Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การนำหลักการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ 7

การนำหลักการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ 7

Published by armtonwut2540, 2017-07-03 00:17:54

Description: การนำหลักการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ 7

Keywords: การนำหลักการบริหารจัดการมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ

Search

Read the Text Version

อาจารย์วรี ะพงศ์ มาลยัOffice : 02-350-3500 ext. 640Mobile : 01-640-8998E-mail : [email protected] การบรหิ ารและการจดั การhttp://tulip.bu.ac.th/~sasiprapa.c/chapter%201-2.ppt

การประเมินผลรายงาน 20%การสอบ 80%รวม 100%

 สัปดาห์ท่ี 1 หัวข้อการบรรยาย สัปดาห์ท่ี 2 ขอบเขตและความหมายของการจัดการ แนวความคดิ ด้านการจัดการ สัปดาห์ท่ี 3 การจดั การ : การศึกษาในเชิงระบบ สัปดาห์ท่ี 4 การวางแผน สัปดาห์ท่ี 5 การจดั องค์กร / การจัดคนเข้างาน การส่ังการ / การควบคุม เทคนิคการจัดการสมยั ใหม่ / ประเมนิ ผล

การเงนิ สินค้า / ลกู ค้า บริการการจัดการ

บทท่ี 1ขอบเขตและความหมาย ของการจดั การ A.Veerapong Malai

คำจำกดั ควำมของกำรจดั กำรภำรกิจของบุคคลใดบคุ คลหนง่ึ หรือ หลำยคน (ท่ีเรยี กว่ำผูบ้ ริหำร) ท่ีเขำ้ มำทำหนำ้ ท่ีประสำน ใหก้ ำรทำงำนของบุคคลท่ีต่ำงฝ่ ำยต่ำงทำ และไม่อำจประสบควำมสำเร็จไดจ้ ำกกำรแยกกนั ทำใหส้ ำมำรถบรรลุผลสำเรจ็ ไดด้ ว้ ยดี A.Veerapong Malai

คำจำกดั ควำมของกำรจดั กำรJames A.F. Stoner \"กำรจดั กำร คอื กระบวนกำร (Process) ของกำรวำงแผน (Planning) กำรจดั องคก์ ร (Organizing) กำรสง่ั กำร(Directing) และกำรควบคมุ (Controlling) ควำมพยำยำมของสมำชกิ ในองคก์ ำร และ กำรใชท้ รพั ยำกรต่ำง ๆ เพอื่ บรรลวุ ตั ถุประสงค์ท่ีองคก์ ำรกำหนดไว้ \" A.Veerapong Malai

กำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร (Administration and Management)กำรบรหิ ำร (Administration)เป็ นกระบวนกำรที่เกย่ี วขอ้ งกบั กำรกำหนดนโยบำยและแผนงำนตลอดจนกำรกำกบั ดแู ลเพอื่ ใหแ้ น่ใจว่ำควำมสำเรจ็ ที่เกดิ ข้นึ สอดคลอ้ งกบั นโยบำยและแผนท่ีวำงไว้ A.Veerapong Malai

กำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร (Administration and Management)กำรจดั กำร (Management)เป็ นกระบวนกำรของกำรนำเอำนโยบำยและแผนงำนไปปฏบิ ตั ิ ใหบ้ รรลุเป้ ำหมำยที่กำหนดในขน้ั ของกำรบรหิ ำร A.Veerapong Malai

กำรบรหิ ำรและกำรจดั กำร ผูบ้ รหิ ำร Top Manager / Executives ผูจ้ ดั กำรหวั หนำ้ คนงำน Middle Manager First Line Manager Supervisor

หนำ้ ที่ของนกั บรหิ ำร1. ทำใหง้ ำนต่ำง ๆ ของกล่มุ ลลุ ่วงไปดว้ ยดี2. โดยวิธีกำรใหค้ นอน่ื คอื ลกู นอ้ งหรอื ผูใ้ ตบ้ งั คบั บญั ชำเป็ นผูท้ ำ3. ทำหนำ้ ท่ีในกำรประสำนงำนใหท้ ุกฝ่ ำยในองคก์ ำรทำงำนเขำ้ ดว้ ยกนั A.Veerapong Malai

คณุ สมบตั ิของนกั บรหิ ำร1. เป็ นนกั วิเครำะห์2. เป็ นนกั กำรทูต3. เป็ นนกั กำรเมือง A.Veerapong Malai

