ่ ง ดังน้ี 1. ดินกับสรรพสิง่ มีชีวิต 2. ดนิ และปยุ สาํ หรบั พืช 3. ฮอรโ มนพืช 4. ธาตุอาหารที่จาํ เปน สําหรับพืช 5. ปยุ อินทรยี  6. ความเปนกรดเปน ดา ง เวลาเรียน ใชเวลาเรียนท้ังหมด 60 ชว่ั โมง ภาคทฤษฎี จํานวน 20 ชว่ั โมง ภาคปฏิบตั ิ จํานวน 40 ชวั่ โมง แหลงการเรียนรแู ละสอื่ ประกอบการเรยี น ๑. ใบความรู วชิ าดินและปยุ ๒. หอ งสมุดโรงเรยี น ๓. หองสืบคน ขอมูลอนิ เตอรเนต็ โรงเรยี น ๔. วสั ดอุ ปุ กรณในการปฏบิ ตั ิงาน ๕. แหง การเรียนศนู ยเ ศรษฐกจิ พอเพยี ง โรงเรยี นราชประชานุเคราะห 31 การวดั ผลประเมินผลการเรียน ๑.การประเมินความรภู าคทฤษฎรี ะหวา งเรียนและจบหลักสูตร ๒.การประเมนิ ผลระหวา งเรยี นจากการปฏบิ ัติงานท่ีมคี ุณภาพเพียงพอ สามารถสรางรายไดใหกบั ตนเอง ความสาํ เร็จของการปฏบิ ตั แิ ละจบหลักสตู ร ประโยชนทค่ี าดวาจะไดรบั ๑.นักเรียนมคี วามเขา ใจเกีย่ วกับดินและปุย ฮอรโมนพชื ธาตุอาหารที่จําเปน สาํ หรับพชื ปยุ อินทรีย ความเปน กรดเปน ดางของดนิ ๒.นกั เรยี นมคี วามสามารถเลอื กใชเครอื่ งมอื อปุ กรณ ในการปรบั ปรุงดินได โครงสรา งเน้ือหาของหลกั สตู ร ประกอบดว ยเนือ้ หา 6 เรอื่ ง ดังน้ี เรือ่ งท่ี ๑ ดนิ กบั สิง่ มชี ีวติ 10 ชั่วโมง เรอ่ื งที่ ๒ ดินและปยุ สําหรับพชื 10 ชว่ั โมง เร่อื งท่ี ๓ ฮอรโ มนพชื 10 ช่ัวโมง เร่อื งที่ ๔ ธาตุอาหารทีจ่ าํ เปน สาํ หรับพชื 10 ชัว่ โมง เรื่องท่ี ๕ ปยุ อนิ ทรยี  10 ชั่วโมง เรื่องท่ี ๖ ความเปนกรดเปนดาง 10 ชว่ั โมง

แผนการจัดกจิ กรรมหลกั สูตร การดินและปุย จาํ นวน 60 ช่วั โมง จุดประสงค เพอ่ื ใหนักเรียนมคี วามรูเร่อื ความรเู กี่ยวกับดนิ และปยุ ท่ี ผลการเรยี นรู เน้อื หา กิจกรรม สื่อการเรยี นรู การวดั และ จํานวน การเรยี นรู ประเมนิ ผล ช่วั โมง 6 ชว่ั โมง ๑ 1.นกั เรยี น 1.โครงสรา งและ 1.ใหน กั เรยี นเรียนรถู งึ 1.แหลงเรยี นรู 1. ตรวจการ สามารถอธบิ าย สวนประกอบของ โครงสรางของดินและ 2.สอ่ื หองสมุด เขียนรายงาน 4 ชวั่ โมง สวนประกอบของ ดิน สว นประกอบของดนิ 3.ใบความรู ดินได 2.ใหน กั เรยี นจดบนั ทกึ 4.แหงการ ผลงาน/ กรเรยี นลงในสมดุ เรียนศนู ย ช้นิ งาน 3.ใหน กั เรยี นไปศึกษา เศรษฐกจิ นกั เรียน เพมิ่ เติม พอเพยี ง 4.ทําแบบทดสอบ โรงเรียนราช 5.สรปุ เน้ือหาที่เรียนมา ประชานุ 6.นดั หมายการเรียน เคราะห 31 ครง้ั ตอไป ๒ 2.นกั เรยี น 1.ประเภทของ 1.ทักทายกอนนาํ เขาสู 1.แหลงเรยี นรู 1. ตรวจการ สามารถแยก ดนิ บทเรยี น 2.สอื่ หองสมุด เขยี นรายงาน 2.ครูอธบิ ายประเภท 3.ใบความรู ประเภทของดนิ ได ของดนิ ใหน ักเรียนฟง 4.แหง การ ผลงาน/ ช้นิ งาน 3.ใหนกั เรียนจดบันทึก เรียนศูนย นักเรียน ลงในสมดุ เศรษฐกิจ 4.ใหน กั เรยี นศกึ ษา พอเพยี ง เพิ่มเตมิ โรงเรยี นราช 5.ครใู หน ักเรียนมา ประชานุ แลกเปลี่ยนความรซู ่ึง เคราะห 31 กนั และกัน 6.ใหน กั เรยี นทาํ ใบงาน

ท่ี ผลการเรียนรู เนื้อหา กจิ กรรม ส่ือการเรยี นรู การวัดและ จาํ นวน การเรยี นรู ประเมนิ ผล ชั่วโมง ๓ 3.รลู ะเขาใจ 1.ความเปน 1.ทาํ ความเขา ใจและชแี้ จง 1.แหลง เรยี นรู 1. ตรวจการ 10ชัว่ โมง เกยี่ วกบั ความ กรดเปน ดา ง สาระการเรียนรูใหนักเรยี น 2.สื่อหอ งสมุด เขียน ของดิน ทราบในหนว ยการเรียนรเู ร่ือง 3.ใบความรู เปน กรดเปนดาง 2.การ 4.แหง การเรียน รายงาน ของดินได แกปญ หาดิน ความเปน กรดเปน ดางของดนิ ศูนยเ ศรษฐกจิ ผลงาน/ 4.รูและเขา ใจ พอเพียง ชิน้ งาน 2. ครอู ธิบายเก่ียวกบั ความ โรงเรยี นราช นกั เรียน เกย่ี วกบั วิธี เปน กรดเปนดา งของดินให นกั เรียนฟง แกป ญหา 3.ครูใหน กั เรียนจดบนั ทึก ประชานุ ตามท่ีครูอธิบาย เคราะห 31 สําหรับดนิ ได 4.ครูใหน ักเรียนทาํ ใบงาน เร่อื งความเปน กรดเปนดา ง ของดนิ 5.ครูมอบหมายใหนักเรยี นไป ศกึ ษาคน ควา เพ่ิมเติมแลวให มาแลกเปลยี่ นกนั ฟง ๔ 6.นกั เรียน ปุยอนิ ทรีย 1.ทําความเขาใจและช้แี จง 1.แหลงเรยี นรู 1. ตรวจการ 10ชว่ั โมง สามารถแยก สาระการเรียนรูใหนักเรียน 2.สอ่ื หองสมดุ ประเภทของปยุ เปนปยุ ท่ีได ทราบในหนว ยการเรียนรเู รื่อง 3.ใบความรู เขยี น ได จากการยอ ย ปยุ อินทรีย 4.แหงการเรียน รายงาน สลายของ 2.ครอู ธิบายเก่ียวกับปยุ ศนู ยเศรษฐกจิ ผลงาน/ อินทรียส าร อนิ ทรียใหน ักเรียนฟง พอเพยี ง ชิ้นงาน ตางๆเชน ปยุ 3.ใหน กั เรียนจดบันทกึ ลงใน โรงเรียนราช นกั เรยี น หมกั ปุยคอก สมดุ ประชานุ และปุยพืชสด 4.ใหนักเรียนลงมือปฎิบัติ เคราะห 31 เกี่ยวกบั การทําปยุ อนิ ทรยี  5.ใหนักเรยี นทาํ ใบงานสรปุ เกยี่ วกบั ขน้ั ตอนในการทาํ ปุย อินทรีย 6.ครูและนกั เรยี นรวมกนั สรปุ เนื้อหาทีเ่ รียนมา 7.นัดเรียนในครงั้ ตอ