สรปุ บทบำทของผูบ้ รหิ ำรที่สำคญั โดย Henry Mintzberg1. บทบำทดำ้ นควำมสมั พนั ธ์ระหว่ำงกนั 1.1 บทบำทเป็ นผูน้ ำทำงดำ้ นพธิ ีกำร 1.2 บทบำทเป็ นผูน้ ำ (คอยจูงใจ) 1.3 บทบำทเป็ นคนกลำง (คอยประสำนควำมสมั พนั ธ์กบั เพอื่ นร่วมงำนอนื่ ๆ) A.Veerapong Malai

สรปุ บทบำทของผูบ้ รหิ ำรที่สำคญั โดย Henry Mintzberg2. บทบำทดำ้ นขอ้ มูล 2.1 บทบำทกำรรวบรวมขอ้ มูล 2.2 บทบำทกำรกระจำยหรอื แจกจำ่ ยขอ้ มูล 2.3 บทบำทกำรใหข้ อ้ มูล A.Veerapong Malai

สรปุ บทบำทของผูบ้ รหิ ำรที่สำคญั โดย Henry Mintzberg3. บทบำทดำ้ นกำรตดั สนิ ใจ 3.1 บทบำทเป็ นผูค้ ดิ รเิ รม่ิ 3.2 บทบำทเป็ นนกั แกป้ ัญหำ 3.3 บทบำทเป็ นนกั แบ่งสรรทรพั ยำกร 3.4 บทบำทเป็ นนกั เจรจำขอ้ ขดั แยง้ A.Veerapong Malai

นกั บรหิ ำร หมำยถงึ บคุ คลผูซ้ งึ่1. เป็ นผูซ้ งึ่ มีอำนำจหนำ้ ที่เหนอื บคุ คลอน่ื ในกล่มุ2. เป็ นผูท้ ำหนำ้ ที่สง่ั กำรใหบ้ คุ คลอน่ื ทำงำนควำมสำคญั ของกำรจดั กำรเพอื่ ประสำนทุกฝ่ ำยใหท้ ำงำนประสำนกนั สจู่ ุดมุ่งหมำย คอื ควำมสำเรจ็ตำมวตั ถุประสงคข์ ององคก์ ำร A.Veerapong Malai

คุณลกั ษณะของกำรจดั กำร เป็ นกระบวนกำร(Process) ที่มีหลกั เกณฑ์ และ สำมำรถฝึ กฝนใหม้ ีทกั ษะท่ีสงู ข้นึระบบที่เกย่ี วของกบั กำรจดั กำร (Chart)ผูบ้ รหิ ำรมีหนำ้ ที่จดั กำรทำใหง้ ำนสองระบบคอื 1. ระบบงำน 2. ระบบคนทำงำนประสำนร่วมกนั อย่ำงมีประสทิ ธิภำพ

ลกั ษณะขององคก์ ำรที่ดี1. เป็ นโครงสรำ้ งท่ีมีระบบงำนท่ีจดั ไวด้ ี2. เอ้อื อำนวยใหบ้ คุ คลอยู่ทำงำนในองคก์ ำรปฏบิ ตั ิและ ประสำนงำนระหว่ำงกนั ไดด้ ี3. คล่องตวั สำมำรถปรบั เขำ้ กบั สถำนกำรณภ์ ำยนอกท่ีเปลยี่ นแปลง และช่วยใหผ้ ูป้ ฏบิ ตั งิ ำนทำงำนไดอ้ ยำ่ งมีประสทิ ธิภำพสงู สดุ4. ใหค้ วำมสบำยใจแก่ผูป้ ฏบิ ตั งิ ำนท่ีอยู่ในโครงสรำ้ ง A.Veerapong Malai

ปัจจยั ในกำรจดั กำร (4 Ms)1. Man คน2. Machine เครอ่ื งจกั ร3. Money เงนิ ทุน4. Material วสั ดสุ ง่ิ ของ A.Veerapong Malai

ปัจจยั ท่ีมีอทิ ธิพลต่อผลสำเรจ็ ของกำรจดั กำร1. ตลำด (Market)2. วิธีกำรปฏบิ ตั ิงำน (Method)3. กำรจูงใจผูป้ ฏบิ ตั ิงำน (Motivate)4. วิธีกำรจดั กำร (Management) A.Veerapong Malai

ผลสำเรจ็ ของกำรจดั กำร (ดภู ำพประกอบ 1.3) ประสทิ ธิภำพ คอื กำรสรำ้ งผลงำนออกมำโดยท่ีผลงำนท่ีไดม้ ีคณุ ค่ำสงู กว่ำทรพั ยำกรท่ีใชไ้ ป ประสทิ ธิผล คอื กำรสำมำรถบรรลผุ ลสำเรจ็ ตำมเป้ ำหมำยท่ีวำงไว้ A.Veerapong Malai

กจิ กรรมทำงกำรจดั กำรกำรวำงแผน (Planning)กำรจดั องคก์ ำร (Organizing)กำรจดั คนเขำ้ ทำงำน (Staffing)กำรสง่ั กำร (Directing)กำรควบคมุ (Controlling) A.Veerapong Malai

กระบวนกำรจดั กำรคอื ทกั ษะกำรบรหิ ำรงำนเพอ่ื บรรลวุ ตั ถุประสงคข์ ององคก์ ำรโดยกำรนำหลกั กำรบริหำรทง้ั 5 ขน้ั ตอนขำ้ งตน้ มำประยุกต์ใชใ้ หเ้ หมำะสมกบัองคก์ ำรซงึ่ ถอื เป็ นกระบวนกำรพ้นื ฐำนท่ีผูป้ ฏบิ ตั ิงำนบรหิ ำรท่ีอยู่ในทุกระดบั ของกำรบริหำรและในองค์กำรทุกแห่งตอ้ งปฏิบตั ิเป็ นพ้ืนฐำนเหมือน ๆ กนั A.Veerapong Malai

กำรวำงแผน กระบวนกำรจดั กำร(Planning) กำรควบคมุกำรจดั องคก์ ร (Controlling)(Organizing) หนำ้ ที่ดำ้ นกำรจดั กำรกำรจดั คนเขำ้ ทำงำน (Staffing) A.Veerapong Malaiกำรสงั่ กำร(Directing)

ควำมสำมำรถทำงกำรจดั กำร- ควำมสำมำรถทำงดำ้ นกำรคดิ- ควำมสำมำรถทำงดำ้ นกำรเขำ้ กบั คน- ควำมสำมำรถดำ้ นงำน (ดภู ำพ 1.7 ประกอบ) A.Veerapong Malai

กำรจดั กำรเป็ นเรอ่ื งของศำสตรแ์ ละศลิ ป์กำรจดั กำรเป็ นศำสตร์ (A Science)กำรจดั กำรเป็ นศลิ ปะ (An Art) A.Veerapong Malai

บทที่ 2แนวความคดิ ทางการจดั การ A.Veerapong Malai

แนวควำมคิดทำงกำรจดั กำรA. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรสมยั เดมิB. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรแบบมนษุ ยสมั พนั ธ์C. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรสมยั ใหม่ A.Veerapong Malai

A. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรสมยั เดมิ1.1 กำรจดั กำรที่มีหลกั เกณฑ์ (Scientific Management) ของ Taylor1.2 กำรจดั กำรตำมหลกั กำรจดั กำรทว่ั ไป (General Principles of Management) ของ Fayol หรอื กำรจดั กำรตำมหนำ้ ที่ หรอืกระบวนกำรจดั กำร (Functional or Process Approach)

1.1 กำรจดั กำรทมี่ ีหลกั เกณฑ์ (Scientific Management) - Frederick Taylor บดิ ำกำรจดั กำรท่ีมีหลกั เกณฑ์ - ศกึ ษำวิธีกำรปฏบิ ตั ิทำงกำรผลติ ในโรงงำน - กำหนดปรมิ ำณงำนที่ตอ้ งทำใหเ้ สรจ็ ในเวลำที่กำหนดอย่ำงเหมำะสม มีหลกั เกณฑ์ - คนงำนไดผ้ ลตอบแทนตำมปรมิ ำณงำน A.Veerapong Malai

1.1 กำรจดั กำรท่ีมีหลกั เกณฑ์ (Scientific Management) - ฝ่ ำยบรหิ ำรไดป้ ระโยชนจ์ ำกผลผลติ ท่ีเพม่ิ ข้นึ ถำ้ 1. ขจดั กำรเคลอ่ื นไหวที่ไม่จำเป็ นออกไป 2. ฝึ กใหค้ นงำนไดเ้ รยี นรวู้ ิธีกำรทำงำนใหม่ ๆ 3. มีกำรกำหนดมำตรฐำนงำนท่ีสงู ข้นึ 4. จดั ผลตอบแทนบนพ้นื ฐำนของผลงำนและ ควำมสำมำรถที่สงู ข้นึ A.Veerapong Malai