๕ 7.รูและเขาใจ ธาตุอาหารท่ี 1.ทาํ ความเขาใจและชีแ้ จง 1.แหลงเรยี นรู 1. ตรวจการ 10ชัว่ โมง ธาตอุ าหารท่ี จําเปน ตอ การ สาระการเรยี นรใู หน ักเรียน 2.สื่อหองสมุด จาํ เปนสาํ หรบั เจรญิ เตบิ โต ทราบในหนวยการเรยี นรูเรือ่ ง 3.ใบความรู เขยี น พชื ได ของพืช ธาตุอาหารท่ีจาํ เปน ในการ รายงาน เจรญิ เตบิ ของพชื ผลงาน/ 2. ครูอธบิ ายเกยี่ วกบั ธาตุ ชิ้นงาน ตางๆใหน กั เรียนฟงและเขา ใจ นกั เรียน 3.ครูอธบิ ายใหนักเรยี น เก่ยี วกบั หลักการความสําคัญ และหนาทตี่ า งๆของธาตตุ า งๆ ใหน กั เรยี นฟง 4.ครูใหนกั เรียนจดบันทึกลง ในสมดุ 5.ครมู อบหมายใหนักเรียนไป ศกึ ษาเพิม่ เตมิ 6.ใหนักเรียนมาแลกเปลีย่ น เรียนรกู นั ในชว่ั ถัดมา 7.ครมู อบหมายงานให นักเรียนไปใบงาน เรื่อง ธาตุ อาหาร 8.ครแู ละนกั เรียนรวมกนั สรุป เนอื้ หารทเ่ี รียนมา 9.นัดหมายการเรียนครงั้ ตอ ไป ๖ 8.รแู ละเขา ใจ ฮอรโ มนคอื 1.ครูแจงจุดประสงคก ารเรียน 1.แหลง เรยี นรู 1. ตรวจการ 10ชวั่ โมง เกย่ี วกับ สารทค่ี วบคมุ ใหน กั เรียนฟง 2.สื่อหอ งสมุด เขียน ฮอรโมนของพชื การเจรบิ โต 2.ครอู ธบิ ายเนอื้ หาเกีย่ วกับ 3.ใบความรู ได ของพชื แมวา ฮอรโมนของพชื ใหนกั เรียนฟง 4.แหง การเรียน รายงาน จะมีเพียงสวน 2.ใหนักเรียนจดบันทกึ ลงใน ศูนยเศรษฐกิจ ผลงาน/ นอย แต สมุด พอเพยี ง ชิน้ งาน สามารถ 3.ใหน ักเรยี นไปศึกษาเพ่ิมเตมิ โรงเรียนราช นักเรยี น เปลยี่ นแปลง แลวนาํ มาแลกเปลีย่ นเรยี นรู ประชานุ สารบางอยา ง กันในช่วั โมงถดั มา เคราะห 31 ทางสรีระของ 4.ใหน ักเรียนลงมือปฎบิ ตั จิ ริง พืชได ในการทาํ ฮอรโมนตางทใี่ ช สาํ หรับพืช 5.แบง กลมุ ใหน กั เรยี นไปทํา มาพรอ มกบั สรปุ ผลและ

นําเสนอ 5.ครอุ ธิบายเพิม่ เติมและให ขอ เสนอแนะในการนําเสนอ งาน 6.ครแู ละนักเรยี นรว มกนั สรปุ เนอื้ หาทีเ่ รยี นมา 7.นดั หมายการเรียนคร้งั ตอ ไป 9.รูและอธบิ าย ความชืน้ ในดนิ 1.ครแู จง จดุ ประสงคการเรียน 1.แหลง เรยี นรู - ตรวจการ 10ชั่วโมง ๗ เก่ียวกับดินและ เปนอีกปจจยั ใหนักเรยี นฟง 2.สอ่ื หองสมดุ เขยี น ปุย สําหรับ หนึง่ เน่อื งจาก 2.ครูอธบิ ายเก่ียวกบั ความชน้ื 3.ใบความรู รายงาน พชื ผกั ได ผักสวนใหญ ทีม่ อี ยใู นดินใหน ักเรยี นฟง 4.แหงการเรยี น ผลงาน/ เปน จาํ พวก 3.ใหนกั เรยี นจดบันทึกลงใน ศูนยเ ศรษฐกิจ ชน้ิ งาน อวบนาํ้ ดิน สมดุ พอเพยี ง นักเรยี น ปลกู จะตอ งมี โรงเรยี นราช ความช้นื เสมอ 3.ใหนักเรยี นลงพนื้ ทีจ่ ริงเพอ่ื ประชานุ ศึกษาตามหวั ท่ีเรยี นมา เคราะห 31 4.ใหน ักเรยี นศกึ ษาเพ่ิมเติม และไปสืบคนขอ มลู เพือ่ นาํ มา แลกเปล่ียนเรยี นรูกัน 5.ใหน ักเรยี นทาํ ใบงาน 6.ครูและนกั เรียนรว มกนั สรุป เนื้อหาท่ีเรยี นมา 7.นดั หมายการเรยี นครง้ั ตอไป