1.1 กำรจดั กำรทีม่ หี ลกั เกณฑ์ (Scientific Management)กำรกำหนดวิธีกำรทำงำนหรอื ที่เรยี กว่ำกำรวิเครำะหเ์ วลำและกำรเคลอ่ื นไหว (Time and Motion Study) มีสำระสำคญั คอื “กำรเปลย่ี นจำกควำมไม่มีประสทิ ธิภำพ ที่สบื เนอื่ งมำจำกวิธีปฏบิ ตั แิ บบไม่มีหลกั เกณฑม์ ำเป็ นควำมมีประสทิ ธิภำพ โดยวิธีกำรจดั กำรที่มีหลกั เกณฑท์ ่ีกำหนดข้นึ โดยตวั ผูบ้ รหิ ำรตำมควำมรบั ผดิ ชอบที่ควรจะตอ้ งมีมำกกว่ำเดมิ ” A.Veerapong Malai

1.1 กำรจดั กำรท่มี ีหลกั เกณฑ์ (Scientific Management) หลกั สำคญั ของกำรจดั กำรที่มีหลกั เกณฑ์ 1. ตอ้ งมีกำรคดิ คน้ และกำหนด “วิธีที่ดที ่ีสดุ ” 2. คดั เลอื ก-พฒั นำและมอบหมำยงำนใหเ้ หมำะสมกบั ควำมสำมำรถของคนงำน 3. ตอ้ งพจิ ำรณำอย่ำงรอบคอบเกย่ี วกบั วิธีทำงำน และคนงำน ตอ้ งไม่มี ควำมขดั แยง้ หรอื ต่อตำ้ นกำรเปลยี่ นแปลงสกู่ ำรทำงำนรปู แบบใหม่ 4. ผูบ้ รหิ ำรกบั คนงำนตอ้ งประสำนงำนอยำ่ งใกลช้ ดิ

1.2 กำรจดั กำรตำมหลกั กำรจดั กำรทวั่ ไป (Fayol)โดย Fayol เชอื่ ว่ำ “กำรจดั กำรเป็ นศำสตรท์ ่ีมีหลกั เกณฑท์ ่ีสำมำรถนำไปใชไ้ ดก้ บั กำรจดั กำรองคก์ ำรทุกรปู แบบ” แนวคดิ น้มี ีสำระสำคญัคอื1. เกย่ี วกบั หนำ้ ท่ีกำรจดั กำร (Management Functions)2. เกยี่ วกบั หลกั กำรจดั กำร (Management Principles) A.Veerapong Malai

เกย่ี วกบั หนำ้ ทีก่ ำรจดั กำร (Management Functions) - กำรวำงแผน (Planning) - กำรจดั องคก์ ำร(Organizing) - กำรบงั คบั บญั ชำสง่ั กำร (Commanding) - กำรประสำนงำน (Coordinating) - กำรควบคุม (Controlling) A.Veerapong Malai

เกย่ี วกบั หลกั กำรจดั กำร (Management Principles) 1. เกย่ี วกบั อำนำจหนำ้ ที่และควำมรบั ผดิ ชอบ 2. หลกั ของกำรมีผูบ้ งั คบั บญั ชำเพยี งคนเดยี ว 3. หลกั ของกำรมีจุดมุ่งหมำยร่วมกนั 4. หลกั ของกำรธำรงไวซ้ ง่ึ สำยงำน 5. หลกั ของกำรแบ่งงำนกนั ทำ 6. หลกั เกย่ี วกบั ระเบยี บวินยั 7. หลกั ของกำรถอื ประโยชนส์ ว่ นรวมเป็ นใหญ่

เกย่ี วกบั หลกั กำรจดั กำร (Management Principles) 8. หลกั ของกำรใหผ้ ลประโยชนต์ อบแทน 9. หลกั ของกำรรวมอำนำจไวส้ ่วนกลำง 10. หลกั ของควำมมีระเบยี บเรยี บรอ้ ย 11. หลกั ของควำมเสมอภำค 12. หลกั ของควำมมีเสถยี รภำพของกำรจำ้ งงำน 13. หลกั ของควำมคดิ รเิ รมิ่ 14. หลกั ของควำมสำมคั คี

B. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรแบบมนุษยสมั พนั ธ์2.1 กำรจดั กำรตำมแนวมนษุ ยสมั พนั ธ์ Human Relations ของ Mayo และ Roethlisberger2.2 กำรจดั กำรแบบพฤติกรรมศำสตร์ Behavioral Sciences

B. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรแบบมนุษยสมั พนั ธ์ - เรมิ่ จำกกำรโตแ้ ยง้ แนวคดิ กำรจดั กำรสมยั เดมิ - สหภำพแรงงำนมีบทบำทในกำรรกั ษำผลประโยชน์ ของคนงำน - คนงำนไดร้ บั ควำมสำคญั ในฐำนะของคนมำกข้นึ - ใชท้ ฤษฎี วิธีกำร และเทคนคิ ต่ำง ๆ ทำงสงั คมศำสตร์ เพอื่ ศกึ ษำ ถงึ พฤตกิ รรมของคนและกล่มุ คน ในองคก์ ำร - เนน้ Interpersonal Relations, Human Relations A.Veerapong Malai

กำรจดั กำรตำมแนวมนุษยสมั พนั ธ์ (Human Relations) - Mayo ทำวิจยั เรอ่ื ง Hawthorne Experiments - พฤติกรรมของคนงำนในหนำ้ ท่ีงำนท่ีจดั ไวใ้ หน้ นั้ ไม่เป็ นเหตุเป็ นผล - กำรทำงำนของคนงำนไม่ไดม้ ุ่งหวงั ผลตอบแทนในรปู ตวั เงนิ เพยี ง อยำ่ งเดยี ว - คนงำนยงั มีควำมตอ้ งกำรทำงดำ้ นสงั คม ควำมสมั พนั ธ์ที่ไม่เป็ นทำง กำรระหว่ำงคนงำนดว้ ยกนั ซง่ึ มีพ้นื ฐำนทำงดำ้ นจติ ใจ (Sentiments) A.Veerapong Malai

กำรจดั กำรตำมแนวมนษุ ยสมั พนั ธ์ (Human Relations) - ควำมตอ้ งกำรทำงดำ้ นจติ ใจ - แนวทำงน้ใี หค้ วำมสำคญั กบั กำรสรำ้ งขวญั และกำลงั ใจรวมทง้ั เทคนคิ กำรจูงใจท่ีมีประสทิ ธิภำพ - สนใจศกึ ษำเรอื่ งบทบำท หนำ้ ท่ี ฐำนะ สญั ลกั ษณท์ ่ีแสดงถงึ ฐำนะ - ผลกระทบจำกกล่มุ ที่ไม่เป็ นทำงกำรต่อองคก์ ำร A.Veerapong Malai

กำรศกึ ษำวิจยั ต่อเนอ่ื งตำมแนวทำงมนษุ ยสมั พนั ธ์ 1. ลกั ษณะของผูน้ ำ (Leadership) 2. กำรพฒั นำพนกั งำน (Employee Development) 3. กำรตดิ ต่อสอื่ สำร (Communication)A.Veerapong Malai

กำรศกึ ษำวิจยั ต่อเนอ่ื งตำมแนวทำงมนุษยสมั พนั ธ์โดยนำเอำสงั คมวิทยำ จติ วิทยำมำนษุ ยวิทยำ มำผสมผสำนในกำรศกึ ษำเรอ่ื งพฤตกิ รรมมนุษยใ์ นองคก์ ร - ทฤษฎคี วำมตอ้ งกำรของ Abram Maslow - รปู แบบกำรจูงใจ Frederick Herzberg - ผูน้ ำในองคก์ ำร Ralph M. Stogdill - กำรศกึ ษำกำรจดั กำรแบบมนษุ ยสมั พนั ธ์เชงิ ลกึ โดย Chris Argyris, Rensis Likert David, and C.McClelland

สำเหตทุ ก่ี ำรจดั กำรตำมแนวทำงมนุษยสมั พนั ธ์ถูกนำมำ ทดแทนกำรจดั กำรทีม่ ีหลกั เกณฑ์ - เครอ่ื งจกั รในฐำนะตวั แปรของกำรเพม่ิ ประสทิ ธิภำพกำรทำงำน ไดร้ บั กำร พฒั นำและมีกำรแข่งขนั อย่ำงเตม็ ที่จนมีขดี ควำมสำมำรถใกลเ้ คยี งกนั - มนุษยใ์ นฐำนะตวั แปรของกำรเพม่ิ ประสทิ ธิภำพกำรทำงำนจงึ ถกู นำมำใช้ โดยกำรสรำ้ งขวญั กำลงั ใจ กำรจูงใจ กำรใหผ้ ลตอบแทนทง้ั ในรปู ตวั เงนิ และท่ีไม่ใช่ตวั เงนิ กำรพฒั นำและฝึ กอบรม เพอื่ เพมิ่ ขดี ควำมสำมำรถใน กำรแข่งขนั ขององคก์ ำร

สำเหตทุ ่กี ำรจดั กำรตำมแนวทำงมนุษยสมั พนั ธ์ถูกนำมำ ทดแทนกำรจดั กำรทมี่ ีหลกั เกณฑ์ สรปุ มนษุ ยสมั พนั ธ์ เป็ นสว่ นสำคญั ที่ช้ใี หเ้ หน็ ถงึ ควำมสำคญั ของ เรอื่ งรำวที่เกยี่ วกบั ตวั คนและปัจจยั ทำงสงั คมต่ำง ๆ ในองคก์ ำร ซง่ึ เป็ น ภำพซอ้ นที่ไม่มีตวั ตนแทรกอยูใ่ นองคก์ ำรต่ำงๆ ทว่ั ไป หรอื สรปุ สนั้ ๆ ว่ำ “ใหค้ วามสาคญั กบั คน” นน่ั เอง

C. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรสมยั ใหม่3.1 กำรจดั กำรโดยใชค้ ณติ ศำสตรเ์ พอื่ ช่วยกำรตดั สนิ ใจ (Quantitative or Decision Making Approach)3.2 กำรตดั สนิ ใจเชงิ ระบบ (System Approach)

C. แนวควำมคดิ กำรจดั กำรสมยั ใหม่- องคก์ ำรทง้ั ภำครฐั และเอกชนเติบโตมำกข้นึ- ควำมยุ่งยำกซบั ซอ้ นของกำรจดั กำรที่มีมำกข้นึ- ตอ้ งกำร Model ช่วยในกำรแกป้ ัญหำและตดั สนิ ใจ- Model ทำงคณติ ศำสตรแ์ ละวิธีกำรเชงิ ระบบถูก พฒั นำเพอ่ื ช่วยในกำรเพมิ่ ประสทิ ธิภำพกำรทำงำน

กำรจดั กำรโดยใชค้ ณติ ศำสตรเ์ พอื่ ช่วยตดั สนิ ใจ(Quantitative or Decision Making Approach)- ใชเ้ ครอื่ งมือที่เรยี กว่ำ กำรวิเครำะหเ์ ชงิ ปรมิ ำณ- ใชข้ อ้ มูลเชงิ ตวั เลขในกำรตดั สนิ ใจอย่ำงมีเหตุมีผลมีหลกั เกณฑ์- ตอ้ งใชข้ อ้ มูลเชงิ บรรยำยประกอบดว้ ยเพอื่ ควำมสมบรู ณแ์ ละถกู ตอ้ งยงิ่ ข้นึ A.Veerapong Malai

กำรตดั สนิ ใจเชงิ ระบบ (System Approach)หรอื กำรจดั กำรโดยวิธีกำรปรบั ตวั (Adaptive or Ecological Approach) เป็ นกำรพจิ ำรณำถงึ ปัจจยั ต่ำง ๆ ท่ีมีควำมเกยี่ วพนั ธ์กนั อย่ำงเป็ นระบบ และเกยี่ วเนอื่ งเป็ นอนั หนง่ึ อนั เดยี วกนั เม่ือมีกำรนำเขำ้ สงิ่ นำเขำ้ (Inputs) ส่รู ะบบและแปรสภำพเป็ นออกเป็ นผลผลติ (Outputs) ท่ี สง่ ออกนอกระบบ ภำยในระบบ (Main System) จะประกอบดว้ ยระบบ ย่อย (Subsystems) ต่ำงๆ ที่รวมและเกย่ี วพนั กนั เป็ นระบบใหญ่ซงึ่ สมั พนั ธ์กนั ตลอด หากมกี ารเปลย่ี นแปลงในสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ก็จะมี ผลกระทบต่อสว่ นอ่ืนดว้ ย A.Veerapong Malai

กำรตดั สนิ ใจเชงิ ระบบ (System Approach)หรอื กำรจดั กำรโดยวิธีกำรปรบั ตวั (Adaptive or Ecological Approach) External Environments Internal EnvironmentsInputs Main System Outputs A.Veerapong Malai